รุมถล่มยับ!! แบนเหนือเมฆ ขี้ข้านักการเมือง ไร้คำชี้แจงจากช่อง 3
MThainews: เป็นประเด็นทอล์ค ออฟเดอะทาวน์อย่างดุเดือด เมื่อสถานีวิทยุไทยทีวีสีช่อง 3 ไม่ใช่เพียงสื่อที่ถูกมองว่า ขาดเสรีภาพของสื่อมวลชน แต่มากไปกว่านั้น ยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นสื่อที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของนักการเมือง ที่ถูกอำนาจแทรกแซงกรณีของการแบนละคร เหนือเมฆ 2 โดยให้เหตุผลสั้นๆ ว่า เนื้อหาไม่เหมาะสม ขัดต่อบรรยากาศความปรองดอง ซึ่งก็เป็นประเด็นร้อนในสังคมออนไลน์ โจมตีช่อง 3 หลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
โดยเฉพาะพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง กนก รัตน์วงศ์สกุล โพสต์ข้อความแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวอย่างดุเดือดว่า คนเสื้อแดง สามารถคิดเองได้ ใช้สามัญสำนึกพื้นๆจากสมองซีกเดียวคิดด้วยซ้ำ..ท่านรัฐมนตรีที่ออกมาปฏิเสธทั้งหลาย แฟนละครเสื้อแดงเขากินข้าวนะครับ ถึงจะเป็นรากหญ้า ก็คิดเองได้เว้ย..ไอ้พวกนักการเมืองชั่ว (ในละคร)
เรื่องนี้ ยังไม่มีการออกมาอธิบายที่ชัดเจนว่า เหตุใดช่อง 3 จึงแบนละครเรื่องนี้ แม้กระทั่ง “นก” สินจัย เปล่งพานิช หนึ่งในนักแสดงละคร เหนือเมฆ 2 ก็โพสท์ข้อความสั้นๆ เพียงว่า “ไม่สำคัญว่าเกิดอะไรขึ้น สำคัญที่คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น”..ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ”
ยังเกิดคำถามจากคนดูว่า มีเหตุผลอะไรที่ละครเหนือเมฆถูกสั่งแบน ใครหรือฝ่ายไหนเป็นคนสั่งการแบนละครเรื่องนี้กันแน่ และนื้อหาช่วงไหนของละครที่ไม่เหมาะสมหรือทำผิดกฎจนต้องถูกแบน งานนี้ รัฐบาล จึงถูกจับจ้องโจมตีอย่างหนักว่า บังอาจใช้อำนาจทางการเมือง สั่งแบนละครเนื่องจากมีเนื้อหาแทงใจ บ้างก็ว่าเป็นคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นผู้สั่งการ จนเกิดข้อสันนิฐานไปต่างนานา ขณะที่ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า การงดออกอากาศละครเรื่องดังกล่าว ไม่เห็นว่ารัฐบาลเข้าไปยุ่งหรือกำกับสื่อแต่อย่างใด ช่อง 3 คงตรวจสอบแล้วว่าอาจผิดตามมาตรา 37 ที่ระบุว่า ห้ามไม่ให้ออกอากาศเนื้อหารายการที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงสั่งให้หยุดการออกอากาศ ซึ่งเป็นการกำกับดูแลตัวเองของช่อง 3 หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการแก้ต่างให้กับรัฐบาล นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล วิทยากรรายการชูรักชูรส ซึ่งออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 มายาวนานเป็นสิบปี ประกาศตัวเอง ต่อสาธารณชน ว่า ขอยกเลิกการเป็นวิทยากรของรายการชูรักชูรสตลอดไป โดยให้เหตุผลว่า
ช่อง 3 เป็นสถานีที่ผมไม่สามารถยอมรับได้ ณ ปัจจุบัน ในความคิดเห็นของผม ไทยทีวีสีช่อง 3 มีผู้บริหารที่ไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นสื่อมวลชนอย่างสิ้นเชิงแล้ว ดังที่เห็นในตัวอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย แต่ทางสถานีก็มีข้ออ้างทุกประการเพียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ในฐานะที่ผมเป็นจิตแพทย์ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ทางด้านจิตเวชศาสตร์ เพื่อให้พวกเราดำรงตนเพื่อคุณงามความดีของบ้านเมืองเรา
ดังนั้น ผมจึงถือว่า ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 อีกต่อไป เนื่องจากผมได้แสดงความไม่พอใจทางสถานีผ่านสื่อสังคมออนไลน์บ่อยครั้ง ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดข้อครหานินทาว่า “ด่าแต่เขา แต่อิเหนาก็ยังมีรายการมาออกช่องดังกล่าวอยู่” และผมก็มิใช่คนตอแหลและหน้าด้านเหมือนใครบางคนในสังคมและในสถานีดังกล่าว
อีกอย่างหน้าที่ผมก็คือจิตแพทย์ที่ออกตรวจคนไข้ในโรงพยาบาล การทำงานออกสื่อถือเป็นการตอบแทนสังคม เพื่อความสุขใจของตนเองและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่น่าสงสารอีกมาย ที่รอการบำบัดรักษาเยียวยาจิตใจอยู่ มิใช่การทำงานเพื่อรายได้จากการออกสื่อ เหมือนดาราหรือนักข่าวอีกหลายๆคนที่หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ด้วยการทนยอมๆไป ซึ่งขัดต่ออุดมการณ์ของตัวผมเองในการที่อยากจะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่มีศักดิ์ศรีในวิชาชีพ …
ในที่สุดนี้ ขออภัยที่จะต้องทะยอยลบภาพทั้งหมดรวมถึงคลิปวิดีทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับสถานีไทยทีวีสีช่อง 3 ออกทั้งหมดนะครับ แต่ยังมีคลิปดีๆที่ออกอากาศในสถานีอื่นๆอีกมากมายที่ผมได้ลงไว้ใน youtube เพื่อประโยชน์ต่อสังคมอยู่ครับ
คำกล่าวข้างต้น กระทบไปยัง นักข่าว ดารา นักแสดง ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่าง แต่ยัง “ตอแหลและหน้าด้าน” ทนอยู่สถานีที่ช่อง 3 เพื่อหาเลี้ยงปากท้อง เพราะนพ.กัมปนาท ยังคงเชื่อมั่นในอุดมการณ์ และจรรยาบรรณของสื่อ จึงต้องตัดขาดกับทางช่อง 3
การคาดเดา เบื้องหลังเหตุปลดละคร เหนือเมฆ ลามไปถึงผู้บริหาร ที่ชาวออนไลน์เปิดเผยข้อมูลว่า มีอุดมการณ์ทางการเมือง เอนเอียงไม่มีความเป็นกลาง จึงไม่แปลกใจที่ได้รับในสั่งจาก “ดูไบ”
อย่างไรก็ดี เหนือเมฆ ไม่ใช่ละครเรื่องแรกทื่ถูกแบนด้วยเนื้อหาเสียดสีทางการเมือง แต่ที่เป็นประเด็นร้อนแรงคือการตัดจบกระทันหัน และมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้จึงยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอีกยาว ถึง 1.ความเป็นกลางของสื่อมวลชน 2.อำนาจแทรกแซงของรัฐบาล 3.เนื้อหาในละครที่ถูกแบนนั้น มีเนื้อหาอย่างไร
ต้องรอคำชี้แจงที่ชัดเจน มิเช่นนั้น ช่อง3 รัฐบาล มีแต่เสียกับเสีย ที่ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นปริศนาที่คลุมเครือ ไร้คำอธิบายที่แน่ชัด
และยังมีการตั้งเพจเหนือเมฆ2 ให้นำกลับมาฉายใหม่
ชาวเน็ตแห่กดไลค์ แฟนเพจ Facebook "เอาเหนือเมฆ 2 กูคืนมา" เกือบ 3 หมื่นราย จับตาพิธีกรดัง"สรยุทธ"ไม่พูดข่าวนี้ทั้งที่ขึ้นหน้าหนึ่ง นสพ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ธ.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการตั้งแฟนเพจ ในเว็บไซต์ Facebook "เอาเหนือเมฆ 2 กูคืนมา" ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรวมคนที่อยากให้ ละครเหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ กลับคืนมาฉายให้จบ โดยระบุรายละเอียดว่า เพจนี้สร้างขึ้นเพื่อ รวมคนที่อยากให้ ละครเหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ กลับคืนมาฉายให้จบ ในตอนที่เหลือ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง สีไหน ฝ่ายใด ทั้งสิ้น
ล่าสุด มีประชาชนเข้ามากดถูกใจแล้วกว่า 28,000 คน และยังมีการแต่งเพลงขึ้นมาเพื่อประชดประชัน และยังมีการเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมทั้งบ่งปันคำคมในละคร อาทิ
"ฉันก็จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับความอยุติธรรม ตราบใดที่ดอกเตอร์เมฆายังมีชีวิตอยู่ จะไม่มีวันยอมให้คนชั่วคนเลวขึ้นมาเป็นใหญ่"(เหนือเมฆ ตอนที่5)"
"ท่อน้ำเลี้ยงของดอกเตอร์เมฆา คือศรัทธาของประชาชน ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของประชาชน" (เหนือเมฆ ตอนที่7)
"มีอำนาจ แต่ไม่รู้จักใช้อำนาจ ไม่เรียกว่าโง่ แล้วจะเรียกอะไร" (เหนือเมฆ ตอนที่ 7)
“แนวคิดศรัทธาในการทำความดี จะถูกปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่น ค่านิยมของการทำดีเพื่อสังคมจะต้องคงอยู่ตลอดไป" (เหนือเมฆ ตอนที่ 20)
"ผมสัญญาว่าจะสร้างค่านิยมใหม่ให้กับสังคมไทย เราจะต้องทำทุกอย่างบนความถูกต้อง เที่ยงตรง หมดยุคการเมืองต่างตอบแทนแล้ว"(เหนือเมฆ ตอนที่ 26)
ขณะเดียวกันยังมีผู้เข้ามาตั้งข้อสังเกตว่า ในรายการเรื่องเล่าเสาร์ อาทิตย์ ของพิธีกรคนดัง นายสรยุทธ สุทัศนจินดา ที่ไม่ยอมรายงานข่าวนี้ในรายการแม้จะเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจจนขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ
matsushiro
CREDIT: MTHAI