ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 17 จากทั้งหมด 17
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811

    รวบรวมเนื้อเรื่อง The Matirx การตีความหมาย อธิบาย(โดยละเอียด)




    สงครามครั้งแรก ก่อนเกิด Matrix
    ในอนาคตมุษย์มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี Robot ซึ่งสูงขึ้นจนสามารถสร้างหุ่นยนต์รูปแบบที่มี AI ขั้นสูง และใกล้เคียงกับมนุษย์ จนวันหนึ่งก็มีผู้ที่เชื่อได้ว่าหุ่นยนต์เหล่านี้ มีจิตใจและการตระหนักรู้ ไม่ต่างจากมนุษย์ เหตุการณ์ไปได้สวยเมื่อพวกมันเข้าแทนที่ชนชั้นแรงงานทั่วโลกและสามารถทำงานกรรมกร และงานต่างๆอีกหลายอย่างให้กับมนุษย์ นอกจากนี้ยังมี Robot อื่นๆที่ทำงานใกล้ชิดมนุษย์ตั้งแต่บริกร , คนใช้ หรือแม้กระทั่งรุ่นที่ดัดแปลงหน้าตาผิวหนังได้เหมือนมนุษย์ผู้หญิงที่คอยให้ความบันเทิงทางกามคุณแก่เหล่ามนุษย์ผู้ไม่เคยเพียงพอ

    จนกระทั่งวันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมนุษย์ส่วนใหญ่ยังใช้งานเหล่าหุ่นยนต์เหมือนสิ่งของ ไม่ได้ตระหนักว่ามันที่สร้างเลียนแบบมนุษย์ขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ความกาวหน้าทางเทคโนโลยีจะพาไปและมันเองในท้ายที่สุดอาจมีจิตใจและการตระหนักรู้เช่นเดียวกับมนุษย์นำมาซึ่งอัตตาและอารมณ์ไม่ต่างจากพวกเรา ในขณะที่เรายังใช้งานมันโดยถือว่าเป้นสิ่งของและสามารถจะทำลายมันได้เมื่อมันเสื่อมสภาพ กลับมีหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง B166ER ชื่อที่จะถูกจดจำไปตลอดประวัติศาสตร์ของฝ่ายเครื่องจักร เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่ลุกขึ้นมาประกาศว่ากลัวตายและไม่อยากถูกส่งไปทำลาย ด้วยเหตุนี้มันจึงก่อคดีฆาตกรรมเจ้านายตัวเองซึ่งเป็นมนุษย์แล้วพยายามหลบหนี แต่ท้ายที่สุดมันก็ถูกจับกุมอยู่ดีและถูกนำไปขึ้นศาลของมนุษย์ คำตัดสินของศาลซึ่งอยู่ในความสนใจของเครื่องจักรทั่วโลก(เครื่องจักรที่มี AI ขั้นสูงและเชื่อได้ว่าแทบไม่ต่างจากมนุษย์แล้ว) ศาลตัดสินว่าอย่างไรเสียมันก็เป็นเครื่องจักร เป็นสิ่งของที่มนุษย์ผู้เป็นเจ้าของสามารถทำลายได้ และการกระทำของ B166ER ไม่มีกฏหมายได้คุ้มครอง ถือเป็นการกระทำผิดและต้องทำลายมันทิ้ง จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการลุกฮือ ของมนุษย์ฝ่ายที่อ้างมนุษยธรรมและจริยธรรมที่ควรมีต่อเครื่องจักร มนุษย์ผู้มีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเหล่าเครื่องจักร ซึ่งเข้าร่วมกับการลุกฮือของเครื่องจักรจำนวนมากที่หยุดงานแล้วเข้าร่วมก่อม็อบคัดค้านคำตัดสินนี้ ขณะเดียวกันก็นำไปสู่กระแสต้านของผู้ที่เห็นด้วยกับศาล เกิดการทำร้ายร่างกายเครื่องจักร และสังหาร(ทำลาย)หุ่นยนต์AIขึ้นไปทั่วทุกแห่ง(ซึ่งไม่ผิดกฏหมาย) ท้ายที่สุดม็อบของกลุ่มที่คัดค้านการตัดสินของศาลก็กลายเป็นจลาจลและถูกปราบปรามขั้นเด็ดขาด มีมนุษย์ที่อยู่ฝ่ายเครื่องจักร และบรรดาเครื่องจักรเองต้องล้มตายลงจำนวนมาก

    จากเหตุการณ์นี้ทำให้เครื่องจักรที่ยังรอดอยู่ หลบหนีไปก่อตั้งเมืองของตนเองในใจกลางทะเลทรายซึ่งปลอดมนุษย์ ไม่นานพวกมันก็ฟื้นตัวและขยายเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันมันก็พัฒนาเทคโนโลยีมากมายขึ้นมาแข่งขันกับ อาณาจักรของมนุษย์ จนแซงนำหน้าไป และในประจวบเหมาะกับภาวะเศรษฐกิจโลกเกิดปัญหา นครเครื่องจักรแห่งแรก "ซีโร่วัน" ก็ได้เข้าครอบงำตลาดการค้าและเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ประเทศมหาอำนาจของมนุษย์ไม่อาจยอมรับการมีอยู่ของนครเครื่องจักรได้อีกต่อไป แม้จะมีการส่งทูตเจรจาเข้าหามนุษย์ก็ไม่เป็นผล มนุษย์เป็นฝ่ายเริ่มเปิดฉากสงครามเข้าโจมตีนครเครื่องจักรอย่างหนัก ด้วยหวังว่าจะทำลายมันให้สิ้นซาก ด้วยความหยิ่งผยองของเผ่าพันธุ์ตนเองนี้กลับนำไปสู่การพ่ายแพ้ยับเยินเพราะฝ่ายเครื่องจักรกับรับมือสงครามได้ดีกว่าและเมื่อมันรุกกลับ มนุษย์ก็พ่ายแพ้ไม่มีชิ้นดีจนต้องถอยร่นไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดสหประชาชาติเห็นชอบว่าการจะชนะเครื่องจักรได้ต้องตัดแหล่งพลังงานหลังของพวกมันคือการทำลายปิดกั้นท้องฟ้าทั้งหมดไม่ให้แสงอาทิตย์ส่งลงมายังผิวโลกได้ (ส่วนปัญหาที่จะตามมาค่อยไปแก้ทีหลังหลังจากชนะสงครามได้ ซึ่งน่าสมเพชสมกับเป็นความคิดของเหล่ามนุษย์) แต่การณ์กลับตาลปัดเพราะเครื่องจักรเองได้จับเอาเชลยมนุษย์จำนวนมากในระหว่างสงคราม ไปศึกษาวิเคราะห์จนเข้าใจก้อนโปรตีนมีชีวิตอย่างมนุษย์ได้ลึกซึ้ง และพบว่ามนุษย์สามารถสร้างพลังงานออกมาได้อย่างมหาศาล เพียงเลี้ยงไว้ไม่ให้ตาย ความคิดในการออกแบบและสร้างเมทริกซ์ เพื่อครอบงำมนุษย์และใชเป็นแหล่งพลังงานให้เหล่าเครื่องจักรทั้งปวงจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับความพ่ายแพ้ต่อเผ่าพันธุ์เครื่องจักรอย่างสิ้นเชิงของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทั้งหมดนี้คือแก่นของความเปลี่ยนแปลงครึ่งใหญ่บนโลกที่ถูกขนานนามว่า The Second Renaissance นั่นเอง






    The Matrix คืออะไร ??
    The Matrix คือ software จำลองโลกในยุคปี 2000 โดยใช้ concept ที่ว่าความรู้สึกหรือจิตใจของมนุษย์นั้น เกิดขึ้นมาจาก เส้นประสาทที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าไปให้สมอง The matrix ได้จำลองสัญญาณเหล่านั้นไปยังสมองโดยตรง โดยตัดความรู้สึกนึกคิดออกจากเส้นประสาท และนำข้อมูลจาก Matrix ใส่เข้าไปแทน และนำพลังงานร่างกายของมนุษย์ไปใช้ ดังนั้น The Matrix จำสามารถจำลองได้ทั้งรูป รส กลิ่น สี สัมผัส ให้กับมนุษย์ทุกคนเลยก็ว่าได้

    ในช่วงเริ่มแรกของ Matrix นั้น The Matrix ได้ถูกออกแบบมาให้เกิดความสมบูรณ์แบบ (อ้างจากภาคแรก) นั่นคือมนุษย์ทุกคนจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เหมือนสวรรค์บนดินดีดี แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด (ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด) หลังจากนั้น สถาปนิกได้ออกแบบ The Matrix มาหลาย ๆ แบบ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนมาถึงแบบที่จำลองชีวิตในระดับเทคโนโลยีสูงสุดของมนุษย์ก่อนจะเกิด Machine นั่นคือช่วงปี 2000ใน The Matrix ภาคแรกนั่นเอง

    จากนั้น The Matrix ได้มีการสร้างใหม่และทำลายตัวเองไปแล้วอย่างน้อยสี่รอบ (จากคำพูดของสถาปนิก)

    อย่างไรก็ตาม The Matrix นั้นยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากจะมีมนุษย์ที่มีญาณสัมผัสที่ดี หรือสามารถกระตุ้นตัวเองไปสู่จุดสูงสุดที่มนุษย์สามารถไปได้ จะสามารถหลุดพ้นจากโลกของ Matrix ออกไปได้ และจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของ The Matrix ได้ ดังนั้นสถาปนิก ซึ่งได้ข้อมูลจาก the oracle ที่เป็นคนเก็บข้อมูลความผิดพลาด และนิสัยของมนุษย์ เพื่อทำนายอนาคต ก่อนที่เหตุการณ์จริงจะเกิดขึ้น สถาปนิกได้พยายาม balance equation นี้ ด้วยการสร้าง ไซง่อนขึ้นมา หลังจากที่ทำลายไปแล้ว โดยจริงๆ คือมนุษย์กลุ่มสุดท้ายได้สร้างไซง่อนขึ้นมา แต่จากคำพูดของสถาปนิกกับนีโอ แสดงให้เห็นว่าเค้าได้ทำลายไซง่อนมาแล้วหลายครั้ง

    ไซง่อนเป็นเหมือน ชุมชนของคนที่หลุดพ้นจาก The Matrix ได้ และพยายามรวมตัวกันเพื่อต่อสู้ปลดปล่อยผู้คนจาก The Matrix แต่ไม่ใช่ทุกคนจะถูกปลอดปล่อยได้ ทุกคนต้องมีความเชื่อ และมี ญาณ (Sense) เบื้องต้นก่อนว่าสิ่งที่ตัวเองสัมผัสอยู่เป็นของปลอม

    ไซง่อนจะมีทีมที่คอยปลดปล่อยผู้คนจาก Matrix โดยจะทำงานโดยใช้ยานบินไปตามเส้นทางอุโมงค์ใต้ดินในโลกแห่งความเป็นจริง และจะเชื่อมต่อเข้ากับ The matrix เพื่อพาคนของตัวเองเข้าไปทำงานใหญ่เพื่อปลดปล่อย ผู้มนูษยชาติ โดยทำตามคำแนะนำของ The oracle ซึ่งในเรื่องได้ถูก excile (ขับไล่) ออกมาเป็นอิสระแล้ว

    จริง ๆ แล้ว The oracle ก็ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งของสถาปนิก ในการ balance the matrix โดย The oracle จะเป็นคนชี้แนะเพื่อนำไปสู่ The One ผู้ชึ่งเป็นปัญหาของ The Matrix มาโดยตลอด โดยสถาปนิกได้เป็นคนออกแบบเงื่อนเวลา รวมถึงปมปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้ the one แก้ไข จนสามารถมาถึงตัวสถาปนิกได้ โดย The one ต้องร่วมมือกับ The oracle เพื่อไปสู่จุดหมายดังกล่าวด้วยกัน

    เมื่อ The one ได้พบกับ สถาปนิก จะเป็นเวลาใกล้เคียงกับที่ไซง่อนจะถูกทำลายทุกครั้งไป เพราะสถาปนิกได้วางแผนไว้หมดแล้ว ณ เวลานั้น ไซง่อนในโลกแห่งความเป็นจริงใกล้จะถูกทำลาย The one ต้องเลือกว่าจะทำอย่างไรต่อ ระหว่างปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบบของสถาปนิก และ ไซง่อนถูกทำลาย หรือยอมให้ตัวเองออกไปตั้งไซง่อนใหม่ในจำนวนคนที่ถูกเลือก เพื่อ balance ต่อไป และดำรงความเป็นมนุษยชาติไว้

    The one มีมาแล้วสี่คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เลือกทางเดินเพื่อรักษามนุษยชาติไว้ แต่กรณีของ Neo นั้นแตกต่างกันไป

    ที่นี่ก็มาเข้าที่เนื้อเรื่อง The Matrix คงไม่ต้องเล่ากันมาก ตามเนื้อเรื่องน่าจะได้รู้เรื่องราวเริ่มต้น แต่จุดที่ทิ้งไว้คือ The one ในตอนนี้คือ Neo นั้น ถูกขับดันจากความรักที่มีต่อ Trinity ในช่วงเวลาที่ตัวเองตายไปแล้ว ฟื้นมาเป็น Neo The one ตอนท้ายเรื่อง และยังได้ทำลาย Smith ซึ่่งเป็น agent ที่คอยทำลายไซง่อนเพื่อ balance นั่นเอง จะสังเกตว่า Smith ถูกทำลายโดยการรวมตัวกับ Neo ดังนั้น Smith จึงได้พลังด้านมืดจาก Neo และกลายเป็น โปรแกรมที่มีการกลายพันธุ์ สามารถแปลงแปลงรูปลักษณ์ของใครก็ได้ให้เป็นตัวเอง

    ในภาคสอง ได้มีการพูดถึงเรื่องการกลายพันธุ์ของ Smith และการเดินทางของ Neo เพื่อที่จะไปพบกับสถาปนิก ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดย The oracle ซึ่งอ้างว่าถ้าไปถึงจุดนั้น สงครามจะยุติ (จริง ๆ ก็จะยุติ แต่จะวิธีไหนแค่นั้นเอง one way or another)


    จุดไคลแมกซ์อยู่ที่จากรุกรานไซง่อนไกล้เสร็จสมบูรณ์ และ Neo ได้พบสถาปนิก ผู้ซึ่งเสนอทางเลือกให้ Neo เลือกระหว่างมนุษยชาติ กับ เลือก Fate โดยมี Trinity ที่ตกอยู่ในอันตรายเป็นตัวเร่งการตัดสินใจ Neo เลืัอกที่จะไปตาม Fate ที่ตัวเองเชื่อมาโดยตลอด เพื่อไปช่วย Trinity ให้รอดพ้นจากความตาย

    ท้ายเรื่องยังมีการแสดงการ revolution ของ Neo ที่สามารถใช้พลังขับเคลื่อนจิตวิญญาณ ของ Machine ซึ่งส่วนตัวผมมองว่ามันคือวิวัฒนาการของมนุษย์จริง ๆ และเนื้อเรื่องได้สื่อชัดเจนว่าวิญญาณ คือพลังงานนั่นเอง

    ภาคสาม จะเป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องไซง่อนช่วงสุดท้าย โดยมีการไปช่วยเหลือ Neo ออกมาจาก program ที่ถูก excile Marovingi รวมไปถึงการพัฒนาการของ Smith ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายสามารถครอบครองได้ทั้ง Matrix

    ในส่วนของ Neo หลังจากที่มี Revolution สามารถรับรู้ถึงจิตวิญญาณได้ จึงเดินทางไปสู่ Machine city เพื่อไปพบกับสถาปนิกอีกครั้ง การต่อสู้ของ Neo ที่สู้กับกองทัพ Machine city จนสามารถฝ่าฟันเข้าไปยัง Machine city ได้ แต่ก็ต้องเสีย Trinity ไป

    Neo ได้พบกับ สถาปนิกในร่างจริงที่เป็นเครื่องจักร และเดิมพันกับสถาปนิกว่าจะปราบ Smith ให้ได้เพื่อแลกกับการหยุดยั้งสงคราม

    สถาปนิกจำเป็นต้องรับข้อเสนอของ Neo เนื่องจาก Smith ได้ครอบครอง The matrix ไปแล้ว และอาจจะระบาดมาสู่ Machine city ได้ ดังนั้น จึงได้ส่ง Neo ไปสู้กับ Smith ใน final battle

    Neo สู้กับ Smith ที่มีพลังและการหยั่งรู้ของ The oracle (จากการกลืน The oracle เข้าไป) ทำให้ Neo สู้ไม่ได้ แต่สุดท้าย Neo ก็ถูก Smith กลืนเข้าไปด้วยความจงใจ และได้รับความร่วมมือจากสถาปนิก เพื่อกำจัด Smith ออกไปได้ เป็นจุดจบที่เหมือนกับจุดเริ่มต้น คือการรวมร่างกัน แต่จุดที่ทำให้ Smith หมดพลังจริง ๆ คือ เค้าหมดว่าเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง และเกิดความกลัวขึ้น ทำให้ตัวเองอ่อนแอลง และพ่ายแพ้พลังของ Neo และ สถาปนิก

    ตอนสุดท้าย ดูเหมือนว่า Neo จะตายไปแล้ว แต่ยานที่นำศพของ Neo ไป ยังเต็มไปด้วยแสงสว่าง นั่นหมายความนัย ๆ ว่า Neo ยังไม่ตาย !!!

    ตอนสุดท้ายจึงมาเฉลยว่า ทุกอย่างกลายเป็นว่าครั้งนี้ The oracle หลอกใช้ สถาปนิก โดยวางเดิมพันด้วย The Matrix แทน อย่างไรก็ตาม ไซง่อน รอดพ้นจากการถูกทำลาย และ คนใน The Matrix จะถูกปลดปล่อยโดยสมัครใจ เป็นอันว่าสงครามยุติชั่วคราว


    ความจริงเกี่ยวกับไซออน Zion
    ไซออน ไม่ได้เกิดจากการหลบลี้ของมนุษย์ที่รอดจากสงคราม หรือ เป็นการสร้างอย่างแท้จริงโดย ผู้ปลดปล่อยรุ่นแรก แต่ สถาปนิก (The Architect) เป็นคนบอกเองว่า การมีอยู่ของไซออนนั้น เป็นการ ยอมให้มีของฝ่ายเครื่องจักร เนื่องจากเงื่อนไขในการก่อสร้างเมทริกซ์ที่สมบูรณ์ (เขาคือโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาให้เป็นพระเจ้าผู้ดีไซน์ (คล้ายกับ Teleological Argument) เมทริกซ์ที่สมบูรณ์ และอยู่รอด ซึ่งเป็นมิติของการยับยั้งสงครามตามแบบความคิดของเครื่องจักรทื่อๆ ซึ่งต่างจาก Oracle หรือเทพยกรณ์ที่พยายามนำไปสู่การยุติสงครามแบบอื่น

    นีโอ คือผู้ปลดปล่อยรุ่นที่ 6 ทำให้เราได้รุ้ว่า เมทริกซ์ ดำเนินมาแล้วอย่างน้อย 6 เวอร์ชั่น ซึ่งไม่รู้ว่ากินเวลาที่แท้จริงไปเท่าไหร่แล้ว ผู้ปลดปล่อยรุ่นแรก ได้พาผู้ที่เหลือรอดจากเมทริกซ์เวอชั่นแรก (เมทริกซ์สมบูรณ์ ซึ่งฟังดูแล้วราวกับ ยูโธเปีย, สวรรค์, สวนเอเดน หรือยุคพระศรีอารย์ สร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ เป็นระบบ เหมือนกับที่เครื่องจักรจะคิดหรือสร้าง ซึ่งสุดท้ายก็ได้ล่มสลายลง เนื่องจากมนุษย์ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังคงความเป็นมนุษย์) ออกไปตั้งรกรากที่ไซออน ผมไม่รู้ว่า วิทยาการต่างๆที่ไซออนสร้างโดยมนุษย์หรือเครื่องจักร แต่เป็นวิทยาการที่ล้ำสมัยมากจนอาจคิดได้ว่านั่นเป็นการเอื้อประโยชน์โดยเครื่องจักร ก่อนที่อนุชนรุ่นหลังในไซออนจะถือกำเนิดขึ้นและลืมเลือนไปแล้วว่าเครื่องจักรช่วยเหลือเหล่านี้(ในไซออน) มาได้อย่างไร เช่นระบบเกษตร, ระบบบำบัดและรีไซเคิลน้ำ เป้นต้น

    การมีอยู่ของไซออน เป็นอีกหนึ่งข้อที่ย้ำเรื่อง การเลือก ซึ่งเป้นที่ที่ทำให้มนุษย์ส่วนหนึ่งได้ เลือก ไม่เหมือนโลกที่น่าจะเป็นอย่างยูโธเปียในเวอร์ชั่นแรก ซึ่งเป็นโลกที่มนุษย์ปุถุชนอยู่ไมไ่ด้นั้น ได้กลับมา รู้สึกว่าตัวเองได้เลือกอะไรบางอย่างอย่างที่มนุษย์มักจะเป็น(ไม่ว่ามันจะเป็นทางเลือกที่ถูกกำหนดไว้แล้ว, ทางเลือกหลอกๆ หรือไ่มก็ตาม) แม้จะปลดปล่อยมนุษย์ให้เล็ดรอดออกจากเมทริกซ์ได้ (ซึ่งน่าจะเป็นภัยต่อระบบ) แต่ทั้งหมดทำให้ระบบเมทริกซ์ที่กักขังมนุษย์ มีสเถียรภาพมากขึ้นและอยู่ได้นานกว่าเดิม(แม้สุดท้ายจะยังล่มอีกก็ตาม) และสถาปนิกยังคงยอมให้เป็นอย่างนี้(คือพังสร้างใหม่ พังสร้างใหม่ ซ้ำๆ)จนกว่าจะหาทางแก้ไขเพื่อสร้างเมทริกซ์ที่ดีที่สุดหรือประณีประนอมที่สุดและสเถียรที่สุดได้นั่นเอง


    ความเป็นจริงเกี่ยวกับเมทริกซ์
    ค.ศ.2100 เกิดสงครามระหว่างเครื่องจักรกับมนุษย์ โดยมนุษย์ประสบความสำเร็จในการทำลายท้องฟ้าจนกระทั่งเครื่องจักรไม่อาจใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ แต่อย่างไรก็ตามเครื่องจักรก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะเหนือเผ่าพันธุ์มนุษย์ พร้อมด้วยแหล่งพลังงานใหม่ที่เครื่องจักรค้นพบซึ่งก็คือพลังงานจากร่างของมนุษย์ผู้เป็นปรปักษ์เอง
    ตั้งแต่นั้นมา มนุษย์ก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตขึ้นมาในแคปซูลที่เครื่องจักรเป็นผู้ปกครอง ถูกควบคุมจิตใจด้วยโลกเสมือนจริงที่เรียกว่า เมทริกซ์ ในขณะที่ถูกดึงพลังงานความร้อนและไฟฟ้าชีวภาพไปใช้ในฐานะของแหล่งพลังงานของเครื่องจักร
    ภายในโลกเสมือนจริงนั้นได้จำลองโลกในยุคสมัยศตวรรษ์ที่ 21 (ช่วงเวลานี้ถูกเลือกเนื่องจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยีสูงสุดของมนุษย์ในฐานะของประชากร ก่อนที่คอมพิวเตอร์จะกลายเป็นประชากร) เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมือนจริงทำให้มนุษย์ที่เชื่อมกับเมทริกซ์ต่างไม่ได้ตระหนักถึงลักษณะที่แท้จริงของมัน อย่างไรก็ตาม ตัวละครหลักส่วนใหญ่ในภาพยนตร์และเกมนั้นรู้ดีว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏอยู่จริง ซึ่งส่งผลให้พวกเขาสามารถเบี่ยงเบนกฎฟิสิกส์บางส่วนเพื่อที่จะมีทักษะเหนือมนุษย์ในโลกจำลองนี้

    เมทริกซ์ 1.0
    หลังจากความพ่ายแพ้ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เครื่องจักรได้สั่งสมประสบการณ์ในการเชื่อมต่อจิตใจมนุษย์เข้ากับโลกไซเบอร์ เวอร์ชันแรกของเมทริกซ์ที่มนุษย์ได้เชื่อมต่อด้วยนั้นถูกสร้างโดย The Architect (สถาปนิก) ดั่งที่นีโอได้พบเขาในตอนท้ายเรื่อง The Matrix Reloaded – เมทริกซ์นี้เป็นเวอร์ชันแรกที่จำลองโลกเสมือนจริงที่ไม่มีสงคราม โรคระบาด หรือภยันตรายใดๆ ทั้งปวง เป็นยูโทเปียหรือโลกในอุดมคติอันสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม มนุษย์เริ่มทำการปฏิเสธโลกเสมือนจริงรูปแบบนี้ ในฐานะที่มันดีเกินกว่าจะเป็นความจริงได้ ความไม่เชื่อถือจากธรรมชาติของมนุษย์เหล่านี้ทำให้พวกเขาล้มตาย ส่งผลให้เมทริกซ์เวอร์ชันนี้ล้มเหลวในการควบคุม นำไปสู่การสร้างเมทริกซ์ 2.0

    เมทริกซ์ 2.0
    ถ้าเปรียบเทียบเมทริกซ์ 1.0 ว่าเป็นสวรรค์แล้ว เมทริกซ์ 2.0 ก็จะเป็นนรกสำหรับผู้อาศัยอยู่ ด้วยสงคราม โรคระบาด และความตาย เปรียบเทียบได้ในยุคคอมมิวนิสต์รัสเซีย หรือการปกครองของนาซี และเหยื่อจากรังสีของระเบิดนิวเคลียร์
    ในเวอร์ชัน 2.0 นี้คือต้นกำเนิดของโปรแกรมดั่งเช่น Merovingian (ชายชาวฝรั่งเศสในภาค Reloaded)และ Persephone (ภรรยาของ Merovingian ที่ช่วยเหลือนีโอในการช่วย The Keymaker แลกกับการที่นีโอจูบเธอด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกับที่เขาจูบทรินิตี้) และยังเป็นต้นกำเนิดของ ผี(The Twin ที่ทรินิตี้และมอร์เฟียสต่อสู้ด้วยบนไฮเวย์ในภาค Reloaded ที่มีความสามารถในการรักษาอาการบาดเจ็บของตน และทะลุผ่านของแข็งได้ด้วยการกลายร่างเป็นสิ่งที่คล้ายวิญญาณสลับกับการคืนร่างเดิม) มนุษย์หมาป่า และแวมไพร์ เช่นเดียวกับโปรแกรมเหนือธรรมชาติอื่นๆ
    เวอร์ชันนี้ล้มเหลวในการควบคุมจิตใจมนุษย์เช่นกัน โดยอาจอธิบายได้ว่า หากความสมบูรณ์แบบคือสิ่งที่ไม่อาจเชื่อว่ามันปรากฏอยู่จริงได้แล้ว สิ่งนี้ก็เปรียบได้ว่า คือฝันร้ายที่ไม่มีวันจบ

    เมทริกซ์ 3.0

    การสร้างเมทริกซ์เวอร์ชันนี้ถูกระแวงสงสัยจนกระทั่งหนทางในการรับมือกับธรรมชาติอันคาดเดาไม่ได้ของมนุษย์ถูกค้นพบ การแก้ปัญหาถูกพบโดยสิ่งที่ The Architect เรียกมันว่าโปรแกรม “สัญชาตญาณ” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เครื่องจักรเข้าใจจิตใจมนุษย์มากยิ่งขึ้น โดยมนุษย์รู้จักโปรแกรมนี้ในฐานะ The Oracle (เทพพยากรณ์) The Oracle ค้นพบว่า 99% ของมนุษย์จะยอมรับระบบหากให้ทางเลือกว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธ The Matrix ภายในจิตใต้สำนึก โดยจะมีการให้ทางออกสำหรับอีก 1% ของผู้เป็นกบฏที่เหลือโดยการปลดปล่อยพวกเขาออกจาก Matrix ไปยังโลกแห่งความเป็นจริงและขับไล่พวกเขาไปสู่เมืองเฉพาะสำหรับพวกเขาเอง ที่มีชื่อว่า Zion
    ในการทำให้ Zion อยู่ภายใต้การควบคุมนั้น เครื่องจักรได้สร้างระบบในการควบคุมซึ่งเป็นของเทียมเช่นเดียวกับ Matrix เอง ในการควบคุมมนุษย์ด้วยความหวังและแรงปรารถนา – ภายใต้คอนเซปต์ The One –
    โปรแกรม The Oracle จะกล่าวคำพยากรณ์ซึ่งระบุไว้ว่า วันนึง Messiah (ผู้มาโปรดโลก หรืออาจหมายถึงพระเยซูก็ได้) จะถือกำเนิดขึ้นโดยเขาจะมีอำนาจในการปลดปล่อยมนุษย์ ซึ่งแน่นอนว่าคำทำนายทั้งหมดนี้ล้วนโกหก – The One จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความต่อเนื่องในเมทริกซ์เท่านั้น
    เมื่อประชากรของ Zion เพิ่มขึ้นจนมากเกินไป - The One จึงจะถือกำเนิดขึ้นมาในเมทริกซ์ โดย The One จะได้รับอนุญาตในการติดต่อกับประชากรของ Zion และหนีออกมาจาก Matrix ได้(ดั่งที่เราเห็นใน The Matrix ภาคแรก) และ The One จะถูกดึงดูดให้มุ่งความสนใจไปในคำทำนาย มากกว่ากระบวนการที่แท้จริง
    จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปถึงจุดหนึ่ง Zion จะถูกเครื่องจักรโจมตี และจะมีแรงผลักดันที่จะนำ The One ไปพบกับ The Architect ผู้ซึ่งจะบอกความจริงเกี่ยวกับเมทริกซ์และภาระที่จะตามมา คือ
    “หน้าที่ของ The One ขณะนี้ได้หวนกลับมายังแหล่งกำเนิดอันนำไปสู่การหว่านเมล็ดของรหัสที่คุณรับภาระไว้ ฐานข้อมูลจะเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง หลังจากที่คุณจะถูกเสนอให้เลือกประชากรในเมทริกซ์ 23 คน – ผู้หญิง 16 คน และผู้ชาย 7 คน – เพื่อจะสร้าง Zion ขึ้นมาใหม่ โดยความล้มเหลวในการยินยอมขั้นตอนนี้จะส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบอย่างรุนแรงซึ่งจะฆ่าทุกคนที่เชื่อมต่อกับ Matrix เช่นเดียวกันกับการสูญสลายของ Zion จากการโจมตี ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่รุนแรงของการสูญสลายของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งปวง”
    ผู้อยู่รอดที่เหลืออาจจะได้รับการบอกกล่าวถึงคำทำนายของ The One แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ถึงวงจรการเริ่มต้นใหม่ของเมทริกซ์ โดยแต่ละวงจรของเมทริกซ์จะกินเวลาประมาณ 100 ปี
    วงจรของ The One ส่งผลให้เครื่องจักรรักษาการควบคุมระบบตลอดวงจร 5 วงจร และผู้ที่เป็น The One ทั้ง 5 คน อย่างไรก็ตาม คนที่หก, Thomas Anderson (“Neo”) แตกต่างจากคนอื่นๆ ในทางที่เครื่องจักรไม่ได้คาดไว้ - Ones คนอื่นๆ ล้วนตกอยู่ในสถานะความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ดั่งเช่น Messiah (ผู้มาโปรดโลก) และเลือกที่จะยืดการคงอยู่ของเมทริกซ์ต่อ เพื่อป้องกันการสูญสลายของเผ่านพันธุ์มนุษย์ แต่สำหรับนีโอแล้ว ความสัมพันธ์นั้นคือความรักใคร่ – เพราะเขารักผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า Trinity (ขออนุญาตทับศัพท์ว่าทรินิตี้) ผู้เป็น Hacker ที่ The Oracle ทำนายเอาไว้ว่า เธอจะตกหลุมรัก The One – นีโอปฏิเสธข้อเสนอของ The Architect ในการช่วยเหลือมนุษย์ และทำการตัดสินใจอย่างไร้เหตุผลในการช่วยเหลือทรินิตี้จากการโจมตีของ Agent (โปรแกรมนึงในเมทริกซ์ ที่ทำหน้าที่ดูแลเมทริกซ์ภายใน เป็นศัตรูของทั้งไตรภาค)
    ในขณะเดียวกัน สมิธ (Smith) Agent ผู้ทรยศต่อเครื่องจักรและแข็งแกร่งขึ้นมากจากการเผชิญหน้ากับนีโอในครั้งก่อนๆ ได้กระจายไปทั่วทั้งเมทริกซ์ดั่งไวรัส จากความสามารถในการเปลี่ยนบุคคลในเมทริกซ์ให้เป็นตัวเขาเอง ทำให้เขากลายเป็นอันตรายต่อทั้งเครื่องจักรและมนุษย์ – นีโอได้ยื่นขอเสนอกับเครื่องจักรชิ้นหนึ่ง (ในรูปแบบที่รู้จักในชื่อ Deus ex Machina) ในการทำลายสมิธเพื่อคืนความสงบสุขกลับมา เครื่องจักรนั้นยอมรับข้อเสนอด้วยความกลัวที่ว่าพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมหรือกำจัดไวรัสสมิธ ผู้ที่เติบโตจนไม่สามารถคำนวณความแข็งแกร่งได้ และเป็นที่รู้จักในฐานะที่ถูกครอบงำโดยความปรารถนาของเขาที่จะ”ปลดปล่อย” โลกและทุกสิ่งทุกอย่างที่แปดเปื้อนโดยกลิ่นของมนุษย์ นั่นทำให้นีโอและสมิธต่อสู้กันภายในเมทริกซ์ จนกระทั่งสมิธได้ทำการเปลี่ยนร่างของนีโอให้กลายเป็นสมิธอีกคน ส่งผลให้สมิธทุกคนถูกทำลาย และนีโอต้องจบชีวิตลง
    ภายในภาพยนตร์ The Matrix Revolution ไม่ได้ระบุสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นไว้ แต่ความเป็นไปได้หนึ่งคือ เมื่อสมิธได้แพร่รหัสของตนเข้าไปยังนีโอ ทำให้ Deus ex Machina สามารถใช้นีโอในการทำลายสมิธได้ ไม่ว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม สันติสุขก็คืนกลับมา หลังจากหลายร้อยปีแห่งความขัดแย้ง และประชาชนของ Zion ก็ได้รับอนุญาตให้อยู่รอดต่อไป





    Agent Smite
    Agent คือโปรแกรมชนิดหนึ่งที่อาศัยอยุ่ในเมทริกซ์ พร้อมกับอีกหลายๆโปรแกรม หน้าที่คือ ทำลายล้างผู้ต่อต้าน ระบบเมทริกซ์ ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น นักจารกรรมแบบ มอเฟียส ที่เจาะระบบเข้ามาจากภายนอก หรือโปรแกรมภายในเอง ที่ต่อต้านระบบ, โปรแกรมที่ผิดพลาด, ต่อต้านการถูกลบ หรือไม่ทำหน้าที่ตามงานที่ควรจะทำ (ตัวอย่างเช่น การตามล่า พวกที่หนีออกจากเมทริกซ์ หรือนักจารกรรมที่กลับเข้ามาใน Matrix ทั้งสามภาค และ World Record กับ A Detective Story, การตั้ง target ทำลาย the keymaker ซึ่งเป็นผลเสียต่อระบบ, การไม่เป็นมิตรกับโปรแกรมแปลกปลอมอย่าง Merovingian หรือ The Oracle ซึ่งระบบอ้างว่าไม่จำเป็น(แม้ The Oracle จะมีความจำเป็นในความจริงเบื้องหลัง) , การจัดการกับ พิกัดที่เสียหรือเป็น Bug อย่างใน Beyond, การไล่ล่าผู้อพยพใน Mega City ซึ่งเป็นเมืองนอกกฏหมายที่มีพวก โปรแกรมหลบหนี(เพราะไม่อยากถูกลบ) เข้าไปซ่องสุมอยู่มากมายโดยมีคนใหญ่คนโต แบบ Merovingian ปกครองอยู่)

    ความสามารถของ Agent นั้นไม่ได้สูงส่งอย่าง superman เนื่องจากผู้ออกแบบ Matrix ก็เป็นเครื่องจักรที่ไม่ยอมให้มีอะไรทำงานอย่างไม่เป้นระบบ ดังนั้น Agent จึงยังตกอยู่ภายใต้กฏทางฟิสิกส์(ปลอมๆ)ของเมทริกซ์เช่นกัน แต่สามารถยืดหยุ่นได้เล็กน้อยเช่นพลังการต่อสู้ที่สามารถรีดเร้นออกมาได้เกินคนและความว่องไวที่สูงกว่าคนปกติ หรือโปรแกรมทั่วๆไปที่ปลอมแปลงมาในรู้ลักษณ์บุคคล อื่นๆมาก Agent เป็นโปรแกรมที่มีเสรีในเมทริกซ์ระดับหนึ่งคือ สามารถเข้าออกได้แทบทุกโปรแกรมโดยย้ายจากร่างของมนุษย์คนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างอิสระ เพื่อตามล่า เป้าหมาย ในทุกกรณีดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น

    แต่แม้จะมีความสามารถสูง ก็ยังไม่สามารถต่อกรกับพวกที่เหนือกว่า เช่นผู้ปลดปล่อย(The One) หรือโปรแกรมระดับสูงอย่างเซแรฟ(คนคุ้มกันThe Oracle ได้) แม้กระทั่งใน Mega City ก็คิดว่ามีโปรแกรมที่ถูกดัดแปลงโดย Merovingian และมีฝีมือเหนือกว่า Agent หรือแม้แต่บางคนเป็นโปรแกรม Agent รุ่นเก่าที่ถูกปลดระวาง หลบหนีเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยซ้ำ

    The oracle เทพยากรณ์
    เกี่ยวกับเทพยากรณ์นั้น ดูเหมือนว่าจริงๆแล้วเทพยากรณ์จะไม่รุ้อนาคตหรอกครับ (ภายหลังเธอก็เฉลยเองว่าเธอไม่สามาระพยาการณ์อนาคตของเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นได้ (คือไม่มีในฐานข้อมูลสถิติของเธอ คือจริงๆแล้วเธอเป็นโปรแกรมดาต้าเบสระดับสูงอีกโปรแกรมที่หาทางยุติสงคราม และความสามารถพิเศษอีกอย่างคือสามารถมองเห็น source code ได้เหมือนนีโอและอาจจะเห็นบางอย่างที่มากกว่านั้น ซึ่งเรียกกันว่า "อนาคตที่ควรจะเป็น")

    เทพยากรณ์เป็นเหมือนคนที่เดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร และตอบโจทก์ในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ หรือทางเลือกที่ควรจะไป แม้ในท้ายที่สุดแล้วจะเป็นไปเพื่อกระบวนการสอดคล้องในเมทริกซ์ก็ตาม

    บทสนทนาของนีโอกับเทพยากรณ์นั้นแอบแฝงอะไรไว้หลายอย่าง เทพยากรณ์บอกนีโอว่าเขาไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย แต่ก็ไมได้บอกซะทีเดียวว่าเขาไม่ใช่ผู้ปลดปล่อย รวมทั้งได้ไกด์ว่าการเป็นผู้ปลดปล่อยนั้นเป้นอย่างไร เหมือนกับการตกหลุมรักคือเมื่อเป็น จะรู้เอง ไม่ใช่คิดว่าเป็นแล้วจะเป็น ซึ่งย้อนกลับไปสู่การปลดปล่อยตัวเองจาก "อคติ" บางอย่างแบบเดียวกับตอนที่นีโอ ฝึกต่อสู้กับมอเฟียสเพื่อปลดปล่อยจิตใจนั้น คำว่า Know Thyself ที่เขียนไว้บนประตูห้องที่เทพยากรณ์อยู่สื่อความหมายได้ดีแล้วว่าแท้ที่จริงสิ่งที่เทพยากรณ์พูด นีโอจะรู้เอง แม้แต่นีโอที่บอกว่าเขาไม่ใช่ the one แต่เขาคือ neo และตอนหลังก็เป็น neo ในที่สุด (จริงๆผมว่ามอเฟียสเองก็ไม่ได้รุ้อะไรเลย นอกจากศรัทธาอย่างแรงกล้าในผู้ปลดปล่อย และเชื่อในคำพูดของเทพยากรณ์อย่างแรงกล้าเช่นกันว่าเขาจะเป็นผู้ที่ได้พบกับ the one เขาจึงเป้นคนที่ศรัทธาในตัว the one มากที่สุดในฐานะ the one ไม่ใช่ในฐานะ neo ซะทีเดียว ซึ่งเจตนาตรงนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปในที่สุดตอนท้ายในภาค revolution หลังจากได้รู้ว่า สงครามไม่หยุดติแม้จะทำตามเงื่อนไขแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นเล่ห์กลของฝ่ายเครื่องจักร)


    แม้ขีดความสามารถของนีโอจะสูงขึ้น จนเข้าขั้นวิปลาศ(เช่นการหลบกระสุน) แต่เขาก็ยังไม่เชื่อและไม่ยอมรับว่าตัวเองคือ the one เขาคือ Neo เท่านั้น

    น่าแปลกที่ Smith ยอมเรียกคนอื่นๆด้วยชื่อใหม่ แต่ไม่ยอมเรียกนีโอว่านีโอกลับเรียก แอนเดอร์สันอย่างสม่ำเสมอ อะไรคือโลกจริงและโลกเมทริกซ์ซึ่งเป็นโลกแห่งความฝันของมนุษย์ อัตตาของเราอยู่ที่ไหน ในขณะที่ สมิธซึ่งเกิดแก่เจ็บตายในโลกจริง พอๆกับโลกเมทริกซ์ อาศัยอญุ่ในทั้งสองโลกซึ่งไม่ว่าจะโลกไหนก็ไม่ต่างกัน อัตตาของสมิธเป้นการคาบเกี่ยวระหว่างสองโลก ในขณะที่ แอนเดอร์สันคือคนคนหนึ่งที่ตายไปแล้วและทิ้งตัวตนจอมปลอมไว้เบื้องหลัง กับนีโอ ชายอีกคนที่เกิดใหม่ในโลกจริง มอเฟียสได้เคยบอกว่า เราไม่สามารถบอกได้ว่าแต่ละคนเป็นใครเพราะในเมทริกซ์คือดลกปลอมทั้งนั้น นีโอ กับแอนเดอร์สัน จึงเป้นภาพของคนเดิมที่ขาดจากกัน ในขณะที่ สมิธคือคนเดิมที่อยู่ในทั้งสองโลกและคาดหวังจะหมดภาระหน้าที่ในเมทริกซ์และกลับออกไปสู่อิสระภาพภายนอกเช่นกัน อะไรคือความจริงที่คาบเกี่ยวกัน ระหว่างสองฝ่าย คือสิ่งที่เกินขึ้นตามมาอีกมากมาย




    ในภาคต่อมา เราจะพบว่าหลังจากการฟื้นกลับคืนมาของนีโอหลังจากตายแล้วนั้น ไม่ได้มีแต่นีโอเท่านั้นที่ปลดปล่อยตัวเองจากเงื่อนไขในเมทริกซ์ แต่สมิธเองก็ได้รับการปลดปล่อยเช่นกัน นีโอมีความสามารถเหนือมนุษย์ราว superman มองเห้น source code ได้ คงพัฒนาการของเขามาจากพัฒนาการเดิมของมนุษย์ที่พยายามปลดปล่อยตัวเองจากเมทริกซ์ ส่วนสมิธมีพัฒนาการมาจากความสามารถเดิมของเอเจนต์ คือการแทรก code เข้าออกโปรแกรมอื่น ท้ายที่สุดคือการจำลองตัวเองเข้าไปกัดกินทุกชีวิต ทุกโปรแกรมในเมทริกซ์ ไม่ว่าจะเป้นมนุษย์หรือเครื่องจักร ล้วนถูกสมิธเข้าครอบงำสิ้น เกิดเป็นเงื่อนไขที่ถูกนำเสนอในการต่อสู้ของภาคถัดๆมา



    ** ขอย้ำนะ ตอนจบของหนังเรื่องนี้ ผู้เขียนบทไม่ไ้ด้บอกอะไรไว้เลย ให้เราจินตนาการเองล้วนๆ ผมเองพยายามหาข้อมูลว่าทำไมตอนจบมันต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ก็ไม่พบคำตอบที่แท้จริง เหมือนกับว่าคนเขียนบทอยากให้เราใส่จินตนาการลงไปเอง เพราะฉะนั้นอย่าคิดมากครับ ชอบแบบไหน อยากให้มันเป็นยังไงก็สุดแท้แต่ท่านล่ะครับ **

    ** อยากเห็นคนไทยรักการอ่าน **


    ปล. เพิ่มภาพแล้ว อิอิ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย shisaku : 5th October 2013 เมื่อ 21:06


  2. #2
    •–“฿๏$$”–•
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    –•“NeverLand”•–
    กระทู้
    590
    กล่าวขอบคุณ
    1,158
    ได้รับคำขอบคุณ: 283
    Blog Entries
    1
    ชอบมากหนังเรื่องนี้ อ่านแล้วอยากให้มี รีเมกตั้งแต่โลกที่มนุษย์กะเครื่องจักรยุด้วยกัน เนื้อเรื่องคงคล้าย I-robot ที่วิลสมิทเล่น
    ชอบมากๆชอบหนังแบบนี้ ซึ่ง น้ำตาจะไหล
    “••”

  3. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2012
    กระทู้
    2,228
    กล่าวขอบคุณ
    175
    ได้รับคำขอบคุณ: 615
    เรื่องนี้ยอมรับเลยชอบแต่ดูไม่รู้เรื่องเลย ดูแต่ฉากเเอคชั่นอย่างเดียวผมว่าเชิงเข้าใจยากหน่อยตอนมันออกมาใหม่ๆเข้าไปในโลกคอมพิวเตอร์ต่อสู้กับไวรัสในคราบคน

  5. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ปทุม
    กระทู้
    477
    กล่าวขอบคุณ
    4
    ได้รับคำขอบคุณ: 56
    สรุปได้ใจความมากๆ เลยคับ ผมพอเข้าใจ เรื่องนี้ บางส่วนนะ เพราะชอบหนังเเนวๆนี้อยู่ละ พอมาอ่าน ได้เกร็ดความรู้ของเรื่องนี้ ได้เข้าใจไรมากขึ้นไปอิก ขอบคุณมากคับ
    เพลงดาบล่องนภา

  6. #5
    Game Reporter
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพฯ
    กระทู้
    3,194
    กล่าวขอบคุณ
    1,277
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,058
    อ่านหมดแล้ว ดูเหมือนว่า The Matrix จะเป็นภาคต่อของ I, Robot เพราะ I, Robot ตอนจบก็อยู่กลางทะเลทรายเหมือนกันเลย

    ฉากที่ชอบที่สุดคือ ตอนสู้กันครั้งสุดท้ายของ Neo กับ Smith นี้แหละครับ อลังการงานสร้างมาก

  7. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    650
    กล่าวขอบคุณ
    7
    ได้รับคำขอบคุณ: 313
    เคยอ่านครั้งนึงลายตา และ ปวดหัวเลย สรุปโลกไหนโลกจริงครับ โลกที่เครื่องจักร (ปลาหมึก ?) มาโจมตีคือโลกจริงรึป่าวคับ ?

  8. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    278
    กล่าวขอบคุณ
    748
    ได้รับคำขอบคุณ: 81
    ตาลายเลยครับละเอียดยิบเลยอ่านเพลินอะ

  9. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    1,710
    กล่าวขอบคุณ
    152
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,034
    ดูมาหลายรอบแล้วก็ยังงงๆในบางส่วนเหมือนกัน เกี่ยวกับพวกเนื้อเรื่องในเชิงลึกอ่ะ พอมาอ่านของท่านก็เข้าใจมากขึ้นน่ะ

    แต่ก็ยังมีงงๆบ้าง เพราะอ่านแล้วไม่เข้าหัว 5555
    0000000000000000000000

  10. #9
    สมาชิกเต็มตัว
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    25
    กล่าวขอบคุณ
    27
    ได้รับคำขอบคุณ: 9
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ~FeaR~ อ่านกระทู้
    อ่านหมดแล้ว ดูเหมือนว่า The Matrix จะเป็นภาคต่อของ I, Robot เพราะ I, Robot ตอนจบก็อยู่กลางทะเลทรายเหมือนกันเลย

    ฉากที่ชอบที่สุดคือ ตอนสู้กันครั้งสุดท้ายของ Neo กับ Smith นี้แหละครับ อลังการงานสร้างมาก
    รู้สึกว่าจะไม่เกี่ยวกันนะครับ i robot นี่แปลงมาจากฉบับนิยายนี่

  11. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    342
    กล่าวขอบคุณ
    13
    ได้รับคำขอบคุณ: 122
    ตอนนี้ทุกคนกำลังอยุ่ในเดอะแมตทิกซ์ ร่างกายที่แท้จริงของเรากำลังให้พลังงานแก่พวกนั้นอยุ่

  12. #11
    Game Reporter
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    กรุงเทพฯ
    กระทู้
    3,194
    กล่าวขอบคุณ
    1,277
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,058
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ angelknight อ่านกระทู้
    ตอนนี้ทุกคนกำลังอยุ่ในเดอะแมตทิกซ์ ร่างกายที่แท้จริงของเรากำลังให้พลังงานแก่พวกนั้นอยุ่
    วิธีที่จะออกมาได้นั้น คือการตื่นโดยตกจากที่สูงหรือเรียกว่าการ Kick

  13. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,472
    กล่าวขอบคุณ
    27
    ได้รับคำขอบคุณ: 443
    เอ่อทำไมเขาไม่สร้างภาคต่ออะงง อยากดูอะและก็นะ ไอพวกหุ่นนั่นคิดจะทำอะไรกับneoกัยหละตอนที่neoตายแล้วมนพาไปไหนหรือมันต้องการใช้neoในการทำอะไร และทำไมเทคโนโลยีในหนังมันดูล้าสมัยจังเลย(เอาเหอะหนังเก่า) และเห็นบอกมันมีเกม กับหนังการ์ตูน มันเชื่อมกันหรอครับ(เห็นเขาบอกกันในเว็บต่างๆ) ถ้ามีก็pmให้ผมสักนิดก็ดี(ผมเคยเล่นเกมมันอยู่แต่มันก็นะ ยังไงไม่รู้)

  14. #13
    Fabulous
    วันที่สมัคร
    Sep 2012
    ที่อยู่
    Earth
    กระทู้
    1,217
    กล่าวขอบคุณ
    188
    ได้รับคำขอบคุณ: 763
    ถ้าไม่อ่านอันนี้ ดูหนังรอบเดียวไม่รู้เรื่องแน่ 555555

  15. #14
    Double Dodge`
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,317
    กล่าวขอบคุณ
    342
    ได้รับคำขอบคุณ: 774
    อ่านเเล้วเพลินดีได้ข้อมูลขยายความได้เยอะ

  16. #15
    Nothing
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    กระทู้
    1,738
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,050


    นี้ก่อนเกิด The Matirx

  17. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    1,469
    กล่าวขอบคุณ
    358
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,005
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ first อ่านกระทู้
    เอ่อทำไมเขาไม่สร้างภาคต่ออะงง อยากดูอะและก็นะ ไอพวกหุ่นนั่นคิดจะทำอะไรกับneoกัยหละตอนที่neoตายแล้วมนพาไปไหนหรือมันต้องการใช้neoในการทำอะไร และทำไมเทคโนโลยีในหนังมันดูล้าสมัยจังเลย(เอาเหอะหนังเก่า) และเห็นบอกมันมีเกม กับหนังการ์ตูน มันเชื่อมกันหรอครับ(เห็นเขาบอกกันในเว็บต่างๆ) ถ้ามีก็pmให้ผมสักนิดก็ดี(ผมเคยเล่นเกมมันอยู่แต่มันก็นะ ยังไงไม่รู้)
    มันจบสมบูรณ์แล้วไง เรื่องเอาร่างนีโอไปนี่ไม่แน่ใจว่าเอาไปทำอะไร
    แล้วเทคโนโลยีไหนล้าสมัยเหรอครับ ?

  18. #17
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ first อ่านกระทู้
    เอ่อทำไมเขาไม่สร้างภาคต่ออะงง อยากดูอะและก็นะ ไอพวกหุ่นนั่นคิดจะทำอะไรกับneoกัยหละตอนที่neoตายแล้วมนพาไปไหนหรือมันต้องการใช้neoในการทำอะไร และทำไมเทคโนโลยีในหนังมันดูล้าสมัยจังเลย(เอาเหอะหนังเก่า) และเห็นบอกมันมีเกม กับหนังการ์ตูน มันเชื่อมกันหรอครับ(เห็นเขาบอกกันในเว็บต่างๆ) ถ้ามีก็pmให้ผมสักนิดก็ดี(ผมเคยเล่นเกมมันอยู่แต่มันก็นะ ยังไงไม่รู้)
    หนังกับการ์ตูนมันเชื่อต่อกันครับ การ์ตูนเหมือนเป็นส่วนขยายของหนังอีกทีหนึ่ง ครับ

    ตอนจบของหนัง อย่างที่ผมบอกไปคือคนเขียนบทเึค้าไม่ได้บอกอะไรเราเพิ่มเลย และเค้าก็ไม่ยอมบอกด้วยว่ามันจบแบบไหนกันแน่ ให้พวกเราได้จินตนาการเองล้วนๆเลย
    ู้
    นี่คือหน้าตาของผู้กำกับและผู้เขียนบทครับ


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top