World Of Ability

[kulala]

ตอนแรกของ WOA ได้ออกมาแล้วนะครับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

สำหรับผู้สนใจสมัครตัวละคร
http://www.jokergameth.com/board/sho...18#post2096118

บทนำ

ปี 2570 ณ ประเทศแห่งหนึ่ง ได้เผชิญภาวะทางเศรษฐกิจ มีการโกงกินเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และได้เจอกับปัญหาการก่อการร้ายไปทั่วประเทศ
โดยกลุ่มที่เรียกตนเองว่า The Radian เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ทรงอิทธิพล และมีนักพัฒนาอาวุธที่เก่งหลายคนด้วยกันจนนำไปสู่เหตุการณ์ Dark Judgment
อาวุธชนิดใหม่ที่ร้ายกาจและไม่เคยมีการพัฒนาที่ไหนในโลกได้ถือกำเนิดขึ้น ในลักษณะขีปนาวุธที่เรียกว่า Striker ที่มีแกนหลังเป็นสารเคมีที่สกัดจากฝุ่นดาวหาง
ซึ่งมีการวิจัยแล้วว่ามีอนุภาพแรงกว่านิวเคลียร์
กลุ่มก่อการร้ายได้ทำการยิง Striker ในวันที่ 31 ธันวาคม 2570 จุดประสงค์คือการนำมาซึ่งการล้มสลายของประเทศนั้น และเริ่มต้นยุคใหม่ แต่ด้วยความรุนแรงของมัน
ทำให้อยู่เหนือการควบคุม Striker ได้ทำลายทุกสิ่งไม่ว่าจะประเทศ หรือกลุ่มก่อการร้าย ระบบ IT ต่างๆล้มสลาย ยากเกินจะเยียวยา และบูรณะขึ้นมาใหม่ ประเทศนั้นกลายเป็นประเทศที่ร้างบนแผนที่โลก…

…การช่วยเหลือจากนาๆประเทศไม่อาจจะมาถึงได้ เนื่องจากสารเคมีที่ระเบิดออกไม่มีอะไรป้องกันมันได้..จึงทำได้แต่เพียงการสร้างกำแพงหนาล้อมประเทศนั้นเอาไว้

…สารเคทีทำให้เกิดการติดเชื้อ คนทุกคนติดเชื้อแทบจะ 100 % ส่วนมากตายและส่วนมากที่…เปลี่ยนแปลงไป

เมื่อประเทศถูกลบออกจากแผนที่โลก สารเคมีจากขีปนาวุธ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ก่อเกิดผู้มีความสามารถที่เรียกว่า Ability จากทั่วประเทศ การต่อสู้ สงคราม การกอบกู้ เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ติดตามชม!!

Chapter 1 : จุดเริ่มต้นแห่งโชคชะตา

“ตึก…ตึก…ตึก…ตึก…ตึก”

เสียงฝีเท้าของชายปริศนาที่วิ่งหนีไปตามตรอกซอกซอย เงาปริศนาได้ไล่คืบคลานตามชายปริศนาไปอย่างไม่ลดละ ชายปริศนาพยายามหนีอย่างไม่ลดละจุดมุ่งหมายที่เขาจะไปนั้น
เป็นเหมือนหนทางสุดท้ายที่จะช่วยเขาได้ โบสถ์เซนไมเคิล

???? : “คุณหนีไม่พ้นหรอกน่า…คุณพ่อมาติเนซ”
???? : “เงามืดโจมตี! <Shadow Claw>”

เงาที่คุ้มคลั่ง พุ่งโจมตีใส่คุณพ่อมาติเนซ ในลักษณะความเสียหายวงกว้าง ทำให้เขานั้นกระเด็นและล้มลงไป เขาได้พาร่างอันสะบักสะบอมค่อยๆ คลานไปทางประตู้ โบสถ์เซนไมเคิล
คุณพ่อมาติเนซ : “บ้าชะมัด อีกนิดเดียวแท้ๆ โธ่เว้ย!! ไม่มีทางเลือก พลังแห่งแสงโปรดชี้นำ!!”
คุณพ่อมาติเนซ : “ม่านแสงกักกัน! <Holy Area!>”

ทันใดนั้น ม่านแสงศักสิทธิ์ก็ได้แผ่ขยายเป็นวงกว้างป้องกันหน้าทางเข้าโบสถ์ ทำให้เงาที่โจมตีไม่สามารถที่จะโจมตีผ่านม่านเข้ามาได้

???? : “อื้ม? มีAbility ดีๆกับเขาเหมือนกันหนิ แต่ช่างมันเถอะ ยังไงซะ สถานการณ์มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะ คุณพ่อ!!”

ชายหนุ่มอายุย่าง 20กว่า ใส่เสื้อแจ็คเกตแขนยาวสีดำ กางเกงยีนเดฟ ปรากฏตัวออกมาจากความมืด ได้สร้างความตกตะลึงให้กับ คุณพ่อมาติเนซเข้าอย่างจัง
ภาพชายหนุ่มที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาเหมือนจะเป็นคนที่เขานั้นรู้จักเป็นอย่างดี

คุณพ่อมาติเนซ : “เดียรอส….ทำไมแกถึงได้!!”
เดียรอส : “หุบปากน่า!! ดูสภาพเมืองตอนนี้สิมันเละไม่มีชิ้นดีเลยใช่มั้ยละ ถ้าผมยังอยู่ฝั่งเดียวกับคุณ มันก็จะเจอแต่ความอ่อนแอ…ผมจะตั้งกลุ่มขึ้นมาใหม่
เพื่อเปลี่ยนประเทศที่เกินเยียวยานี้ และจะแก้แค้นคืนกับโลกใบนี้ไงละ!!”
คุณพ่อมาติเนซ : “…หึ..จะพูดอะไรไปตอนนี้แกก็คงไม่ฟังแล้วสินะ งั้นก็มีแต่จะต้องหยุดแกให้ได้ ณ ที่นี่เท่านั้น ชั้นจะไม่ให้แกบุกเข้าไปถึงภายในโบสถ์ได้หรอก Weapon Form : Sword of Light”
เดียรอส : “น่าสนุกนี่บาทหลวง! Wapon Form : Duel Blade Gomute!”

สิ้นเสียงสนทนาทั้ง 2 ต่างพุ่งเข้าปะทะกันอย่างไม่ลดละ ความรวดเร็วของดาบได้ฟาดฟันกันจนไม่สามารถที่จะจับทิศทางของดาบได้ สังเกตได้แต่เพียง แสงสีขาวและดำ ระยิบระยับ ฟาดฟันเข้าใส่กัน
แต่คุณพ่อมาติเนซ ต่างรู้อยู่เต็มอกว่า ไม่มีทางแม้แต่นิดเดียวที่จะชนะเด็กหนุ่มคนนี้ได้เลย และก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดของเขาเต็มทีแล้ว ดาบของทั้งคู่ต่างฟาดฟันเข้าใส่กัน
สีหน้าของบาทหลวงดูเปลี่ยนไป แต่กับมีรอยยิ้มแห่งความสะใจ อยู่บนใบหน้าของ เดียรอส เท่านั้น

“แคร๊ง !!”

สิ้นเสียงการปะทะกันของดาบคุณพ่อมาติเนซผละตัวออกมาโดยทิ้งระยะห่างจากเดียรอสในระยะหนึ่ง ดาบแห่งแสงที่หักลงไปครึ่งหนึ่งกับสภาพเหงื่อโชกตัว เมื่อเทียบกับเดียรอส
ที่ยังยืนนิ่งในมือตั้งท่าของดาบคู่ อย่างทนง

คุณพ่อมาติเนซ : “แกแข็งแกร่งกว่าที่ชั้นคิดเอาไว้มากเลยนะ..หึหึ นี่คงเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของชั้น ชั้นจะทุ่มสุดตัว…เพื่อทำลายแกให้ได้เดียรอส คำพิพากษาของสวรรค์! <Heaven of Judgment!!>”

ทันใดนั้นแสงสว่างอันเจิดจ้า ได้ทะลุ เมฆดำที่ปกคลุมบนท้องฟ้าลงมา เปรียบดังแสงแห่งพระเจ้าที่ฉายลงมาในประเทศนี้ก็ว่าได้ ในแสงอันเจิดจ่าได้ปรากฏเหล่าเทวทูตขึ้นพร้อมกับปา หอกแห่งแสง
เข้าใส่เด็กหนุ่มอย่างจัง

“ตูม…ตูม…ตูม…ตูม…ตูม…ตูม…ตูม”

หอกแสงที่โจมตีทำให้เกิดการระเบิดขึ้น ณ บริเวณนั้นอยู่หลายครั้ง แต่แล้วภาพที่เห็นเบื้องหน้าคุณพ่อมาติเนซก็ทำให้เขาตะลึง ภาพนั้นคือภาพของเดียรอส ที่มีเพียงรอยไหม้ ถลอก เสื้อผ้าขาดหวิ่น
แต่เห็นที่หนักสุดคงจะเป็นบาดแผลที่มีเลือดออกที่หัวของเดียรอส เท่านั้น

เดียรอส : “หึหึ..555555 คุณทำได้แค่นี้เองหรอบาทหลวง!! 555 นี่สุดความสามารถของคุณแล้วสินะครับ ผมไม่เป็นอะไรเลย เพราะผมน่ะแข็งแกร่งยังไงล่ะ!!!”
คุณพ่อมาติเนซ : “อะไรกัน…ทำไมแก…หึ…แต่มันก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้แล้วว่าคนอย่างแกก็เจ็บเป็นยังไงล่ะ”
เดียรอส : “ผิดแล้วล่ะครับ…ผลจากการโจมตีนี้น่ะ…เพราะผมยอมรับการโจมตีเองตั้งหากล่ะ เพราะมันจะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายของคุณยังไงล่ะ”
คุณพ่อมาติเนซ : “หึ แต่ความสามารถของคำพิพากษาของพระเจ้าน่ะมันไม่ได้มีแค่นี้หรอกน่ะ แกน่ะโดนพิพากษาแล้ว..เดียรอส อั๊ก! แค๊ก! แค๊ก! แค๊ก!”

ขีดจำกัดของคุณพ่อมาติเนซในตอนนี้ ได้มาถึงแล้ว แต่สิ่งที่เขาพูดไว้เบื้องหลังนั้น สร้างความฉงน ให้กับเดียรอสเล็กน้อย เช่นเดียวกัน

เดียรอส : “หมายความว่ายังไง? ที่ว่าผมจะโดนพิพากษาน่ะ ดูตัวคุณก่อนเถอะครับ สภาพแบบนี้ ใครกันแน่ที่จะโดนพิพากษา”
คุณพ่อมาติเนซ : “เด็ก…เด็กยังไงล่ะ ผู้ที่มีสายเลือดเดียวจะเป็นผู้กอบกู้ และจะเป็นผู้ทำลายความมืดมิดจนสลายไป นี่คือคำทำนายแห่ง พระเจ้า! ก่อนการต่อสู้ของแกกับชั้นนั้นจะเริ่ม
ในโบสถ์คงพาเด็กคนนั้นหลบหนีออกไปแล้ว สักวัน…แกจะพ่ายแพ้ เดียรอส”
เดียรอส : “…งั้นรึ ถ้าผมทำลายเด็กคนนั้นได้ คำทำนายของคุณมันก็จะไม่มีวันเกิดขึ้นจริงสินะ งั้น…ผมจะให้คุณเห็นหายนะ และจงดูให้เต็มตา! ว่าสิ่งที่คุณพูดมันไม่มีทางเป็นจริง
จงเปิดออก มิติมืด <Dark dimention!>”
คุณพ่อมาติเนซ : “นี่มันอะไรกัน Ability นั้น!”
เดียรอส : “ใช่แล้วประตูแห่งความมืดที่จะดูดกลืนทุกสิ่งเขาไป ในนั้นน่ะ..คือเพลิงที่ไม่มีวันดับ มันจะเผาผลาญทุกสิ่งที่เข้าไป ดูสะให้เต็มตา!”

หลุมความมืดที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า ได้ดูดทุกสิ่งเข้าไปทั้งบริเวณโดยรอบโบสถ์เซนไมเคิล และตัวโบสถ์เอง และภาพที่บาทหลวงแห่งแสงเห็นคือ ภาพของเหล่าคนที่พยายามหนี
ได้ถูกดูดเข้าไปและถูกเผาไหม้ อย่างทรมาน เขาได้แต่เพยงหลับตาลง เพราะทุกสิ่งมันจบลงแล้ว

คุณพ่อมาติเนซ : “ลาก่อน..ลูกชายของชั้นทั้งสอง”

สิ้นเสียงคุณพ่อมาติเนซ เศษดาบแห่งแสงที่อยู่ในมือของเขาได้ปลิดชีวิตของเขาเองลง ณ สถานที่แห่งนั้น ทิ้งไว้เพียงเด็กหนุ่มแห่งความมืดที่ยืนอยู่ตรงศพของบุคคลที่เขาเรียกว่า "พ่อ"

เดียรอส : “ฆ่าตัวตายไปสะแล้วเรอะ น่าเสียดายจังนะ หึหึ ยุคของชั้นมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว…ความมืดจะกลืนกินทุกสิ่ง”

การต่อสู้ได้ยุติลง เด็กหนุ่มได้ก้าวเท้าเข้าสู้ความมืดและหายไปอย่างรวดเร็ว….แต่ ณ บริเวณนั้น หารู้ไม่ว่ามี ยายชรา ที่ได้แอบดูการต่อสู้ของแสง และความมืดอยู่ตลอดจนจบ พร้อมกับพูดเบาๆว่า

ยายชรา : “เดียรอสเด็กน้อยเอ๋ย คำทำนายนั้นน่ะได้สืบถอด เจตนารมณ์ต่อตัวมันเองแล้ว หึหึหึหึ…”

ยายชราได้พูดลอยๆอย่างอารมณ์ดี พร้อมมองมายังเด็กผู้ชายอายุราวๆ 16 ปีซึ่งหลับใหลอยู่ในใจกลางแกนไม้

ยายชรา : “เจ้าคือผู้สืบทอดโชคชะตา ชะตาประเทศนี้อยู่ที่เจ้าแล้ว…คิริออส”

To Be Continue.

เกร็ดความรู้ WOA

- ทำไมมิติมืดของเดียรอสถึงมีไฟ? ก็เพราะว่า มิติมืด คือ Ability พิเศษที่ เป็นการใช้ Ability สายความมืด กับ ไฟ รวมกัน ซึ่งบุคคลที่มี Ability มากกว่า 1 อย่างนั้นมีจำนวนน้อยมาก ในกรณีของเดียรอส คือ ผู้ที่มี Ability ควบคุมความมืด และ ไฟ

- เดียรอสเรียก คุณพ่อมาติเนซ ในความหมายของคุณพ่อ ก็คือบาทหลวงนะครับ แต่ใน ทางสายสัมพันธ์ มาติเนซและเดียรอส ก็เป็นพ่อ ลูก เช่นกัน

[Lightenning]

ผมว่ามันเหมาะกับการเป้นการ์ตุนมากกว่านิยายนะเนี่ย อ่านแล้วจินตภาพออกน่าสนุกดี แต่เปลี่ยน BG จาก กรุงเทพเป็นดาวอะไรสักอย่างจะเท่กว่านี้

[kulala]

ผมว่ามันเหมาะกับการเป้นการ์ตุนมากกว่านิยายนะเนี่ย อ่านแล้วจินตภาพออกน่าสนุกดี แต่เปลี่ยน BG จาก กรุงเทพเป็นดาวอะไรสักอย่างจะเท่กว่านี้

โดนติเรื่องนี้เช่นกันครบ เพราะเจาะจงไป เลยเสียความเป็นแฟนตาซีไป ตอนนี้แก้ไขแล้ว

[Lightenning]

โดนติเรื่องนี้เช่นกันครบ เพราะเจาะจงไป เลยเสียความเป็นแฟนตาซีไป ตอนนี้แก้ไขแล้ว

จะออกมาแนวไหนๆ จะอ่านต่อ ฮ่า ฮ่า วาดรูปด้วยเลย เป็นการ์ตุนนี่ สนุกดีผมชอบบ

[kulala]

Chapter 2 เส้นทางที่ต้องเลือก

2 ปี ผ่านไปหลังจากการต่อสู้ของ แสงสว่าง และ ความมืด ในประเทศที่ล่มสลายนี้ ได้เกิดองค์กรแห่งความมืด “Newerth” โดยมีจุดประสงค์ที่จะยึดประเทศนี้และแก้แค้นกับโลกใบนี้
และแน่นอนหัวหน้าองค์กรก็คือ “เดียรอส” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในประเทศนี้จะสิ้นหวังเสียทีเดียว
การต่อสู้ในครั้งนั้นได้ปลุกระดม ให้เกิดการจัดตั้งกลุ่มต่อต้านความมืดและฟื้นฟูประเทศ <ADR>และ หนึ่งในนั้น คือผู้แบกรับชะตาของประเทศนี้เอาไว้....

สมาชิกทีมแห่ง ADR : “ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยนะครับ”

หัวหน้ากลุ่มย่อยแห่ง ADR : “อ่า...เหตุการณ์ตอนนี้เรียกว่าแย่เลยล่ะ...พวก Newerth บุกยึดทางตอนเหนือแทบจะหมดสิ้นแล้ว...แถมการจะหาผู้ที่จะร่วมกับ ADR นั้นก็ยากเต็มที
…ดูอย่างทีมของเราสิ จาก 7 คน ก็เหลือรอดเพียง 3 คนเท่านั้น ใชมั้ย...ลาร์ม”

ลาร์ม : “คะ....ค่ะ พูดแบบนี้เสียกำลังใจกันหมดนะค่ะหัวหน้า! แต่ความจริงก็คือความจริง...เฮ้ออ”

การสนทนาของสมาชิกส่วนหนึ่งใน ADR คุยกันอย่างอารมณ์ไม่ถึงกับเรียกว่าดี แต่ก็ไม่ทำให้ร้านอาหารเล็กๆในเมือง Dororan นั้นเงียบเชียบเกินไป
ในร้านมีเพียงเจ้าของร้าน คนจร และสมาชิก ADR ซึ่งเป็นสมาชิกและสนับสนุน ADR กันแทบทั้งสิ้น แต่ถ้าจะให้บอกกันตามตรงเมืองแต่ล่ะเมืองในประเทศนี้ก็เหลือคนที่รอดชีวิตที่เรียกว่า
เหลือน้อยก็ไม่ผิดเช่นกัน

ชายหนุ่ม : “ช่วยด้วย!! แย่แล้ว พวก Newerth มันมาแล้ว”

หัวหน้ากองกำลัง ADR : “ชิ..พวกมันบุกมาถึงที่เมืองนี้เชียวรึ การที่พวกมันมาไกลขนาดนี้...อาจจะเป็นหน่วยระดับล่างๆก็ได้ พวกเราเตรียมพร้อมให้ดี!! ช่วยผู้คนทุกคน!
ที่ต่อต้าน Newerth ให้ได้!!!”สิ้นเสียงสั่งการ สมาชิกกลุ่ม เตรียมป้องกันร้านอาหาร อย่างเต็มกำลัง ซึ่งมีทั้งเจ้าของร้าน และคนจรอีก 2-3 คน เป็นแนวร่วม

“ตึก...ตึก...ตึก..ตึก..ตึก..ตึก..ตึก..”

เสียงฝีเท้าค่อยๆย่างกรายเข้ามาถึงบริเวณหน้าร้านอาหาร และปรากฏกายออกมาจากม่านหมอกที่หนาทึบในตอนกลางคืน พวกมันคือ สมาชิก Newerth ที่ประกอบทีม 3 คน

ดราเวน : “พวก ADR หลบซ่อนอยู่ข้างใน....พวกนี้เมื่อไหร่จะเลิกใช้มุกตั้งรับกระจอกๆแบบนี้สักทีนะ จัดการสะ...คาดีส”

คาดีส : “เพลิงสอดแทรก” <Frame Interpolation>

สิ้นสุดเสียง เปลวเพลิงต่างสอดแทรกไปยังพื้นดิน ทะลุแทรกผ่านทางช่องว่างของร้านอาหาร และเกิดการระเบิด จนหน้าร้านถึงกับพังลง แต่กลับไม่มีคนของ ADR
บาดเจ็บหรือกระเด็นออกมา เมื่อควันจากการระเบิดได้จางลง แสงสีฟ้าสว่าง ได้สาดส่องออกมาจากควันเหล่านั้น

ลาร์ม : “มันจะง่ายไปหน่อยมั้ง...ยังห่างชั้นกันอีกเยอะนะคะที่จะทำลาย โล่วารี<Water Protector> ของชั้นลงไปได้นะ”

ดราเวน : “ยัยผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นผู้ใช้ Ability ได้เหมือนกันหรอเนี่ย งั้นจะลองดูมั้ยล่ะ...ว่า ความสามารถในการควบคุมไฟของชั้น กับ น้ำของเธอ
อะไรมันจะแข็งกว่ากันน่ะ...55 ดูจากสภาพแล้ว หากชั้นโจมตีเธอ แกก็คงจะใช้ Ability ปกป้องได้อีกครั้งใช่มั้ยล่ะ คุณหัวหน้า....คาโก้”

หัวหน้าคาโก้ : “….แต่ถึงยังไงชั้นก็จะไม่ให้แกยึดเมืองนี้ไปได้หรอก!!”

ดราเวน : “ปากดีไป...เอาไว้หลังสู้กันจบค่อยตัดสินดีกว่ามั้ยคุณหัวหน้า!! จงสลายไปสะ Ability combine ลูกบอลไฟสังหาร <Fire Ball>”

สต๊อค : “Ability combine : หลุมพายุสลายเมฆ <storm hole>”

ทันใดนั้น ท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยหมู่ดาว ก็บังเกิดหลุมพายุที่พัดลงมาแต่มันไม่จบเพียงเท่านี้...สิ่งที่ออกมาใจกลางพายุ คือ ลูกไฟจำนวนมากที่หมุนวน ตามแรงพายุหมุน เข้าโจมตีใส่
กลุ่ม ADR เนื่องจากความห่างชั้นกันเกินไป ลุกไฟลุกแรกที่พุ่งชน โล่วารี ทำให้โล่ถึงกับแตกสลายออก ร้านอาหารได้รับความเสียหายยับเยิน
รวมถึงสมาชิก ADR เจ้าของร้าน หรือ คนจร แม้แต่คาโก้ซึ่งเป็นหัวหน้า ก็ไม่อาจจะต้านทาน Ability ขนาดนี้ได้

หัวหน้าคาโก้ : “ลาร์มเป็นยังไงบ้าง!!.....อั๊ก..”

ลาร์ม : “อั๊ก...Ability ระดับนี้ ทำไมถึงมีผู้ใช้ Ability ระดับนี้อยู่ในกลุ่มระดับล่างๆของ Newerth ได้ แกเป็นใคร..แค๊กๆ”

ดราเวน : “…หืม? พวกระดับล่างๆงั้นหรอ 55555 แกบอกว่าพวกชั้นมันระดับล่างๆงั้นหรอ พวกแกนี่ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ แต่ก่อนที่จะตายชั้นจะใบให้นิดแล้วกัน...
ระดับหัวหน้าน่ะ...เข้าไม่รวมกลุ่มกันเยอะหรอกนะหึหึ..ชั้นคือหัวหน้าหน่ยโจมตีระดับสูง ดราเวนยังไงละ หึหึ..5555”

หัวหน้าคาโก้ : “อั๊ก...ไม่อยากจะเชื่อ ว่าระดับหัวหน้าจะอยู่ในที่แบบนี้ ถ้ากลุ่มของเรายังอยู่กันมากกว่านี้ พวกเราจะชนะ…”

“ควับ!! ฉึก!!”

หัวหน้าคาโก้ : “บะ.....บัดซบ”

สมาชิกทีมแห่ง ADR : “อะ...อะไรกัน”

ดราเวน : “Weapon Form : มือมารล่าสังหาร....<Hands of Satan>”

ยังไม่ทันที่หัวหน้ากลุ่ม ADR จะทันพูดจบ ดราเวนเคลื่อนที่อย่างรวดรวม พร้อมกับฝ่ามือที่มีเปลวเพลิงลุกท่วม ราวกับมือของซาตาน พุ่งทะลวงผ่านตำแหน่งหัวใจของ
คาโก้ และลูกน้องอีกคน อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หัวหน้ากลุ่มและลุกน้องของเขา ตายในทันที

ลาร์ม : “กรี๊ดดดดดด!!!! หัวหน้าคาโก้!!”

ดราเวน : “พูดมากจริงๆแฮะ ADR ตั้งไอ้หมอนี้ขึ้นเป็นหัวหน้า ชั้นเริ่มสงสัยแล้วว่าระดับสูงกว่านี้มันจะขนาดไหนกันนะ หึหึ...คาดีส! สต๊อค! รักษาตำแหน่งไว้
อย่าให้พวกมันรอด พวกมันทุกคนต้องตายที่นี้”

คาดีส , สต๊อค : “ครับ!!”

สิ้นเสียงสั่งการ สมาชิกแห่ง Newerth ก็ตั้งฟอเมชั่น พร้อมโจมตีบุคคลที่คิดจะหนี และปกป้องพวกเดียวกันหากเกิดเหตุการโจมตีสวนกลับ

ดราเวน : “เริ่มจากแกก่อนแล้วกัน ยัยผู้หญิงจอมพูดมาก!!! มือมารล่าสังหาร!!!”

“หมับ!!”

คนจร : “ผู้ชาย...ตั้ง 3 คน ลุมผู้หญิงคนเดียวมันเกินไปหน่อยละมั้ง เธอน่ะ...ชื่อลาร์มใช่มั้ย ยังไงสะก็ช่วยหลบไปก่อนนะครับ ทางนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมเอง”

ไม่ทันที่มือแห่งซาตานจะถึงตัวของ ลาร์ม ทันใดนั้นก็ได้มีอีกมือ มาจับเพื่อสกัดการโจมตีของ ดราเวนออกไป เขาคือคนจรที่นอนหลับอยู่ทางหลังร้าน
ซึ่งการพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว และสามารถหยุดการโจมตีของดราเวน ได้สร้างความตะลึงและงุนงงต่อดราเวนเป็นอย่างมาก

“มันเป็นใครกัน...แต่ไม่ธรรมดาเลยที่หยุดการโจมตีเพียงเสี้ยววินาทีของเราได้...” ดราเวนคิดในใจ พร้อมกับมองไปยังใบหน้าของคนจร

ดราเวน : “แก...เป็นใคร”

คนจร : “….ผมไม่เห็นว่ามันจำเป็นตรงไหน ที่จะบอกชื่อให้พวกใจตุ๊ดอย่างพวกคุณรู้เลยนี่ครับ”

คาดีส , สต๊อค : “โอหังนักเป็นแค่เด็กวัยรุ่นแท้ๆ Weapon For.…”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของสมุนผู้พักดีต่อดราเวน ดาบแห่งแสงขนาดใหญ่ ได้พุ่งเสียบทั้งสองอย่างรวดเร็วจนทั้งสองต่างสัมผัสถึง Ability ไม่ทัน ทำให้ คาดีส และ สต๊อค สิ้นใจในทันที

คนจร : “แค่นี้ คุณก็ใช้ Ability combine อะไรนั้นไม่ได้แล้วสินะครับ Weapon Form..ดาบสวรรค์ปัดป้อง <Heaven parry>”

ด้วยเซนต์ทางการต่อสู้ของดราเวน เขารีบผละตัวออกจากขอบเขตสังหารของ คนจรคนนั้น และพุ่งโจมตีอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่าการโจมตีครั้งนี้กลับถูกปัดป้องโดยดาบสวรรค์
ไม่สามารถที่จะโจมตีถึงตัวของคนจรคนนั้นได้เลย

คนจร : “แสงสว่างดูดซับ.... <Light adsorb>”

การโจมตีของดราเวนยังคงโจมตีเป็นชุดใส่ คนจรคนนั้นอย่างไม่ลดละ แต่ผลที่ออกมายังคงเป็นเหมือนเดิม เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทุกครั้งที่ถูกดาบแสงปัดป้อง
มันจะดูดซับพลังกายลดลงไปด้วย ส่งผลให้ร่างกายของดราเวน รับภาระหนักมากขึ้น จนในที่สุด เขาก็ทรุดลง ณ เบื้องหน้าของ คนจรคนนั้น

ดราเวน : “แฮ่ก...แฮ่ก..นี่มัน Ability อะไรกัน ”

คนจร : “คิริออส...”

ดราเวน : “อะไร!!”

คิริออส : “ชื่อของผมยังไงละ...ยมทูตจะได้รู้ว่าใครส่งคุณมา...ดาบสวรรค์ชำระบาป<Heaven End>”

ทันใดนั้น ดาบสวรรค์ที่ปกป้อง คิริออสอยู่รอบกาย ได้ส่งประกายแสง ขึ้นอย่างเจิดจ้าพร้อมกับ หันปลายดาบมาที่ ดราเวน

คิริออส : “ดาบของผมจะลงทัณฑ์คุณในลักษณะตรึงโดยเริ่มจาก แขน ขา เพื่อให้คุณได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด หลังจากนั้นดาบสุดท้ายจะรับวิญญาณของคุณไป....
คุณอาจจะคิดว่ามันอาจจะแค่ทรมานที่โดนดาบทิ่มแทง...แต่...ด้วยความสามารถของผม ดาบสวรรค์ปัดป้อง ได้ป้องกันการโจมตีของคุณรวมถึงการใช้ แสงสว่างดูดซับ การโจมตี
ทำให้ดาบแต่ละเล่มมีพลังทำลายล้างที่รวมกับพลังของคุณอยู่ด้วย...Ability Combo ยังไงล่ะ...ลาก่อนคุณหัวหน้า...”

ดาบแห่งสวรรค์ได้พุ่งเข้าทิ่มแทงดราเวน โดยไล่จาก ขาทั้งสองข้างจนถึงแขนทั้งสองข้าง และดาบสุดท้าย พิพากษาเข้ากลางอก ของหัวหน้าหน่วยโจมตีแห่ง Newerth สิ้นใจในทันที
ทันใดนั้น อุโมงค์ความมืดก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มที่เดินออกมาจากอุโมงค์นั้น บรรยากาศอันหดหู่ได้ครอบคลุมทั้งเมือง ไร้ลม ไร้หมอก มีเพียงแต่ความมืดเท่านั้น

เดียรอส : “หึหึความสามารถคุณ นั้นโดดเด่นน่าสนใจดีนี่ครับ....คิริออส ผมสนใจอยากได้คุณมาเข้าร่วมกับ Newerth จริงๆ”

คิริออส : “นาย...เป็นใคร”

เดียรอส : “หากไม่แนะนำตัวมันก็ดูเหมือนจะเสียมารยาทสินะครับ..ผมเดียรอส หัวหน้าองค์กรแห่งความมืด Newerth ยังไงล่ะครับ”

คิริออส : “อ๋อ..คุณนี่เองสินะที่ก่อปัญหาน่ะ ถ้าจัดการคุณได้ที่นี้ มันก็จะจบแค่ตรงนี้สินะครับ”

เดียรอส : “ช่างมีความทนงตน จริงๆเลยนะครับคุณน่ะ...แต่เป้าหมายของผมในตอนนี้ไม่ใช่การสู้กับคุณหรอก...คุณนะ..ยังเป็นเด็กน้อยเกินไป...”

คิริออส : “ดาบสวรรค์ชำระบาป!!”

เดียรอส : “โซ่ผนึกแห่งความมืด! จงสลายไปซะ!!< Sealing chains of darkness.>”

ยังไม่ทันที่ดาบแสงจะพุ่งใส่ เดียรอส โซ่ผนึกสีดำ ได้พวยพุ่งจากพื้นดิน เข้าล๊อค ผู้คนในร้านอาหารแห่งนั้น ทั้งเจ้าของร้าน ลาร์ม รวมถึง คิริออส เอง

คิริออส : “อ๊ากกกกก!!!”

ลาร์ม : “อ๊ากกก ทะ....ทรมาน นี่มันอะไรกัน”

โซ่ผนึกแห่งความมืด สร้างความทรมานให้กับทุกคนในร้านอาหาร Ability ทุกอย่างได้สลายไปอย่างรวดเร็ว

เดียรอส : “ยอมเข้าร่วมกับเราสะ และจะได้ไม่ทรมานอีกยังไงล่ะครับ หึหึหึ...”

“อย่าไปฟังมันนะ!!”

เสียงของหญิงสาวเพียงคนเดียวที่ได้พูดเตือนสติของ คิริออส เอาไว้

ลาร์ม : “การที่เธอเข้ามาช่วยเหลือพวกเรานะ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าเธอน่ะ...มีจิตใจยังไง แสงสว่างเป็นเหมือนสิ่งที่อยู่คู่กับเธอ เธอน่ะ...อย่าให้ความมืดมิดครอบงำเด็ดขาดเชียวนะ!!!”

คำพูดของหญิงสาววัยรุ่น ได้สร้างความตกตะลึงให้กับ เดียรอส ชั่วขณะ พร้อมกับเพ่งมองไปทาง คิริออส ที่ถูกโซ่ตรวน ล๊อคเอาไว้อย่างแน่นหนา

“ผู้ชายคนนี้เป็นผู้มี Ability ที่ควบคุมแสงสว่างอย่างงั้นรึ....บ้าน่า..Ability สาย แสงสว่าง และ ความมืด..ไม่ใช่จะมีกันเกลื่อน แบบนี้นี่นา หรือว่า.....เด็กที่คุณพ่อมาติเนซพูดถึง....!!” เดียรอสคิดในใจ พร้อมกับสายตาที่มองไปยังแววตาของ คิริออส

เดียรอส : “แย่จังเลยนะที่เวลาเล่นสนุกมันหมดลงแล้ว วันนี้ผมจะปล่อยให้พวกคุณมีชีวิตต่อไปก่อนแล้วกัน...เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่าง หึหึหึ...คิริออส คุณเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”

สิ้นเสียงของเดียรอส อุโมงค์ความมืดได้ปรากฏออก และเขาก็ได้เดินหายเข้าไปในอุโมงค์ที่มืดมิดนั้น บรรยากาศรอบๆหมู่บ้านเริ่มกลับเข้าสู้ปกติ
ทุกคนที่อยู่ในจุดการต่อสู้ ได้ต่างช่วยกันปฐมพยาบาล

คิริออส : “เธอน่ะ...ชื่อลาร์มสินะครับ เธอสูญเสียสมาชิกในกลุ่มไป 2 คน ถ้าผม...ไม่มัวแต่หลับและมาไวกว่านี้พวกเขาคงจะไม่...”

ลาร์ม : “...ขอบคุณนะ..แต่เธอก็ได้ช่วยชีวิตของคนที่ยังรอดอยู่ ณ ที่แห่งนี้นะ คิริออสไม่ได้เธอ ทุกคนที่นี้ก็อาจจะตายกันหมด”

คิริออส “ขอร่วมด้วยสิ...ADR น่ะ...ผมก้ไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง...แต่แววตา..แววตาหมอนั้นที่มองผมมันทำให้ผมรู้สึกเพียงว่า จะต้องหยุดคนคนนั้นให้ได้....เดียรอส!.”

ลาร์ม : “!!!....อื้ม เรามาพยายามด้วยกันนะ”

การตัดสินใจของเด็กหนุ่ม ที่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ทำให้เด็กสาว ลาร์ม ยิ้ม และกลับมีความหวังอีกครั้ง

เจ้าของร้านอาหาร : “หนูลาร์ม คงจะมีสมาชิกใหม่แล้ว งั้นก็พร้อมที่จะเดินทางแล้วสิ เราได้รับการติดต่อมาจาก ADR อยากให้พวกเธอ สองคน
รีบไปรวมตัวที่ ศูนย์บัญชาการ ที่ เมือง Lyizerten ส่วน ศพของสมาชิก ชั้นจะเป็นคนจัดการเอง โชคดีนะ”

เวลาใกล้รุ่ง ที่ร้านอาหารที่พังยับเพราะการต่อสู้ เมือง Dororan การต่อสู้ที่ต้องทำให้คิริออสเลือกเส้นทางที่จะเดินต่อไป..บัดนี้ คิริออส และ ลาร์ม
ได้เตรียมออกเดินทาง สู่ เมือง Lyizerten เพื่อไปยังศูนย์บัญชาการ ADR

To Be Continue.

เกร็ดความรู้ WOA

- ในร้านอาหารมีคนจร สมาชิก ABR และเจ้าของร้าน ทำไมไม่ค่อยมีบทบาทในบางตัวละคร เพราะว่า พวกนั้นจัดเป็นพวกมี Ability เช่นกันแต่ว่า เป็นสายที่ออกไปทาง สนับสนุนมากกว่าการต่อสู้ เช่นเจ้าของร้าน มี Ability สายไฟ ที่สามารถคุมเปลวไฟ ในการทำอาหารได้อย่างรวดเร็วเป็นต้น (อย่าลืมว่าสารเคมีที่ระเบิดจากขีปนาวุธนั้น คนที่ติดเชื้อ จะทำให้มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า Ability แต่จะมากจะน้อย ขึ้นอยู่ในแต่ละบุคคล หาอ่านได้จากบทนำ)

- ทำไม คิริออส ตัวเอง โผล่มาแล้วเก่งเวอร์จัง อันนี้ผู้แต่งต้องบอกก่อนว่า Ability ที่ควบคุมแสงสว่างนั้น อยู่ในระดับที่พอจะฟัดจะเหวี่ยงได้ระดับนึงเท่านั้น

- ที่หัวหน้าคาโก้ยังไม่ได้ใช้ Ability เพราะมัวแต่พูดมากไม่ทันการ

- หลายคนสงสัยว่า ADR คืออะไร ADR คือชื่อของกลุ่มต่อต้านพลังความมืดและฟื้นฟูประเทศ ชื่อเต็มๆคือ < Against the Darkness and Reconstruction.>

[zeroreach]

Shapter คืออะไร เรา งง มันไม่ใข่ Chapter เหรอ ???

[zeroreach]

ถ้าเอาไปทำเป็นการ์ตูนแฟลช 2D ท่าจะมันดี ......

[kulala]

Shapter คืออะไร เรา งง มันไม่ใข่ Chapter เหรอ ???

ด้วยความผิดพลาดของผมเองที่รีบเกินไป ขออภัยด้วยครับ TT