ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 40
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811

    จิตใจของมนุษย์

    ทกวันนี้ผมพยายามคิด คิดแล้วคิดอีก ถึงเรื่้องจิตใจของมนุษย์

    เรากินหมู ปลา เนื้อ ไก่ เป็ด อะไรต่างๆนาๆ โดยไม่รู้ึสึกรู้สาิไร แต่พอมีข่าวหมาถูกเอาไปเป็นอาหารทำไมเราถึงโกรธถึงแค้นนัก

    แล้วที่เรากินไปไม่ใช่สิ่งมีชีวิตหรือ หมู ไก่ เป็ด เนื้อ มันก็มีพ่อมีแม่ มันก็อยู่ของมัน มันมีครอบครัว แต่เรากลับไปฆ่ามันเพื่้อเอาเป็นอาหาร โดยที่เรากินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่รู็สึกผิดซักนิด
    แล้วทำไมพอเห็นข่าว หมาย่างไฟ เราถึงเดือดร้อนใจนัก แต่ในทางตรงกันข้าม พอเราเห็นหมูย่างไฟ เรากลับคิดว่ามันน่าอร่อย ? มันต่างกันตรงไหน มันก็สิ่งมีชีวิตเหมือนกัน เพราะอะไรกัน?

    ถ้าจะพูดเรื่องบุญเรื่องบาป ...... ในเมื่อการฆ่าสิ่งมีชีวิตคือบาปทั้งสิ้น งั้นเราฆ่ามด แมลงมันบาปหรือไม่? หรือบาปมันมีระดับ ฆ่ามดบาประดับ1 ฆ่าหมาบาปหนัก ฆ่าคนบาปสุดๆ แบบนี้หรืิอ?

    มันคืออะไร ผมพยายามคิดจนปวดหัวก็หาคำตอบกับสิ่งนี้ไม่ได้

    เฮ้อออ


  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    175
    กล่าวขอบคุณ
    767
    ได้รับคำขอบคุณ: 44
    คุณมองข้าม ความคิด มนุษย์ไม่มีจิตใจ แต่มีความคิดที่แตกต่าง
    จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต้องแพ้ใจจอมนาง

  3. #3
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    38
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    บางครั้งมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนหนะครับ

    ถ้ามองอย่างคุณก็ถูก แต่ผมอยากให้ลองมองอีกมุมหนึ่งตามผมและกันนะครับ ((อย่าเพิ่งคิดแย้งผมระหว่างอ่านนะครับให้คิดตามๆไปก่อน))

    ลองมองในด้านประโยชน์ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดและกันนะครับ เริ่มกันที่หมาก่อนเลยและกันครับ (มองในสายตาคนทั่วๆไปนะครับ)

    1.เฝ้าบ้าน
    2.รักเจ้านาย
    3.เป็นสัตว์เลี้ยง
    4.ถือว่าเป็นเพื่อนของคนมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อน

    ซึ่งใน 4 ข้อที่กล่าวมานี้ ไม่มีข้อไหนที่บอกว่ามันเป็นอาหาร และประโยชน์ของมันมีค่ามากกว่าจะมาเป็นอาหาร หนะครับ

    มาดูหมูกันบ้างหนะครับ

    1.นำมาปรุงอาหาร (เพราะดูจากทรงแล้วคงไม่น่าเอามาเผ้าบ้านเท่าไหร่)
    2.น้อยมากที่จะเห็นว่านำมาเป็นสัตว์เลี้ยง(เห็นได้ตามข่าว)
    3.ถือว่าเป็นอาหารสำครับคนในยุคสมัยก่อน(เพราะล่าง่าย)

    ซื่งในบางครั้ง บางเหตุผลก็เกิดจากการทำสื่อทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อนจนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

    ผมคิดว่าน่าจะพอเข้าใจบ้างกันแล้ว แต่ถ้าสำหรับบางคนที่อ่านแล้วไม่เข้าใจงั้นผมจะเปรีบลเทียบอีกวิธีให้และกันครับเพื่อความเข้าใจง่ายๆหน่อย

    งั้นผมจะเปรียบเทียบ คนกับคนให้และกันครับ (เพื่อให้ง่ายก็ความเข้าใจ)


    นาย ก. กับ นาย ข. ไปสมัครงานที่บริษิทเดียวกัน นาย ก. จบนิเทศการภาพยนต์ นาย ข. จบ ป.4 ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัท ถ่ายหนัง ถ้าเป็นคุณจะเลือกใคร

    ระหว่างนาย ก. กับ นาย ข. น่าจะเดาไม่อยากคงต้องเป็นนาย ก. อ่าว!!! นาย ข.ก็เป็นคนนะทำไมไม่เลือกนาย ข. หละ แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนไปใช้ชีวิตเดี๋ยวเขาก็ตายหลอก

    ไม่กลัวบาปกำหรอ บลาๆๆๆๆ

    นี้แหละครับคือสิ่งที่ผมอยากให้ดู บางครั้งคนเราก็มองกันที่ประโยชน์มากกว่าหลักการอื่นๆ

    เพราะถ้าเอา นาย ข. เข้าบริษัท คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นแน่นอนมีแต่จะเสียตังไปปล่าว (มุมมองเจ้าของบริษัท)

    เหมือนดั่งเช่น หมู ถ้าเอาหมูมาเฝ้าบ้าน คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นแถมเปลืองข้าวสุกปล่าวๆซ้ำร้ายอาจโดนปล้นบ้านอีก (มุมมองเจ้าของบ้าน)

    เห็นไหมหละครับ ความจริงมันเป็นอย่างงี้แหละครับต้องทำใจ

  4. รายชื่อสมาชิกจำนวน 18 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    123
    กล่าวขอบคุณ
    97
    ได้รับคำขอบคุณ: 110
    ฆ่าสัตว์ใหญ่สัตว์เล็กก็บาปเหมือนกันครับ ที่บาปมากบาปน้อยอยู่ที่เจตนาครับ

  6. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    173
    กล่าวขอบคุณ
    11
    ได้รับคำขอบคุณ: 54
    วัฒนธรรม ความเชื่อ

    สองสิ่งนี้มีอิทธิพลที่ทำให้จิตใจคิดไปเช่นนั้นครับ

    เราไม่ชอบที่ใครทำร้ายสุนัข หรือทานมันเป็นอาหาร แต่ในขณะที่บางที่ บางวัฒนธรรม เห็นว่ามันเป็นอาหาร และไม่ถือว่าผิดศิลธรรมอะไรที่จะทานมัน

    สังคมที่เราอาศัยเห็นว่าอะไรบาป สิ่งนั้นแหละครับที่เราควรหลีกเลี่ยงไม่ทำมัน

  8. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  9. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    208
    กล่าวขอบคุณ
    1
    ได้รับคำขอบคุณ: 148
    ฆ่าสัตว์หก็บาปทั้งนั้นแหละครับ แต่ต้องดูคุณและโทษของมัน

  10. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    212
    กล่าวขอบคุณ
    656
    ได้รับคำขอบคุณ: 63
    กินเพื่อความอยู่รอด มันเป็นเรื่อ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Guilty Crown : 30th May 2016 เมื่อ 16:14

  11. #8
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    2,834
    กล่าวขอบคุณ
    672
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,693
    ผมว่ามันคงเป็นความคิดต่างอะ เปรียบเทียบแบบเด็กๆเลยนะ
    ชนเผ่าที่ 1 กิน ไก่,หมู,ปลา,กุ้ง สัตว์เล็กต่างๆนาๆ
    ชนเผ่าที่ 2 กิน เนื้อมนุษย์ กินช้างแมมมอส กินศพญาติที่ตาย

    พอชนเผ่า 1 รู้มันก็ขยะแขยง อี๋ กิน ไร อะ บ้า อะตัวเธอวว บ้านเค้าไม่กินกันแหวะๆ

    ชนเผ่า 2 รู้ แกนั้นแหละกินอะไรกินแต่ของน่าขยะยแขยง บ้านเค้าไม่กินกันแหวะๆ ใครๆเค้าก็ไม่กิน

    -_- มั้ง

  12. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    497
    กล่าวขอบคุณ
    135
    ได้รับคำขอบคุณ: 121
    เรื่องการกีนเนื้อสัตว์นี่ จะกินหมา หรือกินหมู มันก็แย่เหมือนๆกัน แต่ยังไงซะคนเราก็ต้องกินเนื้อสัตว์ เพื่อดำรงชีวิตอยู่ (การกินโปรตีนจากพืชไม่เพียงพอสำหรับเด็ก) เราก็เลยทำให้มันมีความทารุณน้อยลงโดยการ ที่ทำฟาร์ม ถ้าจะถามว่าทำไมทำฟาร์มแล้วรู้สึกแย่ลง ผมคงตอบไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกนะครับ คิดว่าคนที่รู้สึกแย่เพราะมีคนกินหมา ส่วนหนึ่งเพราะเรารักหมา อีกส่วนหนึ่งเพราะเรารู้ว่าเค้าเลี้ยงแบบที่เราเลี้ยง แต่ก็ยังกินอีก มันเลยเศร้าใจ
    สรุปว่า ถ้าจะทำอะไรที่มันผ่านกระบวนการ เพื่อผลิตมาเป็นอาหารโดยเฉพาะ เราจะรู้สึกแย่น้อยลง และเมื่อกินจนชิน เราก็จะไม่รู้สึกอะไรเลย

    ส่วนเรื่องฆ่าแมลงต่างๆ ก็มันเป็นบาปนั่นแหละครับ แต่ถ้าเราเลือกไม่ทำแบบนั้น เราก็อาจจะไปทำบาปอย่างอื่นต่อได้อีก แต่ในพุทธศาสนา เราหาทางออกที่ดีกว่านั้นไว้ เช่นหลีกเลี้ยงในที่ที่มันอยู่อยู่แล้ว หรือถ้ามันทำอันตรายเรา ก็จับมันไปไว้ที่อื่นแทนการฆ่าแทนครับ

    เสริมนิดนึงว่า บาปมันเป็นความรู้สึก หากเราทำอะไรไม่ดี แล้วรู้สึกแย่นั่นเป็นผลกรรมแล้ว แต่ถ้าเราไม่รู้สึกก็ไม่ผิดนะครับ แต่ห้ามหลอกตัวเองว่าไม่รู้สึกนะ เพราะเวลาเราใกล้ตายเรื่องที่ทำเป็นไม่รู้สึกมันจะกลับเข้ามา ตอนนั้นแหละจะแย่ (เหมือนก่อนสอบที่หลอกตัวเองว่าสอบได้ไม่ต้องอ่านหนังสือ พอจะสอบจริงๆมันก็อ่านไม่ทันซะแล้ว ความรู้สึกประมาณนั้นครับ)

  13. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    173
    กล่าวขอบคุณ
    16
    ได้รับคำขอบคุณ: 53
    ผมอยากบอกว่า จขกท คิดเหมือนเมทผมเลย

  15. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    469
    กล่าวขอบคุณ
    65
    ได้รับคำขอบคุณ: 288
    Blog Entries
    3
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ shisaku อ่านกระทู้
    ทกวันนี้ผมพยายามคิด คิดแล้วคิดอีก ถึงเรื่้องจิตใจของมนุษย์

    เรากินหมู ปลา เนื้อ ไก่ เป็ด อะไรต่างๆนาๆ โดยไม่รู้ึสึกรู้สาิไร แต่พอมีข่าวหมาถูกเอาไปเป็นอาหารทำไมเราถึงโกรธถึงแค้นนัก

    แล้วที่เรากินไปไม่ใช่สิ่งมีชีวิตหรือ หมู ไก่ เป็ด เนื้อ มันก็มีพ่อมีแม่ มันก็อยู่ของมัน มันมีครอบครัว แต่เรากลับไปฆ่ามันเพื่้อเอาเป็นอาหาร โดยที่เรากินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่รู็สึกผิดซักนิด
    แล้วทำไมพอเห็นข่าว หมาย่างไฟ เราถึงเดือดร้อนใจนัก แต่ในทางตรงกันข้าม พอเราเห็นหมูย่างไฟ เรากลับคิดว่ามันน่าอร่อย ? มันต่างกันตรงไหน มันก็สิ่งมีชีวิตเหมือนกัน เพราะอะไรกัน?

    ถ้าจะพูดเรื่องบุญเรื่องบาป ...... ในเมื่อการฆ่าสิ่งมีชีวิตคือบาปทั้งสิ้น งั้นเราฆ่ามด แมลงมันบาปหรือไม่? หรือบาปมันมีระดับ ฆ่ามดบาประดับ1 ฆ่าหมาบาปหนัก ฆ่าคนบาปสุดๆ แบบนี้หรืิอ?

    มันคืออะไร ผมพยายามคิดจนปวดหัวก็หาคำตอบกับสิ่งนี้ไม่ได้

    เฮ้อออ

    อย่าคิดมาก

    โลกนี้มันก็เป็นงี้แหละ

    สิ่งที่คนอื่่นทำ มันผิดหมด

    สิ่งที่ตัวเองทำ มันถูกหมด

    ก็คือเห็นแก่ตัวนั่นเอง

  16. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    934
    กล่าวขอบคุณ
    421
    ได้รับคำขอบคุณ: 520
    กลางๆไว้ครับ เราต้องกินอาหารเพื่อเอาตัวรอด ถ้ากินแต่ผักก็ไม่ได้สารอาหารและพลังงานที่มีแต่ในเนื้อ

    ส่วนพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ห้ามกินเนื้อ นั้นก็คือเราก็กินเนื้อได้ไม่ต้องกลัวปาบ

  18. #13
    ҳ̸Ҳ̸ҳ ҳ̸Ҳ̸ҳ ҳ̸Ҳ̸ҳ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,378
    กล่าวขอบคุณ
    14,834
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,727
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ beer6441 อ่านกระทู้
    ฆ่าสัตว์ใหญ่สัตว์เล็กก็บาปเหมือนกันครับ ที่บาปมากบาปน้อยอยู่ที่เจตนาครับ
    บาปมากน้อย เอาอะไรมาวัด?

  19. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    กระทู้
    535
    กล่าวขอบคุณ
    531
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,161
    คนศาสนาอื่น หรือไม่นับถือศาสนา ไม่เห็นมานั่งซีเรียสว่ากินอะไรบาปไม่บาปเลย
    กินๆไปเถิดครับ หรือไม่ก็ระลึกไว้ว่าต้องยอมบาปเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอด เดิมทีมนุษย์เราก็ล่าเพื่อประทังชีวิต

    ผมสงสัยว่า การทำไร่พืชผักผลไม้เป็นการบุกรุกป่า ทำให้แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ลดลง เกษตรกรจำเป็นต้องมีการใช้ยาฆ่าแมลง มีการกำจัดศัตรูพืช เพื่อให้ผลผลิตออกมาดี
    คุณว่ากินผัก-ผลไม้บาปไหม?

    การซื้อเนื้อหมู ทำให้เกิดdemandในเนื้อหมูมากขึ้น ทำให้ต้องฆ่าหมูเพิ่ม ผู้บริโภคบาปไหม? ถ้าซื้อไปถวายพระ พระบาปไหมที่เป็นตัวการ?

    ตราบใดที่ยังไม่รู้ชัดเจนถึงความหมาย,นิยามที่แท้จริงของ บาป,บุญ ผมว่าถกกันไปก็ไม่ได้อะไรขึ้่นมา


    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ babymaster อ่านกระทู้
    บาปมากน้อย เอาอะไรมาวัด?
    สังฆทาน ดอกไม้ ธูป เทียน

  20. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  21. #15
    กรุณาฟังให้จบ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่เดิม
    กระทู้
    745
    กล่าวขอบคุณ
    280
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    ผมยึดคำนี้นะ บาปอิ่มกับบาปอดจะเลือกอะไร

  22. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    กะลาแลนด์ 4.0
    กระทู้
    2,314
    กล่าวขอบคุณ
    1,843
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,598
    ผักก็มีชีวิตนะครับ แถมน้ำที่เรากินก็ยังมีจุลชีพอาศัยอยู่มากมาย

    ถ้านับบาปที่จำนวนเมื่อคืนผมบาปหนาเลย กินยาคูลท์ไปขวดนึงสังหารหมู่จุลินทรีย์ไป 8000 ล้านตัว

  23. #17
    แอบมี Earth อยู่ในใจ ก็พอ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,147
    กล่าวขอบคุณ
    1,636
    ได้รับคำขอบคุณ: 994
    Blog Entries
    1
    คิดเหมือนกันเลยฮะจขกท. เมื่อก่อนผมจะรำคาญมากพวกไม่กินสัตว์ใหญ่ ถ้าเป็นพวกนับถือเจ้าแม่กวนอิมผมไม่ว่าเค้านะ แต่พวกแบบไม่กินเพระาสงสาร ไปกินทำไมนู่นนี่นี่นั่น อยากถามจริงๆแล้วเอ็งกินไก่กินหมูกินปลาทำไมวะ
    เอิร์ธน้อยผู้น่ารัก อร๊ายยยย

  24. #18
    >< OH MILK!!!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    my Home
    กระทู้
    658
    กล่าวขอบคุณ
    525
    ได้รับคำขอบคุณ: 508
    = = โลกมันก็ไม่พ้นเรื่องแบบนี้หรอกครับ สุดท้ายแม้เเต่คนกันเอง ถ้ามันถึงที่สุดมันก็กินกันเอง ..

  25. #19
    -=::_GreaN_::=-
    วันที่สมัคร
    Dec 2012
    ที่อยู่
    สุราษฎร์ธานี
    กระทู้
    836
    กล่าวขอบคุณ
    891
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,709
    เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยกินไงครับ.นอกจากนี้สุนัขยังเป็นคู่ซี้ของมนุษย์มาหลายพันปีแล้วครับ .^^
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Real men cry : 1st August 2013 เมื่อ 09:43

  26. #20
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    48
    กล่าวขอบคุณ
    365
    ได้รับคำขอบคุณ: 38
    ถ้ากินก็ควรระลึกถึงเขาที่เขาให้เราได้อิ่มท้อง จะเป็นการแผ่เมตตาไปด้วยครับ สิ่งทุกสิ่งเกิดเพื่อหน้าที่ของมันบุญกรรมชาติก่อน ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ (พระอาจารณ์สอนมา)
    แบ่งเวลาเล่้นให้เป็นเวลา ไม่หักโหม

  27. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    กะลาแลนด์ 4.0
    กระทู้
    2,314
    กล่าวขอบคุณ
    1,843
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,598
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ kabukiput อ่านกระทู้
    คิดเหมือนกันเลยฮะจขกท. เมื่อก่อนผมจะรำคาญมากพวกไม่กินสัตว์ใหญ่ ถ้าเป็นพวกนับถือเจ้าแม่กวนอิมผมไม่ว่าเค้านะ แต่พวกแบบไม่กินเพระาสงสาร ไปกินทำไมนู่นนี่นี่นั่น อยากถามจริงๆแล้วเอ็งกินไก่กินหมูกินปลาทำไมวะ
    แฟนผมก็ไม่กินสัตว์ใหญ่แถมยังให้ผมเลิกกินด้วย ทั้งๆที่ผมชอบเสพเนื้อวัวมากเลยนะ ยังแซวแฟนเล่นๆเลย ถ้ากินลูกมันจะถือว่าเป็นสัตว์เล็กมั้ย

  28. #22
    Fabulous
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    ที่อยู่
    Earth
    กระทู้
    1,217
    กล่าวขอบคุณ
    188
    ได้รับคำขอบคุณ: 763
    ไม่ใช่เรื่องบุญบาป ไม่ใช่เรื่องใครถูกใครผิด มันอยู่ที่มุมมองของคุณต่างหาก มุมมองของคนมันไม่เหมือนกัน

    ส่วนตัวผมก็เคยคิดเหมือนคุณแหละ แต่เดี๋ยวนี้ผมเฉยๆ เสพดราม่า อยู่ตรงกลาง นั่งดูคนด่ากัน ทะเลาะกัน

    แล้วก็เรียนรู้ ว่าเรื่องไหนควร เรื่องไหนๆไม่ควร

    เราเปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอก พูดไปก็ไม่มีใครฟัง ก็ได้แค่ก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตต่อไป

  29. #23
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    125
    กล่าวขอบคุณ
    141
    ได้รับคำขอบคุณ: 77
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ pak007 อ่านกระทู้
    บางครั้งมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนหนะครับ

    ถ้ามองอย่างคุณก็ถูก แต่ผมอยากให้ลองมองอีกมุมหนึ่งตามผมและกันนะครับ ((อย่าเพิ่งคิดแย้งผมระหว่างอ่านนะครับให้คิดตามๆไปก่อน))

    ลองมองในด้านประโยชน์ของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดและกันนะครับ เริ่มกันที่หมาก่อนเลยและกันครับ (มองในสายตาคนทั่วๆไปนะครับ)

    1.เฝ้าบ้าน
    2.รักเจ้านาย
    3.เป็นสัตว์เลี้ยง
    4.ถือว่าเป็นเพื่อนของคนมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อน

    ซึ่งใน 4 ข้อที่กล่าวมานี้ ไม่มีข้อไหนที่บอกว่ามันเป็นอาหาร และประโยชน์ของมันมีค่ามากกว่าจะมาเป็นอาหาร หนะครับ

    มาดูหมูกันบ้างหนะครับ

    1.นำมาปรุงอาหาร (เพราะดูจากทรงแล้วคงไม่น่าเอามาเผ้าบ้านเท่าไหร่)
    2.น้อยมากที่จะเห็นว่านำมาเป็นสัตว์เลี้ยง(เห็นได้ตามข่าว)
    3.ถือว่าเป็นอาหารสำครับคนในยุคสมัยก่อน(เพราะล่าง่าย)

    ซื่งในบางครั้ง บางเหตุผลก็เกิดจากการทำสื่อทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อนจนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

    ผมคิดว่าน่าจะพอเข้าใจบ้างกันแล้ว แต่ถ้าสำหรับบางคนที่อ่านแล้วไม่เข้าใจงั้นผมจะเปรีบลเทียบอีกวิธีให้และกันครับเพื่อความเข้าใจง่ายๆหน่อย

    งั้นผมจะเปรียบเทียบ คนกับคนให้และกันครับ (เพื่อให้ง่ายก็ความเข้าใจ)


    นาย ก. กับ นาย ข. ไปสมัครงานที่บริษิทเดียวกัน นาย ก. จบนิเทศการภาพยนต์ นาย ข. จบ ป.4 ซึ่งบริษัทนี้เป็นบริษัท ถ่ายหนัง ถ้าเป็นคุณจะเลือกใคร

    ระหว่างนาย ก. กับ นาย ข. น่าจะเดาไม่อยากคงต้องเป็นนาย ก. อ่าว!!! นาย ข.ก็เป็นคนนะทำไมไม่เลือกนาย ข. หละ แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนไปใช้ชีวิตเดี๋ยวเขาก็ตายหลอก

    ไม่กลัวบาปกำหรอ บลาๆๆๆๆ

    นี้แหละครับคือสิ่งที่ผมอยากให้ดู บางครั้งคนเราก็มองกันที่ประโยชน์มากกว่าหลักการอื่นๆ

    เพราะถ้าเอา นาย ข. เข้าบริษัท คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นแน่นอนมีแต่จะเสียตังไปปล่าว (มุมมองเจ้าของบริษัท)

    เหมือนดั่งเช่น หมู ถ้าเอาหมูมาเฝ้าบ้าน คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นแถมเปลืองข้าวสุกปล่าวๆซ้ำร้ายอาจโดนปล้นบ้านอีก (มุมมองเจ้าของบ้าน)

    เห็นไหมหละครับ ความจริงมันเป็นอย่างงี้แหละครับต้องทำใจ
    เสริมเรื่องหมู ไก่ โค กระบือ จระเข้ อีกนิดหน่อยนะครับ ใช่ว่า พวกนี้ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ เอาซะเลย ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้งาน จะพูดกึ่งๆ ว่าถูกก็ไม่เชิงซะทีเดียวหรอก
    แต่ปัจจุบัน เขาเอาหมู หรือ ไก่ที่เขาเลี้ยงกันมาเก็บกินเศษอาหารที่เหลือกัน เช่นถ้าร้านอาหารในย่านต่างจังหวัดเหลือประมาณข้าวหรือกับข้าวเยอะหาที่ระบายไม่ได้ ทิ้งไปก็เสียของเลยเอามาประโยชน์ดีกว่า ถ้าเลี้ยงหมู แล้วได้อะไรคำตอบก็ได้ตัวหมู และ มูลสัตว์ด้วย ซึ่งนั้นหมายถึง อาจจะได้ปุ๋ยชีวภาพ (ถ้ามีหมูเยอะ ก็นำมูลไปพัฒนาเพื่อส่งขายปุ๋ย แต่ถ้า มีธุระกิจเรื่องการปลูกพืชสวน ก็อาจนำมาพัฒนาเป็นสารชีวภาพเพื่อเร่งการเจริญเติบโต) ส่วนหมูที่โตแล้วก็เอามาขายเป็นอาหารอีก ซึ่งลักษณะนี้ถือเป็นหลักวงจร ที่เราเรียกกันว่า "หลักเศษรฐกิจพอเพียง" และคำว่าพอเพียงนี้ไม่ได้หมายถึงทำอย่างไรถึงจะเลี้ยงตัวเราอยู่รอด แต่ ใจความของมันก็คือ เรื่องของ การนำสิ่งที่เหลือใช้นำมาทำให้เป็นประโยชน์ให้สูงสุด เพื่อ ขยายแนวทางของตัวเอง

    แต่ผมมองว่า โดยเรื่องการกินของมนุษย์ที่อยู่บนจุดยอดของห่วงโซ่อาหาร(สัตว์แบบไหน มนุษย์ก็ล่าได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งฉลาม หรือ สัตว์มีพิษอย่างปลาปักเป้า คนก็ยังหม่ำได้อยู่ดี) และตัวมนุษย์เองก็พยายามคัดสรรหาสิ่งที่ตัวเองพอใจมากที่สุดด้วยเช่นกัน
    ถ้าพูดถึงเรื่องรสชาติยิ่งแล้วใหญ่ เพราะคนโดยทั่วไป จะแยก ออกจากความเป็นศีลธรรม หรือ ความว่าเห็นสมควร ออกจากเรื่องรสชาติ แต่ถ้าแยกกันไม่ได้ ก็จะเกิดการยอมรับไม่ได้อีกเช่นกัน เช่น อสุจิปลา, อสุจิกบ, (ปลา)หมึกเต้นระบำ คนบางกลุ่มมันก็ยังกินแถมบอกว่าอร่อยอีกด้วย รวมถึงเมนูเปิบพิศดารอย่าง แมลงสาบ ตลอดจน ปลาสองแผ่นดิน(เมนูนี้หาดูได้ ตามแถบในอีสานบ้านเราหรือฝั่งลาว) หรือ คนกินคนกันเอง(เช่นซีอุ่ย) ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากความต้องการของมนุษย์ ซึ่งอาจเกิดจาก ความอดอยากแล้วต้องการอาหาร ความพอใจในการได้ลิ้มรส การที่คิดว่าเป็นยาเสริมสรรพคุณทางร่างกาย

    ส่วนเรื่องปลาสองแผ่นดิน อธิบายคร่าวคือ นำปลาเป็นมาทอดเพียงครึ่งตัวขณะที่มันหายใจอยู่แล้ว ทอดให้ สุกครึ่งตัว อีกเครื่องตัวยังเป็นๆ ปลาหายใจพงาบๆ ซึ่งคนกลุ่นนี้มีความเชื่อว่ากินอาหารในลักษณะนี้จะไม่ศูนย์เสียคุณค่าทางโภชนาการมากเพราะไม่ได้ทำให้สุก กับที่ยังคงรสชาติวัตถุดิบไว้ได้คงเดิมให้ลิ้มรสกันอีก

    ถ้ามีคนทำมาแล้วไม่บอกว่าเป็นอะไรมาให้ทานแล้วเกิดอร่อยขึ้นมาและอยากกินอีกก็เพราะว่าชอบนี่ แล้วพอผมถามคนทำขึ้นมาว่า มันคืออะไร เขาตอบผมว่า จระเข้หรือสุนัขขึ้นมา อันนี้ผมอาจจะทำให้ผมกลายเป็นคนที่ชอบทานจระเข้ หรือ สุนัขก็ได้ เพราะไม่ได้เกิดความเกลียดกลัว ชิงชัง และรักมัน เป็นกรณีพิเศษ แต่ถ้าให้รู้มาก่อนว่าว่าเนี้ยเนื้อสุนัข ผมก็เลือกที่จะไม่กินเหมือนกัน
    ในทางกลับกันถ้าผมรักกระต่ายมากถึงมากที่สุดแล้วเขาบอกว่าเนี่ยเนื้อกระต่าย อร่อยไหมครับ ก็อาจจะทำให้เอาอ๊วกได้เหมือนกันและอาจเข็ดจนไม่ทานอีกเลยก็ได้ เพราะเราไม่ได้มีความรู้สึกที่อยากจะทานมันตั้งแต่แรก

  30. #24
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    570
    กล่าวขอบคุณ
    1,014
    ได้รับคำขอบคุณ: 656
    จิตใจกับความรู้เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนโลกนี้ครับ ว่าแต่ปวดหัวมั้ยน่ะ เหมือนคุณจะคิดมากไปนะครับ = ="

  31. #25
    !!{Falling Away}!!
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    ที่อยู่
    NakhonSawan
    กระทู้
    1,526
    กล่าวขอบคุณ
    744
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,735
    ก็คล้ายๆกับที่ว่า คนไทยชอบหาว่าญี่ปุ่นชอบกินอะไรดิบๆเช่นปลาดิบหนะแหละ แต่คนต่างชาติชอบมองว่าเราชอบกินของเน่าๆเช่นปลาร้า 555+


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top