ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 15 จากทั้งหมด 15
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670

    Question ปรึกษาหน่อยครับเกี่ยวกับพ่อแม่

    ผมมาปรึกษาเพราะผมชอบทะเลาะกับพ่อแม่บ่อยๆ ตอนแรกคิดว่าจะถามเพื่อนแต่ผมคงจะได้แต่คำตอบแบบเดิมๆ ผมคิดว่าผมมาถามในนี้แหละดีที่สุดแล้ว มีคนหลายวัยดี และหลายๆเหตุผลดี
    คือผมเป็นคนมีเหตุผลนะครับอันนี้ผมมั่นใจมากๆ(บางครั้งอาจจะไม่มีด้วยก็ได้) และผมเป็นคนที่งี่เง่าและอาจจะเรียกว่าเอาแต่ใจด้วยก็ได้ครับ คือผมชอบทะเลาะกับแม่เพราะความคิดเห็นไม่ค่อยตรงกันอยู่บ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องความเชื่อทางศาสนาอะไรประมาณนี้ ผมมักจะมีเหตุผลมาขัดแย้งกับแม่เสมอๆ ทำให้ผมทะเลาะกับแม่อยู่บ่อยๆ(อันนี้ผมไม่ค่อยจะซีเรียส)

    แต่อันนี้สิครับ ผมทะเลาะกับพ่อเพราะพ่อบอกให้ผมมีความอดทน พ่อบอกให้อดทนแล้วดูซิจะตายไหม แล้วผมสวนกลับไปว่าพ่อจำคำพูดพ่อเอาไว้นะ แล้วพ่อทำให้ได้ แล้วพ่อจะได้ไม่ต้องมางี่เง่ากับคนในบ้านอีก(ต่อหน้าญาติๆฝ่ายแม่น่ะครับ) คือเวลาพ่อเค้าหงุดหงิดพ่อเค้าชอบพาลใส่คนในบ้านครับ คิดว่าผมพูดแรงไปไหมครับ ?

    ผมมักจะกลับมานั่งเสียใจบ่อยๆเพราะไม่ยอมคิดก่อนพูด / ผมรู้ว่าพ่อเสียใจ แต่ไอความเสียใจเนี่ยมันอยู่ได้ไม่นานใช่ไหมครับ มันก็จะได้ความอดทนของพ่อกลับมา เหมือนเป็นการได้อย่างเสียอย่างประมาณนั้น

    บางคนอาจจะคิดว่าการเถียงพ่อแม่น่ะมันไม่ดีจะตกนรกอะไรประมาณนั้น ซึ่งผมไม่เคยเชื่อเลย ผมไม่เคยเชื่อว่านรกหรือสวรรค์มีจริง ถ้ามีจริงคนแย่ๆในสังคมคงจะหมดไปดั่งคำพูดที่คนชอบบอกว่า กรรมสมัยนี้น่ะมันติดจรวด / ในความรู้สึกของผม ผมคิดว่ามันผิดครับที่พูดกับพ่อแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงผมก็คิดว่ามันถูก

    จริงๆที่ผมมาปรึกษาเนี่ย ผมอยากได้คำตอบแบบตรงๆผมจะได้ปรับไอ้นิสัยแย่ๆของผมให้มันเข้าที่ให้มันดูดีได้ (ว่าจะมาปรึกษาหลายรอบแล้วแต่กลัวคนอื่นจะคิดว่าผมบ้า)

  2. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    295
    กล่าวขอบคุณ
    15
    ได้รับคำขอบคุณ: 486
    สังคมมันเป็นแบบนี้ แต่อยากจะบอกไว้อย่างนึง
    "อยากให้คนอื่นฟัง ต้องฟังคนอื่นก่อน"

  3. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  4. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,440
    กล่าวขอบคุณ
    5
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,811
    หลักการความคิดถูกต้องครับ แต่การพูดออกมาตรงๆมันไม่ถูกต้อง บางครั้งความถูกต้องมันต้องค่อยเป็นค่อยไป รีบๆไม่ได้ ยิ่งเป็นผู้อวุโสกว่าเราแล้ว เราต้องค่อยๆอย่างช้าๆเลย และต้องเป็นไปแบบเบาๆ สิ่งที่คุณทำถูกต้องในหลักการ คือบอกให้คนที่ผิดทำในสิ่งที่ควรจะถูก แต่มันผิดที่ใช้คำพูดแบบนั้นกับบิดา ถึงแม้มันจะอัดอั้นขนาดไหน ก็ต้องทนครับ เขาเป็นพ่อ เราจะไปพูดแบบแรงๆเลยทีเดียวไม่ได้ แต่ก็เอาละ มันเกิดขึ้นแล้ว มันผ่านไปแล้ว ที่นี้ละสิ่งที่ต้องคิดไม่ใช่ว่าเราทำถูกหรือไม่ถูก สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้คือเราจะทำยังไงต่อไปจากนี้ เราควรจะพูดยังไงต่อดี ถ้าเป็นผมนะ ตอนนี้ผมจะเข้าไปหาแม่คุณก่อน พูดกับแม่ ให้แม่พูดกับพ่อต่ออีกทีนึง แล้วพอถึงเวลาที่เหมาะสม คุณต้องพูดกับพ่อของคุณ และขอโทษแบบตรงๆ ครับ

  5. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  6. #4
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Apr 2014
    กระทู้
    40
    กล่าวขอบคุณ
    9
    ได้รับคำขอบคุณ: 23
    เรื่องศาสนาผมก็จะทะเลาะกับแม่เหมือนกันครับ *จับมือๆ*
    ทำนองว่าแม่เชื่อโน่นนี่นั่น ซึ่งเราเองก็ไม่คิดว่ามันไม่เห็นจะเกี่ยวเลยอะไรทำนองนี้ เลยอธิบายเหตุผลไปแต่สุดท้ายก็ไม่ฟัง

    ส่วนเรื่องพ่อ ถ้าทะเลาะกันหนักๆ จนถึงลงไม้ลงมือผมแนะนำเลยครับวิธีนี้ผมคิดว่าใช้ได้เลยแหละ
    คือเวลาทะเลาะกันคุณสู้ด้วยเหตุผลที่ดีต่อไปครับ พอพ่อไม่ฟังคุณก็บอกให้พ่อเอาเลยครับ บอกให้ลงมือเลย
    ถ้าพ่อคุณลงมือจริงๆ (ไม่ว่าจะตีหรือตบ หรืออะไรก็ช่าง) ตอนนั้นคุณเจ็บก็จริงๆครับ
    แต่เมื่อผ่านไปคนที่จะเจ็บคือพ่อคุณ (อาจฟังดูโหดร้ายแต่ผมว่ามันก็คุ้ม)
    ทำไมน่ะเหรอเพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากตีลูกตัวเองหรอกครับ ยิ่งตีไปโดยไร้เหตุผลแล้ว ยิ่งเจ็บยิ่งรู้สึกผิด
    คราวนี้รอบหลังคุณพูดด้วยเหตุผลอีก พ่อก็จะไม่ลงมือ แต่จะรับฟังเอง

    อันนี้วิธีผมนะ ผมเคยลองแล้วได้ผลระดับนึง แต่ผมดื้อๆด้วยแหละบางทีพ่อก็ไม่ฟัง 55555 อันนี้ก็ยอมไปครับไม่จำเป็นต้องชนะเสมอไป
    อะไรดีอยู่ที่ใจเรา เราก็เก็บไว้แค่นั้นอย่าได้เสียมันไป

  7. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  8. #5
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ kewzaza2002 อ่านกระทู้
    สังคมมันเป็นแบบนี้ แต่อยากจะบอกไว้อย่างนึง
    "อยากให้คนอื่นฟัง ต้องฟังคนอื่นก่อน"
    ขอบคุณครับ ผมจะลองเอาไปใช้ดูนะครับ ปกติพ่อเค้าติดนิสัยผู้นำมาน่ะครับ เค้าเป็นผู้บริหารในบริษัทชื่อดังบริษัทหนึ่่ง อยู่โรงงานเค้าอาจจะเครียดเค้าก็อาจจะอยากหาที่ระบายมั่ง ปกติพ่อเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมรับฟังใคร มีผมคนเดียวเนี่ยแหละครับที่พ่อรับฟังและให้คำปรึกษามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่โรงงาน(ยกเว้นหัวหน้าของพ่อ)หรือจะเป็นที่บ้าน บางครั้งผมก็คิดว่าตัวเองเป็นเด็กเก็บกฎนะครับ ไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัวเท่าไร

  9. #6
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ shisaku อ่านกระทู้
    หลักการความคิดถูกต้องครับ แต่การพูดออกมาตรงๆมันไม่ถูกต้อง บางครั้งความถูกต้องมันต้องค่อยเป็นค่อยไป รีบๆไม่ได้ ยิ่งเป็นผู้อวุโสกว่าเราแล้ว เราต้องค่อยๆอย่างช้าๆเลย และต้องเป็นไปแบบเบาๆ สิ่งที่คุณทำถูกต้องในหลักการ คือบอกให้คนที่ผิดทำในสิ่งที่ควรจะถูก แต่มันผิดที่ใช้คำพูดแบบนั้นกับบิดา ถึงแม้มันจะอัดอั้นขนาดไหน ก็ต้องทนครับ เขาเป็นพ่อ เราจะไปพูดแบบแรงๆเลยทีเดียวไม่ได้ แต่ก็เอาละ มันเกิดขึ้นแล้ว มันผ่านไปแล้ว ที่นี้ละสิ่งที่ต้องคิดไม่ใช่ว่าเราทำถูกหรือไม่ถูก สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้คือเราจะทำยังไงต่อไปจากนี้ เราควรจะพูดยังไงต่อดี ถ้าเป็นผมนะ ตอนนี้ผมจะเข้าไปหาแม่คุณก่อน พูดกับแม่ ให้แม่พูดกับพ่อต่ออีกทีนึง แล้วพอถึงเวลาที่เหมาะสม คุณต้องพูดกับพ่อของคุณ และขอโทษแบบตรงๆ ครับ
    ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ

  10. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Realize อ่านกระทู้
    เรื่องศาสนาผมก็จะทะเลาะกับแม่เหมือนกันครับ *จับมือๆ*
    ทำนองว่าแม่เชื่อโน่นนี่นั่น ซึ่งเราเองก็ไม่คิดว่ามันไม่เห็นจะเกี่ยวเลยอะไรทำนองนี้ เลยอธิบายเหตุผลไปแต่สุดท้ายก็ไม่ฟัง

    ส่วนเรื่องพ่อ ถ้าทะเลาะกันหนักๆ จนถึงลงไม้ลงมือผมแนะนำเลยครับวิธีนี้ผมคิดว่าใช้ได้เลยแหละ
    คือเวลาทะเลาะกันคุณสู้ด้วยเหตุผลที่ดีต่อไปครับ พอพ่อไม่ฟังคุณก็บอกให้พ่อเอาเลยครับ บอกให้ลงมือเลย
    ถ้าพ่อคุณลงมือจริงๆ (ไม่ว่าจะตีหรือตบ หรืออะไรก็ช่าง) ตอนนั้นคุณเจ็บก็จริงๆครับ
    แต่เมื่อผ่านไปคนที่จะเจ็บคือพ่อคุณ (อาจฟังดูโหดร้ายแต่ผมว่ามันก็คุ้ม)
    ทำไมน่ะเหรอเพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากตีลูกตัวเองหรอกครับ ยิ่งตีไปโดยไร้เหตุผลแล้ว ยิ่งเจ็บยิ่งรู้สึกผิด
    คราวนี้รอบหลังคุณพูดด้วยเหตุผลอีก พ่อก็จะไม่ลงมือ แต่จะรับฟังเอง

    อันนี้วิธีผมนะ ผมเคยลองแล้วได้ผลระดับนึง แต่ผมดื้อๆด้วยแหละบางทีพ่อก็ไม่ฟัง 55555 อันนี้ก็ยอมไปครับไม่จำเป็นต้องชนะเสมอไป
    อะไรดีอยู่ที่ใจเรา เราก็เก็บไว้แค่นั้นอย่าได้เสียมันไป
    5555 ผมไม่คิดว่าพ่อผมเค้าจะทำกับผมแบบนี้นะครับ ยิ่งกับพ่อด้วยแล้ว พ่อเป็นคนที่มีเหตุผลพอๆกับผมเลยแหละครับ แต่บางอย่างก็ไม่มีเหตุผล เหมือนกับผมเช่นกัน บางครั้งก็เคยคิดนะครับหรือว่าเรากำลังโต เราเริ่มมีเหตุผล อะไรประมาณนั้นแหละครับ

  11. #8
    I'm a Musician.
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    ที่อยู่
    ที่อยู่: ที่อยู่: ที่อยู่:
    กระทู้
    546
    กล่าวขอบคุณ
    205
    ได้รับคำขอบคุณ: 342
    สำหรับผม ผมก็มีปัญหาบ่อยนะ กับในครอบครัว แต่ถ้ามันมีอะไรที่เราขัดแย้ง เก็บไว้ในใจดีกว่าครับ แล้วปล่อยเขาพูดไป เราก็เออๆออๆไป ผมก็เคยผ่านช่วงนั้น ช่วงที่เถียงคำไม่ตกฟาก ตอนนี้ผมใช้วิธีปล่อยให้เขาพูดตามความคิดเขาครับ หรือไม่ก็แย้งขึ้นดีๆ อย่าให้เขาหงุดหงิด หลังๆนี้ผมจะเป็นฝ่ายเอาใจครับ ท่านก็แก่แล้วอย่างน้อยเอาใจเขาให้ได้มากที่สุด ก่อนที่เขาจะไม่อยู่ให้เราเอาใจครับ เอาใจพ่อแม่ หรือ คนที่เลี้ยงดูเรามา เป็นสิ่งที่ประเสริฐมากนะครับ สำหรับผม เอาจริงๆผมก็ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ครับ พ่อแม่ แยกย้ายตั้งแต่ยังเล็กมากๆจำอะไรไม่ได้

    You'll in my HEART. Forever O'Conner Paul Walker

  12. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  13. #9
    слыхал! но......
    วันที่สมัคร
    Dec 2012
    กระทู้
    341
    กล่าวขอบคุณ
    61
    ได้รับคำขอบคุณ: 240
    Blog Entries
    1
    โดยส่วนตัวผมจะหลีกเลี่ยงการทะเลาะมากที่สุด เวลาที่พ่อแม่ทำอะไรไม่ถูกใจผม ผมก็ยอมๆไป น่าแปลกนะที่ผลลัพธ์มันจะลงเอยด้วยดี

    มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่เราจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่ทำ แต่เราอาจจะไม่ต้องเข้าใจก็ได้ ขอให้ครอบครัวอยู่โดยมีความสุขเป็นพอ แล้วชีวิตจะมีสีสันมากกว่านี้เยอะเลย

  14. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  15. #10
    เอาล่ะ ออกทะเลกันได้!! เฮ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ใต้ผ้าห่ม
    กระทู้
    1,581
    กล่าวขอบคุณ
    156
    ได้รับคำขอบคุณ: 873
    เรื่องบาปบุญคุณจะเข้าใจยังไงผมไม่สนล่ะนะ เพราะเรื่องแบบนี้ถึงเวลาก็รู้เองแหละ

    แต่เรื่องพ่อแม่น่ะ เวลาคุณเห็นส่วนที่ไม่โอเค หรือคิดว่าเขาผิดล่ะก็ ให้คุณเข้าใจไว้อย่างหนึ่งเลย DNA มันไม่ได้สืบทอดกันแค่ร่างกายหรอก สันดารพื้นฐานก็ด้วย

    และเวลาพ่อแม่เราอารมขึ้นน่ะ จากประสบการณ์ เถียงให้ตาย ผลที่ออกมามันไม่โอเคหรอก ต้องมีการยืดยุ่น คุณต้องมองให้ไกลกว่าคำพูดของเขา ถ้าคุณอยากจะเป็นคนแก้ไข ซึ่งมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่หวังให้คนอื่นมาเปลี่ยนแปลง แต่เรานั่นแหละที่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ปัญหา แต่จะเปลี่ยนยังไง หรือเปลี่ยนตรงไหนนั้น อันนี้คุณต้องค่อยๆ เรียนรู้เอง ให้คนอื่นมาบอกมาใบ้ นอกจากคุณอาจจะไม่เข้าใจแล้ว ยังอาจแย่ลงกว่าเดิมอีก นั่นเพราะความรู้ครึ่งๆ กลางๆ ระหว่างไม่รู้เลย กับรู้ครึ่งๆกลางๆ ไอแบบครึ่งๆกลางๆ จะอันตรายกว่าในเรื่องของสติและความคิด

    ส่วนเรื่องที่ว่าเถียงพ่อแม่จะตกนรก คุณไม่ต้องไปมองมุมนั้นหรอก คุณไม่ได้เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะงั้น ดูแค่ผลที่คุณเถียงพ่อแม่เอาล่ะกัน ผมว่าคุณคงจะมีปัญญามากพอที่จะเห็นภาพรวม ย้ำว่าภาพรวมทั้งหมด

    ป.ล. จะคิดจะทำจะพูดอะไร ขอให้รู้ตัวไว้ว่าตอนนี้อารมไหน ถ้ามันสุดโต้งไปทางใดทางหนึ่ง อย่าพึ่งไปคิดมาก แล้วอะไรที่เราคิดว่าถูกแล้ว ไม่ได้แปลว่าในอนาคตเราจะยังคิดว่ามันถูกอยู่ เพราะเอาจริงๆ ถ้าคุณมานั่งตัดสินว่านี่ถูกนี่ผิด ความคิดคุณจะตันอยู่แค่นั้นน่ะแหละ จนกว่าคุณจะมองเรื่องพวกนี้อย่างที่มันเป็นจริงๆ โดยไม่มีการตัดสินมาเกี่ยว

  16. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    330
    กล่าวขอบคุณ
    759
    ได้รับคำขอบคุณ: 88
    การทะเลาะ
    เป็นเรื่องปกติของการอยู่ร่วมกันในสังคมเพราะคงไม่มีใครเห็นด้วยกับใครแบบเปะๆแน่นอนเพราะต่างคนต่างอยู่กันคนล่ะระดับ เช่น คนรวยจะมองเรื่องการเสียภาษีเป็นเรื่องเล็กน้อย คนจนจะมองการเสียภาษีเป็นเรื่องใหญ่
    ฉะนั้นการทะเลาะกันถือว่าเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ ฉะนั้นไม่ต้องเสียใจครับที่ทะเลาะกัน มันเป็นการปรับความเข้าใจกันของมนุษย์ แต่การทะเลาะก็เป็นเรื่องหนึ่ง
    แต่การพูดออกไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
    ถ้าจะให้ผมพูดตรงๆน่ะครับ อย่าถือผมน่ะครับผมขอโทษถ้าพูดไม่ถูกใจ มันไม่ผิดหรอกครับที่ท่านจะพูดไปโดยไม่คิดเพราะท่านได้เห็นตัวอย่างที่ไม่ดีมาก่อน คือพ่อของท่าน โดยที่เขาเป็นคนพาลอยู่แล้วฉะนั้นท่านไม่ผิดที่จะพูดแล้วไม่คิด แต่ไม่ว่าจะพูดไม่คิดแค่ไหน ท่านควรที่จะมีกาละเทศะหรือเลือกสถานที่เวลาจะทะเลาะกันหรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้ท่านเงียบครับ แล้วรอไปทะเลาะในรถ(ประมาณนี้) และมันเป็นการทำงานเกี่ยวกับการ React ของสมองด้วยครับเมื่อเวลาเราไม่ชอบอะไร สมองจะสั่งให้ตอบโต้ออกไปโดยไม่คิดครับ ซึ่งคนที่มีสมองประเภทนี้ก็มีมากครับไม่ต้องห่วง เขาเรียกว่าพวกวูวาม หรือคนเจ้าอารมณ์ เช่น ทีเพื่อนพูดจาไม่ดีใส่มาก็ต่อยเลยโดยไม่ทันคิด(ประมาณนี้) (ส่วนมากจะเจอกับคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ)
    การสำนึกผิด
    ไม่แปลกครับที่คนเรานั้นจะกลับมานั่งเสียใจเมื่อคิดได้ในสิ่งที่ทำไป การที่สำนึกผิดเป็นสิงที่ดีครับ แต่การที่เราแค่สำนึกนั้นมันไม่ดีครับ อย่ามั่วแต่นั่งสำนึกครับท่านต้องแสดงครับ มีอยู่ 2 ทางครับที่จะแสดง
    1.พูด ขอโทษ และพยายามปรับปรุงให้ควบคุมตนเองได้ครับ 2.ไม่ต้องพูด ขอโทษ แต่แสดงกริยาการปรับปรุงเลยครับ (ผมแนะนำให้ใช้อันที่ 1 น่ะครับ เพราะคนเราเมื่อได้ยินคำ ขอโทษ สมองจะไปกระตุ้นเรื่องความเห็นใจ)
    ความเสียใจ
    จริงครับมันอยู่ไม่นาน ความรู้สึกมันอยู่ไม่นานครับ แต่สมองจะจำครับเป็นเรื่องปกติที่สมองจะเก็บความรู้สึกไม่ดีเพื่อป้องกันเหตุการณ์นั้นๆเมื่อเกิดขึ้นอีกในอนาคตหรือกป้องกันตัวเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นอีก เช่น เรารู้สึกเสียใจเมื่อโดนแฟนบอกเลิกครั้งแรก ครั้งที่ 2 3 เราจะเริ่มไม่รู้สึกเสียใจ เหมือนกับครั้งที่ 1 แล้วครับ(ประมาณนี้) ไม่ต้องห่วงครับท่านเป็นกันทุกคน เขาเรียกว่า การเอื้อม หรือ ความชินชา ครับ (บางคนเป็นได้ถึงแค้นฝั่งหุ่นเลยครับ) ฉะนั้นไม่ต้องห่วงครับความรู้สึกอยู่ไม่นานแต่ความคิดอยู่นานครับ
    เขาจึงมีคำบอกว่า สิ่งที่เราทำลงไปไม่อาจลืมได้ แม้ว่าคนกระทำหรือผู้ถูกกระทำได้เลืมไปแล้ว - Sprit Away
    นรกหรือสวรรค์
    ไม่จำเป็นต้องเชื่อครับ
    แต่อยากให้ท่านเชื่อครับว่า กรรม นั้นมีจริง กรรม หมายถึง สิ่งที่ตนทำไปย่อมได้รับผลอย่างนั้น กรรมมีจริงๆครับ หรือเราเรียกอีกว่าอย่างว่า การสมน้ำหน้า มีจริงๆครับ เช่น สมมติเราสอบตกเพื่อนรักของเราล้อเรา เราอาจลืมได้ว่าเพื่อนคนนี้เคยล้อเรา แต่พอเพื่อนคนนี้สอบตก สมองเราจะนำความรู้สึกสมน้ำหน้านั้น ที่เพื่อนเราเคยล้อและที่ลืมไปแล้ว กลับมาเป็นความทรงจำเริ่มต้น เพื่อบอกว่าเพื่อนคนนี้เคยล้อเราน่ะว่าเราสอบตก ทำให้เราอยากล้อเขากลับ(ประมาณนี้) เป็นเรื่องปกติครับ หลายคนคงเคยเจอและลืมไปแล้วครับ (เจอเองแล้วจะรู้น่ะครับ มันเป็นความทรงจำชั่วขณะ) บางคนอาจเรียกเป็น กรรม แต่ในทางพระพุทธศาสนา กรรม ไม่จำเป็นต้องเจอกับคนที่ทำกับเราเท่านั้น อาจเจอกับคนอื่น เช่น เราไปต่อยเพื่อนที่พูดจาไม่ดี วันหนึ่งเราไปเจอกุ๊ยๆข้างถนนแซวใส่เราไปต่อยเขา เราเลยโดนรุม ไม่ก็เพื่อนไม่ยอมคบด้วย พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราจะทุกข์ แล้วสมองจะพยายามหาเหตุผลว่าทำไมถึงมาเจอเรื่องแบบนี้ได้

    *** ผมเคยเป็นคนอย่างท่านล่ะครับพูดไม่คิด เถียงเก่ง เจอกรรมตัวเอง สำนึกเลยครับ ผมไปขอโทษ ปรับตัว พยายามควบคุมตัวเอง*** สู้ๆครับท่านเป็นกำลังใจให้
    การร้องไห้ไม่ใช่แสดงความอ่อนแอแต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณนั้นได้เข้มแข็งขึ้นแล้ว

  18. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  19. #12
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ kheammachart อ่านกระทู้
    การทะเลาะ
    เป็นเรื่องปกติของการอยู่ร่วมกันในสังคมเพราะคงไม่มีใครเห็นด้วยกับใครแบบเปะๆแน่นอนเพราะต่างคนต่างอยู่กันคนล่ะระดับ เช่น คนรวยจะมองเรื่องการเสียภาษีเป็นเรื่องเล็กน้อย คนจนจะมองการเสียภาษีเป็นเรื่องใหญ่
    ฉะนั้นการทะเลาะกันถือว่าเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ ฉะนั้นไม่ต้องเสียใจครับที่ทะเลาะกัน มันเป็นการปรับความเข้าใจกันของมนุษย์ แต่การทะเลาะก็เป็นเรื่องหนึ่ง
    แต่การพูดออกไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
    ถ้าจะให้ผมพูดตรงๆน่ะครับ อย่าถือผมน่ะครับผมขอโทษถ้าพูดไม่ถูกใจ มันไม่ผิดหรอกครับที่ท่านจะพูดไปโดยไม่คิดเพราะท่านได้เห็นตัวอย่างที่ไม่ดีมาก่อน คือพ่อของท่าน โดยที่เขาเป็นคนพาลอยู่แล้วฉะนั้นท่านไม่ผิดที่จะพูดแล้วไม่คิด แต่ไม่ว่าจะพูดไม่คิดแค่ไหน ท่านควรที่จะมีกาละเทศะหรือเลือกสถานที่เวลาจะทะเลาะกันหรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้ท่านเงียบครับ แล้วรอไปทะเลาะในรถ(ประมาณนี้) และมันเป็นการทำงานเกี่ยวกับการ React ของสมองด้วยครับเมื่อเวลาเราไม่ชอบอะไร สมองจะสั่งให้ตอบโต้ออกไปโดยไม่คิดครับ ซึ่งคนที่มีสมองประเภทนี้ก็มีมากครับไม่ต้องห่วง เขาเรียกว่าพวกวูวาม หรือคนเจ้าอารมณ์ เช่น ทีเพื่อนพูดจาไม่ดีใส่มาก็ต่อยเลยโดยไม่ทันคิด(ประมาณนี้) (ส่วนมากจะเจอกับคนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ)
    การสำนึกผิด
    ไม่แปลกครับที่คนเรานั้นจะกลับมานั่งเสียใจเมื่อคิดได้ในสิ่งที่ทำไป การที่สำนึกผิดเป็นสิงที่ดีครับ แต่การที่เราแค่สำนึกนั้นมันไม่ดีครับ อย่ามั่วแต่นั่งสำนึกครับท่านต้องแสดงครับ มีอยู่ 2 ทางครับที่จะแสดง
    1.พูด ขอโทษ และพยายามปรับปรุงให้ควบคุมตนเองได้ครับ 2.ไม่ต้องพูด ขอโทษ แต่แสดงกริยาการปรับปรุงเลยครับ (ผมแนะนำให้ใช้อันที่ 1 น่ะครับ เพราะคนเราเมื่อได้ยินคำ ขอโทษ สมองจะไปกระตุ้นเรื่องความเห็นใจ)
    ความเสียใจ
    จริงครับมันอยู่ไม่นาน ความรู้สึกมันอยู่ไม่นานครับ แต่สมองจะจำครับเป็นเรื่องปกติที่สมองจะเก็บความรู้สึกไม่ดีเพื่อป้องกันเหตุการณ์นั้นๆเมื่อเกิดขึ้นอีกในอนาคตหรือกป้องกันตัวเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นอีก เช่น เรารู้สึกเสียใจเมื่อโดนแฟนบอกเลิกครั้งแรก ครั้งที่ 2 3 เราจะเริ่มไม่รู้สึกเสียใจ เหมือนกับครั้งที่ 1 แล้วครับ(ประมาณนี้) ไม่ต้องห่วงครับท่านเป็นกันทุกคน เขาเรียกว่า การเอื้อม หรือ ความชินชา ครับ (บางคนเป็นได้ถึงแค้นฝั่งหุ่นเลยครับ) ฉะนั้นไม่ต้องห่วงครับความรู้สึกอยู่ไม่นานแต่ความคิดอยู่นานครับ
    เขาจึงมีคำบอกว่า สิ่งที่เราทำลงไปไม่อาจลืมได้ แม้ว่าคนกระทำหรือผู้ถูกกระทำได้เลืมไปแล้ว - Sprit Away
    นรกหรือสวรรค์
    ไม่จำเป็นต้องเชื่อครับ
    แต่อยากให้ท่านเชื่อครับว่า กรรม นั้นมีจริง กรรม หมายถึง สิ่งที่ตนทำไปย่อมได้รับผลอย่างนั้น กรรมมีจริงๆครับ หรือเราเรียกอีกว่าอย่างว่า การสมน้ำหน้า มีจริงๆครับ เช่น สมมติเราสอบตกเพื่อนรักของเราล้อเรา เราอาจลืมได้ว่าเพื่อนคนนี้เคยล้อเรา แต่พอเพื่อนคนนี้สอบตก สมองเราจะนำความรู้สึกสมน้ำหน้านั้น ที่เพื่อนเราเคยล้อและที่ลืมไปแล้ว กลับมาเป็นความทรงจำเริ่มต้น เพื่อบอกว่าเพื่อนคนนี้เคยล้อเราน่ะว่าเราสอบตก ทำให้เราอยากล้อเขากลับ(ประมาณนี้) เป็นเรื่องปกติครับ หลายคนคงเคยเจอและลืมไปแล้วครับ (เจอเองแล้วจะรู้น่ะครับ มันเป็นความทรงจำชั่วขณะ) บางคนอาจเรียกเป็น กรรม แต่ในทางพระพุทธศาสนา กรรม ไม่จำเป็นต้องเจอกับคนที่ทำกับเราเท่านั้น อาจเจอกับคนอื่น เช่น เราไปต่อยเพื่อนที่พูดจาไม่ดี วันหนึ่งเราไปเจอกุ๊ยๆข้างถนนแซวใส่เราไปต่อยเขา เราเลยโดนรุม ไม่ก็เพื่อนไม่ยอมคบด้วย พอเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราจะทุกข์ แล้วสมองจะพยายามหาเหตุผลว่าทำไมถึงมาเจอเรื่องแบบนี้ได้

    *** ผมเคยเป็นคนอย่างท่านล่ะครับพูดไม่คิด เถียงเก่ง เจอกรรมตัวเอง สำนึกเลยครับ ผมไปขอโทษ ปรับตัว พยายามควบคุมตัวเอง*** สู้ๆครับท่านเป็นกำลังใจให้
    ขอบคุณนะครับ สำหรับคำตอบดีๆ ผมคงจะเลือกวิธีที่สองครับ เพราะผมอายเหลือเกินที่จะทำแบบนั้น แต่จริงๆมันก็ไม่ควรที่จะอายแหละครับ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย O'z NEWBIE IN THE H.H. : 12th May 2014 เมื่อ 01:11

  20. #13
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,335
    กล่าวขอบคุณ
    168
    ได้รับคำขอบคุณ: 857
    จากใจเลยนะครับ "น้องครับ" ย้ำอีกครั้ง จากใจเลยนะครับ ที่น้องกำลังประสบอยู่ พี่ผ่านมาแล้ว เรื่องศาสนานั้น พี่ไม่รู้หรอกว่าน้องกับพ่อแม่ขัดแย้งกันยังไง

    แต่........... พี่เข้าใจนะ น้องกำลังวัยรุ่น มีกระแสของตัวเอง พี่จะสอนอย่างนี้ ทุกศาสนาสอนให้ทุกคน "เป็นคนดี" แต่ละศาสนา มีข้อบ่งชี้ "แตกต่างกัน"

    อันนี้เป็นเรื่องธรมมดา แต่ถ้าน้องโตพอที่จะคิดได้ว่า "ทุกศาสนาสอนให้คนเป้นคนดี" แล้ว ไปศึกษาดี ๆ "ทุกศาสนาก็สอนให้คนเรา ""ชนะตนเอง"" "

    สิ่งที่น้องต้องทำคือสิ่งที่ทุก ๆ ศาสนามีมาในคำสอนคือ "ชนะตนเอง" นั้นคือ ชนะอารมณ์วู่วาม อารมณ์อยากที่จะชนะความคิดเห็นของพ่อและแม่

    แต่มองข้าไปว่า ตอนเองนั้น ยังมิได้บรรลุข้อเบื้องตั้นนั้น คือ ชนะตนเอง นั้นคือหมายถึงว่า เราสามารถ เอาชนะ จิตใจอันอยากที่จะชนะ "พ่อ" และ "แม่"

    จะสื่อให้เห็นถึงธรรมข้อนี้อย่างชัด ๆ เด่นชัดที่สุด ๆ คือ "คิดจะเอาชนะพ่อ และ แม่ ด้วยกำลัง ฐิถิ = แพ้ตัวเอง = แพ้จิตใจตัวเอง" ก็คิดให้ดี ๆ ครับ

    คนทุกคนวัยแบบนี้ มีแต่คิดว่าตัวเองคิดถูกทั้งนีั้นแหละ หรือแม้ว่า คุุณมีเหตุผลด้วยทาง ความคิดเห็นด้านศาสนาของคุณ (ด้วยอารมณ์) ต้องการเอาชนะของคุณ

    คุณอาจชนะ ความเห็นของพ่อและแม่ แบบหักศึก แต่ ...... นั้นแปลว่าคุณได้แพ้ตัวเองเพราะ......... ได้ทำให้พ่อและแม่ไม่สบายใจ ที่คุณต้องทำคือ ชนะตนเองนั้นให้ได้

    แล้วหาจุดยืนเสียใหม่ หาเหตุผลอันสมควร มาชี้แจง ให้ทุกฝ่ายได้ความสบายใจนั้น แปลว่า คุณได้ชนะการนี้ ชนะตนเอง แล้วได้เข้าถึงหลักศาสนาไม่ว่าจะด้วยของตัวหรือของพ่อและแม่

    อย่างถ่องแท้จริงแล้ว (เฮ้ยยยยยยยยยย ผมเป็นพวก Dark Worlds นะ เพียงแต่ผ่านโลกมามาถึงได้ว่าความได้ถึงฉะนีี้) 555555555555+
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย blacklotus55 : 12th May 2014 เมื่อ 01:31

  21. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  22. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    ที่อยู่
    Liverpool
    กระทู้
    1,399
    กล่าวขอบคุณ
    1,072
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,670
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ blacklotus55 อ่านกระทู้
    จากใจเลยนะครับ "น้องครับ" ย้ำอีกครั้ง จากใจเลยนะครับ ที่น้องกำลังประสบอยู่ พี่ผ่านมาแล้ว เรื่องศาสนานั้น พี่ไม่รู้หรอกว่าน้องกับพ่อแม่ขัดแย้งกันยังไง

    แต่........... พี่เข้าใจนะ น้องกำลังวัยรุ่น มีกระแสของตัวเอง พี่จะสอนอย่างนี้ ทุกศาสนาสอนให้ทุกคน "เป็นคนดี" แต่ละศาสนา มีข้อบ่งชี้ "แตกต่างกัน"

    อันนี้เป็นเรื่องธรมมดา แต่ถ้าน้องโตพอที่จะคิดได้ว่า "ทุกศาสนาสอนให้คนเป้นคนดี" แล้ว ไปศึกษาดี ๆ "ทุกศาสนาก็สอนให้คนเรา ""ชนะตนเอง"" "

    สิ่งที่น้องต้องทำคือสิ่งที่ทุก ๆ ศาสนามีมาในคำสอนคือ "ชนะตนเอง" นั้นคือ ชนะอารมณ์วู่วาม อารมณ์อยากที่จะชนะความคิดเห็นของพ่อและแม่

    แต่มองข้าไปว่า ตอนเองนั้น ยังมิได้บรรลุข้อเบื้องตั้นนั้น คือ ชนะตนเอง
    ผมก็คิดแบบพี่แหละครับว่าศาสนาทุกศาสนานั้นล้วนแต่สอนให้ทุกคนเป็นคนดี แต่เป็นคนดีได้ก็ไม่จำเป็นต้องมีศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจก็ได้ และที่พี่บอกว่า สอนให้ชนะตนเอง อันนั้นก็จริงครับ ผมมองข้ามไปจริงๆ ขอบคุณนะครับ

  23. #15
    You're like a Dead Sea!
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Ram'53
    กระทู้
    1,837
    กล่าวขอบคุณ
    2,595
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,114
    ต้องคิดไตร่ตร่องให้ดีแหละครับ เวลาจะพูดอะไร คิดด้วยว่าถ้าพูดออกไปอีกฝ่ายจะคิดยังไง

    รู้สึกยังไง โดยไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่ใช้หลักคิดที่ว่าคนที่เราสนทนาด้วยเนี่ย เป็นคนยังไง

    เรื่องพูดตรงมันก็ดีครับ ผมก็เป็นคนพูดตรง แต่ก็ต้องดูกาละเทศะด้วยครับ ว่าเรื่องไหนควรพูดหรือไม่ควรพูด

    เรื่องความเชื่อต่างๆหรือเรื่องเล็กๆน้อย บางเรื่องก็เออ ออตามพ่อแม่ไปก็ได้ครับ ถ้าอันไหนที่คิดว่าอธิบายเหตุผลไปแล้วเขาจะไม่ฟัง

    ผมเองก็เป็นคล้ายๆ จขกท. ครับ ตอนอยู่กับพ่อกับแม่เนี่ย เลยฟังๆเขาไว้เออ ออตามๆเขาไปจะได้ไม่ต้องเถียงกันไร้สาระ

    จากที่อ่านผมมีหลายๆข้อที่เหมือน จขกท. ครับแต่ผมมีนิสัยที่ว่าใจเขา ใจเรา ปัญหาทำนองนี้ผมเลยไม่ค่อยประสบซักเท่าไหร่


    ปล.ขอโทษด้วยนะถ้าเนื้อหาแปลกๆ เรียบเรียงคำพูดไม่ถูก คิดอะไรได้ก็พิมพ์ๆมาเลย แต่น่าจะมีประโยชน์กับ จขกท. ไม่มากก็น้อยนะครับ
    Intel Core i5-2500 CPU @3.30GHz, 8.0GB RAM, NVIDIA GeForce GT 750

  24. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:



 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top