เนื้อเรื่อง Resident Evil 2 มหันตภัยที่คืบคลานสู่เมืองแรคคูน
ต่อเนื่องกันเลยนะครับ กับเนื้อเรื่องของเกม Resident Evil 2 ซึ่งคราวนี้เชื้อร้ายได้แพร่ระบาดมายังเมืองแรคคูน เปลี่ยนชาวเมืองทั้งเมืองให้กลายเป็นซอมบี้ ส่วนตัวผมคิดว่า ภาค Resident Evil 2 นี่แหละครับ เป็นภาคที่ทำให้เกมนี้เริ่มดังขึ้นมา และเป็นที่รู้จักไปทั่ว เนื่องจากระบบการเล่นที่มีการเกี่ยวโยงกันในระหว่าง 2 คน แถมยังเล่นสลับเนื้อเรื่องได้ ซึ่งเป็นระบบที่น่าสนใจมากๆ ในยุคนั้นเลยทีเดียวครับ
หตุการณ์เริ่มต้นในอีก 2 เดือนต่อมา หลังจากเหตุการณ์สยองขวัญในคฤหาสน์ลึกลับบนเขาอาร์คเลย์ ชานเมืองแรคคูน เมื่อ ด.ร.วิลเลียม ที่แยกตัวออกมาตั้งศูนย์วิจัยที่ใต้ดินเมืองแรคคูน ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาไวรัส G เป็นที่เรียบร้อย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของ Umbrella แต่กลับมีปัญหากับทาง Umbrella ซะก่อน เขาจึงคิดจะเก็บ G ไวรัสไว้แล้วนำไปขายให้กับรัฐบาลของสหรัฐ
Umbrella ก็ไหวตัวทัน จึงส่งหน่วยพิเศษ USS (Umbrella Security Survice) ทีมอัลฟ่า นำโดย Hunk มาเพื่อสังหารและแย่งชิงไวรัส G ไปจาก ดร.วิลเลียม ทางวิลเลียมเองก็รู้แผนของ Umbrella เช่นกัน จึงขอความคุ้มครองจากรัฐบาล แต่ทว่าหน่วยคุ้มครองของรัฐบาลมาไม่ทัน ดร.วิลเลียมถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัสและไวรัส G ก็ได้ถูกโขมยไป แต่เขายังมีหลอดไวรัส G ตัวทดลองเก็บไว้อยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ Umbrella แย่งชิงไวรัสไปได้ จึงทำการฉีดไวรัสเข้าตัวเอง และกลายพันธุ์เป็นตัวประหลาดที่ทุกคนรู้จักกันดีในนาม "G"
G ได้ออกไล่ล่าหน่วย U.S.S.ทีมอัลฟ่าผ่านทางระบายน้ำ ล้มตายจนเกือบหมด แถมหลอดไวรัส T ก็แตกกระจายในท่อระบายน้ำแห่งนั้น เหล่าหนูและแมลงในทางระบายน้ำ ก็เป็นพาหะนำเชื้อไวรัส T ออกไปในเมือง ทำให้ในเวลาไม่นาน ชาวเมืองแรคคูนที่ติดเชื้อก็เริ่มกัดและแพร่ระบาดเชื้อโรคไปทั่วทั้งเมืองในเวลาข้ามคืนเท่านั้น
ลีออน สก๊อต เคเนดี้ นายตำรวจหน้าใหม่ที่กำลังจะขับรถเข้าเมืองแรคคูนเพื่อมารับหน้าที่เป็นวันแรก ก็ได้พบว่า เมืองทั้งเมืองผิดปกติไปจนกลายเป็นเมืองร้าง แถมมีเหล่าซอมบี้ออกมาเดินเพ่นพ่านอีกด้วย ในเวลานั้นเอง ลีออนก็ได้พบกับ แคลร์ เรดฟิลด์ น้องสาวของ คริสต์ เรดฟิลด์ ที่เดินทางเข้ามาที่เมืองแรคคูนเพื่อตามหาพี่ชายของตัวเอง
ลีออนได้ช่วยเหลือแคลร์เอาไว้ได้และพาแคลร์ไปที่สถานีตำรวจ Racoon Police Department หรือ R.P.D.ที่ตนประจำอยู่ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุกลางทางทำให้ทั้งคู่แยกทางกัน ซึ่งลีออนได้ตะโกนบอกแคลร์ให้ไปรวมตัวกันในสถานีตำรวจ R.P.D.
หลังจากที่ทั้งคู่ไปรวมกันที่สถานีแล้วก็พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของที่นี่เองก็เป็นซอมบี้กันไปเยอะเหมือนกัน ทั้งคู่มาพบกันอีกครั้งในออฟฟิศของหน่วย S.T.A.R.S.ลีออนได้มอบบันทึกของคริสต์ให้กับแคลร์ ซึ่งคริสต์ได้บันทึกเอาไว้ว่า ตนจะออกไปสืบสวนเรื่องราวต่างๆ ที่ยุโรป ลีออนกับแคลร์จึงตกลงกันว่าจะแยกกันตามหาพร้อมช่วยผู้รอดชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ และหาทางหนีออกจากเมืองนี้ให้ได้
หลังจากแยกทางกัน แคลร์ได้มาพบกับเชอรี่ที่กำลังถูกทำร้ายโดยบังเอิญแคลร์จึงพยายามตามตัวและช่วยเชอรี่ และได้พบกับ ไบรอัน ไอรอน หัวหน้าตำรวจในสถานี R.P.D. แห่งนี้ ซึ่งแคลร์ได้รู้ความจริงทีหลังเรื่องการติดสินบนของ Umbrella เพื่อปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเขาอาร์คเลย์ชานเมืองแรคคูน แต่เมื่อแคลร์รู้ความลับนี้แล้ว ไอรอนจึงพยายามปิดปากแคลร์ แต่ตัวอ่อน G ในร่างของเขาที่ถูกฝังเอาไว้ก็เจาะทะลุร่างกายเขาออกมาได้ และหนีลงไปทางระบายน้ำใต้ดิน หลังจากผ่านมาได้เชอรี่ก็ถูกท่อระบายน้ำดูดให้พลัดหลงกับแคลร์อีก
ส่วนทางลีออนก็ปะทะกับ BOWs ดัดแปลง Tyrant-103 ที่ทาง Umbrella ส่งมาเพื่อตามหาตัวอย่างไวรัส G ที่อยู่ในจี้ห้อยคอของเชอรี่ และก็ได้พบเอด้าที่บอกว่ามาตามหาแฟนหนุ่มชื่อจอห์น ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ของ Umbrella ลีออนก็ได้คอยให้การช่วยเหลือตลอด เมื่อถึงช่วงที่แยกทางกัน เอด้าก็มาพบกับเชอรี่ โดยเอด้าเก็บจี้ห้อยคอของเชอรี่ที่ทำตกไว้ได้ก่อนที่เชอรี่จะวิ่งหนีไป แล้วก็กลับมาพบกับลีออนอีกครั้ง โดยลีออนพยายามกำชับให้เอด้าอยู่ใกล้ๆ จะได้คอยคุ้มครองได้ ซึ่งเอด้าเองก็ถึงจะรำคาญ แต่ก็ยอมตามลีออนไปก่อนเพราะยังคิดว่าใช้ประโยชน์ได้อยู่
ต่อมาทั้งสองคนก็พบกับผู้หญิงท่าทางแปลกๆ ที่ยิงปืนใส่เอด้า ลีออนกระโดดมาขวางไว้ได้ แต่ก็โดนยิงจนสลบไป เอด้าตามผู้หญิงแปลกหน้าต่อไปจนเจอตัว ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็แนะนำตัวว่าเธอคือ แอนเนต เบอร์กินส์ แม่ของเชอรี่ และเป็นภรรยาของ ดร.วิลเลียม ระหว่างที่แอนเนตอธิบายเรื่องราวให้เอด้าฟัง ก็เห็นจี้ห้อยคอของเชอรี่ จึงพยายามแย่งคืนมา แต่ก็พลัดตกลงมายังบ่อน้ำด้านล่าง ด้วยความสงสัยเอด้าจึงเปิดจี้ห้อยคอดู แล้วพบตัวอย่างเชื้อไวรัส G เอด้าจึงเก็บเอาไว้ แล้วไปรักษาแผลให้ลีออน
ทางแคลร์ก็ตามหาเชอรี่จนเจอตัว และพบว่า ดร.วิลเลียม ได้ฝังตัวอ่อนของ G ลงไปในตัวของเชอรี่ด้วยเช่นกัน เพื่อให้กำเนิดอสูรกลายพันธุ์ตัวใหม่ ทั้งคู่ได้เดินทางหาทางออกต่อไปจนมาพบกับเส้นทางที่จะเชื่อมต่อไปยังศูนย์วิจัยใต้ดินของ ดร.วิลเลียม ซึ่งลีออนก็ลงมาด้วยเช่นกัน แต่เอด้ากลับถูก G โจมตีระหว่างทางจนได้รับบาดเจ็บ ลีออนจึงออกตามหายาในศูนย์วิจัยเพื่อนำมารักษาเอด้าแต่ถูกแอนเนตขวางเอาไว้ และพยายามบอกให้ลีออนรู้ เรื่องเอด้าเป็นสปายจากบริษัทอื่นที่เข้ามาเพื่อลักลับโขมยไวรัส G และในจังหวะที่แอนเนตกำลังจะยิงลีออน ก็มีเจ้า Tyrant T-103 ออกมาขัดจังหวะ แอนเนตจึงรีบหนีไป
เอด้าที่ตามมาช่วยลีออนทีหลังก็ยิงสู้กับ Tyrant-103 จนได้รับบาดเจ็บปางตาย ส่วนTyrant-103 ได้พลัดตกลงไปในบ่อไฟ เอด้าได้บอกรักลีออนก่อนจะสิ้นใจ สร้างความโกรธแค้นให้แก่ลีออนเป็นอย่างมาก และจากการต่อสู้ของเอด้าและ Tyrant-103 ทำให้ระบบทำลายตัวเองของศูนย์วิจัยทำงาน
ส่วนทางแอนเนตที่เตรียมจะหนีไปพร้อมต้วอย่างไวรัส G ที่เหลืออยู่ก็ถูก ดร.วิลเลียมเข้าทำร้ายจนปางตายอีกเช่นกัน โดยก่อนตายแอนเนตได้บอกแคลร์เรื่องการนำวัคซีนหยุดการกลายร่างของตัวอ่อนไวรัส G ในตัวเชอรี่ให้แคลร์ทราบ ทางแคลร์จึงฝากเชอรี่ไว้กับลีออน แล้วตัวเองก็เข้าไปหาวัคซีนในห้องทดลองมารักษาเชอรี่แต่ระหว่างทางไปรวมตัวที่จุดนัดพบ ก็ถูก G ที่กลายพันธุ์ไปถึงขั้นที่ 4 โผล่มาขวางไว้ โดยหลังจากกำจัดได้ แคลร์ก็รีบไปรวมตัวกับลีออนทันที
ทางลีออนที่พาเชอรี่ออกมาก่อนก็ได้พามาถึงชานชาลารถไฟ เขาพยายามเปิดการทำงานของรถไฟ แต่ก็ไม่เป็นผล เขาจึงต้องออกไปเปิดระบบควบคุมที่ชานชาลาก่อน ซึ่งที่นั่นลีออนก็ได้ปะทะกับ Tyrant-103 อีกครั้งในร่างของ Tyrant R ซึ่งเป็นการตั้งโปรแกรมเอาไว้ว่าไวรัสในตัวของ Tyrant-103 จะทำงานเมื่อบาดเจ็บสาหัสหรืออยู่ในอาการปางตาย (วิธีเดียวกับเวสเกอร์ใช้ในภาคแรก) ลีออนพยายามวิ่งหนีและตอบโต้ แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะโดยส่วนตัว Tyrant-103 เองก็ฆ่าให้ตายไม่ได้ง่ายๆ อยู่แล้ว ยิ่งรวมกับไวรัสด้วย ทำให้ร่างกายของมันแทบจะคงกระพันเลยทีเดียวแต่สักพัก ก็มีผู้หญิงลึกลับคนหนึ่ง โยนปืน Rocket Launcher พร้อมบอกให้ลีออนใช้จัดการเจ้า Tyrant R ลีออนรีบหยิบปืนนั้นแล้วใช้มันจัดการแก้แค้นให้เอด้าได้สำเร็จ แต่ในใจลีออนก็ยังคงมีความสงสัยต่อเสียงผู้หญิงลึกลับคนนั้น หลังจากที่รถไฟเคลื่อนขบวนได้ แคลร์ที่มาถึงพอดีก็ตามขึ้นรถไฟได้ทัน ซึ่งแคลร์ก็นำวัคซีนที่ได้มาใช้รักษาเชอรี่สำเร็จ
เรื่องราวดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ทว่า G ยังคงไล่ตามมาอยู่ โดยคราวนี้เขาได้กลายร่างเป็นขั้นที่ 5 เกาะโบกี้รถไฟมาด้วยลีออนจึงอาสาไปจัดการมันให้สิ้นซาก แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการได้ เนื่องจาก G สามารถฟื้นคืนพลังชีวิตตัวเองได้อย่างรวดเร็วมากจนเหมือนเป็นอมตะ เชอรี่ที่พอตั้งสติได้จึงมุดไปที่ห้องคนขับ แลัวจัดการหยุดรถไฟเอาไว้ ใ้ห้ลีออนกับแคลร์หนีออกมาจากรถไฟและวิ่งออกจากอุโมงค์รถไฟได้ทันซึ่งระบบทำลายตัวเองก็ได้ระเบิดออก พร้อมทำลายทุกอย่างในศูนย์วิจัยรวมทั้งขบวนรถไฟและตัวของ G จนไม่เหลือซาก... เป็นการปิดฉากเรื่องราวของ Resident Evil 2 อย่าง Happy Ending (?)
สรุปเส้นทางของตัวละคร หลังจบภาค Resident Evil 2
แคลร์ เรดฟิลด์ ออกตามหาคริสต์ เรดฟิล์ด พี่ชายของตนเองต่อไป หลังจากทราบเบาะแสว่าคริสต์เดินทางไปสืบเรื่องราวของ Umbrella ที่ยุโรป จากบันทึกที่หลงเหลืออยู่ที่ออฟฟิศของหน่วย S.T.A.R.S. โดยฝากเชอรี่ให้ลีออนพากลับไปพร้อมกับทีมช่วยเหลือของรัฐบาล
สำหรับเชอรี่ หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ก็ถูกพบว่าไวรัส G ในตัวเชอรี่ยังคงอยู่ แต่ไวรัสก็ไม่แสดงอาการอะไรออกมาเช่นกัน ทางรัฐบาลจึงกักตัวเชอรี่ไว้ทดลองต่อไปในฐานะ "สิ่งที่มีภูมิต้านไวรัส" และแม้จะถูกทดลองในหลายต่อหลายวิธีจนทุกข์ทรมานแค่ไหน เชอรี่ก็ไม่ย่อท้อ เนื่องจากถือภาพลักษ์ของแคลร์ที่คอยปกป้องตัวเองเป็นแบบอย่าง จนเติบใหญ่ เชอรี่ได้เข้าบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของทางรัฐบาล โดยยังคงมีเชื้อไวรัส G ติดตัวอยู่จนทุกวันนี้
ลีออนเองก็เช่นกัน หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ถูกสอบสวนยกใหญ่ เบื้องต้นลีออนพยายามกันไม่ให้รัฐบาลยุ่งกับเชอรี่ แต่รัฐบาลรู้ความจริงเรื่องเชอรี่แล้ว พร้อมๆ กับเรื่องราวของลีออนก็เช่นกัน รัฐบาลจึงได้เกลี้ยกล่อมแกมบังคับลีออน ว่าถ้าอยากให้ปัญหาทุกอย่างสิ้นสุดลงโดยเร็ว ก็ให้มาเข้าร่วมเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของรัฐบาล
ส่วนเอด้านั้น หลังจากแกล้งตายเพื่อหาเรื่องปลีกตัวออกจากกลุ่มของลีออนได้สำเร็จ เอด้าก็ได้แอบช่วยลีออนอย่างลับๆ โดยการโยนปืน Rocket Launcher ให้ลีออนใช้จัดการกับ Tyrant R จากนั้นก็รีบหนีออกจากศูนย์วิจัยไปยังโรงแรม Apple Inn ตามที่นัดไว้กับองค์กรณ์ที่ 3 แต่ก็พบว่าคนๆ นั้นตายไปแล้ว เวสเกอร์ที่เฝ้าจับตาดูอยู่ก็เห็นว่าเอด้าสามารถนำไวรัส G มาจากศูนย์วิจัยได้ จึงบอกกับเอด้าว่ารัฐบาลกำลังยิงจรวดมิดไซล์ถล่มเมืองแรคคูนในอีกไม่นาน ให้รีบหนีออกมาจากเมืองนี้โดยเร็วที่สุดโดยแนะนำทางไปยังเฮลิคอปเตอร์ ที่กำลังอพยพเจ้าหน้าที่ของ Umbrella หนีออกไปจากเมือง ซึ่งเอด้าก็สามารถฝ่าดงซอมบี้ออกไปติดเครื่องบิรหนีได้ทันเวลาพอดี
จบไปอีกภาคแลัวนะครับ สำหรับเรื่องราวของ Resident Evil ภาค 2 หวังว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้มากขึ้นอีกหน่อยแล้วล่ะนะ
เนื้อเรื่อง Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 1 'ตระกูลแอชฟอร์ดและการกลับมาของเวสเกอร์'
ว่ากันด้วยเรื่องของ Resident Evil : Code Veronica
ภาค Resident Evil : Code Veronica ถ้าจะนับให้ถูกก็ถือเป็นภาค 4 ของเกมซีรี่ส์ Resident Evil วางจำหน่ายครั้งแรกในเครื่อง Dreamcast ในปี 2000 ก่อนที่จะพอร์ตมาลงเครื่อง Play Station 2 ในปี 2001 และมีพอร์ตอีกครั้งในเครื่อง Gamecube ตอนปี 2003 และในปัจจุบันนั้นสามารถหาซื้อแผ่นสำหรับเครื่อง Play Station 3 กับ เครื่อง XBOX360 ได้ในรูปแบบ Re-Maser HD หรือซื้อผ่านทาง Play Station Store กับ XBOXLive ก็ได้ครับ
ย้อนความ Umbrella และตระกูล Ashford
ย้อนกลับไปยังช่วงเนื้อเรื่องที่ขาดหายไปของ Umbrella ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงแต่แรก เพราะต้องการนำมาเล่าในช่วงของตอนนี้ ก็คือเนื้อเรื่องของ อเล็กซานเดอร์ แอชฟอร์ด ลูกชาย เอ็ดเวิร์ด แอชฟอร์ด ที่ย้ายงานวิจัยไวรัสโปรเจนิสเตอร์ของพ่อมาทำที่เกาะร็อคฟอร์ดในแอนตาร์คติคหลังจากที่พ่อของเขาตาย เขามีความเชี่ยวชาญทางด้านพันธุกรรมของมนุษย์ โดยเขาได้นำเอา DNA ของตัวเอง และของย่าทวดที่ชื่อ Veronica มาโคลนนิ่งออกมาเป็นเด็กฝาแฝดชาย-หญิงโดย อัลเฟรด ผู้เป็นลูกชายและ อเล็กเซีย ลูกสาวอย่างละคน
ในขณะที่อัลเฟรดเป็นเด็กธรรมดาไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่อเล็กเซียกลับมีมันสมองที่เป็นเลิศ จนสามารถจบมหาลัยและเข้าร่วมเป็นนักวิจัยใน Umbrella สาขาแอนตาร์คติคด้วยวัยเพียง 10 ขวบเท่านั้น ทำให้ ดร.วิลเลียม เกิดความรู้สึกอิจฉาและพยายามเอาชนะอเล็กเซียให้ได้ เพราะเคยคิดว่าตนเป็นคนที่เพอร์เฟคที่สุดเพราะสามารถเข้าเป็นนักวิจัยใน Umbrella ด้วยวัยเพียง18 ปี
ทางอัลเฟรดก็ได้ค้นพบความจริงจากบันทึกของอเล็กซานเดอร์ในเวลาต่อมา ว่าตัวเองเป็นเพียงแค่มนุษย์โคลนนิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบอย่างอเล็กเซีย จึงนำเรื่องที่ตนกับอเล็กเซียเป็นเพียงมนุษย์โคลนนิ่งมาชวนให้อเล็กเซียร่วมมือกับตนจับอเล็กซานเดอร์มาเป็นตัวลองไวรัส T-Veronica ตัวต้นแบบ แต่เกิดความผิดพลาด ทำให้อเล็กซานเดอร์เป็นมนุษย์กลายพันธฺุ์ ทั้งสองคนจึงนำตัวอเล็กซานเดอร์ไปขังไว้ในคุกใต้ดินของศูนย์วิจัยขั้วโลกใต้
หลังจากที่เกิดความผิดพลาดทางอเล็กเซียก็ได้พัฒนาเชื้อไวรัส T-Veronica ต่อจนสมบูรณ์ และทำการใช้กับตัวเอง โดยการแช่แข็งจำศีลตัวเองเป็นเวลา 14 ปี เพื่อให้เชิ้อไวรัสดูดซึมเข้าสู่ร่างกายตัวเองโดยสมบูรณ์แบบ โดยในช่วงเวลานี้ อเล็กเซียก็ได้ฝากฝังให้อัลเฟรดคอยดูแลศูนย์วิจัยที่แอนตาร์คติคไว้ และอัลเฟรดก็ได้ปล่อยข่าวลือออกไปว่า อเล็กเซียตายแล้ว เพื่อให้การจำศีลของอเล็กเซียเป็นไปอย่างราบรื่น
เกาะร็อคฟอร์ด
เรื่องราวส่วนหนึ่งของภาคนี้ เริ่มต้นที่เกาะร็อคฟอร์ด ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ของ Umbrella ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทวีปแอนตาร์คติค ใช้เป็นคุกสำหรับกักขังเหล่านักโทษที่ทำตัวเป็นกบฏภายในองค์กรของ Umbrella เอง หนึ่งในตัวละครหลักที่ถูกขังอยู่ในนี้ด้วยก็คือ สตีฟ เบิร์นไซด์ ที่ถูกขังพร้อมกับพ่อของตัวเองทีเป็นพนักงานใน Umbrella มาก่อน เพราะว่าพ่อของสตีฟนำความลับของ Umbrella ไปประมูลขาย ทำให้ทั้งสตีฟและพ่อของเขาถูกนำมาขังไว้ที่คุกบนเกาะร็อคฟอร์ดด้วย
นอกจากนี้เกาะร็อคฟอร์ดยังใช้เป็นสถานที่สำหรับฝึกฝนหน่วยรบพิเศษอย่าง U.S.S. (Umbrella Security Service) ซึ่งเป็นหน่วยที่ทาง Umbrella ส่งมาโขมยไวรัส G และทำลายหลักฐานในเมืองแรคคูนในภาค Operation Raccoon City และนอกจากนี้ก็ยังใช้เป็นศูนย์วิจัยย่อยจากสาขาแอนตาร์ติคอีกทีหนึ่งด้วย
กลับสู่เนื้อเรื่องปัจจุบัน (ของเกม)
เกือบ 3 เดือน หลังจากการล่มสลายของเมืองแรคคูน (ไม่ระบุวันที่แน่นอน) แคลร์ เรดฟิลด์ น้องสาวของ คริสต์ เรดฟิลด์ ยังคงออกตามหาพี่ชายที่ยุโรป จนสามารถสืบหาเบาะแสจนสามารถเข้าถึง Umbrella สาขาปารีส ในประเทศฝรั่งเศสได้ แต่พลาดท่าถูกโรดิโก้จับตัวไว้ได้และถูกส่งตัวมายังเกาะร็อคฟอร์ดในฐานะนักโทษของ Umbrella
วันที่ 27 ธันวาคม 1998
อัลเบิร์ด เวสเกอร์ อดีตนักวิจัยของ Umbrella และหัวหน้าหน่วย S.T.A.R.S. ที่หายสาบสูญไปหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เขาได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในฐานะผู้นำของหน่วย H.C.F. (Hive/Host Capture Force) ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษจากองค์กรปริศนา ที่เวสเกอร์ทำงานด้วย โดยเวสเกอร์ได้นำกองกำลัง H.C.F. บุกเข้ายึดเกาะร็อคฟอร์ดเพื่อพยายามโขมยไวรัส T-Veronica จากอัลเฟรด
การโจมตีในครั้งนี้ มีทั้งการส่งทหารราบและทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบ สร้างความเสียหายไปทั่วทั้งเกาะรวมไปถึงคุกใต้ดินของเกาะร็อคฟอร์ดด้วย และที่สำคัญก็คือ การโจมตีเกาะร็อคฟอร์ดในครั้งนี้ ทำให้เชื้อไวรัส T ที่อยู่ในห้องทดลองแพร่กระจายสู่เหล่าคนของ Umbrella และนักโทษบนเกาะจนทำให้กลายเป็นซอมบี้กันไปเกือบทั้งเกาะแถมยังมีเหล่า B.O.W.s. หลุดออกมาอาละวาดอีกด้วย
สตีฟ เบิร์นไซด์ อาศัยเหตุการณ์นี้หนีรอดออกมาจากคุกที่ีถูกโจมตีจนพังเสียหาย ได้สำเร็จและกำลังหาทางหนีรอดออกจากเกาะนี้ให้ได้ ทางแคลร์ เรดฟิลด์ ที่โดน โรดิโก้ จับตัวมาก็ถูกโรดิโก้ปล่อยตัวไป เพราะคิดว่ายังไงแคลร์ก็ไม่น่าจะรอดจากเกาะนี้ไปได้ ซึ่งระหว่างที่แคลร์ และ สตีฟต่างพยายามหนีเอาตัวรอด ก็ได้มาพบกัน แล้วเหตุการณ์บนเกาะร็อคฟอร์ด ของ Resident Evil : Code Veronica ของ แคลร์ และ สตีฟ ก็เริ่มต้นขึ้น...
(To Be Continue...)
ต้องขอโทษเพื่อนๆ ที่ ลืมโพส ตอนที่ 1
เนื้อเรื่อง Resident Evil Code Veronica ตอนที่ 2 ปลุกชีพราชินี 'อเล็กเซีย'
เนื้อเรื่อง Resident Evil Code Veronica ตอนที่ 2 ปลุกชีพราชินี 'อเล็กเซีย' ตามสัญญา ผมจะกลับมาสรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 2 ต่ออีกครั้งครับ เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น ตามชมกันต่อได้เลย
หลังจากแคลร์ถูกเอนริโก้ปล่อยตัวออกจากที่คุมขัง แคลร์ก็พยายามหาทางหนี แต่ทว่าไวรัสได้แพร่กระจายไปทั่วเกาะแล้ว ทำให้เหล่าซอมบี้ออกอาละวาดจนแคลร์ต้องหนีหัวซุกหัวซุน จนมาพบกับสตีฟที่หนีออกมาจากคุกได้เหมือนกัน แต่การพบกันในตอนแรกนั้นออกจะเป็นการระแวงไปสักหน่อย เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าอีกคนเป็นคนของ Umbrella ที่จะมาตามล่าตน แต่ก็เจรจาจนเข้าใจกันได้พร้อมกับแนะนำตัวกัน และสตีฟก็ได้แยกตัวออกไป
หลังจากแคลร์แยกตัวออกมาหาทางหนีจากเกาะร็อคฟอร์ด ก็มาพบกับสตีฟอีกครั้ง ในห้องผู้คุม ซึ่งในนั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีข้อมูลของ คริสต์ เรดฟิลด์ อยู่ซึ่งสตีฟบอกกับแคลร์เพราะรู้สึกว่านามสกุลเหมือนกัน สตีฟได้เตือนแคลร์ว่า ดูเหมือนทาง Umbrella กำลังสืบหาตัวคริสต์อยู่ แคลร์จึงรีบส่งเมลล์บอกกับลีออน ให้ช่วยตามหาและเตือนคริสต์ด้วยว่าเขากำลังถูก Umbrella ตามหา พร้อมขอความช่วยเหลือ ว่าตนติดอยู่ที่เกาะร็อคฟอร์ดนี้
หลังจากแก้ปริศนาและเดินทางอยู่ในโซนคุกอยู่นาน แคลร์ก็สามารถหาทางออกมายังทางเชื่อมไปโซนแมนชั่นปริศนาที่อยู่อีกฝั่งของโซนคุกได้ ภายในคฤหาสน์แคลร์ได้พบกับภาพหญิงสาวในชุดเดรสสีม่วงขนาดใหญ่บนฝาผนัง ระหว่างที่สำรวจและแก้ไขปริศนา แคลร์ก็ได้พบกับคลิปวีดีโอของเด็กชาย-หญิง 2 คนที่กำลังเล่นเด็ดปีกแมงปอ แล้วเอาให้มดกินด้วย และในนี้ก็พบกับสตีฟอีกครั้ง แต่เขาถูกจับขังเอาไว้ซึ่งพอหลังจากช่วยได้ เขาก็แยกตัวออกไปอีก
ระหว่างที่แคลร์กำลังออกจากคฤหาสน์ ก็ถูกชายลึกลับใช้ปืนสไนเปอร์ไล่ยิง จนทำให้แคลร์ต้องวิ่งไปซ่อนตัวหลังเสา ชายคนนั้นบอกว่าเขาชื่ออัลเฟรด แอชฟอร์ด ลูกชายของอเล็กซานเดอร์แอชฟอร์ด เขาพยายามจะฆ่าแคลร์เพราะเข้าใจผิดว่าแคลร์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการแพร่เชื้อไวรัสบนเกาะของเขา แต่แคลร์ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือตัวเอง และแม้แต่ตัวเธอเองก็กำลังหาทางหนีออกจากเกาะนี้ด้วยเช่นกัน หลังจากเจรจากันอยู่สักพัก อัลเฟรดก็ยอมถอยกลับไป เพราะแคลร์เองก็ไม่น่าจะรอดไปจากเกาะที่โดนซอมบี้ล้อมแบบนี้ได้
หลังจากหนีออกจากคฤหาสน์มาได้ แคลร์ก็ออกสำรวจรอบๆ คฤหาสน์ ก็พบว่ามีเรือดำน้ำอยู่ข้างๆ คฤหาสน์ ซึ่งพอลงไปแล้วก็ได้พบกับโรงงานลับใต้น้ำ หลังจากสำรวจในนั้นแล้ว ก็พบว่า มีเครื่องบินอยู่ในนั้นด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้ได้ทำให้ต้องกลับขึ้นไปอีกครั้ง และเดินทางสำรวจต่อไปจนถึงศูนย์ฝึกทหาร ซึ่งที่นั่นก็พบกับอัลเฟรดอีกครั้ง เขาพยายามจะจัดการแคลร์แต่ก็พลาดไป หลังจากที่พยายามตามเข้าไป ก็ไปพบกับ B.O.W.s. รุปร่างประหลาดที่สามารถยืดแขนคว้าจับอะไรก็ได้ ระหว่างที่แคลร์กำลังพลาดท่าโดนมันเล่นงาน สตีฟ ก็โผล่ออกมาช่วยไว้ได้ทัน สตีฟบอกกับแคลร์ว่า เขาจะคอยช่วยเหลือแคลร์เอง แล้วทั้งสองก็ร่วมเดินทางไปด้วยกันพักหนึ่ง
ระหว่างทาง แคลร์สังเกตพฤติกรรมของสตีฟดูแปลกๆ ไล่ฆ่าเหล่าซอมบี้อย่างบ้าเลือดเอาสะใจ เหมือนต้องการระบายอะไรสักอย่าง จึงพยายามถามสตีฟ รวมถึงถามเรื่องครอบครัวของเขาด้วย แต่สตีฟไม่ยอมตอบพร้อมกับยิงปืนอาละวาดอย่างบ้าคลั่งต่อไป และเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงห้องหนึ่ง แคลร์ก็ถูกซอมบี้ตัวนึงพยายามเข้าทำร้าย ทั้งที่เห็นอยู่ตำตาสตีฟกลับไม่กล้ายิง แต่หลังจากที่แคลร์ร้องเรียกอีกครั้ง สตีฟจึงกลั้นใจสาดกระสุนปืนกลใส่อย่างไม่ยั้ง พร้อมกับตะโกนออกมาว่า "พ่อ !!"
เมื่อกระสุนปืนสตีฟหมดแม็ก เขาก็ได้แต่ทรุดลงร่ำให้อยู่กับศพของพ่อเขาเอง สตีฟเล่าให้แคลร์ฟังว่า พ่อของเขาโขมยเอาข้อมูลของ Umbrella มาขายเพราะความโลภ แล้วถูกจับได้ แม่ของสตีฟถูกฆ่าตาย ส่วนตัวเขาและพ่อก็ถูกจับมาขังไว้ที่คุกแห่งนี้ โดยหลังจากเล่าจบ สตีฟก็ขออยู่คนเดียวกับศพของพ่อเขาสักระยะ ซึ่งแคลร์ก็ออกสำรวจพื้นที่ต่อไป โดยกลับไปที่คฤหาสน์ของอัลเฟรด เพื่อหาวิธีหนีออกจากเกาะ จนพบกับทางลับไปยังคฤหาสน์ลับอีกหลังหนึ่งซึ่งในนั้นก็พบกับผู้หญิงปริศนาในชุดสีม่วงเหมือนที่เห็นบนรูปใหญ่ในคฤหาสน์ กำลังคุยอยู่กับอัลเฟรด และเหมือนจะถูกพบตัว ซึ่งแคลร์ก็ซ่อนตัวได้ทัน แต่พอเข้าไปในห้องแล้ว กลับไม่พบใครเลย
แคลร์ได้สำรวจพื้นที่อีกครั้ง และพบกับบุคคลที่ไม่น่าจะมาอยู่ในที่แห่งนี้ได้ นั่นก็คือ "เวสเกอร์" เขาตั้งใจจะจับตัวแคลร์ไปเพื่อใช้เป็นตัวประกันหลอกล่อให้คริสต์ปรากฏตัว แต่ก็ตัดสินใจปล่อยแคลร์ไว้ เพราะมีสายรายงานมาทางเวสเกอร์ว่า คริสต์กำลังจะมาช่วยแคลร์ในอีกไม่ช้า ก่อนที่จะพุ่งหายตัวไปด้วยความรวดเร็วเหมือนไม่ใช่มนุษย์
แคลร์ที่เริ่มตั้งตัวได้ ก็ออกสำรวจต่อไป จนพบกับผู้หญิงชุดม่วงอีกครั้งในคฤหาสลับ โดยผู้หญิงชุดม่วงแนะนำตัวเองว่าเธอคือ อเล็กเซีย แอชฟอร์ด และในขณะที่แคลร์กำลังจะถูกยิง สตีฟก็โผล่มาช่วยไว้ได้ทันอีกครั้ง ซึ่งเป็นการยิงแลกกันซึ่งทั้งสตีฟและอเล็กเซียต่างก็โดนยิง แต่อเล็กเซียก็หนีเข้าไปในห้องลับ ที่พอตามเข้าไปแล้ว ก็พบอัลเฟรดโผล่มาลอบโจมตี ทว่าสตีฟสามารถสวนกลับได้ทัน ทางอัลเฟรดที่ลุกขึ้นมา เห็นสภาพหน้าตัวเองในกระจก ก็พบว่า วิกที่ตัวเองใส่ไว้หลุดไป (เนื่องจากเขาปลอมตัวเป็นอเล็กเซีย) อัลเฟรดจึงรีบลนลานนีออกไป พร้อมกับกดสวิท ทำลายตัวเองของคฤหาสน์แห่งนั้นสตีฟกับแคลร์ จึงตกลงหนีไปที่โรงงานใต้น้ำ เพื่อขับเครื่องบินออกจากเกาะนี้
แต่อัลเฟรดไม่ยอมง่ายๆ เขาได้ปลดปล่อย Tyrant - 078 ออกมาไล่ล่าแคลร์ ซึ่งหลังจากจัดการมันได้ แคลร์ก็รีบหนีขึ้นเครื่องบินไปพร้อมกับสตีฟแต่ทว่า เจ้า Tyrant - 078 ยังไม่ยอมลดละ และเกาะเครื่องบินติดมาด้วย แคลร์เลยออกไปจัดการกับมันตกเครื่องบินไป แต่ความซวยยังไม่จบ เพราะเครื่องบินลำนั้นเป็นของอัลเฟรดอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้บังคับเครื่องบินลำนั้นให้เป็น Auto Pilot บินไปยัง Umbrella สาขาแอนตาร์กติคของตนเอง
ที่นั่น แคลร์กับสตีฟ ได้ปะทะกับอัลเฟรดอีกครั้งโดยคราวนี้ สตีฟยิงใส่อัลเฟรดเข้าอย่างจัง แถมอัลเฟรดยังพลัดตกหน้าผาไปอีก แต่ในขณะนั้นอสูร นอสเฟอราตู หรืออเล็กซานเตอร์ที่ถูกใช้เป็นตัวทดลองไวรัส T-Veronica จนกลางร่างไปและถูกขังอยู่ชั้นใต้ดินของที่นี่ ก็สลัดพันธนาการ หลุดออกมาไล่ล่าสตีฟกับแคลร์ สตีฟพยายามจะขวางเอาไว้ แต่ก็ถูก นอสเฟอราตูปัดกระเด็นจนเกือบตกหน้าผาไปอีกคน หลังจากที่แคลร์จัดการกับนอสเฟอราตูได้ ก็สามารถหนีออกมาจากศูนย์วิจัยได้สำเร็จและเตรียมที่จะขับรถลุยหิมะหนี
ทางอัลเฟรดเองก็กระเสือกกระสน หอบร่างที่บาดเจ็บสาหัด กลับมายังห้องแลป แห่งหนึ่ง เขาคลานมายังหลอดแก้วที่มีร่างผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างใน นั่นคืออเล็กเซีย อัลเฟรดได้รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายปลดปล่อยหญิงสาวในหลอดแก้วจากการจำศีล.. ใช่แล้ว... เธอคืออเล็กเซียตัวจริงที่ดูดซึมไวรัส T-Veronica ไว้อย่างสมบูรณ์แล้วนั่นเอง
ทันทีที่อเล็กเซียฟื้นขึ้นมา ก็พบกับภาพของอัลเฟรดที่หมดลมตายอยู่ตรงหน้า ด้วยความแค้นจึงปล่อยส่วนหนึ่งของ Tentacle เข้าโจมตีสตีฟกับแคลร์โดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ตั้งตัวเลย...
สำหรับสรุปเนื้อเรื่องของ Resident Evil : Code Veronica นี้ ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะสรุปให้จบได้ในตอนเดียวนะเนี่ย แต่เนื้อเรื่องภาคนี้ยาวมากจริงๆ ดูท่ายังจะต้องมีตอนต่อไปเป็นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องของคริสต์แล้วล่ะครับ ชะตากรรมของสตีฟ กับแคลร์ จะเป็นอย่างไร? คริสต์จะมาช่วยแคลร์ทันเวลาหรือไม่ ต้องรอติดตาม