คือเรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นกับผมวันนี้ สดๆร้อนๆเลย ครับ ขอย้อนเรื่องราวไปเมื่อประมาณ วันที่ 24 พ.ค 2555 นะครับ
เนื่องจากว่า ที่ช่วงคากรรไกรของผมนั้น มันมีอาการเจ็บและปวดอย่างรุนแรงบริเวณข้อต่อของขากรรไกร โดยเฉพาะถ้าเพิ่งตื่นนอนใหม่ๆจะยิ่งเจ็บมาก ก็เลยลองไปถามป้าผมมา (ป้าผมเป็นหมอแต่ตอนนี้เกษียณอายุแล้ว)
ป้าได้บอกผมว่าอาจจะเป็นที่ข้อต่อขากรรไกหลวมก็ได้ เวลานอนเราเผลอกัดฟันทำให้ข้อต่อสีกันทำให้มันอักเสบต้องไปหาหมอให้เขาดัดให้ข้อต่อเข้ากัน ป้าเคยถามผมว่า เคยมีอาการเช่น เวลาอ้าปากกว้างๆ เคยหุบปากไม่ลงไหม
ผมก็บอกว่าเคยครับ บางทีพออ้าปากกว้างๆ มันเหมือนขากรรไกรมันค้างนะครับคือเราจะหุบปากไม่ได้เลย ต้องอาศัยใช้มือค่อยๆขยับทีละนิดๆๆ แล้วมันก็จะหุบได้เอง ทรมาณมากๆๆ ป้าก้เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นให้รีบไปหาหมอทันทีเดี๋ยวมันจะร้ายแรงกลายเป็นข้อต่อหลุด ดังนั้น เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2555 ผมจึงไปหาหมอ เพื่อจะให้เขาตรวจดู ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พอถึงคิวผมเข้าไปตรวจ เพื่อนๆทราบไหมครับว่าหมอทำยังไงกับผมบ้าง คำตอบคือไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ขอย้ำว่าไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ หมอแค่ถามว่าเป็นอะไรมา ผมก็เล่าอาการที่เป็นให้หมอฟังพอฟังจบ เขาก็บอกว่าอืมงั้นเอายาไปกินแล้วกันมันอาจจะอักเสบ เนื่องจาก ข้อต่อขากรรไกร มันเคลื่อนขัดกัน ผมก็คิดในใจว่า แ......ง จะไม่จับลูบคลำดูหน่อยรึไงว่ะ ว่าอาการมันแย่แค่ไหน ผมก็เลยบอกว่าหมอครับจะไม่ตรวจดูหน่อยเหรอครับ หมอบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก แค่ต่อแต่นี้เป็นต้นไป อย่าไปเคี้ยวอะไร เหนียวๆอีกต่อไปแล้วกัน ให้กินแต่ของนิ่มๆ ส่วน ขากรรไกร ที่หลวม ก้ไม่ต้องสนใจมันหรอก คนอื่นเขาเป็นกันเยอะแยะไป (ในใจผมคิดว่าถ้ากรูไม่เจ็บกรูจะมาหา***ทำไมว่ะ) ผมก็เลยบอกหมอไปว่า หมอครับงั้นผมขอใบรับรองแพทย์ด้วยนะครับ (เพราะใบรับรองแพทย์จะมีชื่อหมอตรวจเราอยู่) ผมก็กินยาตามที่หมอสั่ง จนมาถึงวันที่ 28 พ.ค 2555 อาการของผมไม่ดีขึ้น คือมันยิ่งอักเสบปวมแดงมากๆๆๆ ผนวกกับขากรรไกร ก็ค้างบ่อยขึ้น จนผมไม่ไหว เลยต้องไปตรวจที่อีกโรงพยาบาลหนึ่งทีนี้พอตรวจปั๊บหมอคนนี้เขาก็บอกว่า โห ปล่อยเอาไว้ทำไมตั้งนาน จนมันอักเสบขนาดนี้ แล้วขากรรไกร ก็หลวมด้วยมันเสี่ยงที่จะขากรรไกรหลุดนะรู้ไหม ผมก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้หมอคนนั้นฟังว่า ไปตรวจมาแล้วกับโรงพยาบาลอีกที่หนึ่งแตเขาไม่ได้ตรวจหรือเช็คดูอาการ อะไรกับผมทั้งสิ้นแค่ฟังแล้วก็ให้ยามากิน พอหมอฟังผมเล่าจบเท่านั้น เขาก็บอกว่างั้นเดี๋ยวหมอ ออกใบรับรองแพทย์ให้แล้วกันแล้วจะเขียนอาการให้ละเอียด ว่าอาการมันเป็นยังไง แล้วให้เราเอาใบรับรองแพทย์นี้ไปเอาความกับหมอที่ตรวจผมคนแรกเพื่อให้เขารับผิดชอบ พอวันรุ่งขึ้น ผมก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่ผมตรวจครั้งแรก แล้วก็ไปหาหมอคนนั้นแล้วบอกให้เขารับผิดชอบ แต่หมอคนนั้นเขาก็บอกผมว่าผมไม่ยอมเล่ารายละเอียดให้เขาชัดเจนว่าอาการเป็นยังไง ผมก็เลยเถียงไปว่า กรูเล่าแล้ว แต่***ยังไม่สนใจเองพอเล่าจบ***ก็ดันบอกมาแค่ว่า แค่อักเสบเท่านั้นเอายาไปกินก็พอ หมอบอกว่าคุณมีหลักฐานอะไรที่ว่าผมบอกไปอย่างนั้น ผมก็เลยเอาใบรับรองแพทย์ที่หมอคนนี้ออกให้ผมและเขียนอาการไว้ให้เขาดู ปรากฎว่าไม่ได้เขียนอาการว่าขากรรไกร หลวมเลยแต่อย่างใดเขียนแค่ว่า ขากรรไกร อักเสบเท่านั้น แล้วผมก็เอาใบรับรองแพทย์อีกใบหนึ่งที่หมออีกโรงพยาบาลได้ออกให้ผม ในนั้นเขียนไว้ว่า ขากรรไกรอักเสบปวมแดง ประกอบทั้งมีอากาขากรรไกรหลวม ด้วยพอหมอคนนี้เห็นดังนั้นก็เงียบไปทันทีและถามว่าจะเอายังไง ผมก็บอกว่าต้องทำการรักษาให้ผมฟรีเพราะถือว่าคุณบกพร่องในการตรวจรักษา เนื่องจากผมได้มีใบรับรองแพทย์จากอีกที่หนึ่งออกความเห็นไว้ ตอนแรกเขาบอกว่าให้คุณกับเจ้าของโรงพยาบาลเองแล้วกันเขาเป็นแค่ผู้ตรวจ ผมบอกว่าก้ได้แต่งั้นขอให้ผมเรียกตำรวจมาคุยกันเองนะ เท่านั้นล่ะหมอก็รีบจัดแจงนัดวันมาให้ผมรักษาฟรีทันทีเลย 5555+++ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าบางทีเราไปตรวจรักษาโรคบางครั้งเราก็ควรจะขอใบรับรองแพทย์ไว้ก่อนเพราะเราไม่รู้ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นกับเรารึป่าวกับหมอที่ไร้ความรับผิดชอบ (หมอนัดให้ผมไปจัดกระดูกวันศุกร์นี้แล้วครับเพื่อนๆ)