ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 10 จากทั้งหมด 10
  1. #1
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382

    Space Motion - Earth Exploration 250

    Space Motion
    Earth Exploration 250

    __________________________________________________________________________

    เรื่องย่อ

    โลกยุคอนาคตปี 2208 มนุษย์ได้เริ่มเดินทางออกสำรวจอวกาศและนี่คือเรื่องราวของยานสำรวจลำหนึ่งที่ชื่อว่า Earth - Exoploration 250

    เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามใน Earth Exploration หนึ่งในชุดของ Space Motion

    __________________________________________________________________________

    อัพเดท

    อัพเดท 1/1/2014
    อัพเดท ตอน New Year Special


    ก่อนอ่าน

    เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของผมนะครับ ส่วนเรื่องเก่านั้นกะว่าจะเขียนใหม่อยู่ครับ

    ยังไงก็ถ้ามีคำผิดหรือคำติชมก็ช่วยโพสบอกด้วยละกันนะครับจะได้ปรับปรุงแก้ไข

    ถ้าไม่สนุกก็ขออภัยด้วย

    ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ

    ส่วนนี้กระทู้สาขา 2 (Dek-D)

    __________________________________________________________________________

    บทนำ

    2030 สงครามโลกครั้งที่ 3

    2041 จบสงครามโลกครั้งที่ 3

    2100 บูรณะเศรษฐกิจและบ้านเมือง

    2105 เศรษฐกิจเริ่มเติบโตเหมือนเดิม

    2135 เริ่มเกิดการรวมประเทศ

    2150 รวมประเทศโลกสำเร็จ

    2165 ทั้งโลกช่วยกันสร้างศูนย์วิจัยทางอวกาศ

    2179 สร้างและเปิดใช้งานดาวเทียมและสร้างยานอวกาศที่ใช้งานได้ในหลายรูปแบบ

    2184 เปิดตัวศูนย์วิจัยบนดวงจันทร์ขนาดเล็ก

    2197 ย้ายศูนย์วิจัยทางดวงจันทร์

    2207 เริ่มสำรวจด้านมืดดวงจันทร์

    และหลังจากเหตุการณ์นี้จึงได้เริ่มต้น

    'ยุคทองของอวกาศ'
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย taone1414 : 1st January 2014 เมื่อ 00:27

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    Bayou Country
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    New Orleans, LA, United States
    กระทู้
    5,932
    กล่าวขอบคุณ
    4,555
    ได้รับคำขอบคุณ: 8,950
    ว้าวๆๆๆ เรื่องใหม่หรอเนี่ย มีสมัครตัวละครไหม ถถถถถถถถถถถถถ

  4. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    ที่อยู่
    ทุกที่ที่มีเธอ
    กระทู้
    361
    กล่าวขอบคุณ
    724
    ได้รับคำขอบคุณ: 342
    สำหรับแนวเรื่องอวกาศสำรวจผมชอบอยู่แล้ว แต่ผมอยากให้การเกริ่นนำและรายละเอียดของไทม์ไลน์ในบทนำมีมากกว่านี้นะครับ เพราะเรื่องวิทยาศาสตร์นี้ต้องถึงพริกถึงขิงจริง ๆ

    สู้ ๆ ครับ รออ่านอยู่

  6. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #4
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382
    Earth Exploration 250

    Season 1 Episode 1 Beginning (New Year Special)



    "พ่อครับๆ" เด็กชายตัวเล็กพูดขึ้นพร้อมกับกระตุกแขนเสื้อของชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาหันมามองเด็กน้อยอย่างช้าๆ เด็กน้อยไร้เดียงสาชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีแสงระยิบระยับ

    "พ่อครับ นั่นอ่ะไรครับ" พ่อของเขายิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะตอบว่า

    "อนาคตไงลูก อนาคตที่ดีกว่า" เขาหันไปมองพ่อก่อนจะพูดขึ้นด้วยความสงสัย

    "อนาคตหรอ"



    "เห้ยๆ ชาร์ลส์ตื่นได้แล้ว" ชายที่นอนอยู่บนเตียงหลังจากได้ยินเสียงก็รีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

    "เช้าแล้วหรอเนี่ย โอย" ชาร์ลส์โอดอวยก่อนจะกลั้นใจรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

    "เห้อ ไอ้นี่ สายทุกวันเลย นายเคยคิดจะตื่นเช้าสักวันไหมเนี่ย" ชายที่ปลุกชาร์ลส์ขึ้นพูดบ่นเบาๆ

    ทั้งสองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสีเทาที่ขนาดพอประมาณคน 2 คนอยู่ด้วยกัน บนชั้น2ของตึกตึกหนึ่ง

    ก่อนที่ชายคนเดิมจะหยิบขวดเล็กๆและเปิดฝาออกมา ข้างในบรรจุเม็ดแคปซูลไว้ เขาหยิบมาสองชิ้นแล้วจึงใส่วางใส่ในปากของตน ตามด้วยหยิบน้ำที่วางอยู่ข้างๆ แล้วกลืนลงไป

    ประตูอัติโนมัติห้องน้ำค่อยๆเลื่อนเปิดออก ชาร์ลส์ เดินออกมาอย่างรวดเร็วก่อนจะถามชายที่อยู่ข้างๆว่า

    "วันนี้เราไปที่ไหนนะ อีธาน" อีธานไม่ตอบอะไรก่อนจะยื่นแคปซูลอีกเม็ดที่หยิบออกมาให้

    "วันนี้พวกเราต้องไป นิวยอร์ค รับงานใหม่อีกรอบ" ชาร์ลส์รีบกลืนแคปซูลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าใบหนึ่งที่วางอยู่ข้างเตียง

    "ไปกันเถอะ" ชาร์ลส์และอีธานเดินลงออกไปชั้นล่างและเดินออกจากตึกเข้าสู่ถนน

    เบื้องหน้าทั้งสองเป็นถนนคอนกรีตที่มีรถยนต์ผ่านเพียงไม่กี่คัน

    "สักวันนึงฉันถ้าฉันมีเงินฉันจะซื้อรถระบบแม่เหล็กไฟฟ้ามาใช้ให้พังเลย" อีธานพูดขึ้นก่อนจะมองขึ้นบนฟ้า ข้างบนที่อยู่เบื้องหน้าเขานั้นเป็น ถนน เส้นลอยฟ้า โดยมีเสาใหญ่ตั้งค้ำจุนอยู่

    "ก็นายดันมาทำงานนี้เองนี่หว่า ช่วยไม่ได้" พูดจบชาร์ลส์ก็เปิดโรงรถขึ้น ข้างในมีรถคันหนึ่งจอดอยู่

    "นั่นสินะ บ่นไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา รีบไปทำงานดีกว่า" ชาร์ลส์หันมามองก่อนจะพูดขึ้นว่า

    "คราวนี้นายขับนะ" อีธานทำหน้านิ่งก่อนจะตอบว่า

    "โอเค ก็ได้"



    ทั้งสองขึ้นรถไปก่อนจะขับไปตามถนนที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด

    "นี่นายยังอ่านอยู่อีกหรอเนี่ย" อีธานหันไปมองชาร์ลส์ที่นั่งอยู่ข้างๆโดยในมือมีหนังสือที่ชื่อว่า 'คู่มือการเป็นกัปตัน '

    " เล่มนี้เจ๋งมากเลยนะเว้ย"พูดจบชาร์ลส์เปิดหน้าต่อไป

    "ถ้านายหัวดีขนาดนั้นทำไมไม่ไปเป็นนักบินสะหละ" ชาร์ลส์ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า

    "ไม่ค่อยอยาก" อีธานหัวเราะเบาๆ

    "ระวังนะไม่ชอบแบบไหนจะได้แบบนั่น ช่างเหอะ" อีธานเอื้อมมือไปเปิดวิทยุและมีตัวเลขขึ้นและเพลงดังออกมา

    "นี่ยังฟังคลื่นนี้อยู่อีกหรอ" ชาร์ลส์ถาม

    "ช่วยไม่ได้ รถมันเก่าก็ฟังได้แค่นี้แหละ" อีธานเพิ่มเสียงจากวิทยุให้ดังขึ้น

    "วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส เหมาะแก่การเดินทางหรือทำกิจกรรมนอกบ้านนะค่ะ" เสียงดังออกมาพูดราวกับเป็นเพื่อนของอีธาน เขาเลิกสนใจชาร์ลส์ก่อนจะตั้งใจขับรถต่อไป

    ผ่านไปประมาณ 20 นาที อีธานก็พูดขึ้น

    "ชาร์ลส์ ถึงแล้วนิวยอร์ค" เขาปิดหนังสือลงก่อนจะเงยหน้ามองออกไปผ่านกระจกด้านหน้า

    ถนนด้านหน้านั้นแยกเป็นสองเส้น เส้นออกนอกเมืองกับเข้าไปในเมือง พร้อมกับตึกสีขาว ตัดสีฟ้า ลอยสูงอยู่เช่นกัน ด้านล่างเป็นเพียงตึกใหญ่ๆเหมือนสำนักงาน

    อีธานขับตรงเข้าสู่ถนนเส้นในก่อนจะเลี้ยวเขาตึกตึกหนึ่งที่เขียนว่า 'พาณิชย์อวกาศ' เมื่อเข้ามาก็พบกับลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่แทบจะทุกที่

    "นั่นไงที่จอดของพวกเรา" ชาร์ลส์ชี้ให้อีธานดูเลขที่เขียนไว้บนพื้น เขาเลี้ยวรถไปจอดไว้ก่อนจะลงรถและเดินไปขึ้นลิฟท์ที่อยู่ด้านในสุด

    "วันนี้พวกเราจะได้ไปส่งของกันที่ไหนเนี่ย ขอให้ไม่ใช่ที่ศูนย์ใหญ่ก็แล้วกัน" ชาร์ลส์พูดขึ้น อีธานหันมามองหน้าก่อนจะหัวเราะเบาๆ

    "ไอ้ที่นายทำกาแฟหกใส่ท่านนายพลหนะหรอ ดีนะที่้เขาไม่เอาเรื่องนายสะก่อน"

    ติ้ง ลิฟท์เลื่อนขึ้นมาถึงชั้นที่ 4 ก่อนที่ประตูจะค่อยๆเลื่อนเปิดออก ชั้นที่ 4 นั้นเป็นห้องโถงใหญ่ๆที่มีคนอยู่หลายสิบ ด้านหน้าเป็นการเข้าแถวพร้อมกับมีตัวเลขกำกับแถว

    "บอกชื่อของคุณมาค่ะ" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านซ้ายของทั้งสองคน ชาร์ลส์และอีธานหันไปมอง ชุดของเธอนั้นเป็นชุดรัดรูปโดยที่เสื้อเป็นสีฟ้าส่วนกางเกงเป็นสีขาวปิดมิดชิดทั้งตัว ส่วนผมเป็นสีทอง สั้น นัยตาสีฟ้า

    "นักศึกษาจบใหม่มาทำอะไรที่นี่เนี่ย" อีธานถาม

    "เนื่องจากพนักงานของกรมขนส่งไม่เพียงพอ พวกเราเลยถูกสั่งให้มาช่วยเช็คชื่อพร้อมกับพวกเราต้องถูกส่งออกไปด้วยกันอยู่แล้ว" ชาร์ลส์ทำหน้าสงสัย

    "ส่งหรอ ส่งไปไหน" นักศึกษาจบใหม่ที่ยืนอยู่ก็พูดขึ้น

    "ดวงจันทร์ไงค่ะ ว่าแต่บอกชื่อของคุณทั้งสองมาด้วยค่ะ" ชาร์ลส์ไม่ได้สนใจเสียงเรียกเพราะตอนนี้จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา รูประบบสุริยะที่เคยติดอยู่บนแผ่นป้ายขนาดใหญ่

    "จะได้ไปดวงจันทร์หรอเนี่ย ค่อยคุ้มกับที่ตื่นเช้ากว่าปกติหน่อย"อีธานเห็นจึงตอบแทน

    "ชาร์ลส์ สมิธ แล้วก็ อีธาน แมคลาส ครับ" นักศึกษาจบใหม่หยิบแผ่นสีขาวบางคล้ายๆแผ่นกระจกขึ้นก่อนจะเอานิ้วจิ้มลงไป เมื่อจิ้มเสร็จก็เกิดเป็นรายชื่อขึ้นมา

    "ชาร์ลส์ สมิธ และ ฮีธาน แมคลาส เช็คเรียบร้อยค่ะ แถวที่ 4 ตามมาทางนี้เลยค่ะ" อีธานสะกิดชาร์ลส์ก่อนที่ทั้งสองเดินตามไปก่อนจะถึงแถวที่มีคนยืนอยู่แล้วประมาณ 10 กว่าคน

    "ดิฉัน เอมิลี่ ครอส จะเป็นนักศึกษาจบใหม่สาขาแพทย์ศาสตร์ที่ขึ้นไปพร้อมกับพวกคุณค่ะยินดีได้ร่วมงานค่ะ" เมื่อเอมิลี่พูดจบก็มีเสียงประกาศจากลำโพงดังขึ้น

    "ตอนนี้จากรายชื่อนั้น พนักงานและนักศึกษาทุกคนมาครบแล้ว ให้แต่ละหน่วยกระจายตัวขึ้นยานได้"

    เมื่อเสียงประกาศจบลงหัวแถวแต่ละแถวเดินแยกย้ายกันเข้าไปด้านข้างของกำแพงที่เป็นลิฟท์ขนาดยักษ์ แถวที่ 1 และ 2 และ 3 เดินออกไปด้านซ้าย ส่วนแถวที่ 4 และ 5 และ 6 เดินออกไปทางด้านขวา ลิฟท์ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปจนถึงชั้นดาดฟ้า ข้างบนเป็นพื้นที่ขนาดกว้างกว่าตึก และยานอวกาศจอดอยู่ 6 ลำพร้อมกับเลขหมายกำกับ

    "เอาหละทุกคนกระจายตัวตามยานของตน" ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงกลางก็พูดขึ้น

    "ผมร้อยตำรวจตรี ดิเอโก้ จาคอป ทำหน้าที่ควบคุมการขนส่งบนภาคพื้นโลกครั้งนี้ ในยานจะมีตำรวจประจำอยู่ทุกยาน" อีธานและชาร์ลส์เดินตามแถวไปจนถึงขึ้นยาน

    ยานขนส่งขนาดไม่ใหญ่มากเทียบได้ประมาณครึ่งหนึ่งของเรือขนส่ง เมื่อเข้าไปข้างในจะมีห้องแตกต่างกันไป ส่วนหัวเป็นของนักบินโดยจะมีที่นั่งไว้ด้วย ส่วนกลางเป็นที่บรรทุกของ ส่วนหลังเป็นตัวเครื่อง

    "พนักงานแต่ละกระจายตัวตามตำแหน่งของตัวเองด้วยค่ะ" เอมิลี่พูดก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่ที่นั่งของด้านหน้า

    ชาร์ลส์และอีธานก็เดินไปประจำตำแหน่งตามปกติของพวกเขาคือห้องเครื่อง เมื่อเข้าไปในประตูก็เป็นห้องที่มีมอเตอร์วางอยู่ตรงกลาง ก่อนจะมีเสียงประกาศว่า

    "อีก 10 วินาทีจะออกยานขอให้พนักงานทุกคนเตรียมพร้อม" ชาร์ลส์หันไปถามอีธาน

    "วันนี้มีอะไรมาขวางการบินรึเปล่า"

    "ฉันขอดูแผนที่อวกาศก่อนละกัน" อีธานหยิบแผ่นเหล็กสี่เหลี่ยมเล็กๆขึ้นมาจากกระเป๋าที่เขาถือมาด้วย และคลี่ออก ข้างในแผ่นนั้นมีรูปดวงเคราะห์ต่างๆพร้อมกับแบบจำลองจักรวาล

    "ไม่มี" ชาร์ลส์พยักหน้าเบาๆ

    "อืมก็ดีแล้ว"เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง

    "อีก 5 วินาทีจะออกยาน" ชาร์ลส์และอีธานเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของยานที่ติดอยู่กับผนังและรัดเข็มขัด

    "4 วินาที"

    "ใช้เวลาเท่าไรถึงจะถึง" ชาร์ลส์ถามขึ้น

    "3 วินาที" อีธานกลอกตาขึ้นทำท่าคิดก่อนจะตอบว่า

    "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน "

    "2 วินาที"

    "1 วินาที"

    "เริ่มเดินเครื่อง"

    เมื่อเสียงประกาศสิ้นสุดก็มีแรงดันที่ผลักชาร์ลส์และอีธาน รวมทั้งคนอื่นๆบนยานเข้ากับพื้น มอเตอร์ที่วางอยู่กลางห้องเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว ด้านนอกของยานเกิดเปลวไฟขึ้นด้านท้องของยานก่อนจะที่ยานจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตามเครื่องปล่อย เมื่อผ่านไปประมาณ 1 นาที ก็มีเสียงประกาศขึ้นมาอีกว่า

    "กำลังจะพ้นชั้นบรรยากาศขอให้พนักงานทุกคนเตรียมตัวรับสภาพไร้แรงโน้มถ่วง" พูดจบแรงดันก็ค่อยๆหายไปก่อนที่กระเป๋าของชาร์ลส์ที่วางอยู่ข้างๆค่อยๆลอยขึ้น

    "พ้นชั้นบรรยากาศแล้วขอให้พนักงานทุกคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด" เมื่อเสียงประกาศจบลงชาร์ลส์ก็ปลดเข็มขัดออกก่อนจะใช้เท้าดีดตัวพุ่งออกจากผนังไปทางอีกข้างหนึ่งที่มีกระจกแผ่นเล็กๆอยู่ เขามองออกไปนอกจักรวาลที่กว้างใหญ่

    "เจ้าพวกนี้มองกี่ทีก็ไม่เบื่อ" ระหว่างที่ชาร์ลส์กำลังเพลิดเพลินกับการดูดาวเสียงประกาศก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

    "เตรียมพร้อมเดินเครื่องสร้างแรงโน้มถ่วง" เมื่อเสียงประกาศจบก็มีแรงดันชาร์ลส์ทำให้หัวกระแทกลงกับพื้นของยาน

    "อูย" ชาร์ลส์ร้องออกมาเบาๆ อีธานปลดเข็มขัดออกก่อนจะเดินไปหา

    "ฉันว่ากฏก็บอกอยู่นะว่าอย่าเพิ่งลุกจากที่นั่งก่อนการเดินเครื่องสร้างแรงโน้มถ่วง" ชาร์ลส์ดันตัวขึ้นก่อนจะบิดขี้เกียจเล็กน้อย

    "ห้องเครื่องเรียบร้อยดีนะ" ชายแต่งชุดกันกระสุน ใส่เกราะและที่เอวมีอาวุธประจำอยู่ ถาม

    "เรียบร้อยดีครับ" หัวหน้าพนักงานตอบ

    "อืม" พูดจบชายคนนั้นก็เดินจากไป ชาร์ลส์หันไปมองอีธานก่อนจะถามว่า

    "นั่นใคร" อีธานหันไปตอบ

    "ก็ตำรวจประจำยานเราไง ตาแกเช็คห้องเครื่องแล้วหนิ ลองไปดูมอเตอร์หน่อยละกัน ว่าหล่อเย็นทำงานไหม" ชาร์ลส์ทำหน้าเบื่อ

    "ก็ได้" เขาเดินไปข้างๆมอเตอร์ที่หมุนด้วยความเร็วสูง ก่อนจะเดินกลับไปหาอีธาน

    "ปกติดี" อีธานพยักหน้า

    "เดี๋ยวฉันมาต้องไปเช็คของสักหน่อย" ชาร์ลส์มองดูอีธานเดินออกจากห้องเครื่องไป เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเก่าพร้อมกับนั่งพักหลับตาและผ่อนคลาย

    ฟืด ประตูอัติโนมัติเปิดออกอย่างรวดเร็ว อีธานเดินเข้าไปในห้องเก็บสินค้า เขาก็พบกับเอมิลี่ยืนอยู่แถวนั้นเหมือนกัน

    "อ่าว เอมิลี่ เข้ามาได้ไงเนี่ย" อีธานถาม

    "พอดีว่าง ต้องเช็คของหนะค่ะ" เอมิลี่ตอบนิ่งๆ

    "อ๋อ" อีธานเลิกให้ความสนใจก่อนจะเดินไปหาผู้ดูแล

    "ของครบใช่ไหมครับ ไม่อยากให้มีปัญหา" ผู้ดูแลมองดูรอบๆก่อนจะพูดว่า

    "ไม่ต้องห่วง ครบ" อีธานพยักหน้า ก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องเครื่อง เขาส่องสายตามองรอบๆ ก็พบกับชาร์ลส์ที่นอนหลับอ้าปากพร้อมกับน้ำลายไหลอยู่บนเก้าอี้นั่ง

    "เห้อ ไอ้นี่จะพึ่งอะไรได้ไหมเนี่ย"



    "เห้ย ชาร์ลส์ ตื่นได้แล้ว ขี้เซาจริงๆนะแก" อีธานเขย่าตัวชาร์ลส์เบาๆ เขาค่อยๆลืมตาช้าๆ

    "ไปล้างหน้าด่วนเลยน้ำลายเต็มแก้มเลย" อีธานดึงชาร์ลส์ลุกจากที่นั่ง

    "รีบมาหละ ใกล้ถึงดวงจันทร์แล้ว" ชาร์ลส์เดินอย่างงัวเงียเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะออกมาอีกครั้งพร้อมเสียงประกาศ

    "กำลังเข้าสู่ชั้นป้องกันรังสีและชั้นบรรยากาศจำลอง" ก่อนจะมีเสียงประกาศอีกอันดังขึ้น

    "ขอให้พนักงานทุกคนตรวจสอบของให้ครบพร้อมยกลงเครื่องได้"

    ชาร์ลส์รีบเดินไปหาอีธานที่อยู่ในห้องเก็บของ

    "เอ้า" อีธานส่งกล่องให้ชาร์ลส์ เขารับแล้วถือไว้

    "ครบนะ" อีธานพยักหน้าตอบ

    "เตรียมจะลงจอด" จากนั้นพื้นตัวเครื่องก็สั่นเล็กน้อย ก่อนจะสงบไป

    "ถึงดวงจันทร์แล้วขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการ" ประตูข้างของยานค่อยๆเลื่อนขึ้นเปิดออกช้าๆ เบื้องหน้าเขาเป็นศูนย์วิจัยขนาดใหญ่ขนาด 3 ชั้นและดูทันสมัยมาก มีส่วนเหมือนปีกของตึกแยกออกไปอีกจนสุดก็เป็นตึกทรงกลมออกแบบเพื่อความสวยงาม รอบข้างของเขาก็เป็นเหมือนกำแพงกั้นล้อมรอบ ด้านเยื้องขวาของศูนย์วิจัยก็เป็นศูนย์อาหาร ชาร์ลส์รู้เพราะว่ามีป้ายขนาดใหญ่เขียนอยู่กำกับไว้

    "เจ๋ง" ชาร์ลส์พูดขึ้นเบาๆ

    "พนักงานตามมาทางนี้เลยครับ" ชายคนหนึ่งในชุดสีขาวเหมือนนักวิทยาศาสตร์กวักมือเรียกพวกเขาไป เขาเป็นชายผมสีดำ ใส่แว่นตาหนาเตอะ

    "ผมชื่อ อะตอม แกมบิต ตามผมมา" ชาร์ลส์และอีธานเดินตามหลังไปพร้อมกับพนักงานคนอื่นๆ ด้านในเป็นตรงกลางเป็นห้องโถงกว้างสามารถมองขึ้นไปบนชั้น 3 ได้เลย เพดานด้านบนเป็นกระจกใสมองทะลุขึ้นไปบนฟ้าได้ ตรงกลางเป็นเหมือนบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ลึกพอสมควร และด้านบนมีโปสเตอร์ยาวๆจากด้านบนลงมาถึงด้านล่างสีขาวสลับแดงเขียนว่า 'ครบรอบ 9 ปี'

    "คุณเป็นนักวิทยาศาสตร์หรอ" ชาร์ลส์ถามขึ้น

    "ใช่" ชาร์ลส์ขมวดคิ้ว

    "แล้วทำไมได้รับคำสั่งให้มาทำอะไรแบบนี้หละเนี่ย" อะตอมเดินไปพูดไป

    "ก็ง่ายๆ ผมเป็นพนักงานยอดแย่ที่สุดประจำหมวดของผม ถ้าไม่นับรวมกับคนงานแล้วก็แม่บ้านหนะนะ" ชาร์ลส์ได้ยินก็สงสัย

    "ยอดแย่หมายความว่าไง" อะตอมหันไปก่อนจะดันแว่นตาแล้วตอบว่า

    "ก็ฉายาตัวปัญหา ครั้งก่อนจะลองพยายามสร้างแหล่งพลังงานมหาศาลแต่ดันเกือบจะเป็นนิวเคลียระเบิดตึกวิจัย" ชาร์ลส์และคนงานอื่นๆ เดินตามเข้ามาจนถึงตัวกลางตึก ตึกมีลักษณะเป็นวงกลมตรงกลางและมีแขนตึกแยกออกไป

    "แล้วก็อีกครั้งนึกคือพยายามจะทดสอบการแยกสลายมวลสารโดยใช้กับสิ่งมีชีวิต แต่ดันเอาหนูทดลองสำหรับแก้ไวรัสดาวอังคารไปทำ แล้วพอเริ่มแยกสลาย มันก็หายไปเลย ทำให้นักวิจัยต้องหาหนูตัวใหม่แทน"ชาร์ลส์พยักหน้าตามเบาๆ อีธานสะกิดชาร์ลส์เบาๆ

    "กระเป๋านายได้เอามารึเปล่า" ชาร์ลส์สะดุ้งก่อนจะหันไปตอบอย่างรวดเร็วว่า

    "ซวยละสิ ลืมเอามา" อีธานทำหน้าไม่พอใจ

    "ในยานใช่ไหม" ชาร์ลส์ยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

    "เห้อ ช่างเถอะ" อีธานถอนหายใจ พวกเขาเดินมาสุดทางโดยไม่รู้ตัว

    "นี่ถึงแล้ว วางไว้หน้าห้องนี่แหละเดี๋ยวพนักงานจะจัดการอีกรอบ ฉันขอตัวไปทำงานละ วันนี้ภารกิจใหญ่" อะตอมพูดก่อนจะเดินจากไป



    ฟืด ประตูอัติโนมัติเปิดออกก่อนที่อะตอมจะเดินเข้าไป ข้างในเป็นห้องขนาดใหญ่และมีนักวิทยาศาสตร์นั่งทำงานโต๊ะที่หันหลังให้กับประตู ด้านหน้าเป็นแท่นควบคุมเรียงยาว และด้านบนกำแพงมีจอฉายพร้อมกับคอมพิวเตอร์ระบบสัมผัสอากาศ อะตอมเดินไปนั่งโต๊ะตัวใกล้กับประตู ก่อนจะกดปุ่มเล็กๆบนโต๊ะ จากนั้นก็มีภาพเป็นกรอบ สี่เหลี่ยมขนาดเท่ากับหน้าจอคอมพิวเตอร์เด้งขึ้นมา เขามองจออย่างละเอียด

    "ใกล้แล้วสินะ" เขาพูดขึ้นเบาๆ สิ่งที่อยู่บนจอภาพเป็นตัวอักษรเขียนพร้อมกับเวลาที่ค่อยๆเดินถอยหลัง

    'ด้านมืดดวงจันทร์ 01.58 นาที'



    "ทุกคนตอนนี้อุปกรณ์ครบแล้วในการดำเนินงาน ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมในอีก 1 นาทีเราจะเริ่มดำเนินการ"



    "เขาบอกว่าให้รออีกประมาณ 30 นาทีพักเครื่อง ให้อยู่ที่ศูนย์อาหารนี้ไปก่อนแล้วค่อยกลับ" อีธานพูดขึ้น ชาร์ลส์พยักหน้าเบาๆ ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินเข้ามาในศูนย์อาหาร เขาก็พบเอมิลี่เดินมาพร้อมกับเพื่อนๆนักศึกษาของเธอ ทุกคนคุยกันอย่างสนุกสนาน ยกเว้นเธอที่เดินตามหลัง

    "เอมิลี่" ชาร์ลส์โพล่งออกไป ทุกคนหันมามองและให้ความสนใจในตัวชาร์ลส์กันหมด จากบทสนทนาที่เคยสนุกสนานกลับกลายเป็นความเงียบงัน นักศึกษาคนหนึ่งหันไปถามเอมิลี่

    "นี่เธอรู้จักพวกคนงานพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลี่มองหน้าชาร์ลส์และอีธานก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนเธอแล้วส่ายหัว

    "ผมว่าคุณจำคนผิดแล้วครับ" พูดจบพวกนักศึกษาก็ผ่านหน้าพวกเขาไป ชาร์ลส์และอีธานได้แต่หันมองถาม

    "อะไรว่ะเนี่ย" ชาร์ลส์พูดเบาๆ เอมิลี่แอบหันไปมองเขาทั้งสองคนก่อนจะรีบหันกลับไป

    "ช่างเถอะ อย่าใส่ใจเลย" ชาร์ลส์หันมองรอบๆก่อนเพ่งความสนใจไปที่ตำรวจ

    "ดิเอโก้ ก็มาด้วย" อีธานหันไปมองตาม

    "ก็เขาควบคุมการส่งครั้งนี้นี่นา เป็นเรื่องปกติ" ชาร์ลส์พยักหน้ารับเบาๆ

    "หาอะไรกินเถอะ"



    "ตอนนี้ผมเข้าใกล้เขตด้านมืดแล้ว" เสียงตอบดังออกมาจากลำโพงในห้องขนาดใหญ่

    "รับทราบ AM 1 และ 2 ประจำตำแหน่ง" เกือบอีกฝากหนึ่งของดวงจันทร์ นักบินอวกาศสองคนสวมใส่ ชุดรัดรูปสีขาวพร้อมกับกระเป๋าที่อยู่บนด้านหลังและหมวกผลิตออกซิเจนที่มีลักษณ์คล้ายหมวกกันน๊อค

    "ผมถึงตำแหน่งที่คาดการณ์ไว้แล้ว" นักบินอวกาศอีกคนที่เดินตามหลังก็พยักหน้า

    "เห็นอะไรบ้างไหม" นักบินอวกาศสำรวจรอบๆตัวเองก่อนจะเห็นกล่องสี่เหลี่ยมสีเทาวางอยู่ สภาพดูโทรมและเก่ามาก

    "ผมเจอกล่องเป็นลูกบาศก์" นักวิทยาศาสตร์หลายๆคนทำเสียง โฮ ขึ้นมาพร้อมๆกัน

    "โอเค เก็บตัวอย่างแล้วกลับมาที่นี่" หัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น

    "รับทราบ" นักบินอวกาศค่อยๆก้มตัวลงและนำมือไปแตะกับลูกบาศก์เบาๆเพื่อที่จะเก็บไปวิจัย แต่เมื่อมือเขาสัมผัสกับมัน มันก็เรืองแสงสีฟ้าออกมาอย่างน่ามหัศจรรย์ ครืด ครืด พื้นผิวดวงจันทร์สั่นเบาๆ

    "เกิดอะไรขึ้น AM 1" นักบินอวกาศที่ยืนที่ใกล้ลูกบาศก์รีบกระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็ว

    "แผ่นดินไหวครับ" เขาตอบกลับ พื้นผิวดวงจันทร์สั่นมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งแยกออกจากกันอย่างช้าๆ และมีโครงเหล็กลักษณ์เหมือนแขนคนพุ่งออกมาก่อนจะค่อยๆตะเกียกตะกายขึ้นมา นับสิบตัว ก่อนจะมีเหมือนยานพุ่งออกมาจากพื้นผิวอีกต่างหาก

    "มันเป็นหุ่นยนต์ มันเป็นหุ่นยนต์" นักบินอวกาศเริ่มเกิดอาการกลัว

    "AM 2 เดินเครื่องยนต์พร้อมหนี AM 1 รีบออกจากสถานที่ด่วน" ได้ยินคำสั่งนักบินอวกาศ รหัส AM 1 รีบวิ่งถอยหลังอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยแรงดึงดูดที่น้อยทำให้เขาก็เคลื่อนที่ช้าอยู่ดี มือหุ่นยนต์พุ่งขึ้นมาจากพื้นด้านหน้า ก่อนจะพุ่งเข้าคว้าขาของเขาไว้ เขาจ้องไปมองเจ้าของมือ มันเป็นเหล็กรูปร่างเหมือนมนุษย์ ตาของมันแดงก่ำ เขารีบสะบัดออกด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ยานลำเล็กที่เปิดเครื่องพร้อมขับ

    "เร็วๆ" AM2 พูดอย่างรวดเร็ว

    "ไปเลย" AM2 เหยียบคันเร่งมิดก่อนที่เครื่องจะพุ่งออกไปด้วยความเร็ว

    "นั่นมันอะไรกัน" AM1 ถามขึ้น

    "ไม่รู้เหมือนกัน" AM2 ตอบ

    แกร๊ก แกร๊ก เสียงแปลกๆดังขึ้นจากใต้ท้องยาน

    "อะไรหนะ" AM2 ถามด้วยความกังวล

    "ฉันก็ไม่รู้" AM1 ก้มลงไปดู ก่อนจะมีมือเหล็กพุ่งขึ้นมาบีบคอของเขาไว้

    "เกิดอะไรขึ้น ทั้งสองคน" หัวหน้าหน่วยถามไปแต่สิ่งที่ตอบกลับเป็นเสียงดังๆปนเสียงซ่าๆ

    "มันอยู่บนยาน มันเกาะมา ตอนนี้มันกำลัง.. โอ้ว ไม่" AM2 ตอบด้วยความตกใจกลัว

    "ท่านครับสัญญาชีพ AM1 หายไปแล้วครับ" นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งพูดขึ้น

    "AM2 ก็ไม่มีเหมือนกันครับ" อีกคนพูดเสริม หัวหน้าทุบโต๊ะอย่างแรง

    "เกิดบ้าอะไรขึ้นว่ะเนี่ย" ทั้งห้องอยู่ในความเงียบเกือบ 2 นาที

    แต่ ในเมื่อความวัวยังไม่ทันหาย ก็มีนักวิทยาศาสตร์อีกคนโพล่งออกมาว่า

    "ท่านครับ ตอนนี้ยานกำลังพุ่งเข้ามาใกล้ศูนย์อาศัยแล้วครับ อีก 500 เมตรครับ"

    "ว่าไงน่ะ" เริ่มเกิดการถกเถียงขึ้นอย่างดัง เสียงนั้นกระหึ่มจนชาร์ลส์ได้ยิน

    "นั่นมันเสียงบ้าอะไรกันว่ะ" เขาพูดขึ้นก่อนจะตักซุปใส่ปาก

    "ช่างเหอะ" อีธานตอบ

    "อีก 400 เมตรครับท่าน จากการคำนวณจะชนเข้ากับศูนย์อาหารครับ" ฟืด เสียงประตูเปิดออก ทุกคนในห้องแตกตื่นก่อนจะมีคนวิ่งออกไปข้างนอก



    "หลีกหน่อยๆ" อะตอมก้าวอย่างรวดเร็วไปทางห้องโถง

    "โอ้ย" เขาวิ่งเร็วจนคนที่ยืนอยู่ข้างๆล้มลงไป

    "ขอโทษครับ ขอโทษครับ" จนในที่สุดเขาก็วิ่งมาถึงห้องโถงก่อนจะตรงไปที่เคาน์เตอร์

    "หลีกหน่อย ประกาศด่วน"อะตอมพูดก่อนจะโชว์บัตรประจำตัวให้พนักงานดู

    "ทุกท่านขออภัยในความไม่สะดวกทุกท่านที่อยู่ในศูนย์อาหารขอให้รีบออกมาจากที่นั่นด่วน ย้ำ ทุกคนที่อยู่ในศูนย์อาหารขอให้รีบออกมาจากที่นั่นด่วน ประกาศภัยฉุกเฉินระดับ 2" เมื่อเสียงประกาศจบผู้คนในศูนย์อาหารวิ่งกันจ้าละหวั่นคนละทิศละทาง ตำรวจพยายามควบคุมความสงบแต่ไม่เป็นผล

    ความมืดมนต์ค่อยๆคลืบคลานเข้ามา แสงจากพระอาทิตย์ที่เคยส่องมาตอนนี้ค่อยๆถูกปกคลุมด้วยเงาดำ อะตอมและชาร์ลส์แม้จะอยู่คนละที่แต่ก็เหมือนโดนสะกดให้จ้องมองไปทางทิศเดียวกัน เบื้องบนเป็นยานอวกาศยักษ์ใหญ่ดูท่าทางเก่าและโทรม ก่อนจะมีหุ่นยนต์จำนวน 10 กว่าตัวกระโดดลงมาเกาะเพดานกระจก

    "ประกาศระดับ 3 เลย" อะตอมประกาศต่อไป

    "นี่มันอะไรกันอีกหละเนี่ย" ชาร์ลส์พูดกับอีธาน

    "นั่นสิ" เมื่อพูดจบ ข้างๆของทั้งสองก็มียานพุ่งทะลุกำแพงเข้ามาในศูนย์อาหาร ก่อนที่แรงลอยตัวจะหมดลงและไถลไปกับพื้น ผู้โชคร้ายบางคนก็ถูกยานกระแทก กระเด็นออกไป

    ยานหมุนตีลังกาหลายรอบก่อนจะกระแทกพื้นและกลิ้งไปจนชนกับยานขนส่งลำหนึ่ง คนที่ถูกยานชนก็คลานออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลนองพื้นไปทั่ว ตำรวจวิ่งไปตรวจสอบอย่างรวดเร็ว

    "หลีกค่ะ หลีก"ในกลุ่มฝูงชนที่ยืนดูอยู่มีเสียงดังออกมา ก่อนจะมีสาวผมทองและเพื่อนๆวิ่งออกมา

    "เอมิลี่" ชาร์ลส์สกิดอีธานเบาๆ

    "ฉันและเพื่อนเป็นนักศึกษาแพทย์ค่ะ" ตำรวจตะโกนเรียกหัวหน้าของเขา

    "ท่านครับ" ดิเอโก้หันมาพยักหน้าเป็นสัญญาณ นักศึกษาแพทย์รีบวิ่งไปช่วยคนบาดเจ็บที่นอนอยู่ใกล้กับยานที่พึ่งพุ่งชนกำแพงมาหมาดๆ

    "แยกกันไปตามคนเจ็บ" เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มกล่าว นักศึกษาเริ่มแยกตัวไปหาคนเจ็บอย่างละคน เอมิลี่วิ่งไปหาคนเจ็บที่ใกล้กับยานที่สุด คงเป็นเพราะถูกชนจึงทำให้แขนของเขาพลิกกลับด้าน

    "ฉันเป็นแพทย์ค่ะ ขอดูอาการหน่อย" เอมิลี่ยื่นมือของเธอออกไปจับแขนคนไข้อย่างอ่อนโยนที่สุด

    "อ๊ากกก" เขาร้องด้วยความเจ็บปวด "ใจเย็นนะค่ะ" เอมิลี่รีบปล่อยมือออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดปลอบใจ

    ตู้ม

    "อ๊ากกก" มีแท่งเหล็กลักษณ์เหมือนเท้าคนกระแทกเข้ากับชายเจ็บที่นอนอยู่บนพื้นจนจมดิน เอมิลี่รีบเงยหน้าขึ้นดู เธอเห็นเป็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ตาแดงจ้องมายังเธอ

    "อ๊าาา" เอมิลี่กรี๊ดออกมาอย่างดัง ขณะเดียวกัน หน้าต่างประตูต้อนรับของตึกศูนย์วิจัยก็ถูกพังกระแทกออกมา

    "ช่วยด้วย" ชายนักวิทยาศาสตร์ใส่แว่นหนาเตอะที่คุ้นเคย ด้านหลังเขามีหุ่นยนต์วิ่งตามมาประมาณ 7 ตัว

    "เตรียมพร้อม" ดิเอโก้พูดก่อนจะหยิบปืนพกที่อยู่ในกระเป๋าออกมา และยิงเข้าที่หัวของหุ่นตัวที่อยู่เบื้องหน้าเอมิลี่ จนมันกระเด็นออกไป

    ตำรวจคนอื่นๆรีบวิ่งไปด้านหน้าของฝูงชน และทั้งปืนพร้อมยิงหุ่นที่วิ่งตามหลังอะตอมอย่างรวดเร็ว

    "ยิงเลยไหมครับท่าน" ตำรวจทั้งท่าพร้อม

    "ยังก่อน" ดิเอโก้เดินไปหลังตำรวจเหล่านั้น ฝูงคนรีบถอยหลังกลับไป อะตอมวิ่งเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับหุ่นก็เริ่มเข้าใกล้ตัวเขาเช่นกัน

    "แต่ท่านครับถ้าไม่ยิงตอนนี้หละก็" ดิเอโก้ทำหน้าเคร่งเครียด แต่ยังไม่ทันสั่งการ ก็มีหุ่นอีก 2 - 3 ตัวกระโดดลงมาจากปีกตึกกระแทกเข้ากับตำรวจที่ตั้งปืนอยู่

    ฝูงชนวิ่งแตกตื่นกันออกครั้งพยายามวิ่งออกกำลังแพงที่ล้อมไว้ เอมิลี่เห็นความวุ่นวายจึงรีบตรวจสอบคนเจ็บของตน ปรากฏว่าแรงกระแทกครั้งนั้นคงแรงมากจนทำให้เขาเสียชีวิตในทันที เอมิลี่กำลังจะรีบลุกไปดูที่อื่น แต่ก็มีมือมาบีบเข้าที่คอเธออย่างแรง และค่อยๆยกเธอขึ้นมาเหมือนเบาดังเศษกระดาษ

    เจ้าหุ่นตัวเดิมแม้จะโดนปืนยิงเข้าไปใบหน้าจนทะลุถึงอีกฝั่งแล้วแต่ระบบของมันยังทำงาน แม้ตาข้างหนึ่งจะหายไป แต่ตาอีกข้างก็ยังแดงก่ำอีกเช่นเคย

    "แค่ก แค่ก" เอมิลี่พยายามงัดเสียงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

    เธอหันไปดูข้างหลังหวังพึ่งใครสักคนแต่กลับเป็นฝูงชนที่วิ่งหนีตายกันอย่างวุ่นวาย ก่อนจะหันมาด้านขวาก็พบกับตำรวจที่โดนเหล่าหุ่นยนต์กำลังต่อยเข้าที่หน้าอย่างจัง เหล่าตำรวจหลายคนพยายามช่วยอย่างสุดกำลัง

    เอมิลี่เริ่มค่อยๆขาดอากาศขึ้นเรื่อยๆ มือพยายามตะเกียดตะกายปัดมือของหุ่นออกไปแต่ไม่เป็นผล เธอหันมองรอบๆในวินาทีสุดท้ายของชีวิต เธอเห็นชายคนเดิมที่คุ้นเคยด้วยสีผมและหน้าตา ชาร์ลส์วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดต่อยหน้าหุ่นกระเด็นออกไป

    "บ้าน่า" ชาร์ลส์พูดขึ้นเพราะเมื่อหมัดของเขาสัมผัสกับหน้ามองมัน เขากลับรู้สึกเหมือนต่อยเข้าที่ใบหน้ามนุษย์ยังไงอย่างนั้น ด้วยแรงต่อย เอมิลี่ถูกปลดปล่อยจากมือที่บีบรัดคอเธอไว้อย่างแน่น เธอตกลงกระแทกพื้นก่อนจะพยายามสูดหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็ว

    ชาร์ลส์หันไปมองก่อนจะพูดคำพูดบาดใจเบาๆ

    "ทีนี้จำกันได้รึยังหละ"



    "โอ้ ไม่ โอ้ ไม่" อะตอมรีบวิ่งแทรกกับฝูงชนก่อนจะโดนเบียดจนล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างจัง และโดนเตะจนกลิ้งไปกระแทกกับยานขนส่ง หุ่นยนต์ตัวอื่นๆวิ่งผ่านหน้าเขาอย่างไม่สนใจก่อนจะกระโดดคว้าตัวของคนอื่นและเริ่มทำร้าย

    "ลุกขึ้นเร็ว" ดิเอโก้พูดขึ้นก่อนจะรีบวิ่งมาพร้อมกับปืนกลรัวและยิงใส่หุ่นตัวอื่นๆ

    หุ่นตัวหนึ่งวิ่งเข้าใส่เขาทางด้านข้างอย่างรวดเร็วแต่ไม่ทันถึงตัวมันก็โดนฟาดด้วยแท่งเหล็กเข้าที่หน้า ดิเอโก้หันไปด้านขวาก่อนจะเห็นอีธาน ดิเอโก้ถามขึ้น

    "ยิงปืนเป็นไหม" อีธานรีบตอบอย่างรวดเร็ว

    "พอได้" ดิเอโก้รีบควักปืนพกโยนให้ก่อนจะหันกลับไปถือปืนกลและยิงใส่หุ่นต่อไป อะตอมรีบคลานเข้าไปหาทั้งสองคน อีธานหันไปมองชาร์ลส์ที่อยู่ไม่ไกลมากก่อนจะตะโกน

    "ชาร์ลส์ทางนี้"

    "เป็นอะไรรึเปล่า" ชาร์ลส์ถามเอมิลี่ก่อนจะรีบพยุงขึ้นมาและรีบเดินไปหาทั้งสามคน แต่หุ่นเจ้ากรรมดันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มันค่อยๆดันตัวลุกขึ้นมาด้านหลังของทั้งสอง

    "ก้ม" อีธานตะโกนขึ้น ชาร์ลส์และเอมิลี่ก้มพร้อมกันอย่างรวดเร็ว

    ตู้ม หน้าของหุ่นยนต์ตัวนั้นหายไปทั้งหัวก่อนจะหงายหลังล้มลงไป

    "เจ๋งมาก"ชาร์ลส์รีบพยุงเอมิลี่ขึ้นอีกครั้งก่อนจะรีบเดินไป

    "รีบขึ้นยานเร็ว" ดิเอโก้สกิดทั้งหมดให้รีบขึ้นยานขนส่งไป

    "เอาหละใครขับยานเป็นบ้าง"อะตอมถามขึ้น

    "ฉัน"ชาร์ลส์ตอบก่อนจะรีบวิ่งไปที่นั่งคนขับ

    "เห้ย แน่ใจหรอ" อีธานรีบวิ่งตามไป ชาร์ลส์พยักหน้าก่อนจะตอบว่า

    "ฉันเชื่อมั่นในตำราเว้ย" อีธานไม่อยากใส่ใจเพราะตอนนี้มีเรื่องที่น่าสนใจมากกว่า เขารีบไปดูเอมิลี่ที่นุ่งกุมคอตัวเองและไอออกมาอย่างแรง

    "ไหวไหมเอมิลี่" เธอพยักหน้าตอบเบาๆ ดิเอโก้ยังยิงปืนต่อและค่อยๆเดินถอยหลังขึ้นยาน

    "ปิดประตูเร็ว" ประตูที่ตูดยานค่อยๆปิดลง

    "ออกเครื่องเลย" ดิเอโก้ออกคำสั่งออกมา

    "ใครมาช่วยเป็นผู้ช่วยคนขับหน่อย" อะตอมรีบวิ่งเข้าไปนั่ง

    "ฉันเองๆ" ชาร์ลส์หันไปมองก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่ไว้ใจ

    "แน่ใจหรอ" อะตอมหันไปตอบอย่างรวดเร็วก่อนจะสายรัดตัว

    "มีทางเลือกอื่นหรอ"

    ระหว่างที่ประตูยานขนส่งกำลังจะปิดลง มีหุ่นตัวหนึ่งสังเกตเห็น ก่อนจะกระโดดลอดรูเข้ามา ดิเอโก้รีบหันไปพร้อมกับปืน มันเอาแขนปัดไว้ก่อนจะใช้มือขวาต่อยเข้าที่หน้าเขาอย่างจัง เขากระเด็นไปกระแทกกับที่นั่งอีกฝั่งข้างๆเอมิลี่ เมื่อยานขนส่งไม่มีของมันก็คือลานต่อสู้กว้างๆดีๆนี่เอง หุ่นค่อยๆเดินช้าๆเข้าไปหาเอมิลี่ ก่อนจะโดนยิงเข้าไปที่ไหล่ขวา อีธานพยายามกดตัวลั่นไกต่อแต่มันดันไม่ทำงาน

    "บ้าเอ้ย กระสุนหมด" หุ่นยนต์จับแขนของอีธานที่ยื่นออกมาก่อนจะบิดอย่างช้าๆและต่อยไปที่อีธานอย่างต่อเนื่อง

    "อ๊ากก" เขาร้องด้วยความเจ็บปวดจนมือไม่มีแรงถือปืนอีกต่อไปก่อนจะตกลงสู่พื้น

    "เกิดอะไรขึ้น" อะตอมถามขึ้น

    "อย่าพึ่งสนใจเรารีบเอาเครื่องขึ้นก่อนที่มันจะมามากกว่านี้" ชาร์ลส์พูดก่อนจะรีบกดปุ่ม 3 - 4 ปุ่มและจับคันโยกตรงกลางที่นั่ง

    "เปิดระบบขับบนดวงดาวแล้ว" อะตอมพยักหน้าเบาๆ ดิเอโก้ที่พึ่งได้สติก็วิ่งกระแทกเข้ากับตัวหุ่นจนดันมันติดกับกำแพงยานอีกฝั่งทำให้มันต้องจำเป็นปล่อยแขนของอีธาน มันจับไหล่ของดิเอโก้ก่อนจะบีบอย่างแรงและพลิกตัว ตอนนี้กลายเป็นเขาสะเองที่โดนดันติดกับกำแพง

    มันปล่อยมือขวาออกจากไหล่ของเขาก่อนจะต่อยเข้าไป ดิเอโก้หลบอย่างรวดเร็วมันค่อยๆดึงมือออกช้าๆจนเห็นลอยทะลุของยาน

    "เชิดหัวขึ้นเลย" ชาร์ลส์ตะโกนขึ้น

    "ปุ่มไหน" อะตอมหันไปถาม

    "ปุ่มสี่เหลี่ยมที่มีลูกศรหนะ" ชาร์ลส์ตอบก่อนจะพยายามบังคบยาน

    "อันไหนล่ะมันมีตั้งเยอะ" อะตอมลนลาน

    "ไม่รู้หนังสือมันเขียนมาแค่นี้" อะตอมสุ่มกดมั่ว ยานค่อยๆลอยขึ้นช้าๆก่อนจะหงายหน้าขึ้น หุ่นและดิเอโกตกลงไปด้านท้ายของยาน

    "เยอะไปๆ" ชาร์ลส์พูดก่อนที่ตัวเองจะรู้สึกเหมือนโดนดึงถอยหลัง

    ดิเอโก้หมุนตัวก่อนจะเอาร่างหุ่นกระแทกกับกำแพงหลังของยาน อีธานก็ค่อยๆไหลลงไปจนใช้มือซ้ายเกาะไว้กับที่นั่งเพราะมือขวาของเขายังเจ็บอยู่ เอมิลี่ก็เกาะกับที่นั่งแน่น ดิเอโก้ ต่อยเข้าที่ใบหน้ามันเอาคืน อย่างแรง สองหมัด ก่อนที่มันจะสวนกลับมาหมัดเข้าที่หน้าอกนึงจนทำให้เขาต้องกลิ้งออกไปข้างๆ และเกิดอาการจุกอย่างหนัก

    "ทรงตัวเครื่องเร็ว"อะตอมพูดขึ้นก่อนจะจับคนเร่งด้านขวาและดันขึ้นเดินเครื่อง

    "พยายามอยู่" ชาร์ลส์พยายามบังคนยานให้คงที่ก่อนที่ เจ้าหุ่นและดิเอโก้ค่อยๆเลื่อนกลับมาในพื้นยานเหมือนเดิม เขามองหาปืนของตน ก็พบว่ามันไขว้อยู่กับเบาะนั่งอีกฝั่งหนึ่ง

    "เฮือก" หุ่นยนต์บีบไหล่ของดิเอโก้ขึ้นมาก่อนจะผลักกระแทกลงกับพื้นยานและก้มลงไปบีบคอ ดิเอโก้พยายามปัดออกแต่ดันหมดเรี่ยวแรงเพราะการจุก มือพยายามไขว้ขวาไปที่ปืนของเขา อีธานเห็นก็รีบคลานไปที่เบาะนั่งอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว มือขวาของเขาคว้าถึงปืนพอดีก่อนจะพยายามดึงออกมา แต่กลับดึงไม่ออก สายปืนมันดันพันติดกับเบานั่ง

    "เดินหน้าเลย"ชาร์ลส์พูดขึ้น อะตอม ขยับไปจับคนเร่งด้านซ้ายก่อนจะค่อยๆดันขึ้น ยานเริ่มเกิดแรงดันกลับหลัง ทำให้หุ่นที่ก้มแบบคอดิเอโก้อยู่กระเด็นไปกระแทกกับท้ายยานอีกครั้ง รวมทั้งอีธานที่กำลังไหลลงไปเขาใช้มือซ้ายของเขาเกาะเบาะไว้สุดแรง ก่อนจะรีบดันตัวขึ้นไปจนถึงอีกเบาะนั่งถัดไปและใช้เท้ายันกับเบาะและก้มหยิบปืนกลขึ้นมาและยิงกราดรัวเข้าที่หุ่นยนต์จนหมดสภาพพร้อมกับกระสุนปืนที่หมดเช่นเดียวกันและกลายเป็นเศษเหล็กพรุนๆอันหนึ่ง ทุกอย่างค่อยๆกลับเป็นปกติ "ยานคงที่แล้ว" ดิเอโก้ ลุกขึ้นก่อนจะสะบัดไหล่เบาๆ และเดินไปดูทางด้านหน้ายาน เอมิลี่ รีบเข้าไปดูแขนของอีธานอย่างรวดเร็ว

    "ขอดูแขนหน่อยค่ะ" เอมิลี่จับแขนเบาๆและพลิกดูรอบๆ

    "แขนพลิกค่ะ พยายามขยับน้อยๆนะค่ะ" อีธานพยักหน้า

    "มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย มีใครรู้ไหม" ดิเอโก้โพล่งถามออกไป ทุกคนในยานเงียบลงไม่มีเสียงตอบรับ ยานหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ

    "ฉันรู้" อะตอมพูดขึ้นพร้อมกับทุกคนในยานค่อยๆหันไปมองเขาอย่างตั้งใจ

    "โครงการนี้มันเกิดขึ้นมานานแล้ว" พูดจบเขาก็หยุดไป ชาร์ลส์รีบถามกลับไป

    "โครงการอะไร" อะตอมค่อยๆตอบช้าๆ

    "โครงการสำรวจด้านมืดดวงจันทร์"

    "ประมาณปีที่แล้ว ตอนที่ศูนย์วิจัยหลักคงตัว อุปกรณ์พร้อม เราจับสัญญาณอุกกาบาตตกลงที่ดวงจันทร์ พวกเราอพยบออกไปก่อนจะเกิดการปะทะ หลังจากการปะทะเราก็ใช้ดาวเทียมส่องภาพดูแต่เรากลับไม่พบร่องรอยการปะทะแต่อย่างใด เราจึงเริ่มสำรวจและติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจังโดยปกปิดจากสื่อภายนอก จนเราตรวจจับสัญญาณที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคอย่างหนึ่งได้ตรงเขตมืดของดวงจันทร์ พอเราสำรวจดูก็เกิดแบบนี้ขึ้นนี่แหล่ะ" ทุกคนในยานได้ฟังเรื่องก็เงียบไปสักพัก ก่อนที่เอมิลี่จะถามขึ้น

    "แล้วเราจะเอายังไงต่อไปค่ะ" ดิเอโก้ทำท่าคิดก่อนจะตอบไปว่า

    "เราต้องรีบกลับโลกให้เร็วที่สุดและรีบติดต่อศูนย์ใหญ่" อะตอมรีบหันไปตอบ

    "เรากลับด้วยยานลำนี้ไม่ทันแน่อย่างน้อยก็ประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆตอนนี้ พวกมันกำลังเดินทางไปโลกแล้วดูสิ" อะตอมชี้ผ่านกระจกให้ดู ยานลำใหญ่ของมัน 2 ลำกำลังค่อยๆบินออกจากชั้นบรรยากาศจำลองมุ่งหน้าไปทางโลก พร้อมกับยานขนส่งที่ชาร์ลส์นั่งมาอีก 4 ลำ

    "พอมีทางไหม" ชาร์ลส์ถามขึ้น

    "ตอนนี้เรากลับไปติดต่อที่ศูนย์วิจัยก็ไม่ได้ด้วยสิ ทำยังไงดีน้าาา" อะตอมพยายามนึกอย่างสุดชีวิต

    "เดี๋ยวๆ ยังมีอีกวิธีนึง" เขารีบแตะดูรอบๆตัวตามกระเป๋า

    "บ้าเอ้ย ดันไม่ได้เอามาสะด้วย" ชาร์ลส์ เกิดอาการงงจนถามไป

    "ยังไงกันแน่ ฉันเริ่ม งง ละ" อะตอมเลิกคนหาของก่อนจะหันไปตอบ

    "ตอนเมื่อประมาณปี 2197 สมัยที่เรายังไม่ย้ายมาที่ศูนย์วิจัยหลักนี้จะมีศูนย์วิจัยย่อยอยู่ เราน่าจะสามารถไปหาเครื่องมือสื่อสารจากที่นั่นได้" อีธานหันไปแย้งเสียงแข็ง

    "นายแน่ใจหรอ นั่นมัน 10 ปีแล้วนะ มันยังจะใช้ได้หรอ" อะตอมยักไหล่

    "ไม่ลองก็ไม่รู้ ยังไงนี่ก็ทางเลือกเดียวอยู่แล้วนี่" ดิเอโก้พยักหน้า

    "ไปเลย"



    "ถึงแล้ว โอ้ พึ่งได้มาเห็นของจริงนะเนี่ย" อะตอมพูดขึ้น ยานหยุดจอดลงบนพื้นที่มีตัว H ตัวใหญ่วาดอยู่บนพื้น สภาพมีลอยแตกและดูเก่าเหมือนไม่ได้ใช้การมานาน

    "ไหนหละ ฉันเห็นแต่ลานจอด" ชาร์ลส์ถาม

    "ใจเย็นๆสิ" เขาก็ปิดปุ่มทั้งหมดของยาน ทำให้ยานดับลง จากนั้นพื้นตัว H ค่อยๆเลื่อนออกด้านข้างและมีพื้นอีกฝั่งเข้ามารองรับและค่อยๆหมุนลงไปใต้พื้นดวงจันทร์ช้าๆ

    "เหมือนในหนังเลย" ชาร์ลส์พูดขึ้น จนเมื่อลงมาสุดพื้น ไฟรอบๆข้างก็ติดเผยให้เห็นศูนย์วิจัยขนาดกลางใต้พื้นผิวดวงจันทร์ ก่อนจะมีเสียงประกาศขึ้นว่า 'เปิดระบบให้ ออกซิเจนในอาคารและแรงโน้มถ่วงจำลอง กำลังปิดประตูทางเข้า' ประตูเบื้องบนที่นำเขาเข้ามาค่อยๆปิดลง

    "เปิดประตูได้" อะตอมกดปุ่มเปิดประตูด้านข้าง ทั้งหมดค่อยๆเดินออกมาจากยาน

    "เรามีเวลาเท่าไหร่" ดิเอโก้ถามขึ้น

    "ถ้าคำนวณตามความเร็วแล้วเร็วสุดกว่ายานนั่นจะไปถึงก็ประมาณ 3 ชั่วโมงได้" อะตอมตอบก่อนจะเอามือดันแว่นของตนขึ้น

    "งั้นต้องรีบแล้ว อะตอมหาแผนที่มา" พูดจบอะตอมก็รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว

    "ส่วนนายมากับฉันเราจะไปหาเครื่องมือสื่อสาร" เขาชี้นิ้วไปทางอะตอมที่กำลังวิ่งมาพร้อมกับแผนที่ 2 ใบ

    "แล้วเธอนักศึกษาแพทย์กับคนเจ็บแล้วก็เอิ่ม.." เขามองไปทางชาร์ลส์

    "ชาร์ลส์" เอมิลี่ตอบแทน เขาหันไปมองหน้าเธอแบบแปลกใจ

    "ใช่ พวกเธอทั้ง 3 คนพาหมอนี่ไปรักษาสะแล้วก็หาของใช้ที่จำเป็นมาด้วยแล้วกัน แล้วอีก 5 นาทีกลับมาเจอกัน" ทุกคนพยักหน้ารับ







    ในแผนที่ มีห้องโถงกลางใหญ่คือห้องนี้ไว้ใช้ทำการทดลองต่างๆ และมีทางแยกออกเป็นสองฝั่งซ้ายและขวา และเป็นห้องใหญ่ต่างๆและห้องย่อยอีก 2 - 3 ห้องและก็จะมีทางเดินต่อออกไปอีกทางด้านข้างของห้องหลักและสุดท้ายก็จะมาต่อกันที่ห้องโถงใหญ่อีกห้องหนึ่ง คล้ายๆกับสี่เหลี่ยมที่มีมุมเป็นห้องหลัก

    "โอเค แยกย้ายกันไปได้" ดิเอโก้พูดจบก็เดินหันหลังไปที่ประตูด้านซ้าย ชาร์ลส์ก้มลงพยุงอีธานขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะเดินไปพร้อมกับเอมิลี่ที่ประตูทางขวา

    "อย่าลืมนะ กลับมาเจอกันที่เดิมในอีก 5 นาที" เสียงพูดทิ้งท้ายตามหลังชาร์ลส์มาเบาๆ



    ดิเอโก้และอะตอมเข้ามาในห้องหลักแรก

    "โอเค นายรีบหาเครื่องมือสื่อสารด่วนเลย ส่วนฉันจะไปหาอาวุธก่อน" ทั้งสองแยกย้ายกันไป อะตอมเปิดดูแผนที่ ก่อนจะเห็นห้องสังเกตการณ์ที่อยู่ในห้องหลักอีกห้องหนึ่ง

    "เจอห้องสังเกตการณ์แล้วแต่อยู่ข้างหน้าอีกห้องนึง" ดิเอโก้พยักหน้ารับ อะตอมรีบวิ่งไปอีกห้องอีกห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้ามาเขารีบหันซ้ายหันขวามองหาสิ่งที่เป็นประโยชน์

    "เฮ้ มาดูนี่สิ" อะตอมตะโกนเรียก ดิเอโก้รีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว เบื้องหน้าเขาคือแผงควบคุมขนาดใหญ่ที่มีสภาพเก่ามาก และเห็นอะตอมกำลังนอนต่อสายไฟอยู่ใต้เครื่องสั่งการ

    "ไอ้นี่จะใช้ได้หรอ" อะตอมค่อยๆดันตัวออกจากใต้เครื่อง

    "น่าจะใช้ได้ ลองดูก่อน" เขากดปุ่มให้ไฟฟ้าไหลเข้า ปรากฏว่าไม่เกิดอะไรขึ้นเลย

    "บ้าเอ้ย" อะตอมทำท่าอารมณ์เสีย

    "ไฟฟ้ามันหมดมันไม่พอที่จะทำให้เครื่องสั่งการทำงานหนะสิ" เขาปาดเหงื่อเบาๆ

    "แล้วมีวิธีอื่นไหม เช่นไปเอาไฟฟ้าจากที่อื่นมา" ดิเอโก้ลองเสนอไอเดีย

    "ใช่ๆ ยานที่เราขับมา มันยังมีพลังงานเหลืออยู่ อาจจะพอเอามาใช้ติดต่อได้สักประมาณครึ่งนาทีได้" ดิเอโก้พยักหน้า

    "แค่นั้นก็พอแล้ว"



    "เอาเขาวางบนเตียงเลยค่ะ"เอมิลี่ชี้ไปทางเตียงกลางห้อง ชาร์ลส์ทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว เขาหยิบแผนที่ขึ้นมาดู

    "ห้องพยาบาลก็น่าจะมียานะ" ชาร์ลส์ออกไอเดีย "ไม่มีหรอก หมดอายุไปนานแล้ว" เอมิลี่ที่ยืนสำรวจตู้ยาบอก

    "แล้วจะทำยังไงหละ" ชาร์ลส์ถาม

    "ขาพลิก กระดูกแขนร้าวกับส่วนแผลจากที่โดนต่อยแค่ช้ำนิดหน่อยให้เขาพักสักหน่อย" ชาร์ลส์พยักหน้า ก่อนจะหันไปหาอีธาน

    "หิวน้ำไหม" อีธานพยักหน้าเบาๆ

    "เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำในยานละกัน น่าจะพอเหลืออยู่ ฝากเธอดูอีธานด้วยละกัน" ชาร์ลส์พูดจบก็เดินออกไปที่ห้องโถง

    "เฮ้ๆ จะทำอะไรกัน" ด้านหน้าเขาเห็นอะตอมและดิเอโก้กำลังแบกบางอย่างรูปทรงสี่เหลี่ยมออกจากท้ายของยาน

    "ช่วยหน่อยๆ" ชาร์ลส์รีบวิ่งไปช่วยยกและค่อยๆเดินไปที่ห้องควบคุม

    "จะทำอะไรกันเนี่ย แล้วไปเอาแบตยานมาทำไม" ชาร์ลส์ถามขึ้นเสียงดัง

    "จะเอาไปต่อกับเครื่องติดต่อหนะสิ" ทั้งสามคนช่วยกันยกจนมาถึงห้องควบคุม

    "ค่อยๆวาง" ทั้งสองคนย่อพร้อมกันและวางบนพื้นอย่างเรียบเนียน

    "โอเค" ชาร์ลส์ค่อยๆลุกขึ้น อะตอมคลานเข้าไปข้างๆเครื่องก่อนจะหยิบสายจากเครื่องมาต่อเข้ากับแบตเตอร์รี่สำรอง และกดปุ่มเปิดเครื่อง

    เครื่องควบคุมด้านข้างถูกเปิดขึ้น และเริ่มทำงาน

    "ระบบปฏิบัติการ การสื่อสารเปิดทำงาน"เสียงจากเครื่องทำงาน อะตอมรีบไปยืนดูที่เครื่องอย่างรวดเร็วและปล่อยให้ชาร์ลส์กับดิเอโก้ที่ไม่รู้เรื่องยืนมองอย่างห่างๆ

    "โปรดป้อนความถี่ของคลื่นสัญญาณวิทยุ" อะตอมทำหน้าเครียดอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดจนเขาไม่สามารถขมวดได้อีกต่อไป

    "ซวยแล้วสิ เครื่องนี้มันเป็นระบบเก่า มันรับได้แค่คลื่นวิทยุติดต่อจากในโลก ตอนนี้มันไม่มีใครใช้คลื่นวิทยุแล้วด้วย" ชาร์ลส์บ่นขึ้น

    "โห ที่นี่ออกจะหรู แต่ดันรับแค่คลื่นวิทยุเนี่ยนะ" อะตอมตอบกลับด้วยเหตุผล

    "แต่ก่อนการเอาอุปกรณ์ขึ้นมามันลำบากและใช้ค่าใช้จ่ายเยอะ ก็เลยเอามาได้แค่นี้" ดิเอโก้ยืนนิ่งคิดไม่ตกเกี่ยวกับปัญหานี้ อยู่ดีๆชาร์ลส์ก็ตะโกนออกมา

    "เห้ย ! คลื่นวิทยุใช่ไหม" อะตอมพยักหน้า ชาร์ลส์ยิ้มออกมาเล็กน้อย

    "งั้นก็พอจะมีทางอยู่"





    "เวลาของวันนี้ก็คงจะหมดลงแล้วนะค่ะ สวัสดีค่ะ" ผู้หญิงที่นั่งพูดอยู่เมื่อพูดจบเธอก็หันหน้าไปมองผู้ชายที่อยู่นอกห้อง โดยภายในห้องมีเพียงห้องว่างๆและโต๊ะกับไมค์อีกตัวหนึ่ง ด้านนอกถูกกั้นด้วยกระจกใส เธอพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่ผู้ชายจะพยักหน้ากลับเหมือนเป็นสัญญาณ เธอเดินออกมาช้าๆก่อนจะนั่งบนโต๊ะข้างๆผู้ชาย

    "พอแล้วหรอ" ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างนอกถาม เธอตอบกลับด้วยการพยักหน้าเบาๆอีกรอบ

    "งั้นเดี๋ยวฉันจะเตรียมขนอุปกรณ์ขึ้นรถ" เขาลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกไป ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่คนเดียว เธอค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบกระดาษที่วางข้างๆขึ้นมาดู

    ' หมดสัญญา '

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด !! เสียงสัญญาณดังขึ้นจากอุปกรณ์วิทยุข้างๆเธอโดยไม่ทันตั้งตัว

    "เจมส์ เจมส์" เสียงตะโกนเรียกให้ผู้ชายที่วิ่งออกไปกลับมาเข้ามาอย่างรวดเร็ว

    "มีอะไรเจนนี่" เจนนี่ชี้นิ้วไปที่เครื่องวิทยุ

    "มีคนส่งสัญญาณมาหาเรา" เจนนี่รีบวิ่งไปนั่งเก้าอี้และหยิบโน้ตบุ๊คออกมาและรีบต่อเข้ากับอุปกรณ์ข้างๆอย่างรวดเร็ว

    "ใคร" เจมส์ถามขึ้น

    "ก็มาดูกัน" เจนนี่กดแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วก่อนจะมีเสียงดังขึ้นมาจากลำโพงที่ต่อเข้ากับโน้ตบุ๊คเธอ

    "เฮ้ มีใครได้ยินไหม" เสียงเสียงหนึ่งดังออกมา

    "มีค่ะ" เจนนี่รีบตอบอย่างรวดเร็ว

    "ผมร้อยตำรวจตรี ดิเอโก้ นี่เป็นเรื่องฉุกเฉิน ผมต้องการความช่วยเหลือ" ทั้งเจมส์และเจนนี่หันไปมองหน้ากันอย่างงงๆ

    "นี่เป็นเรื่องจริง ย้ำเรื่องจริง ตอนนี้กำลังมียานอวกาศลำหนึ่งเข้าไปที่โลก พวกมันเป็นคล้ายๆกับหุ่นอะไรสักอย่าง" เจนนี่รีบตัดบท

    "เดี๋ยวๆ นี่คุณจะบอกว่า" ดิเอโก้รีบตอบอย่างรวดเร็ว

    "ใช่ พวกเราโดนโจมตีแล้ว" อะตอมทำมือสะบัดไปมาส่งสัญญาณให้ดิเอโก้รีบพูด ก่อนจะชี้ให้ดูแบตเตอร์รี่บนจอที่ลดลงเรื่อยๆ

    "ฟังนะ ตอนนี้พวกเธอทั้งสองคนต้องไปเตือนทางกองทัพโดยด่วนเลย ไปที่กองทัพหรือกรมที่ใกล้ที่สุดแล้วบอกว่า นภาทมิฬ แล้วพวกเค้า.." อยู่ดีๆเสียงก็หายไปพร้อมกับกลายเป็นเสียงซ่าไปซะแทน

    "สัญญาณหายไปแล้ว ทำไงกันดี" เจนนี่ถามขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

    "ฉันก็ไม่รู้ อาจจะโกหกหรือแกล้งกันก็ได้ ใครจะไปรู้" เจมส์เดินไปรอบๆห้องพร้อมพูดถึงความเป็นไปได้

    "แล้วถ้าที่เขาพูดมาเป็นเรื่องจริงหละ" เจมส์หยุดเดินก่อนจะหันไปมองหน้าเจนนี่

    "งั้นเราต้องรีบแล้ว"



    "เป็นไงวันแรกของการทำงาน"อีธานชวนเอมิลี่คุย

    "ก็ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้" เอมิลี่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ

    "เธอคิดว่าวันนี้จะเป็นวันสิ้นสุดของโลกรึเปล่า" อีธานถาม

    "ไม่หรอกมั้งค่ะ" เอมิลี่ตอบ

    "เธอไม่ห่วงครอบครัวหรอ พ่อ กับ แม่" เอมิลี่หันมาตอบหน้านิ่งๆ

    "พ่อแม่ฉันตายตั้งแต่ฉันยังเด็กหนะค่ะ" อีธานชะงักไปสักครู่

    "ขอโทษที" เอมิลี่ยิ้มให้อีธานเบาๆก่อนจะพูดขึ้นว่า

    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" อีธานพลิกตัวไปทางเอมิลี่ช้าๆ

    "แล้วเธออยู่กับใครหละจนเรียนจบแพทย์" เอมิลี่จ้องไปทางอีธานก่อนจะเล่าเรื่องให้ฟัง

    "ก็ฉันอยู่กับน้าจนอายุได้ประมาณ 19 น้าฉันก็ตาย ก็เลยอยู่คนเดียวมาจนตอนนี้หละค่ะ" อีธานพยักหน้า

    "แล้วคุณหละ อยู่กับชาร์ลส์ตลอดเลยหรอ" คราวนี้เป็นฝ่ายของเอมิลี่บ้างที่ถาม

    "คือฉันกับชาร์ลส์เป็นเพื่อนสนิทกันตั่งแต่เด็กๆแล้ว แต่ครอบครัวเราไม่ค่อยมีเงิน ก็เลยจบมาก็ต้องทำงานขนส่งของแบบนี้แหละ" อีธานหัวเราะเบาๆ



    "จะทำยังไงกันดีหละทีนี้" อะตอมกังวล

    "ความหวังตอนนี้อยู่ที่พวกเขาแล้ว" ดิเอโก้ตอบ

    "ตอนนี้เราต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง จะอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้" อะตอมพูด

    "ฉันว่าเราไปช่วยคนที่ศูนย์วิจัยดีกว่า" ชาร์ลส์เสนอไอเดีย

    "นายจะบ้าหรอ ที่นั่นหนะพวกหุ่นเต็มไปหมด" อะตอมโวยวาย

    "ตอนเราออกมานั่นมันก่อนที่พวกมันจะเดินทางไปโลกนะ ตอนนี้มันเดินทางไปโลกแล้ว อย่างน้อยจำนวนพวกมันก็น่าจะลดลงเหลือน้อยจนพวกเราน่าจะพอสู้ไหว" ชาร์ลส์อธิบาย ดิเอโก้พยักหน้าเบาๆพร้อมทำท่าครุ่นคิด

    "แต่ถึงยังไงเราก็ไม่มียานใช้อยู่ดี พลังงานของยานที่เราขับมาก็หมดสะด้วย ยังไม่ทันได้เติมพวกมันก็โจมตีก่อน" อะตอมพูดขึ้น

    "ไม่แน่ที่นี่อาจจะมียานเหลือ หรือไม่ก็แบตเหลือก็ได้เราลองไปหาอีกห้องนึงดูสิ" ชาร์ลส์พูดขึ้นก่อนจะชี้เข้าไปที่อีกห้องโถงหนึ่ง

    "ลองไปดูสิ" ดิเอโก้พูดจบก็เดินไปเปิดประตูห้อง ข้างในนั้นมืดสนิทจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย นอกจากสุดทางเดินมีไฟสีแดงๆอยู่ เขาเดินไปเรื่อยๆจนสุดทาง โดยที่อะตอมและชาร์ลส์เดินตามหลังมา ก่อนจะเอื้อมมือไปกดเปิดไฟ

    พรึ่บ พรึ่บ

    "โอ้วพระเจ้า นี่มันไม่ใช่ห้องโถง มันคือห้องใต้ดิน" อะตอมพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ ด้านหน้าพวกเขาเป็นห้องที่กว้างเหมือนห้องโถงแต่มีความลึกลงไปประมาณตึก 5 ชั้น

    "ดูเหมือนพวกนายจะรีบเก็บของกันมากจนลืมไอ้นี่เลยนะอะตอม" ชาร์ลส์พูดขึ้น



    ชาร์ลส์วิ่งมาอย่างรวดเร็วไปห้องที่อีธานและเอมิลี่อยู่

    "เฮ้ พวกนายต้องไม่เชื่อแน่เราเจออะไร" อีธานและเอมิลี่หันไปมองอย่างรวดเร็ว

    "อะไรค่ะ" ชาร์ลส์กวักมือเรียก

    "เดี๋ยวก็รู้เอง" เขาเดินเข้าไปช่วยเอมิลี่พยุงอีธานขึ้น



    "โอ้วพระเจ้า" พวกอีธานที่มาถึงจนชั้นได้ดินแล้วร้องออกมาอย่างประหลาดใจ

    "โหดไหมหละ" ชาร์ลส์ถามขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา เบื้องหน้าของอีธานและเอมิลี่ คือยานอวกาศลำใหญ่ลำหนึ่งสีขาวปนดำเนื่องจากไม่ได้ดูแลนาน ตัวยานเป็นรูปวงรีมีทางขึ้นอยู่ด้านข้างของยาน ทั้งสามค่อยๆเดินขึ้นไปบนยาน

    "ยานอะไรกันเนี่ย" ด้านในยานนั้นส่วนหน้าเป็นห้องควบคุมและบังคับการ ส่วนด้านกลางเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องเก็บของ และด้านหลังเป็นห้องเครื่อง

    "ยาน Earth Exploration 249 ยานสำรวจรุ่นใหม่ล่าสุดที่โลกสร้างขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่ทำให้หนีกันอลม่าน นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้คิดจะสร้างยานสำรวจเพราะว่าดาวเทียมสะดวกกว่าหนะนะ" อะตอมพูดขึ้นขณะที่อยู่หน้าปุ่มควบคุม ดิเอโก้เดินออกมาจากด้านหลังของตัวยาน

    "นี่น่าจะพอใช้ได้" เขาโยนปืนให้ชาร์ลส์ ชาร์ลส์รีบและมองดูรอบๆปืนมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า 'ปืนยาสลบ' เขาขมวดคิ้วทันทีที่อ่านจบ

    "ถ้ายิงโดนมันแล้วมันนอนหลับก็คงดี" ดิเอโก้หันไปมองเอมิลี่

    "ด้านหลังมีห้องพยาบาลและก็ห้องวิจัยกับห้องเครื่อง" เอมิลี่พยักหน้าก่อนจะพยุงอีธานพาไปด้านหลังของยานช้าๆ ส่วนห้องควบคุมและบังคับการนั้น ตรงกลางห้องเป็นเก้าอี้นั่งพร้อมที่พิงแขน และด้านซ้ายและขวาก็เป็นเก้าอี้วางอยู่ติดกันอีก 2 ตัว และมีแผงวงจรด้านหน้าเต็มไปหมด พร้อมกับบันได 3 - 4 ขั้นเพื่อลงไปพื้นต่างระดับ ด้านล่างเป็นที่นั่งหนึ่งที่ และทางด้านท้าย ส่วนด้านซ้ายเป็นคอมพิวเตอร์เก่าๆ และมีหลอดทดลองวางอยู่ ด้านขวาเป็นเตียงนอนพร้อมกับกล่องพยาบาล และตรงกลางเป็นห้องเครื่องใหญ่ๆ

    "ยานเป็นไงบ้าง"ดิเอโก้เดินเข้าไปหาอะตอมโดยมีชาร์ลส์เดินตามหลัง "เครื่องยนต์อยู่ในสภาพดี แต่ว่าไม่ได้เปิดมานาน อาจจะเปิดไม่ติดก็ได้ ไม่รู้ว่าระบบมันเป็นยังไงบ้าง" ดิเอโก้หันกลับไปมองด้านหลังยาน

    "ก็ลองดูสิ" อะตอมตอบ

    "ได้" ก่อนจะกดปุ่มเปิดเครื่อง

    "เปิด 3 ปุ่มตรงนั้นแล้วก็ ปรับระดับปุ่มนี้ด้วย" ชาร์ลส์พูดขึ้นก่อนจะชี้สั่ง อะตอมพยักหน้ารับ

    "นายไปเรียนรู้เรื่องขับยานมาจากไหนกันหละ" ดิเอโก้ถามขึ้น

    "จากหนังสือหนะ พอดีลุงฉันรู้จักกับนักบินก็เลยขอหนังสือมาให้" ชาร์ลส์พูดขึ้น อะตอมสกิดทั้งสองให้นั่งประจำที่

    "ว่าแต่ใครจะเป็นกัปตันหละ" อะตอมถามขึ้น

    "อย่าหาว่าฉันโอ้อวดหรืออะไรเลยนะ ฉันเป็นตำรวจถูกฝึกมา" อะตอมชี้นิ้วขึ้นมาแล้วทำหน้าสงสัย

    "ที่โรงเรียนเขาสอนให้นายขับยานสำรวจด้วยรึเปล่า" ดิเอโก้หันไปมอง

    "ฉันแค่สั่งไม่ใช่หรอ" อะตอมพยักหน้ากลับ ชาร์ลส์เดินไปนั่งที่ข้างๆเก้าอี้กัปตัน

    "นายเอาไปเลย" อะตอมเดินไปนั่งทางด้านขวา และดิเอโก้นั่งตรงกลาง

    "เริ่มออกยาน" ดิเอโก้เริ่มออกคำสั่ง

    "ครับผมคุณกัปตัน" ชาร์ลส์พูด "ปิดประตูทางขึ้นเรียบร้อย ปิดระบบแรงโน้มถ่วงจำลองเรียบร้อย เปิดระบบให้ออกซิเจนเรียบร้อย" ชาร์ลส์พูดพร้อมกดเปิดปุ่มอะไรบางอย่าง "เอาเครื่องขึ้น" ด้านใต้ยานที่มีล้ออยู่ก็ค่อยๆเลื่อนเข้ามาในยาน และด้านข้างๆที่เป็นช่องวงกลมใหญ่ๆก็มีลมพัดออกมาเบาๆ Earth Exploration ค่อยๆลอยขึ้นจนสุดเพดาน จากนั้นเพดานค่อยๆเปิดออกจนสามารถมองเห็นแสงของดวงอาทิตย์ได้อีกครั้ง

    "ไปกันเลย"



    รถยนต์คันหนึ่งจอดด้านหน้าทางเข้าฐานทัพทหาร ทหารนายหนึ่งเดินมาด้านข้าง พร้อมกับกระจกรถที่ค่อยๆเลื่อนลง

    "มีอะไรให้ผมช่วยครับ" นายทหารกล่าวอย่างสุภาพ

    "ฉันได้รับข้อความมาจากร้อยตำรวจตรี ดิเอโก้ ให้ฝากมาบอกว่านภาทมิฬ" นายทหารนายนั้นทำหน้าเครียดก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้พวกเจนนี่และเจมส์ขับรถเข้าไป ทั้งคู่ขับเข้าไปช้าๆ นายทหารคนนั้นเมื่อเห็นทั้งสองพ้นสายตาไปแล้วจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วติดต่อใครบางคน

    "รหัสนภาทมิฬครับท่าน"



    "ด้านชั้น 4 ของตึกเป็นห้องทดลองแล้วก็ห้องพยาบาลฉันว่ามันน่าจะจับตัวประกันไว้ที่นั่นแหละถ้ามันไม่ได้ฆ่าสะหมดนะ" อะตอมพูดก่อนจะชี้ไปบนกระดาษที่ถูกเขียนด้วยดินสอเป็นรูปตึกอาคารวงกลมที่มีทางเดินเชื่อมไปอีกสองตึกที่มีรูปร่างทรงกลมเหมือนกัน

    "ส่วนด้านขวาเป็นห้องทำงานด้านสำรวจมีเครื่องมือสื่อสารครบทุกอย่าง ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องเก็บอุปกรณ์ไม่แน่อาจจะมีปืนหรืออาวุธอะไรแบบนี้ก็ได้" อะตอมอธิบายคร่าวๆให้คนทั้งยานฟัง

    "โอเค ตอนนี้เรามีกันกี่คน" ดิเอโก้หันไปนับคนบนยาน

    "5 คน เจ็บหนึ่งคน เรามีจำนวนคนที่สามารถใช้งานได้ 4 คน เรามี 3 หน้าที่ แบ่งกันตามนี้นะ" คนในยานตั้งใจฟังอย่างเคร่งครัด

    "ชาร์ลส์กับเอมิลี่ขึ้นไปสำรวจชั้นบนว่ามีหุ่นอยู่กี่ตัวแล้วก็ถ้าให้ดีก็เอาอุปกรณ์พยาบาลมาด้วย อย่าให้โดนจับได้หละ" ชาร์ลส์กับเอมิลี่มองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

    "นาย" ดิเอโก้ชี้ไปที่อะตอม อะตอมทำหน้ามึนก่อนจะเอานิ้วชี้ไปที่ตัวเองเหมือนไม่รู้ตัว

    "นายนั่นแหละ ไปที่ห้องทำงาน เอาอุปกรณ์สื่อสารมาให้ได้สำคัญมาก แล้วก็อย่าให้โดนจับได้เหมือนกัน ส่วนฉันจะไปห้องอุปกรณ์เอง" อะตอมทำหน้าหวาดกลัว

    "ถ้าฉันทำพลาดหละ" ดิเอโก้หันไปมอง

    "เราก็ซวยกันหมดไง" ดิเอโก้เดินไปหาอีธาน

    "อยู่บนยานนะ" อีธานพยักหน้าเบาๆ

    "โชคดีหละ" อีธานอวยพรส่งท้าย ชาร์ลส์ยิ้มให้ก่อนจะชูนิ้วชี้และนิ้วโป้ง

    "ไม่ต้องมาทำน่ารักเลยไอ้ชาร์ลส์" อีธานบ่น ชาร์ลส์หัวเราะเบาๆก่อนจะหันหลังกลับไปมองที่จอ

    "เตรียมตัวให้พร้อมจะถึงแล้ว" ตอนนี้ยาน Earth Exploration อยู่ห่างจากศูนย์วิจัยประมาณ 40 เมตร ดิเอโก้ทวนขั้นตอนอีกรอบหนึ่ง

    "อย่าลืมแผนหละ 20 นาทีกลับมาเจอกันที่หน้าศูนย์วิจัย โอเคไหม" ทั้งหมดพยักหน้า

    "อย่าลืมหละว่า อย่าทำเสียงดัง ศูนย์วิจัยนี้มีชั้นบรรยากาศจำลอง" ชาร์ลส์เตือน

    "พร้อมนะ" ดิเอโก้ถาม

    "ไม่พร้อมได้ไหม" อะตอมตอบเบาๆ ทุกคนในยานหันไปมองอะตอมแม้แต่อีธาน

    "พร้อมก็ได้"





    ทั้งสี่คนวิ่งเข้าไปที่ศูนย์วิจัยก่อนจะเข้าหลบที่กำแพงที่เกิดจากยานอวกาศพุ่งชนทางศูนย์อาหาร ดิเอโก้มองผ่านเข้าไปก็เห็นยานขนส่ง 1 ลำและพบหุ่นตัวหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าทางเข้า เขาทำสัญญาณหยุดและก่อนจะกวักมือให้เดินตาม จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่ซากปรักหักพังด้านหน้าและย่อลงเพื่อหลบสายตาหุ่น พร้อมกับทั้ง 3 คนข้างหลัง

    เขาหยิบหินขว้างออกไปกระแทกกับกำแพงอีกฝั่งของศูนย์วิจัยทางด้านขวาจนเกิดเสียงดังขึ้น หุ่นยนต์หันไปอย่างรวดเร็วและรีบวิ่งไปดู ดิเอโก้กวักมือเรียกให้ทั้งหมดวิ่งไปที่หน้าศูนย์วิจัยอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดรีบวิ่งตามอย่างรวดเร็ว เจ้าหุ่นที่ไม่รู้เรื่องกำลังก้มหยิบก้อนหินขึ้นมาดูอย่างประหลาดใจ อะตอมที่วิ่งอยู่หลังสุดดันไปเตะก้อนหินเล็กๆกระแทกเข้ากับกำแพงจนเกิดเสียงดังขึ้น

    หุ่นยนต์รีบหันกลับมาทันทีแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า มันจึงกลับไปสนใจมองรอบๆต่อและเดินตรวจตราศูนย์วิจัยทางด้านหลัง

    "เกือบไป" อะตอมกำหน้าอกตัวเองก่อนจะพูดปลอบใจ

    "โอเคทำตามแผนเดิมนะแยกย้ายได้" ทั้งหมดค่อยๆย่องเข้าไปที่ตรงกลางของตึกแต่ก็ไม่พบหุ่นแม้แต่ตัวเดียว ชาร์ลส์เริ่มเอะใจแต่ยังไม่พูดอะไร

    ดิเอโก้ค่อยๆเดินออกไปทางตึกด้านซ้าย พร้อมกับอะตอมที่เดินอย่างกล้าๆ กลัวๆไปทางตึกฝั่งขวา ชาร์ลส์และเอมิลี่ จึงเดินไปขึ้นลิฟท์ทางฝั่งตรงข้ามกับทางเข้า และกดเลข 4 ลิฟท์เลื่อนไปจนถึงชั้น 4 และเปิดออก ชาร์ลส์มองดูซ้ายและขวาก็ไม่พบใคร ด้านซ้ายของชั้นบนเป็นห้องพยาบาล และด้านขวาเป็นห้องทดลองใหญ่ๆ

    ชาร์ลส์ค่อยๆเดินไปทางขวาก่อนจะชะโงกหน้ามองเข้าไปผ่านกระจกใสเขาก็เห็นคนในศูนย์วิจัยนั่งอยู่ในห้องพร้อมกับหุ่นหนึ่งตัวที่ยืนคุมอยู่ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อหุ่นตัวนั้นกลับหันหลังมามองและเห็นชาร์ลส์พอดี แต่สิ่งที่เขาแปลกใจอย่างหนึ่งคือตาของมันกลับเป็นสีเขียว เขารีบดึงหน้ากลับอย่างรวดเร็ว

    "นั่นไง" ชาร์ลส์พูดขึ้น เอมิลี่หันไปมองด้วยสีหน้าตกใจ ชาร์ลส์ค่อยๆหันกลับไปมองอีกครั้งอย่างช้าๆ แต่ว่าเจ้าหุ่นตัวเดิมที่ยืนเฝ้าอยู่นั้นกำลังเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ ชาร์ลส์ดึงหน้ากลับอย่างรวดเร็ว และหยิบปืนยาสลบกำไว้ในมือแน่น ถึงแม้จะรู้ว่ามันใช้ไม่ได้ผลก็เถอะ

    หุ่นเดินมาและเปิดประตูอย่างช้าๆ เอมิลี่บีบแขนชาร์ลส์แน่น เขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นที่แขน เอมิลี่คงจะกลัวมาก ชาร์ลส์ขมวดคิ้วและจ้องไปหุ่นตัวนั้น แต่ปรากฏว่ามันกลับหันขวาและเดินจากไปอย่างไม่แยแสทั้งสองคน และเดินลงไปชั้นล่างช้าๆ เอมิลี่ถอนหายใจเบาๆ แต่ชาร์ลส์กลับยังขมวดคิ้วเข้มเหมือนเดิมโดยในใจได้แต่เพียงถามกับตัวเองว่า ทำไม ทั้งๆที่เจ้าหุ่นตัวนั้นเห็นเขาแล้วแท้ๆ

    "ไปกันเถอะ" ชาร์ลส์พูดกับเอมิลี่ ก่อนจะค่อยๆย่องเข้าไปเปิดประตูและเดินไปหาคนที่โดนจับไว้

    "โอ้ พระเจ้า ช่วยเราด้วย" คนในห้องร้องโอดโอย

    "ชู่วๆ" ชาร์ลส์บอกให้ทุกคนในห้องเบาเสียงลง ก่อนจะกวักมือเรียก และพาเดินไปที่ลิฟท์ เมื่อถึงลิฟท์เขาก็มองดูในกลุ่มคนก็พบนักบินที่มากับยานขนส่ง

    "นักบินพาคนพวกนี้ไปขึ้นยานแต่อย่าพึ่งออกยานจนกว่าพวก ผมจะออกมานะครับแล้วก็ระวังหุ่นด้านหน้าด้วย เอานี่พิกัดจุดที่พวกคุณจะปลอดภัย" นักบินพยักหน้าตอบก่อนที่คนจะค่อยๆถยอยกันลงลิฟท์ไปชาร์ลส์สกิดเอมิลี่เบาๆ

    "ไปดูห้องพยาบาลกันเถอะ" เอมิลี่พยักหน้า



    ดิเอโก้หยิบปืนยาสลบออกมาและถือชิดตัวไว้ด้วยสัญชาตญาณของทหาร เขาเดินตรงไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ จนถึงสุดทางเดินเป็นประตู ดิเอโก้กดปุ่มเปิดอัติโนมัติ ฟืดด ด้านในห้องเป็นห้องโถงใหญ่ๆ และมีชั้นเก็บของวางเรียงเป็นเส้นตรง ก่อนจะเว้นว่างตรงกลางด้านหน้าประตู และเรียงต่อไป โดยแบ่งตามลักษณะอุปกรณ์

    เสียงของประตูทำให้หุ่นตัวหนึ่งที่อยู่ข้างในห้องได้ยิน ก่อนที่มันจะเดินไปตามที่มาของเสียงอย่างรวดเร็ว มันเดินผ่านช่องตรงกลางชั้นวางจนมาถึงประตูแต่กลับไม่มีใครอยู่ ดิเอโก้แอบหลบอยู่หลังชั้นเก็บก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะค่อยๆย่องออกไปหาช่องเก็บของอาวุธอย่างระมัดระวัง



    "คิดถูกไหมเนี่ยที่มาเนี่ย" อะตอมเดินไปบ่นไปกับตัวเองเบาๆจนมาถึงหน้าห้อง แต่ดันมีเสียงบางอย่างมากวนใจเขา

    แก๊ง แก๊ง อะตอมขมวดคิ้วยืนนื่งทันทีโดยอัติโนมัติและหันไปฟังเสียงอย่างตั้งใจ เขาค่อยๆเดินไปที่ประตูช้าๆและเอาหูไปแนบกับประตู ครืด แก๊ง เปรี๊ยๆ เสียงหลายเสียงดังขึ้นมากมายในห้องจนได้ยินมาถึงข้างนอก อะตอมกดเปิดประตูช้าๆ แต่เสียงเปิดประตูกลับกลมกลืนไปกับเสียงต่างๆ

    อะตอมค่อยๆยื่นหัวเข้าไป ก็เห็นเศษเหล็กกระเด็นลอยออกมาจากด้านหน้าตกลงตามพื้นที่ต่างๆจนบางทีสายไฟเกือบกระแทกเข้ากับหน้าของเขา เขาค่อยๆเดินเข้าไปอย่างช้าๆจนถึงเก้าอี้นั่งของตน ด้านหน้าเป็นหุ่นยนต์ตัวหนึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับเครื่องมือสื่อสาร อะตอมค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้ของเขาที่วางข้างโต๊ะและยกขึ้นมาพาดไหล่อย่างช้าๆ

    แต่หุ่นยนต์ตัวนั้นก็ยังไม่สนใจและยังคงกดปุ่มอะไรมากมายบนอุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร ในจอนั้นเขียนว่า

    'ปลดล๊อคสำเร็จ' หน้าจอค่อยๆเปิดข้อมูลต่างๆเด้งขึ้นมา มันเอานิ้วไปจิ้มที่ดาวเทียม 'ดาวเทียมสื่อสาร ETMCOM-22 เวลา 13.45 พิกัดจุด 26.25 องศา' เมื่อเจอข้อมูลที่ต้องการมันหันกลับหลังไปอย่างรวดเร็ว

    เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อะตอมกำลังเดินจะพ้นประตูพอดี อะตอมจ้องหน้ามันอย่างจังๆ ตาจากสีเหลืองค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง อะตอมแสยะยิ้มให้มันเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว หุ่นต์ตัวนั้นรีบวิ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะยกเก้าอี้และหมุนตัว 2 ถึง 3 รอบและขว้างออกไป เก้าอี้ที่โดนเหวี่ยงและหมุนหลายรอบพุ่งมาอย่างรวดเร็ว

    อะตอมกระโดดลงกับพื้น ก่อนที่เก้าอี้นั้นจะลอยข้ามบ่อน้ำไปกระแทกกับกำแพงอีกฝั่งแรงมากจนเก้าอี้นั้นติดกับกำแพงและเกิดเป็นเสียงดังก้องขึ้น

    "นั่นไง" ดิเอโก้พูดขึ้น หุ่นจากห้องของเขานั้นรีบวิ่งไปทางห้องโถงอย่างรวดเร็ว ดิเอโก้รีบวิ่งหาปืนอย่างรวดเร็ว

    "อยู่ไหนนะ" เขาวิ่งไปจนเกือบสุดห้องก็พบกับชั้นเก็บอาวุธ

    "บ้าเอ้ย" ดิเอโก้บ่นขึ้นเมื่อพบว่ามีแต่ปืนพก 2 กระบอกเท่านั้น เขารีบหยิบมาและวิ่งไปที่ห้องโถงอย่างรวดเร็ว อะตอมรีบตะเกียดตะกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งไปทางประตูทางออกก็พบกับหุ่นที่อยู่ด้านนอกวิ่งเข้ามาด้านใน เขารีบเปลี่ยนทิศทางกลับหลังอย่างรวดเร็ว

    "โอ้พระเจ้าๆ" เขาทำท่าจะวิ่งไปทางตึกปีกขวาแต่ก็พบกับหุ่นอีกตัวหนึ่งที่วิ่งมาอีกพอดี เขาโดนล้อมทั้ง 4 ทิศทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ชาร์ลส์กับเอมิลี่วิ่งออกมาจากห้องพยาบาลและมองลงไปข้างล่าง ชาร์ลส์ตัดสินใจหยิบเก้าอี้ในห้องพยาบาลมาวางติดกับที่กั้นวิ่งถอยหลังเข้าห้องพยาบาลกลับไปจนสุดห้อง

    "นี่ คุณจะไปไหน" เอมิลี่ถามด้วยความสงสัย

    "อะตอมต้องการความช่วยเหลือ เธอลงลิฟท์เอาละกัน" พูดจบชาร์ลส์ก็ออกตัววิ่งจากในสุดห้องมาด้วยความเร็วมากที่สุดของเขาก่อนจะเหยียบเก้าอี้ที่เขาวางไว้และกระโดดลอยตัวออกไปเกาะกับโปสเตอร์และค่อยๆไถลตัวลงมาจนมาถึงชั้นล่าง โดยแรงที่เขากระแทกกับโปสเตอร์ทำให้ด้านปลายของมันปลิวไปด้านหน้าทำให้เขาตกลงไปทางด้านข้างของอะตอมแต่ด้วยแรงจากแรงโน้มถ่วงจำลองทำให้แรงที่ดึงเข้าลงมายังเยอะอยู่จนเมื่อตกถึงพื้นเขาก็ล้มกลิ้งลงไปหลายตลบ

    อะตอมรีบวิ่งไปพยุงชาร์ลส์ขึ้นมา พร้อมกับหุ่น 3 ตัวที่รายล้อมพวกเขาค่อยๆเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

    ปัง ปัง ดิเอโก้บุกมาช่วยพร้อมกับยิงปืนใส่หุ่นตัวด้านหน้าเขาอย่างรวดเร็ว หุ่นอีก 2 ตัวทั้งด้านหน้าและด้านข้างกระโดดจู่โจมพุ่งใส่ทันที ชาร์ลส์ก้มหลบและไถลไปกับพื้นก่อนจะหมุนตัวกลับ ทำให้หุ่นตัวนั้นคว้าอะตอมตกลงไปในน้ำ ส่วนอีกตัวกระโดดเข้าใส่ดิเอโก้ ทำให้เขาพุ่งไปกระแทกกับกำแพง

    ชาร์ลส์รีบลุกขึ้นและวิ่งไปที่บ่อน้ำก่อนจะกระชากหุ่นที่คว้าอะตอมกระเด็นออกมาจากสระ และดึงอะตอมให้ลุกขึ้น ดิเอโก้ชกหมัดซ้ายเข้าไปที่หน้าของหุ่น ทำให้มันกระเด็นออกไปเล็กน้อยก่อนจะหยิบปืนขึ้นมายิงซ้ำจนพัง

    "ดิเอโก้ ปืน" ชาร์ลส์ตะโกน ดิเอโก้เตะปืนที่ตกอยู่บนพื้นให้ชาร์ลส์เขาก้มหยิบและหันไปยิงหุ่นที่กำลังพุ่งมาทางเขาพอดี ปัง ปัง

    ติ้ง ลิฟท์เปิดออก เอมิลี่วิ่งมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับกล่องพยาบาลขนาดเล็ก

    "ไปกันเถอะ" ดิเอโก้พูด ทั้งหมดพยักหน้าและวิ่งออกจากตึกอย่างรวดเร็ว ดิเอโก้ที่วิ่งตามหลังคนสุดท้ายได้ยินเสียงอะไรแปลกๆจึงหันหลังไปดู

    ปรากฏว่าหุ่นตัวที่เขายิงกลับลุกขึ้นมายืนตรง ดิเอโก้ตั้งปืนไว้รออย่างรวดเร็ว

    "มาเร็วดิเอโก้" ชาร์ลส์ที่อยู่ตรงทางออกตะโกน ตัวของหุ่นอยู่ดีๆก็มีภาพเลื่อนไปเลื่อนมาเป็นตัวอักษร เขียนว่า

    'จับได้แล้ว'

    หลังจากนั้นหุ่นที่ไม่รู้ที่มากระโดดจากด้านบนตระคลุบดิเอโก้อย่างรวดเร็ว

    "ดิเอโก้" ชาร์ลส์ตะโกนก่อนจะวิ่งเข้าไปหา

    "ไป รีบไป เร็ว นี่เป็นคำสั่ง" ดิเอโก้ตะโกนกลับมา จากนั้นก็มีหุ่นอีก 4 ตัววิ่งออกมาจากตึกเข้ามาทางชาร์ลส์

    "ไปที่ยานเร็ว" ชาร์ลส์สั่งก่อนจะออกวิ่งไปพร้อมกับเอมิลี่และอะตอม ทั้งสามวิ่งอย่างสุดชีวิตจนไปถึงที่จอดยาน

    "เห้ยๆ" อีธานตกใจ

    "ออกยาน" ชาร์ลส์รีบวิ่งไปตรงแป้นควบคุมพร้อมกับนำยานขึ้นอย่างรวดเร็ว

    "เกิดอะไรขึ้นเนี่ย" อีธานถามขึ้น

    "เราทำถูกรึเปล่าค่ะที่ทิ้งคุณดิเอโก้ไว้แบบนั้น" เอมิลี่พูดขึ้น

    "ฮ๊ะ อะไรนะ ทิ้งไว้" อีธานทวนคำอย่างตกใจ

    "แล้วเราจะทำยังไงกันดี" อะตอมถามกลับ บนยานอยู่ในความวุ่นวาย

    "หยุด" ชาร์ลส์ตะโกนดังลั่น

    "เอมิลี่กล่องพยาบาลมีอะไรพอจะช่วยอีธานได้ไหมลองดู" เอมิลี่พยักหน้ากลับ

    "อะตอม นายหยิบกระเป้าอะไรมาด้วยไม่ใช่หรอ" อะตอมรีบเปิดกระเป๋าให้ดู

    "อุปกรณ์สื่อสารฉุกเฉิน" ชาร์ลส์ยิ้ม

    "ดี ลองติดต่อดู"



    "เชิญทางนี้เลยครับ"นายทหารคนหนึ่งนำ เจนนี่และเจมส์เดินทางฐานทัพ ด้านในนั้นมีแต่ความวุ่นวาย พนักงานต่างยุ่งกับการทำงานของตัวเอง แต่เจมส์กลับมีความสุขในการได้มองเห็นการทำงานของทหาร นายทหารพาเจนนี่และเจมส์เข้าไปในห้องโถงใหญ่ๆเพื่อไปพบกับ ทหารอีกคนหนึ่ง

    "สวัสดีครับ ผมนายพลอวกาศเอก มาร์คัส อย่างแรกที่ผมอยากจะถามคือคุณได้รหัสนี้มาจากไหน" มาร์คัสจ้องหน้าเจนนี่และเจมส์เหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อ

    "ฉันได้รหัสมาจากวิทยุติดต่อค่ะ" เจนนี่ตอบ

    "ติดต่อกับใคร" มาร์คัสถามไปอีกคำถาม

    "ร้อยตำรวจตรี ดิเอโก้" เจนนี่ตอบอีกรอบ

    "ท่านครับ เรืออวกาศตรี ดิเอโก้ จาคอป เป็นคนดูแลงานขนส่งอุปกรณ์ไปดวงจันทร์ครับ"ทหารที่นั่งโต๊ะพูดขึ้นก่อนจะเดินมายื่นเอกสารให้มาร์คัส มาร์คัสหันไปหา เจนนี่กับเจมส์อีกครั้ง

    "ขอบคุณมากนะ ที่นำข้อมูลมาส่งแต่จะเป็นอะไรไหมถ้าผมมีอะไรให้คุณช่วยอีก"

    "เราเต็มใจครับ" เจมส์ตอบพร้อมยืดอก

    "มีการติดต่อมาจากนอกอวกาศที่เราสงสัยว่าน่าจะเป็นดิเอโก้ เราจึงขอให้คุณมาตรวจสอบว่าใจคนเดียวกันรึเปล่า" มาร์คัสพูดขึ้นก่อนจะพาทั้งสองไปยังด้านหน้าของห้อง ที่เป็นหน้าจอ

    "ฮัลโหลๆ" เสียงจากเครื่องสื่อสารดังขึ้น

    "ผม ชาร์ลส์ สมิธ มีใครได้ยินผมไหม" ชาร์ลส์ที่ติดต่อมาจากเครื่องมือสื่อสารฉุกเฉินพูดขึ้น

    "ผมนายพลอวกาศเอกมาร์คัส ผมได้ข่าวมาจากเพื่อนของคุณที่ เรืออวกาศตรีดิเอโก้เป็นคนสั่งการ" มาร์คัสพูดรายงาน

    "ตอนนี้มีเรื่องด่วนมาก มียานอวกาศ 2 ลำพร้อมกับยานขนส่งกำลังพุ่งไปที่โลก นั่นไม่ใช่ยานของเรามันเป็นยานของพวกหุ่นอะไรสักอย่าง" อะตอมรีบตอบอย่างรวดเร็ว

    "ใจเย็นๆ" มาร์คัสพูด

    "แล้วเรือวกาศตรี ดิเอโก้หละ" มาร์คัสถาม

    "โดนจับไปแล้ว" ชาร์ลส์ตอบ มาร์คัสพยักหน้าเบาๆ

    "ตอนนี้ผมอยู่บนยาน Earth Exploration 249 มีคนเจ็บหนึ่งคน หมอหนึ่งคน นักวิทยาศาสตร์หนึ่งคน แล้ว..." หน้าจออยู่ๆก็ดับไป

    "เกิดอะไรขึ้น" พนักงานคนควบคุมรีบหาต้นตออย่างรวดเร็ว

    "ดาวเทียม" เจมส์พูดเบาๆแต่มาร์คัสดันได้ยินเข้า

    "อะไรนะ" มาร์คัสหันไปถาม

    "ดาวเทียม ถ้าพวกเขาติดต่อมาด้วยอุปกรณ์ฉุกเฉินแบตมันไม่หมดง่ายๆแน่ แล้วอยู่สัญญาณหายไปได้ยังไง ลองคิดดูสิครับ" เจมส์พูด

    "เราติดต่อกันผ่านดาวเทียม ตอนนี้สัญญาณหายไปแล้วแสดงว่าอีกไม่นาน" เจมส์พูดจบ ทหารคนหนึ่งก็วิ่งมาบอกข่าวมาร์คัสอย่างรวดเร็ว

    "ท่านครับ ดาวเทียม ETMCOM-22 พังแล้วครับ" มาร์คัสทำหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิม

    "ส่งยานรบเราขึ้นไปที่พิกัดดาวเทียมให้หมดเร็ว"



    "อ๊ากกก" ดิเอโก้ร้องออกมาอย่างดังเมื่อเขาโดนหุ่นสองตัวบีบไหล่อย่างแรงก่อนจะลากเขาลงไปชั้นใต้ดินของศูนย์วิจัย

    "เห้ย" ดิเอโก้พูดขึ้นด้วยความตกใจ ด้านหน้าเขาคือยานอวกาศลำใหญ่เหมือนกับ 2 ลำที่บินไปจากดวงจันทร์เมื่อตอนแรก เขาถูกลากเข้าไปด้านในจนไปถึงห้องที่มีหุ่นหลายตัวนั่งบนเก้าอี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นห้องควบคุม หุ่นเมื่อมันลากเขามาถึงที่หมายมันก็ปล่อยเขาลงกับพื้น ดิเอโก้เงยหน้าขึ้นมาก่อนที่เก้าอี้ด้านหน้าเขาที่หันหลังอยู่ค่อยๆหันมาอย่างช้าๆ

    "เห้ย"



    "สัญญาณหายไปแล้ว" ชาร์ลส์พูดกับอะตอม เขาเดินไปเช็คดูเครื่อง

    "นี่ค่ะยาแก้ปวด แก้อักเสบ" เอมิลี่ที่เงยหน้าจากกองยาที่เธอคว้ามายื่นให้อีธาน อีธานรับก่อนที่จะพูดว่า

    "ดาวเทียม" ชาร์ลส์และอะตอมหันไปมองพร้อมๆกัน

    "ดาวเทียม" อีธานพูดขึ้นอีกครั้ง

    "เห้ย ดาวเทียม ฉันเห็นพวกมันหาข้อมูลเกี่ยวกับดาวเทียมที่ห้องสื่อสาร" อะตอมพูดขึ้น

    "พิกัด 26.25 องศา ดาวเทียมสื่อสาร ETMCOM-22" เมื่ออีธานพูดจบก็มีเสียงดัง ครืดๆ พื้นผิวของดวงจันทร์เริ่มสั่น

    "เกิดอะไรขึ้นอีกหละทีนี้" อีธานพูดขึ้น มียานอวกาศลำใหญ่ลำหนึ่งพุ่งออกมาจากศูนย์วิจัยจนพังราบเป็นหน้ากอง

    "บ้าน่า มียานถึง 3 ลำเชียวหรอ" อะตอมพูดขึ้น ยานลำนั้นค่อยๆเร่งเครื่องก่อนจะพุ่งออกจากดวงจันทร์ไปอย่างรวดเร็ว ชาร์ลส์เดินเข้าไปนั่งตรงที่กัปตันพร้อมกับกดปุ่มเดินเครื่อง

    "เห้ยๆ นายจะทำอะไรหนะ" อะตอมถาม

    "ตามมันไป" ชาร์ลส์ตอบนิ่งๆ

    "แน่ใจหรอ" อะตอมถามอีกรอบ

    "พวกทหารไม่รู้ว่ามีเพิ่มอีกหนึ่งลำ เราต้องรีบเข้าไปข้างในโลกให้ได้แล้วก็รีบติดต่อด่วน" ชาร์ลส์อธิบายแผนก่อนจะเดินหน้าเต็มกำลังตามยานลำใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว



    "ท่านครับ ตอนนี้เรากำลังจะพ้นชั้นบรรยากาศแล้วครับกำลังพุ่งตรงไปที่พิกัดดาวเทียมครับ" กัปตันยานรบคุยกับมาร์คัสผ่านทางหน้าจอของยานรบ

    "จะถึงแล้วครับท่าน" กัปตันยานลงเดินออกจากเครื่องสื่อสารและลงไปนั่งประจำที่

    "เตรียมพร้อม" ก่อนจะมีเสียงตอบกลับจากเครื่องสื่อสาร อีก 3 ครั้งจากยานรบลำที่ 2 3 และ 4 "รับทราบ" ยานอวกาศลำใหญ่ทั้ง 4 ลำบินออกมาจนพ้นชั้นบรรยากาศก็เห็นแต่ซากปรักหักพังของดาวเทียมที่ลอยไปลอยมาอยู่

    "ท่านครั...." ระหว่างที่ผู้ช่วยกัปตันกำลังพูดอยู่ ยานก็โดนชนเข้ากับอะไรบางอย่างทางด้านหน้าจนห้องควบคุมพังก่อนที่ยานลำนั้นจะระเบิดจนเละ ด้านกัปตันของอีกยานหันไปมอง

    "นั่นมันยานขนส่ง" ตู้ม ยานของเขาเองก็โดนชนเช่นกัน ยานขนส่งอีก 2 ลำพุ่งชนเข้ากับยานรบอีก 2 ลำที่มาด้วยอย่างรวดเร็ว

    ยานอวกาศโทรมสองลำบินเข้าประจัญหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะล๊อกเป้า และยิงใส่ยานทั้ง 4 ลำไม่ยั้ง



    "ท่านครับ ดาวเทียมถ่ายภาพที่พึ่งวิ่งมาถึงรัศมีการถ่ายได้ถ่ายรูปนี้มาครับ" ทหารนายหนึ่งวิ่งนำรูปรูปหนึ่งมาให้มาร์คัสดู เป็นรูปยานรบทั้ง 4 ลำที่เขาส่งขึ้นไปโดนยิงถล่มราบคาบ

    "บ้าน่า" ทหารอีกนายหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็วจากอีกทางด้านของห้อง

    "ท่านครับ ตอนนี้ยานถ่ายภาพ ETEOS-43 ถูกยิงพังแล้วครับ" มาร์คัสทุบโต๊ะด้านข้างเขาอย่างแรง ก่อนจะวางรูปบนโต๊ะที่เขาทุบ

    "กองทัพยานอวกาศก็พังหมด ดาวเทียมสื่อสารกับถ่ายภาพก็พังอีก จะทำยังไงดีเนี่ย" นายทหารคนหนึ่งที่ใส่ชุดเที่ยวทะเลพร้อมกับห่วงยางที่อยู่บนมือ ผมสีดำ หน้าตาออกทางเอเชีย เดินผ่านกลับได้ยินเข้า

    "ผมแนะนำนะว่าให้ใช้อุปกรณ์การต่อสู้ของโลกดูสิ" พูดจบนายทหารคนนั้นก็เดินออกห่างเขาไป

    "เฮ้ เดี๋ยว" มาร์คัสเรียกแต่เขากลับเดินต่อหน้าตาเฉย

    "ฉันสั่งให้หยุด นี่เป็นคำสั่ง" มาร์คัสพูดขึ้นเสียง

    "โทษที วันนี้ผมลา ใบลาอยู่บนโต๊ะคุณนั่นหนะ" เขาชี้ไปทางห้องทำงานของมาร์คัส

    "คุณค่ะ ขอร้องหละค่ะ ช่วยหน่อยเถอะ" เจนนี่พูดขอร้อง

    "ก็ได้ เมื่อผู้หญิงขอผมก็จัดให้" เขาหันกลับมายิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหา

    "ทางทหารเนี่ยแบ่งเป็นทั้ง ทหารบก ทหารอากาศ ทหารเรือ แล้วก็ทหารอวกาศ ขึ้นอยู่กับสภาพการรบแต่ละแบบกันไปใช่ไหม" ทั้งหมดพยักหน้าตามต้อยๆ ยกเว้นมาร์คัสที่ตั้งใจฟังเขาอย่างไม่กระดุกกระดิก

    "ทหารบกใช้สู้ที่พื้น ทหารเรือใช้สู้น่านน้ำ ทหารอากาศก็สู้บนอากาศ นั่นหละ ทหารอวกาศก็ต่อสู้บนอวกาศ แต่ดูสิพวกมันจะทำอะไร" เขาชี้นิ้วไปที่รูปของทหารที่นำมาให้มาร์คัสดู

    "มันกำลังเข้ามาในโลกไง แล้วถ้ามันเข้ามาได้ มันไม่ได้เปรียบหรอกเราต่างหากจะได้เปรียบทั้งทางพื้น บก อากาศ โลกนี่เราต่อสู้กันเองมานานถึงเวลารึยังที่จะใช้สถานที่นี้สู้เพื่อปกป้องบ้านของพวกเรา" เขาพูดต่อเป็นเรียงความพร้อมกับให้ข้อคิด จนทำให้เจมส์ถึงกับอ้าปากค้าง

    "สุดยอด ไอดอลผมเลย" เจมส์พูดขึ้น

    เจมส์ยื่นมือไปจับกับชายหนุ่มด้านหน้าที่อธิบายให้เขาฟังอย่างรวดเร็ว

    "ผมนักบิน เรืออวกาศตรี ไบรอัน โรบินสัน พร้อมรับใช้ครับ" เขาพูดพร้อมทำท่าวันทยาหัตถ์

    "ดี" มาร์คัสเดินไปตบไหล่ไบรอันเบาๆ

    "ถ้าพร้อมรับใช้หละก็ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้" ไบรอันทำหน้าเซ็ง

    "เห้อ ลาวันหลังก็ได้"





    ยานอวกาศทั้งสองลำพุ่งเข้ามาในโลกเข้าชนกับเทพีเสรีภาพก่อนจะตกลงไปในน้ำ ยานทั้งสองลำค่อยๆลอยขึ้นช้าๆ ลำหนึ่งกลับหลังและบินพุ่งออกไปด้านหลัง อีกลำหนึ่งเปิดช่องด้านข้างของยาน ก่อนจะมีรูยื่นออกมา และค่อยๆบินเข้าไปใกล้ฝั่ง ผู้คนต่างส่งเสียงกริ๊ดกร๊าดนั้นรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว มิสไซล์ 10 กว่าลูกค่อยๆพุ่งออกจากยานเข้าไปทางตัวเมือง

    ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม มิสไซล์ 5 ลูกถูกยิงสกัดโดยเรือพิฆาต 2 ลำและเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำที่พึ่งขับมาถึง แต่อีก 5 ลูกกลับพุ่งลอยเหนือเมืองเข้าไป ตู้ม ตู้ม อีก 3 ลูกถูกยิงทิ้งโดยเครื่องบินรบอีก 3 ลำ อีก 2 ลูกพุ่งตกลงเกือบถึงพื้นแต่โดนยิงสกัดโดยรถปืนต่อสู้อากาศยาน อีก 1 คันที่พึ่งขับมาถึงเช่นกัน

    "ท่านครับเราเรียกหน่วยทหารที่อยู่ใกล้ที่สุดมาได้แค่นี้ครับ ส่วนอื่นโดนยานอีกลำลอบโจมตีครับ" นายทหารรายงานต่อมาร์คัส ส่วนทางด้านฝั่งติดกับน่านน้ำ ยานอวกาศ และฝั่งทหารกลับหยุดนิ่งเหมือนดูเชิงกัน

    "เอายังไงดีครับ" นายทหารถาม มาร์คัสกำลังจะอ้าปากตอบ แต่ดันมีเสียงหนึ่งชิงตอบก่อน

    "ยิงเลย" ไบรอันสั่ง

    ตู้ม ตู้ม ตู้ม เรือรบพิฆาตกระหน่ำยิงเข้าใส่ยานรบอย่างรวดเร็ว ยานอวกาศเปิดไอพ่นด้านซ้ายเคลื่อนหลบไปแบบหวุดหวิดก่อนจะยิงหมุนด้านท้ายออกทางด้านขวาจนด้านข้างขนานกับเรือรบ และยิงมิสไซล์ออกไป 20 กว่าลูก ตู้ม ตู้ม ปืนต่อต้านของเรือพิฆาตกระหน่ำยิงใส่มิสไซล์ที่พุ่งออกมา แต่ก็โดนเข้ากับยานพิฆาตลำหนึ่งจนพัง รถปืนต่อสู้ขับมาจนถึงฝั่งและกระหน่ำยิงใส่อย่างรวดเร็ว กระสุนปืนและมิสไซล์กระแทกเข้ากับท้ายยานจนทำให้ยานของมันหมุนควงหลายตลบ

    เรือบรรทุกเครื่องบินสั่งเครื่องบิน บินขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ยานอวกาศทรงตัวได้ก็มีมิสไซล์พุ่งเข้ามาอีกหลายลูก หุ่นที่บังคบยานกดปิดเครื่องอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโดนแรงโน้มถ่วงดึงตกลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มันหลบได้บางลูกแต่ยานด้านบนก็เสียหายเช่นกัน ก่อนจะเปิดเครื่องอีกครั้ง ด้านข้างของยานที่เป็นปืนค่อยๆหมุนจากด้านข้างเป็นด้านหน้าแทนและมันก็หงายขึ้นปรับองศาตามเครื่องบินรบและยิงมิสไซล์ออกใส่



    ตู้ม ตู้ม เครื่องบินรบที่ไม่สามารถบินหลบได้โดนสอยตกน้ำไป เรือรบและรถปืนต่อสู้ก็ยิงใส่อย่างต่อเนื่อง

    ด้านหน้าของยานค่อยๆมีปืนกลยื่นออกมาและยิงสกัดมิสไซล์ไว้ก่อนจะเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มันค่อยๆบินจนลอยเหนือเรือพิฆาตก่อนที่จะปล่อยหุ่นลงไป 10 กว่าตัว ยานอวกาศค่อยๆเปิดระบบไอพ่นด้านหน้าและด้านท้ายตรงฝั่งซ้ายของยานทำให้ตูดยานของมันหมุนไปทางฝั่ง ก็มีหุ่นอีก 5 ตัวอาศัยแรงเหวี่ยงกระโดดลงไปเกาะกับรถปืนต่อสู้

    เครื่องบินรบบินเข้ามาทางด้านหลังก่อนจะยิงมิสไซล์หลายลูกเข้าไปที่กลางยานทำให้ยานค่อยๆเซ และระเบิดก่อนจะจมน้ำหายไป ยานพิฆาตลำที่โดนหุ่นบุกเข้าไปค่อยๆเล็งปืนไปที่เรือบรรทุกเครื่องบินก่อนจะยิงจนเรือบรรทุกระเบิด

    ตู้ม ด้านหน้าของยานพิฆาตระเบิดตาม ก่อนจะทำให้เรือทั้งลำระเบิดจนหมด หุ่นตัวหนึ่งปีนขึ้นทางด้านบนของปืนต่อสู้อากาศยาน คนบังคับหมุนตัวปืนรอบทิศ ทำให้ตัวลำปืนกระแทกเข้ากับหุ่นอย่างแรง จนตกลงไปกระแทกเข้ากับเสาไฟ



    ส่วนอีก 2 ตัววิ่งเข้าไปต่อยทางด้านข้าง และอีก 2 ตัวก็ต่อยเข้าทางด้านหน้า คนบังคบเดินเครื่องชนหุ่นอีก 2 ทางด้านหน้าจนโดนบดใต้ล้อ ก่อนจะเร่งเครื่องเพื่อให้อีก 2 ตัวที่เกาะอยู่ด้านข้างตกลงไป แต่มันดันใช้มือจิกลงไปที่ผนังและเกาะแน่นราวกับกาวเขาจึงเบรค ทำให้หุ่นที่แม้จะเกาะแน่นแค่ไหนก็กระเด็นออกไป ทั้งสองตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะเห็นลำปืนชี้มาทางมันสองตัว ตู้ม



    "ท่านครับ เราจัดการยานลำแรกได้แล้วครับ แต่อุปกรณ์เสียหายอย่างมากครับ" ทหารวิ่งมาบอกกับมาร์คัส ก่อนจะมีทหารอีกคนหนึ่งวิ่งตามมาติดๆ

    "ยานลำที่สองโดนฐานทัพทหารฝึกงานจัดการแล้วครับ แต่ฐานทัพพังเละเลย" มาร์คัสยิ้มออกมา

    "ดีมาก อย่างน้อยก็ช่วยโลกไว้ได้" อยู่ๆทหารด้านข้างอุปกรณ์สื่อสารก็เรียกมาร์คัสอย่างรวดเร็ว

    "ท่านครับ มีการติดต่อมาอีกแล้วครับ" ทั้งหมดรีบเดินไปดูที่จออย่างรวดเร็ว "เฮ้" เสียงดังออกมาพร้อมกับภาพแตกๆคุณภาพต่ำ

    "ผมชาร์ลส์" มาร์คัสตอบกลับอย่างรวดเร็ว

    "ผมมาร์คัสคนเดิม" ชาร์ลส์รีบเรียบเรียงเหตุการณ์

    "ตอนนี้มียานอีกลำบุกเข้ามาแล้ว" มาร์คัสตะลึง

    "ว่าไงนะ" ชาร์ลส์พยักหน้า

    "มันกำลังจะโจมตีเมือง ขอกำลังให้พวกคุณสอยมันด่วน" มาร์คัสเอามือบีบระหว่างคิ้ว

    "ตอนนี้กองทัพทหารช่วยอะไรไม่ได้แน่ ถ้าจะไปเรียกที่อื่นมาช่วยอย่างน้อยก็ 1-2 ชั่วโมง ป่านนั้นพวกนั้นถล่มเมืองเรียบแน่" มาร์คัสคิด

    "งั้นก็จัดการมันสะตอนนี้เลยสิ" ไบรอันพูดขึ้น

    "ชาร์ลส์มันกำลังจะยิงแล้ว" อะตอมตะโกนออกมา ชาร์ลส์หันไปมองก็เห็นมันค่อยๆเปิดรูยิงมิสไซล์ออกมา

    "ส่งคนมาช่วยด้วย อะตอม เอมิลี่ อีธานรัดเข็มขัด" ชาร์ลส์พูดกับเครื่องสื่อสารและคนในยานก่อนจะเดินเข้าไปที่ตัวบังคับยาน

    "ตามฉันมานี่" ไบรอันสะกิดเจมส์ก่อนจะรีบวิ่งออกไป

    "ครับ ไอดอล" เจมส์วิ่งตามอย่างกับโดนจูงจมูก

    "คุณกำลังจะทำอะไรหนะ" มาร์คัสถาม

    "ทำเรื่องที่โง่ที่สุด" ชาร์ลส์เร่งเครื่องสุดฤทธิ์พุ่งตรงไปทางยานอวกาศที่กำลังบรรจุกระสุน

    "มันจะดีจริงๆหรอค่ะ" แม้แต่เอมิลี่ที่พูดน้อยก็ยังถามชาร์ลส์ออกมา

    "เห้ย ชาร์ลส์ ฉันไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้นะ" อีธานตะโกนออกมา

    "ฉันยังไม่อยากตาย" อะตอมบ่น





    "ฮัลโหล เจนนี่" เจมส์พูดกับโทรศัพท์พร้อมกับเดินตามไอดอลของเขา

    "เจมส์ อยู่ไหนเนี่ย" เจนนี่เดินแยกออกมาจากกลุ่มมาร์คัส

    "ช่วยหาพื้นที่ที่ยานอยู่หน่อย" เจมส์ตอบ

    "ฉันจะไปรู้ได้ยังไงหละ" เจนนี่ถาม

    "ก็กล้องวงจรปิด กล้องทีวี อะไรก็ได้" เจมส์ออกไอเดีย

    "นายจะให้ฉันแฮคเข้าระบบของตำรวจทั้งๆที่อยู่ในฐานทัพทหารเนี่ยนะ" เจนนี่บ่น

    "เอาน่าช่วยๆหน่อยนะ" เจนนี่ทำหน้าเบ้ เธอหยิบอุปกรณ์บางอย่างก่อนจะเดินไปที่คอมพิวเตอร์ด้านข้างเธอ เธอค่อยๆก้มลงเสียงอุปกรณ์นั้นเข้ากับด้านตัวเครื่องและเดินเลี่ยงออกไปด้านนอกฐานทัพ และเปิดกระเป๋าที่สะพายไหล่พร้อมกับหยิบคอมมาและเริ่มทำการหาข้อมูล

    "ได้รึยัง" เจมส์รีบเร่ง

    "ใกล้แล้ว" เจนนี่แฮคเข้าระบบกรมตำรวจทางหลวง และเริ่มเปิดดูตามกล้อง

    "เขาอยู่ตึก เด็คตัน" เจมส์พยักหน้า

    "ตึกเด็คตัน โอเค" เขากดวางสายและมองไปทางไบรอันที่เดินไปกดเปิดประตูโรงเก็บยาน

    "โห" เจมส์อ้าปากค้างอีกครั้ง ไบรอันยิ้ม

    "เป็นนักบินที่เป็นลูกนักบินก็ดีแบบนี้แหละ"



    ยานลำใหญ่ค่อยๆบินไปเหนือ ตึกใหญ่ตึกหนึ่งที่สูงประมาณ 50 ชั้น และมีป้ายติดว่า 'ไมเคิ้ล เศรษฐีพันล้าน' ดิเอโก้นั่งหลับตาอยู่ในห้อง ห้องหนึ่งที่มีกรงขังบนยานอวกาศลำใหญ่ ตึก ตึก เสียงเดินก้าวท้าวของใครบางคนเข้ามาหาเขาช้าๆ ดิเอโก้ลืมตาช้าๆจ้องมองดูเบื้องหน้า

    "ว่าไง" ชายแก่คนหนึ่งในชุดเศษผ้าโทรมๆพร้อมกับเศษผ้าคลุมหัว เขาทักทายเขา

    "ทำไมแกถึงทำแบบนี้ แกยอมทำงานให้พวกมัน" ดิเอโก้พูดพร้อมกำหมัด

    "ฉันเปล่าทำงานให้มัน มันต่างหากทำงานให้ฉัน" ชายแก่ตอบพร้อมกับยิ้มแสยะออกมา

    "หมายความว่าไง" ดิเอโก้ทำหน้างุนงง

    "ฉันเชื่อมต่อมันเข้ากับนี่" เขาเปิดผ้าคลุมหัวออกและชี้มาที่หมวกบนหัว

    "กับฉัน " เขายิ้มออกมา

    "มันจะทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง อารมณ์ฉัน ใครอันตรายในสายตาฉันก็โดนกำจัด" ดิเอโก้ได้แต่ทำหน้าตกใจ

    "ทำไมแกทำแบบนี้" ดิเอโก้ถาม

    "กระสุนบรรจุเกือบเสร็จแล้ว ยังไงนายก็จะตายอยู่แล้วจะรู้ไปทำไม" ชายแก่ถาม ดิเอโก้ลุกขึ้นช้าๆ

    "ฉันหนะไม่ตายหรอก"

    ตู้ม

    ยาน Earth Exploraion พุ่งชนเข้ากับด้านข้างของยานลำใหญ่จนยานติดไปด้วยกัน เกิดเป็นรูขนาดเท่ายาน Earth Exploraion บนยานของหุ่นยนต์

    "เป็นอะไรกันรึเปล่า" ชาร์ลส์ถามออกไป

    "พระเจ้า ฉันยังไม่ตาย" อะตอมตะโกนขึ้นมา หุ่นหลายตัวรีบกระโดดเกาะยานที่พุ่งชนเข้ามาอย่างรวดเร็ว

    "เปิดไอพ่นซ้าย" ชาร์ลส์ตะโกน

    "คราวหลังถามกันก่อนก็ได้นะเห้ย" อีธานตะโกน ไอพ่นด้านซ้ายค่อยๆติดไฟและเผาหุ่นบางตัวที่มาเกาะ

    ก่อนจะเริ่มมีแรงดันยาน Earth Exploration ไปด้านขวาทำให้เกิดรูใหญ่ด้านข้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และน้ำหนักที่ถ่วงไปทางด้านหลังทำให้ยานลำใหญ่ที่แบกยานอีกลำอยู่ค่อยๆทรงตัวไม่อยู่และหมุนหลายตลบก่อนจะตกกระแทกเข้ากับดาดฟ้าตึกเด็คตันชนกับแอร์ที่ตั้งอยู่หลายตัวด้านข้างและไถลไปจนเกือบสุดขอบ

    "ลุย" ชาร์ลส์ตะโกนก่อนจะปลดเข็มขัด หยิบปืน และวิ่งออกไปก่อนที่ประตูฉุกเฉินข้างยาน เขายกปืนขึ้นเล็ง พร้อมกับใช้มือซ้ายเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออกด้านหน้าของเขามีหุ่น 20 กว่าตัวอยู่ด้านหน้า

    "โอ๊ะ โอ"



    หุ่นค่อยๆลากคนทั้งยานลงมาจนหมด หุ่นตัวที่ลากเอมิลี่เมื่อนำออกมาจานยานได้มันก็ขว้างเธอลงไปกับพื้น

    "เธอเป็นผู้หญิงนะเว้ย" อีธานวิ่งไปง้างหมัดหวังจะต่อยแต่กลับโดนหุ่นอีกตัวต่อยเข้าที่ท้อง ก่อนจะกระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับแอร์จนสลบไป

    "อีธาน" อะตอมตะโกน

    "นั่งลงไป 2 คนนั้น" เสียงของชายแก่คนหนึ่งดังขึ้น เขาชี้ไปที่ อะตอม และ ชาร์ลส์ ทั้งสองค่อยๆย่อตัวลงนั่งคุกเข่าหันหน้ามาทางยาน โดยมีหุ่นอีก 20 กว่าตัวยืนอยู่ด้านหน้าของยานทั้งสองลำ

    "ดีมาก" เขายิ้มออกมา ก่อนจะจ้องไปที่เอมิลี่ เขาค่อยๆเปิดผ้าคลุมหัวออก

    "จำฉันได้ไหม เอมิลี่" เอมิลี่เมื่อเห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ก็ถึงกับขาสั่น พร้อมกับตาที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

    "พ่อ" ทั้ง 3 คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ถึงกับตะลึง

    "พ่อหรอ" ชาร์ลส์ถาม

    "เป็นไปไม่ได้ พ่อตายไปแล้วหนิ" เอมิลี่อ้าง

    "ใครบอกหละ แค่จัดฉากนิดหน่อย" ชายแก่เดินไปรอบๆ

    "พ่อทำแบบนี้ทำไม" เอมิลี่ถามพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

    "ล้างแค้นไงลูก" เขาตอบ

    "ล้างแค้นอะไรพ่อ" เอมิลี่ถาม

    "ก็ไอ้ไมเคิ้ลนี่ไง" เขาตอบพร้อมกับกระทืบเท้าลงบนพื้นดาดฟ้า

    "เขาไปทำอะไรไว้ให้พ่อ พ่อถึงต้องทำขนาดนี้" เอมิลี่ตะโกนถาม

    "มันไม่ยอมอนุมัติเงินทุนวิจัยของพ่อไงลูก วิจัยโรคของแม่" เขาพูดก่อนจะกำหมัด

    "แม่กับพ่อเราถูกส่งขึ้นไปรักษานักบินอวกาศคนหนึ่ง แต่พอกลับมาที่โลก แม่ก็ป่วยเป็นอะไรไม่รู้ พอพ่อขอเงินทุนวิจัยพวกมันก็ไม่อนุมัติ ถ้ามันอนุมัติหละก็พ่ออาจจะช่วยแม่ได้ก็ได้" เอมิลี่ถามกลับ

    "แล้วนี่คือสิ่งที่พ่อต้องการหรอ" ชายแก่ตอบกลับ

    "ใช่นี่คือสิ่งที่พ่อต้องการ การล้างแค้นพวกมัน ให้พวกมันได้ลิ้มลองความเจ็บปวด" เขายิ้มออกมาราวกับคนเสียสติ

    "แผนฉันคงสำเร็จไปแล้วถ้าไม่มีพวกนายมาขัดขวาง" เขาหันไปพุดกับทั้ง 3 คนที่นั่งคุกเข่า มีหุ่นอีก 2 ตัวค่อยๆลากดิเอโก้ออกมาจากยานและจับกดไหล่ให้มานั่งคุกเข่าด้วย

    "สบายดีไหม" ชาร์ลส์ถาม

    "ไม่ใช่ตอนนี้" ดิเอโก้บอกชาร์ลส์

    "เอาหละ" ชายแก่เดินไปหยิบปืนที่ตกอยู่ขึ้นมา

    "ใครอาสาจะตายคนแรก" เขาทำท่าบ้องหูฟังเสียง "ไม่มีหรอ" เขาทำหน้าเบ้

    " งั้นแกคนแรก คุณกัปตัน" เขาชี้ปืนไปทางหน้าชาร์ลส์

    "ไม่นะ พ่อ ไม่" เอมิลี่ตะโกนเสียงดังและกำลังจะวิ่งเข้าไปขวางทาง แต่โดนหุ่นตัวหนึ่งกอดเอาไว้ เธอพยายามดิ้นสุดแรงแต่ไม่เป็นผล

    "นับ 3" เขาเลื่อนนิ้วพร้อมลั่นไก

    "3"

    "ไม่" เอมิลี่ตะโกน อีกทั้ง 3 คนที่อยู่ข้างชาร์ลส์ทำสีหน้าตึงเครียด

    "2" ชาร์ลส์ทำหน้านิ่งและนั่งเฉย

    "1" เมื่อชายแก่พูดจบก็มียานลำหนึ่งลอยขึ้นมาจากอีกด้านของตึก ด้านหน้ายานเผชิญกับ พวกชาร์ลส์ที่นั่งหันหลังให้ และพวกหุ่นที่ยืนจังก้าหันหน้ามาให้ และถัดไปอีกก็เป็นยานที่มีสภาพโทรมมาก

    ยานลำนั้นเป็นยานคล้ายๆรถยนต์ หลังคาไม่มี บนยานมีคนหนึ่งในชุดเที่ยวชายหาดนั่งตรงที่นั่งคนขับ ด้านข้างยานมีปืนกลสองกระบอกติดอยู่ อีกคนยืนถือเครื่องขยายลำเสียง

    "ท่านที่อยู่ตรงนั้นโปรดทราบ เรามียานจาโก้หนึ่งลำ 4 ที่นั่ง ตัวรถโมเดลคลาสิก 2 ตัวเครื่องเทอร์โบ 4 เร็วที่สุดในบรรดายานแข่ง หล่อเย็น 72 มีระบบต้านแรงโน้มถ่วง ระบบล้อยนต์ ระบบบิน ระบบให้ออกซิเจน ปืนกลหนัก 2 กระบอก" เจมส์พูดเร็วราวกับร้องเพลงแรป

    "ที่พูดมายาวสะขนาดนี้เนี่ย ที่จริงจะบอกว่า" เขาเว้นระยะหายใจ

    "หมอบ"

    ดิเอโก้พุ่งตัวกระโดดกระแทกเข้ากับพ่อของเอมิลี่ทางด้านหน้า ส่วนชาร์ลส์ลุกขึ้นวิ่งกระโดดคว้าหุ่นตัวที่กอดเอมิลี่อยู่ไปทางด้วยขวา ส่วนอะตอมก็รีบหมอบลง

    ปัง ปัง ปัง ปัง ไบรอันกดรัวกระสุนอย่างรวดเร็ว หุ่นเกือบ 20 ตัวที่ยื่นอยู่แตกกระเจิง กระสุนที่ยิงไม่โดนพุ่งกระแทกเข้ากับยานที่อยู่ด้านหลัง หุ่นยนต์เกือบ 10 ตัวก็โดนยิงจนพังไม่สามารถใช้งานได้ แต่ที่เหลือมันค่อยๆวิ่งเข้าใกล้ยานขึ้นเรื่อยๆ ไบรอันหยุดยิงและกระชากเจมส์ลงมาจากที่ยืนอยู่

    "รัดเข็มขัดเจ้าหนู" เจมส์รีบทำตาม

    เขาเปลี่ยนเกียร์ยาน และถอยหลังอย่างรวดเร็ว หุ่นตัวหน้า 3 ถึง 4 ตัวรีบเร่งความเร็วก่อนจะกระโดดพุ่งตัวมาจะเกาะยาน มันเอื้อมมือไปสุดแขนของมันแต่ก็ไม่ถึง ทำให้ตกลงไปจนกระแทกกับพื้นข้างล่าง หุ่นที่เห็นเหตุการณ์ตั้งฝ่ามือ ส่วนตัวหลังรีบวิ่งมาและใช้เท้าขวาเหยียบและกระโดดพุ่งออกไปพร้อมกับแรงส่งของหุ่นตัวล่างทำให้มันกระโดดพุ่งมาและเข้าไปที่นั่งด้านหลังพอดี

    ชาร์ลส์ที่กระโดดคว้าตัวหุ่นและเอมิลี่แรงที่พุ่งชนทำให้ทั้งหมดกระเด็นกลิ้งไปด้านหลังแอร์ที่ตั้งอยู่ ตึง ตึง พวกเขาไม่ได้อยู่ในระยะยิงของปืนมีแต่เสียงลูกกระสุนที่กระแทกดังออกมาเท่านั้น

    ชาร์ลส์ขึ้นค่อมต่อยเข้าไปที่หน้าของหุ่น มันปล่อยตัวเอมิลี่ก่อนจะต่อยหมัดขวาคืน ชาร์ลส์ใช้มือซ้ายกันไว้แต่แรงกระแทกก็ทำให้หัวของเขาพุ่งไปกระแทกกับแอร์ หุ่นยกขาขึ้นมาและถีบเขากระเด็นออกไป

    เอมิลี่ที่หลุดพ้นจากมือของหุ่นยนต์ก็กลิ้งตัวออกมาทางด้านซ้ายและพยายามคลานออกไป แต่ก็โดนจับขาไว้ทำให้ไปไหนไม่ได้ หุ่นค่อยๆลงแรงที่ขาเอมิลี่ช้าๆ จนเธอต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

    "อ๊าา" ชาร์ลส์รีบวิ่งไปจับไหล่ของหุ่นลุกขึ้นและเหวี่ยงออกไปหากระสุนปืน ปัง ปัง กระสุนพุ่งทะลุตัวของมันจนพังก่อนจะรีบวิ่งไปดูเอมิลี่

    ดิเอโก้เมื่อคว้าตัวพ่อเอมิลี่ได้ก็ใช้มือขวาจับแขนที่ถือปืนก่อนจะเหวี่ยงกระแทกเข้ากับพื้นจนทำให้ปืนที่ถืออยู่ตกลง ชายแก่ใช้มือซ้ายดันคอดิเอโก้เพื่อหวังจะให้หัวของเขาถูกกระสุน ดิเอโก้ใช้มือซ้ายโอบหลังชายแก่ก่อนจะพลิกตัวเองนอนลงไปด้านล่างแทน

    พ่อเอมิลี่ต่อยเข้าไปที่ลูกกระเดือกของดิเอโก้ เขาจุกจนต้องเอามือที่จับอยู่มากดที่คอ ชายแก่ค่อยใช้มือทั้งสองโอบรอบๆคอดิเอโก้และเหวี่ยงขึ้นไปอีกครั้งหวังให้โดนปืนแต่อยู่ๆปืนก็หยุดยิงไป ทำให้ดิเอโก้กระเด็นกลิ้งไปทางอะตอม

    อะตอมรีบลุกขึ้นก่อนจะค่อยๆลากดิเอโก้กับอีธานเข้าไปหลบด้านหลังแอร์ของอีกอันที่อยู่ข้างๆแอร์ที่พวกชาร์ลส์อยู่โดยมีช่องว่างตรงกลาง

    หุ่นที่นั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังลุกขึ้นล๊อกคอของไบรอัน เจมส์ปลดเข็มขัดก่อนจะกระโดดผลักมันออกและถีบมันออกจากยาน ไบรอันกลับมาหายใจได้อีกครั้งก่อนจะมองด้านหน้าเห็นพวกหุ่นกำลังตั้งท่าจะวิ่งกระโดดมาอีกและกดยิงปืนอีกครั้ง ปัง ปัง ปัง จนทำให้ตัวที่พร้อมดันเพื่อนของมันก็โดนกระสุนทะลุจนเละ

    ชายที่นอนอยู่ค่อยๆลุกขึ้นและหยิบปืนก่อนกระโดดหลบกระสุนเข้าไปตรงแอร์ที่บังอยู่ตรงด้านซ้ายของเขาเช่นกัน ชาร์ลส์รีบหันไปมองแต่ก็เห็นปืนตั้งชี้มาทางเขา

    "พ่อ หยุดเถอะ" เอมิลี่ร้องไห้อ้อนวอนโดยมือขวาและมือซ้ายนั้นกุมขาที่โดนบีบของเธออยู่

    พ่อเอมิลี่ไม่สนใจก่อนจะกดลั่นไกยิงชาร์ลส์ทันที ปัง เอมิลี่กระโดดเอาตัวรับ กระสุนพุ่งฝังเข้าไปที่ไหล่ของซ้ายของเอมิลี่ เธอค่อยๆตกลงกระแทกกับพื้นดาดฟ้าตามแรงโน้มถ่วง

    "เห้ย" ชาร์ลส์ตะโกนและรีบคว้ารับตัวไว้

    "เอมิลี่" พ่อของเธอตะโกน ก่อนจะรีบทิ้งปืนและวิ่งเข้าไปดูแผล

    "เอมิลี่ พ่อขอโทษ" ชายแก่พูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา มือก็พยายามกดแผลเพื่อห้ามเลือดเอาไว้

    "ลูกจะต้องไปไม่เป็นอะไรนะ" เข้าพูดปลอบใจ เลือดค่อยๆไหลออกมาจากแผลมากขึ้นเรื่อยๆ

    "พ่อ" เอมิลี่พูดขึ้นเบาๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกจากตาของเธอหลังจากที่ไบรอันเห็นว่าไม่มีหุ่นตัวอื่นอีกแล้วเขาจึงหยุดยิงและค่อยๆนำยานลงจอด

    "นี่รึเปล่าที่แกต้องการ" ชาร์ลส์ถามขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่ชายแก่

    "แกเอาเวลามัวแต่ไปคิดแผนล้างแค้น แกรู้ไหมช่วงที่แกไม่อยู่ลูกแกเขาอยู่อย่างไง เขาไม่มีพ่อคอยดูแล แกรู้ไหมมันเป็นยังไง " ชาร์ลส์พูดออกมาด้วยความโกรธ พ่อเอมิลี่ได้แต่นั่งร้องไห้ ปากก็ได้พร่ำคำว่า'ขอโทษ'

    "ไม่เป็นไรพ่อ" เอมิลี่ใช้มือซ้ายยกขึ้นปาดน้ำตาพ่อของเธอช้าๆ

    "หนูรู้อยู่แล้วว่าพ่อทำเพื่อครอบครัวเราเสมอ แต่พ่อทำแบบนี้มันผิดนะ" เอมิลี่พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

    "พ่อขอโทษ" ชายแก่กุมมือซ้ายของเอมิลี่ไว้แน่น

    "หนูขอพ่ออย่างนึงได้ไหม ขอของขวัญวันเกิดทั้ง 15 ปีที่ผ่านมา หนูขอให้พ่อหยุดเถอะ" หลังจากพูดจบเอมิลี่ก็หลับตาและเงียบไป ชายแก่ตะโกนเสียงดังออกมาด้วยความโกรธแค้นตัวเอง

    เขาลุกขึ้นและรีบไปหยิบปืนที่ตกอยู่ก่อนจะพลิกหันด้านปืนมาทางด้านเขาเอง



    "เห้ย อย่านะ" ชาร์ลส์ตะโกน ไม่กี่วินาทีก่อนที่มือของชายแก่จะกดยิง มีหุ่นตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากยานกระโดดคว้าเขาไว้ทำให้ปืนที่ถูกยิงออกมาเปลี่ยนทิศทางเฉี่ยวหูของเขาแทน ไบรอันเห็นก็รีบกดยิงกระสุนใส่จนตัวของหุ่นแตกกระจาย

    "หุ่นตัวนั้น" ชาร์ลส์พูดขึ้น

    "เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย" อะตอมถาม

    "มันเป็นคนควบคุมหุ่น เครื่องบนหัวนั่นใช้อารมณ์ของมันเป็นตัวกำหนด" ดิเอโก้อธิบายก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น

    "คนเราไม่มีชั่วไปหมดหรอก ยังไงในใจคนก็ยังมีส่วนดีอยู่เสมอ" ชาร์ลส์พูด ชายแก่ค่อยๆหันไปมองหุ่นตัวที่ช่วยชีวิตเขาอย่างช้าๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพราก

    ตู้ม ด้านในยาน Earth Exploration 249 เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ตัวด้านในยานเกิดไฟลุก

    "ซวยละไง" ชาร์ลส์พูดขึ้น

    "โอ้ไม่ ไฟลุก ยาน เครื่องยนต์ ตายแน่ๆ" อะตอมโวยวาย

    "ทางนี้" ไบรอันตะโกน

    "จะปล่อยยานทิ้งไว้แบบนี้ก็ไม่ได้สะด้วย เกิดระเบิดแล้วโดนคนอื่นๆอีก" ดิเอโก้พูดขึ้น

    "มีทางเดียว" ชาร์ลส์ยกเอมิลี่ขึ้นก่อนจะเดินไปหา ดิเอโก้และยื่นให้เขา

    "พาเธอไปโรงพยาบาลด่วนเลย" เมื่อดิเอโก้รับเอมิลี่ไป ชาร์ลส์ก็พูดต่อ

    "อะตอมเอาอีธานไปด้วย" อะตอมพยักหน้า "แล้วนายจะทำยังไง" ดิเอโก้ถาม

    "ฉันจะขับยานขึ้นไป มันยังพอน่าจะประคองได้จนลอบเหนือเมือง อย่างน้อยก็ลดความเสียหาย" ชาร์ลส์พูดจบก็หันไปมองยานทั้งสองที่กำลังไฟไหม้

    "นายจะบ้าหรอ มันไม่มีทางที่ยานนั่นจะไม่ระเบิดหรอกนะ" อะตอมถาม ชาร์ลส์ไม่ตอบแต่กลับเดินเข้าไปในยานอย่างรวดเร็ว "เห้ย" อะตอมทำท่าจะวิ่งเข้าไปห้าม

    "อย่า" ดิเอโก้พูดสกัดไว้

    "จะดีหรอ" อะตอมถาม

    "เราไม่มีทางเลือก" ดิเอโก้และอะตอมวิ่งไปที่ยานอย่างรวดเร็วพร้อมกับเอมิลี่และอีธานที่สลบ

    "แล้วผู้ชายอีกคนหละ" ไบรอันถาม

    "เขาไม่มาด้วย" เจมส์ทำหน้าเศร้า ไบรอันค่อยๆนำเครื่องขึ้นและบินลงไปด้านล่าง ชายแก่ที่มัวแต่ร้องไห้ค่อยๆลุกขึ้นปาดน้ำตาและเดินเข้ายานไปเช่นกัน

    "อ่าว มาทำไม" ชาร์ลส์ถามก่อนจะรีบวิ่งไปที่แผงควบคุม ชายแก่ไม่ตอบได้แต่เดินเข้าไปใกล้ชาร์ลส์มากขึ้นเรื่อยๆ

    "เปิดเครื่องตรงไหน" ชายแก่ชี้ไปที่ด้านซ้ายของหัวยาน ชาร์ลส์รีบเดินไปดูอย่างรวดเร็วแต่กลับไม่พบอะไร

    "ไหนเห็นแต่ประตูฉุกเฉิน เห้ย" อยู่ๆประตูฉุกเฉินก็ดีดออกจากยาน ชาร์ลส์รีบหันหลังไปมองแต่กลับพบชายแก่ยืนอยู่พร้อมกับเท้าที่กำลังเคลื่อนเข้ามาที่หน้าท้องของเขา

    "ฝากดูแลเอมิลี่ด้วยหละ" ชายแก่พูดส่งท้ายไว้ ชาร์ลส์โดนถีบกระเด็นออกมาจากยาน เขารีบพลิกตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว พ่อเอมิลี่ขับยานลำใหญ่ที่มียานลำเล็กอีกลำติดสอยห้อยตามไปด้วย ยานนั้นค่อยๆบินสูงขึ้นเรื่อยๆ ตู้ม ยานทั้งสองลำระเบิดออกกลางอากาศ

    "เห้ย" มีเสียงหนึ่งตะโกนดังออกมา ชาร์ลส์หันไปมองตามเสียงเรียกก็พบชายคนที่ขับยานที่มาช่วยเขา

    "เร็ว" ชาร์ลส์ได้ฟังก็รีบหมุนตัววิ่งไปทางอีกฝั่งของตึกโดยมีเป้าหมายคือยานไบรอัน

    โครม เศษจากการระเบิดที่ลุกโชนด้วยไฟจากการระเบิดตกลงมาขวางหน้าชาร์ลส์ เขากระโดดข้ามอย่างคล่องแคล่ว โครม โครม มันตกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ชาร์ลส์ก็วิ่งหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันกลับไปมอง ก็เห็นซากยานใหญ่ยักษ์ค่อยๆตกลงมาและพุ่งตรงดิ่งมาทางพวกเขา ชาร์ลส์ที่วิ่งมาได้ครึ่งทางก็ตะโกนไปทางไบรอัน

    "เตรียมตัวออกเครื่อง" ไบรอันเพิ่มความเร็วขยับออกจากตัวตึก ซากปรักหักพังที่ตกลงมาพร้อมกับติดไฟกองอยู่เป็นอุปสรรค ชาร์ลส์วิ่งกระโดดฝ่าเปลวเพลิงอย่างรวดเร็วจนเมื่อถึงสุดขอบเขาใช้แรงมากที่สุดที่

    เขากระดันตัวกระโดดพุ่งออกไปทางยานของไบรอัน ด้วยแรงส่งที่มากพอเขาพุ่งลงเข้ากับเบาะด้านหลังยานไบรอันที่กำลังเคลื่อนที่อยู่พอดี

    ไบรอันเพิ่มความเร็วและเลี้ยวออกข้างตึกอย่างรวดเร็ว ตู้ม ตู้ม มีแต่เสียงซากยานกระแทกเข้ากับตึกตามหลังมา ชาร์ลส์ถอนหายใจก่อนจะค่อยๆพลิกตัวนอนบนเบาะหลัง "เห้ย นาย" ไบรอันพยายามถามแต่ดูเหมือน ชาร์ลส์ จะไม่ได้สติ มีตาพร่ามัว ร่างกายอ่อนแรง จนเขาหลับไป



    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงของอุปกรณ์ปลุกชาร์ลส์จากภวังค์ "ชาร์ลส์ เห้ย" เขาค่อยๆลืมตาขึ้น แต่กลับเห็นแต่ภาพมัวๆ เขาพอจะเดาได้ลางๆว่าเป็นอีธาน แขนของเขานั้นถูกพันด้วยผ้ายาง

    "เห้ย ไหวไหม" อีธานถาม ชาร์ลส์สบัดหน้า สอง สาม ที ก่อนจะได้สติ

    "เอมิลี่หละ" ชาร์ลส์ถามขึ้น ในห้องมีแต่ ชาร์ลส์และอีธานอยู่

    "อยู่ห้อง 144" อีธานตอบ

    "เดี๋ยวฉันไปตามหมอก่อน.. เห้ยๆ" ชาร์ลส์ดันตัวลุกออกจากเตียงก่อนจะรู้สึกว่าขาของตัวเองนั่นไม่มีแรงและล้มฟุบลงไป อีธานรีบวิ่งไปคองอย่างรวดเร็ว ชาร์ลส์เมื่อมีอีธานมาพยุง เขาก็ค่อยๆยืนได้

    "ไปหาเอมิลี่เร็ว" ชาร์ลส์สั่งอีธาน

    "โอ้ไอ้นี่" อีธานพยุงชาร์ลส์เดินออกมาจากห้องของตนและเดินไปที่ห้อง 144 อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงหน้าประตู ชาร์ลส์ดึงแขนที่โอบอีธานออกก่อนจะเริ่มเดินด้วยตัวเองและกระแทกประตูเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว

    ตึง

    ชาร์ลส์ล้มลงกระแทกพื้นก่อนจะลุกขึ้นมามองบนเตียง พบเอมิลี่ทำหน้าตะลึงอยู่บนเตียงโดยในห้องนั้นมี ผู้หญิงอีก 2 คนอยู่ห้อง

    "ไง" ชาร์ลส์ทักทาย

    "ไง" เอมิลี่ตอบ

    "แค่มาเช็คดูเฉยๆ ผมเริ่มยาวแล้วหนิ" ชาร์ลส์ชี้ไปที่ผมของเอมิลี่

    "ค่ะ" ชาร์ลส์ยิ้มก่อนจะขอตัวลา

    "งั้นฉันไปละ" เขาค่อยๆเดินออกจากห้องไป โดยทิ้งให้คนทั้งห้องสงสัยกับการกระทำของชาร์ลส์

    ผู้หญิงในห้องคนหนึ่งพูดกับเอมิลี่

    "ใครหนะ" เธอหันไปยิ้มให้ก่อนจะตอบว่า

    "เพื่อนหนะค่ะ"



    อีธานเดินไปลากแขนชาร์ลส์

    "มานี่เลย" อีธานบ่น

    "ไปไหน" ชาร์ลส์ถาม

    "กลับห้องแกไง" ทั้งสองเดินเข้าห้องห้องหนึ่ง เมื่อเข้าไปชาร์ลส์ก็พบกับหมอที่รอตรวจอยู่ หลังจากตรวจร่างกายเสร็จ หมอก็บอกว่า

    "ร่างกายปกติดีครับ ตอนนี้แค่ต้องพักผ่อนนิดหน่อยก็พอ" ชาร์ลส์พยักหน้าตอบ เมื่อหมอเดินออกไปสักพัก ชาร์ลส์ก็ถามไถ่อีธาน

    "แขนเป็นไงบ้าง" อีธานเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเตียง

    "ยังใช้ได้"

    แอ๊ด เสียงประตูห้องถูกดันออกมา ชาร์ลส์หันไปมองก็พบกับ นายตำรวจที่แต่งชุดเต็มยศกับชายอีกคนหนึ่งที่ใส่แว่นพร้อมกับคนอีก 4 คนเดินเข้ามา

    "เป็นไงบ้าง" ดิเอโก้ถามชาร์ลส์

    "ยังสบายดี" นายพลมาร์คัสเดินออกตัวไปด้านหน้าก่อนจะพูดแนะนำตัว

    "ผมมาร์คัส ในที่สุดเราก็ได้เจอตัวคุณเป็นๆสักที" มาร์คัสพูด

    "การตัดสินใจของคุณนั้นช่วยคนไว้ได้เยอะเลยนะ" ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้น

    "อ๋อ ใช่ มาแนะนำตัวกันดีกว่า" มาร์คัสบอก

    "2 คนนี้คุณคงจะรู้จักอยู่แล้ว" เราชี้ไปทางอะตอมและดิเอโก้ "ร้อยตำรวจเอก ดิเอโก้ จาคอป อะตอม แกมบิต" ชาร์ลส์ยิ้มออกมา

    "ยศขึ้นแล้ว" ดิเอโก้หัวเราะเบาๆ มาร์คัสค่อยๆเปลี่ยนวิถีของนิ้วที่ชี้ไปทาง ผู้หญิงผมสีส้มผมยาวและผู้ชายผมส้ม

    "เจนิเฟอร์ บราวน์ กับ เจมส์ บราวน์" เจมส์ยิ้มให้ "เรียกฉันเจนนี่ก็ได้" เจนนี่ยื่นหน้าออกมา ชาร์ลส์พยักหน้าตามหงึกๆ

    "ส่วนนี่" มาร์คัสชี้ไปที่ผู้ชายหลังสุด ที่ใส่ชุดทหารอวกาศ

    "เรืออากาศเอก ไบรอัน โรบินสัน คนที่ไปช่วยนายออกจากตึกเมื่อวาน" ชาร์ลส์ถึงกับอึ้งในท่ายืนของเขา ไบรอันแอ่นตัวมาด้านหน้า ตรงเหยียด และเสื้อที่รัดทำให้เห็นกล้ามหน้าอกของเขาอย่างชัดเจน

    "เห้อ" ไบรอันปล่อยลมให้ใจออกหลังจากที่กลั้นมา ตัวที่แอ่นมาด้านหน้าค่อยๆกลับมาตรงเหมือนเดิม เจนนี่สกิดไบรอันเบาๆ

    "ทำทำไมเนี่ย" ไบรอันหันไปตอบ

    "เท่ไง เท่" มาร์คัสรีบชิงพูดตัดบท

    "เอาหละ ตอนนี้ฉันอยากให้นายพักผ่อนไว้ แล้วเดี๋ยวเจอกันปีใหม่" ชาร์ลส์ทำหน้างง

    "ปีใหม่มีอะไรหรอครับ" มาร์คัสยิ้มก่อนจะเดินออกไปโดยที่ไม่ตอบอะไรเลย

    "นายรู้ไหม" ชาร์ลส์หันไปถามอีธาน เขาส่ายหน้าตอบ

    อะตอมเดินเข้าไปใกล้ๆชาร์ลส์

    "นี่รู้รึยังพวกเราได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งกันด้วยนะ" เขาค่อยๆยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมา

    "โห" ชาร์ลส์อึ้งเพราะด้านหน้าหนึ่งนั้นมีข่าวของพวกเขาก็ครึ่งหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว

    'กลุ่มผู้ช่วยโลก ยาน Earth Exploraion 249' เขาเลื่อนสายตามาด้านข่าวที่สองซึ่งกินพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งเหมือนกัน 'กลุ่มทหารฝึกใหม่ ผู้ทำลายยานรบลำที่สอง'

    "เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ" ไบรอันบอก

    "กะจะกลับไปนอนพักผ่อนสักหน่อย" เขาโบกมือบายก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    "ส่วนฉันกับเจมส์จะต้องไปเก็บของที่สถานีก่อน ไปละนะ" เจนนี่กับเจมส์ก็ขอลาออกไปเหมือนกัน

    "ฉันขอแวะเยี่ยมเอมิลี่ก่อนละกัน" อะตอมพูด

    "ฉันไปด้วย" ดิเอโก้ตอบ "มา เดี๋ยวพาไป" อีธานลุกเดินนำทั้งสองคนออกจากห้องไป

    "บาย" ชาร์ลส์พูดส่งท้าย

    เขาพลิกตัวนอนหงายก่อนจะหันหัวมองออกไปยังหน้าต่างที่ถูกเปิดม่านให้แสงส่องเข้ามาและเผลอหลับไป



    "เราภูมิใจที่มีเหล่าผู้กล้าไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจหรือคนธรรมดา ที่ได้ต่อสู้กับสิ่งที่ยากเกินกว่าจะรับมือไหว" มาร์คัสยืนกล่าวเปิดงาน ที่มีผู้คนนับพันคนมาร่วมงาน งานจัดขึ้นที่ที่หนึ่งซึ่งห่างจากตัวเมืองไม่ไกลมากพร้อมกับที่โล่งกว้างที่ติดแม่น้ำ ที่โล่งใช้เป็นจุดจัดที่นั่งเฉลิมฉลอง ส่วนแม่น้ำเป็นส่วนของกิจกรรมเพื่อความสนุกสนาน

    "แต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะและช่วยปกป้องโลกไว้ได้" มาร์คัสพูดต่อ โดยด้านหลังนั้นมี 2 แถว แถวแรกคือ ชาร์ลส์ อีธาน เอมิลี่ อะตอม ดิเอโก้ เจนนี่ เจมส์ ไบรอัน ยืนตามลำดับ ส่วนแถวที่สอง ชาร์ลส์หันไปมองก็เห็นแต่ทหาร เขาคาดว่าน่าจะเป็นทหารฝึกใหม่กลุ่มที่จัดการยานอีกลำได้

    นายทหารหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนหลังเขาหันมายิ้มให้ชาร์ลส์ ชาร์ลส์ก็ยิ้มกลับไปก่อนจะหันหน้ากลับไปฟังมาร์คัสพูดต่อ

    "เราขอให้การเฉลิมฉลองครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของอวกาศ" พูดจบคนในงานทั้งหมดก็ลุกขึ้นปรบมือและร้องส่งเสียงเฮปลุกใจ โดยกลุ่มคนผู้ช่วยโลกนั้นได้แต่ยิ้มยินดี

    ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมฉลองกันอย่างสนุกสนาน

    ทุกคนต่างเฮฮาสนุกสนานแต่กลับมีเพียงเอมิลี่คนเดียวที่นั่งเฉยๆจ้องมองท้องฟ้าออกไป

    "เห้ย พวกนายน่าจะไปดูเธอสักหน่อยนะ" อะตอมสุมหัวคุยกับดิเอโก้และอีธาน

    "ฉันว่าเธอดูเศร้าๆนะ" อีธานเเสดงความคิดเห็น

    "ใช่" ดิเอโก้ตอบก่อนจะจิบไวน์

    "เดี๋ยวฉันไปคุยเอง" อะตอมพูดก่อนจะเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างๆกับเอมิลี่

    "นี่ เอมิลี่" เธอหันไปมองอะตอมอย่างตั้งใจฟัง

    "ฉันว่าบางทีชีวิตเธอตอนนี้อาจจะเหมือนกับโมเมนตัม" เอมิลี่ทำหน้าสงสัย "หลังการชนกันเสร็จมันไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องหยุดเคลื่อนที่หรอกนะ แต่บางครั้งเธอก็ต้องเคลื่อนที่ต่อไป" อะตอมพูดปลอบใจในทางฟิสิกส์ เอมิลี่ยิ้มให้เขาเบาๆ อะตอมรีบลุกและเดินกลับไปเกาะกลุ่มเหมือนเดิม

    "ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจที่ฉันพูดนะ" อะตอมบอก

    "เดี๋ยวฉันลองบ้าง" ดิเอโก้ฝากแก้วไวน์ให้กับอะตอมก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิมที่อะตอมเคยนั่ง

    "ฉันรู้นะว่าการเสียใครบางคนไปเนี่ยมันเป็นยังไง" ดิเอโก้นั่งทำหน้าเศร้า

    "เหมือนตอนที่ฉันกับเพื่อนฉันไล่จับโจรปล้นยานกัน" ดิเอโก้นึกย้อนความหลัง

    "เพื่อนฉันโดนยิงแสกหน้า เข้าที่แถวๆหัวด้านซ้าย กระสุนพุ่งแรงมากจนลูกกระตากระเด็นหลุดออกมา" ดิเอโก้เล่าจนเกิดภาพก่อนจะเล่าไปเรื่อยๆ ผ่านไปอีกครึ่งนาที เขาก็เดินออกมา

    "ไม่ได้ผลเลย" ดิเอโก้ยอมแพ้ก่อนจะเดินออกมา

    "ก็นายเล่นไปเล่าเรื่องศพเพื่อนนายสะขนาดนั้น" อะตอมบอก

    "เดี๋ยวฉันไปเอง พวกนายนี่ไมได้เรื่องเลย" อีธานส่ายหัวก่อนจะเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิมกับที่อีก 2 คนนั้นนั่ง เขากำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็โดนเอมิลี่พูดสกัดไว้ก่อน

    "หยุด" เอมิลี่หันไปมองอีธานก่อนจะยิ้มให้เบาๆ

    "ขอบใจนะ" เอมิลี่ลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินเข้าไปหาอะตอมและดิเอโก้

    "ขอบคุณพวกคุณมากเลยนะค่ะ ที่เป็นกำลังใจให้" เอมิลี่ยิ้มให้ทั้ง 3 คน ทำให้พวกเขาพลอยยิ้มตามไปด้วย

    "ไป เต้นกันเถอะ" อีธานชวน







    อีกด้านหนึ่งของงาน

    "วู้ว ฮู" เจมส์กระโดดตีลังกาหลายตลบจากแท่นกระโดดน้ำก่อนจะพุ่งลงไปในแม่น้ำ ที่แม่น้ำนั้นมีคนมาเล่นกันอย่างมากมาย ส่วนด้านบนก็เป็นส่วนของคนที่จะมานั่งพักกินลมชมวิว เจนนี่เดินไปหาไบรอันที่นั่งเอนหลังอยู่กับเก้าอี้อยู่

    "นี่นายล้างหัวสมองน้องฉันรึยังเนี่ย" เจนนี่ถาม

    "ยังๆ" ไบรอันตอบ ก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า

    "คุ้มค่าจริงๆ กับการที่ไม่ได้ไปพักร้อนเนี่ย" ไบรอันบอกโดยที่สายตาของเขานั้นจับจ้องไปที่สาวๆที่เล่นน้ำอยู่

    "นายนี่น้า" เจนนี่ทำหน้าเบ้ ไบรอันหัวเราะเบาๆ



    หลังจากงานจบทั้งหมดก็เดินลงแยกย้ายกันไป

    "ชาร์ลส์" มาร์คัสเรียกเขาไปพบ ชาร์ลส์หันไปคุยกับอีธาน

    "ไปก่อนเลยเดี๋ยวฉันตามไป" อีธานพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปทางส่วนของที่จอดรถ

    "มานี่ เดินตามฉันมา" มาร์คัสพาชาร์ลส์เดินออกไปจากด้านตัวงาน

    "มีอะไรหรอครับ" ชาร์ลส์ถาม

    "นายรู้ไหมว่าตึกที่พวกนายช่วยไว้จากการโจมตีครั้งนั้นคือตึกอะไร" มาร์คัสถาม

    "ไม่รู้ครับ" ชาร์ลส์ตอบ มาร์คัสยิ้มให้เล็กน้อย

    "มันคือตึกเด็คตัน" ชาร์ลส์พยายามตามเรื่องให้ทัน

    "เจ้าของคือ ไมเคิ้ล แอนเดอร์ซัน" ชาร์ลส์พยักหน้าตาม มาร์คัสหันไปมองก่อนจะเริ่มพูดต่อ

    "เขาอยากจะขอบคุณนายที่ นายช่วยชีวิตของเขาไว้" ทั้งสองเดินผ่านต้นไม้ที่จัดให้ดูสวยงามทางยาวมาจนสุดทาง

    "เขาเลยบริจาคสร้างบางอย่างให้นาย" มาร์คัสยื่นกระดาษที่อยู่ในมือของเขาให้ชาร์ลส์ดู

    'โครงการสร้างยานอวกาศปี 2107 :

    1.Earth Exploraion 250

    2.Space Force'

    "โอ้" ชาร์ลส์ได้แต่อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก

    "แล้วก็ ฉันพึ่งรู้เรื่องพ่อของนาย" มาร์คัสหันไปบอกชาร์ลส์ เขารีบหันไปมองนายพลตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

    "แจ็ค เขาเป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน ก่อนเขาจะหายตัวไป" ชาร์ลส์ก้มหน้าเล็กน้อย

    "รู้ไหม พ่อนายเป็นกัปตันยาน Earth Exploration 242 นะ" มาร์คัสถามก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเหล่าดวงดาว

    "รู้ครับ" ชาร์ลส์ตอบ

    "พ่อนายคงภูมิใจนะ ที่เห็นลูกเดินตามรอยเท้าพ่อตัวเอง" พูดจบมาร์คัสก็เดินจากไปโดยพูดทิ้งท้ายไว้

    "พรุ่งนี้ตอน 10 โมงเช้าที่ศูนย์วิจัยอวกาศ พวกเขาจะสอนนายเอง อย่าลืมพาพนักงานคนยานของนายมาด้วยหละ" ชาร์ลส์ยิ้มด้วยความดีใจเบาๆก่อนจะเดินกลับไปที่รถของตัวเอง



    "เอางี้ นายไปชวน เจนนี่ เจมส์ กับ เอมิลี่ ส่วนฉันจะไปชวน ไบรอัน ดิเอโก้เอง ส่วนอะตอมเดี๋ยวค่อยไปชวนที่ศูนย์วิจัยเลยทีเดียว" อีธานเสนอความคิด

    "โอเค" ทั้งสองคนแยกย้ายกันออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว ชาร์ลส์รีบขับรถไปตามใบประกาศขายพื้นที่ที่แปะอยู่ เมื่อไปถึงก็พบกับเจมส์และเจนนี่ที่กำลังเก็บข้าวของอยู่ด้านหน้ารถพอดี เจนนี่กับเจมส์มองหน้าชาร์ลส์อย่างสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่

    "พวกนายสนใจจะขึ้นยานสำรวจรุ่นใหม่กันดูไหม" เจมส์และเจนนี่ยิ้มออกมา

    "ฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่สะด้วยสิช่วงนี้" เจนนี่บอก

    "ฉันหละอยากเห็นตัวเครื่องจริงๆเลย" เจมส์พูดด้วยความตื่นเต้น ทั้งสองเดินขึ้นรถก่อนที่ชาร์ลส์จะขับออกไป

    ทางด้านอีธานเขาก็เหยียบคันเร่งไปที่กองทัพอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเขามาถึงก็พบ ดิเอโก้กับไบรอันยืนถือถุงเสื้อผ้าคนละถุงทางด้านหน้าทางเข้า ส่วนด้านในกองทัพมีเสียงดังราวกับเป็นการเฉลิมฉลอง

    "อ่าว พวกนายออกมาทำไม แล้วแบกอะไรกันหละเนี่ย" อีธานถาม

    "ฉันก็ไม่รู้ ท่านนายพลท่านสั่งให้เก็บเสื้อผ้าแล้วก็มายืนรออยู่ตรงนี้เนี่ย อดฉลองยานใหม่เลย" ไบรอันบ่น อีธานยิ้มและส่ายหัวเบาๆ

    "มาขึ้นรถเถอะ" และขับออกไปโดยมีจุดมุ่งหมายคือศูนย์วิจัย

    กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋ากางเกงของอีธาน

    "ฮัลโหล ชาร์ลส์ มีอะไร" อีธานพูดกับโทรศัพท์ของเขาขณะขับรถ เขาพยักหน้าทำเหมือนรับฟังบางอย่างจากชาร์ลส์ ก่อนจะหันไปหาดิเอโก้ที่นั่งข้างๆกันกับไบรอันที่นั่งข้างหลัง

    "นายรู้ไหมเอมิลี่ไปไหน" ทั้งสองส่ายหน้าเบาๆ

    "ไม่" อีธานหันกลับไปตอบชาร์ลส์

    "โอเค เจอกันที่ศูนย์วิจัย"

    "เกิดอะไรขึ้นอีกหละ" ไบรอันถาม

    "แม่สาวพยาบาลของพวกเราหายไปหนะสิ" อีธานตอบ

    "เดี๋ยวนะ เป็นของพวกเราตอนไหน" ดิเอโก้ถามกลับ

    "ช่างเถอะ" อีธานตอบแก้ตัวและขับรถต่อไป



    "ชาร์ลส์" อีธานตะโกนเรียกชาร์ลส์ ตอนนี้ทุกคนมาถึงศูนย์วิจัยพร้อมหน้ากับหมดยกเว้นแต่ เอมิลี่ กับอะตอม

    "มาถึงนานรึยัง" ไบรอันถามเจมส์

    "ไม่นานมากครับ ประมาณ 5 นาทีได้" เจมส์ตอบกลับ

    "อ่าว พวกนาย" อะตอมที่เดินออกมาจากห้องทดลองเข้าไปหาพวกชาร์ลส์

    "พอดีฉันพึ่งไปดูวิจัยของเพื่อนมา แล้วตกลงพร้อมจะไปดูยานรึยัง" อะตอมถาม

    "เรายังหาตัวเอมิลี่ไม่เจอเลย" ชาร์ลส์บอกอะตอม

    "อ๋อ อยู่โรงพยาบาลฮัตตันหละมั้ง" อะตอมบอก

    "รู้ได้ยังไง" เจนนี่ถาม

    "ก็ตอนที่พวกเราไปเยี่ยมเธอล่าสุด ไม่เห็นปกเสื้อของผู้หญิงที่เดินออกจากห้องไปหรอ มันเป็นโลโก้โรงพยาบาลนี้ ฉันว่าเธอคงทำงานอยู่ที่นั่นมั้ง" อะตอมบอก

    "แต่โรงพยาบาลนั่นฉันได้ข่าวว่ามันเป็นโรงพยาบาลเอกชนนอกโลกไม่ใช่หรอ" อีธานถามอะตอม

    "ก็ใช่ โชคดีที่วันนั้น โรงพยาบาลฮัตตันไม่อยู่ในเขตเมมืองแถวนี้ ไม่งั้นฉันว่าโดนยิงถล่มไปแล้ว" อะตอมพยักไหล่

    "เราต้องรีบไปตามเธอ ก่อนที่เธอจะขึ้นยาน" ไบรอันบอก

    "ไบรอันนายมากับฉัน" ชาร์ลส์ตอบก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปที่นิวยอร์คจุดปล่อยตัวยานมีที่เดียวดังนั้นทั้งสองคนก็รีบวิ่งออกไปขึ้นรถทันที

    "ไม่ขึ้นยานหรอ" ชาร์ลส์ถาม

    "ไม่ทันแน่ ถนนอากาศยานติดแน่ๆ รถดีกว่าคนบนถนนเดี๋ยวนี้น้อยด้วย" ไบรอันเสนอ

    "นี่กุญแจ" ชาร์ลส์โยนกุญแจเข้ามือไบรอันพอดี

    "นายขับเลย" นักบินพยักหน้าตอบกลับเบาๆ



    เอี๊ยด เสียงล้อรถไถลขูดกับพื้นยางจนเกิดเสียงดังพร้อมกับรอยไหม้บนพื้น ตู้ม เสียงของการจุดเชื้อเพลิงใช้สำหรับการปล่อยยาน ชาร์ลส์แล้ววิ่งลงจากรถไปอย่างรวดเร็วและขึ้นวิ่งขึ้นไปที่ดาดฟ้าของตึกจุดปล่อยยานอย่างรวดเร็ว แต่เขามาช้าไปเสียแล้ว ยานที่เขาไล่ตามกลับพุ่งลอยออกไปนอกอวกาศอย่างรวดเร็ว ชาร์ลส์นั่งลงกับพื้น พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

    "มาหาใครรึเปล่าค่ะ" เสียงใสๆดังขึ้นด้านหลังเขา ชาร์ลส์หันไปมองก็พบเอมิลี่ยืนอยู่ด้านหลัง

    "อ่าว ฉันนึกว่าเธอ" ชาร์ลส์ชี้ขึ้นไปบนฟ้า

    "อ๋อ พอดีตอนฉันกำลังจะขึ้นยาน ท่านนายพล เขาโทรมาบอกเรื่องยาน Earth Exploraion 250 ฉันก็เลยปฏิเสธงานไป" ชาร์ลส์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ไบรอันที่วิ่งขึ้นมาตามหลังก็พูดขึ้น

    "ดีนึกว่าไม่ทันสะแล้ว" ชาร์ลส์ค่อยๆดันตัวลุกขึ้น

    "ตกลงไปไหม" เขาถามเอมิลี่

    "ไปอยู่แล้ว" เอมิลี่ตอบพร้อมกับยิ้มให้



    "มาพร้อมหน้ากับสักทีนะ" นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งเดินมาหาพวกชาร์ลส์ที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่

    "ฉันชื่อ ด๊อกเตอร์ ปีเตอร์ ก่อนที่พวกเธอจะได้ขึ้นยานเนี่ยพวกเธอต้องเข้ากับการฝึกและทดสอบก่อน เข้าใจไหม" เขาเดินมาอธิบายให้ทั้ง 8 คนฟัง

    "ใช้เวลานานไหมครับ" ชาร์ลส์ถาม



    "นั่นขึ้นอยู่กับพวกเธอ พวกเธอกำหนดเวลาเรียนเอง แล้วก็ทดสอบก็ต่อเมื่อเรียนจบ แต่ละคนจะถูกแบ่งหน้าที่ออกไปและการเรียนของแต่ละคนนั้นจะไม่เหมือนกัน เอาหละ ตามผู้ช่วยของฉันไป เธอจะพาพวกเธอไปเอาเอกสาร ขอให้โชคดีหละ" ปีเตอร์พูดจบก็เดินออกไปจากห้องโถงของศูนย์วิจัย

    "ทางนี้ค่ะ" ผู้ช่วยของปีเตอร์พาทั้งหมดเดินออกไปทางอีกห้องหนึ่ง

    17 วันผ่านไป 19 มกราคม 2208

    "ฉันไม่เคยเห็นกลุ่มไหนจบการฝึกได้เร็วแบบนี้นะเนี่ย" ปีเตอร์พูดกับใครบางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหลังในมุมมืดของห้องปีเตอร์ในศูนย์วิจัย

    "ก็ในกลุ่มนั้นมีแต่พวกเก่งๆหนะสิ" ชายลึกลับพูดตอบกลับ

    "พวกนั้นโชคดีจังนะ" ปีเตอร์ตอบก่อนจะถอดแว่นที่สวมอยู่ออกและปิดสมุดเอกสาร

    "ไม่ใช่โชคดีหรอก โชคชะตาต่างหาก"

    "ฉันอยากรู้จักเลยว่านายเจอข้อสอบอะไร" อีธานคุยกับชาร์ลส์ขณะเดินตามหลังผู้ช่วยปีเตอร์ไปตามทางเดินพร้อมกับคนอื่นๆด้านหลัง

    "เอาน่า กฏก็คือกฏ เขาบอกว่าอย่าบอกข้อสอบกัน" ชาร์ลส์พูดกับอีธาน ทั้งหมดเดินออกมาที่โรงเก็บยานขนาดใหญ่ยักษ์ พร้อมกับผู้คนที่มารอส่งพวกเขาออกไป

    "โอ้ โห" ชาร์ลส์ตะโกนออกมาเมื่อได้เห็นยาน Earth Exploration 250 ยานที่้เขากำลังจะเป็นกัปตัน เอมิลี่ อะตอม กับดิเอโก้ไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มออกมาเท่านั้น

    "เธอสวยมาก" ไบรอันชื่นชม

    "อยากเห็นตัวเครื่องจัง" เจมส์พูดขึ้น

    "ฉันหละอยากเห็นด้านในจริงๆ" เจนนี่พูดเช่นกัน

    ยานเป็นลักษณะวงรีสีขาวส่วนด้านหน้าของยานเป็นกระจกสีเทาเคลือบไว้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหลังยานเป็นตัวขับเคลื่อนขนาดใหญ่ ส่วนด้านข้างนั้นเรียบเนียน



    "นี่ครับ" พนักงานคนหนึ่งเดินมายื่นเอกสารสองแผ่นให้ชาร์ลส์แผ่นแรกเป็นรายชื่อคนบนยาน มีเพียง 8 คนที่เขารู้จักคือ

    ชาร์ลส์ สมิธ

    อีธาน แมคลาส

    เอมิลี่ ครอส

    อะตอม แกมบิต

    ร้อยตำรวจเอก ดิเอโก้ จาคอป

    เจนิเฟอร์ บราวน์

    เจมส์ บราวน์

    เรืออวกาศเอก ไบรอัน โรบินสัน

    ส่วนคนอื่นๆนั้นเขาไม่รู้จักชื่อ





    แผ่นที่สองมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า

    'ยานนี้เป็นของเธอ เธอไม่จำเป็นต้องรับคำสั่งจากใคร ที่ศูนย์วิจัยนี้ทำได้เพียงชี้แนะให้เธอเท่านั้น ถึงชื่อยานจะชื่อ Earth Exploration แต่ฉันขอบอกนะว่ายานลำนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นยานสำรวจเสมอไป - จาก J '



    "ใครส่งนี่มา" ชาร์ลส์ถามพนักงาน

    "ไม่ทราบครับ มันอยู่ในซองเอกสารอยู่แล้ว" เขาตอบ ชาร์ลส์พยักหน้ากลับ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนยานช้าๆ เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนทางเข้าเขาก็พบกับพนักงานอีกคนกำลังยืนคุยกับเจมส์อยู่

    "มีการขับเคลื่อนสองระบบ ยานอพยพ ปืนป้องกันตัว 6 ตัวติดตั้งบนยาน มีระบบเชื่อมหัวต่อ 3 หัว บน ซ้าย ขวา" เจมส์ทำท่าดีใจสุดๆเมื่อได้ฟัง ชาร์ลส์เดินผ่านทั้งสองคนเข้าไปในยาน





    ด้านในตัวยานนั้นแบ่งเป็นสามส่วน ด้านหน้าเป็นส่วนควบคุม ด้านหน้าตรงกลางห้องเป็นเก้าอี้นั่งสำหรับกัปตันและด้านของนั้นมีทางเดินลงไปเล็กน้อยและมีที่นั่งอีกสองที่นั่งเยื้องทางด้านซ้ายและด้านขวาของเก้าอี้กัปตัน ส่วนด้านตรงกลางระหว่างทั้งสองเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่พร้อมกับโปรแกรมที่ซับซ้อนวุ่นวาย ด้านซ้ายและด้านขวาที่ติดกับผนังโดยมีเก้าอี้กัปตันอยู่ตรงกลางนั้นก็เป็นเครื่องควบคุม

    ส่วนกลางนั้นเป็นส่วนของทางขึ้นทางด้านซ้ายและห้องพักทางด้านขวา ซึ่งมีห้องนอนเป็นที่นอนแบบเตียงสองชั้ถูกจัดให้ไม่เล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป ด้านส่วนที่ชิดกำแพงเป็นช่องเปิดเพื่อเก็บของได้ และเดินตรงไปจะด้านซ้ายจะเป็นห้องอาหาร ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องน้ำและที่เปลี่ยนเสื้อผ้า

    ด้านหลังของยานนั้นเป็นทางเดินตรงและมีห้องแยกออกไปเป็น ด้านซ้ายเป็นห้องวิจัย ด้านขวาเป็นพยาบาล และส่วนหลังสุดเป็นห้องเครื่องและห้องเก็บอุปกรณ์ ยานอพยพ รวมทั้งอาวุธด้วย



    "เอาหละ ทุกคนประจำที่" เสียงของปีเตอร์ดังขึ้นจากลำโพงภายในตัวยาน เจมส์ที่อยู่ด้านนอกรีบเดินเข้ามาก่อนที่ทางขึ้นจะค่อยๆเลื่อนขึ้น ชาร์ลส์ค่อยๆเดินไปนั่งบนเก้าอี้กัปตัน

    ส่วนไบรอันเดินไปนั่งด้านล่างฝั่งซ้าย และอีธานไปด้านล่างฝั่งขวา พร้อมกับมีเจนนี่นั่งตรงกลางด้านหลัง เอมิลี่เดินเข้าไปประจำที่ที่ห้องพยาบาลก็เจอผู้หญิงแปลกหน้าอีก 3 คน ขณะเดียวกันอะตอมก็เดินไปที่ห้องวิจัยก็พบกับคนแปลกหน้า อีก 3 คนเช่นเดียวกับ เจมส์และดิเอโก้แต่ของเขานั้นกลับมีถึง 5 คน

    "อ๋อ ลืมบอกว่า เราจะมีผู้ช่วยในแต่ละหมวดด้วย พวกเธอทั้ง 7 คนที่ฝึกมารีบคำสั่งจากกัปตันแล้วก็คอยควบคุมกำกับดูแลผู้ชวยอีกทีหนึ่ง" ปีเตอร์กำกับดูแลอย่างเคร่งครัด

    "เมื่อออกไปด้านนอกวงโคจรเมื่อไรแล้วจะติดต่อเรื่องภารกิจอีกทีหนึ่ง รับทราบ" ปีเตอร์ถาม

    "ครับ" ชาร์ลส์ตอบ

    "ขอให้โชคดี" จากนั้นจอก็ดับไป

    "ทุกที่เรียบร้อยดีไหม" ชาร์ลส์ถามผ่านลำโพงในตัวยาน ก่อนจะมีเสียงตอบกลับ

    "ห้องพยาบาลเรียบร้อย"

    "ห้องวิจัยก็เรียบร้อย"

    "ห้องเครื่องเรียบร้อยดี"

    "รัดเข็มขัดให้เรียบร้อยแล้วเอาเครื่องขึ้น" ชาร์ลส์สั่ง

    "ครับกัปตัน" ไบรอันตอบกลับ ก่อนจะเริ่มเดินเครื่อง ไอพ่นยานด้านล่างและด้านหลังค่อยๆทำงานก่อนจะมีการเผาเชื้อเพลิงและกลายเป็นเปลวเพลิงพ่นออกมาในที่สุด

    ยานค่อยๆลอยออกขึ้นไปบนฟ้าผ่านชั้นบรรยากาศออกไป แรงดันที่ชาร์ลส์คุ้นเคยค่อยๆดันเขาไปด้านหลังเช่นเดิม

    "เตรียมตัวปิดระบบขับเคลื่อนบนดวงดาว เปิดระบบสร้างแรงโน้มถ่วงจำลอง และระบบให้ออกซิเจน" ชาร์ลส์พูด

    "ค่ะ" พนักงานผู้ช่วยฝ่ายการบินที่อยู่ด้านซ้ายพูดขึ้น

    "ผ่านพ้นชั้นบรรยากาศแล้วค่ะ" ผู้หญิงคนเดิมตอบกลับ

    "ชาร์ลส์ เอ้ย คุณกัปตัน" อีธานเผลอหลุดพูดผิดออกมา ทำให้ชาร์ลส์หัวเราะออกมาเบาๆ "เอาน่าๆ" ชาร์ลส์พูด

    "วันนี้รัศมีการโคจรในช่วง 50 จิกะเมตร ไม่มีอุปสรรค์รบกวน" อีธานหันกลับไปมองจอของตัวเองเช่นเดิมพร้อมกับสำรวจแผนที่อวกาศ

    "กัปตัน ไฟล์ข้อมูลภารกิจถูกอัพโหลดมาให้แล้ว" เจนนี่พูดกับชาร์ลส์

    "ดี" ชาร์ลส์ค่อยๆเอาแขนวางกับแขนของเก้าอี้

    "งั้นลุยกันเลย"

    .
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย taone1414 : 3rd January 2014 เมื่อ 18:03

  8. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  9. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    ที่อยู่
    ทุกที่ที่มีเธอ
    กระทู้
    361
    กล่าวขอบคุณ
    724
    ได้รับคำขอบคุณ: 342
    โคตะระยาาาาววววเลยล่ะครับ EP 1 เนี่ย

  10. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  11. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    413
    กล่าวขอบคุณ
    115
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    ยาวสะใจดีจัง

    นิยาย:การทหาร พจญภัย วิทยาศาสตร์

  12. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    ที่อยู่
    ทุกที่ที่มีเธอ
    กระทู้
    361
    กล่าวขอบคุณ
    724
    ได้รับคำขอบคุณ: 342
    พึ่งอ่านไป ยังไม่จบ
    ขอแนะนำนะ
    -เรื่องตอนเดียวยาวเกินไป ควรแยกให้น้อยลงกว่านี้ เพราะว่ามันไม่ใช่นิยายในหนังสือ มันเป็นออนไลน์
    -มีคำผิดอยู่ ถึงไม่มาก แต่มันก็เป็นปัญหาสำหรับคนอ่าน
    -เรื่องบทสนทนา รู้สึกว่าแต่ละคนจะพูดสั้นและไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองไปนะครับ
    -เรื่องบรรยากาศนี่ดีครับ ยกเลยเรื่องนี้

  14. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  15. #8
    Stay In The Dream....
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Find me in the Dream
    กระทู้
    1,014
    กล่าวขอบคุณ
    1,000
    ได้รับคำขอบคุณ: 697
    Blog Entries
    2
    ยาวมว๊ากกก 555 สานต่อรุ่นใหม่ไฟแรงง

    ---------------------------------------------------------------

  16. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #9
    CrockStudio
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    519
    กล่าวขอบคุณ
    1,485
    ได้รับคำขอบคุณ: 382
    อัพเดทล่าสุด

    ตอนนี้ผมกำลังยุ่งอยู่กับนิยายเรื่องใหม่อยู่นะครับ แต่เรื่องนี้ยังไม่ทิ้งเช่นกันซึ่งผมก็ยังแต่งอยู่ควบคู่กันไป

    โดยในส่วนของตอนที่ 2 นั้นต้องรอนานหน่อยนะครับเพราะความยาวของตอนที่ 2 ก็คงจะยาวพอๆกับตอนแรก

    ยังไงก็ช่วยติดตามผลงานเรื่องใหม่ของผมที่กำลังจะออกแล้วก็ช่วยติดตามเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะครับ

    ขอบคุณครับ


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top