ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

Vocaloid_BRS

Utility Knowledge Anime Headquarters 2 ยานพาหนะแห่งสงคราม

Rate this Entry
ส่วนนี้ถูกนำลงแค่นิดหน่อยเท่านั้นเนื่องจากไม่ขี้เกียจจัดกระทู้ -.-

In Service = จำนวนที่มีไว้ใช้งานหรือที่เคยผลิตขึ้นมา (จำนวนปัจจุบันในปี 1995-2005)
Hardpoint = จำนวนจุดที่เครื่องบินหรือยานพาหนะต่างๆสามารถบรรจุยุทโธปกรณ์เข้าไปได้

----------




-===A-10A Thunderbolt II===-

อย่างที่เรารู้ๆกันว่า "เอเท็น" เป็นเครื่องบินรบประเภทสนับสนุนการโจมตีจากอากาศสู่พื้นดินได้เป็นอย่างดีและเกราะก็หนาพอทีจะทำให้โดนยิงมากๆแล้วร่วงยาก
แต่ก็มีข้อเสียตรงที่บินช้ากว่าเครื่องบินรบประเภทอื่นๆ บินไปมึนๆก็อาจจะโดนสอยร่วงซะง่ายๆได้ อาวุธสำหรับ A-10 แล้วถือว่าแรงมากพอที่จะทำลายได้เป็นวงกว้าง
สำหรับการยิงในแต่ละครั้ง สามารถบินต่ำๆได้เพื่อหลบหลีกการตรวจจับ การตอบรับคำสั่งเพื่อตั้งจุดในการยิงแต่ละครั้งก็สามารถทำได้ไม่ยากเพราะด้วยอัตราความเร็วที่ต่ำ
ทำให้สามารถวนกลับไปโจมตีในจุดต่างๆได้ ประมาณว่าถ้ากลับไปอีกรอบก็เตรียมเผ่นป่าราบได้ เพราะ A-10 ยิงแต่ละทีลากไปเป็นแถวและกระสุนยังรุนแรงอีกด้วย โดนคนทีไม่ใช่คนบาดเจ็บนะ ตัวเละเลยก็มี
ปัจจุบันมีเกมแนวนี้ออกมาในชื่อ "A-10C Wartrog(ชื่อยาวกว่านี้ จำไม่ได้)" ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ารุ่น A-10C นี่มีจริงๆหรือเปล่า ตามความคิดผมว่าน่าจะทำออกมาในรูปแบบเกมเพียงอย่างเดียวมากกว่า
ผมเองก็ไม่มั่นใจแล้วว่า "Warthog" เป็น Code name ของ "A-10A" หรือเปล่า เพราะฉายาของ A-10A คือ "Thunderbolt II" แต่ก็ได้ยินบ่อยๆเพราะ Warthog (หมูป่า?) เป็น Code name ของ A-10 อยู่แล้ว
Thunderbolt หมายถึง สายฟ้า ฟ้าฝ่า หรือ อัสนี ต่างๆก็แล้วแต่จะจำเอาเอง มาจากประสิทธิภาพในการโจมตีของ A-10 ที่รุนแรง กระบอกปืนเยอะกว่า ถึงจะช้าเมื่อเทียบกับเครื่องบินรบ แต่สมมุติว่าคุณกำลังจะถูก A-10 กราดยิงเป็นแนวมาที่คุณมาแล้ววิ่งหลบได้ทันก็ลองดู
สามารถบรรจุมิสไซด์ AIM ได้เพื่อปองกันตัวจากเครื่องบินฝ่ายศัตรู แต่น้อยครั้งนักที่จะเห็น A-10 ยิงเครื่องบินรบร่วง แต่ก็สามารถติด ALQ คือตัวปล่อยแฟร์เพื่อที่ปีกได้ พอปล่อยแฟร์ทีนึงเหมือนโรยฝงเยอะๆลงไปเลย

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 24,359lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 51,000lbs
บรรจุน้ำมัน : 10,700lbs
ใช้โดย : กองทัพอากาศ
นักบิน : 1 คน
Hardpoint : 13
ความชำนาญพิเศษ : ตอนกลางคืน, ทุกสภาพอากาศ
รหัสเรียก (Code name) : วอร์ท็อค (Warthog)
ชื่อ : เอ-10เอ "ทันเดอร์โบลท์ ทู" (A-10A Thunderbolt II) [เอ-เท็น] <เอ-สิบ>
ประเภท : สนับสนุนทางอากาศระยะใกล้ (Close Air Support)
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา
ผลิตโดย : แฟรไชด์-รีพับลิค (Fairchild-Republic)
In Service : 700+

---ส่วนของเครื่อง---

ประเภทของปีก : เหล็กรองรับน้ำหนัก ปีกขนาดต่ำ ปีกข้างเดียว (แต่ใช้สองข้าง แบบนี้หมายความว่าไม่ใช่ปีกติดกัน)
ประเภทของหาง : ครีบคู่ อลูมิเนียมรองรับน้ำหนัก
ส่วนรองรับน้ำหนักเมื่อลงจอด : Menasco จำนวน 3 ล้อ
เติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ : Boom

---แอร์เฟรม---

AOA สูงสุด : 30 deg
AOA ต่ำสุด : -10 deg
การกระพือขอบของปีกขณะลงจอด : สามารถใช้ได้
การกระพือขอบของปีกท้าย : สามารถใช้ได้
แรง G สูงสุด : ระดับ 7.33

---เครื่องยนต์---

จำนวนเครื่องยนต์ : 2
ระบบ :TF34-GE-100
ประเภทเครื่องยนต์ : พัดลมเทอร์โบ (Turbofan)

---ขนาดเครื่องบิน---

พื้นที่ : 506 sq ft
ความยาว : 53ft
ความกว้างของปีก : 57.5ft
ความสูง : 5.2ft

---ระบบป้องกัน---

Chaff : 240
Flares : 240

---ยุทโธปกรณ์---

GAU-8A 30mm "Avenger" : 1170
600 Gal Tank A10 : 1
AGM-65A "Maverick" : 6
AGM-65B "Maverick" : 6
AGM-65D "Maverick" : 6
AGM-65G "Maverick" : 6
AIM-9M : 4
AIM-9P : 4
ALQ-119 "ECM Pod" : 2
BSU-49 : 14
BSU-50 : 4
CBU-52B/B : 14
CBU-58A/B : 14
CBU-87 CEM : 14
CBU-97 SFW : 6
GBU-10C/B : 4
GBU-12B/B : 8
LAU-3/A /HE : 6
LAU-68/131 /HE : 6
LAU-68/131 /WP : 6
Mk-20D : 14
Mk-82 : 14
Mk-84 : 4

---รายละเอียดการบิน---

ระยะสนับสนุน : 250nm
ความเร็วสูงสุด : 450kts
ระดับความสูง : 41,000ft
การไต่ระดับความสูง : 100ft/sec
ความเร็วในการเปลี่ยนมุม : 260kts
จำกัดการหมุนของเฟือง : 200kts
การลดความเร็วกลางอากาศ : 120kts (ต่อวินาที)
ระยะวิ่งการขึ้นบิน (Takeoff Run) : 4,000ft

---อุปกรณ์ที่นั่งนักบิน---

ระบบ : ACES II
ประเภท : ดีดตัวที่นั่งนักบิน
ความสามารถ : 3 วินาทีก่อนดีดตัว ต่ำสุด 200 ฟุท (ถ้าต่ำกว่า 200 ฟุทจะอันตรายถ้าดีดตัว เหตุผลคือถึงร่มจะกางแต่บางทีอาจจะทรงตัวไม่ได้ทำให้เวลาตกลงที่พื้นนั้นบาดเจ็บ)

* อธิบายว่าทำไมถึงต้อง "3 วินาที" เหตุผลคือ จุดสำหรับเปิดระบบที่ดีดตัวนักบินจะอยู่ที่หว่างขา จะเขียนว่า "Pull to Eject" เมื่อจะดีดตัว ต้องดึงค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีระบบดีดตัวถึงจะทำงาน เพื่อป้องกันการเผลอไปโดนการทำงานของระบบดีดตัว
ถ้าเผลอแล้วมัน "ฟุบ!" ออกไปเลย เสี่ยงทั้งนักบินเพราะตอนเผลอระดับความสูงอาจจะไม่พอ ถึงจะพอบางทีเหมือนตกใจว่าอยู่ดีๆโดนดีดออกไปเหมือนโดนถีบ มันตั้งตัวไม่ทันอาจจะทำให้มีสติน้อยลงในการทรงตัวแล้วการกางร่มชูชีพ แถมเสียทั้งเครื่องบินอีก เดือดร้อนตายชัก
แต่ถ้าไม่ทันจริงๆเพราะมันจะตายห่าอยู่แล้ว มัวมา 3 วิก็ม่องพอดี ก็ดึงจนสุดแรงเกิดมันจะดีดพรึบออกไปทันทีครับ ถ้าหัวไม่กระแทกกระจกน่ะนะ ถึงจะมีหมวกก็เหอะ เจ็บเอาเรื่องนะนั่น ระบบมันปลดกระจกทันแต่มุมของเครื่องบินมันจะดีดให้กระจกให้พ้นออกไปหรือเปล่าแค่นั้นเอง

---ระบบหลบหลีก---

ระบบ : AN/ALE-40
ประเภท : Chaff/Flare (ปล่อยพลุล่อมิสไซด์แบบกระจาย)
รูปแบบ : เลือกใช้ทีละอัน, เลือกใช้ทีละหลายๆอัน, ปล่อยพลุอัตโนมัติเมื่ออันตราย
ความสามารถ : 480 chaff และ flare แบบบรรจุเป็นแพค

---ระบบเรดาร์---

ระบบ : AN/ALR-69
ประเภท : สัญญาณแจ้งเตือนอันตรายบนเรดาร์
รูปแบบ : เปิด, ล่วงหน้า, ค้นหา, เปิดระบบมิสไซด์, ยิงมิสไซด์
ความสามารถ : 2-18GHz

---ระบบนักบิน---

ระบบ : LASTE
ประเภท : เรดาร์วัดความสูง, คอมพิวเตอร์ควบคุมการยิง, นักบินอัตโนมัติ
รูปแบบ : CCIP

---ระบบล็อคเป้าหมาย---

ระบบ : TISL
ประเภท : แสดงเป้าหมายด้วยเลเซอร์
ความสามารถ : หน้าจอกำหนดเป้าหมายเพื่อเล็งเป้าด้วยเลเซอร์

---ปืน---

ชื่อ : GAU-8A [Avenger]
ประเภท : ปืนกล (Getling cannon)
ลำกล้องปืน : ขนาด 7 (มี 7 รู)
ขนาดของลำกล้องปืน : 30mm
อัตราความเร็วในการยิง : 70rds/sec
บรรจุกระสุน : 1,350 นัด
ประเภทกระสุน : PGU-14/B API, PGU-13/B HEI, PGU-15/B TP
ความเร็วกระสุน : 3,200ft/rds





-===AC-130U Spooky===-

เครื่องบินสนับสนุนทางอากาศขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "AC-130 Gunship" รูปไม่ต่างไปจาก "C-130U" เลย เพียงแต่มีปืนอยู่ 3 ประเภทยื่นออกมาทางด้านซ้ายของเครื่อง
และรับแรงยิงจากปืนใหญ่ที่ยิงออกไปได้ดี การสนับสนุนการยิงนี้จะบินวนไปรอบๆเพื่อโจมตีภาคพื้นดินโดยมีหน่วยภาคพื้นดินคอยวางเป้าหมายและรายงานสถานะตัวเองตลอดเพื่อ
ไม่ให้ยิงโดนพวกเดียวกันเอง (ตู้มเดียวและทั้งทีม จบเห่ถ้าคนยิงไม่รู้เรื่อง) ภายในเครื่องบินจะมีคนอยู่อีกประมาณ 3-5 หรือมากกว่านั้นคอยบรรจุกระสุน ที่สำคัญคือต้องทำอย่างรวดเร็ว
และคอยรายงาน TV Control ซึ่งเป็นคนยิงตลอดทุกครั้งว่าบรรจุกระสุนแล้วก่อนที่จะยิงออกไปได้ AC-130 สามารถบินวนเหนือพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างดีด้วยความสูงที่ค่อนข้างสูงและความเร็วที่ไม่เร็วมาก
สามารถค้นหาทหารและยานพาหนะได้ด้วยเรดาร์ตรวจจับความร้อน แต่ถึงอย่างนั้นการสนุบสนุนจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อไม่มีเครื่องบินรบและการต่อต้านอากาศยานต่างๆด้วยจำนวนที่ไม่สามารถหลบหลีกได้
AC-130 ผลิตโดยบริษัท "Lockheed" ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะคุ้นๆหูกันอยู่ ซึ่งมีระบบ "Lockheed Systems" ที่เป็นไอพ่นฉุกเฉินสำหรับปล่อยออกมาเพื่อดันเครื่องลอยขึ้นตอน Takeoff หรือลดความเร็วตอนบินลงแบบฉุกเฉิน ลำนี้ได้เข้าร่วมภารกิจต่างๆเช่นที่ อิรักหรือในระหว่างช่วงสงครามเย็น (Cold War) อีกด้วย
AC-130 เป็นเครื่องบินสนับสนุนระยะยาวที่ค่อนข้างดีและหลายๆระบบที่ทำให้อยู่ในภารกิจได้ยาวนาน ระบบเตือนมิสไซด์และเกราะขนาดหนากับระบบ FCS และ APS (Fire-Control systems, Armor Protection Systems) เรด้าร์ที่สามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศในยามค่ำคืน
และด้วยการยิงที่โครตแรงโครตไกลทำให้เป็นที่น่ากลัวของหลายๆกองทัพ เพราะการจะระเบิดรถหุ้มเกราะนี่แค่ปืนใหญ่ตูมเดียวก็เหลือแหล่ แถมยังมี "Countermeasures" หรือที่เรียกว่า "พลุล่อมิสไซด์" ไว้ใช้ในตอนที่จะโดนมิสไซด์สอยเอาได้ (ประสิทธิภาพของลำนี้ไม่เท่า AC-130H)
ถ้าเทียบกับ AC-130H แล้วผมชอบ AC-130H มากกว่า เพราะทั้งกระสุนและระบบต่างๆดีกว่าลำนี้มาก (มากๆ)
ถ้าจะเรียกเป็นไทยต้องเรียก "เอซี-หนึ่งสามศูนย์" นะครับ ห้ามเรียก "เอซี-ร้อยสามสิบ" มันโครตผิดแบบตรงประเด็นทันที ชื่อแบบอังกฤษมัน "เอซี-วันทรีซีโร่" จะไปเรียกหนึ่งร้อยสามสิบไม่ได้ ห้ามๆๆๆๆๆๆๆเด็ดขาด
ปัจจุบันลำนี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว(มั้ง) เพราะหน้าที่นี้มี AC-130H "Spectre" ที่มีระบบกับประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 76,469lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 155,000lbs
บรรจุน้ำมัน : 55,000lbs
ใช้โดย : กองทัพอากาศ
นักบิน : 3 คน
Hardpoint : 3
ความชำนาญพิเศษ - ตอนกลางคืน, ทุกสภาพอากาศ
ชื่อ : เอซี-130ยู "สปูกกี้" (AC-130U "Spooky") [เอซี-วันทรีเซโร่] <เอซี-หนึ่งสามศูนย์>
รหัสเรียก (Code name) : สปูกกี้ (Spooky)
ประเภท : สนับสนุนทางอากาศระยะใกล้ (Close Air Support)
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา (USA)
ผู้ผลิต : ล็อคฮีด (Lockheed)
จำนวนผู้ช่วยบนเครื่องบิน : 10 คน (ทีวี คอนโทล, บรรจุกระสุนขนาดเล็ก, บรรจุกระสุนขนาดกลาง, บรรจุกระสุนขนาดใหญ่)
In Service : 2,000 (out of duty)

---ส่วนของเครื่อง---

ประเภทของปีก : ปีกขนาดสูงข้างเดียว
ส่วนรองรับน้ำหนักเมื่อลงจอด : ล้อเรียงเดี่ยว (Single Tandem)

---ขนาดเครื่องบิน---

พื้นที่ : 1745 sq ft
ความยาว : 81ft
ความกว้างของปีก : 132.5ft
ความสูง : 23ft

---แอร์เฟรม---

AOA สูงสุด : 20 deg
AOA ต่ำสุด : -5 deg
ตัวช่วยลดความเร็วทางด้านหลัง : สามารถใช้ได้
แรง G สูงสุด : ระดับ 2.3

---เครื่องยนต์---

จำนวนเครื่องยนต์ : 4
แรงขับเคลื่อนสูงสุด : 72,013.2lbs
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 0.94
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (เต็มกำลัง) : 0.46
ระบบ :T65-A-15
ประเภทเครื่องยนต์ : พัดลมเทอร์โบ (Turbofan)
แรงม้า : 18,364shp

---ระบบป้องกัน---

Chaff : 30
Flares : 60

---เรด้าร์---

ระยะ : 53nm
อัตราการกวาด : 60 deg/sec (ในเรด้าร์มันจะหมุนๆนะครับ นึกออกมั้ย)
ความกว้างของแสงกวาด : 2 deg
มุมการค้นหาสูงสุด : 60 deg

---ความสามารถ---

มีระบบ NCTR
สามารถโจมตีจากอากาศสู่พื้นดิน
มีความสามารถ TWS
ชีพจรเรด้าร์ (แสงเขียวๆที่หมุนรอบเรดาห์)
สามารถโจมตีจากอากาศสู่อากาศ

---ยุทโธปกรณ์---

GAU12 25mm : 2540 นัด
AAA 37mm : 100 นัด
Bofors 40mm : 100 นัด
MOAB : 1 ลูก

---รายละเอียดการบิน---

ระยะการมองเห็น : 4,250nm
ระยะสนับสนุน : 1,100nm
ความเร็วสูงสุด : 325kts
ระดับความสูง : 33,000ft
การไต่ระดับความสูง : 32ft/sec
การลดความเร็วกลางอากาศ : 100kts
ระยะวิ่งการขึ้นบิน (Takeoff Run) : 3,230ft
ระยะการลงจอด (Landing Run) : 1,700ft

---ระบบของเครื่องบิน---

AN/AAQ-24 อินฟาเรดควบคุมทิศทางพลุล่อมิสไซด์
AN/AAT-44 อินฟาเรดแจ้งเตือนอันตราย
AN/ALE-47 ระบบปล่อยชาฟและแฟร์แบบกระจาย
AN/ALQ-172 ระบบพลุล่อมิสไซด์อิเล็กทรอนิกส์
AN/ALQ-196 Jammer (ค้นหาเมื่อมีเรดาห์ล็อคมาที่ฝ่ายพันธมิตร)
AN/ALR-69 อินฟาเรดเตือนอันตราย (เมื่อโดนมิสไซด์ไล่สัญญาณมันก็จะดังไปเรื่อยๆจนกว่าจะมิสไซด์จะหมดการทำงาน)
AN/APR-46A Panoramic RF receiver
QRC-84-02 ระบบพลุล่อมิสไซด์อินฟาเรด

---หน้าที่---

Close Air Support (สนับสนุนทางอากาศระยะใกล้) [สนับสนุนระยะไกลคือ Artillery ที่ยิงสนับสนุนได้เป็นร้อยๆไมล์ เลยทีเดียว] (ถ้า Multiple Rocket Launcher System คือหลายที เพราะมัน Multiple ฮ่าๆๆ ไม่ตลกเลยสักนิด)
Armed Recon (เครื่องบินสำรวจติดอาวุธ)
Air Interdiction (ลักลอบเข้าประเทศทางอากาศ) [Interdiction ในความหมายของทางทหารคือแอบๆเข้าไปจากนั้นก็ S&D, Search and Destroy หรือ ค้นหาและทำลายแบบ search and engage enemy at will]





-===Su-25 Frogfoot===-

ตานี้เป็นทีของเครื่องบินรัสเซียบ้าง จะว่ารัสเซียคงจะไม่ใช่ล่ะมั้ง ของโซเวียสคงจะถูกกว่า ลำนี้ชื่อว่า "Su-25 Grach" (NATO ตั้งชื่อว่า "Frogfoot") ซึ่ง "Frogfoot" มันจะคุ้นหูมากกว่าซะอีก
ลำนี้ออกปฏิบัติการในปี 1982 และปี 1984 ที่อัพกานิสถาน ซึ่งเป็นเหมือนๆกับ A-10 ของสหรัฐที่เป็น "low-flying tactics" เหมือนกัน ดูเหมือนประสิทธิภาพจะหรูกว่า A-10 ด้วยซ้ำ
สามารถหลบหลีกเครื่องบินรบฝ่ายศัตรูและการโจมตีจากอากาศสู่อากาศได้ดีด้วย รวมถึงคอปเตอร์ก็สอยได้สบายๆด้วยลำนี้ การสนับสนุนแต่ละครั้งสามารถโจมตีได้หลายๆเป้าหมายเพราะมิสไซด์มันยัดไว้เต็มปีก
แถมยังบินต่ำมากๆและช้าอีกต่างหาก ปัญหาคือมันขับโครตยากและยากมากๆด้วย ต้องมีประสบการณ์มากพอสมควร ไม่งั้นถึงจะยัดมิสไซด์ไปเต็มที่ก็เอาไปร่วงเปล่าๆ ประมาณนั้นแหละ
ปัจจุบัน Su-25 Frogfoot เป็นของกองทัพอากาศรัสเซียและกองทัพอากาศอิรัก
*low-flying tactics คือ "ยุทธวิธีการบินแบบต่ำ" คือ การวิธีการบินที่ไม่สูงมาก ประมาณว่าลูกปืนขนาด 12.7 ยังยิงถึง ยิ่งเฉพาะเวลาสนับสนุนจะต้องดิ่งหน้าลงเพราะกระบอกปืนมันงอลงไม่ได้และนักบินก็ไม่มีความสามารถที่จะยิงให้มันชิ่งอากาศลงไปด้วย (แต่ก็ทำได้แต่ไม่ใช่ชิ่ง กระสุนมันจะย้อยลงเพราะน้ำหนักแบบ HE มากกว่ากระสุนพวก AP)
การบินอย่างนี้ถือว่าอันตรายแต่ไม่มากเท่าไหร่ (ถ้าไม่ต่ำขนาดปีกลากพื้น อย่างนี้พัง ดีดตัวได้แต่ไม่รอดแน่ๆ อย่างต่ำก็คงขยับตัวไม่ได้) จะอันตรายตรงที่มิสไซด์ติดตามจะพุ่งใส่เพียงในเวลาไม่กี่วินาที จึงต้องปล่อยพลุล่อมิสไซด์ทุกครั้งในการสนับสนุนเพื่อกันไว้ดีกว่าดึงที่ดีดตัวตรงหว่างขาและไปตกแถวๆกองกำลังของศัตรู
ลักษณะการบินแบบนี้จะสูง เท่าไหร่หว่า จำไม่ได้ ขอไปทีแล้วกัน เอาเป็นว่าปกติ (ตามปกติเลยนะครับ จากพื้นดิน) เฮลิคอปเตอร์จะไปในระดับความสูง (ตามที่เห็นในเกมทั่วๆไป) จากพื้นดิน Close Air Support จะบินสูงกว่าเฮลิคอปเตอร์เท่าตัว แต่ตอนสนับสนุนบางทีก็บินลงไปขนาดที่ว่าเห็นไอ้ก้างยืนถือปืนทำปากหวอใส่เลย (ถ้ามองไม่ทันก็เดี๋ยวค่อยกลับไปดูวิดีโอที่เครื่องบินบันทึกไว้ก็ได้)

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 21,605lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 41,005lbs
บรรจุน้ำมัน : 8,465lbs
ใช้โดย : กองทัพอากาศ
นักบิน : 1 คน
Hardpoint : 10
ความชำนาญพิเศษ - ทุกสภาพอากาศ
ชื่อ : ซู-25 "ฟร็อกฟุต" (Su-25 "Frogfoot") [ซู-ทเวนตี้ไฟฝ์] <เอสยู-ยี่สิบห้า>
ประเภท : โจมตี (Attack)
ผู้เริ่มต้น : รัสเซีย
ผู้ผลิต : ซัคโฮ่ (Sukhoi)
ขึ้นบินครั้งแรก : 1/1/77
เข้าปฏิบัติการในภารกิจ : 1982
In Service : 2,000

---ส่วนของเครื่อง---

ประเภทของปีก : ปีกขนาดสูงข้างเดียว
ส่วนรองรับน้ำหนักเมื่อลงจอด : ล้อเรียงเดี่ยว (Single Tandem)

---ขนาดเครื่องบิน---

พื้นที่ : 362 sq ft
ความยาว : 45ft
ความกว้างของปีก : 9.5ft
ความสูง : 9.5ft

---แอร์เฟรม---

AOA สูงสุด : 20 deg
AOA ต่ำสุด : -10 deg
การกระพือขอบของปีกขณะลงจอด : สามารถใช้ได้
การกระพือขอบของปีกท้าย : สามารถใช้ได้
แรง G สูงสุด : ระดับ 6.5

---เครื่องยนต์---

จำนวนเครื่องยนต์ : 2
แรงขับเคลื่อนสูงสุด : 18,651.48lbs
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 0.86
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (เต็มกำลัง) : 0.45
ระบบ : R-195
ประเภทเครื่องยนต์ : .เทอร์โบเจ็ท (Turbojet) [เออ...ประเทศมันใหญ่นี่ ผลาญเชื้อเพลิงเป็นว่าเล่น]
แรงขับเคลื่อนแบบแห้ง : 19,842lbs

---ระบบป้องกัน---

Chaff : 30
Flares : 256

---ยุทโธปกรณ์---

180 ImpGal Tank : 4
30mm GSH-30-2 : 250
FAB-100 : 32
FAB-100/UKB : 35
FAB-250 : 8
FAB-250/UKB : 8
FAB-500 : 8
FAB-500/UKB : 8
Kh-25ML : 4
Kh-29L : 2
Kh-29T : 2
R-60 : 2
RBK-250/OAB : 8
RBK-250/PTAB : 8
RBK-500/BetAB : 8
RBK-500/OAB : 8
RBK-500/OFB : 8
RBK-500/PTAB : 8
RBK-500/SPBE : 8
RBK-500/U : 8
S-24 : 8
U-O-25 : 8
UB-32-57 : 8
UB-8 : 8
ZAB-250 : 6

---รายละเอียดการบิน---

ระยะการมองเห็น : 700nm
ระยะปฏิบัติการ : 330nm
ความเร็วสูงสุด : 526kts
ระดับความสูง : 22,965ft
ระยะวิ่งการขึ้นบิน (Takeoff Run) : 1,970ft
ระยะการลงจอด (Landing Run) : 1,312ft
ค่า G สูงสุด : ระดับ 7
บินได้ต่ำสุด : 200nm (ขณะบินแบบไม่ได้กำลังจะลงจอดและ 200nm นี่ถือว่าต่ำมาก [มากๆ] บินผ่านด้วยระดับขนาดนี้คงเฉียดหลังคาบ้าน)

---ปืน---

ประเภท : ปืนใหญ่ (Cannon) [ไม่ได้หมายความว่ายิงปืนใหญ่นะครับ เป็นกระสุนประเภท HE ขนาดใหญ่]
ลำกล้องปืน : ขนาด 2
ขนาดของลำกล้องปืน : 30mm
ความเร็วกระสุน : 50rds/sec
บรรจุกระสุน : 250 นัด




-===Su-39 Frogfoot===-

ลำนี้เป็นเครื่องบินโจมตีกับเครื่องบินรบซึ่งพัฒนามาจาก Su-25 แต่ใช้มิสไซด์ AA-11 และระเบิดจากอากาศสู่พื้นมาใส่ไว้ด้วย
โดยลำนี้ก็มีชื่อว่า "Frogfoot" เช่นกัน ว่าง่ายๆคือการรวมจาก Su-25T ที่ถนัดในการโจมตีทางอากาศและ Su-25UB ที่ถนัดทิ้งระเบิด
สภาพโดยรวมไม่ได้ต่างไปจากรุ่นก่อนๆเลย แต่เครื่องบินลำนี้ก็จะเห็นได้ในรัสเซียเท่านั้นนะ ประเทศอื่นไม่มีลำนี้หรอก

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 21,605lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 45,194lbs
บรรจุน้ำมัน : 8,465lbs
ใช้โดย : กองทัพอากาศ, กองทัพเรือ
นักบิน : 1 คน
Hardpoint : 10
ความชำนาญพิเศษ - ทุกสภาพอากาศ
ชื่อ : ซู-25ทีเอ็ม "ฟร็อกฟุต" (Su-25TM "Frogfoot") / ซู-39 "ฟร็อกฟุต" (Su-39 "Frogfoot") / [ซู-ทเวนตี้ไฟฝ์] <เอสยู-ยี่สิบห้า> / [ซู-เทอร์ที่ไนน์] <ซู-สามสิบเก้า>
ประเภท : โจมตี (Attack)
ผู้เริ่มต้น : รัสเซีย
ผู้ผลิต : ซัคโฮ่ (Sukhoi)
In Service : 22/3

---ขนาดเครื่องบิน---

พื้นที่ : 362 sq ft
ความยาว : 45ft
ความกว้างของปีก : 47ft
ความสูง : 9.5ft
ความกว้าง : 51ft

---แอร์เฟรม---

AOA สูงสุด : 20 deg
AOA ต่ำสุด : -10 deg
การกระพือขอบของปีกขณะลงจอด : สามารถใช้ได้
การกระพือขอบของปีกท้าย : สามารถใช้ได้
แรง G สูงสุด : ระดับ 6.5

---เครื่องยนต์---

จำนวนเครื่องยนต์ : 2
แรงขับเคลื่อนสูงสุด : 18,651.48lbs
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 0.86
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (เต็มกำลัง) : 0.41
ระบบ : R-195
ประเภทเครื่องยนต์ : .เทอร์โบเจ็ท (Turbojet)
แรงขับเคลื่อนแบบแห้ง : 19,842lbs

---ระบบป้องกัน---

Chaff : 30
Flares : 256

---เรด้าร์---

ระยะ : 30nm
อัตราการกวาด : 50 deg/sec
ความกว้างของแสงกวาด : 2 deg
มุมการค้นหาสูงสุด : 67 deg
ประเภทเรด้าร์ : Kopyo-25 (ภาษาอังกฤษคือ "Spear-25" ครับ "Kopyo" แปลไปอังกฤษคือ "Spear" ที่แปลว่าทวนหรือหอก)

---ความสามารถ---

สามารถโจมตีจากอากาศสู่พื้นดิน
มีความสามารถ TWS
ชีพจรเรด้าร์
สามารถโจมตีจากอากาศสู่อากาศ
ตัวเรด้าร์หลายรูปแบบ

---ยุทโธปกรณ์---

180 ImpGal Tank : 4
30mm GSH-30-2 : 250
AT-16 Vickr* : 16 * (ภาษารัสเซีย)
FAB-250 : 8
FAB-250/UKB : 8
FAB-500 : 8
FAB-500L : 2
Kh-25ML : 4
Kh-29L : 2
Kh-29T : 2
Kh-31A : 2
Kh-31P : 2
Kh-35 : 2
Kh-58 : 8
R-60 : 2
T-73 Mod 1 : 2
R-77 : 2
RBK-250/OAB : 8
RBK-250/PTAB : 8
RBK-500/BetAB : 8
RBK-500/OAB : 8
RBK-500/PTAB : 8
RBK-500/SPBE : 8
S-24 : 6
U-O-25 : 6
UB-8 : 6
ZAB-250 : 8
ZAB-500 : 2

---รายละเอียดการบิน---

ระยะการมองเห็น : 700nm
ระยะสนับสนุน : 330nm
ความเร็วสูงสุด : 526kts
ระดับความสูง : 22,965ft
ระยะวิ่งการขึ้นบิน (Takeoff Run) : 1,970ft
ระยะการลงจอด (Landing Run) : 1,312ft
บินได้ต่ำสุด : 200nm

---ปืน---

ประเภท : ปืนใหญ่ (Cannon)
ลำกล้องปืน : ขนาด 2
ขนาดของลำกล้องปืน : 30mm
ความเร็วกระสุน : 50 นัด/วินาที
บรรจุกระสุน : 250 นัด





-===AH-1 Cobra===-

คอปเตอร์โจมตีหรือ AH-1 Gunship เป็นฮอขนาดเล็กที่บินได้ค่อนข้างไวล่ะมั้งมีใบพัดคู่แค่อันเดียวเอง ผมเองก็ไม่ค่อยมีรายละเอียดเกี่ยวกับ
ฮอลำนี้สักเท่าไหร่ เพราะผมไม่ค่อยได้สนใจ มันยิงไม่โหดถ้าเทียบกับ AH-64 ไอ้เจ้าลำนี้ผลิตหลังสงครามโลกประมาณ 10-20 ปีนี่แหละ และเอาไป
ซัดกันในสงครามเย็นอีกรอบ AH-1 เป็นคอปเตอร์โจมตีแบบ Anti-Armor กับยิง Close Air Support และมีมิสไซด์ TOW ต่อต้านรถถังด้วย แต่ไม่แรงเท่าไหร่
ส่วนใหญ่จะยิงพวก LAV กับ IFV ซะมากกว่า (Light Armored Vehicles / Infantry Fighter Vehicles) การโจมตีจากอากาศสู่อากาศสำหรับลำนี้ก็ไม่เป็นรอง
AH-64 เลยด้วยกระสุนปืน AP เหมือนปืนปกติแบบปืนไรเฟิลจู่โจมแต่เป็นลูกปืนเหมือน M134 (Minigun) แต่ของ AH-64 มันจะมี Stinger ที่เป็นมิสไซด์ยิงจากอากาศสู่อากาศในระยะใกล้
ถ้ายิงระยะไกลคือแป่กไปไม่ถึง ร่วงกลางอากาศซะดื้อๆ กับ Gunship แบบ HE ที่ยิงจากอากาศสู่อากาศได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะมันไปช้ากว่าลูกปืนปกติ
ลำนี้ไม่มีแฟร์โวลหรือที่เรียกอีกอย่างว่าพลุหลอกล่อมิสไซด์ซะด้วย โดนมิสไซด์ไปทีก็ร่วงตามปกติถ้ามิสไซด์ที่ยิงมามันไม่แป่กลงไปซะก่อนที่จะมาโดนฮอ
ใช้บ้างในบางภารกิจช่วยสนับสนุนหรือไปทำลายอะไรสักอย่าง ลุยโหดยาวๆไม่ได้เนื่องจากโจมตีไม่เมพพอ ถ้า Heavy Anti-Air เข้าไปก็จบเห่กันล่ะ แถมน้ำมันก็พอประมาณไม่มากไม่น้อย บินทั้งวันก็เกือบหมดแล้ว
ลำนี้ใช้ตั้งแต่สงครามเวียดนามแล้วครับ เลิกใช้กันแล้ว ไม่เหมือน AH-1F ที่ประสิทธิภาพถูกพัฒนามากขึ้นกว่าลำนี้มาก

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 6,598lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 10,000lbs
บรรจุน้ำมัน : 2,086lbs
ใช้โดย : กองทัพ, นาวิกโยธิน
นักบิน : 2 คน
Hardpoint : 4
ความชำนาญพิเศษ - VTOL
ชื่อเรียก : เอเฮ็ท-1 ฮูเอ้ "คอบบร้า" (AH-1 Huey "Cobra") [เอเฮ็ท-วัน] <เอเฮ็ท-หนึ่ง>
ประเภท : โจมตี (Attack)
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา (U.S.A.)
ผู้ผลิต : เบล (Bell)
ประเภทใบพัด : Stub (ปีกเดี่ยวคู่)

---ยุทโธปกรณ์---

20mm M39-2 : 1200
TOW : 4
LAU-3/A /HE : 4
LAU-3/A MPSM : 4
LAU-68/131 /HE : 4
LAU-68/131 /WP :4
LAU-68/131 MPSM : 4

---เครื่องยนต์---

จำนวนเครื่องยนต์ : 1
ระบบ : T53-L-703
ประเภทเครื่องยนต์ : .เทอร์โบชาฟ (Turboshaft)
แรงขับเคลื่อนแบบแห้ง : 1,800lbs

---ขนาดเครื่องบิน---

ความยาว : 46ft
ความสูง : 14ft
เส้นผ่าศูนย์กลางใบพัด : 48ft
น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 10,200lbs
น้ำหนัก (รับได้สูงสุด) : 14,705lbs

---รายละเอียดการบิน---

ระยะการมองเห็น : 343nm
ระยะสนับสนุน : 100nm
ความเร็วสูงสุด : 150kts
ระดับความสูง : 12,200ft

---ปืน---

ชื่อ : M197
ประเภท : ปืนกล (Getling Cannon)
ลำกล้องปืน : 3
ขนาดของลำกล้องปืน : 20mm
ความเร็วกระสุน : 12 นัด/วินาที
ความเร็วกระสุน : 3,380ft/วินาที

*AH-64A Apache / AH-64X / AH-64D Apache / AH-64D Longbow / WAH-64*



-===AH-64A Apache===-

อพาชี่ (ตามชื่อเรียก "อะแพชชี่" แต่กองทัพสหรัฐเรียก "อพาชี่" โดยไม่ออกเสียงไปทางอย่างเรียกเลยเรียกตาม) หรือจะเรียกว่า "Apache Gunship" ก็ได้ เป็นที่รู้จักในหลายๆคน กับ Hellfire Missiles ที่ A-10 ก็ใช้ประเภทเดียวกันในการทำลายรถถัง และอย่างที่เคยว่าไปก่อนหน้านี้ (A-10 ใช้ AGM-65 Maverick แต่ Apache ใช้ AGM-114 Hellfire)
ว่าความสามารถมันโครต Very limited air-to-air จริงๆแต่สำหรับสนับสนุนภาคพื้นดินแล้ว ถ้าไม่วิ่งหนีก็เตรียมตัวเละได้เลย
AH-64 ได้เข้าร่วม Operation - Just Cause และ Operation - Desert Storm (และอีกหลายๆภารกิจที่ไม่อยากบอกให้เยอะเกินไป) มาด้วย ด้วย Display ของ Apache นี้จะขึ้นที่หมวกของนักบิน
ซึ่งไม่ว่าหันไปทางไหนหน้าจอก็ตามไปตลอด และรายงานความสูงความเร็วที่หน้าจอตลอดโดยไม่ต้องก้มลงไปมองที่จอเหมือนฮอลำอื่นๆ
ถึงลำนี้จะไม่มีเรดาร์เหมือน "AH-64D" แต่ประสิทธิภาพถือว่ายังใช้รบได้ดี และในการซ้อมรบก็ใช้ลำนี้ซ้อมได้ (ถ้าเอา AH-64D ไปซ้อมรบก็ไม่ได้ใช้เรดาห์)
แน่นอนว่าถึงไม่มีเรดาห์ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมาก เพียงแต่ไม่มีระบบเสริมเท่านั้นเอง เพราะการเคลื่อนที่ของทหารไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยการอ่านกระดาษภารกิจและเคลื่อนที่ไม่ตามแมพเหมือนในเกมแต่เคลื่อนกำลังพลด้วยคำสั่งของ HQ

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 11,387lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 21,000lbs
บรรจุน้ำมัน : 2,442lbs
ใช้โดย : กองทัพ
นักบิน : 2 คน
ความชำนาญพิเศษ - VTOL, ตอนกลางคืน
ชื่อเรียก : เอเฮ็ท-64เอ "อพาชี่" (AH-64A "Apache") [เอเฮ็ท-ซิกที่โฟร์] <เอเฮ็ท-หกสิบสี่>
ประเภท : เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ (Gunship)
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา (U.S.A.)
ผู้ผลิต : แม็คโดแนล ดองลาส (McDonnell Donglas)
จำนวนคน : 2 คน (นักบิน, กันเนอร์)
บินครั้งแรก : 9/30/75
เข้าร่วมภารกิจ : 1985
In Service : 811
Hardpoint : 6 (ริมจุดติดอาวุธข้างละ 1 ข้างล่างจุด สติงเกอร์ ติดอาวุธฝั่งละ 2 แฮลไฟและไฮดร้า)

---ยุทโธปกรณ์---

30mm M230A1 : 1200
AGM-114 : 16
LAU-3/A /HE : 4
LAU-3/A /MPSM : 4

---เครื่องยนต์---

ระบบ : T700-GE701
ประเภทเครื่องยนต์ : เทอร์โบชาฟ (Turboshaft)
จำนวน : 2
แรงม้า : 3,400shp

---ขนาดเครื่องบิน---

ความยาว : 48ft
ความสูง : 15ft
เส้นผ่าศูนย์กลางใบพัด : 48ft
น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 10,760lbs
น้ำหนัก (รับได้สูงสุด) : 21,000lbs
เก็บน้ำมัน : 2,500lbs
น้ำหนักที่ลดตอนปลดยุทโธปกรณ์ทั้งหมดออก : 3,350lbs

---รายละเอียดการบิน---

ระยะการมองเห็น : 950nm
ระยะสนับสนุน : 428nm
ความเร็วสูงสุด : 164kts
ระดับความสูง : 21,000ft
ไต่ระดับความสูง : 54ft/sec

---ระบบอุปกรณ์ของนักบิน---

ระบบ : IHADSS
ประเภท : หน้าจอที่หมวกของนักบิน
ความสามารถ : มองเห็นเป้าหมายเป็นทางยาว, หน้าจออินฟาเรดขยายใหญ่

---ระบบอุปกรณ์ของกันเนอร์---

ระบบ : TADS
ประเภท : ดึงเป้าหมายให้อยู่ในเรด้าร์และระบบค้นหาชื่อ (พอล็อคเป้าจะมีชื่อขึ้นทันทีว่าเป็นเป็นยานพาหนะชนิดไหน)
ความสามารถ : ทำงานร่วมกับ IHADSS, TV จำกัดระยะสายตาและเลเซอร์กำหนดจุด

---ระบบอุปกรณ์อื่นๆ---

ระบบ : PNVS
ประเภท : FLIP
ความสามารถ : เตรียมรูปสำหรับเส้นระยะในการมองเห็น

---ปืน---

ชื่อ : M230
ประเภท : ปืนกลเบา (Chain gun)
ขนาดของลำกล้องปืน : 30mm
ความเร็วกระสุน : 10 นัด/วินาที
บรรจุกระสุน : 1,200 นัด
ความเร็วกระสุน : 2,641ft/วินาที




-===AH-64D Longbow===-

ปัจจุบันจะเห็นได้บ่อยๆ และในเกมต่างๆซึ่ง AH-64D อัพเกรดใหม่จาก AH-64A ให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าอย่างมาก
ด้วยระบบต่างๆที่คอปเตอร์รุ่นก่อนๆไม่มีทำให้ AH-64D เหนือกว่าโดยสิ้นเชิงไม่ว่าจะระบบเรดาห์หรือมิสไซด์ระยะไกลเกินกว่าที่จะมองเห็นเป้าหมาย
ระบบ Hellfire Missiles ของ Longbow คือยิงออกไปและมิสไซด์จะไต่ระดับความสูงพร้อมคำนวนระยะความสูงที่จะดิ่งลงใส่เป้าหมาย
รวมถึงความแรงที่ระเบิดรถถังให้กระจุยได้ในลูกเดียว และมีพลุล่อมิสไซด์กับพลุแสงสว่างไว้ใช้งาน กับเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่ทำให้บินได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ
สำหรับตอนกลางคืนก็ไม่มีปัญหาเพราะมีโหมดกล้องกลางคืนสำหรับลุยตอนมืดๆ แต่เสียงมันก็ยังดังเหมือนเดิมนั่นแหละ ใช่ว่ามืดแล้วจะไม่มีเสียงทำให้บุกไปได้มึนๆ
ระบบเรด้าร์ของรุ่นนี้จะดีกว่ารุ่น AH-64A ที่ไม่มีเรดาห์ดีๆไว้ใช้ AH-64 จะมีกล้องอยู่ที่ข้างหน้า จะเห็นเป็นกลมๆข้างที่ข้างหน้าสุดของลำ ตรงนั้นคือกล้องครับ หมุนได้ตามที่กันเนอร์บังคับ
ชอบลำนี้ที่สุดแล้วโว้ยยยยยยยย!!! ทั้งรูปร่าง ระบบ ความเร็ว น้ำหนัก อาวุธต่างๆ ถือว่าเท่สุดๆไปเลย
ผมชอบเรียกลำนี้ว่า "Apache" หรือ "อพาชี่" ซึ่งเป็นรหัสเรียก (Code name) ของ AH-64A แต่ด้วยความเคยชินก็เรียกแต่อพาชี่ คำว่า "Apache" ก็สามารถใช้เป็นรหัสเรียกของ "Longbow" ได้เช่นกัน
ไม่จำเป็นว่าต้องเรียกแต่ "Longbow" เพราะไม่ใช่ชื่อเรียก Company หรือหน่วยรบ ที่จำได้จากที่เคยมีรหัสเรียกก็มี "Apache Airbrone" นี่แหละ
สังเกตุความแตกต่างได้ง่ายๆระหว่าง AH-64A กับ AH-64D เพราะ AH-64A จะไม่มีเรดาห์ แต่ AH-64D จะมีเรดาห์เป็นจานป้อมๆอยู่ข้างบนใบพัดที่กลางลำ
เครื่องบินติดอาวุธ AH-64D มีประสิทธิภาพสูงมาก แม้ประเทศรัสเซียยังต้องยอมรับ (ผมก็ยอมรับ เพราะชอบลำนี้ที่สุด) ส่วนที่ว่าทำไมถึงยอมรับนั้น คุณต้องหาประวัติการออกทำภารกิจหรือวิดีโอต่างๆมาดูเองครับ ท่านจะเข้าใจเอง

* ผมแนะนำให้ลองเล่น Apache Air Assault (2010 Activision) ดูครับ เกมนี้มันมากๆ ระบบการเล็งและล็อคเป้ารวมถึงการยิงและบังคับก็สมจริง (ในการยิงและเคลื่อนที่ กดปุ่มเพื่อเปิดเครื่องปิดเครื่องหรือปุ่มอื่นๆมากมายที่มีอยู่ไม่ได้)

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 11,800lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 21,000lbs
บรรจุน้ำมัน : 2,442lbs
ใช้โดย : กองทัพ
นักบิน : 2 คน (นักบิน, กันเนอร์)
ความชำนาญพิเศษ - VTOL, ตอนกลางคืน
ชื่อเรียก : เอเฮ็ท-64ดี "ลองโบว" (AH-64D "Longbow") [เอเฮ็ท-ซิกที่โฟร์] <เอเฮ็ท-หกสิบสี่>
ชื่อเรียก 2 : เอเฮ็ท-64ดี "ลองโบว อพาชี่" (AH-64D "Longbow Apache")
ประเภท : เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ (Gunship)
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา (U.S.A.)
ผู้ผลิต : แม็คโดแนล ดองลาส (McDonnell Donglas)
เข้าร่วมภารกิจ : 1985
In Service : 227
ประเภทใบพัด : Stub
ล้อสำหรับลงจอด : Trailing Arm
Hardpoint : 6 (จุดติดอาวุธข้างละสามจุด "Hellfire X4, Hydra X4 , Stinger X2" จำนวนของแต่ละข้างแล้วแต่การบรรจุยุทธ์โธปกรณ์)

---เรด้าร์---

ระยะ : 4nm
อัตราการกวาด : 45 deg/sec
ความกว้างของแสงกวาด : 3 deg
มุมการค้นหาสูงสุด : 60 deg
ความสามารถในการยิงจากอากาศสู่พื้น
ชีพจรเรด้าร์

---ยุทโธปกรณ์---

M230A1 30mm : 1200
Hellfire AGM-114 : 4x4 หรือ 8x8
FFAR 70mm Rocket Pod : 19x19 หรือ 38x38
Stinger : 2x2

---เครื่องยนต์---

ระบบ : T700-GE701C
ประเภทเครื่องยนต์ : เทอร์โบชาฟ (Turboshaft)
จำนวน : 2
แรงม้า : 3,780shp

---ขนาดเครื่องบิน---

ความยาว : 48ft
ความสูง : 15ft
ความกว้างของใบพัด : 19ft
เส้นผ่าศูนย์กลางใบพัด : 48ft
น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 11,900lbs
น้ำหนัก (รับได้สูงสุด) : 22,200lbs
เก็บน้ำมัน : 2,500lbs
น้ำหนักที่ลดตอนปลดยุทโธปกรณ์ทั้งหมดออก : 3,350lbs

---รายละเอียดการบิน---

ระยะการมองเห็น : 1,024nm
ระยะสนับสนุน : 110nm
ความเร็วสูงสุด : 164kts
ระดับความสูง : 21,000ft
ไต่ระดับความสูง : 54 ฟุต/วินาที
ค่า G สูงสุด - ระดับ 3.5
อัตราการหมุนลำ : 100 องศา/วินาที

---ระบบอุปกรณ์ของนักบิน---

ระบบ : IHADSS
ประเภท : หน้าจอที่หมวกของนักบิน
ความสามารถ : มองเห็นเป้าหมายเป็นทางยาว, หน้าจออินฟาเรดขยายใหญ่

---ระบบอุปกรณ์ของกันเนอร์---

ระบบ : TADS
ประเภท : ดึงเป้าหมายให้อยู่ในเรด้าร์และระบบค้นหาชื่อ
ความสามารถ : ทำงานร่วมกับ IHADSS, TV จำกัดระยะสายตาและเลเซอร์กำหนดจุด

---ระบบอุปกรณ์ค้นหา---

ระบบ : PNVS
ประเภท : FLIP (เรดาห์หมุนตามเมื่อเปลี่ยนทิศทาง)
ความสามารถ : เตรียมรูปสำหรับเส้นระยะในการมองเห็น

---ระบบโจมตี---

ระบบ : AN/APS-113
ประเภท : ควบคุมการยิงด้วยเรด้าร์
ความสามารถ : ตรวจจับและแบ่งการยิงเป้าหมายกลางอากาศ (เมื่อล็อค 1 เป้าหมายและทำการยิงออกไปเมื่อมีเป้าหมายพอดีหรือมากกว่าจำนวนมิสไซด์ มิสไซด์จะไม่ลงซ้ำที่เดียวกัน แต่จะวิ่งหาเป้าหมายที่มิสไซด์ลูกอื่นไม่ได้วิ่งหา)

---ปืน---

ชื่อ : M230
ประเภท : ปืนกลยิงต่อเนื่อง (Chain gun)
ขนาดของลำกล้องปืน : 30mm
ความเร็วกระสุน : 10 นัด/วินาที
บรรจุกระสุน : 1,200 นัด
ประเภทกระสุน : HE, HEDP
ความเร็วกระสุน : 2,300ft/วินาที






-===E-3C Sentry===-

สำหรับเครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินสำรวจ ไม่ได้ไปยิงอะไรกับใครที่ไหน เพราะไม่มีอาวุธนอกจากนักบินจะพกปืนสั้นไว้ยิงเล่นเท่านั้น
บางคน ไม่สิ... บางท่านจะเคยเห็นในเกม H.A.W.X. (ผมลืมไปแล้วว่าชื่อเต็มของเกมนี้ชื่อว่าอะไร) ว่ามีลำนี้ด้วย ซึ่งเวลาอยู่ใกล้ๆจะไม่ถูกคลื่นรบกวน อันนี้เป็นความจริงครับ เพราะลำนี้จะถือว่าเป็นฐานเรด้าร์เคลื่อนที่ก็ยังได้เลย
สามารถตรวจจับได้แทบทุกอย่างถ้าจะใช้ในการสู้รบและดูสถานการณ์ และสามารถช่วยสู้รบในการปล่อย ECM (Electronic Countermeasures) ได้ด้วย สำหรับ ECM นี่ล่อมิสไซด์ได้เป็นอย่างดี
เครื่องบินรบที่บินคู่ขนานไปกับลำนี้มีโอกาศหลบมิสไซด์ได้สูง แต่ก็มีโอกาศโดนเหมือนกันนั่นแหละครับ ล่อมิสไซด์มากๆ ก็มีโอกาศหลุดขึ้นไปปะทะกับลำก็ได้ ร่วงพอดี จบเห่กันล่ะ ลำนึงตั้งหลายเหรียญ
ความสูงที่ E-3 บินนี่อยู่ในระยะสูงก็มากพอสมควร แต่ตรวจจับได้ไกลเหมือนเดิม มักจะมีเครื่องบินรบบินคู่ไปเสมอ แต่ E-3 ไม่ใช่ Leader นะ Leader ก็จะตาม E-3 ส่วน Wingman ก็ตาม Leader ตามปกติ
ดังนั้น E-3 ก็ต้องรายงานเช่นกันว่าจะเลี้ยวหรือลดความเร็วลงเหมือนที่ชีฟต้องบอกลูกทีมก่อนเปลี่ยนทิศไม่งั้นหลงกันแน่นอน
ปัจจุบัน E-3 Sentry มีอยู่ในกองทัพอากาศอเมริกา, ฝรั่งเศษ, อิงแลนด์ และ ซาอุดิ อาระเบีย
มีประโยชน์มากในการตรวจหาสิ่งต่างๆไม่ว่าจะคนกระโดดร่มหรือเครื่องบินรบ เมื่อตรวจพบจะสามารถยืนยันได้ทันทีว่ามี แต่จะตรวจสอบว่าประเภทไหนหรือของประเทศอะไรนั่นก็อยู่ที่ระดับการตรวจจับว่าระเอียดแค่ไหนครับ
เครื่องบินรบจะมีเรดาห์ที่ต่างออกไป การค้นหานั้นจะอยู่ในองศาที่จำกัด เช่นคุณ... ลองเอากระดาษมาม้วนๆให้กลายเป็นรูปทรงกรวยคล้ายพิรามิดทรงกลม และปลายด้านที่เล็กสุดของกระดาษนั้นคือด้านหน้าของเครื่องบิน และกระดาษที่ค่อยๆกว้างออกไปนั่นคือ... ระยะการค้นหา
แต่ Sentry เปรียบเสมือนมีสนามแม่เหล็กกลมๆล้วมอยู่รอบตัวโดยที่ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง มันจะค้นหาทุกอย่างและดูดกลืนทุกคลื่นวิทยุที่วิ่งผ่านทำให้รุ้ได้ว่าใคร กำลังทำอะไร มาทางไหน และเครื่องบินรบประเภทอะไร มันมีความพิเศษสุดๆตรงที่มันค้นหาได้ไกลเป็นไมล์ๆโดยที่ไม่ต้องบินเข้าไปเสี่ยงเพื่อค้นหาสิ่งต่างๆ
เครื่องบินรบหนือเครื่องบินอะไรก็ตาม มักจะมีเรดาห์อยู่ข้างหน้า เพราะอยู่ๆมันคงไม่มีมิสไซด์นำหน้าเราไปแล้วเหยียบเบรกให้เราทนท้ายมิสไซด์หรอก ส่วนมากจะปะทะกลางลำและด้านหลัง มันจะมีอะไรแหลมๆยื่นออกมาข้างหน้านั่นแหละ เรดาห์ ส่วนบางลำก็ไม่ใช่ เป็นแค่ตัวเอาไว้ช่วยส่งคลื่นวิทยุในการสื่อการเท่านั้น
ลำนี้มีจานหมุนๆอันใหญ่อยู่ข้างบนเลย สแกนกัน******วายวอด

---รายละเอียดทั่วไป---

น้ำหนักปกติ : 171,950lbs
รับน้ำหนักได้สูงสุด : 347,000lbs
บรรจุน้ำมัน : 156,875lbs
ใช้โดย : กองทัพอากาศ
ความชำนาญพิเศษ - ตอนกลางคืน, ทุกสภาพอากาศ
ชื่อเรียก : อี-3ซี "เซ็นทรี่" (E-3C "Sentry") [อี-ทรี] <อี-สาม>
ประเภท : AWACS (ชื่อเรียกแบบย่อคือ "อะเวคซ์")
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา (U.S.A.)
ผู้ผลิต : โบอิ้ง (Boeing)
นักบิน : 17 คน (นักบิน, ทำนู้น, ทำนี่, ทำนั่น, จ้องเรดาห์, นั่งกินกาแฟ, เข้าห้องน้ำ, หลับ)
บินครั้งแรก : 10/1/75
เข้าร่วมภารกิจ : 1976
In Service : 70
ล้อสำหรับลงจอด : ล้อคู่เรียงสามจุด (Twin tandem tricycle)
เติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ : Boom
Hardpoint : 2

---ขนาดเครื่องบิน---

พื้นที่ : 2892 sq ft
ความกว้าง : 121ft
ความกว้างของปีก : 132.5ft
ความสูง : 23ft
ความยาว : 153
ความสูงโดยรวม : 42ft
ความกว้างโดยรวมของปีก : 146ft
พื้นที่ของปีก : 2,892sqr ft

---แอร์เฟรม---

AOA สูงสุด : 20 deg
AOA ต่ำสุด : -5 deg
ตัวช่วยลดความเร็วทางด้านหลัง : สามารถใช้ได้
แรง G สูงสุด : ระดับ 2.3

---เครื่องยนต์---

จำนวนเครื่องยนต์ : 4
แรงขับเคลื่อนสูงสุด : 83,940lbs
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (ว่างเปล่า) : 0.49
แรงขับเคลื่อน/น้ำหนัก (เต็มกำลัง) : 0.24
ระบบเครื่องยนต์ : TF33-PW-100A
ประเภทเครื่องยนต์ : พัดลมเทอร์โบ (Turbofan)
แรงขับเคลื่อนแบบแห้ง : 84,000lbs

---ป้องกัน---

Chaff : 30
Flares : 60

---ระบบป้องกัน---

ประเภท : พลุล่อมิสไซด์
จำนวน : 30
จำนวนในการปล่อยแต่ละครั้ง : 4 แฟร์ต่อ 1 แพ็ค

---เรดาร์---

ระยะ : 250nm
อัตราการกวาด : 9 deg/sec
ความกว้างของแสงกวาด : 3 deg
มุมการค้นหาสูงสุด : 180 deg
มี NCTR
ดอปเปอล์เรด้าร์
ความสามารถในการปฏิบัติการจากอากาศสู่พื้น
ระบบ : AN/APY-2
ประเภท : เรด้าร์ตรวจตราการขนส่งทางอากาศ
รูปแบบ : ตรวจจับชีพจรดอปเปอล์, ตรวจจับชีพจรเรด้าร์, ตรวจจับยานพาหนะในทะเล, ทำงานตลอดเวลา

---รายละเอียดการบิน---

ระยะการมองเห็น : 3,740nm
ระยะสนับสนุน : 1,000nm
ความเร็วสูงสุด : 473kts
ระดับความสูง : 41,900ft
การไต่ระดับความสูง : 44ft/sec
การลดความเร็วกลางอากาศ : 129kts
ระยะวิ่งการขึ้นบิน (Takeoff Run) : 6,500ft

---ระบบเพิ่มเติม---

Electronic Countermeasures (ECM) [พลุล่อมิสไซด์อิเล็คทรอนิกซ์]
Airborne Early Warning Radar (AEW) [เรด้าร์ตรวจตราการขนส่งทางอากาศ]
Electronic Intelligence Equipment (ELINT) [ระบบอิเล็คทรอนิกซ์จัดเตรียมระบบแบบอัจฉริยะ]




-===M1A1 Abrams===-

รถถัง M1A1 เป็นรถถังที่เกราะค่อนข้างหนา และสหรัฐก็ใช้พวก Abrams นี้ในการรบซึ่งประสิทธิภาพดีมากๆถ้าเทียบกับรุ่นก่อนๆ
แต่ก็ถือว่ายังเทียบกับบางรุ่นของรัสเซียไม่ได้ที่ประสิทธิภาพของเขาเหนือกว่า แต่ด้วยสามารถของคนขับก็ถือว่าไม่แพ้เขาล่ะนะ
สามารถใช้รบในตอนกลางคืนหรือมองผ่านม่านควันได้ด้วย CITV (Commander's Independent Thermal Vision) ซึ่งเป็นเหมือน Night Vision แต่ใช้สำหรับตรวจจับความร้อน

---รายละเอียดทั่วไป---

ใช้โดย : กองทัพ, นาวิกโยธิน
คนขับ : 3 คน (คนขับ, กันเนอร์, คอมมานเดอร์)
ความชำนาญพิเศษ : ตอนกลางคืน, ทุกสภาพอากาศ
ชื่อเรียก : เอ็ม-1เอ1 "อะบรัม" (M-1A1 "Abrams") [เอ็มวันเอวัน] <เอ็มหนึ่งเอหนึ่ง>
ประเภท : รถถังขนาดกลาง (Medium Tank)
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา (U.S.A.)
ผู้ผลิต : เจเนรอล ไดนามิก (General Dynamics)
จำนวนผู้ช่วย : 4 คน (คนขับ, กันเนอร์, คอมมานเดอร์, แมคชีนกันเนอร์)
เข้าร่วมภารกิจ : 1983
In Service : 8,000
การขับเคลื่อน : Multi-fuel turbine
ระบบกันการสั่นสะเทือน : Tracked
ประเภทเกราะ : Chobham + Depleted Uranium

---ยุทโธปกรณ์---

12.7mm : 1000
120mm APFSDS-T : 40
120mm HEAT : 7
7.62mm MG : 5080

---ขนาดของตัวรถ---

ความยาว : 26ft
ความสูง : 9ft
น้ำหนัก : 139,080lbs
ความกว้าง : 12ft

---สมรรถภาพ---

ระยะยิง : 254nm
ความเร็วบนถนน : 42mph
ความเร็วในทางนอกเมือง : 30mph (วิ่งตามพื้นดินหรือในป่า)
กำจัดสิ่งกีดขวาง : ความสูงไม่เกิน 4ft
เดินทางผ่านทางน้ำ : ลึกไม่เกิน 9ft
แรงม้า : 1,500hp
ใช้น้ำมัน : 2mpg

---อุปกรณ์อื่นๆ---

ระเบิดควัน

---อาวุธ---

ปืน : ปืนกล [Machine gun]
ประเภท : 12.7 mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
บรรจุกระสุน : 50

ปืน : ปืนหลัก [M256]
ประเภท : Smoothbore tank gun
ขนาดของกระบอก : 120mm
ระยะที่ได้ผล : 3,282yrds
บรรจุกระสุน : 40
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ปืน : ปืนกล [M240]
ประเภท : Commander's machine gun
ขนาดของกระบอก : 8mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
อัตราความเร็วในการยิง : 250rds/min
บรรจุกระสุน : 1,000
การทะลุทะลวง : 8mm
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ปืน : ปืนกล [M240]
ประเภท : Loader's machine gun
ขนาดของกระบอก : 8mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
อัตราความเร็วในการยิง : 250rds/min
บรรจุกระสุน : 6,000
การทะลุทะลวง : 8mm
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ปืน : ปืนกล [M240]
ประเภท : Coaxial machine gun
ขนาดของกระบอก : 8mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
อัตราความเร็วในการยิง : 250rds/min
บรรจุกระสุน : 6,000
การทะลุทะลวง : 8mm
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ประเภท : ต่อต้านรถถัง [APFSDS-T]
ระยะที่เห็นผล : 3,282yrds
การทะลุทะลวง : 500mm
ความเร็วของกระสุน : 5,616ft/sec
น้ำหนักกระสุน : 41lbs

ประเภท : ระเบิดต่อต้านรถถัง [HEAT - High Explosion Anti-Tank]
ระยะที่เห็นผล : 2,734yrds
การทะลุทะลวง : 600mm
ความเร็วของกระสุน : 3,740ft/sec
น้ำหนักกระสุน : 53lbs




-===M1A2 Abrams===-

สำหรับรถถังรุ่น...เอ่อ... M1A2 เอ่อ... เป็นรุ่นพัฒนาจาก โอย... ทำนานๆแล้วหัวหมุน นึกอะไรไม่ออก
ดูง่ายๆจาก Battlefield 3 ภารกิจ Thunder Run Tank ก็แล้วกัน รถถังที่ใช้ก็คือ M1A2 นี่แหละ
M1A1 จะไม่มีที่หมุนๆข้างบนแต่ M1A2 จะมีที่หมุนๆข้างบนน่ะ หรือเรือดำน้ำที่มีกล้องในเรือเอาไว้มองดูข้างบน
สภาพโดยรวมไม่ได้ต่างไปจาก M1A1 แต่ภายในก็เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ที่เด่นๆก็ไอ้ที่หมุนๆข้างบนนั่นแหละ
เขาเรียกว่าอะไรกันล่ะ ไอ้หมุนๆข้างบนน่ะ สงสัยจะเป็น Array of vastly ล่ะมั้ง ถ้าจำไม่มั่ว สรุปแล้วไอ้หมุนๆข้างบนก็คือ Array of vastly นี่แหละ
สามารถบรรจุได้ 3 คนคือ คนขับและบังคับกระบอกปืน คนบรรจุกระสุนปืนหลัก คนยิงปืนกลข้างบนและคอยกำหนดเป้าให้คนยิงโดยไอ้หมุนๆข้างบน
ในการทำสงครามคันนี้เป็นรถถังที่ลุยโหดมากทั้ง ระยะยิง ความเร็วในการเคลื่อนที่ ระบบเล็ง ความแรงในการอัดลูกกระสุน (ตู้ม?) และเกราะที่หนากว่าคันอื่น
สามารถยิงได้ในขณะวิ่งอย่างแม่นยำโดยแรงอัดไม่ส่งผลกระทบอะไรมากต่อความเร็วและการทรงตัว และล้อสำหรับลุยทุกสภาพพื้นผิว
ไม่ว่าจะลุยลงน้ำ ลุยป่า ลุยทะเลทราย (อันนี้ไปลุยซาฮาร่ารับรองจมดินแน่ๆ ไม่สิ ไม่จมหรอก วิ่งตามปกตินั่นแหละ นั่งจากแอร์อยู่ในรถถัง) หรือแม้แต่ตามทางลาดชันเช่นหุบเขาต่างๆก็สามารถปฏิบัติภารกิจได้เกือบเต็มร้อย
ระบบ Thermal Vision ที่ตรวจจับความร้อนไม่ว่าจะคน รถหุ้มเกราะ รถถัง เฮลิคอปเตอร์ ม่านควันหรือระเบิดควันต่างๆก็สามารถมองทะลุเพื่อมองศัตรูหาได้
ตอนกลางคืนก็ใช้ Thermal Vision ได้เหมือนอินฟาเรดแต่จะแตกต่างตรงที่ไม่ใช่ Night Vision จึงทำงานแปลกๆเพราะมันจับความร้อนไม่ใช่กล้องกลางคืน ดังนั้นระบบ Night Vision จึงมีให้ใช้และใช้งานร่วมกับ Thermal Vision ได้ แต่ Thermal Vision ก็มองในตอนกลางคืนได้อยู่ดีนั่นแหละ
แต่ปัจจุบันคันนี้กำลังจะหมดหน้าที่ เพราะเคลื่อนที่ได้ช้า รวมถึงทหารที่มีขีดจำกัดในการเดินทางต่างๆ ทางกองทัพอเมริกาต้องการเคลื่อนถังจู่โจมที่เคลื่อนที่ได้เร็วมากกว่านี้

---รายละเอียดทั่วไป---

ใช้โดย : กองทัพ, นาวิกโยธิน
คนขับ : 3 คน
ความชำนาญพิเศษ - ตอนกลางคืน, ทุกสภาพอากาศ
ชื่อเรียก : เอ็ม-1เอ2 อะบรัม (M-1A2 Abrams) [เอ็มวันเอทู] <เอ็มหนึ่งเอสอง>
ประเภท : รถถังขนาดกลาง (Medium Tank)
ผู้เริ่มต้น : อเมริกา (U.S.A.)
ผู้ผลิต : เจเนรอล ไดนามิก (General Dynamics)
จำนวนคนขับ : 4 คน
เข้าร่วมภารกิจ : 1983
In Service : 8,000
การขับเคลื่อน : Multi-fuel turbine
ระบบกันการสั่นสะเทือน : Tracked
ประเภทเกราะ : Chobham + Depleted Uranium

---ยุทโธปกรณ์---

12.7mm : 1000
120mm APFSDS-T : 40
120mm HEAT : 7
7.62mm MG : 5080

---ขนาดของตัวรถ---

ความยาว : 26ft
ความสูง : 9ft
น้ำหนัก : 139,080lbs
ความกว้าง : 12ft

---สมรรถภาพ---

ระยะ : 254nm
ความเร็วบนถนน : 42mph
ความเร็วในทางนอกเมือง : 30mph
กำจัดสิ่งกีดขวาง : ความสูงไม่เกิน 4ft
เดินทางผ่านทางน้ำ : ลึกไม่เกิน 9ft (ท่วมมิดหัวพอดี)
แรงม้า : 1,500hp (แรงกว่ารถยนต์ทั่วไปอีก แต่คันมันหนัก จะให้แรงๆต้องถอดเกราะออกให้หมดแล้ววิ่ง แต่เอาไปรบไม่ได้)
ใช้น้ำมัน : 2mpg
การไต่ระดับความลาดชันสูงสุด : 60% (60% คือระดับเกือบสุดแล้ว ถ้าประมาณ 70% ก็จะขึ้นไม่ไหวหรือหงายท้องไปเลย ง่ายๆก็คือ ถ้า 100% รถถังจะหน้าชี้ขึ้นฟ้า 200% คือหงายท้องหรือคว่ำไปแล้ว)

---อุปกรณ์อื่นๆ---

ระเบิดควัน

---อาวุธ---

ปืน : ปืนกล [Machine gun]
ประเภท : 12.7 mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
บรรจุกระสุน : 50

ปืน : ปืนหลัก [M256]
ประเภท : Smoothbore tank gun
ขนาดของกระบอก : 120mm
ระยะที่ได้ผล : 3,282yrds
บรรจุกระสุน : 40
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ปืน : ปืนกล [M240]
ประเภท : Commander's machine gun
ขนาดของกระบอก : 8mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
อัตราความเร็วในการยิง : 250rds/min
บรรจุกระสุน : 1,000
การทะลุทะลวง : 8mm
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ปืน : ปืนกล [M240]
ประเภท : Loader's machine gun
ขนาดของกระบอก : 8mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
อัตราความเร็วในการยิง : 250rds/min
บรรจุกระสุน : 6,000
การทะลุทะลวง : 8mm
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ปืน : ปืนกล [M240]
ประเภท : Coaxial machine gun
ขนาดของกระบอก : 8mm
ระยะที่ได้ผล : 1,000yrds
อัตราความเร็วในการยิง : 250rds/min
บรรจุกระสุน : 6,000
การทะลุทะลวง : 8mm
การยกกระบอกปืน : 20 องศา
การหมุนกระบอกปืน : 360 องศา

ประเภท : APFSDS-T
ระยะที่เห็นผล : 3,282yrds
การทะลุทะลวง : 500mm
ความเร็วของกระสุน : 5,616ft/sec
น้ำหนักกระสุน : 41lbs

ประเภท : HEAT
ระยะที่เห็นผล : 2,734yrds
การทะลุทะลวง : 600mm
ความเร็วของกระสุน : 3,740ft/sec
น้ำหนักกระสุน : 53lbs
Tags: ไม่มี Add / Edit Tags
Categories
Uncategorized

Comments

Back to top