ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 3 จากทั้งหมด 3 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 123
กำลังแสดงผล 51 ถึง 75 จากทั้งหมด 75
  1. #51
    ชื่อ [M] a r [K] นะ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    664
    กล่าวขอบคุณ
    234
    ได้รับคำขอบคุณ: 293
    ยิ่งอ่านยิ่งมันส์ - -*

    อยากรู้ว่า Savngarde ไรนี่ ( ในเกมส์มันเรียกกันว่า ซาเวนการ์ด ไรมะรุ )

    มันคือโลกหลังความตายหรอครับ

    อ่านตอนแรกๆ โลกมิติอื่นนี่จะเรียกว่า Oblivion รึเปล่า

    พอจะทราบมั้ยครับ
    Gerard

  2. #52
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    ที่อยู่
    妹部屋。
    กระทู้
    255
    กล่าวขอบคุณ
    14
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    Blog Entries
    1
    อัพเดทยาวเหยียดหน้าแรก rep แรกขอรับ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ unlocked อ่านกระทู้
    ยิ่งอ่านยิ่งมันส์ - -*

    อยากรู้ว่า Savngarde ไรนี่ ( ในเกมส์มันเรียกกันว่า ซาเวนการ์ด ไรมะรุ )

    มันคือโลกหลังความตายหรอครับ

    อ่านตอนแรกๆ โลกมิติอื่นนี่จะเรียกว่า Oblivion รึเปล่า

    พอจะทราบมั้ยครับ
    Sovngarde คือ โลกหลังความตายที่นักรบ Nord ทุกคนที่ตายอย่างมีศักดิ์ศรีจะสามารถไปอยู่ที่นี่ได้ครับ

    ว่ากันว่าเป็นดินแดนที่สวยงามที่ชาว Nord สามารถมีความสุขในชีวิตหลังความตายได้จากการดื่มเหล้าอย่างเฮฮา อาหารเลิศรสมากมาย และพบปะกับเหล่าผู้กล้าในยุคก่อนครับ

    ข้อมูลของ Sovngarde โผล่มาครั้งแรกใน ภาคเสริมของภาค 3 Bloodmoon ครับ

    ส่วนโลกอื่นๆทั้งหมดคือ Oblivion ครับ โดยในภาค 4 Mankar Camoran เคยบอกว่า Tamriel เองก็เป็น Oblivion โลกหนึ่งเหมือนกัน แต่คำพูดของหมอนี่เชื่อได้รึเปล่านี่ก็อีกเรื่องนะ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ pingpong444 อ่านกระทู้
    ถ้าผมเลือกช่วยUlfric จะมีผลอะไรบ้างอะแล้วUlfric จะต้านThalmor โดยไม่มีCyrodiil ได้หรอครับเพราะผมว่าชาวCyrodiil น่าจะวางแผนการรบดีกว่าnordแต่ ชาวnordมีฝีมือการรบมากว่า
    อันนี้ผมว่าเป็นเรื่องของอนาคตครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนเขียนบทเกมนี้ไปนั่งกังวลต่อเองละกันครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย MahouKenshi : 19th December 2011 เมื่อ 20:26
    大切な人なら、たった一人だけで十分さ。

  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #53
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    95
    กล่าวขอบคุณ
    1,689
    ได้รับคำขอบคุณ: 51
    ผมไม่ได้เล่นภาค3อยากรู้ว่าพวกคนแคระมันหายไปไหนหรอครับ

  5. #54
    คิดถึงวันวาน
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพฯ
    กระทู้
    769
    กล่าวขอบคุณ
    870
    ได้รับคำขอบคุณ: 500
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ pingpong444 อ่านกระทู้
    ผมไม่ได้เล่นภาค3อยากรู้ว่าพวกคนแคระมันหายไปไหนหรอครับ
    พวก drawven ใช่ปะครับ ผมเคยเห็นให้เกมมันบอกว่าเป็นชนเผ่าที่เจริญมากที่สุดถึงขั้นพีคแล้วจู่ๆพวกเขาก็หายไปอย่างลึกลับอะครับและถึงร่องรอยไว้(ก็คือพวก dwemer พวกแร่ของคนแคระ)น่าจะใช่นะ - -

  6. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #55
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    ที่อยู่
    妹部屋。
    กระทู้
    255
    กล่าวขอบคุณ
    14
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    Blog Entries
    1
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ blackop อ่านกระทู้
    พวก drawven ใช่ปะครับ ผมเคยเห็นให้เกมมันบอกว่าเป็นชนเผ่าที่เจริญมากที่สุดถึงขั้นพีคแล้วจู่ๆพวกเขาก็หายไปอย่างลึกลับอะครับและถึงร่องรอยไว้(ก็คือพวก dwemer พวกแร่ของคนแคระ)น่าจะใช่นะ - -
    Dwemer เป็นเอลฟ์นะครับ ไม่ใช่คนแคระ แต่ถ้าจะพูดถึงแต่ Dwemer อย่างเดียวจะงงครับ งั้นผมขอลากยาวเลยละกันนะ

    Dwemer เป็นเผ่าเอลฟ์ที่ตั้งรถรากอยู่ส่วนมากในแถบ Morrowind, Hammergell, High Rock และก็ Skyrim โดยเฉพาะบนเกาะ Vvardenfell ในช่วงยุคที่ 1 ถือว่าเป็นเผ่าที่มีอารยธรรมทั้งเวทย์มนต์และเทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดในโลก สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่ล้ำยุคไว้มากมาย โดยชาวจักรวรรดิ์มักจะเรียกพวกเขาว่า Dwarves

    ชาว Dwemer เป็นพวกนักคิดและนักเหตุผล เพราะฉะนั้น Dwemer จะตรงกันข้ามกับเผ่าอื่นๆทุกเผ่าที่ยังเชื่อในไสยศาสตร์และยังบูชาเทพและเทพอสูรอยู่ เพราะ Dwemer ไม่เชื่อในเทพ แต่เชื่อในพลังแห่งวิทยาศาสตร์เท่านั้น ผลงานประดิษฐ์ที่สำคัญๆของ Dwemer มีตั้งแต่การสร้างโกเล็มที่ขับเคลื่อนด้วยพลังเวทย์และเทคโนโลยี ไปจนถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย

    ชาว Dwemer ใน Vvardenfell ทำสงครามกับเผ่า Chimer (เผ่า Dark Elf หรือ Dummer ในสมัยโบราณก่อนที่จะโดนสาปให้ผิวสีเทา ตาสีแดง) มานาน จนกระทั่ง Nord ยกพลมาบุกเกาะ Vvardenfell ทั้ง 2 เผ่าเลยผูกมิตรกันขับไล่ Nord ออกไปได้ หลังสงครามจบเลยสถาปณาสภาสูง Resdayn ขึ้น และใช้ชื่อนั้นเป็นชื่อประเทศมาตลอด โดยตอนหลังชื่อ Resdayn โดนเปลี่ยนเป็น Morrowind หลังจากประเทศนี้เข้าร่วมกับจักรวรรดิ์ Tamriel

    Dwemer กับ Chimer ถึงจะเป็นมิตรกัน แต่ด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรม ประชาชนของทั้งสองเลยกระทบกระทั่งกันบ่อยๆ ที่ยังรักษาสันติได้ก็เพียงเพราะผู้นำของทั้งสองฝ่ายเป็นเพื่อนรักกันเท่านั้น โดยตอนนั้นผู้นำของ Dwemer คือ กษัตริย์ Dumac Dwarfking โดยมี Kagrenac นักประดิษฐ์และนักเวทอัจฉริยะเป็นที่ปรึกษา ส่วนฝ่าย Chimer มีนายพล Indoril Nerevar แห่งตระกูล Indoril เป็นผู้นำโดยมี Almalexia เป็นภรรยา Vivec เป็นแม่ทัพ Sotha Sil เป็นที่ปรึกษาและ Voryn Dagoth เป็นเพื่อนสนิท ความสัมพันธ์ที่เปราะบางของทั้งสองเผ่าดำเนินไปหลายร้อยปี

    จนวันหนึ่ง ฝ่าย Chimer พบว่า Dwemer นำโดย Kagrenac พยายามทดลองใช้อำนาจของพระเจ้าทำให้เผ่าตนก้าวข้ามความเป็นความตาย โดยใช้หัวใจของ Lorkhan หนึ่งในเทพยุคโบราณเป็นเครื่องมือ Nerevar รู้เรื่องนี้เข้าเลยรุดหน้าไปถาม Dumac แต่ Dumac ไม่รู้เรื่องนี้กลับปฎิเสธเสียงแข็ง สุดท้ายทำให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายเปิดสงครามกัน ซึ่งสงครามจบลงที่ฝ่าย Chimer ล้อมกรอบทัพของ Dwemer เอาไว้ที่ภูเขาไฟ Red Mountain สุดท้าย Dumac รู้ความจริงว่า Kagrenac แอบทำการทดลองลับจริงๆ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว เขาเลยสู้กับ Nerevar จนตัวตาย ส่วน Kagrenac เองก็ได้ทำการทดลองบางอย่างโดยใช้พลังของหัวใจของ Lorkhan ผลที่ตามมาคือ ชาว Dwemer ทั้งหมดใน Tamriel หายตัวไปอย่างลึกลับอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาหายไปไหน และชาว Dwemer ก็หายสาปสูญไปอย่างไม่มีสาเหตุที่ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ชัดเจนจนถึงตอนนี้ มีหลายๆทฤษฎีบอกว่า Dwemer อาจจะถูกลงโทษจากการพยายามใช้พลังของพระเจ้า บางส่วนบอกว่า Dwemer อาจจะถูกส่งไปอยู่ยังดินแดนที่ไม่มีใครค้นพบ หรืออาจจะไปอยู่ในโลก Oblivion ที่ไหนซักแห่งก็ได้

    หลังจากเผ่า Dwemer หายไปหมดแล้ว หัวใจของ Lorkhan และสิ่งประดิษฐ์ทุกอย่างของ Dwemer กลับเหลือทิ้งไว้ Nerevar ที่กำลังเสียใจอย่างหนักที่ต้องทำสงครามกับเพื่อนรักอย่าง Dumac จนตายกันไปข้าง Nerevar เลยให้ Voryn Dagoth เป็นผู้เฝ้ารักษาหัวใจไว้ ส่วนตัวเองกลับไปปรึกษา Vivec, Almalexia และ Sotha Sil ว่าจะทำยังไงกับหัวใจดี ซึ่งภายหลัง Nerevar ตัดสินใจว่าหัวใจจะต้องไม่ถูกนำมาใช้เอง แม้ทั้ง 3 จะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่พอกลับไปที่ป้อมปราการของ Dwemer กลับพบว่า Voryn Dagoth ได้เริ่มทำการทดลองอำนาจของหัวใจแล้ว เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น Dagoth Ur ทำให้ Nerevar ต้องสั่งกวาดล้างตระกูล Dagoth ให้หมดสิ้น ทำให้ 6 ตระกูลใหญ่ของ Morrowind เหลือแค่ 5 ตระกูลในเวลาต่อมา

    หลังจากกำจัด Dagoth Ur ได้แล้ว Nerevar ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนตายจึงสั่งเสียให้ Vivec, Almalexia และ Sotha Sil ว่าจะต้องไม่ใช้อำนาจของหัวใจเด็ดขาด แต่หลังจาก Nerevar ตายไป Vivec, Almalexia และ Sotha Sil กลับใช้อำนาจของหัวใจ ทำให้ตัวเองกลายเป็นเทพเจ้า วินาทีนั้นเองที่ Azura ปรากฎตัวขึ้นในโลก พร้อมกับสาปแช่ง Vivec, Almalexia และ Sotha Sil และชาว Chimer ทั้งหมด และสาปให้พวกเขากลายเป็นชาวเอลฟ์ผิวสีแทน ดวงตาสีแดงเพลิง ชาว Chimer จึงกลายเป็นชาว Dummer มาตั้งแต่ตอนนั้น และ Azura ยังบอกอีกว่า วันหนึ่งเธอจะนำ Nerevar กลับมาที่โลกนี้อีกครั้ง เพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรเป็น หลังจากเหตุการณ์นั้น Vivec, Almalexia และ Sotha Sil จึงได้สถาปณาวัดไตรเทพ (Tribunal Temple) เพื่อปกครองชาว Dummer ต่อไป

    ชาว Dwemer แม้จะหายสาปสูญไปจากโลกแล้ว แต่ก็ยังสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาว Dwemer คงหนีไม่พ้นโกเล็มยักษ์ Anumidum ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังอำนาจมหาศาล ในช่วงปลายของยุคที่ 2 หลังจาก Resdayn เข้าร่วมกับจักรวรรดิ์ Tamriel และเปลี่ยนชื่อเป็น Morrowind ผ่านการทำสนธิสัญญากันแล้ว Anumidum ได้ถูกมอบให้กับ Tiber Septim ซึ่งเขาได้ใช้อำนาจของ Anumidum ในการกวาดล้างจักรวรรดิ์ Aldmeri Dominion ที่แข็งแกร่งลงได้สำเร็จ นำไปสู่การสถาปณาจักรวรรดิ์ Tamriel ขึ้นในภายหลัง และเป็นจุดสิ้นสุดยุคที่ 2 และเริ่มต้นยุคที่ 3 ซึ่งเป็นยุคของราชวงศ์ Septim

    Anumidum ถูกนำมาใช้อีกครั้งในช่วงปลายยุคที่ 3 โดยความช่วยเหลือของสายลับของ Blade คนหนึ่ง (ตัวเอกในภาคที่ 2) ยังผลให้ดินแดนรอยต่อระหว่าง Hammerfell และ High Rock ที่ถูกเรียกว่า Daggerfell ซึ่งมีการแก่งแย่งทางอำนาจทางการเมืองอย่างรุนแรงมายาวนาน จบสิ้นลงภายในข้ามคืนเดียวอย่างเป็นปริศนา โดยไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์นั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รู้แต่เพียงว่า ความวุ่นวายใน Daggerfell ที่ไม่มีแม้แต่ทีท่าว่าจะสงบลงได้นั้น จบลงภายในเวลาแค่คืนเดียว และ Daggerfell ก็สัญญาจะซื่อสัตย์ต่อจักรวรรดิ์ต่อไป เหตุการณ์นี้ถูกเรียกต่อมาว่า The Warp in the West (สำหรับคนที่ไม่ได้เล่นภาค 2 หาหนังสืออ่านได้ในเกมครับ ภาคนี้ก็มี )

    สมบัติอื่นๆที่ Dwemer ทิ้งไว้ก็เช่น ดาบเพลิง True Flame และ Hope Flame ที่ Dumac สั่งทำให้กับ Nerevar เป็นของขวัญแต่งงานกับ Almalexia เป็นดาบที่มีเปลวเพลิงลุกโชติช่วงตลอดเวลา โดยดาบ True Flame หักไปตอนที่ Nerevar สู้กับ Dumac นอกจากนั้นก็มีแหวน Moon and Star แหวนที่ใช้ยืนยันตัวตนของ Nerevar คนอื่นที่คิดจะสวมแหวนนี้จะตายในทันที แหวนนี้มอบอำนาจของความเป็นผู้นำให้กับ Nerevar นอกจากนั้นสมบัติอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ เครื่องมือของ Kagrenac ที่สร้างมาเพื่อใช้ควบคุมอำนาจของหัวใจของ Lorkhan มีพลังมหาศาลขนาดพอจะใช้ควบคุมพลังของเทพเจ้าได้กันเลยทีเดียว

    เหตุการณ์ดำเนินต่อมาจนช่วงปลายยุคที่ 3 ประมาณ 6 ปีก่อนถึงเหตุการณ์ Oblivion Crisis (เหตุการณ์ในภาค 3) นักโทษลึกลับคนหนึ่งได้ถูกส่งขึ้นเรือมายัง Vvardenfell เพื่อมาเข้าร่วมกับกลุ่ม Blade ซึ่งภายหลังนักโทษคนนั้นได้พบว่า ตัวเขาคือ นายพล Indoril Nerevar กลับชาติมาเกิดใหม่ด้วยอำนาจของ Azura และมีหน้าที่ๆจะต้องเติมเต็มคำพยากรณ์ Nerevarine เพื่อกำจัด Dagoth Ur และเปิดโปงความจริงเบื้องหลังของเทพเจ้าตัวปลอด Vivec, Almalexia และ Sotha Sil ให้ได้ ยืนยันตัวเองด้วยแหวน Moon and Star และสุดท้ายแล้ว Dagoth Ur ก็ถูกทำลายพร้อมกับหัวใจของ Lorkhan แผนการของเขาที่จะสร้าง Anumidum ตัวใหม่ขึ้นมาจากแผนผังที่เหลือของ Dwemer ล้มเหลว ส่วน Vivec, Almalexia และ Sotha Sil เมื่อไม่มีอำนาจของหัวใจก็หมดสภาพความเป็นเทพ กลับเป็นแค่คนธรรมดา เป็นจุดสิ้นสุดของวัดไตรเทพ และตัวเอกของภาค 3 ถูกเรียกขานต่อมาว่า Nerevarine หลังจากเหตุการณ์ภาคนี้จบลง Nerevarine ได้เดินทางข้ามทะเลไปยังทวีป Akavir และก็ไม่มีใครเคยพบเห็นอีกเลย (แต่ไม่แน่ เขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ เพราะ Nerevarine มีชีวิตเป็นอมตะ ไม่แก่ ไม่ป่วยตาย ถ้าอยู่ๆจะมีเซอไพรส์ให้เขาโผล่มาอีกรอบคงไม่แปลก)

    เอาไปลงหน้าแรกด้วยดีกว่า
    大切な人なら、たった一人だけで十分さ。

  8. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  9. #56
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    261
    กล่าวขอบคุณ
    15
    ได้รับคำขอบคุณ: 211
    Blog Entries
    1
    ตอนทำภารกิจของ Nightingale [ตามหาดวงตา Falmer] เคยอ่านบทสนทนาของ Kaliah กับบันทึกที่นักสำรวจทิ้งไว้ในโบราณสถาน

    ดูเหมือนว่าก่อนที่จะหายไปอย่างเป็นปริศนา พวก Dwemer ก็กำลังทำสงครามปราบ Falmer ที่ลุกฮือขึ้นมาเนื่องจากทนการถูกกดขี่ไม่ไหว

    เหตุการณ์นี้พวกคนอาศัยบนดินแทบจะไม่รู้เรื่องเลย สู้กันไปสู้กันมา จู่ๆ Dwemer ก็หายไปเฉยๆ Falmer ก็เลยยึดครองใต้พิภพ Skyrim นับแต่นั้น

    เวลาเราเข้าดันเจี้ยน Dwemer จึงมักจะเห็นพวกนี้อยู่เสมอ [ที่จริงความเป็นมาของ Falmer นี่น่าเศร้าเหมือนกันนะ อารมณ์คล้ายๆคนยิว]

  10. #57
    ชื่อ [M] a r [K] นะ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    664
    กล่าวขอบคุณ
    234
    ได้รับคำขอบคุณ: 293
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Neotridagger อ่านกระทู้
    ตอนทำภารกิจของ Nightingale [ตามหาดวงตา Falmer] เคยอ่านบทสนทนาของ Kaliah กับบันทึกที่นักสำรวจทิ้งไว้ในโบราณสถาน

    ดูเหมือนว่าก่อนที่จะหายไปอย่างเป็นปริศนา พวก Dwemer ก็กำลังทำสงครามปราบ Falmer ที่ลุกฮือขึ้นมาเนื่องจากทนการถูกกดขี่ไม่ไหว

    เหตุการณ์นี้พวกคนอาศัยบนดินแทบจะไม่รู้เรื่องเลย สู้กันไปสู้กันมา จู่ๆ Dwemer ก็หายไปเฉยๆ Falmer ก็เลยยึดครองใต้พิภพ Skyrim นับแต่นั้น

    เวลาเราเข้าดันเจี้ยน Dwemer จึงมักจะเห็นพวกนี้อยู่เสมอ [ที่จริงความเป็นมาของ Falmer นี่น่าเศร้าเหมือนกันนะ อารมณ์คล้ายๆคนยิว]
    พวก Falmer น่าขยะแขยงมาก T_T

    มีทั้งตะขาบ สาีรพัดอันที่หยะแหยงเต็มไปหมดเลย T_T

    แมงมุม + ที่รกชื้น บรื๋อ @#!$#@!^$%
    Gerard

  11. #58
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    677
    กล่าวขอบคุณ
    4,611
    ได้รับคำขอบคุณ: 129
    ความรู้ทั้งนั้น!!!!
    จงใช้ชีวิตอย่างพอเพียง แล้วใช้เรื่องบนเตียงอย่างพอใจ!!!!!!!

  12. #59
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    78
    กล่าวขอบคุณ
    35
    ได้รับคำขอบคุณ: 79
    ยังไม่ได้อ่าน แต่กราบขอบพระคุณก่อนเลย

  13. #60
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    119
    กล่าวขอบคุณ
    86
    ได้รับคำขอบคุณ: 41
    ได้ความรู้ใหม่อีกแล้วครับ

    Thx มากจ้า

  14. #61
    สมาชิกใหม่
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    3
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    ไม่รู้จะกล่าวว่าอะไรดี งั้นยอดเยี่ยมแล้วกันครับ

    ขอบคุณ

  15. #62
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    19
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 10
    ผมว่า นั่งแปลหนังสือใน skyrim แล้วเอามาโพสลง คงจะดีไม่น้อย
    ทำกันหลายๆคน
    พอข้อมูลมันขยายใหญ่ขึ้นก็ทำ wikia แบบที่ฝรั่งทำ แต่ของเราเป็นภาษาไทย สำหรับแฟนคลับ elder scroll

  16. #63
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    19
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 10
    แนะนำฐานข้อมูลครับ
    http://www.uesp.net/
    เว็บนี้ ดีตรงที่มันเอาข้อความในหนังสือแต่ละเล่มมาใส่ไว้ด้วย ง่ายต่อการหาข้อมูล

  17. #64
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    186
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 3
    ถามอะไรนิด....

    ทำไมเวลาเสกซัมม่อนออกมาชาวเมืองและพวกการ์ดบอกว่าเอาออกไปซะอันตราย....(สงสัยเข็ดกับภาค4)

    ท่าทางคนในภาคนี้ไม่รู้จักเวทมนต์แฮะ...เวลาเสกดวงไฟขึ้นมามันชอบพูดว่า ......Whoo magic - -*


    อยากรู้เรื่องหนังสือ wolfqueenแฮะ-*-

  18. #65
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    8
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    Oh!!! มันยอดมากเลยคร๊าฟ^^

  19. #66
    ฟิัว~~~~~~~~~~~~~~
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    :D
    กระทู้
    575
    กล่าวขอบคุณ
    7,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,087
    ขอบคุณครับ สุดยอดจริงๆครับ
    เพิ่งเล่นภาคแรก ติดงอมเลย
    กะว่าจะไปหามาเล่นให้ครบอะ สนุกมากๆ
    No Money . , . , . , . No Honey

  20. #67
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ในใจของใครบางคน -///-
    กระทู้
    811
    กล่าวขอบคุณ
    1,350
    ได้รับคำขอบคุณ: 559
    อยู่กิลในกันครับ

  21. #68
    Steam Trader™
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Somewhere *-*
    กระทู้
    466
    กล่าวขอบคุณ
    248
    ได้รับคำขอบคุณ: 224
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Tiair อ่านกระทู้
    อยู่กิลในกันครับ
    อยู่มันทุกกิลด์ล่ะครับ

  22. #69
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Ottomun Empire~ !!!
    กระทู้
    239
    กล่าวขอบคุณ
    288
    ได้รับคำขอบคุณ: 101
    ผมเห็นบอส dagoth ur มันอยู่ในภาค4ด้วยอ้ะ

  23. #70
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    330
    กล่าวขอบคุณ
    60
    ได้รับคำขอบคุณ: 38
    อยากรู้เรื่อง การ craft item และ การจะหาลูกน้อง มากเลย lydia ตาย ซะงั้น

  24. #71
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    26
    กล่าวขอบคุณ
    6
    ได้รับคำขอบคุณ: 2
    หลังจากที่เล่น Oblivion และ Skyrim มานี้ ผมว่า Skyrim กินสเปคน้อยกว่า Oblivion เยอะนะครับ ภาพสวยกว่าเยอะด้วย

    พึ่งได้เล่นเมื่อ 2-3 วันที่แล้วเองครับ ตอนออกมาใหม่ไยังไม่กล้าที่จะเล่น กลัวสเปคไม่ถึง เครื่องผมแค่ Core2Duo 2.8Ghz RAM 3GB VGA GT440 [ 128 Bit 1Gb ] เอง แต่ปรากฏว่าเล่น Skyrim ลื่นปลื๊ดเลยครับ.. กลายเป็นเกมส์อันดับ 1 ในดวงใจ ำลายเกมส์เก่าๆที่เคยเล่นมาซะย่อยยับเลยครับ ( ถึงแม้จะมีบัคเยอะก็เถอะ แต่เล่น PC มีสูตรแก้ต่างๆอยู่แล้ว อิอิ )

    ขอขอบคุณ จ.ข.ก.ท. มากๆครับในส่วนของตำนานต่างๆ ระเอียดมากๆครับ ทำให้เล่นเกมส์ได้อย่างมั้นใจ และเลือกฝ่ายได้อย่างไม่ลังเลเลยครับ

    รู้สึกไม่ถูกกับ Aldmeri Dominion ขึ้นมาตะหงิดๆแฮะ

  25. #72
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    59
    กล่าวขอบคุณ
    24
    ได้รับคำขอบคุณ: 34
    ขอบคุณสำหรับความรู้มากครับ

  26. #73
    สมาชิกใหม่
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    กระทู้
    3
    กล่าวขอบคุณ
    4
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    ภาค 5 Dovahkiin ได้ช่วยโลกไว้จากมังกรแล้ว ภาคเสริมต่อมาก็เป็นแค่การผจญภัยบทใหม่เอง แต่ว่า 40% ของเควสในเกมอะจะต้องมีพวก Thalmor เข้ามาเกี่ยวบางครั้งโคตรวุ่นวาย ตอนอ่านรายงานของ Ulfric ในสถานฑูตของพวกมันเนี่ย รู้สึกของขึ้นมากครับ เรื่องวุ่นวายแทบทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะพวกมันแท้ๆ ทั้งเรื่องที่ College เรื่องของ Blade เรื่อง Talos อีก (จำได้เลยว่าตอนที่จะเดินทางไปเข้า Dark Brother ตอนนั้นเดินผ่านศาลเจ้าของ Talos (ขอเรียกงี้นะครับ)ระหว่างทางจาก River Wood ไป Falkreath เจอแต่ศพชาวบ้านชาว Nord ที่เข้ามาบูชา ผู้หญิงเยอะ ถ้าเด็กมันตายได้คงมีศพด้วยนะครับ) จะเป็นพระคุณมาก ถ้าภาค 6 ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีอีเวนท์ให้สู้กับ Aldmeri Dominion ขอบุกไปถืง Alinor เลยนะครับ Bethesda เกลียดมาก!!!พวกหลงตัวเอง โดยเฉพาะเผ่าพันเอลฟ์ชั้นสูง!!ที่แม้งมีอยู่เกือบทุกเกมส์แนวแฟนตาซี ที่โคตรหลงตัวเองว่าตัวเองสูงส่ง!!! ..............รู้สึกว่ามันจะเป็นเรื่องส่วนตัวไปแล้ว 5555

  27. #74
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Sep 2017
    กระทู้
    55
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    เกมน่าเล่นครับ

  28. #75
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    371
    กล่าวขอบคุณ
    59
    ได้รับคำขอบคุณ: 63
    เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆเลยครับผม ^_^


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top