rnrn'คมดาบจะเปล่งประกายขึ้น เมื่อมันถูกย้อมไปด้วยเลือด'
rn- รายงานจากภาคสนามของกองกำลัง Noxus
Story of Irelia
เป็นที่เล่าลือกันมานานแล้วว่า ในชาวเผ่า Ionians นั้น เป็นผู้คิดค้นศิลปะการต่อสู้ทั้งหลายที่อยู่บนผืนแผ่นดิน แต่มีอย่างนึงที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ และสิ่งที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากนั่นคือ เพลงดาบของยอดปรมาจารย์ดาบนามว่า Lito จอมดาบผู้ถูกอ้อนวอนให้สอนวิชาของเขาในหลายๆเมือง แต่ทว่าวิชาของเขานั้นถูกปกปิดเป็นความลับ ว่ากันว่าดาบที่ปรมาจารย์ผู้นี้ถือไว้ในมือ มันแทบจะมีชิวิตเลยทีเดียว แต่เป็นที่โชคร้ายสำหรับชาว Runeterra เพราะปรมาจารย์ดาบ Lito ได้จากโลกนี้ไปด้วยโรคร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ ทิ้งไว้เพียงลูกชายกับลูกสาวของเขา Zelos และ Irelia และอาวุธวิเศษของเขา เมื่อพวกเธอโตขึ้นมา Zelos ได้กลายเป็นหัวหน้าหน่วย ในกองกำลังป้องกัน Ionian และต้องนำกองกำลังของเขา ไปขอความช่วยเหลือจากนคร Demacia ในทันที เพราะว่า Noxus กำลังเข้าทำการโจมตี Ionia อยู่ จึงทำให้ Irelia ได้รับหน้าที่สำคัญ ในการป้องกันเมืองคนเดียว จนกว่าน้องชายของเธอจะกลับมา
rnrn ชาว Ionia ต่อสู้กันอย่างสุดความสามารถ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เลือดของชาว Ionia ไหลชะโลมแผ่นดินบ้านเกิด ใต้ฝ่าเท้าของพวก Noxus ชาวเมือง Ionia เตรียมพร้อมที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตาของพวกเขา จนกระทั่งเจ้าหนู Irelia ได้นำอาวุธวิเศษของบิดาของเธอมาต่อสู้ เพื่อยืดเวลาไว้ จนกระทั่งน้องชายของเธอกลับมา สถานการณ์เหมือนจะกลับมามีความหวังอีกอีกครั้ง ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย Irelia ได้ถูกคำสาปของพ่อมดชาว Noxus และในขณะที่เธอกำลังพลาดท่า เกือบจะเสียชีวิตนั้น Soraka ได้โผล่เข้ามา และช่วยเหลือเธอไว้ได้ทันท่วงที ด้วยเจตจำนงค์ที่ต้องการจะช่วยเหลือเหลือบ้านเกิดของเธอ เธออยากจะลุกไปต่อสู้อีกครั้ง แต่ขณะนั้นร่างกายกายของเธอกลับไม่ตอบสนองต่อความต้องการของเธอเสียแล้ว ทันใดนั้น ดาบวิเศษของบิดาของเธอ ก็ลอยขึ้นมาอยู่เหนือพื้นข้างๆเธอ เธอจึงคว้าอาวุธ และพุ่งเข้าไปยังกลุ่มของศัตรูในทันที ไม่มีสิ่งใดที่จะขวาง เธอได้ ดาบของเธอบินวนรอบกายเธอ และฟาดฟันศัตรูราวกับกำลังเต้นรำ ฝั่ง Noxus ทำได้แค่อ้าปากค้างทำอะไรไม่ได้ และถอนทัพกลับไป หลังเสร็จศึกในครั้งนั้น Irelia จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้นำของกองกำลังป้องกัน Ionia และนั่นคือจุดเริ่มต้นก่อนที่ Irelia จะเข้าสู่สนามรบ Field of Justice...
***************************************
Katarina, The Sinister Blade
ชื่อเรียกอื่นๆ : คาทาริน่า, คาตา, แคท
rnrn''Katharina นั้นเปรียบเสมือนแมงมุมแม่ม่ายดำ - สวยงามแต่อันตรายถึงตาย'' - Garen, the Might of Demacia กล่าวไว้
Story of Katarina
ในฐานะที่เป็นรัฐประเทศในการสงครามอย่าง Noxus แล้ว มันคงไม่แปลกนักที่จะเห็นผู้หญิงจับดาบขึ้นมาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย Katharina เกิดมาในฐานะลูกสาวของนายพล Du Couteau ตั้งต่สมัยยังเด็ก เธอมักจะสนใจในมีดของพ่อของเธอ มากกว่าจะสนใจเสื้อผ้า,เครื่องประดับ หรือสิ่งอื่นใดตามที่ผู้หญิงปกติควรจะเป็น ซึ่งน้องสาวของเธอดูจะกลับกันเลยทีเดียว Katharina ในตอนเด็กนั้น มีสัญชาตญาณนักฆ่า และหลงใหลในเลือดเป็นอย่างมาก อีกทั้งพ่อของเธอก็สนับสนุนเธอเป็นอย่างดี หลังจากที่เธอศึกษาเล่าเรียนในสถาบันนักฆ่าที่ดีที่สุดในเมืองแล้ว เธอก็ได้ออกปฏิบัติการณ์ครั้งแรกในสงครามระหว่างชาว Ionia กับ Noxus ด้วยความที่ว่าเธอไร้ความปราณีต่อศัตรู อีกทั้งยังมีฝีมือในการใช้มีดได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เธอได้รับฉายาว่า ''Sinister Blade'' ซึ่งหมายความว่า มีดบินอันน่าขนลุกหรือน่ากลัวเอง เธอมีชื่อเสียงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งที่เธอออกรบสู้กับกองทัพ Demacia และเธอได้ต่อสู้ตัวต่อตัวกับ Champion ระดับพระกาฬอย่าง Garen ซึ่งภายหลังกลายเป็นคู่ปรับตลอดกาลของเธอ หลังจากที่เธอช่วย Sion จากการคุ้มครองของกองกำลังของ Garen ได้สำเร็จ
rnrn ด้วยความที่เธอนั้นกระหายในสงคราม แต่บนแผ่นดิน Valoran กลับไม่มีให้เธอไป Katharina จึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมสงคราม League of Legends หลายคนเชื่อว่าการเข้ามายัง League of Legends อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ของเธอ จะทำให้เธอเป็น Champion ที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย Katharina ยังคงดำเนินตามทางเจตจำนงค์ของ Noxus และตั้งใจที่จะนำเกียรติยศกลับสู่บ้านเกิดของเธอและครอบครัว
***************************************
Akali, The Fist of Shadow
ชื่อเรียกอื่นๆ : อาการิ, นินจา
rnrn ''อย่าได้คิดทำลายสมดุลของโลก เพราะนักรบเงาจับตาดูคุณอยู่''
Story of Akali
ในประเทศ Ionia นั้น ยังมีองค์กรใต้ดินโบราณ ที่มีหน้าที่ในการช่วยควบคุมสมดุลต่างๆ (ความเป็นระเบียบ, ความวุ่นวาย, แสงสว่าง หรือแม้แต่ความมืด) เพื่อให้อยู่ในความเรียบร้อยตลอดมา โดยสมดุลทั้งหลายที่กล่าวมานั้น จักต้องดำเนินไปในทิศทางที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งมันเป็นกฏเกณฑ์ธรรมชาติของจักรวาล.. องค์กรแห่งนี้มีชื่อว่า Kinkou ซึ่งในองค์กรแห่งนี้ได้มีการแต่งตั้งนักรบ 3 คนเพื่อบรรจุเข้าไปในหน่วยที่ทำหน้าที่นี้ ซึ่งหน่วยนี้มีชื่อว่า Shadow Warriors (นักรบเงา) และ Akali เป็นหนึ่งในหน่วยนักรบเงานี้ หน้าที่ของเธอคือคอยกำจัดสิ่งแปลกปลอม รวมถึงบุคคลที่น่าจะเป็นพิษเป็นภัยต่อนคร Valoran เพื่อรักษาสมดุลของนครให้คงอยู่
rnrn Akali มีพรสวรรค์ในด้านการต่อสู้ ตั้งแต่ครั้งยังเด็ก เธอเริ่มที่จะฝึกฝนการต่อสู้กับแม่ของเธอ โดยฝึกอย่างหนัก ตั้งแต่ที่เธอเริ่มกำหมัดได้ โดยมีคติที่ยึดมั่นคือ ''เราจักต้องทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ'' Akali ได้รับการแต่งตั้ง ให้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของนักรบแห่งเงา ตั้งแต่ตอนที่เธออายุเพียง 14 เท่านั้น ซึ่งในขณะนั้น เธอมีความสามารถสูงขนาด สามารถตัดโซ่ที่แขวนไว้ได้ด้วยมือเปล่า ซึ่งคงไม่มีข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย เธอสามารถทำให้แม่ของเธอภูมิใจมาก ในฐานะนักรบแห่งเงา แต่ด้วยในฐานะนักรบแห่งเงาแล้ว Akali จะต้องทำสิ่งในสิ่งต่างๆ ที่คนทั่วไปคิดว่ามันผิดศีลธรรม แต่สำหรับตัวเธอแล้วไม่เลย มันคือการทำตามคำสั่งสอนของบุพการีนั่นเอง ขณะนี้ Akali ทำงานร่วมกับ Shen และ Kennen เพื่อรักษาความสมดุลของโลก Valoran เพื่อสิ่งที่ยึดมั่นนี้ ทั้งสามจึงเข้าสู่ Fields of Justice
***************************************
Vi, the Piltover Enforcer
ชื่อเรียกอื่นๆ : วาย
''แบบนี้มันแย่จังเลยน้า ชั้นมี 2 กำปั้น แต่แกมีเพียงใบหน้าเดียว'' - Vi
Story of Vi
สำหรับ Vi แล้ว ปัญหาทุกอย่างสามารถคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับการที่เธอสามารถทำลายกำแพงอิฐ ด้วยถุงมือจักรกลพลังเวทย์ของเธอนั่นเอง ถึงแม้เธอจะเติบโตขึ้นมาบนอีกฟากหนึ่งของกฎหมาย ในตอนนี้ Vi ได้นำความรู้ความสามารถของอาชญากร มาใช้ทำงานให้แก่กองกำลังตำรวจของ Piltover ด้วยความที่ Vi ชอบทำงานสะเพร่า ชอบทำตัวตลกโดยไม่มีเหตุผล และมักจะปฏิเสธคำสั่งอยู่เสมอ จึงทำให้ Caitlyn โกรธเธอเป็นประจำ แต่จะเป็นแบบนั้น นายอำเภอแห่ง Piltover ก็ต้องยอมรับว่า Vi เป็นสินทรัพย์ที่ทรงคุณค่าในการต่อสู้กับเหล่าอาชญากร
เธอเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาบริเวณชานเมืองที่ไร้ซึ่งกฎหมายของ Piltover ในสมัยเด็กนั้น Vi เรียนรู้การอยู่รอดด้วยการชิงทรัพย์ และฉ้อโกง เธอมักจะขโมยอุปกรณ์จักรกลเวทมนตร์ Hextech อยู่เสมอๆ ทำให้เธอมีความรู้ติดตัวเกี่ยวกับเครื่องจักรด้วย ในขณะที่ชีวิตข้างถนน ช่วยสอนให้เธอพึ่งพาตัวเธอเอง เมื่อเธออายุได้หกขวบ ก็มีกลุ่มอาชญากร ที่เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเด็กน้อย และได้นำพาเธอไปเข้าร่วมแก๊ง และเมื่อวันเวลาผ่านไปจนเธออายุสิบเอ็ดขวบ ในตอนนี้เธอเติบโตเป็นอาชญากรเต็มตัว และในตอนนี้ เธอเป็นคนที่รู้สึกชื่นชอบความตื่นเต้นในการออกปล้นไปเรียบร้อยแล้ว
วันหนึ่ง ทัศนคติของ Vi ก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อเกิดการจู่โจมสิ่งก่อสร้างของเหมืองแร่ ในวันนั้น เธอถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจ ระหว่างเลือกที่จะหลบหนีออกไปพร้อมกับเหล่าลูกเรือของเธอ หรือพยายามที่จะช่วยเหลือคนงานเหมืองผู้บริสุทธิ์ให้หนีออกมาจากอุโมงค์เหมืองที่กำลังถล่ม ในที่สุด Vi ก็ตัดสินใจเล่นบทฮีโร่ ในขณะที่กำลังหาทางช่วยเหลือเหล่าคนงานจากซากปรักหักพังนั่นเอง เธอก็ค้นพบหุ่นยนต์ขุดเหมืองที่พังอยู่ เธอได้ตัดสินใจนำมันมาใช้ประโยชน์ในทันที เธอได้ทำการดึงแขนยักษ์ของหุ่นแยกออกมา แล้วนำมันมาปรับปรุง และนำมาใช้เป็นถุงมือจักรกลเวทมนตร์แบบชั่วคราว นั่นนับเป็นการติดตั้งอาวุธหนักเข้ากับแขนน้อยๆของเธอ เด็กสาวตัวน้อยได้เกร็งแขน แล้วเหวี่ยงกำปั้นยักษ์ออกไปกระแทกกับเศษซากหิน แรงปะทะระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น ได้เป่าเศษหินกระเด็นออกไป เธอเหวี่ยงแขนยักษ์นั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งช่วยเหลือเหล่าคนงานออกมาได้ เมื่อทุกคนได้หนีออกมาจากอุโมงค์แล้ว Vi ก็หลบหนีจากไป
หลังจากการทำงานที่ผิดพลาดในครั้งนั้น Vi จึงได้ทำการตัดความสัมพันธ์กับเหล่าลูกเรือของเธอ เธอกลับไปใช้ชีวิตอาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวดังเดิม แต่ในตอนนี้เธอเลือกขโมยของจากอาชญากรอื่นเท่านั้น วันเวลาผ่านไปนับปี เธอได้ทำการปรับปรุงพัฒนาถุงมือจักรกลเวทมนตร์ให้ยอดเยี่ยมขึ้น ทำให้เธอทำการปล้น และขโมยของได้อย่างง่ายดาย และในที่สุดชื่อเสียงของเธอก็ลอยไปถึงหูของ Caitlyn นายอำเภอชื่อดังของ Piltover แต่แทนที่เธอจะค้นหา Vi เพื่อจับกุม นายอำเภอ Caitlyn ได้ยื่นข้อเสนอให้แก่เธอ เพื่อให้เธอได้ชดใช้ ข้อเสนอที่ว่านั่นคือ ให้มาทำงานรักษากฏหมายให้แก่เมือง Piltover เพื่อให้เมืองสงบสุข Vi ได้ยินดังนั้น เธอถึงกับหัวเราะในทันที สำหรับเธอในตอนนี้แล้ว งานที่สามารถทำให้เธอเข้าไปตะบันหน้าเหล่าขโมย และคนทุจริตได้ โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องคอยวิ่งหนีตำรวจ มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆสำหรับเธอ เธอจึงตอบตกลงทำงานด้วยในทันที แต่สำหรับ Caitlyn แล้ว ในตอนนี้เธอจำเป็นต้องพยายามอย่างมาก เพื่อบังคับให้ Vi อยู่ในบรรทัดฐานที่ควร และต้องให้ Vi คอยรักษาคำสั่งของ Caitlyn ให้เป็นเหมือนคำแนะนำสำหรับการอยู่ในกฏ แต่เมื่อพวกเธอทั้งคู่ทำงานร่วมกันแล้ว เหล่าอาชญากรคนนอกกฏหมายใน Piltover ต่างหวาดกลัวพวกเธอมาก
***************************************
Fiora, The Grand Duelist
ชื่อเรียกอื่นๆ : ฟีโอร่า, ฟี
rnrn''อัตตาของ Fiora จะเหลืออดถ้าไม่พบกับ...ความเที่ยงธรรม'' rnrn-Jarvan IV
Story of Fiora
เด็กที่อายุน้อยที่สุดของ House Laurent เธอคือ Fiora ซึ่งเธอคิดถึงตัวเองอยู่เสมอว่า จะต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ให้ได้ House Laurent ได้ถูกปกครองโดยธรรมเนียมของ Demacias Dueling และพ่อของ Fiora ซึ่งถูกระบุว่าเป็นนักดาบที่มีเก่งที่สุด เท่าที่เคยมีมา แรงบันดาลใจของเธอเริ่มต้นจากตำนานแห่งความรุ่งโรจน์ของพ่อเธอ Fiora เริ่มต้นฝึกฝนตนเอง เร็วเท่าที่เธอจะสามารถแกว่งดาบได้ และด้วยความสามารถของเธอเป็นที่โดดเด่นมากกว่าพี่น้องของเธอเองเป็นอย่างมาก และเมื่อเธอเติบโตขึ้น คู่ฝึกซ้อมของเธอได้รับรู้ถึงความเย่อหยิ่งในความมั่นใจของเธอ แต่ก็ไม่มีใครสามารถพิชิตเธอได้เลยในการต่อสู้ ชัยชนะแต่ละครั้งยิ่งทำให้ความภาคภูมิใจในตัวเธอยิ่งเพิ่มสูงขึ้น แม้กระนั้น Fiora เองก็ไม่เคยพอใจในการฝึกซ้อมของตัวเองเลย เธอยังคงมุ่งมั่นฝึกซ้อมให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้เป็นคนสำเร็จที่ควรค่าต่อตำนานของพ่อตนเอง
rnrnความทุ่มเททั้งหมดของเธอกลับตาลปัตร เมื่อการดวลครั้งหนึ่ง, พ่อของ Fiora ถูกจับได้ว่าใส่ยาพิษที่ทำให้เป็นอัมพาตอย่างช้าๆในเครื่องดื่มของคู่ต่อสู้ และเกิดเหตุการณ์ตามมาอีกเมื่อคู่ต่อสู้ในอดีตเข้ามากล่าวหาว่าพวกเขาถูก ดาบเคลือบยาพิษ, มีการติดสินบน, โดนข่มขู่ว่าจะถูกเปิดเผยความลับ และอีกมากมาย ในแทบจะทันทีเขาได้ทำลายชื่อเสียงที่มีเกียรติของครอบครัวจนสิ้น Fiora โกรธมาก ไม่เพียงแค่เธอถูกทรยศจากวีรบุรุษของเธอ แต่ยังทำให้หัวหน้า Dermacias Dueling สงสัยในความสามารถของเธออีกด้วย เธอจึงต้องการที่จะลบรอยด่างออกจากประวัติของครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเธอก็ยังต้องการที่จะให้โลกรับรู้ถึงความเก่งกาจของเธออีกด้วย และแล้วเธอก็พบทางออกของปัญหา โดยการเข้าร่วมกับสนามประลองหนึ่งซึ่งสามารถให้เธอต่อสู้กับนักรบที่เก่งที่สุดในโลก โดยปราศจากข้อครหาในการต่อสู้ที่ไม่มีเกียรติได้ใน League of Legends
***************************************
Jarvan IV, The Exemplar of Demacia
ชื่อเรียกอื่นๆ : จาวาน ไอวี, จาวาน, จ่าหวาน
''ความจริงนั้นมีเพียงหนึ่ง และเจ้าจะหาคำตอบได้จากทางที่หอกของข้าชี้ไป''
- ''คำพูดสุดท้าย'' ของ Jarvan IV ในตอนที่ปฏิบัติการณ์ของเขาล้มเหลว
Story of Jarvan
ในฐานะที่เป็นเชื้อราชวงศ์แห่ง Demacia กว่าศตวรรษ สมาชิกทั้งหลายในตระกูล Lightshield ใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับการสู้รบกับปรปักษ์ของประเทศ Demacia ซึ่งก็มีหลายคนพูดว่าตระกูล Lightshield ทั้งหมดเกิดมาพร้อมกับความเกลียดพวก Noxus เข้าสายเลือด และแน่นอน Jarvan IV ก็เช่นกัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนของตระกูล Lightshield คนแรกที่เกิดมาในยุคของสงคราม League of Legends ก็ตาม ดวยสายเลือดที่เข้มข้นของ Jarvan IV เขาได้นำกองทัพ Demacia เข้าต่อสู้กับกองทัพของ Noxus อย่างดุดัน เขารบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกทหารมาโดยตลอด จนมีอยู่ครั้งนีง Jarvan IV พลาดท่าและถูกจับได้โดยนายพล Jericho Swain ความผิดพลาดครั้งนั้นเกือบทำให้เขาสิ้นชีวี แต่โชคของเขายังดีที่เพื่อนสมัยเด็กของเขา Garen และกองกำลัง Dauntless Vanguard ช่วยเหลือเค้าไว้ได้ทันท่วงที
Xin Zhao ผู้ใกล้ชิดของ Jarvan IV เชื่อว่าการถูกจับในครั้งนั้นได้เปลี่ยนแปลงเขาโดยสิ้นเชิง ''แม้ดวงตาของเขาจ้องมองมาที่คุณ แต่เหมือนเขามีสิ่งที่อยู่ในใจที่เขาไม่อาจละทิ้งได้อยู่ภายในจิตใจของเขา ตลอดเวลา..'' มีอยู่วันนึง Jarvan IV ได้ทำการคัดเลือกทหารฝีมือดี และเดินทางออกจาก Demacia ไปกับเขา เพื่อที่จะตามหาโอกาสใน ''การแก้ตัว'' เขาเริ่มต้นโดยการแกะรอย และตามล่าสัตว์ร้าย และตามล่าโจรทั้งหลายในเขตทางตอนเหนือของ Valoran ในเวลาไม่นานนัก เขาก็เริ่มเบื่อหน่ายกับเหยื่อที่มันง่ายเกินไป Jarvan IV กำลังมองหาสิ่งที่เขาเท่านั้นที่เข้าใจได้ เขาได้ออกเดินทางไปยังตอนใต้ของเทือกเขา The Great Barrier หลังจากนั้นก็ไม่ไม่มีใครได้ยินข่าวคราวของเขาอีกเลย เป็นเวลาสองปีระหว่างที่ผู้คนกำลังล่ำลือไปในทิศทางเลวร้ายต่างๆนานา Jarvan IV ก็กลับมาพร้อมกับความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม เกราะของเขาประดับไปด้วยกระดูกของสัตว์ร้ายที่ไม่ใครรู้จัก ตาของเขาเหมือนคนที่รู้แจ้งเห็นจริง ราวกับผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนเลยทีเดียว ทหารผู้ติดตามของเขา 12 คนที่พาไปด้วยในตอนแรก บัดนี้เหลือเพียงแค่ 2 คนรอดชีวิตกลับมา Jarvan IV กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และเย็นยะเยือกว่า ข้าจักนำศัตรูของ Demacia มาคุกเข่าต่อหน้าข้าให้จงได้
***************************************
Leona, The Radiant Dawn
ชื่อเรียกอื่นๆ : เลโอน่า, เอโอ
rnrn''แสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่ว Runeterra ดั่งภาพพจน์ของเหล่า Champion'' rn-Leona
Story of Leona
บนเทือกเขา Targon เหล่านักรบของ Rakkor มีชีวิตอยู่เพียงเพื่อสงครามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บนยอดเขาแห่งนี้ เป็นที่อยู่ของนักรบชั้นแนวหน้าของชาว Rakkor ซึ่งผู้ที่อยู่จุดสูงสุด แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มนักรบนี้ จะถูกเรียกว่า Solari ที่จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ซึ่งเขาก็จะต้องอุทิศชีวิตให้กับการปกป้องดวงอาทิตย์ ตามตำนานกล่าวว่า นักรบ Solari นั้นถูกฝึกสอนมาอย่างแข็งแกร่ง เขาสามารถเรียกพลังแห่งดวงอาทิตย์มาใช้ในการต่อสู้ได้ ซึ่งจุดสูงสุดของเทือกเขา Targon เป็นตำแหน่งที่ใกล้กับดวงอาทิตย์ที่สุด เป็นจุดที่แสดงถึงความจงรักภักดีของเขา ที่มีต่อพลังแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งธรรมเนียมนี้จะถูกส่งไปยังผู้ที่มีความเหมาะสมในรุ่นต่อๆไป ช่วงวันเวลาผ่านไป เป็นโชคร้ายที่ไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนี้อีกเลย จนกระทั่ง Leona ปรากฏตัวออกมา
rnrnพ่อแม่ของ Leona เป็นชนเผ่าโบราณของ Rakko ทั้งคู่เกิดมาเพื่อต่อสู้โดยแท้ แต่สำหรับพ่อแม่ของ Leona แล้ว เธอนั้นเป็นเด็กมีปัญหา Leona ในตอนเด็กนั้น มักจะทะเลอะกับคนอื่น ทำให้เกิดการต่อสู้บ่อยๆ แต่เธอก็สามารถที่สู้กับคนอื่นๆได้โดยเท่าเทียบ ซึ่งรวมถึงเพื่อนสมัยเด็กของเธอ อย่าง Pantheon อีกด้วย แต่ทว่าเธอไม่มีจิตวิญญาณของนักฆ่า Leona เชื่อในคุณค่าของชีวิต ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะใช้ความสามารถของเธอในการปกป้องมากกว่า และเมื่อเวลา Rite of Kor มาถึง ซึ่งเป็นประเพณีที่นักรบวัยรุ่นชาว Rakkor สองคนจะต้องทำการต่อสู้กัน จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตาย เพื่อที่จะได้รับอาวุธสืบทอด ซึ่ง Leona ปฏิเสธที่จะสู้ ด้วยการกระทำนี้ Leona ทำให้หัวหน้าเผ่าโกรธมาก และมีคำสั่งให้ประหาร Leona เสีย แต่ขณะที่คมดาบกำลังจะปลิดชีพ Leona ผู้อ่อนโยนนั้น แสงอาทิตย์ได้สาดส่องลงมาอย่างแรง ชนิดที่ทำให้บริเวณรอบๆนั้น มองอะไรไม่เห็นเลยทีเดียว ทันทีที่แสงอาทิตย์เริ่มแผ่วลง ภาพที่เห็นเป็นอย่างแรกคือ Leona ได้ยืนขึ้นโดยไม่บาดเจ็บอะไรเลยท่ามกลางเหล่าเพชรฆาตทั้งหมด ที่นอนสลบอยู่บนพื้น เมื่อเห็นดังนั้น Solari จึงเดินปรี่ไปหา Leona ในทันที พร้อมทั้งยกเลิกคำสั่งลงโทษทั้งหมด ที่มีแก่ Leona อีกทั้งยังมอบชุดเกราะทองคำ และพระราชทานดาบ และโล่ประจำกายของเขา อีกทั้งยังส่งมอบตำแหน่งนักรบสุริยาในตำนาน ให้แก่ Leona พร้อมทั้งช่วยฝึกฝนเพิ่มความสามารถของเธอ จนเธอพร้อม และมาเข้ามาร่วมสงคราม League of Legends นั่นเอง
***************************************
Vladimir, The Crimson Reaper
ชื่อเรียกอื่นๆ : วลาดิเมอร์, แวมไพร์, ตัวดูด
rnrn''อะไรที่เคยสำเร็จมาก่อน คุณก็จะทำสำเร็จอีกนั่นแหละ'' rn-Vladimir
Story of Vladimir
ท่ามกลางหุบเขาระหว่างประเทศ Noxus และที่ราบ Tempest ที่นั่นมีวิหารลึกลับซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เก็บความลับเก่าแก่ และเวทมนตร์อันน่าสะพรึงกลัวเอาไว้ พื้นที่รอบวิหารแห่งนี้เต็มไปด้วยซากศพ ศพทั้งหมดนั่น เหลือแต่ซากหนังติดกระดูก เหมือนกับว่าถูกสูบเลือดออกจากร่างจนหมดตัว โดยศพเหล่านี้ เป็นศพของผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่หลงเดินเข้ามาใกล้เขตวิหารมากจนเกินไป ศพเหล่านี้จุดประกายความสงสัย ให้กับเด็กหนุ่มที่ชื่อ Vladimir ผู้ซึ่งกำลังพยายามที่จะหลบหนี เพื่อให้พ้นจากเขตประเทศ Noxus หนึ่งวันก่อนการหลบหนี Vladimir ได้ฆ่าเด็กชายสองคน ที่มีอายุไล่เลี่ยกัน ด้วยความโหด*****ม โดยไม่มีเหตุผล เขาทำเพียงเพื่อต้องการตอบสนองความเพลิดเพลิน ไปกับดอกไม้สีแดงฉานที่พวยพุ่งออกมา นั่นคือ ''เลือด'' Vladimir รู้ได้ทันทีว่า เค้าไม่สามารถที่จะควบคุม อารมณ์ความต้องการในการฆ่าของตัวเองได้อีก นอกจากนั้นแล้ว เค้ายังรู้ดีอีกว่า หากเค้ายังคงอยู่ในประเทศ Noxus ซักวันจะต้องมีคนล่วงรู้ความจริง และในที่สุด เขาจะต้องถูกจับได้ ดังนั้น Vladimir จึงตัดสินใจยอมทิ้งบ้านเกิด และออกเดินทางไปยังทิศใต้
rnrnเส้นทางที่เต็มไปด้วยศพ ได้นำพา Vladmir ไปพบกับวิหารหิน ข้างในนั้นเค้าได้พบกับ พระสูงอายุ ผู้ซึ่งจ้องมองเค้า ด้วยดวงตาสีเลือดแดงก่ำ Vladimir ทำให้พระรูปนั้นต้องประหลาดใจ เขาจ้องมองแววตาที่น่ากลัวคู่นั้น กลับไปอย่างไม่ลดละ พระรูปนั้น ได้ล่วงรู้ถึงความกระหายอันน่าสยดสยองของ Vladimir เค้าจึงสอนให้ Vladimir ควบคุม และบังคับของเหลวแห่งชีวิต ซึ่งพวกเขาก็ทำการฝึกฝนกับนักเดินทางที่ผ่านไปมา เมื่อถึงเวลาที่ Vladimir จะต้องเข้ารับบทเรียนสุดท้าย พระรูปนี้เตือน Vladimir ว่า หากเค้าล้มเหลวในบทเรียนนี้ ผลลัพธ์ก็คือ ความตาย Vladimir ไม่ได้ล้มเหลว แต่กลับสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความสำเร็จที่เค้าได้มาในครั้งนี้ แลกมากับเหตุการณ์อันน่าสยดสยอง บทเรียนสุดท้ายที่ Vladimir ได้รับในครั้งนั้นก็คือ การเข้ารับพิธีกรรม ซึ่งในระหว่างที่ทำพิธีกรรมนี้ เลือดทุกหยดของพระรูปนั้น ถูกดึงออกมาจากร่างจนหมด และถูกรวมเข้ากับเลือดของ Vladimir ทำให้เค้าเปี่ยมไปด้วยพลังเวทมนตร์ จากพระผู้เป็นอาจารย์ของเขา และพลังเวทมนตร์ จากนักเวทย์ผู้ใช้เลือดทุกๆคน ที่ถูกรวมกันมาหลายชั่วอายุคน หลังจากเหตุการณ์นั้น Vladimir จึงถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว และไม่มีจุดหมายในชีวิต ซึ่งเป็นเหตุผล ที่ทำให้เค้าตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ Noxus จากนั้น Vladimir จึงแจ้งความจำนงค์ เพื่อขอเข้าร่วมการแข่งขัน League of Legends เพื่อที่จะแสดงพลังอำนาจสูงสุด ของเวทมนตร์ของเค้า เมื่อองค์กร The Noxian High Command สำรวจพบเหตุการณ์นองเลือด ที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ผู้รักษาองค์กรของตัวเอง ทางองค์กรจึงตามเฟ้นหาเจ้าหน้าที่ใหม่ๆ โดยมีข้อแม้ว่า เจ้าหน้าที่เหล่านั้น จะต้องไม่ใช่ ''ของโปรด'' ของ Vladimir
***************************************