ตอนที่ 18 เผชิญหน้ามหาบุรุษโจรสลัด[2]
ที่ห้องกัปตันเรือโจรสลัดแมรี่วิลเลี่ยม
กัปตันคิดด์กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ประจำของตน บนโต๊ะมีแผนที่วางอย่างไม่เป็นระเบียบเต็มไปหมด แต่น่าแปลกคือไม่มีขวดเหล้าอยู่ในห้องนี้เลยแม้แต่ขวดเดียวซึ่งปกติแล้วโจรสลัดจะดื่มเหล้าจัดมากโดยเฉพาะกัปตันเรือ
กัปตันคิดด์ค่อย ๆ หยิบกระดาษบนโต๊ะขึ้นมาม้วนเป็นแท่งแล้วโยนใส่ลังไม้ใกล้ ๆ จนหมด และยกลังนั้นเขาไปซ่อนอยู่หลังม่านสีแดงที่ปกปิดส่วนที่เหลือของห้องเอาไว้พอดีกับที่หนูส่งข่าวเดินเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตูซึ่งกัปตันคิดด์เองก็ไม่ได้ว่าอะไร
เด็กหนุ่มมองหน้าของกัปตันเรือด้วยความลังเลอยู่ครู่หนึ่งราวกับว่าจะต้องการเรียบเรียงคำพูดที่จะเอ่ยปากออกมา
"ว่าไง ไอ้หนู แขกของพวกเราว่ายังไงบ้าง" ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นว่าหนูส่งข่าวยังยืนนิ่งอยู่
"กำลังเก็บของมาที่เรือของเราครับ ...เอ่อ" หนูส่งข่าวลังเลที่จะพูด แต่ถ้าหากไม่บอกล่ะก็ เขาอาจจะโดนคนที่ฝากข้อความเล่นงานเอาก็ได้ ไม่ว่าทางไหนก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ "เจน.. คนที่ประดาบกับท่านเมื้อกี้ฝากมาบอกท่านว่าต้องการ เอ่อ..ค่าเสียหายที่มาโจมตีเรือลำนั้น....ครับ"
แทนที่จะแสดงอารมณ์โมโหออกมา กัปตันคิดด์เพียงแค่ยิ้มแล้วตอบหนูส่งข่าวด้วยน้ำเสียงปกติ
"โอเค เดี๋ยวนายออกไปรับพวกนั้นไปส่งห้องเก็บของที่ท้องเรือ จากนั้นก็พาขึ้นมาที่ห้องนี้ได้เลย"
"เอ๋!? กัปตันไม่โมโหหรือครับ?" หนูส่งข่าวถามด้วยความแปลกใจ
"เห็นหน้าของฉันกำลังแยกเขี้ยวอยู่หรือไง" กัปตันเรือตอบ
"แล้วจะยืนบื้ออยู่อีกนานมั้ย ไอ้คุณหนู หรือว่าจะลืมที่ฉันคนนี้สั่งไปแล้ว"
กัปตันคิดบอกพร้อมกับลุกขึ้นมาจากโต๊ะ หนูส่งข่าวเห็นแล้วจึงรีบตอบรับคำและวิ่งหนีออกไปจากห้องทันที ถึงเขาจะเป็นลูกเรือของเรือโจรสลัดลำนี้แล้วก็ตาม แต่เขาเองก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของกัปตันคิดด์อย่างเด็ดขาด ไม่จะแม้แต่คิดด้วยซ้ำ
หลังจากที่พวกเจนเก็บสัมภาระของตนเสร็จแล้วก็พากันออกมาที่ดาดฟ้าเรืออีกครั้ง ในตอนนี้เจนอยู่ในชุดสีแดงครบเครื่องจึงทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมองออกว่าเธอเป็นผู้หญิงเพราะตรงนี้มีแต่เอไอโจรสลัด ถึงอย่างนั้นก็ตามคนที่เจนจะต้องกังวลก็มีเพียงแค่หนูส่งข่าวคนเดียวเท่านั้น
พวกลูกเรือโจรสลัดในตอนนี้กำลังขนสัมภาระจากใต้ท้องเรือโดยสารที่เจนอยู่กลับไปยังเรือโจรสลัด ไม่ว่าจะเป็นเสบียงอาหารหรือของมีค่าที่ลูกเรือทิ้งเอาไว้
ถึงเจนจะรู้สึกไม่ชอบใจนักที่คนพวกนี้จะปล้นข้าวของต่อหน้าต่อตา แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้เพราะยังต้องอาศัยเรือของคนเหล่านี้ไปถึงจุดหมายอยู่ และกัปตันคิดด์ที่มีความแข็งแกร่งเกินกว่าที่เธอจะสู้ด้วยได้ในตอนนี้
รออยู่ไม่นานหนูส่งข่าวก็มารับพวกเจนไปยังที่พักที่จัดให้พวกเธอ
"มีที่ว่างเป็นห้องเก็บของใต้ท้องเรือ นั่นดีที่สุดแล้วในตอนนี้ หวังว่าพวกนายคงจะพออยู่กันได้นะ" หนูส่งข่าวบอกขณะก้าวข้ามลงมาบนเรือโจรสลัด
ทั้งสามคนไม่ตอบเพราะถึงทักท้วงไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา ระหว่างทางเดินลงไปใต้ท้องเรือ เจนมองเห็นสถานที่ ๆ พวกลูกเรือโจรสลัดนอนกัน ซึ่งเป็นเพียงแค่เปลผ้าเท่านั้น รอบ ๆ ก็เป็นทั้งที่เก็บเสบียงและช่องปืนใหญ่ซึ่งส่งกลิ่นอับออกมาจนเธอแทบทนไม่ได้
"ว่าแต่ตกลงนายขึ้นมาอยู่บนเรือลำนี้ได้ยังไงกัน ตอนอยู่บนเกาะไทริสนายก็ไม่ได้ขึ้นมาบนเรือกับพวกเรานี่นา เห็นว่านายจะไปทำภารกิจพิเศษอะไรก็ไม่รู้...ว่าแต่มันมีด้วยหรือ ภารกิจพิเศษบนเกาะเริ่มต้นเนี่ย" โจถามตอนที่เขากำลังเดินตามหนูส่งข่าว เด็กหนุ่มหันมามองก่อนที่จะตอบคำ
"ความจริงมันก็ไม่ใช่ภารกิจของระบบอะไรหรอก ฉันแค่กำหนดขึ้นมาเองไม่ได้เกี่ยวกับเกม ประมาณว่าสิ่งที่ฉันต้องทำน่ะ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นพวกนายคงต้องจ่ายให้ฉันก่อนนะถึงจะได้รู้" หนูส่งข่าวพูดและใช้นิ้วถูกัน โจที่ตั้งใจจะถามต่อต้องเงียบปากลงโดยอัตโนมัติ
เมื่อมาถึงที่จุดหมายก็พบว่าห้องที่จะกลายเป็นห้องพักของพวกเจนนั้นดูดีมากเมื่อเทียบกับพวกลูกเรือคนอื่น ๆ มีเตียงยาววางอยู่ถึงห้าตัว ถึงจะเป็นแค่เตียงไม้และมีผ้าปูรองเท่านั้นก็ตามแต่ก็ถือว่าดูสบายกว่านอนพื้น
"วางสัมภาระเอาไว้ที่นี่ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครขโมย" หนูส่งข่าวพูด "กัปตันอยากจะเจอพวกนายหน่อยนะ ฉันรออยู่ข้างนอกนะ"
พูดจบเจ้าตัวก็ปิดประตูห้องลง โจกับแจ็คนั้นจับจองเตียงสองชั้นที่อยู่ตรงริมห้อง ส่วนเจนก็วางสัมภาระของเธอเอาไว้ที่เตียงใกล้ ๆ
"ทำไมถึงกัปตันคิดด์อยากจะเจอพวกเราด้วย ถ้าหากเกิดกว่าเป็นกับดักขึ้นมาจะทำยังไงดี" แจ็คพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกและเดินไปเดินมาด้วยความกังวล เจนรีบคว้าตัวเพื่อนของตนให้หยุดเดินแล้วดันให้เขานั่งลงบนเตียง
"ไม่หรอกน่า ถ้าหากหมอนั่นจะทำอย่างนั้นจริงก็คงทำไปนานแล้ว นายเลิกกังวลซักทีเถอะ ถ้าหากนายไม่อยากไปล่ะก็ ฉันไปคนเดียวก็ได้"
"โชคดีนะเจน เดี๋ยวฉันจะอยู่กับแจ็คเป็นเพื่อนเอง" โจพูดขึ้นมาอย่างทันท่วงที เด็กสาวหันมาจ้องเขม็งประมาณว่าจะคิดบัญชีทีหลังและเดินออกจากห้องไป
เจนพบกับหนูส่งข่าวอยู่ด้านนอกห้อง เธอพยักหน้าให้เด็กหนุ่มแล้วทั้งคู่ก็ออกเดินขึ้นไปยังบนดาดฟ้าเรือโดยมีคิทซึเนะยังคงตามเจนไม่ห่าง
"ฉันได้ยินว่านายบอกว่าตัวเองยังไม่ได้ทำภารกิจเปลี่ยนยศ หมายความว่ายังไงงั้นหรือ" เจนถามขึ้น หนูส่งข่าวหันหลังกลับมามองก่อนจะเดินขึ้นบันไดมายังดาดฟ้าเรืออีกครั้ง
"ก็หลังจากที่เก็บเลเวลไปได้จนครบหนึ่งร้อยแล้วก็จะสามารถเปลี่ยนยศได้แต่ต้องไปขอภารกิจที่อาคารระบบไง
หมายความว่านายมีเลเวลเต็มหนึ่งร้อยแล้วงั้นหรือ แต่นายออกมาจากเกาะเริ่มต้นทีหลังไม่ใช่หรือไง เจนถามด้วยความสงสัย
ฉันเองก็นั่งเรือออกมาจากเกาะเริ่มต้นต่อจากพวกเธอนั่นแหละ แต่เรือของฉันโดนเรือโจรสลัดปล้นเข้า ตอนแรกฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน แต่พอมาเจอกัปตันคิดด์ ฉันก็เลยมีความคิดอยากจะติดตามเขาไปด้วยก็เลยขอเป็นลูกเรือ อาจจะไม่ตลอดไปแต่ก็น่าจะคุ้มที่จะเสียเวลาอยู่กับเขา แล้วก็ดูสิว่าตอนนี้ฉันเป็นยังไง แล้วเธอจะตกใจว่าในท้องทะเลมีมอนสเตอร์ระดับสูง ๆ อยู่มากแค่ไหน" หนูส่งข่าวเล่า
"แล้วไงต่อ นายขอเป็นลูกเรือ แล้วเขาก็รับนายเลยงั้นหรือ มันจะง่ายเกินไปหน่อยหรือเปล่า"
"ก็ไม่หรอก เขาบอกให้ฉันหาทางพิสูจน์ว่าตัวเองมีค่าพอที่จะเป็นลูกเรือของเขา ฉันก็เลยเอาของที่ล้วงกระเป๋าพวกผู้เล่นคนอื่น ๆ บนเรือที่ฉันอยู่ออกมาให้กัปตันดู" เด็กหนุ่มพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เจนตอนนี้กำลังเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"นี่! นายล้วงกระเป๋าผู้เล่นคนอื่นเนี่ยนะ นายทำได้ยังไงกัน จะล้วงกระเป๋าได้ต้องเป็นอาชีพที่เกี่ยวกับโจรไม่ใช่หรือ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ออกจากเกาะเริ่มต้นเลยแต่มีอาชีพแล้วเนี่ยนะ ฉันเคยฟังมาจากโจว่านายเป็นพวกนักข่าวรวบรวมข่าวสารไม่ใช่หรอ" เจนถาม
"แล้วเธอจะตกใจว่าพวกโจรน่ะแลกเปลี่ยนข่าวสารได้ไวกว่าพวกสายสืบที่ขายข่าวสารอย่างกิลด์ปีกพิราบซะอีก เพราะโจรไม่เกี่ยงว่าจะเป็นผู้เล่นหรือเอไอ ทุกคนต่างแลกเปลี่ยนข่าวสารกันทั้งนั้นด้วยราคาที่เหมาะสม ต่างจากกิลด์นั้นที่ได้ข่าวมาจากผู้เล่นของกิลด์เท่านั้นและทุกคนก็มีอาชีพเป็นพวกนักสืบ นายพรานหรือนักฆ่าเท่านั้น ไม่มีที่สำหรับพวกอาชีพโจรอย่างฉัน อ้อ ส่วนเรืองอาชีพที่ฉันมาได้ยังไง ถ้าหากนายอยากจะรู้ก็คงต้องจ่ายมาก่อนนะ" เจนไม่ถามต่อ เธอได้เรียนรู้แล้วว่าเพื่อนใหม่คนนี้มีนิสัยที่เหมาะจะเป็นพ่อค้ามากกว่าโจรซะอีก
"ถ้านายบอกว่ากิลด์ปีกพิราบนั่นเป็นกิลด์ที่ให้บริการข่าวสารในเกมจริง แล้วทำไมกิลด์นั้นถึงไม่ซื้อข่าวสารจากพวกโจรล่ะ" เด็กสาวถามก่อนที่พวกเธอจะเข้าไปในห้องกัปตันพอดี
หนูส่งข่าวหันมามองก่อนที่จะหันพิงราวบันไดที่ขึ้นไปสู่คันบังคับหางเสือเรือแล้วพูดขึ้น
"เรื่องมันก็เกิดมานานแล้วนะ ฉันเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรอก แต่ในกระดานข่าวสารของพวกผู้เล่นโจรที่ไม่ได้อยู่ในเว็บไซด์เดียวกันกับของเกมเล่าเรื่องนี้เอาไว้อย่างระเอียดเลยล่ะ"
จากนั้นหนูส่งข่าวก็เล่าเรื่องราวของกิลด์ปีกพิราบที่ขายข้อมูลในราคาที่แพงมาก และยังไม่มีความเป็นกลางในฐานะสื่ออีกด้วย โดยรับเงินในการปกปิดข่าวสารที่ควรจะเปิดเผย อย่างเช่นข้อมูลของกิลด์พิฆาตราชาเป็นต้น ดังนั้นกิลด์ส่วนใหญ่จึงไม่ได้ใช้บริการข่าวสารของกิลด์ปีกพิราบนี้ แต่ไปดูข่าวที่อยู่บนกระดานข่าวสารของเว็บไซด์เกมถึงแม้บางครั้งจะมีข่าวที่ไม่ใช่เรืองจริงบ้าง หรือบางครั้งก็ไม่มีข่าวสารครบถ้วนแต่ก็เป็นข่าวสารที่ผู้เล่นเอามาแบ่งปันกันทำให้พอไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนกิลด์ใหญ่ ๆ จะจัดตั้งหน่วยสืบข่าวของกิลด์ตัวเองขึ้นมาโดยเฉพาะแต่ก็ทำได้เพียงไม่กี่กิลด์เท่านั้นเพราะสิ้นเปลืองงบประมาณมาก
เขาเล่าต่ออีกว่าครั้งหนึ่งกิลด์ปีกพิราบเคยขอซื้อข่าวสารจำนวนมากจากกลุ่มโจรใต้ดินซึ่งเป็นเพียงโจรธรรมดากลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่กิลด์ปีกพิราบกลับไม่ยอมจ่ายค่าข่าวสาร ครั้นพอกลุ่มโจรกระจายข่าวสารเรื่องนี้ไป กิลด์ปีกพิราบก็โต้กลับมาว่ากลุ่มโจรใส่ร้ายกิลด์ของตน ประกาศว่าข่าวสารทุกอย่างนั้นทางกิลด์เป็นคนหามาเองและกระจายข่าวสารต่าง ๆ ของเหล่าโจรเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นที่กบดาน ยศ ระดับ ทักษะจนหมดเปลือก มิหน้ำซ้ำยังตั้งค่าหัวพวกโจรเอาไว้สูงลิบจนพวกเขาหนีออกจากเมืองแทบไม่ทัน
"พวกโจรทำใจเอาไว้แล้วล่ะว่าจะต้องมีเรื่องแอบอ้างวาเป็นคนหามาเอง แต่พวกโจรไม่พอใจเรื่องค่าหัวและเรื่องที่โดนเบี้ยวเงินนี่แหละ ทำให้โจรทุกคนในโลก ดิ โอเพ่นเวิลด์ ออนไลน์แห่งนี้ไม่ถูกกับกิลด์ปีกพิราบซักเท่าไหร่"
"แล้วกลุ่มโจรพวกนั้นล่ะ พวกนั้นเลิกเล่นเกมนี้ไปแล้วงั้นหรือ" เจนถามเมื่อหนูส่งข่าวหันหลังจะไปเปิดประตูห้องกัปตัน
เด็กหนุ่มใช้มือจับที่กลอนประตู เขาหันหลังมาตอบก่อนจะเปิดประตูเข้าไป "กลุ่มโจรพวกนั้นมีทั้งเอไอและผู้เล่น หลังจากเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาแยกย้ายกันไปจนไม่มีใครได้ข่าวอีก แต่มีอยู่สองคนที่ฉันพอรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน...คนแรกเป็นผู้เล่น ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าของกิลด์อันดับหนึ่งของเกม ส่วนอีกคนเป็นเอไอ ว่ากันว่าเป็นโจรสลัดชื่อดังอยู่ในท้องทะเล บางทีนายอาจจะเคยเจอกับเขาแล้วก็ได้นะ"
ภายในห้องกัปตันเป็นเหมือนกับห้องที่เจนเคยเห็นในภาพยนตร์ เว้นแต่ที่ด้านหนึ่งของห้องมีม่านสีแดงปิดเอาไว้ซึ่งเจนคิดว่าคงเป็นห้องนอนของกัปตันคิดด์อย่างแน่นอน ส่วนตัวกัปตันนั้นกำลังนั่งยกเท้าวางเอาไว้บนโต๊ะขณะที่กำลังฮัมเพลงอย่างสบายใจ
"ยินดีต้อนรับสู่เรือแมรี่วิลเลี่ยม ไอ้หนู ฉันอยากจะคุยกับแขกของเราเป็นการส่วนตัว ออกไปรอข้างนอกก่อน" คิดด์พูดกับหนูส่งข่าว เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เจนยืนมองหน้ากัปตันโจรสลัด ด้านหลังของเธอมีคิทซึเนะที่ใช้ดวงตาสีเหลืองจ้องอยู่ไม่วางตา
"หืม จิ้งจอกงั้นหรือ.. ถึงจะไม่ใช่จิ้งจอกธรรมดาแต่ก็เหมาะกับสาวน้อยแบบเธอดีนะ" เจนเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้ยินคิดด์เรียกเธอว่าเป็นผู้หญิง เจนคิดว่าเขาคงรู้ได้เพราะเธอยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยก็ตาม และถึงเขาจะไม่ได้เป็นผู้เล่นจึงไม่มีผลอะไรมากนักหากเขารู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง
"ไม่ต้องทำหน้าตาเครียดขนาดนั้นหรอก" คิดด์พูด เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
"นายรู้ได้ยังไง" เด็กสาวถามเสียงห้วน
"ไม่ต้องเป็นห่วงไป ฉันไม่คิดจะไปบอกคนอื่นหรอก อีกอย่าง ตอนนี้เธอแต่งตัวได้ดีอยู่แล้ว คนทั่วไปถ้าไม่คอยจับผิดก็ดูไม่ออกหรอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ส่วนที่ถามว่าฉันรู้ได้ยังไงนั้น ตัวเธอเองน่าจะรู้ตัวดีนะว่าเล่นแต่งตัวอย่างนั้นออกไปสู้ ขยับนิดขยับหน่อยฉันก็รู้แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิง แปลกที่ไอ้หนูนั่นยังไม่รู้" กัปตันคิดด์กล่าว ถึงอย่างนั้นเจนก็ยังไม่ไว้ใจชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ดี
เจนนั่งลงบนเก้าอี้ที่คิดด์ลากมาให้ โดยเขาไม่ลืมที่ลากมาสองตัวเผื่อคิทซึเนะอีกด้วยหลังจากที่แน่ใจว่าทั้งคู่นั่งสบายแล้ว กัปตันคิดด์จึงนั่งลงบนเก้าอี้ของตนแล้วพูดต่อ
"ฉันอยากจะคุยกับเธอเรื่องดาบที่เธอเป็นเจ้าของอยู่ เธอรู้ใช่มั้ยว่าดาบเล่มนั้นมันไม่ใช่ดาบธรรมดา ไม่ใช่ดาบที่นักผจญภัยอย่างพวกเธอควรจะถือครอง" กัปตันคิดด์พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดต่างจากเดิมที่ฟังดูเหลาะแหละ ไม่เอาจริงเอาจัง
"พวกนักผจญภัยมีความสามารถที่จะตรวจสอบดูรายระเอียดของสิ่งต่าง ๆ ได้ เธอคงจะรู้สินะว่าดาบเล่มนั้นมีพลังอะไรและผนึกตัวอะไรเอาไว้ขางใน" ฟังที่บุรุษตรงหน้าพูดเจนจึงทราบได้ทันทีว่าพวกเอไอนั้นไม่สามารถตรวจสอบสิ่งของหรือมีทักษะตรวจสอบมอนสเตอร์อย่างที่เหล่าผู้เล่นที่เขาเรียกว่านักผจญภัย
เมื่อเจนตรวจสอบดาบของเธอดูอีกครั้งก็พบทักษะหนึ่งที่เจนไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่นักในตอนแรกเพราะเธอยังใช้ไม่ได้ แต่ในตอนนี้เธอเข้าใจดีเลยว่านี่คือทักษะที่เอาไว้อัญเชิญสิ่งที่ถูกปิดผนึกอยู่ในดาบออกมา 'ยามาตะ โนะ โอโรจิ'
"อย่าไปฟังที่เจ้าคนตัวเหม็นคนนี้พูดนะคะพี่เจน ท่านบอกบอกเสมอว่าพลังขึ้นอยู่กับคน จะเกิดเรื่องดีหรือร้าย สิ่งที่ผิดไม่ใช่พลัง แต่เป็นคนที่จะควบคุมมันได้หรือเปล่าต่างหาก" คิทซึเนะพูดเสียงดังจนเจนและกัปตันคิดด์ต้องหันมามองตาม
"หึ...ดูท่ามุมมองของฉันกับยัยหนูจะแตกต่างกันนะ แล้วตกลงเธอรู้มั้ยว่าดาบเล่มนั้นผนึกตัวอะไรเอาไว้" คิดด์ถามอีกครั้ง เจนไม่เห็นว่าเหตุใดจะต้องปกปิดจึงตอบไปอย่างง่ายดาย
"นี่คือดาบคุซานางิ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าดาบเล่มนี้ผนึกตัวอะไรไว้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเรียกยามาตะ โนะ โอโรจิ ออกมาได้"
ไม่มีเสียงตอบจากบุรุษโจรสลัด เขามองนิ่งไปที่เด็กสาวไม่ละสายตาเหมือนกับว่าเจนพูดบางอย่างที่ผิดพลาดออกมา
"ยามาตะ โนะ โอโรจิ...พูดจริงงั้นหรือ"
"จริงสิ ทำไมต้องโกหกด้วยล่ะ ฉันพอรู้มาบ้างว่ามันคือตัวอะไร แต่ไม่รู้ว่าในเกม...ในโลกแห่งนี้มันทำอะไรได้บ้าง" เจนเกือบหลุดปากออกไป เธอนึกถึงคำพูดของหมิงเต๋อขึ้นมาได้ เกม ดิ โอเพ่นเวิลด์ ออนไลน์ สำหรับเอไอทุกคนมันคือโลกของพวกเขาจริง ๆ ไม่ใช่แค่เกมสำหรับพวกผู้เล่นอย่างเจนและพวกโจ ดังนั้นเธอจึงให้ความเคารพว่าที่นี่เป็นโลกจริง ๆ ไม่ใช่เกมเช่นเดียวกัน
"ก็พอรู้มาบ้าง ฉันไม่เคยเห็นตัวจริงหรอกนะ เคยฟังแค่ตำนานตอนที่ฉันไปเทียบท่าที่ทวีปอัลเทเชียเมื่อหลายปีก่อน ตั้งแต่สมัยที่นักผจญภัยยังไม่มาที่นี่เลยด้วยซ้ำ" ประโยคหลังที่คิดด์พูดทำให้เจนสงสัยจนเขาสังเกตได้จากสีหน้าของเธอจึงพูดเสริม
"เธอไม่รู้เรื่องนี้หรอกหรือ จริงสิ...พวกนักผจญภัยอย่างเธอส่วนใหญ่เพิ่งปรากฏตัวบนทวีปทั้งสามเมื่อปีที่แล้วเองแต่ตอนนี้มีอิทธิพลยิ่งกว่าคนที่อยู่มาก่อนอย่างพวกเจ้าเมืองซะอีก"
"เรื่องนั้นฉันก็รู้มาบ้าง แต่นั่นก็หมายความว่าดาบของฉันมีอยู่มาก่อนหน้าที่พวกคนอย่างฉันเข้ามาที่โลกแห่งนี้งั้นหรือ.... แล้วทำไมฉันถึงได้ดาบเล่มนี้มาจากอาจารย์หมิงได้ล่ะ" เด็กสาวพูดกับตัวเอง เมื่อเธอรู้สึกถึงสายตาของกัปตันคิดด์กำลังมองเธอด้วยความสงสัยจึงจ้องกลับไปเป็นนัยน์ให้เล่าต่อ
"พูดถึงยามาตะ โนะ โอโรจิ ฉันเคยได้ยินมาว่าเป็นอสรพิษแปดหัวขนาดยักษ์ มีลำตัวยาวจนสามารถรัดภูเขาขนาดใหญ่ได้แปดรอบ แต่ละหัวเป็นตัวแทนของพลังแต่ละด้านของธรรมชาติเช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ ความมืด แสงสว่าง สายฟ้าและพิษที่แสดงถึงความเป็นอสรพิษของตัวมันเอง ว่ากันว่าตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ มันสร้างหายนะให้แก่โลกไว้มากมายจนเหล่าเทพต้องผนึกมันเอาไว้ลงในดาบซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นดาบที่อยู่กับเธอในตอนนี้ไง" กัปตันคิดด์กล่าว เขาเว้นช่วงแล้วเสริมขึ้นมาอีก
"ฉันขอแนะนำให้เธอเอาดาบเล่มนั้นไปคืนใครก็ตามที่ให้เธอมาหรือทิ้งมันไปซะ อย่าเก็บเอาไว้ใกล้มือเธอหรือใครก็ตามจะเป็นดีที่สุด เพราะถ้าหากอสรพิษแปดหัวหลุดออกมาจริง ๆ ล่ะก็ ต่อให้มีตัวฉันซักร้อยคนก็ยังหยุดมันไม่ไหว"
เจนได้ฟังถึงกับทำให้เธอต้องครุ่นคิดไปชั่วขณะ แต่เธอก็ยิ้มออกมาได้ในที่สุดพร้อมกับลูบหัวคิทซึเนะที่จับแขนของเจนเอาไว้
"อาจจะจริงอย่างที่นายพูด แต่ฉันก็เชื่อที่คิทซึเนะบอกเช่นกัน เวลาจะตัดสินว่าฉันจะสามารถคุมพลังของดาบเล่มนี้ได้หรือไม่เอง" เจนบอกแล้วหันไปมองรอบ ๆ ห้องก่อนจะไปหยุดที่ผ้าม่านสีแดง
"แล้วเรื่องค่าเสียหาย..-"
"รู้แล้วน่า... ตามฉันมา" กัปตันคิดพูดเหมือนไม่ค่อยเต็มใจนักแต่ก็ลุกขึ้นและเดินนำเจนไป เขาเลิกผ้าม่านออกเผยให้เห็นสิ่งที่ทำให้เด็กสาวต้องอ้าปากค้างด้วยความตะลึง
ภูเขาเหรียญทองกองพะเนินอยู่ตรงหน้าของเจน ยังมีดาบเล่มงามมากมายที่สุมกองรวมกันอย่างไม่เป็นระเบียบ ยังไม่รวมถึงอาวุธอื่น ๆ มากมายที่ดูมีราคาแพงไม่ต่างกันเลย อีกด้านก็เป็นชุดเกราะทองที่สวมอยู่กับหุ่นตั้งแสดงอยู่ แต่ก็มีชุดเกราะอีกมากที่ถูกวางอยู่บนพื้นเพราะมีหุ่นสวมไม่พอ มหาสมบัติที่อลังการยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่เจนพบในสุสานผีดิบ เธอมั่นใจว่าแค่ชุดเกราะไม่กี่ตัวก็มีมูลค่ามากกว่าเสาทองคำที่เจนนำไปประมูลอย่างแน่นอน
"ฉันไม่รู้ว่าจะทำให้ยังถึงจะชดเชยได้ เอาเป็นว่าเธอหยิบของไปอย่างละชิ้นสำหรับเพื่อน ๆ ของเธอก็แล้วกัน" กัปตันคิดด์บอกแล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตนโดยไม่มาเฝ้าราวกลับว่าเขาไม่กลัวว่าเจนจะหยิบของไปมากกว่าที่เขาให้
แต่เธอเองก็มีศักดิ์ศรีมากพอ เธอไม่ยอมให้โจรสลัดคนนี้มาว่าเธอเป็นหัวขโมยอย่างเด็ดขาด เจนเริ่มครุ่นคิดทันทีว่าจะหยิบอะไรไปบ้าง ในเวลาไม่นานนักเธอก็ได้ปืนพกมาหนึ่งกระบอกซึ่งเธอตั้งใจจะเอาไปให้แจ็ค มันเป็นปืนที่ปิดผนึกอยู่เลยดูไม่ค่อยมีราคาเท่าไหร่นัก ส่วนของโจเป็นปลอกแขนกำไลข้อมือทองคำที่มีรูปสายฟ้าประดับอยู่ คิดว่ามันคงเหมาะกับเพื่อนของเธอที่ใช้เวทมนตร์สายฟ้าดี ส่วนเจนนั้นหยิบแผนที่ออกมาจากลังไม้โดยสุ่มหยิบขึ้นมา ส่วนคิทซึเนะก็หยิบไปเพียงแค่เหรียญทองเหรียญเดียวเท่านั้น
เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วเธอก็นำของพวกนั้นไปวางบนโต๊ะของกัปตันคิดด์ เขามองสลับไปมาระหว่างของบนโต๊ะกับในหน้าของเด็กสาวแล้วพูดออกมา
"แค่นี้เองงั้นหรือ ฉันคิดว่าเธอจะหยิบของมีค่ายิ่งกว่านี้ซะอีก"
"ถ้านายอยากจะเสียของที่มีค่ามากกว่านี้ก็ได้นะ ฉันจะได้ไปเปลี่ยน" เจนว่า แต่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอกลับยิ้มระรื่น ไม่ได้ห้ามเธอเลยแม้แต่น้อย เด็กสาวเก็บของลงกระเป๋าด้วยความรู้สึกเสียหน้า ชายคนนี้อ่านเธอออกทะลุปรุโปร่งเลยจริง ๆ
"แล้วอีกนานมั้ยกว่าที่จะไปถึงทวีปไลเทเชีย" เจนถาม เธอพยายามเปลี่ยนเรื่อง กัปตันหนุ่มยิ้มแล้วตอบคำ
"ถ้าไม่นับเวลาที่ใช้ลำเลียงของ ฉันขอรับลองได้เลยว่าเธอจะไปถึงทวีปไลเทเชียโดยไม่รู้ตัวเลยเชียวล่ะ"
พวกโจรสลัดใช้เวลาเกือบทั้งวันในการยกข้าวของที่เหลือจากเรือโดยสารลำเก่าจนหมด พวกเขายังรื้อไม้บางส่วนที่ยังมีสภาพดีอยู่และปืนใหญ่ที่ใช้งานได้มาอีกด้วย เรียกได้ว่าการปล้นครั้งนี้ไม่มีอะไรเสียเปล่าเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเจนกลับมาที่ห้องพัก พวกโจก็เข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง เจนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พวกโจฟังไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กัปตันคิดด์รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงและเรื่องที่ยามาตะ โนะ โอโรจิอยู่ในดาบของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนหนุ่มทั้งสองนั้นจะตกใจมาก แต่ก็ถือว่าควบคุมตัวเองไม่ให้โวยวายเหมือนปกติได้ดีทีเดียว
"ให้ตายสิ ตอนแรกที่เธอได้ดาบนั่นมาฉันอิจฉาแทบตาย แต่มาตอนนี้ขอบอกเลยว่าฉันโล่งใจมากที่ไม่ได้ของระดับ S มาอย่างเธอ มีมอนสเตอร์ระดับนั้นอยู่ในดาบ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะหลุดออกมาฆ่าเธอหรือพวกเราล่ะเนี่ย" แจ็คว่า
"ไม่หรอก ฉันทำสัญญากับดาบเล่มนี้เอาไว้แล้ว อย่างที่กัปตันคิดกลัวคือถ้าหากฉันเป็นเป็นอะไร ยามาตะ โนะ โอโรจิก็จะออกมาเพื่อปกป้องฉันที่เป็นคู่สัญญา แต่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถคุมมอนสเตอร์ระดับเทพเจ้าได้หรือเปล่านี่สิ"
"เรื่องนั้นช่างไปก่อนเถอะ เอาไว้พวกเราขึ้นไปถึงทวีปไลเทเชียค่อยหาทางแก้เอาทีหลัง วันนี้ฉันเพลียเกินกว่าจะคิดอะไรได้แล้ว" โจพูดด้วยน้ำเสียงหมดแรง ทำให้เจนเองก็รู้สึกเหนื่อยเช่นกัน
สองหนุ่มเข้าไปนอนบนเตียงของตน ส่วนเจนและคิทซึเนะขึ้นมานอนเตียงเดียวกันใกล้ ๆ กับเพื่อนของเธอ ถึงเจนยังไม่ไว้ใจพวกโจรสลัดและกลัวว่าจะเข้ามาปล้นข้าวของพวกเธอกลางดึก แต่ตอนนี้ความเหนื่อยอ่อนเป็นฝ่ายมีชัย ส่งเธอและคิทซึเนะเข้าสู่นิทราไปอย่างรวดเร็ว
การเดินทางบนเรือโจรสลัดนั้นเร็วกว่าเรือโดยสารอย่างมากเลยทีเดียว เพียงแค่วันเดียวเท่านั้นหลังจากที่พวกเจนขึ้นมาบนเรือ ตอนนี้เธอเห็นแผ่นดินใหญ่ตรงหน้าแล้ว ทวีปไลเทเชีย
ท่าเรือที่กัปตันคิดด์พาพวกเจนมาเทียบท่าไม่ใช่ท่าเรือขนาดใหญ่อย่างที่พวกเธอวางแผนเอาไว้แต่แรก โดยกัปตันคนเก่งให้เหตุผลว่าเขาไม่สามารถเข้าเทียบท่าในเมืองได้เพราะเขาเป็นโจรสลัด ถ้าทำอย่างนั้นเขาก็คงถูกยิงจนเรือจมก่อนจะได้คิดหนีอย่างแน่นอน ซึ่งเจนเองก็คิดว่าสมเหตุสมผลดี
หลังจากกล่าวลากับพวกโจรสลัดแบบไม่ค่อยมีเยื่อใย ทั้งสี่คนตรงไปยังร้านอาหารประจำเมืองเป็นอย่างแรก เนื่องจากอาหารที่พวกเธอได้กินบนเรือโจรสลัดนั้นรสชาติไม่ได้ถูกปากคนธรรมดาเอาซะเลย
เมืองแห่งนี้มีบรรยากาศแบบตะวันตก มีรถม้าทำมือกำลังขนลังไม้จำนวนมากออกไปจากท่าเรือ ผู้คนที่นี่ต่างแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตกับรองเท้าหนังและทุกคนต่างพกปืนกันไม่เว้นแม้แต่แม่ค้าขายของอยู่ข้างทาง
ร้านอาหารของเมืองนี้มีเพียงอยู่ที่เดียวและมีขนาดไม่ใหญ่มากนักเพราะเป็นเมืองท่าเล็ก ๆ เท่านั้น นั่นทำให้ไม่มีทหารประจำอยู่และมีโจรอยู่ชุก ตัวร้านมีลักษณะคล้ายกับบาร์เหล้า ประตูทางเข้าบานเล็กเป็นแบบยกสูงที่สามารถเปิดได้ทั้งสองฝั่ง ด้านในมีโต๊ะไม้วางเรียงอยู่ อีกด้านเป็นบาร์เครื่องดื่ม ด้านในสุดเป็นเปียโนสีดำตัวใหญ่ซึ่งเจนคิดว่าคงจะมีเอาไว้สำหรับบรรเลงเพลงกล่อมคนที่เข้ามากินอาหารที่นี่ในเวลากลางคืน
ทั้งสี่คนนั่งลงบนโต๊ะ ไม่นานนักก็มีบริกรเข้ามาถามว่าจะสั่งอาหารหรือเปล่า แต่ที่นี่มีเมนูเพียงแค่เมนูเดียวนั่นก็คือซุปและขนมปัง ตอนนี้พวกเจนหิวจนไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนั้นมากนักเลยพนักหน้ารับทันที บริกรคนนั้นเดินจากไปและยกชามซุปกับขนมปังมาให้พวกเธอคนละสามก้อนก่อนจะเก็บเงินค่าอาหารแล้วจากไป
"ว่าแต่ตอนที่เธอเข้าไปหากัปตันคิดด์ได้ของอะไรมางั้นหรือ" โจถามขึ้นพร้อมกับกัดขนมปังคำใหญ่
"จริงด้วย ฉันเกือบลืมไปแหนะ เอานี่ ของพวกนาย" เจนว่าแล้วหยิบปืนกับปลอกแขนกำไลข้อมือออกมาวางเอาไว้บนโต๊ะ ทั้งสองหยิบของของตัวเองไปทันที
ของโจนั้นเป็นปลอกแขนกำไลข้อมือทองคำที่ปิดยาวตั้งแต้ข้อมือจนเกือบถึงศอก เมื่อเขาลองใส่ดูแล้วกลับดูไม่เทอะทะขยับลำบากอย่างที่เจนคิด
"ใส่แล้วรู้สึกสบายกว่าที่คิดแฮะ ไหนลองดูหน่อยซิว่าเพิ่มพลังอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มพูดแล้วทำการตรวจสอบ และทันใดนั้นเขาก็ต้องตาแทบถลนเมื่อเห็นคำอธิบายที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
"หูยยย สุดยอดด!!"
"ไหน ๆ ขอฉันดูหน่อยซิ" เด็กสาวพูดแล้วเคลื่อนตัวไปด้านหลังเพื่อนของเธอ
ปลอกแขนเทพสายฟ้า [เซตชุดเทพสายฟ้า] ระดับ S
ปลอกแขนแห่งเทพสายฟ้า ว่ากันว่าจะมอบพลังหมาศาลแก่ผู้สวมใส่
- เพิ่มพลังโจมตีของเวทมนตร์สายฟ้าขึ้นสองเท่า
- ลดการเสียพลังเวทจากเวทมนตร์สายฟ้าลง 50%
*ไม่มีวันเสียหาย
*จะได้สถานะพิเศษต่อเมื่อสวมใส่ครบเซตเทพเจ้าสายฟ้า
"นี่มันของดีมากเลยนี่นา เหมือนกับมีเอาไว้ให้กับนายเลยนะเนี่ย" เจนบอก เพราะปลอกแขนนี้เสริมพลังเวทสายฟ้าโดยเฉพาะและไม่มีใครที่เหมาะกับของชิ้นนี้ไปกว่าโจอีกแล้ว
"เฮ้ เจน ปืนที่เธอให้มามันเป็นของผนึกอยู่นี่ ช่วยปลดผนึกให้หน่อยสิ" แจ็คบอกแล้วยื่นปืนให้กับเด็กสาว เจนทำการปลดผนึกแล้วลองตรวจสอบดู
ปืนกระสุนโลกันต์ ระดับ A
พลังโจมตี 500
เป็นอาวุธในตำนาน มีพลังที่สามารถสร้างกระสุนเพลิงนรกจากพลังเวทที่ว่ากันว่าทำลายได้แม้แต่เกล็ดมังกร
- สามารถใช้ทักษะ กระสุนโลกันต์ ได้
- สามารถใช้พลังเวทบรรจุลงปืนแทนกระสุนได้
"นี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ ลองดูสิ" ว่าแล้วเธอก็ส่งปืนไปให้กับแจ็ค
ตอนนี้จากปืนลูกโม่ธรรมดาที่เจนได้มาบนเรือโจรสลัด ตอนนี้กลายเป็นปืนพกลูกโม่สีแดงมีลวดลายสีทองขนาดใหญ่ จากที่เจนเห็นปืนกระบอกนี้สามารถบรรจุได้ทีละ 6 นัด แต่หัวกระสุนมีขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว ถ้าหากโดนเข้าจังๆล่ะก็มีหวังไม่ตายก็กระอักแน่ ๆ
"นี่มันเยี่ยมไปเลย ปืนแบบนี้แหละที่ฉันกำลังหาอยู่ ที่เหลือก็หาปืนดี ๆ แบบนี้มาอีกกระบอก ขอบใจมากนะเจน" แจ็คกล่าวตอบ เจนยิ้มให้แล้วก้มหน้าลงจัดการกับอาหารของเธอให้หมด
ณ ที่แห่งหนึ่งในทวีปไลเทเชีย
ชายผมยาวในชุดเกราะสีดำขนาดใหญ่กำลังอ่านข่าวที่เขาเพิ่งได้รับมาอย่างตั้งอกตั้งใจ โดยเนื้อหาข่าวนั้นระบุชื่อของกิลด์ราชาพยัคฆ์คู่และจีโอเอาไว้เยอะมาก และอีกชื่อที่ปรากฏออกมาคือผู้เล่นหน้าใหม่ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน มันหมายถึงเจนนั่นเอง
ในรายงานตรงหน้าของชายหนุ่มนั้นมีรูปของจีโอตอนที่ประกาศสงครามกับกิลด์พิฆาตราชาอยู่ ส่วนอีกรูปเป็นรูปของอามีร่าหรือที่มีฉายาว่า 'อีกา' กำลังสู้กับเจนที่ตอนนั้นสวมชุดคลุมสีขาวอยู่ ในรายงานบอกเอาไว้ว่าผู้เล่นคนนี้สามารถเอาชนะอามีร่าได้ แต่จากสายข่าวของเขานั้นกลับบอกอีกอย่างและเป็นเรื่องที่เขาไม่ชอบใจเอาซะเลย
"คุณบิชอปครับ ถึงเวลาประชุมแล้วนะครับ" ชายคนหนึ่งเดินมาบอก บิชอปพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นก่อนจะกลายเป็นแสงหายไปด้วยทักษะ
เขามาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งอยู่ในห้องสีดำห้องหนึ่ง กลางห้องมีโต๊ะยาววางอยู่พร้อมกับเก้าอี้ข้างละสองตัวตั้งอยู่ เก้าอี้แต่ละตัวมีคนจับจองอยู่แล้ว เหลือแต่เก้าอี้อยู่หนึ่งตัวที่เป็นของเขาและเก้าอี้หัวโต๊ะซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าของจะยังไม่มาถึงในที่แห่งนี้
"แหม ๆ พวกเรามาพร้อมหน้ากับอย่างนี้ไม่ได้เห็นมานานแล้วนะเนี่ย" เสียงหนึ่งดังขึ้น เจ้าของเป็นชายหนุ่มผมสั้นสีทองที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับบิชอป เขามีรูปร่างไม่ใหญ่มากนักดูแล้วไม่น่าเก่งกาจ แต่การที่เขามานั่งอยู่ตรงนี้ได้รับรองว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
"ที่พวกเราไม่ได้ประชุมอย่างนี้บ่อย ๆ นั่นก็เพราะว่ามันไม่จำเป็นต่างหาก หัดจำเอาไว้ด้วย ไวรัส" คนที่ตอบเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง เธอมีผมยาวสีน้ำตาล ใบหน้าที่ดูน่ารักราวกับตุ๊กตาพร้อมกับร่างสูงโปร่งของเธอทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่ม ๆ ได้อย่างไม่ยาก แต่ชายหนุ่มทุกคนในห้องนี้กลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นกับเธอเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะชายหนุ่มที่มีนามว่าไวรัสและบิชอป โดยไวรัสแค่หันไปยิ้มเยาะให้เท่านั้น ส่วนบิชอปแค่พยักหน้าให้เป็นการทักทายก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ของตนแล้วไม่พูดอะไร
"อะไรกันหือ ไอวี่ แค่นี้ก็ต้องทำเป็นดุใส่กันด้วย มาอยู่ที่นี่แปบเดียวก็ทำท่าหงุดหงิดขนาดนั้นเลยหรอ วัน ๆ เอาแต่ปลูกต้นไม้สงสัยคงจะเก็บกดไม่ค่อยได้ออกแรงล่ะสิท่า" ไวรัสเอ่ย ถึงน้ำเสียงจะไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แต่ใบหน้าของเขาที่ประดับด้วยรอยยิ้มยียวน นั้นทำให้อารมณ์ของเด็กสาวพลุกพล่านด้วยความโมโหยิ่งขึ้นไปอีก
"คนปากเสียอย่างแกมันน่าจะโดนสั่งสอนซะให้เข็ด วันนี้ล่ะฉันจะทำให้ปากเน่า ๆ ของแกมันใช้ไม่ได้อีกเลย!" หญิงสาวนามไอวี่ตะโกนเสียงดังแล้วลุกขึ้นชี้นิ้วไปที่ไวรัส ชายหนุ่มเองก็ไม่น้อยหน้า ใบหน้าของเขายังคงประดับด้วยรอยยิ้มที่ยิ่งดูน่ากลัวกว่าเดิม เขากระโดดขึ้นไปบนโต๊ะและชักมีดออกมาจากด้านหลังเตรียมพร้อมสู้
"เอาซี่ยัยบ้าต้นไม้! วันนี้เราจะได้รู้กันว่าใครจะมีพิษที่เหนือกว่ากันซักที!!"
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะพุ่งเข้าปะทะกัน ก็มีเสียงทุบโต๊ะดังสนั่นจนทั้งคู่ต้องหันไปมอง เป็นชายสูงวัยคนหนึ่งที่วางมือเอาไว้บนโต๊ะนั้น เขามีผมสีดำแซมด้วยผมหงอกสีขาว แสดงว่าเขามีอายุมากแล้ว บางทีอาจจะมากที่สุดในห้องนี้เลยด้วยซ้ำไป เขาอยู่ในชุดผ้าแขนยาวสีขาว กางเกงสีดำดูทะมัดทะแมง
"พวกเธอนี่อยู่เงียบ ๆ ให้เหมือนกับบิชอปไม่ได้หรือยังไง นี่ไม่ใช่ลานประลอง ถ้าหากอยากจะสู้กันก็ออกไปข้างนอกโน้น!" เสียงใหญ่ฟังดูมีอำนาจของเขาดังลั่นห้อง คู่กรณีทั้งสองคนต่างยอมถอยคนละก้าวและกลับไปนั่งที่เดิมโดยไม่ปริปากออกมาอีก
"ขอบคุณมากครับท่านหยาง" บิชอปเอ่ยขึ้น ชายสูงวัยตอบเพียงพยักหน้าให้เท่านั้น
ชั่วขณะหนึ่งที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงเสียงกะเทาะจากคบเพลิงที่อยู่บนผนังเท่านั้นที่ดังท่ามกลางความเงียบงันนี้ แล้วทันใดนั้นเองบิชอปและหยางก็ลุกขึ้นทำให้อีกสองคนต้องลุกขึ้นตามเช่นกัน และเขาก็รู้ว่าทำไม
"นั่งลงได้แล้ว... พวกเราจะได้เริ่มประชุมกันซักที" เสียงเย็นราบเรียบดั่งทะเลน้ำแข็งดังขึ้น ที่หัวโต๊ะในเวลานี้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ ทั้ง ๆ ที่ห้องนี้มีแต่ยอดฝีมืออยู่แต่กลับจับไม่ได้เลยว่าเขามานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเพียงหยางและบิชอปเท่านั้นที่พอรู้ตัวก่อน แต่ทั้งคู่ก็มั่นใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะต้องมาปรากฏตัวก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวอย่างแน่นอน
เด็กหนุ่มคนนี้มีผมสั้นสีดำถูกหวีเป็นทรงอย่างดี เขาสวมแค่ชุดผ้าธรรมดาสีดำเช่นเดียวกันแต่ดูแล้วก็ไม่น่าจะเป็นชุดที่มีพลังป้องกันสูงหรือมีพลังพิเศษอะไรนัก แต่ก็เหมาะกับเด็กหนุ่มที่ดูมีอายุราว ๆ 24 ปีเลยทีเดียว
"ก่อนที่จะคุยกันฉันขอออกคำสั่งให้กระจายคนของเราไปทั่วทุกทวีปก่อน บิชอป..คนของนายเป็นคนทำพลาดตั้งแต่แรก นายจัดการคุมทวีปไลเทเชียซะ" เด็กหนุ่มพูดโดยไม่สนใจเลยว่าคู่สนทนาด้วยจะมีอายุมากกว่าเขามากนัก แต่บิชอปกลับพยักหน้ารับคำ
"ส่งแม่นั่นไปที่เมืองใหญ่ ๆ ถ้าหล่อนเจอไอ้ตัวผู้เล่นนั่นจะได้ชี้ตัวถูก"
"ครับ ท่านคราวลี่ย์" บิชอปเอ่ย ถึงแม้ว่าเขาอยากจะสืบหาเองว่าผู้เล่นคนนั้นเป็นใคร แต่เมื่อเป็นคำสั่งของหัวหน้ากิลด์เขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเขาเองเป็นแค่หนึ่งในสี่รองหัวหน้ากิลด์พิฆาตราชา
"พวกที่เหลือ คอยป้องกันเมืองจากกิลด์ราชาพยัคฆ์คู่เอาไว้ แล้วพร้อมกันนั้นก็พยายามสอดส่องดูด้วยว่ามีข่าวเกี่ยวกับผู้เล่นคนนั้นด้วยหรือเปล่า ฉันฝากนายไปสั่งการกิลด์ปีกพิราบด้วยนะ ไวรัส" คราวลี่ย์พูดขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มผมทองยิ้มรับไม่ตอบอะไร
"ฉันอยากได้ชื่อกับ ใบหน้าของไอ้คนนั้น หามาให้ได้ ฉันจะเชือดไก่ให้ลิงดูว่าคนที่มาหาเรื่องกิลด์ของฉันมันจะต้องเจออะไรบ้าง" คราวลี่ย์พูดเสียงเย็นแต่แฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยว คนอื่นๆในห้องต่างไม่กล้าสบตากับเขาเลยแม้แต่น้อยเพราะรู้ว่าเมื่อคน ๆ นี้โมโห ต่อให้ใครก็ไม่มีทางหยุดเขาได้ ไม่ว่าจะในเกมหรือนอกเกมก็ตาม "ฉันจะทำให้มันไม่ได้เข้ามาออนไลน์อีกเป็นครั้งที่สอง"
จบตอนที่ 18 เผชิญหน้ามหาบุรุษโจรสลัด[2]
-------------------------------------
เชิญเลยครับคุณsantisook01 ยินดีมากเลยครับ