วุฒิการศึกษาไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะทำงานได้ดี หากนักศึกษาไม่รู้จักสร้างความคิดและรู้วิธีคิด หรือค้นคว้า เพื่อหาข้อมูล เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้ได้ผล
ผมได้พบกับผู้ที่เรียนจบในระดับสูง หรือได้รับปริญญาบัตรหลายใบ แต่ปรากฎว่า ผลการปฏิบัติงานไม่เป็นที่พึงพอใจของเจ้านาย ที่มีความรอบรู้ในเรื่องการบริหารความเสี่ยงแบบบูรณาการ ที่ผสมผสานทั้งทางด้าน IT และ Non IT ซึ่งเป็นที่มาของความผิดหวังของทั้งผู้ที่ขยันหมั่นเพียรในการร่ำเรียน แต่มีการค้นคว้าและสร้างความเข้าใจจากการเรียนการสอน ไม่เพียงพอที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้ได้ผล ตามหลักการบริหารงานยุคใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยง หรือการบริหารเชิงรุก ที่ผสมผสานกับการบริหารทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการจัดการที่ดีในภาพโดยรวม
ลองดูตัวอย่างจากนาย มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หรือ Mark Elliot Zuckerberg
หนุ่มอายุเพียง 26 ปี ที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทั้ง ๆ ที่ไม่จบการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Facebook.com เว็บไซต์ที่เราสามารถอัพโหลดรูปจากมือถือ มาโชว์หน้าเว็บได้ทันที เว็บไซต์ที่เราสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อน ๆ และ Idol ที่เราชอบได้ในแบบ Real time
www.facebook.com ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย มีสมาชิกถึง 1 ล้านคนภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี และภายใน 6 ปี มีคนทุกทวีปจากทุกเชื้อชาติ กว่า 350 ล้านคน เข้าชมและใช้มากที่สุดเป็น อันดับ 2 ของโลก
เหตุผลที่ facebook ได้รับความนิยมมาก และรวดเร็วก็คือ การเปิดให้นักพัฒนาโปรแกรมสร้างโปรแกรมหรือเกมใหม่ ๆ มาให้ผู้อื่นเล่นบนเว็บไซต์ได้อย่างเสรี มีการขายสินค้าที่เป็นของขวัญเสมือนจริง แทนการให้ของขวัญจริง ๆ ในราคาแพง และสามารถส่งถึงผู้รับได้อย่างรวดเร็วทันใจ สามารถสร้างความนิยมและความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การลงโฆษณาก็ทำได้ง่ายเหมือนการเขียน e-mail และเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้บริการได้อย่างตรงจุด +++
Facebook เป็นเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม หรือ Social Network ที่สามารถเชื่อมโยงเพื่อน ๆ บุคคลในครอบครัว เข้าหากันบนโลก online และทำกิจกรรมได้สารพัดอย่าง สามารถแสดงความคิดหรืออัพโหลดรูปจากงานปาร์ตี้ หรือระหว่างการไปเที่ยว หรืออยู่ระหว่างการแต่งงาน ได้ในทันที ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโทรศัพท์มือถือได้มีการพัฒนาและก้าวหน้าอย่างยิ่ง โดยอาจจะเรียกได้ว่าเป็น Personal Computer อย่างแท้จริงที่สามารถพกพาไปไหนก็ได้ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เริ่มสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเองตอนเรียนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เริ่มจากการให้นักศึกษามาโหวตภาพให้เพื่อน ๆ รู้จักในมหาวิทยาลัยว่าใครฮอตฮิตกว่ากัน และต่อมาได้สร้างเว็บเพื่อให้เพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยร่วมสังสรรกันในลักษณะ online ได้ทุกวัน ทุกเวลา โดยไม่ต้องพบกันทุกวัน และต่อมาก็ได้พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นเว็บไซต์ที่เด่นดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในปัจจุบัน
ในปี 2008 นายมาร์ค คว้าตำแหน่งผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งปี และปี 2009 ในตำแหน่งหนุ่มที่รวยและอายุน้อยที่สุดในอเมริกา โดยมีทรัพย์สินมากกว่า 75,000,000,000 บาท นายมาร์คจึงเป็นหนุ่มเนื้อโสดเนื้อหอมเป็นอย่างยิ่ง ชื่อของนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จะโด่งดังเป็นพลุแตก เมื่อภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวประวัติของเขา เรื่อง The Social Network ออกฉายในปีนี้ สังเกตได้นะครับว่า นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีวิธีการสร้างตัวคล้าย ๆ กับนายบิล เกตส์ คือลาออกจากมหาวิทยาลัย ทั้ง ๆ ที่ยังเรียนไม่จบ เพราะรู้จักวิธีคิด สร้างความคิด จากจิตนการ หรือ Vision ที่ได้จากการค้นคว้าและการศึกษา ซึ่งสร้างให้เขารู้จักเป็นนักคิด และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ จากเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่สามารถสร้างความสำเร็จและความร่ำรวย จากความเข้าใจผสมผสานกับความต้องการ สภาพแวดล้อมทางสังคมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เรื่องนี้ ผมอยากสรุปเพียงว่า การศึกษาเป็นเพียงคำสอน หรือการเรียนรู้เบื้องต้น เพื่อให้นักศึกษารู้จักคิดเป็น และสามารถช่วยตัวเองได้ จากปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในระดับส่วนตัว ในระดับครอบครัว ซึ่งจะก้าวต่อไปถึงความสามารถในการเป็นผู้นำระดับประเทศ ที่ต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างให้นักเรียก นักศึกษา รู้จักคิดเป็น ทำเป็น และสามารถพึ่งพาตนเองได้ตั้งแต่ในวัยเรียนนะครับ
คุณอยากรู้หรือไม่ว่า "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊คที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ มีฉายาว่าอะไรและทำไมเฟซบุ๊คต้องเป็นสีฟ้า?
*ซัคเคอร์เบิร์กมีเพื่อนทั้งหมด 879 คน
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก มีลิสต์เพื่อนในหน้าเฟซบุ๊คของตัวเอง 879 คน โดยเปิดเผยอีเมล์และเบอร์โทรศัพท์จริงในหน้าข้อมูลผู้ใช้บริการ เขาเลือก Green Day และ Jay-Z เป็นศิลปินโปรด หนังสือที่สนใจเป็นพิเศษ คือ นิยายไซไฟอย่าง Ender's Game โดย ออร์สัน สก็อตต์การ์ด ความสนใจด้านอื่น คือ เรื่องการปฏิวัติ การละตัณหาและลัทธิจุลนิยม ซึ่งกล่าวถึงศิลปะของความเรียบง่าย
*ซัคเคอร์เบิร์กมีฉายาว่า "ซัค เดอะ โรบอท"
"ซัค" คือชื่อสั้นที่เพื่อนของซัคเคอร์เบิร์กเรียกเขา เขาถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร ขี้อายและขี้ขลาด และมีคนเคยบอกว่าซัคเคอร์เบิร์กเหมือนหุ่นยนต์ บางทีเขาชอบพูดเหมือนโปรแกรม Instant Message คือ พูดห้วนๆ เรียบๆ เป็นโทนเดียวกันหมด แต่ก็ข้อดีที่ เขาเป็นผู้ฟังที่ตั้งใจฟังมาก
*ทำไมเฟซบุ๊คต้องเป็นสีฟ้า?
การตกแต่งภายในบ้านของซัคเคอร์เบิร์ก มักใช้สีน้ำตาลอ่อนและสีฟ้า ยกเว้นในครัวที่ใช้สีเหลือง แต่อย่างไรก็ตาม สีไม่ได้สำคัญกับเขามากนัก เพราะเขาตาบอดสี ซึ่งเป็นประเภทที่แยกความแตกต่างระหว่างสีแดงกับสีเขียวไม่ได้ เขาจึงเลือกสีฟ้าเป็นสีโปรด และเขาเคยพูดว่า สีฟ้าเป็นสีแห่งความมั่งคั่งสำหรับเขาและเขามองไปทางไหนก็เห็นแต่สีฟ้า
อ่านข่าวเกียวกับ ซัคเคอร์เบิร์ก ได้ต่อนะครับ
'ซัคเคอร์เบิร์ก'ปลื้มพิธีแต่งงานไทย
----------------------------------------------------------
ที่มา www.itgthailand.com