รู้จักกับพลซุ่มยิง ฉบับรวบรัด
พลซุ่มยิง(sniper)คืออะไร
คือหนึ่งในหน่วยทหารที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษกว่าทหารพวกอื่นๆ ทั้งในเรื่องทั้งความอดทนและความแม่นยำ นอกจากนี้ยังรวมถึงสมรรถภาพทางร่างกายด้วย พลซุ่มยิงถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรสังหารมนุษย์ในสนามรบ พวกเขาคือคนกลุ่มแรกที่ต้องระบุให้ได้ก่อนเมื่อถึงสนามรบ แต่อย่าหวังว่าจะทำได้ เพราะเขาไกลกว่าที่คุณจะเห็นและดับชีวิตคุณได้เร็วกว่าที่คุณจะรู้สึก
สิ่งที่คูณต้องทำคือการรอคอยอาจจะเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน การคลานไปตามโคลนตามบึง ซึ่งคุณต้องทนได้ทุกสภาพลม ดิน ฟ้า อากาศ 1 2 3!!!!!
ตำแหน่งที่คอยควบคู่กับพลซุ่มยิงคือพลชี้เป้า(Spotter) ซึ่งพลชี้เป้าจะมีหน้าที่บอกทิศทางลม ความแรงลม และช่วยคำนวณลมให้พลซุ่มยิงและยังบอกระยะทางได้ด้วย โดยที่พลชี้เป้าต้องมีรายละเอียดที่ต้องรู้และคอยคิดตามในหัวมากกว่าพลซุ่มยิง เพราะพลซุ่มยิงจะทำหน้าที่แค่ปรับกล้องและลั่นไก แต่ก่อนจะปรับได้ก็ต้องมีข้อมูลจากพลซุ่มยิงเสียก่อน ซึ่งพลชี้เป้าคืออีกปัจจัยที่จะทำให้พลซุ่มยิงลั่นไกโดนเป้าหมาย ทั้งพลซุ่มยิงและพลชี้เป้าสามารถสลับหน้าที่กันได้
***********************************
กำเนิดเมื่อไหร่
ไม่แน่ชัดว่าพลซุ่มยิงกำเนิดขึ้นเมื่อไหร่เนื่องด้วยเหตุผลเกี่ยวกับสภาพอากาศไม่อำนวยรวมถึงเหตุผลเสื่อมๆต่างๆที่นำไปสู่ข้อสรุปเดียวคือ ผมไม่รู้ แต่การซุ่มดักรอหรือการยิงระยะไกลนั้น ยอกได้เลยมีเวลาหลายร้อยหลายพันปี
การดักซุ่ม? ก็เช่นการรอจู่โจมข้าศึก ซึ่งเราสามารถเห็นกลยุทธ์นี้ได้ตามหนังสือสงคราม (สามก๊กอย่างมันส์) การยิงระยะไกล? ไม่ต้องไปไหนไกล พระนเรศวรของเรานี่เอง ด้วยการยิงพระแสงปืนต้นข้ามแม้น้ำสะโตงเป็นระยะทางกว่า 500 เมตรปลิดชีพ สุรกรรมา คิดดูเถอะ ระยะกว่า 500 เมตร ไม่มีกล้อง ไม่มีพลชี้เป้า ไม่มีกล้องชี้เป้าด้วย
***********************************
หน้าที่
หน้าที่ของพลซุ่มยิงนั้นมีหลากหลาย แล้วแต่ภารกิจและสถานการณ์
- สนับสนุน
หาทำเลเหมาะๆ ตั้งปืนแล้วก็จัดการศัตรูที่พยายามจะทำลายเพื่อนเรา นี่เป็นภารกิจเบสิคสุดๆของพลซุ่มยิง ซึ่งจะเหนือกว่าพลแม่นปืน (เหมือนโซเงคิงที่เทพกว่าอุซป ไม่เข้าใจใช่มะ ข้ามไป) การสนับสนุนเพื่อเปิดทางให้เพื่อน การสังหารอาร์พีจีซึ่งถือว่าเป็นตัวปัญหา หรือสังหารทุกคนที่ขวางหน้า (แล้วแต่ภารกิจนะ เชื่อว่าถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากฆ่า คนที่อยากมาเป็นทหารมีอยู่ 4 ประเภท คือ 1. พวกเป็นตามสายเลือด 2. พวกอยากรับใช้ชาติ 3. พวกอยากหางานทำ 4. พวกที่อยากฆ่าคนแบบถูกกฎหมาย Jack Reacher - One Shot, Lee Child)
- สอดแนม
ไม่จำเป็นต้องฆ่าเพราะอาจถึงเหตุที่ทำให้ภารกิจเสียหายและผุพังได้ เช่นกันสอดแนมฐานศัตรู ระบุตัวผู้นำ (แบบ Lone Survivor) ถ้ามีคำสั่งมาอาจจะเปลี่ยนเป็นภารกิจสังหารเลยก็ได้ (แบบ Lone Survivor) การสอดแนมอาจจะยากลำบากที่ต้องไม่ให้ศัตรูรู้ตัวเช่นกัน ซึ่งในขณะที่คุณกำลังคลานอยู่นั้น คุณอาจจะตกไปอยู่ในเป้าของพลซุ่มยิงฝั่งตรงข้ามแล้วก็ได้ (สอดคล้องกับข้อ ระวังภัย)
- ระวังภัย
เช่นเฝ้าฐาน คุณเลือกทำเลที่ดีที่สุดเพื่อสามารถมองไปรอบๆได้ วิสัยทัศน์ดี คุณต้องคึอยสอดส่องหาศัตรูที่พยายามเคลื่อนที่เข้ามาหรือลอบเข้ามาลาดตระเวน (สอดคล้องกับข้อสอดแนม) และเมื่อแน่ใจว่าเป้าหมายของศัตรูคือคุณ คุณก็ต้องทำหน้าที่แจ้งข่าวให้เพื่อนทราบข้อมูล ทั้งจำนวน อาวุธและต้องบอกทางหนีทีไล่ด้วยและมีหน้าที่ระวังหลังให้
- สังหารเป้าหมาย
ความยากง่ายขึ้นอยู่กับรายละเอียดและข้อมูลที่มีมาให้และคุณหามาได้เอง ถ้าคำสั่งมีแค่คำว่าสังหารและมีแค่สถานที่เท่านั้นที่บอกมา สิ่งที่คุณต้องหาก็คือ ลักษณะภูมิประเทศ (เช่น สีหญ้า เป็นป่าหรือเป็นเมือง) ลักษณะภูมิอากาศ (ลมแรงแค่ไหน พัดไปทางไหน มีความมั่นคงมั้ย อุณหภูมิเป็นอย่างไร) ทางหนีทีไล่ (เข้าทางไหนถึงจะไม่มีใครรู้ ออกทางไหนถึงจะปลอดภัย ซึ่งทั้งขาเข้าและออก ไม่ควรทิ้งร่องรอยไว้ แม้แต่นิดเดียว) ระยะทาง (เท่าไหร่ ไปแค่ไหนถึงจะเหมาะสม)หรือแม้กระทั่งฝุ่นอากาศและแรงโน้มถ่วง ทุกข้อมูลทุกรายละเอียดสำคัญทั้งหมดเพื่อให้คุณสามารถทำการยิงนัดที่สำคัญที่สุดภายในนัดเดียว ไปสู่สโลแกนของพลซุ่มยิงว่า One Shot One Kill หรือ หนึ่งนัด หนึ่งชีวิต และหลังจากเสร็จภารกิจที่นี้ก็เป็นขั้นตอนของการรักษาบั้นท้ายตัวเองแล้วล่ะ
มีภารกิจสังหารอีกแบบคือแบบนายพราน การจะทำภารกิจแบบนี้ได้ คุณควรจะมีความสามารถในการแกะรอย หาตัวเป้าหมายและสังหารซะ
***********************************
การซุ่มยิง
ไม่จำเป็นต้องเป็นพลซุ่มยิง แต่คุณก็สามารถทำการซุ่มยิงได้ เพียงแค่คุณมีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการซุ่มยิงพื้นฐานของพลซุ่มยิง
1. เตรียมปืนที่สามารถยิงระยะไกลได้
ปืนแบบนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ไมว่าจะเป็นแบบ SMG Assault Rifle หรือ Machine Gun ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ Sniper Rifle เท่านั้น (แต่แหงล่ะ ถ้ามีแบบ Sniper Rifle งานก็ง่ายขึ้น)
2. เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือ
เช่นศูนย์เล็งกล้องและกล้องชี้เป้า
3. เตรียมฝีมือและความแม่นไว้ให้พร้อม
ฝึกซ้อมให้เยอะๆ ซ้อมให้มากๆ จะได้โดนภายในนัดเดียว
4. วางแผนหาและศึกษาทำเลให้เรียบร้อย
ศึกษาทำเลว่าตรงไหนเหมาะ สามารถลั่นไกสังหารได้ง่ายหรือไม่ หนีง่ายหรือสะดวกหรือไม่ ควรเตรียมแผนสำรองไว้ด้วยเผื่อเหตุฉุกเฉิน
5. เมื่อถึงที่หมายแล้วก็ลงมือซุ่มยิงได้
รอจังหวะที่เหมาะสม ตามแผนที่วางไว้แล้วก็จัดการเลย ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
6. เมื่อเสร็จภารกิจก็ถอนตัวให้ไว
ขั้นตอนหนียิ่งจำเป็นต้องทำตามแผนทุกระเบียบนิ้ว ถ้าพลาดอาจส่งผลให้เด๊ดสะมอเร่ได้
** หมายเหตุ : ในกรณีที่คุณไม่ใช้พลซุ่มยิงแต่เป็นประชาชนธรรมดา การทำการซุ่มยิงโดยมีขั้นตอนนี้ คุณหรือทนายจะไม่สามารถใช้ข้ออ้างโรคจิตในศาลได้ ฉะนั้นแนะนำว่าควรกราดไปเลย อุ๊ปส์
***********************************
พลซุ่มยิงและพลแม่นปืน
สองหน้าที่ต่างกันตรงไหน Sniper กับ Sharpshooter ที่เหมือนกันก็คือมีความแม่นมากกว่าคนในหน่วย
- พลซุ่มยิงฝึกหนักกว่าพลแม่นปืน
- พลซุ่มยิงต้องทำงานที่ระยะไกลกว่ากว่าพลแม่นปืน
- พลซุ่มยิงลอบเร้นกว่าพลแม่นปืน
- อาวุธของพลซุ่มยิงใชในระยะไกลได้มีประสิทธิภาพกว่าพลแม่นปืน
(คุณจะสังเกตว่ารูปข้างล่างนี้ ตัวอักษรจะพรางตัวอยู่หน้ากองหญ้า แต่ยังไม่เนียนเท่าไหร่)
***********************************
อาวุธและอุปกรณ์
ปืน
อุปกรณ์ที่สำคัญพอๆกับที่โทรศัพท์จำเป็นกับคนสมัยนี้ ปืนของพลซุ่มยิงจะมีความพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ตรงที่ยิงได้ไกลกว่า กระสุนใหญ่กว่า (เช่น 7.62x51 และ 12.7x99) เจ็บกว่า ถ้ายิงจากระยะที่พอเหมาะจะสร้างความเสียหายแบบทำลายร่างกายแบบเละๆ แต่ถ้ายิงจากระยะที่ใกล้ไปอาจจะทำให้กระสุนทะลุและจะสร้างความเสียหายได้ไม่มากเท่าแบบแรก
ระบบปฏิบัติการณ์ของปืนของพลซุ่มยิงมี 2 แบบคือ แบบ Bolt Action และ Semi Auto ทั้งสองอย่างนี้จะมีความต่างกันตรงที่ความนิ่งและอัตรายิง
Bolt Action จะให้ความนิ่งมากกว่าแบบ Semi Auto แต่จะด้อยกว่าในเรื่องของความเร็วในการยิง (เชื่อสิปืนทุกกระบอกยิงได้ครั้งละนัด หรือจะเถียงว่ากระสุนสองนัดออกจากปากกระบอกเดียว) Bolt Action ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ในระยะที่ใกล้
ยกตัวอย่างปืน
1. M24
ขนาดกระสุน : 7.62 x 51 NATO (.308 Winchester)
น้ำหนัก : 5.49 kg (แบบไม่มีศูนย์เล็งกล้อง)
ระบบปฏิบัติการณ์ : Bolt - Action
ระยะหวังผล : 800 เมตร
ความแม่น : 1 MOA
2. M40A1
ขนาดกระสุน : 7.62 x 51 NATO (.308 Winchester)
น้ำหนัก : 6.57 kg
ระบบปฏิบัติการณ์ : Bolt - Action
ระยะหวังผล : 915 เมตร
3. Barret M82A1
ขนาดกระสุน : 12.7x99 NATO (.50 BMG)
น้ำหนัก :
ระบบปฏิบัติการณ์ : Semi - Auto
ระยะหวังผล : 1830 เมตร
4. M110
ขนาดกระสุน : 7.62 x 51 NATO (.308 Winchester)
น้ำหนัก : 6.23 kg
ระบบปฏิบัติการณ์ : Semi Auto
ระยะหวังผล : 800 เมตร
ความแม่น : 0.5 1 MOA
MOA (Minute Of Angle) หรือค่าวัดความแม่นของปืนไรเฟิลนั่นเองโดยที่ 1MOA = 100 เมตร โดยที่ปืน 1MOA จะสามารถยิงระยะ 100 หลาโดยทำกลุ่มกระสุนกว้างแค่ 1 นิ้ว ถ้าเป็น 2 MOA ก็จะยิง 200 เมตรโดยทำกลุ่มกระสุนแค่ 2 นิ้ว (เริ่มงงแล้วล่ะสิ ใช่ ผมเริ่มงงแล้ว)
สรุปง่ายๆเลย ในการซุ่มยิงการคำนวณ MOA นั้นสำคัญมาก สมมติเหตุการณ์เช่นเป้าหมายอยู่ในระยะ 500 เมตร ถ้าคุณมีไรเฟิลที่แม่น 1 MOA มันก็แค่ทำกลุ่มกระสุนแค่ 5 นิ้วหรือการปรับค่าปืน 5 คลิ๊ก(หน่วยที่ลำกล้อง) แต่ถ้าคุณมีปืนความแม่น .5 MOA ก็จะทำกลุ่มกระสุน 10 นิ้วหรือปรับ 10 คลิ๊ก ทีนี้เห็นความจำเป็นหรือยังครับเพราะยิ่งค่า MOA น้อยแต่ระยะไกล การคำนวณและการยิงก็จะยากขึ้น
อุปกรณ์อื่นๆ
กล้องชี้เป้า
สำหรับพลชี้เป้า มีระยะที่ไกลกว่าศูนย์เล็งกล้อง ใช้หาตัวเป้าหมายได้
ชุดพรางตัว
ต้องศึกษาภูมิประเทศให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะทำชุดกิลลี่ (Ghillie Suit) ชุดนี้สำคัญต่อพลซุ่มยิงมากเพราะจะทำให้พลซุ่มยิงพรางตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมแถวนั้น ซึ่งยากที่จะให้ศัตรูมองเห็น
***********************************
การจะเป็นพลซุ่มยิง
การจะเป็นพลซุ่มยิงได้ ก่อนอื่นต้องสมัครเข้ารับราชการทหารเสียก่อน จากนั้นค่อยเข้ารับการฝึก ซึ่งอาจจะเป็นพลซุ่มยิงแห่งหน่วยนาวิกโยธิน หรือจะเข้ารับหลักสูตรซุ่มยิงของหน่วยอรินทราช
การจะเป็นพลซุ่มยิงนั้นสิ่งที่คุณควรมีเลยคือ 1. ความแม่น 2.ความแข็งแรง 3. ความอดทน
***********************************
ข้อมูลอื่นๆ
Credit :
ข้อมูลแบบละเอียด
Field Manual 23-10 ปัจจุบันยังหาแบบภาษาไทยอยู่
ข้อมูลปืน Sniper Rifle จาก
http://www.snipercentral.com/rifles.htm