ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 18 จากทั้งหมด 18
  1. #1
    My name is 'Condit'
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    511
    กล่าวขอบคุณ
    1,358
    ได้รับคำขอบคุณ: 563

    Last Friday : ศุกร์สุดท้าย

    อ่านก่อนครับ
    1. ผมว่าจะลองทำงานเขียนดูครับ เลยลองแต่งเรื่องเกี่ยวกับซอมบี้ขึ้นมา
    2. ถ้าส่วนไหนขาดๆ เกินๆ ขอคำแนะนำให้ผมด้วยนะครับ
    3. ความยาวเนื้อเรื่องก็ยังไม่ทราบครับ ว่าจะแต่งต่อไปเรื่อยๆ แต่จะใส่จิตวิญญาณลงไปให้มากที่สุดนะครับ :3
    4. จะพยายามวาดรูปประกอบของแต่ละตอนด้วยนะครับ จะได้อิเมจิ้นตามตัวละครได้ 5555




    Last Friday : ศุกร์สุดท้าย
    เรื่องราวของเอก นักศึกษาผู้เบื่อการเรียนหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ในวันที่เขามีความสุขกับการนั่งดูซีรีย์อยู่ก็เกิดเหตุการณ์เชื้อไวรัสแพร่กระจาย เหล่ามนุษย์ถูกโจมตีด้วยมนุษย์ตัวเหม็น พวกมันจมูกไว ราวกับสุนัขล่าเนื้อ จำนวนมหาศาลของพวกมันพร้อมจะกระชากเนื้อออกจากตัวคุณและแทะมันราวกับคนที่กำลังเคี้ยงน่องไก่ เอกจะสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปในโลกแห่งความสิ้นหวังนี้ได้หรือไม่ โปรดติดตาม.....

    :: Chapters ::

    File 1 : The First of the end
    File 2 : Four guys , One friend
    File 3 : Rainy is coming
    File 4 : Trust ?
    Coming Soon...



    cr : boomslan03
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย boomslan03 : 19th April 2014 เมื่อ 15:27
    อ่านเรื่อง Last Friday : ศุกร์สุดท้าย คลิกที่นี่ >>> Last Friday

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 11 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    My name is 'Condit'
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    511
    กล่าวขอบคุณ
    1,358
    ได้รับคำขอบคุณ: 563
    File 1 : First of the end





    บ่ายวันศุกร์ของฤดูร้อน แสงแดดส่องสว่างให้ความอบอุ่นแก่พื้นโลก ลมพัดเบาๆ เอากลิ่นมลพิษทางอากาศเข้ามายังหน้าต่างของห้องพักแห่งหนึ่งในตัวเมือง
    มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยของเหล่าหัวกะทิ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัยมาก ดังนั้นจึงมีนักศึกษาจำนวนมากอยากเข้าเรียนที่นี่ บางคนเรียนพิเศษอย่างหนักเพื่อที่จะสอบให้ติด ต่างจากตัวผม “ เอก “ ผมไม่ได้ใส่ใจในเรื่องการเรียนเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังหลุดเข้าไปอยู่ในรายชื่อผู้ที่สอบติดได้ คงจะเป็นเพราะ IQ 180 ที่พ่อกับแม่ประทานให้มาตั้งแต่เกิด แม้แต่วันนี้ ความขี้เกียจก็ไม่เคยปราณีผม ผมยังนอนขลุกอยู่บนเตียงในหอพักซึ่งอยู่ห่างจากมหาลัยประมาณ 1 กิโล ผมหันไปมองนาฬิกา เข็มบนหน้าปัดแสดงเวลา 10.05 น.
    “ เวร ซีรีย์เรื่องโปรดของตูมันฉายไป 5 นาทีแล้วนี่หว่า “ ผมบ่น
    ผมค่อยขยับขาออกจากผ้าห่มช้าๆ วินาทีนี้ไม่มีอะไรสนุกไปมากกว่าการดูซีรีย์เรื่องโปรดระหว่างที่โดดเรียนอีกแล้ว แต่เมื่อผมเปิดทีวีผมก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เพราะมีหญิงสาวใช่ชุดสูทนั่งรายงานข่าวปรากฏบนทีวี ทั้งที่ตอนนี้ควรจะเห็นพระเอกหรือตัวละครในซีรีย์ประกฎบนจอแท้ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังจะปิดทีวี ก็มีประโยคนึงทำให้ผมหยุดชะงัก
    “ เนื่องจากมีสารเคมีปนเปื้อน ขอให้ผู้ชมอพยพออกจากเขตมหาวิทยาลัยกรุงเทพโดยด่วน ขอแนะนำให้ทุกท่านขับรถไปทางตอนเหนือของประเทศอย่างระมัดระวัง ขอบคุณค่ะ “ สิ้นสุดเสียงผู้ประกาศข่าว ตัวผมก็คิดว่าจะได้ดูซีรีย์ต่อ แต่บนจอกลับขึ้นประกาศว่างดออกอากาศแทน ผมนั่งนึกอยู่ซักพัก แล้วผมก็จำได้
    “ วันก่อนเห็นว่ามีนักวิทยาศาสตร์ชาวต่างชาติขอยืมสถานที่เป็นที่ทดลองจุลินทรีย์นี่นา แต่ว่ จุลินทรีย์มันอันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ ? “ ผมตั้งคำถามให้ตัวเอง
    พัดลมแขวนหมุนให้ความเย็นอยู่บนหัวผม ขณะที่ผมกำลังนั่งหาคำตอบอยู่นั้นก็มีเสียงดังขึ้น
    “ จ๊ออกกกกกกก “ ไม่ไม่ช่เสียงสัตว์ประหลาดแต่อย่างใด แต่เป็นเสียงท้องของผมที่คำรามออกมาหยั่งกับต้องการเขมือบไก่งวงทั้งตัว ผมลุกออกจากห้อง ปิดพัดลม ปิดทีวี เพื่อไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก่อนออกจากห้อง ผมก็ไม่ลืมหยิบอาวุธคู่กายของผม ไม้เบสบอลเหล็กสีเงินด้ามจับสีดำติดตัวออกมาด้วย เพราะรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ระหว่างที่ผมกำลังลงบันไดห้องพักลงมานั้นก็เห็นนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพวิ่งกุมแขนที่ชโลมไปด้วยเลือดเดินกระเผลกเข้าประตูหอพักชั้นล่าง ผมจำไอ้หมอนี่ได้ ไอ้หมอนี่เป็นคนที่มีหน้าตากวนส้นเท้าสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นตาที่ตี่ ฟันที่หยินเกออกมา ไฝอยู่ที่แก้มซ้าย แล้วยังไม่ถอนขนจมูกอีกด้วย ผมแอบขำในใจ แต่ก็อดสงสารไม่ได้ที่เห็นแผลลึกขนาดนั้น มันคงจะโดนนักเลงแถวนี้มองเห็นหน้าที่ยียวนกวนประสาทของมันจึงโดนทำร้าย
    “ อ้าว เป็นไรมาเรอะ โดนนักเลงฟันมาเหรอ “ ผมเอ่ยปากถาม
    “ คงงั้นละพี่ โดนฟันแถวหน้าเซเว่นใกล้มหาลัยแหละ ผมไม่ทันได้มองเลย ดีนะสะบัดแขนหนีออกมาทัน ฮ่าๆ “ นักศึกษาผู้อาภัพหน้าตาหัวเราะแฝงความน้อยใจ
    “ อ้าว งั้นเรอะ ดีเลยที่พี่เอาไม้เบสบอลมาด้วย ว่าแต่แกนะ โดนฟันบ่อยเหลือเกิน ตูดไม่ซิงแล้วล่ะมั้ง “ ผมถามพร้อมแถมมุขตลกส่งท้าย
    “ โหย พี่ ระวังพี่จะโดนเองนะ อย่าหาว่าผมไม่เตือน มันเอามีดอะไรมาฟันก็ไม่รู้เนี่ยแผลเหวอะหวะหยังกะโดนฉีกแขนเลย “ นักศึกษากล่าวเตือนรุ่นพี่
    “ เคๆ จะระวังละกัน “ ผมตอบกลับทั้งๆ ที่หันหลังอยู่



    ผมขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากหอพักได้ซัก 5 นาทีก็มาถึงหน้าเซเว่น บนถนนนั้นไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียว มีแต่เศษขยะที่ปลิวออกมาจากถังที่เหมือนจะโดนชนจนล้ม ผมเดินเข้าไปในเซเว่น มีรถตำรวจขับผ่านหน้าเซเว่นไป 2-3 คันพร้อมเปิดไซเรน ผมก้าวเข้าไปในเซเว่น พร้อมเดินไปที่ตู้อาหารแช่แข็ง ผมมองไปรอบๆ ร้าน ไม่มีคนอยู่ในร้านแม้แต่คนเดียวแม้แต่แคชเชียร์ที่ควรจะนั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์แท้ ๆ แล้วผมจะจ่ายตังยังไงล่ะทีนี้ ผมก็เลยเอาขนมแคร็กเกอร์ราคาแพงถุงละ 59 บาทใส่กระเป๋ากางเกงมาด้วย และเมื่อผมก้าวออกมาจากเซเว่น ผมยืนมองไปรอบๆ เผื่อว่าจะเห็นพนักงาน ชุดเขียว แล้วผมก็เห็นจริงๆ เขายืนหันหลังอยู่ตรงหัวมุมพอดี
    “ พี่ครับๆ ซื้อของคร้าบบ “ ผมตะโกนเรียกเขา
    และก็หวังว่าเขาจะได้ยิน ผมเดินกลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง แต่ก่อนที่ผมจะเข้าไปในร้านนั้น โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ผมหยุดและเดินออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอก บนหน้าจอประกฎคำว่า แม่ อยู่
    “ ฮัลโหลครับ แม่ นี่เอกนะ “ ผมทักไปก่อน
    “ จ้า เอก เอกได้อพยพขึ้นเหนือยังลูก กลับมาอยู่ที่บ้านที่เพชรบูรณ์ของเรากันนะ “ แม่ถามด้วยเสียงสั่น แต่ก็เหมือนแม่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินเสียงตอบรับของผม
    “ ขึ้นเหนือทำไมเหรอแม่ เห็นว่าจุลินทรีย์ปนเปื้อนแถวมหาลัยน่ะเหรอแม่ “ ผมตอบ
    “ รัฐบาลเพิ่งประกาศว่ามีเชื้อไวรัสปนเปื้อนแถวนั้น หากอยู่ใกล้จะติดโรคระบาด.... “ แม่ตอบยังไม่ทันจบ
    ทันใดนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่ามีพนักงานยืนอยู่ข้างหลัง ขณะที่ผมกำลังจะหันไปถามว่าเหตุการณ์เป็นยังไงนั้น เขาก็กระโดดคร่อมตัวผมและพยายามจะกินผม ตัวของเขาเหม็นสาบกลิ่นเน่ามาก ที่หน้าพากด้านบนมีรอยแผลเหวอะหวะอยู่เต็มไปหมด
    ผมผลักเขาออกไปและกวาดสายตาดูร่างกายของเขาอย่างละเอียด รอยแผลแบบนี้ นี่มันเหมือนซอมบี้ในภาพยนตร์ที่เขาเคยดูรึป่าวนะ ผมยังไม่อยากฆ่าคนหรอกถ้าหากนี่มันเป็นการแต่งชุดขบวนพาเหรดพิสดาร ผมถือไม้เบสบอลชี้ไปที่หัวของเขาและถามให้แน่ใจ
    “ นี่ ผมไม่อยากทำร้ายคุณนะ ถ้าคุณเข้ามาอีกผมทุบหัวคุณแน่ “ ผมถามเขาเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมจับไม้เบสบอลเหล็กคู่ใจไว้พร้อมที่จะหวดหัวของเขาให้โฮมรันไปไกลหลายเมตร
    “ กร๊าซซซซซซซซ “ พนักงานตัวเหม็นคำรามขู่ผมเหมือนพร้อมที่จะจู่โจม พนักงานไร้สติคนนั้นกระโจนเข้าหาผม
    “ โป๊กกกก !!!! “ ผมหวดเขาเต็มแรง เขากระเด็นออกไปไกลหลายเมตรเหมือนที่ผมจินตนาการไว้ไม่มีผิด
    ผมหวดที่หัวของเขาซ้ำอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ลุกขึ้นมาแทะมือของผมอีก ผมนั่งดูศพของเขา และคิดว่า จะไม่มีคำอธิบายใดๆ อธิบายได้อีกแน่ว่าเขาเป็นตัวอะไร เขาคือซอมบี้ ซอมบี้ ใช่แล้ว ซอมบี้ คนกลายพันธุ์ที่โดนกัดแล้วจะมีนิสัยดุร้ายเหมือนหมาบ้า ผมหยิบโทรศัพที่กระเด็นะหว่างเกิดการปะทะมา แต่ว่า แรงกระแทกทำให้หน้าจอแตกเป็นเสี่ยงๆ และเครื่องก็เปิดไม่ติดอีกด้วย จู่ๆ กลิ่นสาบซากศพก็มาเตะจมูกผมอีกครั้ง ผมมองถนนไกลออกไป มีกองทัพศพจำนวนมากกำลังเดินหน้าขึ้นทิศเหนือ มันคงจะได้กลิ่นของคนที่กำลังอพยพกันอยู่แน่ ผมไม่รอช้าลุกขึ้นวิ่งเข้าเซเว่นด้วยความเร็วสูง และก็ไม่ลืมทุบระบบเปิดประตูอัตโนมัติของเซเว่น เพราะถ้าหากมีพวกตัวเหม็นซักตัวมองเห็นผมมันจะเข้ามาได้อย่างง่ายดายแน่ ผมควรจะหาอาวุธที่หวังผลได้ เช่น ปืน ไม้เบสบอลคงจะช่วยผมไว้ได้ไม่นานแน่นอน ขณะที่ผมกำลังนั่งแอบอยู่หลังเคาท์เตอร์ ก็เห็นฝูงซอมบี้จำนวนมากเดินไปทางเหนือ ผมคิดไม่ออกเลยว่าผมจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร แต่ว่าผมก็เลือกที่อยู่ได้ดีทีเดียว อย่างน้อย ผมก็มีอาหารไว้กินพอประทังชีวิตล่ะนะ


    จบตอนที่ 1
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย boomslan03 : 17th October 2013 เมื่อ 22:23
    อ่านเรื่อง Last Friday : ศุกร์สุดท้าย คลิกที่นี่ >>> Last Friday

  4. รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    355
    กล่าวขอบคุณ
    90
    ได้รับคำขอบคุณ: 105
    รูปสวยครับ เนื้อเรื่องเอาไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่าน น่าสนุกดีครับ

  6. #4
    My name is 'Condit'
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    511
    กล่าวขอบคุณ
    1,358
    ได้รับคำขอบคุณ: 563

    มุมพูดคุย

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ jar32402 อ่านกระทู้
    รูปสวยครับ เนื้อเรื่องเอาไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่าน น่าสนุกดีครับ
    รูปแรกนั้นผมก็อปมาครับ 5555 รูปที่ผมวาดจะเป็นลายเส้นการ์ตูนนะครับ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ FlyingDog อ่านกระทู้
    สนุกมากครับ ผมก็กำลังจะเเต่งนิยายเเนวนี้เหมือนกัน ขออ่านของคุณเป็นตัวเกิ่นนำไปก่อนนพครับจะได้มีพื้นฐานหน่อยๆ 555
    ครับ พยายามเข้านะครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย boomslan03 : 18th October 2013 เมื่อ 13:54
    อ่านเรื่อง Last Friday : ศุกร์สุดท้าย คลิกที่นี่ >>> Last Friday

  7. #5
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Dec 2012
    กระทู้
    55
    กล่าวขอบคุณ
    20
    ได้รับคำขอบคุณ: 13
    สนุกมากครับ ผมก็กำลังจะเเต่งนิยายเเนวนี้เหมือนกัน ขออ่านของคุณเป็นตัวเกิ่นนำไปก่อนนพครับจะได้มีพื้นฐานหน่อยๆ 555

  8. #6
    บอกดีไหมน่ะ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    1,719
    กล่าวขอบคุณ
    1,097
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,194
    เปิดมาตกใจ หมดเลย =_="

  9. #7
    Last of Us.
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    ที่อยู่
    ในใจเธอ
    กระทู้
    2,181
    กล่าวขอบคุณ
    8,017
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,729
    ติดตามๆ
    JETGACK

  10. #8
    My name is 'Condit'
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    511
    กล่าวขอบคุณ
    1,358
    ได้รับคำขอบคุณ: 563
    ***** ขออภัยที่ตอนนี้ไม่มีรูปนะครับ พอดีเกิดปัญหานิดหน่อย *****

    File 2 : Four guys , One friend


    2 สัปดาห์ผ่านไป หลังจากเชื้อไวรัสแพร่ระบาด

    ผมกินข้าวและขนมขบเคี้ยวในเซเว่นเพื่อประทังชีวิต ตอนนี้สิ่งที่ผมควรทำคือหาอุปกรณ์สื่อสารเพื่อติดต่อกับโลกภายนอก อาจจะมีผู้รอดชีวิตได้รับสัญญาณแล้วมารับผมออกไปจากเมืองนรกนี่ซักที
    ผมเดินไปที่ตู้แช่แล้วหยิบไอศกรีมโคนรสสตรอว์เบอร์รี่ออกมา แล้วบรรจงแกะกระดาษห่ออย่างช้าๆ แต่ขณะที่ผมกำลังจะสวาปามครีมนุ่มๆ จู่ๆ ก็มีรถกระบะโตโยต้ารุ่นเก่าไม่มีแค็บขับมาจอดที่ฝั่งตรงข้ามของร้าน ขณะที่ผมกำลังจะตะโกนเรียกพวกเขา ผมก็หันไปเห็นปืนไรเฟิลของชายที่อยู่บนหลังกระบะ เขาถือมันไว้ พวกนั้นมีประมาณ 3-4 คน ยืนอยู่บนกระบะ 2 คน และน่าจะนั่งอยู่ที่นั่งอีก 2 คน ผมกระโดดหลบไปที่หลังเคาท์เตอร์ จับไม้เบสบอลคู่ใจไว้แน่นและพร้อมจะตะบันหัวของพวกเขาแน่หากเขาไม่เป็นมิตร
    “ ไอ้หนู เข้าไปขนเสบียงเร็วเข้า “ ชายคนนึงตะโกน
    เด็กหนุ่มรุ่นราวมัธยมปลายกระโดดมาจากกระบะและใช้ชะแลงงัดประตูที่ระบบเซ็นเซอร์พังออก มีเสียงปืนอยู่ตรงถนน ผมคิดว่าพวกเขากำลังกำจัดพวกตัวเหม็นเพื่อที่จะยืดเวลาให้เด็กคนนี้ขนเสบียงต่อ
    ‘ครืดดดดดดดดดดด......’ ประตูเลื่อนออก เด็กหนุ่มเปิดเป้ขนาดใหญ่และหยิบอาหารที่ตู้แช่ไปอย่างรวดเร็ว
    ผมต้องทำอะไรซักอย่าง แต่ว่า ถ้าผมโจมตีไอ้หมอนี่ พวกที่อยู่บนถนนอาจจะเห็น แล้วยิงผมก็ได้ ผมทำได้แค่แอบดูเขาขนของใส่กระเป๋าอย่างเงียบๆ
    “ อ๊ากกกกกก..... !!! ช่วยด้วย “ เสียงกรีดร้องของชายที่อยู่บนถนน
    “ เปรตเอ้ย พวกมันมีเยอะเกินไป “
    เมื่อได้ยินอย่างนี้ผมก็คงจะเดาได้ไม่ยาก ชาย 3 คนกับซอมบี้ 1 ฝูง ถึงแม้ว่าเขาจะมีปืน แต่การใช้ปืนอาจจะเรียกพวกตัวเหม็นมาเพิ่มก็ได้
    “ ลุงครับ ผมจะไปช่วยลุงเดี๋ยวนี้ล่ะ “ เด็กหนุ่มตะโกน
    เมื่อผมได้ยินอย่างนั้น ผมก็รีบกระโดดข้ามเคาท์เตอร์และกระชากคอเสื้อเขาไว้ เขาล้มตึงลงไปกับพื้น
    “ ไอ้บ้าเอ้ย แกจะเอาอาหารของฉันไปแล้วจะไปพลีชีพเหรอวะ “ ผมด่าเขา
    ผมวิ่งไปปิดประตู เลื่อนมันจนประกบกันเหมือนเดิม ภาพที่อยู่หลังประตูกระจกคือชาย 3 คน ถูกเหล่าพวกตัวเหม็นต้อนจนมุม พวกมันกระชากเนื้อของพวกเขาออกจากกัน และกินอย่างสยดสยอง ผมนั่งลง รู้สึกสิ้นหวัง ผมเห็นพวกมันกินคนต่อหน้าต่อตา ผมถอนหายใจและหันกลับไปมองเด็กหนุ่ม เขาตัวสั่นเหมือนพึ่งเสียพ่อ หรือ แม่ไป
    “ คนที่ตายคงจะเป็นคนที่สำคัญกับนายมากสินะ “ ผมเปิดประเด็นถาม
    “ ล..... ลุงของฉัน “ เด็กหนุ่มตอบ “ เขาเป็นลุงของฉันเอง “
    เสียงของเขาสั่นเครือ
    “ เอาน่า ยังไงซักวัน ลุงนายก็ต้องตายอยู่ดี ไม่ต้องเสียใจไปหรอก “ ผมพยายามปลอบใจเขา
    ผมหยิบโค๊กมา 2 กระป๋อง ผมยื่นให้เขากระป๋องนึง บรรยากาศภายในห้องเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่

    “ นายมีชื่อไหม “ เด็กหนุ่มถามผม
    ผมหันหน้าไปมองเขา
    “ แน่ละ ก็ต้องมีอยู่แล้ว “ ผมตอบ “ ฉันชื่อเอกชัย เรียกว่าเอกก็พอ อายุ 21 แล้วล่ะ แล้วแกล่ะไอหนุ่ม “
    “ ยะลูห์ ครับ“ เด็กหนุ่มตอบ
    “ หา ? ชื่อว่าอะไรนะ “ ผมถามชื่อเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
    “ ยะ – ลู ครับ “ เขาตอบช้าๆ
    “ เอาใหม่อีกทีซิ “ ผมยังงงกับชื่อของเขา
    “ ยะลูห์คร้าบบบบบบบบ “ เขาตะโกนประชดผม
    “ เฮ้ยไอ้บ้า เดี๋ยวพวกตัวเหม็นก็ได้ยินหรอก “ ผมห้ามปรามเขา
    “ คุณเรียกซอมบี้พวกนั้นว่าพวกตัวเหม็นเหรอครับ ฮ่าๆๆๆ “ เขาพูดอย่างขบขัน
    “ ไม่ตลกเลยนะเฟ้ย “
    ผมรู้สึกโล่งที่เขาหายเศร้าเกี่ยวกับเรื่องที่ลุงเขาตาย
    ผมคุยกับเขาอยู่นาน ทำให้ผมรู้ว่า เขาเป็นคนจังหวัดยะลา ที่นั่นมีการก่อการร้ายบ่อยครั้ง ทำให้พวกเขามีปืนหนักไว้ป้องกันตัว ตอนนี้เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ยะลูห์นอนหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าและสภาพจิตใจ
    ผมหวังแค่ว่า พวกตัวเหม็นที่อยู่ข้างนอกจะกินร่างไร้วิญญาณของชาย 3 คนนั้นอิ่มไวๆ และไปให้ไกลจากหน้าร้านซักที


    เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นจากความฝันเพราะรู้สึกไม่ดีเข้า
    “ อึก...... หายใจไม่ออก “ ผมพยายามจะพูด แต่ถ้าผมพูดออกไปออกซิเจนเฮือกสุดท้ายที่อยู่ในปอดต้องหมดไปแน่ๆ ผมหันไปมองเครื่องปรับอากาศ มันไม่ทำงาน ผมคว้าไม้เบสบอลและรวบรวมแรงฮึดสุดท้ายลุกออกไปทุบกระจกให้เป็นรูพอให้อากาศทะลุเข้ามาได้
    ‘ เพล้ง ‘ ผมทำสำเร็จ ผมนั่งหมดแรงและหายใจเอาอากาศเข้าไปเต็มปอด เมื่อรู้สึกโล่งอกแล้วก็ลุกไปดูอาการณ์ของยะลูห์
    “ ตื่นๆ เห้ย ตื่นๆ “ ผมปลุกเขา
    “ อืมมมมม.... “ ยะลูห์ค่อยๆขยับตัวของเขาและลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจช้าๆ
    “ วันนี้ต้องไปโรงเรียนเหรอครับ อืมม “ ยะลูห์พูดอย่างสะลึมสะลือ
    เขาคงจะไม่เป็นอะไร เพราะเขานอนหมอบลงไปกับพื้น ออกซิเจนคงจะอยู่บนพื้นเป็นส่วนใหญ่
    “ ตื่นมาก็ดีละ ดูซิ เครื่องปรับอากาศบ้านี่เกือบจะฆ่าฉันตายแล้วไง “
    “ เครื่องปรับอากาศเนี่ยนะ ฆ่าคนได้ ฮ่าๆ พี่นี่เป็นคนมาอรมณ์ดีจังเลยนะ “
    “ ไม่ขำเลยนะ อยู่ดีๆมันก็ดับไปเอง ถ้าตื่นมาช้ากว่านี้ฉันคงจะกลายเป็นไอ้ตัวเหม็นไล่กัดแกแล้ว “ ผมพูดอย่างหงุดหงิด
    “ แต่ผมว่าแอร์คงไม่ได้เสียหรอก ดูสิ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นก็ไม่ทำงานด้วย “
    “ เออ จริงสิ ผ่านมา 2 สัปดาห์กว่าๆ ไฟฟ้าคงจะโดนตัดไปแล้วล่ะมั้ง “ ผมพูด

    ผมมองออกไปข้างนอก เหมือนพวกตัวเหม็นจะไม่อยู่แถวหน้าร้านแล้ว
    “ ไอหนู ฉันว่าฉันอยากได้ปืนของพวกนั้นว่ะ “
    “ หา ? “ เด็กหนุ่มเหมือนจะไม่เข้าใจคำพูดของผม
    “ เดี๋ยวฉันจะล่อพวกตัวเหม็นให้ แกหยิบกระเป๋ากับปืนของพวกลุงแกมาให้หมดเลยนะ “ ผมสั่งเขา
    “ เอ่อ คือว่า.... “
    “ อะไรเหรอ ? “ ผมถามเขา
    “ ผมจะเรียกคุณว่า ‘ ลูกพี่ ‘ ได้ไหมครับ “ เขาพูด
    “ โถ่ เรื่องแค่นี้ แล้วแต่แกจะเรียกสิ ว่าแต่แกล่ะ พร้อมยัง ไอหนู “
    “ ครับ ลูกพี่ “ เขาตอบอย่างมั่นใจ

    ผมมองออกไปข้างนอกอีกทีเพื่อให้แน่ใจ บนถนนมีพวกตัวเหม็น 3 ตัว ผมว่าคงจะจัดการได้ไม่ยากนัก ยะลูห์หยิบชะแลงของเขางัดประตูออก ผมถือไม้เบสบอลค่อยๆ ย่องออกมาก่อน สภาพศพของคนที่ใส่โม่ง 2 คนนั้นดูไม่ได้เลย ต่างกับศพลุงของยะลูห์ที่มีรอยกัดแค่ไม่กี่ที่ ‘ พวกมันคงจะไม่ชอบไขมันสินะ ‘ ผมคิดในใจ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ผมเหวียงไม้เข้าที่หัวของไอ้ตัวเหม็นตัวแรกทันที ‘ โป๊ก ‘ มันตายคาที่ในทันที พวกของมันอีก 2 ตัวได้ยินเสียงเหล็กกระทบกับกระดูก มันเลยหันหลังมาไล่ล่าผม พวกมันเดินอย่างเชื่องช้า แต่พวกมันดูน่ากลัวกว่าสัตว์กินเนื้อในสารคดีซะอีก ผมเหวี่ยงไม้เบสบอลเข้าที่หัวตัวที่สองต่อ และตามมาด้วยตัวที่สาม แต่ว่า ผมหวดว่าวซะแล้ว ผมตั้งสติ พลิกข้อมือกลับและหวดไปที่หัวเข่าของมันสุดแรง มันล้มตึง กระดูกข้อต่อที่หัวเข่าของมันหลุดทันที ขณะที่ผมกำลังจะปลิดชีพมันนั้น ยะลูห์ก็ร้องขึ้น
    “ ช่วยด้วย ลูกพี่ “
    เมื่อผมหันกลับไปก็เห็นลุงของเขาพยายามจะกินหลานของตัวเอง ผมวิ่งไปและใช้ไม้เบสบอลรัดคอของคุณลุงตัวเหม็นและยกตัวเขาขึ้นมา เมื่อยะลูห์หลุดออกมาได้เขาก็ใช้ชะแลงทิ่มไปที่สมองของคุณลุงทันที เขาตาย ไม่สิ มันตายคาที่ ผมรีบถอดกระเป๋าออกจากตัวคุณลุงและหยิบปืนออกมาด้วย พวกตัวเหม็นแถวนั้นได้ยินเสียงของยะลูห์พากันแห่ออกมาไล่ล่าพวกเรา ผมและยะลูห์คว้ากระเป๋าของอีก 2 ศพและวิ่งสปีดเต็มที่ไปที่ร้าน ผมกับเขาโยนกระเป๋าเข้าไปก่อน และช่วยกันปิดประตูทันที ยะลูห์วิ่งไปแอบหลังแผงขายขนมขบเคี้ยว ผมกระโดดเข้าไปแอบหลังเคาท์เตอร์ หวังว่าพวกมันจะไม่เห็นพวกเรานะ ผมชะโงกขึ้นไปมอง ภาพที่เห็นนำพาความสิ้นหวังมาสู่ตัวผม หน้าของผมเริ่มชา เหงื่อเริ่มไหลพราก ภาพที่เห็นคือฝูงมนุษย์กินคนจำนวนมากมารุมล้อมกันที่หน้าร้าน ขณะที่ผมกำลังสิ้นหวัง ก็มีดอกไม้ไฟระเบิดขึ้นที่ท้องฟ้า 3 ลูก ตาของผมเบิกกว้าง พวกตัวเหม็นทยอยเดินออกไปตามเสียงดอกไม้ไฟ ใจของผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นเมื่อรู้ว่ายังมีคนที่มีชีวิตรอดอยู่ในเมือง ผมรู้สึกขอบคุณพวกเขามากและหวังว่าเขาจะไม่ยิงผมเวลาที่เจอหน้ากัน

    จบตอน 2
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย boomslan03 : 24th October 2013 เมื่อ 23:50
    อ่านเรื่อง Last Friday : ศุกร์สุดท้าย คลิกที่นี่ >>> Last Friday

  11. รายชื่อสมาชิกจำนวน 3 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  12. #9
    _SaBasTaiN_
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    ที่อยู่
    _SaBasTaiN_
    กระทู้
    2,733
    กล่าวขอบคุณ
    4,034
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,530
    หนุกดีครับจะว่าไปในบอร์ดนี้ก็มีคนเขียนเรื่องเก่งๆก็เยอะอยู่นะรึผมคิดไปเอง55+

  13. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  14. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    190
    กล่าวขอบคุณ
    78
    ได้รับคำขอบคุณ: 75
    รอติดตามอยู่นะครับ^o^

  15. #11
    FanClub AKB48 & Acchan
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    ที่อยู่
    Chiba , Japan
    กระทู้
    614
    กล่าวขอบคุณ
    3,296
    ได้รับคำขอบคุณ: 311
    กำลังไม่มีไรทำเลย เปิดมาเจอพอดี ติดตามอยู่น้า
    ปล.ขอบคุณก๊าบบบบ

  16. #12
    My name is 'Condit'
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    511
    กล่าวขอบคุณ
    1,358
    ได้รับคำขอบคุณ: 563
    File 3 : Rainy is coming.




    1 เดือนผ่านไปหลังจากเชื้อไวรัสแพร่ระบาด
    อาหารในเซเว่นเหลือน้อยเต็มที ผมและยะลูห์ใช้นิ้วรูดลงไปในถุงขนม แล้วอมนิ้วที่มีเศษขนมติดมาอย่างน่าอนาถ เสบียงของเราหมดแล้ว เหลือน้ำอัดลมอยู่ในตู้แช่ 5 กระป๋องเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้ช่วยประทังความหิวได้เลย
    “ถึงเวลาที่เราจะต้องไปแล้วล่ะ ไอหนู”
    “เราจะไปไหน ลูกพี่” ยะลูห์ถามผม
    “เราต้องไปหาที่ที่มีเสบียง อย่าง ห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อร้านอื่น” ผมพูด
    “ไปๆ ขนน้ำใส่กระเป๋ามาให้หมด”

    ยะลูห์ลุกขึ้นไปเปิดตู้แช่ที่ไร้ความเย็น เขาหยิบกระป๋องเครื่องดื่มใส่ลงในเป้ใบใหญ่ของเขา ส่วนผมก็ไปสำรสจปืนที่เก็บมาได้ ปืนมีทั้งหมด 3 กระบอก มีกระสุนอยู่ 6 แม็กกาซีน
    ผมแบ่งกระสุนกับเขาคนละ 3 แม็กกาซีน และใช้ปืนคนละกระบอก
    ผมเปิดกระเป๋าที่หยิบมาได้ ในกระเป๋ามีไฟฉาย ถ่าน และเครื่องมือสื่อสาร คงจะใช้งานได้ไม่ยาก ผมหยิบของเหล่านี้ใส่กระเป๋าของผม รวมไปถึง ไม้เบสบอลคู่ชีวิตของผมด้วย ตอนนี้มันถูกพักร้อนแล้ว ผมอาจจะได้ใช้งานมันอีกถ้าปืนไรเฟิลกระสุนหมด
    ผมมองสำรวจถนน มีพวกตัวเหม็นเดินเร่ร่อนกันอยู่ไม่กี่ตัว ถ้าผมหมอบไปเงียบๆ มันอาจจะไม่เห็นก็ได้
    ‘ครืดดดดดดดด’ ยะลูห์เปิดประตูออก ผมกำชับให้เขาก้มต่ำไว้ พวกตัวเหม็นอยู่ทางซ้ายมือของผม ระยะทางก็ไกลพอสมควร คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    ผมค่อยๆ ย่องออกมาจากเซเว่น ลมพัดกระดาษหนังสือพิมพ์และเศษขยะผ่านหน้าผมไปหาพวกตัวเหม็น พวกมันเริ่มขยับตัว และหันมาทางนี้

    “แย่แล้วลูกพี่ พวกมันได้กลิ่นเรา” ยะลูห์กระซิบมาจากข้างหลัง
    “วิ่งเลย วิ่ง” ผมให้สัญญาณเขา แล้วจึงลุกขึ้นวิ่งไปยังรถกระบะ
    ผมเปิดประตูออกและกระโดดขึ้นไปบนที่นั่งคนขับ และยะลูห์ก็กระโดดตามผมมาติดๆ ผมถอนหายใจ พวกตัวเหม็นมันยังช้าเกินไปที่จะกินพวกผมในวันนี้ ผมเอามือคลำไปหากุญแจหวังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่ กุญแจอยู่ไหนล่ะ

    “ หากุญแจเร็วเข้า” ผมสั่งเขา
    “เดี๋ยวผมไปดูในกางเกงของลุงผมครับ” ยะลูห์พูดอย่างรีบร้อน สถานการณ์ตอนนี้ถูกพลิกทันที ผมหยิบไม้เบสบอลจากกระเป๋าและเดินลงไปนวดหัวพวกมันด้วยไม้
    ‘พลั่กก’ ไอตัวเหม็นตัวแรกร่วงลงไปนอนกับพื้น ตัวที่สองและสามตามมา แต่พวกมันมีจำนวนเยอะเกินที่ไม้เบสบอลจะจัดการไหว ผมวิ่งกลับไปที่รถ
    “ยะลูห์ ขึ้นรถเร็วเข้า” ผมตะโกนเรียกเขาที่กำลังค้นศพอยู่ เขากระโจนทิ้งตัวขึ้นรถและปิดประตู ผมและเขาล็อกประตู ปิดหน้าต่างจนสนิท พวกมันเริ่มมากองกันที่รถ ตอนนี้รถกระบะคันเก่าถูกพวกมันล้อมไว้หมด
    “เจอกุญแจไหมครับ ลูกพี่” ยะลูห์ถาม
    “ไม่เจอ” ผมตอบด้วยมาดเท่
    “เอ้า ลูกพี่เรียกผมผมก็นึกว่าลูกพี่เจอกุญแจแล้วซะอีก”
    สีหน้าของยะลูห์ซีดลงราวกับไก่ต้ม เหงื่อท่วมเต็มใบหน้า ซึ่งสีหน้าของผมก็คงจะไม่ต่างอะไรกับเขามากแล้วล่ะตอนนี้
    พวกตัวเหม็นเริ่มขย่มรถไปมา เหมือนผมอยู่ท่ามกลางสงคราม ผมเหมือนทหารที่หลบอยู่ในบังเกอร์และไอ้พวกตัวเหม็นที่อย่างข้างนอกเป็นระเบิดที่ถูกทิ้งลงมา ผมไร้ซึ่งความหวัง สิ่งที่ทำได้คือหวังว่ามันจะเลิกสนใจพวกเราและหันไปสนใจอย่างอื่นแทน
    ‘กริ๊กๆ’ ผมได้ยินเสียงบางอย่าง มันมาจากข้างนอก ไม่สิ มันมาจากใต้เบาะของคนขับนี่เอง ผมเอามือล้วงไปใต้เบาะและควานหากุญแจรถยนต์
    “นี้ไง กุญแจ เจอแล้ว” ผมหยิบกุญแจและเสียบเข้าไปที่เบ้าของมัน สับเกียร์และเหยียบคันเร่งเต็มเท้า รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า พวกตัวเหม็นถูกบดไปกับล้อราวกับแป้งพิซซ่าที่ถูกไม้นวดบดจนแบน
    ตอนนี้จุดที่ผมคิดว่าจะไปคือซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆทางตอนใต้ของเมือง
    “พวกเรารอดมาได้นะครับลูกพี่” ยะลูห์พูดพลางถอนหายใจ
    “เฮ้อ โล่งขึ้นเป็นกองเลยวะ” ผมหายใจได้เต็มปอดซักที
    “ลูกพี่จะไปไหนเหรอครับ”
    “ซุปเปอร์มาเก็ต.... นี่ไง ถึงแล้ว”
    ผมจอดรถแต่เสียบกุญแจทิ้งไว้ ผมก้าวขาเข้าไปในร้าน กลิ่นสาบเตะจมูกผมทันทีที่ยื่นจมูกเข้าไป ผมหยิบไม้เบสบอลไว้เตรียมพร้อม
    “อาหารในนี้หายไปไหนหมดฟะ” ผมบ่น
    กลิ่นสาบยังคงอยู่ และผมก็เดินไปเจอไอ้ตัวเหม็นนอนอยู่ แต่เมื่อผมไปดูดีๆ มันไม่ใช่ไอตัวเหม็น มันคือศพของคน ที่ไม่ได้ติดเชื้อ เขามีรอยเลือดไหลอยู่กลางหน้าผาก มีปลอกกระสุนปืนขนาดเล็กอยู่ที่พื้น ผมเดาได้ไม่ยากว่าเขาตายยังไง ผมทำได้แค่ดูศพเขาอย่างเวทนา
    ผมเดินออกมาด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง ยะลูห์ที่ยืนรออยู่ข้างนอกคงจะเข้าใจสีหน้าของผมดี
    “เราจะไปซุปเปอร์มาเก็ตทางเหนือกัน” ผมบอกเขา
    เขาไม่พูดอะไร เขาขึ้นไปบนรถและหยิบน้ำอัดลมในกระเป๋าของเขาออกมาดื่ม เขายื่นให้ผมกระป๋องนึงและผมต้องหยิบมาดื่มเหมือนกันแน่นอน เพราะว่าผมกระหายน้ำเหลือเกิน

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา
    ผมขับรถหลบพวกตัวเหม็นที่อยู่ตามถนนด้วยความระมัดระวังจนมาถึงหน้าซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ทางตอนเหนือของเมือง
    ‘ครืนนน ครืน ครืนน.......’ รถยนต์ค่อยๆหยุดเคลื่อนที่ลง
    “อ้าวเวร น้ำมันหมดแล้ว ลงรถเร็วเข้า” ผมตะโกนลั่น เพราะพวกตัวเหม็นมันอยู่แถวนั้นเต็มไปหมด และพวกมันกำลังให้ความสนใจกับเหยื่ออย่างพวกเรา ผมและยะลูห์วิ่งเข้าไปที่ซุปเปอร์มาเก็ต มีพวกตัวเหม็นอยู่แถวนั้น 4-5 ตัว ยะลูห์หยิบปืนของเขาออกมายิงพวกมัน
    ‘ปัง ปัง ปัง ปัง’ เสียงปืนรัวจนผมนับไม่ถูกว่ามันถูกยิงไปกี่ลูก แต่พวกตัวเหม็นที่ขวางทางเราก็ตายไปหมด ผมทึ่งกับความแม่นปืนของเขาจริงๆ สงสัยเขาคงถูกฝึกมาอย่างดีแน่ๆ
    ผมและเขาวิ่งเข้าไปที่ประตูอัตโนมัติ
    ‘พลั่กก’
    “โอ้ยยย เจ็บๆๆ” หน้าของผมปะทะกับประตูอย่างจัง ผมลืมไปว่าไฟฟ้าถูกตัดไปแล้ว ประตูอัตโนมัติเลยไม่ทำงาน
    ยะลูห์วางกระเป๋าของเขาลงเพื่อหาชะแลง ผมหยิบไม้เบสบอลออกไปถ่วงเวลาพวกตัวเหม็นให้เขา ผมทุบหัวพวกมันแหลกเละ เลือดของพวกมันเปลื้อนเต็มไม้เบสบอลของผม ผมว่าผมควรที่จะล้างมันซักหน่อยแล้วล่ะ
    “รีบมาเร็วลูกพี่” ยะลูห์เปิดประตูสำเร็จและผมก็ไม่รีรอที่จะเข้าไปข้างในซุปเปอร์มาเก็ต ผมกับเขาช่วยกันปิดประตูจนประกบติดกัน
    พวกตัวเหม็นมายืนกองกันอยู่หน้าประตู หวังว่าประตูคงจะแข็งแรงพอนะ
    ผมเดินเข้าไปแผนกขายของ ผมหยิบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ออกมา 5-6 ถุงใหญ่ และกอบโกยอาหารกระป๋อง เครื่องดื่มที่อยู่ในนั้นมาจนเต็มทุกถุง และก็เอาไปวางไว้หน้าประตู ดูเหมือนว่าพวกตัวเหม็นจะเลิกล้มความคิดที่จะเข้ามากินสมองผม แต่พวกมันก็ยังเดินอยู่แถวข้างนอกนั่น
    “ถึงเราจะมีอาหารเยอะ แต่พวกมันอยู่ข้างนอกเต็มไปหมดแบบนั้น แล้วเราจะออกไปยังไงล่ะลูกพี่” ยะลูห์ถาม “ถึงจะฝ่าไอพวกนี้ออกไปได้ แต่รถก็ไม่มีน้ำมันอีก จะหิ้วถุงไปแบบนี้ก็ลำบากนะครับ”
    “ก......”
    “ทำไมลูกพี่ไม่อยู่ในนี้เลยล่ะครับ มีอาหาร เสบียงพร้อมด้วย” ผมยังไม่ทันได้พูด แต่เขาก็ถามเพิ่มมาอีกคำถาม
    “ยังมีคนที่มีชีวิตรอดอยู่ในเมือง ฉันเห็นคนโดนยิงตายอยู่ในมินิมาร์ททางตอนใต้” ผมตอบเขาไป
    “ถ้าพวกมันเข้ามาที่นี่ เราอาจจะถูกมันยิงก็ได้”
    ยะลูห์เงียบไปซักพักหนึ่ง
    “เข้าใจแล้วครับ” เขาตอบกลับมา
    แล้วสมองของผมก็คิดอะไรเจ๋งๆ ขึ้นมาได้
    “แกไปเอาเสื้อกันหนาวมา 2 ตัว แล้วมาเจอกันที่นี่นะ”
    “ครับผม” ยะลูห์เชื่อฟังผมราวกับผมเป็นเจ้านายเขา
    ผมเดินกลับไปที่แผนกขายสินค้าอีกครั้ง ผมเดินหาขวดน้ำส้มสายชูซักขวดหรือสองขวด และแล้วผมก็หาเจอ
    ผมเดินกลับมาจุดที่นัดกับยะลูห์ไว้ แผนกขายเสื้อน่าจะเดินผ่านประตูเล็กๆ นั่นแล้วเดินเข้าไป ซักพักยะลูห์ก็วิ่งออกมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
    “นี่ครับลูกพี่ เสื้อกันหนาว จะทำอะไรก็รีบทำครับลูกพี่ พวกตัวเหม็นกำลังแห่มาตรงนี้แล้ว” เขาโยนเสื้อให้ผมและวิ่งกลับไปที่ประตู เขาปิดประตูและล็อกกลอน เขาหยิบปืนของเขาออกมาเช็คกระสุนและเตรียมพร้อมไว้
    ผมแกะฝาน้ำส้มสายชูออกและเทราดทั่วเสื้อกันหนาวทั้ง 2 ตัว เสียงพวกตัวเหม็นกำลังทุบประตูกันอย่างเมามันส์ ผมหยิบเสื้อมาสวมตัวนึงและหยิบไปให้ยะลูห์อีกตัว เขาสวมมัน ผมบอกให้เขาเตรียมพร้อมถ้าพวกตัวเหม็นทำท่าจะโจมตี
    ผมหยิบไม้เบสบอลเตรียมพร้อมไว้เหมือนกัน
    กลิ่นของน้ำส้มสายชูทำให้ผมแสบจมูกเหลือเกิน เหมือนมีตัวอะไรกัดจมูกผมอยู่เลย ผมคงหยิบน้ำส้มสายชูแบบเข้มข้นมาแน่ๆ
    ‘ปังงง’ พวกตัวเหม็นพังประตูออกมา ผมง้างไม้ไว้รอพวกมันอยู่แล้ว พวกมันดมกลิ่นฟุดฟิด เหมือนกำลังจะหาตำแหน่งของพวกผม ใจของผมเต้นรัวแรง ถ้าเสื้อกันหนาวราดด้วยน้ำส้มสายชูป้องกันพวกมันไม่ได้ คงจะไม่มีโอกาสให้แก้ตัวแล้วไปปรับปรุงผลงานแน่ๆ แต่ว่า พวกมันมองไม่เห็นพวกผม ผมว่าแล้วเชียว พวกมันใช้การดมกลิ่นในการรับรู้ว่ามนุษย์อยู่ไหน และกลิ่นของน้ำส้มสายชูก็กลบกลิ่นตัวของพวกเราได้เป็นอย่างดี
    “รีบไปขนของกันเถอะ” ผมส่งเสียงบอกยะลูห์เบาๆ
    “ค.... ครับ” เขาค่อยๆ ลดปืนลงและเดินตามผมมา


    พวกเราขนของมาไว้ที่ท้ายกระบะจนหมด กลิ่นของน้ำส้มสายชูช่วยกลบกลิ่นของพวกเราได้ ทำให้พวกเราเดินมาได้อย่างสะดวก สิ่งสุดท้ายก็คือ การเติมน้ำมันให้กับรถกระบะแล้วกลับไปที่เซเว่นหรือหาที่อยู่ใหม่ และปั๊มน้ำมันก็อยู่อีกฟากกับซุปเปอร์มาเก็ตนี้เอง ผมและเขาวางกระเป๋าไว้ที่กระบะรถเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะได้วิ่งอย่างคล่องตัว ผมหยิบกระสุนปืน Ak-47 ที่ผมมีอยู่ทั้งหมดให้เขาเพราะดูเหมือนผมไม่ได้ใช้มันเลย ผมและเขาเดินผ่านถนนที่เต็มไปด้วยฝูงผีดิบตัวเหม็นสาบ จนมาถึงปั๊มน้ำมัน ที่นั่นมีพวกตัวเหม็น 2-3 ตัว ผมเหวี่ยงไม้ดับชีวิตของพวกมันทั้งหมด และเดินตรงไปที่จุดเติมน้ำมัน
    “ลูกพี่ครับ เดี๋ยวผมไปฉี่ก่อนนะครับ” เขาบอก
    “เออๆ รีบไปรีบมา” คงจะไม่แปลก เพราะอากาศวันนี้ดูมืดครึ้ม ไม่มีแดด ทำให้ปวดฉี่ได้ง่าย แต่ผมไม่ปวดหรอก
    ผมหยิบถังขนาดใหญ่มาและเติมน้ำมันจนเต็มถัง แล้วก็นั่งรอเขา
    “เจ้าหนู เจ้าหนู” เสียงใครบางคนกำลังเรียกผม ผมหันไปหาต้นเสียงและเจอชายวัยกลางคน 2 คน คนนึงดูอ้วนและอีกคนนึงดูผอม นั่งแอบอยู่ที่มินิมาร์ทในปั๊ม
    “พวกคุณเป็นใคร” ผมถามเขา
    “อย่าพึ่งถามเลย นายช่วยพาเราไปส่งที่นึงได้ไหม”
    ผมยืนจ้องพวกเขาอยู่ซักพัก
    “ถ้าเธอช่วยพวกเราเราจะให้เธออยู่กับพวกเราก็ได้นะ”
    “ใช่ๆ เราจะให้เธออยู่ที่นั่นก็ได้ ที่นั่นมีอาหารเพียบ และผู้รอดชีวิตอีกหลายคน” ชายคนผอมพูดเสริม
    “ อืม ก็ได้ แต่พวกนายต้องเดินใกล้ๆผมไว้นะ”
    ผมเดินออกมารอที่ถังน้ำมัน พร้อมที่จะเดินทางต่อ
    “ใครเนี่ยครับ ลูกพี่” ยะลูห์ที่พึ่งเข้าห้องน้ำเสร็จสงสัย
    “พวกเขาจะพาเราไปอยู่ที่อยู่ใหม่น่ะ” ผมตอบเขา
    “รีบไปกันเถอะ” ผมหยิบถังน้ำมันและเดินออกมาจากปั๊ม
    ชายสองคนยืนอยู่แนบตัวผม ยะลูห์ยืนถือปืนคุ้มกันอยู่ด้านหลัง กลิ่นของน้ำส้มสายชูช่างแรงเหลือเกกิน ถ้าผมถึงค่ายของชายสองคนนี้แล้ว ผมจะถอดเสื้อออกแน่ๆ
    ใบหน้าของผมรู้สึกเย็นๆ เหมือนมีน้ำหยดใส่ ผมมองขึ้นไปบนฟ้า สายฝนกำลังโปรยปราย
    “แย่แล้วลูกพี่ รีบวิ่งไปที่รถเร็ว” สิ้นสุดเสียงตะโกนของยะลูห์ ผมนึกขึ้นได้ทันที ฝนจะล้างกลิ่นของน้ำส้มสายชูออก ผมออกตัววิ่ง
    “ลุงไปเปิดฝาถังน้ำมันเร็ว” ผมบอกชายทั้งสองคน
    “ อั่ก อย่าเพิ่งไป ช่วยฉันก่อน” ผมหันกลับไป ชายคนที่ดูผอมล้มอยู่กับพื้น เขาคงจะสะดุดอะไรซักอย่าง
    “ยะลูห์ เอาน้ำมันไปเติมเร็ว” ผมยื่นถังน้ำมันให้เขา แล้ววิ่งไปหาชายคนที่กำลังล้มอยู่ เหมือนเขาจะขาพลิก พวกตัวเหม็นเริ่มได้กลิ่นของมนุษย์ พวกมันเริ่มเล็งเป้ามาที่ผมและชายวัยกลางคนคนนี้
    “ลูกพี่ครับ เร็วเข้า พวกตัวเหม็นเริ่มแห่กันมาแล้ว” ยะลูห์พูด เขาหยิบปืนออกมายิงพวกตัวเหม็นที่เดินเข้ามาใกล้รถ
    ท่ามกลางสายฝนที่เย็นเยือก ผมตัดสินใจไม่ถูกว่าจะช่วยเขาหรือทิ้งเขาไว้
    “ช่วยฉันก่อน เจ้าหนุ่ม” เขาพูดด้วยเสียงที่สิ้นหวัง ผมยืนลังเลใจอยู่ไม่กี่วินาที แต่เป็นไม่กี่วินาทีที่จะตัดสินชีวิตของคนคนนึงได้
    “ครืนๆ” เสียงรถยนต์ถูกสตาร์ทขึ้น สติของผมกลับมา ผมตัดสินใจวิ่งไปกระชากแขนของชายคนนั้นแล้วลากออกมาเต็มแรง เขาพยายามลุกขึ้นอย่างกระเสือกกระสน ผมจับเขาลุกขึ้นและพยุงตัวเขาไปที่ท้ายกระบะ ผมส่งตัวเขาขึ้นไปและผมก็กระโดดตามไปติดๆ ผมทุบกระจกด้านหลังรถเป็นสัญญาณให้คนขับออกรถ พวกตัวเหม็นเดินตามมาเป็นจำนวนมาก พวกมันกำลังจะถึงตัวรถแล้ว แต่รถก็เคลื่อนที่ออกไปได้ทัน
    “ขอบใจนะ ที่ช่วยฉันไว้” เขาขอบคุณผม
    “ไม่เป็นไรครับ”
    “ฉันชื่อว่าอนันต์ ส่วนคนที่อวบๆนั่นชื่อสมบัติ จะเรียกเขาว่าลุงบัติก็ได้นะ เขาเป็นคนใจดี” เขาแนะนำตัวกับผม
    “ผมเอกครับ ส่วนเด็กคนนั้นชื่อยะลูห์” ผมแนะนำตัวสั้นๆ
    “ที่อยู่ของพวกคุณอยู่แถวไหนเหรอครับ”
    “ไว้ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองแหละเจ้าหนุ่ม”
    ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะพาผมและยะลูห์ไปที่ไหน แต่ดูแล้วพวกเขาคงไม่โกหกพวกเราหรอก คงจะเป็นอย่างนั้น
    ผมรู้สึกขอบคุณยะลูห์ สัญชาติญาณของเขาช่วยชีวิตผมมา 2 ครั้งแล้ว ถ้าไม่มีเขาผมก็อาจจะเป็นพวกคนที่เดินเร่ร่อนบนถนนคอยกินซากศพเท่านั้น
    สายฝนโปรยปรายเต็มใบหน้าผม ผมแหงนมองขึ้นไปบนฟ้า นี่ก็ผ่านเดือนมิถุนามาซักพักแล้ว หน้าฝนกำลังจะมาเยือน แผนเสื้อกันหนาวผสมน้ำส้มสายชูอาจจะใช้ไม่ได้ไปซักพักใหญ่ล่ะนะ

    จบตอนที่ 3
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย boomslan03 : 27th October 2013 เมื่อ 20:02
    อ่านเรื่อง Last Friday : ศุกร์สุดท้าย คลิกที่นี่ >>> Last Friday

  17. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  18. #13
    My name is 'Condit'
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    511
    กล่าวขอบคุณ
    1,358
    ได้รับคำขอบคุณ: 563
    File 4 : Trust ?

    ฝนที่กำลังกระหน่ำค่อยๆ ซาลง แต่ยังมีฝนตกปรอยๆ อยู่บ้าง นิ้วมือของผมเหี่ยวย่นเพราะเปียกน้ำนานเกินไป ผมค่อยๆ บีบนวดนิ้วมือให้อาการชาบรรเทาลง ดูเหมือนว่าเราจะออกห่างจากเมืองมาไกลพอสมควร
    ‘เอี้ยดดด’ รถหยุดลงอย่างกะทันหัน
    “เกิดอะไรขึ้น จอดรถทำไม” ผมตะโกนถาม
    “ลองลงไปถามเขาดูสิ” อนันต์พูดพร้อมยิ้มให้ผม
    ‘เขาเป็นพวกไม้ป่ารึป่าวนะ’ ผมคิดในใจ พอนึกถึงเรื่องสยดสยองอย่างไม้ป่าผมก็โดดโหยงออกจากกระบะรถอย่างไว
    อาการชาที่มือกถูกทดแทนด้วยอาการขนลุกซู่
    ผมเดินไปไปที่ข้างประตูและถามว่าเกิดอะไรขึ้น
    “จอดทำไมเนี่ย เดี๋ยวไอพวกตัวเหม็นก็ตามมาทันหรอก”
    ยะลูห์ทำหน้านิ่ง เขาเม้มปากเหมือนมีอะไรกังวลอยู่ เหงื่อของเขาเริ่มผุดออกจากหน้าผาก ผมมองไปที่ข้างหลังของเขาก็เห็นชายอ้วนถือปืนสั้นจ่อหัวของยะลูห์อยู่
    ‘คลิก’ เหมือนมีเหล็กแข็งๆมากระแทกที่หัวผมเบาๆ แต่มันก็ทำให้หน้าผมซีดไปทันที
    “หมอบลงไป ไอ้หนุ่ม” เสียงของชายที่ผมคิดว่าเป็นมิตรดังขึ้นข้างหลังผม เขาคืออนันต์ คนที่ผมช่วยมาเมื่อไม่ชั่วอึดใจนี้เอง
    ผมนอนหมอบลงไปกับพื้น แล้วเหลือบตาไปมองที่ประตู อนันต์กระชากยะลูห์ลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว
    “ฉันไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่มันจำเป็น” อนันต์กล่าว
    “ไม่นึกว่าพวกแกจะทำแบบนี้เลยนะ” ผมบอก
    “โลกเมื่อก่อนกับตอนนี้น่ะ มันคนละอย่างกันว่ะไอ้หนุ่ม” อนันต์ขึ้นรถและยิ้มทิ้งท้ายให้ผมเหมือนเยาะเย้ยพวกผม ชายอ้วนเพื่อนของเขาออกรถอย่างรวดเร็วทันที สเก็ดโคลนจากล้อรถกระเด็นอัดหน้าพวกเราจนเลอะเทอะไปหมด
    “ควxเอ้ย” ยะลูห์ตะโกนด่าตามหลังไปเพราะฉุนขาด
    “ใจเย็น ยะลูห์” ผมพยายามจะทำให้เขาใจเย็นลง
    เขาหยิบก้อนหินปาอัดลงไปบนถนนเพื่อระบายความโมโห
    มันน่าใจหายมาก นี่หรือสัตว์สังคมอย่างมนุษย์ มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้เลย สิ่งที่ผมคิดไว้แรกๆ เลยคือการหาผู้รอดชีวิตและรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่สองคนนั้น ทำให้ความคิดนี้พังทลายลงไปเลย
    “เวรแท้ๆ” ผมกุมขมับ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้พวกเราไม่***จะไว้ใจคนแปลกหน้า ดูแล้วยะลูห์คงจะรู้สึกเหมือนกันกับผม
    “เดินตามถนนไปเรื่อยๆ ก่อนเถอะ” ผมพูด พวกเราเดินก้นหน้าก้มตากันต่อไปเพราะรู้สึกท้อแท้
    .
    .
    .
    พวกเราเดินมาได้ซักพักใหญ่ ตอนนี้ผมยังไม่เห็นเมืองหรือบ้านซักหลังที่จะพอให้ซุกหัวนอนได้ มีแต่ถนนใหญ่สุดลูกหูลูกตากับป่าไม้เต็มสองข้างทาง ทันใดนั้นสมองของผมก็ชวนให้คิดว่าน่าจะหยุดพักได้แล้ว
    “เฮ้ ชั้นว่าเราควรจะพักนะ” ผมทัก
    “ป่าตอนกลางคืนอันตรายนะครับ อย่าเลยดีกว่า” เขาพูด
    “ใครว่าล่ะ เราจะไปนอนบนต้นไม้ต่างหาก” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่ต้นขนุนต้นใหญ่
    “จะดีเหรอครับ ?” ยะลูห์ท้วง
    “เออว่ะ เดี๋ยวเจอผีขนุนจะทำยังไง ฮ่าๆๆ”
    “ถ้าผมเจอผีขนุนผมจะวิ่งใส่นะครับลูกพี่”
    ผมนึกซักพักแล้วก็เข้าใจว่า ผีขนุนนั้นหมายถึงอะไร (คนสมัยก่อนเรียกผู้หญิงขายตัวว่าผีขนุน)
    “แหม่ๆ” ผมทำหน้าเจ้าเล่ห์เหมือนรู้ความคิดของเขา
    “แล้วต้นขนุนต้นนั้นมันก็กิ่งเล็กมากด้วย นอนไม่ได้หรอกครับลูกพี่ ผมว่าไปนอนต้นมะม่วงฟากนั้นดูไหม”
    เขาชี้ไปที่ต้นมะม่วงที่อีกฟากของถนน มันไม่สูงมากแต่ก็สูงพอที่จะไม่ให้มีใครฉุดขาไปเคี้ยวตอนกลางคืน

    ยะลูห์ปีนขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว
    “ผมจองตรงนี้นะลูกพี่” เขาตะโกนลงมาจากด้านบน
    ผมแหงนหน้ามองขึ้นไป ดูเหมือนเขาจะไปอยู่เกือบๆ ยอดของต้นได้เลย
    ผมปีนขึ้นตามไปติดๆ และเลือกกิ่งที่อยู่ต่ำกว่าของเขาลงมานิดหน่อย เพราะว่ากิ่งตรงนี้แข็งแรงใช่ย่อยเลย
    ผมนอนลงไป พอแหงนมองขึ้นไปก็เห็นยะลูห์หยิบมะม่วงมาเช็ดยางกับเสื้อกันหนาวของเขา เขากัดไปที่เปลือกและถุยเปลือกทิ้ง หลังจากนั้นเขาก็กินเนื้อมะม่วงที่ดูเหมือนกำลังจะสุกอย่างเอร็ดอร่อย ผมหยิบมะม่วงที่อยู่ใกล้ๆ มากินบ้าง นั่นก็ทำให้รู้ว่าพวกเราขาดอาหารไม่ได้เลย

    ค่ำคืนนี้ผมเฝ้าดูดาว เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมหลงใหล มันทั้งมหัศจรรย์และน่าค้นหา แต่เพราะฝนตกผมจึงมองไม่เห็นดวงดาว เสียงแมลงยามค่ำคืนทำให้รู้สึกเปลี่ยวและเหงาเหลือเกิน
    มีแสงสว่างผ่านตัวผมไปอย่างรวดเร็ว ผมชะโงกหัวมอง รถยนต์คันหนึ่งวิ่งไปบนถนนอย่างรวดเร็ว แต่เหมือนพวกเขาจะมองไม่เห็นผม ผมมองตามแสงไฟของรถคันนั้นจนมันลับตาหายไป แล้วก็นอนหลับไปเพราะความเหนื่อย
    .
    .
    .
    “แฮ่ โฮกก”
    ผมตื่นขึ้นมาจากการพักผ่อน แสงอาทิตย์สีทองแยงเข้าไปในดวงตาของผม ผมมึนหัวนิดๆ เพราะสูดคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต้นไม้พ่นออกมาตอนกลางคืน
    “แฮ่” ผมค่อยๆ ปรับสภาพตาทีละนิด เมื่อมองไปที่ใต้ต้นมะม่วงก็เจอแจ็คพ็อตชิ้นโตที่ไม่อยากพบ พวกตัวเหม็น 4 ตัวอยู่ข้างล่างนั่น พวกมันช้าก็จริงแต่ไม่ควรประมาท ผมว่าเราน่าจะกระโดดแล้วรีบเผ่นออกไปจะดีกว่า
    “อืมมมมมม...” ทันใดนั้น ยะลูห์ก็ค่อยๆ ตื่นขึ้น เขาค่อยๆ ขยับตัวยืดเส้นยืดสาย แต่เขากลับเสียหลักและพลัดตกลงมา
    “เห้ย” ผมยื่นมือสุดแขนไปคว้าตัวเขาได้ทัน แต่ตัวเขาหนักมากจึงทำให้ผมเสียหลักพุ่งดิ่งตามเขาลงไป
    “แอ๊ฟฟ” “อั่ก” หน้าของผมทิ่มลงพื้นดิน แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาสำออย
    “เห้ย ออกไป อย่าเข้ามานะเว้ย” ยะลูห์กระเสือกกระสน เพราะเขาตกลงใกล้กับพวกซอมบี้
    ผมรวบรวมแรกลุกขึ้นยืน ผมกระชากเขาออกมาจากพวกตัวเหม็น แล้วโกยแน่บทันที
    ผมวิ่งตรงไปบนถนนอย่างไร้จุดหมาย เพราะความตกใจ แต่ที่ทำให้ผมตกใจกว่าคือมีคนวิ่งแซงมาจากด้าน:hkp
    “เฮ้ยๆๆๆ อย่าแซงสิวะ” ผมพูดขณะวิ่ง
    “ชิดซ้ายผ่านตลอดครับลูกพี่”
    หลังจากที่วิ่งมาวักพักพวกเราก็หยุดเพราะความเหนื่อย
    “แฮ่ก แฮ่ก พวกมันคง แฮ่ก ตามมาไม่ทันแล้วล่ะ” ผมพูด
    “เฮอ เฮอ” ยะลูห์หอบแฮ่กไม่ต่างจากผม

    ผมก้มมองลงไปที่พื้น ผมเห็นรอยเบรกรถยนต์ ผมเดินตามรอยไปและรอยก็พุ่งดิ่งลงไปที่ป่าข้างทาง
    “นั่นรถเราหนิ” ยะลูห์พูด เขาจำได้ เพราะรถนั่นเป็นรถของพวกลุงของเขา
    รถกระบะนั่นชนกับต้นไม้ต้นใหญ่จนกระโปรงรถเละเทะ ผมค่อยๆ เดินไปดู
    อาหารของพวกเราหายไป แต่กระเป๋ากับไม้เบสบอลคู่ใจผมยังอยู่ดี ผมสะพายกระเป๋าแล้วหยิบไม้เบสบอล จากนั้นก็ไปดูที่ห้องคนขับ แต่ไม่มีใครอยู่ซักคน ที่กระจกหน้ามีรอยกระสุน 2-3 รอย
    “ดูนี่สิลูกพี่ มีรอยเลือดด้วย เหมือนจะเพิ่งแห้งไม่นานนี่เอง” ยะลูห์พูดขึ้น
    ผมสันนิษฐาน พวกเวรสองคนนั่นถูกใครซักคนยิง แล้วรถเสียหลักจึงเลี้ยวลงข้างทาง

    ว่าแต่ สองคนนั่นหายไปไหนแล้วล่ะ ???

    จบตอนที่ 4
    อ่านเรื่อง Last Friday : ศุกร์สุดท้าย คลิกที่นี่ >>> Last Friday

  19. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  20. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    ที่อยู่
    Chiangrai
    กระทู้
    223
    กล่าวขอบคุณ
    107
    ได้รับคำขอบคุณ: 41
    สุดยอดมาก ผมยิ่งเป็นแฟน re walking dead state of decay dayz โอยยย โดนใจมากกกกกกกกกก

  21. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  22. #15
    สมาชิกใหม่
    วันที่สมัคร
    Apr 2014
    กระทู้
    1
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 0
    รอติดตามต่อไปนะ

  23. #16
    My name is 'Condit'
    วันที่สมัคร
    Aug 2012
    กระทู้
    511
    กล่าวขอบคุณ
    1,358
    ได้รับคำขอบคุณ: 563
    เดี๋ยวผมจะอัพเดตหน้าของตัวละครใหม่นะครับ พอดีดูไปดูมาแล้ว หน้ามันดูเด็กเกิน 5555 ก็เลยลองวาดใหม่ จะอัพเดตพร้อมกับตอนที่ 5 นะครับ
    อ่านเรื่อง Last Friday : ศุกร์สุดท้าย คลิกที่นี่ >>> Last Friday

  24. #17
    มังกรน้อยคอยรัก
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,499
    กล่าวขอบคุณ
    689
    ได้รับคำขอบคุณ: 5,060
    แก้เรือง บันทัดด้วยนะครับ ลองอ่านผ่านๆดูแล้วปวดตาครับ
    MY CENTER ^

  25. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    ที่อยู่
    ปทุมธานี
    กระทู้
    102
    กล่าวขอบคุณ
    45
    ได้รับคำขอบคุณ: 19
    สนุกมากเลยครับ อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ เอ้ย ละสายตาไม่ลงจริงๆ
    CPU: INTEL I5-4440 3.1GHz, RAM: G.SKILL 8GB, VGA: Asus GTX 760 DrectCUII OC 20GB, HDD Seagate 1TB, PSU: AeroCool 850W Case: ZalMan Case Z12 Plus 3FAN


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top