การบ้านที่ดีควรให้เด็กได้ฝึกคิด อย่างตรงตามหนังสือมากเกินไป
ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยทำมัยน้ำท่วม นักเรียนมีความคิดเห็นอย่างไร?
ผมว่าเค้าสามารถค้นหาคำตอบจาก google ได้แต่ก็จะฝึกให้คิด มากกว่าลอกหรือ coppy วาง
การบ้านที่ดีควรให้เด็กได้ฝึกคิด อย่างตรงตามหนังสือมากเกินไป
ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยทำมัยน้ำท่วม นักเรียนมีความคิดเห็นอย่างไร?
ผมว่าเค้าสามารถค้นหาคำตอบจาก google ได้แต่ก็จะฝึกให้คิด มากกว่าลอกหรือ coppy วาง
มี 2 ความเป็นไปได้ครับ
1. ทำการบ้านเอง (ฉลาดและเก่งขึ้น)
2. ลอกเพื่อนเพราะทำไม่เป็น (..........)
สรุปส่วนใหญ่ผมว่าลอกเพื่อนครับ
ผมว่าช่วยนะครับ
เพราะว่ามีช่วงนึงที่ผมจำเนื้อหาฟิสิกข์ไม่ได้แล้วตอนนั้นครูให้การบ้านมาเป็นสิบๆข้อเลย
ตอนแรกนี้ทำไม่ได้เลยครับ งงมาก แต่พอลองทำดูเองไม่ก็ถามเพื่อนบ้าง ไปๆมาๆก็เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ
การบ้านทำลายทุกอย่างครับ
ผมเชื่อการบ้านที่เยอะเกินไปมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ
ที่ดูจากกราฟแล้ว พอสรุปได้ว่า ให้การบ้านจะช่วยให้คะแนนทดสอบดีขึ้นแต่ถ้ามากไปคะแนนจะเริ่มตก
แต่ที่บอกว่า เสาร์-อาทิตย์ ไม่ต้องมีการบ้าน อันนี้ โดนใจอะ!
การบ้านๆ ใครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย สาขา คณิตศาสตร์ จะรู้ซึ้งดีถึง ประโยชน์ของการมีการบ้าน เพราะ เป็นการซ้อมมือไปตลอดๆ
หลักสูตรในการเรียนนะครับ
ทาง รร. จะกำหนดว่า แต่ละวิชา ต้องสอนไปถึงบทไหน ภายในกี่คาบ
ซึ้ง เวลาเราเรียนกัน ต้องมีอะไรมารบกวนเช่น ครูไม่มา , หยุดประจำเดือน ฯลฯ
ดังนั้น ครูจะสอนไม่ทัน จึงต้องสั่งการบ้านเพื่อลดเวลาการสอนลง คือ สอนในบท และให้ทำโจทย์เสริม
มันเลยการเป็นการบ้านไป ..
ซึ้งผมก็งงว่า ใน 1 ชม. เรียนอะไรกันทำไมไม่ทัน .. ในขณะที่บ้าน รร. เรียนคาบละ 40 นาที
บ้างครั้งการบ้านก็ไม่ได้แค่ทบทวน แต่ทำให้ ปิดวิชาไวขึ้น [ปิดคอร์ส]
CPU Intel Core i7 6700K / M/B AsRock Z170 Pro4 / RAM G.Skill Trident Z 3200 16GB / Gigabyte GTX 1070 G1 Gaming / PSU Cosair CX 650W / CASE In Win 303 Nvidia
เยอะไปก็ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร เพราะผู้เรียนเกิดอาการต่อต้าน
น้อยไปหรือไม่มี ก็เหมือนไม่มีการฝึกฝน
สิ่งสำคัญคือ หัวข้อการบ้านมันต้องสร้างสรรค์ ให้ผู้เรียนเกิดประโยชน์จากการทำการบ้านนั้นจริงๆ
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสไตล์การสอนของอาจารย์แตล่ะคน และเนื้อหาที่เรียนด้วย
การสอนของบางคนก็อาจไม่จำเป็นต้องมีการบ้านก็ได้ เพราะเนื้อหาที่เรียนครอบคลุมหมดแล้ว
ในขณะที่บางเนื้อหา ก็จำเป็นต้องมี เพื่อให้เกิดการทบทวน
แต่ส่วนตัวแอนตี้การสั่งการบ้านบางประเภท เช่นการทำการบ้านแบบเน้นปริมาณเข้าว่า
หรือการบ้านที่สนับสนุนให้เด็กก๊อปแปะมาส่งหน้าด้านๆ
มีการบ้านมันก็ดีอะครับแต่มีแบบว่าทุกอาจารสั่งมานิเวลามีนิดเดี่ยวสั่งสองสามงานเลย
การบ้านส่วนมากจะไปทำที่โรงเรียน
การบ้างคือทบทวนครับ แต่ไอ้ชิ้นมาหนักๆนี่สิ
อย่างผมเรียนแล้วรู้เลยว่าต้องทำโจทย์เยอะๆ ทำแบบฝึกหัดเยอะๆ ไม่งั้นก็สู้เขาไม่ได้
มันขึ้นอยู่กับตัวเด็กเอง ว่าเด็กจะเก็บเกี่ยวอะไรได้บ้างจากการบ้านที่ทำ
ถ้าทำไปงั้นๆ มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก แต่ถ้าทำไปคิดไป วิเคราะห์ หาบทสรุป และต่อยอด มันก็ได้ประโยชน์
ประเด็นก็คือคนที่ทำแบบนี้ได้คือคนที่เขาใฝ่รู้จริงๆ ไอ้พวกเรียนแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้มันไม่มาสนใจหรอก
สมัยเรียนตัวผมเองก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนเรียนเก่ง ศึกษาแล้วแตกฉานง่ายๆ หรือเป็นพวกขยันใฝ่รู้ในการศึกษาอะไรมากมายนัก(ถ้าไม่ได้อุทิศตนให้กับความรู้ในเรื่องนั้นจริงๆ)
แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไม่ยอมรับความจริงไม่ใช่เหรอ? ถึงผมไม่ได้ชื่นชอบสิ่งที่เรียกว่าการบ้าน แต่มันก็หนีความเป็นจริงไม่พ้นอยู่ดี
ผมคิดว่า จุดประสงค์ ของการสั่งการบ้านไม่น่าจะใช่ในเรื่องของการเพิ่มความฉลาดนะครับ
ผมคิดว่า เกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบมากกว่า
ปล. แต่สมัยนี้ การบ้านก็ยากกว่าที่สอนในห้องเยอะ เลยทำไม่ได้กัน ไม่ใช่ไม่ทำ =_=''