ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 50
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    396
    กล่าวขอบคุณ
    716
    ได้รับคำขอบคุณ: 942
    Blog Entries
    1

    เมื่อสื่อตะวันตกมอง"การศึกษาไทย" [โคตรตรง]

    ฝังราก"ระบบทหารกับเด็ก"-"นักเรียน"เริ่มท้าทาย-รบ.ล้างระบบ"

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ "นิวยอร์กไทมส์"ได้ตีพิมพ์รายงานชื่อว่า"In Thailand’s Schools, Vestiges of Military Rule"หรือ"ในโรงเรียนไทย ปรากฎคราบการปกครองแบบทหาร"

    โดยชี้ว่า เมืองไทยมีบางสิ่งที่แย่และตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของการเป็นเมืองท่องเที่ยว นั่นคือระบบการศึกษาไทย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากระบบเผด็จการทหารไทยในอดีต มีการใช้กฎระเบียบ และการบังคับให้ยอมรับยึดถือกฎเกณฑ์ โดยนักเรียนไทยต่างมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกัน



    "นิวยอร์กไทมส์"รายงานว่า ตามโรงเรียนรัฐในย่านอุตสาหกรรมของเมืองหลวงกรุงเทพฯ กลับมีภาพครูถือไม้เรียวตีเด็กนักเรียน และดุด่าว่ากล่าวนักเรียนที่ไว้ผมยาว และสั่งให้ตัดผมได้ทันที และว่านักเรียนไทยจะต้องถูกตรวจเช็คว่าพวกเขามีเล็บยาวหรือไม่,ใส่ถุงเท้ามีสีสันลวดลายหรือไม่

    รวมทั้งทำผิดกฎละเมิดการแต่งกายของโรงเรียนหรือไม่ โดยนายอรุณ วันเพ็ญ รองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ไม่มีการเปิดเผย บอกว่า ตามพื้นฐานแล้ว นักศึกษาจะต้องแต่งกายเหมือน ๆ กัน พวกเขามีหน้าที่จะต้องไว้ผมสั้น ร้องเพลงชาติ สวดมนต์ และปฎิญาณตนว่าจะอุทิศตนเพื่อประเทศชาติ และพระมหากษัตริย์ และไม่ก่อความเดือดร้อนใด ๆ



    อย่างไรก็ตาม"นิวยอร์กไทมส์"อ้างว่า แม้ว่าทุกวันนี้มรดกของการปกครองของทหารในเมืองไทยจะลางเลือนไปแล้ว แต่นักเรียนบางคนก็ได้ลุกขึ้นมาท้าทาย

    โดยบางรายประสบความสำเร็จกับการท้าทายระบบที่บังคับให้นักเรียนต้องเชื่อฟังโดยห้ามโต้เถียง เด็กเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจาก"พันธมิตร"ในรัฐบาลที่ต้องการจะลดบทบาททหารในชีวิตพลเรือน และได้เสนอการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนต่อระบบการศึกษาที่ยังมีคราบของพฤติกรรมทหารอยู่



    โดยเมื่อปีที่แล้ว "แฟรงค์"นักศึกษารายหนึ่ง ของโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ได้รณรงค์ผ่านเฟซบุ๊ค เรียกร้องให้มีการยกเลิกระบบการศึกษาที่ปฎิบัติต่อนักศึกษาเหมือนเครื่องจักร แฟรงค์และกลุ่มเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ได้จัดตั้งกลุ่มชื่อว่า"พันธมิตรปฎิวัติการศึกษาไทย"และเขากลายเป็นที่กล่าวถึง

    หลังจากได้ออกรายการโทรทัศน์พูดถึงอุดมการณ์ของเขา ขณะที่เจ้าตัวกล่าวว่า ทุกวันนี้ โรงเรียนในเมืองไทยเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ผลิตบุคคลให้ออกมาเป็นพิมพ์เดียวกัน ขณะที่ครูอาจารย์ก็เป็น"เผด็จการ"ที่เอาแต่ให้นักเรียนให้"ก้มหัวคำนับ"และห้ามโต้แย้งพวกเขา



    "นิวยอร์กไทมส์"ระบุว่าสารของแฟรงค์และกลุ่มได้รับการตอบสนองบางส่วนจากนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีดีกรีจบจากเมืองนอกอย่างสหรัฐ โดยนายพงษ์เทพประกาศที่จะให้นักเรียนไทยไว้ผมยาว(รองทรง)ได

    และได้เสนอร่างเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาเพื่อลดการให้ความสำคัญต่อ"ระบบท่องจำ"และสนับสนุนให้นักเรียนคิดอย่างมีเหตุผล โดยนายพงษ์เทพได้เสนอให้โรงเรียนไทยให้การบ้านแก่นักเรียนน้อยลงและลดเวลาเรียนลง และให้หลักสูตรการศึกษามุ้งเน้นความจำเป็นในการเรียนด้านภาษา,วิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์



    โดยเขากล่าวว่า ในยุคของ"วิกิพีเดีย"เช่นปัจจุบัน เป็นเรื่องไร้เหตุผลที่จะให้นักเรียนมานั่งท่องจำชื่อหรือความยาวของแม่น้ำต่าง ๆ เหมือนที่เขาเคยเจอตอนเป็นนักเรียนมาก่อน

    นอกจากนี้ นายพงษ์เทพ ซึ่งเคยฝึกงานด้านทนายความจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน บอกว่า การกระตุ้นให้เด็กนักเรียนไทยได้สร้างรูปแบบความเห็นของตัวเอง และโต้เถียงกัน จะเป็นเรื่องดีสำหรับประชาธิปไตย และสำหรับประเทศไทย









    "นิวยอร์กไทมส์"เผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายพงษ์เทพ ได้ประกาศว่าเขาจะผ่อนปรนระเบียบการไว้ผมของนักเรียน ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของระบอบเผด็จการทหารที่ถูกนำมาใช้ในโรงเรียนไทย ตั้งแต่ปี 1972

    โดยกฎระเบียบดังกล่าวบังคับให้ผู้หญิงต้องไว้ผมยาวไม่เกินติ่งหู ส่วนเด็กนักเรียนชายต้องไว้ผมสั้นเกรียนเหมือนนักเรียนทหาร แต่ขณะนี้รัฐบาลกำลังมีกฎระเบียบใหม่ออกมา ซึ่งนายพงษ์เทพกล่าวว่า รัฐบาลต้องการให้นักเรียนไทยเป็นบุคคลที่"คิดอย่างมีเหตุผล"และเราไม่สามารถจะไปบังคับให้พวกเขาทำสิ่งที่ไม่มีเหตุผลได้



    "นิวยอร์กไทมส์"กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถือว่าจะส่งผลกระทบต่อหัวใจของโรงเรียนในเมืองไทยซึ่งนิยมการใช้เวลาในห้องเรียนให้มากและเรียนให้หนักซึ่งถือเป็นหนึ่งในสูตรหลักของความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก โดยเมืองไทยต้องการจะเลียนแบบโมเดลนี้ เพื่อไต่เต้าตามประเทศเพื่อนบ้านที่มีเศรษฐกิจร่ำรวย



    แต่ทว่าตอนนี้ นักเรียนไทยกำลังเหนื่อยกับพฤติกรรมนี้ และสมุดพกของนักเรียนไทยแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่จะต้องพัฒนา จากคะแนนการสอบระดับชาติที่ตกลง และการที่นักศึกษาไทยมีคะแนนด้านคณิตศาสตร์อยู่ที่ระดับ 52 จากการประเมินของระบบนักศึกษาสากล

    ซึ่งเป็นดัชนีสากล ทำให้พวกเขามีเกณฑ์คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ของกลุ่มประเทศความร่วมมือและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของยุโรปหรือ"โออีซีดี"(ขณะที่นักศึกษาในเมืองเซี่ยงไฮ้ของจีนและสิงคโปร์ติดอันดับหนึ่งและสองจากการประเมินผลดังกล่าว)



    นิวยอร์กไทมส์ยังได้อ้างบรรดาผู้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาของเมืองไทย ซึ่งบอกว่า หลักสูตรปัจจุบัน อัดแน่นไปด้วยเรื่องของ"การท่องจำ"และไม่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้คิดเอง

    โดยนายสมพงษ์ จิตระดับ คณะกรรมการแก้ไขหลักสูตรการศึกษาไทย กล่าวว่า เขาเคยพูดมานานแล้วว่า ยิ่งเราเรียนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งโง่มากเท่านั้น เพราะทุกอย่างที่นักเรียนบ้านเราทำก็คือต้องคอยท่องจำ ไม่เคยได้คิดอย่างมีเหตุผล และไม่เคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเลย



    อย่างไรก็ตาม สำหรับอรุณ วันเพ็ญ รองครูใหญ่ฯ ซึ่งมีแนวทางที่เข้มงวดต่อนักเรียน มองว่า ในกรณีของระเบียบการแต่งกาย เขามองว่า การแต่งกายตามกฎระเบียนเดิมเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อต่อสู้กับสภาพสังคมแย่ ๆ หรือ"ความชั่วร้ายทางสังคม" ที่กำลังคุกคามนักเรียนในประเทศ

    เช่น ยาเสพติด,การท้องในวัยเรียน,การตีกันระหว่างนักเรียนนักศึกษา เขากล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลจะเป็นคนออกนโยบาย แต่โรงเรียนเป็นผู้ปฎิบัติ ซึ่งโรงเรียนก็จะต้องดูว่านโยบายของรัฐบาลเหมาะสมกับโรงเรียนหรือไม่ พร้อมทั้งกล่าวว่า ทหารต้องใช้ปืน ครูต้องใช้ไม้เรียว และบางครั้งเราก็จำเป็นต้องตีนักเรียนบ้าง แต่ตีเฉพาะที่ก้นเท่านั้น



    อย่างไรก็ตาม ด้านนายจิรพัฒน์ หอแสงไชย สมาชิกกลุ่มพันธมิตรปฎิวัติการศึกษาไทย นักเรียนวัย 16 ปี กล่าวว่า ที่ผ่านมา นักเรียนไทยไม่เคยได้ฉลาดด้วยตัวเอง แต่ต้องรับการป้อนข้อมูลให้จากระบบการศึกษาที่เป็นอยู่ ศึกษาธิการ สารภาพว่า เขาถูกจ้างให้ทำเพื่อทดสอบระบบความมั่นคงของกระทรวงศึกษาธิการ



    ขณะที่น.ส.นุชชา พิบูลวัฒนา นร.หญิงวัย 16 ปีของกลุ่ม บอกว่า เธอมีภารกิจสองด้าน ด้านหนึ่งคือการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระบบการศึกษาของไทย และให้นักเรียนหญิง ซึ่งเคยถูกฝึกให้ไม่รู้จักการโต้แย้ง รู้จักความกล้าและท้าทายมากขึ้น

    เธอกล่าวว่า ทุกวันนี้ เด็กนักเรียนหญิงไทยคิดอยู่แต่ในกรอบ เก่งแต่เฉพาะในตำรา และเธอต้องการให้นักเรียนเหล่านี้ได้ตระหนักว่า โลกภายนอกจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร

    โคตรตรง : หมายความว่า ข่าวที่ "สื่อตะวันตก" นั้นมองไทย ตรงกับข่าวก่อนๆในประเทศไทย [มิได้เกิดจากความคิดเห็นส่วนตัว]
    CR.postjung
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย guide716 : 31st May 2013 เมื่อ 15:44
    Believe ~~ ~ !


  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    กระทู้
    975
    กล่าวขอบคุณ
    443
    ได้รับคำขอบคุณ: 438
    เด็กไทยพูด วัยรุ่นไทยพูด ฝรั่งต่างชาติพูด แต่กระทรวงและครูไม่ฟัง


  3. #3
    Release My Soul
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    745
    กล่าวขอบคุณ
    564
    ได้รับคำขอบคุณ: 542
    แล้วพอเราพูดเรื่องผมหน่อยก็ชอบพูดว่า "แค่ตัดผมยังทำไมได้ แล้วต่อไปจำไปทำอะไรกิน" ห๊ะ เดี๋ยวๆ นี่ตูไม่ตัดผมนี่คือ อนาคต ตูดับใช่มั้ย!?? (ฮาๆนะ )


  4. #4
    ҳ̸Ҳ̸ҳ ҳ̸Ҳ̸ҳ ҳ̸Ҳ̸ҳ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,378
    กล่าวขอบคุณ
    14,834
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,727
    รัฐธรรมนูญไทยให้ความสำคัญถึงสิทธิและเสรีภาพมากที่สุด?

  5. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    1,448
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 575
    Timeยังไม่ไปเห็นระบบโซตัสใช้ไหมจะรู้ว่า อันนั้นแหละระบบเผด็จการทหารของแท้ ประเทศเราถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์จริงๆจะรู้คับว่าไทยมีช่วงที่เป็นประชาธิปไตยสั้นมาก คือแค่ตั้งแต่ปี 2530ขึ้นมาถึงจะได้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ แต่อย่าลืม ปฎิวัติ ร.ศ.ช.กับปี49นะ หักลบกันก็ เรามีประชาธิปไตยประมาณ15ปีเองนะ ระบบต่างๆยังมีความเป็นเผด็จการทหารอยู่เยอะคับ แต่เห็นชัดก็ระบบการศึกษา(Sotus)ไทยกับระบบเกณฑ์ทหารแหละนะ

  7. รายชื่อสมาชิกจำนวน 9 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  8. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    กระทู้
    535
    กล่าวขอบคุณ
    531
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,161
    โรงเรียนเก่าผม เด็กม.ต้น ตัดรองทรงได้ละนะครัฟ ยินดีกับเสรีภาพ

  9. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    395
    กล่าวขอบคุณ
    221
    ได้รับคำขอบคุณ: 325
    ขอขอบคุณ "นิวยอร์กไทมส์" ที่ช่วยให้เต่าล้านปีหลายๆตัว ได้ใช้เหตุผลในหัวเริ่มคิดได้
    หลังจากคุณเธอวววใช้ตรรกะป่วยๆอยู่นานโข กิกิ

  10. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  11. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2012
    กระทู้
    384
    กล่าวขอบคุณ
    55
    ได้รับคำขอบคุณ: 485
    ระบบแบบต่างชาติให้ท่องเองเอามาใช้กับเด็กไทยไม่ได้ครับนิสัยไม่เหมือนกันถ้าไม่บังคับส่วนมากจะไม่อ่านไม่ท่องจำเองครับมันอยู่ที่ตัวคนเองนั่นแหละ gg


  12. #9
    น่าเบื่อ จังชีวิตนี้ ชิ!
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    2,889
    กล่าวขอบคุณ
    38
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,225
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ neverdia อ่านกระทู้
    เด็กไทยพูด วัยรุ่นไทยพูด ฝรั่งต่างชาติพูด แต่กระทรวงและครูไม่ฟัง
    หนีเที่ยว ไง หนีเที่ยว ถ้าปล่อยผมตามต้องการ ใส่เสื้ออะไรก็ได้ 50% ทั้ง รร. หนีเรียนหมด

    ครูฟังไหมฟังนะ ครูก็เคยเป็นเด็กมาก่อน พอโตขึ้นก็เป็นพ่อแม่ของเด็ก เขาก็ต้องสงสารเด็กนั้นแหละ

    พูดๆ กันเนี่ยว่าอยากปล่อยผม เห็นมหาลัย มัดผมทุกคน ไม่มีปล่อย แล้วจะพูดกันทำไม

  13. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670
    ไม่อยากพูดเดี๋ยวยาว เถียงกันกี่ปีกี่ชาติก็ยังไม่จบ พูดถึงแล้วก็นึกถึงหน้าอาจารย์ที่ปรึกษา ยอมรับเลยมันเจ้าระเบียบมาก ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวเกินไป อยากเปลี่ยนมากๆ เห้อ... พูดแล้วก็เซง เริ่มหมดกำลังใจในการต่อสู้ละ

  15. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  16. #11
    All my loving...
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    from the new world, in thailand.
    กระทู้
    1,256
    กล่าวขอบคุณ
    2,670
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,930
    Blog Entries
    2
    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดราม่าบังเกิดแน่....

    ได้เวลาปฏิวัติระบบการศึกษาใหม่แล้วแห๊ะ

    อิจฉาเด็กรุ่นใหม่ 5555+

  17. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  18. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    513
    กล่าวขอบคุณ
    198
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,972
    ก็จริงนะครับ เวลาทำโครงงานเราก็เลือกเรื่องที่น่าสนใจเพราะว่าชอบ

    แต่พอมานำเสนอกับบอกว่า ไม่ได้ ต้องอยู่ในหัวข้อนู้นนั้นนี้ เท่านั้น อยู่แต่ในกรอบครับ
    การประสบความสำเร็จ<<<ประสบการณ์<<<ความพยายาม<<<ความอดทน<<<ความเชื่อ<<<ความพ่ายแพ้

  19. #13
    Travel around the world
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    Chiangmai, Thailand
    กระทู้
    903
    กล่าวขอบคุณ
    1,768
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,078
    โอม จงดราม่า
    ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เถียงยังไงก็เถียงไม่จบ จนก่อนคนรุ่นเก่าๆตายหายไปหมดแหละ
    ''No god or kings. Only man.'' - Andrew Ryan

  20. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    163
    กล่าวขอบคุณ
    21
    ได้รับคำขอบคุณ: 72
    ใช้มาช้านาน และจะเป็นแบบนี้ ต่่อไป ^^

  21. #15
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    563
    กล่าวขอบคุณ
    259
    ได้รับคำขอบคุณ: 558
    มันก็ต้องมีการเช็คเวลาเรียนอยู่แล้วนี่ครับเรื่องโดดเรียน

  22. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2012
    กระทู้
    213
    กล่าวขอบคุณ
    2
    ได้รับคำขอบคุณ: 221
    จริงๆมองจากมุมมองของตัวเองเหมือนมันเป็นเรื่องปกตินะ แต่พออ่านรายงานข่าวที่เขาเขียนแล้วทำไมรู้สึกบ้านเมืองเรามันล้าหลังซะจริงๆ
    i'm brony. problem?

  23. #17
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    746
    กล่าวขอบคุณ
    734
    ได้รับคำขอบคุณ: 214
    มันขึ้นอยู่กับการปลูกฝังสามมัญสำนึกของคนครับ

    ดูอย่างฝรั่ง บ้านเขา แทบจะไม่มีกฏบังคับเลย แต่งตัวอะไรก็ได้ ผมทรงไหนก็ได้ ก็มีทั้งคนเรียนดี มีงานทำ เจริญรุ่งเรืองกัน แต่พวกไหนที่เกเรมันก็เกเร สุดๆไป

    ก็เหมอืนกันแหละ บังคับกฏเกณ แต่งชุดตัดผม ห้ามโน่นห้ามนี่ เด็กเรียนดีก็มี แต่เด็กแย่ๆก็เยอะ แต่มันจะเสียตรงที่ เด็กสมัยนี้ อะไรๆก็ไว สิทธิทางความคิดก็ไวตาม เวลาเด้กโดนบังคับมากๆ ในสิ่งที่ไม่ชอบพวกเขาก้จะเริ่มต่อต้าน

  24. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    260
    กล่าวขอบคุณ
    112
    ได้รับคำขอบคุณ: 113
    มันก็เป็นสะอย่างงี้ไง !! ! --*
    THE IMP'

  25. #19
    arsura's rizen
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    839
    กล่าวขอบคุณ
    162
    ได้รับคำขอบคุณ: 388
    หมดยุคคนรุ่นนี้แหละครับ รุ่นต่อไปบ้านเมืองเราจะได้พัฒนาซักที
    ประเมินตนเองด้วยมาตรฐานของตัวเอง ไม่ใช่ด้วยมาตรฐานของคนอื่น ~

  26. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  27. #20
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    164
    กล่าวขอบคุณ
    88
    ได้รับคำขอบคุณ: 165
    ผมคิดว่า military junta ในไทย ในยุคจอมพล ก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ ย้อนกลับไป นะครับ ซึ่งก็มีเรื่องการศุึกษาด้วย
    จากหัวข้อเรื่อง "In Thailand’s Schools, Vestiges of Military Rule" ผมก็คิดว่าเป็นผลพวงจาก military junta ที่กล่าวมาข้างต้นนะครับ ที่มีการตั้งกฏระเบียบต่างๆ
    อ้างอิงจากเนื้อหาในกระทู้ที่บอกว่าตั้งแต่ปี 1972 ก็คงทราบนะครับว่ายุคเป็นของท่านใด ทางแก้ไขสำหรับประเด็นเรื่องระเบียบต่างๆก็ไม่ ค่อยๆแก้ไขหรือไม่ก็ปฏิวัติไปเลย
    แต่ก็คงมี conservative มาแสดงทัศนะถึงความเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา เป็นความศิวิไลซ์ของเขาแหละครับ แต่ลึกๆผมก็คิดว่ามันคล้ายๆกับหลักการของประเทศ communist นะครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Artificial : 30th May 2013 เมื่อ 21:41

  28. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,810
    กล่าวขอบคุณ
    282
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,736
    ต้นแบบอิงจากระบบทหาร = ห่วย

    ไม่ใช่อะไรหรอก แต่เห็นบทสรุปของตรรกะมันแปลกดี ไอ้ที่บอกว่าโคตรตรงน่ะ
    ตรงกับข้อเท็จจริง หรือ ตรงกับใจตัวเองครับ

    ปล.ถ้ามันห่วยจริง เด็กไทยรุ่นก่อนคงโง่เป็นวัวเป็นควายกันหมดแล้วครับ ไม่มีหรอกครับนักศึกษาเกียรติินิยมที่บริษัทจากเมืองนอกซื้อตัวไปทำงาน เพราะเค้าคงไม่จ้างเป็นแสนเอาควายไปเป็นผู้บริหารหรอกครับ จริงป่าว
    ปล2. ขอแค่เป็นฝรั่งพูด ก็คิดว่ามันรู้ดีกว่าคนในบ้านตัวเองเรอะ บ้านตัวมันเองยังไม่รู้เลย ปากบอกเสรีภาพ แต่มีการจัดตั้งกลุ่มเหยียดสีผิว ปากบอกประชาธิปไตย แต่ข่มเหงประเทศอื่นด้วยการทูตแบบมัดมือชก แล้วก็บอกว่าตัวเองเป็นประเทศเจริญแล้ว...สื่ออเมริกันมันก็แค่วัวลืมตีน ดูถูกคนนั้นคนนี้ แต่ตัวมันเองน่ะมีทุกอย่าง
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย exodus : 30th May 2013 เมื่อ 21:48
    รอวันโดนแบน

  29. รายชื่อสมาชิกจำนวน 9 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  30. #22
    [ISH]
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    ที่อยู่
    Shinonono shrine
    กระทู้
    1,658
    กล่าวขอบคุณ
    947
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,281
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ clean1447 อ่านกระทู้
    หนีเที่ยว ไง หนีเที่ยว ถ้าปล่อยผมตามต้องการ ใส่เสื้ออะไรก็ได้ 50% ทั้ง รร. หนีเรียนหมด

    ครูฟังไหมฟังนะ ครูก็เคยเป็นเด็กมาก่อน พอโตขึ้นก็เป็นพ่อแม่ของเด็ก เขาก็ต้องสงสารเด็กนั้นแหละ

    พูดๆ กันเนี่ยว่าอยากปล่อยผม เห็นมหาลัย มัดผมทุกคน ไม่มีปล่อย แล้วจะพูดกันทำไม
    "ครูก็เคยเป็นเด็กมาก่อน"

    ตรรกะนี้อ้างไม่ขึ้นเลยครับ คนเราเติบโตมาในสังคมที่ต่างกัน มุมมองต่างงกัน ความคิดเห็นต่างกัน


    ค่านิยมของยุคนี้กับสมัยก่อนมันแตกต่างกัน...

    พูดไปร้อยพันแปดเรื่องก็ไม่จบหรอกครับไอเรื่องทรงผมเนี่ย

  31. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  32. #23
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,475
    กล่าวขอบคุณ
    26
    ได้รับคำขอบคุณ: 789
    ถ้า ฝรั่งไม่มาล่าอาณานิคมแถวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจะพัฒนาเท่าทุกวันนี้ไหมครับ ต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองไหมครับ

  33. #24
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    กระทู้
    1,388
    กล่าวขอบคุณ
    2,070
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,554
    .
    .

    เบื่อพูดเรื่องนี้ละ ตั้งใจเรียนไป จบ!!
    Alexandra Daddario

  34. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  35. #25
    Shockolate
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Rayong , Bangkok
    กระทู้
    922
    กล่าวขอบคุณ
    352
    ได้รับคำขอบคุณ: 368
    ไม่เคยได้ยินพ่อบอกว่า "ไม่ต้องตัดผมหรอกลูก มันเป็นสิทธิเสรีภาพของลูกนะ พ่อว่า"
    @#@#%T%@# เอาเวลาไปอ่านหนังสือเหอะ อย่ามัวแต่คิดเรื่องทรงผมกับชุดนักเรียนเลย

  36. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:



 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top