ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 14 จากทั้งหมด 14
  1. #1
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70

    Lightbulb การประสบความสำเร็จและเงิน4ด้าน (อยากให้ทุกคนอ่าน)

    ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนึงนะครับ

    ผมคิดว่าผมก็ได้มาอยู่บอร์ดนี้มานานพอตัว (ความจริงผมเข้ามาดูบอร์ดนี้ตั้งแต่ก่อนสมัคร2ปีแล้วหนะครับแต่ไม่รู้จะโพสอะไรเลยไม่ได้สมัคร)

    และตัวผมก็สมัครมาประมาณ2ปีได้แล้วมั่งและก็ไม่เคยตั้งกระทู้ซักทีและมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะตั้งกระทู้ซักทีและผมคิดว่าสมาชิก jokergame (ส่วนใหญ่)

    ยังอยู่ในวัยเรียนอยู่ทั้งนักเรียนระดับมัธยมจนไปถึงนักศึกษาชั้นมหาวิทยาลัยและคนวัยทำงานผมจึงกะจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องไปเจอในอนาคตสำหรับวัยรุ่น

    หรือสำหรับบางคนที่เผชิญอยู่วันนี้คงถึงเวลาแล้วที่จะทำคุณประโยชน์ให้กับชาว jokergame ไม่มากก็น้อยในครั้งนี้หนะครับ

    ขอโทษด้วยนะครับถ้าผมสาธยายยาวไปหน่อยหนะครับเพราะเพิ่งเคยตั้งกระทู้ที่นี้ครั้งแรกหละมั่งด้วยหนะครับ


    ผมคิดว่าถ้ามันรู้สึกว่าขี้เกียจอ่าน งั้นผมขอให้อ่านต่อให้จบนะครับมันมันค่อยข้างจำเป็นจริงสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ยังไม่รู็หรือลืมไปแล้ว


    หลังจากที่ผมสาธยายเสร็จมาเข้าเรื่องกันดีกว่า


    การประสบความสำเร็จ



    การประสบความสำเร็จของคนส่วนใหญ่ก็จะมีในหลายๆเรื่อง ทั้งด้านการทำงานที่ฝันไว้ เรียนได้เกรดดีๆ เป็นต้น

    แต่ความจริงการประสบความสำเร็จมีอยู่3ด้านหลักๆคือมีดังนี้

    1.ด้านการเรียน



    แล้วมีอะไรเป็นเกณฑ์วัดหละว่าคุณได้ประสบความสำเร็จในด้านนี้หละนั้นมีหลายอย่าง GPAสวย เกียรตินิยม หรือแม้กระทั่งเกรดสูงๆ เหล่านี้เราก็จัดได้ว่าเราได้ประสบความสำเร็จแล้ว

    แต่มันจะทำให้เราประสบความสำเร็จในด้านต่อไปรึปล่าวนะ....มาดูกันต่อไปดีกว่า


    2.ด้านการงาน



    การประสบความสำเร็จด้านการงานคุณคิดว่ามีอะไรบ้างหละ? ไม่ต้องคิดมากหรอกครับมันเป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นคือ การได้งานที่ฝันไว้ ตำแหน่งดีๆ เงินเดือนเยอะๆ นั้นเอง

    แต่พวกคุณเคยคิดไหมว่าการประสบความสำเร็จทางด้านการงานจำเป็นไหมที่ต้องประสบความสำเร็จทางด้านการเรียนด้วย?

    ในความจริงแล้วนั้นเราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จด้านการเรียนก็ได้ถ้าจะประสบความสำเร็จทางด้านการงานและในความเป็นจริงแล้วเราก็มีตัวอย่างพวกนี้ที่เห็นชัดๆอยู่หลายคนมาก

    ทั่ง bill gates เจ้าของ microsoft ที่หลายๆคนกำลังใช้อยู่



    หรือคนไทยไม่ไกลใครๆทั้งสิ้นนั้นคือ

    คุณ ต๊อบ อิทธิพัทธ์ เจ้าของธุรกิจพันล้าน เถ้าแก่น้อย



    ที่ทุกคนน่าจะเคยกินกันมาแล้ว

    ทั้ง2ท่านที่ผมกล่าวมานี้ต่างมีวุฒิการศึกษาเพียงแค่ม.6เท่านั้น!!!

    เพราะบางคนที่ได้เกียรตินิยมยังอาจได้แค่งานเงินเดือน15000ก็เป็นได้

    ซึ่งทั่ง2ท่านนี้นั้นเขาก็ประสบความสำเร็จด้านชีวิตด้วย!!! และใช่แล้วนั้นแหละคือการประสบความสำเร็จด้านสุดท้ายของเรานั้นเอง


    3.ด้านชีวิต



    แล้วการประสบความสำเร็จด้านชีวิตคืออะไร? ความจริงแล้วคือ การได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝันไว้ เช่น การได้ไปเที่ยงในที่ๆอยากไป การมีสุขภาพที่ดีไม่เจ็บป่วย และการพักผ่อนไม่รู็จักเบื่อ และอื่นๆอีกมากมายเท่าที่จะคิดได้

    ซึ่งในหลายๆคนที่ทำงานอยู่ไม่สามารถมีแบบนี้ได้ ในบางคนอาจเจ็บป่วยได้จากงานที่ทำ หรือ ไม่สามารถหยุดพักผ่อนได้ดังใจนึก หรือ อดไปเที่ยวในที่ๆอยากไป ซึ่งไม่เว้นแม้แต่คนที่มีงานในตำแหน่งสูงๆ

    ในหลายๆคนยังคิดจะพักไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่2ท่านพูดถึงนั้นกับทำเรื่องพวกนี้ได้!!!

    ซึ่งตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าการประสบความสำเร็จก็มีอยู่3อย่าง



    มาต่อกันที่เงิน4ด้านกันดีกว่าเรื่องเป็นที่ผมค่อยข้างอยากให้รู้ไว้หนะครับเพราะว่ามันจะทำให้เรารู้ว่างานเราอยู่พวกไหน


    เงิน4ด้าน


    งานทุกงานบนโลกนี้จะแบ่งออกเป็น4ประเภทด้วยกัน(ตามรูปเลยครับ)

    1.employee(ลูกจ้าง) มีอะไรบ้าง คืองานทุกงานที่กินเงินเดือนนั้นเอง ตั้งแต่ รปภ. ยันCEO แล้วCEOคืออะไรหละ?

    CEO คือ Chairman and Chief Executive Officer ซึ่งก็คือ ประธานคณะกรรมการบริษัทธุรกิจชั้นนำ และเขาก็กินเงินเดือนเช่นกัน

    2.self-employer(ธุรกิจส่วนตัว) คนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่า มันก็ พวกธรุกิจทั่วๆ เช่น ร้านขายของชำ ขายเสื้อผ้า ตัดผม และอื่นๆ ซึ่งมันก็รวมไปถึง นักร้อง ดาราด้วยนะครับ

    เพราะธุรกิจพวกนี้คือทำเมื่อไหร่ก็ได้ตัง ไม่ทำก็ไม่ได้ตังนั้นเองครับ

    3.business owner(เจ้าของธุรกิจ) ก็พวก KFC TOT อะไรพวกนี่แหละครับ แล้วต่างจากธุรกิจส่วนตัวยังไง? มันต่างกันตรงนี้ครับ ตรงที่มันควบคุมการเติบโตไม่ได้ครับคืออะไร

    มันถ้าคุณเปิดร้านอาหารที่นึงทุกวันคุณก็จะรู้ว่าวันไหนขายดีขายไม่ดี แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าTOT คุณจะไม่รู็ว่าวันมีคนใช้โทรคุยกันไปเท่าไหร่แล้ว

    4.investor(นักลงทุน) คืออะไรนักเล่นหุ้นหรอ? คุณต้องรู้ก่อนว่าคนเล่นหุ้นมี2ประเภทคือ

    1.ซื้อมาขายไปเรียกว่า(ธุรกิจส่วนตัว)
    2.ซื้อมาเพื่อรอเงินปันผล(นักลงทุน)

    แล้วส่วนใหญ่มีพวกอะไรอีกหละก็พวกอสังหาริมทรัพย์นั้นแหละครับ

    งั้นมาสรุปกันว่า4อย่างนี้เป็นยังไงกันนะครับ

    1.employee(ลูกจ้าง) แรงเวลาแลกเงิน (หยุดทำไม่มีรายได้)

    2.self-employer(ธุรกิจส่วนตัว) แรงเวลาแลกเงิน เช่นกัน (หยุดทำไม่มีรายได้)

    3.business owner(เจ้าของธุรดิจ) แรงเวลาช่วงหนึ่งของชีวิตเพื่อสร้างระบบ และก็เอาระบบแลกเงิน (หยุดทำแล้วมีรายได้)

    4.investor(นักลงทุน) เงินแลกเงิน (หยุดทำแล้วมีรายได้)


    ถ้าดูจากรูปมันจะแบ่งเป็น2ฝั่งคือซ้ายและขวาซึ่งมันต่างกันนิดเดียวคือ

    ซ้าย หยุดทำไม่มีรายได้

    ขวา หยุดทำแล้วมีรายได้




    แล้วคุณหละอยากเป็นอะไร ?
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pak007 : 22nd May 2013 เมื่อ 11:45

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 11 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    きょすけ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,569
    กล่าวขอบคุณ
    650
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,125
    เหมือนนั่งฟัง พวกขายตรง ชวนมาทำกับมัน ยังไงก็ไม่รู้ ที่ไหน ก็แนะนำ เงิน 4 ด้าน ทั้งนั้น - -a

  4. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #3
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    ผมคิดว่าอยากให้ทุกคนรู้ว่ามันคืออะไรแค่นั้นแหละครับเพราะก็เคยฟังมาเหมือนกันพวกขายตรงอะนะ



    มันไม่จำเป็นหรอกว่าคนที่โพสเรื่องนี้จะต้องทำขายตรงเสมอไปนิจริงไหม
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pak007 : 22nd May 2013 เมื่อ 11:07

  6. #4
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    กระทู้
    80
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 60
    มีแต่ผม คิดว่า คิดว่า อย่างเดียวอ่าส์

  7. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    122
    กล่าวขอบคุณ
    58
    ได้รับคำขอบคุณ: 47
    ดูแนวคิดเจ้าสัวเมืองไทยหลายคน น่าสนใจกว่าเยอะสู้จากติดลบจริงๆครับ
    ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน

  8. #6
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    ถ้าผมใช้คำว่า คิดว่าเยอะไปต้องขอโทษด้วยนะครับ

    เผอิญผมไม่ค่อยเก่งภาษาไทย

  9. #7
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ kingottomann อ่านกระทู้
    ดูแนวคิดเจ้าสัวเมืองไทยหลายคน น่าสนใจกว่าเยอะสู้จากติดลบจริงๆครับ
    ผมยกตัวอย่าง2ท่านนี้เพราะว่าค่อยข้างดังและพูดถึงและรู็จักเยอะหนะครับ เผื่อบางคนจะไม่เห็นภาพถ้ายกคนไม่รู็จักมา

  10. #8
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    กระทู้
    51
    กล่าวขอบคุณ
    282
    ได้รับคำขอบคุณ: 9
    ขอบคุนสำหรับความรู้ดีๆคับบ
    ไม่มีอะไร มีแต่ใจ จะไปสู้อะไรเขา

  11. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    567
    กล่าวขอบคุณ
    904
    ได้รับคำขอบคุณ: 400
    ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่อยากแบ่งปันครับ
    ขอยกตัวอย่างไอพวกหนังสือ ที่มีขาย ที่ว่ากันว่า ประสบความสำเร็จจากคนดัง หรือ เข็มทิศชีวิต <<< คนที่อ่านพวกนี้ ก็เหมือนกันเข้าก็ค้องใจกันละครับ ว่าทำกันไม่ได้ บ้างก็ว่าชีวิตเราไม่ได้เหมือนแบบเค้าบ้างต่างๆนาๆไป
    เหตุผลก็จะมีอยู่ว่า ทำไม มันมีหนังสือแนะนำ บทความตั้งเยอะในเน็ต แต่ไอคนที่อ่านทำไมถึงทำอย่างที่มันมีไม่ได้ละ นั้น ละครับคือคำตอบที่ต้องหา ^^

  12. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #10
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ allenkheel อ่านกระทู้
    ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่อยากแบ่งปันครับ
    ขอยกตัวอย่างไอพวกหนังสือ ที่มีขาย ที่ว่ากันว่า ประสบความสำเร็จจากคนดัง หรือ เข็มทิศชีวิต <<< คนที่อ่านพวกนี้ ก็เหมือนกันเข้าก็ค้องใจกันละครับ ว่าทำกันไม่ได้ บ้างก็ว่าชีวิตเราไม่ได้เหมือนแบบเค้าบ้างต่างๆนาๆไป
    เหตุผลก็จะมีอยู่ว่า ทำไม มันมีหนังสือแนะนำ บทความตั้งเยอะในเน็ต แต่ไอคนที่อ่านทำไมถึงทำอย่างที่มันมีไม่ได้ละ นั้น ละครับคือคำตอบที่ต้องหา ^^
    ครับๆผมก็เข้าใจนะครับว่าหลายๆท่านก็เคยอ่านหนังสือพวกนี้เช่นกันครับและก็อยากเป็นอย่างพวกเขาแต่มันทำไม่ได้ใช่ไหมหละครับ ผมว่าผมมีคำตอบนะ จะให้ผมบอกในกระทู้นี้ไปเลยหรือจะให้ผมสร้างกระทู้ใหม่ดีไหมครับ?

    แต่มันค่อนข้างต่อเนื่องกันหนะครับถ้าไม่อ่านอันนี้จะไปงงอีกอันหนะครับ

  14. #11
    Terrorist is back...
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่ไหนสักแห่งในโลก
    กระทู้
    393
    กล่าวขอบคุณ
    1,483
    ได้รับคำขอบคุณ: 103
    อ่านแล้วรู้สึกได้ไอเดียเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอะไรหลายๆ อย่างเลยครับ ^ ^
    สำหรับคนที่อยากติดตามงานเขียนของผมสามารถเข้าไปชมได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ
    https://www.facebook.com/chaos.vengeance?ref=hl

  15. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    1,448
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 575
    นักลงทุนเอง ผมว่ามันเป็นคำหลอกลวงสำหรับพวก ที่อยากสบายยังไงก็ไม่รู้นะ ในบรรดา4อัน นักลงทุนสบายสุด เหนื่อยน้อยสุดความเสี่ยงต่ำสุด แต่เราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมันมากที่สุด คนมันเลยโดนหลอกโดยพวก MLMเยอะไงคับ ต่อให้เล่นหุ้นเป็น คงเคยได้ยินคำว่าแมงเม่าสินะ คือพวกไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วไปเล่นหุ้นสุดท้ายก็เจ๊ง

    ความจริงคนเล่นหุ้นนี้เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยนะคับ หุ้นมันไม่ได้คงที่เสมอไป วันนี้ขึ้นวันต่อมาดิ่งลงเหว ผมก็ไม่รู้นะเขาใช้สัญญาณอะไรเวลาซื้อขายหุ้น

    การศึกษา เรียนเพื่อใช้ ไม่ใช้เรียนเพื่อลืม ลองอยู่ซักปี3แล้วชีวิตเราจะเคลียดมากคับกับคำถาม จะจบแล้วจะทำอะไรต่อดี โดยเฉพาะคณะวิชาการนี้เคลียดมากคับ ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หลังผมเริ่มคิดคับ
    เราเรียนไป20ปีเราเรียนเพื่ออะไร เรียนมา20ปีทำไมเจอแต่ความรู้ที่ใช้อะไรไม่ได้เลย

    การทำงาน ทำในสิ่งที่้เรารัก อยู่กับสิ่งที่เราชอบ และสิ่งนั้นทำเงินได้ดีที่สุดคับ เงินดีแต่งานเป็นงานที่เราไม่ชอบทำไปก็ไม่มีความสุข

    ชีวิต มีคู่ครองที่ดี บ้านมีฐานะกินอยู่สบายไม่เจ็บไข้ได้ป่วย อยากทำอะไรก็ทำได้ อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากได้อะไรก็ได้ผมว่าแค่นี้ก็โอเคละ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย liger0000 : 22nd May 2013 เมื่อ 22:32

  16. #13
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ liger0000 อ่านกระทู้
    นักลงทุนเอง ผมว่ามันเป็นคำหลอกลวงสำหรับพวก ที่อยากสบายยังไงก็ไม่รู้นะ ในบรรดา4อัน นักลงทุนสบายสุด เหนื่อยน้อยสุดความเสี่ยงต่ำสุด แต่เราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมันมากที่สุด คนมันเลยโดนหลอกโดยพวก MLMเยอะไงคับ ต่อให้เล่นหุ้นเป็น คงเคยได้ยินคำว่าแมงเม่าสินะ คือพวกไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วไปเล่นหุ้นสุดท้ายก็เจ๊ง

    ความจริงคนเล่นหุ้นนี้เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยนะคับ หุ้นมันไม่ได้คงที่เสมอไป วันนี้ขึ้นวันต่อมาดิ่งลงเหว ผมก็ไม่รู้นะเขาใช้สัญญาณอะไรเวลาซื้อขายหุ้น

    การศึกษา เรียนเพื่อใช้ ไม่ใช้เรียนเพื่อลืม ลองอยู่ซักปี3แล้วชีวิตเราจะเคลียดมากคับกับคำถาม จะจบแล้วจะทำอะไรต่อดี โดยเฉพาะคณะวิชาการนี้เคลียดมากคับ ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หลังผมเริ่มคิดคับ
    เราเรียนไป20ปีเราเรียนเพื่ออะไร เรียนมา20ปีทำไมเจอแต่ความรู้ที่ใช้อะไรไม่ได้เลย

    การทำงาน ทำในสิ่งที่้เรารัก อยู่กับสิ่งที่เราชอบ และสิ่งนั้นทำเงินได้ดีที่สุดคับ เงินดีแต่งานเป็นงานที่เราไม่ชอบทำไปก็ไม่มีความสุข

    ชีวิต มีคู่ครองที่ดี บ้านมีฐานะกินอยู่สบายไม่เจ็บไข้ได้ป่วย อยากทำอะไรก็ทำได้ อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากได้อะไรก็ได้ผมว่าแค่นี้ก็โอเคละ
    ผมว่า binary อันตรายกว่าเยอะเลยน่า

    ผมว่าคุณเป็นคนที่คิดได้นะครับ นักลงทุนผมคิดว่าทางบ้านเขาคงรวยมาก่อนแล้วเลยอยากทำไรก็ทำมีตังฟาดๆไป เพราะสมัยนี้มันทุนนิยมแล้วนิ มีเงินโคตรได้เปรียบเลย

    ผมว่าที่เราเรียนไป 20 ปี อะนะ เราเหมือนเรียนไปเพื่อเป็นลูกจ้างอะแหละ แค่ตำแหน่งที่ต่างกันเท่านั้นแหละ เพราะ ครู อาจารย์ก็เป็นลูกจ้าง!!!

    และที่คุณกล่าวไว้อันล่างสุดก็คือ คุณอยากประสบความสำเร็จในชีวิตหนะครับ ใครๆก็อยากเป็น แต่มันก็รู้ๆกันอยู่ ว่ามันยาก

  17. #14
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Choas67 อ่านกระทู้
    อ่านแล้วรู้สึกได้ไอเดียเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอะไรหลายๆ อย่างเลยครับ ^ ^
    ครับผม ^^ ผมเลยอยากให้ทุกคนอ่านเพื่อจะได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันไงครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pak007 : 22nd May 2013 เมื่อ 23:59


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top