ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 123 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 51
  1. #1
    CM_The News Game
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,431
    กล่าวขอบคุณ
    956
    ได้รับคำขอบคุณ: 26,650
    Blog Entries
    3

    เนื้อเรื่อง Resident Evil 0 - 6 (อัพเดท Resident Evil 4 ตอนที่ 3 แล้ว)



    อันดับ S ที่สุดยอดตลอดกาลของเกม ซอมบี้ Resident Evil (เฉพาะของ จขกท. ^^


    มาคุ้ยประวัติ Umbrella ต้นตอหายนะ Resident Evil

    ก่อนอื่น มาดูกันก่อนนะครับ ว่าตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องในบทความนี้มีใครกันบ้าง


    [/CENTER]

    ในปี 1950 ดร.เจมส์ มาร์คัส กับ อ็อซเวล สเปนเซอร์ ได้ค้นพบเชื้อไวรัสต้นแบบ Progeniter โดยสกัดได้จากดอกไม้ Stairway of the Sun ที่ค้นพบทางแถบตะวันตกของแอฟริกา และทำการวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับเชื้อตัวนี้เพื่อนำไปใช้เป็นอาวุธทางการทหาร



    หลังจากนั้นศูนย์วิจัยแถบชายป่าแรคคูนจึงถูก สร้างขึ้น ณ จุดเทือกเขาเขตบน พร้อมๆ กับคฤหาสถ์ของสเปนเซอร์ ซึ่งมีสถาปนิกจอร์จ เทรเวอร์ เป็นผู้ออกแบบ หลังจากที่คฤหาสถ์ของสเปนเซอร์ ในใจกลางป่าแรคคูนเสร็จสิ้น ทางสเปนเซอร์ได้เชิญ จอร์จ และครอบครัวไปร่วมรับประทานอาหาร และหักหลังด้วยการจับภรรยาและลูกสาวของจอร์จฉีดเชื้อไวรัสที่กำลังทำการทดลอง แล้วขังจอร์จไว้ในคุกและปล่อยให้ติดอยู่ในนั้นจนตาย อันเนื่องมาจากเขาเป็นหนึ่งในสองคนที่ล่วงรู้ความลับของคฤหาสถ์สเปนเซอร์



    ต่อมาบริษัท Umbrella ก็ถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 1967 โดยมี สเปนเซอร์ , เอ็ดเวิร์ด และ มาร์คัส เป็นผู้ก่อตั้ง แต่ว่าหลังจากบริษัทก่อตั้งได้ไม่นาน เอ็ดเวิร์ด แอชฟอร์ด ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส ส่งผลให้ลูกชายที่ชื่อ อเล็กซานเดอร์ แอชฟอร์ด สานต่องานวิจัย และเริ่มก่อตั้งศูนย์วิจัยและฝึกทางการทหารของตนเองที่เกาะร็อกฟอร์ด อลาสก้าขั้วโลกใต้ พร้อมกับย้ายงานวิจัยไปทำกันเอง




    หลังจากเอ็ดเวิร์ดตาย สเปนเซอร์ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำบริษัท Umbrella อย่างเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว และในปี 1978 ดร.เจมส์ มาร์คัส ได้เปิดศูนย์ฝึกอบรมวิจัย เพื่อพยายามค้นพบกรรมวิธีที่จะเปลี่ยนให้เชื้อสามารถทำงานได้ตามต้องการ แต่ก็เสียกลุ่มผู้ร่วมวิจัยไปหลายคนเนื่องจากติดเชื้อไวรัสกันหมดและยังไม่ สามารถรักษาได้ ศพของผู้ร่วมวิจัยเหล่านั้น ด.ร.มาร์คัส ได้นำไปทิ้งไว้ที่โรงบำบัดน้ำเสีย ต่อมาการวิจัยก็ประสบผลสำเร็จ จากการนำเชื้อ ไวรัส Progeniter ไปฉีดเข้าไปผสมกับ DNA ของปลิง ผลที่ได้ออกมานั้น ดร.มาร์คัสได้ตั้งชื่อให้กับไวรัสนี้ว่าไวรัส Tyrant (T. Virus)




    เมื่อการวิจัยไวรัสประสบผลสำเร็จแล้ว ดร.มาร์คัสได้ปิดศูนย์ฝึกอบรมวิจัยนั้นและรับ ลูกศิษย์ 2 คนที่มีความสามารถสูงเข้ามาร่วมงานที่ศูนย์วิจัยใหญ่บนเขาอาร์คเลย์ซึ่ง 2 คนนั้นคือ วิลเลียม เบอร์กินส์ และ อัลเบิร์ด เวสเกอร์ (โดยเวสเกอร์เป็นสายลับจากกองตำรวจ Raccoon Police Department หรือ R.P.D.) ซึ่ง ดร.มาร์คัสเชื่อใจลูกศิษย์ทั้ง 2 คนนี้มาก แต่ในอีก 10 ปีต่อมา ดร.มาร์คัส ก็โดนหักหลังโดยสเปนเซอร์ ที่ออกคำสั่งให้ วิลเลียม และ เวสเกอร์ นำกองกำลังบุกเข้าสังหาร ดร.มาร์คัส และนำศพไปทิ้งไว้ที่โรงบำบัดน้ำเสีย เหมือนกับเหล่าลูกศิษย์ของเขาที่เสียชีวิตระหว่างทำการทดลอง และ วิลเลียมก็ได้สืบทอดงานทดลองต่อจาก ดร.มาร์คัส


    จากนั้นไม่นาน ดร.วิลเลียมก็ได้ค้นพบเชื้อไวรัส G ต้นแบบ จากการทำการทดลองด้วยไวรัสและสารต่างๆ ในร่างกายของ ลิซ่า เทรเวอร์ ลูกสาวของสถาปนิก จอร์จ เทรเวอร์ ที่ถูกจับฉีดไวรัสโปรเจนิเตอร์เข้าไปและจับขังไว้เพื่อทดลองเมื่อหลายสิบปี ก่อน หลังจากวิลเลียมได้สกัดเชื้อไวรัส G ออกมาจากตัวลิซ่าได้แล้วก็เริ่มทำการพัฒนาประสิทธิภาพของไวรัส G ต่อไป โดยการสร้างศูนย์วิจัยเล็กๆ ใต้ดินเมืองแรคคูน แถมยังสร้าง Tyrant ตัวแรกสำเร็จอีกด้วย




    ในปี 1998 ปลิง ที่ ดร.มาร์คัส ทำการทดลองและเข้าไปอยู่ในตัวเขาโดยบังเอิญขณะที่กำลังถูกฆ่า ก็ทำให้เขาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในสภาพไอ้หนุ่มผมยาวหน้าละอ่อน และคิดจะล้างแค้นสเปนเซอร์กับ Umbrella ที่ทรยศหักหลังเขา โดยการแพร่ เชื้อไปตามท่อระบายน้ำ ที่เชื่อมต่อกับศูนย์วิจัยของ Umbrella ทำให้สมาชิกใน Umbrella กลายเป็นซอมบี้อาละวาดไปทั่วทั้งศูนย์วิจัย และคฤหาสน์ของสเปนเซอร์ ทำให้ศูนย์วิจัยที่เขาอาร์คเลย์ต้องปิดตัวลงชั่วคราว เวสเกอร์อาศัยจังหวะนี้ในการแยกตัวออกจาก Umbrella พร้อมโขมยเชื้อไวรัส T ไปจำหน่ายให้บริษัทคู่แข่งของ Umbrella ตามแผนที่วางไว้




    หลังจากที่เวสเกอร์แยกตัวออกจาก Umbrella ก็กลับเข้ามาบรรจุในกองตำรวจ R.P.D. และด้วยผลงานของเขาในการล้วงข้อมูลจาก Umbrella มาได้ ทำให้เขาได้เป็นหัวหน้าหน่วยพิเศษที่มีความสามารถในการปฏิบัติภารกิจเชิงรบ สูงอย่างหน่วย S.T.A.R.S. ทีม Alpha ประจำเมืองแรคคูนที่เพิ่งถูกตั้งขึ้นมา ซึ่งระหว่างนี้ Wesker ก็ึคอยติดต่อกับ ดร.วิลเลียม และเก็บข้อมูลการต่อสู้ของสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. เอาไว้่อยู่เรื่อยๆ เพื่อนำข้อมูลไปให้ ดร.วิลเลียมพัฒนา BOWs ที่มีประสิทธิภาพและในอีก 2 ปีต่อมา ก็เริ่มมีข่าวคราวชาวเมืองแรคคูนที่อาศัยอยู่ในเขตภูเขาอาร์คเลย์ หายตัวบ้าง ถูกฆาตกรรมบ้าง สำหรับเวสเกอร์นั้นรู้ดีว่าต้นเหตุคืออะไร เขาจึงใช้เโอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ในการวาง แผนเพื่อที่จะล่อหน่วย S.T.A.R.S. ไปพบกับฝันร้ายที่พวกเขาไม่มีทางรู้ และเก็บข้อมูลการต่อสู้ของพวกเขามาเพื่อใช้ในแผนลับที่ตัวเองวางเอาไว้ และนี่ก็เป็นเรื่องราวของ Umbrella ก่อนที่จะเริ่มเกม Resident Evil ภาค Zero ครับ



    เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับเรื่องราวของบริษัท Umbrella ที่เป็นต้นกำเนิดของเหตุการณ์ไวรัสระบาดทั้งหมด ที่จะนำเพื่อนๆ เข้าสู่เรื่องราวของโลก Resident Evil จริงๆ ในภาคแรก ผมหวังว่าบทความตัวนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหลายๆ อย่างได้ดีขึ้นนะครับ และเดี๋ยวไว้ผมจะนำเรื่องราวของ Resident Evil ในช่วงต่างๆ มาสรุปให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอีกเรื่อยๆ ในโอกาสต่อไป


    http://residentevil.wikia.com












    Resident Evil Zero จุดเริ่มต้นความหลอนบนรถไฟสายสยอง






    ต่อเนื่องกันเลยนะครับ กับเนื้อเรื่องของ Bio Hazard Zero หรือ Resident Evil Zero ที่ต่อจากบทความประวัติของ Umbrella เรื่องราวจะเป็นยังไงบ้างนั้น ตามมาชมกันต่อได้เลย




    Resident Evil Zero เป็นภาคที่สร้างขึ้นมาเพื่อเติมเต็มที่มาของเหตุการณ์บางส่วน จากภาค 1 - 3 ที่ไม่มีการพูดถึงเอาไว้ ให้ชัดเจนขึ้นครับ แถมเป็นภาคสุดท้ายที่มีระบบมุมกล้องเป็นแบบ Mornitor บุคคลที่ 3 ซะด้วย ก่อนที่จะกลายเป็นเกมแนว Third Person Shooting ไป


    โดยเนื้อเรื่องของภาคนี้จะย้อนความไปตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ของภาค 1 ไม่นานนัก โดยมีตัวละครหลักเป็น รีเบ็คก้า แชมเบอร์ เจ้าหน้าที่หน่วย S.T.A.R.S. ฝึกหัดทีม Bravo ฝ่ายพยาบาล ที่มีอายุเพียง 18 ปี ได้ปฏิบัติภารกิจแรกในการสืบเรื่องราวการฆาตกรรมปริศนาในเขตภูเขาอาร์คเลย์ ชายเมืองแรคคูนพร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆ ของทีม Bravo ในวันที่ 23 กรกฎาคม 1998 แต่อยู่ๆ เครื่องเฮลิคอปเตอร์ก็เกิดขัดข้อง ทำให้ต้องลงจอดฉุกเฉินในป่า และพบกับรถขนนักโทษที่คว่ำอยู่และได้พบกับข้อมูลของนักโทษที่ชื่อ บิลลี่ โคเอน


    เจ้าหน้าที่ทีม Bravo ทั้งหมดมี 6 คน คือ
    Enrico Marini หัวหน้าทีม
    Richard Aiken ฝ่ายสื่อสาร
    Edword Dewey ฝ่ายคุ้มกัน
    Kenneth J. Sullivan ฝ่ายลาดตระเวณ
    Forest Speyer ฝ่ายจัดการทั่วไป
    Rebecca Chamber ฝ่ายพยาบาล



    ทีม Bravo ได้กระจายกำลังเพื่อสืบหาร่องรอยจน รีเบคก้า ได้พบกับรถไฟขบวนหนึ่งที่เพิ่งถูกปลิงประหลาดโจมตีจนผู้โดยสารเสียชีวิตหมดทั้งคันรถ แถมผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟ ก็กลายเป็นศพเดินได้ซึ่งมุ่งเข้าทำร้ายรึเบคก้า เธอจึงต้องเอาตัวรอด และได้พบกับ บิลลี่ โคเอน ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม 23 ศพ และบนรถไฟขบวนนี้ก็เป็นจุดจบของสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. รายแรกคือ Edward Dewey




    หลังจากสำรวจในรถไฟไปได้สักพัก รีเบคก้า ก็ถูกปลิงที่รวมตัวกันเป็นบุคคลปริศนาเข้าโจมตี แต่บิลลี่เข้ามาช่วยไว้ได้ หลังจากนั้นรถไฟก็เริ่มเคลื่อนที่ขึ้นมาได้เอง และทั้งคู่ก็ไม่สามารถหยุดรถไฟได้ ทาง เวสเกอร์ และ ดร.วิลเลียม เองก็ส่งหน่วยพิเศษ 2 คนลอบเข้ามาทำลายรถไฟ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสแต่ก็ถูกพวกปลิงรุมฆ่าโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย




    และไม่นานรถไฟขบวนนี้ก็ได้ไปสิ้นสุด ณ.ศูนย์วิจัยย่อยของ Umbrella ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์สเปนเซอร์มากนัก ในระหว่างรีเบคก้าและบิลลี่หนีเอาตัวรอ บิลลี่ก็ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้เขาตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งจริงๆแล้วคดีนี้เค้าไม่ได้มีส่วนเป็นผู้ลงมือเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ บิลลี่ เป็นทหารนาวิกหน่วยเดียวกับผู้ที่ก่อเหตุเท่านั้น





    เมื่อมาถึงศูนย์วิจัยของ Umbrella รีเบคก้าก็ได้พบกับรูปภาพของ ดร.มาร์คัส ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่กลายเป็นปลิงมาทำร้ายตัวเอง ส่วนทางเวสเกอร์และวิลเลียมก็ได้พบกับ ดร.มาร์คัสทื่ออกมาท้าทายและแสดงให้เห็นว่า ปลิงที่โจมตีขบวนรถไฟเกิดมาจากการที่ ดร.มาร์คัส ต้องการล้างแค้น Umbrella ที่ทำร้ายเขาแต่เขาก็รอดพ้นจากการตายมาได้ เพราะปลิงที่มีเชื้อ T-Virus เข้าไปในตัวเขาโดยบังเอิญตอนที่กำลังจะโดนฆ่า ทำให้เซลล์ในร่างเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง




    ในระหว่างที่รีเบคก้าและโคเอนกำลังสำรวจศูนย์วิจัยใต้ดินของ Umbrella ทั้งคู่ก็ต้องแยกทางกันเนื่องจากมีสัตว์ประหลาดมาทำร้ายจนทำให้บิลลี่ตกน้ำไป ระหว่างที่รีเบคก้ากำลังตามหาบิลลี่ก็ได้มาพบกับเอนริโก้หัวหน้าทีม Bravo ซึ่งเขาได้บอกกับรีเบคก้าว่ามีคฤหาสน์แปลกๆ ที่มีความลับเกี่ยวข้องกับบริษัท Umbrella อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก แต่ทางรีเบคก้าต้องการที่จะหาตัวบิลลี่ให้เจอก่อน แล้วจะตามไปทีหลังเอนริโก้จึงนำไปที่คฤหาสน์นั้นก่อน






    หลังจากที่รีเบคก้าเจอตัวบิลลี่อีกครั้งแล้วก็ได้พบกับ ดร.มาร์คัส ซึ่งเขาได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับทั้งสองคนฟัง รวมไปถึงความคิดที่จะล้างแค้น Umbrella ด้วยการปล่อยปลิงที่ติดเชื้อเหล่านี้ไปแพร่กระจายในศูนย์วิจัยของ Umbrella แต่ด้วยไวรัสที่อยู่ในร่างกายเขามีกำลังมากจนเกินไป จนทำให้เขากลายร่างเป็น Queen Leech และเริ่มอาละวาด พอทั้งคู่ปราบ Queen Leech ได้ รีเบคก้าก็ปล่อยให้บิลลี่หนีไปโดยเก็บ Dogtag ไว้ เพื่อใช้รายงานกับทางการว่าบิลลี่ได้เสียชีวิตไปแล้ว แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกัน




    จบไปอีกส่วนกับเนื้อเรื่องของ Resident Evil Zero นะครับ และเตรียมพบกับเนื้อเรื่องช่วงต่อไปซึ่งก็คือภาค 1 ก็ได้ โพสไปแล้วด้วย ภาค 2 จะตามมา พร้อมกับ ข่าวใหม่อีกที นึ่งนะ จัดให้ เมือใคร ขอ


    online-station






    เนื้อเรื่อง Resident Evil 1 ปฐมบทความหลอนในคฤหาสน์ลึกลับ


    [/CENTER]


    เอาล่ะครับเพื่อนๆ หลังจากได้รับรู้เรื่องราวที่เป็นต้นกำเนิดของ Resident Evil ในเนื้อเรื่องของ Umbrella และเนื้อเรื่องของ Resident Evil Zero กันไปแล้ว คราวนี้ผมจะมาพูดถึงเนื้อเรื่องในภาคแรกกันต่อเลยน

    มันคือ จุดกำเนิดของเกม Resident Evil


    เพิ่มความรู้รกหัวกันสักนิดครับ Resident Evil ภาคแรกเป็นภาคที่วางตลาดในวันที่ 22 มีนาคม 1996 ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษตามมาในวันที่ 30 มีนาคม 1996 บนเครื่อง Playstation ก่อนที่จะมีการทำลงเครื่อง PC และเครื่อง Sega Saturn ในปีต่อมาครับ


    ตัวละครหลักทีมอัลฟ่า


    Albert Wesker
    หัวหน้าหน่วย S.T.A.R.S.


    Christ Redfield
    ฝ่ายแม่นปืน


    Jill Valentine
    ฝ่ายคุ้มกัน


    Barry Burton
    ฝ่ายสนับสนุนด้านยุทโธปกรณ์



    ตัวประกอบทีมอัลฟ่า


    Brad Vickers
    คนขับเครื่องบิน
    โปรแกรมเมอร์


    Joseph Frost
    ฝ่ายช่างเทคนิค


    เหล่าสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. ทั้งหมด (ก่อนที่รีเบคก้าจะเข้าทีม)





    เรียงจากซ้ายไปขวานะ
    แถวบน : Kevin Dooley | Forest Speyer | Kenneth J. Sullivan | Brad Vickers | Albert Wesker | Barry Burton | Edward Dewey
    แถวล่าง : Richard Aiken | Enrico Marini | Christ Redfield | Jill Valentine | Joseph Frost



    หมายเหตุ : ในบทความนี้ ผมขอนำรูปจากภาค Remake ที่ลงเครื่อง Gamecube มาใช้นะครับ เนื่องจากมีเนื้อเรื่องเพิ่มเติมที่มากกว่า และกราฟฟิกดีกว่า


    เมื่อทีมอัลฟ่าเดินทางมาถึงก็พบกับเครื่องบินของทีมบราโว่ที่ลงจอดฉุกเฉิน ทางทีมอัลฟ่าจึงตัดสินใจจอดเครื่องบินไว้ที่บริเวณใกล้เีคียงและในระหว่างการสำรวจซากเครื่องบินนั้นเองก็ได้พบกับซากของนักบิน เควิน ดูเลย์ ของทีมบราโว่ ทีมอัลฟ่าจึงกระจายกำลังออกค้นหาผู้ที่ยังมีชีวิตรอด แต่ว่า โจเซฟ ฟรอส ได้ถูกฝูงสุนัขประหลาดรุมจู่โจมจนเสียชีวิต ในขณะที่จิลพยายามยิงช่วย แต่ด้วยความช็อคจึงยิงพลาด พวกสุนัขป่าจึงหันมารุมทำร้ายจิล ซึ่งคริสต์ก็มาช่วยเอาไว้ได้ ส่วนแบรด คนขับเครื่องบินก็ตกใจกลัวจึงขับเครื่องบินหนีออกไปก่อน ทั้งสองคนจึงต้องรีบหนีออกจากบริเวณนั้น ไปยังคฤหาสน์ร้างที่อยู่ตรงหน้า โดยมีเวสเกอร์และแบรี่คอยยิงคุ้มกันจนสามารถหนีเข้าไปในคฤหาสน์ได้





    หลังจากเข้ามาในคฤหาสน์แล้ว หากเล่นเนื้อเรื่อง จิล จะเหลือแค่ จิล แบรี่ เวสเกอร์ โดยคริสต์จะพลัดหลงทางไป แต่หากเล่นเนื้อเรื่องคริสต์ จะมีคริสต์ จิล และเวสเกอร์ ส่วนแบรี่จะพลัดหลงทางไปครับ หลังจากเข้ามาได้สักพักจะได้ยินเสียงปืน ซึ่งถ้าเล่นเนื้อเรื่องคริสต์ คริสต์จะเป็นผู้อาสาไปสำรวจเสียงนั้น แต่หากเล่นจิล เวสเกอร์จะสั่งให้จิลออกสำรวจโดยมีแบรี่ตามไปด้วย




    ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเลือกเล่นใครก็ตาม ผู้ที่ไปสำรวจจะพบกับซอมบี้ ที่กำลังกัดกินสุลิแวน เจ้าหน้าที่ทีมบราโว่ที่หายสาบสูญไป ซึ่ง ณ.เวลานั้นก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันแล้ว และนี้คือหน้าตาของเจ้าซอมบี้ตัวแรกของเกมซีรี่ส์นีั้ ที่เพื่อนๆ หลายคนจำหน้ามันติดตา ผมเอามาให้เพื่อนๆ ชมกันอีกทั้ง 2 เวอร์ชั่นเลยครับ






    หลังจากจัดการซอมบี้ตัวแรกได้แล้ว เมื่อย้อนกลับไปรายงานเวสเกอร์ ก็ไม่พบเวสเกอร์แล้ว หากเล่นเนื้อเรื่องคริสต์ จะพบว่ามีปืนตกอยู่ให้เก็บแล้วเดินเรื่องต่อไปครับ (ค่อยยังชั่ว)




    เนื้อเรื่องของคริสต์กับจิลจากนี้ไปจะค่อนข้างต่างกันนะ ผมจะพยายามเล่าให้ควบคู่กันไปเพื่อที่จะไม่เสียอรรถรสนะ





    หว่างการเดินทางก็ได้พบกับสมาชิกทีมบราโว่อีกคนที่กลายเป็นซอมบี้ไปก็คือฟอเรสต์ที่ถูกรุมแทะจนตัวแหว่งไปเลยเราจึงตัดสินใจที่จะจบชีวิตของเขาในคราบซอมบี้ซะ หลังจากเดินทางต่อไปอีกสักพัก หากเล่นเนื้อเรื่องคริสต์ จะพบกับเจ้าหน้าที่ของทีมบราโว่อีกคนคือ ริชาร์ด ที่ถูกพิษของงูยักษ์ ยอว์น และมีรีเบคก้าคอยปฐมพยาบาลอยู่ รีเบคก้าได้รายงานสถานการณ์ให้คริสต์ทราบ และขอให้คริสต์ช่วยนำเซรุ่มมาเพื่อช่วยรักษา ซึ่งหากรักษาทันเวลา ริชาร์ดจะช่วยคริสต์จากการถูกปลาฉลามเนปจูนทำร้าย แต่หากเล่นจิล ริชาร์ดจะถูกยอว์นฆ่าตาย




    หลังจากที่กำจัดงูยักษ์ ยอว์น ได้ จะได้ข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ถูกสเปนเซอร์ขังไว้ในห้องใต้ดิน ซึ่งต่อมาก็ไ้ด้รับข้อความจากเวสเกอร์ ให้ระวัง "มอนสเตอร์ที่ถูกโซ่ล่ามเอาไว้" และระหว่างที่กำลังสืบสวนเรื่องราวในคฤหาสน์ จิลก็ได้ยินเสียงแบรี่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคน



    จากนั้นก็มาพบตัวเอนริโก้ หัวหน้าทีมบราโว่ ที่กำลังบาดเจ็บอยู่เขาพยายามที่จะเตือนถึงเรื่องการที่มีสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. ทรยศแต่ก็ถูกลอบสังหารโดยไม่ทันได้บอกว่าใครคือคนทรยศคนนั้น


    ในทางเดินถ้ำใต้ดิน ก็มีการปะทะกับ ลิซ่า เทรเวอร์ ลูกสาวของ จอร์จ เทรเวอร์ ที่ถูกสเปนเซอร์ฉีดเชื้อไวรัสเข้าไป แล้วจับตัวมาทดลอง ด้วยความแค้นที่มีต่อ Umbrella ผสมกับความทุกข์ทรมานของตน ทำให้ลิซ่าออกอาละวาดหมายที่จะทำให้มนุษย์ได้เจ็บปวดเช่นเดียวกับตัวเอง แต่หลังจากที่ได้พบศพแม่ของตัวเองแล้ว ลิซ่าก็ได้เดินตกลงไปในส่วนลึกสุดของถ้ำ




    หลังจากหลบหนีจากการไล่ล่าของลิซ่าได้ทั้งคริสต์และจิลก็จะมาอยู่ที่ห้องทดลองใต้ดิน และที่นั่นทำให้ทั้งคู่ค้นพบความจริงเกี่ยวกับบริษัท Umbrella ว่าเป็นต้นตอของเหตุซอมบี้อาละวาดในครั้งนี้ คริสต์ได้พบกับรีเบคก้าอีกครั้ง ส่วนจิลก็พบความจริงว่าเวสเกอร์เคยเป็นเจ้าหน้าที่เก่าของ Umbrella และในขณะที่กำลังตามเวสเกอร์ ก็ถูกแบรี่ชี้ปืนขู่สกัดเอาไว้ และพาไปพบกับเวสเกอร์ โดยเวสเกอร์ก็เปิดเผยว่าตัวเขาจับลูกและภรรยาของแบรี่ไว้เป็นตัวประกัน แล้ววางแผนกับแบรี่เรื่องการหักหลังทีม S.T.A.R.S. แบรี่จึงจำใจต้องทำ





    จากนั้นเวสเกอร์ก็บอกว่า ตนได้ตั้งโปรแกรมกับ Tyrant 001 ตัวที่อยู่ในห้องนั้นเอาไว้แล้ว ว่าให้ตามล่าและฆ่าเจ้าหน้าที่ S.T.A.R.S. ที่เหลือทั้งหมด แต่ในขณะที่เวสเกอร์กำลังจะยิงจิลทิ้ง แบรี่ก็กลับใจและจัดการยิงเวสเกอร์จนล้มลงไป เวสเกอร์จึงรีบปลดปล่อยให้ Tyrant ออกมาเพื่อจัดการจิลกับแบรี่ แต่ตัวเองกลับถูก Tyrant ฆ่าตายซะเอง ทำให้เราต้องต่อสู้กับ Tyrant ที่กำลังเปลี่ยนเป้าหมายมาไล่ล่าเราตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ต่อไป





    หลังจากที่จัดการกับ Tyrant ลงได้ ก็ได้รับเมลจากแบรดว่าเขาตัดสินใจจะกลับมารับทุกคนกลับไป ทุกคนจึงมารอแบรดที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แต่ Tyrant ก็ยังคงตามออกมาและไล่ล่าทุกคนทำให้แบรดไม่กล้าลงจอดเครื่องบินรับ แต่หลังจากที่เห็นทุกคนกำลังพยายามต่อสู้กับ Tyrant เขาจึงรวมความกล้า โยนปืน Rocket Launcher ให้เพื่อนสังหาร Tyrant และหลบหนีออกจากคฤหาสน์ได้ ก่อนที่ระเบิดอัตโนมัติจะทำลายคฤหาสน์ให้เป็นจุล ส่วนเฮลิคอปเตอร์ก็พาทุกคนมาส่งยังเมืองแรคคูนได้อย่างปลอดภัย








    ปิดท้ายด้วยภาพฉากจบทั้งจากเวอร์ชั่นแรก และเวอร์ชั่น Remake





    สรุปเส้นทางของตัวละคร Resident Evil หลังจบภาคแรก


    หลังจากที่ระบบทำลายตัวเองของคฤหาสน์เริ่มทำงาน เวสเกอร์ที่ถูก Tyrant โจมตีและน่าจะตายไปแล้ว ได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยไวรัสสายพันธุ์พิเศษที่ได้รับมาจาก ดร.วิลเลียม เบอร์กินส์ เขาพยายามดึงข้อมูลจาก Umbrella ออกมาแต่เนื่องจากเวสเกอร์หายออกไปจากองค์กรของ Umbrella เป็นเวลานานทำให้ ID ของเขากลับถูกบล็อคเอาไว้โดย Red Queen ด้วยเวลาที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ทำให้เวสเกอร์ต้องเปลี่ยนแผนเป็นรีบหนีออกจากคฤหาสน์โดยเร็วที่สุด แต่ก็ต้องปะทะกับ ลิซ่า เทรเวอร์ ที่ออกมาตามล้างแค้นเวสเกอร์ไม่หยุด เวสเกอร์จึงจัดการปลิดชีพลิซ่าและหลบหนีออกมาจากคฤหาสน์ได้สำเร็จและหายสาบสูญไป


    ด้านรีเบคก้า หลังจากกลับมาที่เมืองแรคคูนได้ ก็เขียนรายงานเรื่องบิลลี่ โคเอน ว่าเสียชีวิตไปในเหตุการณ์ซอมบี้อาละวาดบนเทือกเขาอาร์คเลย์ ส่วนตัวเองได้ออกจากหน่วย S.T.A.R.S. เดินทางไปนอกเมืองแรคคูน ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มีเนื้อเรื่องส่วนไหนที่กล่าวถึงรีเบคก้าอีกเลย



    และหลังกลับมาจากคฤหาสน์ได้ ทั้งคริส, จิล และแบรี่ ได้รายงานเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับ ไบรอัน ไอรอน หัวหน้าตำรวจประจำเมืองแรคคูน แต่เรื่องราวทุกอย่างก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆเนื่องจาก ไอรอน รับสินบนจาก Umbrella ให้ปิดคดีนี้เอาไว้ คริสต์และจิล จึงออกสืบหาข้อมูลเพื่อจัดการกับ Umbrella ด้วยตัวเอง โดยคริสต์เดินทางไปสืบสวนที่ยุโรป จิลอยู่สืบสวนที่เมืองแรคคูนต่อไป ส่วนแบรี่ก็กลับไปพบภรรยาและลูก โดยให้คำสัญญาว่าจะกลับมาช่วยเหลือคริสต์และจิลในภายหลัง
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย momaykissxsis : 12th March 2013 เมื่อ 20:19


  2. #2
    CM_The News Game
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,431
    กล่าวขอบคุณ
    956
    ได้รับคำขอบคุณ: 26,650
    Blog Entries
    3
    เนื้อเรื่อง Resident Evil 2 มหันตภัยที่คืบคลานสู่เมืองแรคคูน



    ต่อเนื่องกันเลยนะครับ กับเนื้อเรื่องของเกม Resident Evil 2 ซึ่งคราวนี้เชื้อร้ายได้แพร่ระบาดมายังเมืองแรคคูน เปลี่ยนชาวเมืองทั้งเมืองให้กลายเป็นซอมบี้ ส่วนตัวผมคิดว่า ภาค Resident Evil 2 นี่แหละครับ เป็นภาคที่ทำให้เกมนี้เริ่มดังขึ้นมา และเป็นที่รู้จักไปทั่ว เนื่องจากระบบการเล่นที่มีการเกี่ยวโยงกันในระหว่าง 2 คน แถมยังเล่นสลับเนื้อเรื่องได้ ซึ่งเป็นระบบที่น่าสนใจมากๆ ในยุคนั้นเลยทีเดียวครับ






    หตุการณ์เริ่มต้นในอีก 2 เดือนต่อมา หลังจากเหตุการณ์สยองขวัญในคฤหาสน์ลึกลับบนเขาอาร์คเลย์ ชานเมืองแรคคูน เมื่อ ด.ร.วิลเลียม ที่แยกตัวออกมาตั้งศูนย์วิจัยที่ใต้ดินเมืองแรคคูน ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาไวรัส G เป็นที่เรียบร้อย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของ Umbrella แต่กลับมีปัญหากับทาง Umbrella ซะก่อน เขาจึงคิดจะเก็บ G ไวรัสไว้แล้วนำไปขายให้กับรัฐบาลของสหรัฐ





    Umbrella ก็ไหวตัวทัน จึงส่งหน่วยพิเศษ USS (Umbrella Security Survice) ทีมอัลฟ่า นำโดย Hunk มาเพื่อสังหารและแย่งชิงไวรัส G ไปจาก ดร.วิลเลียม ทางวิลเลียมเองก็รู้แผนของ Umbrella เช่นกัน จึงขอความคุ้มครองจากรัฐบาล แต่ทว่าหน่วยคุ้มครองของรัฐบาลมาไม่ทัน ดร.วิลเลียมถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัสและไวรัส G ก็ได้ถูกโขมยไป แต่เขายังมีหลอดไวรัส G ตัวทดลองเก็บไว้อยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ Umbrella แย่งชิงไวรัสไปได้ จึงทำการฉีดไวรัสเข้าตัวเอง และกลายพันธุ์เป็นตัวประหลาดที่ทุกคนรู้จักกันดีในนาม "G"




    G ได้ออกไล่ล่าหน่วย U.S.S.ทีมอัลฟ่าผ่านทางระบายน้ำ ล้มตายจนเกือบหมด แถมหลอดไวรัส T ก็แตกกระจายในท่อระบายน้ำแห่งนั้น เหล่าหนูและแมลงในทางระบายน้ำ ก็เป็นพาหะนำเชื้อไวรัส T ออกไปในเมือง ทำให้ในเวลาไม่นาน ชาวเมืองแรคคูนที่ติดเชื้อก็เริ่มกัดและแพร่ระบาดเชื้อโรคไปทั่วทั้งเมืองในเวลาข้ามคืนเท่านั้น









    ลีออน สก๊อต เคเนดี้ นายตำรวจหน้าใหม่ที่กำลังจะขับรถเข้าเมืองแรคคูนเพื่อมารับหน้าที่เป็นวันแรก ก็ได้พบว่า เมืองทั้งเมืองผิดปกติไปจนกลายเป็นเมืองร้าง แถมมีเหล่าซอมบี้ออกมาเดินเพ่นพ่านอีกด้วย ในเวลานั้นเอง ลีออนก็ได้พบกับ แคลร์ เรดฟิลด์ น้องสาวของ คริสต์ เรดฟิลด์ ที่เดินทางเข้ามาที่เมืองแรคคูนเพื่อตามหาพี่ชายของตัวเอง


    ลีออนได้ช่วยเหลือแคลร์เอาไว้ได้และพาแคลร์ไปที่สถานีตำรวจ Racoon Police Department หรือ R.P.D.ที่ตนประจำอยู่ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุกลางทางทำให้ทั้งคู่แยกทางกัน ซึ่งลีออนได้ตะโกนบอกแคลร์ให้ไปรวมตัวกันในสถานีตำรวจ R.P.D.




    หลังจากที่ทั้งคู่ไปรวมกันที่สถานีแล้วก็พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของที่นี่เองก็เป็นซอมบี้กันไปเยอะเหมือนกัน ทั้งคู่มาพบกันอีกครั้งในออฟฟิศของหน่วย S.T.A.R.S.ลีออนได้มอบบันทึกของคริสต์ให้กับแคลร์ ซึ่งคริสต์ได้บันทึกเอาไว้ว่า ตนจะออกไปสืบสวนเรื่องราวต่างๆ ที่ยุโรป ลีออนกับแคลร์จึงตกลงกันว่าจะแยกกันตามหาพร้อมช่วยผู้รอดชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ และหาทางหนีออกจากเมืองนี้ให้ได้




    หลังจากแยกทางกัน แคลร์ได้มาพบกับเชอรี่ที่กำลังถูกทำร้ายโดยบังเอิญแคลร์จึงพยายามตามตัวและช่วยเชอรี่ และได้พบกับ ไบรอัน ไอรอน หัวหน้าตำรวจในสถานี R.P.D. แห่งนี้ ซึ่งแคลร์ได้รู้ความจริงทีหลังเรื่องการติดสินบนของ Umbrella เพื่อปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเขาอาร์คเลย์ชานเมืองแรคคูน แต่เมื่อแคลร์รู้ความลับนี้แล้ว ไอรอนจึงพยายามปิดปากแคลร์ แต่ตัวอ่อน G ในร่างของเขาที่ถูกฝังเอาไว้ก็เจาะทะลุร่างกายเขาออกมาได้ และหนีลงไปทางระบายน้ำใต้ดิน หลังจากผ่านมาได้เชอรี่ก็ถูกท่อระบายน้ำดูดให้พลัดหลงกับแคลร์อีก


    ส่วนทางลีออนก็ปะทะกับ BOWs ดัดแปลง Tyrant-103 ที่ทาง Umbrella ส่งมาเพื่อตามหาตัวอย่างไวรัส G ที่อยู่ในจี้ห้อยคอของเชอรี่ และก็ได้พบเอด้าที่บอกว่ามาตามหาแฟนหนุ่มชื่อจอห์น ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ของ Umbrella ลีออนก็ได้คอยให้การช่วยเหลือตลอด เมื่อถึงช่วงที่แยกทางกัน เอด้าก็มาพบกับเชอรี่ โดยเอด้าเก็บจี้ห้อยคอของเชอรี่ที่ทำตกไว้ได้ก่อนที่เชอรี่จะวิ่งหนีไป แล้วก็กลับมาพบกับลีออนอีกครั้ง โดยลีออนพยายามกำชับให้เอด้าอยู่ใกล้ๆ จะได้คอยคุ้มครองได้ ซึ่งเอด้าเองก็ถึงจะรำคาญ แต่ก็ยอมตามลีออนไปก่อนเพราะยังคิดว่าใช้ประโยชน์ได้อยู่





    ต่อมาทั้งสองคนก็พบกับผู้หญิงท่าทางแปลกๆ ที่ยิงปืนใส่เอด้า ลีออนกระโดดมาขวางไว้ได้ แต่ก็โดนยิงจนสลบไป เอด้าตามผู้หญิงแปลกหน้าต่อไปจนเจอตัว ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็แนะนำตัวว่าเธอคือ แอนเนต เบอร์กินส์ แม่ของเชอรี่ และเป็นภรรยาของ ดร.วิลเลียม ระหว่างที่แอนเนตอธิบายเรื่องราวให้เอด้าฟัง ก็เห็นจี้ห้อยคอของเชอรี่ จึงพยายามแย่งคืนมา แต่ก็พลัดตกลงมายังบ่อน้ำด้านล่าง ด้วยความสงสัยเอด้าจึงเปิดจี้ห้อยคอดู แล้วพบตัวอย่างเชื้อไวรัส G เอด้าจึงเก็บเอาไว้ แล้วไปรักษาแผลให้ลีออน



    ทางแคลร์ก็ตามหาเชอรี่จนเจอตัว และพบว่า ดร.วิลเลียม ได้ฝังตัวอ่อนของ G ลงไปในตัวของเชอรี่ด้วยเช่นกัน เพื่อให้กำเนิดอสูรกลายพันธุ์ตัวใหม่ ทั้งคู่ได้เดินทางหาทางออกต่อไปจนมาพบกับเส้นทางที่จะเชื่อมต่อไปยังศูนย์วิจัยใต้ดินของ ดร.วิลเลียม ซึ่งลีออนก็ลงมาด้วยเช่นกัน แต่เอด้ากลับถูก G โจมตีระหว่างทางจนได้รับบาดเจ็บ ลีออนจึงออกตามหายาในศูนย์วิจัยเพื่อนำมารักษาเอด้าแต่ถูกแอนเนตขวางเอาไว้ และพยายามบอกให้ลีออนรู้ เรื่องเอด้าเป็นสปายจากบริษัทอื่นที่เข้ามาเพื่อลักลับโขมยไวรัส G และในจังหวะที่แอนเนตกำลังจะยิงลีออน ก็มีเจ้า Tyrant T-103 ออกมาขัดจังหวะ แอนเนตจึงรีบหนีไป


    เอด้าที่ตามมาช่วยลีออนทีหลังก็ยิงสู้กับ Tyrant-103 จนได้รับบาดเจ็บปางตาย ส่วนTyrant-103 ได้พลัดตกลงไปในบ่อไฟ เอด้าได้บอกรักลีออนก่อนจะสิ้นใจ สร้างความโกรธแค้นให้แก่ลีออนเป็นอย่างมาก และจากการต่อสู้ของเอด้าและ Tyrant-103 ทำให้ระบบทำลายตัวเองของศูนย์วิจัยทำงาน




    ส่วนทางแอนเนตที่เตรียมจะหนีไปพร้อมต้วอย่างไวรัส G ที่เหลืออยู่ก็ถูก ดร.วิลเลียมเข้าทำร้ายจนปางตายอีกเช่นกัน โดยก่อนตายแอนเนตได้บอกแคลร์เรื่องการนำวัคซีนหยุดการกลายร่างของตัวอ่อนไวรัส G ในตัวเชอรี่ให้แคลร์ทราบ ทางแคลร์จึงฝากเชอรี่ไว้กับลีออน แล้วตัวเองก็เข้าไปหาวัคซีนในห้องทดลองมารักษาเชอรี่แต่ระหว่างทางไปรวมตัวที่จุดนัดพบ ก็ถูก G ที่กลายพันธุ์ไปถึงขั้นที่ 4 โผล่มาขวางไว้ โดยหลังจากกำจัดได้ แคลร์ก็รีบไปรวมตัวกับลีออนทันที


    ทางลีออนที่พาเชอรี่ออกมาก่อนก็ได้พามาถึงชานชาลารถไฟ เขาพยายามเปิดการทำงานของรถไฟ แต่ก็ไม่เป็นผล เขาจึงต้องออกไปเปิดระบบควบคุมที่ชานชาลาก่อน ซึ่งที่นั่นลีออนก็ได้ปะทะกับ Tyrant-103 อีกครั้งในร่างของ Tyrant R ซึ่งเป็นการตั้งโปรแกรมเอาไว้ว่าไวรัสในตัวของ Tyrant-103 จะทำงานเมื่อบาดเจ็บสาหัสหรืออยู่ในอาการปางตาย (วิธีเดียวกับเวสเกอร์ใช้ในภาคแรก) ลีออนพยายามวิ่งหนีและตอบโต้ แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะโดยส่วนตัว Tyrant-103 เองก็ฆ่าให้ตายไม่ได้ง่ายๆ อยู่แล้ว ยิ่งรวมกับไวรัสด้วย ทำให้ร่างกายของมันแทบจะคงกระพันเลยทีเดียวแต่สักพัก ก็มีผู้หญิงลึกลับคนหนึ่ง โยนปืน Rocket Launcher พร้อมบอกให้ลีออนใช้จัดการเจ้า Tyrant R ลีออนรีบหยิบปืนนั้นแล้วใช้มันจัดการแก้แค้นให้เอด้าได้สำเร็จ แต่ในใจลีออนก็ยังคงมีความสงสัยต่อเสียงผู้หญิงลึกลับคนนั้น หลังจากที่รถไฟเคลื่อนขบวนได้ แคลร์ที่มาถึงพอดีก็ตามขึ้นรถไฟได้ทัน ซึ่งแคลร์ก็นำวัคซีนที่ได้มาใช้รักษาเชอรี่สำเร็จ



    เรื่องราวดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ทว่า G ยังคงไล่ตามมาอยู่ โดยคราวนี้เขาได้กลายร่างเป็นขั้นที่ 5 เกาะโบกี้รถไฟมาด้วยลีออนจึงอาสาไปจัดการมันให้สิ้นซาก แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการได้ เนื่องจาก G สามารถฟื้นคืนพลังชีวิตตัวเองได้อย่างรวดเร็วมากจนเหมือนเป็นอมตะ เชอรี่ที่พอตั้งสติได้จึงมุดไปที่ห้องคนขับ แลัวจัดการหยุดรถไฟเอาไว้ ใ้ห้ลีออนกับแคลร์หนีออกมาจากรถไฟและวิ่งออกจากอุโมงค์รถไฟได้ทันซึ่งระบบทำลายตัวเองก็ได้ระเบิดออก พร้อมทำลายทุกอย่างในศูนย์วิจัยรวมทั้งขบวนรถไฟและตัวของ G จนไม่เหลือซาก... เป็นการปิดฉากเรื่องราวของ Resident Evil 2 อย่าง Happy Ending (?)




    สรุปเส้นทางของตัวละคร หลังจบภาค Resident Evil 2



    แคลร์ เรดฟิลด์ ออกตามหาคริสต์ เรดฟิล์ด พี่ชายของตนเองต่อไป หลังจากทราบเบาะแสว่าคริสต์เดินทางไปสืบเรื่องราวของ Umbrella ที่ยุโรป จากบันทึกที่หลงเหลืออยู่ที่ออฟฟิศของหน่วย S.T.A.R.S. โดยฝากเชอรี่ให้ลีออนพากลับไปพร้อมกับทีมช่วยเหลือของรัฐบาล


    สำหรับเชอรี่ หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ก็ถูกพบว่าไวรัส G ในตัวเชอรี่ยังคงอยู่ แต่ไวรัสก็ไม่แสดงอาการอะไรออกมาเช่นกัน ทางรัฐบาลจึงกักตัวเชอรี่ไว้ทดลองต่อไปในฐานะ "สิ่งที่มีภูมิต้านไวรัส" และแม้จะถูกทดลองในหลายต่อหลายวิธีจนทุกข์ทรมานแค่ไหน เชอรี่ก็ไม่ย่อท้อ เนื่องจากถือภาพลักษ์ของแคลร์ที่คอยปกป้องตัวเองเป็นแบบอย่าง จนเติบใหญ่ เชอรี่ได้เข้าบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของทางรัฐบาล โดยยังคงมีเชื้อไวรัส G ติดตัวอยู่จนทุกวันนี้


    ลีออนเองก็เช่นกัน หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล ถูกสอบสวนยกใหญ่ เบื้องต้นลีออนพยายามกันไม่ให้รัฐบาลยุ่งกับเชอรี่ แต่รัฐบาลรู้ความจริงเรื่องเชอรี่แล้ว พร้อมๆ กับเรื่องราวของลีออนก็เช่นกัน รัฐบาลจึงได้เกลี้ยกล่อมแกมบังคับลีออน ว่าถ้าอยากให้ปัญหาทุกอย่างสิ้นสุดลงโดยเร็ว ก็ให้มาเข้าร่วมเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของรัฐบาล


    ส่วนเอด้านั้น หลังจากแกล้งตายเพื่อหาเรื่องปลีกตัวออกจากกลุ่มของลีออนได้สำเร็จ เอด้าก็ได้แอบช่วยลีออนอย่างลับๆ โดยการโยนปืน Rocket Launcher ให้ลีออนใช้จัดการกับ Tyrant R จากนั้นก็รีบหนีออกจากศูนย์วิจัยไปยังโรงแรม Apple Inn ตามที่นัดไว้กับองค์กรณ์ที่ 3 แต่ก็พบว่าคนๆ นั้นตายไปแล้ว เวสเกอร์ที่เฝ้าจับตาดูอยู่ก็เห็นว่าเอด้าสามารถนำไวรัส G มาจากศูนย์วิจัยได้ จึงบอกกับเอด้าว่ารัฐบาลกำลังยิงจรวดมิดไซล์ถล่มเมืองแรคคูนในอีกไม่นาน ให้รีบหนีออกมาจากเมืองนี้โดยเร็วที่สุดโดยแนะนำทางไปยังเฮลิคอปเตอร์ ที่กำลังอพยพเจ้าหน้าที่ของ Umbrella หนีออกไปจากเมือง ซึ่งเอด้าก็สามารถฝ่าดงซอมบี้ออกไปติดเครื่องบิรหนีได้ทันเวลาพอดี

    จบไปอีกภาคแลัวนะครับ สำหรับเรื่องราวของ Resident Evil ภาค 2 หวังว่าเพื่อนๆ จะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้มากขึ้นอีกหน่อยแล้วล่ะนะ



    เนื้อเรื่อง Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 1 'ตระกูลแอชฟอร์ดและการกลับมาของเวสเกอร์'



    ว่ากันด้วยเรื่องของ Resident Evil : Code Veronica

    ภาค Resident Evil : Code Veronica ถ้าจะนับให้ถูกก็ถือเป็นภาค 4 ของเกมซีรี่ส์ Resident Evil วางจำหน่ายครั้งแรกในเครื่อง Dreamcast ในปี 2000 ก่อนที่จะพอร์ตมาลงเครื่อง Play Station 2 ในปี 2001 และมีพอร์ตอีกครั้งในเครื่อง Gamecube ตอนปี 2003 และในปัจจุบันนั้นสามารถหาซื้อแผ่นสำหรับเครื่อง Play Station 3 กับ เครื่อง XBOX360 ได้ในรูปแบบ Re-Maser HD หรือซื้อผ่านทาง Play Station Store กับ XBOXLive ก็ได้ครับ


    ย้อนความ Umbrella และตระกูล Ashford




    ย้อนกลับไปยังช่วงเนื้อเรื่องที่ขาดหายไปของ Umbrella ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงแต่แรก เพราะต้องการนำมาเล่าในช่วงของตอนนี้ ก็คือเนื้อเรื่องของ อเล็กซานเดอร์ แอชฟอร์ด ลูกชาย เอ็ดเวิร์ด แอชฟอร์ด ที่ย้ายงานวิจัยไวรัสโปรเจนิสเตอร์ของพ่อมาทำที่เกาะร็อคฟอร์ดในแอนตาร์คติคหลังจากที่พ่อของเขาตาย เขามีความเชี่ยวชาญทางด้านพันธุกรรมของมนุษย์ โดยเขาได้นำเอา DNA ของตัวเอง และของย่าทวดที่ชื่อ Veronica มาโคลนนิ่งออกมาเป็นเด็กฝาแฝดชาย-หญิงโดย อัลเฟรด ผู้เป็นลูกชายและ อเล็กเซีย ลูกสาวอย่างละคน


    ในขณะที่อัลเฟรดเป็นเด็กธรรมดาไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่อเล็กเซียกลับมีมันสมองที่เป็นเลิศ จนสามารถจบมหาลัยและเข้าร่วมเป็นนักวิจัยใน Umbrella สาขาแอนตาร์คติคด้วยวัยเพียง 10 ขวบเท่านั้น ทำให้ ดร.วิลเลียม เกิดความรู้สึกอิจฉาและพยายามเอาชนะอเล็กเซียให้ได้ เพราะเคยคิดว่าตนเป็นคนที่เพอร์เฟคที่สุดเพราะสามารถเข้าเป็นนักวิจัยใน Umbrella ด้วยวัยเพียง18 ปี



    ทางอัลเฟรดก็ได้ค้นพบความจริงจากบันทึกของอเล็กซานเดอร์ในเวลาต่อมา ว่าตัวเองเป็นเพียงแค่มนุษย์โคลนนิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบอย่างอเล็กเซีย จึงนำเรื่องที่ตนกับอเล็กเซียเป็นเพียงมนุษย์โคลนนิ่งมาชวนให้อเล็กเซียร่วมมือกับตนจับอเล็กซานเดอร์มาเป็นตัวลองไวรัส T-Veronica ตัวต้นแบบ แต่เกิดความผิดพลาด ทำให้อเล็กซานเดอร์เป็นมนุษย์กลายพันธฺุ์ ทั้งสองคนจึงนำตัวอเล็กซานเดอร์ไปขังไว้ในคุกใต้ดินของศูนย์วิจัยขั้วโลกใต้





    หลังจากที่เกิดความผิดพลาดทางอเล็กเซียก็ได้พัฒนาเชื้อไวรัส T-Veronica ต่อจนสมบูรณ์ และทำการใช้กับตัวเอง โดยการแช่แข็งจำศีลตัวเองเป็นเวลา 14 ปี เพื่อให้เชิ้อไวรัสดูดซึมเข้าสู่ร่างกายตัวเองโดยสมบูรณ์แบบ โดยในช่วงเวลานี้ อเล็กเซียก็ได้ฝากฝังให้อัลเฟรดคอยดูแลศูนย์วิจัยที่แอนตาร์คติคไว้ และอัลเฟรดก็ได้ปล่อยข่าวลือออกไปว่า อเล็กเซียตายแล้ว เพื่อให้การจำศีลของอเล็กเซียเป็นไปอย่างราบรื่น


    เกาะร็อคฟอร์ด



    เรื่องราวส่วนหนึ่งของภาคนี้ เริ่มต้นที่เกาะร็อคฟอร์ด ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ของ Umbrella ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทวีปแอนตาร์คติค ใช้เป็นคุกสำหรับกักขังเหล่านักโทษที่ทำตัวเป็นกบฏภายในองค์กรของ Umbrella เอง หนึ่งในตัวละครหลักที่ถูกขังอยู่ในนี้ด้วยก็คือ สตีฟ เบิร์นไซด์ ที่ถูกขังพร้อมกับพ่อของตัวเองทีเป็นพนักงานใน Umbrella มาก่อน เพราะว่าพ่อของสตีฟนำความลับของ Umbrella ไปประมูลขาย ทำให้ทั้งสตีฟและพ่อของเขาถูกนำมาขังไว้ที่คุกบนเกาะร็อคฟอร์ดด้วย


    นอกจากนี้เกาะร็อคฟอร์ดยังใช้เป็นสถานที่สำหรับฝึกฝนหน่วยรบพิเศษอย่าง U.S.S. (Umbrella Security Service) ซึ่งเป็นหน่วยที่ทาง Umbrella ส่งมาโขมยไวรัส G และทำลายหลักฐานในเมืองแรคคูนในภาค Operation Raccoon City และนอกจากนี้ก็ยังใช้เป็นศูนย์วิจัยย่อยจากสาขาแอนตาร์ติคอีกทีหนึ่งด้วย


    กลับสู่เนื้อเรื่องปัจจุบัน (ของเกม)


    เกือบ 3 เดือน หลังจากการล่มสลายของเมืองแรคคูน (ไม่ระบุวันที่แน่นอน) แคลร์ เรดฟิลด์ น้องสาวของ คริสต์ เรดฟิลด์ ยังคงออกตามหาพี่ชายที่ยุโรป จนสามารถสืบหาเบาะแสจนสามารถเข้าถึง Umbrella สาขาปารีส ในประเทศฝรั่งเศสได้ แต่พลาดท่าถูกโรดิโก้จับตัวไว้ได้และถูกส่งตัวมายังเกาะร็อคฟอร์ดในฐานะนักโทษของ Umbrella

    วันที่ 27 ธันวาคม 1998



    อัลเบิร์ด เวสเกอร์ อดีตนักวิจัยของ Umbrella และหัวหน้าหน่วย S.T.A.R.S. ที่หายสาบสูญไปหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เขาได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในฐานะผู้นำของหน่วย H.C.F. (Hive/Host Capture Force) ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษจากองค์กรปริศนา ที่เวสเกอร์ทำงานด้วย โดยเวสเกอร์ได้นำกองกำลัง H.C.F. บุกเข้ายึดเกาะร็อคฟอร์ดเพื่อพยายามโขมยไวรัส T-Veronica จากอัลเฟรด


    การโจมตีในครั้งนี้ มีทั้งการส่งทหารราบและทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบ สร้างความเสียหายไปทั่วทั้งเกาะรวมไปถึงคุกใต้ดินของเกาะร็อคฟอร์ดด้วย และที่สำคัญก็คือ การโจมตีเกาะร็อคฟอร์ดในครั้งนี้ ทำให้เชื้อไวรัส T ที่อยู่ในห้องทดลองแพร่กระจายสู่เหล่าคนของ Umbrella และนักโทษบนเกาะจนทำให้กลายเป็นซอมบี้กันไปเกือบทั้งเกาะแถมยังมีเหล่า B.O.W.s. หลุดออกมาอาละวาดอีกด้วย


    สตีฟ เบิร์นไซด์ อาศัยเหตุการณ์นี้หนีรอดออกมาจากคุกที่ีถูกโจมตีจนพังเสียหาย ได้สำเร็จและกำลังหาทางหนีรอดออกจากเกาะนี้ให้ได้ ทางแคลร์ เรดฟิลด์ ที่โดน โรดิโก้ จับตัวมาก็ถูกโรดิโก้ปล่อยตัวไป เพราะคิดว่ายังไงแคลร์ก็ไม่น่าจะรอดจากเกาะนี้ไปได้ ซึ่งระหว่างที่แคลร์ และ สตีฟต่างพยายามหนีเอาตัวรอด ก็ได้มาพบกัน แล้วเหตุการณ์บนเกาะร็อคฟอร์ด ของ Resident Evil : Code Veronica ของ แคลร์ และ สตีฟ ก็เริ่มต้นขึ้น...

    (To Be Continue...)

    ต้องขอโทษเพื่อนๆ ที่ ลืมโพส ตอนที่ 1


    เนื้อเรื่อง Resident Evil Code Veronica ตอนที่ 2 ปลุกชีพราชินี 'อเล็กเซีย'




    เนื้อเรื่อง Resident Evil Code Veronica ตอนที่ 2 ปลุกชีพราชินี 'อเล็กเซีย' ตามสัญญา ผมจะกลับมาสรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 2 ต่ออีกครั้งครับ เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น ตามชมกันต่อได้เลย






    หลังจากแคลร์ถูกเอนริโก้ปล่อยตัวออกจากที่คุมขัง แคลร์ก็พยายามหาทางหนี แต่ทว่าไวรัสได้แพร่กระจายไปทั่วเกาะแล้ว ทำให้เหล่าซอมบี้ออกอาละวาดจนแคลร์ต้องหนีหัวซุกหัวซุน จนมาพบกับสตีฟที่หนีออกมาจากคุกได้เหมือนกัน แต่การพบกันในตอนแรกนั้นออกจะเป็นการระแวงไปสักหน่อย เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าอีกคนเป็นคนของ Umbrella ที่จะมาตามล่าตน แต่ก็เจรจาจนเข้าใจกันได้พร้อมกับแนะนำตัวกัน และสตีฟก็ได้แยกตัวออกไป





    หลังจากแคลร์แยกตัวออกมาหาทางหนีจากเกาะร็อคฟอร์ด ก็มาพบกับสตีฟอีกครั้ง ในห้องผู้คุม ซึ่งในนั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีข้อมูลของ คริสต์ เรดฟิลด์ อยู่ซึ่งสตีฟบอกกับแคลร์เพราะรู้สึกว่านามสกุลเหมือนกัน สตีฟได้เตือนแคลร์ว่า ดูเหมือนทาง Umbrella กำลังสืบหาตัวคริสต์อยู่ แคลร์จึงรีบส่งเมลล์บอกกับลีออน ให้ช่วยตามหาและเตือนคริสต์ด้วยว่าเขากำลังถูก Umbrella ตามหา พร้อมขอความช่วยเหลือ ว่าตนติดอยู่ที่เกาะร็อคฟอร์ดนี้

    หลังจากแก้ปริศนาและเดินทางอยู่ในโซนคุกอยู่นาน แคลร์ก็สามารถหาทางออกมายังทางเชื่อมไปโซนแมนชั่นปริศนาที่อยู่อีกฝั่งของโซนคุกได้ ภายในคฤหาสน์แคลร์ได้พบกับภาพหญิงสาวในชุดเดรสสีม่วงขนาดใหญ่บนฝาผนัง ระหว่างที่สำรวจและแก้ไขปริศนา แคลร์ก็ได้พบกับคลิปวีดีโอของเด็กชาย-หญิง 2 คนที่กำลังเล่นเด็ดปีกแมงปอ แล้วเอาให้มดกินด้วย และในนี้ก็พบกับสตีฟอีกครั้ง แต่เขาถูกจับขังเอาไว้ซึ่งพอหลังจากช่วยได้ เขาก็แยกตัวออกไปอีก





    ระหว่างที่แคลร์กำลังออกจากคฤหาสน์ ก็ถูกชายลึกลับใช้ปืนสไนเปอร์ไล่ยิง จนทำให้แคลร์ต้องวิ่งไปซ่อนตัวหลังเสา ชายคนนั้นบอกว่าเขาชื่ออัลเฟรด แอชฟอร์ด ลูกชายของอเล็กซานเดอร์แอชฟอร์ด เขาพยายามจะฆ่าแคลร์เพราะเข้าใจผิดว่าแคลร์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการแพร่เชื้อไวรัสบนเกาะของเขา แต่แคลร์ก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือตัวเอง และแม้แต่ตัวเธอเองก็กำลังหาทางหนีออกจากเกาะนี้ด้วยเช่นกัน หลังจากเจรจากันอยู่สักพัก อัลเฟรดก็ยอมถอยกลับไป เพราะแคลร์เองก็ไม่น่าจะรอดไปจากเกาะที่โดนซอมบี้ล้อมแบบนี้ได้


    หลังจากหนีออกจากคฤหาสน์มาได้ แคลร์ก็ออกสำรวจรอบๆ คฤหาสน์ ก็พบว่ามีเรือดำน้ำอยู่ข้างๆ คฤหาสน์ ซึ่งพอลงไปแล้วก็ได้พบกับโรงงานลับใต้น้ำ หลังจากสำรวจในนั้นแล้ว ก็พบว่า มีเครื่องบินอยู่ในนั้นด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้ได้ทำให้ต้องกลับขึ้นไปอีกครั้ง และเดินทางสำรวจต่อไปจนถึงศูนย์ฝึกทหาร ซึ่งที่นั่นก็พบกับอัลเฟรดอีกครั้ง เขาพยายามจะจัดการแคลร์แต่ก็พลาดไป หลังจากที่พยายามตามเข้าไป ก็ไปพบกับ B.O.W.s. รุปร่างประหลาดที่สามารถยืดแขนคว้าจับอะไรก็ได้ ระหว่างที่แคลร์กำลังพลาดท่าโดนมันเล่นงาน สตีฟ ก็โผล่ออกมาช่วยไว้ได้ทัน สตีฟบอกกับแคลร์ว่า เขาจะคอยช่วยเหลือแคลร์เอง แล้วทั้งสองก็ร่วมเดินทางไปด้วยกันพักหนึ่ง




    ระหว่างทาง แคลร์สังเกตพฤติกรรมของสตีฟดูแปลกๆ ไล่ฆ่าเหล่าซอมบี้อย่างบ้าเลือดเอาสะใจ เหมือนต้องการระบายอะไรสักอย่าง จึงพยายามถามสตีฟ รวมถึงถามเรื่องครอบครัวของเขาด้วย แต่สตีฟไม่ยอมตอบพร้อมกับยิงปืนอาละวาดอย่างบ้าคลั่งต่อไป และเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงห้องหนึ่ง แคลร์ก็ถูกซอมบี้ตัวนึงพยายามเข้าทำร้าย ทั้งที่เห็นอยู่ตำตาสตีฟกลับไม่กล้ายิง แต่หลังจากที่แคลร์ร้องเรียกอีกครั้ง สตีฟจึงกลั้นใจสาดกระสุนปืนกลใส่อย่างไม่ยั้ง พร้อมกับตะโกนออกมาว่า "พ่อ !!"



    เมื่อกระสุนปืนสตีฟหมดแม็ก เขาก็ได้แต่ทรุดลงร่ำให้อยู่กับศพของพ่อเขาเอง สตีฟเล่าให้แคลร์ฟังว่า พ่อของเขาโขมยเอาข้อมูลของ Umbrella มาขายเพราะความโลภ แล้วถูกจับได้ แม่ของสตีฟถูกฆ่าตาย ส่วนตัวเขาและพ่อก็ถูกจับมาขังไว้ที่คุกแห่งนี้ โดยหลังจากเล่าจบ สตีฟก็ขออยู่คนเดียวกับศพของพ่อเขาสักระยะ ซึ่งแคลร์ก็ออกสำรวจพื้นที่ต่อไป โดยกลับไปที่คฤหาสน์ของอัลเฟรด เพื่อหาวิธีหนีออกจากเกาะ จนพบกับทางลับไปยังคฤหาสน์ลับอีกหลังหนึ่งซึ่งในนั้นก็พบกับผู้หญิงปริศนาในชุดสีม่วงเหมือนที่เห็นบนรูปใหญ่ในคฤหาสน์ กำลังคุยอยู่กับอัลเฟรด และเหมือนจะถูกพบตัว ซึ่งแคลร์ก็ซ่อนตัวได้ทัน แต่พอเข้าไปในห้องแล้ว กลับไม่พบใครเลย



    แคลร์ได้สำรวจพื้นที่อีกครั้ง และพบกับบุคคลที่ไม่น่าจะมาอยู่ในที่แห่งนี้ได้ นั่นก็คือ "เวสเกอร์" เขาตั้งใจจะจับตัวแคลร์ไปเพื่อใช้เป็นตัวประกันหลอกล่อให้คริสต์ปรากฏตัว แต่ก็ตัดสินใจปล่อยแคลร์ไว้ เพราะมีสายรายงานมาทางเวสเกอร์ว่า คริสต์กำลังจะมาช่วยแคลร์ในอีกไม่ช้า ก่อนที่จะพุ่งหายตัวไปด้วยความรวดเร็วเหมือนไม่ใช่มนุษย์




    แคลร์ที่เริ่มตั้งตัวได้ ก็ออกสำรวจต่อไป จนพบกับผู้หญิงชุดม่วงอีกครั้งในคฤหาสลับ โดยผู้หญิงชุดม่วงแนะนำตัวเองว่าเธอคือ อเล็กเซีย แอชฟอร์ด และในขณะที่แคลร์กำลังจะถูกยิง สตีฟก็โผล่มาช่วยไว้ได้ทันอีกครั้ง ซึ่งเป็นการยิงแลกกันซึ่งทั้งสตีฟและอเล็กเซียต่างก็โดนยิง แต่อเล็กเซียก็หนีเข้าไปในห้องลับ ที่พอตามเข้าไปแล้ว ก็พบอัลเฟรดโผล่มาลอบโจมตี ทว่าสตีฟสามารถสวนกลับได้ทัน ทางอัลเฟรดที่ลุกขึ้นมา เห็นสภาพหน้าตัวเองในกระจก ก็พบว่า วิกที่ตัวเองใส่ไว้หลุดไป (เนื่องจากเขาปลอมตัวเป็นอเล็กเซีย) อัลเฟรดจึงรีบลนลานนีออกไป พร้อมกับกดสวิท ทำลายตัวเองของคฤหาสน์แห่งนั้นสตีฟกับแคลร์ จึงตกลงหนีไปที่โรงงานใต้น้ำ เพื่อขับเครื่องบินออกจากเกาะนี้




    แต่อัลเฟรดไม่ยอมง่ายๆ เขาได้ปลดปล่อย Tyrant - 078 ออกมาไล่ล่าแคลร์ ซึ่งหลังจากจัดการมันได้ แคลร์ก็รีบหนีขึ้นเครื่องบินไปพร้อมกับสตีฟแต่ทว่า เจ้า Tyrant - 078 ยังไม่ยอมลดละ และเกาะเครื่องบินติดมาด้วย แคลร์เลยออกไปจัดการกับมันตกเครื่องบินไป แต่ความซวยยังไม่จบ เพราะเครื่องบินลำนั้นเป็นของอัลเฟรดอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้บังคับเครื่องบินลำนั้นให้เป็น Auto Pilot บินไปยัง Umbrella สาขาแอนตาร์กติคของตนเอง






    ที่นั่น แคลร์กับสตีฟ ได้ปะทะกับอัลเฟรดอีกครั้งโดยคราวนี้ สตีฟยิงใส่อัลเฟรดเข้าอย่างจัง แถมอัลเฟรดยังพลัดตกหน้าผาไปอีก แต่ในขณะนั้นอสูร นอสเฟอราตู หรืออเล็กซานเตอร์ที่ถูกใช้เป็นตัวทดลองไวรัส T-Veronica จนกลางร่างไปและถูกขังอยู่ชั้นใต้ดินของที่นี่ ก็สลัดพันธนาการ หลุดออกมาไล่ล่าสตีฟกับแคลร์ สตีฟพยายามจะขวางเอาไว้ แต่ก็ถูก นอสเฟอราตูปัดกระเด็นจนเกือบตกหน้าผาไปอีกคน หลังจากที่แคลร์จัดการกับนอสเฟอราตูได้ ก็สามารถหนีออกมาจากศูนย์วิจัยได้สำเร็จและเตรียมที่จะขับรถลุยหิมะหนี




    ทางอัลเฟรดเองก็กระเสือกกระสน หอบร่างที่บาดเจ็บสาหัด กลับมายังห้องแลป แห่งหนึ่ง เขาคลานมายังหลอดแก้วที่มีร่างผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างใน นั่นคืออเล็กเซีย อัลเฟรดได้รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายปลดปล่อยหญิงสาวในหลอดแก้วจากการจำศีล.. ใช่แล้ว... เธอคืออเล็กเซียตัวจริงที่ดูดซึมไวรัส T-Veronica ไว้อย่างสมบูรณ์แล้วนั่นเอง


    ทันทีที่อเล็กเซียฟื้นขึ้นมา ก็พบกับภาพของอัลเฟรดที่หมดลมตายอยู่ตรงหน้า ด้วยความแค้นจึงปล่อยส่วนหนึ่งของ Tentacle เข้าโจมตีสตีฟกับแคลร์โดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ตั้งตัวเลย...



    สำหรับสรุปเนื้อเรื่องของ Resident Evil : Code Veronica นี้ ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะสรุปให้จบได้ในตอนเดียวนะเนี่ย แต่เนื้อเรื่องภาคนี้ยาวมากจริงๆ ดูท่ายังจะต้องมีตอนต่อไปเป็นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องของคริสต์แล้วล่ะครับ ชะตากรรมของสตีฟ กับแคลร์ จะเป็นอย่างไร? คริสต์จะมาช่วยแคลร์ทันเวลาหรือไม่ ต้องรอติดตาม
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย momaykissxsis : 4th March 2013 เมื่อ 15:22

  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 15 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    CM_The News Game
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,431
    กล่าวขอบคุณ
    956
    ได้รับคำขอบคุณ: 26,650
    Blog Entries
    3
    เนื้อเรื่อง Resident Evil 3 อวสานเมืองสวรรค์ Raccoon City




    กลับมาต่อเนื้อเรื่องของ Resident Evil กันเลยนะครับ วัีนนี้ผมจะมาสรุปถึงเรื่องราวของ Resident Evil 3 Nemesis กันต่อ หลังจากที่ห่างหายไป 2 สัปดาห์ เพราะติดช่วงงาน BIG Festival 2012 และเคลียร์งานใหญ่ๆ อยู่ครับ ^^





    เนื้อเรื่องของ Resident Evil 3 Nemesis นั้นจะต่อเนื่องจากภาคแรก และเป็นช่วงเวลาเดียวกับภาค 2 ครับ ตัวละครหลักของภาคนี้คือ จิล วาเรนไทน์ หนึ่งในตัวละครหลักจากภาคแรก ที่หลังจากหนีออกมาจากคฤหาสน์ของเสปนเซอร์ได้พร้อมกับ คริสต์ แบรี่ และ รีเบคก้า ก็พยายามสืบสวนเรื่องราวต่างๆ ของ Umbrella ด้วยตัวเอง เพราะหัวหน้านายตำรวจประจำเมืองแรคคูน ไบอัล ไอรอน รับสินบนจาก Umbrella เพื่อปกปิดคดีที่เกิดขึ้นบนเขาอาร์คเลย์ครับ

    จากเหตุการณ์ในภาค 2 ของ ดร.วิลเลียม ที่ถูก หน่วย U.S.S. ของ Umbrella ลอบสังหาร เพืิ่อโขมยเชื้อไวรัส และกลายร่างเป็น G ออกอาละวาด ทำให้เชื้อไวรัสเริ่มระบาดไปทั่วเมืองแรคคูน


    ช่วงค่ำของวันที่ 27 กันยายน




    สถานการณ์ซอมบี้อาละวาดได้แพร่ระบาดไปทั่วเมืองแรคคูนโดยสมบูรณ์ ทางกองตำรวจประจำเมืองแรคคูนได้ตัดสินใจเปิดศึกสุดท้ายเพื่อปกป้องสถานีึตำรวจเมืองแรคคูน ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยแห่งสุดท้ายในเมืองแรคคูนเหล่าซอมบี้ โดยการปิดถนนตั้งด่าน ป้องกันเหล่าซอมบี้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถต้านฝูงซอมบี้ที่มาจากคนทั้งเมืองได้ ทำให้เหล่าตำรวจในเมืองแรคคูนเสียชีวิตไปเกือบทั้งหมด และสถานีตำรวจประจำเมืองแรคคูนหรือ R.P.D. ก็ถูกเหล่าซอมบี้บุกอาละวาดจนแทบไม่เหลือผู้รอดชีวิตใดๆ อีกเลย



    ในคืนเดียวกันทาง Umbrella ได้ส่งหน่วย Umbrella Biohazard Countermeasure Survice (U.B.C.S.) เข้ามา 120 คน เพื่อให้การช่วยเหลือทีมตำรวจ R.P.D. ในการต่อต้านเหล่าซอมบี้ แต่ทุกคนล้วนเป็นตัวหมากที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เกี่ยวกับแผนลับของ Umbrella ที่ส่งพวกเขามาเลย มีเพียง นิโคไลน์ เท่านั้นที่ถูกทาง Umbrella สั่งให้ใช้โอกาสนี้เข้ามาเก็บข้อมูล ซึ่งหน่วย U.B.C.S. ก็เสียหายหนักไม่แพ้กัน



    สำหรับ จิล วาเรนไทน์ ที่ออกจากหน่วย S.T.A.R.S. และตัดสินใจสืบข้อมูลเกี่ยวกับ Umbrella ในเมืองแรคคูน ก็ต้องเริ่มหาทางหนีออกจากเมืองแล้วเช่นกัน เพราะสถานการณ์ซอมบี้อาละวาดนั้นไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป จิลได้เข้ามาหลบในโกดังแห่งหนึ่ง โดยมีผู้รอดชีวิตอีกหนึ่งคนคือ ดาริโอ รอสโซ่ ผู้ที่เสียครอบครัวในเหตุการณ์ซอมบี้อาละวาด


    ช่วงค่ำของวันที่ 28 กันยายน 1998


    จิลเฝ้ารอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยมา 1 วันเต็มๆ แต่ก็ดูแล้วไม่มีอะไรคืบหน้า จิลจึงชวนให้ดาริโอหนีไปยังที่ปลอดภัยด้วยกัน แต่ดาริโอปฏิเสธ และขังตัวเองไว้ในโกดังทำให้ตัวเองต้องพบจุดจบในเวลาต่อมา
    ระหว่างที่กำลังหาทางหนีออกจากเมือง จิลได้พบกับ แบรต วิคเกอร์ อดีตคนขับเครื่องบินประจำหน่วย S.T.A.R.S ทีมอัลฟ่า ที่กำลังถูกซอมบี้กัด จิลสามารถช่วยเหลือแบรตเอาไว้ได้ โดยแบรตได้เตือนจิลว่า เขากำลังหนีมอนสเตอร์ขนาดใหญ่แถมร้ายกาจมาก และที่สำคัญคือ มันจะตามไล่ล่าสมาชิกหน่วย S.T.A.R.S. ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ทุกคน ก่อนที่เขาจะแยกตัวนำจิลไปก่อน

    เมื่อจิลไปถึงสถานีตำรวจ R.P.D. ก็ได้พบกับแบรตที่กำลังหนีจากการตามล่าของตัวประหลาดอยู่ และร้องขอให้จิลช่วย แต่ทว่า เขาถูกเจ้าตัวประหลาดนั้นดักหน้า และฆ่าตายต่อหน้าจิล เจ้าตัวประหลาดที่แบรตพูดถึงนี้คือ "Nemesis-T Type" หรือที่ใครๆ เรียกมันว่า "Nemesis" และมันก็ได้เปลี่ยนเป้าหมายมาที่การไล่ล่าจิลแทน



    หลังจากหนีเข้ามาในสถานีตำรวจได้ จิลก็ได้พบกับนายตำรวจ มาร์วิน บรานาจ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อพยพผู้รอดชีวิตเข้ามาในสถานีตำรวจ กำลังสลบอยู่ เขาคือนายตำรวจที่ลีออนและแคลร์เจอในภาค 2 ของ Part A ที่เพิ่งได้สติแล้วเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้่ลีออนและแคลร์ฟัง ก่อนที่จะเอาปืนจ่อให้ทั้งคู่ช่วยผู้รอดชีวิตแล้วหนีไปครับ (ในส่วนนี้ทำให้เรารู้ได้ว่า เนื่อเรื่องของจิลในช่วงนี้เกิดขึ้นก่อนที่ลีออนและแคลร์จะเข้ามาในสถานีตำรวจครับ)





    เมื่อจิลขึ้นไปยังออฟฟิศของหน่วย S.T.A.R.S. ก็ได้พบกับสัญญาณจากเครื่องส่งวิทยุของชายคนหนึ่งที่บอกว่าตัวเองชื่อ คาร์ลอส โอลิเวร่า และเขาพลัดหลงจากทีมของตัวเอง จิลจึงตัดสินใจออกตามหาคาร์ลอสเพื่อช่วยเหลือเขา ซึ่งจิลก็ถูกเจ้า Nemesis คอยตามล่าอยู่เรื่อยๆ






    จิลได้มาพบกับคาร์ลอสในร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยคาร์ลอสได้แนะนำตัวเองว่าเขาคือใคร และมาจากหน่วย U.B.C.S. เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่จิลไม่ไว้ใจ เพราะคาร์ลอสเป็นคนของ Umbrella และไม่เข้าใจจุดประสงค์ของ Umbrella ที่ส่งหน่วยนี้มาช่วยประชาชน ทั้งที่ตัวเองก็เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ซอมบี้อาละวาด แต่คาร์ลอสได้เถียงกลับว่า ตนเป็นแค่ทหารรับจ้างที่ Umbrella จ้างมาเท่านั้น และวิ่งหายไป (สงสัยงอนที่จิลไม่เชื่อใจ)



    หลังจากผ่านมาเรื่อยๆ จนถึงรถไฟ จิลได้พบกับนิโคไลน์ และมิคาเอลที่บาดเจ็บอยู่ และยังได้พบกับคาร์ลอสอีกครั้งด้วย โดยที่คาร์ลอสได้ขอให้จิลให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือพวกเขาผ่านภาระกิจนี้ แต่นิโคไลน์กลับปฏิเสธ เพราะรู้ว่าอดีตจิลเป็นคนของหน่วย S.T.A.R.S. ที่เนเมซิสกำลังไล่ตามอยู่ แต่หลังจากที่คาร์ลอสพูดหว่านล้อมนิโคไลน์จึงยอมให้จิลเข้าร่วมด้วย พร้อมบอกจิลถึงเป้าหมายที่พวกตนกำลังจะไปยังหอนาฬิกา เซนต์ มิเชล แต่รถรางยังขาดอุปกรณ์ที่จะทำให้รถรางวิ่งได้อยู่ ทั้งหมดจึงแยกกันไปค้นหา โดยระหว่างการค้นหาอุปกรณ์ นิโคไลน์ได้สร้างสถานการณ์ให้ตัวเองดูเหมือนตายไปแล้ว เพื่อปลีกตัวออกมาจากคนอื่นๆ และเพื่อที่จะปฏิบัติภารกิจที่ Umbrella มอบหมายได้สะดวกด้วย




    หลังจากเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อย รถรางก็เริ่มมุ่งหน้าไปยังหอนาฬิกาเซนต์มิเชล แต่ทว่า เนเมซิสได้บุกขึ้นมาบนรถรางด้วยมิคาเอลที่บาดเจ็บอยู่ ได้อาสาล่อความสนใจจากเนเมซิสให้พวกจิล แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเป็นทุนเดิม แถมกระสุนปืนทำอะไรเนเมซิสไม่ได้มากด้วย จึงโดนอัดซะน่วม แต่มิคาเอลได้ตัดสินใจสละชีพดึงสลักระเบิดตัวเองไปพร้อมกับเนเมซิส จนเนเมซิสกระเด็นตกรถรางไป

    ส่วนรถรางเองก็เสียการควบคุม พุ่งเข้าใส่กำแพงเข้าอย่างจัง แต่ยังโชคดีที่จิลและคาร์ลอสไม่บาดเจ็บมาก แถมยังอยู่ไม่ห่างจากหอนาฬิกามากด้วย หลังจากช่วยกันไขปริศนาของหอนาฬิกาได้แล้วก็ส่งสัญญาณให้เฮลิคอปเตอร์ออกมารับ ตามที่นิโคไลน์บอก เรื่องราวเหมือนจะจบด้วยดี แต่ทว่าเนเมซิสได้โผล่ออกมาใช้ปืนยิงจรวด Rocket Launcher ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์ตกใส่หอนาฬิกาต่อหน้าต่อตาจิล


    เนเมซิสกระโดดลงมายืนตรงหน้าจิล พร้อมปล่อยไวรัสใส่จิล คาร์ลอสได้กระโดดเข้ามาช่วยยิงดึงความสนใจจากเนเมซิสให้ เนเมซิสยิง Rocket Launcher ใส่คาร์ลอสถึงจะไม่โดนจังๆ แต่แรงระเบิดก็ทำให้คาร์ลอสกระเด็นเหมือนกัน แต่คาร์ลอสรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายยิงใส่เนเมซิส ซึ่งกระสุนได้ไปโดนปืน Rocket Launcer จนระเบิดใส่เนเมซิสกระเด็นออกไป ส่วนคาร์ลอสก็หมดสติลงตรงนั้น เนเมซิสยังคงไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาหวังจะตามไล่ฆ่าจิลต่อไป จิลได้ต่อสู้กับเนเมซิสจนมันยอมถอนตัวถอยกลับไป จิลเองก็หมดแรงหมดสติไปอีกคนเช่นกัน คาร์ลอสที่ฟื้นขึ้นมาได้ก็พาจิลที่สลบอยู่ไปพักที่ห้องสวดมนตร์ของหอนาฬิกาเซนต์มิเชล





    เช้ามืดของวันที่ 1 ตุลาคม 1998




    จิลสลบไปตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 28 จนถึงช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 ตุลาคม หลังจากที่จิลฟื้นจึ้นมาก็รู้สึกไม่สบายตัว เพราะว่าจิลได้ติดไวรัสเข้าไปแล้ว คาร์ลอสจึงอาสาไปหาวัคซีนจากโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงมาให้ โดยในระหว่างการสำรวจนั้นก็พบกับแพทริค หนึ่งในสมาชิกหน่วย U.B.C.S. เขาได้เตือนคาร์ลอสไว้ว่า มีคนทรยศในหน่วยซึ่งเป็นชายผมขาว และในขณะที่แพทริคกำลังเปิดตู้เซฟ ก็พบว่าเป็นกับดักระเบิด แถมแพทริคก็โดนเข้าไปเต็มๆจนเสียชีวิต ส่วนคาร์ลอสที่ได้วัคซีนมาแล้วก็รีบหนีเพราะพบว่ามีระเบิดเวลาติดตั้งไว้ทั่วโรงพยาบาลไปหมด และคาร์ลอสก็หนีออกมาก่อนที่โรงพยาบาลจะระเบิดได้อย่างฉิวเฉียด และหลังจากนำวัคซีนมารักษาให้จิลได้ อาการจิลก็เริ่มดีขึ้น



    ทั้งสองคนได้ตัดสินใจหาทางหนีออกจากเมืองแรคคูนกันต่อไปจิลลองหาทางหนีโดยวิ่งผ่านสวนสาธารณะ ซึ่งในกระท่อมก็พบกับห้องลับจิลก็ได้พบกับนิโคไลน์ในห้องลับโดยเขาได้เปิดเผยแผนการให้จิลรู้ และเตรียมลงมือฆ่าจิล แต่อยู่ๆ พื้นก็สั่นสะเทือน นิโคไลน์รู้ทันทีว่ามีอสูรกลายพันธุ์อาละวาดเลยรีบวิ่งหนีไปก่อน หลังจากจิลออกมาก็พบว่ามีหนอนยักษ์โผล่มาเล่นงาน ซึ่งจิลก็ต่อสู้กับมัน และเอาตัวรอดออกมาได้ หลังจากวิ่งทะลุสวนไป ก็มีสะพานข้ามไปยังโรงกำจัดของเสียที่อยู่ไม่ห่างกัน แต่ระหว่างที่ข้ามสะพาน เนเมซิสก็โผล่ออกมาขวางอีก แต่จิลก็สามารถหลบแล้วผลักมันตกลงสะพานไปได้



    หลังจากที่จิลเข้ามาในออฟฟิศโรงงานก็พบกับคาร์ลอส ที่กำลังกลุ้มอยู่ และบอกให้จิลถึงเรื่องที่กำลังจะมีจรวดนิวเคลียร์ยิงมายังเมืองแรคคูน ทำลายทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง ทั้งคู่จึงเร่งหาทางหนีให้ได้โดยไว และระหว่างที่จิลกำลังสำรวจโรงงาน ก็เกือบจะถูกนิโคไลน์ฆ่าอีกครั้ง หลังจากมีการเจรจากันอยู่สักพัก นิโคไลน์ก็ถูกเนเมซิสจัดการไปจนได้ และหลังจากที่จิลเข้าไปในห้องแยกของเสีย เนเมซิสก็ยังโผล่มาตามล่าจิลอย่างไม่ลดละ โดยหลังจากที่จิลจัดการมันสำเร็จ ก็เก็บคีย์การ์ดจากศพของเจ้าหน้าที่หนีออกมาได้ก่อนที่เครื่องแยกขยะจะทำการทิ้งของเสียและซากของเนเมซิสลงไปย่อยสลาย


    เมื่อจิลมาถึงห้องวิทยุ คาร์ลอสก็ติดต่อมาพอดี เขาแจ้งให้จิลทราบว่าได้ติดต่อขอความช่วยเหลือมาได้แล้ว และกำลังจะขึ้นคอปเตอร์หนีโดยเขาจะรออยู่ที่คอปเตอร์ จิลจึงต้องรีบฝ่าฝูงซอมบี้เพื่อออกไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ให้ได้ แต่ระหว่างทาง เนเมซิสที่น่าจะถูกย่อยไปแล้ว โผล่ออกมาขวางอีกครั้ง และคราวนี้มันได้กัดกินซากของ Tyrant แล้วพัฒนาร่างของตัวเองจนถึงขีดสุด จิลได้พยายามวิ่งหนี และใช้อาวุธพิเศษที่ถูกส่งมาทิ้งไว้ในโรงกำจัดของเสียจัดการกับเนเมซิสและเปิดทางหนีได้สำเร็จ


    หลังจากกระหน่ำยิงซ้ำจนเนเมซิสตายแน่นอนแล้ว จิลก็ได้หนีออกมายังลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่คาร์ลอสรออยู่แล้ว ขณะที่กำลังหนีออกมานั้น ก็มีจรวดนิวเคลียร์ยิงสวนกลับไปยังใจกลางเมืองแรคคูน พร้อมกับการระเบิดครั้งใหญ่ ในช่วงรุ่งสางของวันที่ 1 ตุลาคม 1998 ที่นับเป็นวันอวสานเมืองแรคคูนอย่างแท้จริง และตั้งแต่นั้นมา เมืองแรคคูนก็กลายเป็นเพียงพื้นที่ราบโล่ง และถูกลบไปจากแผนที่โลกนับแต่นั้นเป็นต้นมา


    สรุปเส้นทางตัวละคร หลังจบภาค Resident Evil 3



    จิลตามไปสมทบกับคริสต์ที่ยุโรป และตั้งเป้าที่จะปราบ Umbrella ให้สิ้นซาก และที่สำคัญก็คือ ไวรัสที่เนเมซิสปล่อยใส่จิลนั้น ไม่สามารถใช้ยาหรือวัคซีนจากโรงพยาบาลทั่วไปรักษาได้อยู่แล้ว ไวรัสนั้นจึงยังไม่ตายสนิท แต่ถูกทำให้ฤทธิ์อ่อนลงและยังคงอยู่ในร่างของจิลจนทุกวันนี้ (เช่นเดียวกับเชอรี่)


    ในช่วงที่จิลหนีออกมาจากเมืองแรคคูนได้นั้น ถึงแม้ในเกมภาค 3 จะไม่ได้กล่าวถึง แต่จะมีการพูดกันไว้ในเนื้อเรื่องของหลายๆ แห่งว่าคนที่ขับเฮลิคอปเตอร์ คือแบรี่ อดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยอยู่หน่วย S.T.A.R.S. ทีมอัลฟ่า ร่วมกับคริสต์ เขาได้กลับมาจากแคนาดา เพื่อช่วยจิลตามสัญญา

    ส่วนคาร์ลอส หลังจากเหตุการณ์ในเมืองแรคคูน ก็ไม่ปรากฏเรื่องราวใดๆ ออกมาให้เห็นอีกเลย

    จบไปอีกภาคแล้วนะครับ สำหรับเนื้อเรื่องของ Resident Evil 3 ภาคต่อไปที่ผมจะต่อคือภาค Code Veronica นะครับ (ไม่ใช่ภาค 4) ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรรอติดตามชมกันต่อนะครับ ^^

    ป.ล.ต้องขออภัยด้วยนะครับที่เลทไป 1 วัน เนื่องจากผู้เขียนเองเกิดอาการเออเร่อลืมเซฟบทความที่เขียนเสร็จแล้วเมื่อเย็นวันจันทร์ครับ แถมกลับถึงบ้านไปเขียนใหม่ได้ครึ่งทางก็ดันกดผิดไปรีเฟรชหน้าใหม่โดยยังไม่กดเซฟ พิมพ์ใหม่ทั้งยวงอีกรอบครับ TTwTT





    Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 3 'โศกนาฏกรรมส่งท้ายแด่ตระกูลแอชฟอร์ด'




    ในขณะเดียวกับที่แคลร์และสตีฟ ถูกโจมตีด้วยเถาวัลย์ประหลาดในช่วงท้ายตอนที่แล้ว ตัดกลับมาที่เกาะร็อคฟอร์ดอีกครั้ง บริเวณริมผาของเกาะร็อคฟอร์ด ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งกำลังปีนหน้าผาเพื่อขึ้นมายังเกาะนี้ เขาคนนั้นคือ คริสต์ เรดฟิลด์ พี่ชายของ แคลร์ เรดฟิลด์ ที่ได้รับการติดต่อจากลีออนว่าแคลร์ถูกพวก Umbrella จับตัวไว้อยู่ที่เกาะร็อคฟอร์ด เขาจึงรีบรุดหน้ามาทันที


    ที่เกาะนี้ คริสต์ได้พบกับเอนริโก้ (ยังอุึตส่าห์รอดมาได้เนอะ) และถามถึงว่าเคยห็นผู้หญิงที่ชื่อแคลร์ เรดฟิลด์ไหม เอนริโก้ก็ตอบว่าเขาเป็นคนปล่อยแคลร์ออกไปเอง แคลร์อาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งบนเกาะแห่งนี้ ให้คริสต์รีบออกไปช่วยเหลือเขาซะ เพราะตอนนี้เกาะร็อคฟอร์ดแทบไ่ม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอดอีกต่อไปแล้ว ทั้งจากการโจมตีของพวกเวสเกอร์ และไวรัสที่แพร่กระจายออกมาด้วย แต่ในขณะที่คริสต์กำลังจะเดินออกไป เอนริโก้ก็โดนหนอนยักษ์ลากลงไปใต้ดิน คริสตามไปจัดการกับหนอนตัวนั้นและช่วยเอนริโก้ไว้ได้ แต่เขาก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในที่สุด



    หลังจากที่หาทางขึ้นมาถึงสนามฝึกซ้อมทหารได้ คริสต์ก็พบทางลับลงไปห้องปฏิบัติการใต้ดินของอัลเฟรด ที่นั่น คริสต์ได้พบกับจอฉายภาพขนาดใหญ่ ซึ่งมีภาพของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร้องเพลงกล่อมอัลเฟรดที่หมดลมไปแล้ว ส่วนเวสเกอร์เองที่ยึดห้องสังเกตการณ์ได้แล้วก็เห็นภาพนี้ขึ้นจอเช่นกัน ซึ่งเวสเกอร์ก็ถึงกับเหวอไปเลยเมื่อพบว่า อเล็กเซียยังมีัชีวิตอยู่ เพราะเคยมีข่าวลือมาว่า อเล็กเซียตายไปแล้วนั่นเอง


    และเวสเกอร์ก็พบว่า คริสต์เดินทางมาถึงเกาะเพื่อช่วยแคลร์ตามแผนแล้ว ก็ได้ปล่อยเหล่าฮันเตอร์ออกไปตามล่าคริสต์ทันที หลังจากที่หนีรอดออกมาได้ คริสก็พบกับเวสเกอร์อีกครั้ง ซึ่งคริสต์เองก็ตกใจมากเพราะเห็นว่าเวสเกอร์ถูกไทแรนท์ฆ่าตายต่อหน้าต่อตาไปแล้วในภาค 1ซึ่งเวสเกอร์ก็อธิบายให้คริสต์ฟัง รวมถึงบอกคริสต์ด้วยว่า แคลร์ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เกาะร็อคฟอร์ดแล้วเพราะอัลเฟรดได้นำตัวไปยังแอนตาร์กติก



    จากนั้นเวสเกอร์ได้เข้าโจมตีคริสต์ เพื่อแก้แค้นที่ทำแผนทุกอย่างของเวสเกอร์พัง แต่การโจมตีของเวสเกอร์นั้นไม่เหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป เพราะความเร็วที่มองไม่ทัน กับพละกำลังที่บีบคอคริสต์ได้ด้วยมือเปล่า เล่นเอาคริสต์ถึงกับน่วมลุกไม่ขึ้นเลย แต่แล้วก็มีเสียงหัวเราะผ่านจอมอนิเตอร์ของอเล็กเซียดังขึ้นมา ทำให้เวสเกอร์นึกขึ้นได้ว่าต้องทำตามแผนให้สำเร็จ ก่อนจะปล่อยคริสต์แล้วออกตามล่าอเล็กเซียต่อไป



    คริสต์ที่ฟื้นขึ้นมาได้ ก็พยายามหาวิธีเดินทางจนค้นพบเครื่องบินที่จะพาคริสต์ไปยังแอนตาร์กติกได้ในที่สุด และหลังจากผ่านอุปสรรคต่างๆ จนมาถึงคฤหาสน์ลับอีกหลังหนึ่งบนแอนตาร์กติก คริสต์ได้พบกับแคลร์และช่วยเหลือแคลร์เอาไว้ได้ เมื่อแคลร์ฟิ้นขึ้นมาก็ถามหาสตีฟ และคิดว่าเขาน่าจะถูกอเล็กเซียจับตัวไป จึงชวนคริสต์ไปตามหาและช่วยสตีฟ แต่ขณะที่กำลังขึ้นบันไดคฤหาสน์ ก็ถูกเุถาวัลย์ยักษ์จู่โจมจนบันไดพัง และคริสต์เองก็บาดเจ็บที่ขา ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ และในเวลานั้นก็มีเสียงร้องของสตีฟดังออกมาจากด้านใน คริสต์จึงรีบให้แคลร์รุดหน้าไปก่อน


    แคลร์ที่วิ่งตามเสียงร้องของสตีฟ ก็มาจนถึงคุกใต้ดินซึ่งในนั้นก็พบกับสตีฟ ที่ถูกตรึงร่างเอาไว้ พร้อมกับมีขวานขนาดใหญ่ล็อคตัวเขาไว้กับกำแพงอยู่ แคลร์ำพยายามดึงขวา่นออกเพื่อปล่อยสตีฟแต่ไม่ได้ผลเพราะขวานใหญ่และหนักมาก แต่อยู่ๆ สตีฟก็มีอาการแปลกๆ ไป ร่างกายของเขาเริ่มบวมใหญ่ขึ้น และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว สตีฟที่อยู่ต่อหน้าแคลร์ในตอนนี้ ได้กลายเป็นสัตว์ประหลา่ดขนาดใหญ่ไปแล้วด้วยไวรัส T-Veronica ที่อเล็กเซียแพร่ใส่ร่างของสตีฟ






    หลังจากที่กลายร่างแล้วสตีฟก็เอาขวานไล่ฟันใส่แคลร์ ทางแคลร์เองก็ได้แต่หนีไม่กล้าตอบโต้เพราะอีกฝ่ายคือสตีฟ แคลร์ได้หนีเข้าไปยังห้องขังห้องหนึ่ง ซึ่งสตีฟในร่างตัวประหลาดก็พยายามใช้ขวานพังกรงเข้ามา ขณะที่แคลร์ขังตัวเองอยู่ในกรงที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว แต่อยู่ๆ ก็มีเถาวัลย์ยักษ์โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน เข้าโจมตีแคลร์ และมัดตัวแคลร์ไว้ ในขณะเดียวกัน สตีฟก็พังกรงเข้ามาได้พอดี เขาง้างขวานขึ้นเพื่อจะโจมตีใส่แคลร์แต่ก็หยุดชะงัก เพราะตัวสตีฟเริ่มได้สติขึ้นมาบ้าง เขาพยายามควบคุมตัวเองให้ฟันใส่ก้านเถาวัลย์ที่รัดแคลร์อยู่ได้สำเร็จ แต่โชคร้ายเพราะโดนเถาวัลย์อีกก้านหนึ่งพุ่งเข้าเสียบทะลุร่าง


    สตีฟกลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง แคลร์พยายามเรียกสติสตีฟให้ตื่นตัวเสมอ แล้วบอกสตีฟว่าพี่ชายของแคลร์มาช่วยแล้ว เราจะหนีออกจากที่นี่ด้วยกัน แต่บาดแผลของสตีฟสาหัสเกินกว่าที่จะทนได้ สตีฟได้บอกกับแคลร์ว่า "ผมยินดีด้วยที่พี่ชายของคุณมาช่วยคุณได้ตามสัญญา แต่ผมกลับช่วยคุณไม่ได้ ผมดีใจมากที่ได้พบคุณอีกครั้ง.... ผมรักคุณ" แล้วสตีฟก็ได้สิ้นใจลงอย่างสงบ...



    ตัดกลับมาทางคริสต์ ที่อาการเริ่มดีขึ้น เขาได้พบกับเวสเกอร์ ที่กำลังเจรจากับอเล็กเซีย โดยเวสเกอร์ต้องการนำตัวอเล็กเซียไป เพราะตัวอย่างของไวรัส T-Veronica นั้นอยู่ที่ตัวของอเล็กเซีย แล้วก็เกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างเวสเกอร์กับอเล็กเซียที่กลายร่าง สำหรับคริสต์ที่แอบดูอยู่ การต่อสู้ครั้งนี้เป็นอะไรที่เหนือธรรมชาติจนเขาไม่มีทางที่จะเข้าไปทำอะไรได้เลย และระหว่างนั้น เวสเกอร์ได้หลบมาในทิศทางที่คริสต์อยู่พอดี เมื่อเวสเกอร์เห็นคริสต์แล้ว และคิดว่าสู้อเล็กเซียไม่ไหว จึงใช้คริสต์เป็นตัวล่อเพื่อให้อเล็กเซียจัดการกับคริสและวิ่งหนีออกทางประตูหน้าไป ส่วนคริสต์เองก็อาศัยจังหวะนี้หนีขึ้นทางบันไดแต่โดนอเล็กเซียขวางไว้ คริสต์จึงยิงสกัดเพื่อให้ตัวเองฝ่าหนีเข้าไปในคฤหาสน์ได้




    ภายในคฤหาสน์คริสต์ได้เดินทางมาถึงชั้นใต้ดิน ก็พบว่าแคลร์ติดอยู่ในห้องหนึ่งซึ่งไม่สามารถออกได้ แคลร์แนะนำให้คริสต์ไปเปิดระบบทำลายตัวเองของที่นี่ แล้วระบบล็อคอัตโนมัติจะหยุดทำงาน หลังจากที่คริสต์เปิดระบบทำลายตัวเองได้สำเร็จ แคลร์ก็หนีออกมาได้ และทั้งคู่ก็ได้พบกับอเล็กเซียที่กลายร่างขึ้นไปอีกขั้น คริสต์ให้แคลร์ช่วยหมุนปลั๊กสำหรับปลดล็อคอาวุํธปืนลำแสงที่ชื่อ Linear Launcher จากนั้นก็สั่งให้แคลร์หนีไปก่อนแล้วเขาจะตามไป คริสต์สู้กับอเล็กเซียจนกลายร่างไปอีกขั้นที่คล้ายกับแมลงปอ ในเวลาเดียวกัน ปืน Linear Launcher ก็ทำการชาร์จสำเร็จพร้อมใช้ คริสต์จึงนำปืนนั้นยิงใส่อเล็กเซีัยจนร่างแตกสลายเป็นจุล ปิดฉากตำนานตระกูลแอชฟอร์ดเป็นที่เรียบร้อย



    ในขณะที่คริสต์เตรียมไปรวมตัวกับแคลร์อีกครั้ง ก็พบว่า เวสเกอร์จับตัวแคลร์ไว้ คริสต์ได้ตามไปช่วยเหลือจนเวสเกอร์ยอมปล่อยตัวแคลร์ คริสต์บอกกับเวสเกอร์ว่า อเล็กเซียตายแล้ว แต่เวสเกอร์ไม่ใส่ใจอะไรมาก เพราะตอนนี้เขาได้ร่างของสตีัฟ ที่มีเชื้อไวรัส T-Veronica อยู่ในตัวมาแล้ว แคลร์โมโหมากและพยายามเข้าจู่โจมเวสเกอร์ แต่คริสต์ห้ามไว้พร้อมสั่งให้แคลร์หนีไปยังจุดจอดเครื่องบินก่อน แล้วเขาจะตามไป


    คริสต์กับเวสเกอร์ได้สู้กันอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วคริสต์ก็ยังไม่สามารถต่อกรกับพลังเหนือมนุษย์ของเวสเกอร์ได้อยู่ดี แถมโดนอัดจนเกือบปางตาย โชคยังดีที่ระบบทำลายตัวเองของที่นี่เริ่มทำงานทำให้เพดานบางส่วนถล่มลงมาขวางเวสเกอร์เอาไว้ เวสเกอร์ได้บอกกับคริสต์ว่า พบกันคราวหน้านายอาจไม่โชคดีแบบนี้อีกแน่ พร้อมกับหัวเราะท่ามกลางเปลวเพลิงและเพดานที่พล่มลงมา ส่วนทางคริสต์ก็หนีไปรวมกับแคลร์ และขับเครื่องบินหนีออกมาจากแอนตาร์กติกได้สำเร็จ




    สรุปเส้นทางของตัวละคร หลังจบภาค Code Veronica



    คริสต์
    แคลร์ได้ขอให้คริสต์กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ทางคริสต์ตั้งเป้าหมายไว้ที่การกำจัด Umbrella ให้ได้ จึงออกเดินทางเพื่อไปสมทบกับจิลที่หนีออกมาจากเมืองแรคคูนพร้อมกับแบรี่ และก่อตั้งกลุ่ม B.S.A.A. ขึ้น



    แคลร์
    ส่วนแคลร์ได้กลับไปหาเชอรี่เพื่อให้กำลังใจแก่เชอรี่ที่ถูกทางรัฐบาลทำการทดลองและวิจัยไวรัส G ในตัวของเชอร์รี่ และแคลร์ก็ได้เข้าร่วมกับหน่วยงาน Terrasave ในภาค Degenerarion



    เวสเกอร์
    เวสเกอร์ปฏิบัติหน้าที่ในการนำตัวอย่างไวรัส T-Veronica กลับไปให้กับบริษัทปริศนาได้สำเร็จ ซึ่งไวรัสนั้นอยู่ในศพของสตีฟ หลังจากนี้ก็ไม่มีข้อมูลใดๆ ของเวสเกอร์เพิ่มเติมอีกจนในปี 2002 เวสเกอร์ได้นำไวรัส T-Veronica ที่สกัดมาได้ไปรักษามานูเอลล่า ลูกสาวของจาเวียร์เพื่อแลกกับเงินก้อนโต




    สตีฟ
    สำหรับสตีฟนั้น หลังจากที่เสียชีวิตลง ก็ถูกเวสเกอร์นำร่างไปสกัดไวรัส T-Veronica จากนั้นมาก็ไม่มีเปิดเผยข้อมูลใดๆ อีกเลย (มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะกลับมาอีกครั้ง ในภาคที่แคลร์มีบทในเกม...)



    ทันย่า ?
    หากเพื่อนๆ เล่นภาค Darkside Chronicle เพื่อนๆ จะพบว่ามีบันทึกเสียงของอเล็กเซีย และอัลเฟรด ที่พูดถึงคนๆ หนึ่งที่ชื่อว่า ทันย่า ในเนื้อหาของเกมซีรี่ส์นี้ไม่มีข้อมูลใดๆ มากเกี่ยวกับคนๆ นี้ ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับอัลเฟรด และอเล็กเซียอยู่พอสมควร
    จากเทปบันทึกเสียงของอเล็กเซียนั้น เหมือนกับว่า ทันย่ามีจิตใจและร่างกายเหมือนกับอเล็กเซีย ที่อเล็กเซียไปเสาะแสวงหามา และอาจจะถูกอเล็กเซียทำการทดลองอะไรบางอย่างกับตัวของทันย่าจนเสียชีวิตลงด้วยวัย 13 ปี
    เพื่อเป็นการขอบคุณ อเล็กเซียกับอัลเฟรดจึงจัดงานวันเกิดให้กับทันย่าเรื่อยมา งานวันเกิดครบรอบ 13 ปี ตลอด 15 ครั้ง และจะฉลองวันเกิดครบรอบ 13 ปีแด่ทันย่าต่อไปตลอดกาลนาน...

    จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับภาค Code Veronica นะครับ หวังว่าเพื่อนๆ จะไม่เบื่อไปซะก่อนนะ และขออภัยด้วยนะครับ เพราะติดช่วงปีใหม่เลยไม่สามารถเขียนลงได้ทันในวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับภาคต่อไปจะเป็นภาค Resident Evil 4









    เนื้อเรื่อง Resident Evil : 4 ตอนที่ 1 'ยุทธการจาเวียร์ !' (ตอนพิเศษ) บนเครื่อง Wii




    กลับมาต่อที่ภาค 4 แล้วล่ะครับ หลังจากที่ทิ้งช่วงไปเกือบเดือน สำหรับภาค 4 ตอนแรกนั้น เพื่อนๆ ที่เล่นภาค 4 มาเห็นชื่อตอนแล้วอาจจะงงๆ "มันอยู่ส่วนไหนของภาค 4 วะ ?" ผมก็ขอตอบตามตรงครับว่า "ไม่มีเลย" เพราะ เนื้อเรื่องช่วงนี้ ผมดึงมาจากภาค Darkside Chronicle นั่นเองครับ

    เหตุผลที่ผมดึงเนื้อเรื่องตรงนี้มาท้าวความก่อน ก็เพราะว่าเป็นเนื้อเรื่องสำคัญช่วงหนึ่งที่แทรกกลางระหว่าง Code Veronica และ ภาค 4 ไว้้ด้วยกัน ซึ่งในที่นี้ ผมขอรวบเนื้อเรื่องตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของภาค 4 ไปด้วยเลยนะครับ โดยจะกล่าวถึงความสัมพันธ์ของคู่หูใหม่ ลีออน สก๊อต เคเนดี้ และ แจ็ก เคราส์เซอร์ รวมไปถึงเนื้อเรื่องของเวสเกอร์บางส่วนด้วย ลองมาดูกันเลยดีกว่าครับว่าเป็นยังไงกันบ้าง !



    ปี 2002





    หลังจากที่ทั้ง 2 คนเดินทางมาถึงหมู่บ้านที่เป็นเป้าหมาย ก็เห็นป้ายประกาศคนหายมากมาย โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิงถึงหญิงวัยรุ่น และก็พบว่าชาวบ้านของที่นี่มีท่าทางเหมือนกับซอมบี้ ที่ลีออนเคยพบเจอมาตอนช่วงที่เมืองแรคคูนล่มสลาย ระหว่างที่สำรวจในหมู่บ้าน ลีออนกับเคราเซอร์ได้เจอกับซอมบี้บางตัวที่มีรอยสัก Sacred Snakes ที่เป็นสัญลักษณ์ของลูกน้องจาเวียร์


    ทางลีออนและเคราเซอร์เริ่มรู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว จึงคิดตามหาไกด์ที่จะเป็นคนนำทางของภาระกิจในหมู่บ้านนี้ ซึ่งเมื่อตามหาพบ เขาก็อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส สิ่งที่ไกด์สามารถบอกทั้ง 2 คนได้ก่อนสิ้นใจก็คือ "ผู้หญิงคนนั้น นำพาปีศาจมาสู่หมู่บ้าน เธอหนีออกมาจากคฤหาสน์ของจาเวียร์ ผมพยายามช่วยเธอแต่ว่า..."



    จากข้อมูลที่ได้มาจากไกด์ก่อนสิ้นใจ ลีออนและเคราเซอร์ได้เปลี่ยนเป้าหมายเป็นการตามหาผู้หญิงคนที่ไกด์พูดถึง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใคร) เพื่อสอบสวนข้อมูลในคฤหาสน์จาเวียร์ จนเดินทางไปถึงโบสถ์ของหมู่บ้าน ก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งร้องเพลง โดยมี B.O.W.s. ขนาดยักษ์ซุ่มรออยู่ในน้ำ ในขณะที่ลีออนกำลังเล็งปืนไปที่ B.O.W.s ตัวนั้น ผู้หญิงปริศนาก็หยุดร้องเพลงหันหน้ามาทางลีออน แล้วสลบไป เจ้า B.O.W.s ที่ซุ่มอยู่ก็รู้ตัวหันมาโจมตีลีออนกับเคราเซอร์ทันที โดยหลังจากที่ตอบโต้กันไปสักพัก เจ้า B.O.W.s ตัวนั้ก็หนีลงน้ำไป


    ระหว่างที่รอผู้หญิงปริศนาฟื้น ลีออนกับเคราเซอร์ก็นำตัวผู้หญิงคนนั้นขึ้นเรือแล้วมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของจาเวียร์ ระหว่างทางลีออนก็เล่าเรื่องสมัยตอนที่ตนอยู่ในเมืองแรคคูนให้เคราเซอร์ฟัง ทั้งเรื่องราวของซอมบี้, เหล่า B.O.W.s และเบื้องหลังของอัมเบรลล่า ซึ่งเคราเซอร์ก็ตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ ลีออนเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ของหมู่บ้านนี้ต่างจากตอนเมืองแรคคูนมาก เพราะหมู่บ้านนี้มี B.O.W.s อยู่เต็มไปหมด หลังจากนั้นไม่นาน ผู้หญิงปริศนาก็ฟื้น


    ลีออนพยายามซักถามผู้หญิงปริศนาเกี่ยวกับคฤหาสน์ของจาเวียร์ โดยบอกจุดประสงค์ว่าต้องการตามหาตัวจาเวียร์ เพื่อสอบสวนเรื่องการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของ Umbrella และไวรัสซึ่งผู้หญิงปริศนาก็ยอมให้การช่วยเหลือแต่โดยดี ซึ่งเธอก็นำทางมาจนถึงทางเขื่อนระบายน้ำที่เธอหนีออกมา และภายหลังเธอถึงแนะนำตัวเองว่า เธอชื่อ มานูเอลล่า



    หลังจากเข้ามาทางเขื่อนระบายน้ำแล้ว ก็พบว่าในนี้มีทั้งซอมบี้และ B.O.W.s อยู่เต็มไปหมดจนทั้งลีออนและเคราเซอร์ต่างตั้งข้อสงสัยกันว่า มานูเอลล่าหนีผ่านเส้นทางนี้มาอย่างปลอดภัยได้ยังไง แต่เธอก็ตอบแค่ว่า เธอไม่รู้อะไรเลย เพราะตอนหนีออกมาก็ยังไม่มีซอมบี้หรือตัวประหลาดพวกนี้เลย และยิ่งสำรวจไปเรื่อยๆ มานูเอลล่าก็เริ่มมีท่าทางแปลกๆ ทั้งเหม่อลอย และอยู่ๆ ก็ร้องเพลงออกมา จนเมื่อได้ยินเสียงจาเวียร์เรียกผ่านเครื่องกระจายเสียง เธอก็ร้องออกมาว่า "พ่อ" ก่อนจะวิ่งหายไป ทำหให้ลีออนกับเคราเซอร์รู้ว่าความจริงแล้ว มานูเอลล่า คือลูกสาวของจาเวียร์นั่นเอง



    หลังจากที่ตามมานูเอลล่าไปสักพัก ก็พบกับเธอ และจาเวียร์ โดยจาเวียร์พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้มานูเอลล่ายอมทำตามที่ตนแนะนำ เพื่อรักษาชีวิตของเธอ โดยจาเวียร์ได้เผยว่า ตนได้ใช้ไวรัส T-Veronica ฉีดให้มานูเอลล่า เพื่อช่วยชีวิตของเธอ จากนั้นลีออน และเคราเซอร์ก็โดนน้ำจากทางระบายน้ำซัดกระเด็นไป ซึ่งมานูเอลล่าก็กระโดดลงน้ำหนีตามไปด้วยเช่นกัน "ทำไมจาเวียร์ต้องทำแบบนั้น?", "ทำไมมานูเอลล่าถึงไม่กลายร่าง?", "คนที่เอาไวรัส T-Veronica มาให้จาเวียร์เป็นใคร?" คำถามเหล่านี้ยังคงอยู่ในหัวของลีออนอยู่เรื่อยมา..



    หลังจากฟื้นขึ้นมาได้ ลีออนกับเคราเซอร์ก็พบว่าตัวเองถูกน้ำซัดมาจนถึงเกือบหน้าเขื่อน จึงพยายามฝ่าดงซอมบี้กลับไปยังห้องที่เจอจาเวียร์อีกครั้ง ซึ่งก็พบกับมานูเอลล่า ลีออนกับเคราเซอร์เลยพาเธอหนีออกมาข้างนอกเขื่อนได้สำเร็จ ซึ่งลีออนก็ถามมานูเอลล่าเรื่องราวที่สงสัยอยู่มานาน
    มานูเอลล่าถึงถอดผ้าพันแขนให้ลีออนดูเผยให้เห็นแขนที่ติดเชื้อไวรัสอย่างชัดเจน เธอเล่าเสริมว่า เธอเป็นโรคร้ายแรงที่ติดต่อทางพันธุกรรมมาจากแม่ซึ่งโรคนี้ไม่มีทางรักษาได้ แต่มีวิธีบำบัดได้โดยการใช้ไวรัสไปช่วยกระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น แต่ในทางกลับกันก็จะสร้างความเสียหายต่อสมองของผู้ติดเชื้อด้วย แม้กระทั่งตระกูลแอชฟอร์ดที่คิดค้นไวรัสนี้ขึ้นมาก็ยังไม่สามารถต้านทานอานุภาพของมันได้







    หลังจากที่ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว เคราเซอร์เริ่มมีความคิดว่าควรจะรีบจัดการมานูเอลล่าซะ ก่อนที่จะกลายร่างไปจริงๆ แล้วจะเป็นปัญหากับทั้งคู่ แต่ลีออนมีแผนรองรับเอาไว้อยู่ จึงจำเป็นต้องคุ้มครองมานูเอลล่าเอาไว้ เพราะคิดว่าจาเวียร์ต้องมีวิธีที่ทำให้ไวรัสในร่างมานูเอลล่าไม่กลายพันธุ์อยู่ พร้อมเผยว่าที่จริงแล้วลีออนได้รับคำสั่งนี้มาจากประธานาธิบดีโดยตรง เคราเซอร์จึงยอมให้ความร่วมมือกับลีออน และตกลงใจบุกเข้าไปในคฤหาสน์ของจาเวียร์ด้วยกัน





    เมื่อเข้ามาในคฤหาสน์ถึงโกดังชั้นใต้ดินด้านใน ทั้ง 3 คนก็พบกับซากของเด็กผู้หญิงที่สูญหายไปมากมาย แล้วจาเวียร์ก็ปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมอธิบายว่าศพเหล่านั้นถูกจาเวียร์จับมาชำแหละเอาอวัยวะภายในมาสลับเปลี่ยนและปลูกถ่ายในตัวของมานูเอลล่าอยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ไวรัสลุกลามไปจนกลายร่าง ซึ่งหลังจากคุยกันไปสักพัก จาเวียร์ก็ปล่อย B.O.W.s ขนาดใหญ่ที่พวกลีออนเคยปะทะตอนอยู่ในโบสถ์ออกมาอีกครั้ง




    หลังจากสู้กันไปสักพัก ลีออนกับเคราเซอร์เริ่มมีทีท่าว่าจะสู้ไม่ไหว และเกือบจะโดนเจ้า B.O.W.s ตัวนั้นฆ่าตายอยู่แล้ว แต่อยู่ๆ มานูเอลล่าก็ร้องเพลงขึ้นมา ทำให้ B.O.W.s ตัวนั้นต้องหยุดชะงักแล้วหันไปฟังตามเสียงเพลง เหมือนตอนอยู่ที่โบสถ์ ลีออนได้แต่ตะโกนห้ามไม่ให้มานูเอลล่าร้องเพลง เพราะจะทำให้มันหันความสนใจไปหาเธอ แต่เธอกลับตอบว่าไม่เป็นไร เพราะเมื่อไรที่เธอร้องเพลงนี้ เจ้า B.O.W.s จะไม่เข้ามาทำร้าย แต่ร้องไปได้ไม่นาน เธอก็เจ็บแผลและทรุดลงไป ทำให้ลีออนกับเคราเซอร์ต้องรีบวิ่งไปขวางและดึงความสนใจกลับมาอีกครั้ง






    หลังจากจัดการกับ B.O.W.s ตัวนี้ได้เคราเซอร์ก็รีบวิ่งตามจาเวียร์ไป แต่เพราะความประมาท เจ้าตัวประหลาดนั้นยังไม่สิ้นลมดี มันได้ยิงเหล็กในปักแขนซ้ายเคราเซอร์เข้าอย่างจัง ลีออนกับเคราเซอร์ก็รีบยิงสวนเพื่อป้องกันจน B.O.W.s สิ้นฤทธิ์ และในขณะที่มันกำลังจะตาย มานูเอลล่าก็เข้าใจว่าทำไมเวลาเธอร้องเพลงเจ้าตัวประหลาดนั้นถึงหยุดโจมตี... เพราะว่ามันคือ ฮิลด้า ไฮดาลโก้ แม่ของมานูเอลล่าที่ร้องเพลงนั้นกล่อมเธอตอนเด็กๆ เสมอนั่นเอง...



    ทางด้านจาเวียร์ก็ได้หนีไปยังห้องเพาะพันธุ์พืช เพื่อปลุก Veronica Flower ซึ่งเป็น B.O.W.s ขนาดยักษ์มีลักษณะเหมือนดอกไม้ให้ตื่นขึ้นมาและสูบตัวจาเวียร์เข้าไป รวมกันเป็น V-Complex (Veronica Complex) คอยไล่ตามทั้ง 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คนเห็นท่าไม่ดี จึงรีบหนีออกมาจากตัวคฤหาสน์ แต่ก็หนีไม่พ้น เพราะเจ้า V-Complex ยังตามออกมาถึงลานหน้าคฤหาสน์ด้วย




    ระหว่างที่ลีออนกับเคราเซอร์ช่วยกันต้าน V-Complex อยู่นั่น มานูเอลล่ากลับปวดแขนข้างที่โดนไวรัส T-Veronica และเริ่มทนไม่ไหว จนคิดสั้นจะวิ่งไปให้ V-Complex ฆ่าตัวเองซะให้จบๆ เรื่องไป แต่ลีออนวิ่งมาคว้าตัวเธอไว้ได้




    จากนั้น V-Complex ก็พยายามจะทุบให้ลีออนกับมานูเอลล่าตายไปทั้งคู่ ซึ่งเธอก็ได้ผลักลีออนให้กระเด็นออกไปแต่ทว่าแขนซ้ายข้างที่โดนไวรัส T-Veronica ของเธอกลับเกิดมีปฏิกิริยากับเลือดของเธอเอง ทำให้เลือดของเธอลุกเป็นไฟเผาไหม้ขาของ V-Complex เป็นจุลไปข้างหนึ่ง (เหมือนกับอเล็กเซีย ที่ปลูกถ่าย T-Veronica ใส่ตัวเองก็สามรถทำให้เลือดตัวเองลุกเป็นไฟได้)







    สรุปเส้นทางตัวละครใน Resident Evil 4 ตอน ยุทธการจาเวียร์

    ลีออน
    กลับบ้านมือเปล่า ไม่ได้ข้อมูลใดๆ จากจาเวียร์




    มานูเอลล่า
    ทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้รับเธอเข้ามาในการดูแล ซึ่งมานูเอลล่าเป็นมนุษย์เพียงคนเดียว ที่มีเชื้อไวรัส T-Veronica อยู่ในร่างกายและไม่ถูกทำให้กลายร่างหรือเสียสติไปแม้แต่น้อย




    หมายเหตุ - หากการต่อสู้กับจาเวียร์ใช้เวลานานเกิน 10 นาที มานูเอลล่าจะเสียเลือดในการสู้กับจาเวียร์มากจนเกินไป ฉากจบจะเปลี่ยนเป็นอีกแบบซึ่งร่างกายเธอจะสลายไป


    เคราเซอร์
    เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่แขนซ้ายของเคราเซอร์ ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำให้เขาถูกปลดประจำการจากการเป็นทหารของกองกำลังพิเศษสหรัฐอเมริกา และในช่วงปลายปี 2002 เคราเซอร์ได้เสียชีวิตลงจาก "อุบัติเหตุ" บางอย่าง



    หมายเหตุ ต่อไปนี้จะเป็นการสปอยล์ แล้วเป็น สาเหตุที่ เคราเซอร์ไปเป็น บอส ในภาค 4 บน Ps2


    หลังจากที่ถูกปลดประจำการ เคราเซอร์ก็รู้สึกโกรธแค้นรัฐบาลเป็นอย่างมากในช่วงแรก เขาได้ใช้ชีวิตไปวันๆ แบบไร้จุดหมาย จนวันหนึ่งที่เขานึกชื่อของ อัลเบิร์ด เวสเกอร์ ที่มีข้อมูลบันทึกไว้ในเอกสารรัฐบาลตอนเกิดคดีที่เกาะร๊อคฟอร์ด ทำให้เคราเซอร์ออกตามหาเวสเกอร์เพื่อให้ช่วยรักษาแขนให้กลับมาเป็นปกติ และปล่อยข่าวลือไปว่า ตนได้ตายด้วยอุบัติเหตุไปแล้ว เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตนกำลังไปพึ่งพาเวสเกอร์ และหลังจากที่เวสเกอร์รักษาแขนให้เคราเซอร์เรียบร้อย เคราเซอร์ก็ได้รับหน้าที่เป็นลูกมือของเวสเกอร์ในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ต่อไป

  5. รายชื่อสมาชิกจำนวน 12 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #4
    CM_The News Game
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,431
    กล่าวขอบคุณ
    956
    ได้รับคำขอบคุณ: 26,650
    Blog Entries
    3
    Resident Evil : 4 ตอนที่ 2 'พลาก้า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ !



    ต่อเนื่องกันเลยนะครับ กับสรุปเนื้อเรื่อง Resident Evil ภาค 4 ตอนที่ 2 คราวนี้จะเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักแล้วล่ะครับ โดยตัวเอกของภาคนี้ก็คือ ลีออน สก๊อต เคเนดี้ เจ้าเก่า กับอาเจ๊เอด้า หว่อง ซึ่งผมจะเล่าเนื้อเรื่องของทั้งสองคนควบคู่กันไปเหมือนตอนเนื้อเรื่องของภาค 2 นะ


    ปี 2004



    ผ่านไป 2 ปีหลังจาก "ยุทธการจาเวียร์" ลีออนได้รับมอบหมายภาระกิจใหม่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐอเมริกา ให้ช่วยเหลือและคุ้มครอง แอชลี่ย์ เกรแฮม ลูกสาวของประธานาธิบดีเกรแฮม ที่ถูกบุรุษลึกลับลักพาตัวไป ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ซึ่งข้อมูลล่าสุดที่ทางรัฐบา่ลรวบรวมมาได้ คือแอชลี่ย์ถูกลักพาตัวไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ประเทศเสปน




    เพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นความลับ และสะดวกต่อการปฏิบัติหน้าที่ ลีออนจึงถูกส่งตัวมาเพียงคนเดียว โดยมีนายตำรวจประจำพื้นที่ 2 คนเป็นผู้ขับรถมาส่ง หลังจากที่มาถึงแล้ว ลีออนก็ได้รับการติดต่อจาก อิงกริด ฮันนิแกน สาวแว่นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนข้อมูล ผู้รับหน้าที่ประสานงานกับลีออนในเคสนี้โดยเฉพาะ




    ลีออนเริ่มจากการไปสำรวจบ้านหลังแรกที่พบเพื่อสอบถามข้อมูลของแอชลี่ย์ ในนั้นมีชายวัยกลางคนกำลังง่วนอยู่กับการจุดเตาผิง ลีออนได้เข้าไปสอบถาม และยื่นรูปของแอชลี่ย์ให้ดู แต่ชายคนนั้นก็พูดตอบกลับมาด้วยภาษาที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร ลีออนจึงเตรียมจะขอตัวกลับ แต่ชายคนนั้นกลับหยิบขวานไล่ฟันลีออนแบบไม่มีเหตุผล และเพื่อปกป้องตัวเอง ลีออนจึงยิงชายคนนั้นตาย

    หลังจากสิ้นเสียงปืน ก็มีรถกระบะคันหนึ่ง พุ่งเข้าชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดรออยู่นอกบ้าน เส้นทางที่รถวิ่งไปนั้นคือหน้าผา แล้วรถทั้ง 2 คันนั้นก็พุ่งตกหน้าผาไป ลีออนรีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง พบว่า หน้า่บ้านหลังนั้น มีกลุ่มคนถืออาวุธจำพวกคราด จอบ ขวาน มุ่งมาทางบ้านหลังนี้่เต็มไปหมด ลีออนจึงรายงานให้ฮันนิแกนทราบ ว่าคนที่นี่ไม่เป็นมิตร และพยายามทำลายเขา ซึ่งฮันนิแกนก็แนะนำให้ลีออนหนีแล้วหาทางไปที่หมู่บ้านให้ได้ก่อน





    แต่เมื่อเดินทางมาถึงหมู่บ้านแห่งแรก สิ่งที่ลีออนพบก็คือ ศพของเจ้าหน้าที่ถูกแขวนไว้อยู่กลา่งเมือง พร้อมกับชาวบ้านกำลังจุดไฟเผากันอยู่ ซึ่งพอลีออนถูกพบตัว ชาวบ้านทั้งหมดต่างแห่ีกันมารุมทำร้ายลีออนกันใหญ่ ซึ่งลีออนก็ได้แต่หนีเอาตัวร้อน พร้อมกับข้อสงสัยมากมายว่าทำไมชาวบ้านเหล่านี้ถึงมาทำร้ายตนด้วย



    ในช่วงเวลาเดียวกัน เอด้า หว่อง สปายสาวก็ได้รับคำสั่งจากเวสเกอร์ มาเพื่อหาข้อมูลและโขมยไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า "พลาก้า" ที่หมู่บ้านแห่งนี้เช่นกัน ซึ่งเอด้าก็มาถึงที่นี่ในเวลาไล่เรี่ยกับลีออน หลังจากที่มาถึง เวสเกอร์ก็ติดต่อเอด้ามา และบอกว่าชาวบ้านที่นี่ติดเชื้อไวรัสพลาก้าอยู่ ซึ่งอาการของพวกนี้จะทำให้เกิดอาการคุ้มคลั่งและทำร้ายคนนอกที่ไม่ติดเชื้อในทันที เวสเกอร์จึงสั่งให้เอด้าไปลั่นระฆังที่โบสถ์ก่อนเพื่อให้ชาวเมืองสงบลง จะได้ปฏิบัติงานสะดวกขึ้น (เวสเกอร์ยังไม่รู้ว่าลีออนเป็นใคร แต่รู้แค่ว่าชาวบ้านกำลังคุ้มคลั่งกันอยู่)


    เอด้าจึงรีบรุดไปยังโบสถ์ในหมู่บ้านชั้นใน เพื่อสั่นระฆังให้ชาวบ้านสงบลง ซึ่งระหว่างทางก็พบว่าลีออนกำลังถูกพวกชาวบ้านรุมทำร้ายอยู่ เอด้าจึงพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้ลีออนพบตัวเอง (ลีออนคิดว่าเอด้าตายแล้ว ในเมืองแรคคูน) หลังจากฝ่าดงชาวบ้านชุดใหญ่ไปได้ ก็ขึ้นไปสั่นระฆังโบสถ์สำเร็จ เหล่าชาวบ้านต่างหยุดการกระทำทุกอย่างและกลับเข้าไปในบ้านของตัวเอง ทางด้านลีออนหลังจากที่จนมุมจนเกือบจะโดนฆ่าตายอยู่แล้ว แต่ชาวบ้านก็หยุดชะงัก และต่างถอยกลับเข้าบ้านของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สร้างความสับสนงงงวยให้แก่ลีออนเป็นอย่างมาก



    หลังจากที่ทางสะดวกแล้ว ลีออนก็เริ่มออกสำรวจต่อไปจนมาถึงบ้านอีกหลังหนึ่ง ภายในบ้านหลังนั้น ลีออนได้พบกับชายหนุ่มท่าทางแปลกๆ คนหนึ่งที่ถูกจับมัดแล้วยัดใส่ตู้เสื้อผ้่าไว้ โดยหลังจากที่ลีออนแก้มัดให้เขาได้แล้วอยู่ๆ ก็มีชายร่างใหญ่ เดินเข้ามา ลีออนเห็นท่าทางแล้วรู้เลยว่าไม่ได้มาอย่างเป็นมิตรแน่ เลยพยายามวิ่งไปถีบชายร่างใหญ่คนนั้น แต่เขากลับคว้าขาของลีออนได้อย่างง่ายดาย พร้อมเหวี่ยงลีออนกระเด็นไปกระแทกชายที่เพิ่งแก้มัดไปเมื่อกี๊สลบไปทั้งคู่ แล้วพวกเขาก็ถูกจับไปอีกรอบ





    ทางด้านเอด้า ที่สืบพบข้อมูลบางอย่าง ในบ้านของชายร่างใหญ่คนนั้น และทราบว่าเขาชื่อ บิโทเรส เมนเดส ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ ระหว่างนั้นก็ได้รับการติดต่อจากเวสเกอร์ ใ้ห้ตามหาตัวและช่วยเหลือ หลุยส์ เซร่า เนื่องจากเป็นคนที่น่าจะมีข้อมูลและตัวอย่างของไวรัสพลาก้าอยู่กับตัว เอด้าจึงออกจากบ้านของเมนเดส เพื่อไปช่วยเหลือหลุยส์ทันที แต่เมื่อมาถึงจุดหมายก็พบว่า พวกชาวบ้านกำลังนำตัวหลุยส์ออกไปไว้อีกทีหนึ่ง รวมถึงลีออนที่กำลังสลบอยู่ด้วย


    ในบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่ถูกเคลื่อนย้ายไปแล้ว ระหว่างที่ลีออนสลบอยู่ เขาถูกฉีดไวรัสปริศนาเข้าไปในร่างกายและเมื่อฟื้นขึ้นมาได้ ก็พบว่าตัวเองถูกจับมัดติดกับชายปริศนาคนนั้นไว้ ซึ่งเขาแนะนำตัวเองว่า เขาชื่อ หลุยส์ เซร่า ระหว่างนี้ ลีออนได้ถามหลุยส์ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน และถามถึงแอชลี่ย์ด้วย ซึ่งหลุยส์บอกว่า แอชลี่ย์ถูกจับขังไว้อยู่ในโบสถ์ แต่ยังคุยกันไม่ทันรู้เรื่องดี อยู่ๆ ก็มีชาวบ้านคนนึงถือขวานอันใหญ่วิ่งเข้ามาหมายจะฟันทั้งคู่ ลีออนได้สั่งให้หลุยส์โยกตัวหลบเพื่อให้ขวานฟันโดนโซ่ที่มัดอยู่ระหว่างทั้งสองคนออกจา่กกัน โดยลีออนได้ถีบชาวบ้านคนนั้น กระเด็นไปฟาดกำแพงคอหักตาย ส่วนหลุยส์ก็ฉวยโอกาสนี้วิ่งหนีออกไป




    จากข้อมูลที่คุยกับหลุยส์ ทำให้ลีออนทราบว่า แอชลี่ย์อยู่ที่โบสถ์ ลีออนจึงตัดสินใจหาทางกลับไปยังหมู่บ้านเดิมอีกครั้ง เพราะมันมีทางแยกไปที่โบสถ์อยู่ เมื่อลีออนเดินทางมาถึงคฤหาสน๋แห่งหนึ่งซึ่งที่แห่งนั้นก็คือบ้านของเมนเดสนั่นเอง ในนั้นลีออนถูกเมนเดสเจ้าเก่าซ้อมจนน่วม แต่อยู่ๆ ชายร่างใหญ่คนนั้นก็หยุดโจมตีลีออน แล้วบอกว่า "ลีออนมีเลือดในรูปแบบเดีัยวกับพวกเขา" จากนั้นก็เดินจากไป ฮันนิแกนติดต่อลีออนอีกครั้ง พร้อมกับอัพเดตข้อมูลให้ลีออนทราบว่า หมู่บ้านแห่งนี้ อยู่ในอำนาจของลัทธิ Los Illuminados ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวแอชลี่ย์ด้วย




    หลังจากคุยจบ ลีออนก็เดินตามทางที่เมนเดสเดินไป แต่ไม่ทันไร ก็โดนเมนเดสอัดอีกรอบ แต่โชคยังดีที่เอด้ากลับมาเจอและเห็นว่าลีออนกำลังโดนทำร้าย เลยยิงใส่เมนเดสเพื่อล่อความสนใจจากทางนอกหน้าต่าง พอเมนเดสวิ่งเข้าใส่เอด้าก็ใช้ปืนสลิงดึงตัวเองหลบ จนเมนเดสพุ่งออกหน้าต่างตกลงไปข้างล่าง จากนั้นเอด้าก็พยายามหนีออกจากบริเวณนั้น แต่ก็โดนพวกชาวบ้านล้อมไว้ และก็โดนปืนยาสลบยิงใส่ท้ายทอยจนสลบไป




    ทางด้านลีออนที่รอดจากการโดนเมนเดสอัดมาได้ ก็เดินทางไปที่โบสต์ต่อ แต่เมื่อมาถึงโบสถ์แล้วกลับไม่สามารถเข้าไปได้ ติดต่อไปหาฮันนิแกนก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ จึงแนะนำให้ลองหาวิธีอื่นเพื่อเข้าโบสถ์ดู ลีออนจึงเดินทางมาสำรวจบริเวณข้างเคียง ก็พบบันทึกฉบับหนึ่งที่เขียนไว้สรุปใจความได้ว่า "หลุยส์ได้โขมยตัวแปรสำคัญสำหรับแผนการไป ถ้าไม่มีสิ่งนั้น เด็กผู้หญิงคนนี้ก็ไร้ความหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องผิดคาดขึ้น พวกเราจำเป็นต้องขังเด็กคนนั้นไว้ที่โบสถ์ก่อนแล้วปิดตายเอาไว้ คนที่ได้รับอนุญาตจากลอร์ดแซดเลอร์เท่านั้นที่จะเข้าไปได้ ส่วนกุญแจโบสถ์ อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ ซึ่งมี เดล ลาโก้เฝ้าไว้อยู่ ส่วนไอ้ชาวมะกันที่บุกรุกมาคนนั้น อีกไม่นานมันก็จะกลายเป็นพวกเรา และจะได้ไม่มีใครมายุ่งย่ามกับเด็กผู้หญิงคนนี้อีก"



    หลังจากอ่านข้อความจบ ลีออนได้มุ่งไปยังท่าเรือเพื่อหาทางข้ามฟากไปเอากุญแจอีกฝั่งทันที ซึ่งเมื่อไปใกล้ถึงท่าเรือ ก็พบว่ามีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังนำศพของนายตำรวจท้องที่ที่ถูกฆ่าตาย มาทิ้งที่แม่น้ำ แล้วสิ่งที่ทำให้ลีออนต้องขนลุกก็เกิดขึ้น เมื่อมีสัตว์ทะเลยักษ์โผล่ขึ้นมางาบศพนายตำรวจท้องที่คนนั้นไปกินแต่เพื่อกุญแจโบสถ์ ลีออนต้องข้ามฟากไปให้ไ้ด้ เขาได้นำเรือจากกระท่อมแถวนั้นข้ามแม่น้ำไป




    ถึงแม้จะข้ามแม่น้ำอย่างระมัดระวังแค่ไหน แต่สุดท้ายเจ้าสัตว์ทะเลยักษ์ตัวนั้นก็โผล่ออกมาโจมตีลีออนอยู่ดี มันคือ เดล ลาโก้ ที่บันทึกนั้นพูดถึงเอาไว้นั่นเอง การโจมตีของ เดล ลาโก้ ทำให้เรือที่ลีออนนั่งมาเกือบพลิกคว่ำ แถมสมอเรือได้ตกลงไปในแม่น้ำเกี่ยวกับเกล็ดของเจ้า เดล ลาโก้ เอาไว้ เรือของลีออนจึงถูกมันลากวนไปทั่วแม่น้ำ โชคยังดี ที่บนเรือมีฉมวกอยู่หลายอัน ลีออนจึงใช้ฉมวกเหล่านั้นปาใส่เจ้า เดล ลาโ้ก้ จนสิ้นฤทธิ์จมลงแม่น้ำไป แต่ความซวยของลีออนยังไม่จบสิ้น เมื่อเชือกที่ผูกกับสมอ ดันหลุดพันขาของลีออนเหมือนจะลากเขาลงแม่น้ำไปด้วย ลีออนจึงรีบใช้มีดตัดจนเชือกขาด และเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด




    หลังจากผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดกับเจ้า เดล ลาโก้ มาได้ ลีออนก็กระเสือกกระสนข้ามแม่น้ำมาจนได้ แต่ด้วยสภาพของเขาที่ร่อแร่เต็มที แถมอยู่ๆ ก็กระอักเลือดออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเดินเข้ามาในกระท่อมหลังหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มทรุดลงและสลบไป...

    เนื่องจากเนื้อเรื่องตัวต่อไป ขาดหายไป ทำให้ไม่มีให้อ่าน แย่ จัง แต่คนที่เล่นเกมบน Ps2 ไปแล้ว คง โชคดีที่สุด











    Biohazard 5/ Resident Evil 5 ศึกไวรัส ทวีป แอฟริกา






    หลังจากที่ Umbrella Corporation ล่มสลาย เหล่าอาวุธชีวภาพ (B.O.W) ที่ Umbrella Corporation ได้คิดค้นขึ้นถูกขายในตลาดมืดและตกอยุ่ในมือของผู่ก่อการร้าย ประชาชนในประเทศที่ขาดความมั่นคงต่างหวาดผวาและเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนที่ Raccoon City ซ้ำสองเมื่อความหวาดกลัววิตกกระจายไปทั่ว รัฐบาลสหรัฐจึงร่วมือกับสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและสมาคมเภสัชกรรมระดับสากล (Global Pharmaceutical Consortium) ก่อตั้งหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวะภาพในนามของ BSAA (Bioterrorism Security Assessment Alliance) ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ภารกิจของหน่วย BSAA คือแทรกซึมและถอนรากถอนโคนการก่อการร้ายที่ใช้อาวุธชีวภาพให้หมดสิ้นเพื่อนำความมั่นคงและเสถียรภาพคืนสู่ประเทศต่างๆทั่วโลก.


    ปี 2009 ณ ทวีปอาฟริกา

    • รถฮัมวี่สองคันแล่นบนสั้นทางแคบๆในเมือง Kijuju อย่างรีบเร่ง Dan DeChant หัวหน้า Alpha Team ติดต่อกองบัญชาการรายงานว่าตนและลูกน้องมาถึงที่หมายและป้องกันสั้นทางใต้ดินที่เป็นสั้นทางที่มุ่งไปยังจุดนัดหมายเรียบร้อยแล้ว





    •ช่วงเวลาเดียวกัน ณ โกดังแห่งหนึ่งในเมือง Kijuju ชายผิวสีคนนึงนั่งคุกเข่าต่อหน้าหญิงลึกลับปกปิดใบหน้าด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสุ้ดีนัก หญิงลึกลับปรายตามองชายคนดั่งกล่าวราวกับสังเกตุปฎิกิริยาของเขา และทันใดนั้นเองเขาก็ร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับมีบางสิ่งอยุ่ในร่าง เขาคว้ามือและจ้องมองหญิงลึกลับคนนั้นราวกับร้องขอชีวืต แต่ทว่ากลับไร้คำพุดใดๆ เธอกระซากมือออกและเดินจากไป สิ่งมีชีวิตประหลาดผุดออกจากร่างชายคนนั้นและกลืนกินร่างเขาทั่วทั้งร่าง



    • รถคันหนึ่งแล่นมาตามสั้นทางรุกรังท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในทะวีปอาฟริกาเพื่อมุ่งส่อาณาเขตปกครองตนเองที่ชื่อ Kijuju เมื่อรถแล่นมาถึงที่หมาย Chris Redfield เจ้าหน้าที่ BSAA สาขาทวีปอาเมริกาเหนือก้าวเท้าลงจากรถและเปีดประตูรถเพื่อหยิบสัมภาระ หญิงสาวผิวสีคนหนึ่งเดินตรงมาหาเขา เธอกล่าวทักทายและแนะนำตัวเอง เธอชื่อ Sheva Alomar เป็นเจ้าหน้าที่หน่วย BSAA สาขาอาฟริกาฝั่งตะวันตกและเป็นคู่หูของ Chris ในภารกิจครั้งนี้ คำว่าคู่หูตอกย้ำความทรงจำที่แสนเจ็บปวดของ Chris จนนึกถึงภาพหลุมศพของ Jill Valentine ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อน






    • Sheva เห็น Chris ดูเหม่อลอย จึงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง แต่ทว่า Chris กลับพยายามปกปิดไม่ให้เธอรู้ว่าเขาคิดอะไรอยุ่ Sheva ได้ยินเขายืนยันเช่นนั้นจึงวางใจและนำทาง Chris ไปยังที่นัดหมาย ระหว่างนั้นเองก็มีชายผิวสีร่างใหญ่เดินมาขวางทางคนทั้งคู่ด้วยท่าทีไม่น่าไว้วางใจและทำท่าจะตรวจค้น Sheva จึงยื่นบัตรให้ชายคนนั้นดู เมื่อเขาเห็นจึงยอมปล่อยให้ทั้งสองเดินผ่านเข้าไป ตอนนั้นทั้งคู่ต่างก็ไม่เอะใจเลยว่ามีชายคนหนึ่งแอบจับตามองทั้งคู่ด้วยสายตา*****มเกรียม



    • Kirk Mathison นักบินประจำหน่วย BSAA สังกัด Alpha Team ติดต่อมายัง Chris และ Sheva เพื่อแจ้งภารกิจว่าตอนนี้ Alpha Team แทรกซึมเข้าไปในเมือง Kijuju เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ทั้งคู่ไปยังจุดนัดหมายที่ร้านขายเนื้อและเข้าสนับสนุน Alpha Team ทันที ทั้งสองรับทราบภารกิจและมุ่งหน้าไปที่ร้านขายเนื้อทันที แต่ระหว่างทางนั้นก้มีเสียงสัญญานดีงขึ้นพร้อมเสียงประกาศผ่านทางวิทยุ Sheva รู้สึกสังหรณ์ใจจึงหันกลับไปมอง แต่ว่าทั้งคู่ก็ต้องประหลาดใจที่ผู้คนในละแวกนั้นหายไปกันหมดทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เหตุการณ์ยังปกติดีอยู่




    • เมื่อทั้งคู่มายังจุดนัดพบ ก็เจอกับ Reynard Fisher เจ้าหน้าที่หน่วย BSAA สาขาอาฟริกาตะวันตกที่แฝงตัวในคราบพ่อค้าขายเนื้อยืนรอต้อนรับพวกเขาและพาเข้าไปเพื่อมอบอาวุธสำหรับปฎิบัติภารกิจ Reynard แจ้งว่าพิกัดที่ทั้งสองต้องไปประสารงานกับ Alpha Team ก็คือย่านทาวน์สแควร์และตามล่าตัว Ricado Irving พ่อค้าอาวุธชีวภาพที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการหายนะที่ชื่อ Uroboros เมื่อทั้งคู่เตรียมการเรียบร้อยแล้วก็เริ่มต้นภารกิจทันที
    • ทันทีที่ออกจากร้านขายเนื้อ ก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งร้องลั่น ทั้งคู่จึงรีบตรงเข้าไปที่บ้านหลังนั้นทันที เมื่อเข้าไปถึง ทั้งคู่ก็ได้เห็นชายสองคนกำลังนำสิ่งมีชีวิตประหลาดยัดใส่ปากชายคนดั่งกล่าว Chris และ Sheva เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลจึงยกปืนขุ่ชายทั้งคู่ แต่พวกเขากลับหันมามองอย่างไม่สะทกสะท้านและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ชายดั่งกล่าวร้องดิ้นทุรนทุรายอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง Chris เอื้อมมือเพื่อช่วยเหลือแต่เขาก็ปัดมือ Chris ออกไปอย่างไม่ใยดีไม่นานชายคนดั่งกล่าวก็แน่นิ่งแล้วลุกขึ้นยืน ทั้งคุ่สังเกตุเห็นท่าทางของเขาดูเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเขาก็วิ่งตรงเข้าทำร้ายทั้งคุ่อย่างคลุ้มคลั่ง ทั้งสองไม่มีทางเลือก จึงต้องกำจัดเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้








    Sheva แทบไม่อยากเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น สำหรับ Chris เองก้ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เช่นกันเพราะคนคนนี้ท่าทางไม่เหมือนซอมบี้อย่างที่เขาเคยเจอ Sheva เห็นท่าทางไม่ดีจึงบอกให้ Chris รีบไปยังจุดนัดหมายโดยเร็ว แต่ทว่าระหว่างทางที่พวกเขารีบไปยังจุดนัดหมายนั้น พวกชาวบ้านต่างกรูเข้ามาทำร้ายทั้งสองคนอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาจำต้องหนีเอาตัวรอดและติดต่อ Kirk เพื่อรายงานสถานะการณ์และขอกำลังสนับสนุน ทั้งคู่วิ่งหนีมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบ้านหลังหนึ่ง ทั้งสองเห็น Reynard Fisher โดนชาวบ้านจับตัวเอาไว้ ชายผู้ปลุกระดมชาวบ้านพูดอะไรบางอย่างผ่านโทรโข่งและมองหน้าส่งสัญญานให้เพซฌฆาตร่างยักษ์เงื้อขวานจามใส่เข้าที่ต้นคอ Reynard เต็มแรง พวกชาวบ้านต่างก็ตะโกนโห่ร้องด้วยความยินดีอย่างสุดเสียง ทั้งสองทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนดูเขาโดนสังหารอย่างโหด*****มต่อหน้าต่อตา ทันใดนั้นชายผู่ปลุกระดมชาวบ้านก็เหลือบไปเห็นทั้งคู่ที่ยืนมองดุการชุมนุม เขาไม่รอช้าจึงสั่งให้ชาวบ้ามุ่งตรงไปสังหารทั้งสองคนทันที



    ขณะที่ทั้งคู่โดนชาวบ้านรุมทำร้ายอยุ่นั้น Kirk ก็ขับเฮลิคอปเตอร์มาช่วยและติดต่อให้คนทั้งคุ่หาที่กำบัง แรงระเบีดจาก Rocket Launcher ทำให้ทุกอย่างในบริเวณนั้นราบเป็นหน้ากลอง หลังจาดเครียร์สถานที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ให้ทั้งคุ่ไปที่จุดนัดหมายต่อ ส่วนตัวเขานั้นขอล่วงหน้าไปก่อน
    • เมื่อทั้งสองเดินทางจวนจะถึงจุดนัดหมายทาง Alpha Team ก็ติดต่อไปที่กองบัญชาการว่าพวกตนถูกอะไรบางอย่างโจมตีและขาดการติดต่อไป ทั้งสองได้ยินและพยายามติดต่อ Alpha Team แต่ก็ไม่ได้ผล เมื่อ Kirk เห็นว่า Alpha Team ขาดการติดต่อไปนานผิดปกติ จึงสั่งการให้ทั้งคู่รีบรุดไปยังจุดหมายโดยเร็ว






    เมื่อมาถึงจุดหมาย ทั้งสองก็เห็นสมาชิก Alpha Team นอนตายเกลื่อน Chris เห็น Dan DeChant หัวหน้า Alpha Team นั่งหายใจรวยรินจึงรีบตรงเข้าไปถามเขาทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น DeChant บอกด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่ามีอะไรบางอย่างโจมตีพวกเขา ส่วน Irving นั้นหนีไปได้ จากนั้นเขาก็มอบ HDD ที่ดาวน์โหลดข้อมูลมาจากคอมพิวเตอ์ผู้ก่อการร้ายแก่ Chris และเขาก็สิ้นใจ Chris ติดต่อ Kirk เพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น Kirk จึงสั่งให้ทั้งสองคนนำข้อมูลไปถ่ายโอนที่ Storage Facility แต่ระหว่างทางที่พวกเขามุ่งหน้าไปนั้นกลับมีสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ชื่อ Uroboros เข้าโจมตี แต่พวกเขาก็สามารถกำจัดมันและรอดมาได้สำเร็จ Chris และ Sheva มั่นใจว่าสิ่งนี้คือสาเหตุที่ทำให้เหล่าสมาชิก Alpha Team ต้องจบชีวิตลงแน่นอน ทั้งคุ่จึงตัดสินใจที่จะรายงานเรื่องนี้ให้กองบัญชาการทราบ




    เมื่อทั้งสองขึ้นลิฟท์ตรงมาที่ Storage Facility ชายที่ชื่อ Irving กำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวของทั้งสองผ่านกล้องวงจรปิด และบอกให้หญิงลึกลับขับรถออกไป Chris รีบนำข้อมูลที่ได้ถ่ายโอนลงคอมพิวเตอรืที่อยู่ในรถฮัมวี่ทันที เมื่อส่งข้อมูลให้กองบัญชาการเสร็จสิ้น Chris ก้แจ้งสถานการณ์ไปยังกองบัญชาการว่าชาวบ้านรุมทำร้ายพวกเขา แถมท่าทางของชาวบ้านเหล่านั้นก็เหมือนกับ Granado ที่ Leon S. Kenedy เคยรายงานไว้ หนำซ้ำยังเจอสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่พวกเขาไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนด้วย ทั้งคู่จึงขอให้กองบัญชาการแจ้งการกิจใหม่ แต่ทางกองบัญชาการแจ้งว่าให้ดำเนินภารกิจจับกุมตัว Irving ต่อไป และจากข้อมูลที่ได้เชื่อว่าเขาหลบหนีไปยังเหมืองที่อยู่ถัดจากสถานีรถไฟ ทั้งสองคนต่างมองหน้ากันและแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่ากองบัญชาการจะสั่งการให้ทำภารกิจที่ยากสำหรับเจ้าหน้าที่เพียงแค่สองคน แต่กองบัญชาการยังคงยืนยันภารกิจเพราะไม่อยากให้ Irving ลอยนวลไปได้ นอกจากนี้ทางกองบัญชาการยังยืนยันว่ากำลังส่ง Delta Team ออกไปช่วยสนับสนุนและระบุตำแหน่งของ Irving ทั้งสองจึงจำเป็นต้องทำภารกิจต่ออย่างเลี่ยงไม่ได้




    •ระหว่างที่ทั้งสองมุ่งหน้าออกจากเมืองตรงไปที่เหมืองนั้น ทางกองบัญชาการก็ให้ Kirk ขับเฮลิคอปเตอร์ตามมาช่วยสนับสนุน ทันใดนั้นเองเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อฝูง Kipepeo (สิ่งมีชีวิตคล้ายแมลง) รุมจู่โจมเฮลิคอปเตอรืของ Kirk จนเครื่องยนต์ขัดข้อง Kirk ติดต่อกองบัยชาการว่าโดนโจมตีและเครื่องกำลังจะตก Chris ติดต่อ Kirk แต่ไม่นานสัญญานก็ขาดหายไป กองบัญชาจึงติดต่อทุกหน่วยที่อยู่ใกล้ตรงไปยังตำปหน่งที่เฮลิคอปเตอร์ตกโดยเร็ว ทั้งคู่รีปวิ่งมายังจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตกทันที
    •พวกเขาตกตะลึงเมื่อเห็นซากเฮลิคอปเตอร์และศพของ Kirk ที่ไหม้เกรียม และทันใดนั้นเองพวกชาวบ้านที่เป็นสิงห์นัดบิตขับมอเตอร์ไชค์มาจากทั่วทุกสารทิศรุมโจมตีทั้งสองคนแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ทว่าโชคก็เข้าข้างเมื่อ Delta Team มาช่วยพวกเขาได้ทันเวลาพอดี




    •ผู้ที่นำ Delta Team มาช่วยทั้งคู่ได้ทันก็คือ Josh Stone เขาเคยเป็นผู้ฝึกฝนหลายสิ่งหลายอย่างให้กับ Sheva ที่เปรียบเสมือนน้องคนเล็กของหน่วย Josh สั่งให้ทำภารกิจต่อและมอบข้อมูลที่กองบัญชาการวิเคราะห์มาแล้วแก่ Chris และแยกย้ายไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายต่อ Chris เปิดดูข้อมูลที่ได้มาทันที แต่แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อภาพที่เขาเห็นคือ Jill อดีดคู่หูที่เขาไม่เคยลืม Sheva เห็นสีหน้าของ Chris เปลี่ยนไปจึงถามเขา Chris ทำท่าทางจะบอก แต่ก้เปลี่ยนใจไม่บอกเรื่องของผู้หญิงที่หน้าตาละม้ายคล้าย Jill



    ทั้งสองเดินทางมาถึงเขตเหมืองและเจอตัว Irving ในที่สุด แต่ทว่า Irving กลับชักปืนขึ้นมา และไม่มีทีท่าว่าจะยอมจำนน ขณะที่ต่างฝ่ายต่างจ่อปืนเข้าหากัน ก็มีแก๊สน้ำตาปาเข้ามาที่หน้าต่าง ทันใดนั้นเองหญิงลึกลับก็พุ่งตัวเข้ามาแล้วพาตัว Irving หนีไป Chris และ Sheva พยายามจะตามไป แต่ทว่าก็หายไปเสียแล้ว
    •แม้จะเสียดายที่ตาม Irving ไม่ทัน แต่ทั้งคุ่ก็ได้หลักฐานชิ้นสำคัญมานั่นคือตำแหน่งของแหล่งขุกเจาะน้ำมันที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำ ทั้งคุ่ไม่รอช้าจึงติดต่อไปยัง Delta Team ว่าเจอตัว Irving แล้วแต่ว่าหนีไปได้และคาดว่าน่าจะหนัไปยังแหล่งขุดเจาะน้ำมันใกล้กับลุ่มแม่น้ำ Delta Team จึงบอกว่าจะให้ใครสักคนตามไปและให้ทั้งคุ่มุ่งหน้ามายังตำแหน่งที่ Delta team อยุ่ทันที




    ทั้งสองรีบลัดเลาะผ่านเหมืองไปจนเกือบจะถึงถนน แต่ทั้งคู่ก็ต้องชะงักเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง และทันใดนั้นก็มีรถพ่วงคันหนึ่งแล่นตรงมาหาพวกเขา คนขับรถคันนั้นหักเลี้ยวราวกับว่าจงใจให้เสียหลัก ท้ายรถคันนั้นเปีดออกและมีอะไรบางอย่างออกมาจากท้ายรถพ่วง ทั้งคู่จ้อวมองแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง Popokurimu (สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์คล้ายค้างคาว) พุ่งตรงเข้ามาจุ่โจมทั้งสองอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่พยายามต่อกรกับมันด้วยอาวุธที่มีจนมันบาดเจ็บสาหัส มันพยายามใช้แรงทั้งหมดเข้าจู่โจมคนทั้งคู่ แต่ด้วยการจู่โจมของ Chris จึงทำให้มันเสียหลักตกไปที่ท้ายรถพ่วงและร่วงลงไปพร้อมกันที่ก้นเห



    •หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถฮัมวี่คันหนึ่งแล่นตรงเข้ามา Dave Johnson สมาชิก Delta Team ที่ทำหน้าที่เป็นพลขับก็ตะโกนให้ทั้งคุ่ขึ้นรถ ระหว่างทาง Sheva ก็แจ้งไปที่กองบัญชาการว่า Irving จะต้องหนีไปที่แหล่งขุดเจาะน้ำมันบริเวณลุ่มแม่น้ำแน่นอน และจะตามไปสมทบกับ Delta Team เพื่อไล่ตาม Irving
    •ช่วงที่ทั้งคู่มาถึง Savanna พวกชาวบ้านจำนวนมากก็ขับรถไล่ล่าพวกเขา ทั้งคู่พยายามยิงคุ้มกันจนสุดความสามารถเพื่อให้รถที่พวกเขาโดยสารมาถึงที่หมายโดยปลอดภัย ช่วงที่ชุลมุลกับการยิงคุ้มกันอยุ่นั้นเอง Josh ก็ติดต่อมาว่าชาวเมืองติดเชื้อปรสิต Las Plagas แต่ในข้อมูลที่ได้อ้างว่าเป็น Majini (สิ่งมีชีวิต Type2 Plagas อาศัยอยู่)แต่ไม่ได้ระบุไว้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ Uroboros หรือเปล่า Chris ทราบข้อมูลดังนั้นจึงบอก Josh ว่า Irving คนเดียวเท่านั้นที่รู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้
    •ช่วงที่รถแล่นมาได้ครึ่งทาง Delta Team ติดต่อไปยังกองบัญชาการโดยที่ Chris และ Sheva ได้ยินทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันว่าพวกเขาโดนโจมตีและต้านเอาไว้ไม่ไหว ทางกองบัญชาการจึงแจ้งกลับไปว่ากำลังส่งกำลังเสริมไป ขอให้ตรึงกำลังเอาไว้ก่อน








    •ทั้งสามเอาตัวรอดจาการไล่ล่าจนมาถึงหมู่บ้านชาวประมงได้ในที่สุด ระหว่างที่ Dave ขับรถผ่านเข้าไป ทั้งสามก็รุ้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบเชียบและเห็นเหล่าสมาชิก Delta Team นอนตายเกลื่อนกลาดอยู่สองข้างทาง Dave ขับรถมาตามทางจนเจอศพสมาชิก Delta Team คนหนึ่งนอนขวางถนน เขาจอกรถแล้ววิ่งไปตรวจสอบศพของสมาชิก Delta Team คนนั้นทันที ส่วน Chris และ Sheva ตามลงมาและคอยดูลาดเลา แต่แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเมื่อมีบางสิ่งตรงเข้ามาและก็ได้มีรถลอยข้ามศรีษะพวกเขาไป ขณะที่ Dave เริ่มหวาดวิตกอยู่นั้นเอง ก็มีเงาขนาดยักษ์อยู่ข้างหลัง Dave หันไปมองทันทีแต่ก็ไม่ทันได้ร้องสุดเสียง Ndesu (สิ่งทีชีวิตร่างยักษ์) กระทืบร่างเขาแหลกตายคาที่ Chris และ Sheva เห็นดังนั้นจึงวิ่งไปหลังรถและสาดกระสุนใส่มันจนตายในที่สุด




    •หลังจากที่ทั้งคู่รอดมาได้แล้ว Sheva ก็ตรงไปที่ศพสมาชิก Delta Team คนหนึ่ง เธอเก็บป้ายชื่อขึ้นมาและเริ่มเป็นห่วง Josh, Chris เห็นสีหน้าของ Sheva จึงบอกให้เธอเลิกทำภารกิจนี้แล้วกลับไปซะ ส่วนเขาจะขอฝ่าฝืนคำสั่งเพื่อไปตามหาตัว Jill Valentine เพราะเขามั่นใจว่ารูปที่ได้มาจาก Delta Team นั้นคือ Jill และเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน แต่ Sheva ไม่ยอมและยืนกรานจะไปกับเขาให้ได้ เมื่อ Chris เห็น Sheva ยืนกรานเช่นนั้น เขาจึงยอมให้เธอตามมาด้วย






    •ช่วงที่แล่นเรือตรงไปยังแหล่งขุดเจาะน้ำมัน Sheva ก็ถามเขาเรื่อง Jill เขาจึงเล่าให้ฟังว่าตัวเขาและ Jill ตามล่าตัว Albert Wesker เมื่อสองสามปีก่อนเขาและ Jill ได้รับแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและตรงไปที่คฤหาสน์ของ Ozwell E. Spencer ผู้ก่อตั้ง Umbrella เพื่อล่าตัว Wesker เมื่อทั้งคู่เข้าไปก็เห็น Wesker และร่างของ Ozwell นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น Chris และ Jill ไม่รอช้า ใช้ปืนกระหน่ำยิง Wesker ทันที แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย ขณะที่ Chris พลาดท่าจนเกือบโดน Wesker สังหาร Jill ก็วิ่งมาช่วยเขาและตกหน้าผาไปพร้อมกับ Wesker, Chris หาศพ Jill ไม่พบและคิดว่าเธอคงตายไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องไปเห็นกับตาให้ได้ว่า Jill ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่



    จากนั้น Chris จึงถามเธอบ้างว่าทำไมถึงมาอยู่หน่วย BSAA เธอเล่าว่าพ่อแม่เธอเสียชีวิตเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุในโรงงานโดยที่ Umbrella มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงเข้ามาอยู่ที่หน่วย BSAA ด้วยความมุ่งหมั้นที่จะกวาดล้างอาวุธชีวภาพให้หมดสิ้น



    •เมื่อมาถึงหน้าทางเข้าแหล่งขุดเจาะน้ำมันทั้งคู่ก็เห็นเต๊นของบริษัท Tricell ตั้งอยู่ ความเคลือบแคลงสงสัยเกิดขึ้นทันทีว่าทำไมบริษัทที่ให้ทุนหน่วย BSAA อย่าง Tricell ถึงมาอยู่ที่นี่ แต่ Chris จำต้องเก็บความสงสัยเอาไว้เพราะการล่าตัว Irving นั้นสำคัญกว่า ทั้งคุ่รีบรุดเข้าไปและเห็น Irving เดินเข้าไปในแหล่งขุดเจาะน้ำมันอย่างสบายอารมณ์ เมื่อทั้งวิ่งตามเข้าไปก็พบกับ Josh ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของ Delta Team หลังจากสนทนากันได้ไม่กี่คำ พวก Majini ก็กรูเข้ามาทำร้าย ทั้งสามคนวิ่งหนีตายและรอดชีวิตมาได้ในที่สุด เมื่อ Josh เห็นสถานการณ์ปลอดภัย จึงบอกให้ทั้งคู่ไปหยุดยั้ง Irving ก่อนแหล่งขุดเจาะน่ำมันจะระเบีดและลอยนวลหนีไป ส่วนตัวเขาจะเป็นฝ่ายหาทางหนีไปจากที่นี่ เมื่อนัดแนะกันเรียบร้อยทั้งสามจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง




    เมื่อออกมาที่ท่าเรือ ก็เห็น Irving เดินอยู่ตรงดาดฟ้าเรือ ทั้งคู่รีบวิ่งไปทันที Sheva ก็เห็นหญิงลึกลับที่เคยช่วย Irving ไว้ขับเรือหนีไป Irving หัวเราะเย้ยหยันและบอกว่าที่นี่กำลังจะระเบีดและออกเรือไปอย่างสบายใจ ทันใดนั้นเอง Josh ก็ตะโกนเรียกให้ทั้งคู่รีบวิ่งมาขึ้นเรืออีกฟากหนึ่ง เมื่อทั้งสองวิ่งมาถึง Josh ก็แล่นเรือพาทั้งคู่หนีก่อนที่แหล่งขุดเจาะน้ำมันระเบีดได้ทัน
    •หลังจากที่หนีมาได้แล้ว Jose ก็ถามถึง Irving ทั้งสองพูดอะไรไม่ออกเพราะร้สึกผิดที่ปล่อยให้ Irving หนีไปได้ Jose เห็นว่าทั้งคู่ทำดีที่สุดแล้วจึงไม่ได้กล่าวโทษอะไร ขณะที่ดึงสมอเรือขึ้นเพื่อตามล่า Irving ต่อ พวกชาวบ้านที่ติดเชื้อก็ขับเรือไล่หลังพวกเขามาติดๆ แต่ Jose ก็สามารถตีฝ่าวงล้อมศัตรูมาได้โดยที่ Chris และ Sheva คอยยิงคุ้มกันให้ เมื่อ Jose เห็นว่าสถานการณ์สงบจึงแล่นเรือเอื่อยๆไปตามลำน้ำ แต่ว่าทันใดนั้นเองเรือของ Irving ก็แล่นตัดหน้าเรือของพวกเขาจนเกือบจะพลิกคว่ำและมีกระสุนหลายนัดกราดยิงมาที่เรือของพวกเขา หากปล่อยไว้แบบนี้พวกเขาต้องไม่รอดแน่ Chris จึงคว้าปืนขึ้นมายิงใส่คนที่กราดปืนกล Irving แอบยืนมองฝ่ายที่ไล่ล่าตนอย่างไม่สบอารมณ์และนึกถึงภาพที่หญิงลึกลับขู่บังคับเขาและมอบของบางอย่างให้





    เมื่อตามขึ้นเรือของ Irving มาได้แล้ว Chris และ Sheva ก็เห็น Irving เดินออกมาและพูดจาเหมือนกำลังหลุดหงิด ทั้งคู่ยกปืนขึ้นมาขุ่ให้ Irving เผยความลับออกมาให้หมด แต่ Irving กลับถือของที่เขาได้มาจากหญิงลึกลับปักเข้าที่ต้นคอของตัวเอง ทั้งคู่ห้ามเขาไว้ไม่ทันและยืนมองปฎิกิริยา Irving อยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่อึดใจร่างของเขาก็กลายสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์และเข้าทำร้ายคนทั้งคู่ พวกเขาไม่มีทางเลือกจึงต้องกำจัดเขาทิ้งก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ Irving พ่ายให้กับ Chris และ Sheva อย่างหมดท่าและก่อนที่จะตาย เขาก็สบถชื่อ Excella ออกมา ทั้งคู่ได้เค้นถามที่ตั้งห้องทดลองและข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ Uroboros แต่ทว่าเขากลับให้คำตอบคลุมเคลือและท้าทายให้ทั้งคู่ไปที่ถ้ำถ้าอยากรุ้คำตอบทั้งหมด




    ทั้งคู่มาถึงที่ถ้ำตามที่ Irving บอกก่อนตาย Sheva เห็นเรือที่หญิงลึกลับขับมาทำให้เธอมั่นใจมากขึ้นว่าต้องเป็นที่นี่ไม่ผิดแน่นอน Jose ขับเรือมาส่งทั้งคู่ที่ท่าและบอกว่าจะกลับไปที่กองบัญชาการให้ยกเลิกคำสั่งและจะกลับมารับพวกเขาอีกที เมื่อ Jose ไปแล้ว Sheva ก็เอ่ยถึง Excella ชื่อที่ Irving พูดออกมา เธอบอก Chris ว่าเป็นชื่อของกรรมการบริษัท Tricell (Tricell Pharmaceutical Company) สาขาอาฟริกา เธอคิดว่า Excella ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Irving แน่แต่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า







    ขณะที่ทั้งสองวิ่งตรงเข้าไปในถ้ำและผ่านซากโบราณสถาน ฝ่ายผู้อยู่เบื้องหลัง Uroboros กลับนั่งสบายใจและไม่สะทกสะท้านถึงการตามล่าที่คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวพวกเขา Excella Gionne พูดถึงโครงการที่เสร็จสมบูรณ์พลางหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุสิ่งมีชีวิตประหลาดฉีดใส่แขนของ Albert Wesker ที่ยังมีชีวิตอยู่ หญิงลึกลับเดินตรงเข้ามาและแจ้งว่าหน่วย BSAA บุกมาถึงที่นี่ สีหน้าของ Wesker ยังคงนิ่งเฉย ในขณะที่ Excella พูดถึง Chris ศัตรูคู่แค้นที่มาหาเขาถึงที่ คำพูดของเธอทำให้เขารำคาญและพูดตัดบทและให้เธอรีบไปดำเนีนการส่วนที่เหลือให้เสร็จสิ้น เธอรู้สึกเสียหน้าจึงคว้ากระเป๋าบรรจุหลอดยาเดินจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับหญิงลึกลับ เขายืนมองโครงการของตนพรางนึกถึงภาพ Ozwell E. Spencer ที่ตนสังหารจนได้ทุกอย่างมาไว้ในกำมือ






    หลังจากที่ออกมาจากซากโบราณสถาน Chris และ Sheva ก็พบสวนใต้ดิน ทั้งคู่เดินขึ้นไปสำรวจดอกไม้และก็ต้องแปลกใจเมื่อดอกไม้ธรรมดาทั่วไป Chris เหลือบไปเห็นบางอย่างและวิ่งตรงไปเพื่อดูให้แน่ใจ เขาเอามือปัดเศษดินตรงถังสีแดงออกและเห็นตรา Umbrella Corporation ติดอยู่ Chris ไม่รู้ว่าทำไม Umbrella ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แต่ก็เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลเมื่อเห็นตราบริษัท Tricell อยู่ที่นี่ด้วย





    •ด้วยความที่ต้องการรุ้คำตอบและเบื้องลึกเบื้องหลังของโครงการนี้จึงมุ่งหน้าไปต่อ เมื่อมาถึงห้องทดลองทั้งคู่ก็พบดอกไม้แบบเดียวกับที่อยู่ในสวนใต่ดินอยู่ในหลอดทดลอง ดูจากรูปการณ์แล้ว Chris ค่อนนข้างมั่นใจว่าดอกไม้นี้นำมาใช้ทดลองอาวุธชีวภาพ(หรืออีกนัยหนึ่งก็คือใช้พัฒนาเชื้อไวรัส Uroboros)แน่นอน นอกจากนี้สถานที่ดั่งกล่าวยังเหมือนในรูปที่ตนเคยเห็นในข้อมูลด้วย ทั้งคู่จึงเดินต่อไปเพื่อพิสูจน์ให้เห็นกับตา และก็ต้องตะลึงเมื่อทั้งคู่เห็นแคปซูลทดลองจำนวนมากอยู่รอบล้อมพวกเขา ระหว่างที่พวกเขายืนมองอยู่นั้น ก็มีแคปซูลหนึ่งยื่นออกมา ฝาแคปซูลเปีดออกและทิ้งร่างมนุษย์ที่ใช้ทดลองลงสู่เบื้องล่าง Chris เห็นดังนั้นจึงรีบตรงไปที่คอมพิวเตอร์ควบคุมและดำเนินการค้นหา Jill Valentine ทันทีคอมพิวเตอร์ตรวจหาพบและพาทั้งคู่ลงไปยังแคปซูลเป้าหมาย แต่ทว่า U-8 (สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์คล้ายแมงมุม)ออกมาขวาง ทั้งคู่ต้องจัดการมันก่อนที่จะสายเกินไป







    หลังจากที่ปราบ U-8 ได้แล้ว ลิฟท์ก็เลื่อนมาและหยุดอยู่ตรงที่คอมพิวเตอร์ระบุตำแหน่งแคปซูลของ Jill แคปซูลเลื่อนออกแล้วเปิดออกแต่ทว่าก็ไม่พบร่างของ Jill, Chris ถึงกับแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาชัดเจน ทันใดนั้น Excella ก็ปรากฏตัวที่หน้าจอคอมพวอเตอร์ Chris ขู่บังคับถามเรื่อง Jill แต่เธอกลับพูดจาเฉไฉและบอกให้วางมือจากเรื่องนี้ ทั้งคู่มั่นใจว่า Excella กำลังปิดบังอะไรบางอย่างแน่นอน






    •ระหว่างที่ทั้งคู่อยู่ในลิฟท์เพื่อตามล่าตัว Excella ก็ได้ยินเสียงคลื่นแทรกเข้ามา พวกเขาได้ยินคำสนทนาระหว่าง Excella กับใครบางคน แต่ก็ยังคงไม่แน่ใจจนกระทั่งได้ยินเธอพูดชื่อ Albert, Chris แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่า Wesker ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อมาถึงห้องทดลอง ทั้งคู่ก็สังเกตุเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ Excella ยืนมองทั้งคู่จากห้องควบคุมและพูดแทรกขึ้น Chris ยังคงขู่บังคับถามเธอเรื่อง Jill แต่เธอก็ไม่บอกและปล่อยให้ทั้งคู่ได้เห็นการทดลอง Uroboros แล้วเดินจากไป ชายคนดังกล่าวเดินตรงมาหาทั้งคู่และกลายร่างเป็น Uroboros Mkono



    •หลังจากที่กำจัด Uroboros Mkono ได้แล้ว ทั้งคู่ก็ไล่ตาม Excella จนเจอในที่สุด ขณะที่ Chris ขู่ถามเธอเรื่อง Jill หญิงลึกลับก็เข้าจู่โจมทันที Chris และ Sheva ยิงกระสุนเฉียดไปโดนหน้ากากของเธอร่วงลงพื้น เธอกระโดดหลบได้ทันและยืนขึ้น ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็แทรกขึ้นมา Chris แหงนหน้ามองและแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อชายที่เขาเห็นตรงหน้าคือ Albert Wesker คนท่ว่าน่าจะตายไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนี้ Chris มั่นใจแล้วว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังโครงการ Uroboros คือ Wesker โดยมี Excella กรรมการบริษัท Tricell ที่เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องของสมาคมเภสัชกรรมระดับสากลเป็นคนหนุนหลัง






    •Wesker เดินตรงมาที่หญิงลึกลับและดึงผ้าคลุมใบหน้าเธอลง Chris ต้องตกตะลึงเมื่อผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ Jill Valentine แต่ดุเหมือนว่าเธอจะจำคู่หูเก่าของตัวเองไม่ได้ Chris พยายามเรียกความทรงจำเธอคืนมา แต่ทว่าเธอก็ตรงเข้าทำร้ายคนทั้งคู่อย่างไม่ปราณีและ Wesker ก็ใช้โอกาสนี้ไล่ต้อนทั้งคู่ให้จนมุม เมื่อ Wesker เห็นว่า Chris ทำอะไรเขาไม่ได้ จึงหยุดจุ่โจมและพูดดูถูก Chris ทันใดนั้นโทรศัพท์ของ Wesker ก็ดังขึ้น เขารับโทรศัพท์แล้วเดินตรงไปที่ลิฟท์ แต่ทั้งคู่ก็พยายามจะหยุด Wesker ให้ได้ เสี้ยววินาทีนั้นเอง Jill ก็เข้ามาขวางทางและทำร้าย Chris จนหมดทางตอบโต้ เขายังคงตะโกนเรียกชื่อเธอเพื่อเรียกความทรงจำเธอกลับคืนมา Jill เริ่มซะงักและพูดชื่อ Chris ขึ้นมาแต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังต่อต้านอะไรบางอย่างที่ควบคุมเธอเอาไว้ Wesker เห็นดังนั้นจึงกระตุ้น Jill ให้ทำตามคำสั่งมากขึ้นและบอก Chris ให้มองดู Jill ทรมานก่อนที่จะเข้าลิฟท์ไป Jill ร้องลั่นเหมือนพยายามจะขัดขืนและแหวกเสื้อออก ทั้งคู่เห็นบางอย่างติดอยู่บริเวณอกของ Jill และเชื่อว่าสิ่งนนั้นทำให้ Jill ขาดสติแน่นอน




    ทั้งคู่ช่วยกันดึงวัตถุนั้นออกจากตัว Jill ได้สำเร็จ Chris เห็น Jill ล้มลงจึงประคองเธอขึ้นมา เมื่อ Jill ได้สติกลับคืนมา เธอก็ลุกขึ้นยืนและบอกให้ททั้งคู่ตามไปขัดขวาง Wesker ไม่ให้แพร่เชื้อ Uroboros ไปทั่วโลก แต่ Chris ไม่ต้องการทิ้ง Jill ไว้ที่นี่ Jill จึงบอกว่ามีเขาเท่านั้นที่ทำได้และขอร้องให้เชื่อใจเธอในฐานะคู่หู Chris ไม่มีทางเลือกจึงจำใจขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกับ Sheva โดยที่อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงเธอ






    พอเดินออกมาด้านนอก ทั้งคู่ก็เห็น Wesker กับ Excella เดินขึ้นเรือไป ทั้งคู่รีบตามไปจนกระทั่งเข้ามาในตัวเรือ ทั้งคู่เห็น Excella กำลังทำอะไรบางอย่าง Chris ขู่ให้เธอบอกความจริง แต่ทว่าเธอแกล้งเฉไฉและหิ้วกระเป๋าที่บรรจุบางสิ่งไว้ไปที่ประตู กระสุนเฉี่ยวไปโดนกระเป๋าใบหนื่งจนร่วงลงบนพื้น แต่ Excella ไม่สนใจและหนีไปอย่างรวดเร็ว Sheva หยิบหลอดยาที่ชื่อ PG67A/W จากกระเป๋าที่ Excella ทำตกไว้ขึ้นมา ทั้งคู่ไม่รู้แน่ชัดว่าคืออะไร แต่การที่เธอพยายามปกป้องมัน แสดงว่าสิ่งนี้ต้องมีความสำคัญแน่นอน






    Chris และ Sheva ไล่ตาม Excella มาที่ดาดฟ้าเรือและเจอซากศพมนุษย์กองมหึมา เสียงฝีเท้าค่อยๆก้าวเข้ามา Excella ร้องด้วยความเจ็บปวดและล้มลง ณ หอบังคับการเรือ Wesker มอง Chris ราวกับผู้มีชัยและพูดเกริ่นถึงสิ่งที่ทั้งคู่กำลังจะได้เห็นต่อจากนี้ Excella เจ็บปวดทั่วทั้งกายและเจ็บใจที่ Wesker หักหลังและเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องมือ สายเกินกว่าที่จะย้อนเวลากลับไป ร่างกายเธอต่อต้าน Uroboros และกลายเป็นสิ่งที่มีชีวิตประหลาดและกลืนกินกองซากศพมนุษย์ที่อยู่ใกล้ๆจนหมด Chris และ Sheva ประเมินสถานการณ์แล้วว่ายากเกินที่จะรับมือจึงรีบวิ่งหนีเข้าไปในตัวเรือ
    •ทั้งคู่วิ่งมาที่หอบังคับการณ์และเจอเอกสารฉบับหนึ่งเกี่ยวกับ Shango Satellite Laser นี่เป็นโอกาสเดียวของพวกเขาในการกำจัดเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ ทั้งคู่รีบวิ่งขึ้นไปที่ดาดฟ้าเรือแล้วใช้ Shango Satellite Laser จัดการมันได้สำเร็จ







    เมื่อทั้งคู่ลงมาที่หอบังคับการเรือ ก็เห็นสิ่งที่ผิดปกติที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อตรงเข้าไปก็เห็นเครื่องบินทิ้งระเบีดและ Wesker ยืนอยู่ เขากำลังวางแผนแพร่เชื้อ Uroboros ไปทั่วโลกอย่างที่ Jill บอกไว้ก่อนหน้านี้จริงๆ ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะไปขัดขวาง Wesker, Jill ก็ติดต่อเข้ามาและบอกว่าการที่จะทำให้ Wesker อ่อนแอลงนั้นต้องฉีดเซรุ่ม PG67A/W เข้าไปที่ตัว Wesker, Sheva ได้ยินดังนั้นจึงหยิบหลอดยาที่ Excella ทำตกเอาไว้ขึ้นมา PG67A/W อยู่ในมือของพวกเขาและคงต้องหวังพึ่งเจ้าสิ่งนี้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น





    •ทั้งคู่วิ่งตรงไปที่โรงเก็บเครื่องบินและได้ต่อสู้กับ Wesker ช่วงที่ Wesker พลาด ทั้งคู่ก็ใช้ เซรุ่มหลอดนั้นปักเข้าไปที่ตัวเขาได้สำเร็จและมีท่าทีเปลี่ยนไปทันที Wesker รู้ว่าตัวเองเสียท่าจึงกระโดดหนีไปยังเครื่องบินทิ้งระเบีด ทั้งคู่วิ่งตามไปสุดกำลังจนสามารถขึ้นเครื่องบินได้สำเร็จ






    •หลังจากที่ขึ้นเครื่องบินมาได้แล้ว ทั้งคู่ก็เห็น Wesker มีอาการอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่าเขาก็ยังมีความทะเยอทะยานที่จะทำแผนของตนให้สำเร็จนั่นคือใช้เครื่องบินลำนี้แพร่เชื้อ Uroboros ไปในชั่นบรรยากาศเพื่อปฏิวัติมุนษย์ชาติและครอบครองทุกอย่างบนโลกนี้ Wesker พุ่งตรงเข้าใส่เพื่อกำจัดคนทั้งคู่ทันที Chris และ Sheva พยายามตอบโต้เขาอย่างสุดกำลัง ขณะที่ Wesker เสียจังหวะนั้นเอง Chris ก็รีบนำ PG67A/W ปักเข้าที่ต้นคอของเขาอีกทีและฉวยจังหวะนี้วิ่งตรงไปที่สวิตช์เพื่อหยุดเครื่องบิน Wesker รีบวิ่งไปเพื่อหยุด Chris แต่ทว่าก็ไม่ทันการ ประตูเปีดออกพร้อมจะดูดร่างทั้งสามให้ออกไปเผชิญกับความตาย แต่ทว่า Wesker ก็เกาะขาของ Sheva เพื่อไม่ให้ตัวเองลอยออกไป Shava ยึดเกาะไว้จนถึงที่สุดแต่ก็ไม่สามารถทนรับน้ำหนักได้ ขณะนั้นเธอมองมาที่ Chris เหมือนกำลังจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง Chris มอง Sheva ราวกับรู้ว่าเธอกำลังจะทำอะไร ทันใดนั้นภาพของ Jill เมื่อ 3 ปีก่อนก็ผุดขึ้น จังหวะที่ Sheva กำลังจะปล่อยมือนั่นเอง Chris ก็รีบทิ้งตัวมาคว้ามือเธอไว้เพราะเขาไม่อยากเห็นคู่หูของตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตาอีก ด้วยความช่วยเหลือของ Chris ทำให้ Sheva รอดได้อย่างหวุดหวิดเธอใช้โอกาสนี้คว้าปืนยิงใส่ Wesker ไปหนึ่งนัดจน Wesker ลอยออกไป ขณะนั้นเองเครื่องบินก็เสียหลักร่อนลงมาที่ปากปล่องภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยลาวาอันร้อนระอุ





    •ทั้งคู่เดินออกจาดเครื่องบินในสภาพที่ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันทั้งกันคู่ ทันใดนั้น Wesker ก็ปรากฏตัวและมีท่าทางโกรธแค้น Chris เป็นอย่างมากที่ทำให้แผนการของตนล้มเหลวไม่เป็นท่า เป็นความผิดพลาดของเขาโดยแท้ที่ไม่ฆ่า Chris เมื่อหลายปีก่อน และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ Chris มีชีวิตอยู่อีกต่อไป เขาใช้กำปั้นทุบลงไปที่ขีปนาวุธบรรจุ Uroboros เชื้อแล่นสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วและกรายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาทั้งคู่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้






    Wesker โจมตีพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่ทั้งคู่ก็หาจังหวะตอบโต้เขาอย่างสุดกำลัง แต่โชคก็เข้าข้างเมื่อเกิดแผ่นดินไหวจนชั้นหินแยกตัว Wesker พลัดตกลงไปในลาวาและร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด






    •Jose ขับเฮลีคอปเตอร์มาช่วยทั้งคู่ได้ทันท่วงทีโดยมี Jill โดยสารมาด้วย แต่เรื่องก็ยังไม่จบเท่านี้ หลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาได้แล้ว Wesker ที่ดิ้นทุรนทุรายในทุ่งลาวาก็ใช้ร่างส่วนที่เป็น Uroboros ยึดเฮลิคอปเตอร์เอาไว้ หากปล่อยไว้แบบนี้ทุกคนบนเฮลิคอปเตอร์ต้องตายกันหมดแน่ๆ Jill จึงบอกให้ทั้งคู่ใช้ Rocket Launcher จัดการกับ Wesker ทั้งคู่ล็อกเป้าหมายแล้วยิงออกไปอย่างไม่ลังเล ร่างของ Wesker หายไปท่ามกลางลาวาที่พวยพุ่ง



    การต่อสู้อันยาวนานของพวกเขาจบลงเสียที Chris, Jill, Sheva และ Jose สามารถรอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ ทุกคนต่างมองหน้าและยิ้มให้กันท่ามกลางแสงอาทิตย์สาดส่องรับเช้าวันใหม่ บ่อยครั้งที่ Chris ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้เขาได้คำตอบแล้วว่าอนาคตที่ปราศจากความกลัวนั้นมันช่างมีค่ายิ่งนัก...

    >>> The End (Begins) <<<


    http://www.thaibiohazard.com




    ขอบอกว่า เนื้อเรื่อง resident evil 6 ย่อ T^T


    สำหรับในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ๆ ส่วนละ 5 ตอน โดยทั้ง 4 ส่วนจะมีเนื้อหาที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด โดยมีช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน อีกทั้ง 4 ส่วนก็จะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกัน โดยเหตุการณ์ของแต่คู่จะเริ่มในที่ที่ต่างกัน จนในที่สุดจะไปรวมตัวกันที่ประเทศจีน
    -ลีออน - เฮเลน่า-
    เน้นการเล่นในรูปแบบ Survival Horror เป็นหลัก โดยบางฉากจะมีการแก้ปริศนาต่าง ๆ และบรรยากาศที่คล้ายคลึงกับภาคเก่า โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มในเมือง Tall Oaks หลังจากที่ประธานาธิบดีอดัม กลายเป็นซอมบี้ นอกจากนั้นประชาชนในเมืองกว่า 70,000 คนก็ได้รับเชื้อจนกลายเป็นซอมบี้เช่นกัน ทั้งคู่จึงต้องเอาชีวิตรอดและหาทางออกไปจากที่นี่
    -คริส - เพียร์ส-
    เน้นการเล่นแบบแอ็คชั่นสงครามเป็นหลัก มีบรรยากาศเหมือนภาค 5 ผสมกับเกมสงครามที่มีอยู่ในปัจจุบัน เนื้อเรื่องของคริสจะเริ่มต้นที่ Edonia ในยุโรปตะวันออกซึ่งหน่วย B.S.A.A.ของเขาได้ต่อสู้กับอาวุธชีวภาพที่เรียกว่า J'avo ที่ก่อกบฏท่ามกลางสงครามกลางเมือง ต่อมาคริสและสมาชิกในทีมก็ได้พบกับผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่า เอด้า วอง คริสก็ให้เธอนำทางออกจากอาคาร แต่โดนล่อมาโดนกับดัก เอด้าตัดขาดคริสกับเจ้าหน้าที่อีกคนที่ชื่อ เพียซ นิเวนส์ จากกลุ่มและโยนระเบิดเข็มฉีดที่บรรจุ C-virus ใส่เจ้าหน้าที่ 4 คนทำให้พวกเขาติดเชื้อกลายมาเป็น Napad และเข้ามาทำร้ายคริสจนทำให้ความจำเสื่อมและหนีออกจากโรงพยาบาล 6 เดือนผ่านไป เขาถูกเพียซและสมาชิกหน่วย B.S.A.A.ตามตัวจนเจอและให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม เขาก็ถูกส่งไปยังหลางเซียง ประเทศจีน เพื่อหยุดยั้งการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ โดยที่คริสยังมีความแค้นต่อเอด้า วอง เขาจะตามล่าและฆ่าเธอให้จงได้
    -เจค - เชอร์รี่-
    เน้นการเล่นแบบการต่อสู้ การเอาชีวิตรอด และการเล่นแบบ Stealth Action ในบางฉาก โดยจะต้องหนีตายจากศัตรูที่มีชื่อว่า Ustanak ในหลาย ๆ จุดของเกม โดยรวมคือการเอาจุดเด่นของภาค 3 ร่วมกับเกมต่อสู้ รวมถึงมีรูปแบบ การเล่นที่มีความหลากหลายมากที่สุด

    -เอด้า- (ต้องจบ 3 เนื้อเรื่องหลักก่อน)
    เป็นการรวมเอาจุดเด่นของรูปแบบการเล่นทั้ง 3 ส่วนแรกมาไว้ในเนื้อเรื่องของเอด้า เนื้อเรื่องของเอด้าจะเป็นจุดที่เชื่อมต่อระหว่างเนื้อเรื่องของลีออน คริส และเจค ซึ่งจะมีการอธิบายเนื้อเรื่องในหลายๆจุดที่คลุมเครือให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยในส่วนเนื้อเรื่องของเอด้านั้นจะไม่มีคู่หู แต่เป็นการเล่นคนเดียว


    อันนี้ จขกท. คิดเองนิดหน่อยจากการที่เคยเล่นมาก่อน ^^ ถ้า สปอย ด่าได้นะ



    Leon & Helena


    29 กรกฏาคม 2013, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อดัม เบนฟอร์ด (Adam Benford) พร้อมด้วย ลีออน สก็อตต์ เคนเนดี้ (Leon Scott Kennedy) และ เฮเลน่า ฮาร์เปอร์ (Helena Harper) ตัดสินใจที่จะเปิดเผยความจริงที่เกิดขึ้นในเมือง แรคคูนซิตี้ (Raccoon City) เมื่อ 15 ปีก่อน สู่สาธารณชนในงานสัมนมาที่มหาวิทยาลัยไอวี่ (Ivy University) เมืองทอลล์โอ๊คส์ (Tall Oaks) แต่ทว่า ได้เกิดการก่อการร้ายทางชีวภาพขึ้นในเมืองเสียก่อน ซึ่งส่งผลให้อดัมติดเชื้อและกลายสภาพเป็นซอมบี้ในที่สุด หลังจากลีออนจัดการกับอดัมโดยยิงเข้าที่หัว เฮเลน่าได้บอกกับลีออนว่า ทั้งหมดนี้ เป็นความผิดของเธอเอง ซึ่งเธอจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หลังจากที่เดินทางไปถึงมหาวิหารทอลล์โอ๊คส์ (Tall Oaks Cathedral) ระหว่างทาง ทั้งสองได้รับรายงานสถานการณ์จาก ฮันนิแกน (Hunnigan) ว่า ประชาชนในเมืองที่คาดว่าน่าจะติดเชื้อแล้วนั้น มีมากถึง 90% และชื่อขององค์กรที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดก็คือ นีโออัมเบร่า (Neo-Umbrella)



    หลังจากเดินทางมาถึงมหาวิหารทอลล์โอ๊คส์ ทั้งสองได้ลงไปยังห้องทดลองลับที่อยู่ชั้นใต้ดิน ลีออนได้พบกับวีดีโอบันทึกภาพการทดลองที่มีป้าย "สุขสันต์วันเกิด เอดา หว่อง (Ada Wong)" เขียนกำกับไว้อยู่ จากนั้น พวกเขาได้พบกับ เดโบราห์ ฮาร์เปอร์ (Deborah Harper) น้องสาวของเฮเลน่า ซึ่งต่อมา เธอกลายเป็นดักแด้ (Chrysalid) และเปลี่ยนสภาพไปเป็น B.O.W. ด้วยความช่วยเหลือจากเอดา ทั้งสามสามารถหยุดเดโบราห์ลงได้ในที่สุด จากนั้น เฮเลน่าจะเล่าความจริงที่เธอถูกบังคับ ให้ช่วยเหลือ เดเรค ซี ไซมอนส์ (Derek C. Simmons) ในการฝ่าระบบป้องกัน เพื่อเข้าถึงตัวประธานาธิบดี เนื่องจากน้องสาวของเธอถูกไซมอนส์จับตัวไป

    ไซมอนส์ได้ติดต่อเข้ามาแล้วบอกกับทั้งสองคนว่า ตอนนี้ พวกเขาได้กลายเป็นผู้ต้องสงสัย ในข้อหาลอบสังหารประธานาธิบดีไปแล้ว และยังแนะนำให้พวกเขายอมเข้ามอบตัวแต่โดยดีอีกด้วย หลังจากลีออนและเฮเลน่า สามารถหนีออกมาจากเมืองทอลล์โอ๊คส์ได้สำเร็จ ฮันนิแกนก็ติดต่อกลับมาอีกครั้ง และแจ้งให้ลีออนรู้ว่า ไซมอนส์กำลังจะเดินทางไปยังประเทศจีน ซึ่งตอนนี้กำลังเกิดการก่อการร้ายทางชีวภาพเช่นเดียวกัน โดยเชื้อไวรัสที่ใช้ เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า ซีไวรัส (C-Virus) และยังได้รับการยืนยันจากทาง B.S.A.A. แล้วว่า เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการก่อการร้ายในแถบยุโรปตะวันออกเมื่อหกเดือนก่อน ลีออนจึงขอให้ฮันนิแกน ช่วยปกปิดเรื่องที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้สามารถลอบติดตามไซมอนส์ไปยังประเทศจีนได้ง่ายขึ้น

    30 มิถุนายน 2013, ในระหว่างที่เดินทางไปยังประเทศจีน ผู้โดยสารบนเครื่องบินทั้งหมดเกิดติดเชื้อซีไวรัส ทำให้ลีออนและเฮเลน่า ต้องต่อสู้กับเหล่าซอมบี้บนเครื่อง และส่งผลให้เครื่องบินตกในที่สุด ทั้งสองได้พบกับ เชอร์รี่ ไบร์กิน (Sherry Birkin) และ เจค มัลเลอร์ (Jake Muller) ทั้งสี่ถูก อุสทานัค (Ustanak) เข้าจู่โจม ในขณะที่ต่อสู้กับอุสทานัค เสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ล้มลงมาทับร่างของอุสทานัค และทำให้พวกเชอร์รี่ถูกแยกออกจากลีออน เชอร์รีบอกกับลีออนว่าพวกเธอกำลังจะไปพบกับไซมอนส์ที่ตึก Kwun Leng ก่อนที่เสาไฟฟ้าจะเกิดระเบิดขึ้น



    30 มิถุนายน 2013, ในระหว่างที่เดินทางไปยังประเทศจีน ผู้โดยสารบนเครื่องบินทั้งหมดเกิดติดเชื้อซีไวรัส ทำให้ลีออนและเฮเลน่า ต้องต่อสู้กับเหล่าซอมบี้บนเครื่อง และส่งผลให้เครื่องบินตกในที่สุด ทั้งสองได้พบกับ เชอร์รี่ ไบร์กิน (Sherry Birkin) และ เจค มัลเลอร์ (Jake Muller) ทั้งสี่ถูก อุสทานัค (Ustanak) เข้าจู่โจม ในขณะที่ต่อสู้กับอุสทานัค เสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ล้มลงมาทับร่างของอุสทานัค และทำให้พวกเชอร์รี่ถูกแยกออกจากลีออน เชอร์รีบอกกับลีออนว่าพวกเธอกำลังจะไปพบกับไซมอนส์ที่ตึก Kwun Leng ก่อนที่เสาไฟฟ้าจะเกิดระเบิดขึ้น

    เมื่อลีออนและเฮเลน่า เดินทางไปถึง Koocheng พวกเขาได้พบกับเอดา และได้ไล่ตามเธอเข้าไปด้านในของโรงงานที่เป็นหนึ่งในศูนย์วิจัย ที่นั่น ลีออนได้พบกับ คริส เรดฟิลด์ (Chris Redfield) และ เพียรส์ นีวานส์ (Piers Nivans) ที่กำลังไล่ตามเอดาอยู่เช่นกัน ลีออนและคริสเกิดการต่อสู้กัน เนื่องจากลีออนต้องการขัดขวางคริสไม่ให้สังหารเอดา เอดาจึงฉวยโอกาสใช้ระเบิดแฟลชหลบหนีไปได้ หลังจากนั้น คริสจะรับปากกับลีออนว่าจะตามจับตัวเอดาโดยที่ไม่ทำร้ายเธอ และให้ลีออนไล่ตามไซมอนส์ต่อไป

    เมื่อทั้งสองมาถึงตึก Kwun Leng พวกเขาก้ได้พบกับไซมอนส์และกลุ่มคนของ เดอะแฟมิลี่ (The Family) โดยมีเชอร์รี่และเจคตามมาสมทบ ไซมอนส์ยอมรับว่าเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายที่สหรัฐอเมริกา และสั่งให้ลูกน้องโจมตีใส่ลีออน ทั้งสี่จึงต้องหลบเข้าที่กำบัง เชอร์รี่จะมอบชิปที่บรรจุข้อมูลในการหยุดซีไวรัสให้กับลีออน ก่อนที่ลีออนและเฮเลน่าจะช่วยยิงคุ้มกันให้เชอร์รี่และเจคหนีไป ในขณะเดียวกัน ไซมอนส์ก็ถูกยิงด้วยลูกดอกที่บรรจุซีไวรัสไว้ โดย จูอาโว (J'avo) ที่ลอบเข้ามาทางด้านหลัง



    ลีออนและเฮเลน่าไล่ตามไซมอนส์ที่หนีขึ้นไปบนรถไฟ ไปจนถึงด้านหน้าสุดของขบวนรถ ไซมอนส์พูดถึงเอดาและเหตุผลที่เขาขัดขวางไม่ให้ประธานาธิบดี เปิดเผยความจริงที่เกิดขึ้นกับแรคคูนซิตี้ว่า สิ่งนี้จะทำให้สหรัฐอเมริกาหมดความน่าเชื่อถือและสูญเสียอำนาจในที่สุด จากนั้น ร่างของไซมอนส์ก็เริ่มกลายสภาพเพราะผลของการติดเชื้อซีไวรัส ในขณะที่ต่อสู้กับลีออนและเฮเลน่า ไซมอนส์พบว่า เขาถูกเดอะแฟมิลี่ทอดทิ้ง ซึ่งทำให้เขาเสียหลักลื่นตกลงไปบนรางรถไฟและถูกรถไฟทับ ลีออนและเฮเลน่ากระโดดออกจากรถไฟที่กำลังจะตกจากรางลงไปยังแม่น้ำด้านล่าง

    ลีออนและเฮเลน่า ขึ้นจากชายฝั่งของเมือง Tatchi ด้วยความเหนื่อยล้า และพบว่า B.S.A.A. กำลังช่วยเหลือประชาชนในการอพยพไปยังที่ปลอดภัย จากนั้น ฮันนิแกนได้ติดต่อเข้ามาแจ้งว่า เชอร์รี่และเจคถูกลักพาตัวไป โดยสัญญาณจากดาวเทียมระบุได้ว่า พวกเขาถูกขังไว้ในสถานีขุดเจาะน้ำมันใต้ทะเล หลังจากลีออนได้ดูข้อมูลในชิปที่ได้รับมาจากเชอร์รี่แล้ว เขาก็รู้ว่า กุญแจที่จะใช้ในการหยุดการแพร่ระบาดของซีไวรัสก็คือ เจค มัลเลอร์ ลูกชายของ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) นั่นเอง ในขณะที่ลีออนขอให้ฮันนิแกนช่วยติดต่อกับหน่วย B.S.A.A. ที่อยู่ใกล้ที่สุดให้ เฮเลน่าก็สังเกตเห็นบางอย่างบนท้องฟ้า ซึ่งนั่นก็คือ จรวดมิสไซล์ที่บรรจุซีไวรัสไว้ด้านใน กำลังพุ่งตรงไปยังใจกลางของเมือง Tatchi และเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ไวรัสจากมิสไซส์กระจายไปทั่วทั้งเมือง ลีออนขอร้องให้คริสเดินทางไปยังสถานีขุดเจาะน้ำมันใต้ทะเลเพื่อช่วยเหลือเชอร์รี่และเจค ก่อนที่จะได้รับแจ้งจากคริสว่าเอดาได้เสียชีวิตไปแล้ว

    ลีออนและเฮเลน่า สามารถหนีจากไวรัสที่ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง และเดินทางไปถึงยังบริเวณรอบนอกของ ควอดทาวเวอร์ (Quad Tower) ด้วยรถของหน่วย B.S.A.A. ในขณะที่ต่อสู้กับเหล่าซอมบี้อยู่นั้น รถน้ำมันที่กำลังเสียหลักก็พุ่งตรงเข้ามาและเกิดระเบิดขึ้น ทั้งสองถูกแรงระเบิดกระเด็นออกไป และทำให้ถูกล้อมด้วยเหล่าซอมบี้ ในขณะนั้นเอง เอดาก็ปรากฏตัวขึ้นและใช้เฮลิคอปเตอร์ของเธอ ช่วยยิงคุ้มกันให้ลีออนและเฮเลน่าหนีไป

    ที่ด้านในของควอดทาวเวอร์ ลีออนและเฮเลน่าก็ได้พบกับไซมอนส์อีกครั้ง ไซมอนส์กลายสภาพเป็น B.O.W. และเข้าโจมตีทั้งสอง ด้วยความช่วยเหลือจากเอดา ทั้งสามสามารถจัดการกับไซมอนส์ได้สำเร็จ เอดาได้ขับเฮลิคอปเตอร์ของเธอขึ้นไปยังดาดฟ้าของตึกควอดทาวเวอร์ โดยที่ลีออนและเฮเลน่าขึ้นลิฟต์ตามไป ในระหว่างนั้น ลิฟต์ก็เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ทั้งสองต้องกระโดดออกไปยังลิฟต์ด้านข้างและปีนขึ้นไปยังด้านบน โดยที่เอดากำลังต่อสู้กับไซมอนส์อยู่บนทางเชื่อมอีกฝั่งของตึก

    หลังจากเอดาและลีออน ร่วมมือกันจัดการกับไซมอนส์ได้แล้ว เอดาได้ส่งข้อความถึงลีออนว่า เธอได้ทิ้งของขวัญแทนคำบอกลาไว้ให้ที่ดาดฟ้าของตึก ขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของตึกควอดทาวเวอร์ ไซมอนส์ที่ตอนนี้กลายสภาพเป็น B.O.W. ขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ลีออนได้ใช้ ร็อคเก็ตลอนเชอร์ (Rocket Launcher) ที่เอดาทิ้งไว้ให้พร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ ยิงใส่ร่างของไซมอนส์ ทำให้เขาร่วงลงสู่พื้นด้านล่าง และถูกเสาแหลมที่อยู่ด้านล่าง เสียบทะลุร่างในที่สุด

    ลีออนได้พบตลับแป้งที่เอดาทิ้งไว้ให้บนเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งด้านในมีชิปที่บรรจุข้อมูลหลักฐาน ที่ใช้ยืนยันว่าไซมอนส์อยู่เบื้องหลังเหตุก่อการร้ายทั้งหมด และใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลีออนและเฮเลน่า จากนั้น ฮันนิแกนจะติดต่อเข้ามาแจ้งว่า ได้ค้นพบวิธีที่จะหยุดไวรัสแล้ว ก่อนที่ทั้งสองจะใช้เฮลิคอปเตอร์ของเอดา หนีออกจากตึกควอดทาวเวอร์ที่กำลังถล่ม

    หลังจากเหตุการณ์ที่ประเทศจีน เฮเลน่าได้เดินทางมาเยี่ยมหลุมศพของน้องสาวเธอ พร้อมกับลีออนและฮันนิแกน เฮเลน่าบอกกับลีออนว่า เธอพร้อมที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เธอทำลงไปทั้งหมดแล้ว แต่ลีออนกลับยื่นปืนคืนใส่มือของเฮเลน่า โดยฮันนิแกนอธิบายว่า หลังจากตรวจสอบหลักฐานแล้ว การที่จะให้เฮเลน่ารับผิดชอบต่อสิ่งที่ไซมอนส์ทำไว้ทั้งหมดนั้น เป็นเรื่องที่ไม่แฟร์เอาเสียเลย จากนั้น เฮเลน่าได้คืนตลับแป้งให้กับลีออน และบอกให้เขานำไปคืนให้กับเอดาเมื่อพบกับเธออีกครั้ง




    Jake & Sherry



    24 ธันวาคม 2012 ณ สาธารณรัฐอีโดเนีย (Republic of Edonia) ยุโรปตะวันออก เจค มัลเลอร์ และเหล่าทหารรับจ้าง ถูกจ้างมาให้ต่อสู้กับหน่วย B.S.A.A. ในสงครามกลางเมือง โดยหญิงสาวในชุดสีน้ำเงิน เธอแจกจ่ายยาที่อ้างว่าเป็นยาเสริมสมรรถภาพ แต่แท้จริงแล้วคือซีไวรัส ให้กับเหล่าทหารรับจ้างฉีด แต่หลังจากที่เจคฉีดยาเข้าไปแล้ว เขากลับไม่รู้สึกถึงความแตกต่างใดๆ ในขณะเดียวกัน เชอร์รี่ ไบร์กิน ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกกับเจคว่า ตัวเขามีภูมิต้านทานเชื้อซีไวรัสอยู่ ซึ่งนี่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยโลกใบนี้ก็เป็นได้

    เชอร์รี่ อธิบายกับเจคต่อว่า เธอจะต้องพาเจคกลับไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อนำเลือดของเจคไปสร้างวัคซีนต้านซีไวรัส ซึ่งเจคยื่นขอเสนอเป็นเงินสดจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเลือดหนึ่งหยด ในระหว่างที่พยายามหลบหนีออกจากพื้นที่สงคราม อุสทานัค อวุธชีวภาพที่ได้รับคำสั่งจาก นีโออัมเบร่า ให้มาตามล่าตัวเจคก็ปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองหลบหนีการไล่ล่าของอุสทานัคจนมาถึงใจกลางเมือง ที่นั่น พวกเขาได้พบกับ คริส เรดฟิลด์ และ เพียรส์ นีวานส์ พร้อมกับกองกำลัง B.S.A.A. ทั้งหมดได้ร่วมกันต่อสู้กับ B.O.W. ขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Ogroman จากนั้น คริสจะให้หน่วย B.S.A.A. นำเฮลิคอปเตอร์ไปส่งทั้งสอง โดยก่อนจะแยกกัน คริสได้เอ่ยปากถามเจคว่าเขาทั้งสองเคยพบกันมาก่อนหรือไม่ ซึ่งเจคจะตอบปฏิเสธแบบกวนๆ กลับมาว่า พวกทหารหน้าตาเหมือนๆ กันไปหมด

    ในระหว่างที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ เชอร์รี่ได้โทรหาผู้บังคับบัญชาของเธอ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อเสนอของเจค ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะถูกอุสทานัคเข้าจู่โจม และทำให้ทั้งสองต้องสละเครื่องในที่สุด ในระหว่างที่ตกลงสู่พื้นด้วยร่มชูชีพ แผ่นเหล็กที่กระเด็นออกมาจากแรงระเบิด ได้เสียบเข้าที่กลางหลังของเชอร์รี่ เธอขอร้องให้เจคช่วยดึงแผ่นเหล็กออกจากหลังของเธอ ทันทีที่เจคดึงแผ่นเหล็กออก บาดแผลกลางหลังของเชอร์รี่ก็เริ่มสมานตัวเข้าหากัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับเจคเป็นอย่างมาก ทำให้เขาเอ่ยปากพูดกับเชอร์รี่ว่า เลือดของเธอน่าจะถูกนำไปทดสอบมากกว่า ซึ่งเชอร์รี่ตอบกลับไปว่า เธอเคยถูกทดสอบแล้ว มากซะจนตัวเธอแทบรับไม่ไหว

    จากนั้น เชอร์รี่ได้บอกกับเจคว่า ชิปข้อมูลที่ใช้ในการสร้างวัคซีนได้สูญหายไป หลังจากที่ทั้งสองออกรวบรวมชิปข้อมูลทั้งหมดได้แล้ว พวกเขาก็เข้าไปหลบในบ้านไม้ใกล้ๆ เชอร์รี่ได้เล่าความจริง เกี่ยวกับความสามารถในการรักษาตัวเองให้เจคฟังว่า เธอได้รับเชื้อจีไวรัส (G-Virus) ตั้งแต่อายุ 14 ปี และพ่อของเธอ วิลเลี่ยม ไบร์กิน (William Birkin) ถูกสังหารโดย ลีออน สก็อตต์ เคนเนดี้ และ แคลร์ เรดฟิลด์ (Claire Redfield) เนื่องจากพ่อของเธอได้รับเชื้อไวรัส และกลายสภาพไปจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์แล้ว ในขณะที่คุยกัน เหล่าจูอาโวได้เข้ามาปิดล้อม และใช้ระเบิดเพื่อทำลายกำแพงบ้าน ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดหิมะถล่ม ทั้งสองจึงใช้สโนว์โมบิลที่อยู่ใกล้ๆ หนีจากหิมะถล่มได้ในที่สุด

    หลังจากพบว่า อุสทานัคยังมีชีวิตอยู่ ทั้งสองถูกอุสทานัคเข้าจู่โจมและถูกจับตัวในที่สุด เจคได้พบกับหญิงสาวในชุดสีน้ำเงินอีกครั้ง โดยเธอบอกกับเจคว่า แท้จริงแล้ว เจคคือลูกชายของ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ผู้ซึ่งเคยพยายามจะทำลายโลกใบนี้ ก่อนที่เจคจะถูกอุสทานัคทำให้สลบไป และถูกนำตัวไปทดลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของซีไวรัส



    30 มิถุนายน 2013, 6 เดือนหลังจากเหตุการณ์ที่อีโดเนีย เชอร์รี่และเจคสามารถหนีออกมาจากสถานีวิจัย พร้อมกับข้อมูลการวิจัยของเจค ในระหว่างที่กำลังหลบหนีจากการตามล่า ทั้งสองได้เห็นเหตุการณ์เครื่องบินตก และรีบตรงไปยังซากเครื่องบินทันที ที่นั่น พวกเขาได้พบกับ ลีออน สก็อตต์ เคนเนดี้ และ เฮเลน่า ฮาร์เปอร์ เชอร์รี่ได้รู้ความจริงจากลีออนว่า ไซมอนส์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุความวุ่นวายทั้งหมด ก่อนที่ทั้งสี่จะถูกอุสทานัคเข้าจู่โจม หลังจากร่วมมือกันจัดการกับอุสทานัคได้แล้ว เสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ล้มลงมา ทำให้พวกเขาต้องแยกออกจากกัน เชอร์รี่ตะโกนบอกลีออนว่า เธอกำลังจะไปพบกับไซมอนส์ที่ตึก Kwun Leng ก่อนที่เธอจะออกเดินทางไปยังจุดนัดพบต่อไป

    เมื่อเดินทางมาถึงจุดนัดพบ เชอร์รี่บอกกับเจคว่า หากที่ลีออนพูดเป็นความจริง เธอขอให้เจคหนีไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เมื่อเข้าไปด้านใน พวกเขาก็พบกับไซมอนส์ พร้อมด้วยลีออนและเฮเลน่า เชอร์รี่ได้รู้ความจริงจากไซมอนส์ว่า ตัวเขาเองคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายทางชีวภาพ ก่อนที่ไซมอนส์จะสั่งให้ลูกน้องเปิดฉากยิงใส่ เชอร์รี่ได้มอบชิปข้อมูลการวิจัยให้กับลีออน ก่อนที่ลีออนและเฮเลน่าจะช่วยกันยิงคุ้มกัน เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองหนีไป เมื่อหนีออกมาด้านนอกได้แล้ว พวกเขาก็ต้องเจอกับเหล่าจูอาโวที่ดักรออยู่ ทั้งสองถูกจับและนำไปขังไว้ที่สถานีขุดเจาะน้ำมันใต้ทะเล

    เมื่อทั้งสองรู้สึกตัวก็พบว่า พวกเขาถูกจับล็อกติดกันอยู่ แต่ต่อมาไม่นาน ล็อกก็ถูกปลดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ ในระหว่างที่พยายามหนีอยู่นั้น ทั้งสองก็ได้พบกับคริสและเพียรส์อีกครั้ง คริสบอกความจริงกับเจคว่า เขาเป็นคนสังหาร อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ก่อนที่ B.O.W. ยักษ์ Haos จะตื่นขึ้นจากดักแด้ เชอร์รี่และเจคหนีออกมายังด้านนอกโดยทิ้งให้คริสและเพียรส์อยู่ต่อสู้กับ Haos ที่ด้านใน

    เมื่อทั้งสองมาถึงห้องที่เต็มไปด้วยลาวา อุสทานัคก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่ต่อสู้กัน เจคชกอุสทานัคเข้าที่หน้า ทำให้มันกระเด็นตกลงไปในลาวา จากนั้น ทั้งสองได้ใช้ลิฟต์ความเร็วสูงเพื่อหนีออกไปยังด้านนอก แต่อุสทานัคก็ยังตามขึ้นมาบนลิฟต์ เชอร์รี่คว้าปืนที่อยู่ด้านหน้าเธอขึ้นมาและพยายามเล็งไปที่อุสทานัค แต่ด้วยความเร็วของลิฟต์ทำให้มือของเธอไม่นิ่ง เจคจึงช่วยกุมมือของเชอร์รี่ที่ถือปืนอยู่และยิงเข้าที่หน้าอกของอุสทานัคได้ในที่สุด

    หลังจากจบเหตุการณ์ เจคได้ส่งข้อความหาเชอร์รี่ที่อยู่บนเครื่องบินว่า เขาลดราคาจากที่เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ให้ เหลือเพียงแค่ 50 ดอลลาร์เท่านั้น







    Chris & Piers


    24 ธันวาคม 2012, คริส เรดฟิลด์ และ เพียรส์ นีวานส์ พร้อมด้วยลูกทีม B.S.A.A. เข้าสู่พื้นที่สาธารณรัฐอีโดเนีย ที่ซึ่งอาวุธชีวภาพ (B.O.W.) สายพันธุ์ใหม่ที่รู้จักกันในชื่อ จูอาโว ถูกนำมาใช้ในสงครามกลางเมือง หลังจากอธิบายเกี่ยวกับภารกิจแล้ว คริสแบ่งทีมออกเป็นสองทีมเพื่อเริ่มปฏิบัติการ


    คริสได้พบกับ เชอร์รี่ ไบร์กิน และ เจค มัลเลอร์ ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมกันต่อสู้กับ B.O.W. ขนาดใหญ่ Ogroman จากนั้น คริสได้มอบหมายให้คนของหน่วย B.S.A.A. นำเฮลิคอปเตอร์ไปส่งทั้งสอง ซึ่งก่อนจะแยกกัน คริสได้เอ่ยปากถามเจคว่าเขาทั้งสองเคยพบกันมาก่อนหรือไม่ แต่ก็ได้รับคำตอบปฏิเสธแบบกวนๆ กลับมาจากเจค

    เมื่อเดินทางมาถึงซิตี้ฮอลล์ พวกเขาก็ได้พบกับหญิงสาวในชุดสีน้ำเงิน ซึ่งเธออ้างว่า เธอชื่อ เอดา หว่อง และยังอธิบายต่อว่า B.O.W. รวมไปถึงจูอาโวทั้งหมด เกิดขึ้นมาจากซีไวรัส โดยมีองค์กรที่ชื่อว่านีโออัมเบร่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คริสตัดสินใจให้ความช่วยเหลือเธอ โดยช่วยพาเธอหนีออกจากพื้นที่ แต่ทว่า ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเอดา ลูกทีมของคริสทั้งสี่คนติดกับดักและถูกขังไว้ในกรง ก่อนที่เอดาจะโยนระเบิดที่บรรจุซีไวรัสไว้ด้านในใส่ทั้งสี่คน ทำให้พวกเขาติดเชื้อและกลายสภาพไปเป็น B.O.W. คริสเล็งปืนไปที่อดีตลูกทีมของเขาด้วยความลังเล ก่อนที่จะถูกโจมตีจนเพียรส์ต้องเข้ามาช่วยลากคริสที่กำลังจะหมดสติ หนีออกไปยังที่ปลอดภัย

    29 มิถุนายน 2013, คริสที่อยู่ในสภาพสูญเสียความทรงจำ นั่งดื่มเหล้าอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง เพียรส์และลูกทีม B.S.A.A. ที่พยายามออกตามหาตัวเขาตลอด 6 เดือน ได้นำภาพเหตุการณ์การก่อการร้ายทางชีวภาพ และรูปภาพอดีตลูกทีมคริสที่เสียชีวิตไปแล้วให้ดู ซึ่งทำให้ความทรงจำของคริสเริ่มกลับคืนมา เพียรส์ได้นำตัวเขากลับเข้าสู่ทีม B.S.A.A. เพื่อสานต่อภารกิจในการกำจัดเหล่าอาวุธชีวภาพ

    คริสและลูกทีมเดินทางเข้าสู่พื้นที่เมือง Waiyip ซึ่งตั้งอยู่ใน Lanshiang ประเทศจีน ที่ซึ่งได้รับรายงานว่าเกิดการก่อการร้ายทางชีวภาพ โดยมีนีโออัมเบร่าอยู่เบื้องหลัง ในระหว่างปฏิบัติภารกิจ คริสได้เห็นเหล่าผู้คนที่กลายสภาพไปเป็นดักแด้เนื่องจากติดเชื้อซีไวรัส ซึ่งทำให้ความทรงจำของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีโดเนียกลับคืนมา และถามเพียรส์ถึงข่าวการเคลื่อนไหวของเอดาด้วยความโกรธ

    ทั้งสองได้พบกับเชอร์รี่และเจคที่หายตัวไปตั้งแต่เหตุการณ์ที่อีโดเนีย คริสและลูกทีมช่วยเหลือเชอร์รี่และเจค จากการตามล่าของเหล่าจูอาโวที่นีโออัมเบร่าส่งมา ก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไปยังเขตสลัมของเมือง คริสและทีมถูกจู่โจมโดย B.O.W. งูยักษ์ ซึ่งทำให้ลูกทีมทั้งหมดเสียชีวิต เหลือเพียงแค่ คริส เพียรส์ และ มาร์โก้ โรส (Marco Rose) แต่ทว่า เอดาที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ได้ใช้ลูกดอกที่บรรจุซีไวรัสยิงใส่มาร์โก้ ทำให้เขากลายสภาพเป็น B.O.W. คริสและเพียรส์จึงต้องสังหารเขาโดยไม่มีทางเลือก


    สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คริสสติแตกด้วยความโมโห เพียรส์พยายามพูดเตือนสติคริสแต่ก็ไม่สำเร็จ คริสได้ตัดสินใจที่จะออกไล่ล่าตัวเอดาแทน โดยที่เพียรส์ต้องยอมตามคริสไปด้วย โดยเขาให้เหตุผลว่า ต้องมีใครบางคนคอยดูแลคริส ไม่ว่าคริสจะยอมหรือไม่ก็ตาม ทั้งสองไล่ตามเอดาเข้าไปในโรงงานซึ่งเป็นศูนย์วิจัยลับ ในขณะที่ไล่ต้อนเอดาจนมุม ลีออนและเฮเลน่าก็ปรากฏตัวขึ้น โดยลีออนได้เข้าขัดขวางคริสไม่ให้สังหารเอดา ก่อนที่เอดาจะฉวยโอกาสใช้ระเบิดแฟลชหลบหนีไป คริสรับปากกับลีออนว่าจะตามไปหยุดเอดาโดยที่จะไม่ทำร้ายเธอ และให้ลีออนและเฮเลน่าไล่ตามไซมอนส์ต่อไป

    คริสและเพียรส์ไล่ตามเอดามาจนถึงท่าเรือ และไล่ต้อนเอดาไปจนถึงบนสะพานเดินเรือ ทั้งสองได้รู้ถึงแผนการที่แท้จริงของเอดาว่าเธอต้องการที่จะแพร่กระจายเชื้อซีไวรัสไปทั่วทั้งโลก ก่อนที่คนของไซมอนส์จะใช้เฮลิคอปเตอร์บินเข้ามาที่ด้านหลัง และยิงเข้าที่กลางหน้าอกของเอดา เธอบอกกับคริสว่าไม่มีใครสามารถหยุดแผนการของเธอได้ ก่อนที่เธอจะตกลงไปยังพื้นด้านล่าง เพียรส์ตรวจสอบกระเป๋าที่เอดาทำตกไว้ เขาพบหลอดบรรจุซีไวรัสที่ได้รับการพัฒนาแล้วอยู่ด้านใน ซึ่งคริสบอกให้เขาเก็บเอาไว้เพื่อนำกลับไปตรวจสอบ

    ทั้งสองบังคับเครื่องบินรบเพื่อใช้ทำลายเรือที่บรรทุกจรวดมิสไซล์ ซึ่งบรรจุซีไวรัสไว้ด้านในและกำลังจะถูกยิงเข้าไปในเขตเมือง แต่ในที่สุด ทั้งสองก็ไม่สามารถหยุดหายนะครั้งนี้ได้ จรวดมิสไซล์ถูกยิงเข้าไปยังใจกลางเมือง Tatchi และทำให้ไวรัสกระจายไปทั่วทั้งเมือง คริสได้รับการติดต่อจากลีออน ซึ่งขอร้องให้ทั้งสองเดินทางไปยังสถานีขุดเจาะน้ำมัน เพื่อช่วยเหลือเจคและเชอร์รี่ที่ถูกจับตัวไป

    เมื่อทั้งสองสามารถช่วยเจคและเชอร์รี่ออกมาจากที่คุมขังได้สำเร็จ คริสบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเป็นคนสังหาร อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ให้เจคฟัง ซึ่งทำให้เจคโมโห และยกปืนเล็งไปที่คริส แต่ท้ายที่สุด เจคก็ระงับอารมณ์โกรธของเขาไว้และบอกกับคริสว่า พวกเขายังมีสิ่งอื่นที่สำคัญมากกว่า ที่จะต้องสะสาง ในระหว่างที่หลบหนี พวกเขาได้พบกับ B.O.W. ขนาดใหญ่ Haos คริสและเพียรส์ช่วยให้เจคและเชอร์รี่หนีออกไปด้านนอก โดยที่ทั้งสองยังคงอยู่ต่อสู้กับ Haos ด้านใน

    Haos ได้สร้างความเสียหายให้แก่สถานีใต้น้ำเป็นอย่างมาก เพียรส์ช่วยผลักคริสในขณะที่ Haos กำลังคว้าตัวเขา ทำให้เพียรส์ถูกจับเหวี่ยงไปกระแทกกับกำแพง และถูกเศษสิ่งก่อสร้างที่ Haos ปาใส่ ทับแขนขวาของเขา ในขณะที่คริสถูก Haos จับตัวไว้ เพียรส์ดึงร่างของเขาออกมาจากเศษสิ่งก่อสร้างที่ทับอยู่ และคลานไปหยิบซีไวรัสที่ได้มาจากกระเป๋าของเอดา เพียรส์ฉีดซีไวรัสเข้าไปในร่างกาย และทำให้แขนขวาที่เขาสูญเสียไป กลับงอกขึ้นมาใหม่กลายเป็นอาวุธชีวภาพที่ทรงพลัง คริสและเพียรส์ร่วมมือกันจนสามารถกำจัด Haos ได้ในที่สุด

    ในขณะที่คริสช่วยพยุงเพียรส์เข้าไปยังกระสวยช่วยชีวิตเพื่อหลบหนี เพียรส์รู้ตัวดีว่า เขาไม่สามารถกลับไปในสภาพนี้ได้แล้ว เขาจึงผลักคริสเข้าไปในกระสวยและกดสวิตซ์ปล่อยกระสวยออกไปด้านนอก ในขณะที่กระสวยกำลังพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ Haos ก็ตามขึ้นมาและจับกระสวยไว้ แต่เพียรส์ที่อยู่ด้านล่างก็ใช้แขนของเขา ยิงกระแสไฟฟ้าใส่ Haos ทำให้มันร่วงลงสู่ด้านล่างพร้อมกับการระเบิดของสถานีใต้น้ำ

    คริสนั่งกินสเต็กอาหารโปรดของเพียรส์อยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง ก่อนที่คนของหน่วย B.S.A.A. จะเข้ามาแจ้งให้ทราบถึงภารกิจใหม่





    http://www.playfaqs.com/game-story/resident-evil-6

    http://www.online-station.net/


    momzykissxsis ผู้ร่วมรวมข้อมูล เวลาทำ 23.00 - 1.25 น. ^^[/CENTER]
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย momaykissxsis : 4th March 2013 เมื่อ 15:53


  7. #5
    แบ่งปันความสุข
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    4,344
    กล่าวขอบคุณ
    13,091
    ได้รับคำขอบคุณ: 30,860
    ตัวหนังสือ...ตัวหนังสือเต็มไปหมด =__="
    ถึงกับทรุด

  8. #6
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    ที่อยู่
    ไม่บอก
    กระทู้
    2,393
    กล่าวขอบคุณ
    995
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,550

  9. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    151
    กล่าวขอบคุณ
    149
    ได้รับคำขอบคุณ: 64
    ขอบคุณคับ อ่านมันส์มากก

  10. #8
    แบ่งปันความสุข
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    4,344
    กล่าวขอบคุณ
    13,091
    ได้รับคำขอบคุณ: 30,860
    จขกท.ค้าบ เนื้อเรื่อง code veronica มีตอน 1 มั้ยเห็นมีแค่ตอน 2-3
    ถึงกับทรุด

  11. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    280
    กล่าวขอบคุณ
    205
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    อ่านกันยาวๆ เพลินๆ สบายๆ

    ขอบคุณมากๆครับ

  12. #10
    CM_The News Game
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,431
    กล่าวขอบคุณ
    956
    ได้รับคำขอบคุณ: 26,650
    Blog Entries
    3
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ 40976 อ่านกระทู้
    จขกท.ค้าบ เนื้อเรื่อง code veronica มีตอน 1 มั้ยเห็นมีแค่ตอน 2-3

    เดียว โพส ให้นะ มี อ่ะ มี เค้า ลืม เอา ชื่อตอนไปก่อนแลกัน ^^

    Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 1 'ตระกูลแอชฟอร์ด

  13. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    กระทู้
    206
    กล่าวขอบคุณ
    18
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    ข้อมูลเเกเเน่นจริง ไรจริง ชอบๆ

  15. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    151
    กล่าวขอบคุณ
    38
    ได้รับคำขอบคุณ: 10
    อย่างที่เค้าว่า....ตัวหนังสือเต็มไปหมด แต่ก็สนุกดีนะคับ!! อาริงาโต้ะ (ปล.ผมอยากรู้เนื้อเรื่องทั้งหมดของ dead space 1-3 จังเลยอ่ะคับ)

  16. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    364
    กล่าวขอบคุณ
    129
    ได้รับคำขอบคุณ: 150
    555 ดีจัง เล่นมาเกือบทุกภาคยกเว้น Code veronica กับ darkside chronicle คนไม่เคยเล่นอาจจะงงหลายๆจุดนะผมว่า

    จริงๆถ้าเป็นแฟนส่วนมากก้จะเล่นหลายภาคอยู่ละ แต่ภาค 4 จริงๆมันค่อนข้างจะแยกออกจากหลัก re อยู่นะ ไม่มีเนื้อเรื่องหลักเข้ามาเกี่ยว เหมือนลีออนหลุดเข้ามาในพื้นที่ประหลาด

    สปอยให้แค่ภาค 4 ลีออนมาช่วยลูกสาวประธานาธิบดี แค่นั้นแหละ แล้วก็วิ่งสู้ไปวิ่งสู้มา ส่วนที่ต่อจาก 4 ดูในภาค 5 เอาได้

  17. #14
    โลกนี้กำลังป่วย
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    637
    กล่าวขอบคุณ
    264
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,357
    ย่อของเจ้าของกระทู้ให้อีกทีครับ สำหรับคนขี้เกียจอ่านยาวๆ

    ภาค1
    กลุ่มstars(มี คริส จิล เป็นตัวหลัก)เข้าไปสำรวจคฤหาสถ์ลึกลับในป่า------เจอซอมบี้------หนีเอาชีวิตรอดและหาทางออกจากคฤหาสถ์-----พบว่าเวสเกอร์หัวหน้าหน่วยstarsอยู่เบื้องหลัง-----สู้กับเวสเกอร์แล้วออกจากคฤหาสถ์โดยใช้ฮ.---จบ

    ภาค2
    ลีอองตำรวจใหม่เข้าเมือง raccoon city---ไปเจอซอมบี้เต็มเมืองและพบกับแคลร์(น้องสาวคริสซึ่งมาตามหาพี่ชายในเมือง)-----ทั้งคู่แยกย้ายกันโดยอุบัติเหตุไปตามทางของตนเองในเมือง-----ลีอองได้เจอเอด้า---แคลร์ได้เจอเชอรี่----ปราบจีไวรัสพ่อเชอรี่---ลีอองและแคลร์พาเชอรี่ขึ้นรถไฟออกจากเมืองได้สำเร็จปลอดภัย-----เมืองระเบิด----จบ

    ภาค3
    จิลสมาชิกหน่วยstarsหาทางออกจากคฤหาสถ์มาได้----มาอยู๋ในเมือง raccoon city---พบว่าซอมบี้บุกทั่วเมือง-----พยายามหนีออกจากเมือง----เจอเนเมซิสไล่ฆ่า----ชนะและหนีออกจากเมืองสำเร็จ----เมืองระเบิดพร้อมๆกับในภาค2----จบ

    ภาค4 หลายปีต่อมา
    ลูกสาวปธน.โดนลักพาตัว-------ลีอองถูกส่งไปช่วย-----สู้กับเหล่าไวรัสพลาก้าและถล่มศัตรูบนเกาะจนเกลี้ยง------ช่วยลูกสาวปธน.ออกมาจากเกาะได้อย่างปลอดภัย----ขี่เจ็ตสกีกลับบ้าน----จบ

    ภาค5
    คริสถูกส่งไปแอฟริกา-----ร่วมมือกับเชว่าปราบเหล่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่-----พบเวสเกอร์อยู่เบื้องหลัง----อัดเวสเกอร์ตกลาวาในภูเขาไฟ----คริสและเชว่าเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย-----จบ

    ภาค6
    ลีอองร่วมมือกับเฮเลน่าหยุดแผนชั่วๆของซิมม่อน(หัวหน้าผู้ร้ายในภาคนี้)-----คริสร่วมมือกับปีแอร์ปราบเหล่าไวรัสต่างๆสู้กับเอด้าตัวปลอมและทำลายโรงงานผลิต-----เชอรี่(โตแล้ว)และเจค(ลูกเวสเกอร์)ปราบพวกไวรัสและหาทางหนีเพื่อเอาเลือดเจคไปผลิตแอนตี้ไวรัส----เอด้าคอยช่วยเหลือทุกคนอยู่ห่างๆและสู้กับเอด้าตัวปลอม-----ฝ่ายดีทุกคนชนะ--จบ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย topperioz : 4th March 2013 เมื่อ 22:28

  18. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  19. #15
    การโหลดคือ จิตวิญญาน
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    940
    กล่าวขอบคุณ
    441
    ได้รับคำขอบคุณ: 415
    ขอบคุณที่โพสครับ อ่านบางเล่นเกมส์บาง 11โมง ยันบ่าย1เลย
    thailandstar.tskk.in

  20. #16
    Stony Cat
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    TK
    กระทู้
    2,557
    กล่าวขอบคุณ
    1,372
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,137
    Blog Entries
    1
    อยากได้ Code veronica ตอน 1 มาก - - เพราะดูเป็น อนิเมชั่นแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง 555 ภาค4 ถ้ามีต่อก็อยากอ่านหุๆ
    แล้วไอภาค อนิเมชั่นที่ไวรัสมันแพร่ในอากาศยาน นี่มันชื่อภาคไรอะลืมละ
    COMPONENTS : FX-8350 X ASUS R9 390x STRIX 20GB of RAM

  21. #17
    CM_The News Game
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,431
    กล่าวขอบคุณ
    956
    ได้รับคำขอบคุณ: 26,650
    Blog Entries
    3
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Mustas อ่านกระทู้
    อยากได้ Code veronica ตอน 1 มาก - - เพราะดูเป็น อนิเมชั่นแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง 555 ภาค4 ถ้ามีต่อก็อยากอ่านหุๆ
    แล้วไอภาค อนิเมชั่นที่ไวรัสมันแพร่ในอากาศยาน นี่มันชื่อภาคไรอะลืมละ
    โพสแล้ว นะ จ๊ะ ก่อน Code veronica ตอนที่ 2 แทรก เรียบร้อยแล้ว จ้า ชื่่อ Resident Evil : Code Veronica ตอนที่ 1 'ตระกูลแอชฟอร์ดและการกลับมาของเวสเกอร์'
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย momaykissxsis : 4th March 2013 เมื่อ 16:00

  22. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    237
    กล่าวขอบคุณ
    605
    ได้รับคำขอบคุณ: 116
    ผมไม่เคยเล่นภาค6 ผมอยากรู้เอด้าตายหรอ ผมดูในคัดซีนลีออน -0-

  23. #19
    Resident Evil Thailand
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพมหานคร
    กระทู้
    1,059
    กล่าวขอบคุณ
    185
    ได้รับคำขอบคุณ: 706
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Phromrat อ่านกระทู้
    ผมไม่เคยเล่นภาค6 ผมอยากรู้เอด้าตายหรอ ผมดูในคัดซีนลีออน -0-
    adaไม่ตายครับ

  24. #20
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,881
    กล่าวขอบคุณ
    3,883
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,394
    ขอบคุณมากจ้า

    ว่างๆจะมาเสพเน้อ

  25. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2012
    ที่อยู่
    ในใจของเธอ
    กระทู้
    672
    กล่าวขอบคุณ
    63
    ได้รับคำขอบคุณ: 421
    jill valentine ตายตอนไหนครับ ไม่เห็นรู้เลยอะ

  26. #22
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    242
    กล่าวขอบคุณ
    136
    ได้รับคำขอบคุณ: 58
    เหนื่อยแทนคนแปล

  27. #23
    CM_The News Game
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,431
    กล่าวขอบคุณ
    956
    ได้รับคำขอบคุณ: 26,650
    Blog Entries
    3
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ sornpraram อ่านกระทู้
    jill valentine ตายตอนไหนครับ ไม่เห็นรู้เลยอะ
    คิดว่า จิล ก็ มา เป็นแนว รีเบ็คก้า เดียวมา เดียวไป แล้วแต่ คนสร้าง

  28. #24
    มังกรน้อยคอยรัก
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,499
    กล่าวขอบคุณ
    689
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,060
    ขาดภาค 1.5 กับ 3.5 ไปนะครับ

    ตัวละคร ภาค 1.5 คือลีออน เคนดีกับ เอลซ่า เวสเกอร์

    3.5 คือลีออน ที่ติดเชือบสงอย่าทำให้ประสาทหลอด แต่เสียดายที่ถูก ลือทำใหม่หมด

    ภาค อัลเบรก ตัวละ คร 8 ตัว ซึง 1 ใน 8 มีตัวละครสังกัด R P D คือ มาวิล
    MY CENTER ^

  29. #25
    มังกรน้อยคอยรัก
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,499
    กล่าวขอบคุณ
    689
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,060
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ sornpraram อ่านกระทู้
    jill valentine ตายตอนไหนครับ ไม่เห็นรู้เลยอะ
    จิล ไม่ได้ต่ายครับ แค่ข่าวลวงจาก อัลเปบล่า นะครับ สวนเอด่้าเขารู้ันทุวโลกแล้วว่าหล่้อนไม่ได้ตาย

    เรารู้ก่อนภาค 4 ออกอีก ครับ ดูจากภาค 3 เอาก็รู้ครับ
    MY CENTER ^


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top