ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 8 จากทั้งหมด 8
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    1,459
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,460

    มีคำถามเกี่ยวกับเรื่อง PSU ครับ

    คือผมอยากทราบว่า หากจัดเสปคแบบนั้นแบบนี้แบบนุ้นแบบไหนๆ มาเรียบร้อยแล้ว

    ต้องดูยังไง เอาเกณฑ์อันใดวัดครับว่า PSU เท่านี้จึงจะไฟเพียงพอต่อการใช้งานตามเสปคนี้ๆ แน่นอน

    มีหลักเกณฑ์ยังไงให้วัดมั้ยครับ รึต้องอาศัยประสบการณ์ครับ

    อย่างเช่นถ้าเปรียบเทียบกับเกม แบบเอ่ยชื่อเกมมาสักเกมหนึ่ง คำถามคือ เสปคประมาณไหนถึงจะเอาอยู่ คำตอบมันจะวนอยู่ในหัวเราอัตโนมัติเลย อันนี้ผมก็พอจะไหวอยู่

    เช่นเดียวกัน ถ้าเอ่ยเสปคนี้ทั้งหมดมา PSU เท่าไหนถึงจะเอาอยู่ อันนี้ล่ะครับที่ผมอยากมีอารม คำตอบวนอยู่ในหัวเราอัตโนมัติ บ้าง

    ยังไงรบกวนด้วย พอดีผมเพิ่งจะหันมามองฝั่ง PC น่ะครับ

  2. #2
    vvvzone.us
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    vvvzone.us
    กระทู้
    407
    กล่าวขอบคุณ
    319
    ได้รับคำขอบคุณ: 750
    อุปกรณ์มันก็บอกอยู่แล้วเอากำลังไฟเท่าไร ส่วนมากที่กินไฟเยอะๆคือการ์ดจอ และต้องใช้เพาว์เวอร์วัตต์แท้ เช่นการ์ดเอา450w เราก็ใช้เพาเวอร์600w อะไรประมาณนี้

  3. #3
    รับประกอบ จัดสเป็ค
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    3,673
    กล่าวขอบคุณ
    407
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,544
    Blog Entries
    1
    ดูงบกับการกินไฟเป็นหลัก

    PSU ตัวไหนดีกว่านิ่งกว่าถ้ามือใหม่ควรอ่านรีวิว เยอะๆ

    อ๋อ 80+ คือตราประหยัดไฟ ไม่ใช้จ่ายได้ 80% นะ

  4. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    1,459
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,460
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ dasakorn อ่านกระทู้
    ดูงบกับการกินไฟเป็นหลัก

    PSU ตัวไหนดีกว่านิ่งกว่าถ้ามือใหม่ควรอ่านรีวิว เยอะๆ

    อ๋อ 80+ คือตราประหยัดไฟ ไม่ใช้จ่ายได้ 80% นะ
    ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงนั้นแหล่ะครับ

    กำลังตามหาทุกรีวิวที่เป็นอุปกรณ์ PC อยู่

    แต่คงจะซึ้งถึงแก่นต่อเมื่อมีวันที่จัด PC มาใช้เองนั่นแหล่ะครับ รอวันนั้นอยู่เหมือนกัน

    ได้งบมาเมื่อไหร่ ผมจะดิ่งไปหาท่าน dasakorn ทันทีเลยครับ

    (มะกี้เพิ่งไปกด like ในเพจท่านมา)

    อยากให้วันนั้นมาถึงไวๆ ฮาๆๆ เบื่อโน้ตบุ้คแล้วครับ อายุการใช้งานน้อยมาก

    ตัวที่ใช้อยู่ ประคบประหงมเต็มที่ เป่าฝุ่น ทาซิลิโคลน อยู่เป็นประจำ หมดเงินไปเยอะพอสมควร แต่สุดท้ายก็อาการเดิมๆ

    กระตุกเพราะความร้อน จนทำให้ผมหันไปหา PC ละครับ T T

  5. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    กระทู้
    651
    กล่าวขอบคุณ
    2
    ได้รับคำขอบคุณ: 623



    ปกติกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายไฟเข้ามาจำนวน 220-250V แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานขนาด 12V, 5V หรือ 3.3V มักจะสูญเสียพลังงานไปบางส่วน ทำให้ตัว PSU ต้องดูดไฟจากโรงงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Com ของเราใช้เพาเวอร์ที่มีค่า Power Efficiency 70% (ค่ามาตราฐานของ PSU ทั่วๆ ไป) และถ้าเครื่องคุณต้องการกระแสไฟฟ้า 280 W แต่เนื่องจากมีการสูญเสียพลังงานระหว่างการแปลงไฟต่างๆ ทำให้ PSU ต้องดูดไฟจากโรงงานเพิ่มเป็น 400 W (คำนวนด้วยสูตร จำนวนวัตต์ที่คอมพิวเตอร์เราต้องการ หารด้วย Power Efficiency แล้วคูณ 100) ซึ่งก็ทำให้เราเสียสตางค์ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนี้จึงเกิดคำมาตราฐาน 80 PLUS นอกจากจะเป็นเครื่องหมายการันตีในเรื่องของความประหยัดไฟ (เพราะค่าสูญเสียระหว่างแปลงน้อย) แล้วยังบ่งบอกถึงเรื่องประสิทธิภาพในการจ่ายไฟในอัตราคงที่สม่ำเสมออีกด้วยครับ

    ส่วนเครื่องหมายในรูปด้านบนบ่งบอกถึงความสามารถของ PSU แบบ 80 Plus จากนประสิทธิภาพจากน้อยไปมาก ซึ่งราคาก็จากถูกสุดไปแพงสุดเช่นกันครับ

    หากอยากรู้่ามี PSU ยี่ห้อไหนที่ผ่านมาตรฐาน 80 Plus บ้างสามารถไปตรวจสอบได้ที่ www.80plus.org เลยครับ

  7. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    ที่อยู่
    เมืองฝนแปดแดดสี่
    กระทู้
    1,439
    กล่าวขอบคุณ
    787
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,947
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ mini_bank อ่านกระทู้



    ปกติกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายไฟเข้ามาจำนวน 220-250V แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานขนาด 12V, 5V หรือ 3.3V มักจะสูญเสียพลังงานไปบางส่วน ทำให้ตัว PSU ต้องดูดไฟจากโรงงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Com ของเราใช้เพาเวอร์ที่มีค่า Power Efficiency 70% (ค่ามาตราฐานของ PSU ทั่วๆ ไป) และถ้าเครื่องคุณต้องการกระแสไฟฟ้า 280 W แต่เนื่องจากมีการสูญเสียพลังงานระหว่างการแปลงไฟต่างๆ ทำให้ PSU ต้องดูดไฟจากโรงงานเพิ่มเป็น 400 W (คำนวนด้วยสูตร จำนวนวัตต์ที่คอมพิวเตอร์เราต้องการ หารด้วย Power Efficiency แล้วคูณ 100) ซึ่งก็ทำให้เราเสียสตางค์ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเพราะเหตุนี้จึงเกิดคำมาตราฐาน 80 PLUS นอกจากจะเป็นเครื่องหมายการันตีในเรื่องของความประหยัดไฟ (เพราะค่าสูญเสียระหว่างแปลงน้อย) แล้วยังบ่งบอกถึงเรื่องประสิทธิภาพในการจ่ายไฟในอัตราคงที่สม่ำเสมออีกด้วยครับ

    ส่วนเครื่องหมายในรูปด้านบนบ่งบอกถึงความสามารถของ PSU แบบ 80 Plus จากนประสิทธิภาพจากน้อยไปมาก ซึ่งราคาก็จากถูกสุดไปแพงสุดเช่นกันครับ

    หากอยากรู้่ามี PSU ยี่ห้อไหนที่ผ่านมาตรฐาน 80 Plus บ้างสามารถไปตรวจสอบได้ที่ www.80plus.org เลยครับ
    นี่ความรู้เยอะเลยครับ

  8. #7
    ชอบกวนTeen.เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    3,715
    กล่าวขอบคุณ
    53
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,310
    Blog Entries
    1
    ลองประมาณคร่าวๆ
    ด้วยอัตราการกินไฟ(TDP=ค่าการคายความร้อน อัตราการกินไฟจะมากกว่าค่านี้หน่อยๆ)ของ CPU กับ VGA ได้ออกมาก็มาดูอุปกรณ์ที่เหลือ ตีไปชิ้นละ 10W
    จะได้จำนวนวัตต์มา เวลาซื้อก็ซื้อเผื่อไปสัก
    วัตต์ที่คำนวนได้x1.5
    จากนั้นจะเป็นรุ่นใหก็ดูที่งบละครับ

  9. #8
    - [ The Gang ] -
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    RAMAIX BangNa Phathumtani
    กระทู้
    3,427
    กล่าวขอบคุณ
    55
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,062
    ขอเสริมนิดนึง 80+ หลายระดับ ผมมองว่ามันเป็นการช่วยโลกมากกว่า ที่จะประหยัดเงินในกระเป๋า เพราะ วัตต์เทียมบ้านๆไม่มีมาตราฐาน ก็กินไฟไม่ต่างกับพวกที่มีมาตราฐาน ค่าไฟ จ่ายพอๆกันไม่ได้ทิ้งกันหลัก 100 แต่ที่เค้าทำมา เพื่อช่วยให้สูญเสียพลังงานน้อยที่สุด เพื่อประหยัดทรัพย์ยากรโลกซะมากกว่า ถ้าคนใช้กันเยอะ หลายๆคนรวมกันก็เซฟทรัพย์กรได้เยอะ


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top