พอดีว่าช่วงนี้ สิวผมเริ่มเยอะหลายคนบอกรักษาหน้าดีดี ล้างหน้าด้วยโฟมบ่อย ๆ บลา ๆ ๆ ... ทาครีม ๆ
แต่สิวก็ยังไม่ลด ยิ่งบีบ ยิ่งขึ้น ไม่บีบก็ขึ้นเอ๊ะยังไง
วันนี้ผมเลยลองหาอะไรในเน็ตเจอเลยอยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองดูกันอ่ะครับ ถ้าซ้ำก็ขอโทษด้วยนะครับ
ผมค่อยๆลดการล้างหน้าด้วยเจลหรือโฟม หันมาล้างน้ำเปล่ามากขึ้นในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมาตามคำแนะนำของหมอ และปรับทุกอย่างจนเป็นดังข้างล่างนี้ครับ ปัญหาสิวลดลงจริงๆ และรอยสิวอักเสบก็ฟื้นตัวหายเร็วกว่าเดิม รูขุมขนก็เล็กลง
1. ชนิดของคลีนเซอร์หรือสบู่
เลือกใช้สบู่ที่อ่อนที่สุดครับ คือ Physiogel Cleanser หรือยี่ห้อใดก็ได้ที่ต้องปราศจากฟอง เพื่อเป็นการถนอมความชุ่มชื้นบนใบหน้า แม้หน้าจะมันก็ตาม ผมเคยใช้ Neutrogena Deep Clean และ Acne-Aid แล้ว แรกๆรู้สึกว่าสะอาดล้ำลึกเพราะมันแห้งมาก แต่ไปๆมาๆหน้าก็มันย่องเหมือนเดิม เพราะร่างกายคิดว่าผิวแห้ง ก็เลยเร่งผลิตน้ำมันมาเสริมอีก
2. จำนวนครั้ง
ล้างหน้า 2 ครั้งเท่านั้น การล้างมากไปคือการรบกวนใบหน้า ผมเคยบ้าล้างหน้า 3-4 ครั้งต่อวันอยู่พักหนึ่ง เพราะหน้ามันมาก และเชื่อว่าหน้าจะได้สะอาดๆ ปรากฎว่า สิวกลับยิ่งเพิ่มขึ้นครับ เพราะการล้างแต่ละครับ ต้องสัมผัสหน้า บ่อยไปมันไปกระตุ้นสิว
3. การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ในตอนเช้า
นี้คือ คุณหมอทั้งที่ ร.พ.เกษมราษฎร์ แนะนำตั้งแต่เดือนมิ.ย.แล้ว ผมก็ยังไม่เชื่อ แถมยังใช้ Acne-Aid ต่อไป ไปพบหมอคลินิกชื่อปานกลางแห่งหนึ่ง ก็บอกให้ล้างน้ำเปล่าอีก ก็ใช้ Physiogel แล้วกัน หยวนๆน่า ต่อมามาเจอกับ คุณหมอปริทัศน์ ท่านก็พูดเหมือนเดิมครับว่า "คุณเป็น seb derm ยิ่งต้องใช้น้ำเปล่า เชื่อผมเหอะ ดี ช่วยเรื่องสิวด้วย" ผมบอกว่า "แต่หมอครับ มันจะสะอาดเหรอ หน้าก็มัน เดี๋ยวสิวก็ขึ้นเพิ่มอะดิครับ" หมอปริทัศน์ "เออน่า ไปลองดู" โอเค เชื่อก็เชื่อ
ผลลัพธ์พบว่า ดีกว่าที่คิดครับ (สำหรับผู้ชายจะง่ายกว่า เพราะไม่ต้องแต่งหน้า) สิวไม่ได้เพิ่มขึ้นอีกเลย หน้ามัน แต่ไม่ได้มันเยิ้มเหมือนแต่ก่อน เพราะเป็นการล้างด้วยวิธีธรรมชาติ ช่วยรักษาความชุ่มชื้น หน้าไม่แห้งตึง เกิดสมดุล
4. วิธีการล้างโดยไม่รบกวนใบหน้า ในตอนเช้า ล้างด้วยฝักบัวด้วย "น้ำเย็นอุณหภูมิห้อง" ขณะอาบน้ำครับ โดยถ้ามีฝักบัวแบบปรับ 3 ระดับ ให้ปรับแบบน้ำไหลอ่อน ปล่อยน้ำให้ไหลทั่วๆหน้า จนรู้สึกว่าสะอาด หรือถ้าห้องน้ำเป็นแบบตักอาบ ก็ให้เอาขันค่อยๆราดบนใบหน้าให้ทั่วๆหลายๆครั้ง โดยไม่ใช้มือไปถูหรือสัมผัสใบหน้าเลย เป็นการรบกวนหน้าให้น้อยที่สุด
5. เมื่อไรจึงใช้คลีนเซอร์หรือโฟมหรือสบู่ ต่อเมื่อผจญกับความสกปรกมาตลอดทั้งวันเท่านั้น
6. ไม่เช็ดหน้า ปล่อยหน้าแห้งเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนหน้าอีกเหมือนกัน ถ้าต้องเตรียมหน้าไว้ทายาแต้มสิวหรือทาครีมและอยากแห้งเร็ว ก็ไปตากพัดลมครับ
7. ตากแดดบ้างในตอนเช้า แต่หลีกเลี่ยงการตากแดดเปรี้ยงๆระหว่าง 10 โมงเช้า-บ่าย 3 จะได้ไม่ต้องทาครีมกันแดดอันเป็นการรบกวนหน้าอีก ลดโอกาสเกิดสิว ผมไม่ค่อยเชื่อที่เขาว่า อยู่ในร่มก็ต้องทากันแดด สิวขึ้นไม่หยุดแน่ครับอย่างนั้น
8. ใช้กันแดด เฉพาะเมื่อจำเป็น คือ ใช้เมื่อรู้ว่าต้องออกไปตากแดดเปรี้ยงๆเท่านั้น
9. ไม่ใช้กระดาษซับมันพร่ำเพรื่อ ใช้เมื่อหน้ามันเยิ้มจนน่าเกลียดเท่านั้น การซับหน้ามันบ่อยไปก็รบกวนหน้าอีก สิวมา
10. งดนอนดึก ให้นอนก่อน 4 ทุ่มครึ่งเสมอ ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนซ่อมแซมส่วนสึกหรอ รวมทั้งแผลหลังจากเป็นสิวได้เต็มที่ และป้องกันสิวเกิดใหม่ นอนดึก พักผ่อนน้อยทีไร สิวมาเลยครับ การนอนน้อยๆตอนกลางคืน แล้วคิดว่าจะนอนชดเชยกลางวันไม่มีประโยชน์
11. ออกกำลังกาย ผมเริ่มออกกำลังกายแบบ weight training ตอนเช้าตรู่ 5 วันต่อสัปดาห์มา 5 เดือนแล้วครับ สลับกับการจ๊อกกิ้งเบาๆ นอกจากช่วยการเสริมสร้างกล้ามเนื้อแล้ว ยังคลายเครียดด้วย นอกจากนี้การไปวิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆให้เหงื่อออกบ้าง (หรือบางคนอาจจะไปเตะบอล เล่นบาส เล่นกีฬาตอนเช้า) ก็ใช้ได้ดีด้วย **การออกกำลังกายจะต้องควบคู่กับการกินอาหารที่มีประโยชน์เสมอ**
12. กินอาหารที่มีประโยชน์ (อาหารหลักนะครับ ไม่ใช่อาหารเสริม) อันนี้ผมคิดเอาเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับวิชาการอะไรทั้งสิ้น
- เน้นโปรตีนครับ สำหรับผู้หญิงอาจจะกลัวอ้วน เพราะว่าเราใช้กล้ามเนื้อเสร็จ ร่างกายจะคิดว่าต้องการโปรตีนไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และสร้างให้มันใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการใช้งาน จึงกินอาหารที่มีโปรตีนเยอะขึ้น เช่น ไข่ขาว เนื้อสัตว์ whey ส่วนโปรตีนแคปซูลไม่ได้ผลครับ แพง ในขณะเดียวกัน แผลหลังสิวหาย ก็ต้องใช้โปรตีนเข้าไปซ่อมแซมด้วยครับ
- เมื่อกินเนื้อสัตว์เยอะ ก็ต้องกินผักเยอะขึ้น เพื่อไปช่วยย่อยอาหาร กากใยช่วยขับพิษออกไปอีกทาง
- กินกล้วย เอา vitamin B และ E เสริมสร้างผิวพรรณ มีกากใยสูง ช่วยการขับถ่าย ทั้งยังช่วยให้พลังงานระหว่างออกกำลังกายด้วย ลดโอกาสให้มันไประบายของเสียออกทางสิว ราคาก็ถูกแต่ให้ผลคุ้มค่าครับ หวีละแค่ 15-20 บาท กินได้ 2-3 วัน
- กินสับปะรดหรือส้ม เพื่อเอา vitamin C และกากใย เอาของเสียออกจากร่างกาย ลดโอกาสให้มันไประบายของเสียออกทางสิว
- Fish Oil แคปซูล วันละไม่เกิน 2000mg เป็นอาหารเสริมตัวเดียวครับที่ผมกิน
13. ช่างสังเกตส่วนผสมใน แชมพู สบู่ cleanser moisturizer serum และผลิตภัณฑ์บำรุงต่างๆ ดูตามที่เว็บ ACNETHAI แนะนำ
http://acnethai.com/content/blogcategory/13/22/
อะไรมีแนวโน้มแพ้ อุดตัน ก็หลีกเลี่ยง ยี่ห้อแพงๆหรือราคาถูกไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี ตอนนี้สบู่ถูตัว ผมใช้ของ Babimild ส่วนแชมพูใช้ของ Narak (น่ารัก) สินค้าผลิตในไทย ตราสินค้าไทย คนไทย ราคาถูก แต่คุณภาพเทียบเท่าของอินเตอร์จริงๆหากสังเกตส่วนผสมที่เขาใช้
ลองเอาไปปฏิบัติดู บางสิ่งที่เรามองข้าม เราไปเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์ตามทีวีมากเกินไปกลายเป็นแย่ลง เพราะไปใช้สิ่งแปลกปลอมบนใบหน้ามากเกินไป จนมองข้ามเรื่องเบสิกๆบางอย่างไป รวมทั้งวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น มีไฟฟ้า มีเน็ต ทำให้เราพัำกผ่อนน้อยลง ฯลฯ
แล้วขอให้หน้าใสกันถ้วนหน้าเลยครับ
เครดิตนะครับ : http://acnethai.com/ipb/index.php?showtopic=324