ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 11 จากทั้งหมด 11

หัวข้อ: Beginning To Assassin

  1. #1
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382

    Cool Beginning To Assassin



    แนะนำตัวละคร

    Leon Masster[ลีออน แมสเตอร์]

    ตัวเอกของเรื่อง สิ่งที่ชักพาเขาไปสู่การเป็นนักฆ่าคือความสงสัยและความแค้น เขาต้องการล้างแค้นให้พ่อของเขาแต่เรื่องราวกลับผลิกผันและซับซ้อน ลีออนต้องการรู้ข้อมูลที่ถูกปกปิดโดยสิ่งที่ได้คือความลับแต่สิ่งที่โดนดึงกลับคือชีวิต

    Emma Stephen[เอมม่า สตีฟเฟน]

    เป็นคนมาช่วยให้ลีออนรอดจากการลอบสังหารของโจนาทานและเป็นคนพาลีออนไปสู่จุดเริ่มต้นแห่งนักฆ่า



    _____________________________________________________________________________

    ผมอาจจะแต่งไม่ดี หรือยังไงก็ขออภัย มา ณที่นี้นะครับ

    โปรดช่วยติชมด้วยนะครับ ผมจะได้นำไปปรับปรุง นะครับ

    ถ้าชอบหรือถูกใจยังไงก็ช่วยกด Thank และคอมเม้นท์บ้างนะครับ จะได้มีกำลังใจ

    intro

    เอิ๊ยด ! รถเมย์สาย 127 รถเมย์สายนี้ จะออกรถผ่านหน้าบ้านของผมจนไปถึงมหาวิทยาลัย

    เสียงแรกที่ผมได้ยินของการไปโรงเรียนคือ " น้องครับ น้อง ถึงมหาวิทยาลัยแล้วครับ "

    ผมลืมตาขึ้นด้วยความ งัว เงีย พยายาม สบัดหน้าเพื่อให้ตัวเองหายจากอาการนี้

    " ขอบคุณครับ "

    ผมเริ่มเดินลงจาก รถเมย์โดยที่ขาแทบไม่มีแรง ตาเริ่มมัว จริงสิ เมื่อวานผมนอนตี 5

    เอาเถอะ ผมพยายามปลอบใจตัวเองแล้วเดินเข้าสู่มหาวิทยาลัย

    เฮปแสตน

    นี่แหละชีวิตประจำวันของผม แต่หลังจากวันนี้มันจะเปลี่ยนไป .

    Chapter 1 : start story

    หลังจากที่ผมเดินเข้าสู่มหาวิทยาลัยได้ไม่กี่ก้าว ผมก็ได้ยินเสียงหนึ่ง จี๊ดเข้ามาในสมอง

    " LEON !! " ผมหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเห็น archer เพื่อนสนิทของผมนั่นเอง

    archer เป็นคนที่ผิวขาว เขาเป็นลูกครึ่ง อเมริกัน รูปร่างก็พอๆกันสำหรับ เด็กวัยเรียนมหาวิทยาลัย

    "มีอะไรหรอ archer" ผมถามเขาไป

    "นายขาดเรียนวิชา คณิตศาสตร์ไป คุณครูโมโห แล้วนะ"

    ผมเริ่ม งุน งง กับคำพูด ของ archer ผมจึงมองไปที่แขนซ้ายที่มีนาฬิกา

    นาฬิกาชี้เข็มสั้นไปที่เลข 10 ยังไม่ทันดูเข็มยาว ผมรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนอย่างรวดเร็ว

    "เดี๋ยว ! นาย คนที่วิ่งอยู่นั่นหนะ" ผมได้ยินเสียงของหญิงสาวจากห้องข้างๆที่ผมวิ่งผ่าน

    "มีอะไรหรอครับ" ผมถามด้วยความรีบร้อนเพราะ การเรียนของผมไม่ค่อยดีสักเท่าไร

    แล้วยังมาสายยิ่งเป็นการทำให้เกรดการเรียนลดลงไปอีก

    "เธอชื่อ Leon ใช่ไหม" ผมตอบอย่างทันควัน "ใช่ มีอะไรหร..."

    ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค ผมรู้สึกถึงรองเท้า nike อัดเข้าที่หน้าอกผมอย่างรุนแรง

    อยู่ดีๆ โลกของผมก็หยุดนิ่ง ทุกอย่าง หยุดหมด ผมเห็นตัวเองกำลังถูก ผู้หญิงคนนั้นถีบ

    เข้าอย่างจัง แต่ที่สังเกตเห็น หนึ่งอย่างที่แปลกตาและไม่น่ามี คือ ผมเห็นแสงไฟที่วิ่งเป็นแนวทางตรง

    ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ถีบผมไว้หละก็ แสงไฟนั้นคงเข้าที่หัวผมอย่างจัง

    ทุกอย่าง กลับเป็นเหมือนเดิมความรู้สึกจุกกลับมาหาผมอีกครั้ง

    "ไปเร็ว" ผมรู้ว่าเธอพูดมากกว่านี้แต่เสียงทุกอย่างมันก้องผมได้ยินแค่นี้

    ผู้หญิงคนนั้นลากตัวผมออกจากมหาวิทยาลัย ไปที่รถ

    "เฮ้ นี่คุณ มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย"

    "นายถูกตามล่าจากนักฆ่ารับจ้าง" อะไร นะ เสียงนี้ดังก้องมาจากใจผม

    ผมไปทำอะไรให้ใครโกรธหรือแค้นถึงกับตามมาฆ่าเลยหรอ

    บรึ้น ผมรู้สึกถึงความดีดตัวอัดผมติดกับเบาะนั่งของรถ

    รถขับไปตามความยาวของถนน

    ผมเห็นรถสีดำ ขับตามมาด้วยความเร็ว แล้วผมก็เหลือบมองที่ผู้หญิงคนนั้น

    เธอกำเบรคมือ พร้อมกับเหยียบคันเร่ง และอีกมือหนึ่งก็กำพวงมาลัยอย่างแน่นหนา

    เอี๊ยดด ! drift

    จากนั้นภาพก็หยุดเหมือนครั้งที่แล้ว

    ผมเห็นรถที่เรานั่งอยู่นั้นฝั่งกระจกคนขับหันหน้าไปทางรถสีดำ ที่ตามมา

    ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นหยิบปืนขึ้นมาเล็งไปที่รถสีดำและตัวผมหัวกำลังสะบัด ไปโดนประตู

    และทุกอย่างได้กลับเป็นเหมือนเดิม

    ตุ๊บ ..

    chapter 2 : Truth

    ปัง ปัง ปัง บรึ้น เอี๊ยด เอี๊ยด เสียงหลายๆเสียงเข้ามาในสมองผม

    เฮื้อก ! ผมฟื้นขึ้นมาอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ บ้านหลังนี้มี 2 ชั้น

    และมีประมาณ 5 ห้อง ซึ่งก็พอๆกันกับบ้านของผม

    แล้วผมก็รู้สึกถึงความเย็นของน้ำที่สาดใส่หน้า

    "นายตื่นได้แล้ว" ผู้หญิงคนเดิมสาดน้ำใส่ผมนี่เอง

    ผมลุกขึ้นด้วยความงัวเงียและคิดว่านี่มันคือความฝัน

    เพราะผมอยู่กับนักฆ่าที่เป็นตำนาน ถึงแม้ผมจะไม่สนใจเรื่องบ้านเมือง

    แต่ผมก็พอรู้เรื่องพวกคดี แบบนี้เหมือนกัน

    1.สตีม สค๊อต นักฆ่าด้วยยาพิษ เป็นหนุ่มรูปร่างใหญ่ ใส่เสื้อดำและใส่กางเกงยืน และเสื้อคลุม

    นายคนนี้มีประวัติฆ่าคนด้วยยามา70 กว่าศพ

    ตำรวจตามจับไม่ได้เพราะเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุไม่ยอมทิ้งหลักฐานไว้เลย

    2.นิค จิฟเฟอร์ เป็นหนุ่มรูปร่างพอๆกับผม ใส่เสื้อสี้ฟ้า ขาเดฟ

    มีประวัติการฆ่าโดยใช้มีดหี่นหมูฆ่าเยื่อโดยเมื่อฆ่าแล้วจะหั่นศพแล้วจึงนำไปทิ้ง

    3.เจมส์ เซฟตี้ เมื่อผมมองเขาก็รู้ได้เลยเพราะตัวเขาจะมีเอกลักษณ์คือใส่หน้ากากปิดหน้าไว้

    มีข่าวว่าในละแวกบ้านเกิดเขาจะมีบ้านระเบิดไม่เว้นวัน

    และเธอที่ช่วยผม หรือว่า

    4.เอมม่า สตีฟเฟน ประวัติการฆ่าด้วยปืนเก็บเสียง 9 มม. เวลายิงใครไม่เคยทิ้งรอยดินปืนไว้เลย

    เธอแต่งตัวเสื้อสีแดง กางเกงขายาว รองเท้า nike ซึ้งสิ่งนี้ผมจำได้ดีเลย

    " สวัสดี Leon " เสียงจากชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 กว่าๆ ได้ดังขึ้น

    "ฉันชื่อ อีธาน ฮีธาน ฮาฟ ยินดีที่ได้รู้จัก" เขาพูดแนะนำตนเอง

    "ครับ แล้วรู้จักชื่อผมได้ยังไง แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"

    ผมเริ่มรัวคำถาม เมื่อไม่เข้าใจกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าตนเอง

    "เอาหละ เอาหละ ฉันจะเล่าให้นายฟังเอง คนที่ไล่ตามล่านายคือ โจนาธาน "

    เริ่มพูดถึงคนที่ผมไม่รู้จักและพ่อผม

    "โจนาธาน เป็นคนฆ่าพ่อของเธอเมื่อ 15 ปีที่แล้ว" จริงสินะผมลืมบอกว่าตอนนี้ผมอายุ 20

    สมัยผมอายุ 5 ขวบพ่อของผมตายเพราะโดนลอบฆ่า ผมจึงต้องอยู่กับแม่สองคน

    "และตอนนี้มันก็จะมาฆ่านาย เพราะนายเป็นสายเลือดของพ่อเธอ"

    เมื่อผมได้ยินดังนั้น ผมถึงกับอึ้งไปสักพักที่ถูกตามล่าเพราะพ่อของผม

    พ่อของผมสมัยก่อนไม่เคยดูแลแม่ของผมเลย วันๆ เอาแต่เงินไปกินเหล้าเมายา เวลาแม่ไม่มีเงินให้ก็

    ทุบตี และตายไปแล้วยังทำให้ผมเดือดร้อนอีก ผมยิ่งเกลียดพ่อของผมมากขึ้น

    "เอาหละ Leon ฉันมีทางเลือกให้เธอสองอย่าง 1.หนีการตามล่า และตาย 2.ต่อต้าน"

    ผมเริ่ม งง กับตัวเลือก ทำไม่มันถึงไม่มีข้อที่ 3. ปล่อยผมไปและนักฆ่าไม่ฆ่าผม

    สงสัยเทพเจ้าลงไม่ได้ประธานพรข้อนี้ให้ผมหละมั้ง แต่ตอนนี้ถ้าผมเลือกข้อที่ 1. หละก็

    นักฆ่ารอบๆตัวผมคงจะเล่นผมตายแน่นอน ถ้าเลือกข้อ 2 จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

    "ผมเลือก" ผมเริ่มลังแล และมองไปรอบๆห้องที่ยืนอยู่

    "ฉันให้เวลาเธอ 3 วิไม่งั้นคำตอบมันจะเป็นข้อที่ 3 ของฉัน"

    "สาม" นักฆ่าทุกคนเริ่มหยิบอาวุธออกมา

    "สอง" เล็งมาที่ผม

    "หนึ่.." ผมตอบ อย่างรวดเร็ด

    "ผมเลือกข้อ สอง"

    Chapter 3 : begin to basic Training


    ซูม

    ผมรู้สึกถึงน้ำเย็นที่สาดเข้าที่หน้าผมอีกครั้ง

    "อะไรกันเนี่ย !!" ผมได้ยินเสียงของผู้หญิงและภาพของผู้หญิงถือถังน้ำ

    "นายโดนแค่ 3 หมัดก็หลับแล้ว แล้วนายจะไปต่อต้านโจนาธานได้ยังไงกันเนี่ย"

    จริงสินะ หลังจากที่ผมตัดสินใจเลือกข้อสอง เขาก็เริ่มทดสอบความอดทดของผมโดยการ

    ปล่อยหมัดเข้าที่หน้าของผมอย่างไม่ยั้ง

    "เอ้า !" เธอโยนถุงสีน้ำตาลมาให้

    ผมเก็บถุงนั้นมาแล้วเปิดดูข้างใน ผมก็พบกับเข็มฉีดยา

    "นี่คืออะไร " ผมถามเธอพร้อมกับไม่เข้าใจเป้าหมายของเธอ

    " ฉีดมันสะ "

    ผมเริ่มหยิบเข็มฉีดยาออกจากถุง

    " ฉีดมันสิ " เธอพูดย้ำ เหมือนเป็นคำสั่งให้สมฉีดมันเข้าไปในเส้นเลือด

    ผมจึงปักมันเข้าที่เส้นเลือดแล้วฉีดเข้าไป

    เฮื้อก

    จากนั้นผมก็รู้สึกแปลกๆ หัวใจเต้นแรงขึ้น ตัวเริ่มร้อนๆ กล้ามเนื้อเริ่มตึงๆ และรู้สึกได้รับออกซิเจนมากขึ้น

    แล้วผมก็เห็น เอมม่า หยิบวิทยุสื่อสารออกมา

    "เขาฉีดมันเข้าไปแล้ว เริ่มได้เลย" ผมเริ่มงุนงงกับคำพูดของเธอ

    ตึก ตึก ตึก เสียงเดินของคนหลายคนเดินเข้ามาหาผม

    และเอมม่าได้สั่งทิ้งท้ายกับพวกคนที่เดินมาก่อนเธอจะเดินจากไปคือคำว่า "จัดการเขาสะ"

    ผมยังไม่ทันได้ลุกขึ้นหรือตั้งตัวผมก็รู้สึกถึงแรงที่อัดเข้ามาที่หน้าพร้อมกับสนับมือเหล็กอย่างรุนแรง

    " เฮื้อก " ผมพยายมคิดว่าวันนี้เป็นวันที่ดีเพราะวันนี้ทำให้ผมได้รูั้จักคำว่า

    ล้มทั้งยืน

    แต่หลังจากผมล้มลงไปกองกับพื้นผมกลับรู้สึกถึงสารที่ฉีดเข้าไปเมื่อกี้

    ออกฤทธิ์อีกครั้ง ผมรู้สึกมีแรงเพิ่มขึ้นอย่างกับที่ไม่เคยมีมาก่อน

    แล้วรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้น และผมก็รู้สึกทุกอย่างหยุดอีกครั้ง

    มีคนที่อยู่ที่นี่ 4 คน รวมผมด้วยก็ 5 คน ข้างๆที่ที่ผมอยู่เป็นห้องกระจกและมีคนมองผมอยู่

    นั่นคือนักฆ่าทุกคนรวมถึงเอมม่า และทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิม

    ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วสวนหมัดเข้าที่ปากของชายคนแรกที่ต่อยผม

    และหลังจากนั้นผมก็จัดการกับ 4 คนที่เหลือ ซึ่งไม่รู้ว่าผมทำได้อย่างไร

    แต่ทุกครั้งที่เขาเหวี่ยงหมัดมาที่ผมทุกอย่างจะหยุด ซึ่งผมสมัยที่เรียนอยูที่

    มหาวิทยาลัยผมก็เก่งเรื่อง ฟิสิกส์ พอสมควรทำให้รู้มุมหลบหมัด แต่ผมก็โดนสวนอยู่หลายหมัดเช่นกัน

    แปะ แปะ แปะ แปะ

    "นายเก่งมาก ลีออน" เสียงของอีธานดังขึ้นพร้อมเดินมาที่ผม

    "นี่คุณเอาอะไรให้ผมฉีดเนี่ย" ผมเริ่มถามเขาอย่างรวดเร็ว

    "มันคือ อะดรีนาลีน (adrenalin) มันจะช่วยให้นายมี หัว ใจ เต้น " ผมรู้สึกไม่ค่อยดี

    พร้อมกับล้มตึงลงไปที่พื้น พร้อมกับหลับไป ..

    ______________________________________________________________________

    " สภาพอากาศวันนี้มีพายุไซโคลนเข้ามาที่นี่สองลูก ของให้ทุกท่านอยู่ที่บ้านอย่าออกไปที่อื่น "

    ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นเจมส์ นั่งฟังวิทยุอยู่ และผมตื่นมาอยู่ในรถคันสีดำ

    ซึ่งไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร

    "อ่าว ตื่นแล้วหรอ " เขาถามผม ซึ่งผมก็วางตัวไม่ถูกเหมือนกันเพราะคงไม่มีโอกาสจะได้คุยกับ

    นักฆ่าเหล่านี้บ่อยๆหรอกนะ

    "นายหลับไป 2 วัน วันนี้เป็นคิวของฉันที่ต้องสอนนายในการใช้ระเบิด"

    ตั้งแต่ผมเกิดมาผมไม่เคยได้แตะต้องระเบิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว

    ถ้าเป็นระเบิดเล็กๆหละก็คงจะเป็นประทัดนั่นหละ

    จากนั้นผมจึงถามเขาไปว่า " ว่าแต่เราจะฝึกที่ไหนกันหรอครับ "

    เขามองหน้าผมพร้อมกับพาผมลงจากรถ เมื่อผมลงจากรถก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นของฝน

    ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าใส่หัวของผม

    " ที่นี่หละ " สิ่งที่ผมเห็นคือสนามหญ้าโล่งๆที่กว้างเท่ากับสนามบอล

    "เอาหละขั้นแรกเราจะสอนนายให้คุ้นกับระเบิดก่อนละกันนะ " หือ ผมถึงกับพูดคำนี้ในใจ

    "นายเห็นสนามโล่งๆนั่นใส่ไหม ให้นายวิ่งไปจนสุดสนามนั่นแล้ววิ่งกลับมาถึงที่นี่เหมือนเดิม"

    "ซึ่งที่นั่นเต็มไปด้วยกับระเบิดที่วางไว้ที่พื้น ฉันหวังว่านายจะโชคดีนะ"

    Chapter Four : 4 surprise

    ตูม !!

    "โว้ย โหดไปแล้วนะโว้ย" ผมตะโกนเมื่อหมดความอดทนกับระเบิดที่ระเบิดใส่ผม

    ถึงแม้มันจะเป็นแค่ระเบิดอัดแรงก็เถอะแต่มันก็สร้างความรำคาญเพราะเสียงมันดังมาก

    "สู้หน่อยน่า นายนี่ไม่ใจเลยนะ เอาๆ วิ่งไปทางซ้าย" ตู้ม !!

    "ฉันบอกนายแล้วนะ" เจมส์ พูดพร้อมสูบบุหรี่ พร้อมกับยืนดูผมวิ่ง และหลบระเบิด

    ผ่านไป 3 ชั่วโมง กว่าผมจะฝ่าดงระเบิดมาได้

    _______________________________________

    " เก่งมาก ปรบมือให้ ในนั้นมีระเบิดอัดแรงเพียงแค่ 20 ลูกเองนะ แต่นายนี่โชคดีสุดๆเลย โดนไปทั้งหมด

    20 ลูก "

    " ฉันว่า น่าจะ โอเค แล้วนะ เอาหละ กลับกันเถอะ " เจมส์พูดพร้อมกับพาผมกลับไปที่

    safe house

    _______________________________________

    เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ผมก็มาถึง

    เมื่อผมเดินออกมาจากโรงจอดรถ เข้าไปที่ห้องครัว

    ก็พบกับห้องที่มืด เพราะไม่ได้เปิดไฟ ผมจึงเอื้อม มือไปเปิดไฟ

    พรึ่บ

    " surprise " นักฆ่าทุกคนรวมตัว และมอบของขวัญให้ผม อย่างมากมาย

    "ยินดีด้วยนะ วันเกิด พ่อนาย" ผมก็ เริ่ม งุน งง แต่ก็ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ พวกเขากินเลี้ยงกัน

    บางคนก็กินเหล้า แต่ที่ผม อึ้งที่สุดคือ เจมส์ ถอดหน้ากาก ของเขาออก

    ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย รอยแผล "เจมส์ คุณเป็นอะไรหรอครับ"

    ผมถามเขา ด้วยความอยากรู้

    "อ๋อ พอดีฉันผิดพลาด ตอนทดสอบระเบิดรุ่นใหม่หนะ" เขาตอบพร้อมกับยิ้มมาให้ผม

    วันนี้รู้สึก จะ เป็นวันที่ดีที่สุดกับการที่มานั่งกินเลี้ยงกับนักฆ่าทุกๆคน

    _______________________________

    และในวันต่อๆ มา เขาก็เริ่มฝึกผมใช้อาวุธต่างๆ

    เช่น ปืนพก ปืนกล การต่อสู้ระยะประชิด มีด ดาบ และรวมถึงการฝึกใช้ระเบิด

    ถึงแม้ อาจจะต้องเหนื่อยบ้าง แต่ก็ต้องอดทนทำ ซึ่ง

    บางทีผมก็คิดว่า ผมอาจจะเข้ากับพวกเขาสะแล้วก็ได้

    Chapter Five : 5 : first job

    " เอาหละ leon พร้อมนะ " เอมม่า ถามผมระหว่าง ที่ยืนอยู่

    บนดาดฟ้าของตึกตรงข้ามกับตึกของเป้าหมายที่เธอเล็งไว้

    " พร้อมตั้งนานแล้ว " ผมตอบพร้อมกับมองหน้าเธอ

    " งั้นไปกันเลย " ผมวิ่งไปพร้อมกับเอมม่า แล้วก็


    JUMP

    ก่อนหน้านั้น 5 ชั่วโมง

    " ทุกคนพร้อมนะ งานนี้ใหญ่มาก พอๆกับงานของ โจนาธาน

    เจ้า hacker คนนี้อาศัยอยู่ในแฟลตแห่งหนึ่ง เจ้านั่นมักขังตัวเองไว้ในห้อง

    เอาหละ เริ่มจากให้ สตีมปลอมตัวเป้นคนส่งจดหมาย

    เข้าไปที่แฟลตของเจ้า hacker สายฟ้า และแอบป้ายยาผ่านจดหมาย และสอดไว้ใต้ประตู

    จากนั้น อีกประมาณ 10 นาที เขาจะเริ่มหมดแรงเมื่อเริ่มสูดอากาศของก๊าสพิษ

    ช่วงนั้น leon และ เอมม่า พวกเธอสองคนไปอยู่ที่ดาดฟ้าขของตึกตรงข้าม

    กระโดดจู่โจมเข้าทางหน้าต่าง จัดการเขาสะ จากนั้น นำศพโยนลงทางหน้าต่างใส่ถังขยะ

    ข้างหลังแฟลต และให้ นิค หั่นศพแล้วเอาไปซ่อน จากนั้น เจมส์ เมื่อสตีมให้สัญญาณ

    ให้นายรอก่อน 12 นาที จากนั้นจึงกดระเบิดเข้าใจไหม

    ก็ระเบิดแฟลตแล้วจัดฉากเหตุการณ์เหมือนกับว่าสายไฟที่เจ้า hacker นั่นใช้มันระเบิด

    โอเค เริ่มงานได้ !! "

    กริ๊ง กร่อง

    " สวัสดีครับ " สตีมกล่าวเรียกคนหน้าห้อง 1273

    " ผมเป็นคนส่งจดหมายครับ " ถึงสตีมจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับ

    จากเจ้าของห้อง

    ..............................

    02.20

    " ถ้างั้นผมสอดไว้ใต้ประตูแล้วกันนะครับ " จากนั้นเขาก็เดินออกมาที่หน้าแฟลต

    " เรียบร้อย อีก 10 นาที เข้าบุกได้ "

    "สตีมส่งสัญญาณ มาว่า ครบ 10 นาทีแล้วพวกเรามีเวลาแค่ 45 วินาทีในการฆ่า"

    "และอีก 10 วินาทีในการโยนศพให้นิค และหนีอีก 5 วินาที "

    เอมม่าพูดหลังจากฟังเสียงวิทยุ

    ที่พึ่งตอบกลับมาเมื่อกี้

    " เอาหละ leon พร้อมนะ " เอมม่า ถามผมระหว่าง ที่ยืนอยู่

    บนดาดฟ้าของตึกตรงข้ามกับตึกของเป้าหมายที่เธอเล็งไว้

    " พร้อมตั้งนานแล้ว " ผมตอบพร้อมกับมองหน้าเธอ

    " งั้นไปกันเลย " ผมวิ่งไปพร้อมกับเอมม่า แล้วก็

    Jump !!

    เพล้ง "เห้ย พวกแกเป..." เมื่อพวกเราเข้าก็ก็พบเจ้า hacker ตะโกนทันที

    แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เอมม่าก็เตะเข้าไปปากเขาอย่างจัง

    เจ้า hacker ล้มลงที่พื้น จากนั้นผมก็เตะเข้าที่หน้าเขาอีกครั้งหนึ่ง

    " เอื้อก " เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ผมหันไปหาเอมม่า พบเธอกำลังงัดปืน 9 mm จากกระเป๋า

    " เอมม่า ระวัง " ผมพูดพร้อมกับกระโดดพลักเธอ ที่ผมเห็นก็คือ

    ปลายปืน m16 ที่อยู่ข้างๆกำแพง ปืนของเอมม่ากระเด็นหลุดมือ

    ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง !!

    เหลือเวลาอีก 40 วินาที

    hacker ลุกขึ้นแล้วเช็ดขอบเลือดที่ปากตัวเอง พร้อมกับหยิบปืน

    ของเอมม่าขึ้นมา

    "นี่คือป้อมปืนอัตโนมัติที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง เจ๋งใช่ไหมหละ"

    ผมขวักปืนอีกอันหนึ่งที่ผมมีออกมาจากกระเป๋ากางเกง

    ปัง !!

    มือผมถูก ยิง ที่ผมเห็นคือมือของตัวเองทะลุเป็นรู พร้อมกับเลือดที่กระจายไปทั่วพื้น

    " อ๊ากกก " ผมร้องด้วยความเจ็บ

    " ฮ่า ฮ่า ไอ้โง่ ฝีมือมีแค่นี้แล้วยังจะคิดจะฆ่าฉันหรอ เฮื๊อก " เอมม่าเะขาของเจ้า hacker นั่นล้มลง

    กับพื้น "เอมม่าอย่าลุกขึ้น ป้อมปืนของเจ้านั่นตรวจจับด้วยเซ็นเซอร์จับกระแสไฟฟ้าในตัว"

    ที่เจ้า hacker นั่นไม่โดนยิงเพราะเขาเอาพลังงานไฟฟ้าใส่ในตัวให้ตัวเองมีพลังงาน

    สูงกว่าคนอื่นเพื่อลดจุดอ่อนของป้อมปืนที่อาจจะทำร้ายตัวเองก็เป็นได้

    " โอเค " เอมม่า จับเจ้า hacker ลุกขึ้นมาแล้วจับกระแทกกับผนังทางขวา

    เพื่อหลบเซ็นเซอร์ของป้อมปืนที่อยู่ทางด้านซ้าย

    ผั่ว เจ้า hacker ก็สวนหมัดเข้าที่หน้าของเอมม่าเช่นกัน

    เหลือเวลา 33 วินาที

    ระหว่างที่ทั้งสองคนต่อสู้กัน ผมก็พยายามเอาแรงเฮื้อกสุดท้ายที่มี

    วิ่งหลบกระสุนของป้อมปืนอัตโนมัติ ไปทางซ้าย พร้อมกับกระโดดเตะปืน 9 mm ที่ตกอยู่

    ให้กระเด็นไปทางเอมม่า "เอมม่า" ผมตะโกนพร้อมกับล้มลง ไปที่พื้นด้วยความหมดแรง

    เพราะเสียเลือดมาก

    ผมได้เห็นแต่ภาพลางๆ ไร้เสียง

    เอมม่ารับปืนที่ผมเตะไปให้ได้และเตะก้านคอของเจ้า hacker ล้มลงไปพร้อมกับเอาปืน 9 mm

    จ่อที่หัวของเจ้า hacker "Good Bye " ปัง

    เหลือเวลา อีก 30 วินาที

    " ไหวไหม leon " เธอแบกผม พร้อมกับพาผมไปพิงกำแพง "รีบเอาศพให้นิคเถอะ"

    ระหว่างที่เอมม่ากำลังลากศพไปที่หน้าต่าง ผมก็ฉีกแขนเสื้อข้างซ้ายมาพันบาดแผล

    เหลือเวลาอีก 20 วินาที

    " ได้เวลาออกจากที่นี่แล้ว leon นิคส่งสัญญาณแล้ว " เอมม่าพูดหลังจากโยนศพลงไปที่ถังขยะ

    แต่ระหว่างนั้นตาผมก็ไปสุดกับอะไรบางสิ่งบางอย่าง

    " คุณออกไปก่อนเลย " เมื่อเอมม่าเดินออกไปจากแฟลตนั้นผมก็เห็นรูปภาพในคอมพิวเตอร์

    ของเจ้า hacker คือเจ้านั่นกำลัง chat กับโจนาธาน ผมจึงได้โอกาสสวมรอย

    เป็น เจ้า Hacker


    [ โจนาธาน : เฮ้ เจ้า hacker ยังอยู่ไหม

    hacker : อยู่ พอดีฉันไปเข้าห้องน้ำมาหนะ

    โจนาธาน : แต่นายพึ่งเข้าไปเมื่อ 1 นาทีที่แล้วไม่ใช่หรอ

    hacker : พอดีฉันท้องเสียหนะ

    โจนาธาน : แต่ไหนนายบอกว่านายไม่ป่วยไม่ใช่หรอ

    hacker : พอดีฉันพึ่งเป็นเมื่อกี้หนะ

    โจนาธาน : หรอ !! นายบอกฉันว่าไม่ป่วยเมื่อ 1 นาทีที่แล้วอยู่เลยนะ

    ตอนเวลา 02.20.50 หนะ ]


    หือ 02.20 งั้นตอนนี้ก็ 02.21 เห้ย !!

    ตู้มมมม !!

    Chapter : Five : 5 : 2

    "นิค ฉันโยนศพลงไปให้แล้วนะอยู่ในถังขยะหลังแฟลต" เอมม่าพูดผ่านวิทยุสื่อสารกับนิค

    "โอเค" เมื่อนิคพูดจบก็วิทยุไปบอกเจมส์ทันที "เอมม่าโยนศพลงมาให้แล้วอีก 1 นาทีระเบิดที่นั่นเลย"

    เมื่อพูดจบนิคก็เดินไปที่ถังขยะสีน้ำตาลที่อยู่ข้างหลังแฟลตของเจ้า hacker

    พร้อมกับนำศพไปใส่ไว้ในถุงดำและเดินไปตามซอกซอย

    _______________________________________________

    "เอมม่าโยนศพลงมาให้แล้วอีก 1 นาทีระเบิดที่นั่นเลย" เมื่อเจมส์ฟังข้อความนั้นจบ

    ก็นุ่งมองนาฬิกาที่เดินผ่านไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ กริ๊ง

    "ครบแล้วสินะ" เจมส์พูดกับตัวเองพร้อมกับกดปุ่มที่อยู่ในมือของตนเอง

    ตู้ม !!

    _______________________________________________

    ระหว่างที่นิคเดินมาได้ไม่เกิน 2 วินาทีก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นจากหน้าต่าง

    ห้องของเจ้า hacker " ว๊ากก "นิคเห็น leon กระโดดออกมาจากหน้าต่างห้องของเจ้า hacker

    ลงมาที่ถังขยะ ถังเดียวกันกับที่ศพเจ้า hacker ตกลงมา

    ตู้ม !!

    __________________________________________________

    [ โจนาธาน : เฮ้ เจ้า hacker ยังอยู่ไหม

    hacker : อยู่ พอดีฉันไปเข้าห้องน้ำมาหนะ

    โจนาธาน : แต่นายพึ่งเข้าไปเมื่อ 1 นาทีที่แล้วไม่ใช่หรอ

    hacker : พอดีฉันท้องเสียหนะ

    โจนาธาน : แต่ไหนนายบอกว่านายไม่ป่วยไม่ใช่หรอ

    hacker : พอดีฉันพึ่งเป็นเมื่อกี้หนะ

    โจนาธาน : หรอ !! นายบอกฉันว่าไม่ป่วยเมื่อ 1 นาทีที่แล้วอยู่เลยนะ

    ตอนเวลา 02.20.50 หนะ ]

    หือ 02.20 งั้นตอนนี้ก็ 02.21 เห้ย !! หัวใจผมเต้นถี่ขึ้นอย่างรุนแรง

    ทุกอย่างในโลกหยุดอีกเช่นเคย ผมรีบหันมองพร้อมกับคำนวณเวลาในการหนี

    โดยใช้วิชาฟิสิกส์ที่เคยเรียนมา จากเวลาที่ผมคำนวณแล้ว

    ถ้าอยากรอดโดยไม่กลายเป็นศพให้ หน่วยกู้ภัยนำไปฝังหละก็ มีอยู่ทางเดียว

    ที่ผมจะรอดไปจากที่นี่คือการกระโดดออกหน้าต่าง เมื่อคิดได้เช่นนั้น

    ผมก็รีบวิ่งไปที่หน้าต่างที่เอมม่าโยนศพลงไปพร้อมกับกระโดดออกจากห้องนั้นทันที

    ตู้ม !! ผมรู้สึกถึงแรงอัดกระแทก และความร้อนเข้ามาที่หลังของผม

    เสียงระเบิดนั้นทำให้ผมหู อื้อ ไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะตกลงบนถังขยะ

    ที่อยู่ข้างหลังแฟลต เมื่อลืมตาขึ้นก็พบกับนิคที่ยืนอยู่หน้าถังขยะ

    "นายนี่ มันบ้าชัดๆเลย " เขาพูดพร้อมกับยื่นมามือมาทางผม

    "จบงานแล้ว ได้เวลากลับบ้านแล้ว" ผมจับมือที่นิคยื่นมา

    พร้อมกับถามตัวเองว่า

    บ้านผมคือ safehouse ของพวกเขาหรอ

    Chapter 6 : Alone

    ผมตื่นขึ้นในห้องเดินที่ผมเคยนอน

    ใน safe house ปัง ปัง ปัง !!!

    เมื่อผมได้ยินเสียงปืนจึงรีบวิ่งออกไปนอกห้อง

    ก็พบ สตีมวิ่งมาพร้อมกับ เลือดที่เต็มตัวเขา

    "พวกมันมาแล้ว " เมื่อเขาพูดจบก็ล้มลงไปกองที่พื้น

    " ผมต้องหากล่องพยาบาล รอผมเดี๋ยวนะ นิค " ผมตะโกนเรียกนิคเพื่อจะถาม ว่ากล่องพยาบาลอยู่ไหน

    ระหว่างที่ผมจะลุก

    สตีมกลับดึงแขนผมไว้ " รีบหนีไปมันมาตามหานาย รี... บ ไ....ป " และเขาก็จากไป

    จากนั้นก็มีคนมาวิ่งมาฉุดแขนผม " ไปเร็วลีออน " เอมม่า เรียกผมพร้อมกับพาผมวิ่งออกจากที่นี่

    เอมม่าพาผมออกจากที่นี่ตามร่องแอร์ เพื่อ ออกไปยังหน้าประตูทางออก

    หลังจากผมกับเอมม่า ลงมาจากช่องแอร์และกำลังจะวิ่งไปที่ทางออกก็พบ

    กับเรากับลังยืนอยู่บนที่สูง จริงๆแล้วที่นี่คือที่ลับด้วยใช้

    การผลิตยาเป็นตัวบังหน้าของที่อยู่ assassin ที่นี่ถูกสร้างขึ้นผมเนินสูง

    และไม่มีระเบียงกั้น จากนั้นผมก็เห็นคน คนหนึ่งเดินมา

    " archer " ผมเห็น อาเชอร์จับ อีธานล๊อคคอไว้ พร้อมกับเอาปืนเล็งมาทางพวกเรา

    " สวัสดี ลีออน " aecher พูดพร้อมกับยิ้มมาทางผม

    " นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย " ผมถามด้วยความสงสัย

    " archer หรอ หรือว่านายคือ archer rebron " เอมม่าพูดพร้อมกับอ้าปากค้าง

    " อะไรคือ archer rebron " ผมถามเอมม่า

    " นักฆ่าที่รับแต่งานใหญ่ๆ และไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว "

    " อืม รู้จักฉันไว้ก็ดีนะ " ระหว่างนั้นเอมม่า แอบหยิบปืนที่เกงเกงออกมา

    ปัง !! " โอ้ย !! " เอมม่าถูกยิงที่ต้นแขนและล้มลงไป

    " ไปตายสะไป อาเชอร์รีบอร์น โว้ยย !! " นิคกระโดดออกมาจากหน้าต่างชั้นสองของตึก

    และกระโดดเกาะ อาเชอร์จนล้มลงไป เมื่อตั้งสติได้ ผมก็รีบลากเอมม่า เข้าไปที่ลังไม้

    ที่ใกล้ที่สุด " เอมม่าไหวไหม " ผมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะไม่อยากให้ใครต้องจากไป

    " ไม่เป็นอะไรมาก แค่กระสุนเจาะเข้าที่กระดูกหนะ " ระหว่างที่ผมพยายามช่วยเอมม่า

    ทางฝั่ง นิคกับอาเชอร์ก็กำลังแลกหมัดกันอยู่ แต่รู้สึกว่านิคจะสู้ไม่ได้ และพลาดท่า

    โดด อาเชอร์เตะกระเด็นออกจากตัวเขา พร้อมกับล้มลงไปที่พื้น

    จากนั้น อาร์เชอร์ ก็รีบวิ่งมาที่นิค พร้อมกับเตะเข้าไปที่หน้าของนิค แต่นิคหลบได้

    และในจังหวะนั้นนิคก็หยิบมีดพับออกมาจาก กระเป๋ากางเกงและแทงไปที่ อาร์เชอร์

    แต่อาร์เชอร์จับข้อมือของนิคที่พุ่งมาพร้อมกับมีดได้ และบิดข้อมูล

    พร้อมกับเอามืออีกข้างหยิบมีดพร้อมกับปาดคอของนิค

    อีธานที่ล้มอยู่กับพื้นกลับได้แต่นอน ดูทุกอย่างที่ผ่านไป

    ซึ่งน่าจะเพราะว่า ไม่มีแรงเนื่องจาก เขาอายุมากแล้ว "ไว้เจอกันใน นรกนะ อีธาน"

    ปัง ! ผมไม่กล้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับไปหลบในบังเกอร์อีกเช่นเคย

    ในตอนนั้นเอง ผมก็เห็น ปืนของเอมม่า ที่ตกอยู่ที่พื้นหลังจากโดนยิงที่ต้นแขน

    ผมรีบวิ่งออกไปเก็บ ปัง ! ! ผมรู้สึกได้ถึงความร้อน และการทะลุทะลวงของลูกกระสุน

    ที่พุ่งเข้าใส่ขาของผม ผมล้มลงพร้อมกับมีความรู้สึกว่าหมดแรง และไม่อยากขยับร่างกาย

    " นายคิดว่าจะวิ่งไปหยิบปืนแล้วเอามายิงฉันหรอ ฉันว่านายคิดผิดนะ เหอะ ๆ "

    อาร์เชอร์พูดผมกับยกตัวผมขึ้นมา และจับที่คอเสื้อ และลากผมไปที่ หน้าผาของเนินเขา

    " ไว้เจอกันในนรกนะ ลีออน หวังว่าชาติหน้า นายจะเก่งขึ้นและฆ่าฉัน " เมื่ออาร์เชอร์พูดจบ

    ก็ปล่อยมือที่คว้าผมอยู่ลง ระหว่างนั้นผมรู้สึกถึงความสูงของหน้าผา นี่

    จากที่นี่ถึงพื้นก็คงจะประมาณได้เท่ากับ ตึก 5 ชั้น

    ระหว่างที่ผมกำลังตกลงไป ผมก็เห็นเจมส์ที่วิ่งมาพร้อมกับเอมม่าที่วิ่งตามหลัง

    เจมกระโดดกอด อาร์เชอร์ พร้อมกับตกลงไปข้างล่าง และระหว่างที่ผมกำลังจะตกตามพวกเขาไป

    เอมม่าก็วิ่งมากระโดด จับมือผมไว้ " รีบขึ้นมาเร็ว ลีออน " เมื่อผมตั้งสติได้ ผมจึงใช้แรง

    เฮือกสุดท้ายที่มี ดึงตัวเองขึ้นจากหน้าผา และก็ล้มลงนอนไปกับพื้นพร้อมกับเอมม่า

    " ต่อจากนี้เราจะเอายังไงต่อ " ผมหันไปมองและถามเอมม่า

    " ก็ต้องแก้แค้นสิ " เอมม่าพูดพร้อมกับมองมาที่ผมเช่นกัน

    " แต่เขาก็ตกไปพร้อมกับเจมส์แล้วนี่ " ผมตอบเอมม่าด้วยความไม่เข้าใจกับคำที่เธอพูด

    " ก็แก้แค้นให้นายไง สิ่งที่พวกเขาทุ่มเทที่จะจัดการกับ โจนาธาน เราต้องทำให้สำเร็จ "

    " วันนี้พวกเราคงจะไปไหนกันไม่ได้ ก็พักผ่อนกันที่นี่หละ "

    ผมกับเอมม่า จึงพยุงกันกลับเข้าไปที่ safe house พร้อมกับรักษาบาดแผลที่

    โดนยิง บางทีผมก็อยากให้สิ่งนี้เป็นเพียงแค่ฝันเท่านั้น

    .

    Before Chapter 7.0 - Assassin : Special of Jack the ripper

    " ฮัลโหล Dr.Bander ใช่ไหมค่ะ " เอมม่าพดโทรศัพท์กับใครคนหนึ่ง ระหว่างที่ผมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์

    " ค่ะ " " ค่ะ " " ใช่ค่ะ " เหมือนเธอจะคุยอะไรบางอย่างกับ แบนเดอร์

    " นี่ เอมม่าคุยเรื่องอะไรหนะ " ผมถามเธอด้วยความสงสัย

    เธอให้คำตอบผมโดยการ ชูนิ้วชี้ขึ้นมา ไว้ที่ปาก พร้อมกับพูดว่า " ชู่.. "

    " โอเค " ผมตอบกลับ หลังจากที่ได้สัญญาณมือ และผมก็อ่านหนังสือพิมพ์ต่อ

    " ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะค่ะ ตามเวลาที่นัดไว้ " ตื๊ด ตื๊ด เธอวางสายพร้อมกับเดินมาที่ผม

    และดึงกระดาษหนังสือพิมพ์ออกจากมือผม " เอาหละ ลีออน "

    " ถ้านายยังขืนอ่อนหัดอยู่แบบนี้หละก็ ถ้านายไปสู้กับ โจนาธานหละก็ " เธอหยุดพูดแล้วยิ้มมาที่ผม

    " ตาย !! " ผมนั่งอึ้งไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะมีเสียงดังขึ้นเพื่อปลุกผมจากความฝัน

    ก๊อก ก๊อก " สวัสดีครับ คุณเอมม่า " เอมม่า รีบวิ่งไปที่ประตูพร้อมกับเปิดประตูให้ด๊อกเตอร์

    " เชิญเลยค่ะ " ระหว่างที่แบนเดอร์เดินเข้ามาผมก็เห็นเขาถือของอะไรบางอย่างมาด้วย

    " มันคืออะไรหนะ เอมม่า " เอมม่า หันมาทางผมก่อนที่จะสวนหมัดเข้าที่หัวของผมอย่างรุนแรง

    " มันคือเครื่องที่จะทำให้นาย ฝัน " ตุ๊บ !!

    ________________________________________________________________

    " นี่พ่อหนุ่ม เธอเป็นอะไรหรือเปล่า " ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นท้องฟ้าเป็นสีดำ

    และก็พบกับชายแก่คนหนึ่งที่ปลุกผม

    ที่มีเสื้อผ้าเนื้อตัวมอมแมม ผมลุกขึ้นมาพร้อมกับมองไปรอบข้าง

    ผมเห็นผู้หญิง ยืนแต่งกาย นุ่งน้อย หุ่มน้อย และเรียกคนเพื่อเข้าไป

    ด้วยความสงสัยว่าที่นี่คือที่ไหนผมจึงถามลุง

    " ลุงครับที่นี่คือที่ไหนหรอครับ ลุง "

    ลุงมองมาที่ผมพร้อมกับพูดว่า " นี่นายไม่รู้จักที่นี่หรอ " ผมส่ายหัวไปมา

    " ที่นี่คือ ถนน Mean Street นี้อยู่ใน East End ที่กรุงลอนดอน ปี ค.ศ.1888 "

    " ที่นี่เต็มไปด้วยคนจร ซึ่งถนนนี้ถือว่าเป็นจุดอับที่สุดของเมืองก็ว่าได้

    ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ก็จะเช่าห้องกันอยู่ และที่เมืองนี้ไม่ได้เป็นจุดเด่นเลยทั้งทางด้านการค้าหรือสังคม

    ซักเท่าไหร่ ผู้คนในเมืองนี้ส่วนใหญ่จะทำงานที่ค่อนข้างแย่หรืองานที่มีค่าแรงต่ำ หรือก็ไม่ได้ทำงาน

    แต่เต็มไปด้วยโจรและขโมย ผู้คนในเมืองนี้ต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ

    สภาพเมืองเรียกได้ว่าย่ำแย่เอาเลยทีเดียว

    เด็กในเมืองกว่าครึ่งที่เกิดมานั้นมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงห้าขวบก็ต้องมาเสีย ชีวิต

    ส่วนเด็กพวกที่เหลือรอดมาได้ก็มักจะพิการหรือไม่ก็มีอาการไม่ค่อยปกติทาง สมอง

    อาชีพโสเภณีคือวิธีเดียวที่เชื่อถือได้แน่ว่าจะสามารถเอาตัวรอดได้ในเมือง เช่นนี้สำหรับผู้หญิง

    บ้างก็เป็นแม่ม่ายหรือไม่ก็หญิงสาวตัวคนเดียวที่มาทำอาชีพนี้

    ตำรวจยังเคยได้ประมาณเอาไว้ว่าถ้ามีประชาชนอยู่ 1888 คน จะต้องมีหญิงโสเภณีซะ 1200 คน

    ใน White Chapel (เป็นถนน Main ของถนน Mean Street อันเป็นที่ซึ่งเกิดการฆาตกรรมขึ้น)

    อันนี้ไม่รวมกับผู้ที่มาทำงานอย่างนี้เป็นครั้งคราว บ้านราวกว่า 200 หลังคาเรือนเป็นที่อยู่ของคน

    9,000 คน ห้องนอนเป็นลักษณะแถวยาวสำหรับแถวของเตียงที่เรียงต่อกันไป

    และมักจะเต็มไปด้วยแมลงที่มารบกวน " อ๋อ ผมนั่งฟังที่ลุงพูด ล่ายยาวเกี่ยวกับที่นี่

    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ในประเก๋ากางเกงผมดังขึ้น เบอร์ที่โชว์อยู่คือเอมม่า

    " สวัสดี ลีออน ยินดีต้อนรับสู่ Mean Street " ผมรีบยิงคำถามเธอหลาย ช๊อต

    " นี่เอมม่าคุณทำอะไรกับผม แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง " ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด

    ชายแก่ทำหน้าตา งุนงง กับสิ่งที่ผมทำ " นายทำอะไรรึพ่อหนุ่ม "

    " โทรศัพท์หนะครับ " ผมยิ้ม " นี่ก็ 23.00 แล้วนะ เดี๋ยวลุงจะกลับบ้านแล้วหละ "

    " อ๋อครับๆ " หลังจากที่ลุงเดินผ่านไปก็ปล่อยให้ผมยืนอยู่คนเดียวในถนนเส้นนี้

    กริ๊ง กริ๊ง " ฮัลโหล " ผมตอบอย่างรวดเร็ว " เอาหละลีออน นายมองไปทางซ้ายของนาย "

    ผมเหลือบมองตามที่เธอสั่ง

    " เจอถังขยะ ข้างในจะมีแผนที่บ้านพัก วันนี้นายไปพักผ่อนที่บ้านพักที่ฉันเตรียมไว้ให้แล้วกัน "

    " เดี๋ยวสิ เอมม่า เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่า .. " ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เห้อ

    ผมยืนถอนหายใจ เพราะไม่ชอบเท่าไหร่ที่ต้องทำอะไรตามเกมส์ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

    Chapter 7 : Jack The Ripper

    ผมจึงเดินไปที่ถังขยะเมื่อเอามือล้วงลงไปข้างในกลับไม่มีอะไรเลย

    นอกจากกระดาษแผ่นเล็กใบหนึ่ง มันคือแผนที่นี่เอง จากนั้นผมจึงมุ่งหน้าเดินไปตามแผนที่

    ที่เขียนไว้ เมื่อผมเดินมาได้ ครึ่งทางของเส้นทางทั้งหมด อากาศก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ

    จากนั้นผมก็ได้ยินเสียง คนสองคนเดินมาจากข้างหน้าของผม

    " ฮ่า ฮ่า " ผู้หญิงหัวเราะออกมา หลังจากที่ผู้ชายคนที่เดินมาด้วยพูดอะไรบางอย่าง

    " สนุกใช่ไหมหละ ฮ่า ฮ่า " ชายคนนั้นตอบกลับด้วยความขบขัน

    ทั้งคู่เดิน ผ่านอากาศหนาว เข้าไปในซอก เล็กๆ

    แต่ผมก็ไม่สนใจ ผมก็เดินผ่านไปโดยไม่คิดอะไร จนเดินผ่านซอยนั้น

    ผมเห็นผู้ชายคนนั้ ง้าง มีดออกมาพร้อมกับแทงไปที่หน้าอกของผู้หญิง พร้อมกับเอามือปิดปาก

    หรือว่า !! ผมเริ่มย้อนความหลังเกี่ยวกับที่ลุงแก่คนนั้นพูดมา
    อ้างถึง:
    " ถนน Mean Street นี้อยู่ใน East End ที่กรุงลอนดอน "
    หรือว่า นี่คือ !!

    Jack The Ripper .

    " เห้ย ทำอะไรหนะ !! " ผมตะโกนออกไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง

    ชายคนนั้น ลุกขึ้นมาและมองมาที่ผม และวิ่งมาหาผม

    ผมจึงได้โอกาสดีที่จะได้เห็นหน้าของ jack the ripper ตัวจริง

    ผมควักปืนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา เอ๊ะ ไม่มี

    " เว้ยย !! ปืนหาย เห้ย... เอมม่าแกล้งกัน ชัดๆ "

    __________________________________________________

    " ฮ่า ฮ่า ฮ่า " เอมม่านั่งขำ ระหว่างที่นั่งดูจอมอนิเตอร์ที่คุณแบนเดอร์เอามาด้วย

    " สู้ๆนะ เจ้าเสือน้อย "

    __________________________________________________

    แจ็ค วิ่งตรงมาหาผมอย่างเต็มสปีด

    สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้ ที่น่าจะดีที่สุดต่อชีวิตผมก็คือ วิ่งหนี

    " ว๊ากกกก " ผมวิ่งอย่างสุดแรง

    __________________________________________________

    " เห้อ ฉันว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ "

    เอมม่าพูดพร้อมกับมองมาที่ ด๊อกเตอร์ แบนเดอร์

    " เอาหินออกมาทีค่ะ " แบนเดอร์มองมาที่เอมม่าเช่นกัน พร้อมกับพูดว่า

    " เขาอาจจะโดนฆ่าตายก็ได้นะ " เอมม่าตอบกลับอย่างรวดเร็ว " ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เขาตายยาก "

    __________________________________________________

    " ว๊ากกกก " ผมวิ่งอย่างสุดแรง แต่ว่า เหตุการณ์กลับพลิกผัน

    ผมสะดุด ก้อนหิน และล้มลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า หน้าคะมำ นั่นเอง

    หัวใจผมเต้นแรงอย่างรวดเร็ว และรู้สึกว่า อะดีนารีน จะหลั่งสะแล้ว

    เมื่อ ผมหันกลับมาก็เห้น jack กำลังจะกระโดด และเล็งมีดมาที่ผม

    ผมกลิ้งหลบ มีดของเขาไปได้อย่างหวุดหวิด พร้อมกับพยายามวิ่งหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เข้าตามซอก ออกตามซอย จนสามารถหนี แจ็คออกมาได้

    เห้อ ผมถอนหายใจอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับหมดแรง ล้มลงไปที่พื้น

    ตุ๊บ

    Chapter 8 : Case 2


    " นี่พ่อหนุ่ม " ผมลืมตาด้วยความสลึม สลือ " อ่าว ลุง ! " ผมเจอลุงคนเดิม

    ที่เคยปลุกผมเมื่อครั้งก่อน ที่สิ่งที่เปลี่ยนไปในตอนนี้ก็คือ ลุงใส่ชุดสูท

    " แล้วนี่ เธอมานอนอะไรตรงนี้เนี่ย " ผมยิ้ม เล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า " ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนครับ "

    " ฮ่า ฮ่า " ลุงหัวเราะ พร้อมกับยื่นมือมาหาผม " ลุกขึ้นมาแล้วไปพักบ้านลุงก่อนแล้วกัน "

    ___________________________________________________________

    ระหว่าง ที่ผมเดินไปพร้อมกับลุงเพื่อไปที่บ้านของลุง

    ผมก็เห็นผู้คนมากมายมา สุม หัวกันที่ถนน " ลุงว่าเราลองไปดูทาง นั้น ดีกว่า ว่าเกิดอะไรขึ้น "

    ผมกับลุง ฝ่า แหวก คนที่ยืน มุงอยู่เพื่อเข้ามาข้างใน ภาพที่เห็นก็คือ

    ผู้หญิง นอน ตายซึ่งจากที่ผม คาดไว้ก็น่าจะเป็น jack the ripper

    ไส้ของเธอ ถูกลากออกมาจากท้องในห้อยไว้ที่เสาไฟข้างๆศพ มีดที่แทง

    ปักอยู่ที่หน้าอกของเธอก็ยังคงอยู่ เช่นเดิม

    " ขอทางนักสืบของเราด้วยนะครับ " ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่ง เดินแหวกทางออกมา

    หน้าตาของเขา " ดร. จอห์น เอช. วัตสัน " ลุงพูดขึ้นระหว่างที่พวกเขาเดินผ่าน ฝูงผู้คนที่ยืนมุง

    " หมอวัตสันหรอ ?? " ผมถึงกับตาค้าง เมื่อได้เห็นชายคนหนึ่ง เดินมา

    พร้อมกับปากคาบด้วยบุหรี่ ใส่เสื้อโค้ช สีน้ำตาล " มันคงเป็นแค่ฝันแน่ๆเลย "

    " เขาคือ Sherlock Holmes !! " เขาเดินผ่านพวกผมไปและเข้าไปที่ศพ

    " อืม วัตสัน นายคิดว่า ศพถูกฆ่ายังไง " ระหว่างที่ผมกำลังจะได้ฟังการวิเคราะห์ข้อมูล

    ของ เชอร์ล๊อคโฮล์มส์แล้วแท้ๆ ก็มี มือ มือ หนึ่งฉุดผมออกมาจากวง

    " รีบไปกันเถอะ ลูกลุงเขารอข้าวจากลุงอยู่หนะ " ลุงเป็นคนกระฉากมือผมออกไปนี่เอง

    ผมยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า " ได้ครับ " และเดินไปตามถนนเส้นเล็กๆตามลุงไป

    ____________________________________________________

    กว่าที่ผมและลุงจะมาถึงที่นี่ก็ประมาณได้ตอนเวลา 6 ทุ่ม ครึ่ง

    กริ๊ง กร๊อง

    แอ็ด เสียงเปิดประตูที่หน้าบ้านของลุงดังขึ้น ข้างหลังบานประตูนั้นก็คือ ภรรยาของลุง

    " อ่าวที่รัก " ลุงพูดพร้อมกับไปสวมกอด ภารยา ของตน หลังจากกอดกันเสร็จ

    ภรรยาของลุงก็มองมาที่ผมด้วยความแปลกใจ กับการแต่งตัวของผม

    " อ๋อ ไม่เป็นอะไรที่รัก ผมเจอเขาอยู่ข้างถนน หนะ เขาหลงทาง ผมเลยชวนเขามาพักที่บ้าน ชั่วคราว "

    " อ๋อ เชิญข้างในเลย จ่ะ " เมื่อภรรยาฟังข้อความที่สามีพูดก็เชิญผมเข้าไปในบ้านทันใด

    ผมเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ไม้พร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างตรงที่ จุดเกิดเหตุ ฆาตกรรม

    jack the ripper แต่ที่นั่น ก็ฉ่างแสนไกลจากที่นี่เหลือเกิน

    " เอ้านี่พ่อหนุ่ม นมร้อนๆ " ผมหันกลับไปเห็นลุงยื่นแก้วมาให้ผม ผมยิ้ม และตอบกลับ " ขอบคุณครับ "

    " ขณะ นี้ ได้เกิดการฆาตกรรมเกิดขึ้นโดยฝีมือของผู้ไม่ทราบชื่อ ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังตามจับตัวอยู่ "

    ผมและลุง หันไปมองที่ทีวี พร้อมกัน อย่างรวดเร็ว

    " ซึ่ง ผู้คนต่างได้กล่าวขวัญกันว่า ผู้ที่ทำ " ผมเริ่มตัวเกรงขึ้นมาทันใด " คือ "

    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง " ขอตัวสักครู่นะครับลุง " ผมพูดพร้อมกับรีบวิ่งออกมานอกบ้าน

    " ฮัลโหล " ผมรีบรับโทรศัพท์ " ฟังนะ leon วันนี้วันที่ 31 สิงหาคม 1888 ตอนตี 4 ของวันนี้ "

    "Jack the ripper จะลงมือฆ่าคน " ผมรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว " เอมม่า ที่ไหน เฮ้ "

    ตื๊ด ตื๊ด ผมยืนอยู่หน้าบ้านสักพักหนึ่งก่อนจะเก็บโทรสัพท์ ระหว่างที่ผมกำลังจะเก้บนั้น

    ก็มีข้อความส่งมา ผมยกมือที่หยิบโทรสัพท์ขึ้นมาพร้อมกับเปิดอ่านข้อความ

    เมื่อผมอ่านข้อความเสร็จก็รีบบอกลาลุง " ลุงครับผมไปแล้วนะครับ สวัสดีครับ บายครับ "

    และรีบวิ่งไปที่จุดเกิดเหตุ

    ในข้อความนั้นคือแผนที่ ของที่เกิดเหตุ

    _________________________________________________________

    ตี 4 ของวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1888

    ชาล์ส ครอส กำลังเดินผ่านบริเวณคอกแพะตอนตี 4

    ระหว่างที่เขากำลังจะเดินเข้าบ้านไปนั้น ก็เห้นบางสิ่งบางอย่าง กองอยู่ที่พื้น

    ซึ่งดูคล้ายๆ ผ้าใบ อะไรบางอย่างจึงเดินเข้าไปก็พบกับผู้หญิงที่นอนอยุ่กับพื้น

    ระหว่างที่ ชาล์ส กำลังจะอุ้มตัวเธอขึ้นมาก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้

    ชาล์สจึงเรียกเขาให้มาดูผู้หญิงคนนี้ด้วยกันว่าเมาหรือว่าโดนทำร้าย

    " เฮ้ นายคนที่วิ่งอยู่นั่นหนะ ช่วยมาดูผู้หญิงคนนี้หน่อยสิ "

    _________________________________________________________

    หลังจากที่ผม ได้รับข้อความก็รีบวิ่งสุดแรงเกิดมาที คอกแพะ ระหว่างที่วิ่งอยู่นั้น

    ผมก็ได้ยินเสียง เสียงหนึ่ง

    " เฮ้ นายคนที่วิ่งอยู่นั่นหนะ ช่วยมาดูผู้หญิงคนนี้หน่อยสิ "

    เมื่อผมฟังเสียงนี้จบ เข่าผมถึงกับทรุดลงไปที่พื้น

    นี่ผมมาช้าไปหรอเนี่ย หลังจากที่ตั้งสติได้จึงเดินไปหา ผู้ชายคนที่เรียกผม

    " นี่นาย ช่วยผม อุ้มเธอหน่อย ผมว่าเธอน่าจะเมา " ผมก็ต้องทำเป็นตามน้ำไป

    ระหว่างที่กำลังจะยกอยู่นั้น หัวของเธอก็หลุดออกจากตัว " เฮ้ยยย " ผู้ชายคนที่เรียกให้ผมมาช่วย

    ได้ถอยห่างออกมาจากศพ ผมก็วางศพเธอลง พร้อมกับพูดกับเขา " คุณรีบไปแจ้งตำรวจสะ "

    " ได้ๆ " เมื่อพูดจบเขาก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้าน และหายไปสักพักหนึ่ง ระหว่างที่ผมกำลัง

    รอเขาอยู่ที่หน้าบ้าน เขาก็ออกมาพร้อมกับบอกว่า " ตำรวจกำลังมา "

    สักพักใหญ่ ก็มี รถคนหนึ่งขี่เข้ามาที่คอกแพะ " คุณตำรวจ จอห์น นีล ช่วยมาดูศพเธอหน่อยครับ "

    ชอรล์ส พูดอย่างหวาดกลัว คุณตำรวจ นีลเดินผ่านตัวผมและเดินไปที่ศพ

    เมื่อเขาเห็นศพถึงกับเอามือปิดปาก เธอรอยเลือดไหลออกมาจากลำคอที่เกือบขาดและหู

    ดวงตาของเธอเบิกกว้าง มือและเท้าเริ่มเย็น เมื่อเห็นว่าไม่ได้การแน่แล้ว

    นีล จึงเรียกตำรวจและหมอกับรถพยาบาลมายังที่เกิดเหตุ

    จากนั้นจึงเดินไปยังบ้านละแวกใกล้เคียงเพื่อสอบถามถึงสิ่งหรือเสียงที่ผิด ปกติหรือน่าสงสัย

    แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไร ผมก็ได้แต่ยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับยืนกอด อก

    และก็คิดในใจว่า ถ้าผมมาเร็วกว่านี้.....

    มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย taone1414 : 7th February 2012 เมื่อ 17:19

  2. #2
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382
    Chapter 9 : Assassin


    " เหล่า ผู้คนใน White Chapel นั้นเชื่อเหลือเกินว่าการตายของ Martha Tabram, Emma Smith

    และ Polly Nichols นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกัน และยังคอยให้ตำรวจนำความยุติธรรมมาโดยเร็ว

    ทางตำรวจได้ตั้งประเด็นการฆาตกรรมหญิงสาวเอาไว้ 3 ประเด็นด้วยกันคือ

    (1. แก๊งขโมยของ ดังที่ Emma Smith เคยโดนปล้นและทำร้ายจากชายคนหนึ่งมาแล้ว

    (2. แก๊งขูดรีดเงินจากโสเภณี

    (3. คนวิกลจริตหรือคนบ้า

    แต่ จากการที่ตำรวจนั้นพิจารณาจากการตายและสภาพศพของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 3 แล้ว

    ต่างก็ลงความเห็นว่า ประเด็นที่ 1 กับ 2 นั้นไม่น่าเป็นไปได้

    จึงมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ 3 อย่างมาก หนังสือพิมพ์ "The East London Observer"

    ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการถูกฆาตกรรมของ Tabram และ Nichols

    ว่าหญิงสาวทั้งคู่นั้นยากจนมากและแรงจูงใจการฆ่าที่มาจากรูปร่างของหญิงสาว ก็ไม่น่ามี

    ทั้งจากการฆาตกรรมที่วิปริตและรุนแรงนั้นด้วย

    จึงคิดกันว่าไม่น่าจะใช่การฆาตกรรมแบบธรรมดาทั่วไปแน่

    และยังได้มีการตั้งรางวัลนำจับฆาตกรหรือว่าเบาะแสอีกด้วย "

    หญิงนักข่าวพูดขณะ ที่ได้รับทราบถึงการฆาตกรรม ของ jack ครั้งที่ 2

    ผมได้แต่ยืนอยู่หน้าร้านขายทีวี เพื่อฟังข่าว " เอ้ย ไอ้หนู ไม่ซื้อก็อย่ามายืนบังหน้าร้าน "

    เจ้าของร้านเดินออกมาไล่ผมที่ยืนมองทีวีอยู่ แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจและยืนฟังเสียงของนักข่าว

    ต่อไป ชายแก่คนนั้นหยิบไม้ที่อยู่ข้างๆขึ้นมาโดยใช้มือขวาหยิบพร้อมกับง้างขึ้น

    " ไอ้หนูฉันบอกแล้วใช่ไหม "

    และก็ฟาดลงมาที่ตัวผม ผมหลบไปทางซ้าย และเอามือขวาจับข้อมือของเจ้าของร้าน

    และเอาเท้าขวาเกี่ยวขาของเจ้าของร้าน พร้อมกับกระฉากมือของเจ้าของร้าน

    ตามที่ผมคิดไว้

    ตามความคิดของผม เมื่อ แรงที่ถูกดึงจากมือของเจ้าของร้าน จะทำให้ มือของเขาอ่อนและไม้หลุดลงไปที่พื้น

    พร้อมกับกระเด็นมาทางผม และก็สะดุด กับเท้าข้างขวาของผมและล้มลงไปกับพื้น
    _____________________________________________


    " ไอ้หนูฉันบอกแล้วใช่ไหม "

    และก็ฟาดลงมาที่ตัวผม ผมขยับตัว หลบไปทางซ้ายของเจ้าของร้านแต่ว่า

    ป๊อก " โอ้ย !! " ผมรู้สึกถึงการกระแทกเข้าที่หัวของผม " เจ็บนะคุณปู่ "

    ชายแก่หัวเราะ " ฮ่า ฮ่า " " ฉันเป็นนักฟันดาบเก่าเฟ้ย เอ้า ไปได้แล้ว อย่ามาบังหน้าร้าน "

    เมื่อลุงพูดจบผมก็เดินจากไปจากร้านไป

    ระหว่างที่ผมเดินออกจากร้านไปสักพัก

    ผมก็เดินผ่านสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง และได้ยินอะไรบางอย่างเข้า

    " ทางตำรวจนั้นสืบหาฆาตกรที่ฆ่า Polly Nichols นั้น

    ก็ได้ยินเรื่องของชายลักษณะแปลกคนหนึ่งที่เรียกกันว่า "Leather Apron"

    ซึ่งเป็นชายที่คอยรีดไถโสเภณีหรือถ้าคนไหนไม่จ่ายก็จะโดนซ้อมหรือว่าทุบตี

    บ้างก็ว่าชายผู้นี้เป็นชาวยิวอพยพเข้ามา ลักษณะที่บรรยายถึงชายคนนี้คือ

    "เขาสูงประมาณ 5 ฟุต 5 นิ้วหรือน้อยกว่านั้นเล็กน้อยและสวมหมวกสีดำ

    คอหนา ผมสั้นดำ อายุราว 38-40 ปี ไว้หนวดสวมเสื้อหนังฟอก ริมฝีปากเล็กและแคบ

    โดยจากคำบอกเล่าของผู้หญิงที่เคยพบชายผู้นี้ ซึ่งเล่าด้วยอาการหวาดกลัว

    หลังจากข่าวนี้ได้ถูกแพร่หลายไปทั่ว

    จนทำให้ชายผู้นี้เกิดความกลัวและได้หนีไปหลบซ่อนตัวในที่สุดครับ "

    ผมเห็นชายสองคนที่แต่งตัวคล้ายๆนักสืบ ยืนคุยกัน

    ผม หัวเราะในใจแล้วก็คิดว่า คงจะเป็นคู่แข่ง เชอร์ล๊อคโอมหละมั้ง อิอิ

    " ผมว่าเราต้องหาหลักฐานเพิ่มแล้วหละ " ชายคนที่ 1 บอกชายคนที่ 2 พร้อมกับกำลังจะเดินจากไป

    ผมสังเกตที่ข้างหลังของชายคนนั้มี ปืนแม็คนั่ม ผมก็เลยคิดวิธีขโมยปืนนั้นมา


    [ ถ้าจะซัด พวกนั้นให้หมอบหละก็ โยนความคิดนี้ทิ้งไปได้เลย ]

    เอ ??

    ปิ้ง รู้แล้ว

    ผมเดินไปหาชายสองคนนั้น " เอ่อ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า โรงพยาบาลไปทางไหนหรอครับ "

    ชายคนนั้นยิ้มมาให้ผมพร้อมกับ บอกทาง " ต้องตรงไปตามถนนเส้นนี้นะครับ เลี้ยวซ้ายต่อนะครับ "

    จังหวะนี้ ผมคว้าปืนที่เหน็บ ไว้ที่หลังของชายคนนั้นได้ และรีบผลักชายคนั้นล้มลงไป

    และวิ่งให้เร็วที่สุด " เฮ้ย โจร ใครก็ได้ช่วยจับมันหน่อย โจร โจร !! " ชายคนที่ 2 พูดพร้อมกับ

    วิ่งตามผมและที่ไม่ห่างออกมาก็คือชายคนที่ 1 ผมวิ่ง หลบผู้คนตามถนน และรีบวิ่งเข้าไปในซอกซอย

    เล็กๆ " เฮ้อ " ผมถอนหายใจ รอดแล้วเรา " นี่นายคิดว่านายจะรอดได้หรอ " เสียง

    ที่คุ้นเคยดังขึ้น จากข้างบนตึก ผมหันขึ้นไปมอง และพบกับชาย 2 คนนั้นยืนอยู่บนหลังคา

    " พวกเราเป็นถึง นักฆ่าเลยนะนี่นายกล้าทำแบบนี้กับฉันหรอ " ชายคนที่ 1 พูดก่อนจะหันหน้ามาหา

    ชายคนที่ 2

    " ใช่แล้ว และนายก็วิ่งมาซอยเปลี่ยวสะด้วย ไม่ต้องเสียเวลาพวกฉันที่เก็บศพ " ชายคนที่ 2 พูดเสริม

    " หึ หึ " ลีออน หันหน้าขึ้นไปมองทั้งสองคนที่อยู่ข้างบน " แล้วรู้ไหมฉันเป็นใคร "

    " ไว้ตายแล้วฉันจะถามแล้วกัน " ชายทั้งสองกระโดดลงมาจากตึกพร้อมกับหยิบมีด

    ในกระเป๋ากางเกงของทั้งสองออกมา ลีออนยิ้ม เล็กน้อย ก่อนที่การปะทะจะเกิดขึ้น

    ปัง !! ปัง !!

    ชายทั้งสองที่กระโดดลงมาจากหลังคาตกลงมาที่พื้นเหมือนไร้เรี่ยวแรง

    " เห้อ พวกนายนี่คิดสั้นจังเลยนะเนี่ย " ลีออนพูดพร้อมกับเอาเท้าเหยียบหัวของทั้งสองคน

    ผมดึงช่องใส่กระสุนของปืนแม็คนั่มออกมา ในนั้นมี ทั้งหมด 6 นัด

    ผมยิงไปแล้ว 2 ตอนนี้ก็เหลือ 4 ก็คงจะพอจัดการกับ jack ได้หละนะ

    และผมก็เดินจากที่ซอยนั้นออกไปและไม่หวังที่จะกลับมา

    ....

    Chapter 10 : The death of Annie Chapman

    หลังจากที่ผมเดินออกมาจากซอยเล็กๆ

    ที่ผมเพิ่งจะฆ่าคนไปสองคน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ในกระเป๋ากางเกงผม

    กริ๊ง กริ๊ง " ฮัลโหล "

    " เอา หละ ลีออน ฟังนะ คดีต่อไปของ jack คือวันที่ 9 กันยา "

    ผมรับฟังคำที่เธอพูดอย่างตั้งใจ

    " ตอนนี้คือวันที่ 31 สิงหา ดังนั้นจะพาเธอไปยังวันที่ 9 กันยาเลยแล้วกัน "

    ผม ตาค้าง ถ้าผมไปในวันที่ 9 แล้วผมจะไปทันเหตุการณ์ฆาตกรรมได้ยังไง

    น่าจะเผื่อเวลาให้ผมไปถึงจุดหมายหน่อยสักวันก็ไม่ได้

    ผมจึงสวนกลับอย่างรวดเร็ว " เดี๋ยว " ตื๊ด ตื๊ด

    เธอวางสายไปแล้ว ระหว่างนั้น รอบๆข้างของผมก็เริ่มหายไป พื้นที่คนเดินนั้นเริ่มหายไป

    คนที่เดินก็เริ่มหายไป ตึกบ้านเรือนก็หายไป เหลือเพียงแต่แสงสีขาวๆ

    แล้วแสงนั้นก็พุ่งเข้ามาหาที่ผม ซึ่งนั่น แสบตาโครต

    ________________________________________________

    เฮื้อก !!

    แปะ แปะ เสียงฝนตกลงมาจากท้องฟ้าที่มืดครึ้ม

    ผมพยายามดันตัวเองที่นอนอยู่ที่ข้างถนน ลุกขึ้น พร้อมกับมองนาฬิกา

    5.30 นาฬิกา ตื๊ด ตื๊ด

    เสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้น ผมจึงเปิดอ่านข้อความ

    " 6 โมงเช้าพร้อมแผนที่ ... " เมื่อผมอ่านรายละเอียดของทั้งหมดในข้อความจบก็รีบวิ่ง

    ไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ___________________________________________________

    John Davis เดินออกมาจากโรงซ่อมรถของเขา

    เพราะเขาเป็นช่างซ่อมรถ เขาคิดว่าน่าจะซื้อขนมปัง และแยม เพื่อที่จะเอาไปฝากลูก

    และกางร่มเดินออกมาตามสายฝน และ เดินกลับบ้าน

    ___________________________________________________


    บ้าเอ้ย !!

    ผมสบถ เพราะตอนนี้ 5.45 แล้วผมคงไปไม่ทันแน่

    จริงสิ

    นักฆ่าทั้งสองคนนั้นตามผมมาได้ยังไงในตอนนั้น

    ทั้งๆที่ผมวิ่งออกซอย นู้น ผ่านซอนนี้ แต่เขาก็ยังตามผมมาได้

    ก็เพราะว่า เขาอยู่บนหลังคาที่สามารถสอดส่องได้ทุกที่

    เมื่อคิดได้ ผมจึงพยายามปีนขึ้นหลังคา

    เหมือนเกม assassin creed ที่ผมเคยเล่น

    ___________________________________________________

    5.45

    จอน เดวิด กำลังซื้อขนมปังกับแยมที่ร้านขายขนมปัง

    พร้อมที่จะเดินกลับบ้าน " โอกาสหน้าแวะมาใหม่นะครับ "

    เจ้าของร้านขายขนมปังพูด จอน หันมายิ้มให้เจ้าของเรา

    " ครับผม " และเขาก็เดินออกจากร้านไป

    และเริ่มเดินกลับบ้าน

    ___________________________________________________

    5.47

    ตุ๊บ เฮื้อก !! ผมตกลงมาจากกำแพง

    ผมพยายามที่จะปีนขึ้นไปแต่ก็ตกลงมาทุกครั้ง

    แต่ผมก็ไม่หยุดความพยายามหรอก ผมต้องปีนขึ้นไปให้ได้

    ___________________________________________________

    มีมือ มือหนึ่ง พึ่งขึ้นมา จับที่ขอบหลังคา ของ ตึกราว บ้านเมือง

    ใน White Chapel มือนั้นคือมือของ leon นี่เอง

    " เห้อ เห้อ " ผมเริ่มมีอาการแบบเหนื่อย หลังจากพยายามปีน

    ขึ้นมาบนนี้ ตั้ง 3 นาที ผมหันไปดูนาฬิกาที่ข้อมือ 5.50

    ****** ! ผมสบถ ออกมา

    ก่อนจะรีบวิ่งไปที่จุดหมาย อย่างรวดเร็ว

    ___________________________________________________

    5.52

    ระหว่างที่จอน เดินมา ลูกของเขาก็จะตื่นแล้ว

    เขาจึงเดินออกตามซอกซอย และใช้ ทางลัด

    เพื่อที่จะได้ถึงไวๆ ระหว่างที่เข้า เดินตามซอยเล็กๆอยู่นั้น

    เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างขึ้น

    " ย๊ากกก " เขาเลยหันมองไปหาต้นเสียง

    และก็ได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นจากบนหลังคา

    และเห็นใครบางคน กระโดดข้ามหลังคา

    แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ และมุ่งหน้ากลับบ้านต่อไป

    ___________________________________________________

    ผมวิ่งไปตาม ตึกต่างๆ และกระโดด เพื่อข้ามไปอีกตึกหนึ่งไปเรื่อยๆ

    แต่ที่ผมวิ่งมาได้สักพักผมก็ต้องหยุดวิ่ง เพราะสิ่งที่เห็นตรงข้างหน้าคือ

    ตึกของผมกับอีกตึกหนึ่งห่างกันมาก

    ซึ่งเท่าไหร่ก็ไม่รู้เพราะผมไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้แล้ว

    ผมหันไปมองนาฬิกา 5.52 " เห้อ เป็นไงเป็นกันว่ะ "

    ผมพูดกับตัวเองก่อนจะถอยเพื่อตั้งหลัก และวิ่งไป พร้อมกับกระโดดข้ามตึก

    " ย๊ากกกกก " ตุบ ผมล้มลงไปกองที่พื้นของอีกตึกหนึ่ง

    ผมข้ามมาได้แล้ว แต่ก็คงจะไม่มีเวลามามัวดีใจ

    เพราะอีก ไม่กี่นาที ผู้หญิงคนนั้นก็จะตายแล้ว

    ผมจึงใช้แรงที่มีอยู่ ลุกขึ้นมาและรีบวิ่งต่อไป

    ___________________________________________________

    5.55

    Annie Chapman หรือที่เพื่อนเรียกเธอว่า "Dark Annie"

    ได้เจอผู้ชายคนหนึ่งที่ ซื้อตัวเธอ

    เธอเดินตามผู้ชายคนนั้ไปในซอยแห่งหนึ่ง

    " เอาหละเริ่มกันเลยไหม " เธอถามผู้ชายคนนั้น

    ชายคนนั้นหันหน้ามามองเธอ และตอบว่า

    " เอาสิ " พร้อมกับหยิบมีดขึ้นมา

    ฉึก

    ___________________________________________________

    ผมวิ่งมาได้ถึงตรงจุดเกิดเหตุ

    ฉึก !! ผมมาช้าไปอีกแล้ว

    jack the ripper แทงมีดเข้าไปที่ข้างหลังของแอนนี่ พร้อมกับดึงมีดออก

    เลือดจากตัวเธอ ถูกสายฝน พรางให้หายไป และแอนนี่ก็ล้มลงไปที่พื้น

    " ไม่ม่ม่ " ผมตะโกน เมื่อ jack the ripper ได้ยินเสียงผม เขาก็รีบวิ่งหนี

    ผมจึงใช้แรงเฮื้อกสุดท้ายที่มีวิ่งไปที่ทางที่เขาวิ่ง



    พร้อมกับ ใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมด กระโดด ออกจากตึก พร้อมกับ

    พยายามที่จะคว้าตัว jack the ripper ให้ได้

    หมับ

    ผมจับเสื้อโค้ช ของเขาได้ แล้วเขาก็ล้มลงไปที่พื้น พร้อมกับผม

    ผมใช้มือซ้ายคว้าปืนที่เน็บอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายที่ผมขโมยมาจากนักฆ่า

    แต่ jack the ripper ท่าจะไม่ยอมง่ายๆ หยิบมีดของเขา ออกมาพร้อมกับ ปักลงที่แขนของผม

    " อ๊ากก !! " ผมจึงใช้มือขวาดันมือของเขาเอาไว้ เพื่อไม่ให้มีดที่ปักลง

    ลึกไปมากกว่านี้ อยู่ไหนนะ ผมพยายามเอามือซ้ายคลำๆ หาปืนของผม

    ในเวลานั้น jack ก็หันมีดมาทางหัวของผม และเริ่มดันมันเข้ามา

    เจอแล้ว ผมคว้าปืนออกมา พร้อมยิงไปที่แขนของ jack

    ปัง !! มีดของเขาตกลงไปที่พื้น

    เมื่อได้จังหวะ ผมจึงนั่งค่อมตัวเขาพร้อมกับ ปล่อย หมัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ตุบ ตุบ อ๊ากก jack กระอักเลือดออกมาจากที่ผมปล่อยหมัดไป 2 หมัด

    และเข้าก็ขยับขากลับมาและ ยันผมออกจากตัวเขา

    พร้อมกับ วิ่งหนีไป ผมถูกถีบกระเด็นออกมาจากตัว " ช่วยๆๆ ฉันๆๆ ด้ว... "

    เสียงของเอนนี่ ดังขึ้น ตอนนี้ผมรู้แล้ว่าสิ่งที่ผมควรทำมากที่สุดตอนนี้

    คือเชี่ยชีวิตเธอ ผมปล่อยตัว jack the ripper ไปและรีบวิ่งไปหาแอนนี่

    " นี่คุณอย่าเพิ่งตายนะ คุณ " ผมเอามือจับที่ คอของเธอ

    ตึก ตึก .... ตึก ... ตึก ................

    เสียงหัวใจของเธอหยุดเต้นแล้ว

    ผมลุกขึ้นพร้อมกับเก็บปืนที่ตกอยู่ที่พื้น และเดินจากไป

    เลือดที่ไหลออกมาจากแขนผม ทำให้ผมรู้สึก เพลีย เริ่มหิวน้ำ และ รู้สึกง่วงนอน

    และนี่

    .
    .

    ก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่สามารถ ช่วยชีวิตเหยื่อของ jack the ripper ได้

    Chapter 11 : Waking from a dream


    ระหว่างที่ผมเดินออกมาจากซอยแห่งความตายนั้น

    ผมก็เริ่มรู้สึกหมดแรง แล้วผมก็ได้ยินเสียงแม็กกระสุนปืนถูกดันเข้าไปในปืน

    และผมก็สลบไป

    ...


    ปัง ปัง ปัง

    " ไอ้บ้าเอ้ย " ปัง ปัง

    ผมลืมตาขึ้นพร้อมกับเสียงเหล่านี้ดังขึ้นรอบๆตัวผม

    ผมลุกขึ้นมาพร้อมกับความ งง แต่ในตอนนั้นผมก็โดนเอมม่ากดตัวลงนอนกับที่นอน

    " ก้มหัวลงสะ ถ้านายไม่อยากตาย " ปัง กระสุนพุ่งเข้ามาในหน้าต่าง ในบ้านพักของพวกเรา

    กระสุนนัดนั้นเฉี่ยวเส้นผมของเอมม่าไปอย่างเฉียดฉิว

    ผมกลิ้งลงไปอีกข้างหนึ่งของเตียง

    และหยิบปืนพก 9 mm บนโต๊ะออกมา และหันไปพูดกับเอมม่า " เอมม่า แม็กกระสุนที "

    " อยากได้แม็กใช่ไหม ฉันแถมความตื่นเต้นให้นายด้วย "

    เมื่อพูดจบเอมม่าก็โยนแม็กกระสุนลงไปในหน้าต่าง " ****** "

    ผมพูดก่อนจะวิ่งกระโดดออกจากหน้าต่าง และคว้ามือไปเก็บแม็กปืนกลางอากาศ

    เมื่อลีออนกระโดดลงไป เอมม่าก็เปลี่ยนแม็กกระสุนของเธอ พร้อมกับกระโดดออกจากหน้าต่าง

    และเล็งปืนไปที่ อาร์เชอร์ ปัง ปัง แต่อาร์เชอร์ก็หลบเข้าบังเกอร์ของเขา

    เมื่อผมคว้าแม็กได้ก็รีบเปลี่ยนอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทัน

    ตัวผมกระแทกลงกับพื้นพร้อมกับรู้สึกจุกที่หน้าท้องเมื่อผมเงยหน้าขึ้น

    ก็เห็นอาร์เชอร์กำลังเล็งปืนมาที่ผม แต่ก่อนที่เขากำลังจะลั่นไกมาที่ผม

    เขาก็หลบไปหลังบังเกอร์ พร้อมกับเอมม่ากระโดดลงมาจากหน้าต่างเช่นกัน

    ผมรีบนำแม็กใส่ปืนและรีบวิ่งกลับหลังหาบังเกอร์อย่างรวดเร็ว ทางอาร์เชอร์ที่เห็นว่าตัวเอง

    โดนรุม จึงหยิบระเบิดออกมาพร้อมกับดึงสลักออกและเหวี่ยงมันออกไปทาง เอมม่าและลีออน

    ทางเอมม่าเมื่อวิ่งเข้าไปที่หลบบังเกอร์

    ได้เธอก็หยิบอะดีนารีนออกมาเธอหลับตาพร้อมกับปักมันลงไปที่แขนของเธอ

    และฉีด ส่วนทางลีออน ก็เงยหน้าออกมาเพื่อมองสถานะการ

    ลีออนก็เห็นระเบิดลอยมา สิ่งที่เขาตะโกนคำแรกออกมาก็คือ " เอมม่า " เมื่อเอมม่าลืมตาขึ้นมา

    ก็เหวี่ยงมือขวาของเธอที่จับปืนอยู่เหวี่ยงออกมาพร้อมกับยิง ปัง

    กระสุนลูกนั้นวิ่งพุ่งไปชนกับระเบิด ตู้ม ลีออนไม่ทันที่จะได้ก้มหัวหลบแรงระเบิดทำให้เขากระเด็น

    ถอยหลังออกไปจากบังเกอร์นิดหน่อย ในช่วงเวลานั้นเอมม่ารู้ดีว่าเธอมีโอกาสตายเยอะมาก

    เพราะกระสุนแม็กของเธอนั้นหมด เอมม่าจึงรีบวิ่งไปที่บังเกอร์ของอาร์เชอร์

    ทางด้านลีออนก็นอนอยู่กับพื้นพร้อมกับ เสียงอื้อ และความมึน

    เอมม่าวิ่งไปที่หน้าบังเกอร์พร้อมกับกระโดดข้ามลังกล่องที่เป็นบังเกอร์ของอาร์เชอร์

    เมื่อเธอกระโดดข้ามหัวของอาร์เชอร์มา ในช่วงเวลานั้น เมื่อเท้าซ้ายของเธอแตะพื้น

    เธอก็เหวี่ยงเท้าขวาเข้าไปที่หน้าของอาร์เชอร์แต่อาร์เชอร์ก็เอามือขวาบังไว้ได้

    แต่เอมม่าก็เหวี่ยงเท้ากลับมาพร้อมกับหมุนตัวและเหวี่ยงหมัดขวาเข้าไปแทน

    อาร์เชอร์ก็กลิ้งหลบไปทางซ้อยและหลบได้อย่างเฉียดฉิว พร้อมกับหยิบมีด

    ที่เหน็บอยู่ที่กางเกงของเขาออกมาพร้อมกับแทงมาที่เอมม่า เอมม่าหลบตัวไปทางขวาพร้อมกับ

    จับข้อมือและบิด มีดของเขาตกลงไปที่พื้น แต่อาร์เชอร์ก็บิดตัวตามทำให้เอมม่าเป็นฝ่ายโดนล๊อคเสียเอง

    จากนั้นอาร์เชอร์ก็กระตุกแขนของเอมม่า กระดูกของเธอเกือบหลุดออกจากข้อยึด

    เมื่อกระตุกตัวของเอมม่าก็เด้งกลับหลังไปหาอาร์เชอร์ อาร์เชอร์ใช้จังหวะนั้น

    ตบหน้าของเอมม่าพร้อมกับ เธอล้มลงไป อาร์เชอร์ก้มหยิบมีดพร้อมกับง้างกำลังจะแทงไปที่เอมม่า

    ปัง !!

    กระสุนหนึ่งนัดลอยออกมาจากบังเกอร์ที่เอมม่าเคยหลบ กระสุนนัดนั้น

    วิ่งผ่านแรงลม แต่นั่นก็ไม่มีผลให้กระสุนนัดนั้นเปลี่ยนแนวเป็นแนวโค้งแต่อย่างใด

    กระสุนลูกนั้นวิ่งทะลุฝ่ามือของอาร์เชอร์ที่ถือมีดอยู่ มีดเล่มนั้นตกลงไปปักแขนของเอมม่า

    " อ๊ากก " เอมม่าร้องก่อนที่จะถีบอาร์เชอร์กระเด็นออกไปพร้อมกับดึงมีดที่ปักแขนเธอออกมา

    และลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว อาร์เชอร์ที่ถูกลูกถีบด้วยรองเท้า nike คู่เดิมกับที่ลีออนโดนถีบ

    ก็เด้งกลับหลังพร้อมกับกระแถกกับกล่องและเด้งกลับมาทางเอมม่า ในช่วงนั้นเอมม่า

    ดึงมีดออกพอดีพร้อมกับพุ่งมีดไปที่อาร์เชอร์แต่เขาก็ก้มตัวกลับหลังหลบมีดออกเอมม่าทัน

    ทางลีออนหลังจากที่ยิงกระสุนนัดนั้นไปโดนมือของอาร์เชอร์เขาก็พยายามสะบัดหัว

    ไปมาเพื่อให้ได้สติ เมื่ออาร์เชอร์ก้มตัวกลับหลังหลบมีดของเอมม่าได้เขาก็ยกเท้าของเขาขึ้นเตะมือ

    ของเอมม่าที่ถือปืน และถีบเธอออกไปพร้อมกับตัวเขากระแทกลงที่พื้น

    แต่นั่นก็ไม่ทำให้เขาเจ็บหรือจุกแต่อย่างใด

    " ลีออน !!! " เอมม่าตะโกนไปหาลีออนที่กำลังสะบัดหัวแบบชาวร๊อค

    ลีออนเมื่อได้ยินดังนั้น ใช้แรงที่มีอยู่ เหวี่ยงปืนไปทางเอมม่า

    มีดที่ถูกเตะลอยขึ้นฟ้าก็กำลังตกลงมาหาอาร์เชอร์ อาร์เชอร์ก็พร้อมที่จะรับมีดเช่นกัน

    แต่ว่าปืนที่ลีออนเหวี่ยงไปนั้น เขาเหวี่ยงพลาด ซึ่งปืนนั้นลอยไปทางหลังเอมม่า

    เอมม่า กระโดดพุ่งกลับหลัง แต่หน้าของเธอยังจ้องที่อาร์เชอร์อยู่ ปืนลอยเข้ามาอยู่ในรัศมี

    ของมือเอมม่า พอดี ส่วนมีดของอาร์เชอร์ก็ตกลงมาในมือของเขาเช่นกัน

    ระยะห่างของทั้งสองไม่มากนัก เอมม่าเมื่อรับได้เธอก็ตกลงกระแถกที่พื้น

    พร้อมกับเล็งปืนมาทางอาร์เชอร์ ปัง ปัง !!

    กระสุนวิ่งผ่านอากาศและพุ่งไปทางอาร์เชอร์ แต่เขากลับกลิ้งหลบกระสุนนั้นได้

    แต่มีกระสุนลูกหนึ่งวิ่งเฉี่ยวแก้มของเขาไปทำให้ แก้มของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมา

    เมื่อเขากลิ้งหลบมาได้ก็รีบลุกและวิ่งไปที่เอมม่า พร้อมกับกระโดดและพุ่งมีดมาทางเอมม่า

    " โว้ยยยย " ในช่วงนั้นลีออนวิ่งกระโดดเหยียบบังเกอร์พอดี

    พร้อมกับ กระโดดถีบตัวของอาร์เชอร์กระเด็นออกไป ทางข้างหลังของอาร์เชอร์นั้นคือ

    ทางราดชันทำให้เขาทรงตัวไม่ได้และเริ่มเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ

    ตอนนั้นลีออนก็รีบวิ่งไปหาอาร์เชอร์ เมื่อเอมม่าเห็นเช่นนั้นจึงรีบโยนปืนให้ลีออน

    ลีออนเอามือไว้ข้างหลังของเขาเหมือนตอนที่วิ่งพลัด ปืนนั้นเข้ามาที่มือของเขาพอดี

    ช่วงนั้นเอง เขาก็วิ่งมาถึงทางราดชันเช่นกัน พร้อมกับกระโดด ออกไปกลางอากาศ

    และยิงปืนหนึ่งนัด ปัง !! ก่อนที่ตัวเขาจะล้มลงและกลิ้งไปทางต่างระดับ

    ทางอาร์เชอร์ที่ทรงตัวไม่ได้ก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ แต่เขาก็ทรงตัวได้ส่วนหนึ่งจึงไม่ล้ม

    แต่ตอนนั้นก็มีเหตุไม่ขาดฝัน กระสุนนัดหนุ่งพุ่งเข้ามาที่ตัวเขา เขาจึงพลาดล้มตัวลงไป

    ลีออนจึงเอามือซ้ายที่ว่างอยู่คว้ากิ่งไม้เอาไว้ พร้อมกับมองดูผลงานของตัวเอง

    อาร์เชอร์ กลิ้ง ลงไปเรื่อยๆตามทางราดชัน แต่เมื่อสุดทางนั้นก็คือหน้าผา อาร์เชอร์กลิ้งไปเรื่อยๆ

    จนตกลงไปในหน้าผานั้น ลีออนได้แต่ยิ้มมองกับผลงานที่เขาทำ แก็ก

    ลีออนหันมองขึ้นไปข้างบนของต้นเสียง กิ่งไม้ที่เขาจับอยู่นั้นหักลงมา

    ลีออนจึงสไลด์ลงไปตามทางราดชัน เมื่อไปถึงปลายลีออนก็หมุนตัวและหันหลังไปมอง

    ทางที่เขาไหลลงมาในช่วงนั้นเขาก็ตกลงไปในหฟน้าผาพอดี เขาจึงนำมือซ้ายของเขาคว้าขอบ

    หน้าผาไว้ " เห้อ เกือบไป " ก่อนจะปลดแม็กของเขาออกจากปืน

    และปล่อยปืนของเขาที่ไม่มีแม็กตกลงไปในหน้าผาที่อาร์เชอร์ตกลง

    ข้างล่างนั่น เป็นป่า แต่ลีออนก็ไม่สนใจ รีบดันตัวเองขึ้น

    และเอาแม็กปืน ปักลงไปที่ดินและค่อยๆปีนขึ้นมา

    .

    Chapter 12 : New York ??

    " ขณะ นี้ สายการบินของเราบินถึง นิวยอร์คแล้วนะค่ะ ท่านผู้โดยสาร " เอมม่าที่หนังอ่านหนังสือนิยายอยู่ก็ปล่อยมือซ้ายที่จับหนังสือ

    ทุบไปที่ท้องลีออน พร้อมกับนำมือขวาเก็บหนังสือ " อั๊ก " ลีออนกระเด้งออกมาจากที่นั่งพร้อมกับนั่งขดตัวในท่าจุก

    " เจ็บนะเว้ย !! " เอมม่าลุกขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋าของเธอซึ่งกระเป๋าใบนั้นไม่ใหญ่มากเท่ากับกระเป๋าเดินทาง

    ทั้งคู่อยู่บนเครื่องบิน " หยิบปืนพกใต้ที่นั่งด้วย " ลีออนเมื่อได้ยินก็คลายจากอาการจุกพร้อมกับเอามือคลำๆ ใต้ที่นั่ง

    ก็พบกับปืนพก เมื่อหยิบปืนขึ้นมาได้จึงเงยหน้ามองเอมม่าและถามว่า " เธอเอามันขึ้นมาได้ยังไง " เอมม่าที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำก็พูดขึ้นว่า

    " ไม่บอก " ก่อนที่จะเข้าไปห้องนั้นแล้วล๊อคประตู กึก

    " โอเค " ลีออนเหน็บปืนไว้ที่ข้างเอวพร้อมกับนำเสื้อยืดของเขาคลุมปืนไว้ และใส่เสื้อกันหนาวทับอีกชั้น

    ปัง !! เพียงไม่กี่นาทีเอมม่าก็ถีบประตูออกมาพร้อมกับโยนระเบิดแฟลชออกมานอกห้อง " เห้ยอะไรว่ะ "

    ตู้ม

    ลีออนล้มลงด้วยความแสบตา แต่เขาก็รู้สึกถึงมีบางอย่างฉุดเขาให้ลุกขึ้น ตาของเขาเต็มไปด้วยภาพ มัวๆ ที่เล่นซ้ำไปมาเมื่อเขาส่ายหน้า

    เอมม่าที่ใส่แว่นตาดำ ลากลีออนไปที่ประตูทางออกของเครื่องบินพร้อมกับใช้ปืน G18 ยิงทะลุกระจกของประตูพร้อมกับถีบประตูออกไป

    ในช่วงเวลานั้นลีออนตาของเขาเริ่มหายพร่ามัว " เห้ย " ลีออนตกใจเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาคือก้อนเมฆ

    " รีบลงไปสะ เดี๋ยวจะคลาดเป้าหมาย " ลีออนหันหน้ามาทางเสียงที่ดังขึ้นก็พบเอมม่า ยืนตั้งท่าพร้อมกับที่จะถีบเขา

    " เดี๋ยว !! " ลีออนตะโกน ก่อนจะกระโดดลงไปเอง ตัวของเขาแหวกว่ายอยู่ในอากาศ

    " ย้า ฮู่ !! มันส์สุดยอดเลยเว้ย " ลีออนดีใจที่นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้มาอยู่กลางอากาศแบบนี้

    " หุบปากสะ ไอ้เบื้อก เอมม่าพูดก่อนจะเอาปืนตบหัวของลีออนเบาๆ หนึ่งที " โป้ก " โอ้ย เจ็บนะเว้ย " แต่เอมม่าก็ไม่สนใจคำพูดของลีออน

    แต่เธอจ้องมื้อแต่มือของเธอ มือของเธอติดบางอย่างที่คล้ายๆนาฬิกา ซึ่งคอยบอกความสูง

    เมื่อความสูงถึงเส้นสีแดงเธอก็ใช้มือขวาจับไหล่ของลีออน และใช้มือซ้ายกางร่ม พรึ่บ

    ทั้งคู่ลอยลงมาได้สักพักหนึ่ง เอมม่าจึงรีบกดเริ่มลงเพื่อที่จะได้ถึงพื้นเร็วๆ

    " โว้ว โว้ ใจเย็นเจ๊ " เมื่อเอมม่าได้ฟังเช่นนั้นจึงปล่อยมือที่จับลีออนอยู่ " เห้ย ล้อเล่น "

    _______________________________________________________________________

    อาร์เชอร์ที่หลังจากรอดมาได้อย่างเฉียดฉิวเพราะกระสุนที่ลีออนยิงมานั้น

    มันเข้าไปที่ไหล่ซ้ายซึ่งไม่โดนหัวใจและอวัยวะใดๆที่สำคัญ เขาจึงหนีออกมาและพยายามหาอาวุธเพื่อที่จะไปฆ่า ลีออนและเอมม่าอีกรอบ

    เขาจึงเริ่มต้นใหม่ที่นิวยอร์คเพราะเขามีเพื่อนที่เป็นแก็งค์อยู่ที่นี่เช่นกัน

    ระหว่างที่เขากำลังยืนอยู่บนรถไฟที่กำลังเล่นผ่านเมืองนิวยอร์ค มุมสวยๆ ที่สามารถมองเห็นได้ที่หน้าต่าง

    ตึง

    แต่ระหว่างที่อาร์เชอร์กำลังนั่งมองออกนอกหน้างต่างอยู่ดีๆก็มีบางอย่างตกมากระแทกเข้ากับหลังคา และก็มีชายคนหนึ่งกลิ้งที่หน้าต่างของเขา

    " ลีออน !! " อาร์เชอร์พูดก่อนจะหยิบปืนที่เหน็บหลังของเขาออกมา

    " ****** " ลีออนพูดก่อนที่พยายามจะดันตัวขึ้นจากรถไฟ ตึง เอมม่าก็ลงมาบนรถไฟพอดี

    ปัง กระสุนพุ่งออกจากปืนของอาร์เชอร์และพุ่งมาทางลีออน แต่เอมม่าก็ดึงลีออนขึ้นมาทัน " วู้ว เสียวดีนะเจ๊ "

    หลังจากนั้นเอมม่าจึงจับลีออนลุกขึ้นมาด้วยมือขวาเพียงมือเดียวและใช้มือซ้ายของเธอหยิบ G18 ออกมาและยิงไปที่พื้นเป็นวงกลมรอบๆ

    ตัวเขาทั้งสอง ซึ่งเฉี่ยวเท้าของลีออนไปเพียงนิดเดียว " เห้ย ๆ อย่าคิดแบบนั้นนะ เอมม่า ฉันเคยดูหนังอยู่น.... "

    ตึง พื้นที่เขาทั้งสองยืนอยู่ตกลงไปข้างในตัวรถไฟ " เห้ย ฉันยังพูดไม่จบเลย " เอมม่าก็ไม่สนใจคำบ่นของลีออน

    พร้อมกับผลักตัวลีออนเด้งออกไปทางที่นั่งและหยิบ G18 อีกกระบอกออกมาและเล็งไปที่ข้างหลังของลีออน

    อาร์เชอร์ที่วิ่งไปหลบตรงประตูระหว่างโบกี้ ก็เตรียมปืนพกของเขาออกมาเช่นกัน

    ปัง ปัง เป้ง เป้ง เสียงกระสุนของปืน g18 ที่พุ่งชนเข้ากับเหล็กของรถไฟ

    ระหว่างที่ทั้งสองสู้กันอยู่ ก็มีเสียงดังขึ้นจากวิทยุของอาร์เชอร์ " นายทำดีมาก หมดหน้าที่ของนายแล้ว "

    ปัง !! มีกระสุนสังหารที่ระบุไม่ได้ว่ามาจากที่ไหน และแห่งไหน พุ่งเข้าไปที่หัวของอาร์เชอร์

    ตัวของอาร์เชอร์ล้มลงและตกลงจากรถไฟ กระสุนนั่นไม่ใช่กระสุนของเอมม่าและลีออน แต่กระสุนนั้นคือของโจนาธาน

    หลังจากที่อาร์เชอร์ตาย เอมม่าก็จับลีออนออกไปที่ที่อาร์เชอร์ตายคือพื้นที่ระหว่างโบกี้รถไฟ เมื่อเดินไปถึงเอมม่าก็กระมองลงไปข้างล่างบนพื้น

    เธอเล็ง มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่กำลังขี่มาด้วยความเร็วพอๆกับรถไฟเลยก็ว่าได้ เมื่อเธอเล็งได้แล้วก็กระโดดลงไปแบบไม่รีรอ

    พร้อมกับหยิบตะขอออกมา " เห้ยเดี๋ยว " ลีออนตะโกนส่งท้ายเอมม่า

    เอมม่าเหวี่ยงตะขอไปเกี่ยวกับที่เบาะข้างหลังคนขับ เมื่อเท้าของเอมม่าสัมผัสพื้นก็รู้สึกได้ถึงแรงเสียดสีและกระแทก

    จึงเธอตะโกนบอกคนจับรถ " ไอ้หนู เบรค เบรค " คนขับมอเตอร์ไซค์ที่เป็นวัยรุ่นเมื่อหันมาเจอเอมม่า

    ก็เบรคทันทีเอมม่าเมื่อโดนเบรค กระพุ่งตัวลอยเข้ามาตรงที่นั่งของคนขี่พอดีและเตะเด็กคนที่ขับออกไป

    " ขอคันนี้ไปหละนะ " ก่อนที่จะบิดรถ แบบสุดแรง

    ลีออนระหว่างที่มองดูเอมม่าขี่มอเตอร์ไซค์ตามเขามา " กระโดดลงมาสิว่ะไอ้เบื้อก " เอมม่าตะโกนก่อนที่จะเลี้ยวรถหลบรถที่สวนเธอมา

    เพราะเธอเลี้ยวรถและขับย้อนศร ลีออนชะเง้อหัวออกไปดูทางข้างหน้าของรางรถไฟ ข้างหน้าของเขานั้นเป็นอุโมงค์และมีเหล็กกั้น

    โอกาศของเขามีเพียงจังหวะเดียวที่จะโดดลงไป ลีออนไม่รีรอหลังจากที่คิดคำนวณเสร็จก็กระโดดลงไปแต่ที่ที่เขากระโดด

    ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ของเอมม่าแต่เป็น รถยนต์อีกคันหนึ่งที่เขาเล็งไว้

    เสียงเพลงในรถคันนั้นฟังดูเป็นเพลง คลาสสิคสำหรับคนแก่

    ในรถคนนั้นมีตายายคู่หนึ่งที่ขับรถด้วยกันอย่างมีความสุข ตึง !!

    มีชายคนหนึ่งกลิ้งตกลงไปที่หน้ารถ ลุงคนนั้นรีบเบรครถอย่างรวดเร็วและรีบลงไปดูชายหนุ่มที่ล้มลงไป

    ลีออน ลุกขึ้นมาและยิ้มให้ลุงก่อนจะตอบว่า " ผมไม่เป็นอะ.. " ฟึบ

    ตัวลีออนถูกลากลอยไปกับรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง

    เอมม่านั่นเอง เธอเอาตะขอเกี่ยวเสื้อยืดของลีออนทำให้ลีออนถูกลากด้วยรถมอเตอร์ไซค์

    " โว้ยย เจ็บนะเว้ย โอ้ยๆ ร้อนๆ " รองเท้าของเขาเริ่มมีความร้อนเกิดขึ้นเพราะว่าเท้าของเขาเสียดสีไปกับพื้น

    เอมม่าหันหน้าไปบิ้มและขับรถต่อและเลี้ยวไปในโรงแรมแห่งหนึ่งและเช่าห้อง 1 คืน

    และก็จบคืนนี้ไปอย่างดี
    .
    .
    .
    .
    มั้ง

    End Chapter 12

    to be continuse chapter 13


    Chapter 13 : Blackmail

    เอมม่าและผมนั่งอยู่บนรถคันหนึ่ง ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันคือรุ่นอะไร

    เอมม่าขับขึ้นบนสะพาน ข้ามแม่น้ำ แล้วไม่ต้องถามนะว่าพวกเราได้รถนี้มาได้ยังไง

    _______________________________________

    " นี่ เอมม่า จะทำอะไรหนะ " ลีออนพูดกับเอมม่าที่เห็นเอมม่ากำลังเชื่อมสายไฟใต้รถ

    " งัดรถไง ถามโง่ๆ "

    อีกด้านหนึ่ง

    " ด้านจุดเกิดเหตุ พบศพอาร์เชอร์ รีบอร์น ถูกฆ่า พร้อมกับกระสุนที่หาที่มาไม่ได้ และมันไม่ได้เข้ากับปืนทุกชนิดบนโลกนี้ " ตำรวจพูดกับเรนเดล

    ที่เขากำลังเดินตรวจสอบรอบๆศพของอาร์เชอร์ " จากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์พบ ผู้ชายอายุประมาณ 20 และผู้หญิงประมาณ 23 ปี"

    เรนเดลหันหน้ามามองตำรวจที่พูดกับเขาอยู่ " แล้วภาพสะเก็ตหละ " ตำรวจทำสีหน้าเครียดพร้อมกับตอบว่า

    " ผู้เห็นเหตุการณ์จำหน้าคนร้ายไม่ได้ครับ " เรนเดล เมื่อได้ฟังจึงหันหน้ามาสนใจที่ศพอาร์เชอร์ต่อ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

    จนเรนเดลตรวจสอบพื้นที่ครบ ก็เดินไปหาตำรวจคนเดิม " ตามหารายชื่อนักฆ่าที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งหมด มาให้ฉัน "

    _______________________________________

    ตึง !! เอมม่าปิดประตู หลังจากที่พาลีออนเข้ามาในห้องของตึกตึกหนึ่ง ซึ่งที่ที่พวกเขาอยู่นี้คือชั้น 10

    ห้องนี้มีหน้าต่างอยู่ตรงข้ามประตูแล้วด้านซ้ายและขวาก็เป็นประตู

    " นี่เอมม่า เธอพาฉันมาที่นี่ทำไม " ลีออนมองรอบๆและพูดพลางๆ

    " นี่คือการฝึกครั้งสุดท้ายของนายยังไงหละ " เอมม่าเดินถอยห่างจากลีออนไปข้างหลังพร้อมหยิบปืน g18 คู่ใจของเธอออกมา

    " แล้วว่าแต่วันนี้เราจะฝึกอะไรกันหละ " ลีออนพูดพร้อมกับหมุนตัวหันหน้าไปทางเอมม่า

    แกร๊ก !! เอมม่าชูปืน ใส่หัวของลีออน " เห้ย เอมม่าทำอะไรเนี่ย " แปะ แปะ แปะ เสียงปรบมือดังขึ้นข้างหลังลีออน

    ทางด้านหน้าต่าง

    " เอมม่าเธอทำดีมาก " เสียงของชายหนุ่มอายุประมาณ 40 ปีดังขึ้น

    " ไม่เป็นอะไรค่ะ นายท่าน " อมม่าพูดพร้อมกับเดินไปหาผู้ชายคนนั้น ลีออนหันหลังกลับไปหาต้นเสียงของชายคนนั้น

    แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ นิค สตีม เอมม่า เจมส์ และ โจนาทาน " นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย "

    " ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงแต่พวกเขาคือลูกน้องของฉัน ฮ่า ฮ่า " โจนาทานพูดขึ้น พร้อมกับเหาะเราะออกมา

    " พวกนายตายไปแล้วนี่ " " นั่นมันแค่แผนหลอกตาต่างหากเล่า " นิคพูดขึ้นพร้อมกับหยิบมีดหั่นหมูที่มีรูมาควง

    " แต่ว่าฉันเห็นนายโดนปาดคอแล้วนี่นา แล้วพวกนาย ฟื้นมาได้ยังไง " " ฮ่า ฮ่า " นิคหัวเราะพร้อมกับตอบลีออน

    " แผลปลอต่างหากเล่า พวกฉันใช้เจลแปะไว้ที่คอแล้วข้างในเจลก็มีเลือดอยู่ ตอนที่อาร์เชอร์ปาดคอฉันหนะ มันแค่เฉี่ยวๆหนะ "

    ฮ่า ฮ๋า " แล้วพวกนายฝึกให้ฉันต่อสู้ทำไมกันว่ะ " ลีออนถามแบบไม่สบอารมณ์

    " ก็เพราะฉันอยากจะฆ๋าทั้งโครตของนายยังไงหละ แต่ว่าถ้ายิงนายเลยมันก็ไม่สนุกสินะ " โจนาทานตอบพร้อมกับหยิบปืนออกมา 2กระบอก

    ที่เหน็บไว้ที่กางเกง " แล้วทำไมตอนแรกนายจะยิงฉันหละ " ลีออนมองหน้าของโจนาทาน

    เพื่อที่จะรอคำตอบ " นั่นมันแค่ยิงให้นายตกใจ และหนีตามเอมม่าไปยังไงหละ "

    พูดจบโจนาทานก็โยนปกพกของตนให้ลีออนหนึ่งกระบอก " เริ่มแล้วนะ " โจนาทานพูดก่อนที่จะเล็งมาทางลีออน

    เจมส์ส่งสัญญาณให้ลีออนเป็นสัญญาณมือ ซึ่งเป็นรหัสลับ ลีออนมองหน้าเจมส์แบบงงๆ

    โจนาทานเป็นฝ่ายรุกก่อนโดยเริ่มยิงลีออนหนึ่งนัด ปัง เฟี้ยว

    กระสุนพุ่งตรงมาทางลีออน ตอนนั้น เจมส์ล้วงมือไปข้างหลังกางเกงพร้อมกับกดปุ่มระเบิด

    ตู้ม !! ระเบิดที่ถูกฝังอยู่ในประตูซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างระยะห่างของลีออนและโจนาทาน

    แต่กระสุนนัดนั้นก็พุ่งผ่าน เศษไม้ เศษ ฝุ่น ตรงมาทางลีออน ตุบ ลีออนล้มลงไป พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากไหลของเขา

    เอมม่าหันปืนมาทางเจมส์พร้อมกับยิง ปัง ปัง เจมส์ก้มตัวหลบ และถีบเอมม่ากระเด็นออกไป นิคเมื่อตั้งสติได้จึงหยิบมีดแทงที่หลังของเจมส์

    ฉึก เจมส์ทรุดลงไปที่พื้นก่อนจะสวนหมัดเข้าที่หน้าของนิค แต่เขาก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มฉีด

    เมื่อหันหลังไปก็พบกับสตีฟที่กำลังฉีดยาพิษบางอย่างให้เขา เจมส์ทรุดตัวลงไปอีกครั้ง

    และเริ่มรู้สึกว่าตัวของเขาขยับไม่ได้ และล้มลงไป ลีออนที่เสียเลือดมากได้แต่นอนอยู่ที่พื้น

    กระสุนนัดที่โจนาทานยิงไปเข้าที่หน้าอกของลีออน อย่างจัง ซึ่งไม่ว่าลีออนจะพยายามลุก

    เพียงใด เขาก็ล้มทรุดลงไปที่พื้นอยู่ดี " อย่าพยายามลุกเลยดีกว่าน่า ลีออน " โจนาทานพูดพร้อมกับดึงคอเสื้อเจมส์ขึ้นมา

    " เดี๋ยวแกก็จะได้เห็นพ่อแกตายแล้ว " ลีออน ตาค้าง " พ่อ หรอ " " ใช่ เจมส์นี่หละคือพ่อนาย " โจนาทานพูดก่อนจะ

    ผลักเจมส์ถอยหลังไป ในสภาพที่โยกไปโยกมาเหมือนไม่มีแรงที่จะยืน " เขาคือ เจมส์แมสเตอร์ และก็คือ ลีออนแมสเตอร์ "

    ปัง โจนาทานยิงปืนใส่เจมส์ ตัวของลอยกระเด็นถอยหลังกลิ้งไปทางลีออน " เห้อ ไม่สนุกเลยนะเนี่ยงานนี้ "โจนาทานทำหน้าเบื่อโลกหลังจากพูดจบ ลีออนฝืนตัวลุกขึ้นพร้อมกับ

    หยิบปืนที่โจนาทานให้มาเล็งไปที่โจนาทาน ปัง โจนาทานยิงที่มือของลีออนอีกนัดหนึ่ง เลือดของเขากระเซ็นไปทั่วห้อง

    ลีออนเซถอยหลังไปชนกับหน้าต่างที่ข้างหลังของเขาคือความตาย " ปิดเกมส์แล้วสินะ " โจนาทานเล็งปืนมาทางลีออนที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น

    เพล้ง !! มีชายชาวนิโกร ผิวดำคนหนึ่ง ห้อยตัวลงมาจากดาดฟ้าพุ่งทะลุเข้าไปในหน้าต่างที่ลีออนพิงอยู่

    พร้อมกับสาดกระสุนใส่นักฆ่าทั้งหมด ที่ยืนอยู่ เอมม่ารีบเปิดประตูที่อยู่ข้างเธอพร้อมกับกลิ้งไปหลบที่ประตู

    ชายนิโกรคนนั้นล๊อคคอลีออนพร้อมกับตัดสายสลิง และลากลีออน กระโดดลงจากตึก

    เอมม่า เมื่อเห็นแบบนั้น จึงรีบวิ่งไปที่หน้าต่าง พร้อมกับสาดกระสุนใส่ ชายคนนั้นที่กำลังตกลงไป

    ชายนิโกรดึงร่มชูชีพที่อยู่ที่หลังของตนเอง และล่องลอยไปตามสายลม

    เอมม่าโยนปืนทิ้งลงข้างๆตัว ก่อนที่จะนั่งลงและหยิบม้วนบุหรี่ออกมาสูบอย่าง ชิว ชิว

    โจนาทาน จ้องหน้าเอมม่า ก่อนจะเดิมออกจากห้องไปและทิ้งคำพูดไว้ให้เอมม่า

    " เขาจะมาหาพวกเราเอง "

    .
    .
    .

    End chapter 13

    continuse chapter 14


    Chapter 14 : meet tricker morsarn

    ในห้องที่มืดสลัว มีเสียงไฟจากโคมไฟเท่านั้น ที่ให้เสียงสว่าง

    ตุ๊บ " อ๊ากก " ลีออนที่ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้โดนต่อยเข้าที่ หน้าท้อง

    " บอกมา ใครจ้างแกมา " ชาย หน้าตาออกจีนๆ คนหนึ่งพูดขึ้น

    " แกพูดถึงอะไรฉันไม่รู้ " ลีออนส่ายหน้าไปมา ชายจีนเงยหน้าขึ้นก่อนจะยกมือชี้ฟ้าแล้วพูดอะไรบางอย่างออกมา

    " แกไม่บอกใช่ไหม , พระเจ้า อภัยให้ข้าด้วยต่อการทำบาปครั้งนี้ " เมื่อพูดจบก็เหวี่ยงหมัดมาที่หน้าของลีออน

    ตุ๊บ

    _______________________________________

    แปะ แปะ แปะ

    เสียงน้ำจากเพดานห้องหยดใส่หน้าของลีออน จนตัวเขาถึงกับตื่นมาจากฝัน

    เขาพยายามลืมตาให้กว้างที่สุดเพื่อมองดูรอบข้าง เขาอยู่ในห้องที่มีแต่สีขาวๆ และเย็นๆ

    เขานอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ โดยแช่อยู่ในน้ำสี ขาวๆ

    แอ๊ดด !!! ประตู ที่อยู่ข้างหลังลีออน เปิดออก เเสงที่เจิดจ้า จากข้างนอกประตู ส่องเข้ามาที่ม่านตาของลีออน ชายคนหนึ่เดินมาอยู่ข้างหน้าเขา

    แต่ลีออนมองเห็นผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ชัด ชายคนนั้นยื่นมือไปหาลีออน " ขึ้นมาได้แล้วไอ้หนู "

    ลีออนหัหน้าขึ้นไปมองชายคนนั้น เขาผิวดำๆร่างท้วม ลีออนยื่นมือไปจบที่มือของชายนิโกร ชายคนนั้นดึงเขาขึ้นจากอ่างน้ำ

    " นี่ผมนอนอยู่ในบ่อนี้ได้ยังไงเนี่ย แล้วมันคือ... " ลีออนเริ่มยิงคำถามอย่างรวดเร็ว

    " ใจ เย็นๆ และค่อยๆถาม เดี่ญวฉันจะอธิบายเรื่องห้องนี้ให้ฟังก่อน " ชายคนนั้นเดินไปรอบๆบ่อของลีออนและเริ่มเล่าเรื่องของห้องนี้ให้ฟัง

    " ห้องนี้คือห้องรักษาแผลชั่วคราวสำหรับคน อาการสาหัส โดยที่นายนอนอยู่คือเซลล์เม็ดเลือดขาวที่จะฆ่าเชื้อ "

    ก่อนจะหยุดและหันหน้ามองมาที่ลีออนและ เริ่มพูดต่อ

    " หลังจากฆ๋าเชื้อแล้วก็จะช่วยทำให้แผลแห้งเร็ว ภายในเวลา 5 ชั่วโมง " ลีออนเมื่อได้ฟังก็มองไปที่ถือของเขาที่ถูกยิง

    " เลือดหยุดไหลแล้ว " ลีออนตลึงกับห้องนี้มากๆ " เอาหละเลิกยกย่องห้องนี้ได้แล้ว มีอะไรที่เจ๋งกว่านั้นเยอะ "

    ชายนิโกร เดินออกไปจากห้อง ซึ่งลีออนได้แต่ยืนเฉยๆและมองเขาเดินไป ชายนิโกรเมื่อเห็นลีออนไม่ยอมตามตนมาจึงถาม

    " ไม่มาหรอ " ลีออนเดินออกมาจากห้อง พร้อมกับทำหน้าตลึง

    " นี่คือคลังหลบซ่อนตัวและคลังเก็บอาวุธ " ชายนิโกร พาลีออนเยี่ยมชมตามที่ต่างๆในคลังใต้ดินของเขา

    " นี่คือห้องกินข้าว " ชายนิโกรชี้เข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ลีออนชะโงกหัวไปดู ข้างหน้าคู่สายตาของเขา

    ก็เหมือนโต๊ะกินข้าวธรรมดา และเห็นคุณป้าคนหนึ่งกำลังทำอาหารอยู่ " นั่นใครหรอครับ "

    " อ๋อ นั่นเป็นพ่อครัวของเราหนะ " เมื่อพูดจบเขาก็เดินเข้าไปในห้องกินข้าวก่อนจะตะโกนเรียกหญิงแก่

    ที่ใส่ชุดกันเปื้อน " เฮ้ เจนนี่ " ผู้หญิงคนนั้นที่ใส่ชุดกระเปื้อนหันตัวมาอย่างช้าๆ

    ในเสื้อกันเปื้อนของเธอ มีลอยเลือด เปื้อนเต็ม ทั้งแห้งแล้วและยังสดๆอยู่

    " รับเด็กใหม่หน่อย " หน้าตาของหญิงแก่คนนั้นดูยิ้มแย้มที่มีเด็กใหม่เข้ามา พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาลีออน

    " โอ้ เด็กใหม่ อืม... " ยายแก่คนนั้น เอื้อมมือไปแตะหน้าลีออนและเริ่มสำรวจร่างกาย

    " หน้าตาดี อนาคต อีกยาวเลยนะหนู " ลีออนทำหน้ามึนๆ

    " พอละ เจนนี่ระวัง ถั่วไหม้ หละ " ชายนิโกรสอดตัวเข้าปหน้าลีออน ระหว่างที่เจนนี่กำลังวิ่งกลับไปทำอาหารต่อ

    " เอาหละ ไปดูห้องนายกันดีกว่า " ชายนิโกร เดินออกจากห้องครัว และเดินขึ้เนบันไดไปชั้นสอง

    " เดี๋ยว " ลีออน วิ่งตามไปที่หน้าบันได " คุณชื่ออะไร " ชายนิโกร หยุดเดินและหันหน้ามาตอบลีออน

    " ทริคเกอร์ , ฉันชื่อ ทริคเกอร์ มอร์ชาน "

    _______________________________________

    " นี่ ถึงห้องนายแล้ว " ทริคเกอร์ เปิดประตู ที่ห้องของลีออน

    ซู้ม ซู้ม

    " เฮ้ แซมมี่ เลิกดูด ฝุ่นได้แล้ว " หญิงสาวย่างวัยทองอายุประมาณ 40 เก็บเครื่องดูดฝุ่น

    ก่อนจะเดินจากห้องไป " นั่น แซมมี่ คนทำความสะอาดหนะ " ทริคเกอร์ แนะนำคนทำความสะอาดก่อนจะดันลีออนเข้าห้องไป

    " แล้วผมต้องทำอะไรต่อ " ลีออนหลังจากเข้าห้องก็หันหน้ามามองที่ทริคเกอร์

    " เอาเป็นว่า นาย จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเมื่อไหร่ ลงมาที่ห้องครัวแล้วกัน "

    ทริคเกอร์ ง้างมือจับที่ประตูห้องของลีออน

    " แล้วฉันจะฝึกนายเอง " ลีออน งุนงงกับคำที่ ทริคเกอร์พูด

    " ฝึกหรอ เฮ้ เดี๋ยว " ตึง ทริคเกอร์ปิดประตู โดยไม่ตอบอะไรลีออนเลย

    โอเค ลีออนคิดในใจ

    ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ

    และเริ่มชำระเลือดที่ติดตามตัว ของร่างกาย

    ให้ไหล และหายไปพร้อมกับ สายน้ำ

    END

    Chapter 14

    to be continuse Chapter 15

  3. #3
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382
    Chapter 15 : Double Tap

    ปัง ปัง ปัง !

    เสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัดมาจากทางห้องซ้อม

    เป้ารับกระสุนปืนนั้นขาดไม่เป็นชิ้นดี

    ลีออนกำลังฝึกซ้อมยิงเร็วและติดต่อกัน เพื่อที่หวังว่าจะได้ใช้เมื่อเจอกับศัตรูหลายๆคน

    เพราะการที่เขายิงช้านั้นจะทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าของกระสุน แม้จะสามารถหลบได้ หนึ่งนัด

    แต่กระสุนอีก 2 นัดที่กำลังพุ่งมาเขาคงหมดสิทธิ์และนอนตายจมกองเลือดตัวเองแน่ๆ

    โดยเขาอยากจะลองลั่นกระสุนต่อกันโดยแม่นยำ แต่เมื่อเขาทดลองมันกลับช้าพอๆกับยิงทีละนัดเลยก็ว่าได้

    ลีออนเริ่มหมดแรงที่จะสู้ต่อ ก็หันหลังกลับไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆตนและวางปืนไว้บนโต๊ะวางอุปกรณ์

    ตึก ตึก

    ทริคเกอร์เดินตรงเข้ามาหาพร้อมกับกาแฟที่พึ่งจะชงเสร็จ

    "เอานี่ไป" ทริคเกอร์ยื่นกาแฟในมือให้ลีออนก่อนจะไปปลดแม็กกระสุนจากปืนที่ลีออนพึ่งใช้เสร็จออกมา

    และเริ่มรีโหลดแม็ก ผ่านไปซักพักห้องนี้ก็เงียบงันขึ้นมา ทริคเกอร์เห็นลีออนท้อจึงอยากจะสอนเทคนิคบางอย่าง

    "นี่ลีออน นายพยายามยิงรัวๆติดต่อกัน นายอยากจะยิงแบบ Double Tap หรอ" ทริคเกอร์ถามพร้อมกับเติมกระสุน

    "หืม Double Tap มันคืออะไรหรอครับ " ลีออนวางแก้วกาแฟก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างสงสัย

    "มันคือการยิงกระสุน 2 นัดติดต่อกันในเวลาอันสั้น โดยมีระยะหวังผลคือระยะใกล้ และความแม่นยำ"

    แก็กๆ พูดจบ ทริคเกอร์ก็รีโหลดกระสุนครบพอดี " แล้วมันทำยังไงหรอครับ" ลีออนพุ่งถามเข้าประเด็น

    ทริคเกอร์เห็นดังนั้น จึงยิ้มออกมาก่อนหยิบปืนด้วยมือข้างเดียวพร้อมกับยิงออกไปหนึ่งนัด

    กระสุนนัดแรกพุ่งตรงไปตามวิธีก่อนจะเข้าเป้า ปืนที่พึ่งปล่อยกระสุนไปเมื่อครู่ก็กำลังดีดตัวกลับ

    แต่กระสุนกลับพุ่งออกจากปากกระบอกอย่างรวดเร็วอีก 1 นัด ก่อนจะเจาะเข้าที่หัวของเป้าทดลองยิง

    ทริคเกอร์วางปืนลงและพูดว่า "เอาหละ เมื่อกี้เรียนการทดลองไปแล้ว คราวนี้เรามาเรียนด้านเทคนิคกันบ้าง"

    จากนั้นก็หันกลับมามองหน้าลีออนที่ตั้งใจฟังและเริ่มบรรยายต่อ

    "Double Tap นั้นคือการยิงกระสุนสองนัดติดต่อกันอย่างที่บอกไปคือระยะหวังผลนั้นใกล้มากเพราะการที่จะยิงติดต่อกัน

    ในเวลาอันรวดเร็วขนาดนั้นทำให้ไม่มีเวลาเล็งเป้าดังนั้นการฝึกฝนบ่อยๆจะเป็นการช่วยให้แม่นขึ้น"

    "แล้ววิธีการหละครับ" ลีออนถามอยากรวดเร็ว "เห้อ เด็กหนุ่มนี่ใจร้อนกันสะจริงๆ" ทริคเกอร์ ถอนหายใจก่อนจะบ่นและเริ่มอธิบายต่อ

    "วิธีในการยิง Double Tap นั้นคือเมื่อเรายิงนัดแรกไปแล้วระหว่างที่ปืนดีดกลับนั้น เราก็ปล่อยให้มันดีดไปจนสุดด้านหลัง

    เมื่อนายเห็นว่ามันสุดแล้วก็เล็งศูนย์หน้าไปยังเป้า เมื่อศูนย์ทับเป้าแล้วก็กดไกยิงลูกที่สองในทันที "

    "เอ่อ" ลีออนทำท่าเหมือนจะขัด แต่ทริคเกอร์ก็ชูนิ้วขึ้นมาที่ปากประมาณว่าบอกให้เงียบแล้วอธิบายต่อ

    ทริคเกอร์รู้ดีว่าลีออนจะบอกว่าการเล็งศูนย์เล็งนั้นทำให้การยิงต่อเนื่องล้าช้าซึ่งลีออนคงจะคิดแบบนั้น ทริคเกอร์จึงเริ่มอธิบายเหตุผล

    "ที่ต้องเล็งศูนย์เล็งนั้นเพราะถ้าไม่มองที่ศูนย์หน้า จะทำให้กดไกยิงไม่ถูกจังหวะ ทำให้ยิงในนัดที่สองไม่แม่นพอสมควร เข้ารึยัง"

    ลีออนพยักหน้าตอบช้าๆ ทริคเกอร์เมื่อเห็นดังนั้นก็เดินจากไปพร้อมกับพูดว่า "เออ,ใช่วันนี้คุณป้าแซมมี่ไม่อยู่นะ ไปซื้อเนื้อหมูกับขนมปังมาให้ด้วยหละ"

    เมื่อแผ่นหลังของทริคเกอร์หายไปลีออนก็ว่าจะไปซื้อของเสร็จแล้วกลับมาค่อยฝึกโดยไม่ลืมหยิบปืนเหน็บไว้ที่กางเกงแล้วเดินไป

    ก่อนจะเดินออกไปโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเขาลืมอะไรบางอย่าง
    .
    .
    .
    เมื่อทริคเกอร์เดินออกมาจากโรงฝึกได้ซักพักเขาก็นึกได้ว่า

    'นี่เราให้เงินลีออนรึยังนะ'

    ________________________________________

    ระหว่างหัวมุมตึกมีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อด้วยหน้าที่ดูเหมือนไม่พอใจ

    "เห้อ ตาแก่ ทริคเกอร์เอ้ย ไม่ยอมให้ตังสักกะนิดแล้วยังให้มาซื้อของอีกไม่ไหวๆ" ลีออนเอามือล้วงเข้าไปกระเป๋าข้างๆเอวของเสือกันหนาว และเดินท่าม

    กลางหิมะที่ตกลงมาปลอยๆ

    ระหว่างที่เขากำลังเดินกลับนั้นก็ผ่านซอกซอยหนึ่งลีออนมองผ่านๆเห็นเด็กหนุ่ม ร่างกายผอม สวมแว่น ดูท่าจะอ่อนแอ กับ ผู้ชายรูปร่างสมส่วนหน้าตาดูเหมือน

    ยากูซ่าตามหนังที่เขาเคยดู

    โดนชายผิวดำ หน้าตากำยำ คล้ายๆกับพวกนักเล่นกล้ามสองคนกำลังยืนล้อมพวกเขาอยู่ โดยสายตาจ้องเหมือนกับจะฆ่าแกงกันเอง ถ้าเป็นเขาสมัยก่อนก็คงบ

    จะตายโดยไม่ทันได้ต่อยพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ

    เมื่อลีออนจะเดินจากไป ชายหนุ่มหน้าตาเหมือนยากูซ่าก็พูดขึ้นว่า "อ้าวลุกพี่มาพอดีเลย จะไปไหนหรอครับ มาช่วยอัดพวกมันให้เละไปเลย" เขาพูดขึ้น
    พร้อมกับชี้มาทางลีออน

    ชายหนุ่มร่างผอมกระซิบให้เขาฟังเบาๆ"เฮ้ นี่ จอร์นนี่ ดึงคนอื่นเข้ามาแบบนั้นไม่ดีนะ ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะสู้พวกนี้ได้ไหม" ชายหนุ่มที่เหมือนจะชื่อจอร์นนี่ตอบ

    กลับไปว่า"ไม่เป็นหรอกแซ็ค เจอใครเอาถ่วงเวลาก่อน"

    ชายผิวดำมันไปมองลีออนพร้อมกับส่งสายตาเกลียดชังมาทางเขา "แกสินะที่เป็นหัวหน้าของพวกมัน แกรู้รึเปล่าว่าลูกน้องแกทำอะไรไว้บ้าง"

    ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ลีออนเรื่อยๆจนลมหายใจของลีออนนั้นปล่อยไอความร้อนใส่หน้าอกของชายตัวโต "ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกนั้นเป็นใครและผม

    ก็ไม่เกี่ยวข้องด้วยถ้าจะไถเงินหละก็ผมไม่มีสังแดงเดียวหรอกนะ"

    จอร์นนี่พูดขึ้นสวนกระแสทันใด "ลูกพี่ครับ ผมพอจะมีเหลือนะครับ ถ้าช่วยผมได้ผมจะเอาให้นะครับ" ลีออนรู้ทันทีว่านั่นเป็นการให้เขาช่วยโดยแลกกับเงิน

    ลีออนคิดว่าตอนนี้ก็ไม่มีเงินอยู่แล้วได้เงินมาไปซื้อของก็น่าจะโอเค โดยลีออนไม่รอช้า ค่อยๆสืบสาวเรื่องราวจากชายตัวโต

    "ไม่ทราบว่าพวกนี้ทำอะไรบ้างหรอครับ" ชายตัวโตเล่าเรื่องที่เกิดให้ฟัง

    "พวกนั้นเข้ามาในบ่อนและลงเดิมพันในการเล่นไพ่แต่พอแจกไพ่ พอตอนแรกไพ่ในมือพวกมันมี 3 ใบพอซักพักมันก็เหลือ 2 แล้วก็โผล่มา 3 อีกทีซึ่งผู้เล่น

    โกงเหล่านี้เราจึงต้องจับตัวมาสั่งสอนสะหน่อยแต่ถ้าแกจ่ายเยอะหละก็ลูกน้องแกก็จะไม่เป็นอะไร"

    ลีออนจ้องตาอันคมกริบของชายผิวดำก่อนจะถามว่า "ถ้าผมไม่จ่ายหละครับ" ชายผิวดำตอบกลับแบบเรียบๆ "ไม่ตายก็หยอดข้าวต้มหลายเดือน"

    ลีออนยิ้มที่มุมปาก "งั้นก็ฆ่าได้สินะครับ" เมื่อพูดจบเขาก็หยิบปืนที่เหน็บไว้จากกระเป๋ากางเกง

    ชายร่างยักษ์ง้างมือเหมือนจะต่อยลีออนก้มตัวหลบไปข้างใต้ เมื่อมือของชายร่างยักษ์หมุนไปครบ 180 องศา เขาก็ใช้เท้าซ้ายเหยียบกดกับพื้นและหมุนตัวยก

    เท้าขวาขึ้นมาเตะลีออน

    ลีออนยกศอกกันไว้แต่นั่นก็ไม่เป็นผล ร่างของเขากระเด็นล้มลงไป พร้อมกับไถลไปกลางทางเดิน ลีออนดึงมือขวาขึ้นมาระหว่างนั้นและรีบตีลังกากลับหลัง

    เพื่อตั้งตัว

    ชายหนุ่มอีกคนหนึ่้งยืนดูการต่อสู้ระหว่างลีออนและเพื่อนของเขาก่อนจะหันไปคุยกับพวกจอร์นนี่และแซ็ค"แหม หัวหน้าแกฝีมือไม่เลว แต่าเตือนไว้ก่อนนะเจ้า

    บ้านั่นไม่กลัวกระสุนหรอกนะจะบอกให้" ชายหนุ่มตอบพร้อมกับหันไปมองเพื่อนของเขาต่อ

    ลีออนยกปืนขึ้นเล็งและลั่นไกไปกลางหน้าอก

    ปัง ! เป้งงง !

    กระสุนพุ่งชนเข้ากับเหล็กจนกระสุนที่พุ่งมาด้วยความเร็วกลับ งอและกระเด็นออก "เห้ย ไอ้หนูบอกไว้ก่อนนะที่นี่เป็นที่การพนันในโลกมืดของนิวยอร์ค

    อันดับต้นๆเลยนะเว้ย พวกแก๊งค์ที่มีปืนพวกเราก็เจอมาบ่อยแล้วด้วยนะอย่าคิดว่าพวกเราจะไม่ป้องกันสิ เห้อ เด็กหนอ เด็ก"

    แต่ด้วยความฉลาดของลีออนที่มากกว่าพวกมันสมองแบบชายคนนั้นก็เล็งปืนไปที่รองเท้า ปัง! เสียงลั่นไกดังขึ้นกระสุนพุ่งทะลุร้องเท้า "อ๊ากกก" เสียงของ

    ชายร่างโตขุกเข่าลงไปกุมที่แผล "ว่าแล้ว ว่าคงไม่ได้ใส่ไว้เพราะถ้าใส่เหล็กหน้าไว้พอวิ่งจับคนมันคงจะหนักและวิ่งไม่ทันแน่ๆเลยหละ"

    ลีออนไม่รอช้ารีบวิ่งเหยียบเข่าของชายร่างยักษ์คนแรกกระโดดหมุนตัวตีลังกาหน้าเมื่อตัวเขาอยู่ในแนวนอนปืนของเขาที่อยู่ในมือก็ตรงกับหัว

    ของชายร่างยักษ์พอดี ปัง ! กระสุนเจาะทะลุกระโหลกของเขาจนแหลก ชายคนนั้นล้มลงไปกับพื้นจมกองเลือดตัวเอง

    และเมื่อลีออนตกถึงพื้นเขาก็เหวี่ยงมือมาข้างหน้าและลั่นไกต่อกันอีกครั้ง กระสุนครั้งที่สองเข้าเป้าที่หัวของชายคนนั้นโดยที่ยังไม่ได้ตั้งตัว การทดสอบยิง

    Double Tap ของเขาเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบถึงแม้นัดที่สองจะพลาดเป้าไปเล็กน้อยแต่ก็สามารถปลิดชีพได้เหมือนกัน

    และปัจจัยอีกอย่างคือเขาอยู่ใกล้กับชายคนนั้นพอดี เมื่อสิ้นเสียงปืน ลีออนก็เหน็บปืนไว้ที่กางเกงเหมือนเดิม พร้อมกับยื่นมือไปที่ชายสองคนที่เหลืออยู่

    และแบมือออกและกวักมือรีบเงิน ชายหนุ่มที่ชื่อแซ็ครีบหยิบเงินที่มีอยู่ทั้งหมดให้เพราะเขารู้ถึงความสามารถของลีออนแล้ว

    แอ๊ดด ! เสียงประตูของตึกที่อยู่ตรงหน้าของลีออนเปิดออกมีชายคนหนึ่งหน้าตาออกเหมือนคนจีนเดินออกมา "เสียงยิงปืนนี่มันอะไรว..." ยังพูดไม่ทันจบเขาก็

    วิ่งกลับเข้าไปเหมือนเดิม อย่างตื่นตระหนก "เห้ย รีบตามไปเร็ว" ลีออนพูดพร้อมกับวิ่งตามเข้าไป จอร์นนี่และแซ็คไม่รอช้าก็วิ่งตามเข้าไปด้วยเหมือนกัน

    และหยิบปืนขึ้นมาอีกครั้ง

    เมื่อวิ่งตามชายคนนั้นไม่เรื่อยๆ ลีออนก็รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่กลางผับ ในนั้นวุ่นวายเหมือนกับผับทั่วไป ร่างของชายหนุ่มคนนั้นแทรกตัวหายไประหว่างฝูงชน
    แต่เขายังเห็นหลังของชายคนนั้นโผล่มานิดๆ แซ็ควิ่งมาใช้มือซ้ายคว้าปืนในมือลีออนและเหวี่ยงมาประกบกับมือขวายืนท่า วีฟเวอร์(Weaver)และลั่นไกออก
    ไป

    ปัง !

    กระสุนพุ่งผ่านช่องระหว่างศีรษะและเส้นผมของผู้คนมากมายก่อนจะเจาะเข้าด้านหลังของชายคนนั้นล้มลงกลางฝูงชน แซ็คนั้นหวังว่าจะยิงเพื่อปิดปากแล้ว

    จะไม่ได้เกิดปัญหาแต่มันผิดคาดเพราะเสียงปืนดังขึ้นทำให้ผู้คนเริ่มแตกตื่นพยายามตะกุยตะกายเบียดกันออกไปข้างนอกเพราะความกลัว ทั้ง 3

    คนแฝงตัวเข้าไปพร้อมกับคนกลุ่มนั้น

    'นี่เพื่อเนื้อหมูกับขนมปังนะเนี่ย ถึงกับต้องฆ่าคนไป 3 คนเลยหรอเนี่ย' ลีออนแอบบ่นในใจเพราะเขาไม่ค่อยชอบฆ่าคนอยู่แล้วถ้าไม่จำเป้นแต่พักหลังๆเขาเริ่่ม

    จะปราศจากศีลธรรมสะแล้วทำให้เขารู้สึกผิดน้อยลงเนื้อจากถ้าเขาไม่ฆ่าพวกนั้น

    พวกนั้นก็จะหันมาฆ่าเขาสะเอง

    ทั้งสามวิ่งออกไปจนออกถนน ลีออนหันกลับหลังและจับมือของจอร์นนี่และบิดตัวกลับ

    ร่างของบจอร์นนี่ลอยผ่านอากาศก่อนจะล้มลงกระแทกกับพื้น อีกมือหนึ่งก็กระแทกมือของแซ็คขึ้นไปบนฟ้า ปืนหลุดจากมือของแซ็คและตกลงมาพร้อมกับ

    ลีออนรับด้วยความแม่นยำและเล็งมาที่แซ็คก่อนจะเอาขาข้างซ้ายเกี่ยวกับแขนของจอห์นนี่

    "ฉันจะไม่ช่วยพวกนายแล้ว อย่าตามมาอีกพวกนายมันตัวสร้างปัญหาชัดๆเลย" ลีออนจ้องเขม็งมาทางแซ็คและพูดอย่างหัวเสีย

    หวี ! หว่อ ! หวี ! หว่อ !

    เสียงรถตำรวจเริ่มค่อยๆทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ลีออนผละตัวออกจากทั้งสองคนและเดินไปพร้อมกับฝูงชนอีกครั้ง

    ระหว่างที่เดินออกมาจากซอยนั้นเขาก็เดินเลี่ยงไปที่ร้านสะดวกซื้อและซื้อของตามที่ทริคเกอร์สั่ง ระหว่างนั้นก็มีชาย5คนใส่ชุดคลุมหัวปกปิดใบหน้าเดิน

    มาหาลีออน ชาย3คนควักปืนออกมาล๊อคเป้า ชายอีกคนหนึ่งถือถุงคลุมหัว ส่วนอีกคนแม้จะไม่ได้ถืออะไรแต่ก็คงจะมีพละกำลังมากมายที่กล้ามเนื้อและ
    แขนของเขา

    ทุกคนในร้าน กรีด สนั่น ลีออนไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะจำนวนขนาดนี้เขาไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว ถึงแม้จะสามารถยิงแบบ Double Tap ได้ก็เถอะ แต่ว่าตอน

    ที่มือปืนทั้ง 3 คนยืนห่างกันเกินไปเพราะ Double Tap นั้นต้องใช้เมื่อเป้าอยู่ใกล้กัน

    และอีกอย่างเขาก็ยังไม่สามารถยิงแบบ Triple Tap ได้ด้วย 'รู้งี้ไม่น่าไปยุ่งเลย'

    ________________________________________
    TheSun

    Chapter 16 : The Plant

    ในห้องที่มืดสลัว มีเสียงไฟจากโคมไฟเท่านั้น ที่ให้แสงสว่าง

    ตุ๊บ " อ๊ากก " ลีออนที่ถูกมัดอยู่กับเก้าอี้โดนต่อยเข้าที่ หน้าท้อง

    " บอกมา ใครจ้างแกมา " ชาย หน้าตาออกจีนๆ คนหนึ่งพูดขึ้น

    " แกพูดถึงอะไรฉันไม่รู้ " ลีออนส่ายหน้าไปมา ชายจีนเงยหน้าขึ้นก่อนจะยกมือชี้ฟ้าแล้วพูดอะไรบางอย่างออกมา

    " แกไม่บอกใช่ไหม , พระเจ้า อภัยให้ข้าด้วยต่อการทำบาปครั้งนี้ " เมื่อพูดจบก็เหวี่ยงหมัดมาที่หน้าของลีออน

    ปัง มีใครบางคนถีบประตูเข้ามา

    "พ่อ เดี๋ยว" มีชายสองคนวิ่ง จอร์นนี่วิ่งมาห้ามพ่อของเขาและตามหลังมาด้วยแซ็ค

    "อะไรกันหละลูก ก็ในหัวหน้าของพ่อบอกว่าลูกโดนไอ้นี่ทำร้ายไง" พ่อของเขาตอบก่อนจะชี้ไปทางชายรูปร่างกำยำอีกคนที่ยืนข้างๆกัน

    "เปล่าพ่อ พี่เขาช่วยผมไว้" จอร์นนี่เดินไปแกะเชือกให้ลีออน

    __________________________

    "อ๋อ มันเป็นแบบนี้เองหรอ อั้วก็เข้าใจผิด ถือว่าเป็นการต้อนรับแล้วกันนะ" หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมด ชายแก่ก็พาลีออนมาดื่มขอบคุณ

    ลีออนไม่ได้พูดอะไรได้แต่ตั่งหน้าตั้งตากินก่อนจะหันไปมองนาฬิกา "เอ่อ ผมต้องขอตัวนะครับ พอดีว่าสายมากแล้วผมต้องกลับบ้านหนะครับ"

    "เอาสิๆ บ้านลื้ออยู่ไหนหละ เดี๋ยว อั้ว ให้ลูกน้องไปส่ง" ชายแก่หัวเราะก่อนจะหยิบไก่อีกชิ้นและใช้ฟันฉีก

    "เอ่อ" ลีออนไม่แน่ใจที่จะเปิดเผยที่อยู่ของ ทริคเกอร์ เขาจึงเอามือกุมไว้ที่ซ้อมเผื่อใช้ในตอนฉุกเฉิน

    "รู้จัก ทริคเกอร์ไหมครับ" ลีออนถามไป ชายแก่ที่กินอย่างสนุกสนานกลับจ้องมาทางลีออน ห้องนั้นตกอยู๋ในสภาพเงียบงัน

    "แกรู้จัก ทริคเกอร์ด้วยหรอ" ตาแก่ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

    "เอ่อ ครับ พอดีผมกับคุญทริคเกอร์มีเป้าหมายเดียวกัน" ตาแก่ถึงกับตะลึงและแฟ้มกระดาษห่อสีน้ำตาลให้

    "ว่าแล้ว ว่าทำไมมันให้อยู่เฉยๆ ที่แท้ไปหาคนมาช่วยนี่เอง" ชายแก่พึมพัมก่อนจะหยิบไก่ชิ้นเล็กๆโยนเข้าปากอีกชิ้นหนึ่ง

    "ใบ.. แผนการกำจัดโจนาทาน" ลีออนถึงกับลุกขึ้นด้วยความตะลึง ชายแกเห็นก็ส่งสัย

    "อ้าวทริคเกอร์มันไม่ได้บอกแกเรื่องนี้หรอ" ลีออนไม่ทันได้ตอบ ก็มีเสียงชายคนหนึ่งเดินกำลังเดินมา

    "แหม ตายยากจริงนะ ทริคเกอร์" ตาแก่พูดพร้อมกับ ยิ้มเป็นเลศใน

    ชายคนนั้นค่อยๆเดินผ่านเข้ามาในแสงสว่าง จนเห็นใบหน้าที่ชัดเจนของเขา

    "ลีออน ขนมปังกับหมูหละ" ทริคเกอร์ยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆลีออน และตบบ่าเบาๆ

    "ก็อย่างที่นายได้อ่านนั่นหละ ฉันต้องการให้นายช่วยเรื่องจัดการโจนาทานอยู่แล้ว" ลีออนทำท่าไม่พอใจ แต่ทริคเกอร์ก็พูดดักทางไว้

    "ฉันไม่ได้หลอกใช้นายนะ อย่าลืมสิ ฉันกับพ่อนายก็เป็นเพื่อนกันนะ ตั้งแต่สมัยก่อนเลยด้วย" ทริคเกอร์รีบแก้ต่างให้ตัวเองด้วยความจริง

    แต่ลีออนทำท่าไม่เชื่ออย่างนั้น

    "เอาหละๆ ไหนๆก็มาอยู่พร้อมกับครบหน้าแล้วหละก็ คงต้องเริ่มแผนการกันอีก พรุ่งนี้เลยดีไหม" ทริคเกอร์จ้องมาทางตาแก่อีกครั้ง

    "นี่ อาเฮีย ที่เราตกลงกันไว้มันอีกตั้ง 2 สัปดาห์ไม่ใช่หรอ อีกอย่างพรุ่งนี้มันก็อีกแค่ 5 ชั่วโมงนะเนี่ย" ตาแก่ ปัดมือไปมา

    "โอ้ ถ้าจะรอให้โจนาทานมันตายใจหละก็ ไม่ต้องหรอกเพราะมันรู้เรื่องแล้วว่าเราจะบุกเข้ามาอีก 2 สัปดาห์ ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนนี่ไง"

    ลีออนกำซ้อมที่อยู่ในมือแน่นขึ้น ทริคเกอร์เห็นจึงตอบตกลงไป "โอเค อีกสองวันเริ่มแผน" ก่อนจะลากลีออนออกไปนอกห้อง

    "เอาหละ ในเมื่อแผนการจะเริ่มในอีก ไม่กี่ชั่วโมงเธอต้องฝึกใช้ไอ้นั่นแล้ว" ทริคเกอร์พูดระหว่างเดินออกจากอาคารสี่เหลี่ยม

    "อ่าว พี่ไปแล้วหรอ" จอร์นนี่และแซ็คทัก "อย่ามัวเสียเวลาน่า" ทริคเกอร์พูดก่อนจะเตะทั้งสองคนเบาๆ

    "รีบไปซ้อมได้แล้ว อีกเดี๋ยวพวกแกได้เจอศึกหนักแน่" ก่อนจะดันลีออนเข้าไปในรถและตามเข้าไป

    __________________________

    "นี่หรอครับ ไอ้นั่น" ลีออนทำหน้า งงเล็กน้อย

    "ใช่ ไอ้นี่แหละ" ทริคเกอร์เดินไปและหยิบสิ่งหนึ่งเป็นแท่งทรงกระบอกออกมา

    "นายต้องหัดใช้ระเบิดอัดแรงที่พ่อนายทำขึ้นประยุกต์กับอาวุธของนายทั้งปืนและมีด" ทริคเกอร์หยิบมันออกมาเยอะขึ้นและโยนให้ลีออนเรื่อยๆ

    จนกองสูงพอๆกับเก้าอี้เลยก็ว่าได้

    "เอาหละ มานี่สิ ฉันจะสอนการประยุกต์ใช้ระเบิดกับทั้งสองอย่าง" ลีออนเริ่มขยับไปใกล้ทริคเกอร์มากขึ้น

    ทริคเกอร์หยิบมีดออกมาพร้อมกับชี้ไปทางเป้าที่ห่างจากตนประมาณ 2 ฟุต

    "เอาหละ นายเคยโดนแล้วใช่ไหมระเบิดอัดลมแบบนี้" ลีออนพยักหน้ากลับโดยเร็ว

    "ฟังนะ ระเบิดพวกนี้มีความดันสูงมากทำให้มันสามารถดันร่างกายของเธอให้พุ่งไปในอากาศด้วยความเร็วได้" ทริคเกอร์พูดก่อนจะนำมาแปะที่หลังของเขา

    "เห้ยๆ ! เดี๋ยวกระดูกสันหลังก็หักหรอก อันตรายนะนั่น" ลีออนตื่นตระหนก

    "ไม่หรอก ถ้านายหันด้านมันให้ถูกหนะ คือระเบิดอัดลมนี้ไม่ใช่แบบระเบิดที่นายจะโดนตามพื้นหรอกนะเพราะว่าระเบิดแบบนี้มีรูออกเพียงแค่ทางเดียวเท่านั้น

    ดังนั้นถ้านายหันมันให้ถูกด้านหละก็นายก็จะพุ่งไปคนละทิศกับรูระเบิดไง" ทริคเกอร์กระชับมีดมากขึ้น

    "เอาหละ สมมุติว่าเป้านั่น คือชายคนหนึ่งที่ถือปืนกำลังเล็งมาทางนายและห่างกันถึง 2 ฟุต การที่นายจะเข้าประชิดตัวนั้นทำได้ยากมาก

    ดังนั้นการรเข้าประชิดตัวจึงเป็นทักษะหนึ่งของมีดที่ควรจะรู้ไว้โดยประยุกต์ใช้กับระเบิดอัดลม" ทริคเกอร์เว้นช่วงหายใจก่อนจะพูดต่อ

    "เอาหละนะ" ทริคเกอร์เอามือข้างซ้ายที่ว่างไปกดปุ่มที่อยู่ข้างๆรูระเบิด

    กิ๊ก

    เมื่อเสียงกระจายไปรอบทิศ มีลมพุ่งออกจากหลังของทริคเกอร์ทำให้ตัวของเขาพุ่งไปข้างหน้าโดยเร็ว

    เขาชักมือขึ้นมาที่หน้าและมีดที่อยู่ในมือก็เสียบทะลุกับหัวของเป้าพอดี

    ทริคเกอร์ ดึงมีดออกและมองมาที่ลีออน

    "เข้าใจไหม" ลีออนพยักหน้าตอบ ก่อนที่ทริคเกอร์จะเดินกลับมาหาเขา

    "เอาหละต่อไปปืน ฉันไม่มีเทคนิคในการประยุกต์ใช้หรอกนะของปืนหนะไปคิดเอาเอง" พูดจบ

    เขาก็วางปื้นไว้บนโต๊ะข้างๆและเดินจากไป

    "อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงสินะ"

    ลีออนพึมพัมกับตัวเขาเอง

    __________________________

    TheSun

    Chapter 17 : sun rise

    ตู้ม

    รถที่ลีออนนั่งอยู่ถูกยิงด้วย RPG รถของเขาลอยตีลังกาไปมาจนกระแทกเข้าไปในตึก

    "พวกเรา รีบลงจากรถเร็วๆ" เสียงของทริคเกอร์ตะโกน และพยายามลากลีออนออกมาจากรถที่กำลังลุำกไหม้

    ลีออนที่พึ่งได้สติด็รีบดันตัวออก และพุ่งออกมาจากรถ ก่อนที่ทริคเกอร์จะมาพยุงตัวเขาและวิ่งไปด้วยกัน

    แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป เพราะรถที่อยู่ข้างหลังเกิดระเบิดขึ้น

    ตู้ม

    ___________________________________

    10 นาทีก่อน

    "พร้อมแล้วนะ"ทริคเกอร์ถามลีออนที่กำลังกุมมือของตนด้วยความกังวล

    ลีออนพลักหน้ากลับ ทริคเกอร์เห็นจึงโยนปืนในกล่องเก็บอาวุธในรถ BMW "เอา นี่ มีปืนพก 2 กระบอกพร้อมกับกระสุนอีกทั้งหมด 15 แม็ก มีดสั้น 1เล่ม "

    ลีออนพยักหน้ากลับอีกครั้ง ทริคเกอร์เห็นจึงคิดจะอธิบายแผนการแต่ในช่วงเวลานั้นเอง รถที่ขับตามลีออนมาอีกประมาณ 5 คันก็โดนรอโจมตีและอีก 2 คันข้างหน้าก็โดนเหมือนกัน

    ตู้ม

    รถที่ลีออนนั่งอยู่ถูกยิงด้วย RPG รถของเขาลอยตีลังกาไปมาจนกระแทกเข้าไปในตึก

    "พวกเรา รีบลงจากรถเร็วๆ" เสียงของทริคเกอร์ตะโกน และพยายามลากลีออนออกมาจากรถที่กำลังลุำกไหม้

    ลีออนที่พึ่งได้สติด็รีบดันตัวออก และพุ่งออกมาจากรถ ก่อนที่ทริคเกอร์จะมาพยุงตัวเขาและวิ่งไปด้วยกัน

    แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป เพราะรถที่อยู่ข้างหลังเกิดระเบิดขึ้น

    ตู้ม

    ตัวของลีออน และทริคเกอร์กระเด็นพุ่งไปข้างหน้า พวกเขากลิ้งไปมาจนหมดแรงส่งและรู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็อยู๋ในลิฟท์กันแล้ว

    ลีออนและทริคเกอร์ลุกขึ้นมาด้วยอาการมึน ลิฟท์ที่เขาขึ้นมานั้นค่อยๆะพุ่งขึ้นไปช้าๆ โดยกำแพงข้างๆนั้นเป็นกระจกทั้งหมด

    ลิฟท์ตัวนี้ติดอยู่ข้างหลังตึกเมื่อขึ้นมาสูงเรื่อยๆเขาก็เริ่มมองเห็นทิวทัศน์ของนครนิวยอร์ค

    พับ พับ พับ

    เสียงลมกระแทกดังขึ้น และค่อยๆมีเงาดำทาบผ่านที่ลิฟท์ของทั้งสอง ลิฟท์ที่ค่อยๆขึ้นไปก็เหมือนกำลังจะพุ่งไปหามัน

    "โอ้ เวร" ทริคเกอร์สบถออกมา ข้างหน้าของทั้งสองคือ เฮลิคอปเตอร์ลำยักษ์ติดอาวุธสังหาร

    ปืนกลที่ติดอยู่ข้างๆฮอ ค่อยๆหมุนและเริ่มยิงกระสุนออกมา ทริคเกอร์หยิบปืนสำรองที่เก็บไว้ในกระเป๋าด้านหลังกางเกงโดยนให้ลีออน

    ก่อนจะเอาปืนในมือของตนยิงที่กระจกข้างๆและกระโดดลงไป ขณะนั้นมีลิฟท์อีกตัวที่กำลังลงไปข้างล่างพอดี ตัวของทริคเกอร์เลยตกลงไปในลิฟท์นั้น

    ลีออนล้มตัวเอาหลังพิงกระจกและคว้าปืนที่ทริคเกอร์โยนมาให้ก่อนจะเลื่อนให้ปากกระบอกจ่อข้างๆคอของเขาก่อนจะลั่นไกออกไป

    ร่างของลีออนหมุนตีลังกาหนึ่งรอบก่อนจะตกลงลิฟท์ข้างๆอีกตัวที่กำลังขึ้นไปพอดี

    ในเฮลิคอฟเตอร์ลำนั้นก็มีปืนกลที่ติดอยู่กับตัวกลางของฮอโดยมีคนยืนเล็.มาทางเขาพอดี ทริคเกอร์เห็นจึงวิ่งกระโดดไปเกาะขอบลิฟท์ตัวเดิม

    กระสุนเฉียดทริคเกอร์ไปเพียงแค่นิดเดียว ถ้าเขาช้ากว่านี้คงตายไปแล้ว ลีออนที่เห็ฯท่าไม่ดีจึงถอยหลังไปสุดลิฟท์และวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดก่อนจะกระโดดไปทางเฮลิคอฟเตอร์ลำนั้น

    ลีออนมาคว้าขอบกระจกของเฮลิคอปเตอร์เอาไว้ก่อนจะเอาปืนยิงเข้าไปที่หัวของคนขับฮอและคนที่นั่งข้างๆเขา ทำให้เฮลิคอปเตอร์ลำนี้เสียการควบคุม

    ชายที่นั่งจับป้อมปืนก็ล้มกลิ้งไปมาและตกลงไปสู่ฟื้นดินด้วยสภาพศพที่ไม่น่าดูมากนัก

    เฮลิคอปเตอร์หมุนไปมาหลายรอบและค่อยๆตกลงไปข้างล่างจนลีออนเริ่มรู้สึกเวียนหัว และตัวเขารู้ดีว่ามีเวลาไม่มากนัก

    ลีออนหยิบปืนของตนยิงกระจกห่างจากตัวเขาประมาณ 2 ชั้น ให้แตกประมาณ 3 - 4 บาน ก่อนจะใช้เท้าดีดตัวเองลอยพุ่งอยู่ในอากาศ

    ตัวของเขาตกลงใส่ช่องกระจกที่เขายิงพอดี ลีออนล้มไปกองที่พื้นด้วยความเหนื่อย แต่เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นที่ตกลงมากับกำลังเบนพุ่งเข้าหาตึกและหน้าของเฮลิคอปเตอร์ก็กำลังพุ่งมาทางลีออนเช่นกัน

    ลีออนรีบดีดตัวกลับหลังลุกยืน และรีบวิ่งหนี เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นค่อยๆพุ่งชนตึกและใบพัดนั้นก็พุ่งมาหาลีออนเรื่อยๆ ด้านหน้าของเฮลิคอปเตอร์จนกับพื้นด้านล่าง ทำให้ที่วิ่งของเขาลดน้อยลง

    เขาวิ่งจนมาเกือบสุดตึกแต่ดูเหมือนแรงดันของฮอลำนั้นยังไม่ลดละ เขาวิ่งเข้าใกล้กับกระจกเรื่อยๆโดยไม่มีทางออกทางอื่น ลีออนหยิบปืนออกมายิงกระจกข้างหน้าตน ก่อนจะกระโดดพุ่งออกหน้าต่างไป

    ความสูงของเขาตอนนี้ประมาณ 5 ชั้นซึ่งตกลงไปที่พื้นก็คงได้ตายแน่นอน แต่ที่เขาต้องการนั้นไม่ใช่พื้นที่เป็นกำแพงของตึกอีกฝั่งหนึ่งต่างห่ากที่ห่างจากเขาตอนนี่ประมาณ 5 เมตร

    ซึ่งตามปกติเขาไม่มีทางกระโดดถึงแน่นอน แต่เขาก็ได้แรงลมจากใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ช่วยส่งแรงดันทำให้เขาเอื้อมมือไปถึงพอดี

    มือของเขาที่เกาะอยู่กับกำแพงถูกแรงกดดันกดลง จนมือแทบฉีก แต่เขาก็ดันเอาไว้ได้และไม่มีแม้แต่รอยเลือดแค่ช้ำเท่านั้น

    เขาปีนขึ้นบนตึกและหันกลับไปมองตึกที่เขากระโดดออกมา ตอนนี้ข้างนอกตึกมีแต่ความวุ่นวายของประชาชนส่วนพวกของตาแก่นั้น

    คงเข้าไปในตึกพร้อมกับพวกเขา แต่ดูเหมือนจะเป็นความโชคร้ายของลีออน ตึกนั้นที่ถูกเฮลิคอปเตอร์ตัดผ่านเกือบครึ่งก็เริ่มเอนทำท่าจะล้มทับมาทางลีออน

    "โอ้ นี่โชคร้ายยังไม่พออีกรึไงฟะ" ลีออนบ่นพึมพัมกับตัวเองก่อนรีบลุกขึ้นและเริ่มวิ่งอีกครั้ง ตอนนี้เขาก็ยังคงอยู่ที่ชั้น 5 เหมือนเดิมซึ่งถ้าตกลงได้ตายแน่

    ลีออนล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขณะวิ่งเขาก็เจอเชือกเส้นหนึ่ง ซึ่งลีออนจำได้ดี

    เชือกนี้ตอนแรกทริคเกอร์ตะสอนให้เขาใช้มีดที่พูกด้วยมีดเหวี่ยงไปมาโดยเป็นอาวุธแต่ลีออนไม่เอาทริคเกอร์จึงให้เขาเก็บเอาไว้ใช้ยามจำเป็น

    เงาของตึกค่อยๆทาบมาทางลีออนเรื่อยๆ พร้อมกับค่อยๆถล่มลงมาหาเขา ลีออนแก้เชือกที่มัดอยู่พันเป็นห่วงวงกลม

    และเหวี่ยงไปข้างหน้าลงไปหลังคาของตึกห่างจากตกประมาณ 1 ฟุตก่อนที่เท้าขวาของเขาจะกระทบลงไปในเชือกนั่น

    ลีออนดึงเชือกในมือซ้ายให้ห่วงวงกลมนั่นรัดที่เท้าของเขา โดยที่เขาก็ยังวิ่งต่อไป

    ลีออนผูกเชือกเป็นปมขณะวิ่งอยู่ บนตึกนั้นยาวเกือบประมาณ 10 เมตรได้เพราะเป็นตึกต่อๆกันไป โดยบางบ้านนั้นก็มีเสื้อผ้าตากบ้าง

    จนลีออนวิ่งาถึงหลังสุดท้าย ที่กำแพงนั้นเจาะเป็นรูรูปดาวเพื่อความสวยงาม ลีออนผูกปมให้แน่นขึ้นและสไลตัวลงไปยัดปมใส่รูนั่น

    ตึกที่กำลังถล่มก็ค่อยๆพังลงมาใกล้เรื่อยๆ เมื่อลีออนยัดใส่เสร็จก็กระโดดลงจากตึกนั่นเมื่อเชือกตึงตัวขงเขาก็เบนกลับไปหาเชือก พร้อมกับตึกที่ถล่มลงมา

    ลีออนกระแทกเข้าไปที่ห้องห้องหนึ่งของชั้น 3 ของตึกนั้น โดยที่รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากด้านบนค่อยๆพังทลายลงมา ลีออนรีบกระตุกเชือกกลับมาจนเจอปมอีกครั้ง

    เขาก็นำปมไปกับเตียงนอนก่อนจะกระโดดออกไปที่หน้าต่างอีกครั้ง ตึกที่ถูกทับกับอีกตึกถูกบี้ให้แบนเป็นซาก เชือกที่เกี่ยวอยู่ก็หลุดออก

    ลีออนลอยอยู่กลางอากาศก่อนจะตกลงไปใส่รถกระบะคันหนึ่งพอดี ด้านหน้าเขามีชายอยู่ 2 คนที่กำลังขับรถอยู่ ลีออนกัดฟันแน่น

    พร้อมกับหยิบปืนขึ้นมาเล็ง เพราะใบหน้าทั้งสองนี้เขาจำได้เป็นอย่างดี

    "สตีม นิค"

    __________________________________________________________

    TheSun
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย taone1414 : 17th February 2012 เมื่อ 19:42

  4. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #4
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382
    ขอจองครับ เดี๋ยวจะลงต่อจองไว้ก่อนล่วงหน้าเพราะเกรงว่าจะไม่พอ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ nakiann123 อ่านกระทู้
    ปูเสื่อรอครับ เดี๋ยวมาอ่าน
    มีกำลังใจขึ้นเลยครับ เป็นโพสแรกเลย

    ขอบคุณอยากมากครับ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ 5day-ago อ่านกระทู้
    ขอต้อนรับกลับครับ~
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ LoveSeeker อ่านกระทู้
    welcome back comrade
    โอ้,ขอบคุณทั้งคู่มากครับที่มาให้กำลังใจผมในการกลับมา ขอบคุณมากๆครับ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ maxLiverpool อ่านกระทู้
    รอ แปป เด๋ว อ่านให้
    ขอบคุณครับที่ช่วยอ่าน

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Rex อ่านกระทู้
    นานนะ ลืมล่ะ นานนนนนนนนน
    ฮ่าๆ แหม ใช่เลยครับ 555+

    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย taone1414 : 15th February 2012 เมื่อ 19:43

  6. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #5
    Bayou Country
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    New Orleans, LA, United States
    กระทู้
    5,932
    กล่าวขอบคุณ
    4,555
    ได้รับคำขอบคุณ: 8,950
    ปูเสื่อรอครับ เดี๋ยวมาอ่าน

  8. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  9. #6
    Stay In The Dream....
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Find me in the Dream
    กระทู้
    1,014
    กล่าวขอบคุณ
    1,000
    ได้รับคำขอบคุณ: 697
    Blog Entries
    2
    ขอต้อนรับกลับครับ~

    ---------------------------------------------------------------

  10. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  11. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    welcome back comrade

    นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์

  12. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #8
    =Xian=
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    681
    กล่าวขอบคุณ
    1,381
    ได้รับคำขอบคุณ: 221
    รอ แปป เด๋ว อ่านให้

  14. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  15. #9
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382
    อัพเดท Chapter 16 ครับ

    ใกล้จบแล้วนะเนี่ย

    (มันยืดเรื่องต่อไม่ไหวแล้ว)


  16. #10
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Thrones
    กระทู้
    1,744
    กล่าวขอบคุณ
    41
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,032
    Blog Entries
    2
    นานนะ ลืมล่ะ นานนนนนนนนน

  17. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  18. #11
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382
    อัพเดท Chapter 17 ครับ

    คาดว่าคงจะจบประมาณ ตอนที่ 19 ไม่ก็ 20 หนะครับ


 

Tags for this Thread

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top