ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 28
  1. #1
    ไม่มีความประนีประนอม
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ผู้ชนะในสงครามคือผู้ที่ถูกต้อง
    กระทู้
    2,780
    กล่าวขอบคุณ
    6,615
    ได้รับคำขอบคุณ: 7,922
    Blog Entries
    1

    [เรื่องน่ารู้] 10 มหาเศรษฐี ระดับโลก ที่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย

    เป็นเรื่องที่แปลกแต่จริงนะครับ คำว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" บางครั้งไม่ต้องจบระดับปริญญาก็สามารถประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่มีโอกาส ความเชื่อ และความพยายาม ตัวอย่าง 10 คนดัง ต่อไปนี้ที่ก้าวข้ามคำว่าใบปริญญาและประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่ตนเองได้เลือกเอง


    1. ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Virgin


    ด้วยภาพลักษณ์นักธุรกิจนอกกรอบ ตำราไหนว่าแน่พี่ขอแหก เสาะแสวงหาความท้าทาย ในการดำเนินชีวิตและธุรกิจ เลิกเรียนตั้งแต่อายุ 16 มาเอาดีด้วยการทำนิตยสารสำหรับนักเรียนเป็นธุรกิจ ค่อยๆ ขยายธุรกิจอื่นๆ มากมาย ไม่เว้นแม้แต่สายการบิน เป็นเพลย์บอยแถมรวยภาพที่ปรากฏก็เลยแสบๆ อย่างที่เห็น


    2. โคโค แชลแนล (CoCo Chanel) : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Channel


    เธอเกิดมากำพร้า เริ่มอาชีพเป็นเพียงช่างเย็บผ้า ในยุคที่สตรีต้องตัดชุดสตรีเท่านั้น แชนแนลผลักดันตัวเองอย่างกล้าหาญด้วยการออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย ด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและผสมผสานเนื้อผ้า สร้างเอกลักษณ์ให้ผลงานของเธอ แต่ที่สร้างชื่อให้เธอเป็นที่จดจำตลอดกาลคือ คือ น้ำหอม แชนแนลหมายเลข 5 อันโด่งดังนั่นเอง


    3. ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell) : ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Dell


    ไปไหนก็จะเห็นคอมพิวเตอร์-โน้ทบุ๊คยี่ห้อ Dell กันใช่ไหม ผู้ก่อตั้งคือ ไมเคิล เดลล์ เขาหยุดเรียนตั้งแต่อายุ 19 มาก่อตั้งบริษัท PC's Limited ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Dell, Inc และผันตัวเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จ มากที่สุดในโลก ในปี 1996 เดลล์ได้มอบทุนให้มหาลัยเทกซัสจำนวน 50 ล้านเหรียญ (ราวๆ 2,000 ล้านบาท) เพื่อยกระดับสุขภาพและการศึกษาของเยาวชน


    5. บิล เกตส์ (Bill Gates) : ผู้ก่อตั้ง Microsoft


    ติด อันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกปี 1995 - 2006 ช่วงวัยรุ่นหยุดเรียนเพราะมุ่งมั่นมากที่ จะตั้งบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ ชื่อความหมายเล็กจิ๋วว่า บริษัทไมโครซอฟท์ รวยล้นฟ้าแล้วยังใจบุญ เพราะครอบครัวบิลก่อตั้ง มูลนิธิ บิล & มาลิดา เกตส์ คอยช่วยเหลือด้านการศึกษาและสุขภาพแก่คนทั้งโลก


    6. สตีฟ จ็อปส์ (Steve Jobs) : ผู้ก่อตั้งและสร้างความยิ่งใหญ่ ให้แบรนด์ Apple


    เรียนมหาวิทยาลัยได้เทอมเดียวก็ไปทำงานให้กับ บริษัท อาตาริ ก่อนที่จะควบรวมเป็น บริษัท แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์ แต่ชื่อมันยาว เดี๋ยวนี้เลยตัดเหลือเพียง แอปเปิ้ล แบรนด์ล้ำๆ ที่ทำให้คนทั้งโลกคลั่ง กับผลงานล่าสุดอย่าง iPad และ iPhone 4 ครั้งหนึ่งสตีฟ จ็อปส์เคยเป็น CEO ให้ Pixar ก่อนที่จะควบรวมกับ วอลท์ ดีสนีย์


    7. เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) : ผู้กำกับระดับออสการ์


    หยุด เรียนตอนปี 2 ไปทำงานรับจ้างทั่วไป ทั้งขับรถบรรทุกและงานเขียน ระหว่างนั้นก็พยายามเรียนด้าน สเปเชียล เอฟเฟค ด้วยตนเอง จากวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาในห้องสมุด หลังจากดูหนัง สตาร์วอร์ จึงเลิกขับรถบรรทุก ไปหางานในวงการภาพยนตร์ทำ จากงานผู้ช่วย ก็ผันมาเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานที่กลายเป็นตำนาน อย่าง คนเหล็ก 2, ไททานิค และ ภาพยนตร์ 3D สุดอลังการอย่าง อวาตาร


    8.เลดี้ กาก้า (Lady Gaga) : นักร้องซุปเปอร์สตาร์ หลุดโลก


    กว่าจะเป็นราชินีเพลงป๊อปแดนซ์และเจ้าแม่แฟชั่นหลุดโลกคนนี้ เธอหัดเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เริ่มเขียนโน้ตเปียโนตอน 13 พออายุ 17 ปีก็แต่งเพลงเอง จนกระทั่งปีสองเทอมสอง เธอหยุดเรียนและหันไปเอาดีในอาชีพดนตรี ด้วยเงินเพียงน้อยนิด จนประสบความสำเร็จในชื่อ "เลดี้ กาก้า" ที่ทั้งโลกรู้จัก ชื่อที่ผันมาจากชื่อเพลง "เรดิโอ กา ก้า"


    9. ไทเกอร์ วู๊ดส์ (Tiger Woods) : อดีตนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลก


    เล่นกอล์ฟตั้งแต่เดินได้ โชว์วงสวิงให้โลกตะลึงตอนอายุ 2 ขวบ เอาชนะพ่อตัวเองได้ตอน 11 ขวบ หลังจากคว้าแชมป์รายการดังมากมาย จึงตัดสินใจหยุดเรียนและเปลี่ยนเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ ขณะอยู่ปี 2 ผูกขาดตัวเองเป็นนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมานานหลายปี


    10. มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) : ผู้ก่อตั้ง Facebook


    ผู้ก่อตั้ง Facebook ที่คนทั้งโลกติดกันงอมแงม พัฒนาเฟสบุ๊คกับเพื่อนร่วมชั้น ตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ที่ ฮาวาร์ด หลังจากที่เฟสบุ๊คได้รับความนิยมและทำเงินมหาศาล ก็หยุดเรียน เพื่อเป็นผู้บริหารของเฟสบุ๊คเต็มตัว ปัจจุบันเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก

    *จะดีมั้ยถ้าประเทศไทย วัดคุณภาพคนและคุณภาพงาน จากตัวตนและผลงานของคนๆนั้นจริงๆ โดยไม่ดูที่ใบปริญญา?!?





    ใครไม่กด "กล่าวขอบคุณ" เจอ "สปาต้าร์" แน่


  2. #2
    วิ่งไปให้ถึงความฝัน ˜^๐^
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    706
    กล่าวขอบคุณ
    1,155
    ได้รับคำขอบคุณ: 817
    ดีมากเลยครับคุณท็ิอป ดีกว่าคนบางคนที่เที่ยวออกมาบอกเรียนน้อยเรียนไม่จบต้องทำงานกรรมกร

    ผมว่าคนพวกนี้วัดค่าจากความสามารถตัวเองมากกว่า


  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    .: drsekyPS :.
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    730
    กล่าวขอบคุณ
    448
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,499
    เห็นแล้วมีกำลังใจขึ้นมาทันทีเลย

  5. #4
    :.Party Animal.:
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    R.I.P. Mitchell Adam Lucker
    กระทู้
    761
    กล่าวขอบคุณ
    1,322
    ได้รับคำขอบคุณ: 432
    Blog Entries
    1
    งั้นผมจะเรียนไม่จบมั้ง -*- ไม่ใช่และ
    THIS IS SEMPITERNAL!

  6. #5
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    PSU.
    กระทู้
    1,111
    กล่าวขอบคุณ
    306
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,238
    ไทเกอร์วู้ด ลูกครึ่งไทยเมกันนะครับ -0-

    แต่สมัยก่อนคนมักจะมองว่า คนที่เป็นลูกครึ่งคนผิวสี แม่เป็นผู้หญิงขายบริการ ค่านิยมของคนไทยที่ำไม่ดีเลย


  7. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    1,660
    กล่าวขอบคุณ
    1,155
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,568
    ผมไม่อยากจะเชื่อ สตีฟ จ็อปส์ เรียนมหาวิทยาลัยได้เทอมเดียวก็ไปทำงาน

  8. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    273
    กล่าวขอบคุณ
    8
    ได้รับคำขอบคุณ: 20
    ขอบคุณครับ

  9. #8
    FBIkongza™
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Chonburi
    กระทู้
    689
    กล่าวขอบคุณ
    651
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,167
    ขอบคุณครับ ความรู้

  10. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    261
    กล่าวขอบคุณ
    15
    ได้รับคำขอบคุณ: 211
    Blog Entries
    1
    ลำดับ 5. บิล เกตส์ ไปเอารูปใครมาหว่านั่น = =

  11. #10
    SNOWBALL
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    New York
    กระทู้
    1,586
    กล่าวขอบคุณ
    2,302
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,594
    ไอนี่ติดไปกับเขาด้วย


    ... " JOKERGAMETH " ...

  12. #11
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    987
    กล่าวขอบคุณ
    1,102
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,439
    คนแบบนี้พบได้ใน 1 ใน 10 ล้านคนครับ ฉะน้ั้น อย่าดีใจไป

  13. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    ที่อยู่
    Khlong Luang , Pathumthani
    กระทู้
    172
    กล่าวขอบคุณ
    29
    ได้รับคำขอบคุณ: 101
    โอ้วไม่นะ เจ๊ กาก้า ของฉันน ก็เรียนไม่จบ =W=
    แต่ก่อนเคยหล่อแบบ โดม ปกรณ์ ลัม จนกระทั่ง...ธนูปักที่หัวเข่า

  14. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,542
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,657
    มุมมองคนมันไม่เหมือนกันครับ..

    ลูกเรียนให้จบปริญาตรีนะ แล้วก็หางานทำ หาเงินเดือนให้ได้เยอะๆ แล้วมาเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ด้วยนะ (พ่อแม่สอนให้เป็นลูกจ้าง)

    ลูกเรียนให้จบแล้วทำตามสิ่งที่ลูกชอบ แม่จะเป็นกำลังใจให้ หรือเปิดกิจการเป็นของตัวเองนะลูก จะได้เป็นเจ้าคนนายคน.. (พ่อแม่สอนให้เป็นเจ้าของกิจการ)
    "ชอบหันหลังกลับทุกครั้ง.. เมื่อตอนเวลาหันหลังหนีศัตรู"

  15. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  16. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    149
    กล่าวขอบคุณ
    11
    ได้รับคำขอบคุณ: 467
    ก็ดีครับ ที่เอามาให้ดู แต่อย่าวังอะไรเลยกับประเทศไทย อย่าคิดว่าจะได้ก้าวหน้าอะไร ถ้าเรียนไม่จบหรือไม่มีวุฒิการศึกษา
    ยังไงมันก็ไม่รับเราทำงานอยู่ดีนี้คือประเทศไทย แล้วยิ่งเป็นลูกน้องเค้า ในวงราชการ เห็นเราเป็นแค่ลูกกระจ้อก ใช้เอาๆ สั่งโน้นสั่งนี้
    เห็นเราเป็นขี้ข้า ไม่ทันใจมันก็ด่า ผมทำงานในงาน ราชการครับ รู้สึกแย่มาก ทำไหมมันถึงดูถูกความเป็นคนของเรามากนัก
    ทั้งที่***ก็ไม่ไมได้เก่งอะไรไปกว่ากูเลย แค่จบสูงเท่านั้น

    ถ้าเป็นเมืองนอก เป็นแค่เด็กล้างจานยังมีโอกาสได้เป็นเถ้าแก่เลย อยากเรียนรู้ก็ถามเค้าเค้าก็สอนให้ ไม่ งั้น คนรวยระดับโลก
    จะมีโอกาสได้ไง ถ้าไม่มีคนให้โอกาส ลองมาอยู่เมืองไทยดิ ได้เป็นแค่ฝรั่ง ขี้ นกอ่ะ

  17. #15
    ★Mark~Wrestlemania★
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    facebook.com/Mark2309
    กระทู้
    506
    กล่าวขอบคุณ
    12
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,148
    Blog Entries
    2
    ผมคงจะเป็นคนที่ 11 ฮ่าๆ <<< หลอกๆ

  18. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811
    การศึกษาของเมืองนอกมันต่างกับของไทยเยอะคับ
    ของเค้าเรียนเพื่อทำงานจริง ทำได้จริง จบมามีความรุ้จริง
    ส่วนของไืทย เรียนเอาไปประกาศครับ
    จบ..

  19. #17
    ForeverTogether
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,100
    กล่าวขอบคุณ
    644
    ได้รับคำขอบคุณ: 408
    หายไปคนนึงๆๆ เข้าของ เถ้าแก่น้อบ

  20. #18
    Uploading...
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพฯ
    กระทู้
    1,155
    กล่าวขอบคุณ
    166
    ได้รับคำขอบคุณ: 696
    ถึงเขาจะเรียนไม่จบแต่ไม่ใช่ว่าความรู้เขาจะน้อยนะ

  21. #19
    เลิกเกรียนแล้วไปเรียนซะ!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    โคโนฮะ
    กระทู้
    1,298
    กล่าวขอบคุณ
    451
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,776
    Blog Entries
    1
    ประเทศไทยก็มีครับ คนเรียนไม่จบแล้วได้ดี

    เยอะแยะ

    อยู่ที่ครอบครัวของคนนั้น พร้อมหรือป่าว และ ตัวบุคคล ว่าตัวเองชัวร์ไหม? ในความสามารถของตนเอง

    ประเทศไทยก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะ อย่ามองในแง่ลบขนาดนั้นซิครับ

    เราลองคิดว่าเราเป็นพ่อแม่ แล้ว มีลูก เราจะเลี้ยงลูกยังไง? วันๆ ปล่อยให้กินข้าวอยู่บ้าน แล้ว ก็นอน

    ตกดึกเอาตังไล่ไปให้ไปเที่ยวยังงี้หรอครับ? เราก็ต้องอยากให้รู้ได้ความรู้เยอะๆ ซิ ยิ่งเยอะเท่าไรยิ่งดี

    จะได้มีความคิดเหมือนคนที่เขาประสบความสำเร็จไงครับ

    ถ้าวันๆ เราไม่ได้เรียน ไม่ได้ไปทำอะไรเลย เราจะได้ความรู้จากอะไรละครับผม แล้วเราจะรู้จักบุคคลเหล่านี้ได้ยังไง?

    เดินไปถามขอทานซิครับ ว่ารู้จัก มาร์ค ไหม สตีฟ จ๊อบไหม รู้จัก Facebook ไหม เขาไม่รู้หลอกครับ

    น่าจะดีใจนะครับ ที่เรามีโอกาสดีกว่าพวกเขา ก็เรียนไปเถิดครับถ้ายังไหว ถ้าไม่ไหว ก็ลองค้นหาตัวเองดูว่า ตัวเองรักชอบ สิ่งไหน

    ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบเขาก็ได้นิครับ ^^ ลองคิดกันเล่นๆดูเอาเองนะ

    ป.ล.อย่างผมยังไม่รู้จะเอาดีด้านไหนเลย แต่ถ้ามีโอกาสได้เรียนก็จะเรียนไปเลื่อยๆ จนกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไร ^^


    ถ้าไม่เรียน ไม่หา ไม่ทำ อะไรเลย ................ มันก็ไม่มีวันรู้หลอกครับ
    "[อย่ารักพ่อเฉพาะวันที่ 5] [อย่ารักแม่เฉพาะวันที่ 12]"

  22. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  23. #20
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    1,421
    กล่าวขอบคุณ
    239
    ได้รับคำขอบคุณ: 683
    คนไทยก็ผู้ก่อตั้ง สาหร่ายเถ้าแก่น้อยไง
    MyCenter >>http://www.facebook.com/pages/MyCent...24463284339623<< กด Like ให้ด้วยนะครับ ถามเรื่องคอมพิวเตอร์ได้นะครับ ทุกอย่าง

  24. #21
    คนเดินดิน
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่นี่แหละ
    กระทู้
    704
    กล่าวขอบคุณ
    830
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,563
    ผมว่า นั่นไม่ใช่ bill gatesนะ
    "He who loses money, loses much; He who loses a friend, loses more; He who loses faith, loses all."

  25. #22
    SNSD @ Joker
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    829
    กล่าวขอบคุณ
    1,716
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,098
    ส่วนตัวผม กระทู้นี้ให้กำลังใจดี

    แต่อย่าลืมว่า มีกี่คนที่ไม่เรียนแล้วได้ดี ที่เหลือก็ตามเวรตามกรรม

  26. #23
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,000
    กล่าวขอบคุณ
    153
    ได้รับคำขอบคุณ: 433
    อันดับ4หาย ?

  27. #24
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    162
    กล่าวขอบคุณ
    9
    ได้รับคำขอบคุณ: 140
    ถ้าจำไม่ผิดนี่ ฝรั่งเค้าจะเรียนไวกว่าเรานะครับ เพราะผมเคยส่ง จดหมายไปที่รร.ในUSA(อ.บังคับให้เขียน เพื่อเป็นคะแนน = =) ตอนนั้นผมจำไม่ได้ว่าผมอยู่ม.2หรือ3นะ แต่เด็กที่นั่นเกรดเดียวกันแต่เค้าดันอายุน้อยกว่าเรา แล้วอีกอย่างฝรั่งเค้าก็ปลูกฝังกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ว่าพออายุ15ปี พ่อแม่เค้าจะไม่ให้เงินใช้ ต้องทำงานหาเงินมาใช้เอง

  28. #25
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    78
    กล่าวขอบคุณ
    83
    ได้รับคำขอบคุณ: 113
    อันดับ 5 นั้นมันเฮนรี่ ฟอร์ดแล้วครับ - -"


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top