เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
|
|
|
|
|
|
|
ให้เช่า Colocation |
สติ๊กเกอร์ไลน์ |
|
|
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok เถื่อน |
Bitcoin |
เฟสบุ๊คเพจ |
-
21st August 2011 10:57
#1
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 8 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
21st August 2011 11:04
#2
ทำอย่างไรให้นอน(หลับสบาย)ดีขึ้น
เริ่มกันที่ สาระดีๆ เกี่ยวกับการพักผ่อน
เว็บไซต์วิกิฮาวมีคำแนะนำเรื่อง 'How to Sleep Better' หรือ "ทำอย่างไรให้นอน(หลับสบาย)ดีขึ้น"
(1). นอนตรงเวลา
ร่างกายคนเรามีนาฬิกาเวลา... คนที่นอนไม่ตรงเวลา เช่น วันหยุดตื่นสายจะทำให้นอนหลับยากในวันต่อๆ ไป ทางที่ดีคือ นอนให้ตรงเวลาทุกวัน
ทีนี้ถ้าง่วงมากๆ ตอนกลางวัน... การนอนช่วงสั้นๆ (10-30 นาที) ที่ภาษาสเปนเรียกว่า "siesta " ก็น่าจะดี แต่อย่านอนกลางวันนานเป็นชั่วโมงๆ เนื่องจากจะทำให้หลับยากในคืนต่อๆ ไป
(2). กินมื้อสุดท้ายก่อนนอนนานๆ หน่อย
มื้อเย็นควรเป็นมื้อเล็กๆ และกินก่อนนอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้อาหารย่อยไปด้วยดีก่อนถึงเวลานอน ในทางกลับกัน... ไม่ควรนอนทั้งๆ ที่ท้องหิว เนื่องจากจะทำให้หลับได้ไม่สนิทเท่าที่ควร
(3). เลี่ยงคาเฟอีน
สารกาเฟอีนในชา กาแฟ น้ำอัดลมบางยี่ห้อ เช่น เปปซี่ โคลา ฯลฯ ชอคโกแลต และโกโก้อาจรบกวนการนอนได้ ทางที่ดีคือ ดื่มหรือกินอาหารเหล่านี้ก่อนเที่ยง... ถ้าหลังเที่ยงก็ควรเว้นให้ห่างจากเวลานอนสัก 8 ชั่วโมง
(4). เลี่ยงบุหรี่
สารนิโคตินในบุหรี่และยาสูบมีส่วนทำให้นอนหลับยาก ทางที่ดีคือ ไม่สูบบุหรี่หรือใช้ยาสูบเลย ถ้าทำไม่ได้... เว้นให้ห่างเวลานอนมากหน่อย (ตั้งแต่ช่วงเย็น) ก็น่าจะดี
(5). ดื่มน้ำให้มากพอ(ดี)
การดื่มน้ำให้มากพอทั้งวัน หรือประมาณวันละ 2 ลิตรน่าจะดี ทว่า... ก่อนเวลานอน 1 ชั่วโมงควรงดดื่มน้ำ (ยกเว้นหิวน้ำ) จะได้ไม่ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึก หรือฝันร้ายจากการปวดปัสสาวะ
(6). เลี่ยงเหล้าเบียร์
เหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ง่วง แต่จะทำให้นอนหลับได้ไม่สนิท ทางที่ดีกว่าคือ ไม่ใช้เหล้าเบียร์เป็นยานอนหลับ
(7). อาหารเบาๆ
อาหารเบาๆ ที่มีกรดอะมิโนทริพโทฟานและน้ำตาลหรือแป้งนิดหน่อยมีส่วนช่วยให้หลับเร็วขึ้น เช่น กล้วยครึ่งผล นมจืดไขมันต่ำ ถั่วลิสง ฯลฯ
(8). ห้องนอนมืดๆ
ก่อนนอน... อย่าลืมปิดไฟ ปิดม่าน ประตู หน้าต่างให้ดี อย่าให้มีแสงไฟเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน เพื่อให้นาฬิกาเวลาปรับสภาพไปสู่ช่วงนอนหลับได้ดี
(9). หนุนหมอนให้คอตรง
การหนุนหมอนให้คอตรงมีส่วนช่วยให้หลับได้สบายขึ้น (ดังภาพ) ไม่ควรใช้หมอนที่บางเกิน หนาเกิน หรือใช้หมอนซ้อนกันหลายชั้น ซึ่งจะทำให้คอไม่อยู่ในแนวราบ
(10). นอนตะแคงสอดหมอนไว้ระหว่างเข่า หรือนอนหงายหนุนหมอนใต้เข่า
การนอน 2 ท่านี้ (ดังภาพข้างบน) จะทำให้หลังไม่แอ่นมากเวลานอน ทำให้นอนได้สบายขึ้น
ท่านอนที่ไม่ค่อยดีคือ ท่านอนคว่ำ ซึ่งอาจทำให้ปวดคอ ปวดไหล่ หรือปวดหลังได้ง่าย
(11). พลิกกลับที่นอน
ควรพลิกกลับฟูกที่นอนทุกๆ 2-3 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวกดลงบนส่วนเดิมซ้ำซาก ซึ่งอาจทำให้ฟูกที่นอนยุบเป็นบางส่วน หรือเสียรูปได้ (ดังภาพข้างบน)
ถ้าเป็นไปได้... ควรเปลี่ยนที่นอนใหม่ทุกๆ 5 ปี เพื่อลดการสะสมฝุ่นละออง เช่น ไรฝุ่น ฯลฯ ที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้
(12). ออกแรง-ออกกำลัง
การออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำมีส่วนช่วยให้หลับได้สนิทขึ้นและนานขึ้น ทว่า... ไม่ควรออกกำลังหนักก่อนนอนทันที เนื่องจากอาจทำให้นอนหลับยากได้
(13). ออกกำลังแบบตะวันออก
การออกกำลังแบบตะวันออกหรือเอเชีย เช่น ไทเกก-ไทชิ รำกระบองชีวจิต มวยจีน โยคะ ฯลฯ หรือการฝึกสมาธิ ฝึกการผ่อนคลาย (relaxation) มีส่วนช่วยให้หลับได้สบายขึ้น
(14). ผ่อนคลายก่อนนอน
การฝึกสมาธิหรือฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น สวดมนต์ ฯลฯ ก่อนนอนมีส่วนช่วยให้หลับสบายขึ้นได้
ลองนำไปใช้กันดูนะครับ จะได้นอนหลับได้เต็มอิ่มซะที
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 8 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
21st August 2011 11:05
#3
การเพิ่มความสูงสำหรับคนที่กระดูกยังไม่ปิดและปิดไปแล้วละกัน -W-
ถ้าอธิบายหลักแพทยศาสตร์ผมจะเล่าให้ฟัง เอ่อ .. . ..
1.พ่อแม่คุณ สูงรึเปล่าวครับ ถ้าสูง หรือ ไม่สูงนั้น ส่วนเกี่ยวมีแค่ 10-20 เปอร์เซนต์ครับ
2.GH (Growth Hormone) ฮอร์โมนนี้จะหลั่งมากตอนที่เรานอนหลับ ช่วงเวลา 4 ทุ่ม - ตี 2 นะครับ(พูดภาษาบ้านแล้วกัน) แต่มันก็อยู่ทในขัดจำกัดของร่างกายที่รับ GH ตัวนี้ เช่น น้องมีเงิน 100 บาท แต่ของที่น้องอยากซื้อนั้นเป้นหนังสือการ์ตูนราคา 70 บาท ถึงน้องมี 100 บาท น้องก็ซื้อได้แค่ 1 เล่มเท่านั้น คงเข้าใจนะครับ ส่วนคนที่ฉีด GH จะสูงแบบไม่สมส่วนและบางคนที่ฉีดเข้าไปอาจจะไม่มีผลด้วยซํ้า
3.Protein & Calcium - โปรตีน จะแบ่งเป็นกรด อะมิโนอีกที ร่างกายต้องการ 9 ชนิด ก็รับประทานให้เพียงพอในแต่ละวันเพื่อจะได้ไปซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ Calcium สำคัญมาก
กินอย่างน้อย 1200 mg/day นี้เป็นอย่างตํ่าแล้ว คนเราจะดูด Ca 2+ จากนมได้แค่ 30 เปอร์เซน จากที่แคลเซียมในนมมี แคลเซียมในนมมีประมาณ 265.5 มิลลิกรัม เราดูได้แค่ 30 เปอร์เซน ก็ 60 มิลลิกรัม เพราะฉะนั้น เราจังต้องรับประทานอาหารที่มี Mg (Magnisium) ในอัตตรา 2:1 ของแคลมเซียม เช่น เรารับประทารแคลเซียม 2000 มิลลิกรัม เราก็รับประทาน แมกนิเซียม 1000 มิลลิกรัม
เพราะ แมกนิเซียมเป็น Enzyme แบบ Co-factor ซึ่งช่วยในการ Metabolism ของการดูดซึมแคลเซียมในมากขึ้น หรือ ดื่มนํ้ามันตับปลา ซึ่งส่วนนี้จะช่วยให้เสิรม วิตตามิน D ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมในลำใส้เราอีกที ถ้าเรากินผักใบเขียว จะมีแคลเซียมเช่นกัน และร่างกายจะดูดแคลเซียมจากผักได้มากถึง 50 เปอร์เซนต์ อาหารเสริมแบบ โยเกร์ด ทั้งแบบ ไขมันอิ่มตัว และ แบบ ไขมันไม่อิ่มตัว มีแคลเซียมอยู่มากมีมากถึง 465 มิลลิกรัม เลยทีเดียว มีอะไรสงสัย givew@hotmail.com ถ้าเรากินแคลเซียมไม่เพียงพอร่างกายอาจจะไม่สูงขึ้นเพราะกระดูกเราไม่แข็งแรงพอ
4.อย่าเครียด เครียดแบ่งเป็น2แบบ 1.เครียดทางใจ - แฟนไม่รัก หุ้นตก เอ่อ แม่ด่า (5555+) โดนงดเล่นเกมแล้วเครียด ( อิอิ ) นะครับแล้วก็ 2.เครียดทางร่างกาย - ออกกำลังกายหนัก ๆ(มาก ๆ)เช่นเล่นกล้ามแบบHard core(ผมคิดว่าไม่มีใครเล่นหรอกมั้ง)ยก เวดร์ เป็นต้นนะครับ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ร่างกายจะหยุดการหลั่ง GH (Growth Hormone) ทันที ก็พยายามหลีกเลี่ยงละกันครับ
5.ผักผ่อนให้เพียงพอนะครับสำคัญมากในการที่ร่างกายจะซ่อมแซมและนำสารอาหารสำคัญออกมาใช้เพื่อการเจริญเติบโต
6.สำคัญมากที่สุดก็ว่าได้ การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายชนิดเหยียดตัวเอง ว่ายนํ้าก็เหยียด เล่นบาสก็เหยียด เล่นวอลเล่ก็เหยียด ควนออก 45 นาทีวันละครั้ง / 3-4วันต่อสัปดาห์
มีอีกวิธีสำหรับคนไม่ชอบเล่นกีฬา
1. การกระโดดเหยีดตัวเอง พยายามยืดมือ2ข้าง ชูให้สูงและเหยียดตัวให้มากที่สุดตอนกระโดด พอ ลงกระทบพื้น ให้เอาต้นขารับนํ้นหนักไม่ควรเอาเข่ารับเพราะตอนชราจะปวดมาก ๆนะครับ ร้องเท้า ควรเป็นรองเท้าผ้าใบชนิดหุ้มส้นเท้าเพื่อไม่ให้ส้นเท้าอักเสบ ทำวันละ 25 - 40 ครั้ง ทำวันละ 1-2 เซต
2. ขับหัวแล้วเอียงให้ติดไหล่หรือเกือบติดโยกซ้ายและขาวคือ 1 เซต 4-6 เซต / วัน
3.นั่งลงที่พื่นนะครับแล้วให้เข่าเราอ้าออกเท่ากับความกว้างของไหล่ แล้วก้มตัวแตะฝ่าเท้าโดยเข่าห้ามงอ พอแตะเท้าค้างไว้ 4-6 วินาที เท่ากับ 1 เซต ทำวันละ 4-6เซต / วัน
4.ยืนท่าตรงแล้วยืดแขนเหมือนบิดขี้เกียจแต่ให้มือ 2 มือจับกัน และยืดให้สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วกลั้นหายใจตอนยืด 15 - 25 วินาที พอลดแขนลงให้หายใจออก ผักซักเดี๋ยว แล้วทำต่อ เท่ากับ 1 เซต ทำวันละ 3-5 เซต / วัน
นับรองทำได้3เดือน น่าจะ 5 เซน ได้ครับผม แล้วควรปฎิบัติตาม 1-6 ให้ครบถ้วนด้วยครับ
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
21st August 2011 11:36
#4
ไมเกรนแบ่งเป็น 2 ประเภทแบบไม่มีออร่ากับแบบมีอ่อร่านะครับ
ไมเกรนแบบไม่มีออร่า
1.ปวดตั้งแต่ 4 - 72 ชม.
2. ต้องมีอย่างน้อย 2 ใน 4 ข้อ
• ปวดหัวข้างเดียว
• ปวดแบบตุบ ๆ
• ปวดขั้นปานกลาง – มากที่สุด
• ออกแรงแล้วแย่ลง / ปวดมากขึ้น
3. ต้องมีอย่างน้อย 1 ใน 3 ข้อ
• คลื่นไส้ / อาเจียน
• photophobia / phonophobia
• ไม่มีโรคแทรกซ้อนที่ทำให้เกิดอาการนี้
มีครบแสดงว่าเป็นไมเกรน
ไมเกรนแบบออร่า
อาการเข้าข่ายออร่า – เห็นแสงฟ้าผ่า เห็นภาพจุดดำ ๆ หรือ เป็นเส้นหยัก ๆมาแทรกการมองเห็น รู้สึกว่าร่างกายขยับไปเองทั้ง ๆที่อยู่เฉย ๆ
ได้กลิ่นแปลกๆ ทั้ง ๆที่ไม่มีกลิ่นเลย มีน้าลายไหลมากโดยที่ไม่รู้สึกตัวนี้คืออาการโดยสรุปคร่าวๆ
1.ต้องไม่มีโรคอื่น ๆหรือโรคแทรกซ้อน
2.ต้องมี 3 ใน 4 ข้อต่อไปนี้
• ออร่านั้นจะหายไปเองเมื่อไมเกรนหายไป
• ออร่าที่เกิดไล่ ๆกัน 2 อาการขึ้นไป เช่น ได้กลิ่น แปลกๆจะต้องเห็นภาพแปลกๆด้วย
• ออร่าอยู่ไม่นานเกิน 60 นาที
• ไมเกรนเกิดตามหลังออร่า ภายใน 1 ชม.
การลดภาวะการเป็นไมเกรน
• อยู่ในห้องมึด ๆเงียบ ๆเพื่อไม่ให้สมองถูกกระทบจากสิ่งเร้าภายนอก(เมื่อมีอาการไมเกรนทั้ง 2 อย่าง)
• กินอาหารให้ตรงเวลา
• อย่าเปลี่ยนเวลานอนบ่อยเพราะจะกระตุ้นอาการไมเกรน
• ถ้าเจอแสงจ้าจัด ๆจะกระตุ้นด้วยเช่นกัน
• อย่าเครียด นี้ตรงไปตรงมาเลยครับ
• ห้ามอยู่ที่เสียงดังๆ
• รับประทานยาที่ว่าดีกับตัวเรา(หมายถึงยาไมเกรนที่กินแล้วดี)ให้รับประทานต่อเนื่อง
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 7 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
24th August 2011 21:13
#5
ไม่มีใครสนเลย 55555555555555555555555555555555555+
-
-
25th August 2011 20:00
#6
พยายามต่อไปครับ เชื่อสิ เดี๋ยวก็มี ^&^
-
-
25th August 2011 22:46
#7
อ่าๆ 55555555 ก็จะหาเรื่องสุขภาพมาละกัน
-
-
26th August 2011 11:58
#8
ผมสนใจคนนึงครับ ^^
อย่าหาว่า ไม่มีใครสนใจสิ - -'
♥ Las Vegas
♥ ตัวเอง พ่อแม่ และสังคม
-
-
26th August 2011 20:29
#9
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
thizo
ผมสนใจคนนึงครับ ^^
อย่าหาว่า ไม่มีใครสนใจสิ - -'
ก็นะครับ ผมเคยทำก่อนที่ยังไม่เปลี่ยนบอร์ด คนถามกันเยอะเลย แต่พอมาทำใหม่ หายไปเยอะเหมือนกัน ><
-
-
26th August 2011 12:55
#10
มีวิธีลดความง่วง หลังอาหารกลางวันไหมครับ
-
-
26th August 2011 20:10
#11
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
Rukawa
มีวิธีลดความง่วง หลังอาหารกลางวันไหมครับ
นอนให้มากขึ้นครับ ในเวลากลางคืน แล้วนอนมากขึ้นทำไม ยังง่วงอีก ลอง 1 สัปดาห์ครับ แล้วจะหาย นอน 8 - 10 ชั่วโมงนะครับ ( 6 - 7 ชั่วโมงหละได้มั้ย ก็ได้ครับแต่ไม่ควรครับ )
ลาดอาหารกลางวันด้วย ละก็ของที่มี คาเฟอีน , นํ้าตาลสูง ด้วย นะจะทำให้เลอะเลือน+ +(ง่วงนั้นเอง) เพราะอะไรหรอ เพราะจะนำนํ้าตาลไปเลี้นงสมองจึงต้องการพักผ่อน คาเฟอีนก็มีส่วนสำคัญต่อสมองเช่นกัน+ +..*
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kumon2006 : 26th August 2011 เมื่อ 20:29
-
-
26th August 2011 20:28
#12
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
Rukawa
มีวิธีลดความง่วง หลังอาหารกลางวันไหมครับ
จริงแล้ว อยู่ที่อาหารที่กินเข้าไปด้วยครับ ถ้าเป็นอาหารหนัก จำพวกเนื้อสัตว์ อะไรประมาณนั้น จะทำให้กระเพาะทำงานหนัก เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เลยทำให้สมองทำงานได้ช้าลง แล้วจะเกิดอาการง่วงครับ
วิธีแก้ คงเป็นการทานแต่พออิ่ม อย่าให้อิ่มมาก แล้วก็ทานอาหารที่ย่อยง่ายๆ ลดอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ลง น่าจะช่วยได้ในระดับหนึ่งครับผม ^^
-
-
26th August 2011 20:34
#13
นายอยากเป็นหมอ หรอ อ + +..*
-
-
27th August 2011 20:42
#14
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
kumon2006
นายอยากเป็นหมอ หรอ อ + +..*
เปล่าครับผม แค่อยากให้ บอร์ดเรา มีกระทู้แนวนี้บ้าง ก็เท่านั้นเองครับ ^^
-
-
27th August 2011 21:16
#15
สนดิ(เพิ่งเปิดครับ) โทษที สู้ๆครับ
-
-
27th August 2011 22:22
#16
ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ สายตาสั้น สายตาไม่ค่อยดีเลย มองตัวหนังสือไม่ค่อยเห็น (แต่ไม่อยากตัดแว่น)
ควรทำอย่างไรดีครับ ???
♥ Las Vegas
♥ ตัวเอง พ่อแม่ และสังคม
-
-
28th August 2011 18:57
#17
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
thizo
ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ สายตาสั้น สายตาไม่ค่อยดีเลย มองตัวหนังสือไม่ค่อยเห็น (แต่ไม่อยากตัดแว่น)
ควรทำอย่างไรดีครับ ???
ตัดแว่นซะนะครับ จะช่วยถนอมสายตามากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเกิดไม่ตัดแว่นเราต้องใช้สายตามากกว่าปกติทำให้สั้นขึ้นมาก ถ้าคุณเป็นคนเล่มคอมแนะนำให้ตัดแว่นครับ ไม่แนะนำให้ใช้เลนส์มัลติโคดเพราะมันไม่ถนอมสายตาคนขายทุกคนจะพยายามให้เราใช้ครับ พยายามบอกเขาขอเลนส์ธรรมดาซะนะครับ
-
-
10th September 2011 23:18
#18
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
kumon2006
ตัดแว่นซะนะครับ จะช่วยถนอมสายตามากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเกิดไม่ตัดแว่นเราต้องใช้สายตามากกว่าปกติทำให้สั้นขึ้นมาก ถ้าคุณเป็นคนเล่มคอมแนะนำให้ตัดแว่นครับ ไม่แนะนำให้ใช้เลนส์มัลติโคดเพราะมันไม่ถนอมสายตาคนขายทุกคนจะพยายามให้เราใช้ครับ พยายามบอกเขาขอเลนส์ธรรมดาซะนะครับ
ขอบคุณค่ะ อาการเดียวกันเลย
-
-
28th August 2011 10:14
#19
-
-
7th September 2011 06:59
#20
ผมมีปัญหาแล้วแฮ๊ะๆ
คือ... เวลาผมใส่หูฟังไปซักพักนะครับ มันจะมีเสียงวี๊ๆซักพักข้างเดียวครับข้างซ้าย สั้นๆก็5-10วิ ถ้านานๆเลยก็ นอนตื่นนึงครับ
แต่... หลังๆนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าหูตึงครับ เวลาจับใบหูแล้วมัน ไวต่อเสียงเลยครับ(คงเข้าใจนะครับ) เวลาเคาะใบหูมันก็จะดัง ปุ๊กๆ ครับ
เคยลองแคะหูแล้ว ไม่ได้ใช้ cotton brush นะครับ ใช้กิ๊บติดผมสีดำๆอันเท่าไม้จิ้มฟันน่ะครับ ก็ดีขึ้นบ้าง...แต่ ซักพักก็เป็นอีก = ='"
เลยอยากจะปรึกษาเบื้องต้นน่ะครับ ยังไม่ต้องให้ถึงมือหมอครับ
ขอบคุณครับ
Trying not to feel the same
-
-
7th September 2011 20:56
#21
แคะหูบ่อยรึเปล่าวครับ แล้วฟังหูฟังวันละกี่ ชม ครับ เวลาคุยกันคบ หา! บ่อยมากแค่ไหนครับ
-
-
7th September 2011 20:58
#22
แคะหูบ่อยรึเปล่าวครับ แล้วฟังหูฟังวันละกี่ ชม ครับ เวลาคุยกันคบ หา! บ่อยมากแค่ไหนครับ เพราะผมไม่รู้ว่าคุณมีนํ้าหนวกมากหรือเปล่าว ใช้คัดเติ้ลบัตมากมั้ย เป็นหินปูนที่หูรึเปล่าว ถ้าเป็นอาการไม่ได้ยินเหมือนมีอะไรปิดหูให้ไปพบแพทย์เพื่อดูดออกครับ
เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ ขี้หูอุดดตันก็เป็นได้ กระดูกชั้นในหูแยกจากกันมั้ย ฟังหูฟังมาก สุญเสียการได้ยินนะครับ ฟังดังไปฟังเบาไป ก็เป็นเช่นกัน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kumon2006 : 7th September 2011 เมื่อ 21:03
-
-
7th September 2011 23:12
#23
วันละ 3ชั่วโมง แต่ไม่ติดกันครับ เล่นๆแล้วพัก ครับ เท่าที่จำได้ เคยใส่หูฟังนานสุดก็ 6ชั่วโมง
น๊านๆ จะแคะทีครับ แคะไม่ลึกนะครับ แค่ขอบรูหูเฉยๆ เท่าที่นับได้ 3เดือน/2ครั้ง
ตอนนี้รู้สึก...เอ่อ..ตอนอยู่ในห้องแคบๆ อย่าง ห้องนํ้าน่ะครับ มันจะมีอาการ หูสั่น เหมือนขึ้นเครื่องบินน่ะครับ มันกดหูไปหมด แต่ไม่รุนแรงนะครับ ต้องอยู่เงียบๆถึงจะได้ยิน
หูนํ้าหนวก ไม่มีนะครับ คัดเติ้ลบัต ผมไมได้ใช้ครับ เพราะประวัติ มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
สงสัยผมจะ ขี้หูอุดตัน ซะแล้วมั๊ง คงต้องมือหมอ ซะแล้ว
ปล.หูอื้อนิดหน่อยประมาณได้ยินไม่เท่ากัน นอนตื่นนึงหาย 2-3ชั่วโมงเป็นอีก ผมออกแรงเยอะ(....)
Trying not to feel the same
-
-
8th September 2011 21:06
#24
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
CrYzTeX
วันละ 3ชั่วโมง แต่ไม่ติดกันครับ เล่นๆแล้วพัก ครับ เท่าที่จำได้ เคยใส่หูฟังนานสุดก็ 6ชั่วโมง
น๊านๆ จะแคะทีครับ แคะไม่ลึกนะครับ แค่ขอบรูหูเฉยๆ เท่าที่นับได้ 3เดือน/2ครั้ง
ตอนนี้รู้สึก...เอ่อ..ตอนอยู่ในห้องแคบๆ อย่าง ห้องนํ้าน่ะครับ มันจะมีอาการ หูสั่น เหมือนขึ้นเครื่องบินน่ะครับ มันกดหูไปหมด แต่ไม่รุนแรงนะครับ ต้องอยู่เงียบๆถึงจะได้ยิน
หูนํ้าหนวก ไม่มีนะครับ คัดเติ้ลบัต ผมไมได้ใช้ครับ เพราะประวัติ มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
สงสัยผมจะ ขี้หูอุดตัน ซะแล้วมั๊ง คงต้องมือหมอ ซะแล้ว
ปล.หูอื้อนิดหน่อยประมาณได้ยินไม่เท่ากัน นอนตื่นนึงหาย 2-3ชั่วโมงเป็นอีก ผมออกแรงเยอะ(....)
ควรไปพอแพทย์ซะนะครับ อาจจะขี้หูอุดตันเพราะได้ยินไม่เท่ากัน หมอหูนะครับ เขาจะได้ดูดออกมาได้ครับ
-
-
9th September 2011 01:24
#25
รู้แล้วครับ สาเหตุเพราะอะไร..... ผมเป็นไข้ตัวร้อนครับ มันตรงกับที่อาการบอกเลย ตัวร้อน เวียนหัว อาเจียน เจ็บคอ หูอื้อ(มันเป็นๆหายๆ)
Trying not to feel the same
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules