ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 15 จากทั้งหมด 15
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ในใจของใครบางคน -///-
    กระทู้
    811
    กล่าวขอบคุณ
    1,350
    ได้รับคำขอบคุณ: 559

    MAN OF THE World - วิบัติกลายพันธุ์ครองโลก (UPDATEตอนที่4)

    แนะนำเรื่องแบบย่อๆ
    นิยาย ซอมบี้ ฆ่าฟัน สะใจ ฮา โรแมนติก พร้อมฉากระทึกเร้าใจ ไปกับเนื้อเรื่อง ของเด็กร.ร.ชายที่รอดจากซอมบี้



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    หมายเหตุ (อ่านก่อนอ่าน !! )
    1.เนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละคร
    2.ผมเป็นนักเขียน ใหม่ พร้อมรับคำติชม เสมอนะครับ ผิดพลาดตรงไหน บอกผมด้วย
    3.ตอนอาจจะล่าช้าไปบ้าง เพราะเวลาผมไม่ค่อยจะมี
    4.ชื่อของตัวละคร ผมนำมาจากชื่อเพื่อนๆ จริงๆ ของผมนะครับ


    แก้ไข แล้วนะครับ จะดำเนินเนื้อเรื่องไปแค่ตัวละครเดียว คือ ติ นะครับ



    UPDATE ตอนที่4 !!!

    ตอนที่ 1 วันที่เลวร้าย X การแยกจาก X เส้นทาง



    "การแบ่งเซลของสาร...." คำพูดที่ สาถยาย ถึงวิชา ชีวะ ที่ครูประสพ ครูวิชา ชีวะ ที่เอาแต่พูดอยู่กับกระดาน
    ไม่มีนักเรียนคนไหนในห้อง ที่ดูตั้งใจเรียนเลยซักนิด รวมถึงผมด้วย ภายในห้อง บ้างก็มีคนเล่นเกมมือถือ
    อ่านการ์ตูน หรือเอาการบ้านวิชาอื่น ที่จะเรียนในคาบถัดไปมาทำ

    ใช่ ตอนนี้ผมอยู่ในห้อง ม.5/2 ในร.ร.ชายล้วนแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้าผมบอกชื่อไป คุณคงต้องอ๋อ แน่นอน
    เพราะมันเป็นร.ร.ที่เด่นด้านวิชาการ ในห้องต้นๆ ย้ำนะครับ ว่าห้องต้นๆ เพราะว่าในห้องปลายๆ
    มันก็มีชื่อเสียงเหมือนกัน แต่จะเรียกว่า "ชื่อเสีย" ซะมากกว่า เพราะมีเรื่องชกต่อยไม่เว้นแต่ละวัน ลักโขมย
    ซิ่งมอเตอไซต์ ยกพวกตีกับโรงเรียนอื่น จะเรียกว่า "เลวระยำ" ก็ได้ ผมพูดแล้วก็ขำ
    นี่ หล่ะครับ ภาพรวมของร.ร. ผม

    ตอนนี้ผมนั่งริมหน้าต่าง ด้านซ้ายของห้อง มองเห็น เมฆเกาะตัวหนาๆ มากมายอยู่บนท้องฟ้า ผมรู้สึกว่า
    ตัวผมชั่งเล็กเหลือเกินเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของท้องฟ้า

    ด้านข้างของผม มีเพื่อนสนิทผมหนึ่งคน เขาชื่อว่า น้ำต้น พ่อของเขาเป็นครู อยู่ที่ ร.ร. นี้แหละ
    เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม และก็จริงใจ เค้าไม่เคยโกหกผมเลยซักครั้ง ตั้งแต่เคยคบกันมา
    แต่นิสัยที่แก้ไม่หายของเขาก็คือ ขี้เซาเวลาเรียน แต่อย่าพึ่งคิดว่าเขาหลับทุกขั่วโมงนะ เขาจะหลับเฉพาะ
    วิชาที่เขาเกลียดเท่านั้น และหลับค่อนข้างจะลึกด้วย ซึ่งไม่ต่างจากตอนนี้ วิชาชีวะ เป็นวิชาที่เขาค่อนข้าง
    จะเกลียดมันมาก เพราะเป็นวิชาอธิบายซะส่วนใหญ่ ทำให้ครูที่สอนใช้วเลากว่า ค่อนคาบในการพูดกับกระดาน
    รวมถึงผมด้วย ที่ไม่ชอบวิชานี้ แต่ผมไม่เหมือนเขา ถ้าผมไม่ชอบผมก็จะแค่นั่งเหม่อ เหมือนกับตอนนี้

    ส่วนด้านหลังผม มีเพื่อนสนิทผมอีกสองคน พวกเขาคือ ตอยและปริ้น

    ปริ้น เขาเป็นคนที่รูปร่างน่าเกรงขาม ดูเผินๆ เหมือนกับ นักเลง แต่จริงๆ เขาเป็นคนดี มีน้ำใจ
    ไม่ค่อยโกรธใคร แต่ถ้าโกรธ เขาจะโกรธฝังใจ หรือเรียกว่าแค้นไปเลย พ่อของเขาเป็นทหารใหญ่โต
    แถมเขายังเป็นลูกคนเดียว จึงทำให้ถูกโอ๋อยู่บ่อยๆ แต่กลับกัน เขากลับเป็นคนที่ใจกล้าหน้าด้านที่สุด
    แถมกำลังกายและรูปร่างของเขา เหมาะแก่การเป็นทหารสัญญาบัตร เหมือนพ่อของเขามาก
    ที่สำคัญ เขาเป็นคนที่คอยตบมุกตลกๆ กับผม อยู่บ่อยๆ ทำให้เราดูเป็นคนสนุกสนานไปเลย

    มาที่ ตอย เขาเป็นทายาท ตระกูลร้อยล้าน แม่ของเขามีธุรกิจใหญ่โต จึงมีอิทธิพล ทำให้เพื่อนๆ
    มองเขาเป็นคนคบยาก ถือตัว ฟุ่มเฟือย แต่เมื่อได้คบกับเขาจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนติดเพื่อน
    มองโลกในแง่ดี แถมเก็บเงินเก่ง ขี้อาย และชอบมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทะเลาะกับปริ้น อยู่บ่อยๆ
    แต่จริงๆ แล้ว สองคนนี้ สนิทกันมากๆ

    "ปิ้ดดดดดดดดดด" เสียงดังแสบแก้วหู ดังขึ้น มาขัดจังหวะ ขณะที่ผมกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว

    "เสียงอะไรหน่ะ " ครูประสพ กล่าวออกมา พร้อมมองไปที่ต้นเสียง นั่นคือนอกหน้าต่างทางผมนั้นเอง
    พร้อมกันกับนักเรียนชายทั้งห้อง ที่หันควับ มองมาที่กระจกบานฝั่งของผม


    "เฮ้ย นั่นมัน ...." เสียงของผมกล่าวออกมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะได้ยินกันทั้งห้อง

    ผมเห็นเหมือนกับเครื่องบิน ที่เต็มไปด้วยควันโพยพุ่ง ทั้งตัวลำ ที่กำลังหมุนควงสว่าน มาทางนี้

    "เผ่นเร็วววว" เสียงของปริ้น ที่ได้สติก่อน เขาร้องตะโกนออกมาสุดเสียง ทำให้น้ำต้นที่สะลึมสะะลือ ตื่นขึ้น

    แต่มันช้าไปแล้ว ผมเห็นเครื่องบินใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และ "ตื้มมมมมมม" เสียงเมื่อเครื่องบินสัมผัสเข้ากับตึกเรียนผมไม่รู้สึกเจ็บเลย
    ภาพมันดูช้า ไปหมด ผมเห็นตัวเองกำลังลอยคว้างอยู่ในอากาศ โดยไร้ซึงแรงยึดเหนี่ยว

    "วิ้งงงงงงง" ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียง วิ้ง ๆ นี้ มันเหมือนกับเสียงที่ได้ยินตอนเล่นเกมยิงปืนเลย
    เวลาที่โดนระเบิด เข้าเต็มๆ อ๋อ มันคงเรียกว่าหูดับซินะ

    หลังผมกระแทกกระจกอีกฝั่งนึง กระจกรับแรงกระแทกไม่ได้ มันร่วงหล่นลงมา พร้อมกับตัวผม ที่ในขณะนี้
    กำลัง ตกลงมา จากตึกชั้น 4 ผมเห็นนักเรียคนอื่นก็ตกลงมาเช่นกัน เขาแหกปาก เต็มที่
    เขาคงจะตะโกนโหยหวน แต่ผมไม่ได้ยินอะไรเลย ซักนิด ได้ยินแต่เสียง วิ้ง นี้ผมกำลังจะตายหรือไง
    พ่อ แม่ ผมหล่ะ ผมยังไม่เคยมีแฟนเลยนะ คนที่ผมแอบชอบหล่ะ ผมยังไม่ได้บอกเค้าเลยนะ
    เพื่อน ผมหล่ะ ไอ้ต้น ไอ้ปริ้น ไอ้ตอย หล่ะ มันจะเป็นยังไงกันบ้าง

    "ตู้มมมมม ตึงงงงง"เสียงระเบิดละลอกสอง ดังขึ้น หลังผมกระแทกเข้ากับ อะไรแข็งๆ ซักอย่าง
    ผมไม่รู้สึกเจ็บเลย เอ๊ะ หรือผมตายแล้ว มันชาไปหมด และตอนนี้ตาผมกำลังจะหลับลง ทุกอย่างเริ่มมืด
    ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือ ควัน บางอย่างฟุ้งกระจายออกมา พร้อมกับแรงระเบิด มันเป็นสีอะไรซักอย่าง
    ผมมองอธิบายไม่ได้ และ "ฟุป" ทุกอย่างดับมืดลง มันเกิดอะไรขึ้น นี่ผมฝันไปหรอ
    คำถามมากมายหลั่งไหลเข้ามา ทุกอย่างเข้าสู่ความมืด


    ตอนที่ 2 สิ่งที่หายไป X ความเคว้งคว้าง X น่ากลัว


    "โอยยยยยย" ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อเปลือกตาทั้งสองข้างเริ่มเปิด
    เอ๊ะ ผมอยู่ไหนเนี้ย "ติ้ง" น้ำอะไรบางอย่าง หยดจากปลายนิ้วผมตกลงบนพื้น จากนั้นเสียงโหวกเหวกโวยวาย "อ้ากกก ช่วยด้วย "
    เริ่มดังแทรกเข้ามาในหูผม ผมลองเปิดตา เปิดหูมองดูดีๆ ผมมองเป็นควันโพยพุ่งอยู่เต็มไปหมด ผมลองลุกขึ้นช้าๆ
    ผมพบว่าตัวเองนอนแผ่อยู่บนหลังคาของป้อมยามที่ โรงเรียนนี่นา ด้านล่างวุ่นวายไปหมด
    ผมมานี่ ได่ไง แล้วเกิดอะไรขึ้น ผมเริ่มปวดกะบาล ผมลองนึกย้อนดู
    ก่อนหน้านี่ ผมนั่งเถียงเรื่อง งู กับ ปริ้น เพื่อนของผมขณะเรียนชีวะอยู่ แล้วจู่ๆ ก็เหมือนมีอะไรพุ่งชนเข้ากับ อาคาร ตรงห้องที่ผม เรียนอยู่
    แล้วเป็นตรงฝั่งที่เรานั่งกันพอดี อ๋อออออ ผมปลิว ออกมาจากอาคาร เลยหรอ มาไกลขนาดนี้เลยหรอ
    ทันใดนั้น ผมก็เริ่มปวดเข้า ที่ช่องท้อง มองก้มมองลงมา ผมเห็นเศษแก้วอันเท่าปากกา 4 อันมัดรวมกัน แทงอยู่ตรงท้องผม

    ความเจ็บปวดลั่นเข้ามาในหัวผม ผมอยากจะร้องให้ลั่นเลย แต่นั้ไม่ใช่เวลาแล้ว ดูด้านล่างวุ่นวายไปหมด เหมือนพวกนักเรียน อาจารย์
    กำลังหนีจากอะไรบางอย่างกันอยู่ ผมเงยหน้ามองตึก 2 ตึกที่ผมเรียนชีวะ มันมีหัวเครื่องบินแทงทะลุตึกจากอีกฝั่งนึงเลย อย่างกะหนังไซไฟ

    "วิ่งเร็วๆๆ วิ่งเท่านั้นถึงจะรอด พวกมันเป็นซอมบี้" เสียงของอาจารย์ฝ่ายปกครองคนนึง เขาเป็นอาจารย์อายุวัยทอง แต่ทำงานอย่างรุ่นร้อน
    เขามักจะวิ่งไลจับพวกสูบบุหรี่ใน รร. เสมอ และไม่เคยมีนักเรียนคนไหน ที่หนีเขาพ้น

    "อ็ากกกก"เสียงของนักเรียนชายคนหนึ่งที่ถูกนักเรียนอีกคน เอ๊ะไม่ซิ ไม่น่าจะใช่คนแล้ว เลือดอาบตัวซะขนาดนั้น ปากก็ฉีกไปทางขวาซะ เบี้ยวเชียว
    ดูหน้าเกลียดหน้ากลัว มันกัดเข้าที่ทายทอยของนักเรียนผู้โชคร้ายคนนั่น ผมจ้องมองเข้าที่หมดสติๆ ไปหลังจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ล่มลงไปนอน

    เจ้าตัวที่กัดเขานั่น ก็เลิกสนใจเขา และไปโดดงับขาของผู้โชคร้ายด้านหน้า อีกคนนึงแทน "อูกกกกก อ่าาาาา" เสียงนั่นทำให้ผมกลับ
    ไปมองชายโชคร้ายที่โดนกัดตั้งแต่ตอนแรก เขาตัวกระตุก ไปกระตุกมา และเขาก็ลุกขึ้นมาอีกครั้ง สายตาท่าทางของเขา คล้ายกับ
    พวกมันเลย นั่น ผมเดาถูกเผง ชายคนนั่นที่พึ่งฟื้นจากความตาย วิ่งเข้าไปโดด กัดคอชายโชคร้ายที่สะดุดขาตนเองล้ม มันทึ้งหน้าของเขาจนเละและกัดเข้าที่คอเต็มแรง

    ผมเบือนหน้าหนี มันเป็น ซอมบี้จริงๆ หรอเนี้ย ทนดูต่อไปไม่ไหว แล้ว ผมลุกจากท่านั่ง และโดดลงจากหลังคาป้อมยามที่สูงไม่มากนักอย่างทุกรักทุเร
    ความเจ็บที่แผลยังมีอยู่ ในสมอง แต่สมองส่วนใหญ่ ถูกกระตุ้นให้หนี ให้ออกวิ่ง สัณชาตณาน หนีตายของผมมาแล้ว ผมออกวิ่งสุดแรง
    ไปทางที่ทุกคนมุ่งหน้าไป ผมซอยเท้าสุดชีวิต พวกมันวิ่งตามมา เหมือนกัน แต่นั่นไม่เร็วมาก เหมือนการวิ่งจ็อกกิ้งมากกว่า
    แต่ที่ทำให้ผมไม่อยากอยู่ใกล้มันเกิน 3 เมตรก็เพราะ แรงกระโดดของมันเหนือชั้นจริงๆ มันสามารถโดดงับคอ หรือกระชากคุณ ได้จากด้านหลัง
    เมื่อคุณโดนมัน กระชากไป คุณก็จะโดนมันกัดแทะ จยเละ และไม่ถึง10วิ คุณก็จะกลายเป็นแบบพวกมัน

    "นี้มันหนังซอมบี้ชัด" ผมบ่นอุบ ออกมา พร้อมกับสับเท้าแซงคนอื่นๆ ที่วิ่งกันหนีตายเช่นกัน ถึงหน้า รร. แล้ว โอย ข้างนอก มีตำรวจมากมาย
    วิ่งสวนเราไป เขาพยายามที่จะสู้กับพวกมัน แต่พวกมัน หรือที่เรียกว่า ซอมบี้นั่น มันเยอะเกินไป น่าจะ 1000 ตัวได้แล้วมั้ง และดูจะมากขึ้นเรื่อย

    ผมเหลียวหลังไปดู พบกับ นายตำรวจคนหนึ่งที่กราดกระสุน 9 มม. ใส่ซอมบี้ตัวหนึ่ง หน้าจะเข้าลำตัวทั้งหมด มันไม่ยักตาย แค่ทำให้มันช้าลงเท่านั้น
    ทันใดนั้น ซอมบี้อีกตัวหนึ่ง พุ่งเข้าตะตบคอเขา จากด้านข้าง เขาพยายามสะบัดตัวหนี แต่เคราะร้าย ซอมบี้อีกตัวพุ่งเข้ากลางลำตัว
    ทำให้เขาต้องเป็นเหยื่อ และกลายเป็นพวกมัน อีก

    ผมหันกลับมาและซอยเท้า ให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ พุ่งแหวก กลุ่มคนไป ผมหันไปเห็นที่ทางออก ของ ร.ร.
    "พระเจ้า ข้างนอกมันนรกชัดๆ" ผมอุทานออกมา ผมอ้าปากค้าง แต่ผมพยายามไม่หยุดวิ่ง
    ถ้าที่บอกว่าข้างใน ร.ร. วุ่นวาย ข้างนอกนี้วุ่นวายยิ่งกว่ามาก รถติดกันเป็นทาง บ้างก็ขี่ฝ่าชนกันไป บ้างก็ลงรถและวิ่งหนี บ้างก็ติดอยู่ในรถ
    ไม่มีใครช่วยใคร ตัวเองสำคัญที่สุด ผมเห็นคู่แฟนกันที่เคยรักกัน แต่ตอนนี้ ฝ่ายชายผลักฝ่ายหญิงที่เป็นเหมือนตัวถ่วงทิ้งไป และออกวิ่งสุดแรง
    เขาไม่สนใจ อะไรแล้ว แต่กรรมตามทัน รถเก๋งจากไหนไม่รู้ ขี่ด้วยความเร็วพุ่งชน เขาจากด้านหลัง ตัวลอยละลิ้วกลางอากาศ
    แต่รถเก๋งหรือจะหยุดดู เขาก็กลัวที่จะต้องเผชิญกับซอมบี้ เหมือนกัน ตอนนี้ไม่มีอะไรถูกอะไรผิดแล้ว

    ผมพ้นประตู ร.ร. มาแล้ว และต้องหยุดนิ่งอีกครั้ง ไปไหนดีหล่ะ ผมคิดขึ้นมาในใจ ผมหันมองซ้าย ขวา " ใช่ ! กลับบ้าน "
    มันเป็นความคิดพื้นฐานอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่มีที่ไป คุณก็ต้องคิดถึงบ้านมาก่อนแน่นอน เมื่อตัดสินใจได้ ผมรีบวิ่ง ออกไปจากประตู ทันที
    ผมจะไม่กลับมามองด้านหลัง อีก แต่เอ๊ะ ! ไอ้ปริ้น ไอ้ตอย ไอ้ต้น หล่ะ พวกมันไปไหนว่ะ เรื่องความผูกพันมันแล่นเข้ามาในหัว
    ผมเหลียวหลังกลับไป มอง มองหาคนที่อยากจะเห็นหน้าทั้ง 3 คน "เอาวะ พวกมิงต้องรอดกันแน่ กุขอไปหาครอบครัวก่อนนะ เดี๋ยวกุมา"

    ผมออกวิ่งอีกครั้ง ผมจะไม่ทิ้งพวกเค้าแน่ ผมจะกลับมาแน่ พวกเค้าหน้าจะโดนแรงระเบิดเหมือนผม
    แต่ว่าผมอยู่ห่างจากหน้าต่าง มากกว่าทุกคนใน 3 คน ผมเลยรอด แล้วพวกเค้าจะะรอด ไหม ผมเริ่มคิดมากอีกแล้ว
    "ต้องทำทีละอย่างซิ ติ กลับบ้านก่อน" ผมบอกตัวเอง ผมออกวิ่งสุดแรงและพยายามไม่คิดเรื่องอื่นอีก
    ผมวิ่งหลบซากคนที่กำลังจะกลายร่าง โดดข้ามรถยนต์ ที่ขวางทาง อะดินารีน ผมหลั่งไปเยอะมาก

    "อ้ากๆๆ" คนที่ขี่มอเตอไซต์ด้วยความทุรักทุเล โชคร้ายโดนซอมบี้โดดใส่ด้านหน้าพอดี เขาจึงล่มไปกองกับพื้นพร้อมกับซอมบี้อีกเป็นสิบที่รอลุมกินโต๊ะเขา ไอเดียของผมผุดขึ้น "ยืมรถหน่อยนะเพ้ " ผมไม่รอฟังคำตอบ ผมพุ่งขึ้นควบรถ ที่กำลังจะล่ม เพราะไม่มีคนขับ แล้วบิดมอเตอไซต์
    จนหมดปลอก ไมล์รถ ตีขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมขี่หลบรถ ที่พุ่งชนกัน หลบผู้คน บรรยากาศตอนนี้ เหมือนสนามรบในหนังไม่มีผิด
    ลมตีเข้าหน้าผมแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามความเร็วที่บิดไป ผมรีบบึ่งไปที่บ้านผมอย่างรวดเร็ว สิ่งเดียวที่ผมคิดตอนนี้คือ
    ขอให้ครอบครัว และ เพื่อนผมปลอดภัยด้วยเถอะ


    ตอนที่ 3 ที่ไหน X ใคร X ยาแก้ปวด


    "บรื้นนนนนน" เสียงมอเตอไซต์ความเร็วสูง ผมบิดมันจนเครื่องเริ่มร้อนแล้ว ใกล้จะถึงบ้านผมแล้ว
    พ่อแม่ ผมจะอยู่ไหมนะ แม่ผมไปต่างจังหวัด แต่พ่อผมวันนี้ไม่สบายนอนพักอยู่ที่บ้าน
    "แย่หล่ะ " เมื่อนึกขึ้นได้ พ่อจะหนีมันได้หรอ ผมเริ่มกังวลหนักขึ้น

    "ตู้มมม" ขณะคิดอะไรไปไกล ผมไม่ทันระวังตัว ซอมบี้ตัวอ้วนมันวิ่งตัดหน้ารถ ผมหักหลบเต็มที่ และชนเข้ากับ เกาะกลางถนนเต็มๆ
    ตัวผมลอยออกจากรถมอเตอไซต์ คิดดูละกัน ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พุ่งชนเข้ากับเกาะกลางถนน จะเป็นยังไง
    หลังผมชนเข้ากับ ซากรถกะบะคันหนึ่ง โชคยังดี มันไม่มีอะไรแหลมๆ โผล่ออกมา

    "อั๊กๆ " ความเจ็บถึงขีดสุด ผมไม่อยากร้องเสียงดังมากนัก เพราะเดี๋ยวเสียงของผมจะไปเตะหูของซอมบี้ และมันจะมางาบ ผมแน่
    รู้สึกกระดูกผมจะหัก นะ ลุกไม่ไหว แน่ เคราะซ้ำกรรมซัด ซอมบี้ไอ้อ้วนที่มันตัดหน้ารถผม มันหันกลับมามองที่ผม น้ำลายมันไหลออกมาจากปาก
    มันลากขา ที่เหมือนจะเละเปราะอะไรบางอย่าง มาที่ผม มันเดินค่อนข้างช้า "ต้องลุกแล้ว" ผมพูดกับตัวเอง ผมกุมท้องตัวเองและพยามจะพยุงตัวเองขึ้น
    เฮ้ย ผมจับไปโดนแท่งแก้ว ตอนแรก ที่ัมันปักท้องผมอยู่ "ลืมไปเลยแฮะ" ความเจ็บเริ่มหลั่งออกมาแล้ว ผมเคยดูสารคดี พวกอุบัติเหตุ อะไรนี้แหละ
    เค้าบอกว่า ความเจ็บ ความเหนื่อย จะหายไป ถ้าอะดีนาลีน หลั่งออกมา ใช่เลย มันถูกเผง ตอนผมวิ่งออกมาจาก ร.ร. ผมวิ่งปร๋อเลย
    ไม่เจ็บท้องเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ มันโคตรปวดเลย "แฮ่ - -- -" เสียงซอมบี้อ้วน มันใกล้เข้ามาแล้ว ผมไม่รอดแน่ ผมลุกไม่ไหวเลย

    ผมหลับตาลง ผมคิดถึงเรื่องที่เคยทำ เรื่องที่ทำแล้วมีความสุข คิดถึงเรื่องดีๆ คิดถึงเพื่อน "คงหมดเวลาของกุ แล้วหว่ะ" ผมปล่อยมือจาก ท้องที่กุม
    แผลไว้ ตอนนี้ผมเจ็บทั้งท้องทั้ง หลัง และแขนด้วย ผมไม่หน้ารีบเลย มันหน้าอายไหมเนี้ย รถล้มตอนอายุ 17 เนี้ย หึๆ ผมนึกขำในใจ

    "ยังไม่หมดเวลาของนายหรอก" เสียงใส ของใครบางคน ดังแทรกเข้ามาในหูของผม ผมลืมตาขึ้น นี้มันเสียงนางฟ้าใช่ไหม
    ผมมองไปที่ต้นเสียง พบกับผู้หยิงสองคน เธออยู่ใกล้กว่าที่คิด ผมมองเธอถนัดๆ ก็คุ้นตา คนแรกผมสีดำซอยสั้นๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม ดูเป็นคุณหนู
    เธอคือ มิ้น อีกคนอยู่ทางขวาของผม เธอดูสูงกว่ามิ้น รูปร่างเพรียวบาง ผมยาวรวบหลัง ตาดำขลับดูเหมือนผู้หญิงใจร้าย แต่ดูน่ารัก เธอชื่อ หวาน
    ทั้งสองคนผมรู้จักตอนเรียนพิเศษ หลังเลิกเรียน พวกเธออยู่โรงเรียนหญิงล้วน ซึ่งอยู่ข้างๆ โรงเรียนผม

    มิ้นเอาแขนซ้ายผม พาดคอเธอ ส่วนหวานก็นำแขนขวาผม พาดคอเธอ เช่นกัน เธอพยุงผม ขึ้นบ่าและลากอย่างทุลักทุเล

    เธอพาผมเดินตรงไป ฝ่าฝูงชนและความวุ่นวายมากมาย เธอเลี้ยวเข้าซอย เล็ก เข้าไป มันเป็นที่ ที่คุ้นตา แต่ผมนึกไม่ออก สมองมันเริ่มสั่งการช้าลงแล้ว
    ภาพมันเบลอๆ ไปหมด ผมทรุดตัวลง และทั้งสองก็รับรู้ได้ "มิ้น แย่แล้ว ตอยมันจะหมดสติแล้ว รีบพามันเข้าไปเร็ว" หวาน กล่าวออกมาอย่างรีบเร่ง
    น้ำเสียงเธอดูกังวลและเป็นห่วงผม "รีบเข้าไปกันเหอะ" มิ้น ตอบกลับ ด้วยเสียงคล้ายๆ กัน

    คอผมตกแล้ว สายตาผมมองลงแต่พื้นด้านล่าง เห็นเป็นถนน ที่เปลี่ยนเป็นปูน แล้ว สงสัยเราจะเข้ามาในสถานที่ไหนซักแห่งแล้ว

    "มาๆ ลุงหามเอง" เสียงที่ฟังคุ้นหู ดังออกมาทางด้านหน้า ผมอยากจะเงยไปมองว่าเป็นใคร แต่ร่างกายมันทำไม่ได้ ตอนนี้ผมไม่สามารถควบคุมร่างกาย
    ได้อย่างอิสระแล้ว แขนที่ดูแข็งแรงและใหญ่กว่าถูกเปลี่ยนออกไปจากแขนของมิ้นและหวาน ตอนนี้ผมเคลื่อนไหวได้เร็วจากการเปลี่ยนคนหาม
    "น่าจะเสียเลือดมาก รีบพาเข้าไปเร็ว " เสียงทุ้มต่ำนั่น ดังต่อไป เสียงประตู เปิด พื้นจากปูนกลายเป็นกระเบื้อง สีกระเบื้องมันดูคุ้นๆ อีกแล้ว

    มันที่ไหนกันนะ "ฟุบ " ผมถูกวางลงบนโซฟา ภายในสถานที่ไหนสถานที่หนึ่งที่ผมรู้จักแต่นึกไม่ออก สุดท้ายผมก็เห็นหน้าผู้ชายคนที่หามผมเข้ามา
    หน้าตาดูน่ากลัว ผมสั้นเกรียน เขาคือลุง หิน ลุงเจ้าของสระว่ายน้ำ ที่ประจำของพวกกลุ่มเพื่อนผม พวกเราชอบมาว่ายน้ำที่นี้ ใช่แล้ว ผมอยู่ที่สระว่ายน้ำ
    กระเบื้องที่ดูคุ้นตานั่นเป็นของสระว่ายน้ำ นี้

    "เอ้า ติ กินนี้ก่อน " ลุงหิน เอายาอะไรบางอย่างใส่ปากผม แล้วเอาน้ำตาม ผมกลืนมันลงไป ผมเห็น มิ้นและหวาน ที่พึ่งปิดประตู ล็อคกลอนอะไร
    เสร็จ ก็เดินตามมาดูผม ทุกอย่างมันดูรวดเร็ววุ่นวายไปหมด ผมโดนเครื่องบินชน ผมตกอาคาร ผมจะกลับบ้าน ผมรถล้ม
    อะไรหลายๆ อย่างมันเกิดขึ้นไวมาก จนผมตั้งตัวไม่ทัน ตอนนี้ผมมาอยู่ที่สระว่ายน้ำ ในที่ที่ อาจจะปลอดภัยสำหรับผมในตอนนี้ ก็ได้

    "ติ อย่าหลับนะ เพราะตอนที่นายหลับ นายจะหนีไม่ได้ พวกเราจะช่วยนายไม่ได้ด้วย เพราะฉะนั้น ห้ามหลับ "เสียงของมิ้น บอกผม ผมได้ยินชัดเจน
    "อือ " ผมเอ่ยปากออกมาครั้งแรก ผมคุยกับผู้คนครั้งแรก หลังจากที่ตกลงมา จากตึก

    "อั๊ก"ยังไม่ทันตั้งตัว ลุงหินกระชากแท่งกนะจกออกจาก ท้องผม ผมเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที "นี้ลุงจะฆ่าผมหรอ " ผมพูดออกมาพลางเจ็บปวด
    "ต้องรีบทำแผลก่อนที่ยาจะหมดฤท เอ็งทนเจ็บไปก่อน " ลุงหินเริ่มทำแผล ตรงช่องท้องของผม ผมหลับตาปี๋กล่ำกลืนความเจ็บปวดไว้ให้ได้มากที่สุด
    ในชีวืตผม ผมเคยเจ็บมากที่สุดก็ตอนต้องฝ่าเข่า ตอนเล่นฟุตบอล แต่นั้นมันฉีดยาชา นะ แล้วก็มันแค่เจ็บหลังฝ่าตัดแค่นั้น เอง แต่นี้มันทำแผลสดเลย

    และแล้วมันก็ผ่านไป ลุงเอาผ้าพินแผลพันรอบเอวผม เขาเอาเสื้อแขนยาวไหมผรม มาให้ผมเปลี่ยน ผมเริ่มเจ็บน้อยลง ลุงหินพยุงผมให้นั่งพิงโซฟา
    "แผลที่หลังคงต้องให้มันหายเองนะ ลุงทำไรไม่ได้จริงๆ" ลุงหินเก็บอุปกรณ์เข้าไปในกล่อง "ขอบคุณลุงมากนะครับ" ผมยกมือไหว้ลุง เขามีบุญคุณกับผม
    เขาช่วยชีวิตผม "ขอบคุณพวกเธอด้วยนะ " ผมหันไปหา มิ้นและหวาน พวกเธอยิ้มให้ ผม พวกเธอดูไม่อ่อนแอ เหมือนผู้หญิง ในหนังซอมบี้เลย
    เธอดู เป็นที่พึ่งได้ด้วย

    "มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ " ผมตั้งคำถามกับลุงหิน ผมไม่รู้ว่าลุงเขาจะมีคำตอบให้ผมไหม แต่ผมก็ยังคงอยากจะถาม

    "เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ ร.ร. นาย มีบางอย่างออกมาจากการระเบิดนั้น มันไล่กัดคน และทำให้คนที่มันกัด กลายเป็นแบบพวกมัน" มิ้นกล่าว "ฉันได้ยินมาประมาณนี้แแหละ " เธอหันมามอง ผม ผมหันไปมองเธอ
    "แล้วพวกเธอหนีมาได้ไง" ผมเอ่ยถามพวกเธอ
    "เราไม่ได้หนีมา พวกเรามาอยู่ที่นี้ตั้งแต่เที่ยงแล้วแล้ว มิ้นมาหาของ มิ้นบอกว่าทำของหายที่นี้ เราเลยมาหาของกัน" หวานตอบ
    "คงเป็นโชคดีของพวกเธอ" ผมตอบตามที่ผมคิดไปจริงๆ ถ้าพวกเธอไม่โชคดี คงจะไม่ได้ รอดง่ายๆ แบบนี้แน่
    "แล้วพวกเราก็เผอิญได้ยินวิทยุ ที่ลุงหินเปิดอยู่ ได้ยินว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ใน ร.ร. เขาสั่งอพยพคน รัฐบาลกำลังส่งทหาร มา อะไรซักอย่าง" มิ้นกล่าวต่อ
    "เกิดเหตุร้ายแรงแน่ๆ " หวานเสริมมิ้น

    "นี้กี่โมงแล้ว" ผมถามไป เมื่อนึกถึงเรื่องเวลา "บ่ายหนึ่ง 25 นาที" ลุงหินตอบหลังจากมองนาฬิกา
    อืม บ่ายโมง หรอ ผมเริ่มเรียนชีวะตอน เที่ยงครึ่ง อืมมม ผมครุ่นคิด ตอนที่เครื่องบินพุ่งชนไม่หน้าจะเกินบ่ายโมง งั้นผมก็สลบไปแค่แปปเดียวหน่ะสิ
    "ทำไมเหตุการณ์มันเร็วจัง เครื่อบินพุ่งชนแล้วซอมบี้ก็ออกมาเลยหรอ" ผมถาม งั้นอาจจะมีแนวโน้มว่า เพื่อนทั้ง 3 ของผมยังรอด
    ผทอาจจะตื่นมาเป็นคนแรก พวกเขา อาจจะกำลังตื่นขึ้นมาก็ได้ ใช่ ผมยังไม่หมดหวัง ผมยังหลับไปที่บ้าน ไปช่วยพ่อผมก็ยังทันนี่
    "ผมต้องไปแล้ว หล่ะ" ผมลุกขึ้นจากโซฟา อย่างทุลักทุเล ทำไมตัวผมมันหนักจังหล่ะ มันเหมือนไม่ใช่ตัวผมเลย
    "ไม่ได้ นายต้องอยู่ที่นี้ ที่นี้ปลอดภัยสำกรับนายที่สุดแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ที่นายสภาพแยขนาดนี้น่ะ" หวานบ่นอุบ
    พร้อมกับผลักผม ให้ล้มลงนั่งพิงกับโซฟาดังเดิม
    "แต่ว่า .... " "ไม่มีแต่ นายไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น" หวานบ่นพร้อมกับตบหัวผมเบา ๆ เราเคยเจอกันตอนเรียนพิเศษเท่านั้นก็จริง
    แต่เราเรียนพิเศษทุกเสาร์อาทิตย์เลย เราจึงเคยคุย จึงเคยเล่นกันบ้าง เธอจึงเหมือนเพื่อนผู้หญิงที่มี่อยู่น้อยนิดของผม

    "ปังๆๆ" ยังไม่ทัน ได้หายเหนื่อย เสียงปืนดังขึ้นอย่างถี่รัว มันดังมาจากนอกซอย นอกถนน ใช่ มันมีเสียง เครื่องบิน มีฮอ ด้วย
    "เรารอดแล้ว รีบออกไปกันเหอะ" มิ้นกล่าวพร้อมกำลังจะลุกขึ้น
    "ไม่ เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น" ลุงหินกล่าว "เราไม่รู้ว่าเสียงปืนนั่น จะเป็นมิตรหรือศัตรู เมื่อเราออกไป ปืนนั่นอาจจะยิงเราในทันทีเลยก็ได้ "
    "ใช่ ลุงหินพูดถูก เรารออยู่ในนี้เงียบๆ ดีกว่า" ผมเห็นด้วยกับลุงหิน ถ้าเราออกไป เขาอาจจะยิงเราเลยก็ได้ ตอนนี้ไม่มีตำรวจ ไม่มีศาล
    เราจะอยู่รอดได้ด้วยตัวเราเอง


    ตอนที่ 4 มีด X ปืน X เดิน

    คืนแรก ของวันที่เต็มไปด้วยซอมบี้ผ่านไปอย่างยาวนาน ผมอยู๋ในบ้านของลุงหินที่อยู่ในสระว่ายน้ำ ที่นี้อยู่สุดซอย ไม่ค่อยมีคนผ่าน ทำให้เมื่อคืน
    เราได้หลับกันอย่างสบาย แต่ก็ยังหลับไม่เต็มตื่น เพราะทุกคนก็ต่างระแวงหลังกันหมด
    "เอ้า ถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว " ลุงหินพูดพร้อมกับเดิน ถือ กล่องอาหารมา 4 กล่อง มันล่องอาหารของร้านสะดวกซื้อ ที่ใส่ไมโครเวฟแล้วก็กินได้เลย
    "หวังว่าจะกินกันได้นะ " ลุงเดินมาตรงผม และเรียก สาวๆ ทั้ง 2 คน มาร่วมวงกินข้าวด้วย
    "ค่ะ " มิ้น ลุกจากโซฟาอีกฝั่งหนึ่ง เธอเดินมานั่งตรงข้ามกับผม
    "แล้วหวานหล่ะ "ผมถาม มิ้นจึงมองไปทางหน้าต่าง เป็นเชิงว่าให้ดูเอาเอง
    หวานนั่งเหม่อ มองออกไปนอกหน้าต่าง เธอคง กำลังคิดถึงครอบครัว เธอคงกำลังสบสนอยู่ ละมั้ง ทั้งที่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แท้ๆ แต่ต้องมาเผชิญ
    เรื่องอะไรที่มันวุ่นวาย และเสี่ยงตายขนาดนี้
    "เดี๋ยวฉันจัดการเอง" มิ้นลุก ออกไป ทำทีเหมือนจะพูดให้หวานมากกินข้าวให้ได้
    สุดท้ายเธอก็ทำสำเร็จ มิ้นเดินจูงมือหวานมากินข้าวด้วยกัน ผมมองหน้าหวานแวบนึง เธอดูเศร้าหมอง ไม่มีชีวิตชีวา ส่วนมิ้นเธอก็ดูเศร้า แต่ก็พยายาม
    เก็บอาการไว้ให้อยู่ มิ้นพยายามทำตัวให้ดูแข็งแรง ดูมีภูมิคุ้มกัน เธอไม่ต้องการให้ใครมาห่วง แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนขี้กลัว
    เหอะ ผู้หญิงนี้ก็ร้ายกาจไม่เบานะ
    "ลุงครับ เราจะเอาไงกันต่อ " ขณะกินข้าว ผมพูดเปิดประเด็นทันที
    "หืม เอายังไงหน่ะหรอ " ลุงเงยหน้ามามองผม แล้วก็นิ่งคิด
    "พวกเธอว่าไง " ผมหันไปถามหวานและมิ้น เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเธอก็ควรได้ตัดสินใจด้วย
    "ฉันว่า เราไปหาตำรวจหรือทหาร หรือ อะไรที่มันจะช่วยเราได้ ดีไหม"มิ้นพูดขึ้น เธอเหมือนต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก
    "ฉันก็ว่างั้น"หวาน ก็คิดแบบเดียวกับมิ้น เธอดูกลัวและกังวล
    "ถ้าอยู่ที่นี้ไปเรื่อยๆ เราตายแน่ ซักวันพวกมันต้องมาเจอเรา" ลุงหิน กล่าวเสริม ทุกคนทองมาที่ผม เหมือนต้องการคำตาบที่เป็นเอกฉันทร์
    "เอางั้นละ กัน เราจะออกจากนี้ หลักมื้อเช้านี้ แล้วลุงพอจะมีอาวุธไหม" ผมตัดสินใจ พร้อมถามลุงทันที การออกไปข้างนอก เราต้องมีอาวุธ
    บ้าง ถ้าไม่เอาไว้สู้ ก็เอาไว้ขู่ก็ได้
    "เอ็งยิงปืนเป็นหรอ" ลุงหินถามผม คำถามนี้ ทำให้สาวๆ มองมาทางผมด้วย เธอเหมือนจะคาดหวัง กับคำตอบผม
    "ก็เคยยิงมาบ้างอะลุง ตอนเรียน รด. แต่คะแนน ตอนสอบ ก็แค่ผ่านนะ ฮ่าๆ" ผมตอบไปพลางเขินๆ เพื่อนผมบางคนยิงปืนได้แม่น มากๆ
    แต่มันไม่ใช่แนวผม ครูฝึกบอกว่า เวลายิงมือผมยังไม่นิ่ง และใจเร็ว มือไว เกินไป
    "แค่เคยยิงก็พอแล้ว " ลุงหินกล่าว พร้อมกับเดินออกไปจากวงอาหาร ลุงเดินขึ้นชั้นสองไป ซักพัก ลุงก็เดินกลับมาพร้อมกับเป็นไรเฟิล หนึ่งกระบอก
    เป็นปืนลำไม้ ดูสวยดีนะ แต่เหมือนจะเก่าไปหน่อย
    "ลุง ถ้าลุงยิงได้ลุงยิงดีกว่า ผมไม่แม่น " ผมรีบเตือนลุงไปอย่างไว
    "ไม่ ลุงยิงปืนไม่ได้แล้ว เมื่อ 4 ปีก่อน ลุงไปผ่าตัดข้อมือมา ข้อมือลุงรับแรงอัดจากปืนไม่ได้แล้ว " ลุงอธิบายพน้อมกับยื่นปืนให้ผม
    ผมมองหน้าลุง และหยิบปืนมาถือ เหมือนความหวังมันตกลงมาที่ผม ลุงมองผมอย่าชั่งใจ สาวๆ มองผมแบบพิจารณา ลุงตบบ่าผม
    "เราจะไม่ใช่มันยิงซอมบี้ เราจะใช้เมื่อจวนตัวเท่านั้น" ลุงกล่าว มันถูกที่สุด เสียงปืนจะเรียกมันมา อีกอย่างเราไม่มีกระสุนพอจะเอาไปยิงมันด้วย
    "ตามนั้นลุง แล้ว เราจะไปไหนกันหล่ะ"และคำถามก็ วนมาอีกครั้ง เรายังไม่มีที่ไปเลย
    .... ที่คนเงียบ ผมว่าทุกคนก็คงอย่างจะบอกว่า บ้านตัวเอง ใช่ ผมกฌอยากไปบ้านตัว เอง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เราอยู่กันหลายคน จะเอาแต่ตัวเองไม่ได้
    " ลองไปสถานีตำรวจไหม " ที่นั่น อาจจะมีตำรวจรอดอยู่ก็ได้ หวานให้คำแนะนำ
    "เป็นความคิดที่ดี ที่นั่นหน้าจัะมีอาวุธให้เราด้วยนะ " ลุงกล่าวเสริม
    ผมหันไปมอง มิ้น เธอก้มหน้าคุ้ยข้าวตัวเอง
    "ฉันไปไหนก็ได้ " มิ้นกล่าว พร้อมกับยิ้มแห้ง ปกติเธอจะยิ้มน่ารัก แต่นี้ ไหง วันนี้มันดูเศร้า
    "โอเค ทุกคนเตรียมของเท่าที่จำเป็น เราจะออกจากที่นี้กัน " ผมพูดพร้อมกระชับปืน ผมไม่มั่นใจในหลายๆ อย่างด้วย
    ผมพยายามที่จะทำตัวเป็นผู้นำ ทำไมหน่ะหรอ ก็เพราะ ดูสภาพแต่ละคนตอนนี้สิ หวานดูหมดหวัง มิ้นดูเศร้า ลุงหินดูกังวล แต่ผมก็ไม่ได้ปกติเท่าไร
    ใจผมยังอยู่ที่ รร. อยู่เลย ผมอยากรู้ว่า เพื่อนผมเป็นยังไงกันบ้าง

    "มีด หน้าจะช่วยเราได้นะ " ลุงหินถือมีดด้านงาม สีเงินวาววับ มาส่งให้ผม
    "สวยมากอะลุง " ผมนำมาจับ ลองดู มันสวยและเงาจริงๆ
    "คมด้วย ลุงด้มาจากเพื่อนที่ทำงานอยู่ญี่ปุ่น นี้เป็นมีดแร่เนื้อปลา มันคมมาก " ลุงกล่าวถึงสรรพคุณของมัน "มี 2 ด้าน เอ็งกับลุงถือคนละด้าม"
    "ครับ" ผมรับมีดมา และเสียบเข้าตรงเข็มขัด จริงซิ ผมยังอยู่ในชุดนักเรียนสุดคลาสสิคอยู่เลย รวมถึง ผู้หยิงสองคนนั้นด้วย
    "แล้วลุงเอาอะไรใส่เป้ไปบ้างอ่ะ" ผมถามพลางชี้ไปที่เป้ของลุง มันมี ของที่จะเป็นอยู่ในนั้น พวกเราเลือกที่จะสะพายเป๋คนละใบ
    เพราะถ้าเกิดเราหลงกันหรือเกิดเหตุทำให้จากกัน เราจะได้อยู่ด้วยตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งคนที่สะพายเป้
    "มีอาหารแห้ง น้ำ แล้วก็ ไฟฉาย "ลุงกล่าว พร้อมสะพายประเป๋า
    "ของ 2 คนหล่ะ" ผมหันไปถาม ทั้งสองคน ที่มัดเชือกรองเท้ากันอยู่ พวกเธอเลือกที่จะเปลี่ยน รองเท้า จากรองเท้านักเรียนเป็นรองเท้าผ้าใบ
    ลุงหินเป็นคนแนะนำพวกเธอ
    "ของฉันมี อาหาร กับน้ำ " มิ้นกล่าวตอบพลาง มัดเชือกรองเท้า
    "ของฉันมี ยา อาหาร แล้วก็ ไฟฉาย " หวาน ตอบพลาง ลุกขึ้นเธอพร้อมแล้ว
    "ส่วนของฉันมี ยาแก้ปวด ที่ฉันต้องกิน ไฟฉาย อาการ แล้วก็น้ำ ที่ขาดไม่ได้ กระสุน " ผมกลาวพร้อมตบกระเป๋าตัวเอง
    ผมยกปืนมาถือ มันเบากว่าปืนทีใช้ฝึก รด. นิดหน่อย
    "ทุกคนพร้อมรึยัง " ผมกล่าวถามทุกคน นี้เป็นการตัดสินใจครั้งแรก และครั้งสำคัญ พวกเราต้องพร้อม เราตกลงกันแล้วว่า
    ผมจะเดินนำหน้า มิ้นและหวานตามหลัง ลุงหินปิดท้าย ถ้าเห็นอะไรให้บอกกันและกัน เราจะเดินทางให้เงียบที่สุด
    "ไปกันเลย "ลุงหินพูดพร้อมเปิดประตูที่ลงกลอนไว้หน้าแน่น ออกเบาๆ ผมเดินก้าวออกไปคนแรก
    ข้าวนอกไม่มีใคร มีแต่สระว่ายน้ำ ที่ว่างเปล่า
    "โอเค ออกมาเลย " ผมให้สัณณาน
    "ขอให้ปลอดภัยด้วยเถอะ" หวานกล่าวเหมือนขอพร
    เราเดินออกมา ช้า ๆ เราช้่วยกันมองขวาซ้าย นั่น ผมจอคราบเลือดกองบะเร่อเลย
    ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผมหันไปเห็น ซอมบี้ ตัวหนึ่ง เดินมองฟ้าอยู่ ถัดไป 20 ม. มันอยู่ท้ายซอยเลย
    "เฮ้ย เอาไงดีลุง" ผมหันไปถามลุง
    "รีบไปเหอะ อย่าไปเสียเวลากับมันเลย " เราเดินไปช้า ๆ ไปอย่างเงียบเชียบที่สุด เรากำลังจะออกจากปากซอยแล้ว
    สภาพข้างนอกดูไม่ได้เลย หยั่งกะเมืองที่พึ่งผ่านสงครามมา เสียง แฮ่ๆ ดังเอื่อยๆ ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงนี้
    ย่างก้าวแรกของผม ที่จะออกจากซอยที่ ขอให้เป็นย่างก้าวที่ดีด้วยเถอะ ข้างนอกจะเป็นยังไง เราต้องก้าวต่อไป




    โปรดติดตามตอนต่อไป
    (จะพยามอัพเดทเรื่อยๆ นะครับ )
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tiair : 13th September 2013 เมื่อ 21:38

  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    1,311
    กล่าวขอบคุณ
    445
    ได้รับคำขอบคุณ: 656
    Blog Entries
    1
    อืม...นี่คงเป็นแนวการเขียแบบไดอารี่ของคน4คน แต่แบบนี้ตามความที่ผมอ่านคือ แนวนี้ทำให้ผู้อ่านได้อารม์แบบตัดไปตัดมาไม่เชื่อมกัน
    แถมชื่อตัวละครควรให้ติดหูกว่านี้เพราะ แนวนี้ตองใช้ชื่อของตัวละครในการจำแนกบทต่อบท ไม่งั้นมันจะงงว่าตรงนี้ของใคร ตัวอย่างเช่น

    บทของ ติ
    "ตู้มมมมม ตึงงงงง"เสียงระเบิดละลอกสอง ดังขึ้น หลังผมกระแทกเข้ากับ อะไรแข็งๆ ซักอย่าง
    ผมไม่รู้สึกเจ็บเลย เอ๊ะ หรือผมตายแล้ว มันชาไปหมด และตอนนี้ตาผมกำลังจะหลับลง ทุกอย่างเริ่มมืด
    ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือ ควัน บางอย่างฟุ้งกระจายออกมา พร้อมกับแรงระเบิด มันเป็นสีอะไรซักอย่าง
    ผมมองอธิบายไม่ได้ และ "ฟุป" ทุกอย่างดับมืดลง มันเกิดอะไรขึ้น นี่ผมฝันไปหรอ
    คำถามมากมายหลั่งไหลเข้ามา ทุกอย่างเข้าสู่ความมืด


    แล้วคุณก็ตัดมา บทของ ตอยใน ตอนที่2

    "โอยยยยยย" ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อเปลือกตาทั้งสองข้างเริ่มเปิด


    ตรงที่คุณเขียนแนว ไดอารี่ ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้คำว่า'ผม'หรือ'ฉัน'มันทำใหผู้อ่านบางคนสับสนว่า ใครเป็นใคร ซึ่งถ้าผู้อ่านไม่กลับไปดูหน้าชื่อตอนจะไม่รู้เลย
    เช่นอ่านไปแล้วลืมว่านี่มันบทของใครก็ต้องกลับไปดูใหม่มันทำให้เสียอารม์ครับ

    ปล.ผมอธิบายตามความรู้สึกของผมและเพื่อนอีก2คนที่พึ่งเริ่มอ่านนิยายครับ

  3. #3
    แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    กระทู้
    507
    กล่าวขอบคุณ
    237
    ได้รับคำขอบคุณ: 174
    เป็นกำลังใจให้ครับ สำหรับผม ผมว่ามันเยี่ยมมากเลยนะครับ 555
    ปล.ผมว่าพล็อตเรื่องแบบนี้ถ้าไปเรื่อยๆแล้วต่อไปเนื้อเรื่องมันจะซ้ำไปซ้ำมานะครับ สำหรับผมผมว่าน่าจะเพิ่มตัวสำรองหน่อยอ่ะครับเพื่อจะได้ขยายเนื้อเรื่องได้นะครับหรือไม่ก็ทำให้หักมุมหน่อยก็ได้ครับ เช่น พอตัวเอกถึงบ้านพ่อแม่ก็อาจจะออกไปข้างนอกโดยทิ้งจดหมายไว้หรือมีพวกโรคจิตมาปล้นตัวเอกประมาณนี้นะครับ ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยด้วยละกันนะครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimpig123 : 10th September 2013 เมื่อ 21:40

  4. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่เดิม...ที่เรายังรักกัน
    กระทู้
    516
    กล่าวขอบคุณ
    345
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    แต่งแบบตัวละครเยอะๆก็พลาดแล้วล่ะหนู

    By Stormwind [Female]

    แก้ไขนะจ๊ะ

    Tair นี่แต่งหลายเรื่องนะ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Stormwind : 11th September 2013 เมื่อ 11:22
    TKM Love Vs Zombies นี่แหละ นิยายของจริง

  5. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ในใจของใครบางคน -///-
    กระทู้
    811
    กล่าวขอบคุณ
    1,350
    ได้รับคำขอบคุณ: 559
    ขอบคุณทุกคำติชมนะครับ ผมดีใจมากเลยที่มีคนอ่านกัน
    ขอบตอบคำถามนิดนึง
    ที่ว่าเรื่องจะซ้ำไปซ้ำ ผมขอบอกเลยว่าไม่ซ้ำแน่นอครับ ผมพลอต เรื่องไว้ ตัวเอกทั้ง 4 จะไปกันคนละทิศละทางแน่นอนครับ
    อารมณ์ เหมือนท่าน กำลังอ่านนิยายซอมบี้อยู่หลายๆ เรื่อง

    ส่วนที่ท่าน Stormwind [Female] บอกว่าผมแต่งหลายเรื่อง ใช่ครับ ผมแต่งโคตรเยอะ แต่ มันไม่มีอารมณ์แต่งต่อ อ่ะ แต่เรื่องนี้ผมจริงจังครับ จะลองแต่งให้จบ ซีซั่นแรกดู(แนะมีวางเป็นซีซั่นไว้แล้ว 555)

  6. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ที่เดิม...ที่เรายังรักกัน
    กระทู้
    516
    กล่าวขอบคุณ
    345
    ได้รับคำขอบคุณ: 363
    เหอะๆ ก็บอกว่าจริงจังมันทุกเรื่อง

    แต่สุดท้่ายก็หมดอารมณ์มันทุกเรื่องนั่นแหละ

    เห็นมาหลายทีละเฉยๆ เลยมาทักท้วง


    By Stormwind [Female]
    TKM Love Vs Zombies นี่แหละ นิยายของจริง

  7. #7
    ヾ(@⌒ー⌒@)ノGhibli-Lover( ゚д
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,110
    กล่าวขอบคุณ
    9,171
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,214
    ตอนแรกผมอ่านนะ ผมนึกว่าบทแรกกับสองเป็นตัวเดียวกัน แต่ก็สนุกดีครับ ชอบ

    ผมเห็นคำผิดอยู่สองที่ครับ

    1.เบียนหน้าหนีครับ ต้องเบือนครับ

    2.หน้าจะได้สักพันตัวแล้ว ต้องน่าจะได้สักพันตัวแล้ว

  8. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    ที่อยู่
    ทุกที่ที่มีเธอ
    กระทู้
    361
    กล่าวขอบคุณ
    724
    ได้รับคำขอบคุณ: 342
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Stormwind อ่านกระทู้
    เหอะๆ ก็บอกว่าจริงจังมันทุกเรื่อง

    แต่สุดท้่ายก็หมดอารมณ์มันทุกเรื่องนั่นแหละ

    เห็นมาหลายทีละเฉยๆ เลยมาทักท้วง


    By Stormwind [Female]
    ผมขอเสริมเหมือนกันครับ อันที่จริงผมก็คิดออกมาหลายเรื่องเหมือนกัน ก็เลยไม่ชอบอะไรแบบนี้ซักเท่าไหร่ เพราะมันหมดอารมณ์ไปทุกเรื่องอย่างที่ว่าเลยล่ะครับ

    จากที่อ่าน ๆ มาผมยังข้องใจหลาย ๆ เรื่อง เลยนะกับนิยายเรื่องนี้ และก็เรื่องตัวละครกับบุคลิกของแต่ละคนด้วย แต่งตอนต่อไปก็อุดช่องโหว่ให้มากกว่านี้ด้วยนะครับ

  9. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ในใจของใครบางคน -///-
    กระทู้
    811
    กล่าวขอบคุณ
    1,350
    ได้รับคำขอบคุณ: 559
    ขอบคุณทุกคำติชม ครับ ผมจะนำไปแก้ไขให้งานมันดูดีขึ้นครับ
    แล้วก็ขอบคุณ ที่บอกว่าคำไหนมันผิดยังไง จะดีมาเลยนะครับ ถ้าบอกว่ามันอยู่บทไหน

  10. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    1,311
    กล่าวขอบคุณ
    445
    ได้รับคำขอบคุณ: 656
    Blog Entries
    1
    อยากให้ลดตัวละครเหลือ1-2คนก็พอครับไม่งั้นมันจะไม่สนุก

  11. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ในใจของใครบางคน -///-
    กระทู้
    811
    กล่าวขอบคุณ
    1,350
    ได้รับคำขอบคุณ: 559
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ASSASSIN S อ่านกระทู้
    อยากให้ลดตัวละครเหลือ1-2คนก็พอครับไม่งั้นมันจะไม่สนุก
    จะลองนำไปคิดดูอีกทีคับ

    แก้ไขทั้งหมดแล้วครับ ดำเนินเนื้อเรื่องเพียงตัวเอกตัวเดียว
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Tiair : 11th September 2013 เมื่อ 22:00

  12. #12
    ヾ(@⌒ー⌒@)ノGhibli-Lover( ゚д
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,110
    กล่าวขอบคุณ
    9,171
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,214
    ผมลองอ่านตอนสามแล้วครับ ก็สนุกดี แต่ยังใช้คำว่า หน้า กับ น่า ผิดนิดหน่อยนะครับ

    บทแรก คำว่า น่ากลัวนะครับ ไม่ใช่หน้ากลัว

    บทสาม คำว่า น่าอาย ไม่ใช่ หน้าอาย

    อย่าหาว่าผมเป็นพวกจับผิดเลยครับ เพราะเวลาผมอ่านอะไรผมจะเช็คการสะกดไปในตัวด้วย แต่บางทีก็ไม่เห็นนะครับ


    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ASSASSIN S อ่านกระทู้
    อย่าหาว่าผมเป็นพวกจับผิดเลยครับ คุณบอกว่า"เช็คการสะกดไปในตัว"แต่คุณไม่ได้เช็คตัวเองสินะคำว่า"เวลา"มันกลายเป็น"เววลา"ซึ่งมันแปลว่าอะไร?

    ปล.เกือบหล่อแล้วครับ
    ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย hades051 : 11th September 2013 เมื่อ 23:23

  13. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #13
    แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    กระทู้
    507
    กล่าวขอบคุณ
    237
    ได้รับคำขอบคุณ: 174
    รอติดตามตอนต่อไปครับเป็นกำลังใจให้ครับ
    ปล.ตอนนี้ไม่มีข้อติแล้วครับถึงแม้จะสะกดผิดบางคำแต่ผมว่ามันก็ ok นะ 555 เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนแต่งแนวนี้ 555 กำลังเพลินเลย รอตอนต่อไปครับ 555
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimpig123 : 11th September 2013 เมื่อ 22:27

  15. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    1,311
    กล่าวขอบคุณ
    445
    ได้รับคำขอบคุณ: 656
    Blog Entries
    1
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ hades051 อ่านกระทู้
    ผมลองอ่านตอนสามแล้วครับ ก็สนุกดี แต่ยังใช้คำว่า หน้า กับ น่า ผิดนิดหน่อยนะครับ

    บทแรก คำว่า น่ากลัวนะครับ ไม่ใช่หน้ากลัว

    บทสาม คำว่า น่าอาย ไม่ใช่ หน้าอาย

    อย่าหาว่าผมเป็นพวกจับผิดเลยครับ เพราะเววลาผมอ่านอะไรผมจะเช็คการสะกดไปในตัวด้วย แต่บางทีก็ไม่เห็นนะครับ
    อย่าหาว่าผมเป็นพวกจับผิดเลยครับ คุณบอกว่า"เช็คการสะกดไปในตัว"แต่คุณไม่ได้เช็คตัวเองสินะคำว่า"เวลา"มันกลายเป็น"เววลา"ซึ่งมันแปลว่าอะไร?

    ปล.เกือบหล่อแล้วครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ASSASSIN S : 11th September 2013 เมื่อ 23:11

  16. #15
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ในใจของใครบางคน -///-
    กระทู้
    811
    กล่าวขอบคุณ
    1,350
    ได้รับคำขอบคุณ: 559
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ hades051 อ่านกระทู้
    ผมลองอ่านตอนสามแล้วครับ ก็สนุกดี แต่ยังใช้คำว่า หน้า กับ น่า ผิดนิดหน่อยนะครับ

    บทแรก คำว่า น่ากลัวนะครับ ไม่ใช่หน้ากลัว

    บทสาม คำว่า น่าอาย ไม่ใช่ หน้าอาย

    อย่าหาว่าผมเป็นพวกจับผิดเลยครับ เพราะเวลาผมอ่านอะไรผมจะเช็คการสะกดไปในตัวด้วย แต่บางทีก็ไม่เห็นนะครับ




    ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ แก้ไขเรียบร้อยแล้ว

    ขอบคุณที่เช็คคำให้ครับ ขอบคุณมาก


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top