Shadow of the Tomb Raider ปรับระดับความยากการไขปริศนาและการต่อสู้ได้อิสระ

[Rang Zozor]

Shadow of the Tomb Raider ปรับระดับความยากการไขปริศนาและการต่อสู้ได้อิสระ




อีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงงานเกมโชว์สุดยิ่งใหญ่อันดับสองของโลกอย่าง Gamescom 2018 เหล่าเกมดังมากมาย เตรียมปล่อยข้อมูลออกมาแง้มให้เกมเมอร์ได้

ซึมซับเนื้อหาไปพลางๆ ก่อนถึงวันงานจริง ซึ่งดูเหมือนทีมผู้พัฒนา Eidos-Montreal และผู้จัดจำหน่าย Square-Enix จะเครื่องแรงเอามากๆ เพราะพวกเขาได้

ปล่อยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเกม Shadow of the Tomb Raider แบบจัดเต็มด้วยจำนวนข้อมูลที่ไม่ใช่น้อยๆ เลย





ขอประเดิมด้วยระบบปรับระดับความยากง่ายของการไขปริศนา, การสำรวจและการต่อสู้ผสมผสานกันได้อย่างอิสระ ทีมผู้พัฒนาใหรายละเอียดว่าในช่วงเริ่มต้นตัวเกม

จะมีให้ปรับระดับนี้ทั้ง 3 หัวข้อตามความต้องการของเพื่อนๆ มีตั้งแต่ Easy, Normal, Hard และ ระดับความยากที่สุด Deadly Obsession โดยเมื่อ

เลือกเล่นแล้วรู้สึกว่าไม่ตรงใจเพื่อนๆ ละก็ จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนระดับระหว่างการเล่นได้ มีแต่ต้องเปลี่ยนตอนเริ่มเล่นใหม่สถานเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ทีมผู้พัฒนามี

การยกตัวอย่างให้ทราบกันคร่าวๆ ได้แก่





● การปรับระดับความยากง่ายของการสำรวจ หากปรับเป็น Easy เพื่อนๆ จะมองเห็นจุดที่ควรจะควรจะกระโดดได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงการสำรวจเส้นทางหลากหลายได้อย่าง

รวดเร็ว ในขณะที่ปรับเป็น Hard จะมีอะไรเป็นตัวคอยบอกชี้ทางไปต่อ เพื่อนๆ จะต้องใช้ความสังเกตในการมองหาและการไตร่ตรองว่าเส้นทางนี้มันมีโอกาสไปต่อได้มั้ยนั่นเอง

● ต่อมาการปรับระดับความยากง่ายของการต่อสู้ หากปรับเป็น Easy เพื่อนๆ ศัตรูจะมีพลังโจมตีน้อยจนเราจัดการได้ง่ายขึ้น ของดรอปอาวุธและกระสุนอีกเพียบ ในขณะที่

ปรับเป็น Hard ศัตรูจะมีพลังโจมตีแรงและปรับเปลี่ยนการโจมตีเพื่อพร้อมจะล่าเราตลอดเวลา ซึ่งมันจะแตกต่างมากขึ้นอยู่กับระดับความยากของแต่ละระดับ ที่สำคัญของดรอป

อาวุธและกระสุนน้อยมากๆ ทำให้ตัวเกมมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น





● สุดท้ายคือการปรับระดับความยากง่ายของการไขปริศนา หากปรับเป็น Easy เพื่อนๆ จะสามารถใช้ระบบ Survival Instinct หรือ สัญชาตญาณเอาตัวรอดเพื่อชี้ไปยัง

วัตถุ, สีตำแหน่งหรือตำแหน่งสถานที่ที่เราเข้าไปกด หรือเคลื่อนไหวเพื่อให้ผ่านไปยังฉากต่อไปได้ ในขณะที่ปรับเป็น Hard ระบบ Survival Instinct จะถูกตัดออกไป ทำให้

ไม่มีอะไรเป็นตัวบอกใบ้ให้แก่เราแล้ว งานนี้มีแต่ต้องพึ่งความช่างสังเกตและความกล้าที่จะสำรวจสิ่งของรอบตัวเพื่อแก้ปริศนาด้วยตนเองเท่านั้น






ยิ่งไปกว่านั้นทีมผู้พัฒนาก็ได้ปล่อยตัวอย่างเกมเพลย์สั้นๆ ออกมาเรียกน้ำย่อยให้ได้ชมกันอีกด้วย โดยเริ่มจาก “Underwater Survival” ที่คราวนี้ Lara Croft สาวน้อย

สุดแกร่งของเราจะได้ผจญภัยกันในใต้น้ำแล้ว ทั้งออกสำรวจโบราณสถานและสุสาน หนีตายจากภัยพิบัตินานาชนิด รวมไปถึงใช้การดำน้ำทำการลอบเร้นสังหารศัตรู

ได้อีกด้วย ทว่าใต้น้ำจะมีสิ่งมีชีวิตที่คอยดักโจมตีเราอยู่ด้วย ดังนั้นเพื่อนๆ ระวังตัวกันให้ดีๆ





มาต่อกันที่ “Combat Tactics” จะโชว์ถึงทักษะฝีมือการต่อสู้ของ Lara ที่เรียกว่ากลายเป็นแม่สาวแกร่งเต็มตัว ตั้งแต่นำบ่อโคลนมาทารอบตัวเพื่ออำพรางให้กลมกลืนไป

กับสภาพแวดล้อม, การลอบเร้นสังหารให้เราได้ปิดฉากศัตรูอย่างเท่ๆ และดิบเถื่อน ซึ่งมีตั้งแต่แบบธรรมดาไปยันแบบโลดโผนลีลาเด็ดถึงใจ อีกทั้งยังสามารถหลอกล่อศัตรู

ให้ยิงพวกเดียวกันเองได้อีกด้วย ถือว่าทำระบบต่อสู้ออกมาได้ถึงเลือดถึงเนื้อดีจริงๆ






ปิดท้ายด้วย “Deadly Tombs” การสำรวจตามหาสุสานตามสถานที่ต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของเกมซีรีส์นี้ ที่เมื่อหาสุสานเจอเราจะได้รับของตอบแทนกลับมามากมาย

โดยภาคนี้จะยกระดับการสำรวจสุสานขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเพิ่มความลึกของสุสาน ที่ดูท่าระยะทางจะยาวกว่าภาคที่แล้ว แถมยังต้องปริศนาสารพัดให้ต้องแก้ระหว่างทางอีก

ด้วย ใครที่เป็นสายฟาร์มของน่าจะถูกใจไม่ใช่น้อย





สำหรับเกม Shadow of the Tomb Raider ผลงานจาก ทีมผู้พัฒนา Eidos-Montreal ที่ครั้งนี้ Lara Croft จะตะลุยไปยังดินแดนแห่งอารยธรรมมายา ในคราวนี้

เจ้าตัวต้องเผชิญหน้ากับองค์กร Trinity อีกครั้ง และได้พัวพันกับพิธีกรรมลึกลับบางอย่าง ของชนเผ่ามายา ซึ่งภาคนี้บอกเลยว่าให้อารมณ์มืดมน ยิ่งกว่าภาคก่อนๆ เป็น

เท่าตัว อีกทั้งภาคนี้จะถือว่าเป็นภาคสุดท้ายของซีรี่ย์ Tomb Raider ในเวอร์ชั่นรีบูตแล้วจึงได้จัดเต็มเพิ่มโหมด Co-Op ออนไลน์ โดยเราและเพื่อนสามารถช่วยกันทำ

ภารกิจไปด้วยกันได้ เพียงแต่โหมดดังกล่าว เพื่อนๆ จะเล่นได้ก็ต่อเมื่อซื้อตัว เกม Shadow of the Tomb Raider Croft Edition เท่านั้น (ราคาอยู่ที่ราวๆ 2,943

บาท) ตัวเกมวางจำหน่ายในวันที่ 14 กันยายนปีนี้ทั้งบนเวอร์ชั่น PC [Steam], PlayStation 4 และ Xbox One





นอกจากนี้ทีมผู้พัฒนายังสร้างสรรค์เพลงประกอบภายในเกมด้วยการนำเครื่องดนตรีพื้นเมือง, ดนตรีคลาสสิคและการเลียนเสียงสุดแสน

พึลึก แม้มันดูเป็นอะไรที่ไม่เข้ากัน แต่พอบรรเลงออกมากลับเป็นเพลงประกอบที่สุดยอดเอามากๆ หากใครสนใจสามารถไปฟังกันได้นะ











CREDIT BY PLAYULTI

[gwen stacy]

นี่แหละคือสิ่งที่แฟนคลับเกม Tomb raider รอคอยอยู่อย่างเดียวคือ puzzle และการแก้ไขปริศนาในสุสานที่ยิ่งยากยิ่งสนุกจะทำยังไงให้ผู้เล่นเดินหน้าไปต่อได้ สรุปคือสเน่ของเกม Tomb raider ไม่ได้อยู่ที่กราฟฟิกเนื้อเรื่องหรือฉากต่อสู้ที่ต้องมีเลือดสาดแต่คือการไขปริศนาตังหากถ้า Shadow of the Tomb Raider ออกมาเมื่อไหร่ละก็สิ่งที่จะทำเป็นอยากแรกคือปรับระดับความยากของ puzzle ให้ไปถึง Hard เลยถ้าใครใช้ Easy หรือ Normal ถือว่าไม่ใช่ Tomb raider( ตื่นเต้นกับ trailer Deadly Tombs ของ Shadow of the Tomb Raider ดูแล้วน่าจะมีแต่กับดักเต็มไปหมดแบบนี้สิถึงน่าตื่นเต้นท้าทายมาก)
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเกมนี้คือการต่อสู้กับสัตว์ป่าดุร้ายที่มีคู่เกม Tomb raider มาตั้งนานแล้ว
นี่คือเดโมของ Shadow Of The Tomb Raider ที่จะโชว์ฉากสำคัญในการต่อสู้กับเสือจากัวร์ (คลิปโดยlzuniy)

คิดเล่นเล่นจะเป็นยังไงถ้า nathan drake แห่ง uncharted จะมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษใน Shadow of the Tomb Raider ในรูปแบบ DLC (คิดเล่นเล่นไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก)

[kurolykan]

ถ้าความยากง่ายในการแก้ปริศนามันมีแค่ Highlight Object ผมก็คงเอาที่ Normal น่ะแหละ ผมไม่ค่อยชอบมานั่งหาว่าอะไรเป็นอะไรในที่มืดๆ หรอก ยิ่งการ์ดจอได้แค่นี้นี่งมไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรก็มี ไอพวกเกมตระกูลภาพสมจริงนี่หลายครั้งแล้วที่ผมหาอะไรๆ ไม่เจอ โหมดยากสุดของ Dying Light ก็ทำผมมึนมาทีหนึ่งแล้วกับการเอา Highlight Item ออกจาก Survival Sense ถ้าอยากให้ยากนะ เอา Highlight บนตัวศัตรูออกแทนสิ พอเอา Highlight Item ออก ผมหา Item Quest ไม่เจอเลย วนอยู่ในห้องแคบๆ แค่นั้น แต่หาช็อกโกแลตวันแม่ไม่เจอ . . . . ถ้าแบบนั้นสำหรับผมมันไม่ได้เพิ่มความยากขึ้นเท่าไหร่ แต่ความน่ารำคาญมันเพิ่มขึ้นแทน แต่ไอเทมกับวัตถุใน Tomb Rider ภาคนี้คงไม่เล็กแบบ Dying Light หรอกมั้ง ภาค Reboot 2 ภาคที่ผ่านมาวัตถุที่ Interact ได้ค่อนข้างใหญ่แล้วก็ซ้ำๆ กันเยอะอยู่

แต่ถ้าความยากในการแก้ปริศณามันระดับเดียวกับเกม La mulana อันนั้นผมก็ขอบาย อันนั้นยากจริง เพราะคุณต้องมานั่งตีความของข้อความและตำนานต่างๆ ที่มันใบ้มา มีทั้งหลอกทั้งจริง มีอันที่ไม่มีความหมายอะไรเลยก็มีเยอะแยะปนกันมั่วไปหมด แถมลักษณะของการแก้ปริศณาไม่ตายตัวอีก ถ้าไม่สวมวิญญาณนักโบราณคดีแล้วมานั่งจดข้อความแล้วอ่านซ้ำ+ตีความก็เล่นไม่เคลียร์หรอก เว้นแต่จะยอมแพ้แล้วเปิดบทสรุป แถไม่ได้จริงๆ เกมนั้น

[Rang Zozor]

นี่แหละคือสิ่งที่แฟนคลับเกม Tomb raider รอคอยอยู่อย่างเดียวคือ puzzle และการแก้ไขปริศนาในสุสานที่ยิ่งยากยิ่งสนุกจะทำยังไงให้ผู้เล่นเดินหน้าไปต่อได้ สรุปคือสเน่ของเกม Tomb raider ไม่ได้อยู่ที่กราฟฟิกเนื้อเรื่องหรือฉากต่อสู้ที่ต้องมีเลือดสาดแต่คือการไขปริศนาตังหากถ้า Shadow of the Tomb Raider ออกมาเมื่อไหร่ละก็สิ่งที่จะทำเป็นอยากแรกคือปรับระดับความยากของ puzzle ให้ไปถึง Hard เลยถ้าใครใช้ Easy หรือ Normal ถือว่าไม่ใช่ Tomb raider( ตื่นเต้นกับ trailer Deadly Tombs ของ Shadow of the Tomb Raider ดูแล้วน่าจะมีแต่กับดักเต็มไปหมดแบบนี้สิถึงน่าตื่นเต้นท้าทายมาก)
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเกมนี้คือการต่อสู้กับสัตว์ป่าดุร้ายที่มีคู่เกม Tomb raider มาตั้งนานแล้ว
นี่คือเดโมของ Shadow Of The Tomb Raider ที่จะโชว์ฉากสำคัญในการต่อสู้กับเสือจากัวร์ (คลิปโดยlzuniy)

คิดเล่นเล่นจะเป็นยังไงถ้า nathan drake แห่ง uncharted จะมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษใน Shadow of the Tomb Raider ในรูปแบบ DLC (คิดเล่นเล่นไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก)

คงต้องให้ Naughty Dog กับ Square Enix จับมือกันซะก่อน คงได้เห็นแน่ๆ ครับ

ถ้าความยากง่ายในการแก้ปริศนามันมีแค่ Highlight Object ผมก็คงเอาที่ Normal น่ะแหละ ผมไม่ค่อยชอบมานั่งหาว่าอะไรเป็นอะไรในที่มืดๆ หรอก ยิ่งการ์ดจอได้แค่นี้นี่งมไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรก็มี ไอพวกเกมตระกูลภาพสมจริงนี่หลายครั้งแล้วที่ผมหาอะไรๆ ไม่เจอ โหมดยากสุดของ Dying Light ก็ทำผมมึนมาทีหนึ่งแล้วกับการเอา Highlight Item ออกจาก Survival Sense ถ้าอยากให้ยากนะ เอา Highlight บนตัวศัตรูออกแทนสิ พอเอา Highlight Item ออก ผมหา Item Quest ไม่เจอเลย วนอยู่ในห้องแคบๆ แค่นั้น แต่หาช็อกโกแลตวันแม่ไม่เจอ . . . . ถ้าแบบนั้นสำหรับผมมันไม่ได้เพิ่มความยากขึ้นเท่าไหร่ แต่ความน่ารำคาญมันเพิ่มขึ้นแทน แต่ไอเทมกับวัตถุใน Tomb Rider ภาคนี้คงไม่เล็กแบบ Dying Light หรอกมั้ง ภาค Reboot 2 ภาคที่ผ่านมาวัตถุที่ Interact ได้ค่อนข้างใหญ่แล้วก็ซ้ำๆ กันเยอะอยู่

แต่ถ้าความยากในการแก้ปริศณามันระดับเดียวกับเกม La mulana อันนั้นผมก็ขอบาย อันนั้นยากจริง เพราะคุณต้องมานั่งตีความของข้อความและตำนานต่างๆ ที่มันใบ้มา มีทั้งหลอกทั้งจริง มีอันที่ไม่มีความหมายอะไรเลยก็มีเยอะแยะปนกันมั่วไปหมด แถมลักษณะของการแก้ปริศณาไม่ตายตัวอีก ถ้าไม่สวมวิญญาณนักโบราณคดีแล้วมานั่งจดข้อความแล้วอ่านซ้ำ+ตีความก็เล่นไม่เคลียร์หรอก เว้นแต่จะยอมแพ้แล้วเปิดบทสรุป แถไม่ได้จริงๆ เกมนั้น

เกมปริศนาหลายๆเกม ผมก็เล่นแค่ Normal เหมือนกัน ไม่อยากต้องกินยาแก้ปวดหัว

[gwen stacy]

ถ้าความยากง่ายในการแก้ปริศนามันมีแค่ Highlight Object ผมก็คงเอาที่ Normal น่ะแหละ ผมไม่ค่อยชอบมานั่งหาว่าอะไรเป็นอะไรในที่มืดๆ หรอก ยิ่งการ์ดจอได้แค่นี้นี่งมไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรก็มี ไอพวกเกมตระกูลภาพสมจริงนี่หลายครั้งแล้วที่ผมหาอะไรๆ ไม่เจอ โหมดยากสุดของ Dying Light ก็ทำผมมึนมาทีหนึ่งแล้วกับการเอา Highlight Item ออกจาก Survival Sense ถ้าอยากให้ยากนะ เอา Highlight บนตัวศัตรูออกแทนสิ พอเอา Highlight Item ออก ผมหา Item Quest ไม่เจอเลย วนอยู่ในห้องแคบๆ แค่นั้น แต่หาช็อกโกแลตวันแม่ไม่เจอ . . . . ถ้าแบบนั้นสำหรับผมมันไม่ได้เพิ่มความยากขึ้นเท่าไหร่ แต่ความน่ารำคาญมันเพิ่มขึ้นแทน แต่ไอเทมกับวัตถุใน Tomb Rider ภาคนี้คงไม่เล็กแบบ Dying Light หรอกมั้ง ภาค Reboot 2 ภาคที่ผ่านมาวัตถุที่ Interact ได้ค่อนข้างใหญ่แล้วก็ซ้ำๆ กันเยอะอยู่

แต่ถ้าความยากในการแก้ปริศณามันระดับเดียวกับเกม La mulana อันนั้นผมก็ขอบาย อันนั้นยากจริง เพราะคุณต้องมานั่งตีความของข้อความและตำนานต่างๆ ที่มันใบ้มา มีทั้งหลอกทั้งจริง มีอันที่ไม่มีความหมายอะไรเลยก็มีเยอะแยะปนกันมั่วไปหมด แถมลักษณะของการแก้ปริศณาไม่ตายตัวอีก ถ้าไม่สวมวิญญาณนักโบราณคดีแล้วมานั่งจดข้อความแล้วอ่านซ้ำ+ตีความก็เล่นไม่เคลียร์หรอก เว้นแต่จะยอมแพ้แล้วเปิดบทสรุป แถไม่ได้จริงๆ เกมนั้น

ถ้าเป็นปริศนาต้องสวมวิญญาณนักโบราณคดีละก็เราเคยเจอนะใน Tomb raider anniversary ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการตีความภาพและตัวหนังสือ hieroglyphs บนผนังรอบทั่วพีระมิตออกมาถึงจะไขปริศนาเพื่อเปิดประตูลับที่ซ่อนอยู่ในพีระมิตออกมาได้กินเวลาไป4วันเลย แต่อยากขอบคุณคอมเม้นของ kurolykan มากในที่สุดก็เจอเกมที่ต้องสวมวิญญาณนักโบราณคดี La mulana อีกเกมน่าทดลองมากปริศนาเลยยิ่งยากยิ่งสนุก

เกมปริศนาหลายๆเกม ผมก็เล่นแค่ Normal เหมือนกัน ไม่อยากต้องกินยาแก้ปวดหัว

เกมแบบนี้ต้องใช้แค่ imagination กับความสามารถเท่านั้นถึงจะไขปริศนาเหล่านั้นได้นะ

[kurolykan]

ผมก็ไม่รู้ว่าคุณ Gwen จะชอบเกมนี้ลงรึเปล่านะ เพราะมันเป็นเกม Metroidvania เก่าๆ เอามา Remade ใหม่รอบหนึ่ง พึ่งจะทำภาค 2 มา แต่พอเล่นภาคแรกจบ ผมวางภาค 2 เลย คือไม่ไหวจริงๆ กินแรงใจผมไปเยอะมาก ปริศณาก็อันหนึ่ง แต่ไอกับดักนี่เข้าขั้นน้องๆ Mario Neko เลยทีเดียว เกม Hard core ขนาดนี้ไม่รู้จะมีกี่คนที่ชอบ

ถ้า Tomb Rider ทำปริศณามาหนักขนาด La mulana ผมอาจจะพิจารณาดูคนอื่นเล่นแทน อันนี้พูดจากใจจริงเลย

[gwen stacy]

ผมก็ไม่รู้ว่าคุณ Gwen จะชอบเกมนี้ลงรึเปล่านะ เพราะมันเป็นเกม Metroidvania เก่าๆ เอามา Remade ใหม่รอบหนึ่ง พึ่งจะทำภาค 2 มา แต่พอเล่นภาคแรกจบ ผมวางภาค 2 เลย คือไม่ไหวจริงๆ กินแรงใจผมไปเยอะมาก ปริศณาก็อันหนึ่ง แต่ไอกับดักนี่เข้าขั้นน้องๆ Mario Neko เลยทีเดียว เกม Hard core ขนาดนี้ไม่รู้จะมีกี่คนที่ชอบ

ถ้า Tomb Rider ทำปริศณามาหนักขนาด La mulana ผมอาจจะพิจารณาดูคนอื่นเล่นแทน อันนี้พูดจากใจจริงเลย

คุณ kurolykan เกม Mario Neko เราเคยเล่นและเป็นเกมเดียวเลยที่ไม่ขอกลับไปเล่นเกมดูเหมือนเอา Mario มาผสมกับ Troll face Meme ยังไงก็ไม่รู้ส่วนเกม Metroidvania ถ้ากับดักยากถึงขั้น Mario Neko (Troll ) ขอผ่านดีกว่า

[kurolykan]

คุณ kurolykan เกม Mario Neko เราเคยเล่นและเป็นเกมเดียวเลยที่ไม่ขอกลับไปเล่นเกมดูเหมือนเอา Mario มาผสมกับ Troll face Meme ยังไงก็ไม่รู้ส่วนเกม Metroidvania ถ้ากับดักยากถึงขั้น Mario Neko (Troll ) ขอผ่านดีกว่า

ก็ไม่ถึงขั้น Mario Neko หรอก แต่ก็ระดับน้องๆ น่ะแหละ กับดักส่วนใหญ่ไม่ Instant dead แม้กระทั่งหนามไม่ตายทันทีแบบ Rock man แต่โดยรวมก็เข้าขั้น Troll อยู่หลายอันแหละครับ บางอันก็ทำให้เราหล่นจากชั้น 4 มาชั้น 1 ใหม่ หรือกำลังจะออกจากเขาวงกตได้ มันก็ดันมีดักวัวเปิดหลุมให้เราหล่นไปในเขาวงกตใหม่ก็มีอยู่ แต่ส่วนใหญ่จะมีเขียนใบ้ไว้แล้ว อยู่ที่เราจะเอะใจไหมว่านั่นน่ะข้อความใบ้หรือเข้าใจไหมว่ามันใบ้อะไร

แต่ที่ควรระวังที่สุด ถ้าคุณ Gwen คิดจะเล่นเกมนี้จนจบจริงๆ ตรง Mausoleum of Giant จะมีแผ่นศิลาอยู่อันหนึ่งที่เขียนไว้ในเชิงห้ามอ่านซ้ำ แต่ถ้าเราตั้งใจหรือเผลออ่านมัน เกมจะปรับความยากเป็น Hard Mode ทันที แก้ได้แค่ Load save ก่อนหน้านี้อย่างเดียว แน่นอนเพราะเกมมันเก่ามาก Auto save ไม่มีครับ Manual save อย่างเดียว เว้นแต่คุณคิดว่า ศัตรูมันง่ายไปรวมถึงบอส อันนั้นก็กดอ่านโลดเลย