ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 14 จากทั้งหมด 14
  1. #1
    Forever...
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    1,540
    กล่าวขอบคุณ
    64
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,560

    มาไขปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ากัน (Bermuda Triangle)

    สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle)


    สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (Bermuda Triangle) ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมันเป็นบริเวณดินแดนอาถรรพณ์ อันเป็นที่ล่ำลือกันว่าเต็มไปด้วยความลี้ลับ มันเป็นดินแดนที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเลที่กลืนกินชีวิตมนุษย์และเรือเดินทะเล เครื่องบินที่โชคร้ายบังเอิญผ่านเข้าไปก็อาจหายสาบสูญไปอย่างไม่มีร่องรอยให้เห็นอีกเลย นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณ เบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอน เป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้

    - มาทำความรู้จักสามเหลี่ยมอาถรรพ์แห่งนี้กันหน่อยดีกว่าาา

    สามเหลี่ยมเบอร์มิวดามีเนื้อที่ประมาณ 1.14 ล้านตารางกิโลเมตร (4.4 แสนตารางไมล์) อยู่ระหว่างจุด 3 จุดได้แก่ เปอร์โตริโก ปลายสุดของรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกา และเกาะเบอร์มิวดา เป็นเกาะตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติกและดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักร มีพื้นที่ครอบคลุมช่องแคบฟลอริดา หมู่เกาะบาฮามาส และหมู่เกาะแคริบเบียนทั้งหมด แต่แนวคิดที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายกว่า เนื่องจากปรากฏในงานเขียนจำนวนมาก ระบุว่า จุดปลายสุดของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ได้แก่ ชายฝั่งแอตแลนติกของไมอามี, ซานฮวน เปอร์โตริโก, และเกาะเบอร์มิวดา ด้วยเหตุว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งด้านใต้โดยรอบหมู่เกาะบาฮามาสและช่องแคบฟลอริดา พื้นที่ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ที่หนาแน่นที่สุดในโลก โดยมีเรือผ่านพื้นที่นี้เป็นประจำทุกวันมุ่งหน้าไปยังเมืองท่าในทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และหมู่เกาะแคริบเบียน เรือสำราญที่ผ่านพื้นที่นี้ก็มีมากเช่นกัน เรือเที่ยวเองก็มักจะมุ่งหน้าไปและกลับระหว่างฟลอริดากับแคริบเบียนอยู่เป็นปกติ นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีการสัญจรทางอากาศอย่างหนาแน่น ทั้งอากาศยานพาณิชย์และส่วนตัว ซึ่งมุ่งหน้าไปยังฟลอริดา แคริบเบียน และทวีปอเมริกาใต้



    - เรื่องน่ารู้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ (Bermuda Triangle)

    สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนอาถรรพณ์ โดยแท้จริงแล้ว เป็นอาณาบริเวณกว้างใหญ่มาก เป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติกภาคตะวันตก พื้นที่ทั้งหมดปกคลุมพื้นทะเลตั้งแต่ตอนเหนือของหมู่เกาะเบอรืมิวด้าไปยังทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดาตีวงออกไปในทะเลทางตะวันออกไปจนภึงหมู่เกาะบาฮามัส เลยไปอีกจนถึงอ่าวเม็กซิกโน้นแหนะ .. ถ้าดูตามแผนที่จะครอบคลุ่มพื้นที่ประมาณ 380,000 ตารางไมล์ทะเล ซึ่งถ้าดูกันจริงๆ แล้ว มันไม่ใช่พื้นที่เป็นรูปสามเหลี่ยมเหมือนกับชื่อของมันเลย ไม่ทราบว่าชื่อ “สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า” นี้ได้มาอย่างไร? มีผู้พยายามตั้งชื่อเสียใหม่ว่า “บริเวณดินแดนปิศาจ” บ้างก็เรียกว่า “สามเหลี่ยมปีศาจ” (Devil’s Triangle) ตามชื่อเสียงของมันได้ถูกขนานนามขึ้นมาในราวๆ ปี ค.ศ.1960 เลื่องลือกันไปทั่วถึงอันตรายของการหายสาบสูญอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา จากบันทึกของกองเรือยามฝังสหรัฐฯ และบริษัทประกันภัยทางทะเล บริษัทประกันภัยเรือเดินสมุทรและเครื่องบิน มีสถิติความสูญหายอย่างผิดปกติในอาณาบริเวณนี้เป็นบริเขตต้องห้ามและเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ

    - ความอาถรรพ์ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า

    สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนอาถรรพ์ มรณะ ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่านเข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาดอาจเป็นเพราะความเชื่อในเรื่องอันพิลึกกึกกือที่เป็นข่าวระบือลือลั่นกันไม่รุ้จบระหว่างคนในระแวกนั้น เหตุการณ์ประหลาดๆ อย่างที่ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ มักจะเกิดขึ้นกับเรือ หรือเครื่องบินที่ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน จากสถิติของบริษัท Lioyd’s ov London ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยเรือเดินสมุทร พบว่านับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 ถึง 1973 (ราว 10 ปี) มีเรือในประกันของบริษัทจำนวน 60 ลำ รวมผู้โดยสาร 900 คน ได้หายสาบสูญไปในบริเวณน่านน้ำเบอร์มิวด้า โดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1967 มีเรือทะเล เรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้หายไปอย่างลึกลับเป็นจำนวน 15 ลำ ทั้ง 15 ลำ ไม่มีการส่งสัญญาณ “SOS” หรือส่งวิทยุขอความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่แปลกน่าฉงน และน่ากลัวที่สุดก็คือ เรือทั้ง 15 ลำนั้นเป็นเรือขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ช่วยในการเดินเรือแบบทันสมัยบริบูรณ์ เช่นวิทยุสื่อสาร เราดาร์นำร่องโซนาร์นำร่อง การค้นหาได้กระทำกันเป็นเดือนๆ แต่ก็ประสบผลล้มเปลวโดยสิ้นเชิงไม่พบแม้แต่เงา นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ไดมาจากบริษัทประภัยของเอกชนที่ต้องจ่ายประกันไปจนบริษัทแทบล้มละลาย น้ำมาซึ่งความงุนงง ให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลังอย่างสิ้นหวัง อะไรเกิดขึ้นกับเรือเหล่านั้น ลูกนาวี 900 คนหายไปไหนใครบ้างจะมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ ตัวอย่างอีกรายหนึ่งที่จะขอยกมาให้พิจารณาว่ามันเป็นอาถรรพณ์ของดินแดนมรณะแห่งนี้ (หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุ) คือ การหายสาบสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดนาวีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945




    เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ TBM ของนาวีสหรัฐฯ 1 ฝูงบิน (5 เครื่อง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องทั้งหมด 14 นาย ได้ออกทำการบินฝึกทิ้งระเบิดเหนือดินแดนเบอร์มิวด้า ห่างจากฐานทัพฟอร์ทล๊อคเดอร์เดลประมาณ 225 ไมล์ และแล้ว ฝูงบินทั้ง 5 ลำก็หายสาบสูญ ไม่เหลือแม้แต่เงา นาวีสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินผู้ประสบภัยมาร์ติน มารีนเนอร์ แบบ PBM (เป็นเครื่องบินน้ำ 2 เครื่องยนต์) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำเครื่อง 13 นาย อกตามหา 20 นาทีต่อมา PBM ก็หายสาบสูญ โดยขาดการติดต่อกับหอบังคับการ และหายไปอย่างลึกลับเช่นกันไม่มีเหลือแม้แต่เงา มันจะเป็นเหตุบังเอิญ อุบัติเหตุ หรือเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริง แนวโน้มจากสถิติการสูญหายอาจบอกเราได้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1800 จนถึงปี ค.ศ.1976 มีเรือและเครื่องบินหายสาบสูญไปในบริเวณเบอร์มิวด้าแล้วเป็นจำนวน 143 ราย รวมชีวิตมนุษย์เท่าที่ทราบแน่นอนเป็นจำนวน 2,101 คน ที่ต้องสังเวยไปในดินแดนอาถรรพณ์แห่งนี้ สถิติการสูญหายมีมากที่สุดในปี ค.ศ. 1975 คิดมีการสูญสาย 11 ราย เฉลี่ยเดือนละราย เมื่อเปรียบเทียบความเสียหายในบริเวณนี้กับบริเวณเส้นทางเดินเรืออื่นๆ แล้ว พบว่าแถบเบอร์มิวด้าต้องเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ เพราะในน่านน้ำที่อื่นๆ ไม่มีสถิติการสูญหายมากเท่านี้เลย


    - เหตุการณ์ที่ผู้รอดชีวิตได้นำกลับมาเล่าถึงความอาถรรพ์ของสามเหลี่ยมแห่งนี้

    1. รายงานที่พบเป็นประจำ การขัดข้องเกิดขึ้นกับเครื่องมือนำล่อง
    2. เกิดความสับสนขึ้นกับประสาทความรู้สึกในการรับรู้ทั้ง 5 ของผู้ที่หลุดเข้าไปในดินแดนอาถรรพณ์
    3. มีการรบกวนทางระบบไฟฟ้า และการติดต่อสื่อสารทางวิทยุจะถูกตัดขาด




    ผลการสแกนพื้นที่ใต้ทะเลบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าพบว่า มีซากเรือขนาดใหญ่กระจายเต็มพื้นที่

    - ทฤษฎีต่างๆที่พยายามจะอธิบายว่าทำไมเรือและเครื่องบินถึงจม

    1. บางคนคาดว่า : การหายสาบสูญนั้นอาจเกิดจากเรื่อเหล่านั้นแล่นไปชนเอาทุ่นระเบิด(ที่หลงเหลือจากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง)

    คำโต้แย้ง : แนวคิดข้อนี้ดูจะเป็นไปได้น้อยมาก เพราะมันไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ประหลาดอีกหลายกรณีได้เลย เช่น ในกรณีที่เรือเดินทะเลบางลำลอยเท้งเต้งเข้าหาฝั่ง โดยที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บนเรือนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ข้าวของและของมีค่าอื่นๆ ยังอยู่ครบบริบูรณ์บนเรือ กะลาสีเรือและกัปตันเรือหายตัวไปหมดโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างนี้จะอธิบายได้อย่างไรละ

    2. บางคนคาดว่า : การหายสาบสูญของเรือ อาจเกิดจากพายุในทะเลที่ก่อตัวขึ้นอย่างฉับพลัน

    คำโต้แย้ง : ไม่มีวันที่พายุใหญ่ๆ ขนาดนั้นจะรอดสายตาของนักอุตุนิยมวิทยาไปได้ และอย่างน้อยเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ๆ ก็มีเครื่องมือตรวจพายุอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีการส่งขาว รายงานเข้าสู่ฝั่ง หรือวิทยุขอความช่วยเหลือมาบ้างถ้าเจอเข้ากับพายุใหญ่ขนาดที่จะจมเรือเดินสมุทรได้

    3. บางคนคาดว่า : มันเป็นเรื่องความเชื่อ อันเกิดมาจากเหตุบังเอิญด้วยเหตุพ้องจองที่ว่า แถบเบอร์มิวด้า มีภาวะแวดล้อมที่ผิดแผกไปจากบริเวรเส้นทางเดินเรืออื่นๆ เท่านั้นเองจึงทำให้เกิดความผิดพลาดและเกิดอุบัติเหตุทางเรือได้ง่าย เป็นเหตุให้เกิดเรืออับปาง และเครื่องบินตกได้ง่ายกว่าที่อื่น


    คำโต้แย้ง : แต่ในกรณีเรือ ไซคล๊อปส์ หายไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ.1918 จู่ๆ มันก็ปรากฏตัวลอยเท้งแต้งเข้าฝั่งมาเกยตื้น โดยมีแต่เรือเปล่าปราศจากผู้โดยสาร จำนวน 309 คนหายไปไหนกันหมด ข้าวของมีค่าทุกชิ้นทั้งอาหารและสินค้าบนเรือยังอยู่บริบูรณ์ จะว่าเรือถูกโจรสลัดปล้นก็ไม่ใช่




    4. ทฤษฎีการบ่ายเบนของสภาพเวลาอวกาศ ดร.แซนเดอร์สัน ไอแวน (Dr” Sanderson Ivan) เป็นผู้เสนอแนวความคิดนี้ขึ้น

    เขียนไว้ในหนังสือชื่อ “Invisible Residents” ทฤษฎีนี้กล่าวสรุปว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นบริเวณที่มี “สาเหตุไม่ปกติ” ทางธรรมชาติเกิดขึ้นเนื่องมาจากเป็นบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลก และสนามไฟฟ้าของโลกมากที่สุด เมื่อมีกระแสน้ำอุ่นจาก ตอนเส้นศูนย์สูตรไหลขึ้นไปทางเหนือของมหาสมุทรแอรแลนติก ปะทะกับกระแสน้ำเย็นที่ไหลลงสู่ทางใต้จากขั้วโลกเหนือการปะทะกัน ทำให้เกิดการแบ่งตัวกันของระดับน้ำเป็นชั้นๆ ชั้นบนจากผิวน้ำลงไปสู่ความลึกประมาณ 500 ถึง 1,000 ฟุต จะเป็นชั้นของกระแสน้ำอุ่น ลึกลงไปจากนี้ก็จะเป็นชั้นของกระแสน้ำเย็น ทั้งสองชั้นนี้มีทิศทางการไหลของน้ำสวนทางกัน ซึ่งอยู่ในระดับความลึก 500 ถึง 1,000 ฟุต จะเกิดการอันแน่นของกระแสน้ำ มีการขัดถูกัน และมีการถ่ายเทอุณหภูมิกันอย่างมกมาย เกิดการถ่ายถ่ายเทขัดสีกันของประจุไฟฟ้าสถิตขึ้นอย่างมากมาย เป็นจำนวนมหาศาลหลายพันล้านโวลต์ จึงเกิดการเหนี่ยวนำของสนามไฟฟ้าเป็นผลกระบตามมา


    ประกอบกับการผันแปรของสนามแม่เหล็กโลกซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในบริเวณนี้ การผันแปรของสนามแม่เหล็กโลก และสนามไฟฟ้าอาจมีการแปรผันสัมพันธ์กัน นำไปสู่ภาวะการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นชั่วคราว กระทบกระเทือนกับสนามแรงโน้มถ่วงของโลกในบริเวณนั้น และนี่คือผลกระทบทีทำให้เกิดการบ่ายเบนของสภาพเวลา-อวกาศ เมื่อสาเหตุไม่ปกตินี้เกิดขึ้น ก็จะทำให้เรือหรือเครื่องบินที่บังเอิญอยู่ตรงบริเวณนั้นในขณะนั้น แล่นหรือบินออกจากจุดแห่งความแตกต่างของห้วงกาลเวลา หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าได้ว่าบริเวณนั้น มีการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ 4 เกิดขึ้น เรือหรือเครื่องบินก็ตาม อาจหลุดหรือผ่านเข้าไปสู่อีกมิติหนึ่ง หรืออีกกาลเวลาหนึ่งก็ได้และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรือ เครื่องบินหายวับไปโดยปราศจาร่อง แต่ใครละจะกล้าพิสูจน์ว่าทฤษฎีนี้เป็นจริงความเป็นไปได้ ของการบ่ายเบนของมิตินั้นก็เป็นทฤษฎีที่มีตัวเลขยืนยันคำนวณกันแต่บนกระดาษ แต่ในความเป็นจริงแล้วทฤษฎีนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าทดลองเพื่อยืนยัน


    5. กรณีที่มีเครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ชัวระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็กลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง


    นอกจากนี้ ทฤษฎีของ ดร.แซน เดอร์สัน ยังสามารถใช้อธิบายในกรณีนี้ได้ เพราะเหตุที่ว่าเครื่องบินเหล่านั้น ได้บังเอิญบินหลุดเข้าไปในความแปรผันของสนามเวลา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางมิติขึ้นในทันทีทันใด จุดแปรผันของกาลเวลานาอาจเป็นเพียงบริเวณเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเพียงชัวครู่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นดังนั้นจึงมิได้ทำให้เครื่องบินนั้นเคลื่อนย้ายออกไปจากมิติ หรือกาลเวลาปัจจุบันมากนัก ระยะเวลาที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินอาจจะเป็นชั่วระยะสั้นๆ แค่ 1 ในพันของวินาที หรืออาจจะไม่ถึงพริบตา แต่จะทำให้เกิดความแตกต่างกันกับเวลาบนโลกนับได้เป็นนาที หรือชั่วโมงก็เป็นได้และก็ด้วยการแปรผันอย่างรุนแรงของสภาพมิติ ในบางครั้ง มันก็อาจทำให้เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ หรือเครื่องินทั้งฝูงหลุดเข้าไปสู่อีกห้วงหนึ่งของกาบเวลาที่ไม่ใช้ปัจจุบัน และผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นก็จะติดอยู่ในห้วยแห่งกาลเวลานั้นโดยไม่มีทางได้กลับออกมาสู่มิติเดิมของเขาได้อีกเลย

    6. บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อาจเป็นที่ตั้งฐานทัพลับใต้สมุทรของชนชาติลึกลับ หรือของพวกมนุษย์ต่างดาว

    บางคนคาดว่า : การหายไปของเรือและเครื่องบิน อาจเกิดจากการจงใจ “ขโมย” เรือหรือเครื่องบินรวมทั้งการลักพาคนไปเพื่อการศึกษา หรือเพื่อการทดลอง หรือเพื่อการเก็บไปเป็นตัวอย่างดูเล่นก็เป็นได้ แนวความนึกคิดทำนองนี้ อาจมีทางเป็นไปได้อย่างเหมือนกันผู้ที่ค้นคว้าศึกษาตามแนวทางนี้โดยเฉพาะจะพบว่า ย่านท้องทะเลแอตแลนติก แถบหมู่เกาะเบอร์มิวด้านี้มีรายงานการปรากฏตัวของ ยูเอฟโอ (UFO) หนาแน่นพอๆ กับที่เห็นบนบกตามจุดสำคัญๆ เหมือนกัน

    คำโต้แย้ง : แต่ปัญหาสำคัญคือ ทฤษฎียังไม่มีหลักฐานอย่งอื่นที่พอจะอ้างได้หรือนำมาชี้ทางสนับสนุไดว่า ยูเอฟโอ มีอะไรเกี่ยวข้อกับการศูนย์หายไปของเรือและเครื่องบิน การปรากฏตัวอย่างหนาแน่นของยูเอฟโอในย่านนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีฐานทัพเร้นลับซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทร หรือบนเกาะร้างลี้ลับแห่งใดแห่งหนึ่ง และก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่มนุษย์ต่างดาวจะต้องมาตั้งป้อมคอยขโมยเรือ และเครื่องบิน ของชาวโลกไปมากมายเพื่อประโยชน์อันใดกัน

    ในกรณีนี้แนวโน้มที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านั้นเป็นบริเวณที่มีสภาวะผิดปกติทางสภาพเวลา – อวกาศตามทฤษฎีของ ดร.แซนเดอต์สันมากกว่าและยูเอฟโอ ที่มาปรากฏตัวในบริเวณนี้มากนั้นก็เนื่องมาจากว่า ยูเอฟโอใช้บริเวณนี้มากนั้นก็เนื่องมาจากว่า ยูเอฟโอใช้บริเวณนี้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกระหว่างมิติภพ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิด้า อาจเป็นบริเวณที่มีการเปิดปิดประตูแห่งกาลเวลา หรือประตูแห่งมิติ โดยธรรมชาติก็ได้.. มันหมายถึงช่องทางที่จะใช้เดินทางผ่านเข้าออกไปสู่ย่าน “ไฮเปอร์สเปซ” นั่นเอง รัฐบาลอังกฤษจึงได้ออกทุนให้ค้นหาเรือ และหาสาเหตุที่ทำให้เรือจม โดยใช้ เรือทุ่นโซนาร์ลากท้าย ค้นหา หลังจากตรวจจับบางอย่างใต้ทะเลขนาดใหญ่ได้ จึงได้ส่งยานดำน้ำไร้คนบังคับ แมกเจนแลนออกไปถ่ายรูปและได้เจอเรือสภาพแตกหักยับเยินนอน อยู่ก้นทะเล


    แต่สุดท้าย ความลับของที่นี่ที่มีมานานนับทศวรรษก็ถูกไข


    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ การก่อตัวของก๊าซมีเทน โดยเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ ทำให้เรือและเครื่องบินเสียการควบคุม ก่อนที่จะจมดิ่งสู่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งศาสตราจารย์โจเซฟ โมนาแกน หนึ่งในสองผู้วิจัยงานศึกษาไขปริศนาดังกล่าว เสริมว่า บริเวณนั้น มีก๊าซมีเทนจำนวนมากปะทุเป็นฟองก๊าซขนาดใหญ่ แล้วแตกตัวเหนือบริเวณดังกล่าว

    เมื่อก๊าซเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ และขยายตัวเป็นวงกว้าง แล้วก่อตัวเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ หากเรือลำใดแล่นผ่านมายังบริเวณนั้น แน่นอนว่าเรือก็จะเข้าไปในฟองก๊าซมีเทนขนาดใหญ่ จนทำให้เรือเสียการควบคุม และจมสู่ทะเลในที่สุด

    รายงานยังระบุว่า หากฟองก๊าซมีขนาดใหญ่มากๆ ครอบคลุมความหนาแน่นระดับสูงเพียงพอ ยังสามารถทำให้เครื่องบินที่อยู่บนน่านฟ้า เหนือสามเหลี่ยมฯ เสียการควบคุม และดิ่งสงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว




    นี่คือตัวอย่างของก๊าซมีเทนเมื่อเกิดฟองก๊าซขนาดยักษ์แล้วมีเรือลอยอยู่เหนือก๊าซนั้น

    เครดิต http://www.unigang.com/Article/15345
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Mercury : 12th March 2014 เมื่อ 22:30
    ถ้าคุณยังไม่รู้จักกับคำว่า "ความล้มเหลว" ก็ไม่มีทางที่คุณจะรู้จักกับคำว่า "ความสำเร็จ"

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 21 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    .:: BeNighT69 ::.
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    United kingdom
    กระทู้
    780
    กล่าวขอบคุณ
    212
    ได้รับคำขอบคุณ: 843
    นั่งอ่านจนจบนึกว่าจะไม่มีคำตอบ สุดท้ายก็มีบทสรุป หๅยข้องใจซะที เจ้า สๅมเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเนี่ย

  4. #3
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jan 2012
    กระทู้
    52
    กล่าวขอบคุณ
    124
    ได้รับคำขอบคุณ: 13
    จริงป่าวเนี้ยคับ

  5. #4
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    ที่อยู่
    บ้าน
    กระทู้
    1,703
    กล่าวขอบคุณ
    3,254
    ได้รับคำขอบคุณ: 11,424
    Blog Entries
    1
    สามเหลี่ยมมังกร บริเวณลี้ลับแบบเดียวกับ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา





    สามเหลี่ยมมังกร หรือ ทะเลปีศาจ หรือ ฟอร์โมซ่าเบอร์มิวดา หรือ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแปซิฟิก เป็นชื่อเรียกพื้นที่พื้นที่หนึ่งของบริเวณท้องทะเลของประเทศญี่ปุ่น ที่มีเนื้อที่เป็นรูปสามเหลี่ยม ตั้งอยู่รอบเกาะมิยากะ (ประมาณ 100 กิโลเมตรจากตอนใต้ของกรุงโตเกียว) ไปจรดถึงตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลฟิลิปปิน

    เป็นสถานที่ ๆ มีลักษณะเช่นเดียวกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ของมหาสมุทรแอตแลนติก กล่าวคือ เรือหรือเครื่องบินที่ผ่านมาในบริเวณนี้จะหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งอาณาบริเวณของสถานที่ ๆ ได้ชื่อว่าเป็นสามเหลี่ยมมังกรนั้นไม่แน่นอน ในรายงานเมื่อปี ค.ศ. 1950 ว่าอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลตะวันออกของญี่ปุ่นประมาณ 300 ไมล์ ใกล้กับเกาะอิซุโอชิมา จากชายฝั่ง 750 ไมล์

    เรื่องราวของสามเหลี่ยมมังกร ปรากฏครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม ค.ศ. 1955 เมื่อเรือ 9 ลำได้หายสาบสูญไปโดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งก่อนหน้านั้นเรือประมงขนาดเล็กอีก 7 ลำ ก็หายสูญหายไประหว่างเดือนเมษายน ค.ศ. 1949 จนถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 1953 ระหว่างเกาะมิยาเกะและเกาะอิซุโอชิมะ

    ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับปรากฏการณ์ของสามเหลี่ยมมังกรนั้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอย่างแน่นอน เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากแผนที่โลกแล้ว ปรากฏว่าพื้นที่ทั้ง 2 ที่นั้นอยู่ในด้านที่ตรงกันข้ามกันพอดีเลยในซีกโลกอีกข้าง อีกทั้งก็ยังมีร่องน้ำลึกที่สุดในโลกอยู่เช่นเดียวกันทั้ง 2 ที่ (สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา--ร่องลึกเปอร์โตริโก, สามเหลี่ยมมังกร--ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา) สำหรับนักวิทยาศาสตร์ทื่เชื่อในทฤษฎีของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาว่าแท้จริงแล้วเป็นหลุมดำ (Black Hole) ที่อยู่บนโลกนั้น สามเหลี่ยมมังกรก็คือ หลุมขาว (White Hole) นั่นเอง ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่ง เมื่อหลุมดำดูดกลืนสสารทุกอย่างลงไปแล้ว ผ่านทางช่องที่อยู่ตรงกลางที่เรียกว่า "รูหนอน" (Worm Hole) สสารก็จะถูกพ่นให้ออกมาทางหลุมขาว ซึ่งอีกฟากหนึ่งนั่นเอง

    Credit: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย PEEIII : 12th March 2014 เมื่อ 23:55

  6. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #5
    น่าเบื่อ จังชีวิตนี้ ชิ!
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    2,889
    กล่าวขอบคุณ
    38
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,225
    แต่ปัจจุบันระบุว่า ไม่แทบสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มีสนามแม่เหล็กแรงสูง จนทำให้ ทิศทางของลม แรงดึงดูดเปลี่ยนไป เส้นรุ้ง แวง สลับกัน

    และสาเหตุที่สมัยก่อนเรือหล่มแถวนั้นบ่อย เพราะ ตัวเรือ ไปชนหินโสโครก จนทำให้เรือหล่ม
    ส่วนตัวเครื่องบินอย่างที่บอก สมัยก่อนเครื่องบินจะใช้ พิกัด เส้นรุ้ง แวง ในการเดินทาง ถ้าสลับกัน ยังไงให้ตายก็ไปไม่ถึง

    ดังนั้น ยังไอ้เครื่องบินที่หายสาปสูญ นั้น ไม่เกี่ยวกับสิ่งเหลือธรรมชาติ

  8. #6
    God of mischief
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    ที่อยู่
    Asgard
    กระทู้
    964
    กล่าวขอบคุณ
    716
    ได้รับคำขอบคุณ: 340
    "กรณีที่เรือเดินทะเลบางลำลอยเท้งเต้งเข้าหาฝั่ง โดยที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บนเรือนั้นเลยแม้แต่คนเดียว ข้าวของและของมีค่าอื่นๆ ยังอยู่ครบบริบูรณ์บนเรือ กะลาสีเรือและกัปตันเรือหายตัวไปหมดโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างนี้จะอธิบายได้อย่างไรละ"

    ถ้าเรือมันแหกเพราะการก่อตัวของก๊าซมีเทนอย่างเดียว พวกของมีค่าก็น่าจะไหลลงทะเลบ้าง ไม่น่าเหลือครบ แล้วแบบนี้หมายความว่ายังไงเหรอครับ

  9. #7
    ♣ข้าเองเทพของพวกเจ้า ♣
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    3,051
    กล่าวขอบคุณ
    3,345
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,316


    มันมี ไคจู อยู่ๆๆๆๆ เชื่อผม
    ลายเซ็น เข้าใจนะ

  10. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  11. #8
    น่าเบื่อ จังชีวิตนี้ ชิ!
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    2,889
    กล่าวขอบคุณ
    38
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,225
    ^
    ^
    ^

    เดี้ยวๆ ไอ้สามเหลี่ยม มันอยู่ที่ แอตแลนติก
    ส่วน ไคจู มันอยู่ที่ แปรซิฟิก

  12. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #9
    Keep moving forward!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    newsoral
    กระทู้
    735
    กล่าวขอบคุณ
    1,646
    ได้รับคำขอบคุณ: 246
    เทคโนโลยีสมัยนี้ล้ำกว่าเมื่อก่อนมาก ปัจจุบันเครื่องบิน บินผ่านว่อนเลยครับ

  14. #10
    SISCON!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    473
    กล่าวขอบคุณ
    95
    ได้รับคำขอบคุณ: 67
    สนุกดี มันส์มาก

  15. #11
    ♣ข้าเองเทพของพวกเจ้า ♣
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    3,051
    กล่าวขอบคุณ
    3,345
    ได้รับคำขอบคุณ: 4,316
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ clean1447 อ่านกระทู้
    ^
    ^
    ^

    เดี้ยวๆ ไอ้สามเหลี่ยม มันอยู่ที่ แอตแลนติก
    ส่วน ไคจู มันอยู่ที่ แปรซิฟิก

    มันย้ายที่อยู่ไง....5555
    ลายเซ็น เข้าใจนะ

  16. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #12
    { The Dark Life }
    วันที่สมัคร
    May 2012
    ที่อยู่
    District B-13
    กระทู้
    732
    กล่าวขอบคุณ
    105
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,464


    มีหลายทีเลยครับ นี่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าแห่งอลาสก้า
    สารคดีพากยืไทย ดูเพลินดีนะ

    นี่ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าที่ใกล้ไทย
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oner : 13th March 2014 เมื่อ 13:36

  18. รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  19. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    ที่อยู่
    บ้าน
    กระทู้
    106
    กล่าวขอบคุณ
    30
    ได้รับคำขอบคุณ: 270
    แต่ในกรณีเรือ ไซคล๊อปส์ หายไปอย่างลึกลับเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ.1918 จู่ๆ มันก็ปรากฏตัวลอยเท้งแต้งเข้าฝั่งมาเกยตื้น โดยมีแต่เรือเปล่าปราศจากผู้โดยสาร จำนวน 309 คนหายไปไหนกันหมด ข้าวของมีค่าทุกชิ้นทั้งอาหารและสินค้าบนเรือยังอยู่บริบูรณ์ จะว่าเรือถูกโจรสลัดปล้นก็ไม่ใช่
    ^
    ^
    ^
    ผมอยากทราบว่าจะมี ทฤษฎีไหนอธิบายเหตุการณ์นี้ได้บ้าง เพราะถ้าเกิดจากก๊าซมีเทน ทำไมหายไปแค่คน

  20. #14
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    กระทู้
    66
    กล่าวขอบคุณ
    8
    ได้รับคำขอบคุณ: 29
    ทฤษฎีฟิสิกส์นะเนี่ย :P


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top