มีให้ลองเพิ่มเติมอีกหนึ่งสำหรับ Darth Vader DirectX 12 Tech Demo by UE 4.9.1
สำหรับ คนที่ชอบลอง อยากเล่นของใหม่ หรือระหว่างนี้ใครที่มีการ์ดซึ่งรองรับ DirectX 12 แต่ก็ไม่ได้ใช้งานหรือมีเกม DirectX 12
มาให้เล่นกันจริงๆสักที อาจจะหงุดหงิดไม่ได้ลองของ วันนี้เราก็มี Tech Demo จากทาง CryZENx ตัวล่าสุดที่ชื่อว่า Darth Vader / Ice Lands
มาให้ได้ลองกันอีกครั้งหนึ่ง เอาไว้ลองพลังของระบบตัวเองเพราะ Demo ตัวล่าสุดนี้ทางผู้สร้างได้ระบุเอาไว้ว่า อย่างน้อยๆต้อง GTX 750 Ti หรือ GTX 670
ถึงจะเล่นได้แบบลื่นหน่อย ส่วนใครที่อยากลองเล่น ลองทดสอบหรืออยากได้อารมณ์ของ DirectX 12 ก็สามารถดาวน์โหลดได้จากลิงก์ด้านล่างเลยครับ
สำหรับตัวอย่างในวิดีโอที่เห็นนั้นจะใช้สเป็คที่มีรายละเอียดตามรายการด้านล่าง
- CPU: i7-4790K @ 4.8Ghz 1.32Vc + Thermaltake Ultimate 3.0 Watercooler
- GPU: GTX 980 Ti EVGA Superclocked+ ACX 2.0+ OCed = 1464mhz core / 3900mhz Memory
- MB: Asrock Z97 Extreme 4
- Ram: 32GB (4x 8192MB) HyperX Savage RED DDR3-2400 DIMM CL11 Quad Kit
- HDD: 1000 GB Sata 3.0 6 Gb/s Harddrive + 2TB hdd
- PSU: 630 Watt Thermaltake 80+ Germany
- Case: NZXT Phantom 630 White Edition
Download : Darth Vader DirectX 12 Tech Demo
Skylake-E จะมาพร้อม Purley แพลทฟอร์ม คาดว่าได้เจอกันต้นปี 2017
สำหรับ ความเคลื่อนไหวล่าสุดบนแพลทฟอร์มใหญ่ของซีพียูจากค่าย Intel เวลานี้มีข้อมูลเกี่ยวกับ Roadmap
ของแพลทฟอร์มใหม่จากทาง Intel หลุดออกมาให้ได้รับทราบข้อมูลกัน โดยสิ่งที่เราจะขอกล่าวถึงในที่นี้จะขอเน้นไปที่จุดใกล้ตัวของพวกเราชาว PC Desktop
เป็นหลักนะครับ แต่สำหรับตัว Roadmap ที่มีออกมานั้นหลักๆแล้วจะเป็นในส่วนของแพลทฟอร์ม Server และ Workstation แต่ก็อย่างที่เราทราบกันว่า
ในยุคหลังนี้ CPU ในดับ High-end ของชาว Desktop PC นั้นมันจะเป็นคู่ขนานกับแพลทฟอร์ม Server ที่จะมีการใช้ซีพียูในรหัสพัฒนาเดียวกัน
แตกต่างกันเพียงจำนวนของแกนประมวลผลหรือคอร์ซีพียูที่มีน้อยกว่าเท่านั้นเอง
ข้อมูล ที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือยุคของ Intel 14nm ที่จะใช้รหัสพัฒนาว่า Skylake ซึ่งในเวลานี้หากมองกันที่แพลทฟอร์มเล็กทาง Intel
ก็ได้เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับแพลทฟอร์มใหญ่อย่าง LGA2011v3 นั้นเราจะยังคงอยู่กับ Haswell-E และซีพียูที่จะเข้ามาแทนที่ Haswell-E
หรือซีพียูในรหัส Core i7-5000 Series คือ Broadwell-E ที่มันจะใช้รหัสโมเดลว่า Core i7-6000 Series โดยตัวซีพียูจะใช้กระบวนการผลิตในขนาด 14nm
และจะยังใช้แพลทฟอร์มหรือซ็อคเก็ตเดียวกันกับ Haswell-E ผู้ใช้งานยังไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเมนบอร์ดก็สามารถทำการอัพเกรด CPU ให้เป็น Broadwell-E
ได้ทันทีเพียงแค่จะต้องทำการอัพเดท Bios ให้เมนบอร์ดเท่านั้น และเมื่อดูจากระยะเวลาของ Broadwell-E ที่จะอยู่ในตลาดนั้นมันจะมีช่วงเวลาราว 1 ปีเต็ม
โดยทางอินเทลมีแผนจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า และจะหมดช่วงอายุของ Broadwell-E ก็ต่อเมื่อ Skylake-E เข้ามาแทนที่
ซึ่งตามแผนนั้นมันจะมาในช่วงไตรมาสสองของปี 2017
สำหรับ Skylake-E จะนับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของแพลทฟอร์ม High-end Desktop โดยมันจะมาพร้อมกับแพลทฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า Purley
ที่แน่นอนว่าจะต้องมีการเปลี่ยนเมนบอร์ดหรือใช้งานชิบเซตใหม่ทั้งหมด แต่ยังไม่มีข้อมูลที่สามารถระบุได้ว่า Purley Platform จะมาพร้อมกับชิบเซตในรหัสอะไร
ใช้ซ็อคเก็ตรหัสอะไร ส่วนตัว CPU ก็จะยังใช้พื้นฐานของ Skylake แต่จะมีจำนวนของคอร์ที่มากขึ้น และถ้าหากมองจากข่าวล่าสุดเกี่ยวกับจำนวนคอร์ที่เราเพิ่งจะนำเสนอไป>>ที่นี่<<ทาง Intel
ก็จะยังไม่เพิ่มจำนวนคอร์แต่อย่างใด จะยังคงสูงสุดไว้ที่ 8 คอร์สำหรับแพลทฟอร์ม Desktop และตัวแรมก็จะยังเป็น DDR4 Quad-Channel เหมือนเดิม (หากว่าไม่เพิ่มคอร์ให้มากกว่า 8 คอร์)
และสิ่งที่ยืนยันได้อีกอย่าง ณ เวลานี้คือยุคต่อจาก Skylake-E อินเทลจะทำการก้าวข้าม Kaby lake ที่จะไม่มี Kaby Lake-E ออกมาแต่จะขยับไปเป็น Cannonlake-E ที่จะเป็น CPU
ในขนาดกระบวนการผลิต 10nm ทันที และมันก็จะยังคงใช้งานร่วมกับแพลทฟอร์ม Purley ซึ่งก็จะหมายความว่า Cannonlake-E
จะยังสามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดในยุคของ Skylake-E ได้ทันที ยังไม่มีการเปลี่ยนชิบเซตหรือซ็อคเก็ต
ดัง นั้นสำหรับแพลทฟอร์มใหญ่ไม่ว่าจะยุคนี้หรือยุคอนาคตที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่เราได้รับรู้แล้วก็คือ มันจะมีช่วงอายุที่ยาวกว่าแพลทฟอร์ม Manistream เสมอ
อย่างเช่นแพลทฟอร์ม LGA2011v3 ซึ่งมันเปิดตัวออกมาครั้งแรกในช่วงเดือนสิงหาคมปี 2014 จนถึงเวลานี้ก็มีอายุไปแล้วหนึ่งปีเศษและมันก็จะยังได้อยู่ต่อไปอีกอย่าง
น้อยๆ 1 ปีเต็มตลอดทั้งปี 2016 หรือปีหน้านี้ เพราะตามที่ทราบว่าในปี 2017 จะเป็นยุคของ Skylake-E และก็เช่นเดียวกันแพลทฟอร์ม Purley
ก็จะมีอายุรวมอย่างน้อยๆ 2 ปีเพราะภาคต่อของ Skylake-E จะเป็น Cannonlake-E ที่เราก็ทราบแล้วว่าใช้แพลทฟอร์มร่วมกันกับ Skylake-E
ZoLKoRn Say : อย่างที่เราเคยเห็นกันมาตลอดสำหรับใครที่ใช้งานแพลทฟอร์มใหญ่มันก็จะมีอายุ อย่างน้อยๆ 2 ปีเสมอๆ โดยที่เราจะสามารถอัพเกรดเพียงแค่ CPU
เพื่อใช้งานต่อไปได้ทันที จะแตกต่างไปจากแพลทฟอร์มหลักหรือ Mainstream ที่ Intel นั้นจะทำการเปลี่ยนทุกปี หรือหาจะยังคงเดินตามนิยามเดิมหรือความตั้งใจเดิมของกฎ Tick-Tock
นั้นเรียกได้ว่าต้องเปลี่ยนกันทุกปี แต่เที่ยวนี้ก็ต้องรอดูกันอีกทีว่า Intel จะยืดเวลาของ Tick-Tock ออกไปหรือไม่ตามที่ได้เคยออกมาบอกว่าจะยืดช่วง Tock
ออกไปให้นานขึ้นในลักษระของ Tick-Tock-Tock-Tick
หลุดมาแล้ว RADEON R9 FURY X2 จะมาในชื่อรุ่นว่า Gemini
ใน ที่สุดก็หลุดออกมาแล้วสำหรับข้อมูลของการ์ดจอในตระกูล FURY กราฟิกชิบในรหัส Fiji ที่จะยังเหลืออยู่อีกหนึ่งโมเดลที่ยังไม่เปิดตัวสำหรับการ์ดในโมเดลที่เรียก
กันอย่างไม่เป็นทางการก่อนหน้านี้ว่า AMD Radeon R9 FURY X2 เพราะด้วยที่ว่ามันจะเป็นการ์ดในแบบ Dual GPU ที่มีพื้นฐาน GPU ในรหัส Fiji
เช่นเดียวกันกับการ์ดจอในรหัส FURY X และจากข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่ทราบกันมานั้น R9 FURY X2 จะมาพร้อมกับ Fiji XT แบบไม่ตัดทอนใดๆจำนวนสองตัว
และคาดกันว่ามันจะเป็นการ์ดจอในแบบในเดียวที่ทรงพลังที่สุดแห่งยุคอีกครั้ง
ล่าสุดก็มีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเรียกของการ์ดในโมเดลดังกล่าวนี้ที่น่าจะเป็นชื่อจริงออกมาให้เห็นแล้ว กับการใช้ชื่อโมเดลว่า Gemini
ซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นก็มาจากบริษัทจัดส่งสินค้าหรือ Shipping ที่ชื่อว่า Zauba ที่มีข้อมูลหลุดออกมาให้ได้ทราบกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ตัวการ์ดในโมเดล Gemini
นั้นได้ถูกจัดส่งออกมาจากออฟฟิตใน Canada ซึ่งมันคือศูนย์วิจัยและพัฒนาของ AMD หรือ ATi เดิมนั่นเอง สำหรับข้อมูลที่ได้มาจากรายละเอียดในการจัดส่งสินค้านั้นนอกจากชื่อรุ่นของ
ตัวการ์ดที่ชื่อว่า Gemini แล้วเรายังได้ทราบอีกด้วยว่าทาง AMD จะยังคงใช้งานระบบระบายความร้อนจากทาง CoolerMaster เช่นเดิมและคาดกันว่าน่าจะยังคงเป็น All in One water cooling
เช่นเดียวกันกับ FURY X
จากข้อมูลดังกล่าวนี้ก็น่าจะพอบ่งบอกให้ทราบ ได้ว่า AMD Radeon R9 Gemini (FURY X2 ในชื่อที่อาจจะคุ้นหูกันมาก่อนหน้านี้)
น่าจะเปิดตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ซึ่งก็คงจะเป็นไปตามกำหนดการที่ทาง AMD ได้เคยพูดเอาไว้ว่า มันจะมาในช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้ ส่วนราคานั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทาง AMD
จะเปิดตัวราคาการ์ดมาในช่วงระดับใด แต่หากประเมินจากการ์ดในโมเดล R9 FURY X ที่ทาง AMD เปิดตัวมาที่ $649US แล้วนั้นเมื่อ Gemini มาพร้อมกับ FijiXT
จำนวนสองจัวบนการ์ดเดียว ราคาของมันหากเราคิดง่ายๆอาจจะกล่าวได้ว่าคูณสองหรือราว $1300 แต่คาดว่ามันคงจะไม่ถึงขนาดนั้นเพราะหากดูจากการ์ดในแบบ Dual GPU ที่ทาง AMD
เคยเปิดตัวมาก่อนหน้านี้อย่าง R9 295X2 นั้นมันจะมีราคาอยู่ที่ช่วงประมาณ $1000 และคาดว่า Gemini ก็คงจะมีราคาอยู่ในช่วงดังกล่าวนี้เช่นกัน
BlackBerry เผยภาพอย่างเป็นทางการของ BlackBerry PRIV กับ Android ตัวแรกของตนเอง
หลัง จากเฝ้ารอกันมานานสำหรับ Smartphone จากค่าย BlackBerry ที่แฟนๆต่างเคยลุ้นกันว่าจะหันมาเอาดีด้าน Android ด้วยหรือไม่
และในที่สุดก็ตัดสินใจลุยตลาดบนโลกของ Android ซึ่งก็คงไม่ต้องสงสัยว่าเป็นเพราะอะไร คำตอบก็ชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้วว่า เพื่อความอยู่รอดของบริษัท
นั่นเอง ซึ่งตัวอย่างความดื้อด้านก็มีให้เห็นแล้วสำหรับค่ายยักษ์ใหญ่ที่คงไม่เคยมี
ใครคาดคิดว่าจะล้มไม่เป็นท่าสำหรับค่าย NOKIA จนในที่สุดถึงกับจะต้องขายกิจการ
สำ หรับสมาร์ทโฟนจากค่าย BlackBerry นั้นก็ถือว่าเป็นข่าวมาพักใหญ่ๆแล้วตั้งแต่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
ซึ่งจากกระแสข่าวที่ทราบเพียงว่า BlackBerry หันมาเอาดีกับ Android อย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงแรกก็คาดกันว่ามันจะใช้ชื่อโมเดลว่า Venice
แต่ในที่สุดชื่ออย่างเป็นทางการของ BlackBerry ที่มาพร้อมกับ Android ตัวแรกจะมีการใช้ชื่อว่า PRIV ล่าสุดนั้นทางต้นสังกัดก็ได้เผยภาพจริงอย่างเป็นทางการให้ได้ชมกันแล้ว
ผ่านบล็อกของตนเอง ซึ่งโดยรวมแล้วนั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากที่หลุดๆกันมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด ส่วนสเป็คอย่างเป็นทางการและราคาทาง BlackBerry
แจ้งเอาไว้ในบล็อคว่าจะทำการอัพเดทให้ได้ทราบอีกครั้งในช่วงใกล้ๆจะเปิดตัว โดย BlackBerry PRIV มีแผนจะเปิดตัวในช่วงสิ้นปีนี้
สำหรับสิ่งที่ เราพอจะรู้เกี่ยวกับ BlackBerry PRIV ในเวลานี้จากกระแสข่างหลุดข่าวลือต่างๆที่ออกมาคือ มันจะมาพร้อมกับหน้าจอในขนาด 5.5 นิ้ว
ความละเอียดในระดับ Quad-HD (2560x1440pixel) และเป็นจอ Curve หรือในลักษณะเดียวกันกับ SAMSUNG Galaxy ในตระกูล Edge
และตัวกล้องนั้นคาดกันว่าจะมีขนาด 18 ล้านพิกเซล ใช้ซีพียูในแบบ hexa-core จากค่าย Snapdragon 808 มีความเร็วในการทำงานที่ 1.8GHz
และจะพกแรมมาในขนาด 3GB ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเป็คที่หลุดมาก่อนหน้าสามารถย้อนกลับไป ติดตามได้จาก>>ที่นี่<<
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากเวป www.itfree4u.com