โอเค พอเข้าที่ได้แล้วมั้ง
Anime Headquarters
[Anime HQ]
www.web-GIGA.com
www.Eternal-Will.cp.jo
www.Purple.co.jp
www.NitroPlus.co.jp
www.sky-fish.jp
www.LumpofSugar.co.jp
www.moon-stone.jp
www.frontwing.co.jp
www.kisskiss.tv
www.eukleia.co.jp
www.Tirkx.com
www.AnimeXZ.net
www.board.Kuroneko-Cocytus.in.th
www.Anime-Sharing.com
www.RedAlphra.com
www.Neregate.com
www.Akibatan.com
www.NicoNicoDouga.com
www.Amazon.com
www.GETCHU.com
www.countdown.mandragon.info
www.jp.PlayStation.com
www3.nhk.or.jp
*** คุณเคยเล่น Amnesia หรือยัง? ***
----------
อาจารย์อะสึชิ โมริ (NHK)
อะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้ท่านเรียนภาษาญี่ปุ่นครับ ใช่วีดิโอเกมหรือเปล่า หรือว่าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น วัฒนธรรม
ดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรือธุรกิจการงานครับ แต่ไม่ว่าเหตุผลของการเรียนคืออะไร ผมหวังว่าความสนใจที่ท่านมีต่อ
ญี่ปุ่นและภาษาญี่ปุ่นจะช่วยเติมเต็มชีวิตของท่านให้สมบูรณ์ขึ้นนะครับ
ตอนที่ผมสอนภาษาญี่ปุ่นอยู่ในประเทศไทย ผมตระหนักว่าภาษาไทยกับวัฒนธรรมไทยมีความสัมพันธ์กัน
อย่างไร การค้นพบดังกล่าวทำให้ผมชอบประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คำทักทายทั่ว ๆ ไปที่อาจได้ยิน
บ่อย ๆ ในประเทศไทยคือ กินข้าวหรือยัง สำนวนนี้มีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับการปฏิบัติของคนไทย คือ
รับประทานอาหารวันละหลายครั้ง สำนวนนี้สะท้อนถึงความเอาใจใส่ของผู้คนต่อการดำรงชีวิตและสุขภาพของ
คนรอบข้าง
การเรียนภาษาของประเทศใดประเทศหนึ่ง หมายถึง การทำความรู้จักวัฒนธรรมของประเทศนั้น ดังนั้น
การฝึกฝนให้ได้มาซึ่งทักษะภาษาญี่ปุ่นจะทำให้ผู้เรียนได้รู้จักญี่ปุ่นมากขึ้น ผมหวังว่าทุกท่านจะสนุกกับการเรียน
ภาษาญี่ปุ่นนะครับ
----------
Akrasnezh Kruvegazkov (Vocaloid_BRS)
หลายคนที่เข้ามาอ่านในนี้ผมคิดว่าอย่างน้อยก็ต้องเคยผ่านมังงะ อนิเมะ เกมจีบสาว หรือเอโรเกะมาบ้าง แต่ไม่ว่าคุณจะคิดถึงเรื่องนี้ไหม
ภาษาญี่ปุ่นก็เข้าไปอยู่ใกล้ชิดกับคุณแล้วล่ะ คุณคิดว่าภาษาญี่ปุ่นกับภาษาไทยมีความคล้ายคลึงกันมากแค่ไหนครับ สำหรับผมแล้ว ผมว่าเป็นอะไรที่น่าพิศวงจริงๆ
สำหรับการแปลภาษาญี่ปุ่นไปภาษาอื่นนั้นผมว่าภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงามและใช้งานง่าย ดีใจครับ ที่ได้ใช้ภาษานี้
คุณจะสังเกตุได้เลยว่าช่าวต่างชาติรัสเซีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อังกฤษ หรืออเมริกา สามารถเรียนภาษาไทยและใช้งานได้อย่างรวดเร็วทันที
หลายๆคนที่ดูอนิเมะหรืออะไรก็ตามก็จะมีความฝันหลายอย่างใช่ไหมครับ เช่นอยากซื้อแผ่น 'Bru-ray มาเก็บไว้' หรือไม่ก็ 'อยากไปญี่ปุ่น'
ภาษาญี่ปุ่นก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่น การพูดจาและความหมายในการใช้หมายถึงกาลเทศะและมารยาท เช่นการไปสายต่อนัด
ไม่ว่าจะรถเสียหรือรถไฟเกิดอุบัติเหตุ เมื่อไปถึงก็ต้องก้มหัวลงแล้วพูดว่า ขอโทษ (ซุมิมาเซ็น) แสดงความขอโทษที่ให้รอ แม้จะมีเหตุจำเป็นแต่เราก็ต้องทำให้เขารอนาน
ผมคิดว่าภาษาญี่ปุ่นคงเข้าไปในชีวิตของทุกๆคนมากขึ้น แม้จะไม่มากก็ตาม แต่ก็คิดว่าคงจะช่วยพัฒนาในหลายๆด้านที่คุณยังไม่รู้
โดยส่วนตัวนะครับ ผมไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นมาตรงๆมากมาย หรอกครับ เวลามันก็ไม่ได้มีมากขนาดที่จะไปเรียนแบบนั้น (ชีวิตดิ้นรนจนน่าสงสารน่ะครับ XD)
แต่บอกได้เลยครับว่าทุกคนสามารถเก่งภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอื่นๆได้ถ้าตั้งใจจริง
คำจำกัดความของ 'โอตาคุ' นั้น มีทั้งข้อดีน้อยนิดและข้อเสีย สายตาของคนอื่นมักจะมองว่าโอตาคุนั้นน่ารังเกลียดหรืออะไรก็ตามแต่
ผมจะไม่พูดว่า 'โอตาคุไม่เคยไปฆ่าใคร' หรือ 'โอตาคุไม่เคยสร้างปัญหาให้ใคร' แต่ผมจะพูดว่า 'โอตาคุทุกคนไม่เหมือนกัน'
แม้จะว่าติดอนิเมะหรือเอโรเกะแต่ก็ยังเหมือนคนปกติทั่วไปก็มีถมไป อีกอย่างอนิเมะของญี่ปุ่นนั้น หลายเรื่องมีเนื้อเรื่องดีมาก ช่วยสั่งสมประสบการณ์ในด้านอื่นๆและด้านความดีได้อีกด้วย
มีทั้งข้อคิดและส่วนอื่นๆที่ซ่อนอยู่ภายใน คุณรู้สึกไหมครับ เวลาที่ดูอนิเมะเรื่องใดเรื่องหนึ่งจบ ความรู้สึกอบอุ่นใจ ความรู้สึกเสียใจ หรือความรู้สึกอ้างว้าง นั่นคือเหตุผลที่อนิเมะได้รับความนิยมไปทั่วโลกครับ
อนิเมะสามารถดึงดูดใจผู้คนได้ ไม่ว่าจะเนื้อเรื่อง ตัวละคร หรือนักพากษ์ ทั้งสร้างมาจากมังงะ เอโรเกะ(เอโระเกมมุ) หรือเร็นไอ(เกมจีบสาว)
ซึ่งมีสิ่งต่างๆที่สามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งพวกนี้ ผู้ใหญ่หลายคนของญี่ปุ่นสนับสนุนเพราะเขาเห็นข้อดีของอนิเมะ ในขณะที่หลายคนไม่ว่าจะในญี่ปุ่นหรือต่างประเทศ
ต่างเห็นว่าเป็นสิ่งไร้สาระ ผมทราบดีครับ ว่าคนในเอเชียตะวันออกถูกส่งเสริมให้เรียนหนักขึ้น แม้เวลาที่จะออกไปเล่นข้างนอกยังไม่มี ต้องอ่านหนังสือวันละ 3-5 ชั่วโมง
ผมไม่ได้ตั้งใจเรียนหรอกนะ บอกตามตรง แต่ผมสามารถทำงานดีๆได้มีเงินเดือนมากพอที่จะซื้อนู่นซื้อนี่ไปเรื่อย อาศัยความรู้ที่เข้ามาเรื่อยๆจากการใช้ชีวิตประจำวันหรือในต่างประเทศ
คนเป็นทหารมันเครียดดี?นะครับ ผมจึงหาวิธีคลายเครียดโดยการดูอนิเมะหรือเล่นเอโรเกะนี่ล่ะ แม้ช่วงหลังๆจะเปลี่ยนไปทำงานไกด์นำเที่ยวก็เถอะ (ฮา)
มีหลายภาษาญี่ปุ่นผมอยากเรียนมากขึ้น อยากเก่งภาษาฝรั่งเศสมากกว่านี้ ภาษาอิตาลี่ ภาษาเยอรมัน etc. ฮะๆๆ ผมก็ไม่ทราบเช่นกันว่าจะไปรอดหรือเปล่า
แต่รู้อย่างเดียวว่าถ้าพยายามล่ะก็มันไม่อยากเกินที่จะทำหรอกครับ ดังนั้นผมหวังว่าที่ผมทำขึ้นทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์ไม่ว่าในด้านใดก็ด้านหนึ่งนะครับ
จะพยายามปรับปรุงเข้าเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นและจะตั้งใจทำตารางข้อมูลการเรียนรู้ออกมาเยอะๆครับ ขอให้สนุกนะครับ
ขอขอบคุณจากใจจริงที่กรุณาอ่านจนจบครับ...
- Harukaze A.K. Hoshino
----------
มุม FAQ (Frequently Asked Questions)
Q-kun : ทำยังไงล่ะทีนี้ บางจุดมีคันจิกับฮิรางานะและคำแปลเท่านั้น ไม่มีคำอ่านหรือโรมาจิให้อ่านเลย
A.K.-sama : ผมไม่ชอบเล่นเกมต่ำกว่าระดับ Normal และทุกท่านที่เข้ามาอ่านก็จะไม่มีระดับ Easy ให้เลือกอ่านมากนัก
Q-kun : แล้วคนที่เพิ่งเริ่มต้นล่ะ จะทำยังไง
A.K.-sama : แข็งแกร่งรอด อ่อนก็ดับไป (ไก่ดับไป) สังหารมอนสเตอร์ LV ต่ำก็ได้ EXP ต่ำ สังหารมอนสเตอร์ LV สูงผลตอบแทนก็ได้มากตาม
Q.-kun : อธิบายแบบนี้คนอื่นเขาจะเข้าใจไหม ขอถามหน่อย
A.K.-sama : ถ้างงตั้งแต่ตรงนี้ก็แสดงว่าเป็น -ไก่อ่อน- ของแท้ รีบออกไปจากกระทู้นี้ก่อนที่จะงงไปมากกว่านี้ดีกว่า (ชาวร็อคมันต้องหาทางเข้าให้ได้!)
PS. ต้องการถามอะไรให้โพสว่า "Questions : ตามด้วยคำถาม" แล้วผมจะนำมาตอบข้างบนนี้ครับ
----------
ไร้สาระเหมือนเดิม
Pvt. : เอจจิคืออะไรครับท่าน?
Lt. Col. : Ecchi คือการอ่านตัว H แบบญี่ปุ่น หรือจะแปลแบบ Ecchi ตามที่เข้าใจกันก็ได้
Pvt. : แล้ว H ที่ว่ามันคืออะไรครับ
Lt. Col. : ...Hentai ครับ
Pvt. : แล้ว Hentai คืออะไรครับ
Lt. Col. : ...
Pvt. : ทำไมไม่ตอบครับท่าน
Lt. Col. : ขอเวลาคิดแปปนึง
Pvt. : คิดออกหรือยังครับท่าน
Lt. Col. : Happiness - Enslave - N.E.E.T. - Thirst - Anti-3D - Imagination
Pvt. : ช่วยแปลให้สักนิดสิครับ
Lt. Col. : นี่เอ็งลงทุนแค่ถามอย่างเดียวเรอะ?
Pvt. : แล้วแปลว่าอะไรล่ะก็ครับ
Lt. Col. : อ่า... มันคือความสุข บางทีอาจจำให้เราตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ได้ แล้วก็สามารถทำให้เราเป็นนีทได้ บางครั้งก็อาจจะรู้สึกกระหาย ที่สำคัญคือเกิดอาการต่อต้าน 3D ในโลกจริง อีกอย่างหนึ่งคือการจิ้น
Pvt. : ไม่เคยได้ยินนะท่าน
Lt. Col. : เพิ่งคิดเมื่อกี้
Pvt. : ทำอย่างนั้นได้ไงครับ เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด...- อ๊ะ
Lt. Col. : หมดเวลาแล้ว เอาล่ะๆ เก็บข้าวของไปเอาค่าตัวแล้วกลับบ้านนอนดีกว่า
Pvt. : ดะ-เดี๋ยวสิครับท่าน อธิบาย-
Lt. Col. : คัทได้แล้วโว้ย!
[จบ!]
----------
(ปรับตารางใหม่รอบที่ 9 จากตารางเก่า)
**************************************
อักษรญี่ปุ่นฮิรางานะ
เนื่องจากพอเอาขึ้นเว็บแล้วตารางมันเละเทะไปหมด ตัวล่างกับตัวบนไปตรงกัน ขอเวลาสักหน่อยในการปรับบรรทัดนะครับ
[A/O/I/E/U]
あ い う え お
อา อิ อู เอะ โอ
[K]
か き く け こ
คะ คิ คุ เคะ โคะ
[S/Z/SH]
さ し す せ そ
ซะ ชิ ซึ(สุ) เซะ โซะ
[T/CH/TSU]
た ち つ て と
ทะ จิ ซึ เทะ โทะ
[N]
な に ぬ ね の
นะ นิ นุ เนะ โนะ
[H]
は ひ ふ へ ほ
ฮะ(วะ) ฮิ ฟุ เฮะ โฮะ
[M]
ま み む め も
มะ มิ มุ เมะ โมะ
[Y]
や ゆ よ
ยะ ยุ โยะ
[R]
ら り る れ ろ
ระ ริ รุ เระ โระ
[W/NN]
わ を ん
วะ โวะ(โอะ) อึน
การเรียงแถวแบบนี้เรียกว่า ラ行 (ラぎょう - ระเกียว) เป็นการเรียงอักษรของทั้งฮิรางานะและคาตาคานะ
**************************************
การออกเสียงจะเปลี่ยนตามตัว 'เตน เตน' (ขีดคู่สองอันเล็กๆ) และ 'มารุ' (วงกลมเล็กๆ)
ซึ่งแต่ละตัวอักษรก็จะมีการออกเสียงเฉพาะตัวในการใส่เตนๆและมารุ
[G]
が ぎ ぐ げ ご
กะ(งะ) กิ กุ เกะ โกะ
[S/Z/J]
ざ じ ず ぜ ぞ
ซะ จิ ซึ(ซุ) เซะ(เสะ) โซะ
[D/Z/J]
だ ぢ づ で ど
ดะ จิ (ท)สึ เดะ โดะ
[B]
ば び ぶ べ ぼ
บะ บิ บุ เบะ โบะ
[P]
ぱ ぴ ぷ ぺ ぽ
ปะ ปิ ปุ เปะ โปะ
**************************************
และการออกเสียงอื่นๆที่ใช้งานตัวฮิรางานะแบบ(จิ๋วๆ)
きゃ きゅ きょ
เคียะ คู โค
Kya Kyu Kyo
みゃ みゅ みょ
เมียะ มู โม
Mya Myu Myo
みょう みゅう
เมียว มูว
Myou Myuu
ตัวแบบเล็กมี
ぁ ぃ ぅ ぇ ぉ っ ゃ ゅ ょ ょ ゎ
(ซึ่งเวลากด Shift บนคีย์บอร์ดเวลาพิมพ์ตัวฮิรางานะก็สามารถเปลี่ยนจากตัวปกติเป็นตัวเล็กได้ แต่เฉพาะตัวที่มีอักษรเล็กเท่านั้น)
อักษรที่ใช้คู่ตัวฮิรางานะจิ๋ว
き し ち に ひ み り ぎ じ ぢ
**************************************
อักษรญี่ปุ่นคาตาคานะ
ア イ ウ エ オ
A I U E O
カ キ ク ケ コ
KA KI KU KE KO
サ シ ス セ ソ
SA SHI SU SE SO
タ チ ツ テ ト
TA CHI TSU TE TO
ナ ニ ヌ ネ ノ
NA NI NU NE NO
ハ ヒ フ ヘ ホ
HA HI FU HE HO
マ ミ ム メ モ
MA MI MU ME MO
ヤ ユ ヨ
YA YU YO
ラ リ ル レ ロ
RA RI RU RE RO
ワ ヲ ン
WA O(WO) N
**************************************
ガ ギ グ ゲ ゴ
GA GI GU GE GO
ザ ジ ズ ゼ ゾ
ZA JI ZU ZE ZO
ダ ヂ ヅ デ ド
DA JI ZU DE DO
バ ビ ブ ベ ボ
BA BI BU BE BO
パ ピ プ ペ ポ
PA PI PU PE PO
**************************************
キャ キュ キョ
Kya Kyu Kyo
ミャ ミュ ミョ
Mya Myu Myo
ミョウ ミュウ
Myou Myuu
ァ ィ ゥ ェ ォ ッ ャ ュ ョ ョ ヮ
キ シ チ ニ ヒ ミ リ ギ ジ ヂ
**************************************
!!!อ่านก่อน!!!
-บทความตรงนี้เครดิตจาก
www3.nhk.or.jp
การสนทนาและเกร็ดความรู้ในการทักทายและพูด ผมปรับเปลี่ยนบางส่วน แต่ทราบไว้ก่อนว่าส่วนนี้ผมไม่ได้ทำเองทั้งหมดครับ(แต่ยังไงก็ต้องพิมพ์เองทั้งหมดนี่สิ - -*)
To download free audio lessons, visit NHK WORLD
ตัวละครที่จะใช้ในการดำเนินเรื่อง
PS. เอาตัวละครของตัวเองมาใช้ (ใช้ประกอบเรื่องเฉยๆ อย่าไปคิดมาก)
1. เอเลเทียร์ [エーレーテァル] (Eletear A.K. Vermillion)
2. เคียวกะ [鏡花] (Tsumisaki Kyouka)
3. คริส [クリス] (ぶちょう - 部長) (Ryuusen Chris)
4. คานาเมะ [要] (Oimiya Kaname)
5. อาซามิ [浅水] (Kumiga Asami)
*ตัวละครจาก Frustrative Another (Arts of War) - Frustrative Another Plus (The Dragon Maid-en) และ After School Fortississimo ไม่อนุญาติให้เอาไปให้ตามใจชอบนะ*
- เนื่องจากทั้งหมดก่อนลงกระทู้ผมจะทำใส่ใน Notepad เอาไว้(เปิดใช้งานง่าย) แล้วที่แย่คือ Notepad มันพิมพ์ฟุริงานะไว้บนคันจิไม่ได้ ก็อาศัยจำเอาแล้วกันนะครับ ตัวคันจิน่ะ
----------------------------------------------------
Day of War 1! : はじょめまして 私わエーレーテァルです
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
はじめまして。
HAJIMEMASHITE.
สวัสดีค่ะ (ใช้เฉพาะในตอนที่พบเจอกันเป็นครั้งแรกเท่านั้น)
私様エーレーテァルだよ!。
WATASHI-SAMA WA EEREETEARU DAYO!.
ฉันชื่อเอเลเทียร์
ロシアから来ました。
ROSHIA KARA KIMASHITA.
มาจากรัสเซีย
よろしくお願いします。
YOROSHIKU ONEGAI SHIMASU.
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- เวลาแนะนำตัว จะพูดว่า "watashita ___ desu" ความหมายถึงประโยคนี้คือ "I'm..." หรือ "ฉันชื่อ... / ผมชื่อ..."
- การเปลี่ยนคำในรูปอดีตให้เปลี่ยนส่วน -masu เป็น -mashita
เช่น kimasu (มา) -> kimashita (มาแล้ว) ikimasu (ไป) -> ikimashita (ไปแล้ว)
- คือว่าเป็นการแนะนำตัวที่ผมทำขึ้นมาเอง(บทแรกก็มั่วไป) เวลาแนะนำตัวอย่าไปพูดแบบนี้นะ ยิ่งถ้าคนไม่รู้จักล่ะก็ไร้มารยาทเต็มพิกัดเลย
Day of War 2! : それは何ですか?
>>>>>>>>>>
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
エーレーテァルさん、 これがあなたの名詞です。
EEREETEARUSAN, KORE GA ANATA NO MEISHI DESU.
คุณเอเลเทียร์ นี่คือนามบัตรของคุณค่ะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
ありがとうね強化ちゃん。それは何ですの?
ARIGATOUNE KYOUKA-CHAN. SORE WA NAN DESU NO?
ขอบคุณนะเคียวกะจัง แล้วนั่นคืออะไรเหรอ?
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
これは社員証です。
KORE WA SHAINSHOU DESU.
นี่คือบัตรประจำตัวพนักงานค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- เมื่อจะระบุชื่อสิ่งของที่สามารถชี้แล้วบอกถามให้พูดว่า : kore wa ___ desu = "นี่คือ..."
- เมื่อจะถามชื่อสิ่งของให้ถามว่า : (kore / sore / are) wa nan desu ka? = "(นี่ / นั่น/ โน่น) คืออะไร"
Joutatsu no Kotsu [上達の骨]
.::คำว่า นี่-นั่น-โน่น ไหน (ko-so-a-do kotoba)::.
คำที่ใช้ชี้ระยะ kore (นี่) sore (นั่น) are (โน่น) กับคำถามที่พูดว่า dore (ไหน) ภาษาญี่ปุ่นเรียกคำกลุ่มนี้ว่า "ko-so-a-do kotoba" ซึ่งเป็นการนำเสียงต้นของแต่ละคำมาพูดต่อกันนั่นเอง
โดยที่คำว่า "kotoba" มีความหมายว่า "คำ/คำพูด" สำหรับ ko-so-a-do kotoba ที่ใช้ชี้สถานที่นั้นก็มี นั่นคือ koko (ที่นี่) soko (ที่นั่น) asoko (ที่โน่น) doko (ที่ไหน)
คำที่เรียกว่า ko-so-a-do kotoba นำไปใช้ได้สะดวกมาก เพราะสามารถพูดบ่งชี้ลงไปว่า "นี่" "นั่น" "โน่น" ได้ โดยไม่จำเป็นต้องระบุชื่ออย่างชัดเจน
แต่คู่สนทนาอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งเดียวกันกับที่ผู้พูดพูดในทุกๆ ครั้งได้
เช่น เอเลเทียร์อ่านหนังสือโดยไม่หันไปไหนแล้วชี้ให้ผู้ช่วยตัวเองไปหยิบของให้โดยที่ตายังมองหนังสือ "เอานั่นให้หน่อย" คือเธออยากได้ที่คั่นหนังสือแต่ผู้ช่วยของเธอมองไปตามที่นิ้วชี้แล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมสีแดงตัวโปรดของเธอมาแทน
Day of War 3! : はい、わかりました
>>>>>>>>>>
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
エーレーテァルさん、 ちょっと
。
EEREETEARU-SAN, CHOTTO...
คุณเอเลเทียร์ รบกวนสักครู่
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
はい。
HAI.
คะ
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
今日、これから会議があります。出て下さい。
KYOU, KOREKARA KAIGI GA ARIMASU. DETE KUDASAI.
วันนี้ จากนี้ไปจะมีการประชุมค่ะ กรุณาเข้าประชุมด้วยค่ะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
はい、 わかりました。場所はどこですか?
HAI, WAKARIMASHITA. BASHO WA DOKO DESU KA?
ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ ประชุมที่ไหนเหรอคะ
<<<<<<<<<<
Comment
- รูปปฏิเสธของคำที่ลงท้ายด้วย -masu : ให้เปลี่ยน -masu เป็น - masen
เช่น wakarimasu (เข้าใจแล้ว) -> wakarimasen (ไม่เข้าใจ)
- ___ wa doko desu ka? = "...ที่ไหน" [saitama wa doko desuka ? - ไซตามะอยู่ที่ไหน] [koko wa doko desu ka? - ที่ไหนที่ไหน]
Day of War 4! : いま、何時ですか?
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
いま、何時ですか?
IMA, NANJI DESU KA?
ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ?
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
4時15分よじじゅうごふんです。
YOJI-JUUGOFUN DESU.
4 โมง 15 นาทีค่ะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
会議かいぎは何時なんじに終おわりますか?
KAIGI WA NANJI NI OWARIMASU KA?
ประชุมเสร็จกี่โมงคะ?
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
5時ごじごろですよ。
GOJI GORO DESU YO.
ประมาณ 5 โมงค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- เมื่อจะบอกเวลา เติมคำว่า -ji [จิ] (โมง) เข้าไปที่หลังตัวเลข
เมื่อบอกนาที เติมคำว่า -fun [ฟุน] หรือ -pun [ปุน] (นาที) เข้าไปที่หลังตัวเลข
- nanji desu ka? = "ตอนนี้กี่โมงครับ/คะ?"
Day of War 5! : 一緒いっしょに帰かえりませんか?
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
鏡花ちゃん、一緒いっしょに帰かえりましょう。
「KYOUKA-CHAN, ISSHO NI KAERIMASHOU.」
เคียวกะจัง กลับด้วยกันเถอะ
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
ごめんなさい。まだ仕事しごとが終おわりません。クオンさんも手伝てつだってください。
「GOMENNASAI. MADA SHIGOTO GA OWARIMASEN. EEREETEARU-SAN MO TETSUDATTE KUDASAI.」
ขอโทษนะคะ งานยังไม่เสร็จเลยค่ะ คุณเอเลเทียร์กรุณาช่วยฉันหน่อยสิคะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
えーと、今日きょうは残業ざんぎょうできません。
「EETO, KYOU WA ZANGYOU DEKIMASEN.」
เอ่อ วันนี้ฉันทำงานล่วงเวลาไม่ได้น่ะ
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
えっ
。
「E
?」
เอ๋?
<<<<<<<<<<
Comment
- คำพูดสำหรับการเชิญ : เปลี่ยน -masu ที่ท้ายกริยา - masen ka?
เช่น ikimasu (ไป) -> ikimasenka? (ไปด้วยกันไหม) (ในที่นี้เอเลเทียร์พูดด้วยความสนิทสนมว่า กลับด้วยกันเถอะ)
- กริยาในรูป -te + kudasai = "กรุณา..."
เช่น tetsudaimasu (ช่วยเหลือ) -> tetsudatte kudasai (กรุณาช่วยหน่อย)
Joutatsu no Kotsu [上達の骨]
.::เวลาทำงาน::.
ในบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เวลาทำงานคือ 9 โมงเช้า จนไปถึง 5 โมงเย็น ในระยะหลังมานี้ พนักงานสามารถกำหนดเวลาทำงานแบบยืดหยุ่น
ทำให้สามารถเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนได้ และทำงานโดยปรับให้เข้ากับรูปแบบการดำเนินชีวิตได้จึงเป็นที่นิยม
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เพื่อนร่วมงานกับเจ้านายกำลังทำงานล่วงเวลากันอยู่ คนที่รู้สึกไม่ดี ถ้าตัวเองจะกลับก่อนเมื่อทำงานเสร็จแล้วมีเป็นจำนวนมาก
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริง ช่วงเวลาแบบนั้นคือช่วงเวลาที่ไม่ควรจะลืมความรู้สึกเอาใจใส่ต่อเพื่อนร่วมงาน ควรจะกล่าวว่า 'o-saki ni shitsurei shimasu' "ขอตัวก่อนนะครับ/คะ"
แล้วค่อยออกจากบริษัท หรือหลังเลิกงานพร้อมกันก็บอกกล่าวด้วยด้วยคำว่า 'o-sakaresamadeshita' "เหนื่อยหน่อยนะครับ"
***จากบทนี้ไป(บทที่ 6) จะไม่ใช้ ROMAJI ในประโยคพูด เป็นการฝึกไปในตัวครับ พยายามเข้าแล้วกัน***
Day of War 6! : 銀行に行ってから、会社に来ます
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
明日の朝、市役所と銀行に行ってから、会社に来ます。
「あしたのあさ、しやくしょとぎんこうにいってから、かいしゃにきます。」
พรุ่งนี้จะไปที่ทำการเมืองและธนาคารก่อน แล้วค่อยมาบริษัทค่ะ
部長 「ぶちょう」 (หัวหน้า) - クリス [Christ] (คริส)
/
そうですか。 午前中に市役所と銀行ですね。
「そうですか。 ごぜんちゅうにしやくしょとぎんこうですね。」
อย่างนั้นเหรอคะ ในช่วงก่อนเที่ยงที่ทำการเมืองและธนาคารนะคะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
はい。銀行で口座を開きます。
「はい。ぎんこうでこうざをひらきます。」
ค่ะ จะเปิดบัญชีที่ธนาคารค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- เมื่อจะพูดถึงการกระทำโดยไล่ลำดับไป จะเปลี่ยน -masu ของคำให้เป็น -te
เช่น ikimasu (ไป) -> kimasu (มา) -> itte, kite, tabemasu (ไปแล้วก็...มาแล้วก็...ค่อยทาน)
Joutatsu no Kotsu [上達の骨]
.::บริการสำหรับชาวต่างชาติ::.
จำนวนชาวต่างชาติที่ดำรงชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นกำลังเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างชาวต่างชาติกับคนญี่ปุ่น
ก็มีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างกัน จากสภาพเช่นนี้ ทางการท้องถิ่นจึงดำเนินมาตรการหลายอย่าง
ที่เคาน์เตอร์บริการและบนโฮมเพจของทางการท้องถิ่นมีบริการให้ข้อมูลเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น อังกฤษ โปรตุเกส ฝรั่งเศส(มั้ง) จีน เกาหลี
บนโฮมเพจ ผู้ใช้จะสามารถทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการแพทย์และบริการสาธารณะที่ใช้ภาษาต่างประเทศได้
และมีคำอธิบายเกี่ยวกับวิธีทิ้งขยะด้วย เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์จะต้องรวบรวมและทิ้งให้ตรงกับวันที่กำหนดไว้
เพราะวิธีการแบกขยะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของชุมชน
เช่น งานชุมนุมต่างๆ และยังมีการสอนภาษาญี่ปุ่นให้โดยอาสาสมัครอีกด้วย
Day of War 7! : 口座こうざを開ひらきたいんですが
>>>>>>>>>>
銀⾏員 「ぎんこういん」 (พนักงานธนาคาร)
/
今日はどのようなご用件ですか?
「きょうはどのようなごようけんですか?」
วันนี้ทำธุระอะไรคะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
口座お開きたいんですが...。
「こうざおひらきたいんですが...。」
อยากจะเปิดบัญชีครับ...
銀⾏員 「ぎんこういん」 (พนักงานธนาคาร)
/
こちらにお名前とご住所、お電話番号お書いてください。
「こちらにおなまえとごじゅうしょ、おでんわばんごうおかいてください。」
กรุณาเขียนชื่อและที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่นี่ค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- สำนวนที่ใช้แสดงความรู้สึกว่า อยากทำ... พูดได้โดยตัด -masu ของคำ แล้วเติม -tai desu
เช่น ikimasu ( ไป ) -> ikitai desu ( อยากไป )
Day of War 8! : どうしよう
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
どうしよう...。財布を落としてしまいました。
「どうしよう...。さいふをおとしてしまいました。」
จะทำยังไงดี... ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายไปแล้วค่ะ
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
本道? いつ最後に使いましたか?
「ほんどう? いつさいごにつかいましたか?」
จริงเหรอ ใช้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เหรอคะ?
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
いつかな...。
「いつかな...。」
เมื่อไหร่กันนะ
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
とにかく警察に届けましょう。
「とにかくけいさつにとどけましょう。」
ยังไงก็ตาม แจ้งตำรวจกันก่อนเถอะค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- เมื่อต้องการสื่อเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ตัด -masu แล้วเติม -te ต่อด้วย shimaimashita
เช่น otoshimasu (ทำหล่น) otoshimashita (ได้ทำหล่น) otoshite shimaimashita (ทำหล่นไปซะแล้ว)
Joutatsu no Kotsu [上達の骨]
.::ป้อมตำรวจ 『交番』::.
โดยทั่วไป พอคนญี่ปุ่นเก็บกระเป๋าสตางค์หรือโทรศัพท์มือถือได้ ก่อนอื่นก็จะคิดว่า "ต้องเอาไปส่งให้ตำรวจก่อน"
ส่วนผู้ที่ทำของมีค่าหาย ก็จะไปแจ้งตำรวจโดยบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งนั้น ตลอดจนวัน และเวลาที่คิดว่าทำหาย
ถ้ามีคนเอาของนั้นมาส่งไว้ที่ตำรวจ ทางตำรวจก็จะติดต่อเจ้าของเพื่อคืนของให้ ในบทสนทนาของเรา การที่เคียวกะ
พูดว่า "แจ้งตำรวจกันก่อนเถอะ" ก็มีจุดประสงค์ดังที่ว่านี้
ตามจุดต่าง ๆ ในเมืองของญี่ปุ่น จะมีป้อมตำรวจ ป้อมตำรวจ เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า kouban ระบบป้อมตำรวจนี้
มีอายุเก่าแก่นานกว่าร้อยปี ได้รับการจัดทำขึ้นเพื่อพิทักษ์สวัสดิภาพในกรุงโตเกียว หลังจากนั้น ก็แพร่หลายออกไปทั่ว
ประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ประจำป้อม โดยทั่วไปประชาชนจะเรียกอย่างคุ้นเคยและเป็นมิตรว่า omawarisan
งานหลัก ๆ ของ omawarisan คือการออกตระเวนตรวจตราพื้นที่ แต่นอกจากงานหลักแล้ว ก็ยังทำอีกหลายอย่าง เช่น
รุดไปยังพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุหรืออาชญากรรม ช่วยเหลือเด็กหลง หรือคนเมา เป็นต้น และถ้าหากเราไปที่ไหนที่เราไม่คุ้นเคยมาก่อน
แล้วเกิดหลงทางขึ้นมา ป้อมตำรวจจะเป็นที่พึ่งสำหรับการถามทางได้ดีที่สุด
Day of War 9! : 鏡花さんはいらっしゃいますか?
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
はい。魔法画迷う離電器です。
「はい。まほうがまようりでんきです。」
ค่ะ บริษัทมาโฮวคาคุมาโยวริค่ะ
取引先 「とりひきさき」 (ลูกค้า)
/
エタナール会社の聖俊ともうしなすが、強化さんはいらっしゃいますか?
「ETANAARUがいしゃのせいしゅんともうしなすが、きょうかさんはいらっしゃいますか?」
ผมชื่อเซย์ชุนจากบริษัท Eternal ครับ คุณเคียวกะอยู่ไหมครับ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
かっ、強化ですね。少々お待ちください。
「かっ、きょうかですね。しょうしょうおまちください。」
คะ-เคียวกะหรือคะ รอสักครู่นะคะ
<<<<<<<<<<
Comment
ในการพูดคุยโทรศัพท์เชิงธุรกิจกับบุคคลภายนอก ควรใช้ประโยคดังต่อไปนี้
- (นามสกุลของผู้พูด) to moushimasu = "ผม/ดิฉันชื่อ..."
- (นามสกุลของบุคคลที่อยากติดต่อ) wa irasshaimasu ka? = "คุณ...อยู่ไหมครับ/คะ"
Joutatsu no Kotsu [上達の骨]
.::การรับและพูดคุยโทรศัพท์::.
ในภาษาญี่ปุ่น การพูดคุยทางโทรศัพท์โดยใช้ภาษาแสดงความเคารพให้ถูกต้องเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก จุดหลักในการใช้
ภาษาแสดงความเคารพคือ การทำให้สถานะของ "ตัวเองกับอีกฝ่ายหนึ่ง" "คนในกับคนนอก" แตกต่างอย่างชัดเจน
เมื่อพูดถึงคนในบริษัทของตัวเอง ขณะที่พูดคุยกับผู้อื่นก็จะเอ่ยอ้างถึงคนในบริษัทตัวเองด้วยภาษาถ่อมตัว โดยถือ
สถานะของคนคนนั้นให้เท่าเทียมกับตัวเองแม้ว่าคนคนนั้นอาจจะเป็นเจ้านายก็ตาม เช่น มีโทรศัพท์มาหาท่านประธานโฮชิโนะ
ตามปกติ เวลาเรียกท่านประธาน จะเรียกว่า Hoshino shachou หมายถึง "ท่านประธานโฮชิโนะ" แต่เมื่อคุยกับคน
นอกบริษัทจะพูดว่า Hoshino wa gaishutsu shite imasu แปลว่า "โฮชิโนะออกไปข้างนอกอยู่ครับ/ค่ะ" ซึ่งเป็น
การเรียกแค่ชื่อเฉย ๆ โดยไม่ใส่คำแสดงการให้เกียรติหรือตำแหน่ง
อีกเรื่องหนึ่งคือที่ญี่ปุ่นนั้น นามสกุลอาจจะซ้ำๆกันมากและคล้ายๆกัน แต่จะให้ยกตัวอย่างผมก็คิดไม่ทันจริงๆ ลองคิดเอานะครับ ว่าชื่อไหนคล้ายๆกันบ้าง
คนที่นามสกุลและชื่อเหมือนหรือคล้ายๆ กันก็มีมาก ในกรณีที่ฟังไม่ทัน ก็ให้ถามใหม่อีกครั้งโดยไม่ต้องเกรงใจได้ ในกรณีเช่นนั้น พูดว่า
mou ichido o-namae o onegaishimasu ซึ่งแปลว่า "ขอความกรุณาบอกชื่ออีกครั้งหนึ่ง" เพื่อความมั่นใจว่าไม่ได้ฟังผิดเป็นอย่างอื่น (เช่นฟัง นาทากะ เป็น ทานากะ ล่ะก็มั่วเลย)
Day of War 10! : いつもお世話になっております
>>>>>>>>>>
取引先 「とりひきさき」 (ลูกค้า)
/
いつもお世話になっております。
「いつもおせわになっております。」
ขอบคุณสำหรับความเอื้อเฟื้อที่มีให้มาโดยตลอดครับ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
こちらこそ、お世話になっております。メールの件けんですが、火曜日でよろしいでしょうか?
「こちらこそ、おせわになっております。MEERUの件けんですが、かようびでよろしいでしょうか?」
ทางนี้ก็เช่นกันค่ะ ขอบคุณสำหรับความเอื้อเฟื้อนะคะ เกี่ยวกับเรื่องอีเมลค่ะ ไม่ทราบว่า เป็นวันอังคารจะสะดวกไหมคะ
取引先 「とりひきさき」 (ลูกค้า)
/
はい。お待ちしております。
「はい。おまちしております。」
ครับ กำลังรออยู่ครับ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
では、火曜日にうかがいます。失礼します。
「では、かようびにうかがいます。しつれいします。」
ถ้าอย่างนั้น จะไปพบในวันอังคารนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
.::บทพูดคุยครายซิส เอ้ย ไม่ใช่ คลายเคลียดให้กับตัวเองของ Vocaloid_BRS::.
PS. Vocaloid_BRS เริ่มเครียดขึ้นมาทั้งๆที่นั่งพิมพ์อยู่เฉยๆ ไม่รู้เหตุผลและสาเหตุของความเครียดนี้จริงๆ
- เอเลเทียร์ : เกี่ยวกับการนับวันและเดือนอยู่ข้างล่างนู้นเลยค่ะ ถ้าอยากทราบขอให้เลื่อนหาลงไปเรื่อยๆ นะคะ
- โฮชิโนะ : เอเลเทียร์... ผมเริ่มเครียดแล้ว -*- อยากหยุดทำสักพักแล้วไปเล่น MW3 อ่ะ
- เอเลเทียร์ : ไม่ได้ ห้ามไป ต้องพิมพ์ต่อไปนะโฮชิโนะ ไม่อย่างนั้นได้ดองอีกแน่ แล้วฉันก็จะไม่ได้กลับไปทำงานในที่ของฉันสักที
- โฮชิโนะ : ฉันพิมพ์มา 6 ชั่วโมงแล้วนะ -3-
- เอเลเทียร์ : แค่หกชั่วโมงอย่าบ่นเหอะ นายก็แอบงีบไปตอนที่กระพริบตาแล้วไง พิมพ์ไปๆ ขึ้นบทที่ 11 สักที
- โฮชิโนะ : (โห...กระพริบตาก็หาว่างีบ) จ้าๆ ทำต่อก็ได้ -3- คุณเทพไม่กระพริบตา
- เอเลเทียร์ : ฉันก็กระพริบตา แต่ตอนกระพริบตาฉันไม่ได้แอบงีบ
- โฮชิโนะ : (ร้องไห้) ครับ บรรลุถึงแก่นแท้แห่งออทอด็อกซ์เลยล่ะ
Day of War 11! : 誰と行くんですか?
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
お久しぶりね。お元気?
「おさしぶりね。おげんき?」
ไม่ได้เจอกันนานนะ สบายดีหรือเปล่า =w= (เคียวกะไม่ได้โผล่มาตั้งแต่บทที่ 9)
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
はい、大丈夫です。
「はい、だいじょうぶです。」
ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
ん、どうしたの?
「ん、どうしたの?」
หืม เป็นอะไรไปเหรอ
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
あぁ、 エーレーテァルさんは名刺は持ちましたか?
「あぁ、 エーレーテァルさんはめいしはもちましたか?」
อ้อ คุณเอเลเทียร์มีนามบัตรแล้วหรือคะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
うん、初めて営業に行くので緊張しています。
「うん、はじめてえいぎょうにいくのできんちょうしています。」
อื้ม เนื่องจากจะไปเสนอขายเป็นครั้งแรกจึงกำลังตื่นเต้นอยู่ค่ะ
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
誰と行くんですか?
「だれといくんですか?」
จะไปกับใครคะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
部長とです。3時にここを出ます。
「ぶちょうとです。3さんじにここをでます。」
กับหัวหน้าค่ะ จะออกจากที่นี่ 3 โมง
<<<<<<<<<<
Comment
- DARE (だれ) = ใคร
- ITSU (いつ) = เมื่อไหร่
- DOKO (どこ) = ที่ไหน
- DOUSHITE (どうして) = ทำไม
- NANI (なに) = อไร
- DONOYOUNI (どのように) = อย่างไร
Day of War 12! : へえ それは便利ですね
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
こちらが新しい冷ピストルのパンフレットです。
「こちらがあたらしい冷PISUTORUのPANFURETTOです。」
นี่คือเอกสารแผ่นผับของปืนสั้นชนิดใหม่ค่ะ
取引先 「とりひきさき」 (ลูกค้า)
/
どんな特長があるのですか?
「どんなとくちょうがあるのですか?」
มีลักษณะเด่นอย่างไรบ้างครับ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
一番の特長は榴弾砲です。一往、声が気きになりません。
「いちばんのとくちょうはりゅうだんほうです。いちおう、こえがききになりません。」
ลักษณะเด่นอันดับหนึ่งคือสามารถยิงกระสุนขึ้นฟ้าให้โค้งตกลงพื้นได้ค่ะ อีกอย่างหนึ่ง ปัญหาเรื่องเสียงก็จะไม่กวนใจค่ะ
取引先 「とりひきさき」 (ลูกค้า)
/
へえ。それは便利ですね。
「へえ。それはべんりですね。」
โอ้โห นั่นสะดวกนะครับ
<<<<<<<<<<
Comment
- รูปปฏิเสธของคำ : เปลี่ยน -i ที่ท้ายคำเป็น -kunai
เช่น atarashii (ใหม่) -> atarashikunai (ไม่ใหม่)
PS. หลังไมค์ (1250Hrs. ของวันถัดมา)
- โฮชิโนะ : เดี๋ยวสิเอเลเทียร์ นี่มันบริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้านะ ไปขายปืนให้ลูกค้าทำไม
- เอเลเทียร์ : ฉันก็ทำงานของฉันไง นายเองก็ทำงานของนายไปสิ
- โฮชิโนะ : ฉันรู้ว่าเธอค้าอาวุธสงคราม แต่นั่นมันใน Frustrative Another นะ
- เอเลเทียร์ : ก็ฉันบอกว่าฉันก็ทำงานของฉันไง นายเองก็เลิกถามอะไรให้มากความได้แล้ว
- โฮชิโนะ : แล้วไปขายปืนให้ลูกค้าเนี่ยนะ
- เอเลเทียร์ : นายนี่เรื่องมากจริง เอาเวลาไปพิมพ์ต่อเถอะไป เหลือเวลาอีกแค่ 5 วันเองนะที่ฉันจะหลับอีกครั้ง หัดใช้เวลาให้เป็นประโยชน์สิ
- โฮชิโนะ : ใครเป็นประธานบริษัทกันแน่ฟร๊ะ?! = ="a
- เอเลเทียร์ : ฉันคือเอเลเทียร์! ผู้บัญชาการทหารสงสุดแห่งรัสเซียและผู้ค้าอาวุธเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดในโลก นายจะหือกับฉันสินะ
- โฮชิโนะ : ฮ้า... ทำไมรู้สึกขยันขึ้นมานะ รีบกลับไปพิมพ์ต่อดีกว่า (เฮ้อ! = =")
Day of War 13! : 静かにしてください
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
今日は緊張しました。部長、あの会社ですが
。
「きょう はきんちょうしました。ぶちょう、あのかいしゃですが
。」
วันนี้ตื่นเต้นค่ะ หัวหน้าคะ เกี่ยวกับบริษัทนั้นฉันว่า...
部長 「ぶちょう」 (หัวหน้า) - クリス [Christ] (คริส)
/
クオンさん、エレベーターの中では静かにしてください。
「クオンさん、EREBEETAAのなかではしずかにしてください。」
คุณเอเลเทียร์ ในลิฟต์ กรุณาเงียบหน่อยค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- ga ที่ตามหลัง desu มักใช้เป็นคำเชื่อมเพื่อแสดงความขัดแย้ง แต่ก็ใช้สำหรับการหยิบยกประเด็นหรือเรื่องราวอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมากล่าวด้วย
- ในญี่ปุ่น การหลีกเลี่ยงไม่พูดคุยในลิฟต์ถือเป็นมรรยาทอย่างหนึ่ง
PS. หลังไมค์ (1305Hrs. ต่อจากอีเว็นท์ก่อน)
- โฮชิโนะ : (เห็นเอเลเทียร์นั่งมืดมนอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง)
- เอเลเทียร์ : ...
- โฮชิโนะ : เป็นอะไรไปเอเลเทียร์
- เอเลเทียร์ : ฉัน...ไม่เคยคุยในลิฟต์จริงๆนะ
- โฮชิโนะ : ไปเจออะไรมาก
- เอเลเทียร์ : ฉันไม่เคยขึ้นลิฟต์มาก่อนเลยในชีวิต!... ฉันไม่อยากขึ้นลิฟต์ ทำไมฉันต้องไปขึ้นลิฟต์ด้วย
- โฮชิโนะ : โอ่ยๆ เป็นอะไรมากหรือเปล่า
- เอเลเทียร์ : ง่า!!! ฉันกลัวลิฟต์อ่า!!! พอออกจากลิฟต์ฉันก็ไม่กล้าเดินไปไหนเลย! ความรู้สึกบุรุบุรุมันยังวนอยู่รอบๆตัวเลย
- โฮชิโนะ : เธอควรจะชินกับมันนะ
- เอเลเทียร์ : ฉันเคยใช้แต่บันไดหรือไม่ก็สลิงดึงความเร็วสูงเท่านั้นเอง! ฉันกลัวลิฟต์จนไม่กล้าขยับไปไหนแล้วเนี่ย ทำไงดี
- โฮชิโนะ : เธอเนี่ยน้า...
- เอเลเทียร์ : ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี!! (ลุกขึ้นมาเขย่าคอเสื้อ)
- โฮชิโนะ : (โดนเขย่าคอเสื้อ) อาๆ เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นก่อนอื่นก็ลงลิฟต์ไปหาอะไรกินให้หายกังวลก่อนดีว่า (ทำหน้าเจ้าเล่ห์และลากแขนเอเลเทียร์เข้าไปในลิฟต์)
- เอเลเทียร์ : เหะ? (ตั้งตัวไม่ทัน)
- โฮชิโนะ : อาๆ นี่ชั้น 16 สินะ ลงไปชั้นล่างสุดเลย (แอบขำและลิฟต์ก็ปิดตามด้วยเลื่อนลงไป)
- เอเลเทียร์ : อ๊าาา!!! โน้ววว!!! โฮชิโนะนายแกล้งฉัน!!! ม่าย!!! ฉันกลัวติดลิฟต์!!!
- โฮชิโนะ : นี่เธอเป็นเด็กหรือไงกันเนี่ย
Day of War 14! : ただいま戻りました
ยังไม่สมบูรณ์
>>>>>>>>>>
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
ただいま戻りました。
「ただいまもどりました。」
กลับมาแล้วค่า...
鏡花 「きょうか」 (เคียวกะ)
/
おかえりなさい。どうでしたか?
「おかえりなさい。どうでしたか?」
ยินดีต้อนรับกลับค่ะ เป็นยังไงบ้างคะ
エーレーテァル [Eletear] (เอเลเทียร์)
/
死んでしまえ、あ、いえ、まあまあだと思います。契約まであと一歩です。
しんでしまえ、あ、いえ、まあまあだとおもいます。けいやくまであといっぽです。
นึกว่าจะตายซะแล้ว- อา เปล่าค่ะ คิดว่าไม่เลว อีกก้าวหนึ่งจะได้ทำสัญญาค่ะ
<<<<<<<<<<
Comment
- to omoimasu หมายความว่า "คิดว่า..." กริยาที่อยู่ข้างหน้าสำนวนนี้เป็นคำพื้นฐาน
- da to omoimasu ใช้หลังคำนามและคุณศัพท์
Joutatsu no Kotsu [上達の骨]
.::การทักทาย::.
ในญี่ปุ่นมีคำทักทายที่หลากหลายสำหรับการเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ในบรรดาคำ
ทักทายเหล่านั้น มีหลายสำนวนที่คนญี่ปุ่นพูดกันเป็นประจำ แต่ในสังคมไทยไม่พูด ต่อไปนี้คือคำทักทายที่ควรจดจำไว้
อันดับแรก คือ tadaima หมายถึง .กลับมาแล้ว. ซึ่งคู่กับสำนวน o-kaeri nasai สำนวนนี้แปลตรงตัวได้ว่า
"ยินดีที่กลับมา" คนไทยอาจไม่พูดตอบรับเช่นนั้น แต่อาจพูดแบบไทย ๆ ว่า "กลับมาแล้วหรือ"
ขณะที่กำลังจะออกไปข้างนอก จะพูดว่า itte kimasu ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า "จะไปและกลับมา" ส่วนฝ่ายที่
ไม่ได้ออกไปข้างนอก จะตอบรับว่า itterasshai หรือ "ไปดีมาดี"
ก่อนเริ่มรับประทานอาหารจะพูดว่า itadakimasu หมายความว่า "ขอรับอาหารนี้ด้วยความขอบคุณ" และเมื่อ
รับประทานเสร็จ จะพูดว่า gochisou sama deshita ซึ่งมีความหมายว่า "ขอขอบคุณสำหรับอาหาร" สำนวน
gochisou sama deshita นี้ ยังใช้ในโอกาสที่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากการเลี้ยงรับรองด้วย
สำนวนสุดท้าย คือ o-yasumi nasai ซึ่งจะพูดก่อนเข้านอน อาจแปลได้ว่า "ราตรีสวัสดิ์" ส่วนคำตอบรับ
สำนวน o-yasumi nasai ก็คือ o-yasumi nasai เช่นกัน
การใช้สำนวนสำหรับการทักทายทั่ว ๆ ไปทั้งหมดนี้ได้คล่อง จะช่วยให้สร้างความสนิทสนมกับคนญี่ปุ่นได้อย่าง
รวดเร็ว
มีทั้งหมด 50 บท แต่ผมก็ทำบ้างไม่ทำบ้างอู้บ้างขี้เกียจบ้างมันเลยขยับทีละนิดหน่อย =w= เอาเป็นว่าไม่ต้องคาดหวังอะไรมากแล้วกัน (สิ้นหวังจริงๆ ยังคิดว่าจะมีคนคาดหวังอีกเหรอ?)
มันต้องพิมพ์สลับทีละ 3 ภาษา(ที่จริงตั้งไว้ 5 ภาษาแล้วพอสลับทีหากันไม่เจอ กดเลยวนไปวนมา)แล้วก็ไม่ได้พิมพ์ง่ายๆ
แถมต้องมานั่งคิดบทพูดใหม่อีก เรียงประโยคก็ลำบาก -.- แต่จะพยายามทำออกมาให้เร็วที่สุดครับ ไม่ได้อู้อะไรขนาดนั้นหรอก
^^^
PS. นี่บ่นให้ใครฟังเนี่ย?! อะ บ้าไปแล้ว เหรอ
PS3. ส่วนมากอยู่คนเดียว มากสุดแค่ 2 คนในบ้าน (มีกันแค่นี้) อย่างน้อยก็ยังแต่งบทพูดคุยกับตัวละครแก้เหงาไปได้เรื่อยๆ
**************************************
>>>>>>หลังไมค์และความไร้สาระ<<<<<<
เอเลเทียร์ : (กำลังลากหูใครบางคน) นี่นาย! เอาฉันมาทำอะไรน่าอายแบบนี้
Vocaloid_BRS : เจ็บๆๆๆๆๆๆ! ปล่อยก่อน! ได้โปรด! โอ้ยๆๆๆ
เอเลเทียร์ : บทพูดน่าอายนี่มันอะไร แล้วทำไมคนอย่างฉันถึงต้องมารับบทเป็นพนักงานออฟฟิศด้วยเนี่ย!
Vocaloid_BRS : นะ-น่า... ไม่เห็นเป็นอะไรเลย จะให้คิดตัวละครขึ้นมาใหม่ก็...
เอเลเทียร์ : ใครสน! ตาย!!! (กระโดดใส่ Vocaloid_BRS)
Vocaloid_BRS : ว๊ากกกกกกกกกกก!!! คอมมิวนิสต์บากะเนโกะอาละวาดแล้ว!!!
เอเลเทียร์ : อย่าเอาประวัติชีวิตคนอื่นไปประจานสิเฟ้ย!!! หยุดนะ!! ถ้าไม่หยุดฉันยิงนายพรุนแน่ ถ้าอยู่นิ่งๆฉันยิงหัวนายนัดเดียว
Vocaloid_BRS : ก็ตายน่ะสิ!!
เอเลเทียร์ : Kill them all!!!!!! อุว๊ากกกก!!!
Vocaloid_BRS : NOooooooooo!!!!!!!!!~~~~~~~~
R.I.P Vocaloid_BRS - Status : K.I.A. X/O/ZZZZ
Vocaloid_BRS : ผมไม่ใช่ซายะนะ!!! อย่าเพิ่ง R.I.P ซิ!!!
**************************************
ตรงนี้จะลดระดับให้นิดหน่อยแล้วกันด้วยการเพิ่มโรมาจิให้ (สำหรับคนที่ยังอ่านไม่คล่องก็น่าสงสารแย่)
บ่น : แค่พิมพ์คันจิก็เซ็งตายชัก -.- ยังต้องมาพิมพ์โรมาจิอีกเหรอเนี่ย (ฮา...เหรอ?)
<<<<<<คำทักทายและคำพูดเบื้องต้น>>>>>>
おはよう
ohayou
สวัสดี (ตอนเช้า)
おはようございます 【お早うございます】
ohayou gozaimasu
สวัสดีครับ (お早うございます)
こんにちは 【今日は】
konnichiwa
สวัสดี (ตอนกลางวัน)
こんばんは
konbanwa
สวัสดี (ตอนเย็น, หลังช่วงเย็นเป็นต้นไป)
おやすみなさい
oyasuminasai
ราตรีสวัสดิ์
さようなら
sayonara
ลาก่อน
また
mata
แล้วเจอกัน
またした
matashita
พรุ่งนี้เจอกัน
はじめまして
hajimemashite
ยินดีที่ได้รู้จัก
おあいにきて、うれしいです。 【お会いにきて、嬉しいです。】
oai ni kite, ureshiidesu.
ยินดีที่ได้พบคุณ
はい
hai
ครับ/ค่ะ
いいえ
iie
ไม่ครับ/ไม่ค่ะ
ありがとう
arigatou
ขอบคุณครับ/ค่ะ
ありがとうございます。
arigatou gozaimasu.
ขอบคุณมากครับ/ค่ะ
わたしのなまえは__です。【私の名前は__です。】
watashi no namae wa(ha) ___ desu.
ฉันชื่อ__ค่ะ (ส่วนมากผู้หญิงใช้ แต่ผู้ชายก็ใช้ได้)
ぼくのなまえは__です。【僕の名前は__です。】
boku no namae wa(ha) ___ desu.
ผมชื่อ__ครับ
おれのなまえは__です。【俺の名前は__です。】
ore no namae wa(ha) ___ desu.
เราชื่อ__ครับ
おれは__、よろしく。 【俺は__、よろしく。】
ore ha__yoroshiku.
เราชื่อ__ยินดีที่ได้รู้จัก(ฝากตัวด้วยนะ)
PSP. อย่างเป็นทางการในการแนะนำตัวมักพูดต่อว่า 「よろしくおねがいします。」 (โยโระชิกุ โอเนไกชิมัตซึ) ส่วนความหมายก็ตามตัว ส่วนใครที่ไม่รู้ก็ค่อยๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆนะครับ แล้วจะเข้าใจเอง
PS3. หรืออีกแบบในการแนะนำตัวไม่ว่าจะในชั้นเรียนหรือเพื่อนบ้านก็ลงท้ายว่า 「どぞ、よろしく」
<<<<<<ศัพท์เกี่ยวกับการติดต่อและข่าวสาร>>>>>>
でんわ 【電話】
denwa
โทรศัพท์
でんわする 【電話する】
denwasuru
โทร (ลองโทร, จะโทร)
でんわばんごう 【電話番号】
denwabangou
เบอร์โทรศัพท์
でんわせん 【電話線】
denwasen
สายโทรศัพท์
でんわちょう 【電話帳】
denwachou
สมุดโทรศัพท์
でんわだい 【電話代】
denwadai
ค่าโทรศัพท์
でんわりょうきん 【電話料金】
denwaryoukin
ค่าโทรศัพท์
てがみ 【手紙】
tegami
จดหมาย
しんぶん 【新聞】
shinbun
หนังสือพิมพ์
しんぶんや 【新聞屋】
shinbunya
ร้านหนังสือพิมพ์
しんぶんし 【新聞紙】
shinbunshi
กระดาษหนังสือพิมพ์
えいごのしんぶん 【英語の新聞】
eigo no shinbun
หนังสือพิมพ์อังกฤษ
<<<<<<ศัพท์เกี่ยวกับการระบุวัน>>>>>>
けさ 【今朝】
asa
เมื่อเช้า, เช้าวันนี้
あしたのあさ 【明日の朝】
ashita no asa
พรุ่งนี้เช้า
きのうのあさ 【昨日の朝】
kinou no asa
เมื่อเช้าวานนี้
あさはやく 【朝はやく】
asa wa yaku
เช้าตรู่
そうちょう 【早朝】
souchou
เช้าตรู่
ごご 【午後】
gogo
ช่วงบ่าย
ひるとよる 【昼と夜】
hiru to yoru
กลางวันและกลางคืน
いちにちちゅう 【一日中】
ichinichichuu
ตลอดทั้งวัน
まいにち 【毎日】
mainichi
ทุกวัน
<<<<<<ศัพท์เกี่ยวกับระยะและน้ำหนัก>>>>>>
ながさ 【長さ】
nagasa
ความยาว
ひろさ 【広さ】
hirosa
ความกว้าง
はば 【幅】
haba
ความกว้าง
たかさ 【高さ】
takasa
ความสูง
めかた 【目方】
mekata
น้ำหนัก
ふかさ 【深さ】
fukasa
ความลึก
あつさ 【厚さ】
atsusa
ความหนา
うすさ 【薄さ】
utsusa
ความบาง
<<<<<<การนับเลขญี่ปุ่น (แบบจีน)>>>>>>
れい 【零】
rei
ศูนย์
いち 【一】
ichi
หนึ่ง
に 【二】
ni
สอง
さん 【三】
san
สาม
し、よん 【四】
shi, yon
สี่
ご 【五】
go
ห้า
ろく 【六】
roku
หก
しち、なな 【七】
shichi, nana
เจ็ด
はち 【八】
hachi
แปด
きゅう、く 【九】
kyuu, ku
เก้า
じゅう 【十】
juu
สิบ
<<<<<<การนับเลขญี่ปุ่น (แบบญี่ปุ่น)>>>>>>
れい 【零】、 ゼロ 【ZERO】
rei, zero
ศูนย์
ひとつ 【一つ】
hitotsu
หนึ่ง
ふたつ 【二つ】
futatsu
สอง
みっつ 【三つ】
mitsu
สาม
よっつ 【四つ】
yotsu
สี่
いつつ 【五つ】
itsutsu
ห้า
むっつ 【六つ】
mutsu
หก
ななつ 【七つ】
nanatsu
เจ็ด
やっつ 【八つ】
yatsu
แปด
ここのつ 【九つ】
kokonotsu
เก้า
とお 【十】
too
สิบ
<<<<<<นับ... (ไปเรื่อย =w=)>>>>>>
ちゅういち 【十一】
chuuichi
_11_
ちゅうに 【十二】
chuuni
_12_
ちゅうさん 【十三】
chuusan
_13_
ちゅうよん 【十四】、 ちゅうし 【十四】
chuuyon, chuushi
_14_
ちゅうご 【十五】
chuugo
_15_
ちゅうろく 【十六】
chuuroku
_16_
ちゅうしち 【十七】
chuushichi
_17_
ちゅうはち 【十八】
chuuhachi
_18_
ちゅうきゅう 【十九】
chuukyuu
_19_
にちゅう 【二中】、はたち 【二十】
nichuu, hatachi
_20_
にちゅういち 【二中一】
nichuuichi
_21_
にちゅうに 【二中二】
nichuuni
_22_
にちゅうさん 【二中三】
nichuusan
_23_
にちゅうよん 【二中四】、 にちゅうし 【二中四】
nichuuyon, nochuushi
_24_
にちゅうご 【二中五】
nichuugo
_25_
にちゅうろく 【二中六】
nichuuroku
_26_
にちゅうしち 【二中七】
nichuushichi
_27_
さんちゅう 【三中】
sanchuu
_30_
さんちゅういち 【三中一】
sanchuuichi
_31_
よんちゅう 【四中】
yonchuu
_40_
ごちゅう 【五中】
gochuu
_50_
ろくちゅう 【六中】
rokuchuu
_60_
しちちゅう、ななちゅう 【七中】
shichichuu, nanachuu
_70_
はちちゅう 【八中】
hachichuu
_80_
きゅうちゅう 【九中】
kyuuchuu
_90_
ひゃく 【百】
hyaku
_100_
にひゃく 【二百】
nihyaku
_200_
さんひゃく 【三百】
sanhyaku
_300_
よんひゃく 【四百】
yonhyaku
_400_
ごひゃく 【五百】
gohyaku
_500_
ろっぴゃく 【六百】
roppyaku
_600_
ななひゃく、しちひゃく 【七百】
nanahyaku, shichihyaku
_700_
はっぴゃく 【八百】
happyaku
_800_
きゅうひゃく 【九百】
kyuuhyaku
_900_
せん, いっぜん 【千】
sen, issen
_1,000_
にせん 【二千】
nisen
_2,000_
さんせん 【三千】
sansen
_3,000_
よんせん 【四千】
yonsen
_4,000_
ごせん 【五千】
gosen
_5,000_
ろっせん 【六千】
roksen
_6,000_
ななせん 【七千】
nanasen
_7,000_
はっせん 【八千】
hatsen
_8,000_
きゅうせん 【九千】
kyuusen
_9,000_
いちまん 【一万】
ichiman
_10,000_
にまん 【二万】
niman
_20,000_
さんまん 【三万】
sanman
_30,000_
ななまん 【七万】
nanaman
_70,000_
きゅうまん 【九万】
kyuuman
_90,000_
じゅうまん 【十万】
juuman
_100,000_
にじゅうまん 【二十万】
nijuuman
_200,000_
ひゃくまん 【百万】
hyakuman
1,000,000
<<<<<<ฤดูกาล>>>>>>
なつ 【夏】
natsu
ฤดูร้อน
かき 【夏期、 夏季】
kaki
ฤดูร้อน
うき 【雨期、 雨季】
uki
ฤดูฝน
ふゆ 【冬】
fuyu
ฤดูหนาว
あき 【秋】
aki
ฤดูใบไม้ร่วง
はる 【春】
haru
ฤดูใบไม้ผลิ
はるさき 【春先】
harusaki
ต้นฤดูใบไม้ผลิ
はるかぜ 【春風】
harukaze
ลมที่พัดในฤดูใบไม้ผลิ
はるあき 【春秋】
haruaki
ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
はるめく 【春めく】
harumeku
เข้าสู่บรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิ
<<<<<<ร่างกาย>>>>>>
PS. ตอนที่พิมพ์ตรงนี้ตี 3.58 รู้สึกง่วงแล้วแหะ พิมพ์ตั้งนานได้แค่นี้เองแหะ ไม่เอาโรมาจิแล้วนะ -.-
かみのけ 【髪の毛】
เส้นผม, ผม
あたま 【頭】
หัว, ศรีษะ
(atama ga buruburu suru~~~。.... ฮ่าๆๆ คำนี้ดันทำให้นึกถึงเอโรเกะที่เพิ่งเล่นไปซะได้)
ひたい 【額】
หน้าผาก
かお 【頭】
ใบหน้า
はな 【鼻】
จมูก
はなのあな 【鼻の穴】
รูจมูก
みみ 【耳】
หู
め 【目】
ตา, ดวงตา, นัยน์ตา
まゆげ 【眉毛】
ขนคิ้ว
まつげ 【睫、睫毛】
ขนตา
くち 【口】
ปาก
くちびる 【唇】
ริมฝีปาก
ほほ 【頬】
แก้ม
あご 【顎】
คาง, ขากรรไกร
くび 【首】
คอ, ลำคอ (ด้านนอก)
のど 【咽、喉、吭】
คอ, ลำคอ (ด้านใน)
うで 【腕】
แขน
かた 【肩】
บ่า, หัวไหล่
ひじ 【肘】
ศอก
て 【手】
มือ
せなか 【背中】
หลัง, ด้านหลัง
むね 【胸】
อก
おっぱい 【ない】
หน้าอก
ゆび 【指】
นิ้ว
ゆびさき 【指先】
ปลายนิ้ว
ゆびのかんせつ 【指の関節】
ข้อนิ้วมือ
こゆび 【小指】
นิ้วก้อย
くすりゆび 【薬指】
นิ้วนาง
なかゆび 【中指】
นิ้วกลาง
(คันจิคนละตัวแต่ทำให้นึกถึง... naka wa ippai... อุหวา... ไม่น่าเล่นขนาดนั้นเลย เห็นอะไรก็เพี้ยนไปหมด)
ひとさしゆび 【人差し指】
นิ้วชี้
ひとさしゆび 【人差指】
นิ้วโป้ง
おやゆび 【親指】
นิ้วโป้ง
てくび 【手首】
ข้อมือ
こし 【腰】
เอว, สะโพก
ひざ 【膝】
หัวเข่า
くるぶし 【踝】
ข้อเท้า
あし 【足】
เท้า, ขา
**************************************
ฝึกใช้เป็นประโยคแบบง่ายๆ
ผมจะยกตัวอย่างการประโยคแล้วกันนะครับ ผมเองก็พอใช้ไปเรื่อยๆได้ แต่สอนคนอื่นทำไม่เป็น (ฮา) เอาเป็นว่าลองๆอ่านดูแล้วกันนะครับ เอาเท่าที่คิดได้นะ
わかった 「分かった」 = เข้าใจแล้ว
わかってない 「分かってない」 = ไม่เห็นเข้าใจเลย
わかる 「分かる」 = เข้าใจ
わからん 「からん」 = ไม่เข้าใจ
わからない 「分からない」 = ไม่เข้าใจเลย
わかってる 「分かってる」 = เข้าใจอยู่แล้วล่ะ
わかりません 「分かりません」 = ไม่เข้าใจครับ
わかりますか? 「分かりますか?」 = เข้าใจไหมครับ
わかりました 「分かりました」 = เข้าใจแล้วครับ
ぜんぜんわからない 「全然分からない」 = ไม่เข้าใจเลยสักนิด
//////////////////////
かえます 「帰ます」 = กลับล่ะครับ
かえません 「帰ません」 = กลับไม่ได้ (ไม่กลับ, ยังไม่กลับ)
かえられない 「帰られない」 = กลับไม่ได้ (กลับไปไม่ได้, ไม่ให้กลับ)
かえってない 「帰ってない」 = ยังไม่ได้กลับไป
かえない 「帰ない」 = ไม่กลับ
かえる 「帰る」 = กลับล่ะ
かえって 「帰って」 = กลับไปซะ
かえた 「帰た」 = กลับไปแล้ว
かえました 「帰ました」 = กลับไปแล้วล่ะครับ
かえってくる 「帰って来る」 = กลับมา
かえますか? 「帰ますか?」 = กลับกันไหม
//////////////////////
よみます 「読みます」 = อ่านครับ
よみません 「読みません」 = ไม่อ่าน
よむ 「読む」 = อ่าน
よんで 「読んで」 = อ่านสิ
よんだ 「読んだ」 = อ่านแล้ว
よみますか? 「読みますか?」 = อ่านไหมครับ?
よんでない 「読んでない」 = ไม่ได้อ่าน
//////////////////////
はなします 「話します」 = พูดอยู่ครับ
はなしません 「話しません」 = ไม่ได้พูดครับ
はなす 「話す」 = พูด, คุย
はなして 「話して」 = พูดสิ
はなした 「話した」 = พูดแล้ว
はなしますか? 「話しますか?」 = คุยกันไหมครับ?
はなしていない 「話していない」 = ไม่ได้พูด (ปฏิเสธ)
//////////////////////
きます 「来ます」 = มาแล้ว (ตัวเอง)
きません 「来ません」 = ไม่มาแหะ
くる 「来る」 = มา
きて 「来て」 = มาสิ
きた 「来た」 = มาแล้ว (คนอื่นมา)
きますか? 「来ますか?」 = มาแล้วเหรอ?
きいてない 「来いてない」 = ไม่มา
***ก็ประมาณนี้แหละครับ อีกอย่างคือก็อยู่ในสไตล์การพูดของแต่ละคน เช่นวิธีพูดของผมมักลงท้ายอีกแบบหนึ่งเวลาพูดกับคนสนิท***
きいてないぞ 「来いてないぞ」 = ไม่เห็นมาเลยนะ
わからないぞ 「分からないぞ」 = ไม่เข้าใจ
わからぜんぞ 「分からぜんぞ」 = ไม่รู้สิ
しるかよ 「知るかよ」 = จะไปรู้เหรอ
かえるぞ 「帰るぞ」 = จะกลับล่ะนะ
***แบบเนี้ย เข้าใจหรือยัง? เช่นในอนิเมะก็มีบ่อยๆเช่น ですわ (แบบคุณหนู)หรือ なのです (แบบโลลิ)หรือ わよ (แบบซึนเดะเระ)เป็นต้น***
おはようございますですわ (โอฮาโยโกไซมะซึเดทซึหวา) <<< ถ้าทักทายตามปกติคงเป็น โคะกิเก็งโยะ
おはようございますなのです (โอฮาโยโกไซมัตซึนาโนเดทซึ) <<< เด็กตัวเล็กๆเขาใช้กัน สุภาพดี
おはようございますです (โอฮาโยโกไซมัตซึเดทซึ) <<< สุภาพแบบอารมณ์ดี
おはようございますよ (โอฮาโยโกไซมัตซึโยะ) <<< หยิ่งนิดหน่อย คงบุคลิคใช้ได้
おはようございますわ (โอฮาโยโกไซมัตซึหวา) <<< ตามด้วย 'โฮ้~ โฮ่ๆๆๆ เดทซึหวา' น่าจะเหมาะนะ
おはようございますぞ (โอฮาโยโกไซมัตซึโซะ) <<< อรุณสวัสดิ์! (ถ้าแปลจริงๆแปลว่า อรุณสวัสดิ์ไปแล้วนะ)
おはようございまぜ (โอฮาโยโกไซมัตเซะ!) <<< อรุณสวัสดิ์เฮ้ย! (ออกกวน***นิดๆ เหมาะกับพวกยากุซ่า)
おはようじゃないわよ! (โอฮาโยจาไนวาโย!!) <<< อรุณสวัสดิ์ซะที่ไหนล่ะยะ!! - หลังพูดจบก็กระโดดเตะก้านคอให้ไก่ดับไป เพราะตอนที่พิมพ์นี้มัน 1533 Hrs. แล้ว(บ่าย 3 ครึ่งกว่าๆแล้ว)
**************************************
โอเค จากเมื่อกี้ผมเพิ่งรู้ตัวเมื่อพิมพ์จบว่าพาออกทะเลและไร้สาระไปโอฮาโยอยู่ตั้งนาน กลับเข้าเรื่องกันบ้าง
(ต้องทำใจอ่านๆไป เพราะผมเป็นคนที่เอาแต่มุขไร้สาระมาเล่นและมักจะพาคนอื่นออกทะเลแบบไม่รู้ตัวจนบางทีก็โดนบ่นอยู่บ่อยๆเหมือนกัน)
.::เริ่มจากประโยคเริ่มต้นๆ แบบง่ายๆ เลยนะครับ::.
-รู้สึกเห็นใจ จะใส่คำอ่านให้เพื่อความสะดวกในการอ่านออกเสียง-
【何がいりますか?】
なにがいりますか?
น๊านิ งะ อิริ มัสก๊ะ?
คุณต้องการอะไรไหม?
【お風呂が使ってありますか?】
おふろがつかってありますか?
โอฟุโระ งะ ซึกัตเตะ อะริมัสก๊ะ?
ห้องน้ำ(/ห้องอาบน้ำ)ยังมีคนใช้อยู่เหรอ?
【僕はぜんぜんわかりません。】
ぼくはぜんぜんわかりません。
โบคุวะ เซ็นเซ็น วาคะริมาเซ็น
ผมไม่รู้จริงๆครับ
【日本語が読めません。】
にほんごがよめません。
นิฮงโกะ งะ โยเมะมาเซ็น
ผมอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ครับ
【切符売り場はどこありますか?】
きっぷうりばはどこありますか?
คิปปุอุริบะ ฮะ โดะโคะนิ อะริมัสก๊า?
ห้องขายตั๋ว(รถไฟ)อยู่ที่ไหนครับ
【オサカへいにくとうの切符を一枚ください。】
オサカへいにとうのきっぷをいちまいください。
โอซาก้าเอะคุ นิโตโนะคิปปุโอะ อิจิไมคุดาไซ
ขอซื้อตั๋วชั้นที่สองไปโอซาก้าหนึ่งใบด้วยครับ
【一等】
いっとう
อิตโตว
ชั้นหนึ่ง
【二等】
にとう
นิโตว
ชั้นสอง
【三頭】
さんとう
ซันโตว
ชั้นสาม
【オサカへ行く貴社は何時に出ますか?】
オサカへいくきじゃはなんじにでますか?
โอซาก้าเอะ อิคุคิชาวะ นันจินิเดะมัสก๊า?
รถไฟไปโอซาก้าออกกี่โมงครับ
PS. เอาไว้พิมพ์ต่อทีหลังนะครับ เริ่มเวียนหัวละ
----------
โอโจว-ซามะ (Ojou-sama) = คุณหนู [女王様]
ชิริโทริ (Shiritori) = เกมต่อคำ [尻取り]
ช็อคโกเระเอะโตะ (Chokoreeto) = ช็อคโกแล็ต
เท็นกิ (Tenki) = อากาศ/สภาพอากาศ [天気]
อาเมะ (Ame) = ฝน [雨] (雨 = ame)
ชูโจมังงะ (Shoujo Manga) = หลังสือการ์ตูนแบบ Yuri มากเป็นที่นิยมของเด็กผู้หญิงที่เป็นโอตาคุ(มั้ง)
เมรุ (Meru) = เมล์ [メール] (メー = me, ル = ru) <Transliterate : Mail>
โฮชิ (Hoshi) = ดาว [ほし / 星]
โทริ (Tori) = นก [とり / 鳥]
เนรุ (Neru) = หลับ/นอน [ねる / 寝る]
ยูบิ (Yubi) = นิ้ว [ゆび / 指]
กุรามุ (Guramu) = กรัม [グラム] <Transliterate : Gram>
เมียวจิ (Myouji) = นามสกุล [みょうじ / 名字]
งาคุเซย์ (Gakusei) = นักเรียน [がくせい / 学生]
คาเอรุ (Kaeru) = กบ [かえる / 蛙]
โทเคย์ (Tokei) = นาฬิกา [とけい / 時計]
โอสุ (Osu) = กด [おす / 押す]
คางามิ (Kagami) = กระจก [かがみ / 鏡]
มิรา (Miraa) = กระจก [ミラー] <Transliterate : Mirror>
อิโนริ (Inori) = อธิษฐาน [いのり / 祈り]
คิวได (Kyuudai) = มหาวิทยาลัยคิวชู [きゅうだい / 九大]
โชวไร (Shourai) = อนาคต [しょうらい / 将来]
มิราอิ (Mirai) = อนาคต [みらい / 未来]
-="กระดาษกับพระเจ้า สะกดด้วยโรมาจิ Kami เหมือนกันน่าจะเหมือนกันหรือเปล่า" "ผิดครับ" พระเจ้ากับกระดาษจะไปเหมือนกันได้ยังไง เอ้ย!! ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น!!=-
คามิ (Kami) = กระดาษ [かみ / 紙]
คามิ (Kami) = พระเจ้า [かみ / 神]
กามิ (Kami) = ผม/เส้นผม [かみ / 髪]
ซึกิ (Tsuki) = ดวงจันทร์/พระจันทร์ [つき / 月]
มูซุคาชิอิ <"ชี่" น่ะครับ> (Muzukashii) = ยาก [むずかしい / 難しい]
เซ็นโซว (Sensou) = สงคราม [せんそう / 戦争]
.::คิดไม่ออก::.
ไดอิจิเซย์ไคไทเซ็น (Daiichisekaitaisen) = สงครามโลกครั้งที่ 1 [だいいちじせかいたいせん / 第一次世界大戦]
ไดนิจิเซย์ไคไทเซ็น (Dainijisekaitaisen) = สงครามโลกครั้งที่ 2 [だいにじせかいたいせん / 第二次世界大戦]
ไดซานไคเซย์ไคไทเซ็น (Daisankaisekaitaisen) = สงครามโลกครั้งที่ 3 [だいさんかいせかいたいせん / 第三回世界大戦]
นีทโตะ (Niito) = NEET หรือก็คือย่อมาจาก "Not in Education Employment or Training" ไม่อยากแปลจริงๆครับ
ซากุระ (Sakura) = ซากุระ [さくら / 桜] (ดอกซากุระ)
โรมาจิ (Roomaji) = โรมาจิ [ローマじ]
.::พัก::.
นานิ (Nani) = อะไร [なに / 何]
นาน <น้านอึ่น> (Nan) = อะไร [なん / 何]
นานเน็น (Nannen) = ปีอะไร / กี่ปี [なんねん / 何年]
นานโตะโม (Nantomo) = ไม่เลยแม้แต่น้อย/ไม่ใช่อะไรเลย [なんとも / 何とも]
นานโตะกะ (Nantoka) = เหมือนกับว่า.../อย่างไรก็ตาม/อะไรสักอย่าง/อะไรบางอย่าง [なんとか / 何とか]
นานโตอิเตโม (Nantoittemo) = ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม [なんといっても / 何と言っても]
นานเดโมนาอิ <ไน้> (Nandemonai) = ไม่มีอะไร [なんでもない / 何でもない]
นานเดโม (Nandemo) = อะไรก็ได้ [なんでも / 何でも]
นานเด (Nande) = ทำไม [なんで / 何で]
นานเตะ (Nante) = ว่าไปนั่น/นั่นปะไร [なんて / 何て]
นานดะกะ (Nandaka) = เหมือนกับว่า.../ยังไงไม่รู้สิ [なんだか / 何だか]
อิซึมาเดโม (Itsumademo) = ไม่ว่าตอนไหนก็ตาม/ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน/ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม [いつまでも / 何時までも]
อิซึโม (Itsumo) = ไม่ว่าเมื่อไหร่/ทุกครั้ง/ตลอดเวลา [いつも / 何時も]
โดโซะ (Douzo) = เชิญ/เชิญเลย [どうぞ / 何卒]
โดโก (Doko) = ที่ไหน [どこ / 何処]
โคะโคะ (Koko) = ที่นี่ [ここ]
โคโคโระ (Kokoro) = หัวใจ [こころ / 心]
โดเระ (Dore) = อันไหน [どれ / 何れ]
นาเซะ (Naze) = ทำไม [なぜ / 何故]
นาเซะดะ (Nazeda) = ทำไมล่ะ [なぜだ / 何故だ]
นาเซะนาระ (Nazenara) = ก็เพราะว่า/ถ้าอย่างนั้น [なぜなら / 何故なら]
นาเซะนาระบะ (Nazenaraba) = ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ [なぜならば / 何故ならば]
นานิกะ (Nanika) = อะไรบางอย่าง/มีอะไรบางอย่าง/อะไรสักอย่าง/มีอะไร [なにか / 何か]
ซามะ (Sama) = ท่าน [さま / 様]
คาเนะ (Kane) = เงิน [かね / 金]
ฮิ (Hi) = ไฟ [ひ / 火]
ฮิ (Hi) = แดด/แสงแดด [ひ / 陽]
ฮิ (Hi) = น้ำแข็ง [ひ / 氷]
ฮิ (Hi) = พระอาทิตย์ [ひ / 日]
ฮิ (Hi) = แสงสว่าง [ひ / 灯]
ยาคุฉะ (Yakusha) = คนแปล/ผู้แปล [やくしゃ / 訳者]
เท็นชิ (Tenshi) = นางฟ้า [てんし / 天使]
อูมิ (Umi) = ทะเล [うみ / 海]
ซากิ (Sagi) = นกกระสา [さぎ / 鷺]
มิซุ (Mizu) = น้ำ [みず / 水]
โคโอริ (Koori) = น้ำแข็ง [こおり / 氷]
โอจา (Ocha) = ชา/น้ำชา [おちゃ / お茶]
เท็นโกคุ (Tengoku) = สวรรค์ [てんごく / 天国]
ชิปไป (Shippai) = พลาดซะแล้ว/พลาดไปหน่อย/ผิดพลาด [しっぱい / 失敗]
เคย์โกะ (Keiko) = ภาษาสุภาพ [けいご / 敬語]
ยูคิ (Yuki) = หิมะ [ゆき / 雪]
ยูกิ (Yuuki) = กล้า/ความกล้า [ゆうき / 勇気]
เอย์เอ็น (Eien) = ตลอดกาล/ตลอดไป/ชั่วนิรันดร์ [えいえん / 永遠]
เท <เทะ> (Te) = มือ [て / 手]
ฮิคาริ (Hikari) = แสง [ひかり / 光]
อาการิ (Akari) = แสง/แสงสว่าง [あかり / 明り / 明かり]
เกกโคว (Gekkou) = แสงจันทร์ [げっこう / 月光]
โอซึกาเระซามะ (Otsukaresama) = เหนื่อยหน่อยนะครับ [おつかれさま / お疲れ様]
อานะตะ (Anata) = นาย/เธอ [あなた / 貴方]
.::พัก::.
คิเซ็ตสึ (Kisetsu) = ฤดู/ฤดูกาล [きせつ / 季節]
ฮารุ (Haru) = ฤดูใบไม้ผลิ [はる / 春]
อากิ (Aki) = ฤดูใบไม้ร่วง [あき / 秋]
นัตซึ (Natsu) = ฤดูร้อน [なつ / 夏]
ฟุยุ (Fuyu) = ฤดูหนาว [ふゆ / 冬]
อูคิ (Uki) = ฤดูฝน [うき / 雨季 / 雨期]
คันกิ (Kanki) = ฤดูแล้ง [かんき / 乾季 / 乾期]
.::พักอีกแหละ::.
ฮิ (Hi) = วัน [ひ / 日]
โยวบิ (Youbi) = วัน [ようび / 曜日]
เซ็นจิซึ (Senjitsu) = เมื่อวาน/วันก่อน [せんじつ / 先日]
เคียว (Kyou) = วันนี้ [きょう / 今日]
อะชิตะ (Ashita) = พรุ่งนี้ [あした / 明日]
คูวจิซึ (Kyuujitsu) = วันหยุด [きゅうじつ / 休日]
นิจิโยวบิ (Nichiyoubi) = วันอาทิตย์ [にちようび / 日曜日]
เงซึโยวบิ (Getsuyoubi) = วันจันทร์ [げつようび / 月曜日]
คาโยวบิ (Kayoubi) = วันอังคาร [かようび / 火曜日]
ซุยโยวบิ (Suiyoubi) = วันพุธ [すいようび / 水曜日]
โมคุโยวบิ (Mokuyoubi) = วันพฤหัสบดี [もくようび / 木曜日]
คินโยวบิ (Kinyoubi) = วันศุกร์ [きんようび / 金曜日]
โดโยบิ (Doyoubi) = วันเสาร์ [どようび / 土曜日]
.::Unknow Status::.
กัตซึ (Gatsu) = เดือน [がつ / 月]
อิจิกัตซึ (Ichigatsu) = มกราคม/เดือน 1 [いちがつ / 一月]
นิกัตซึ (Nigatsu) = กุมพาพันธ์/เดือน 2 [にがつ / 二月]
ซานกัตซึ (Sangatsu) = มีนาคม/เดือน 3 [さんがつ / 三月] (ซากุระเริ่มบาน)
ชิกัตซึ (Shigatsu) = เมษายน/เดือน 4 [しがつ / 四月]
(ซากุระบานเต็มที่)
โกกัตซึ (Gogatsu) = พฤษภาคม/เดือน 5 [ごがつ / 五月] (ซากุระเริ่มโรย)
โรคุกัตซึ (Rokugatsu) = มิถุนายน/เดือน 6 [ろくがつ / 六月]
ชิจิกัตซึ (Shichigatsu) = กรกฎาคม/เดือน 7 [しちがつ / 七月]
ฮัตจิกัตซึ (Hachigatsu) = สิงหาคม/เดือน 8 [はちがつ / 八月]
กุกัตซึ (Kugatsu) = กันยายน/เดือน 9 [くがつ / 九月]
จูกัตซึ (Juugatsu) = ตุลาคม/เดือน 10 [じゅうがつ / 十月]
จูอิจิกัตซึ (Juuichigatsu) = พฤศจิกายน/เดือน 11 [じゅういちがつ / 十一月]
จูนิกัตซึ (Juunigatsu) = ธันวาคม/เดือน 12 [じゅうにがつ / 十二月]
.::หยุด::.
อายูมิ (Ayumi) = เดิน/ก้าวเดิน [あゆみ / 歩み] <Walk>
อายะ (Aya) = ประกาย/เป็นประกาย/แวววาว [あや / 文] <Twinkle>
อิบุกิ (Ibuki) = ลมหายใจ [いぶき / 息吹] <Breath>
คิริซาเมะ (Kirisame) = ฝนตกปรอยๆ [きりさめ / 霧雨] <Drizzle>
ยุย (Yui) = เหลือ/เหลือทิ้งไว้ [ゆい / 遺]
เรย์กิ (Reiki) = หนาว/อากาศหนาว [れいき / 冷気] <Cold>
เนโกะ (Neko) = แมว (เหมี้ยว/เนี้ยว) [ねこ / 猫]
ซาจิ (Sachi) = อุดมสมบูรณ์/มีความสุข/ความโชคดี [さち / 幸] <Lucky>
โยโกโซะ (Youkoso) = ยินดีต้อนรับ [ようこそ] <Welcome>
ฮิโตมิ (Hitomi) = ตาดำ [ひとみ / 瞳]
โยชิโยชิ (Yoshiyoshi) = โอ๋ๆ [よしよし]
อุรุไซ (Urusai) = หุบปาก/หนวกหู/น่ารำคาญ [うるさい / 煩い]
คาวาอิ <อี้> (Kawaii) = น่ารัก [かわいい / 可愛い] <Lovely>
โมเอะ (Moe) = โมเอะ? [もえ] (นั่นสิ...มันหมายความว่าไงหว่า? คำสผมเหรอ?)
คาวาอิโซ (Kawaisou) = น่าสงสาร [かわいそう / 可哀想 / 可哀相]
คิไร (Kirai) = เกลียด/ไม่ชอบ [きらい / 嫌い]
คิไร (Kirai) = ทุ่นระเบิด [きらい / 機雷]
เซ็นปาย (Senpai) = รุ่นพี่ [せんぱい / 先輩]
โควไฮ (Kouhai) = รุ่นน้อง [こうはい / 後輩]
อะนิ (Ani) = พี่ชาย [あに / 兄]
โอนี่ซาน (Onii-san) = พี่ชาย/คุณพี่(ชาย) [おにいさん / お兄さん]
อะเน่ (Ane) = พี่สาว [あね / 姉]
โอเน่ซาน (Onee-san) = พี่สาว/คุณพี่สาว [おねえさん / お姉さん]
โอโทโตะ (Otouto) = น้องชาย [おとうと / 弟]
อิโมโตะ (Imouto) = น้องสาว [いもうと / 妹]
อนิเมะ (Anime) = อนิเมะ [アニメ]
อนิเมชัน <โชวอุน> (Animeeshon) = อนิเมะ/อนิเมชั่น/การ์ตูน [アニメエシュン]
ยูเอะ (Yue) = เหตุผล [ゆえ / 故]
อาย <อ๋ายอิ> (Ai) = ความรัก [あい / 愛]
ไอโกะ (Aiko) = สนับสนุน [あいこ / 愛顧]
โทวโฮว (Touhou) = ตะวันออก/ซีกตะวันออก [東方 / とうほう] (Eastern)
ฮาเรมมุ (Haaremu) = ฮาเร็ม [ハーレム]
โรชิเอีย (Roshia) = รัสเซีย [ロシア]
คาตานะ (Katana) = ดาบ [かたな / 刀]
นิฮนโทว (Nihontou) = ดาบญี่ปุ่น [にほんとう / 日本刀]
อาซุมะ (Azuma) = ตะวันออก [あずま / 東]
โฮว (Hou) = ทิศ/ทิศทาง [ほう / 方]
โตเกียว (Toukyou) = โตเกียว [とうきょう / 東京]
โดคิ (Doki) = ตึกตัก [ドキ]
โดคิโดคิซุรุ (Dokidokisuru) = ตื่นเต้นจังเลย [ドキドキする]
โดวคิ (Douki) = หัวใจเต้นรัว [どうき / 動悸]
คากายาคิ (Kagayaki) = แปล่งประกาย/เจิดจ้า [かがやく / 輝く]
เซย์ไค (Sekai) = โลก [せかい / 世界]
ชิคิว (Chikyuu) = โลก [ちきゅう / 地球]
โฮชิโซระ (Hoshizora) = ดวงดาว/ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว [ほしぞら / 星空]
โซระ (Sora) = ท้องฟ้า [そら / 空]
คาเซะ (Kaze) = ลม/สายลม/พายุ [かぜ / 風]
คาเซะ <คาเซ๊ะ> (Kaze) = ไม่สบาย/หวัด [かぜ / 風邪]
อาริงาโตะ (Arigato) = ขอบคุณ [ありがとう / 有り難う]
โอยาซุมิ (Oyasumi) = ราตรีสวัสดิ์ [おやすみ / お休み]
โอยาซุมินาไซ (Oyasuminasai) = ราตรีสวัสดิ์ [おやすみなさい / お休みなさい]
โอฮาโย (Ohayou) = อรุณสวัสดิ์ [おはよう / お早う]
ซาโยนาระ (Sayonara) = ลาก่อน [さよなら / 左様なら]
มาตะ (Mata) = แล้วเจอกัน/แล้วพบกันใหม่/อีกแล้ว/เช่นกัน [また / 亦]
มาตะมาตะ <มาตะมาต้า> (Matamata) = อีกแล้ว/แน่ะ เอาอีกแล้ว [またまた / 又又 / 又々]
คันจิ (Kanji) = อักษรคันจิ/ตัวคันจิ [かんじ / 漢字]
ทาบุ (Tabuu) = สิ่งต้องห้าม [タブー] <Transliterate : Tabu -France->
โมโน (Mono) = ของ/สิ่งของ [もの / 物]
นางาเระโบชิ (Nagareboshi) = ดาวตก [ながれぼし / 流れ星]
มินนา (mina) = ทุกคน/ทุกๆคน [みな / 皆]
มินนาซาน (mina-san) = ทุกคน/ทุกๆคน [みなさん / 皆さん]
มินนาซามะ (mina-sama) = ทุกท่าน/ทุกๆท่าน [みなさま / 皆様] (สุภาพขึ้นมาตามระดับ)
.::กำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย::.
บากะ (Baka) = โง่/บ้า/ไร้สาระ/ไร้ประโยชน์/งี่เง่า [ばか / 馬鹿]
ชิโอริ (Shiori) = ที่คั่นหนังสือ [しおり / 栞]
อุจู (Uchuu) = จักรวาล [うちゅう / 宇宙]
มังงะกะ (Mangaka) = นักเขียนการ์ตูน/นักวาดการ์ตูน [まんがか / 漫画家]
มังงะ (Manga) = หนังสือการ์ตูน/หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น [まんが / 漫画]
เฮ็นไต (Hentai) = ทะลึ่ง/วิตถาร/หื่น [へんたい / 変体]
โดเรย์ (Dorei) = ทาส [どれい / 奴隷]
.::หยุดอีกแบบไม่รู้จักพอ::.
-=เฮ้อ...=-
คุรุมะ (Kuruma) = รถยนต์ [くるま / 車]
คิฉะ (Kisha) = รถไฟ [きしゃ / 汽車]
เด็นฉะ (Densha) = รถไฟฟ้า [でんしゃ / 電車]
ชินคันเซ็น (Shinkansen) = รถไฟชินคันเซ็น [しんかんせん / 新幹線] (ก็คงจะรู้ๆกันมานะครับว่าเร็วแค่ไหน ไปหาข้อมูลเพิ่มเอาเองนะครับ)
บัสซุ (Basu) = รถประจำทาง/รถเมล์ [バス] <Transliterate : Bus>
โทระ (Tora) = เสือ [とら / 虎]
โดรากอน <ก้อน> (Doragon) = มังกร [ドラゴン] <Transliterate : Dragon>
บั๊กกุ (Bagu) = บั๊ก/ติดบั๊ก/วนลูบ เกมเจ๊ง เล่นไม่ได้ เล่นได้แต่ไม่ผ่าน [バグ] <Transliterate : Bug>
.::หยุดพักหลังจากติดบั๊ก::.
-=จุด จุด จุด=-
เรย์ (Rei) = พวงมาลัย [れい / レイ] (เรย์ทั้งแปดตัวนี้ใช้ฮิรางานะตัวเดียวกันหมด จะใส่แต่คันจินะ)
เรย์ (Rei) = คำสั่ง/สั่งให้ทำตาม [令]
เรย์ (Rei) = มารยาท (สุภาพ) [礼]
เรย์ (Rei) = วัย (อายุ) [齢]
เรย์ (Rei) = ผี/วิญญาณ [霊]
เรย์ (Rei) = เชื่อฟัง/ทาส [隷]
เรย์ (Rei) = ตัวอย่าง [例]
เรย์ (Rei) = สวยงาม [麗]
จิชิน (Jishin) = แผ่นดินไหว [じしん / 地震]
อิยะ (Iya) = เปล่านี่/ไม่ชอบ/ไม่เอา/ไม่นะ (อิย๊า~ ฮ่าๆๆ) [いや / 嫌]
อิยะอิยะ (อิย้าอิยะ) (Iyaiya) = ไม่ใช่/ไม่ใช่ๆ/ไม่ใช่สิ [いやいや / 否否]
อาคุมะ (Akuma) = ปีศาจ/ผี [あくま / 悪魔]
บาเกะโมโน (Bakemono) = ปีศาจ/ผี [ばけもの / 化け物]
โมโนงาตาริ (Monogatari) = เรื่องเล่า [ものがたり / 物語]
อาเคมาชิเตโอเมเดโตโกไซมัตซึ [Akemashiteomedetougozaimasu] = สวัสดีปีใหม่ [あけましておめでとうございます / 明けましておめでとうございます] (อาเคมาชิเต โอเมเตโต โกไซมัตซึ)
มิมิ (Mimi) = หู [みみ / 耳]
มูกาชิ (Mukashi) = เมื่อก่อน/สมัยก่อน [むかし / 昔]
โม่ (Mou) = พอแล้ว/จบแล้ว/ช้าไปแล้ว [もう]
ซุมิมาเซ็น (Suminasen) = ขอโทษ [すみません] (คำนาม) (ใช้เวลาที่คนอื่นลำบากทำอะไรเพื่อเราเช่น "ขอโทษนะครับที่ต้องให้มาช่วยแบบนี้")
ซุมิมาเซ็น (Suminasen) = ขอโทษ [すみません / 済みません] (ใช้เหมือนข้างบน)
โกเม็น (Gomen) = ขอโทษ/โทษที [ごめん / ご免 / 御免]
โกเมนคุดาไซ (Gomenkudasai) = ขอโทษนะ/ขอรบกวนหน่อย [ごめんください / ご免ください]
โกเมนนาไซ (Gomennasai) = ขอโทษ/ขอโทษนะครับ [ごめんなさい / ご免なさい] (คำย่อ) (คำขอโทษเวลาเราทำอะไรผิดหรืออยากจะขอโทษให้เขายกโทษให้จริงๆ)
โกเมนนาไซ (Gomennasai) = ขอโทษ/ขอโทษนะครับ [ごめんなさい / 御免なさい]
โอเมเดโตะโกไซมัตซึ (Omedetougozaimasu) = ยินดีด้วย/ขอแสดงความยินดี [おめでとうございます / おめでとう御座います]
จิน (Jin) = คน [じん / 人]
อาโอโซระ (Aozora) = ท้องฟ้าสีคราม [あおぞら / 青空]
โคฮี่ (Koohii) = กาแฟ [コーヒー] <Transliterate : Coffee>
ซุยกุว (Suigyuu) = ... [すいぎゅう / 水牛]
กักคุเอ็นไซ (Gakuensai) = งานโรงเรียน [がくえんさい / 学園祭]
เท็นงู (Tengu) = ปีศาจเท็นงู [てんぐ / 天狗]
เท็นโค (Tenkou) = ย้ายโรงเรียน [てんこう / 転校]
เท็นโคเซย์ (Tenkousei) = นักเรียนใหม่/นักเรียนที่ย้ายมาจากโรงเรียนอื่น [てんこうせい / 転校生]
อะซาราชิ (Azarashi) = แมวน้ำ [あざらし / 海豹]
อาโฮะ (Ahou) = บ้า/งี่เง่า/ไอ้บ้า/ไอ้โง่/บัดซบ/เวรเหอะ [あほう / 阿房 หรือจะ 阿呆] (ใช้เป็นคำด่า)
ยูเมะ (Yume) = ฝัน/ความฝัน [ゆめ / 夢]
ทาโตะเอบะ (Tatoeba) = ตัวอย่างเช่น [たとえば / 例えば]
โทนิคาคุ (Tonikaku) = ยังไงก็ตาม/อย่างไรก็ตาม [とにかく / 兎に角]
เมงามิ (Megami) = เทพธิดา [めがみ / 女神]
วาเรวาเร (wareware) = พวกเรา [われわれ / 我々]
ชิซึโค่ย (Shitsukoi) = น่ารำคาญซะจริง!/ตื้อจริง [しつこい]
เซฟฟุคุ (Seifuku) = ยูนิฟอร์ม/เครื่องแบบ/ชุด [せいふく / 制服]
โฮระ (Hora) = เห็นไหม/เห็นป่ะ/ดูสิ/นี่ไง/นั่นไง [ほら]
คิตซึเนะ (Kitsune) = จิ้งจอก [きつね / 狐]
อุซากิ (Usagi) = กระต่าย [うさぎ / 兎]
จานะคุเตะ (Janakute) = ใช่ซะที่ไหนล่ะ/ไม่ใช่/ซะเมื่อไหร่/เฮ้ย...ไม่ใช่สิ [じゃなくて]
โบคุ (Boku) = ผม [ぼく / 僕] (ผู้หญิงก็ใช้ได้ แต่คำนี้ผู้ชายจะใช้มากกว่า)
วาตะชิ (Watashi) = ผม/ฉัน [わたし / 私]
จิกาน(อึน)วาริ [Jikanwari] = ตารางสอน [じかんわり / 時間割]
จี่ (jii) = จ้อง [じい]
อาโน (anou) = เอ่อ/คือว่า [あのう]
เอโต (eeto) = คือว่า/เอ่อ... [ええと] (ใช้ "えーと" ถ้าพูดแบบลากเสียงยาว)
อาโนเนะ (anoune) = คือว่านะ [あのうね]
คาโนะโจ (Kanojo) = เธอ/แฟน [かのじょ / 彼女]
โค่ยบิโตะ (Koibito) = แฟน/คนรัก [こいびと / 恋人]
เซย์โตะไค (Seitokai) = สภานักเรียน [せいとかい / 生徒会]
เซย์โตะไคโชว (Seitokaichou) = ประธานนักเรียน [せいとかいちょう / 生徒会長]
อิโรยอิโระ (Iroiro) = หลายๆอย่าง/มากมาย [いろいろ / 色色 / 色々]
.::สี (Iro) [いろ / 色]::.
อากาเนะอิโระ (Akaneiro) = แสด [あかね / 茜]
คุโระ (Kuroi) = ดำ [くろい / 黒い]
อาไก (Akai) = แดง [あかい / 赤い]
ชิโระ (Shiro) = ขาว [しろ / 白]
คิ (Ki) = เหลือง [き / 黄]
คิอิโร่ย (Kiiroi) = เหลือง [きいいろ / 黄色]
อาโออิ (Aoi) = เขียว/น้ำเงิน [あおい / 青い]
โซระอิโระ (Sorairo) = ฟ้า [そらいろ / 空色]
มิโดริ (Midori) = เขียว [みどり / 緑]
งินโนริ (Ginori) = เงิน [ぎんいろ / 銀色]
มุราซากิ (Murasaki) = ม่วง [むらさき / 紫]
โมโมะ (Momo) = ชมพู [もも / 桃]
พิงคุ (Pinku) = ชมพู [ピンク] <Transliterate : Pink>
คุเรนาอิ (Kurenai) = แดงเข้ม [くれない / 紅]
คินอิโระ (Kiniro) = เงิน [きんいろ / 金色]
คอนจิกิ (Konjiki) = ทอง [こんじき / 金色]
โอเรนจิ (Orenji) = ส้ม [オレンジ] <Transliterate : Orange>
มิซุอิโระ (Mizuiro) = ฟ้าอ่อน/คราม [みずいろ / 水色]
ฟุจิอิโระ (Fujiiro) = ม่วงอ่อน [ふじいろ / 藤色]
โนวคอน (Noukon) = น้ำเงินเข้ม [のうこん / 濃紺]
ซากุระอิโระ (Sakurairo) = ชมพู [さくらいろ / 桜色]
มุราซากิ (Murasaki) = ม่วง [むらさき / 紫]
ไดไดอิโระ (Daidaiiro) = ส้มอมแดง [だいだいいろ / 橙色]
ชาคุโดวอิโระ (Shakudouiro) = น้ำตาล/ทองแดง [しゃくどういろ / 赤銅色]
.::เฮ้อ::.
- เฮ้อ...
แซงคูว? <อ่านอย่างนี้หรือเปล่าเนี่ย? ไม่เคยใช้> (Sankyuu) = ขอบคุณ [サンキュー] <Transliterate : Thank You>
ซานเซย์ (Sansei) = ตกลง/เห็นด้วย/ตกลงกันได้แล้ว [さんせい / 賛成]
ซานตาคุรอสซุ (Santakuroosu) = ซานตาคลอส/หนวดสีขาวใส่ชุดสีแดงที่ชอบแอบเข้าบ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติซึ่งถือว่าเป็นอาชญากรรมและมักจะทำในช่วงเทศกาลคริสต์มาส [サンタクロース]
เท็นคู (Tenkuu) = ท้องฟ้า [てんくう / 天空]
เซ็นคิ (Senki) = บันทึกเกี่ยวกับสงคราม/ข้อมูลที่บันทึกเกี่ยวกับสงคราม(หรือเปล่านะ) [せんき / 戦記]
ซึบาสะ (Tsubasa) = ปีก [つばさ / 翼]
ชินจิซึ (Shinjitsu) = ความเป็นจริง/ความจริง [しんじつ / 真実]
ชินจูวัน (Shinjuwan) = เพิร์ลฮาเบิร์ล/อ่าวเพิร์ลฮาเบิร์ล [しんじゅわん / 真珠湾]
ชินจิราเรนาอิ<ไน> (Shinjirarenai) = ไม่น่าเชื่อ/ไม่อยากจะเชื่อเลย [しんじられない / 信じられない]
ชินจิราเรรุ (Shinjirareru) = เชื่อสิ/เชื่อได้ [しんじられる / 信じられる]
ซายะ (Saya) = ฝัก [さや / 莢]
เซ็นอิคิ (Seniki) = เขตสงคราม/ช่วงสงคราม [せんいき / 戦域]
ยู (yu) = น้ำร้อน [ゆ / 湯]
ยูฉะ (Yuusha) = ผู้ชนะ [ゆうしゃ / 優者]
ยูฉะ (Yuusha) = ผู้กล้า [勇者]
ยูมิ (Yumi) = คันธนู [ゆみ / 弓]
ยูมิฮาริซุกิ (Yumiharizuki) = พระจันทร์เสี้ยว [ゆみはりづき / 弓張り月]
เนโกะจิตะ (Nekojita) = กินของร้อนไม่ได้ [ねこじた / 猫舌] (ลิ้นแมว...)
โมวฟุ (Moufu) = ผ้าห่ม [もうふ / 毛布]
โมสซุ (Moosu) = รหัสมอส [モース] <Transliterate : Morse> (* Morse คือชาวอเมริกัน เขาเป็นผู้คิดค้นรหัสมอสขึ้นมาในการโทรเลข อยู่ช่วงปีประมาณ ค.ศ. 1791-1832)
โมชิโม<ตัวหลังเสียงต่ำ> (moshimo) = ถ้าเกิดว่า.../ถ้าสมมุติว่า... [もしも / 若しも] (มักใช้แค่ฮิรางานะ เพราะใช้ง่าย)
มาเคะ (make) = แพ้ [まけ / 負け]
มาเคะทะ (Maketa) = แพ้ซะแล้ว [まけた / 負けた]
โอมาเอะ (Omae) = เธอ/นาย/แก [おまえ / お前] (ใช้เป็นคำเรียกอีกฝ่าย ถ้าฟังเร็วๆจะได้ยินเป็น "โอไม" ซึ่งก็จะรู้ทันที)
ซาซายากะ (Sasayaka) = ไม่เด่น/ไม่สำคัญ/ไม่มีความหมายมากมาย/เล็กๆน้อยๆ [ささやか / 細やか]
ซาเซะทาอิ (Sasetai) = อยาก/อยากให้ [させたい] (คล้ายๆกับว่าอยากให้คนอื่นช่วยทำบางอย่างให้)
คุซุ (Kuzu) = เศษผง/ไร้ประโยชน์/ไร้ความสำคัญ [くず / 屑]
โซโระโซโร <ตัวหลังเสียงต่ำ> (Sorosoro) = ได้เวลาแล้ว/ใกล้แล้ว/ใกล้ได้เวลาแล้ว [そろそろ]
โซเระจา <ตัวหลังเสียงสูง> (Soreja) = ถ้าอย่างนั้น/ถ้าอย่างนั้นก็ [それじゃ]
โซเระเดะ (Sorede) = แล้ว.../แล้วก็/เพราะอย่างนั้น/ยิ่งกว่านั้น [それで]
โซเระนิ (Soreni) = ยิ่งไปกว่านั้น/นอกจากนั้น [それに]
โซเระนาระ (Sorenara) = ถ้าเป็นแบบนั้น/ถ้าอย่างนั้น [それなら]
โซเระโตโม <ตัวหลังเสียงต่ำ> (Soretomo) = หรือ [それとも] (เช่น คนที่ทำคือคนอื่น...หรือว่า...เป็นนายกันแน่...)
โซเระคารา (Sorekara) = หลังจากนั้น/หลังจากนั้นก็ [それから]
โซเระเดโม <ตัวหลังเสียงต่ำ> (Soredemo) = ถึงจะอย่างนั้น/ถึงเป็นแบบนั้นก็เถอะ [それでも]
คุเซะโมโน (Kusemono) = วายร้าย/คนน่าสงสัย/คนเลวร้าย/คนประหลาด/ภูต/อสูร [くせもの / 曲者]
คุริอา (Kuriaa) = เคลียร์ [クリアー] <Transliterate : Clear>
ชิชโซว (Shissou) = การหายสาบสูญ/หายตัวไป [しっそう / 失踪]
ชิชโซว (Shissou) = วิ่ง/พุ่ง (ด้วยความเร็วสูง) [疾走]
โคโดคุ (Kodoku) = เดียวดาย/โดดเดี่ยว [こどく / 孤独]
โคโดคุโนะ (Kodokuno) = สันโดษ [こどくの / 孤独の]
อินกะ (Inga) = สาเหตุและผล/กรรม/ผลกรรม/กรรมเก่า/มีกรรม [いんが / 因果]
รุเท็น (Ruten) = เวียนว่ายตายเกิด/ความแปนผัน (ของชีวิต) [るてん / 流転]
รุเท็นรินเนะ (Rutenrinne) = เวียนว่ายตายเกิด [るてんりんね / 流転輪廻]
มาเรียวคุ (Maryoku) = อำนาจวิเศษ/พลังวิเศษ/พลังลึกลับ [まりょく / 魔力]
มาจิ (Maji) = จริง/จริงสิ/จริงเหรอ [まじ]
มาจิช่าน (Majishan) = นักเวทย์/มักมายากล/ผู้วิเศษ/ผู้มีเวทย์มนต์/ผู้ใช้เวทย์มนต์ [マジシャン] <Transliterate : Magician>
มาจิคคุ (Majikku) = เวทย์มนต์ [マジック] <Transliterate : Magic>
มาจุซึ (Majutsu) = เวทย์มนต์ [まじゅつ / 魔術]
ยูคุ (Yuku) = ตายไป/ตายจากไป [ゆく / 逝く]
ยูคุ (Yuku) = ไป [ゆく / 往く / 行く] (คันจิทั้งสองตัวความหมายเดียวกัน)
ยูคุเอะ (Yukue) = ตำแหน่งที่คนๆนั้นอยู่/สถานที่ที่คนๆนั้นอยู่ [ゆくえ / 行方]
ยูคุซากิ (Yukusaki) = ปลายทาง/จุดหมาย [ゆくさき / 行く先 / 行く手]
ยูคุซุเอะ (Yukusue) = อนาคต [ゆくすえ / 行く末]
โอโทเซย์ (Ottosei) = แมวน้ำ [オットセイ / おっとせい / 膃肭臍] (ว๊ากก!!! แมวน้ำมันมาอีกแล้ว!!! No!!!)
เซย์กิ (Seigi) = ความถูกต้อง/ยุติธรรม/ความหมายที่ถูกต้อง [せいぎ / 正義]
อาโกะงาเระ (Akogare) = ใฝ่ฝัน/ความใฝ่ฝัน [あこがれ / 憧れ]
อาโกะงาเระรุ (Akogareru) = หลงใหลใฝ่ฝัน [あこがれる / 憧れる]
ยูโทวเซย์ (Yuutousei) = นักเรียนยอดเยี่ยม [ゆうとうせい / 優等生]
ฟูชิ (Fuchi) = รอบๆ/กรอบ [ふち / 縁]
ฟูชิ (Fuchi) = ที่ๆ น้ำลึก/จุดที่น้ำลึก [ふち / 淵]
คิชิ (Kishi) = ชายหาด/ริมฝั่ง/ริมน้ำ/ชายฝั่ง [きし / 岸]
คิชิ (Kishi) = อัศวิน [騎士]
คิชิ (Kishi) = นักเล่นหมากรุกญี่ปุ่น [棋士] (ชิ มักจะเป็นตัวบอกเฉพาะว่าหมายถึงตัวบุคคล เช่น กุน [gun] แปลว่ากองทัพ กุนชิ [gunshi] ก็แปลว่าหทาร)
คิฉะ (Kisha) = รถไฟ/รถจักรไอน้ำ/รถไฟพลังไอน้ำ [きしゃ / 汽車]
คิชูกุกักโคว (Kishukugakkou) = โรงเรียนประจำ [きしゅくがっこう / 寄宿学校]
คิโชว (Kishou) = เบาบาง [きしょう / 希少]
คิโชว (Kishou) = บรรยากาศ/ดินฟ้าอากาศ [気象]
คิโชว (Kishou) = นิสัย/อารมณ์ [気性]
คิโชว (Kishou) = ตื่นนอน/การตื่นและลุกจากที่นอน [起床]
โอว (Ou) = ราชา [おう / 王]
โอว (Ou) = โพลง/หลุม [凹]
โอว (Ou) = รับหน้าที่/เป็นหนี้/ได้รับบาดเจ็บ/รับภาระ/แบกภาระ [負う]
โอว (Ou) = ท่านผู้เฒ่า/ชายชรา [翁]
โอว (Ou) = ไล่ตาม/ไล่กวด/ไล่ตามมาติดๆ [追う]
โฮโคริ (Hokori) = ฝุ่น [ほこり / 埃]
ซึรุกิ (Tsurugi) = ดาบ/ดาบซึรุกิ [つるぎ / 剣] (ซึรุกิ คือดาบประเภทหนึ่งของญี่ปุ่น ส่วนลักษณะก็อธิบายไม่ถูก เอาไว้เดียวหารูปมาแปะไว้ให้ดูก็แล้วกันนะครับ)
อุนเมย์ (Unmei) = ชะตากรรม [うんめい / 運命]
เอ็นเมย์ (Enmei) = การต่ออายุขัย/ยืดชีวิต [えんめい / 延命]
โยรุ (Yoru) = เนื่องจาก/ขึ้นอยู่กับ/โดยใช้/โดยอาศัย/เพิ่มขึ้น/รวมกัน/ค่อนข้างไปทาง [よる / 依る / 因る / 由る]
โยรุ (Yoru) = เยี่ยม/แวะ/พบ [寄る]
โยรุ (Yoru) = ใช้เป็นเกณฑ์/ตั้งมั่นอยู่ที่ [拠る]
โยรุ (Yoru) = เลือก [選る]
โยรุ (Yoru) = ฟั่น/หมุนให้กลมๆเป็นเกลียว [撚る / 縒る]
โยรุ (Yoru) = ตอนเย็น [夜]
เซ็นเค็ตซึ (Senketsu) = กำหนดการล่วงหน้า/สิ่งสำคัญที่ควรกำหนดก่อนสิ่งอื่นๆ/กำหนดไว้ล่วงหน้า [せんけつ / 先決]
เซ็นเค็ตซึ (Senketsu) = เลือดสด [鮮血]
คิเฮย์ (Kihei) = กองทหารม้า [きへい / 騎兵]
เคย์ยาคุ (Keiyaku) = สัญญา [けいやく / 契約]
โชวริ (Shouri) = ชนะ/สำเร็จ [しょうり / 勝利]
โชวริ (Shouri) = ผลประโยชน์/กำไร (เล็กๆ น้อยๆ) [小利]
โทงาริโงเอะ (Togarigoe) = เสียงแหลม (เวลาโกรธหรือไม่พอใจ) [とがりごえ / 尖り声]
โทกะ (Toga) = ความผิด/การกระทำที่ผิด [とが / 科 / 咎]
โทกะ (Toga) = สง่างาม [都雅]
โทกัตตะ (Togatta) = แหลม [とがった / 尖った]
โทงารุ (Togaru) = ปลายแหลม/แหลม [とがり / 尖り]
โทงาริ (Togari) = แหลมคม/แหลม [とがる / 尖る]
โทงาราซุ (Togarasu) = ทำหน้าไม่พอใจ/ทำให้รุนแรงมากขึ้น/ทำให้คมมากขึ้น [とがらす / 尖らす]
เท็นชิ (Tenchi) = ฟ้าดิน [てんち / 天地]
เท็นชิว (Tenchuu) = สวรรค์ลงโทษ [てんちゅう / 天誅] (มีในอนิเมะ Fortune Arterial ~Akai Yakusoku~)
เท็นโชว (Tenchou) = ผู้จัดการ/ผู้จัดการร้าน [てんちょう / 店長] (ในอนิเมะ Working! ก็มี)
โฮว (Hou) = งั้นหรือ/โห... [ほう] (ออกเสียงประมาณว่า "โห...กล้าดีนี่..." ไม่ใช่แบบ "โห!!! สุดยอด!!!, ฮ้า! สุเค จาไนกา...")
โฮว (Hou) = เลียนแบบ [ほう / 倣]
โฮว (Hou) = พังทลาย [崩]
โฮว (Hou) = ปืนใหญ่ [砲]
โฮว (Hou) = กฏ/กฏหมาย [法]
โฮว (Hou) = เบื่อ/เอียน [飽]
โฮว (Hou) = ชมเชย [褒]
โฮว (Hou) = ปล่อย/ปลดปล่อย/ลั่นกระสุน [放]
โฮว (Hou) = ข่าว/รายงาน/ข่าวสาร/ข่าวคราว [報]
โฮว (Hou) = เงินเดือน [俸] (โฮวนี้ตัว "方" มีความหมายว่าทิศทาง ซึ่งก็เคยบอกไปข้างบนแล้ว แถวๆคำว่าอาซุมะนี่ล่ะ เลยไม่เอามาใส่ซ้ำรวมกับพวกนี้)
ทานุกิ (Tanuki) = ตัวทานูกิ/ตัวแรคคูน [たぬき / 狸]
ทาเคะ (Take) = ภูเขาสูง/ยอดเขา [たけ / 岳]
ทาเคะ (Take) = ทั้งหมด/ความสูง/ความยาว [丈]
ทาเคะ (Take) = ไม้ไฝ่ [竹]
ไทโยว (Taiyou) = พระอาทิตย์ [たいよう / 太陽]
ไทโยว (Taiyou) = มหาสมุทร [大洋]
ไทโยว (Taiyou) = ประเด็นสำคัญ [大要]
ไทโยว (Taiyou) = สภาพ [体様] (คำนี้เป็นศัพท์ทางกฎหมาย)
อะชิโอโตะ (Ashioto) = เสียงเดิน/เสียงฝีเท้า [あしおと / 足音]
โยโรคอนเดะ (Yorokonde) = ด้วยความยินดี [よろこんで / 喜んで]
ออนเซ็น (onsen) = น้ำพุร้อน [おんせん / 温泉]
เอ (ee) = อืม/ครับ/ค่ะ [ええ] (ออกเสียง "เอ้")
เทย์คิว (Teikyuu) = เทนนิส [ていきゅう / 庭球]
ยักคิว (Yakyuu) = เบสบอล [やきゅう / 野球] (ออกเสียง "หยักคิ้ว")
ยักคิวโจว (Yakyuujou) = สนามเบสบอล [やきゅうじょう / 野球場]
ยักคิวเซ็นชู (Yakyuusenshu) = นักเบสบอล [やきゅうせんしゅ / 野球選手]
ยักคิวบุ (Yakyuubu) = ชมรมเบสบอล [やきゅうぶ / 野球部] (คำว่าเทนนิสก็สามารถเติม โจว เซ็นชู และคำอื่นๆต่อหลังเหมือนเบสบอลได้ ก็ให้ความหมายว่าสนามเทนนิสและนักเทนนิสได้)
โฮวคาโกะ (Houkago) = หลังเลิกเรียน [ほうかご / 放課後]
โทคิโดคิ (Tokidoki) = บางครั้ง/นานๆ ครั้ง/นานๆ ที [ときどき / 時時 / 時々]
อัคจิ (Acchi) = ตรงโน้น/ที่โน่น [あっち]
คาคารุ (Kakaru) = ทอดข้าม [かかる / 架かる]
ฮาชิ (Hashi) = สะพาน [はし / 橋]
ซึนซึน (Tsuntsun) = โกรธ/รุนแรง/หยิ่งยะโส [つんつん]
เดเตะคุรุ (Detekuru) = ออกมา/ออกมาซะ [でてくる / 出て来る]
คุไร (Kurai) = ประมาณ/ราวๆ [くらい]
จิกานทาอิ (Jikantai) = Time Zone [じかんたい / 時間帯] (การแบ่งเวลาออกเป็น 24 ส่วนแยกตามพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก โดยยึดตามเส้นลองจิจูดเป็นตัวแบ่งเขตเวลา - -* นี่ศึกษาศัพท์ญี่ปุ่นกันอยู่แน่หรือ? ทำไมผมต้องมาอธิบายเรื่องพวกนี้ให้คนอื่นเข้าใจด้วยเนี่ย?)
จิเฮย์เซ็น (Chiheisen) = เส้นขอบฟ้า [ちへいせん / 地平線]
จา (cha) = ชา/น้ำชา [ちゃ / 茶]
จาคิ (Chaki) = จาคิก็คือจาคิ [ちゃき / 茶器] (อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีชงชา)
จาโคชิ (Chakoshi) = จาโคชิก็คือจาโคชิ [ちゃこし / 茶漉し] (ที่กรองชา)
จาชิซึ (Chashitsu) = ห้องสำหรับจัดพิธีชงชา [ちゃしつ / 茶室]
จาชากุ (Chashaku) = จาชากุก็คือจาชากุ [ちゃしゃく / 茶杓] (ช้อนจิบิๆ ที่ใช้ตักผงชาเขียวในพิธีชงชา)
จาจิน (Chajin) = ผู้ทำพิธีชงชา/ผู้รู้เกี่ยวกับพิธีชงชา [ちゃじん / 茶人]
จาเซย์คิ (Chaseki) = จาเซย์คิก็คือจาเซย์คิ [ちゃせき / 茶席] (ที่นั่งในพิธีชงชา)
จาเซ็น (Chasen) = จาเซ็นก็คือจาเซ็น [ちゃせん / 茶筅] (ที่ตีชาเขียวในพิธีชงชา มันจะเป็นขนๆเอาไว้คน ซึ่งก็อาจจะเห็นของพวกนี้บ่อยๆในอนิเมะ)
จาทาคุ (Chataku) = จานรองแก้วชา [ちゃたく / 茶托]
จาโนมิ (Chanomi) = การดื่มชา [ちゃのみ / 茶飲み]
ชานซุ (Chansu) = โอกาส [チャンス] <Transliterate : Chance>
ดาเมจิ (Dameeji) = ความเสียหาย [ダメージ] <Transliterate : Damage>
จูวกักโคว (Chuugakkou) = โรงเรียนมัธยมต้น [ちゅうがっこう / 中学校]
จูวโคคุ (Chuukoku) = เตือน/เตือนสติ/เตือนให้ระวัง/คำเตือน/ตักเตือน [ちゅうこく / 忠告]
จูวนิชิ (Chuunichi) = การประจำอยู่ที่ญี่ปุ่น/อยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นประจำหรือถาวร [ちゅうにち / 駐日]
คุนโดคุ (Kundoku) = การอ่านตัวอักษรคันจิแบบเสียงญี่ปุ่น [くんどく / 訓読] (คนที่อ่านไม่คล่องมักเรียกชื่อคนโดยออกเสียงคาตาคานะหรือฮิรางานะซึ่งเหมือนอ่านท่องทีละตัวเช่น "ยู-มิ-นะ,yu-mi-na" หรือ "เรย์-เซ-อึน,rei-se-n" ถ้าอ่านแบบคันจิก็คือ "ยูมินะ" หรือ "เรย์เซ็น" โดยออกเสียงให้ตรงตัวคันจิไปเลย)
คุนโยมิ (Kunyomi) =เช่นเดียวกับ Kundoku คล้ายๆกัน ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่ามันต่างกันอย่างไร [くんよみ / 訓読み]
ไนซุ (Naisu) = เยี่ยม/ดี/วิเศษ [ナイス] <Transliterate : Nice> (นั่นล่ะ! Nice!)
นาโอซุ (Naosu) = รักษา [なおす / 治す / 直す] (คันจิตัวนี้ 直す ยังแปลว่า ซ่อมแซมได้ด้วย)
นางาโนะ (Nagano) = ตลอดกาล/ชั่วนิจนิรันดร์ [ながの / 永の / 長の]
deha = ถ้าอย่างนั้น/งั้น [では]
ชิบาราคุ (Shibaraku) = สักครู่/สักพัก/ช่วงระยะเวลาหนึ่ง [しばらく / 暫く] (ではしばらく = ถ้าอย่างนั้นอีกสักพักหนึ่ง...)
โอนิกิริ (Onigiri) = ข้าวปั้น [おにぎり / お握り] (มักใช้แค่ตัวฮิรางานะ)
โกฮัน (Gohan) = ข้าว/อาหาร [ごはん / ご飯 / 御飯]
ซึมาริ (Tsumari) = ซึ่งก็คือ/ก็คือ/กล่าวคือ [つまり / 詰まり]
ซุมาไน (Sumanai) = โทษที/ขอโทษ/น่าเสียดาย/รู้สึกเสียใจ [すまない / 済まない]
โอเบนโต (Obentou) = ข้าวกล่อง [おべんとう / お弁当] (โทโฮโฮ... โอเบนโตนี่ได้ยินกันออกบ่อยนะ)
ทาโนะชิมิ (Tanoshimi) = น่าสนุก/สนุกสนาน/ความสนุกสนาน [たのしみ / 楽しみ]
เอ็นกะ (Enka) = ค่าเงินเยน [えんか / 円価]
เอ็นไค (Enkai) = ชายฝั่ง [えんかい / 沿海]
เอ็นไค (Enkai) = กลางทะเล [遠海]
เอ็นเคาต้า (enkauntaa) = เผชิญหน้า/พบ/ปะทะ [エンカウンター] <Transliterate : Encounter>
เท็นกะ (Tenka) = โลก [てんか / 天下]
ทันกะไดงาคุ (Tankadaigaku) = วิทยาลัย [たんかだいがく / 単科大学]
ทันกะ (Tanka) = ทันกะก็คือทันกะ มีอะไรจะถามอีกไหม? [たんか / 短歌] (ทันกะคือบทกวีชนิดหนึ่งมี 5 วรรค แต่ละวรรคมี 5-7-5-7-7 คำ)
แท็งก้า (Tankaa) = เรือบรรทุกน้ำมัน [タンカー] <Transliterate : Tanker> (เฮ้ย!!! แท็งมา!!! แท็ง!!!) PS. L4D2
ไรชู (Raishuu) = อาทิตย์หน้า [らいしゅう / 来週]
ไรชู (Raishuu) = บุกจู่โจม/โจมตี [来襲]
ไรบารุ (Raibaru) = คู่แข่ง [ライバル] <Transliterate : Rival>
ราคุไร (Rakurai) = ฟ้าผ่า [らくらい / 落雷]
ไรเมย์ (Raimei) = ฟ้าร้อง/เสียงฟ้าร้อง [らいめい / 雷鳴]
กันบาเระ (Ganbare) = พยายามเข้า/สู้ตาย [がんばれ / 頑張れ]
งาราซุ (Garasu) = กระจก [がらす / 硝子]
ไกซุรุ (Gaisuru) = ทำลาย/ฆ่า [がいする / 害する]
อาซะ (Asa) = เช้า/ตอนเช้า [あさ / 朝] (โฮ้ย อาซะดะโซะ!)
ชิไน (Shinai) = ดาบไม้ไผ่ [しない / 竹刀] (ชิไนคือดาบไม้ไผ่ที่เอาไว้ใช้ในกีฬ่าเคนโด้ครับ ดาบตรงๆและปลายดาบจะเป็นสีขาว =w= ไปหาดูเอาเองเถอะ อธิบายยาก)
คุริชิอิ<ชี่> (Kurushii) = เศร้า/เจ็บปวด/ทรมาน(หรือว่า "ทรมาณ" นี่แหละ ใช้ยากจริง) [くるしい / 苦しい]
คุรุชิมิ (Kurushimi) = ทุกข์ทรมาณ [くるしみ / 苦しみ]
คุรุ (Kuru) = มา/มาแล้ว [くる / 来る]
โนริ (Nori) = สาหร่าย [のり / 海苔] (คันจิตัวนี้ "糊" อ่านว่าโนริเหมือนกัน แต่แปลว่า "กาว")
ซะซะ (Sasa) = ใบไผ่ [ささ / 笹]
ฮันไซ (Hanzai) = อาชญากรรม [はんざい / 犯罪] (เห็นคำนี้แล้วนึกถึงอนิเมะเรื่อง "ฮายาเตะ" ด้วยเหตุผลส่วนตัว =.=")
ฮันไซฉะ (Hanzaisha) = อาชญากร [はんざいしゃ / 犯罪者]
บั-น (baan) = ปัง (เสียงปืน) [バーン] <Transliterate : Bang!> (แบ้ง...)
ไบโอริน (Baiorin) = ไวโอลิน [バイオリン] <Transliterate : Violin>
บากะยาโรว (Bakayarou) = ไอ้บ้าเอ้ย!/ไอ้โง่เอ้ย! [ばかやろう / 馬鹿野郎] (นึกถึงเวลายากุซ่าด่าลูกน้องตัวเองด้วยคำนี้จะเห็นภาพมากที่สุด เอาน้ำเสียง โรวๆ ด้วยนะ ฮาดี)
บากะบากะชี่ (Bakabakashii) = เหลวไหลสิ้นดี/ไร้สาระ [ばかばかしい / 馬鹿馬鹿しい]
บัน (ban) = ตอนเย็น [ばん / 晩]
บันเซย์ (Bansei) = ตลอดกาล [ばんせい / 万世] (ทะ-โทวโฮวไม่มีหัว... <東方 - 万世>)
มินาโตะ (Minato) = ท่าเรือ [みなと / 港 / 湊] (เห็นคำนี้นึกถึงเกม GTA - Vice City และ GTA IV เป็นอย่างแรก และอย่างที่สองนึกถึง อนิเมะเรื่อง Akane-iro ni somaru saka)
เมียวจิ (Myouji) = นามสกุล [みょうじ / 苗字 / 名字] (เห็นคำนี้ยิ่งทำให้นึกถึงอนิเมะเรื่อง 11eyes)
มิรุคุ (Miruku) = นม [ミルク] <Transliterate : Milk>
อิโงะ (Igo) = หมาก-ล้อม/เกมส์โกะ [いご / 囲碁]
โชวงิ (Shougi) = หมากรุก(ญี่ปุ่น) [しょうぎ / 将棋] (商議 ก็อ่านว่าโชวงิ แปลว่า"ประชุม, ปรึกษา" 娼妓 ก็อ่านว่าโชวงิ แต่จะไม่แปลให้ อยากรู้ไปหาเอาเอง)
มินาโมโตะ (Minamoto) = ที่มา/ต้นกำเนิด/แหล่งกำเนิด [みなもと / 源] -Origin- < ใช่คำนี้หรือป่ะ? ใช่สิๆ ใช่คำนี้หรือเปล่า? (นี่ตูถามเพื่ออะไร? "=w=a)
โอกิรุ (Okiru) = ตื่น/ตื่นได้แล้ว/ตื่นนอน [おきる / 起きる]
มามิซุ (Mamizu) = น้ำจืด [まみず / 真水]
จุชิ (Jushi) = ยางไม้ [じゅし / 樹脂]
โมวอิ (Moui) = พลังรุนแรง [もうい / 猛威]
บูชิ (Bushi) = นักรบ/ซามูไร [ぶし / 武士]
บูชิโดว (Boshidou) = วิถีแห่งนักรบ [ぶしどう / 武士道]
เค็นโกะ (Kengo) = จิตใจแข็งแกร่ง/จิตใจมั่นคง/หนักแน่น [けんご / 堅固]
เซ็ตซึริน (Zetsurin) = เก่ง/เก่งกว่าคนทั่วไป [ぜつりん / 絶倫] (เซ็ตซึรินยังมีอีกความหมายก็คือ ... โดยถ้าใช้ผิดๆมันก็ส่อไปถึง ... และอาจทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็น ... ได้ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะท่านจะไม่เข้าใจแน่นอนว่า ... คืออะไร ถ้าท่านไม่เข้าใจการใช้ล่ะก็นะ จุดจุดจุด สบายใจได้ =w=b)
เซ็ตซึได (Zetsudai) = ใหญ่มาก!! [ぜつだい / 絶大] (มันก็ไม่ได้หมายความว่าใหญ่อะไรมากขนาดนั้นหรอก)
ทาชิกะ (Tashika) = ถ้าจำไม่ผิด/แน่นอนว่า [たしか / 確 / 確か]
ทาชิกะนิ (Tashikani) = ก็จริงอย่างที่ว่า/ไม่ผิด/อย่างแน่นอน [たしかに / 確かに]
โซยซึ (Soitsu) = หมอนั่น/เจ้าหมอนั่น [そいつ / 其奴]
โซวโควเงคิ (Soukougeki) = โถมกำลังจู่โจม/เข้าโจมตีพร้อมกัน [そうこうげき / 総攻撃]
เซ็นเซ็น (Zenzen) = เปล่า/ไม่เคย/ไม่ได้ผลสักนิด [ぜんぜん / 全然] (เซ็นเซ็น! วาการะเซ็นโซะ =w=")
ซุเตคิ (Suteki) = ยอดเยี่ยม/วิเศษ [すてき / 素敵]
ซุยเซย์ (Suisei) = ดาวหาง [すいせい / 彗星] (อ่าระ คันจิ "โฮชิ")
มาซากะ (Masaka) = หรือว่า/บ้าน่า!/ไม่มีทาง/เป็นไปไม่ได้/เป็นไปได้ยังไง [まさか]
เบซึนิ (Betsuni) = เปล่านี่/ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ [べつに / 別に]
มาซุย (Mazui) = แย่ล่ะ/แย่แน่/ไม่ได้เรื่องแล้ว/ไม่ได้การล่ะ/ไม่อร่อย/ไม่เหมาะ [まずい / 不味い]
มาซุ (Mazu) = ก่อนอื่น/อย่างแรก [まず / 先ず] (ใช้คำว่า 'อันดับแรก' น่าจะเหมาะกว่านะ)
โซชิเตะ (Soshite) = และ/จากนั้น [そして]
ซุรุโตะ (Suruto) = และแล้ว/ทันใดนั้น/หลังจากนั้น [すると]
ซุกิมะ (Sukima) = ช่องว่าง [すきま / 隙間]
ซุกิมะนะคุ (Sukimanaku) = ไม่มีช่องว่าง [すきまなく / 隙間なく]
ฮานาบิ (Hanabi) = ดอกไม้ไฟ [はなび / 花火]
ฟุซะเก็นนะ (Fuzakenna) = อย่ามาล้อเล่นนะ! [ふざけんな] (โมโห)
โซโมะโซโม (Somosomo) = แรกเริ่ม/คนแรก [そもそも / 抑]
คางุระ (Kagura) = ระบำบวงสรวงเทพเจ้า [かぐら / 神楽]
คันนุชิ (Kannushi) = เจ้าอาวาส/ผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา [かんぬし / 神主] (ศาสนาชินโต)
มุโจว (Mujou) = สุดยอด/สูงสุด [むじょう / 無上] (อะลูมิเนียม มุโจว!! PS. Seitokai no Ichizon)
มุระ (Mura) = หมู่บ้าน [むら / 村]
โทโมะ (Tomo) = เพื่อน [とも / 友]
โทโมดาจิ (Tomodachi) = เพื่อน/พวกพ้อง [ともだち / 友だち / 友達]
โทเมรุ (Tomeru) = หยุด/หยุดยั้ง/ยับยั้ง/จอด/ทำให้นิ่ง [とめる / 止める / 停める / 留める]
เมโมะ (Memo) = บันทึก/บันทึกความจำ/การจดโน้ต [メモ] (การเขียนข้อความเพื่อเตือนความจำ) <Transliterate : Memorandum >
อิจิซอน (Ichizon) = ความเห็นส่วนตัว/ความเห็นของตัวเอง [いちぞん / 一存]
คัน (Kan) = แห้ง/แห้งแล้ง [かん / 乾]
คัน (Kan) = ลางสังหรณ์ [勘]
คัน (Kan) = แลกเปลี่ยน [換]
คัน (Kan) = เงียบ, เวลาว่าง [閑]
คัน (Kan) = กระป๋อง [缶]
คัน (Kan) = ใจกว้าง [寛]
คัน (Kan) = ลักษณะภายนอก, สภาพ [観]
คัน (Kan) = กำลังแย่/ตกอยู่ในสภาวะเลวร้าย [陥]
คัน (Kan) = ท่อ/หลอด [管]
คัน (Kan) = อาคาร/หอพัก [館]
คัน (Kan) = คืน/ส่งคืน [還]
คันปาย (Kanpai) = ไชโย/คัมปาย [かんぱい / 乾杯]
คิ (Ki) = ต้นไม้ [き / 木]
คิเค็น (Kiken) = อันตราย/มีอันตราย [きけん / 危険]
อะบูไน (Abunai) = อันตราย [あぶない / 危ない]
กิมอนฟุ (Gimonfu) = ? [ぎもんふ / 疑問符] (งิมอนฟุคือเครื่องหมายคำถามครับ)
ดาเมะ (Dame) = อย่า/ห้าม/ไม่ได้นะ [ダメ]
โอชิซึยเตะ (Ochitsuite) = ใจเย็นหน่อยสิ/สงบลงก่อน [おちついて/落ち着いて]
โอชิซึยตะ (Ochitsuita) = ใจเย็นลงบ้างหรือยัง?/สงบลงบ้างหรือยัง? [おちついた / 落ち着いた]
อะนิกิ (Aniki) = พี่ชาย/ลูกพี่ [あにき / 兄貴]
นาซะเกนาอิ (Nasakenai) = น่าสมเพช/น่าอาย [なさけない / 情けない]
เฮ็น (hen) = แปลก/พิลึก/ประหลาด [へん / 変]
มิยะ (Miya) = ศาลเจ้า/วัง [みや / 宮]
ชิรา(อิ)ไนฮิโตะ (Shirainaihito) = คนแปลกหน้า/คนที่ไม่รู้จัก [しらいないひと / 知らない人]
ดัตตะระ (Dattara) = ถ้าอย่างนั้นล่ะก็/ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ [だったら]
วากัตเตะรุโยะ (Wakatteruyo) = รู้อยู่แล้วล่ะ [分かってるよ]
มัตตะคุ (Mattaku) = ให้ตายสิ/จริงๆเลยนะ/แย่จริงๆ [まったく / 全く]
ซาเตะ (sate) = เอาล่ะ [さて / 偖]
มิเนะ (mine) = ยอดเขา [みね / 峯 / 峰]
เอโก (Eigou) = ชั่วนิรันดร [えいごう / 永劫]
เอโกะ (Eigo) = ภาษาอังกฤษ [えいご / 英語]
ไมนิจิ (Minichi) = ทุกวัน [まいにち / 毎日]
ไมโมโดรุ (Mimodoru) = กลับมา/ต้องกลับมานะ [まいもどる / 舞い戻る]
โทนิคาคุ (Tonikaku) = อย่างไรก็ตาม/ยังไงก็ [とにかく / 兎に角]
โยชิ (Yoshi) = เอาล่ะ/เอาล่ะนะ [よし]
โยชิโยชิ (Yoshiyoshi) = โอ๋ๆ [よしよし]
โอจามะชิมัตซุ (Ojamashimasu) = รบกวนหน่อยนะครับ [おじゃまします / お邪魔します] (ใช้เมื่อเวลาเราเข้าไปในบ้านคนอื่นหรือสถานที่อื่นเช่นห้องสภานักเรียนหรือที่ไหนก็ได้ที่มันสมควรจะขออนุญาตก่อนเดินมึนเข้าไป)
คุโซ (kuso) = โธ่เว้ย! [くそ]
ดาเมะดะ (Dameda) = ไม่ได้/ห้าม/ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว/ยังไม่ได้/ทนไม่ได้แล้ว [だめだ]
โทริอิ (Torii) = โทริอิก็คือโทริอิครับ ง่ายดี [とりい / 鳥居] (โทริอิคือเสาประตูศาลเจ้าครับ สีแดงๆ ถ้าเป็นทางขึ้นที่เป็นบันไดล่ะก็จะอยู่หลังขั้นสุดท้ายไม่ห่างนัก ผมเองก็อธิบายไม่ถูก แต่ถ้าไปศาลเจ้าบ่อยๆก็จะนึกภาพออกทันที)
โทริอาเอะซุ (Toriaezu) = อย่างไรก็ตาม/ก่อนอื่น/ก่อนอื่นต้อง.../อย่างแรก... [とりあえず / 取りあえず]
นิกิริเมชิ (Nigirimeshi) = ข้าวปั้น [にぎりめし / 握り飯]
ทามาชิอิ (Matamii) = วิญญาณ [たましい / 魂] (ore no... tamashii no kodo!!!, 俺の魂の鼓動っ・・・・・・!)
เอย์เรย์ (Eirei) = วิญญาณของวีรชน [えいれい / 英霊] (ที่ล่วงลับไปแล้ว... แน่นอน ถ้ายังมีชีวิตอยู่คงไม่ใช่วิญญาณ มั้ง... มั้งนะ?)
เซย์เรย์ (Seirei) = วิญญาณคนตาย/วิญญาณในสถานที่ต่างๆที่ยังสิงสถิตย์อยู่ [せいれい / 精霊] (聖霊 เซย์เรย์นี้แปลว่าพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาคริสต์หรือพระเยซูครับ)
ยูเรย์ (Yuurei) = วิญญาณ/ผี [ゆうれい / 幽霊]
เกมมุ (Geemu) = เกม 【ゲーム】 <Transliterate : Game>
ไทโทรุ (Taitoru) = หัวข้อ 【タイトル】 <Transliterate : Title>
บาจัน (Baajon) = รุ่น/เวอร์ชั่น 【バージョン】 <Transliterate : Version>
โอยาบุน (Oyabun) = หัวหน้าแก๊ง/ลูกพี่ 【おやぶん / 親分】
นิปปอน (Nippon) = ญี่ปุ่น 【にっぽん / 日本】
นี้ซาน (Nii-san) = พี่ชาย 【にいさん / 兄さん】 (เวลาเรียกคนอื่นที่เป็นชายหนุ่มที่เราไม่รู้จัก หรือจะใช้เรียกพี่ชายของตัวเองก็ได้)
เน้ซาน (Nee-san) = พี่สาว 【ねえさん / 姉さん】 (ใช้เหมือนกับคำข้างบน แต่คำนี้ยังสามารถใช้เป็นคำเรียกพนักงานเสิร์ฟที่เป็นผู้หญิงได้)
เน่ (nee) = นี่.../เน่... 【ねえ】 (เป็นคำเรียกหรือเอ่ยขึ้นมาเพื่อขอความแน่ใจหรือยืนยันบางสิ่ง)
มิโกะ (miko) = มิโกะ... ก็มิโกะนั่นแหละครับ... อืม... นั่นสินะ 【みこ / 巫女】 (หญิงสาวพรมจรรย์ในชุดขาวแดง มิโกะตามปกติชุดจะไม่มีอะไรตกแต่งเพิ่ม ปกติใส่แค่ท่อนบนสีขาวล้วน ท่อนล่างสีแดง มิโกะคือผู้ทำพิธีการต่างๆให้ศาสนาชินโตและอาศัยอยู่ศาลเจ้า อุปกรณ์ของมิโกะก็จะมีเครื่องลางและไม้ไล่ผี ไม้ไล่ผีก็จะมีสายขาวๆ 2-3 เส้นห้อยลงมา ผมก็ไม่ทราบว่าเขาเรียกว่าอะไรเช่นกัน)
นินเงียว (ningyou) = ตุ๊กตา 【にんぎょう / 人形】
นินเก็น (ningen) = มนุษย์ 【にんげん / 人間】
นิน (nin) = คน/จำนวนคน 【にん / 人】
ฮิโตะ (Hito) = คน 【ひと / 人】
นาโนนิ (Nanoni) = ทั้งๆ ที่... 【なのに】
เดซุการะ (Desukara) = ก็บอกว่า.../เพราะฉะนั้น/ดังนั้น 【ですから】