10 วิธีทำลายล้างโลก
10. อุกกาบาตขนาดเท่าภูเขาเอเวอร์เรสพุ่งชนโลก
ผลก็คือ โลกจะลุกติดไฟ โลกมีหินและเหล็ก หกพันล้าน ล้าน ล้าน ตัน ทำให้ไม่เสียหายถึงขั้นแตก ต้องใช้ดาวศุกร์พุ่งชน
โลกจะแตกแต่ว่าจะกลับมารวมกันอย่างเดิม เมื่อ 4500 ล้านปีก่อน โลกเคยโดนอุกกาบาตเท่าดาวอังคารชน และ เกิดเป็นดวงจันทร์
9. การทำเยือกแข็งครั้งใหญ่
คือ การทำเยือกแข็งครั้งใหญ่ ทำได้อย่างไร ด้วยการ นำโลกเคลื่อนห่างจากดวงอาทิตย์ ให้ห่างอออกไป 300 ล้านไมล์
ไปอยู่ในระดับวงโคจรของดาวเนปจูน เมื่อนั้นโลกจะมีอุณหภูมิ 350 องศา แต่ใต้โลก 2 ไม่ล์ครึ่งน้ำยังเหลว ด้วยภูเขาไฟ
ใต้น้ำและความร้อนที่ต่อเนื่องจากแกนโลกอาจทำให้มนุษย์อยู่รอดได้ ในเมืองใต้พิภพ
8. นำโลกเข้าสู่ดวงอาทิตย์ หรือ การแผดเผาครั้งใหญ่
คือการ นำโลกเข้าสู่ดวงอาทิตย์ หรือ การแผดเผาครั้งใหญ่ เพื่อสร้างสภาวะโลกร้อนให้น้ำระเหยกลายเป็นเรือนกระจก
ในระยะ 3 ล้านไมล์ น้ำจะเดือดและแห้งหายไป สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตายลง แล้วนับถอยหลังสู่นรกนิวเคลียร์ ดวงอาทิตย์
7. ทำให้โลกหยุดหมุน
คือ ทำให้โลกหยุดหมุน โลกหมุนรอบตัวเองเร็ว 1 พันไมล์ ต่อชั่วโมง เมื่อโลกหยุดกระทันหัน จะเกิดพายุความเร็ว 1 พันไมล์รอบโลก
ทุกอย่างบนผิวโลกจะหลอมละลาย กลางคืนจะยาว 6 เดือน กลางวันจะยาว 6 เดือน ความแตกต่างระหว่างข้างที่ร้อนและ
เย็นจะเต็มไปด้วย พายุไซโคลนขนาดใหญ่
6. การ นำโลกเข้าสู่หลุมดำ หรือซากดาวที่ล่มสลาย
หลุมดำจะฉีกโลกให้ เกิดภูเขาไฟระเบิดและดูดเอาเศษที่แตกกระจายไป สสารและแก๊สจะกลายเป็นรังสีเอ็กฆ่ามนุษย์ให้ตายทันที
และอีกการตายก็คือห เมื่อโลกยืดเมื่อถูกดูด?ทีนเอมไทย และ?คนก็โดนยืดด้วย?การนำโลกให้ถูกดูดด้วยหลุมดำสองหลุม
ในเวลาเดียวกันให้โลกกลายเป็นสปาเก็ตตี้ แบ่งกันดูดคนละครึ่ง
5. การถูกกลืนกินจากภายใน
คือ มนุษย์สร้างหลุมดำขนาดเท่านิ้วโป้งมือมวลจะเท่ากับโลก สามารถดูดโลกให้กลืนกินลงไปได้ เมื่อโดนเริ่มดูดน้ำหนักจะเพิ่มเป็นสองเท่า การเดิน
ตัวตรงทำไม่ได้ตัวจะโก่งงอ ในขณะที่ดึงสสารทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เปลือกโลกเริ่มเลื่อนตัว แมกม่าพุ่งกระฉูด (เกิดใน LHC น่าจะได้)
4. การปิดแรงโน้มถ่วง
เมื่อไร้ความโน้มถ่วงทุกอย่างจะลอยอย่างอิสระ ต้นไม้จะลอยสู่อากาศเครื่องบินจะลงจอดไม่ได้ แรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงนิวเคลียร์
แบบแรง แรงนิวเคลียร์แบบอ่อน ทำอย่างไรให้ 3 แรงรวมตัวกัน ร่างกายเราเป็นร่างได้เพราะแรงแม่เหล้กไฟฟ้าเมือขาดแรงนี้จะทำ
ให้ร่างกายสลายตัว และเมื่อดาวต่าง ๆ ไม่มีแรงนี้ยืดตัวทุกอย่างก็สลายตัวออกจากกัน
3. การสร้างระเบิดปฏิสสาร
เมื่อปฏิสสาร 1 ปอดด์ กับ สสาร 1 ปอนด์ จะได้แรงระเบิด 44 เมกกะตัน 93 ล้านไมล์ห่างจากโลกก็คือดวงอาทิตย์ เมื่อดวง
อาทิตย์สร้างโซลาร์แฟล์นั่นคือกำลังเกิดการทำลายกันระหว่าง ปฏิสสาร และ สสาร หากว่าเราเก็บกักรวมกันได้ 1 ล้าน ๆ ตัน
ก็เอามาระเบิดโลกได้ แต่การเก็บจากดวงอาทิตย์ต้องใช้เวลาหลายหมื่นล้านปี
2. การเปลี่ยนรูปร่างด้วย สสารสเตร็ง คว๊ากอัพ-คว๊ากดาว
(อนุภาคคล้ายๆกับน้ำแข็ง คือ ทำให้สิ่งของรอบๆตัวเย็น แต่ให้ผลที่มากกว่า เยอะมาก ) มันทำให้ทุกอย่างเป็นสเตร็งเมื่อ
มันเข้าใกล้ แต่ในโลกไม่สสารนี้ แต่ดันไปมีในดาว ที่กำลังล่มสลาย หรือ ดาวนิวตรอน เมือหา สสารนี้ได้แล้วให้โยนลงมา
จากที่สูงเช่นตึกเอมไพน์สเตท โลกก็จะเปลี่ยนไปแหลกละเอียดเป็น สเตร็งคว๊าก?ทีนเอมไทย กำลังจะ?สเตร็งคว๊าก อ้ากก!
1. การชนกันโดย เอกภพคู่ขนาน
เอกภพมีลักษณะเหมือนกระดาษสองเแผ่น ชนกันเมื่อไหร่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงระบบสุริยะ
เมื่อจุดจบนี้มาถึง ก็จะเริ่มบิ๊กแบ๊งใหม่เริ่มสิ่งใหม่อีกครั้ง แต่อาจต้องรออีก 1 หมื่นล้านปี
แต่จะเป็นไปได้ว่า จุดจบของทุกสิ่ง ก็คือการเริ่มต้นของสิ่งอื่นทุกสิ่งไปด้วย ถ้าบิ๊กแบงครั้งหนึ่งได้ให้กำเนิด
เอกภพของเราดังนั้นบิ๊กแบงอีกครั้งหนึ่ง อาจเริ่มสิ่งทั้งปวงอีกครั้ง เอกภพแห่งใหม่กำลังเกิดขึ้นก็เป็นได้ และ
อาจจะมีโลกใบนึงอยู่อีกเอกภาพหนึ่ง อยู่นะตอนนี้ ทีนเอมไทย ขอตัววาปกลับดาวก่อนนะ !
Credit
http://teen.mthai.com/education/53243.html