ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 32
  1. #1
    Senior Inspector
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    ที่อยู่
    Gotham City..
    กระทู้
    1,378
    กล่าวขอบคุณ
    419
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,611

    6 เหตุผล(โลกไม่สวย) ที่การศึกษาไทยติดที่ "โหล่" อาเซียน







    สวัสดีครับ.. จะช้ำใจและอายแค่ไหน หากเราสอบได้ที่โหล่ของห้อง เพราะนอกจากจะโดนเพื่อนล้อ ครูมองติดลบ
    ยังอาจถูกพ่อแม่สวดถึงเช้าเลยก็เป็นได้ แต่เชื่อไหมครับว่าเหตุการณ์น่าอายแบบนี้ได้เกิดขึ้นกับประเทศไทยแล้ว ???
    ล่าสุดมีข้อมูลการประชุมของ World Economic Forum (WEF) - The Global Information Technology Report 2013
    ได้จัดอันดับคุณภาพการศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งประเทศไทยของเราถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 8 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีคะแนนต่ำที่สุด
    รองจากประเทศเวียดนามที่ได้อันดับ 7 และประเทศกัมพูชาอันดับ 6 O_O"

    โดยประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาดีที่สุดในกลุ่มอาเซียน เรียงตามลำดับที่ดีที่สุด ดังนี้ อันดับ 1 สิงคโปร์,
    อันดับ 2 มาเลเซีย, อันดับ 3 บรูไน ดารุสซาลาม, อันดับ 4 ฟิลิปปินส์, อันดับ 5 อินโดนีเซีย, อันดับ 6 กัมพูชา, อันดับ 7 เวียดนาม และอันดับ 8 ประเทศไทย

    เกิดอะไรขึ้นกับการศึกษาของประเทศไทย เห็นทีประโยคที่ถูกปลูกฝังว่า "การศึกษาบ้านเราไม่เป็นสองรองใครในอาเซียน"
    คงจะพูดได้ไม่เต็มปากซะแล้ว วันนี้เว็บ Dek-D เลยขอรวบรวม 7 เหตุผล(โลกไม่สวย) ที่ทำให้การศึกษาไทยเดินทางมาถึงวันนี้
    วันที่ถูกจัดอันดับเป็นที่ "โหล่" ของอาเซียน มาจากเหตุผลอะไรได้บ้างไปดูกัน

    1.คนเก่งไม่ชอบเรียนครู
    เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกวันนี้ เด็กเก่งจะไปกองอยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์
    หรือคณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนทางด้านคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะที่ปั้นคนไปเป็นครู ผู้ที่เป็นรากฐานของการศึกษาไทยนั้น
    กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร พี่ลาเต้ กล้าพูดได้เลยว่า 100% ของคนเรียนครู 30% คือคนที่อยากเรียนจริงๆ ส่วนอีก 70% คือคนตกหล่นจากคณะอื่นแล้วมาติดที่คณะครู
    พิสูจน์ได้แล้วจากแอดมิชชั่นแต่ละปีที่ผ่านมา

    2.สอบมากสุด 28 วิชาเพื่อเข้ามหา'ลัย
    O-NET 8 วิชา , GAT PAT 13 วิชา, วิชาสามัญ 7 วิชา นี่เป็นข้อสอบพื้นฐานที่เด็ก ม.6 ต้องขวนขวายสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย นี่ยังไม่นับสอบกลางภาค
    ปลายภาค สอบเก็บคะแนน หรือการบ้านที่ต้องทำอีก เมื่อกฏเกณฑ์ทำให้เด็กต้องรับผิดชอบเยอะ เด็กหลายคนจึงต้องตัดใจทิ้งความรับผิดชอบบางอย่างไปเพื่อประคองตัวเองให้
    อยู่รอด พอถึงตรงนี้ก็คงตอบได้ว่า คงไม่มีเด็กคนไหนเลือกทิ้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นอนาคตของตัวเอง และความหวังของพ่อแม่ ดังนั้นการที่เด็ก ม.6
    หนึ่งคนต้องสอบมากสุดถึง 28 วิชาเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย คงเดาได้ไม่ยากว่าจะส่งผลต่อการเรียนในโรงเรียนขนาดไหน และการจัดอันดับดังกล่าวก็เอาผลคะแนนจากการเรียนในโรงเรียนเป็นตัวชี้วัดซะ ด้วย อิอิ

    3.ครูไทย นักเรียนไทย คนละ GEN กัน
    จะเกิดอะไรขึ้น ??? เมื่อวัยรุ่นสมัยนี้ผู้ที่โตมาพร้อมกับความอิสระและเทคโนโลยี ต้องมาอยู่ในกรอบของผู้เป็นวัยรุ่นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
    นอกจากการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป รูปแบบความสนใจก็เปลี่ยนตามด้วย ยกตัวอย่าง หากต้องการค้นหางาน 1 ชิ้น อาจารย์หลายท่านอาจจะวิ่งไปห้องสมุด
    แต่นักเรียนหลายคนอาจจะวิ่งกลับบ้านไปเปิดอินเทอร์เน็ต หรือมีคำสั่งให้ทำพานไหว้ครูประกวด นักเรียนหลายเลือกยึดเอาความคิดสร้างสรรค์แต่งพานเข้าสู้
    แต่อาจารย์เน้นยึดความเป็นเอกลักษณ์สื่อความหมายในการตัดสิน ตราบใดที่ครูและนักเรียนยังพูดคนละภาษากันอยู่ การศึกษาไทยซึ่งเป็นตัวกลางของบุคคลทั้งสองก็คงยัง งง ไม่ต่างกัน


    4.ภาษาที่ 2-3 ของเด็กไทยแพ้ราบคาบ
    เหตุผลนี้อาจเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ เลยที่ทำให้การศึกษาไทยเรารั้งอันดับท้ายสุด เพราะต้องยอมรับว่าภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่ 3
    เด็กไทยเราความสามารถในการสื่อสารแพ้ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนอยู่ หลายช่วงตัว หลายปีผ่านมาประเทศไทยเรามักจะเอาการศึกษาบ้านเราไปเปรียบเทียบกับประเทศ
    สิงค์โปร์ หรือมาเลเซีย แต่ความจริงแล้วผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านภาษาอังกฤษของ 3 ปีล่าสุด เราเป็นรองประเทศลาวอยู่ ซึ่งในการจัดอันดับคุณภาพการศึกษาของ WEF
    ในครั้งนี้ ประเทศลาว และพม่า ไม่ได้เข้าร่วมในการจัดอันดับ

    5.เรียนหนัก เน้นท่องจำ
    สมัยก่อนเด็กไทยเรียน 8 โมง - บ่าย 3 โมงครึ่ง แต่สมัยนี้มันไม่ใช่แบบนั้นซะแล้ว ยิ่ง ม.ปลาย บางแผนการเรียนเริ่มเรียน 7 โมง บางวันเลิกเรียน 5 โมง
    การเรียนเยอะไปของบางโรงเรียนเลยส่งผลให้นักเรียนล้าจนเกิดภาพติดลบในการ เรียนในที่สุด ขณะที่การเรียนวิชาต่างๆ ก็จะเน้นการท่องจำ ท่องแล้วจำไปเรื่อยๆ
    ครูเคยจำมาแบบไหนก็ให้นักเรียนจำแบบนั้น ทั้งๆ ที่ความจริงนักเรียนอาจมีวิธีสร้างความเข้าใจในเรื่องนั้นได้ดีกว่า การท่องจำยังอยู่กับเด็กไทยเสมอวัดได้จากข้อสอบที่ออกมา
    ทั้งข้อสอบในชั้นเรียน และข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่หากใครเคยสอบจะบอกได้คำเดียวเลยว่า "ต่อให้มีความเข้าใจที่ดีเพียงใด ก็ต้องอาศัยการท่องจำอยู่ดี"

    6.นักเรียนเร่งทำเกรด ครูเร่งทำผลงานวิชาการ
    เป็นเรื่องจริงปฏิเสธไม่ได้ เมื่อนักเรียนต่างเร่งทำเกรดทุกวิถีทางให้ได้มากที่สุด ขณะที่ครูอาจารย์ต่างก็ต้องเร่งทำผลงานทางวิชาการเพื่อปรับฐานวิทยาฐานะของ
    ตนเอง เมื่อทั้งคู่มีเป้าหมายส่วนตัว จนลืมหรือละเลยการศึกษาที่เป็นส่วนกลาง บางโรงเรียนถึงขั้น คาบแรกอาจารย์พูดทักทายอยู่ 2 ประโยค คือ 1.ไปทำงานชิ้นนี้มา และ
    2.เจอกันอีกทีคาบสุดท้ายนะ พร้อมส่งเก็บคะแนน = ="

    เด็กไทยคิดเห็นยังไงกับข่าวนี้ ?
    สัมภาษณ์ : ปราญชลี บุญสงเคราะห์ หรือ เอิน
    นักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร

    "การศึกษาไทยยัดความรู้ให้เด็กมากเกินไป อย่างน้องของหนูเรียนที่ประเทศสิงคโปร์ ที่นั้นเรียนกำลังพอดี นักเรียนแบ่งเวลาได้สบายๆ มีทั้งช่วงเรียน และช่วงเล่น
    ทำให้น้องเอินทั้งจัดเวลาเป็น แต่น้องคนเล็กเรียนที่ไทย ทุกวันเรียนเสร็จ เรียนพิเศษต่อ เรียนจนบางทีเบลอ กลายเป็นคนแบ่งเวลาไม่เป็น เพราะวันทุกวันมีแต่เรียน
    ทุกๆช่วงเวลามีเรียนเรียน เด็กกลายเป็นนกแก้วนกขุนทอง เพราะเรียนแบบท่องจำ วิเคราะห์และประยุกต์ใช้ไม่เป็น อีกอย่างเด็กได้รับความรู้ไม่เท่าเทียมกัน หรือไม่ได้มาตรฐาน
    บางโรงเรียนครูก็เก่งมากกก ขณะที่บางโรงเรียนนักเรียนเก่งกว่าครูอีก อาจารย์บางท่านก็สอนไม่ได้มาตรฐานไม่มีจรรยาบรรความเป็นครู สอนเพียงตามหน้าที่เท่านั้น"

    เอาล่ะครับ ทั้งหมดนี้เป็นความจริงที่พูดออกมาแบบตรงๆ คงสะท้อนการศึกษาไทยได้ในระดับหนึ่งนะครับ ถึงแม้ ณ ปัจจุบันการศึกษาเราจะอยู่อันดับสุดท้ายของอาเซียน
    แต่ประเทศไทยเราก็มีข่าวดีให้น่าชื่นใจเกี่ยวกับการศึกษาอยูบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ ที่ได้ Top O-NET เต็ม 100 คะแนน , เด็กไทยที่ได้รางวัลชิงชนะเลิศวงโยธวาธิตระดับโลก
    หรือกลุ่มเด็กไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกกลับมาแต่ปีละ ส่วนในระดับอาเซียนคงต้องให้เวลาแก้ไขซักนิด ช่วงนี้ก็เชียร์กีฬาไปก่อนแล้วกัน ประเภทนี้บ้านเรามือหนึ่งของจริงครับ ฮ่าฮา 555



    ที่มาhttp://www.dek-d.com/education/32734/
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย cpt.noppakit : 7th September 2013 เมื่อ 20:40
    You mad bro? No? Okay.. Whatever you say..


  2. #2
    "Thank You"
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    1,784
    กล่าวขอบคุณ
    11,566
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,104
    มันเยอะเกินเหมือนกันน่ะไปโรงเรียน 8 โมงเรียนถึง 6 โมงเงี้ยก็ไม่ไหวน่ะ

  3. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    -Music Gamer-
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    505
    กล่าวขอบคุณ
    269
    ได้รับคำขอบคุณ: 242
    เคยเห็นประโยคที่ว่า 'ที่นักเรียนลอกข้อสอบ เพราะการศึกษาสอนให้เด็กเห็นความสำคัญของคะแนน มากกว่าความรู้'


  5. #4
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Phuket
    กระทู้
    1,755
    กล่าวขอบคุณ
    3,089
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,048
    ครูที่ รร ผม มาพูดตอนเช้า บอกว่า ไทย ติดอันดับที่โหล่ของอาเซียน เรื่องความสามารถของนักเรียน
    ความสามารถบ้าไร ระบบการศึกษาชัดๆ

  6. รายชื่อสมาชิกจำนวน 7 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    กระทู้
    975
    กล่าวขอบคุณ
    443
    ได้รับคำขอบคุณ: 438
    นี่คือ6เหตุผลหลัก ตรงจริงๆ

  8. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  9. #6
    THE HULK
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    948
    กล่าวขอบคุณ
    17,066
    ได้รับคำขอบคุณ: 484
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ teerachai212 อ่านกระทู้
    มันเยอะเกินเหมือนกันน่ะไปโรงเรียน 8 โมงเรียนถึง 6 โมงเงี้ยก็ไม่ไหวน่ะ
    นั่นแค่ที่ รร. ถ้านับที่เรียนพิเศษด้วย 2-3 ทุ่มเป็นอย่างต่ำ(เพราะผมเจออยู่)

  10. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  11. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    803
    กล่าวขอบคุณ
    637
    ได้รับคำขอบคุณ: 649
    แหม่ถูกทุกข้อเลยน๊ะครับ โดยเฉพาะ คนละ gen กัน ผมพูดภาษา ENG ได้เพราะโชคดีตอน ม1 มีครูประจำชั้นพึ่งจบจากต่างประเทศไฟแรง ศัพท์ที่ไม่มีสอนในโรง สอนเรื่อง bad ครูผมสอนหมด ยังกับ GTO จนปัจจุบันผมไม่เคยยุ่งกับสิ่งไม่ดีเลย นี่แหล่ะข้อดีของการมีครูไม่แก่

    ละอีกอย่างเคยนั่งคุยกับเพื่อนที่มาเลเซียครับ ผมนั่งติวคณิตศาสตร์กัน เพื่อนมาเลผม งง มากเลยว่าทำไมเรียนยากอะไรขนาดนี้ ที่ประเทศเค้าพวกสูตรยากๆรึว่าที่เกี่ยวกับตัวเลข ประเทศเค้าสอนใช้เครื่องคิดเลขครับ และประเทศเค้าเรียนน้อยมากกกกก ไม่กี่ชั่วโมง เพราะการเค้าบอกว่าการทำอะไรมากไปจะน่าเบื่อ แต่ถ้าทำน้อยๆมันจะน่าสนใจและอยากทำอีก เหมือนเวลาเล่นเกม ถ้าเราเล่นมากไปก็จะเอียนเกมนั้น แต่ถ้าเราเล่นน้อยๆ เราก็จะวกคิดถึงแต่เกม นี่คือที่เพื่อนมาเลบอกมาน๊ะครับ ส่วนเด็กเกเร เด็กเถื่อนที่มาเลก็มีครับ แต่ที่ไทยเยอะเกิ๊นนนน
    I Don't need Weapons I got logic

  12. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #8
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    72
    กล่าวขอบคุณ
    4
    ได้รับคำขอบคุณ: 13
    ผมว่า ควรจะสั่งสอนแบบญี่ปุ่นนะครับ แบบให้ฝึกทักษะต่าง ๆ ปลูกจิตสำนึก แล้วพออายุ 14 ก็เริ่มเรียนแบบจริงจัง ไม่บังคับเด็กให้มากนัก

    นอกเรื่องหน่อยนะครับ ลายเซ้น Taylor Swift นี่เพลงอะไรหรอครับ

  14. #9
    Senior Inspector
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    ที่อยู่
    Gotham City..
    กระทู้
    1,378
    กล่าวขอบคุณ
    419
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,611
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ assasip อ่านกระทู้
    ผมว่า ควรจะสั่งสอนแบบญี่ปุ่นนะครับ แบบให้ฝึกทักษะต่าง ๆ ปลูกจิตสำนึก แล้วพออายุ 14 ก็เริ่มเรียนแบบจริงจัง ไม่บังคับเด็กให้มากนัก

    นอกเรื่องหน่อยนะครับ ลายเซ้น Taylor Swift นี่เพลงอะไรหรอครับ
    Taylor Swift - ours ครับ
    You mad bro? No? Okay.. Whatever you say..

  15. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  16. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ร้านรับจ้างสารพัด เมืองเอโดะ
    กระทู้
    203
    กล่าวขอบคุณ
    562
    ได้รับคำขอบคุณ: 261
    "เรียนหนัก เน้นท่องจำ" กับ "ภาษาที่ 2-3 ของเด็กไทยแพ้ราบคาบ" นี่ใช่เลยครับ โดยเฉพาะเรื่องภาษานี่ครับ ที่จริงควรที่จะสอนหลักการสื่อสารมากกว่าการสอนไวยากรณ์นะครับ เพราะมันเนื้อหาที่ต้องจำเยอะ+ทำให้เด็กเครียดเปล่าๆ+เด็กเอาไปพูดไม่ถูก ส่วนตัวผมคิดว่าควรเปลี่ยนเป็นสอนภาษาเพื่อการสื่อสารดีกว่านะครับ
    "สอบมากสุด 28 วิชาเพื่อเข้ามหา'ลัย" อันนี้ก็น่ากลัวสุดๆสำหรับเมืองไทย อาจารย์ผมยังพูดเลยว่า ระบบ O-NET , GAT PAT เนี่ยมันไม่ดีซะเลย น่าจะใช้ระบบเอ็นเข้าแบบสมัยก่อนดีกว่าด้วยซ้ำครับ
    สรุป : การศึกษาไทยควรปรับปรุงในหลายๆจุดครับ (ที่จริงมีหลายเรื่องอยู่นอกจาก 2 เรื่องที่พิมพ์มา) ถ้ายังเป็นแบบนี้เด็กไทยเราคงไปเทียบอะไรกับประเทศอื่นไม่ได้เลย (ผมตอนนี้ ม.5 แล้วพอสอบเข้ามหาลัยก็ปี 58 พอดี จะรอดไหมเนี่ย )

  17. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    746
    กล่าวขอบคุณ
    734
    ได้รับคำขอบคุณ: 214
    เห้นด้วยทุกประการ

  18. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    THAILAND , BANGKOK
    กระทู้
    1,861
    กล่าวขอบคุณ
    622
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,083
    เอะ อ่ะ ไร ก็โทษเด็ก อ. ไม่เคยผิดอ่ะ -*- อ. บางคนความรู้แน่น แต่สอนคนไม่เป็น มาสอน บอกตามตรงว่าไม่รู้เรื่อง เจอมากะตัว ทั้งห้องมารวมตัวกันแล้วพูดเป็นดเสียงเดียวกันว่าไม่รู้เรื่อง แต่พอเกรดออกมาไม่ดี ก็มาโทษเด็ก "การศึกษาไทย มีเด็กไว้เป็นแพะ"

  19. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    120
    กล่าวขอบคุณ
    79
    ได้รับคำขอบคุณ: 59
    พูดได้เลยว่า "อาเซียนประเทศเรา ยังไม่พร้อมจริงๆ"

  20. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  21. #14
    Uploader
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    48
    กล่าวขอบคุณ
    2
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    เรียนหนักไม่พอ เจออาจารย์ชอบดูถูกนักเรียนครับ แล้วใครเล่าอยากจะเรียน.. ภาษานี่เรื่องจริงเลย เด็กไทยทำข้อสอบเพื่อผ่านครับ ไม่มีอยากติดซ้ำกันทั้งนั้น
    อยากให้มันเรียนเฉพาะสิ่งที่จำเป็นครับ ไม่ใช่มาท่องนู่นนี่นั่น แล้วให้มันผ่านมีคะแนนทั้งๆ ที่มันไม่ได้เอาต่อประโยชน์อะไรเลย ถ้าจะแบบนั้นจริงๆ อยากให้เรียนสายนั้นไปต่อ มหาลัยกันไปเลยดีกว่า เดี๋ยวมัธยมขั้นต่ำเลิก 5 โมง มหาลัย เลิกก็มืด
    แล้วยังจะมาบอกว่า เวลาพักผ่อน เยอะกว่าเวลาเรียนซะที มันหมดยุคนั้นไปแล้วครับ การศึกษาไทยควรหันมามองตัวเองได้แล้วครับ ไม่ใช่มาปรับปรุงกับเด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่รู้เห็นอะไรเลย

    Uploader 2010



  22. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  23. #15
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    94
    กล่าวขอบคุณ
    47
    ได้รับคำขอบคุณ: 33
    ตราบใดที่ยังมีความเชื่อเพื่อเรียนเอากระดาษมันไม่พัฒนาร้อกก
    เรียนมหาลัย ไปเรียนพิเศษเพิ่ม ในวิชาเดียวกัน ดูถูกตัวเองกันเกินไปมั้ง ไม่มีความสามารถพอจะศึกษาเองเลยเชียวเหรอ ?
    ประเทศไทยมีความคิดแปลกๆว่ามีใบปริญญาแล้วจะเก่งแล้วจะหางานทำง่าย
    แต่ก็บ่นไรมากไม่ได้ เราก็อยู่ไทย หลิ่วตาตามไปเรื่อยๆ
    เรียนเพราะต้องเรียน ไม่ได้เรียนเพราะอยากเรียน พ่อแม่ก็บังคับลูกไปเรียนนั่นนี่ การศึกษามีส่วนให้ประเทศชาติเจริญแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก
    คะแนนดีแต่ก็โง่วอยู่ดี ถ้าเอาแต่จำไปสอบ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nintyninty : 8th September 2013 เมื่อ 09:23

  24. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  25. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    650
    กล่าวขอบคุณ
    7
    ได้รับคำขอบคุณ: 313
    ผมเรียนช่างนะ ไม่ค่อยเจออะไรพวกนั้นหรอก สอบก็แค่เอาผ่าน เพราะ ตอนไปทำงานความรู้ที่เรียนมา คุณได้ใช้ไม่ถึงครึ่งหรอก

    ไปฝึกใหม่ทั้งนั้นแหละ

  26. #17
    Resident Evil Thailand
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพมหานคร
    กระทู้
    1,059
    กล่าวขอบคุณ
    185
    ได้รับคำขอบคุณ: 706
    ถามแค่เนี้ย คนที่เห็นว่าการศึกษาไทยดีมีถึง 50% รึเปล่า ถ้าข่าวนี้ยังไม่ออก มันมีไม่ถึงครึ่งหรอก พอข่าวออกปุ๊บ มันจะมีพวกสื่อสวะๆ คอยโยนความผิดมาให้เด็ก ทำให้บางคนที่โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงคิดไม่เป็น ไปคิดว่าเป็นความผิดเด็กอีก รุ่ง แน่ รุ่งริ่ง

  27. #18
    The man fastest alive
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    ที่อยู่
    Thousand Sunny
    กระทู้
    1,364
    กล่าวขอบคุณ
    4,044
    ได้รับคำขอบคุณ: 11,291
    เฮ้อ ไม่มีความสุขเลยสักนิดสิน้า

  28. #19
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    319
    กล่าวขอบคุณ
    2
    ได้รับคำขอบคุณ: 215
    ไอ้ข้อ 5 กับ 6 นี่ ผมมองว่าจริงที่สุดครับ - -

  29. #20
    มุ่งหน้าหาความลับของโลกต่
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    690
    กล่าวขอบคุณ
    26
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,716
    ชีวิต _ _ คงต้องเหนื่อยต่อไปตราบใดที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
    "จงทำในสิ่งที่เชื่อและจงเชื่อในสิ่งที่ทำ
    Space & Future Club เข้ามาได้ครับ

  30. #21
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Bangkok Thailand
    กระทู้
    2,103
    กล่าวขอบคุณ
    49
    ได้รับคำขอบคุณ: 977
    เด็กไทยฉลาดนะ .......แต่ในเรื่องโง่ๆๆ
    i7 8700K@5GHz + AORUS GTX 1080Ti 11G

  31. #22
    l.:: Head Hunter ::.l
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    503
    กล่าวขอบคุณ
    611
    ได้รับคำขอบคุณ: 252
    ยอมรับเลยครับที่ผมไปเรียนทุกวันนี้ไม่ได้รับความรู้อะไรเลยวัน ๆ เอาแต่ชีวิตรอดทั้งนั้น ลอกงานเพื่อนบ้างอะไรบ้างเพื่อที่จะได้เกรดผ่านและไม่ตก ที่หวังไว้คือวุฒตอนเรียนจบเอาไปทำงานแค่นั้น ไม่ใช่ความรู้เลยสักนิด
    CPU : AMD A6-3650 APU with Radeon(tm) HD Graphics 2.60 GHz - RAM : 8.00 GB - VGA : AMD Radeon HD 6790 1GB DDR5 - Mainboard : BIOSTAR A55ML+ - PSU XFX : 650W

  32. #23
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    1,448
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 575
    ปล.สิงค์โปร์เนี้ยจะสบายเพราะตอนเรียนป.1-ป.4เท่านั้นแหละ พอขึ้นป.5-มัธยม เอ็งจะรู้ซึ้งถึงคำว่าต้องทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เคยฟังบรรยายหัวขอการศึกษาในสิงค์โปร์ฟังแล้วไม่อยากไปเรียนเลย

  33. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  34. #24
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    กระทู้
    384
    กล่าวขอบคุณ
    170
    ได้รับคำขอบคุณ: 70
    Blog Entries
    1
    เรียนชั่วโมงเยอะไปก็ทำให้เด็กไม่มีกระจิตกระใจอยากไปโรงเรียนหรืออยากเรียนแล้วหละครับ

  35. #25
    ชิว ชิว กับ ชี วิต...
    วันที่สมัคร
    May 2012
    กระทู้
    1,570
    กล่าวขอบคุณ
    1,354
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,930
    บางคนก็ได้ดิบได้ดี แต่บางคนก็ออกนอกลู่นอกทาง

    ถ้าการศึกษามันดีจริง ประเทศไทยเจริญกว่าสิงคโปร์อีก
    Intel Core i5 3570 | Gigabyte HD 7950 OC | Kingston 8GB 1600 | Seasonic M12ii 750W

  36. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:



 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top