นิยามสีหุ้น และหลักในการคิด

[joker]

ผู้ที่ใหม่ต่อการเล่นหุ้นมักจะคิดว่า หุ้นที่มีสีเขียว น่าจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจและน่าซื้อกว่าหุ้นที่มีสีแดง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีของหุ้นไม่ได้มีผลอะไรมากนักต่อการขึ้นลงของหุ้น ในทางตรงกันข้าม หากเราจะซื้อหุ้นที่ในปัจจุบันเป็นสีเขียว เราควรจะให้ความสำคัญมากกว่าหุ้นสีแดงด้วยซ้ำไป เพราะการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในตอนนี้ มักจะมีการลดลงของราคาหุ้นในวันข้างหน้าเสมอ เรามาดูความหมายสีของหุ้นก่อนดีกว่า ว่าหุ้นแต่ละสีหมายถึงอะไร



หุ้นที่มีสีเขียว หมายถึง ราคาของหุ้นตัวนั้นเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน หรือพูดง่ายๆก็คือ ถ้าซื้อหุ้นที่มีสีเขียวในวันนี้ เราเสียเงินเยอะกว่า เมื่อเทียบกับเมื่อวาน
หุ้นที่มีสีแดง หมายถึง ราคาของหุ้นตัวนั้นลดลงกว่าเมื่อวาน หรือพูดง่ายๆก็คือ ถ้าซื้อหุ้นที่มีสีแดงในวันนี้ จะซื้อได้ถูกกว่าเมื่อวาน
หุ้นที่มีสีเหลือง หมายถึง ราคาของหุ้นตัวนั้น ไม่เปลี่ยนแปลง หรือเท่ากับราคาเมื่อวาน

** ราคาเมื่อวาน ในที่นี้หมายถึงราคาของหุ้นตอนปิดตลาดของเมื่อวันก่อนหน้านี้

ในแง่ของจิตวิทยา คนส่วนมากมักจะมีความกลัว เมื่อซื้อหุ้นที่มีสีแดง เพราะคิดว่าหุ้นสีแดงคือหุ้นที่กำลังตก แต่หากใช้แนวคิดที่ให้ไว้ข้างบนนั่นคือ "หุ้นที่มีสีแดง หมายถึง ราคาของหุ้นตัวนั้นลดลงกว่าเมื่อวาน และถ้าซื้อหุ้นที่มีสีแดงในวันนี้ จะซื้อได้ถูกกว่าเมื่อวาน" การที่คิดแบบนี้จะทำให้เรากล้า(หาจังหวะ)ซื้อ หุ้นที่มีสีแดงได้



นอกจากข้อมูลของสีหุ้นแล้ว เรายังจะรู้ข้อมูลของราคาที่เปลี่ยนไปจากเมื่อวานว่า มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไร โดยจะบอกเป็น Chg (Change) ซึ่งจะบอกโดยใช้เครื่องหมายบวก (+) เมื่อหุ้นนั้นมีราคามากกว่าเมื่อวาน และจะบอกเป็นเครื่องหมายลบ (-) เมื่อหุ้นนั้นมีราคาลดลงจากเมื่อวาน ส่วนหุ้นที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของราคา จะแทนด้วยตัวเลข 0.00

ด้านหลังของ Chg ยังจะคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ให้ด้วย ซึ่งเปอร์เซ็นต์นี้เอง ที่เราจะให้ความสำคัญ เพราะหุ้นแต่ละตัว มีการขึ้นลงเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่เท่ากัน ถ้าเราเล่นหุ้นในมุมมองเหมือนกับเล่นเกมแล้วล่ะก็ เราจะให้ความสำคัญกับจุดตรงนี้ ในบทความต่อไป จะมาคุยกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเปอร์เซ็นต์และช่องชองราคาหุ้นกัน