วิจารณ์ยับ! นักเรียนไทยแนะเลิกเคารพธงชาติ สวดมนต์ตอนเช้า

[clean1447]

วิจารณ์แซด! นักเรียนไทย แนะเลิกเคารพธงชาติ สวดมนต์ตอนเช้า เหตุไม่ได้ทำให้เก่งขึ้น มีแต่ปลูกฝังให้คลั่งชาติ




ก่อนหน้านี้รายการ The Daily Dose ทาง วอยซ์ทีวี ได้มีการสัมภาษณ์นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในฐานะตำแหน่งเลขาธิการสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย ถึงเรื่อง “เด็กนักเรียนรุ่นใหม่ ไม่ยอมถูกปกครองแบบเดิม!” จนเป็นกระแสฮือฮา หลังเจ้าตัวเสนอให้มีการยกเลิกประเทศไทยนั้น

ล่าสุดรายการได้ทำตอน 2 คราว นี้ได้เปิดให้วิพากษ์ถึงประเด็น ไม่เคารพธงชาติ สวดมนต์หน้าเสาธง ไร้ความเป็นไทย โดยมีการเชิญ นายกิตติ วิวัฒน์สัตยา นักเรียน ม.ปลาย ตัวแทนจากกลุ่มสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการมาแสดงความเห็น

เขา ได้กล่าวไว้ในรายการว่า การเข้าแถวเคารพธงชาติและสวดมนต์ตอนเช้าของนักเรียน ไม่ได้ช่วยให้เป็นคนดี คนเก่ง ซ้ำยังเป็นการยัดเยียดความคลั่งชาติ และรูปแบบของศาสนาที่ ไร้แก่นให้กับนักเรียนไทยด้วย

เมื่อ เทปสัมภาษณ์ถูกแพร่ออกไป มีผู้คนเข้าไปแสดงความเห็นมากมาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมให้ถกเถียงกันถึงความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ที่เด็กไทยยุคใหม่มีแนวคิดเช่นนี้






ที่มา http://webboard.zubzip.com/topic/55224

[oolldjlloo]

เอิ่ม จะว่ายังไงดีหล่ะ สังคมของแต่ละประเทศมันต่างกัน แต่ว่าของต่างชาติไม่ได้เข้าไปอยู่ในกิจกรรมพวกนี้ก็จะไม่ได้แตะเลย แต่เรื่องการเคารพธงชาติก็รู้กันดีอยู่ เรียกว่าไงหล่ะ สมมติว่าทีมชาติชกมวย มีชาติไหนไม่รู้ว่าเพลงชาติของตนเป็นเพลงอะไรมันก็ไม่มี ซึ่งบางเรื่องมันจะมี หรือไม่มีมันก็ได้ ไม่เสียหายอะไร ถ้าเด็กไม่ได้เคารพธงชาติ มันก็ไม่ได้หมายความจะไม่ได้เป็นคนรักชาติ เพราะถ้าไปถือคติกับตรงนี้ แล้วลองไปฟังความเห็นของทหารที่ยังไม่ตายในพื้นที่อันตรายกันดู เหตุผลของคนธรรมดาจะฟังดูด้อย เบาไปทันทีพร้อมกับการลืมคำพูดของทหารแล้วกลับมายกย่องความคิดแบบตนเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องศาสนา มีสอนแต่เด็ก+ครอบครัว+วิชา ซึ่งแน่นอน เกิดมาก็มีศาสนาอยู่ในบัตรเล็กๆอยู่ละก็แล้วแต่คนคลั่ง ไม่คลั่ง เอิ่มมันก็จริงนะ คนไทย คิดต่าง โดนวิจาร

[SlimZ]

มันก้จริงอยู่นะคับว่าไม่ได้ทำให้เก่งขึ้น แต่มันเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่คุณตะหากล่ะ ถ้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังทำไม่ได้แล้วจะอยู่ภายใต้กฎระเบียบของสังคมได้ยังไงล่ะคับ

ถ้าเป็นคนไทยแล้วไม่อยากร้องเพลงชาติไทย ผมว่าไปอยู่พม่าเหอะคับ ดีสุด

[flukezaa]

ถ้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังทำไม่ได้แล้วจะอยู่ภายใต้กฎระเบียบของสังคมได้ยังไงล่ะคับ

พูดแบบนี้นายก็หมายความว่าประเทศที่เขาไม่มีการทำอย่างนี้เขาไม่มีกฎระเบียบสิครับ

[Alienarez]

พูดแบบนี้นายก็หมายความว่าประเทศที่เขาไม่มีการทำอย่างนี้เขาไม่มีกฎระเบียบสิครับ

ไปเกี่ยวอะไรกับประเทศอื่น เขาก็มีกฏครับ แต่เป็นกฏของเขา ไม่ได้เหมือนกับไทยเรา

กฏระเบียบเขาทำมาแบบนี้แล้ว จะให้เปลี่ยนการศึกษาไทยมันก็ยากหน่อย ได้เรื่องทรงผมแล้วอยากได้อันอื่นต่องั้นเหรอ
-"ได้คืบจะเอาศอก"-

[GoD`Nelly]

เชื่อดิ พอเอ็งโตขึ้น ช่วงระยะเวลานึง เอ็งจะต้องนึกถึง ตอนที่เอ็งเรียน แล้วร้องเพลงชาติ เข้าแถวโดนเพื่อนแกล้ง มาสายโดนยืนหน้าเสาธง เองจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้มันไม่ช่วยเรื่องให้เอ็งเรียนดีขึ้นก็จริง แต่มันเป็นสเน่ห์อย่างนึงในวัยเรียนเลยหละ คิดต่างไม่ผิดหลอก แต่เอ็งจะเสียใจที่เอ็งคิดแบบนี้ และถ้ามันเปลี่ยนไปเป็นแบบที่เอ็งต้องการจริงๆสักวัน ข้าเชื่อเลยว่าหลายๆคนในประเทศไทย คงไม่จดจำเอ็งในฐานะ Hero แน่นอน แล้วเอ็งจะเสียใจ เมื่อถึงวันนั้น

[M4A1Predator]

เชื่อดิ พอเอ็งโตขึ้น ช่วงระยะเวลานึง เอ็งจะต้องนึกถึง ตอนที่เอ็งเรียน แล้วร้องเพลงชาติ เข้าแถวโดนเพื่อนแกล้ง มาสายโดนยืนหน้าเสาธง เองจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้มันไม่ช่วยเรื่องให้เอ็งเรียนดีขึ้นก็จริง แต่มันเป็นสเน่ห์อย่างนึงในวัยเรียนเลยหละ คิดต่างไม่ผิดหลอก แต่เอ็งจะเสียใจที่เอ็งคิดแบบนี้ และถ้ามันเปลี่ยนไปเป็นแบบที่เอ็งต้องการจริงๆสักวัน ข้าเชื่อเลยว่าหลายๆคนในประเทศไทย คงไม่จดจำเอ็งในฐานะ Hero แน่นอน แล้วเอ็งจะเสียใจ เมื่อถึงวันนั้น

แล้วถ้าผมไม่นึกถึงละครับ ทุกคนจะต้องนึกถึงหรอครับ คุณคิดเอาเองรึเปล่าครับ
เรื่องพวกนี้สำหรับผมมันไม่ใช่เสน่ห์สิครับ

ตามที่เข้าใจเขาต้องการให้เปลี่ยนแปลง ไม่ได้อยากเป็น Hero ไม่ใช่หรอครับ

ถ้าการศึกษาไทยสอนให้คิดเป็น ให้รู้จักใช้เหตุผลใช้ความจริงมาเถียงกัน กระทู้คงไม่ยาวขนาดนี้

[ratanawan25837]

มันก้จริงอยู่นะคับว่าไม่ได้ทำให้เก่งขึ้น แต่มันเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่คุณตะหากล่ะ ถ้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังทำไม่ได้แล้วจะอยู่ภายใต้กฎระเบียบของสังคมได้ยังไงล่ะคับ

ถ้าเป็นคนไทยแล้วไม่อยากร้องเพลงชาติไทย ผมว่าไปอยู่พม่าเหอะคับ ดีสุด

เราเห็นด้วยกับนายนะ

[[::BlueFox::]]

ได้คืบ จะเอาศอก ได้ศอก จะเอาเข่า

[maxk4255k]

ก็แล้วแต่ศรัทธา...

[BooQBot]

ครู : การที่ นร. ออกไปข้างนอกแล้วเกิดโชคร้ายโดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าไป นักเรียนจะขอความช่วยเหลือจากใคร

นร. : ตำรวจไงครับ

ครู : แล้ว นร. จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นตำรวจถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ

นร. : - - ??

ครู : ฉะนั้นชุดที่ตำรวจใส่อยู่ ก็เป็นชุดที่บ่งบอกคนที่เห็น ให้รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจนะ
และเป็นการเตือนตัวเอง ให้รู้หน้าที่อยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ทำอะไร

นร. : -.-

ครู : การใส่ชุด นร. มาโรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ได้ใส่มาเพื่อเพียงเพราะว่า เค้าทำกันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องใส่แบบนี้
แต่เป็นการใส่ชุดเพื่อ เตือนให้ตัวเองรู้ว่า เราเป็น นร. มีหน้าที่เรียนหนังสือ
มาโรงเรียน เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ ไหว้อาจารย์ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อโตไป จะได้มีแต่คนเอ็นดูเรา

นร. : T T

ครู : เมื่อเราอยู่ในฐานะอะไร ก็ขอให้เราปฏิบัติตนในฐานะนั้นๆให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จด้านอื่นจะตามมาเอง ไม่ต้องรีบร้อนทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเร็วเกินไปหรอก นร.

[Artificial]

ครู : การที่ นร. ออกไปข้างนอกแล้วเกิดโชคร้ายโดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าไป นักเรียนจะขอความช่วยเหลือจากใคร

นร. : ตำรวจไงครับ

ครู : แล้ว นร. จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นตำรวจถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ

นร. : - - ??

ครู : ฉะนั้นชุดที่ตำรวจใส่อยู่ ก็เป็นชุดที่บ่งบอกคนที่เห็น ให้รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจนะ
และเป็นการเตือนตัวเอง ให้รู้หน้าที่อยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ทำอะไร

นร. : -.-

ครู : การใส่ชุด นร. มาโรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ได้ใส่มาเพื่อเพียงเพราะว่า เค้าทำกันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องใส่แบบนี้
แต่เป็นการใส่ชุดเพื่อ เตือนให้ตัวเองรู้ว่า เราเป็น นร. มีหน้าที่เรียนหนังสือ
มาโรงเรียน เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ ไหว้อาจารย์ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อโตไป จะได้มีแต่คนเอ็นดูเรา

นร. : T T

ครู : เมื่อเราอยู่ในฐานะอะไร ก็ขอให้เราปฏิบัติตนในฐานะนั้นๆให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จด้านอื่นจะตามมาเอง ไม่ต้องรีบร้อนทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเร็วเกินไปหรอก นร.

บทสนทนาที่คุณ quote มา ตรรกะมันแปลกๆ เหมือนจะวิบัตินะครับ ด้วยสถานภาพแล้วมันแตกต่างกันอย่างสิ้งเชิง ชุดตำรวจนั้นเหตุผลก็ตามอย่างที่กล่าวมา
แต่มันติดตรงว่าให้รู้หน้าที่ของนักเรียนนะครับ คือคุณไม่จำเป็นต้องอ้างตำรวจมาเลย (มันแตกต่างกันคือ ตำรวจมันเป็นอาชีพนะครับ รับค่าตอบแทน นักเรียนมันก็เหมือนกับการกล่าวรวมๆของผู้ที่สมัครเข้ารับการศึกษา)
คือ การที่คุณจะสื่อว่าชุดนี้ทำให้รู้หน้าที่ มันก็ส่อไปได้ว่าหน้าที่จะยึดติดกับแค่เสื้อผ้า อาภรณ์ที่สวมใส่ เท่านั้นหรอครับ เหมือนเป็นแค่หน้ากากมาผิดบังใบหน้าเฉยๆ

ถ้าคุณจะอนุรักษ์นิยมแบบมีเหตุผล คุณก็แค่บอกเหตุผล ประมาณว่าเพื่อเอกภาพ สามัคคี ประเพณี หรืออาจจะอ้างความเท่าเทียม ไม่ให้เกิดความเลื่อมล้ำทางชนชั้น ไปด้วยก็ได้
ซึ่งผมก็มีความเห็นส่วนตัวกับประเด็น ความเลื่อมล้ำ นะครับ คือกังวลเล็กน้อยแต่ก็เอามาอ้างได้ไม่เต็มที่หรอกนะครับ เพราะประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นสังคมนิยม 100 %
จะอ้างความเท่าเทียมแบบคอมมิวนิสต์ผมก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกครับ ถึงผมจะไม่ได้สนับสนุนให้ "ไม่ใส่ชุดนักเรียนได้" ก็ตาม

สรุปคือ ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า ตำรวจ กับ นักเรียน อย่าเอามาเปรียบเทียบกันเลยครับ มันวิบัติทางตรรกะ
คือ นักเรียนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อื่นทราบว่าเป็นนักเรียนเท่ากับตำรวจ (ในกรณีทำงานทั่วๆไปนะครับ)
มันมีตัวอย่างนักเรียนในอารยประเทศอื่นๆมาเปรียบเทียบได้ ตรงนี้จะแก้ต่างอย่างไรหล่ะครับ

สุดท้าย ผมก็ขอวิจารณ์ผู้แต่งบทนี้นะครับ โดยรวมของเรื่อง มันเป็นประเด็นที่ไม่สามารถอธิบาย โต้เถียงกันได้แค่ 4-5 ประโยค คือคุณอาจจะยกมาแค่ผิวเผินเกินไป
ก็เข้าใจนะครับว่ามันไม่ได้เป็นรายการที่มันอภิปราย โต้วาทีกัน เป็นแค่ละครซีรีย์ เพื่อความบันเทิง ประเด็นหลักมันก็คงจะเรื่องรักใคร่ของวัยรุ่น ประเด็นนี้คงเป็นประเด็นรองจุดกระแสเฉยๆ

[BooQBot]

บทสนทนาที่คุณ quote มา ตรรกะมันแปลกๆ เหมือนจะวิบัตินะครับ ด้วยสถานภาพแล้วมันแตกต่างกันอย่างสิ้งเชิง ชุดตำรวจนั้นเหตุผลก็ตามอย่างที่กล่าวมา
แต่มันติดตรงว่าให้รู้หน้าที่ของนักเรียนนะครับ คือคุณไม่จำเป็นต้องอ้างตำรวจมาเลย (มันแตกต่างกันคือ ตำรวจมันเป็นอาชีพนะครับ รับค่าตอบแทน นักเรียนมันก็เหมือนกับการกล่าวรวมๆของผู้ที่สมัครเข้ารับการศึกษา)
คือ การที่คุณจะสื่อว่าชุดนี้ทำให้รู้หน้าที่ มันก็ส่อไปได้ว่าหน้าที่จะยึดติดกับแค่เสื้อผ้า อาภรณ์ที่สวมใส่ เท่านั้นหรอครับ เหมือนเป็นแค่หน้ากากมาผิดบังใบหน้าเฉยๆ

ถ้าคุณจะอนุรักษ์นิยมแบบมีเหตุผล คุณก็แค่บอกเหตุผล ประมาณว่าเพื่อเอกภาพ สามัคคี ประเพณี หรืออาจจะอ้างความเท่าเทียม ไม่ให้เกิดความเลื่อมล้ำทางชนชั้น ไปด้วยก็ได้
ซึ่งผมก็มีความเห็นส่วนตัวกับประเด็น ความเลื่อมล้ำ นะครับ คือกังวลเล็กน้อยแต่ก็เอามาอ้างได้ไม่เต็มที่หรอกนะครับ เพราะประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นสังคมนิยม 100 %
จะอ้างความเท่าเทียมแบบคอมมิวนิสต์ผมก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกครับ ถึงผมจะไม่ได้สนับสนุนให้ "ไม่ใส่ชุดนักเรียนได้" ก็ตาม

สรุปคือ ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า ตำรวจ กับ นักเรียน อย่าเอามาเปรียบเทียบกันเลยครับ มันวิบัติทางตรรกะ
คือ นักเรียนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อื่นทราบว่าเป็นนักเรียนเท่ากับตำรวจ (ในกรณีทำงานทั่วๆไปนะครับ)
มันมีตัวอย่างนักเรียนในอารยประเทศอื่นๆมาเปรียบเทียบได้ ตรงนี้จะแก้ต่างอย่างไรหล่ะครับ

สุดท้าย ผมก็ขอวิจารณ์ผู้แต่งบทนี้นะครับ โดยรวมของเรื่อง มันเป็นประเด็นที่ไม่สามารถอธิบาย โต้เถียงกันได้แค่ 4-5 ประโยค คือคุณอาจจะยกมาแค่ผิวเผินเกินไป
ก็เข้าใจนะครับว่ามันไม่ได้เป็นรายการที่มันอภิปราย โต้วาทีกัน เป็นแค่ละครซีรีย์ เพื่อความบันเทิง ประเด็นหลักมันก็คงจะเรื่องรักใคร่ของวัยรุ่น ประเด็นนี้คงเป็นประเด็นรองจุดกระแสเฉยๆ

นั่นสินะครับ ถ้าการเปรียบเทียบตำรวจกับ นร. มันวิบัติมาก
ผมว่า คุณไปดูฮอร์โมนสิครับ เพื่อจะได้ข้อคิดดีๆบ้าง โลกของคุณอาจกว้างขึ้น



ไปเบิ่งตาดูนะครับ 40.25 จะได้รู็อะไรมากขึ้นไม่ใช่ เข้าข้างตัวเองอย่างเดียว

[Blackened]

นั่นสินะครับ ถ้าการเปรียบเทียบตำรวจกับ นร. มันวิบัติมาก
ผมว่า คุณไปดูฮอร์โมนสิครับ เพื่อจะได้ข้อคิดดีๆบ้าง โลกของคุณอาจกว้างขึ้น



ไปเบิ่งตาดูนะครับ 40.25 จะได้รู็อะไรมากขึ้นไม่ใช่ เข้าข้างตัวเองอย่างเดียว

ซีรี่ตลาดๆมาแรงจริงๆ 5555 ถึงขนาดทำให้แค่นี้เป็นargumentที่ดีได้

[BooQBot]

ซีรี่ตลาดๆมาแรงจริงๆ 5555 ถึงขนาดทำให้แค่นี้เป็นargumentที่ดีได้

ป่าวครับ ผมแค่จะบอกว่า ผมไม่ได้คิดเองเออเอง ผมแค่ดูมา แล้ว ผมก็เคยคิดแบบนี้ แต่ มันผิด

[Artificial]

นั่นสินะครับ ถ้าการเปรียบเทียบตำรวจกับ นร. มันวิบัติมาก
ผมว่า คุณไปดูฮอร์โมนสิครับ เพื่อจะได้ข้อคิดดีๆบ้าง โลกของคุณอาจกว้างขึ้น

ไปเบิ่งตาดูนะครับ 40.25 จะได้รู็อะไรมากขึ้นไม่ใช่ เข้าข้างตัวเองอย่างเดียว

ครับคุณ BooQBot คือที่ผมวิจารณ์บทละครนี้ ก็เพราะผมดูมาแล้วน่ะครับ
ขยายความต่อในประเด็นของตัวละครเรื่องนี้ ในบทพูดของครูที่พูดสรุปจบมันดูขัดๆน่ะครับ และเหตุผลของครูที่บอกว่า เขาทำกันมา
ความคิดเห็นของผมที่เขาควรจะตอบในฐานะคนที่อนุรักษ์นิยม ควรจะตอบแบบคิดถึงสภาพความเป็นจริง (อย่างที่ผมได้กล่าวไป reply ที่แล้ว)
มันจะดูประณีประณอมที่สุดก็คือการเป็นการแสดงและอธิบายถึงเหตุผลต่างๆมาแหละครับ ว่าทำไม
เพราะผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับการที่ต้องมาใส่เครื่องแบบอยู่แล้ว(ซึ่งผมก็มีเหตุของผลดังที่กล่าวไปแล้วนะครับ)
มันน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยในการเจรจาหาข้อยุติ สำหรับสังคมประชาธิปไตยที่มีการโต้เถียง เห็นต่างได้
ตั้งคำถามได้ วิพากษ์วิจารณ์กันได้ โดยหลักการของระบอบนี้อยู่แล้ว

สุดท้าย ผมเพียงแค่วิจารณ์ในบทพูดที่ใช้การเปรียบเทียบระหว่างข้าราชการตำรวจ กับนักเรียน ว่ามันแตกต่างกัน
ตรรกะมันแปลกๆนะครับในความคิดเห็นของผม อันนี้คือประเด็นของผมจริงๆเลย ที่ผมรู้สึกขัดๆแต่ผมขอ quote
คุณมาเพื่อแสดงความคิดเห็นของผมมาแค่นั้นเองครับ

ขอเสริมนะครับ กับข้อความคิดว่า "โลกของคุณอาจกว้างขึ้น" คุณสามารถอธิบายขยายความในข้อความนี้ได้ไหมครับว่ากว้างขึ้นนั้น กว้างขึ้นอย่างไรบ้าง
ใช้มาตรฐาน ใช้กฏเกณฑ์อะไรในการมาวัด คือผมเคยเห็นคนต่างก็ว่ากันว่า อีกฝ่ายนั้นเป็นกบในกะลา เพื่อยกตนว่า มีความคิดสติปัญญาสูงส่งกว่า
แค่ประโยค 2-3 ที่เขียนโดยปลายปากกาของคนหนึ่งหรือสองคนประโยคมันจะกว้างขึ้นจนเปิดกะลาเลยหรอครับ ผมคิดว่ามันไม่เพียงพอนะครับ
ต้องดูหลายๆอย่างประกอบด้วย อาจจะต้องมีการอภิปราย เสวนา กัน ระหว่างนักวิชาการ นักเรียน ครู มาวิเคราห์ปัญหา มาถกเถียงกัน
เพื่อให้ทราบถึงความเห็น เหตุผลของหลายๆบุคคล หลายๆฝ่าย นะครับ

ผมยินดีที่จะมาโต้เถียง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณนะครับด้วยความคิด เหตุผล ความรู้สึก และประสบการณ์ ของปัจเจกบุคคลตที่ย่อมแตกต่างกันได้
ก็อาจจะมีแนวความคิด อุดมคติ ที่แตกต่างกัน แม้ปัญหามันอาจจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่มันจะส่งผลต่อระดับโครงสร้างของตัวระบบได้นะครับในความเห็นของผม


// ขอตอบประเด็น จขกท นะครับ
ก็จากที่ดูรายการของคุณปลื้ม The Daily Dose - Voice TV เขาก็พูดถึงปัญหาระบบการศึกษาโดยรวมๆ เรื่องร้องเพลงชาติ
อาจจะหมายถึงการรวมตัวเข้าแถวกันนะครับ และก็พวกระเบียบต่างๆ ที่ประเด็นเหล่าที่ถูกนำมาพูกกันก็อาจจะเพราะ NY Time
มาตั้งประเด็นเรื่อง Vestiges of Military Rule ของโรงเรียนในประเทศไทย ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศเสรีนิยมแล้วมันแตกต่างกันมากครับ

สรุปนะครับในความคิดเห็นของผม ผมคิดว่า
"อะไรที่เป็นสิ่งที่ดี เป็นที่ยอมรับของสังคมในอดีต ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีและเป็นที่ยอมรับของสังคมโลก ในอนาคตข้างหน้านะครับ"
ด้วยสังคมโลกที่แปรเปลี่ยนไป บางอย่างก็ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ให้มันมีอารยะขึ้นนะครับ อย่างเรื่องการศึกษาก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสิ่งหนึ่ง
เพราะก็ต้องยอมรับว่ามันก็คือการโปรแกรมคน แต่จะทำอย่างไรให้โปรแกรมอย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมให้รู้จักคิดได้ ให้โต้เถียงได้
มิใช่เพียงแค่ รับฟังปฏิบัติตาม ห้ามถาม ห้ามสงสัย ทำตามอย่างเดียว

[tsted5u7]

บทสนทนาที่คุณ quote มา ตรรกะมันแปลกๆ เหมือนจะวิบัตินะครับ ด้วยสถานภาพแล้วมันแตกต่างกันอย่างสิ้งเชิง ชุดตำรวจนั้นเหตุผลก็ตามอย่างที่กล่าวมา
แต่มันติดตรงว่าให้รู้หน้าที่ของนักเรียนนะครับ คือคุณไม่จำเป็นต้องอ้างตำรวจมาเลย (มันแตกต่างกันคือ ตำรวจมันเป็นอาชีพนะครับ รับค่าตอบแทน นักเรียนมันก็เหมือนกับการกล่าวรวมๆของผู้ที่สมัครเข้ารับการศึกษา)
คือ การที่คุณจะสื่อว่าชุดนี้ทำให้รู้หน้าที่ มันก็ส่อไปได้ว่าหน้าที่จะยึดติดกับแค่เสื้อผ้า อาภรณ์ที่สวมใส่ เท่านั้นหรอครับ เหมือนเป็นแค่หน้ากากมาผิดบังใบหน้าเฉยๆ

ถ้าคุณจะอนุรักษ์นิยมแบบมีเหตุผล คุณก็แค่บอกเหตุผล ประมาณว่าเพื่อเอกภาพ สามัคคี ประเพณี หรืออาจจะอ้างความเท่าเทียม ไม่ให้เกิดความเลื่อมล้ำทางชนชั้น ไปด้วยก็ได้
ซึ่งผมก็มีความเห็นส่วนตัวกับประเด็น ความเลื่อมล้ำ นะครับ คือกังวลเล็กน้อยแต่ก็เอามาอ้างได้ไม่เต็มที่หรอกนะครับ เพราะประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นสังคมนิยม 100 %
จะอ้างความเท่าเทียมแบบคอมมิวนิสต์ผมก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกครับ ถึงผมจะไม่ได้สนับสนุนให้ "ไม่ใส่ชุดนักเรียนได้" ก็ตาม

สรุปคือ ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า ตำรวจ กับ นักเรียน อย่าเอามาเปรียบเทียบกันเลยครับ มันวิบัติทางตรรกะ
คือ นักเรียนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อื่นทราบว่าเป็นนักเรียนเท่ากับตำรวจ (ในกรณีทำงานทั่วๆไปนะครับ)
มันมีตัวอย่างนักเรียนในอารยประเทศอื่นๆมาเปรียบเทียบได้ ตรงนี้จะแก้ต่างอย่างไรหล่ะครับ

สุดท้าย ผมก็ขอวิจารณ์ผู้แต่งบทนี้นะครับ โดยรวมของเรื่อง มันเป็นประเด็นที่ไม่สามารถอธิบาย โต้เถียงกันได้แค่ 4-5 ประโยค คือคุณอาจจะยกมาแค่ผิวเผินเกินไป
ก็เข้าใจนะครับว่ามันไม่ได้เป็นรายการที่มันอภิปราย โต้วาทีกัน เป็นแค่ละครซีรีย์ เพื่อความบันเทิง ประเด็นหลักมันก็คงจะเรื่องรักใคร่ของวัยรุ่น ประเด็นนี้คงเป็นประเด็นรองจุดกระแสเฉยๆ

ผมว่าคุณลองเข้าไป ธนาคาร, เซเวน, โรงหนัง, อำเภอ(ที่ทำบัตรประชาชน), เข้าร้านอาหารตามสถานที่ต่าง, โรงพยาบาล, ลองไปเดินแถวสีลมที่มีพนักงานเยอะๆ ดู มีบางคนต้องห้อยบัตร แต่ชุดสุภาพเข้าสถานที่ทำงาน ผมไม่เห็นมีใครเขาจะโวยวายเรื่องเครื่องแบบกันเลยนะครับ แล้วก็ผมไม่มีใครใส่ เสื้อกล้ามกางเกงขาก๋วยสวมหมวกฟาง ทำผมมีรุ้ง เข้าทำงานหรอกครับ
ก่อนที่คุณจะตรวจตรรกะด้วยตนเอง คุณควรจะมองรอบข้างแล้วให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนที่พูดวิจารณ์ ผมว่ามันไม่เสียหายอะไรหรอกครับ แค่เดินดู 500-600 เมตร
มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกแค่เครื่องแบบนักเรียนเอง แล้วมันก็ยังมีข้อดี เวลาเกิดเรื่องอุบัติเหตุอย่างน้อยเขาก็พอรู้แล้วว่าเรามาจากที่ไหนมีที่ติดต่อได้ แล้วเรื่องพวกนี้มันก็ไม่เกี่ยวกับมีตราไม่มีตราโรงเรียนหรอก แค่เอาง่ายๆ คนบางกลุ่มแค่เมาเหล้าก็พูดกันด้วยภาษาลูกปืน เรียบร้อย

[ipromise11]

ครู : การที่ นร. ออกไปข้างนอกแล้วเกิดโชคร้ายโดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าไป นักเรียนจะขอความช่วยเหลือจากใคร

นร. : ตำรวจไงครับ

ครู : แล้ว นร. จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นตำรวจถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ

นร. : - - ??

ครู : ฉะนั้นชุดที่ตำรวจใส่อยู่ ก็เป็นชุดที่บ่งบอกคนที่เห็น ให้รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจนะ
และเป็นการเตือนตัวเอง ให้รู้หน้าที่อยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ทำอะไร

นร. : -.-

ครู : การใส่ชุด นร. มาโรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ได้ใส่มาเพื่อเพียงเพราะว่า เค้าทำกันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องใส่แบบนี้
แต่เป็นการใส่ชุดเพื่อ เตือนให้ตัวเองรู้ว่า เราเป็น นร. มีหน้าที่เรียนหนังสือ
มาโรงเรียน เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ ไหว้อาจารย์ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อโตไป จะได้มีแต่คนเอ็นดูเรา

นร. : T T

ครู : เมื่อเราอยู่ในฐานะอะไร ก็ขอให้เราปฏิบัติตนในฐานะนั้นๆให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จด้านอื่นจะตามมาเอง ไม่ต้องรีบร้อนทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเร็วเกินไปหรอก นร.

ก๊อปมาเรียกไลค์ไม่ให้เครดิตเลยนะครับท่านแหม่

[whitebaa555]

ครู : การที่ นร. ออกไปข้างนอกแล้วเกิดโชคร้ายโดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าไป นักเรียนจะขอความช่วยเหลือจากใคร

นร. : ตำรวจไงครับ

ครู : แล้ว นร. จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นตำรวจถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ

นร. : - - ??

ครู : ฉะนั้นชุดที่ตำรวจใส่อยู่ ก็เป็นชุดที่บ่งบอกคนที่เห็น ให้รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจนะ
และเป็นการเตือนตัวเอง ให้รู้หน้าที่อยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ทำอะไร

นร. : -.-

ครู : การใส่ชุด นร. มาโรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ได้ใส่มาเพื่อเพียงเพราะว่า เค้าทำกันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องใส่แบบนี้
แต่เป็นการใส่ชุดเพื่อ เตือนให้ตัวเองรู้ว่า เราเป็น นร. มีหน้าที่เรียนหนังสือ
มาโรงเรียน เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ ไหว้อาจารย์ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อโตไป จะได้มีแต่คนเอ็นดูเรา

นร. : T T

ครู : เมื่อเราอยู่ในฐานะอะไร ก็ขอให้เราปฏิบัติตนในฐานะนั้นๆให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จด้านอื่นจะตามมาเอง ไม่ต้องรีบร้อนทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเร็วเกินไปหรอก นร.

อาจารเขาก็พูดถูกน่ะ ผมว่าเด็กสมัยนี้มันหลงงมงายอะไรใหม่ตามยุคสมัยเกิน
แต่ผมก็ไม่ได้บอกน่ะ ว่าเขาไม่ใช่คนดี เขาก็มีทั้งดีและไม่ดี และมีทั้งคิดเป็นและคิดไม่เป็น เหมือนกัน

[jeditrainer]

อาจารเขาก็พูดถูกน่ะ ผมว่าเด็กสมัยนี้มันหลงงมงายอะไรใหม่ตามยุคสมัยเกิน
แต่ผมก็ไม่ได้บอกน่ะ ว่าเขาไม่ใช่คนดี เขาก็มีทั้งดีและไม่ดี และมีทั้งคิดเป็นและคิดไม่เป็น เหมือนกัน

ถูกเลยครับ หลงงมงายกับเสรีภาพที่มากเกินไป แต่หลงลืมหน้าที่ของตัวเองว่าควรต้องทำอะไรให้สังคมด้วย ไม่ใช่ยึดแต่ตัวเองจนกลายเป็นความเห็นแก่ตัว
ก็เพราะยุคสม้ัยนี้คนที่อุทิศตนให้กับสังคมไม่มีอำนาจเท่าพวกเกาะกินสังคมที่มีอำนาจล้นฟ้า เด็กยุคใหม่ควรจะเตือนตัวเองว่าควรจะไปในทิศทางไหนที่เมื่อ
โตไปแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะพาประเทศให้อยู่รอด ผมว่าถ้าเด็กส่วนใหญ่คิดเหมือนกับเนติวิทย์ ประเทศเราก็คงไม่พ้นเจอชะตากรรมเดียวกับโรมันที่ล่มสลาย
เพราะคนเห็นแก่ตัวในสังคมมีมากเกินไป จนประเทศไม่สามารถอยู่รอดได้ และจุด ๆ นี้ จะทำให้ไทยไม่กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็เพราะเด็กรุ่นใหม่
ไม่มีจิตอาสาพัฒนาสังคม ยึดแต่ตัวเองเป็นใหญ่ ฉันต้องได้อย่างนั้น ฉันต้องได้อย่างนี้ แต่ไม่เคยให้อะไรกับสังคม สุดท้ายประเทศจะเป็นอย่างไรก็คงแล้วแต่บุญแต่กรรม

[akegame]

ครู : การที่ นร. ออกไปข้างนอกแล้วเกิดโชคร้ายโดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าไป นักเรียนจะขอความช่วยเหลือจากใคร

นร. : ตำรวจไงครับ

ครู : แล้ว นร. จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นตำรวจถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ

นร. : - - ??

ครู : ฉะนั้นชุดที่ตำรวจใส่อยู่ ก็เป็นชุดที่บ่งบอกคนที่เห็น ให้รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจนะ
และเป็นการเตือนตัวเอง ให้รู้หน้าที่อยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ทำอะไร

นร. : -.-

ครู : การใส่ชุด นร. มาโรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ได้ใส่มาเพื่อเพียงเพราะว่า เค้าทำกันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องใส่แบบนี้
แต่เป็นการใส่ชุดเพื่อ เตือนให้ตัวเองรู้ว่า เราเป็น นร. มีหน้าที่เรียนหนังสือ
มาโรงเรียน เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ ไหว้อาจารย์ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อโตไป จะได้มีแต่คนเอ็นดูเรา

นร. : T T

ครู : เมื่อเราอยู่ในฐานะอะไร ก็ขอให้เราปฏิบัติตนในฐานะนั้นๆให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จด้านอื่นจะตามมาเอง ไม่ต้องรีบร้อนทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเร็วเกินไปหรอก นร.

ฟังจากคลิปจะดีกว่าครับได้อารมณ์มากๆ นาทีที่ 40.24 ครับ
ยังไงให้เครดิตหนังเขาด้วยนะครับ เพราะประโยคที่โพสมาจากหนังที่กำลังดังมากเรื่องนี้

[pinkie pie]

ครู : การที่ นร. ออกไปข้างนอกแล้วเกิดโชคร้ายโดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าไป นักเรียนจะขอความช่วยเหลือจากใคร

นร. : ตำรวจไงครับ

ครู : แล้ว นร. จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นตำรวจถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ

นร. : - - ??

ครู : ฉะนั้นชุดที่ตำรวจใส่อยู่ ก็เป็นชุดที่บ่งบอกคนที่เห็น ให้รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจนะ
และเป็นการเตือนตัวเอง ให้รู้หน้าที่อยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ทำอะไร

นร. : -.-

ครู : การใส่ชุด นร. มาโรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ได้ใส่มาเพื่อเพียงเพราะว่า เค้าทำกันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องใส่แบบนี้
แต่เป็นการใส่ชุดเพื่อ เตือนให้ตัวเองรู้ว่า เราเป็น นร. มีหน้าที่เรียนหนังสือ
มาโรงเรียน เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ ไหว้อาจารย์ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อโตไป จะได้มีแต่คนเอ็นดูเรา

นร. : T T

ครู : เมื่อเราอยู่ในฐานะอะไร ก็ขอให้เราปฏิบัติตนในฐานะนั้นๆให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จด้านอื่นจะตามมาเอง ไม่ต้องรีบร้อนทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเร็วเกินไปหรอก นร.

ปัญญาอ่อน งี้ตำรวจนอกเครื่องแบบก็เป็นตำรวจที่ลืมความเป็นนตำรวจหรือไง
คนเราจะอยู่ที่ใหนจะแต่งชุดอะไรก็ไม่สำคัญถ้าเราระลึกอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นใคร
ตำรวจจะแต่งชุดอะไรก็เป็นตำรวจ นักเรียนแต่งชุดอะไรก็เป็นนักเรียน ถ้าจิตใจมันไม่ใช่นักเรียนจะแต่งตัวเรียบร้อยขนาดใหนมันก็ไม่เรียน
อีกอย่างการเข้าแถว สวดมนต์ ไหว้ครูอาจารย์ทั้งหมดนี่ทำเพียงเพื่อให้คนเอ็นดูเท่านั้นน่ะเหรอ
เพราะการทำตามกฎเหล่านี้เพียงเพราะต้องการให้ผู้ที่ใหญ่กว่าเอ็นดูเราไม่ได้เกิดจากการเคารพอย่างแท้จริง
การทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการสนับสนุนระบบอุปถัมภ์และเป็นการกดหัวเด็กให้อยู่กับระบบนี้ต่อไป
สุดท้ายก็โตมาเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเบื่อยึดติดกับอะไรเดิมๆและก็พลอยจะกดหัวเด็กรุ่นใหม่ต่อๆไป

[bigza500]

ปัญญาอ่อน งี้ตำรวจนอกเครื่องแบบก็เป็นตำรวจที่ลืมความเป็นนตำรวจหรือไง
คนเราจะอยู่ที่ใหนจะแต่งชุดอะไรก็ไม่สำคัญถ้าเราระลึกอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นใคร
ตำรวจจะแต่งชุดอะไรก็เป็นตำรวจ นักเรียนแต่งชุดอะไรก็เป็นนักเรียน ถ้าจิตใจมันไม่ใช่นักเรียนจะแต่งตัวเรียบร้อยขนาดใหนมันก็ไม่เรียน
อีกอย่างการเข้าแถว สวดมนต์ ไหว้ครูอาจารย์ทั้งหมดนี่ทำเพียงเพื่อให้คนเอ็นดูเท่านั้นน่ะเหรอ
เพราะการทำตามกฎเหล่านี้เพียงเพราะต้องการให้ผู้ที่ใหญ่กว่าเอ็นดูเราไม่ได้เกิดจากการเคารพอย่างแท้จริง
การทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการสนับสนุนระบบอุปถัมภ์และเป็นการกดหัวเด็กให้อยู่กับระบบนี้ต่อไป
สุดท้ายก็โตมาเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเบื่อยึดติดกับอะไรเดิมๆและก็พลอยจะกดหัวเด็กรุ่นใหม่ต่อๆไป

ผมว่าน้องตีความหมายผิดแล้วก็พูดแต่สิ่งที่ตัวเองคิดนะ คำว่าเอนดู สำหลับคนที่มีอายุน้อยกว่าหรือคนที่มีตำแน่งต่ำกว่า ลูกน้อง มันคือความเคารพเรานะ ผมทำงาน ผมเจ้านายทั้งดีและไม่ดี คนที่ดีแน่นอนสำหลับระดับสูงกว่าเค้าต้องเอนดูแต่สำหลับผม ผมให้ความเคารพและชื่นชม และเอาเป็นตัวอย่าง
ความน่าเอนดูในวิศัยทัศคุณ เป็นแค่เด็กดูเรียบร้อย ไม่ได้มองในมุมอื่น อย่าพูดแต่สิ่งที่คุณคิดอย่างเดียว คิดในสิ่งที่คนอื่นคิดบ้างนะครับ เดียวจะถูกมองง่า โง่

[pinkie pie]

ผมว่าน้องตีความหมายผิดแล้วก็พูดแต่สิ่งที่ตัวเองคิดนะ คำว่าเอนดู สำหลับคนที่มีอายุน้อยกว่าหรือคนที่มีตำแน่งต่ำกว่า ลูกน้อง มันคือความเคารพเรานะ ผมทำงาน ผมเจ้านายทั้งดีและไม่ดี คนที่ดีแน่นอนสำหลับระดับสูงกว่าเค้าต้องเอนดูแต่สำหลับผม ผมให้ความเคารพและชื่นชม และเอาเป็นตัวอย่าง
ความน่าเอนดูในวิศัยทัศคุณ เป็นแค่เด็กดูเรียบร้อย ไม่ได้มองในมุมอื่น อย่าพูดแต่สิ่งที่คุณคิดอย่างเดียว คิดในสิ่งที่คนอื่นคิดบ้างนะครับ เดียวจะถูกมองง่า โง่

เอ็นดู=เคารพ? เพี้ยนรึเปล่า ถ้าจะอ้างว่ามุมมองส่วนตัวนี่ก็เป็นมุมมองที่บิดเบี้ยวและพิลึกพิลั่นเอามากๆ
เพราะสองคำนี้ไม่ได้มีความใกล้เคียงกันทั้งโดยความหมายและโดยนัยยะเลยแม้แต่นิดเดียว จะต้องให้ชี้แจงรึเปล่าว่าสองคำนี้มันแตกต่างกันมากขนาดใหน

[Previously]

ครู : การที่ นร. ออกไปข้างนอกแล้วเกิดโชคร้ายโดนผู้ร้ายวิ่งราวกระเป๋าไป นักเรียนจะขอความช่วยเหลือจากใคร

นร. : ตำรวจไงครับ

ครู : แล้ว นร. จะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นตำรวจถ้าเค้าไม่ได้ใส่ชุดตำรวจ


นร. : - - ??

ครู : ฉะนั้นชุดที่ตำรวจใส่อยู่ ก็เป็นชุดที่บ่งบอกคนที่เห็น ให้รู้ว่าเค้าเป็นตำรวจนะ
และเป็นการเตือนตัวเอง ให้รู้หน้าที่อยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ทำอะไร

นร. : -.-

ครู : การใส่ชุด นร. มาโรงเรียนก็เหมือนกัน ไม่ได้ใส่มาเพื่อเพียงเพราะว่า เค้าทำกันมานานแล้ว ยังไงก็ต้องใส่แบบนี้
แต่เป็นการใส่ชุดเพื่อ เตือนให้ตัวเองรู้ว่า เราเป็น นร. มีหน้าที่เรียนหนังสือ
มาโรงเรียน เคารพธงชาติ สวดมนต์ไหว้พระ ไหว้อาจารย์ นอบน้อมต่อผู้ใหญ่ เพื่อโตไป จะได้มีแต่คนเอ็นดูเรา

นร. : T T

ครู : เมื่อเราอยู่ในฐานะอะไร ก็ขอให้เราปฏิบัติตนในฐานะนั้นๆให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จด้านอื่นจะตามมาเอง ไม่ต้องรีบร้อนทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเร็วเกินไปหรอก นร.

จะได้ไปเลียขา ผู้ใหญต่อไปคับ

โหซึ้งมาก หน้าเสาธงวันๆผมแทบไม่เห็นเด็กคนไหน แสดงถึงความรักชาติเลย ปากแทบไม่อยากจะอ้าเลยด้วยซํ้า
รักชาติจังเลย