..

บทนำ

คาริน ม็อนเซล

จอห์น กิลเลี่ยน

เฟร็ดเดอริก และ โรซ่า พอร์ตเตอร์

นิโคลัส ฮอล จูเนียร์

แกรห์ม คาร์เตอร์

แกรห์ม: ใครน่ะ?

?: คุณคาร์เตอร์ใช่มั้ยครับ?

แกรห์ม: ใช่ แล้วคุณเข้ามาทำอะ…

?: คุณคือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือบรรทุกสินค้าของคุณล่มแถบชายฝั่งโปรตุเกส ในขณะที่ลูกเรืออีกยี่สิบเจ็ดคนของคุณเสียชีวิตสินะครับ

แกรห์ม: คุณเป็นใคร? ต้องการอะไร?

?: ผมคือ เดอะ มิเรอร์ ครับคุณคาร์เตอร์

เดอะ มิเรอร์แย่งสายยางไปจากมือชายชรา

แกรห์ม: คุณจะทำอะไร?

มิเรอร์: ทำไมล่ะครับ คุณคาร์เตอร์? ทำไมคุณถึงรอดล่ะครับ?

แกรห์ม คาร์เตอร์



บาร์บาร่า กอร์ดอน




ภายหลังจากนั้น


ฉันไม่ใช่บาร์บาร่า กอร์ดอน ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจว่าตอนนี้ฉันไม่ใช่บาร์บาร่า ไม่ใช่ลูกสาวสารวัตร

ในคืนนี้ ฉันคือคนที่คอยสะสางคดีในแฟ้มรายงานที่พ่อไม่สนใจ คนเดียวที่คอยซุ่มดูไอ้พวกผู้ร้ายที่แต่งชุดผีเห่ย ๆ


คืนนี้ ฉันคือแบทเกิร์ล

“แกเคยคิดอยากทำอะไรบางอย่างมาก ๆ จนอดคิดถึงมันทุกลมหายใจไม่ได้บ้างมั้ยวะ แกจะโหยหาอิสรภาพ… ฉันหมายถึงแกจะพยายามปลดแอกตัวเองจากโซ่ที่ตรึงแกไว้”

สปู๊ค: แกไม่อาจให้มันเป็นแค่ฝัน แกต้องการมัน มันอยู่ในสายเลือด มันฝังแน่นในกระดูก นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้สึกกับการฆ่า

โจรใส่ชุดผียุคเก่ากลุ่มหนึ่งกำลังเตรียมสังหารคู่สามีภรรยาวัยกลางคนที่ไร้ทางสู้

เหยื่อ1: ปล่อยพวกเราไปเถอะค่ะ ได้โปรด

เหยื่อ2: พวกแกเป็นใครกัน

สปู๊ค: อ้าว แย่จัง ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวอีกหรอเนี่ย ขอโทษนะ ฉันนึกว่าพวกแกรู้จักฉันซะอีก เฮ้ แดนนี่ เอาผลงานเรามาให้พวกออเตก้าดูหน่อยสิ

สปู๊ค: เราคือฆาตกรแห่งบริสบี้

เหตุสังหารหมู่ครอบครัวเล็ก ๆ บริเวณชานเมืองก็อทแธม


เหยื่อ: แต่เราไม่ได้อาศัยในบริสบี้นะ

สปู๊ค: ฉันรู้ นั่นมันสิ่งที่สื่อคิด แต่พวกเราไม่ได้ยึดติดสถานที่ เฮ้ ลองเปิดหน้าต่อไปลองเปิดหน้าต่อไปดูสิ

เหยื่อ: แกมันพ่อแม่ไม่สั่งสอน

สปู๊ค: เจ็บจังเลยคุณออเตก้า แต่เรามาจากครอบครัวที่ดีนะ เอาจริง ๆ เรามีพ่อแม่ที่รักเรา แถมได้เรียนในโรงเรียนชั้นเลิศด้วย ที่เรามาหาแกไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเลย เราแค่สุ่มจิ้มโดนชื่อแกในสมุดโทรศัพท์ เอาล่ะมาเล่นกับเราให้หายเบื่อก่อน แล้วเราอาจจะไม่ไปยุ่งกับพวกเด็ก ๆ



ขณะนั้นชายที่สวมน่ากากแดร็คคิวล่าก็เริ่มบ่นเรื่องฟ้าฝน

แดร็ค: แย่ชะมัด ฝนจะตกอีกแล้วว่ะ ดันลืมเสื้อคลุมไว้ที่บ้านซะด้วย

แดร็ค: แล้วเดี๋ยวหวัดก็เล่นงานฉันอีก ทำไมต้องเกิดกับฉันประจำด้วยวะ


มันไม่ได้สังเกตเลยว่าเงาดำของค้างคาวกำลังพุ่งเข้าหามัน



อุ๊ย เหมือนเท้าจะกระแทกหน้าพวกง่าวเข้าให้แล้ว

บอกไม่ถูกเลยว่าคิดถึงความรู้สึกนี้มากแค่ไหน

เพราะแรงส่งและโชคช่วยทำให้ฉันจัดการเจ้าคนแรกอย่างง่าย ๆ

และโชคดีจริง ๆ ที่ฟิตกล้ามแขนมาเพื่อรับมือเรื่องแบบนี้



แบทเกิร์ลเสยคางหน้ากากเดวิลล้มไปอีกหนึ่ง

แฟร้ง: แกทำร้ายทอนย่า

บาร์บ: จริงอ่ะ?




ใช่เลยฉันทำเองแหละ!




โจรในหน้ากากสปู๊คเอาปืนจ่อตัวประกันขู่ ส่วนเจ้าแฟร้งเก้นสไตน์ก็ยังไม่สลบ มันลุกขึ้นมาจับเธอเอาไว้

แต่คิดผิดซะแล้ว!

มันจึงโดนแบทเกิร์ลเสยคางเข้าให้



สปู๊คเดือดถึงที่สุด มันล็อคตัวประกันไว้

สปู๊ค: แกออกไปซะ แกกำลังทำลายงานเรา เดี๋ยวพ่อเป่าขมองไอ้นี่ซะเลย!


ท่าทางของมันบอกให้รู้ว่ามันเอาจริง

จะปราบปิศาจ คงต้องกลายเป็นปิศาจ

ก็อทแธมอวยพรให้ด้วย

บาร์บ: โธ่ ฮะฮะฮะ

สปู๊ค: แกหัวเราะอะไรวะ

บาร์บ: หัวเราะนายไง ไอ้หนู


“คงคิดว่าตัวเองใหญ่คับโลกแล้วใช่มั้ยล่ะ”

“แต่ดูตัวนายเองสิ นายก็แค่หมาหัวเน่า ไม่มีใครเห็นหัวนายหรอก”

“ฉันล่ะประหลาดใจที่ตอนนี้นายยังไม่ฉี่ราด”

สปู๊ค: ฉันจะฆ่าแก!

มันพุ่งเข้าชาร์จแบทเกิร์ลจนตกระเบียง



โอเค แผนนี้ไม่เวิร์คอย่างที่คิดแฮะ

สปู๊ค: ปล่อยฉันเลยเซ่ ไม่เห็นหัวฉันก็ปล่อยสิวะ

บาร์บ: เรื่องมากจัง อย่า… ท้าฉันนะ


แย่แน่ ๆ แบบนี้แย่แน่

เหยื่อ: เราช่วยคุณ เราช่วยคุณ แบทวูแมน

บาร์บ: เกือบไปแล้วสิ ขอบคุณมาก แต่ชื่อของฉันคือแบทเกิร์ล มีใครเรียกตำรวจรึยัง?


คนดีเหล่านี้รอดชีวิต ส่วนพวกฆาตกรก็กำลังจะเข้าตาราง

พวกเขาคิดว่าฉันคือฮีโร่

แต่แย่หน่อยที่ขาฉันสั่นไปหมด และฉันอยากเข้าห้องน้ำ

โชคดีที่ฉันชนะ ฉันรู้ว่าฉันชนะ

แต่ฮีโร่ต้องกลัวเรื่องแค่นี้ด้วยหรอ?

เหยื่อ: คุณช่วยเราไว้ ขอบคุณ… ขอบคุณ

บาร์บ: ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีอย่างยิ่ง

เหยื่อ: ขอบคุณ คุณแบทเกิร์ล!



คืนนี้ ฉันไม่ใช่แบทเกิร์ล ไม่ใช่นักเรียนดีเด่นของแบทแมนอย่างที่เคย

ไม่ใช่สาวน้อยที่ทำอะไรก็ถูกไปเสียหมด ไม่ใช่สาวน้อยที่ตระเวนไปทั่วก็อทแธมและทำให้ผู้คนที่พบเห็นตื่นตา

คืนนี้ฉันคือบาร์บาร่า กอร์ดอน ผู้ที่ไม่อาจลืมเหตุการณ์วันนั้น

ฉันลืมมันไม่ได้ ยกเว่นสิ่งเดียวที่เหมือนฉันจะลืมไปคือฉันยังมีชีวิตอยู่

ฉันคือบาร์บาร่า กอร์ดอน ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์บุกสังหารอันโหด*****มเมื่อสามปีก่อน

เสียงเคาะประตูทำให้บาร์บาร่าตื่นขึ้นจากฝันร้ายเมื่อสามปีก่อน เมื่อโจ๊กเกอร์บุกมายิงเธอถึงบ้าน

เจมส์: โอเคมั้ย ลูกรัก

บาร์บ: ไม่เป็นไรค่ะพ่อ


เข้มแข็งไว้บาร์บาร่า กอร์ดอน

หลายเดือนหลังจากวันนั้น ฉันผวาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเคาะประตู

แต่ฉันรอดมาได้

โจ๊กเกอร์ทำลายฉันไม่ได้ กระสุนนัดนั้นทำลายฉันไม่ได้



แต่ก็เกือบไปเหมือนกัน กระสุนทะลุกระดูกสันหลังช่วงเอวข้อแรก

ฉันไม่สามารถขยับขาหรือรู้สึกถึงมันได้เลยตลอดสามปีที่ผ่านมา

บาร์บ: ‘รุณสวัสดิ์ พ่อ

เจมส์: บ่ายแล้วลูก นี่ลูกหลับจนผ่านไปครึ่งวันแล้ว

บาร์บ: โว้ว พ่อจะฉีกยิ้มเขี้ยวทำไมน่ะ


แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น จนตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะเชื่อ

เจมส์: ไม่มีอะไรหรอก ก็ทุกอย่างน่ะแหละ จะไม่ให้พ่อยิ้มได้ไงที่ได้เห็นลูกสาวสุดรักสุดหวงของตัวเองเดินได้อีกครั้ง

บาร์บ: หนู… หนูอยากได้โดนัทซักชิ้น หรือซักสามชิ้นก็ดี แล้วก็อยากได้หัวฉีดรดน้ำเคลือบอย่างดี

เจมส์: จริง ๆ ลูกไม่ต้องทำอย่างนี้หรอกนะบาร์บาร่า ลูกอยู่ที่นี่ได้นะ พ่อหมายถึงอยากให้ลูกอยู่กับพ่อ

บาร์บ: แต่หนูทำไม่ได้ค่ะพ่อ พ่อก็รู้ ขอโทษนะคะ หนูรักพ่อ แต่ถึงเวลาที่หนูต้องยืนด้วยขาตัวเองแล้ว พ่อว่ามั้ยคะ?


เขาคือพ่อที่ดีที่สุดในโลกจริง ๆ

มันยากที่จะไปจากที่นี่ ที่ที่ฉันรักที่สุด

แต่เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น… บางทีฉันก็ควรจะต้องไป



ถึงเวลาที่จะยืนด้วยขาตัวเอง

ที่นี่แหละ ชีวิตใหม่ของฉัน

ถึงแม้มันจะไม่สดใสนักก็เถอะ

อลิเซีย: อ๊ะ เธอคือผู้หญิงที่เกร็กแนะนำมาสินะ ชื่อกอร์กอนใช่มั้ย?

บาร์บ: กอร์ดอนค่ะ บาร์บาร่า กอร์ดอน

อลิเซีย: อ่ะ งั้นตามมาเลยบาร์บาร่า กอร์ดอน


โอเค เพื่อนบ้านอาจไม่ดีนัก แต่อยู่รวมกันมันปลอดภัยกว่า แถมเพื่อนร่วมห้องของฉันก็ทำงานช่วงกลางคืนด้วย

อลิเซีย: ตอนกลางคืนฉันเป็นบาร์เทนเดอร์น่ะ ส่วนช่วงกลางวันฉันจะวาดภาพ ฉันไม่มีกฏข้อบังคับอะไรหรอก ขออย่างเดียวคือโปรดอย่าพาแฟนงี่เง่าเข้าบ้าน เธอมีแฟนงี่เง่ามั้ยกอร์ดอน

บาร์บ: อยากอยู่นะ แต่คนที่ใช่ยังไม่โผล่มาน่ะ


แล้วจะหาเงินจากไหน, เล่นไพ่? แต่ฉันคงจัดการได้มั้ง

อลิเซีย: ฉันทาสีให้ ดีกว่าไม่มีอะไรเลยล่ะนะ ชอบรึเปล่า

บาร์บ: ชอบค่ะ มาก ๆ เลย

อลิเซีย: แล้วไม่คิดจะวางของสักหน่อยหรอจ๊ะ


อลิเซีย: มาเดี๋ยวฉันช่วย เสร็จแล้วเราจะได้ดื่มชาและดูว่าเราสองคนไม่ชอบอะไรกันบ้าง

บาร์บ: ได้… ได้ค่ะ

อลิเซีย: ได้กันไว้ก่อนน่ะ

อลิเซีย: ฉันเป็นพวกนักเรียกร้องสิทธิด้วย


หลังถูกยิง ฉันต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะกล้าไว้ใจคนแปลกหน้า ดีจังที่มีใครสักคนอยู่คุยเป็นเพื่อน

บาร์บ: เยี่ยมไปเลยค่ะ วันนี้วุ่นวายมาก ๆ แต่ทุกอย่างเยี่ยมมาก ๆ

ที่โรงพยาบาล เจ้าหนุ่มที่ใส่หน้ากากสปู๊คถูกตำรวจนำมารักษาตัวจากบาดแผลที่โดนบาร์บาร่าปาแบทตาแรงก์ใส่ ตำรวจสาวเมโลดี้ แม็คเคนน่าตั้งใจจะสอบปากคำเขา

เมล: ขอห้านาทีให้ฉันอยู่กับไอ้ฆาตกรนี่หน่อยได้มั้ย

ตำรวจ: อย่างแรกคือคุณไม่เห็นว่ามันหลับอยู่รึไง? อีกอย่างฆาตกรตัวน้อยของเราโดนแทงที่แขนและหมอก็เพิ่งฉีดยาให้มัน รอให้ทนายมันมาก่อนดีกว่า เมล

..

ทางบาร์บาร่า พวกเธอยังคงขนของกันอยู่

อลิเซีย: ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาที เดี๋ยวฉันช่วยเธอจัดของ นี่รถตู้เธอรึเปล่า

บาร์บ: เดี๋ยวก่อนค่ะ



บาร์บ: เดี๋ยว… ให้ฉันทำเองดีกว่าค่ะ ของข้างในแตกง่ายน่ะ

อลิเซีย: งั้นตามใจละกัน นั่นรถเข็นรึเปล่า?

อลิเซียเหลือบไปเห็นรถเข็นที่บาร์บาร่าใช้ตอนที่ยังขยับไม่ได้

อลิเซีย: ของคนในครอบครัวหรอ?

บาร์บ: ประมาณนั้น

อลิเซีย: นั่นเป็นเรื่องที่ฉันกลัวที่สุดเลยรู้มั้ย ถูกมัดติดกับเก้าอี้ เธอนึกออกมั้ย? เหมือนเราถูกขังน่ะ


ฉันรู้ว่าเธอคงไม่รู้ว่ามันรู้สึกยังไง เธอคงไม่รู้ว่าเก้าอี้รถเข็นช่วยเราได้แค่ไหน แต่ฉันยังไม่คิดอธิบายให้เธอเข้าใจในตอนนี้

อลิเซีย: โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะ ขอโทษนะจ๊ะเพื่อนฉันมันพวกชอบกอดน่ะ

กลับมาที่โรงพยาบาล ชายลึกลับเดินเข้ามาที่โต๊ะประชาสัมพันธ์

?: ขอพบคุณแรงกิ้นหน่อย ธีโอดอร์ แรงกิ้น

ประชาสัมพันธ์: ขอทราบชื่อด้วยค่ะ

มิเรอร์!

รปภ.: เฮ้ย อย่าขยับ หันหลังมาซะ หยุดเดี๋ยวนี้ไม่งั้นฉันยิง



“ผมเชื่อคุณ”

… ปังงง!!!!

เมล: เสียงปืนนี่นา เกิดอะไรขึ้น

ตำรวจ: สน.63 มีเหตุฉุกเฉินที่นี

ข้อความกลับถูกส่งเข้าโทรศัพท์ของบาร์บ


ใช่แล้ว ฉันดัดแปลงเส้นทางสัญญาณ ทำให้ฉันได้รับข้อความฉุกเฉินที่ส่งถึงพ่อด้วย

อย่าว่าฉันเลย ตำรวจไม่มีแบทซิกนัลที่ใช่ส่องเรียกฉันนี่นา แต่อนาคตก็ไม่แน่นะ

บาร์บ: อลิเซีย ฉันต้องไปก่อน ขอโทษนะ

..

เมล: เสียงปืนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เราต้องออกไปดู

ตำรวจ: จะเดินเข้าไปให้ผู้ก่อการร้ายยิงรึไง อยู่เฉย ๆ รอกำลังเสริมเถอะ นักสืบเมล นี่คือคำสั่ง

..


ฉันอาจไม่มีแบทโมบิล แต่ฉันก็มีอะไรที่ครือกัน



“มานี่มาลูกรัก!”




พวกตำรวจมักทำตามขั้นตอน พวกเขามักจะเจรจาก่อนซึ่งคงใช้เวลาหลายชั่วโมง ระหว่างนั้นไม่มีใครรู้ว่าจะมีคนตายเท่าไหร่ข้างใน ต้องไม่ให้มันเกิดขึ้น ถึงฉันจะไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาลเท่าไหร่ก็เถอะ

..

ตำรวจ: มันอยู่ที่ประตู ยิงมันเลย แม็คเคนน่า

แต่ไม่ทัน ศัตรูยิงใส่ทั้งคู่ก่อน ตำรวจหนุ่มเสียชีวิต ส่วนเมลนั่นกระสุนถากไปเล็กน้อย

มิเรอร์: สายัณห์สวัสดิ์


มิเรอร์: มีใครบอกผมได้มั้ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น

เมล: แกยิงคู่หูฉัน

มิเรอร์: งั้นหรือครับ ขออภัย

มิเรอร์: ธีโอดอร์ แรงกิ้น คุณควรจะตกลงไปตาย ชื่อของคุณอยู่ในรายการ เอาล่ะ จงมองใบหน้าที่แท้จริงของตัวเอง

แต่แบทเกิร์ลมาถึงแล้ว


เอาล่ะ นี่ดูแย่มาก ๆ

บาร์บ: ฉันไม่รู้ว่านายเป็นใครนะนายบึ้ก แต่นายยิงตำรวจก็อทแธม มันจบแล้ว กลับหลังหันแล้วอยู่เฉย ๆ ซะ

มิเรอร์: ผมไม่คิดอย่างนั้น

มันจ่อปืนใส่จุดเดียวกับที่เธอเคยโดนโจ๊กเกอร์ยิง

ธีโอดอร์: ช่วยด้วย มันจะฆ่าผม

เมล: ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่จัดการมันเร็ว มันฆ่าคู่หูของฉัน


ปากกระบอกปืนมันจ่อ… จ่อที่จุดเดียวกัน…

มันจะยิงฉัน ฉันขยับ… ขยับ…

เมล: เป็นอะไรไป ลุยเลยเซ่!


ใช่… ใช่… ลุยเลย!

ฉันขยับไม่ได้ มันจ่อปืนใส่ฉัน แล้วฉันก็แข็งเป็นหิน

มิเรอร์: สายไปแล้วสาวน้อย



มิเรอร์: ราตรีสวัสดิ์คุณผู้หญิง ผมยินดีอย่างยิ่ง

เมล: เธอปล่อยให้มันฆ่าผู้ชายคนนั้น เธอปล่อยให้เขาตาย ฆาตกร