ชอบๆ แถมมีสาระอิก
ชอบๆ แถมมีสาระอิก
< เรื่อยๆเหนื่อยก็พัก >
คิดว่า เป็นเรื่องที่อ่านเพลินๆ น่ะครับ อ่านเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่สมัยต่วยตูนพิเศษแล้ว ขอบคุณคนนำมาปล่อยมากครับ
ขอปักมุดไว้ก่อนครับเยอะโครตตต
(ขอบคุณมากๆครับ)
เพิ่มเติมเนื้อหาแล้วนะครับ
ชอบๆ เรื่องแบบนี้
ผมอยากรู้มานานละว่า พระเจ้า เป็นยังไง
ขอถาม จขกท อย่างหนึงบทความอันนี้ จขกท กระทู้เอามาจากไหนเขียนเองหรือว่าเอามาจากหนังสือ
ลงชื่อ เดวมาอ่านวันว่างๆ
Jokergame TH บ้านหลังใหญ่ ใครๆก็รู้จัก
รวบรวมมาจากหลายเว็ปครับ ลืมใส่เครดิตไปเลย
ชาวสุเมเรี่ยนมาจากดาวดวงอื่นงั้นหรอ น่าจะเป็นไปได้ เพราะ สมมุติว่าชาวโลกย้ายไปอยู่ดาวอังคาร ทุกอย่างก็เริ่มต้นใหม่หมด จริงใหม่ ยิ่งถ้าอยู่ดาวไกลๆนี่ มันเลยดูว่า
ล้าสมัย เพราะว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
ส่วนเรื่องพระเจ้า พระเจ้าไม่ได้จำเป็นต้องเป็นผู้วิเศษก็ได้ในสายตาผม แค่คนที่เริ่มรู้จักการก่อกองไฟคนแรก ก็เรียกพระเจ้าได้แล้วหละครับ
จริงๆแล้วมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเหนือกว่าทุกศาสนา หรือศาสดาครับ ศาสนาเพียงถูกสร้างมาเพื่อปกครองคนแต่ละแบบเท่านั้น
จิตเราเชื่ออะไร มันก็จะเกิดแบบนั้นจริงๆ กฎง่ายๆเลย
เสร็จแล้วๆ มารออ่านตอนต่อไปอยู่ ยาวมาก ชอบบบบบบบ
http://www.mythland.org/v3/index.php ในนี้หาอ่านเอา มีเยอะเลยนะจ๊ะ
http://www.dek-d.com/board/view/2575911/ คือให้ เครดิต ก็ดีนะครับ
ผมชอบอ่านน่ะเรื่องแบบนี้ มันน่าค้นหา ศึกษาดี ผมเป็น คนที่มีศาสนานับถือน่ะและ เชื่อมั่นด้วย แต่ผมก็ชอบวิทยาศาสตร์ เอาสอง ศาสตร์มาเปรียบเทียบกัน
A good teacher teaches his disciple, a good disciple teaches his teacher
อันที่พบที่โคลัมเบีย ที่เหมือนรูปเครื่องบินอ่า มีคนลองเอามาจำลองขึ้นมาใหม่ โดยใช้อัตราส่วนเท่าเดิม ติดเครื่องยนมอเตอร์เข้าไป บินได้เป็นเครื่องบินเลย
สมัครสมาชิกไม่ได้เหรอครับ ?
http://www.mythland.org/v3/?fromuser=zinman
ลองดูได้ไหม
55+
ส่วนตัวผมชอบอ่านนะ ให้เกิดความคิดและจิตนาการ อนึ่งหมายถึงสิ่งที่เราคิดไปเอง ไม่มีอยู่จริง
และอีกอย่าง สิ่งที่ได้ถูกผู้อื่นยืนยันว่าเป็นจริง แต่เราไม่สามารถรับรู้ว่าจริง เพียงแต่เป็นบทความหรือความรู้
สามคือการหยั่งรู้ ขจัดความขี้สงสัย ในศาสนาพุทธเรียกว่า ทิพยจักขุญาน หรือเรียกให้เข้าใจคือตาทิพย์ อดีต อนาคต สาเหตุ และ ผล
ทั้งสามอย่างนี้ ผมชอบที่ว่าคืออจินไตย คือ ฐานะที่เราไม่สามารถรู้ได้ และรู้ไปแล้วก็ไม่เกิดประโยนช์ เมื่อไม่รู้จริงก็ยังยึดติดอยู่ ด้วยความสงสัย
บทความอ่านสนุกดีครับ ถึงอย่างไรคนในกระทู้นี้ ก็จัดอยู่ในอฐานะ คือรับรู้ไม่จริง เพียงแต่อ่าน และศึกษามาเท่านั้นเอง
ความหมายคือ ต้องลองค้นพบด้วยตัวเอง และจะพบได้อย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป... 555+ ล้อเล่นครับ
สนุกดี เรื่องที่อ่าน
"ชอบหันหลังกลับทุกครั้ง.. เมื่อตอนเวลาหันหลังหนีศัตรู"
อ่านแล้ว เพลินดีครับ
พระไตรปิฎก ก็น่าจะมีเขียนเกี่ยวกะเรื่องพวกนี้นะ ไม่แน่ใจ
BE A GOOD GAMER
มีครับ พระพุทธเจ้ากล่าวถึงเรื่องมนุษย์ต่างดาว เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์
มีดาวกี่ดวง กี่ดาราจักร กี่จักรวาล เรื่องอะตอมก็มี การเอาเมล็ดข้าวสารมาหั่นเป็นชิ้นๆไปเรื่อยๆจะได้ขนาด 18 ล้านส่วน ซึ่งได้ขนาดเท่ากับอะตอมจริงๆ บลาๆๆ
มันมีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หมดครับ แต่คำในพระไตรปิฏก มันอาจจะเป็นคำอื่นแค่นั้นเอง เช่น ชมพูทวีปที่หมายถึงโลก เขาพระสุเมรุที่หมายถึงจักรวาลของเรา และก็ยังมีจักรวาลอื่น มิติอื่นอีกเป็นคณานับ พระพุทธเจ้ายังเคยบอก ว่ามีมนุษย์ที่มีอายุเป็นหมื่นๆปี
ซึ่งอาจจะเป็นโลกในจักรวาลในมิติอื่น ที่มีกฏฟิซิกซ์ไม่เหมือนกับของเรา โลกอาจจะหมุนช้า วงโคจรช้า เขาเลยมีอายุเป็นหมื่นปี อะไรแบบนี้
แต่ที่ผมจะบอกจริงๆคือ
พระพุทธเจ้าและพระธรรมของท่านยังอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตในจักรวาลทั้งปวงครับ เหนือเอเลี่ยนทั้งปวง เป็นธรรมที่มนุษย์จากดาวอื่นก็ยังต้องนับถือ เป็นกฏธรรมชาติของจักรวาล กี่ล้านปีก็ไม่เปลี่ยนแปลง คงอยู่ตลอดไป
เพราะสิ่งที่เเป็นจิตใจมันมีกันทุกเผ่าพันธ์ครับ พระพุทธเจ้าเลยอยู่เหนือมีชีวิตและอยู่เหนือจักรวาลทั้งปวง
ถึงเราจะเกิดจากการสร้างของเผ่าพันธ์อื่น พระพุทธเจ้าก็เฉยๆ ไม่ได้อะไร ก็เป็นเรื่องปกติครับ
แต่หลักจริงๆคือ ต้องการให้คนพ้นจากทุกข์ ดับทุกข์ได้ เกิดนิพพาน ครับ
ปล.ท่านอาจจะเคยเห็น หรือฟังมาเกี่ยวกับ เรื่องของเทวดาลงมาฟังธรรมของพระพุทธเจ้า ใครจะรู้ อาจเป็นคนจากดาวดวงอื่นหรือเอเลี่ยนก็ได้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย -[ MaFaKaAlex ]- : 21st October 2013 เมื่อ 23:37
เดี๋ยวจะมาอ่านนะครับ ยาวโพดๆ ขอบคุณครับ