ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 37
  1. #1
    กันอินชาวปทุมธานี ?
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    562
    กล่าวขอบคุณ
    437
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,192
    Blog Entries
    5

    ประสบการณ์สยอง /ขวัญอ่อน/อ่อนไหวง่าย อย่าเข้า! - [ยาว] **เสริมมีแบบย่อ**

    ชี้แจง! เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ เพียงแต่ว่าไปเจอเรื่องนี้มา แล้วอยากนำมาแบ่งปันครับ
    และผมเอามาเรียบเรียงอีกทีครับ ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ


    - อีกอย่างสำหรับคนไม่ชอบเรื่องยาวๆ มีแบบย่ออยู่ด้านล่างนะครับ เพิ่มให้เพราะเห็นแล้วมันก็ยาวจริงๆ!!!

    ที่เรียบเรียงไม่ใช่ว่าย่อให้สั้น มีความกระชับ แต่รวมเรื่องทั้งหมดที่เจ้าของเรื่องเล่าไว้เป็นตอนๆ และแก้ไขคำผิดบางคำเท่านั้น
    หากผิดพลาดตรงไหนก็เท่ากับว่าตรงนั้นผิดพลาด ตรงนั้นคือตรงไหน ? มันก็คือตรงไหนนั้นแหละ ถ้ายังงงอีกเอาเป็นว่าไปอ่านกันเลยดีกว่า


    "วันนี้ผมมีเรื่องสยองๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวผมและเพื่อนๆ จะมาเล่าให้ฟังคับ
    เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากความคึกคะนองกับการท้าทาย " วิญญาณของคนตาย "
    เพราะงั้นผมก็เลยอยากจะเตือน คนที่คึกคะนองและคิดอยากจะลองดีว่า อย่าเลยครับ
    ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ขอให้เรื่องนี้ได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครหลายๆคนนะครับ
    เพราะผมไม่อยากจะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับพวกคุณเหมือนเพื่อนของผม
    เรื่องราวต่อไปนี้ผมขออุทิศให้กับ เพื่อนของผมที่เดินทางไปกับผมในวันนั้นด้วย อโหสิให้ผมด้วยนะ
    ผมขอเอาเรื่องของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมาเล่าต่อหากว่าเค้าไม่พอใจก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
    ผมไม่ได้จะลบหลู่ แค่อยากจะเล่าไว้เป็น อุทาหรณ์"



    ...เรื่มเรื่องเลยก็แล้วกันคับ เรื่องนี้เกิดขึ้นประมานวันที่ 10 ตุลา หรือประมานอาทิตย์ก่อนคับ
    ผมกับเพื่อนๆประมาน 4-5 คนเกิดอาการเบื่อๆคับ เพราะช่วงปิดเทอม ก็เลยนัดกันว่าจะหมดปิดเทอมแล้วจะไปเที่ยวกัน
    อยากไปค้างคืนแต่ก็ไม่ค่อยจะมีตังค์กัน ผมก็เลยเสนอว่า ให้ไปบ้านคุณตาของผมไหม บ้านตาผมอยู่จังหวัด สกลนคร
    ถ้าไปก็พักฟรี อาหารฟรี ไปสูดบรรยากาศ เพราะบ้านตาผมค่อยข้างชนบท ไกลจากตัวเมือง พอผมเสนอไปแบบนั้น
    พวกเพื่อนๆผมก็ตกลงปลงใจกันว่าจะไป ผมไม่ได้กลับไปเยี่ยมคุณตาซะนาน คราวนี้มีโอกาส แถมได้พาเพื่อนๆไปด้วย
    คุณตาคงไม่เหงา และคิดว่าเหตุผลที่พวกมันอยากจะไปกันก็คือ ที่พักฟรี และอาหารฟรี แต่ทว่า เพื่อนผมมันไม่ได้ไปเพราะเหตุนั้น
    แต่ที่ไปเพราะมีเหตุผลหลักอีกข้อนึง ซึ่งถ้าผมรู้ผมคงจะไม่ชวนมันไปแน่ๆนั่นก็คือ ไปลองของตามต่างจังหวัด



    หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว ผมกับเพื่อนๆ ก็เตรียมจัดข้าวของคับ กะว่าจะไปค้างกันซักอาทิตย์แล้วค่อยกลับ ไหนๆก็พักฟรีกินฟรีแล้ว
    จากนั้นผมก็โทรศัพท์ไปหาคุณตา บอกว่าจะพาเพื่อนไปพักนะ คุณตาเค้าก็บอกว่าให้พามาได้เลย คุณตาของผมเค้าอายุประมาน 70 นิดๆแล้วคับ
    แก่มากล่ะ เออทีนี้ ตอนแรกผมก็ก่ะว่าจะนั่งรถไฟไปกัน เพราะคิดว่ามันสนุกดี แต่ดันไม่มี ก็เลยต้องนั่งรถทัวร์ไปกัน
    นั่งไปวันเต็มๆคับ ออกกันตั้งแต่เช้ากว่าจะไปถึงสกลก็เกือบๆจะเย็นล่ะ หลังจากนั้นก็ต่อรถโดยสารไปอำเภอ บ้านม่วงคับ มันอยู่ไกลจากตัวเมืองมาก
    แล้วพวกผมก็โชคดีที่ว่า รถที่จะไปบ้านม่วง มันเป็นรอบสุดท้ายพอดี หลังจากนี้ถ้าพลาดก็ต้องรอเช้า พวกผมก็นั่งรถกันไป มันเป็นรถ 2 แถวแบบบ้านเรานี่แหละ
    เออทีนี้พวกผมก็คุยเล่นเฮฮากันไป ด้วยความสนุกเพลิดเพลินจนทำให้ไม่ได้สังเกตเลยว่า ยิ่งห่างจากตัวเมืองเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเป็นป่าและท้องนามากขึ้นเท่านั้น
    ตอนนี้พวกเราก็ใกล้จะไปถึงบ้านตาผมล่ะ เวลาตอนนั้นก็พลบค่ำพอดี คงจะประมาณ 6 โมงครึ่งได้มั่ง รถเค้าก็เรื่มเปิดไฟล่ะ เสียงพวกจิ้งหรีดข้างทางก็ร้องกัน
    ได้บรรยากาศชนบทจริงๆ ทีนี้พอรถขับไป ผมก็สั่งเกตุเห็น เป็นเป็นยายแก่ๆคนนึง เดินเข็นรถเข็นอยู่ข้างทาง ผมจำได้ว่ายายใส่หมวกที่พวกชาวนา
    แล้วแกใส่เสื้อสีชมพูอ่อนๆ เป็นเสื้อคอกระเช้า แล้วรถที่แกเข็นนี่น่าจะเป็นถังน้ำหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ
    ผมก็มองแกไปในใจก็คิดว่า ใครวะปล่อยให้ยาย มาเดินเข็นน้ำคนเดียวแบบนี้ ข้างทางก็มีแต่ป่าเกิดเป็นลมขึ้นมาจะทำไง
    ผมมองยายแล้วก็คิดในใจไปด้วย จนกระทั่งรถขับเลยไปจนยายหลุดจากระยะสายตาผมไป ทีนี้ผมก็หันหลับมามองหน้าเพื่อนที่นั่งตรงกันข้าม
    ตอนนั้นเพื่อนผมมันไม่ได้มองมาที่หน้าผม แต่มองออกไปที่นอกรถตรงข้างหลังผมคับ
    แล้วมันก็พูดออกมาประโยคนึงว่า " ใครว่ะปล่อยให้ยายเดินเข็นน้ำคนเดียว น่าสงสาร Shift หาย " จบคำๆนี้ผมถึงกับสะดุ่งและขนลุกมาก
    ผมรีบหันหลังไปมอง ด้วยความช๊อคนิดๆ แล้วผมก็เห็นยายคนเดิมเลย ใส่หมวกแบบเดิม เสื้อชุดเดิม รถเข็นอันเดิม เดินเข็นน้ำอยู่ที่ข้างหลังผม
    ตอนนั้นผมเรื่มใจเสียล่ะ



    ผมก็ตะลึงกับภาพยายคนนั้น มันก็แน่ล่ะเป็นใครเจองั้นแล้วไม่ตะลึงมั่ง แต่ของผมมันไม่ได้ตะลึงอย่างเดียว ผมดันหลุดปากออกมาว่า "เห้ย!!"
    สาบานเลยว่า คำๆนั้นผมหลุดออกมาเพราะผมตกใจมาก แต่ว่ามันกลับเป็นคำที่ดังมากพอที่จะทำให้ยายคนนั้น เงยหน้าขึ้นมามองที่หน้าผม
    วินาทีนั้น ผมขนลุกไปทั้งตัว ในใจก็คิดซ้ำๆว่า เห้ยๆๆๆๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเรียก โดนแล้วตรูเอ้ยยย ทีนี้เพื่อนผมมันก็เห็นผมนั่งหน้าซีดมั้ง
    มันก็เลยสกิดผม ผมสะดุ้งทันทีที่มันสกิด แล้วมันก็ถามผมว่า " เห้ย! เป็นไรไปเนี้ย " ผมที่ตอนนั้นมีอาการช๊อคนิดๆสติไม่ค่อยอยู่กับตัวแล้ว
    ผมเลยบอกมันไปว่า ยายคนเมื่อกี้อ่ะ ตรูเห็นเค้าเดินอยู่อีกฟากนึง แต่มันประมาน 500 เมตรก่อนหน้านี้ พอผมพูดจบเท่านั้นแหละ
    เพื่อนผม 4-5 คนมันก็ขำกันออกมา ท่ามกลางความงุนงง ผมก็ถามพวกมันไปว่า ขำไรกันวะ ตรูพูดจริงๆนะ ผมพยายามพูดให้พวกมันเชื่อ
    แต่พวกมันก็หาว่าผมหลอกผีบ้าง มุขกากบ้าง ตอนนั้นผมคิดแค่อย่างเดียวในใจว่า เออไม่โดนมั่งก็แล้วไป ถึงผมจะคิดไปแบบนั้น
    แต่ผมสาบานได้เลยว่า ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลยจริงๆ พอไม่นานนัก พวกผมก็ลงรถกัน บ้านของคุณตาผมไม่ได้ติดถนนใหญ่
    มันต้องเดินเข้าซอยไปคับซึ่งคุณตาของผมเขาถือตะเกียงเดินออกมารอที่หน้าถนน เออก็แปลกดีนะ ตาผมเค้าไม่ใช้ไฟฉายคับ เค้าใช้ตะเกียง
    พอลงรถมาเสร็จผมก็บอกให้เพื่อนๆมันไหว้คุณตาผม จากนั้นผมก็แนะนำให้ท่านรู้จักเพื่อนๆผม คุณตาของผมท่านอยู่คนเดียวคับ แกจ้างคนทำนา
    แกมีที่นาเยอะมากคับ ปลุกผักกินเองข้าวก็นาตัวเอง เลี้ยงไก่ไว้กินไข่ เรียกได้ว่าเป็นคนที่ใช้หลัก เศรฐษกิจพอเพียงตัวอย่างได้เลย
    แล้วทีนี้ คุณตาก็พาพวกผมเดินไปบ้านเขาคับ ด้วยความที่ผมยังคาใจเรื่องเมื่อกี้ ผมก็เลยเดินไปก่ะว่าจะพูดกับคุณตาถึงเรื่อง ยายเข็นน้ำที่เจอ
    พอผมเดินไปข้างๆคุณตาและกำลังจะอ้าปากพูดนั้น คุณตาก็พูดสวนผมมาทันทีว่า " เจออะไรมาล่ะสิ ไม่ต้องพูดนะ ไว้ไปคุยที่บ้าน "
    พอได้ยินแบบนี้ผมก็ เอาแล้วไง ชัดเลย ใช่แน่ๆ แต่จริงๆแล้วเรื่องนี้ผมก็คิดอยู่แล้วล่ะว่ามันใช่ เพราะยายที่ไหนจะเดินเข็นน้ำแล้วกดไนตรัส
    มาแซงรถผมได้โดยที่ผมไม่เห็น แต่ที่ผมคาใจจริงๆไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เป็นเรื่องที่ผมหลุดปากไปว่า เห้ย แล้วโดยยายแกหันมามองหน้านี่แหละ



    หลังจากที่เดินกันมาประมาน 15 นาทีเห็นจะได้ พวกผมก็ถึงบ้านคุณตาคับ บ้านคุณตาเป็นบ้านไม้เก่าๆ ชั้นเดียวแต่ยกใต้ถุนสูงๆ
    สไตย์คนโบราณ พวกผมก็ล้างเท้าที่โอ่งหน้าบันไดแล้วก็หิ้วของกันขึ้นไปกันคับ พอไปถึงก็จัดข้าวของกัน เสร็จแล้วก็มานั่งกินข้าวกันคับ
    กับข้าวบ้านตาผมก็นี่เลย ข้าว น้ำพริก ผักต้ม โชคดีว่าตาผมเค้า กลัวพวกผมจะกินกันไม่ได้ ก็เลยต้มไข่ไว้ด้วย มื้อนั้นก็เลยกินข้าวไข่ต้มกันไป
    อยากแดรกของฟรีไงเงิบไปเลย แล้วทีนี้ระหว่างที่นั่งกินกันอยู่นั้น ผมก็เลยได้โอกาสถามเรื่องยายที่เจอข้างถนนกับคุณตา
    ผมถามไปว่า ตาๆ ยายคนที่เดินเข็นน้ำเสื้อสีชมพูอ่อนๆนั่นเป็นใคร พอผมพูดจบเท่านั้นแหละ พวกเพื่อนผมก็ขำกันใหญ่เลย
    บอกว่าผมจะแต่งเรื่องผีมาหลอกมัน ทีนี้คุณตาผมก็เงียบไปแล้วบอกว่า เค้าชื่อยายสุก ถูกรถชนตายที่ถนนใหญ่เมื่อประมาณ 3-4 เดือนก่อน
    พอตาผมพูดจบเท่านั้นแหละ เพื่อนผมมันนี่ก็เงียบกันหมด แล้วตาผมก็เล่าต่อบอกว่า ยายแกอายุมากแล้ว
    แต่แกอยู่บ้านกับหลานแกตัวเล็กๆ อายุประมานซัก 2 ขวบมั้ง ประมาณว่าลูกแกเอาหลานมาทิ้งไห้แกเลี้ยง แล้วทีนี้หลานแกไม่สบายไง
    ตัวร้อนต้องเอาผ้าชุบน้ำซับทั้งคืน แล้วทีนี้น้ำในตุ่มแกหมด แล้วแกไม่อยากจะขอเพื่อนบ้านเพราะเกรงใจ แกเลยไปเข็นน้ำมา
    แต่ระหว่างทางที่แกเข็นมานั้น มันมีรถโดนสารขับมาอย่างเร็วแล้วไปเฉี่ยวแกเข้า
    ถึงจะแค่เฉี่ยวๆ แต่ด้วยความเร็วรถบวกกับแกอายุมากแล้วแกก็เลยไม่รอด เห็นคนเค้าบอกว่าตอนที่ไปเจอยาย
    ยายคลานจากจุดที่โดนเฉียวมาประมาน 4-5เมตร แล้วพูดกับคนที่ไปเจอแกเป็นคำสุดท้ายก่อนจะสิ้นใจว่า
    "หลานตัวร้อน จะรีบไป" จากนั้นมาพอพลบค่ำหรือกลางคืนก็จะไม่มีใครกล้าออกไปแถวๆถนนใหญ่
    เพราะว่าจะ ได้เห็นแกเดินเข็นน้ำมาตามข้างทาง มีครั้งนึงคนที่ขับรถโดยสารเล่าให้ตาผมฟังว่า ประมานทุ่มเศษๆเขาขับรถมาประมาน 100 นิดๆ
    แล้วเขาเหลือบไปมองที่กระจกด้านข้าง แล้วเค้าเห็นยายคนนี้ เข็นรถตามเค้ามา เค้าก็ตกใจมากเลยเหยียบไปจนมิด
    ยายแกก็ตามมาจนใกล้ประตูรถเลย แล้วก็พูดว่า เอาชีวิตกรูคืนมาๆๆ
    ผมเล่าแล้วยังขนลุกอยู่เลย เออแล้วพอตาผมพูดจบ พวกผมก็นั่งกันนิ่งเลย แล้วทีนี้ตาผมก็บอกว่า วันนี้มากันเหนื่อยๆก็ไปพักผ่อนก่อนเถอะ
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ ตาผมจะพาไปตกปลา แล้วทีนี้ตาผมก็เข้าห้องนอน พวกผมไม่มีห้องเพราะตาอยู่แค่คนเดียว เค้าเลยปูเสื้อกากมุ้งให้พวกผมนอนกัน
    แล้วทีนี้ พวกผมก็ตามสไตล์เด็กกรุงไง มาเที่ยวมันจะไปนอนกลางคืนได้ไงใช่ป่ะ แถมตอนนั้นเพิ่งประมาน 2 ทุ่มกว่าเองๆ
    เด็กกรุงเทพเขานอนกันเที่ยงคืน ผมก็คิดว่า จะเล่นไรกันดีผมเอาไพ่ เอาเกมเศรษฐีมา แต่ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนผมมันต้องการ
    พวกมันหยิบไฟฉายกันขึ้นมาคนละกระบอกแล้วค่อยๆย่องออกนอกมุ่งไป
    ด้วยความที่ผมตกใจเลยถามพวกมันว่า เห้ย จะไปไหนกันวะ ทันใดนั้นเพื่อนผมมันก็หันมายิ้ม
    และพูดในสิ่งที่เป็นจุดเรื่มต้นของความซวยในทัวร์ครั้งนั้น ก็คือ " ไปดูผี "



    พอได้ยินแบบนั้นผมก็ตะลึง ผมเลยบอกไปว่า เล่นตะกวดอะไรกันไม่รู้เรื่องล่ะ เพื่อนผมไอ้คนที่นิสัยตะกวดๆ หน่อยมันก็พูดขึ้นมา
    ว่า ผีตะกวดไร มีจริงที่ไหน อยากเห็นว่ะ ถ้าเจอจะเตะให้กลิ้งเลย ไอ้เพื่อนตะกวดคนนี้มันอายุน้อยที่สุดครับ แต่ชอบทำตัวห้าวไง
    ผมก็เลยบอกว่า ถ้างั้นก็ไปกันเองเหอะ ตรูจะนอนที่นี่แหละ พอผมพูดจบไอ่ตะกวดนั่นก็พูดขึ้นมาเลย "ป๊อดหรอวะ"
    ไอ้ตะกวดอายุน้อยกว่าผมไหงแล้วมาพูดแบบนี้ ผมโคตรจะขึ้นเลย ตอนนั้นอารมณ์ของผมอยู่เหนือความกลัวล่ะคับ
    ผมเลยหยิบไฟฉายออกมาจากเป้แล้วบอกออกไปอย่างลืมตัวว่า ก็เอาดิไอ่ตะกวด ตรูก็อยากจะเห็นคนวิ่งหนีผีขี้ลาดเหมือนกันว่ะ
    ตอนนั้นในใจผมไม่มีคำว่ากลัวแล้วมีแต่ ศักดิ์ศรีเท่านั้น จากนั้นพวกผมก็ไปสุมหัวกันหน้าบ้านตา เปิดไฟฉายกันคนละกระบอก
    ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลยคับ บรรยากาศเวลา 2 ทุ่มของที่นั่นพอๆกับตี 1 บ้านเราเลย รอบๆมืดหมด ไม่มีบ้านคน
    จะมีก็หลังนึงอยู่ไกลมาก แต่ก็ปิดไฟนอนไปแล้ว ไฟหลวงก็ไม่มี ข้างทางเป็นทุ่งนากับป่ารกๆ
    ตอนที่ลงมากันตอนแรกแทบจะหัวทิ่มตกบันไดกันเพราะความมืด แต่พออยู่ไปซักพัก ตาก็เรื่มชินๆพอจะมองเห็นเป็นลางๆ
    แล้วทีนี้พวกผมก็ประชุมกันไง ว่าจะเอาไงดี ทีนี้เพื่อนผมอีกคนนึงก็บอกว่า งั้นก็เดินไปที่ถนนใหญ่ดิ ง่ายๆ ทุกคนก็เห็นด้วย
    และไอ่ตะกวดนั่นก็พูดขึ้นมาเลย ผมจำไม่ค่อยได้ล่ะ มันพูดประมานว่า "ถ้าเจอยายจะให้ยายลองดูดม้า วิญญาณจะได้ไปสวรรค์"
    อะไรซักอย่างนี่แหละ แล้วระหว่างทางที่เดินไปก็ปากดีไปตลอดทาง
    ผมก็กล้าๆกลัวๆว่ะตอนนั้น เพราะผมยังจำใบหน้าของแกตอนที่หันมามองผมได้เลย มันติดตา แต่ในอีกใจผมก็กลับไม่ได้
    เพราะว่าศักศรีมันค้ำคอ พอผ่านไปซักพัก พวกผมก็มาถึงที่ถนนใหญ่ แต่ถึงจะเป็นถนนใหญ่ และก็ไม่มีไฟอยู่ดี มืดตะกวดๆ
    ทีนี้ พวกผมก็ยืนกันอยู่หน้าปากซอยทางเข้าบ้านตา ต่างคนก็ต่างส่องไฟฉายไปรอบๆ แต่ก็ไม่เจออะไร
    นอกเสียจากท้องนากับป่าหญ้า ผมสังเกตเห็นเพื่อนผมหลายคนนะ สีหน้าแบบกลัวๆประมาณว่าไม่อยากจะมายืนตรงเนี้ย
    แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูด เพราะเดี๋ยวจะโดนหาว่าป๊อด ในขณะที่พวกผมส่องไฟกันอยู่ดีๆนั้น ไอ่ตะกวดนั่นก็ตะโกนออกมา
    "เห้ยยาย หลานยายจะตายห'าอยู่แล้ว รีบๆไปเข็นน้ำมาดิ" ตะโกนออกมาอย่างดังมาก ไอ้ตะกวด
    ตอนนั้นหัวใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว เพื่อนๆผมก็มองหน้ากัน ไม่คิดว่าไอ้ตะกวดนั่นมันจะบ้าได้ขนาดนี้
    ในขณะที่พวกผมมองหน้ากัน ต่างคนก็ต่างออกอาการ ในตอนนั้นเองเพื่อนผมคนนึงก็ตะโกนออกมาว่า "ตัวเงินตัวทอง!!"อย่างดังอ่ะ
    พวกผมทั้งหมดหันไปที่ัมันพร้อมด้วยไฟฉายส่อง ไปตรงทางข้างหน้ามัน เท่านั้นแหละ...
    ภาพยายคนนั้นเลือดท่วมตัว เข็นน้ำวิ่งเข้ามาทางพวกผม ตอนนั้นผมบอกได้แค่ว่า เยี้ยวจะลาด ขนลุกไปทั้งตัว
    ขาสั่น ไม่ยอมทำตามที่สมองสั่ง ในใจผมก็คิดซ้ำๆว่า ตายแน่ๆๆๆ
    ในขณะที่พวกผมกำลังช๊อคกับภาพยายที่กำลังวิ่งเข็นน้ำเข้ามานั้น เพื่อนผมคนนึงก็วิ่งเข้าไปในซอยเลยคับ
    พวกผมก็เหมือนจะหลุดออกจากการช๊อค จึงวิ่งตามไป ไฟฉกไฟฉายไม่สนแล้วคับไอ่ตะกวด



    พวกผมวิ่งหนีกันแบบไม่คิดชีวิต เรียกว่าใครล้มโดนทิ้งอ่ะ พวกผมวิ่งแบบไม่สนใครแล้วในใจคิดแค่อย่างเดียว
    ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน ส่วนไอ่ตะกวดนั่นที่กร่างๆมันก็วิ่ง ตามหลังผมมาติดๆ ร้องให้ด้วย ผมนี่โคตรอยากจะสมน้ำหน้ามันเลย
    แต่ตอนนั้นไม่คิดอะไรอีกแล้ว วิ่งไว้ก่อน ท่ามกลางความมืดและความชุลมุน
    ผมก็ได้ยินเสียงเพื่อนผมตะโดนออกมาว่า มันตามมาแล้ว เท่านั้นแหละผมรีบหันหลังกลับไปดูทันทีด้วยความตกใจ
    ภาพที่ผมเห็นในความมืดสลัวๆ ก็คือยายคนนั้น วิ่งตามพวกผมมาติดๆ อยู่ใกล้มากๆ ประมาน 2-3 เมตรได้
    ตอนนั้นสารภาพเลยว่า ขนลุกไปทั้งตัวประสาทจะแดรก พวกผมวิ่งตะโกนกันเหมือนคนบ้า
    ยายแกก็พูดไล่หลังมา เอาชีวิตกรูคืนมาๆๆ ไล่มาติดๆ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า ก็คงไม่รอดแน่ ไม่น่าจะมากับไอ้พวกนี่เลย
    ท่ามกลางความสิ้นหวังนั้น ผมหลับตานึกถึงพระที่ผมเคยไปไหว้ที่วัดบ่อยๆ ท่าชื่อหลวงพ่อหยง ทันใดนั้น
    ยายที่ตามมาก็หายไป ผมเลยรีบหนีไปจนถึงบ้านตา พอไปถึง ซักพัก เพื่อนๆก็ตามมา
    มาถึงตอนแรกผมก็โล่งใจ เฮ้อ รอดซักที แต่ฝันร้ายที่ผมจะไม่ลืม มันพึ่งเกิดขึ้นจริงๆ เพื่อนผม
    ไอ้คนที่ปากดี อยู่ๆ ก็ยืนตัวแข็ง แล้ววิ้งเข้าป่า พวกผมเรียกมันก็ไม่ยอมกลับ
    ซักพักมันก็ร้องว่า ผมขอโทษ สิ้นเสียงอันโหยห่วนของมัน ตาผมก็ลงมาดู ตาเลยถามว่า
    เมื่อกี้เสียงอะไร พวกผมได้แต่ยืนนิ่ง(เพราะตอนนนั้นช็อค) เพื่อนผม 3 คน เอาแต่ร้องไห้
    และสั่นกันหมด ผมเลยคิดว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้เพื่อนผมคงตายแน่ๆ เลยรวบรวมสติ
    แล้วบอกตาเรืองที่เกิดขึ้น ตาผมเลยรีบกลับไปบนบ้านแล้ว หยิบมีดมาเล่มหนึ่งมียันต์ด้วย
    แกบอกว่า อยู่แต่บ้านอย่าออกไปไหน เดียวตาไปดูเอง ตาผมหายไป 30 นาทีกลับมา
    ตาผมทำหน้าไม่ดีเท่านั้นแหละ พวกผมน้ำตาไหลพล่าน ไม่คิดว่าเพื่อนผมจะต้องมาตายในวันที่มาเที่ยวสนุก
    ตาบอกว่าตอนไปเจอ เพื่อนผมอยู่ในสภาพ ควํ่าหน้า ลงพื้น มีไม้ไผ่ที่ชาวบ้านตัดไว้
    แทงทะลุถึงกระโหลกข้างหลัง แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น...


    ***ด้านล่างนี้จะสั้น ไม่เหมือนด้านบน เนื่องจากเจ้าของเรื่องหมดอารมณ์ในการเล่าเรื่อง
    เพราะมีคอมเมนต์ที่แสดงออกมาว่าไม่ถูกใจกับเรื่องที่เจ้าของเรื่องเล่าในบางคอมเมนต์
    เจ้าของเรื่องจึงเล่าตอนท้ายไว้สั้นๆ และทำให้ ผม(
    BlueFriday) มีความรู้สึกไม่เคลียร์
    ไปอ่านกันต่อเลยดีกว่า***


    หลังจากเจอศพเพื่อน ก็ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าบ้านนอกมาก โทนศัพบ้านไม่มี คลื่นโทรศัพไปไม่ถึง
    ต้องรอจนเช้าถึงได้ดำเนินการหาคนมาช่วย และไปยังจุดมีคลื่น
    แล้วผมได้โทรบอกแม่เขา พอโทรติด แม่เค้าถามว่า ทำไมกลับกันเร็จจังลูก ทะเลาะกันหรอ
    ผมเลยงง ? แล้วก็บอกแม่เค้าว่า ไอ้...ตายแล้ว
    แม่เค้าบอก ไอ้.. มันกลับมาเมื่อคืน ร้องไห้ด้วย
    แม่เลยสงสัยไงว่าทำไมกลับเร็ว แต่เขารีบเข้าห้อง เลยไม่ได้ถาม


    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ BlueFriday อ่านกระทู้
    เรื่องย่อ สำหรับคนไม่ชอบอ่านยาวๆ (อาจได้อรรถรสน้อยกว่าเรื่องเต็มนะครับ)

    ผมกับเพื่อนๆำ 4-5 คน กำลังเบื่อกับช่วงปิดเทอม จึงได้นัดกันไปเที่ยว แต่พวกเราเองไม่ค่อยมีเงินกันมากพอ ในจะค่าอาหาร ที่พัก ต่างๆนาๆ
    ผมเลยเสนอกับเพื่อนๆ ว่าไปเที่ยวบ้านตาที่สกลนครไหม ไม่ได้ไปเยี่ยมตานานแล้ว ที่พักฟรี อาหารฟรี เพื่อนๆทุกคนก็ตอบตกลงกันว่าจะไปกัน
    พวกเราจึงเตรียมข้าวของ และขึ้นรถทัวร์ไปกันพวก บ้านตาของผมเป็นบ้านนอกหลังจากลงรถทัวร์พวกเราต้องต่อรถ 2 แถวเข้าไป
    และเป็นโชคดี (หรือเปล่า) ของพวกเราที่ที่มาทันรถ 2 แถวรอบสุดท้ายพอดี พวกเราก็นั่งคุยเฮฮากันบนรถ 2 แถว โดยไม่ได้สังเกตว่า
    จากบ้านเรือนเริ่มเป็นป่า ระหว่างทางผมเห็นคุณยายคนหนึ่ง แกเข็นน้ำอยู่ข้างทาง ในใจผมนึกสงสารแก ถ้าเกิดเป็นลมกลางทางแถมเป็นป่าด้วย
    ใครจะมาช่วยได้นะ รถวิ่งผ่านยายไปจนหลุดจากสายไปผมไป

    ต่อมาในขณะรถกำลังวิ่ง มีเพื่อนผมคนหนึ่งชี้ไปทางด้านหลังผมและพูดขึ้นมาว่า "ดูยายคนนั้นซิ น่าสงสาร ใครให้ยายแก่เข็นน้ำมาในป่าอย่างนี้"
    เมื่อผมหันหลังไปดู ก็เกิดตกใจ และหลุดคำหนึ่งออกมา "เห้ย!!" ดังจนยายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองที่ผม ในใจผมคิดว่าโดนแล้วแน่ๆ
    เพราะยายที่ผมเห็นเป็นคนๆ เดียวกัน แต่รถวิ่งเลยแกมาแล้วตั้ง 500 เมตร แล้วยายแกจะตามมาทันได้ไง ผมบอกกับเพื่อนๆว่าโดนผีหลอก
    แต่เพื่อนๆ ต่างขำไม่สนใจ บอกว่าผมจะเล่นมุขผีหลอก มุขกากบ้าง

    พอถึงบ้านตา คุณตาถือตะเกียงออกมารับ ผมกะจะถามตาเรื่องคุณยายที่เห็น แต่คุณตาพูดขึ้นมาก่อนว่า "ไปเจออะไรมาสินะ ไว้ค่อยถามทีหลัง"
    เมื่อถึงบ้านตา พวกเรากินอาหารกันเสร็จ ผมจึงถามตาเรื่องยาย เพื่อนๆผมก็ขำกัน สักพักตาก็พูดขึ้นว่า "ยายแก่ชื่อยายสุก โดนรถ 2 แถวเฉี่ยว
    เขาว่าแกจะเข็นน้ำไปให้หลานแก 2 ขวบ เพราะหลานแกตัวร้อน แต่ระหว่างทาง โดนรถเฉี่ยว
    คนที่ไปเจอแกก่อนตาย ได้ยินแกพูดว่า "หลานตัวร้อน จะรีบไป" บางคนเล่าว่า ตอนดึกๆ มีรถ 2 แถวขี่ผ่านแถวนั้น จะเจอยายแกเข็นน้ำวิ่งตามรถ
    และพูดไล่ตามว่า "เอาชีวิตกรูคืนมาๆๆ" พอตาเล่าจบ เพื่อนผมนี้เงียบกันหมด หลังจากนั้นคุณตาก็เข้านอน แต่พวกเรายังไม่นอน
    สักพักเพื่อนๆ ผมหยิบไฟฉายออกมาคนละอัน ผมถามพวกมันจะไปไหนกัน พวกมันบอกจะไปดูผี
    ผมจึงพูดว่า "พวก***จะไปก็ไปกรูไม่ไปด้วยหรอก" มีคนหนึ่งมันพูดว่าผม ป๊อด แค่นั้นและผมอารมณ์ขึ้น และหยิบไปฉายออกมา

    ข้างนอกมันมืดมากๆ ไปทางก็ไม่มี ก็อย่างว่าเป็นชลบทอ่ะนะ เราเดินกันไปแต่ไม่เจออะไร สักพักไอ้คนที่ว่าผมป๊อด มันก็จะโกนออกมาดังมาก
    ว่า "เห้ยยาย หลานยายจะตายห'าอยู่แล้ว รีบๆไปเข็นน้ำมาดิ" และมันก็ปากดีไปตลอดทาง สักพักนึก เพื่อนผมก็อุทานขึ้นมาอย่างดัง
    พวกส่องไฟไปที่มัน ทุกคนเจอแล้ว!! ยายคนนั้นที่ผมเห็น กำลังเข็นน้ำ ตรงมาที่พวกเรา ทุกคนช็อคจนตัวแข็ง มีคนหนึ่งมันวิ่งไปกอ่น
    จากนั้นพวกเราก็วิ่งตามไป วิ่งกันลูกเดียวใครล้ม ก็โดนทิ้งแหละเวลานั้น ยายตามหลังมาและพูดว่า"เอาชีวิตกรูคืนมาๆ"
    พวกเราวิ่งถึงบ้านตาผมโล่งใจเพราะยายแกหายไปแล้ว สักพักไอ้คนที่ปากดีมันยืนตัวแข็ง และวิ่งเข้าไปในป่า
    พวกเราพยายามเีรียกแต่มันก็ตรงเข้าไปในความมืด จากนั้นมีเสียงร้องของมันว่า ผมขอโทษ สิ้นเสียงอันโหยห่วนของมัน
    ตาก็ออกมาถามว่าส่งเสียงอะไรกัน ทุกคนช็อค บางคนร้องไห้ ผมจึงบอกกับตาในเรื่องที่เกิดขึ้น
    ตารีบหยิบมีดมาเล่มหนึ่ง แกบอกว่าอย่าออกไปไหน เดียวตาไปดูเอง ตาหายไป 30 นาทีกลับมา
    ตาผมทำหน้าไม่ดีเท่านั้นแหละ พวกผมน้ำตาไหลพล่าน ไม่คิดว่าเพื่อนผมจะต้องมาตายในวันที่มาเที่ยวสนุก
    ตาบอกว่าตอนไปเจอ เพื่อนผมอยู่ในสภาพ ควํ่าหน้า ลงพื้น มีไม้ไผ่ที่ชาวบ้านตัดไว้
    แทงทะลุถึงกระโหลกข้างหลัง แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น...

    หลังจากเจอศพเพื่อน ก็ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าบ้านนอกมาก โทนศัพบ้านไม่มี คลื่นโทรศัพไปไม่ถึง
    ต้องรอจนเช้าถึงได้ดำเนินการหาคนมาช่วย และไปยังจุดมีคลื่น
    แล้วผมได้โทรบอกแม่เขา พอโทรติด แม่เค้าถามว่า ทำไมกลับกันเร็จจังลูก ทะเลาะกันหรอ
    ผมเลยงง ? แล้วก็บอกแม่เค้าว่า ไอ้...ตายแล้ว
    แม่เค้าบอก ไอ้.. มันกลับมาเมื่อคืน ร้องไห้ด้วย
    แม่เลยสงสัยไงว่าทำไมกลับเร็ว แต่เขารีบเข้าห้อง เลยไม่ได้ถาม


    จบ...

    เรื่องย่อนี้มันก็ยังยาวอยู่ดีอ่ะนะ แต่ผมอยากให้ได้ใจความมันเลยยังดูยาว
    ขอขอบคุณเจ้าของเรื่อง:Mr 150z Palungjit
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย BlueFriday : 7th March 2013 เมื่อ 14:32

    It's only after we've lost everything that we're free to do anything.


  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    อุบลราชธานี
    กระทู้
    297
    กล่าวขอบคุณ
    680
    ได้รับคำขอบคุณ: 360
    สยองงงงงงวากกกกกก
    When The rich wage war is the poor who die

  3. #3
    กันอินชาวปทุมธานี ?
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    562
    กล่าวขอบคุณ
    437
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,192
    Blog Entries
    5
    โปรดใช้วิจารณญาณครับ


    It's only after we've lost everything that we're free to do anything.

  4. รายชื่อสมาชิกจำนวน 9 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,052
    กล่าวขอบคุณ
    532
    ได้รับคำขอบคุณ: 798
    น่ากลัวมากครับ เหมือนหนังเลย
    SPEC = CPU Core i5 4670 3.40 Ghz /// Ram 8 Gb /// VGA Giggabyte GTX 770 OC
    edition /// PW : Corsair 650 W

  6. #5
    SONE AND PANDA
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,045
    กล่าวขอบคุณ
    426
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,822
    เรื่องจริง หรือเปล่าฮะ ยังไม่ได้อ่านเลย ^^ ...

  7. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    330
    กล่าวขอบคุณ
    1,601
    ได้รับคำขอบคุณ: 199
    น่ากลัวดีครับ เอาซะผมหลอนเลย แต่บางช่วงก็ฮาดีครับ ไอ้ที่ฮานี้ไม่ใช้ลบหลู่นะครับแต่ผมจินตนาการเอาแบบซะฮาเลย แต่พอคิดไปคิดมาก็หลอนเลยอะครับ เอาซะผมไม่กล้านอนห้องผมเลย
    เอาใจคืนมา

  8. #7
    I Am a HacKer
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    In The Universe
    กระทู้
    685
    กล่าวขอบคุณ
    532
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,259
    อยากรู้ตอนสุดท้ายอะ เเล้วตาไปเจอได้ไง สรุป คือ ว่า ไม่ตาย ???

  9. #8
    The Way of Chef .
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Thailand Lampang 52000 // Hua Hin 77110
    กระทู้
    781
    กล่าวขอบคุณ
    4,684
    ได้รับคำขอบคุณ: 324
    อาบน้ำแปป เดี๋ยวกลับมาอ่าน น่าอ่าน ๆ
    ASUS M5A78L-M LX:AMD FX-8350 Kingston HyperX 8 GB Giggabyte GTX 660 OC

  10. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    718
    กล่าวขอบคุณ
    275
    ได้รับคำขอบคุณ: 294
    ผมเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลย

  11. #10
    .:: LIFE ::.
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    On my knees
    กระทู้
    1,760
    กล่าวขอบคุณ
    1,876
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,525
    คือว่า ไอ้.. นั่นมันตายแล้ว

    มันก็ยังเป็นผีกลับไปบ้านมันใช่มั้ย ?

  12. #11
    .::[`CANDY—•(Group)~•]::.
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    ที่อยู่
    [Thailand - Bangkok - My House...~•~•~•]
    กระทู้
    1,937
    กล่าวขอบคุณ
    1,020
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,829
    Blog Entries
    1
    อยากอ่าน แต่ยาวซะเหลือเกิน -0-
    Toradora!

  13. #12
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    23
    กล่าวขอบคุณ
    4
    ได้รับคำขอบคุณ 1
    ่น่ากลัวจังครับแต่อยากอ่านมากเลยต้องทำทุกอย่างไม่ให้กลัว(vdo call กับเพื่อน เปิดเพลงแดนซ์ๆแล้วก็อ่าน)

  14. #13
    คิดว่าดีก็ทำต่อไป
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    กระทู้
    695
    กล่าวขอบคุณ
    2,795
    ได้รับคำขอบคุณ: 117
    ยาวจังเลยอะครับ

  15. #14
    I am CoLLiinZ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    545
    กล่าวขอบคุณ
    132
    ได้รับคำขอบคุณ: 141
    นี่แหละครับ ไปท้าดีกับบ่วงของคนที่ตายแล้ว ที่เค้ายังวนเวียนอยู่และไม่ไปเกิดก็อาจจะเพราะมีบ่วงอยู่ แต่ก็นะ เรื่องแบบนี้แถวบ้านผมก็มีเยอะ แค่มันนานจนเรียบเรียงไม่ได้ละ
    INTEL Core i5 3450 @3.10GHz; Ram Kingstonhyper 4 GB 1600 ;VGA XFX 7770 1 GB DDR5 ;Hdd 1 Tb; Psu Coolermaster 750 watts;

  16. #15
    ชิว ชิว กับ ชี วิต...
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    1,570
    กล่าวขอบคุณ
    1,354
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,930
    น่าสลดมากอะ ถ้าเจอจริงๆก็คงกลัวหัวใจจะวายละ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าผี ก็เคยเป็นคนแบบเรามาก่อน เราตายไปก็ไปเป็นผี

    ใครอยากเห็น อยากลองของแบบนี้ อย่าดีกว่าครับ ไม่เจอดีที่สุดละ
    Intel Core i5 3570 | Gigabyte HD 7950 OC | Kingston 8GB 1600 | Seasonic M12ii 750W

  17. #16
    กันอินชาวปทุมธานี ?
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    562
    กล่าวขอบคุณ
    437
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,192
    Blog Entries
    5
    ทีแรกผมคิดว่าเรื่องมันยาวคงไม่มีใครเข้ามาอ่านหรอก แถมหัวเรื่องก็บอกว่าคนขวัญอ่อนไม่ควรเข้ามาอ่าน
    ผมเองก็บอกตามตรงเลยตัวเองก็กลัวเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ยังจะอ่าน หรือใครเล่าก็ฟังถึงจะกลัวก็เถอะ
    เด๋วจะย่อให่สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านยาวๆ แต่ผมว่าเรื่องยาวๆ มันได้อรรถรสมากกว่า

    It's only after we've lost everything that we're free to do anything.

  18. #17
    กันอินชาวปทุมธานี ?
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    562
    กล่าวขอบคุณ
    437
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,192
    Blog Entries
    5
    เรื่องย่อ สำหรับคนไม่ชอบอ่านยาวๆ (อาจได้อรรถรสน้อยกว่าเรื่องเต็มนะครับ)

    ผมกับเพื่อนๆำ 4-5 คน กำลังเบื่อกับช่วงปิดเทอม จึงได้นัดกันไปเที่ยว แต่พวกเราเองไม่ค่อยมีเงินกันมากพอ ในจะค่าอาหาร ที่พัก ต่างๆนาๆ
    ผมเลยเสนอกับเพื่อนๆ ว่าไปเที่ยวบ้านตาที่สกลนครไหม ไม่ได้ไปเยี่ยมตานานแล้ว ที่พักฟรี อาหารฟรี เพื่อนๆทุกคนก็ตอบตกลงกันว่าจะไปกัน
    พวกเราจึงเตรียมข้าวของ และขึ้นรถทัวร์ไปกันพวก บ้านตาของผมเป็นบ้านนอกหลังจากลงรถทัวร์พวกเราต้องต่อรถ 2 แถวเข้าไป
    และเป็นโชคดี (หรือเปล่า) ของพวกเราที่ที่มาทันรถ 2 แถวรอบสุดท้ายพอดี พวกเราก็นั่งคุยเฮฮากันบนรถ 2 แถว โดยไม่ได้สังเกตว่า
    จากบ้านเรือนเริ่มเป็นป่า ระหว่างทางผมเห็นคุณยายคนหนึ่ง แกเข็นน้ำอยู่ข้างทาง ในใจผมนึกสงสารแก ถ้าเกิดเป็นลมกลางทางแถมเป็นป่าด้วย
    ใครจะมาช่วยได้นะ รถวิ่งผ่านยายไปจนหลุดจากสายไปผมไป

    ต่อมาในขณะรถกำลังวิ่ง มีเพื่อนผมคนหนึ่งชี้ไปทางด้านหลังผมและพูดขึ้นมาว่า "ดูยายคนนั้นซิ น่าสงสาร ใครให้ยายแก่เข็นน้ำมาในป่าอย่างนี้"
    เมื่อผมหันหลังไปดู ก็เกิดตกใจ และหลุดคำหนึ่งออกมา "เห้ย!!" ดังจนยายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองที่ผม ในใจผมคิดว่าโดนแล้วแน่ๆ
    เพราะยายที่ผมเห็นเป็นคนๆ เดียวกัน แต่รถวิ่งเลยแกมาแล้วตั้ง 500 เมตร แล้วยายแกจะตามมาทันได้ไง ผมบอกกับเพื่อนๆว่าโดนผีหลอก
    แต่เพื่อนๆ ต่างขำไม่สนใจ บอกว่าผมจะเล่นมุขผีหลอก มุขกากบ้าง

    พอถึงบ้านตา คุณตาถือตะเกียงออกมารับ ผมกะจะถามตาเรื่องคุณยายที่เห็น แต่คุณตาพูดขึ้นมาก่อนว่า "ไปเจออะไรมาสินะ ไว้ค่อยถามทีหลัง"
    เมื่อถึงบ้านตา พวกเรากินอาหารกันเสร็จ ผมจึงถามตาเรื่องยาย เพื่อนๆผมก็ขำกัน สักพักตาก็พูดขึ้นว่า "ยายแก่ชื่อยายสุก โดนรถ 2 แถวเฉี่ยว
    เขาว่าแกจะเข็นน้ำไปให้หลานแก 2 ขวบ เพราะหลานแกตัวร้อน แต่ระหว่างทาง โดนรถเฉี่ยว
    คนที่ไปเจอแกก่อนตาย ได้ยินแกพูดว่า "หลานตัวร้อน จะรีบไป" บางคนเล่าว่า ตอนดึกๆ มีรถ 2 แถวขี่ผ่านแถวนั้น จะเจอยายแกเข็นน้ำวิ่งตามรถ
    และพูดไล่ตามว่า "เอาชีวิตกรูคืนมาๆๆ" พอตาเล่าจบ เพื่อนผมนี้เงียบกันหมด หลังจากนั้นคุณตาก็เข้านอน แต่พวกเรายังไม่นอน
    สักพักเพื่อนๆ ผมหยิบไฟฉายออกมาคนละอัน ผมถามพวกมันจะไปไหนกัน พวกมันบอกจะไปดูผี
    ผมจึงพูดว่า "พวก***จะไปก็ไปกรูไม่ไปด้วยหรอก" มีคนหนึ่งมันพูดว่าผม ป๊อด แค่นั้นและผมอารมณ์ขึ้น และหยิบไปฉายออกมา

    ข้างนอกมันมืดมากๆ ไปทางก็ไม่มี ก็อย่างว่าเป็นชลบทอ่ะนะ เราเดินกันไปแต่ไม่เจออะไร สักพักไอ้คนที่ว่าผมป๊อด มันก็จะโกนออกมาดังมาก
    ว่า "เห้ยยาย หลานยายจะตายห'าอยู่แล้ว รีบๆไปเข็นน้ำมาดิ" และมันก็ปากดีไปตลอดทาง สักพักนึก เพื่อนผมก็อุทานขึ้นมาอย่างดัง
    พวกส่องไฟไปที่มัน ทุกคนเจอแล้ว!! ยายคนนั้นที่ผมเห็น กำลังเข็นน้ำ ตรงมาที่พวกเรา ทุกคนช็อคจนตัวแข็ง มีคนหนึ่งมันวิ่งไปกอ่น
    จากนั้นพวกเราก็วิ่งตามไป วิ่งกันลูกเดียวใครล้ม ก็โดนทิ้งแหละเวลานั้น ยายตามหลังมาและพูดว่า"เอาชีวิตกรูคืนมาๆ"
    พวกเราวิ่งถึงบ้านตาผมโล่งใจเพราะยายแกหายไปแล้ว สักพักไอ้คนที่ปากดีมันยืนตัวแข็ง และวิ่งเข้าไปในป่า
    พวกเราพยายามเีรียกแต่มันก็ตรงเข้าไปในความมืด จากนั้นมีเสียงร้องของมันว่า ผมขอโทษ สิ้นเสียงอันโหยห่วนของมัน
    ตาก็ออกมาถามว่าส่งเสียงอะไรกัน ทุกคนช็อค บางคนร้องไห้ ผมจึงบอกกับตาในเรื่องที่เกิดขึ้น
    ตารีบหยิบมีดมาเล่มหนึ่ง แกบอกว่าอย่าออกไปไหน เดียวตาไปดูเอง ตาหายไป 30 นาทีกลับมา
    ตาผมทำหน้าไม่ดีเท่านั้นแหละ พวกผมน้ำตาไหลพล่าน ไม่คิดว่าเพื่อนผมจะต้องมาตายในวันที่มาเที่ยวสนุก
    ตาบอกว่าตอนไปเจอ เพื่อนผมอยู่ในสภาพ ควํ่าหน้า ลงพื้น มีไม้ไผ่ที่ชาวบ้านตัดไว้
    แทงทะลุถึงกระโหลกข้างหลัง แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น...

    หลังจากเจอศพเพื่อน ก็ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าบ้านนอกมาก โทนศัพบ้านไม่มี คลื่นโทรศัพไปไม่ถึง
    ต้องรอจนเช้าถึงได้ดำเนินการหาคนมาช่วย และไปยังจุดมีคลื่น
    แล้วผมได้โทรบอกแม่เขา พอโทรติด แม่เค้าถามว่า ทำไมกลับกันเร็จจังลูก ทะเลาะกันหรอ
    ผมเลยงง ? แล้วก็บอกแม่เค้าว่า ไอ้...ตายแล้ว
    แม่เค้าบอก ไอ้.. มันกลับมาเมื่อคืน ร้องไห้ด้วย
    แม่เลยสงสัยไงว่าทำไมกลับเร็ว แต่เขารีบเข้าห้อง เลยไม่ได้ถาม


    จบ...

    เรื่องย่อนี้มันก็ยังยาวอยู่ดีอ่ะนะ แต่ผมอยากให้ได้ใจความมันเลยยังดูยาว

    It's only after we've lost everything that we're free to do anything.

  19. #18
    The Division
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ..::--ฉะเชิงเทรา-::..
    กระทู้
    2,931
    กล่าวขอบคุณ
    3,308
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,263
    อ่านแล้วสนุกดีครับ ผมชอบอ่านเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว +1 ให้เลย แต่แหมผมเสียดายนะเจ้าของเรื่องดันหมดอามรมณ์เล่าซะก่อน ไม่งั้นก็คงได้รู้เรื่องมากกว่านี้แล้ว

    MY RIG ASUS STRIX GTX 970 I5 4460 8 GB of Ram GALAX SSD GAMER 120 GB

  20. #19
    (눈œŸ_눈 ) ?
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    1,307
    กล่าวขอบคุณ
    865
    ได้รับคำขอบคุณ: 632
    พระเจ้า!! เรื่องนี้ผมให้ขึ้น Top เรื่องหลอนเลย อ่านๆไปและเมื่ิอหลุดไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วยยังไงอย่างงั้นเลย ผมนึกว่าอ่าน "7วันจองเวร" สะอีก
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย EviLBlacK03 : 7th March 2013 เมื่อ 14:55
    [I5 3450—Hyper 212 evo—P8Z77-M—HyperX 8 GB— STRIX GTX 970—NZXT V2S 750W]

  21. #20
    กันอินชาวปทุมธานี ?
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    562
    กล่าวขอบคุณ
    437
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,192
    Blog Entries
    5
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ best147147 อ่านกระทู้
    อยากรู้ตอนสุดท้ายอะ เเล้วตาไปเจอได้ไง สรุป คือ ว่า ไม่ตาย ???
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ pkill1994 อ่านกระทู้
    คือว่า ไอ้.. นั่นมันตายแล้ว

    มันก็ยังเป็นผีกลับไปบ้านมันใช่มั้ย ?
    ผมก็เขียนบอกไปแล้วครับว่า ส่วนตัวยังไม่เคลียร์ในตอนสุดท้ายเหมือนกันครับ
    ผมก็คิดว่าคนที่เดินเข้าป่า น่าจะกลับบ้านไป ร้องไห้ให้แม่ของเขาเห็น แม่เขาจึงคิดว่าพวกเขาทะเลาะกัน
    แต่!! คนที่แม่เห็นเป็นใคร ? หรือไอ้นั้นมันยังไม่ตาย แล้วศพที่ตาเจอศพใครแน่ เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องเล่าที่ผมฟังมา
    โปรดใช้วิจารณญาน สำหรับผมมันเหมือนนิยายเล่มหนึ่ง เพียงแค่ว่าเจ้าของเรื่องตัดบทตอนสุดท้ายให้คนอ่านเกิดความรู้สึกสงสัย
    ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ?

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ woodytalks อ่านกระทู้
    ผมเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลย
    The In

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ 4iKunG อ่านกระทู้
    อยากอ่าน แต่ยาวซะเหลือเกิน -0-
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ -=CoMMy=- อ่านกระทู้
    ยาวจังเลยอะครับ
    ย่อให้แล้วครับ

    It's only after we've lost everything that we're free to do anything.

  22. #21
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    48
    กล่าวขอบคุณ
    3
    ได้รับคำขอบคุณ: 15
    แล้วหลังจากนั้นอะ หลังจากที่เพื่อนกลับมาบ้านปิดห้องนอนแล้วเกิดอะไรขึ้นอีกอะ

  23. #22
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    110
    กล่าวขอบคุณ
    2,225
    ได้รับคำขอบคุณ: 33
    มันส์มากครับ อ่านแบบยาวๆสนุกกว่าครับ แนะนำ

  24. #23
    IT Hardware
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    SAMP
    กระทู้
    2,603
    กล่าวขอบคุณ
    5,163
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,101
    ตกลง ไอโอ้ตาย แล้วเป็นวิญญานกลับบ้านไปไช่ครับ
    ไส่ลายเซ็นไม่ได้

  25. #24
    Marvel Comics
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    577
    กล่าวขอบคุณ
    487
    ได้รับคำขอบคุณ: 943
    ฮาตอนวิ่งอ่ะครับ แต่สยองมาก T^T

  26. #25
    กันอินชาวปทุมธานี ?
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    562
    กล่าวขอบคุณ
    437
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,192
    Blog Entries
    5
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ LIVE อ่านกระทู้
    ตกลง ไอโอ้ตาย แล้วเป็นวิญญานกลับบ้านไปไช่ครับ
    เป็นไปได้หลายทาง
    - ตาย แล้วกลับไปบ้าน (กลับไปเฉยๆ เลย ?)
    - ยังไม่ตาย แต่หนีกลับไปก่อน แต่ศพใคร ?


    เป็นเรื่องเล่านะครับ คนเล่าเขาบอกว่าเจอมาจริงๆ แต่ตอนท้ายเขาเล่าไว้สั้นๆ
    เพราะมีคอมเมนต์ แนวอย่าง "ถ้าขี้เกียจเล่าก็ ลบไปเลย" เพราะคนเล่าค่อยๆ มาโพสเป็นตอนๆ
    ผมเลยเอามารวมแล้วมันถึงได้ยาว ตอนท้ายคนเล่าเจอคอมเมนต์แบบนี้ เลยเล่าตอนท้ายสั้นๆ ทิ้งไว้แค่นั้น ไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม

    It's only after we've lost everything that we're free to do anything.


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top