เพราะมันเป็นงานที่เหนื่อยน่ะซิครับ แต่คนไทยกลับมองว่า Programmer เป็นงานที่สบาย แค่นั่งอยู่ในห้องแอร์ นั่งอยู่หน้าคอม ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหน สบายจะตาย เงินเดือนก็ไม่ต้องเยอะแยะหรอก
แต่ความเป็นจริงแล้ว งาน Programmer ไม่ง่ายเลย ในสภาวะเทคโนโลยีปัจจุบัน Programmer จำเป็นต้องรู้อะไรเพิ่มเติมอีกหลายอย่างมาก .NET, JAVA, SQL, iOS, Android, SAP อื่นๆอีกเยอะแยะ
ไหนจะต้องทำงานให้ตรงกับเวลาที่กำหนด ถ้าใครเคยเขียนโปรแกรมจะเข้าใจ ว่าการเขียนโปรแกรม 1 โปรแกรมขึ้นมานั้น ไม่ใช่นึกจะเขียนก็เขียนขึ้นมาได้เลย บางทีต้องใช้เวลา บริหารจัดการ ทำให้มัน Run
ได้กับทุกเวอร์ชั่น อื่นๆเยอะแยะมากมาย
ผมว่าถ้างาน Programmer เงินเดือน Start ซัก 25000+ ขึ้นไป มันคงจะไม่เกิดวิกฤตขนาดนี้หรอกครับ
ไม่เลือกงานไม่อยากจนครับ บางคนก็เลือกงานที่จะต้องการจะทำหรือจบมายากได้ตรงสาย จริงๆถ้าอยากจะทำงานไม่ต้องทำงานตรงสายก็ได้นิครับ ก็จริงครับเรียนมาใครๆก็อยากจะทำงานตรงสายกัน แต่สายทีจบมาอาจรองรับน้อยมาก
ป.ล ผมจบ ปวช ช่างไฟฟ้า ผมยังเป็น ผู้ช่วยจัดการ 7-11เลยครับ โบนัสทุก3เดือน เยอะเอาเรืองอยู่นะ อิอิๆ
PKTz
บอกหน่อย นิเทศ กับ บริหาร อันไหนมีโอกาศตกงานมากกว่ากัน
อยากรู้วิศโยธา กับไฟฟ้ามีโอกาศเสี่ยงไหม
ไส่ลายเซ็นไม่ได้
ผมเคยเห็นกราฟอะครับ ตำแหน่งงาน วิศวะ คนเรียนเยอะมาก พอจบออกมาคนที่เก่ง ๆ เท่านั้นถึงจะมีที่ทำงาน เพราะว่า
จำนวนคนที่เรียนจบมากกว่า ตำแหน่งงาน มีหมออะครับ ว่างเพียบเลย จบหมอไม่อดตายหรอกครับ แต่ผมคงจบหมอไม่ได้หรอก
เกรดรวมไม่ถึง
ไม่เลือกงาน จบมาก็มีงานทำ ... ที่แตะฝุ่นเยอะเพราะมันเลือกงาน
i7 8700K@5GHz + AORUS GTX 1080Ti 11G
หายากเหรอ
ผมจบ logistics
ตอนผมหางานไม่ได้ไปเดินหาที่ไหนเลยนะ โพสในเว็บสมัครงานมีแต่คนโทรมาตามไปสัมภาษณ์
ใบจบชั่วคราวออกไม่ถึงเดือนก็ได้งาน ผมก็ไม่ได้เกรดดีอะไรนะ จบมาไม่ถึง 3 ด้วย โปรไฟล์ดาดๆ ใบประกาศไม่มี
ส่วมากมหาลัยจะมี co-op ไปฝึกงาน แล้วเค้าจะจองตัวไว้เลย เรียนจบก็มาสมัคร เค้ารับเลย
ใครเพิ่งจบใหม่หรือกำลังหางานอยู่ก็ลองดูได้นะ เป็นแนว คร่าวๆก็มี jobbkk / jobtopgun / jobstreet / jobsdb
มีอะไรกรอกให้หมด เคยทำงานอะไรที่ไหนใส่ให้หมด มีใบประกาศอบรมอะไรมาใส่ให้หมด
แต่ระวัง ระหว่างที่มีคนโทรมา แนะนำให้อยู่หน้าคอม ถามรายละเอียดให้ดีๆก่อนตอบตกลงไปสัมภาษณ์
ถามชื่อบริษัทให้แน่นอน แล้ว search google ดูว่าเป็นบริษัทอะไร ดีมั๊ย เพราะบริษัทประกันจะชอบโทรมา ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องไป
งานที่ผมคิดไว้แต่เด็กคือ เจ้าของบ้านพักห้องเช่า
คือนอนเกาไข่อยู่บ้าน สิ้นเดือนรอรับตัง
แม่ผมกำลังจะทำให้ผมอยู่ ผมก็แค่เรียนไปกันไว้
วันๆผมก็เที่ยวไปใช้ชีวิตให้มีความสุขเหอะ อย่าไปเครียด 5555
เปนไงครับความคิดผม
ไม่ซีเรียสครับ 555 ป.ตรีเปนไงช่าง*****ครับ ไม่เกี่ยวกับงานนี้ครับ
ต่อไปประชากรเยอะ
คนก็ยิ่งหาที่พักเยอะ ที่ดินราคาสูงขึ้น สบายครับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ballba : 3rd May 2013 เมื่อ 18:30
ป.ตรี ฐานเงินเดือน 15000 ใครมันจะจ้างครับ บางทีรับมายังโง่กว่าเด็ก ปวส. ซะอีก
ผมกล้าพูดเลย อะไรที่เด็ก ป.ตรี ทำได้ ปวส. ก็ทำได้ แต่ ปวส. เงินเดือนถูกกว่าเกือบครึ่ง
แล้วก็ลองนึกดูว่า ปวส. กับ ป.ตรี ทำงานในตำแหน่งเดียวกัน แน่นอนว่า ฐานเงินเดือน ป.ตรี มันขยับสูงกว่า เพียงแต่ว่าในท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเงินได้มันเกินฐานเงินเดือนจนบริษัทเห็นว่าเป็นรายจ่ายคงที่ที่เกินความจำเป็นบริษัทก็จะจ้างออก เพราะว่าทำไมเขาต้องจ้างคนทำงานก๊อกๆแก๊กๆด้วยเงิน 7-8 หมื่น ในขณะที่เด็ก ปวส. ฐานเงินเดือนอาจยังอยู่ที่ 3 หมื่นเองแถมประสบการณ์ก็พอๆกัน ความสามารถก็ไล่เลี่ยกัน
อาจฟังดูแล้วแย่เกินจริง แต่เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาในบริษัทระดับเล็ก ยัน ระดับใหญ่ คือ โลกนี้มันก็ไม่ได้สวยงามไงครับ อะไรๆมันก็ไม่มั่นคง ผมเห็นวิศวกรถูกปลดกลางอากาศมาเป็นเซลล์ขายประกันชีวิตกันก็หลายคน
บางคนมีทุนก็เปิดร้านก๊อกแก๊ก บางคนก็ขับวินมอเตอร์ไซค์ ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่ากระจอกกันนะ บางคนออกมาจากฮอนด้า บางคนออกมาจากเอสซีจี บางคนออกมาจากสหพัฒน์ก็มี คือโดนจ้างออกกันทั้งนั้น
รอวันโดนแบน
กระทู้ดีๆแบบนี้อย่าปล่อยตกเด็ดขาดครับ มาดิสคัสกันเยอะๆ
ที่ตกงานก็เพราะเด็กเดี่๋ยวนี้มันเลือกงาน....ไม่ตรงที่เรียน ไม่ชอบงาน ไม่อดทน ความรับผิดชอบน้อย อีโก้สูงแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง ประสบการณ์ไม่มีแต่อยากได้เงินเดือนสูงๆ นี่คือส่วนหนึ่งของเด็กสมัยนี้ที่เจอ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสบายจนเคยตัว ไม่ทำงานก็ไม่อดตายถือว่าขอพ่อแม่ได้ แต่ไม่ได้มองกลับไปว่าตัวเองอายุเกินยี่สิบแล้วยังแบมือขอเงินทางบ้านใช้มันควรภูมิใจรึเปล่า อยากฝากน้องๆที่กำลังจะจบใหม่หรือกำลังเรียนนะครับ เมื่อเราทำงานถือว่าตัวเองไม่ใช่เด็กๆแล้วต้องมีความรับผิดชอบ งานที่ดีๆมันมีเสมอแต่เราต้องมีประสบการณ์ รู้จักรอ งานอะไรก็ทำไปก่อนเหอะครับถือว่าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ พอมีโอกาสแล้วค่อยก้าวต่อไป
'' หน้านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ''
FX6100 3.30GHz./GIGABYTE 970A-D3/SAPPHIRE HD 6870 1GB/SSD 120GB./HDD 500GB./AERO COOL E85-700W/GEIL 12GB.
วันนี้ให้ลูกน้องในทีม ไม่ผ่านทดลองงาน (ฝากถึงน้องๆที่จบมาใหม่ๆ)
http://pantip.com/topic/30437843
ไม่เลือกก็ไม่ไหวครับ ค่าครองชีพผกผัน รายจ่ายเท่ารายรับ ชีวิตนี้แค่เดินทางไปทำงาน ค่าใช้จ่ายประจำวันก็หมด อย่าลืมสิครับ คนเราวาปไม่ได้ และไม่ได้อิ่มทิพย์ แค่น้ำใส่น้ำแข็งตามร้านอาหารตามสั่งเขาก็คิดคุณแก้วละบาทแล้ว นี่เอาเฉพาะแค่ค่าครองชีพนะ
ไหนจะต้นทุนการศึกษาทั้งเงินทอง เวลา ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป ทุกอย่างมันมีต้นทุน เราไม่ได้คลอดออกมาแล้วทำงานได้เลยซะเมื่อไหร่ ค้าขายยังต้องคิดกำไรขาดทุน ค่าเสื่อมราคา จุดคุ้มทุน อัตรากำไร ทำงานใช้ชีวิต ไม่คิดถึงผลกำไร จะไปเอาความเจริญมาจากไหนครับ? หรือว่ารอเทวดามาโปรด? มันไม่ได้มีแค่กิจการที่ต้องเสียเงินจ้าง คนทำงานก็ต้องเสียเงิน เสียแรง เสียเวลา มาทำให้เหมือนกัน
'' อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา '' ถ้าอย่างนั้นพวกทำงานก่อสร้าง ลูกจ้างทำนา หามรุ่งหามค่ำเขาก็รวยเป็นร้อยล้านพันล้านกันหมดแล้วสิครับ ไม่ต้องมาตากแดดทำงานตั้งแต่หนุ่มจนหัวหงอก ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง วาทกรรม กับ ความเป็นจริง บางทีมองให้ออกมันก็น่าจะเห็นภาพ จริงๆมันก็เป็นประโยคที่ดี แต่จะเหมารวมเป็นข้อสรุปของทุกสิ่งทุกอย่างผมว่ามันคงไม่ใช่ เอาแค่ในบ้านนี่ก็ได้ พ่อ-แม่เราเห็นทำงานตั้งแต่เกิดง๊อกๆ หน้าดำหน้าแดง คำถามคือ ไหนล่ะครับ เงินถุงเงินถัง ไหนล่ะครับ ความมั่งคั่ง ประสบการณ์การทำงานเยอะแยะ ความรับผิดชอบก็เต็มที่ แต่ไม่เห็นมีอะไรรับประกันว่าจะมีรายได้ที่ดี จ่ายแค่ค่าเทอมลูก ค่าใช้จ่าย ก็หมดล่ะ เป็นหนี้เป็นสินผ่อนนู่นนี่นั่น นี่ไงครับ ผลตอบแทนที่ได้รับ ไม่ต้องไปมองไหนไกลด้วยซ้ำ
รอวันโดนแบน
555 ไม่ได้กินผมหลอก ผมเรียน ปวส. 5555
MeltDown
เจ้านายพ่อผมที่เป็นคนเด็นมาร์คเคยเล่าให้ฟังว่าจบวิศวะป.ตรีมาแต่ไม่มีงานทำจนต้องมาขับแท็กซี่ ตอนหลังเลยมาหางานทำที่ไทยได้ตำแหน่งใหญ่โตจนถึงทุกวันนี้
จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ซักสิบกว่าปีได้แล้วล่ะมั้ง
i'm brony. problem?