กทม วุ่นวายใครชอบความสงบนี่คง ไม่อยากจะอยู่เลยแหละ
กทม วุ่นวายใครชอบความสงบนี่คง ไม่อยากจะอยู่เลยแหละ
ถาคุณอยู่ไปนานๆแล้วรู้จักปรับตัว คุณก็จะอยู่ที่นี่ได้ครับ ผมอยู่มาตั้งแต่เกิดและผมก็ชอบนะกรุงเทพเนี่ย มีด้านสนุกๆที่คุณยังไม่ได้เจออีกเยอะครับ^o^
ผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ
ผมยอมเป็นงูไม่มีพิษ เพราะผมเป็น อนาคอนด้า
ขอบคุณครับ
ทำงานอยู่บ้านนอกเงินเดือน 10,000.- จะเทียบได้กับทำงานในกรุงเทพฯเกือบ 20,000.- ได้เลย
เพราะค่าครองชีพ ค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าเสียเวลา ฯลฯ สูง คนกรุงเทพย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดกันแทบหมดแล้วครับ
ที่เหลือๆอยู่ก็คนต่างจังหวัดย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯทั้งนั้น ยิ่งปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย คนใต้ล้นกรุงเลยล่ะ เอิ๊กๆๆ..
จากที่ไปมาคือ....เหม็นควันรถ.... ขออยู่ต่างจังหวัดต่อดีกว่า - -
กรุงเทพชอบอยู่อย่างคือ กลางคืนมีคน ผมชอบหากินอะไรดึกๆ แถวๆบ้าน3ทุ่มก็เงียบแล้ว(ไม่รวมแหล่ง18+) ถึงจะค่อนข้างสะดวกสบายแต่ก็แลกมากับค่าใช้จ่ายสูงกว่า
ผมไม่ชอบกทม.เพราะรถโคตรติด เรียกแท๊กซี่ก็ไม่ค่อยจะรับ ถ้าไม่รู้ราคาก็โดนฟันหัวแบะอีก
การเดินทางนี่ถ้าไม่มีรถส่วนตัวเป็นอะไรที่นรกมากๆ ความรู้สึกบรรยายได้แค่ว่ารู้สึกอึดอัดสุดๆ
ไม่รู้จะแนะนำอะไรแต่ก็ขอให้มีความสุขกับการอยู่ในกรุงเทพมหานคร นะครับ ชีวิตวุ่นวายหน่อยแต่ก็ ok (ผมเคยไปอยู่เชียงรายสักพักเหมือนกันรู้สึกเหมือนเวลาที่ต่างจังหวัดมันช้ากว่ากรุงเทพยังไงไม่รู้)
เพจทีมแข่ง LOL ของผม http://www.facebook.com/ThonburiTrex
ผมอยู่ กทม มา10 กว่าปีแล้วครับเจอมาทุกอย่างเห็นอะไรต่อมิอะไรมาเยอะแยะ แต่ก็ยอมรับว่า จขกท มีสติมากเลยที่เอาตัวรอดจากพวกติดยาได้ แต่ถ้ามองกลับกันถ้าเกิดน้าที่เป็นตำรวจเขายังจับพวกนั้นไม่ได้อะไรมันจะเกิดขึ้นกับ จขกท พวกนั้นมันคงแค้นแน่ๆ
ผมกรุงเทพฯโดยกำเนิดครับ
ผมเคยอยู่ตอนสมัยฝึกงาน วุ่นวายมากๆ (ปล.ผมอยู่ อ.เมือง นครปฐม เขตชานเมือง กึ่งเมืองกึ่งชนบท)
ผมอิจฉาความเจริญทางวัตถุของ กทม มากๆนะ ยิ่งพวกรักด้านไอที มองไปทางไหนอยากได้อะไรก็แทบกระดิกนิ้วสั่งได้ทันที
แถวบ้านผมที่นครปฐม หาซื้อยากมาก ต้องสั่งทางร้านไว้แล้วอีกประมาณ 2-3 วันถึงจะได้
แต่นิสัย(บางคน)ของคน กทม ยอมรับเลยว่าเห็นแก่ตัวมากๆ ไม่ค่อยมีน้ำใจต่อกัน อาจจะเร่งรีบจนเกินไปเลยไม่ได้สนใจคนอื่นครับ
ผิดกับแถวบ้านผม ซึ่งยังเป็นแบบผสมผสานแบบชนบท+เมือง ยังพบบรรยากาศแบบพี่น้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันอยู่ ไม่วุ่นวายเกินไป
เงียบไปก็ไม่ไหวครับ ท้ายสุดผมก็กลับมาทำงานที่นครปฐม หลังฝึกงานได้3เดือน นานๆครั้งถึงจะได้ไป กทม สักที (ไปดูหนังครับ แถวบ้านผมมีโรงหนังเหมือนกัน แต่คุณภาพยังไม่ค่อยเป๊ะ)
แต่ให้ไปอยู่นานๆ ผมบายละครับ ขอแบบบ้านนอกกึ่งไฮโซนี่แหละ 55
ผมเป็นนึงที่เกิด และโตที่ กทม. มัธยมต้นอยู่ รร.ที่มีคู่อริเยอะ
กลับบ้านทีนึงต้องกลับเป็นสิบคน พอเดินกลุ่มใหญ่ตำรวจก็ชอบหาว่าจะไปตีกะใครรึเปล่า
เดินกลับเจอ รร.คู่อริ ยืนอยู่กับเป็นกลุ่มก็ต้องเดินเลี่ยงอีก
มีอยู่ครั้งนึง รร ผมตีกับ รร อริแถวๆบ้านผม ผมเห็นตอนผมนั่งรถเมย์ แต่ผมก็ไม่รู้จักพวกนั้นหรอกนะครับ
พอลงเสร็จเดินเข้าซอย อยู่ดีๆมันก็ถาม "เห้ย ***มีแหวนรุ่นป่าว" ผมก็บอกไม่มี มันก็ทำท่าเดินกลับ
ผมก็คิดว่าคงไม่มีอะไร ทีนี้แหละ กรูเข้ามากัน 2 คน ผมโดนชกที่หัวไปทีนึง อีกหมัดหลบได้ทีนี้ วิ่งป่าราบเลยครับ = =
กลางฝนเลยครับ โคตรซวยเลย ....ตอนนี้มาเรียนที่ ตจว ภาพแบบที่เคยเห็นตอนอยู่ กทม ไม่ค่อยได้เห็นอีกเลยครับ
ไม่มีการตบเอาเสื้อพละ ไม่มีตบเอาแหวนรุ่น ไม่มีตบเอาหัวเข็มขัด....สบายใจมากครับ
ปล.เล่าซ่ะยาวเลย ฮ่าๆ
[/url]
เออ คือ โทษนะครับ มาอยู่ 1 เดือน ที่คุณเล่าว่าฟันกันหนะ หดหู่ไป 3 เดือนเลยหรือครับ ปล.ไม่ได้จับผิดนะครับ จขกท พิมพ์ผิดหรือปล่าวครับ
YOU CAN SEE ME
คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า อยู่เพราะผลประโยชน์ที่ได้มากกว่า อยู่เพราะมีชนักปักหลัง
บางคนมีที่มีทางมีเงินมีทองก็หอบสำมะโนครัวไปอยู่เชียงใหม่บ้าง ส่วนหนึ่งก็ออกไปอยู่ตามชานเมือง รวยหน่อยก็สร้างเกสต์เฮ้าส์ที่นั่่นที่นี่่
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่แห่งเมืองหลวงครับ
รอวันโดนแบน
เมืองศิวิไล
ผมอยู่มา 14 ปี สิ่งที่ไม่ชอบในกรุงเทพ คือรถติด + ตำรวจทำงานช้ามากๆๆ พึ่งพาได้ยาก-..- มีช่วงหนึ่งไฟไหม้ต้นไม้เเล้วมันอยุ่ใกล้บ้านพอดีเเต่โชคดีฝนตก ซึ่งผมนานมากเเล้วโทรเรียกตำรวจมา กว่าจะมาคนในหมู่บ้านช่วยกันดับไฟจนเสร็จ
รวมๆเเล้วข้อดีก็มีเยอะ ข้อเสียก็มี เด็กติดยา เด็กเเว๊น อาชีวะ อีก บลาๆๆ มันก็เเล้วเเต่สถานที่คนที่พวกเราอยู่อะนะเเค่ผม ครบ เลยละ- .-
(พักหลังๆไฟไหม้เยอะจิงช่วงเดือนก.ค เนี่ยระวังกันหน่อยน้าครับ) เเถวๆบ้านผมเนี่ยรถดับเพลิงวิ่งผ่านตลอดเลย ฮาๆ
อยู่กรุงเทพ ปัญหาที่ต้องเจอทุกวันคือสภาพการจราจรที่หาที่ไหนในประเทศไม่ได้อีกแล้วครับ ช่วงเช้าวันธรรมดาอย่าเรียกทางด่วนว่าทางด่วนนะครับ เรียกว่าทางรถติดจะดีกว่า 555 (ในกรุงเทพ พวกขับสวน ปาดหน้า ทำผิดกฎนี่เยอะแยะมาก เบื่อสุดๆ)
ถ้าคุณยังไม่รู้จักกับคำว่า "ความล้มเหลว" ก็ไม่มีทางที่คุณจะรู้จักกับคำว่า "ความสำเร็จ"