ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ Sticker Line ออกใหม่ โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin Joker Game Official Fanpage
ให้เช่า Colocation
สติ๊กเกอร์ไลน์
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin
เฟสบุ๊คเพจ

กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 10
  1. #1
    I'm still looking for you
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    หริภุญชัยนคร
    กระทู้
    702
    กล่าวขอบคุณ
    1,416
    ได้รับคำขอบคุณ: 418

    เรื่องซึ้งๆ ของนายแพทย์คนหนึ่ง

    ' อย่าหนีนะ เจ้าเด็กขี้ขโมย ' เสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนลั่น
    พร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งผ่าน
    ฉันกับแม่ที่กำลังซื้อเนื้อหมูในตลาดไปอย่างรวดเร็ว
    ทั้งแม่และฉันหันไปดูทันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น
    แค่แวบเดียว แม่ถามฉันว่า

    ' อ้าวนั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ '

    ' ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันละ '
    ป้าคนนั้นชื่อว่า ' ป้าหนอม ' เป็นแม่ค้าขายของชำ
    สารพัดอย่างในตัวตลาดในอำเภอที่ฉันอยู่มีฐานะ
    จัดว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน
    และเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างร้ายกาจ
    แถมปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของ
    มากเกินไปหรือถามราคาแล้วไม่ซื้อป้าแกจะโวยวาย
    ชนิดต้องรีบเผ่นออกจากร้านแทบไม่ทันทีเดียว

    เสียงเอะอะดังมากขึ้นฉันหันไปมองป้าหนอมจับข้อมือ
    เด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12-13 ขวบไล่เลี่ยกับฉัน
    ซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ และป้าแกกำลังจะลงไม้ลงมือ
    แม่จึงเดินเข้าไปถาม

    ' พี่หนอม มีไรหรอคะ '

    ' ก็คุณเด็กเวรนี่นะสิ มันมา ทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุ
    พอฉันหยิบส่งให้ มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่จ่าย '

    พูดจบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั้นอย่างแรงหนึ่งที
    และคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ถ้าแม่ฉันไม่ห้ามไว้

    ' ตายแล้วพี่หนอม อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ '

    แม่รีบตัดบทเพราะเห็นว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่

    ' เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าคุกนะสิ เสียนิสัย
    พ่อแม่ไม่สั่งสอนยังเด็กตัวแค่นี้ก็รึจะเป็นขโมยซะแล้ว
    ต่อไปก็คงต้องปล้นเขากินหละ '

    ฉั นสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลางส่ายหัวน้อยๆ
    ทำนองว่าอย่าไปยุ่งดีกว่าแม่มองฉันแล้วมองเด็กคนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
    แล้วหันไปพูดกับป้าหนอมว่า

    ' อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี่หนอมเด็กมันคงอยากซื้อยา
    แต่ไม่มีเงินนะ เอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะกี่บาทกันละ '

    ในที่สุดเรื่องก็จบลงโดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายา
    แก้ปวดกับยาธาตุแล้วแม่ก็จูงเด็กคนนั้นออกมาจากตลาด
    แต่ป้าหนอมยังไม่วายเตือนแม่

    ' ใจดีกับเด็กขี้ขโมยแบบนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ '

    แม่ไม่ได้ตอบอะไรแต่พอเดินห่างจากร้านพอสมควรแ ล้วก็ถามว่า ' ทำไมหนูขโมยของป้าเขาละ '
    เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองแม่ แล้วตอบสะอึกสะอื้นว่า ' แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอผมก็เลยต้อง... '
    แม่มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยืนผลไม้ที่ซื้อมาให้เด็กคนนั้นถุงหนึ่ง แล้วบอกว่า ' ทีหลังอย่าขโมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก็ได้นะ
    น้าชื่อสมพรเปิดร้านเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆนี่เองถามคนแถวนี้ก็ได้ รู้จักน้าแทบทุกคนเลยแหละ เอ้า...เอา ส้มไปฝากคุณแม่ซิคนป่วยนะต้องกินผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย '
    แม่เสริมพร้อมกับยิ้ม เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับส้มพร้อมกับพูดขอบคุณแม่แล้วเดินจากไป
    หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็ถามแม่ทันที
    ' ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนันด้วยละ รู้จักกันเหรอจ้ะ '
    แม่ยิ้มแล้วตอบฉันว่า ' ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ้างหาบขนมขายอยู่แถวบ้านเราน่ะลูก แต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอกแม่ซื้อขนมแกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง '
    ' แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาถ้าเขาเป็นขโมยนี่่แม่ ' ฉันถามต่อ แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า

    ' แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด้วยตัวเองมาก่อนตั้งแต่อายุเท่าๆกับลูก
    จะต้องเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบรู้คุณค่าของเงินทุกบาท
    ทุกสตางค์ว่ากว่าจะได้มามันเหนื่อยยากขนาดไหนและคนที่มี
    ความรับผิดชอบนะ จะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเป็นจริงๆ
    เมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้วเท่านั้น '

    ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อว่า

    ' แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม่ไปซื้อยาอีก แม่จะให้เขารึเปล่า '

    ' ให้สิลูกถ้ามันไม่มากไม่มายอะไร

    ' แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรอบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือน
    บ้านป้าหนอมเขานะแม่ '

    ' ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนักแต่การที่ได้ช่วยเหลือคน
    ที่กำลังลำบากน่ะ มันทำให้แม่มีความสุขแล้วยังได้บุญอีกด้วยนะ
    แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก '

    แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า

    ' จำไว้นะลูก คนเรานะต้องรู้จักให้อภัยและให้โอกาสคน
    อื่นแก้ตัวเสมออย่างเด็กคนนั้น..แม่มั่นใจว่าแกทำไปเพราะ
    รักคุณแม่ของแกจริงๆ แม่ถึงช่วยแกเอาไว้ '

    แล้วแม่ก็พูดต่อว่า

    ' ลูกอาจจะบอกว่าขโมยเป็นสิ่งทีผิด ใช่...แม่ไม่เถียงแต่บางครั้ง
    คนเราก็ต้องมองด้านอื่นๆบ้าง อย่าคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง ตอนนี้ลูกอาจจะยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข้าใจเองแหละ '

    หลังจากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆกันต่อ ฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้ี้อีกเลย จนเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีก
    ครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่ในครั้งนี้ถูกต้องที่สุดจริงๆ


    หลังจากนั้นฉันเรียนจบระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด แล้วฉันก็ได้งานทำในโรงงานในตัวจังหวัดนั้นเอง เงินเดือนก็พอประมาณ สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ขัดสนนัก
    ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ้างเย็บผ้าเพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้างหลังจากทำงานหนักมาเกือบ 20 ปีเพื่อส่งฉันเรียน แม่ยอมปิดร้านแต่ก็ยังรับงานเล็กๆ น้อยๆของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่คิดเงิน
    แม่บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะรู้สึกเบื่อ ฉันก็เลยต้องยอมตามใจแม่

    ฉันทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเริ่มจากปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆไม่กี่วันก็หาย หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนานขึ้นเรื่อยๆ ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอแล้วฉันก็พาแม่ไปหาหมอในเมืองหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่ทำงานหนักมากเกินไปหมอให้ยามาชุดหนึ่งพร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆจะได้หายเร็วๆ

    หลังจากกินยาตามที่หมอสั่งอาการปวดหัวของแม่ก็หายไป
    ฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณหนึ่งเดือน
    แม่ก็เริ่มกลับมาปวดหัวอีกคราวนี้เป็นหนักมากกว่าครั้งที่แล้ว
    ยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อนก็ไม่ได้ผลเลย

    ฉันกังวลใจมากพอถามหมอหมอก็บอกว่าต้องไปตรวจ
    ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯเพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า
    โรงพยาบาลต่างจังหวัด

    หลังจากนั้นฉันรีบพาแม่ไปกรุงเทพฯทันที
    ไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งหลังจากหมอตรวจแล้วบอกว่า
    มีเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัดโดยด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับ
    เส้นประสาททำให้เป็นอัมพาตได้ หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร้ายแรง
    ถึงขั้นเสียชีวิต ฉันตกใจมากของให้หมอผ่าตัดให้ทันทีแต่หมอบอกว่า
    โรงพยาบาลที่มีหมอผ่าตัดสมองที่มีความพร้อมที่จะผ่าตัดเนื้องอก
    ในสมองเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากกว่า

    ดังนั้นหมอจึงต้องส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ตกลง
    หลังจากถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว
    แม่ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที ขณะที่ฉันรออย่างกังวลใจ
    อยู่ด้านนอก ทั้งเรื่องอาการป่วยของแม่และจากคำพูดของหมอ
    ที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนส่งตัวแม่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้

    หมอบอกให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการผ่าตัดสมองเป็นการผ่าตัดที่เสี่ยงมาก
    โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก แม้การผ่าตัด
    จะประสบความสำเร็จก็ตาม อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสมอง
    ค่อนข้างสูง เป็นหลักแสนบาท เมื่อรวมกับค่ายาระหว่างพักฟื้น คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท

    ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหาเงินห้าแสนบาทมาจากไหน
    ลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังมีไม่ถึงห้าหมื่นบาทเลย แต่ยังไงฉันก็ต้องรักษาแม่ให้หายส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง

    หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นลงเป็นโชคดีของแม่ทีการผ่าตัด
    ประสบผลสำเร็จและไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆทางโรงพยาบาล
    บอกให้พักฟื้นประมาณหนึ่งเดือนก็สามารถไปพักฟื้นที่บ้านได้

    ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ฉัน ปรากฏว่า
    เป็นเงินจำนวนไม่ถึงหนึ่งพันบาทเป็นค่าติดต่อประสานงานเท่านั้น

    ฉันแปลกใจมากจึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่า
    คุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดและเป็นเจ้าของไข้ บอกไม่ให้คิดเงินกับฉันและแม่ โดยที่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ทราบสาเหตุ

    ฉันจึงขอพบคุณหมอคนนั้นเพื่อขอบคุณ นางพยาบาลบอกว่าหลังจากเสร็จคุณหมอก็ถูกส่งตัว
    ไปต่างประเทศทันทีเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ
    ผ่าตัดสมองที่อเมริกา แต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉันกับแม่

    โดยกำชับกับทางโรงพยาบาลให้ฝากให้ฉัน พร้อมกับใบเสร็จค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

    เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของคุณหมอคนนั้น

    เมื่ออ่านจบทั้งฉันและแม่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกันข้าพเจ้านายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์
    > ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดดังนี้ ค่าผ่าตัด 0 บาท
    > ค่ายาทั้งหมด 0 บาท
    > ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท
    > รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท
    > ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยยาแก้ปวด ยาธาตุ
    ส้มหนึ่งถุง ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า

    นายแพทย์เดชา ทองวิจิต

    ( พอดีเพื่อนแชร์มา ถ้าใครเคยอ่านแล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ จขกท. )

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 22 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    114
    กล่าวขอบคุณ
    2,838
    ได้รับคำขอบคุณ: 84
    ยาวโพ๊ดดดดดดดดดดด

  4. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    กระทู้
    115
    กล่าวขอบคุณ
    27
    ได้รับคำขอบคุณ: 25
    อ่านแล้วซึ้ง มากกก ผ่านมานาน แ้ล้ว ยังจำกันได้อีก ตั้ง 20 ปี T^T
    AMD Ryzen5 2600 @ 3.7 Ghz : Ram ADATA XPG D40 16GB(2x8GB)3200MHz Windows 10 64 bit rs4 : GALAX GTX1060 OC 6GB GDDR5

  6. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    346
    กล่าวขอบคุณ
    158
    ได้รับคำขอบคุณ: 237
    เหมือนผมเคยอ่านในหนังสือการ์ตูนแบบนี้เด๊ะเลย แต่ก็ซึ้งมาก ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ
    ฉันไม่ไช่เด็กนะย๊ะ!!!!

  7. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  8. #5
    Unknow
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    Unknow
    กระทู้
    669
    กล่าวขอบคุณ
    3,337
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,342
    ซึ้ง จริงๆ ครับ

  9. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  10. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    513
    กล่าวขอบคุณ
    198
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,972
    เรื่องนี้มันคุ้นๆนะครับที่จริงมันมีเด็ก 2 คนนะครับ ในรายการไม่ฟ้ามีตาก็อะไรสักอย่างนี้แหละครับ

    ตอนนี้แหละที่ผมหาไม่เจอสักทีครับ คือ เด็ก 2 คนขโมยของแล้วคนหนึ่งเป็นหมอดังที่ จขกท.บอก

    แต่อีกคนไปเป็นโจรอะครับ (ถ้าคนละเรื่องขออภัยด้วยนะครับ)
    การประสบความสำเร็จ<<<ประสบการณ์<<<ความพยายาม<<<ความอดทน<<<ความเชื่อ<<<ความพ่ายแพ้

  11. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    178
    กล่าวขอบคุณ
    414
    ได้รับคำขอบคุณ: 62
    เหมือนเรื่องของ Dr. Howard Kelly เลย

    "Paid in full with one glass of milk"

  12. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #8
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Oct 2012
    ที่อยู่
    Nonthaburi,Thailand
    กระทู้
    36
    กล่าวขอบคุณ
    251
    ได้รับคำขอบคุณ: 14
    ถึงเนื้อเรื่องจะยาวไปหน่อย แต่ซึ้งมากๆ ครับ
    Intel Core I7-4700MQ 2.40GHz
    Nvidia Geforce GT 750M DDR5 2048 GB x2 With Intel HD Graphics 4600

  14. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    517
    กล่าวขอบคุณ
    554
    ได้รับคำขอบคุณ: 343
    เหมือนผมจะเคยอ่านว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นนะ แล้วก็เคยอ่านของฝรั่งคล้ายๆกัน แต่ของฝรั่งจะเป็นคนที่ช่วนเหลือเขาโดยการให้นมเด็กคนนั้นทาน จนเด็กคนนั้นเป็นหมอกลับมาจ่ายค่าใช้จ่ายให้่ทั่งหมด สรุปผมว่าแต่งชัวร์

    แต่ผมไม่รู้นี่สิว่าใครเป็นคนแต่ง แต่เรื่องนี้ซึ่งมากครับ ถ้าได้อ่านภาษาอังกฤษนะ

  15. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  16. #10
    I'm still looking for you
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    หริภุญชัยนคร
    กระทู้
    702
    กล่าวขอบคุณ
    1,416
    ได้รับคำขอบคุณ: 418
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ peetdekdeee อ่านกระทู้
    เหมือนผมจะเคยอ่านว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นนะ แล้วก็เคยอ่านของฝรั่งคล้ายๆกัน แต่ของฝรั่งจะเป็นคนที่ช่วนเหลือเขาโดยการให้นมเด็กคนนั้นทาน จนเด็กคนนั้นเป็นหมอกลับมาจ่ายค่าใช้จ่ายให้่ทั่งหมด สรุปผมว่าแต่งชัวร์

    แต่ผมไม่รู้นี่สิว่าใครเป็นคนแต่ง แต่เรื่องนี้ซึ่งมากครับ ถ้าได้อ่านภาษาอังกฤษนะ
    อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ แต่คงจะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาจริงๆแหละ


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top