มันมีอยู่ว่า ตอนนั้นผมโดนดักรุมกระทืบ แต่มันอยู่ใกล้สถานีตำรวจ แล้วมีตำรวจมาเห็นพอดี(ตำรวจคนนี้ดันเป็นเพื่อนแม่ผมอีก) ผมก็เลยหนีมาได้(ถ้าหนีไม่ได้ผมคงตายแหงมๆ) แล้วตำรวจก็บอกให้ผมลงบันทึกประจำวัน
วันต่อมาเลยคิดจะเอาคืนแต่ไม่มีเพื่อนก็เลยเลิกๆคิดไป พอตกกลางคืนผมจะออกไปซื้อมาม่า แต่ดันไปเห็นหนึ่งในคนที่มันกระทืบผมไปเมื่อวานกำลังซื้อของอยู่หน้าร้านเลย ผมเลยไปดักที่หน้าวัดเพราะมันจอดรถไว้ที่หน้าวัดแล้วข้ามถนนไปซื้อของ พอมันกลับไปที่รถเท่านั้นหละผมเปิดก่อนเลยด้วยกำปั้นจนมันล้มแล้วก็รัวไปที่หน้าแบบไม่ยั้งเลย จนมีคนร้องบอกให้พอๆผมถึงหนีมา
อีกวันต่อมาเป็นไปตามคาดครับ เขาตามมาเอาเรื่องผมถึงบ้าน ผมกับแม่เลยบอกไปเคลียกันที่ สน.
พอถึงที่ สน. เขาก็แจ้งความเอาผิดกับผม ผมก็เลยบอกเขาไปว่าขอเอาผิดกับคนนี้ด้วยเพราะเขาก็มารุมกระทืบผมเมื่อสองสองวันก่อน ตำรวจก็เลยเปิดดูบันทึกประจำวัน เจอพอดี แล้วผมก็โทรให้แม่ผมเรียกพยานมา(ตำรวจที่มาเห็นผมเมื่อวันแรกน่ะ) เลยมีการคุยกันแบบยาวเลย โดยข้อสรุปคือ ตำรวจบอกว่า ถ้าจะให้ผมจ่ายค่าเสียหาย ต้องไปหาคนผิดอีกสามคนที่รุมกระทืบผมมา ถ้าหาคนผิดได้ ผมจะคืนค่าเสียหายให้กับคนที่ผมไปดักตีมัน แล้วตอนกลับบ้าน ผมได้ยินไอ้คนนี้มันบ่กับพ่อของมันว่า "ไอ้....นั่นโครตตุ๊ดเลย****ลอบกัดกัน ไม่ได้ตั้งตัวเลยตอนนั้น"
ผมก็นึกในใจนะ ผมตุ๊ดคนเดียวนะ แต่พวกมันตุ๊ดกันสี่คนเลย
คิดถึงตอนนั้นผมโครตจะสงสารแม่ผมเลย วันหยุดแทนที่จะได้พักผ่อนอยู่บ้าน กลับต้องพาลูกไปโรงพัก ถึงไอ้สามคนจะจ่ายค่าเสียหาย แต่ผมก็ว่ามันไม่คุ้มกับที่แม่ผมเสียใจหรอก