GeForce Experience โปรแกรมช่วยปรับแต่งเกมส์ให้เราเล่นได้ลื่นและสวยที่สุด สำหรับกราฟิกการ์ด NVIDIA
สวัสดีเพื่อนๆ ชาว NotebookSPEC ขอเกริ่นก่อนสักนิดว่าโปรแกรม GeForce Experience จากทาง NVIDIA นั้นเป็นโปรแกรมที่ช่วยปรับแต่งการตั้งค่าของเกมส์ให้เหมาะสมกับเครื่องของเราโดยขึ้นอยู่กับ CPU, VGA เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งโปรแกรมที่จะสามารถใช้งานได้จะเป็นเฉพาะโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานกราฟิกการ์ดของ NVIDIA เท่านั้น โดยปัจจุบันยังเป็นเวอร์ชั่น Open Beta อยู่
ซึ่งเชื่อได้ว่าหลายๆ คนอาจจะได้ลองโปรแกรมนี้กันไปบ้างแล้ว แต่ยังมีเพื่อนๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ได้ลองและไม่รู้ว่ามันดีอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง และจะมีข้อดี-ข้อเสียอื่นๆ อย่างไรควรจะมีติดเครื่องของเราเอาไว้หรือไม่ เดี๋ยวเรามาดูกันเลยครับ
เริ่มจาก Feature ต่างๆ จากผู้สร้างโปรแกรมที่เกริ่นเอาไว้ก่อนครับ
วีดีโอแนะนำ GeForce Experience
สเปกเครื่องที่ซัพพอร์ตกับโปรแกรม GeForce Experience
การ์ดจอขั้นต่ำที่รองรับ Series 8000 ขึ้นไป + ซีพียู Core 2 Duo ขึ้นไป ก็ถือว่าในปัจจุบันใช้งานได้หมดแล้วละครับ นอกจากเครื่องที่เก่าจริงๆ คงจะไม่ไหว
เกมส์ในปัจจุบันที่โปรแกรม GeForce Experience รองรับ
ส่วนใหญ่จะเป็นเกมส์ตั้งแต่ปี 2012 2013 ส่วนใหญ่ แต่ละเกมส์ก็ถือว่าเป็นเกมส์ที่มีคนเล่นจำนวนมากอยู่แล้ว คิดว่าครอบคลุมในส่วนของเกมส์ที่ซัพพอร์ตพอสมควร เหลือแต่ประสิทธิภาพของโปรแกรมจะใช้งานได้ดีมากน้อยเพียงใด
Keep Drivers Up To Date (การปรับปรุงไดร์เวอร์ให้เป็นรุ่นล่าสุด)
การอัพเดทไดร์เวอร์ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง เพราะไดร์เวอร์ตัวใหม่ๆ สามารถเล่นเกมส์ได้ดีขึ้นเพราะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตัวโปรแกรม GeForce Experience ก็ได้มีหัวข้อ Drivers เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยในส่วนของการอัพเดทไดร์เวอร์อัตโนมัติ ถือว่าอีกส่วนหนึ่งของโปรแกรม GeForce Experience ที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะจะช่วยบอกถึงไดร์เวอร์มีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ รวมไปถึงสามารถกดอัพเดทเพื่อทำการติดตั้งได้เลยโดยไม่ต้องไปดาวน์โหลดจากที่อื่น เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น
Auto-Optimize Your Games (ปรับแต่งการตั้งค่าเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีให้เหมาะสมกับเกมส์)
ในส่วนนี้ถือว่าเป็นตัวหลักสำคัญของโปรแกรม GeForce Experience เลย ซึ่งการทำงานของมันคือปรับการตั้งค่าเกมส์ต่างๆ ภายในเครื่องของเราให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะสมกับเครื่องของเรารวมไปถึงการตั้งค่ากราฟิกในเกมส์ ให้ภาพที่ยังคงสวยงามแต่อาจตัดบางส่วนออกไปเพื่อความไหลลื่นของเกมส์ทำให้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับ CPU, และ VGA ของเพื่อนๆ เช่นกัน ว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด โปรแกรมมันจะคำนวนเองให้โดยอัตโนมัติ ในส่วนนี้เดี๋ยวเราจะมาทดสอบกันครับว่าทำได้ดีมากน้อยเพียงใด
เริ่มการทดสอบโปรแกรม GeForce Experience
เริ่มแรกเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ดาวน์โหลดตัวโปรแกรมกันก่อนเลย
ดาวน์โหลดที่นี่ <<<
เมื่อติดตั้งเสร็จจะมีไอคอน GeForce Experience ที่หน้าจอขึ้นมาให้ดับเบิ้ลคลิกเปิดโปรแกรมขึ้นมาได้เลย
หัวข้อ Drivers
ขอข้ามหน้า Games ไปก่อนมาดูที่หน้า Drivers กันก่อนครับ ตามที่กล่าวไปตอนแรกสำหรับหน้าต่าง Drivers จะเป็นตัวเช็คไดร์เวอร์อัพเดทล่าสุดอัตโนมัติ และสามารถกดติดตั้งได้เลยทันทีโดยไม่ต้องไปหาโหลดจากที่อื่นมาลง ไดร์เวอร์แต่ละเวอร์ชั่นนั้นจะมีคุณสมบัติระบุไว้อย่างชัดเจนว่าอัพเดทอะไรใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาเกมส์อะไรบ้าง โดยจะมีปุ่ม Check for updates ที่มุมขวาเพื่อค้นหาไดร์เวอร์อัพเดท ( ปกติถ้ามีไดร์เวอร์ใหม่มันจะแจ้งบอกอยู่แล้ว ) ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญเพราะหลายๆ คนอาจจะอัพเดทไดร์เวอร์ไม่เป็น หาจากไหนทำยังไง แต่ถ้ามี GeForce Experience ตัวเดียวก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองไม่ยากและบอกถึงสิ่งที่เพิ่มมาของแต่ละเวอร์ชั่นไดร์เวอร์นั้นๆ อีกด้วย
หัวข้อ Preferences
General
About บอถึงเวอร์ชั่นของโปรแกรม GeForce Experience
Language ปรับแต่งภาษาที่ใช้แสดงของตัวโปรแกรม
Games
Game scan details ในส่วนนี้จะเป็นการบอกถึงเกมส์ภายในเครื่องทั้งหมดที่ซัพพอร์ตกับโปรแกรมนี้ และบอกถึงเวลาล่าสุดที่เราสแกนหาเกมส์ภายในเครื่อง
Locations เป็นตำแหน่งที่บอกถึงว่าเกมส์ของเรานั้นติดตั้งอยู่ในส่วนไหนภายในเครื่องบ้าง
Optimal game setting จะมีให้เราเลือกว่าจะตั้งให้หาค่าที่เหมาะสมที่สุดของการปรับแต่งของเกมส์แบบอัตโนมัติหรือเปล่า รวมไปถึงการแจ้งเตือน
Updates ขอพูดรวมๆ ละกันครับในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าเกี่ยวกับการอัพเดทต่างๆ ขอตัวโปรแกรม รวมไปถึงไดร์เวอร์ของ NVIDIA ว่าจะให้อัพเดทเองอัตโนมัติ หรือเราจะมากดเช็คเองก็ได้ครับ
หัวข้อ Games
เมื่อเปิดขึ้นมามันก็จะสแกนหาเกมส์ทั้งหมดในเครื่องที่ซัพพอร์ตกับตัวโปรแกรม GeForce Experience หลังจากนั้นเราก็จะเห็นเกมส์ภายในเครื่องของเราที่ลงเอาไว้ไม่มาจะอยู่ไดร์ไหนก็ตาม, จะอยู่ในฮาร์ดดิสก์นอก มันก็จะสแกนจนเจอและจัดเรียงไว้ที่ด้านซ้าย หลักๆ ก็จะมีไอคอนเกมส์แสดง ปุ่มเปิดเกมส์, และก็การตั้งค่าภายในเกมส์ที่เราตั้งค่าเอาไว้, การปรับแต่งตั้งค่า Optimal ที่โปรแกรมตั้งไว้
เริ่มทดสอบ-โดยผมจะแบ่งผลทดสอบเป็น 3 ระดับ รวมถึงปัญหาที่พบกับตัวโปรแกรม
1. เกมส์ที่เราตั้งค่าสูงไป โปรแกรมจะคำนวนค่าที่เหมาะสมให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
เริ่มจากเกมส์ Need For Speed Most Wanted 2012
โดยค่าเดิมที่ผมตั้งไว้ความละเอียด 1920×1080 ปรับ High ทั้งหมด เฟรทเรทที่ออกมาคือ 20 เฟรทเรท ถือว่าไม่ค่อยลื่นเลยเล่นแล้วมีหน่วงๆ
ลองปรับ Optimal ตามโปรแกรมที่คำนวนให้ความละเอียด 1280×720 ( การตั้งค่าอื่นๆ ต้องเลื่อนขึ้น-ลงเพื่อเปรียบเทียบดู )
ผลที่ออกมาค่าเฟรทเรทเฉลี่ยๆ อยู่ที่ 45-60 เฟรทเรท ตลอดเวลาเรียกได้ว่าเล่นได้อย่างลื่นไหลตลอดเกมส์ และภาพในเกมส์ถือว่าปรับได้กำลังดีไม่สวยมากแต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกียจ
2. เกมส์ที่เราปรับต่ำแต่เครื่องสามารถเล่นได้สูงกว่านั้น
ยกตัวอย่างเช่นเกมส์ DOTA 2 ผมปรับการตั้งค่าเอาไว้ที่ 1280×720 High
เฟรทเรทที่ออกมาคือ 96 เฟรมเรท ถือว่าลื่นมากๆ เกมส์ทั่วๆ ไปเกิน 60 เฟรทเรทถือว่าลื่นมากแล้ว เพราะจอโน้ตบุ๊กทั่วไปก็รองรับแค่ 60 Hz ต่อให้เฟรทเป็น 100 เฟรทเรท จอก็จะแสดงภาพที่ความเร็วแค่ 60 เฟรทเรทเท่านั้น อีกอย่างสายตาคนเราเกิน 60 เฟรทเรทก็แยกแยะไม่ออกแล้วครับ เพราะฉะนั้นเรายังสามารถปรับกราฟิกในเกมส์ให้สูงกว่านี้ได้อีกแน่นอน
ที่นี้ลองปรับการตั้งค่า Optimal ดู โดยความละเอียดที่โปรแกรมตั้งค่ามาให้คือ 1920×1080 ( การตั้งค่าค่าอื่นๆ ต้องเลื่อนขึ้น-ลงเพื่อเปรียบเทียบดู )
ผลที่ออกมาคือค่าเฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 73 เฟรทเรท ซึ่งเล่นได้ลื่นมาก ไม่ต่างจากตอนก่อนปรับ Optimal เลยเพราะยังไงค่าที่จะแสดงบนหน้าจอก็รับได้แค่ 60 เฟรทเรทเท่านั้น แต่สิ่งที่แตกต่างคือภาพที่สวยงามขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทำให้เล่นเกมส์รู้ถึงความสมจริงมากขึ้น
3. เกมส์ที่เราสามารถเล่นได้ดีแต่โปรแกรมกับคำนวนการตั้งค่าให้ต่ำ ส่วนนี้ถือว่าเป็นปัญหาอยู่เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามันเป็นอย่างไร
เกมส์ Tomb Raider 2013 ซึ่งได้ปรับการตั้งค่าเอาไว้ที่ 1920×1080 พิกเซล High แต่ทางโปรแกรมตั้งค่าเอาไว้ว่า 1024×768 พิกเซล Low
จากการทดสอบที่ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล High นั้น เฟรทเรทเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 45 เฟรทเรท ซึ่งถือว่าลื่นมากแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่ต้องปรับลดค่ากราฟิกแต่อยางใด แต่โปรแกรมดันบอกว่าให้ปรับลงไป 1024×768 พิกเซล แถมปรับ Low อีก ในส่วนนี้ยังถือว่าเป็นปัญหาของโปรแกรมนิดหน่อย เพราะบางเครื่องอาจจะเจอปัญหาแบบนี้ แต่บางเครื่องก็ไม่เป็น ต้องปรับปรุงกันต่อไป
สรุป
โดยรวมโปรแกรม GeForce Experience เพื่อนๆ ที่ใช้การ์ดจอ NVIDIA ควรจะมีติดเครื่องเอาไว้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะตัวอัพเดทไดร์เวอร์ทำออกมาได้ค่อนข้างดี เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ยิ่งมือใหม่ด้วยแล้วถือว่าทำได้อย่างไม่ยากสำหรับการอัพเดทไดร์เวอร์ และไดร์เวอร์แต่ละเวอร์ชั่นบอกถึงคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้เห็นความแตกต่างว่าเราควรจะอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่หรือไม่ ในส่วนของการ Optimal ตั้งค่าต่างๆ ให้กับเกมส์ถือว่าทำได้ดีแล้วประมาณ 70% อาจจะมีจุดผิดพลาดที่ยังต้องปรับปรุงอยู่ แต่อย่างที่ทราบกันโปรแกรม GeForce Experience เพิ่งจะออกมาสดๆ ร้อนๆ ก็คงต้องพัฒนากันต่อไป โปรแกรมนี้เพื่อนๆ ควรจะมีติดไว้ในเครื่องคอนเฟิร์มว่าดีจริงและเป็นประโยชน์ครับ
ข้อดี
เป็นโปรแกรมที่เราสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สามารถใช้งานได้จริงในส่วนของการปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานตามเกมส์ต่างๆ
มีคุณสมบัติอื่นๆ อย่างการตรวจสอบไดร์เวอร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
เป็นโปรแกรมตัวช่วยสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะปรับแต่งกราฟิกในเกมส์อย่างไร
ข้อสังเกตุ
ใช้ได้เฉพาะคอมพิวเตอร์ที่เป็นกราฟิกการ์ด NVIDIA เท่านั้น
โปรแกรมเป็นเวอร์ชั่น Open Beta อยู่ ทำให้ยังไม่สามารถใช้งานได้สมบูรณ์
เครดิต:http://notebookspec.com/
เฉพาะภาพล่างนี้ ภาพจากเครื่องผม