ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 32
  1. #1
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    ที่อยู่
    อุบลราชธานี
    กระทู้
    862
    กล่าวขอบคุณ
    163
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,477

    ผมมองการศึกษาไทยถูกหรือไม่ [ถามชาว JKG]

    1. คนเห็นต่างมักโดนมองเป็นตัวประหลาด ตัวอย่างเช่น ครูสอนคณิตศาสตร์ถามว่า 100 คูณ 15 ได้เท่าไหร่ แน่นอนครับ ว่าแต่ล่ะคนมีหลายวิธีในการคิดคำนวณโจทย์นี้
    วิธีคิดคนส่วนมากเอา 100*15 แบบ เอา 5*0 , 5*0 , 5*1 แล้วก็ 1*0 , 1*0 , 1*1
    แล้วเอาผลคูณทั้งสองมาบอกกันก็จะได้ 500 + 1000 = 1500 คำตอบถามว่าถูกไหม ถูกต้องครับ แล้วครูก็ถามต่ออีกว่า มีใครมีวิธีอื่นบ้าง แล้วก็มีคนหนึงที่ยกมือขึ้นว่าผมมีวิธีที่ง่ายกว่า แล้วครูก็เรียกออกมาหน้าห้องให้ทำให้ดูหน้ากระดาน [ปกติห้องเรียน 1 ห้องมี ประมาณ 30-40 คน ทันใดนั้นก็มีเด็กนักเรียนคนอื่นจำนวน 39 คน[สมมุติว่าห้องเรียนมี 40 คน] มอง เด็กคนเดียวด้วยสายตาแบบมองเราเป็นตัวประหลายอ่ะครับ แล้วเด็กก็แสดงวิธีทำแบบว่า มันมี 0 สองตัวใช่ไหม เอาลงมา แล้วเอา 1*15 ก็เท่ากับ 1500 คำตอบก็ถูกแถวง่ายด้วยจริงไหมครับ ถูกเหมือนกัน
    2. นร. เหมือนหุ่นยนต์ รึป่าว ตัวอย่างนะ ทำไมเราเรียน 9 ชม. เรียนพิเศษ 2-3 ชม. ทำการบ้านอีก 2-3 ชม. ในเวลา 24 ชม. เราเอาไปเรียนแล้วไม่น้อยกว่า 12 ชม.แหละ เหมือนกับเรามีหน้าที่เอาความรู้เข้าหัวไม่ต่างอะไรเลยกับหุ่นยนต์ที่ต้องเอารับข้อมูลอย่างเดียวและทำอะไรไม่ได้เลย ที่จริงเรียนวันล่ะ 6-7 ชม.พอ ที่เหลือก็ให้ นร.ไปหาประสบการณ์ชีวิตไม่ดีกว่าเหรอครับ

    ผมคิดไรเพิ่มได้เดี๋ยวเอามาอีกนะครับ ที่ผมไม่เข้าใจการศึกษาไทยครับ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ kidsylenser อ่านกระทู้
    ก่อนอื่นต้องถามก่อน เรียนที่ไหนเนี่ยวันล่ะ 9 ชั่วโมง

    ผมว่าในโรงเรียนวัน ๆ นึงเรียนแค่ 7-8 ชม. เองมั้ง ส่วนเรื่องเรียนพิเศษต้องตัดออก เพราะบางคนเรียนบางคนไม่เรียน

    แล้ว คำว่า "ไปหาประสบการณ์ชีวิต" ลองยกตัวอย่างซิว่าไปหาอะไรที่ไหนยังไง ??
    โรงเรียนผมเรียน 9 ชม. ครับ มอปลายนะ เป็น รร. WorldClass เรียนเยอะจริงๆ

    ประสบการณ์ชีวิตเหรอ ก็ลองไปทำตามร้านอาหารเด็กเเสิร์ฟโดยที่จุดประสงค์คือไม่ใช่ค่าตอบแทนอย่างเดียว ก็แบบอ่ะนะชีวิตจริงหาประสบการณ์ไปในตัวไม่ใช่อยู่ที่ห้องสี่เหลี่ยมไปวันๆ ที่จริงการหาประสบการณ์ชีวิตนั้นมีหลายอย่างนะ ไปทำงานล้างรถตามร้านไรนะ ที่อยู่ BIG C โลตัส ทำตอนเลิกเรียน ก็เหมือนในคลิปแหละ คอมเม้นที่ 3 ที่เขาพูดในคลิปครับผม

    มาใหม่แหละ ความคิดของผม

    3. การศึกษาไทย ณ ปัจจุบันสอนให้เด็กเรา ทุจริต ตัวอย่างนะครับ อ่าแบบว่า ครูให้ข้อสอบแบบปรนัยมา 5 ข้อและมีข้อแม้ว่าต้องตอบให้เหมือนในหนังสือทุกตัว แล้วทำไงได้ครับ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องใช้สูตรโดยการเอาหนังสือไว้ใต้โต๊ะและแอบดู แค่นี้ก็สอนทุจริตแหละ ผมก็เคยทำเหมือนกันครับ ฮ่าๆ
    4. สอนให้ท่องจำ ยกตัวอย่าง ล่าสุดเลย ครูสอนภาษาไทยให้ท่องกลอน อีเหนา อยากถามว่า ท่องจำเพื่อ ? แล้วภาษาไทยเรียนเยอะๆไปเพื่อ? พูดถึงวิชาภาษาไทยไม่รู้จะเรียนไรมากมาย เท่าที่ผมเรียนมานะ ม1-ม.4 ผมว่ามันก็แบบเดิมๆแหละ ถ้าอยากให้ภาษาไทยอยู่นานๆในสถานศึกษาผมว่าลดลงหน่อยก็ดี เหลือแต่พวก ใครเป็นคนสร้างภาษาไทย คำราชาศัพท์ มารายาทการพูด ไรประมาณนี้แหละ ไม่เห็นต้องไปเรียนเยอะถึง 7-15 บทเลยต่อ2เทอมนะ

    เสริมๆ

    5. เหมารวม ตัวอย่างเช่น เด็กอาชีวะ 2 คน ตีกับ เด็กเทคนิค 2 คน แล้วผลของมันคือ โรงเรียนสอง รร.นี้โดนเหมารวมว่ามันคือ รร.ไม่ดีนั้นเอง ทำไมพูดงั้นแหละ งงเลย ก็เพราะสังคมเรามองมันมาแบบนี้่นานมากเลย
    6. ผู้ใหญ่ไทยสอนให้ลูกตัวเองเป็นลูกจ้าง เรียนจบสูงๆมีงานทำ ในความคิดผม ทำไมต้องเรียนจบสูงด้วย ยกตัวอย่าง ต็อปเจ้าของสาหร่ายเถ้าแก่น้อย เรียนปานกลาง แล้วก็ ชื่อไรนะเจ้าของโทรศัพท์ Apple เรียนสูงที่ไหนกัน ผมว่าคนจะมีเงินเดือนไม่จำเป็นต้องจบสูง มันอยู่ที่ความคิด และจินตนาการณ์ และการกล้าทำมากกว่าครับ
    7. สนับสนุน ยกตัวอย่าง ผู้ใหญ่ส่วนมากนะ มักจะไม่ค่อยสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น ร้องเพลง , นักกีฬา อื่นๆ ไม่ค่อยสนับสนุนมากนัก ส่วนมากจะสนับสนุนแต่เรื่องเรียนเท่านั้นครับ จริงรึป่าว ผมล่ะอิจฉาที่พ่อแม่สนับสนุนให้ไปเล่นกีฬาแล้วได้เป็นนักกีฬาทีมชาติจังครับ

    ผมขออย่างเดียว อย่าด่าผม และอย่า ดราม่านะครับ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ marvellz อ่านกระทู้
    ผมกะเพื่อนๆคิดแบบนี้บางที เวลาไม่รู้ว่าไอเรื่องนี้มันเรียนไปทำไม
    เรียนไป"สอบ"
    ไม่ได้เรียนไป"ใช้"
    โดนใจเอาไปโพสต์ลงเฟสหน่อยนะครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Price : 29th August 2013 เมื่อ 21:37

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 19 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    กระทู้
    159
    กล่าวขอบคุณ
    19
    ได้รับคำขอบคุณ: 128
    เราเรียนกันเพือไปเเลกกับกระดาษเฉยๆครับไม่ต้องใส่ใจ

  4. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    417
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 302
    https://www.facebook.com/photo.php?v=10200561255660181

    เป็นเเบบนี้ครับ ผมคนนึงเเหละที่ไม่ชอบเรียนพิเศษ ผมคิดว่าถ้าตั้งใจเรียนมันก็ได้เองหละครับ
    เเทนที่จะเอาเวลาไปเรียน มาตั้งใจเรียน เสียทั้งตัง เสียทั้งเวลาครับ
    ลองดูในคลิปครับ สมัยนี้มันเป็นเเบบนั้นจริงๆ

  6. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    127
    กล่าวขอบคุณ
    608
    ได้รับคำขอบคุณ: 77
    ยังที่พี่โน๊ตว่าไว้ท่องสูตรคูณแทบตายทำไมไม่บอกเราว่าโตขึ้นมันจะมีเครื่องคิดเลข

  8. #5
    เสพกราฟฟิกขั้นเทพ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    6,574
    กล่าวขอบคุณ
    2,381
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,560
    สังคมมันยอมรับกันที่ ปริญญาบัตร ครับ เรียนมาตั้งมากมายก็จบมารับปริญญา เอาไปหางานทำ

    ผมยังจำวันที่ผมรับปริญญาได้เลย ผมไม่รู้สึกภูมิใจเลย แค่ดีใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง

    เสร็จแล้วกระดาษใบนี้มันก็เป็นใบเบิกทางในการหางานทำต่อไปครับ สำหรับผมมันมีค่าแค่นั้น

    และตอนนี้ปริญญาใบนั้นก็ถูกเก็บลงในลังให้ฝุ่นจับหนาเตอะ อยู่อย่างนั้น = =


    ในชีวิตจริงในมีอะไรมากกว่าในตำราเยอะ เรียนมากเกินไปก็ไม่ดี ควรออกไปหาประสบการณ์อย่างอื่นให้กับชีวิตบ้าง

    อย่าหมกมุ่นกับวิชาการมากเกินไป

    ดูข่าวพวกที่เรียนจบมาสูงๆสิ บางคนแก้ปัญหาชีวิตไม่ได้ ฆ่าตัวตายก็เยอะแยะ พวกนี้มันเข้าข่ายความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sattawat1979 : 29th August 2013 เมื่อ 21:04
    Intel Core i7 4790k / MSI Z97 Gaming 5 / GALAX GTX980 SOC 4GB
    AMD Phenom II X6 1090T / Asrock 890GX Extreme 3 / Power Color HD5970 2GB

  9. รายชื่อสมาชิกจำนวน 9 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  10. #6
    So Nyeo Shi Dae
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Manchester United
    กระทู้
    3,447
    กล่าวขอบคุณ
    1,099
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,761
    ก่อนอื่นต้องถามก่อน เรียนที่ไหนเนี่ยวันล่ะ 9 ชั่วโมง

    ผมว่าในโรงเรียนวัน ๆ นึงเรียนแค่ 7-8 ชม. เองมั้ง ส่วนเรื่องเรียนพิเศษต้องตัดออก เพราะบางคนเรียนบางคนไม่เรียน

    แล้ว คำว่า "ไปหาประสบการณ์ชีวิต" ลองยกตัวอย่างซิว่าไปจะหาอะไรที่ไหนยังไง ??

    --------------------------------------------------------

    เรื่องนี้ถ้าจะแก้กันจริง ๆ ต้องแก้ที่หลักสูตรการเรียนการสอน การศึกษาบ้านเรามัน รวมมิตร เกินไป

    อย่าง ม.1-3 ยังพอเข้าใจช่วงค้นหา ม.4-6 กับ ปวช. นี่คือช่วงที่จะเดินตามทางที่ถนัดได้แล้ว แต่ยังคงเรียนแบบรวมมิตร อยู่

    ขึ้น ป.ตรี ถึงจะไปเรียนตามทางที่ถนัด แต่ให้ตายซิยังคงรวมมิตร อยู่เหมือนเดิม
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kidsylenser : 29th August 2013 เมื่อ 21:06
    [CPU]AMD FX Black Edition 8320 [RAM]HyperX DDR3 1600 16GB [MB] Gigabyte 970A-D3P [VGA]Sapphire R9 270X 2GB [PSU]Raidmax RX-730ss [SSD] Kingston 120GB [OS] Win 10 Pro x64

  11. #7
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    26
    กล่าวขอบคุณ
    16
    ได้รับคำขอบคุณ: 4
    ขอตอบในแต่ละข้อนะครับ
    1. ในกรณีนี้ผมว่าไม่ได้มีปัญหาที่การศึกษาไทยนะครับ ปัญหาน่าจะอยู่ที่ตัวเพื่อนร่วมชั้นเรียน เพราะในทางคณิตศาสตร์สามารถหาคำตอบแบบนั้นได้ครับแต่ต้องมีการอธิบายที่ถูกต้องตามหลักของคณิตศาสตร์ด้วย อย่างที่เรายกตัวอย่างว่า 100 คูณ 15 นั่นหมายความว่าในกรณีนี้ มี15 เป็นตัวตั้งและมี 100เป็นตัวคูณ แต่ที่นำเอา 5*0 , 5*0 , 5*1 แล้วก็ 1*0 , 1*0 , 1*1 นี้มันหมายความว่า มี 100เป็นตัวตั้งและมี 15เป็นตัวคูณ(กลับเข้าประเด็นดีกว่า) แต่ที่มองว่าเป็นตัวประหลาดเพราะอธิบายยังไม่เข้าใจรึปล่าวครับเพราะในทางคณิตศาสตร์นั้น การดึง0ลงมา 2ตัวและนำ 15ไปคูณ 1 มันผิดหลักการมากเลยครับ(แต่สามารถใช่วิธีนี้เป็นวิธีลัดในการคำนวณได้)
    2. สมมุติคาบนึงมี 50 นาที ครูเข้าเรทนักเรียนเดินเล่น10 นาที เหลือ 40 นาที แต่เอาจริงๆก็ไม่สามารถเรียนได้เต็มๆ 40นาที อาจจะ30นาทีแค่นั้นหากวันนึงมี 8 คาบเรียน แปลว่าวันนึงจะได้เรียนเพียง 4-5 ชั่วโมงแค่นั้น ดังนั้น ในความจริงเรียนไม่ถึง 9 ชั่วโมงหรอกครับ ดังนั้นการสอนที่ให้ได้ผลมากที่สุดก็คือการสอนแบบบรรยายจริงทำให้เหมือนกับว่าครูมีหน้าที่อัดความรู้เข้าหัวนักเรียนเปรียบนักเรียนเป็นหุ่นยนต์ แต่ถ้าหากนักเรียนสนใจที่จะรับความรู้นั้นจริงๆผมเชื่อว่านักเรียนจะได้รับความรู้ไปทำประโยชน์ได้มากจริงๆ

  12. #8
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    กระทู้
    8
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    มีคนแบ่งเวลาเป็น 3 ช่วง ในวันๆหนึ่ง
    8 ชม. เรียน
    8 ชม. เล่น
    8 ชม. นอน
    ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ลงตัว ถ้าเวลาเรียนเราตั้งใจเรียนในห้อง(การตั้งใจเรียนไม่ใช่แค่การนั่งฟัง) ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปเรียนพิเศษ
    "จินตนาการ สำคัญ กว่า ความรู้" เป็นคนพูด ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เพราะความรู้มีขีดจำกัด จินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด
    สมหรับผม ไม่ค่อยมีจินตนาการหรอก เพราะมันไม่สามรถได้ตอนโต มันเหมาะกับการสร้างแต่เด็กๆ(คิดดูนะเราไม่จำเป็นต้องท่องสูตรคูณตั้งแต่เด็ก ตอนโตเรามีความจำที่ดีกว่าอีกฝึกแค่ไม่นาน)

  13. #9
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    98
    กล่าวขอบคุณ
    13
    ได้รับคำขอบคุณ: 48
    ผมมองว่า การศึกษาไทยสอนให้เด็กท่องจำอย่างเดียวเลย จากการที่ผมสอนหนังสือมานิดหน่อยพบว่า

    เด็กไทยกว่า 90% ถูกสอนมาว่า จะทำอะไรต้องให้อาจารย์เป็นคนป้อนให้ มีน้อยคนที่จะพยายามคิดออกมาให้ได้คำตอบ

  14. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2012
    ที่อยู่
    บ้านเดี่ยวชั้นเดียว
    กระทู้
    120
    กล่าวขอบคุณ
    8
    ได้รับคำขอบคุณ: 66
    ผมกะเพื่อนๆคิดแบบนี้บางที เวลาไม่รู้ว่าไอเรื่องนี้มันเรียนไปทำไม
    เรียนไป"สอบ"
    ไม่ได้เรียนไป"ใช้"


    แล้วก็ที่มีปัญหาการลอกข้อสอบกันเยอะๆน่ะ

    เพราะเพราะว่ารรให้ความสำคัญกับเกรดมากกว่าความรู้

    มันเลยลอกข้อสอบกัน
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย marvellz : 29th August 2013 เมื่อ 21:41

  15. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    กะลาแลนด์ 4.0
    กระทู้
    2,314
    กล่าวขอบคุณ
    1,843
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,598
    อยู่ในวัยที่กำลังค้นหาตัวตนอยู่สินะ ค่อยๆคิดไปก็ได้ครับ ระบบไม่ได้ซับซ้อนอะไรไม่มีผิดหรือถูก

    ง่ายๆ ตั้งคำถาม>> หาคำตอบ>> นำมาใช้ประโยชน์>> ฟิน

  16. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    513
    กล่าวขอบคุณ
    198
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,972

    ก็คิดต่างแล้วโดนถูกมองว่าประหลาดอย่าง จขกท. บอกนั้นแหละครับคนส่วนใหญ่

    ก็เลยคิดอะไรเองไม่ค่อยได้ อยากให้เด็กมีคุณธรรมแต่ไม่เคยสอน(น้อยครั้งที่จะมี)

    การศึกษาเราเดินมาผิดทางอย่างชัดเจนครับ เรียนเพื่อสอบเฉยๆแค่นั้นแหละ

    "เรียนเยอะไว้ก่อน ส่วนใช้ไม่ใช้อีกเรื่อง"

    ตื่นนอน 90 องศา เดินไปห้องน้ำ-ห้องครัว 5 เมตร ใช้แรงกี่นิวตันยกทัพพีนั่งกิน 90 องศา
    กินเข้าปากสู้กระบวนการย่อยสลาย ปาก-หลอดอาหาร-กระเพราะ-ลำไส้เล็ก-ลำไส้ใหญ่ สู่กระบวนการขับถ่าย ...


    ผมอยากรู้นะมีใครเคยคิดแบบนี้รึป่าวครับ ฮา
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Windtalkers : 29th August 2013 เมื่อ 21:47
    การประสบความสำเร็จ<<<ประสบการณ์<<<ความพยายาม<<<ความอดทน<<<ความเชื่อ<<<ความพ่ายแพ้

  18. #13
    เสพกราฟฟิกขั้นเทพ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    6,574
    กล่าวขอบคุณ
    2,381
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,560
    ทุกวันนี้ที่เราเรียนๆกันก็เพื่อทำมาหากิน เพื่อปากเพื่อท้อง ทั้งนั้นแหละครับ มันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้เลย

    จบมาสูงแค่ไหนก็ยังไม่พ้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ดี ตายเหมือนกันหมด



    ผมว่านะ การเรียนที่ยิ่งใหญ่และให้ประโยชน์สูงสุดคือ การเรียนวิชาดับทุกข์ ของพระพุทธเจ้าครับ

    ดับทุกข์เข้าสู่นิพพาน นับว่าดีที่สุดแล้ว ( ไปๆมาๆเข้าเรื่อง ศาสนาซะอย่างนั้น 555 )
    Intel Core i7 4790k / MSI Z97 Gaming 5 / GALAX GTX980 SOC 4GB
    AMD Phenom II X6 1090T / Asrock 890GX Extreme 3 / Power Color HD5970 2GB

  19. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    125
    กล่าวขอบคุณ
    141
    ได้รับคำขอบคุณ: 77
    อยากได้เหตุผลดีๆแบบนอกกรอบไหมครับว่าทำไมถึงต้องเรียนเยอะ(ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียนหรือตำรา ออกไปหารายได้พิเศษก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง) ตอนม.ปลายนี่ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ทั้งชีวิตต้องมี ซึ่งหลังจากการทำงานแล้วจะไม่มีคนสอนแล้ว และจะร้องโอดครวญว่าใครจะสอนเราได้
    คำตอบ - ตอนเรียนปริญญามันจะลึกเพียงด้านเดียว(ด้านความถนัด) ส่วนใหญ่ออกไปก็เหมือนทำเป็นได้แค่แบบเดียวไม่สามารถต่อยอดได้ จมอยู่กับที่ ตำแหน่งเดิมๆ พัฒนาตำแหน่งก็คล้ายเดิมไม่มีอะไรแปลกใหม่
    แต่ถ้าเราเลือกที่จะเรียนรู้กว้างทุกตัวทุกวิชาแล้วถนัด 2-3 ตัวขึ้นไปก็จะสามารถสร้างกรอบแปลกๆใหม่ๆได้เช่น เช่นตัวอย่างต่อไปนี้
    ความรู้ทางด้านบัญชี + กฏหมาย อย่างลึกซึ้ง บริษัทส่วนใหญ่ก็รีบจ้างเลี้ยงเรายาวแล้ว หรือไม่ว่าจะเป็น
    ความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์(กลางถึงสูง) + เขียนโปรแกรม งานส่วนใหญ่ก็จะเป็นทางด้าน simulation เช่นที่ใช้ออกแบบจำลองมือถือ ทางด้านความคงทนในการล่วงล่นและประหยัดวัสดุ
    ความรู้ทางด้านจิตวิทยา + ความถนัดทางด้านภาษา + ความรู้ทางด้านการขาย พวกสายนี้ก็เน้นการขาย รู้จังหวะเข้าออก ซักจูงการติดต่อขายของ
    ความรู้ทางด้านดนตรี + วัฒนธรรม + ภาษา พวกนี้ถ้ามีเส้นอีกนิดก็เข้าทางอาจจะได้ไปทางด้านกระทรวงวัฒนธรรมไปเผยแพร่ที่ตปท.ก็ได้

    ควรจะรู้ไว้ว่าไม่มีสิ่งไหนจะทิ้งได้ถ้าเรายังไม่มีความถนัด แล้วโปรดอย่าคิดว่า วิชานั้น วิชานี้ไม่มีประโยชน์ เพราะทุกตัวก็มีประโยชน์ในตัวของมันเอง ถ้าเรารู้จักที่จะประยุกต์ รู้จักนำเสนอตัวเอง เรื่องเรียนในแค่นี้ยังเล็กถ้าเทียบกับสิ่งที่จะต้องเรียนรู้อย่างมุ่งมั่นในอนาคตของเราครับ

  20. #15
    Ukulele
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    672
    กล่าวขอบคุณ
    96
    ได้รับคำขอบคุณ: 903
    https://www.facebook.com/armlin4ever...t=feed_comment

    ฝากไลท์หน่อย 555555555
    เอาความเห็นของคุณ sattawat1979 ไปโพสเล่น ๆ ในเฟสคนไลท์ตรึมมม ><'

  21. #16
    [ISH]
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    ที่อยู่
    Shinonono shrine
    กระทู้
    1,658
    กล่าวขอบคุณ
    947
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,281
    ใช้หัวเข้าใจตำรา 30%
    ใช้หัวเข้าใจชีวิต 70%

  22. #17
    ไม่ค่อยว่าง...
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่ไหนก็ไม่รู้
    กระทู้
    1,009
    กล่าวขอบคุณ
    1,499
    ได้รับคำขอบคุณ: 626
    Blog Entries
    1
    อีกสิ่งหนึ่งที่การศึกษาปัจจุบันเป็นอยู่คือคนเรียนสายสามัญมากกว่าสายอาชีพทั้งๆที่ตอนนี้สายอาชีพเป็นที่ต้องการมากกว่าสายสามัญ


  23. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  24. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    684
    กล่าวขอบคุณ
    3,007
    ได้รับคำขอบคุณ: 543
    ร.ร. ผมกับเรื่องเรียนพิเศษ

    ถ้ามีเด็กนักเรียนพิเศษครบทุกคน หัวหน้าตึกจะเพิ่มเงินเดือนให้แก่ครู
    ถ้ามีบ้างมีน้อย ก็ไม่รู้ยังไง

    ซึ่งส่วนตัวผมไม่อยากเรียนพิเศษ แต่ทางร.ร.บอกว่า ไม่บังคับ แต่ต้องเรียนทุกคน

    รับไม่ได้อ่ะจริงๆ = =

  25. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  26. #19
    ╰☆╮╰☆╮╰☆╮╰☆╮╰☆╮
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    สิงอยู่ในเมะฮาเร็มทั่วๆไป =w=b
    กระทู้
    1,229
    กล่าวขอบคุณ
    239
    ได้รับคำขอบคุณ: 303
    หลังจากเข้ามหาลัยแล้วเรียนวันนึงไม่กี่ชั่วโมงก็เลิก (คณะผมนะ)
    แต่ก่อนก็เรียนกันเข้าไปอัดวันนึงตั้งแต่เช้ายันมืด-0- จนตอนนี้สิ่งที่เรียนมาของสายสามัญไม่ได้ช่วยไรเลย (ดีนะได้เรียนอาชีวะก่อนเข้ามหาลัย)
    แล้วคุณจะรู้ว่าเรียนสายอาชีพมันมีทางไปเยอะกว่าสายสามัญ (จากประสบการณ์)

  27. #20
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    94
    กล่าวขอบคุณ
    47
    ได้รับคำขอบคุณ: 33
    ประเทศไทยเป็นงี้แหละ อะไรดีๆต่างชาติทำกันก็ไม่ทำมัวแต่คลั่งชาติกัน ส่วนอะไร*****ๆก็ทำกันต่อไป สู้ๆครับไทย

  28. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    915
    กล่าวขอบคุณ
    1,451
    ได้รับคำขอบคุณ: 863
    ถ้าพวกคุณๆตอนนี้อายุยังไ่มากกัน แล้วพูดว่า เรียนไปไม่ได้ใช้ประโยชน์ ผมขอค้านเสียงแข็งเลยครับ

    ผมเรียนจบจาก ช่างยนต์ ปวส. มาทำงานวิศวะ ได้ใช้ทุกอย่างตั้งแต่ ป.1 เลยก็ว่าได้

    อยู่ที่ว่าพวกคุณๆจะเลือกทำงานตรงกับสายที่เรียนมาหรือเปล่า แต่เรื่องที่น่าเศร้าก็คือ ผมดันคิดแบบคุณๆนี่แหละตอนเรียนเลยไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้เลยต้องมาฟื้นใหม่

    บอกได้คำเดียวครับ คือ ตั้งใจเรียนเถอะครับ

  29. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  30. #22
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    366
    กล่าวขอบคุณ
    85
    ได้รับคำขอบคุณ: 266
    เคยมีความคิดแบบนี้เหมือนกัน แต่พอมาเรียนครุศาสตร์ อาจารย์ที่สอนในคณะบอกว่า "บางทีเรารู้ไว้ก็ไม่เสียหาย การเรียนเมื่อเราเรียนไปแล้วไม่ว่าจะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ แต่สิ่งที่ได้จากการเรียนคือเราได้พัฒนาตนเอง นั่นแหละคือจุดมุ่งหมาย" แล้วอาจารย์ผมก็บอกมาอีกว่า "ในยุคข้างหน้าเราจะได้ไม่มาสอนแบบนี้หรอก แต่เราจะเอาโจทย์ให้นักเรียนไปจัดการแก้ปัญหาเอง ว่าจะแก้โจทย์แบบไหน ครูจะไม่ได้มาย้ำหรอกว่าต้องทำอันนี้ต้องจำอันนี้ทำแบบนี้ แต่จะปล่อยให้นักเรียนเป็นคนศึกษาหาความรู้เองแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยมีครูเป็นเสมือนโคช" ประมาณนี้แหละครับ
    ผมเจอมาแล้ว มีแต่หัวข้อมาให้ แล้วไปหาสรุปคอนเซปเอาเอง ตามจริงต้องเรียน 3 ชั่วโมง แต่เจออาจารย์แค่ชั่วโมงเดียว ทีี่เหลือก็ทำงาน
    ซักหน่อยครูก็คงสอนไม่ถึง ชั่วโมงหรอก แต่จะปล่อยให้นักเรียนศึกษาเอง แล้วนักเรียนก็จะมีเวลาในการทำงานในการเรียนมากขึ้น

  31. #23
    Just a L!ttle Girl :\
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    714
    กล่าวขอบคุณ
    3,932
    ได้รับคำขอบคุณ: 337
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Price อ่านกระทู้
    4. สอนให้ท่องจำ ยกตัวอย่าง ล่าสุดเลย ครูสอนภาษาไทยให้ท่องกลอน อีเหนา อยากถามว่า ท่องจำเพื่อ ?

    6. ผู้ใหญ่ไทยสอนให้ลูกตัวเองเป็นลูกจ้าง เรียนจบสูงๆมีงานทำ ในความคิดผม ทำไมต้องเรียนจบสูงด้วย ยกตัวอย่าง ต็อปเจ้าของสาหร่ายเถ้าแก่น้อย เรียนปานกลาง แล้วก็ ชื่อไรนะเจ้าของโทรศัพท์ Apple เรียนสูงที่ไหนกัน ผมว่าคนจะมีเงินเดือนไม่จำเป็นต้องจบสูง มันอยู่ที่ความคิด และจินตนาการณ์ และการกล้าทำมากกว่าครับ
    7. สนับสนุน ยกตัวอย่าง ผู้ใหญ่ส่วนมากนะ มักจะไม่ค่อยสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น ร้องเพลง , นักกีฬา อื่นๆ ไม่ค่อยสนับสนุนมากนัก ส่วนมากจะสนับสนุนแต่เรื่องเรียนเท่านั้นครับ
    4. ท่องเพื่ออะไรไม่รู้ รู้แต่การท่องเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ง่ายที่สุดแล้ว ลองคิดถึงสูตรเคมีสิ ถ้าไม่ท่องก็ไม่มีวันจำได้ พอจำขั้นแรกไม่ได้ ขั้นต่อมาก็จำไม่ได้
    แต่ก็ไม่รู้จะให้จำอะไรเยอะแยะ แต่อย่างน้อยรู้มากก็ดีกว่ารู้น้อยแหล่ะ (แต่กุสอบไม่ได้แค่นั้นเอง)

    6. คุณพ่อคุณแม่เราเชื่อว่า การเรียนสูง ทำให้เจอกับคนสังคมชั้นสูง แล้วก็จะเจอโอกาศหรือลู่ทางการทำงานที่ดี
    คือไม่ได้หวังให้ลูกฉลาด แต่อยากให้ลูกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
    ก็เหมือนถ้าเรียนดีจะได้ไปอยู่ห้องเก่ง ก็จะมีเพื่อนร่วมห้องที่ดีเยอะ จบมาบางคนอาจเป็นใหญ่เป็นโต เป็นหมอ เป็นวิศวะดังๆ เอาวะอย่างน้อยก็เป็นเพื่อนมัน
    แต่ถ้าดันโง่ ได้ไปอยู่ห้องท้ายๆ โอกาศเจอคนที่อนาคตจะรวยก็จะน้อยตาม แล้วก็ปูทางสำหรับอนาคต อย่างน้อยมีเพื่อนทำงานเจ๋งๆ ก็อาจจะได้ทำงานกับมัน
    ดูอย่างต๊อปนักขายสาหร่าย เราว่ามันประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องเรียนเก่งมาก ก็เพราะเขาคลุกคลีอยู่กับสังคมแบบนั้น ก็เลยมีลู่ทางในการประกอบอาชีพที่ดี
    ลองคิดเป็นตัวเราดิ ...ขายสาหร่าย

    -
    แต่ที่อยากให้เปลี่ยนแปลงคือคนที่จะมาเป็นครู อยากให้ประเทศเรายกย่องครูซักที
    ถ้ามีคนนึงเรียนเก่งมาก เชื่อเลย 99% จะบอกให้มันไปเรียนหมอ วิศวะ บลา บลา ทำไมไม่เรียนครู (สงสัยเงินเดือนมันต่างกัน)

    ป.ล. รอ จขกท ออกมาปฏิวัติการศึกษา 555+

  32. #24
    ScarJO ♥♥#!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    SCARLETT'S HOUSE
    กระทู้
    865
    กล่าวขอบคุณ
    245
    ได้รับคำขอบคุณ: 482
    คิด วิเคราะห์ แยกเยะ 3 สิ่งนี้ คือสิ่งที่เยาวชนชาวไทย ขาดทักษะตรงนี้ไป ทำให้การดำเนินชีวิตไม่ว่าทั้งการเรียนหรือการทำงานในอนาคต เกิดข้อบกพร่องทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้
    ไม่ว่าจะเรียนที่สถาบันไหน หรือ ประเทศไหน ถ้าเรา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ไม่เป็น แบบนี้ไม่มีทางเรียนได้หรอกครับ อีกประเด็น คือ เยาวชนสมัยนี้อ่านหนังสือกันค่อนข้างน้อย
    มันเลยเป็นผลทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง พอไม่รู้เรื่องก็ต้องไปเรียนพิเศษตามสูตร ลองมองในมุมกลับหลังจากเลิกเรียนกลับมาบ้านเราลองแบ่งเวลาซัก 30 นาที มาลองอ่านทบทวนสิ่งที่ได้เีีรียมา
    แบบมันจะทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้น จากนั้นค่ิิอยไปเล่นเกมก็ได้ สมัยผมเรียนมัธยม ผมก็เรียนแบบนี้อาศัยอ่านหนังสือเอา วิชาไหนอาจารย์สอนไม่รู้เรื่องผมก็โดดเรียนไม่เข้าหรอกเสียเวลา
    ก็กลับบ้านมาอ่านเอง พอถึงวันใกล้สอบผมก็ไม่จำเป็นต้องมาอ่านหนังสือแบบเป้นบ้าเป็นหลังแล้ว เปิดคอมเล่นเกมชิวๆ เพราะความรู้มันอยู่ในหัวของผมแล้ว
    ผมกล้าบอกได้เลย ถ้าขยันอ่านหนังสือ ไม่ว่าการศึกษาจะมาในรูปแบบไหน หรือเรียนที่ประเทศไหน คุณจะประสบความสำเร็จได้แน่นอน
    ปล.แบ่งเวลาเพียง 30 นาที ถึง 1 ชม. สำหรับการอ่านหนังสือ มันคงไม่ทำให้ชีวิต คุณพังพินาศหรอกครับ
    Make everthing as simple as possible, but not more simple.

  33. #25
    " Waiting for The End "
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    ที่อยู่
    " In Heart who love us "
    กระทู้
    2,560
    กล่าวขอบคุณ
    1,285
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,983
    ถ้ารวมชีวิตน่าเบื่อๆ บนรถเมล์ถนนติด ๆ ยิ่งกว่า 10 ชั่วโมงอีกครับ

    น่าเบื่อ สุด ๆ บอกตรง ๆ เหอะๆ น่าจะมีทางใต้ดินเข้า โรงเรียนเลยจบ เบื่อ !!! รถติด


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top