สวัสดีคะพอดีว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา 2012 ได้ไปเที่ยวที่ประเทศอเมริกากับเพื่อนมาคะ เรื่องราวมันจะแสนธรรมดามากเลยถ้ามันไม่เกิดเหตุการแบบนี้ คิดแล้วไม่รู้จะรู้สึกยังไงดี เพราะว่ากว่าทุกอย่างจะคลี่คลายก็ใช้เวลาหลายวัน เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้มีเรื่องจริงประมาณ 90% ที่เหลือคือที่ใส่ไข่เอานะคะ ให้เรื่องมันน่าอ่านมากขึ้น เมืองที่เราไปเที่ยวก็คือ ดีซีแล้วลงมาต่อที่นิวยอร์ก สามวันก่อนจะกลับไปฮ่องกง
หลังจากเล่นสเก็ตเสร็จที่ตึกร็อคฟิลเลอร์ก็กำลังจะเตรียมตัวกลับไปที่ฮิลตั้น(ชื่อโรงแรมคะ)แต่พอมาในห้องเก็บของลูกค้า keycard กับ mbp15(แมคบุค) ของเราได้หายไป ตอนนั้นคิดว่าเพื่อนที่มาด้วยกันเอาการ์ดกับของไปแล้ว แพรวยอกเราว่าเค้าบอกว่าจะกลับไปก่อน เพราะหนาว กลัวจะไม่สบาย เราเดินจากตึกไปฮิลตั้นประมาณ 25 นาทีก็เดินไปที่ห้องเพราะจะชวนเพื่อนออกไปกิน friday ที่ time square แต่พอเราขอยืมการ์ดจากยามขึ้นไปหาที่ห้อง กลับไม่เจอเค้าอยู่
ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆเลยหยิบมือถือขึ้นไปโทรหาเพื่อน แต่ว่าโทรไปมันบอกว่าไม่มีเลขหมายนี้ เราก็งงคะว่าทำไมเบอร์มันไม่มี ทั้งๆที่ตอนมาก็ซื้อเครื่องด้วยกันแท้ๆ(ss galaxyซื้อ1แถม1) เราก็เลยโทรไปถาม call center ของ ttt ให้เค้าตรวจให้ เค้าบอกว่าเบอร์ที่โทรนั้นยังไม่เปิดให้ใช้บริการจริงๆ ตอนนั้นเราก็งงอ้าวทำไมเป็นแบบนี้ เลยขอการ์ดสำรองเข้าไปในห้อง ดูกล่องซิมของเพื่อน เห็นแล้วตกใจ เบอร์ในกล่องเป็นอีกเบอร์นึง ใครมันมาเปลี่ยนเบอร์ที่เราเมมไว้
เราเริ่มร้อนใจว่าเพื่อนหายไปไหน แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่า อาจจะเป็นการเข้าใจผิด หรือว่าเล่นกันก็ได้ (เพื่อนเราเคยมาแลกเปลี่ยนที่ไทย เราเป็นโฮสเค้า) เลยสงบสติ แล้วนอนเล่นเน็ทกินเมเท่นดิวที่ห้อง เวลาจากตอนทุ่มกว่าๆ ก็กลายเป็นเที่ยงคืน เพื่อนก็ยังไม่กลับมา เราเริ่มร้อนใจละคะถ้าเพื่อนเป็นอะไรไปเราซวยแน่ๆ เอาลูกเค้ามานอนด้วยแล้วยังทำลูกเค้าหาย เราเลยลองโทรไปหาที่เบอร์นั้นอีกรอบเหมือนเดิม โทรไปแล้วไม่ติด นอนไม่หลับแล้วทีนี้ เราเดินวนไปวนมาสั้กพักก็ไปสะดุดตากับอะไรบางอย่างเข้าที่มุมของห้อง ในตอนนั้นเรามั่นใจแน่ๆว่าของชิ้นนั้นไม่ใบ่ของเพื่อนเราแน่นอน เพราะมันคือปืนคะ มันซุกไว้ที่มุมของตะกร้าผ้า แต่ว่าเราทำพลากไปนิดนึงคือ เราเดินเข้าไปหยิบปืนมาดู จริงๆแล้วตำรวจบอกว่าอย่ายุ่งกับของกลาง เพราะจะทำให้ข้อมูลผิดพลาดคะ มองไปข้างๆปืนเห็น serial number อยู่ เราก็คิดว่าเอาไปให้เค้าหาก็คงจะรู้อะไรมากขึ้นว่าเพื่อนหายไปไหน
เวลานั้นประมาณตีสองกว่าๆ เราง่วงมากทนไม่ไหวก็เลยไปหลับก่อน แล้วก็พอตอนเช้า ตื่นมาเราก็โทร 911 หา nypd รอไม่นานตำรวจก็มาหาที่ห้อง เค้าก็ถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เล่าเรื่องให้เค้าฟังตั้งแต่อยู่ที่ร็อกฟิลเลอร์ ว่าเพื่อนหายตัวไป เบอร์ถูกเปลี่ยน แล้วก็เจออาวุธในห้อง จากนั้นเค้าบอกว่าช่วงเที่ยงๆจะโทรมาหา เพราะเค้าสันนิษธานว่ามันเป็นการลักพาตัว เราได้ยินแบบนั้นน้ำตาไหลเลยคะ แต่ว่าข้อสงสัยก็คือ ในแมนฮัตตั้น ไม่ค่อยเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้น ส่วนมากจะเกิดที่ควีนส์ และ บรองซ์(ย่านคนดำ) เราถามเค้าว่าโอกาสรอดมีแค่ไหน ตำรวจบอกว่า บอกไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับความต้องการของโจรถ้าหากมันแค่เรียกค่าไถ่ ทางตำรวจจะเตรียมไปให้ แล้วค่อยจับมันทีหลัง แต่ถ้าข่มขืนทำร้ายร่างกาย เค้าก็บอกให้ทำใจ เพราะอาจจะไม่ได้เพื่อนกลับมาในลักษณะเดิม ก่อนตำรวจจะเดินออกจากห้อง โทรศัพท์เราดังขึ้นมา มองดูที่หน้าจอ เป็นเบอร์เพื่อนโทรมา ณ.เวลานั้น เราทำอะไรไม่ถูกเลย
เรายกโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะรับ ตำรวจบอกว่าอย่าเพิ่งรับ แล้วเค้าก็เอาโทรศัพท์ไปเสียบกับเครื่องวิทยุใส่ซิมมีหน้าจอ ขอโทษคะเราไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร จากนั้นก็ให้เรารับสาย ก่อนจะกดรับสายที่โทรมาก็ตัดสายไปก่อน เรารีบถามตำรวจว่าแล้วจะทำยังไงต่อดี เค้าบอกเรากลับมาว่า ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ตอนนี้ได้พิกัดแล้ว เดี๋ยวจะรีบแจ้งให้ตำรวจในพื้นที่นั้นเข้าไปจัดการ พอเค้าอธิบายเสร็จก็พาเราไปขึ้นรถตำรวจ แล้วรีบขับซิ่งไปเลยคะ เหมือนในหนังเลย แต่แอบหวาดเสียว เสียงไซเรนของรถตำรวจหลายคันประสานเสียงเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ GPS ในจอของตำรวจระบุว่าใกล้มาถึงจุดหมายแล้ว เค้าปิดเสียไซเรนแล้วจอดรถ เพื่อวิ่งไปถึงจุดหมาย ตอนที่เรากำลังจะเดินออกไป ตำรวจนายนึงก็เอาเสื้อกันกระสุนมาให้เราใส่ แล้วบอกว่าถ้าอยากช่วยเพื่อน อย่าทำตัวเก่ง จุดที่เครื่องดักฟังบอกตำแหน่งคืออพาร์ทเม้นตรงควีนส์ แสดงให้เห็นว่าเราเดินมาถึงที่นั่นพอดี เราถามเค้าว่าเข้าไปดูด้วยได้ไหม แต่เค้าบอกว่าห้ามเข้าเด็ดขาด เพราะว่าถ้าเกิดลูกหลงจะช่วยอะไรไม่ได้
เราก็เซงนิดหน่อย เพราะตอนนั้นเหมือนอะดีนาลีนมันออกมา 55555 เวอร์เนาะ ทีนี้ตำรวจก็กรูกันเข้าไปบนอพาร์ทเม้น เราได้ยินเสียงปืนสองนัดดังขึ้นมา จากนั้นก็มีคนโดดลงมาจากหน้าต่าง เราคิดว่าไอ่นี่โจรแน่ๆ ก็เลยเอาขวดขว้างใส่มัน แต่ไม่โดน ตุบบ!ตำรวจอีกคนนึงก็โดดลงมาตามพอดีคะ แล้วเค้ามองหน้าเราแบบเซงๆ เราก็หลุดพูดภาษาไทยออกมาว่าขอโทษค่าาาา จากนั้นเค้าก็วิ่งตามโจรคนนั้นไป แต่ว่าวิ่งตามได้ไม่นานโจรคนนั้นก็โดนปืนไฟฟ้าช๊อตแล้วล้มลงไปตรงนั้นเลย เสียงปืนดังมาอีกหนึ่งนัด เรารีบวิ่งหนีออกไปอยู่กับกลุ่มคนที่มามุงดู ตรงนี้เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างนะคะ เพราะว่าเราดูอยู่ห่างๆ ประมาณสิบนาที ตำรวจก็บอกว่าเคลียร์ๆ เรารีบวิ่งขิึ้นไปหาเพื่อดูว่ามีเพื่อนอยู่ไหม ภาพที่เห็นก็เป็นอย่างที่คิดคะ โล่งใจ แต่เพื่อนโทรมมากเลย เราร้องไห้้กอดกันอย่างมีความสุข. ตัดมาที่รพ หมอบอกว่าเพื่อนไม่มีอาการใดน่าเป็นห่วง ไม่มีรอยการข่มขืน พักไม่นานก็ออกได้แล้ว โล่งใจมากคะ จากนั้นเค้าก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง เดี๋ยวมาเล่าต่อคะ พรุ่งนี้นะ