ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

กำลังแสดงผล 1 ถึง 12 จากทั้งหมด 12
  1. #1
    -* BeaMZaMaSTeR *-
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    แก่งคอย สระบุรี
    กระทู้
    1,147
    กล่าวขอบคุณ
    1,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,890
    Blog Entries
    2

    Nightmare Squad หน่วยนรกเดินดิน [นิยายแนวทหาร]

    พอดีผมเปิดเทอมสิงหาอ่ะครับ ช่วงนี้เลยว่างสุดๆ ผมเลยแต่งนิยายเกี่ยวกับทหารซะเลยครับ ฆ่าเวลาดี ช่วยติชมด้วยนะครับ ผมเพิ่งแต่งได้แค่บทเดียว ส่วนตอนนี้ผมกำลังแต่งช่วงก่อนที่จะเปิดเรื่องครับ ป.ล. ผมชอบพิพม์ผิดนะครับ ผิดคำไหนผมขออภัยด้วย


    ***เนื้อหาในที่นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง รายละเอียดต่างๆเป็นเพียงสิ่งที่สมมติขึ้นเท่านั้น ผู้เขียนไม่ได้เจตนาโจมตี หรือทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด****


    อัพเดตบทที่ 1 แล้วครับ
    อัพเดตบทที่ 2 แล้วครับ
    อัพเดตบทที่ 3 แล้วครับ
    อัพเดตบทที่ 4 แล้วครับ





    บทนำ


    ฤดูร้อน ปี 2020
    FOB เมคินสัน เมืองบีอาลีสต็อก โปแลนด์

    ท้องฟ้ามืดทะมึนยามค่ำคืนอันหนาวเหน็บของเมืองบีอาลีสต็อก ประเทศโปแลนด์ ซึ่งต่างจากอากาศในช่วงกลางวันยิ่งนักที่ร้อนอบอ้าว ทำให้นายทหารหนุ่มร่างสูงใหญ่ มากด้วยพละกำลัง เมอร์กิน แห่งกองกำลังลาดตะเวนยานยนต์ที่ 6 กองกำลังสหรัฐ ทนความหนาวเหน็บในราตรีช่วงตี 1 ไม่ไหว
    “พับผ่าซิ หนาวชิบ”
    ทหารหนุ่มวัย 23 ปี จากเวอร์จิเนียสบถ หลังจากที่สะดุ้งตื่นกลางดึกจากความเย็นยะเยือก เขาลุกจากเตียงของห้องพักของนายทหารสหรัฐ พลางเอามือถูกันไปมาเพื่อบรรเทาความหนาวเย็น ยังดีที่เครื่องแบบกองทัพบกยังหนาพอช่วยให้หายหนาวได้บ้าง จากนั้นเขาก็ควานหาถุงมือในความมืด แล้วพยายามสวมมันทั้งๆที่มือนั้นซีดแทบไม่มีความรู้สึก เวลานอนห่มผ้าด้วยนะลูก เดี๋ยวไม่สบาย เสียงของแม่ของเขาที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมาในหัวเสียเฉยๆ เมอร์กิน ส่ายหัวเพื่อไม่ให้นึกถึงอีก นายทหารอุ้มไรเฟิล M4 แล้วสะพายมันขึ้นบ่า แล้วเปิดประตูห้องพัก สืบเท้าไปตามทางเดินของห้องพักทหารที่มีห้องพักอยู่ทั้งสองฝั่งทางเดิน เขาเดินก้าวยาวและเร็วเพื่อให้ร่างกายใช้พลังงาน เพื่อหวังจะให้ความร้อนของร่างกายลดอาการสั่นเทิ้มอันเกิดจากสภาพอากาศหน้าร้อนที่เล่นตลกในคืนวันนี้





    7 เดือนก่อนหน้านี้ เมอร์กินเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ใช้ชีวิตทุ่มเทให้กับการเรียน และเล่นเกม พวกพ้องเพื่อนฝูงเต็มไปหมด ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้ากินเบียร์ อีกทั้งเขายังกำหนดปริมาณกาเฟอีนในแต่ละวันด้วย ชีวิตวนไปวนมาอย่างนี้ตลอด 4 ปีในมหาวิทยาลัยเล่นเกม เรียน เล่นเกม เรียนอย่างนี้จนจบปริญญาตรีออกมาเพียงเดือนเดียว ก่อนที่รัสเซียจะประกาศสงคราม เขาละทิ้งชีวิตเด็กหางาน ตัดสินใจเข้าโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์โดยใช้เส้นของพ่อที่เคยไปรบที่อัฟกานิสถาน
    “จะไปจริงๆหรือลูก”
    เสียงของผู้เป็นแม่ เอ่ยปากถามลูกชายเพียงคนเดียวด้วยอาการน้ำตาคลอเบ้า เมื่อเห็นลูกชายของเธอสวมเครื่องแบบลายพลางดิจิตอล พร้อมถุงทะเลและสัมภาระเต็มหลัง ฉากหลังเป็นทหารหลายร้อยนายที่เตรียมข้าวของก่อนออกเดินทางไปแนวรบในยุโรปตะวันออก
    “ครับแม่”
    เมอร์กินตอบสั้นๆ
    “ดูแลตัวเองดีๆนะ”
    พ่อของเขา ผู้ซึ่งสร้างชื่อในการรบที่อัฟกานิสถาน บุรุษผู้เสียขาทั้งสองข้างให้กับกับระเบิดของตอรีบันในปี 2011
    “ครับพ่อ ผมจะรอดกลับมา ผมดูแลตัวเองได้ครับพ่อ”
    ดูแลตัวเองหรือ แน่นอน ยามออกรบผู้กำหนดชะตาชีวิต ไม่ใช่ตัวเรา แต่เป็นกระบอกปืนต่างหาก อยู่ที่ว่าเราจะเอาชีวิตรอดจากเกมชีวิตอันโหดร้ายทารุณนี้ได้หรือไม่
    “แม่รักลูกนะ”
    คำพูดของผู้เป็นแม่ บาดลึกลงไปในจิตใต้สำนึกของเมอร์กิน
    “ผมก็รักแม่ครับ รักพ่อด้วย”
    ถึงเวลาต้องไป เมอร์กินเดินเรียงแถวขึ้นเครื่องบิน C-5 Galaxy ของกองทัพอากาศ เขาเหลือบมองดูพ่อกับแม่ของเขาที่ค่อยๆห่างไปเรื่อยๆ น้ำตาไหลออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ มือสั่น ในใจร้อนรุ่ม อยากกลับไปที่บ้านใช้ชีวิตธรรมดาๆอีกครั้ง แต่ในสถานการณ์แบบนี้ สถานการณ์สงคราม สิ่งนี้ที่ทำให้เขาก้าวออกจากชีวิตอันแสนสบาย เพื่อปกป้องสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง นั่นคือเป้าหมายของการเดินทางสู่ดินแดนที่แสนอันตราย ซึ่งทหารทุกคนล้วนมีอุดมการณ์เดียวกันคือ ปกป้องสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง แม้ชีวิต.....







    เขาเดินออกมาจากที่พักทหาร ซึ่งขุดลึกลงไปประมาณ 1-2 เมตร เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากปืนใหญ่ หรือจรวดของศัตรู แล้วเดินผ่านช่องของเฮสโก* ที่วางเอาไว้เป็นช่องๆ เพื่อป้องกันการตรวจตราของพลซุ่มยิง เขาสืบเท้าเร็วขึ้นอีก แล้วเดินตรงไปยังแนวเฮสโกที่วางเป็นแนวพาดตั้งแต่ทางเหนือของฐานปฏิบัติการหน้าแห่งนี้ ทอดยาวไปจนถึงทิศใต้ของฐาน หลังจากแนวของเฮสโก ก็จะเป็นแนวของต้นไม้เมืองหนาว ซึ่งตอนนี้กลายเป็นตอตะโกไปหมดแล้ว
    “หวัดดี เซอร์~”
    เสียงชายหนุ่มดังเบาๆจากบังเกอร์ด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
    “ไง เนลสัน~”
    เมอร์กินตอบทักทายด้วยน้ำเสียงสั่นไม่แพ้กัน
    “หนาวบัดซบเลยใช่ไหมผู้หมวด~”
    เนลสันทักต่อ จากนั้นจึงหันไปส่องกล้องกวาดตามองหาภัยคุกคามต่อ
    “หนาวเชี่..ๆเลยต่างหาก แล้วเอ็งเป็นจ่าแล้วยังต้องเข้าเวรดึกๆ ด้วยหรือ? ถ้าตอนเป็นนายสิบยังพอว่า~”





    อย่างว่า.. เนลสันเป็นคนเท็กซัส ร่างกำยำ กล้ามโต แต่ก็มิอาจต้านทานอากาศยามราตรีของโปแลนด์ได้เสียเท่าไหร่ เขาเข้าประจำการในหน่วยยานยนต์ จาก Camp Stanley Storage Activity รัฐเท็กซัส ติดยศสิบเอกในปี 2016 ปัจจุบันอายุ 25 ปี มีประสบการณ์รบในจอร์เจียมาแล้ว จากนั้นก็ได้เด้งมาอยู่แนวรบที่โปแลนด์ หลังจอร์เจียโดนรัสเซียถล่มเละตุ้มเปะ พร้อมยศจ่าสิบเอก
    “คืนนี้มีห่..อะไรข้างนอกไหมจ่า~”
    เมอร์กินเริ่มเข้าประเด็น
    “แมวสักตัวยังไม่มีเลยหมวด~ น่าจะมีสาวๆ น่ารักๆ บ้างนะ ฮ่าๆ”
    เนลสันตอบแบบลามกเช่นเคย พลางกวาดสายตาตรวจการต่อไป
    จากบังเกอร์ที่ทั้งสองอยู่ ไกลออกไปจะเห็นเป็นแนวป่า (ที่ตอนนี้ไม่มี) ไกลสุดลูกหูลูกตา ด้วยผลงานของทหารช่างที่ 14 ที่เอาระเบิดอัดอากาศหลายร้อยลูกทำลายต้นไม้ที่บดบังแนวยิงของปืนกลจากฐานเมคินสัน
    “ผมว่าพวกทหารช่างนี่แหละ ตัวการที่ทำให้โลกร้อน ฮ่าๆ สามารถตัดต้นไม้ทั้งป่าได้ในวันเดียว~”
    เนลสันพูดขบขันพลางหัวเราะไปด้วย เพื่อลดความเครียดลงหลังจากที่แหกตาเข้าเวรมาเป็นเวลา 2 ชั้วโมงเศษ
    “อารมณ์ขันเหมือนเดิมเลยนะจ่า~ ตอนเรียนนายสิบได้ลงวิชาทหารขบขันไว้หรอ~”
    เมอร์กินตบมุกกลับ จากนั้นเขาปลดไรเฟิลลงจากบ่า แล้วนำมาประทับไว้พร้อมลั่นมัจจุราช 5.56 มม. ใส่มันผู้ใดก็ตามที่เล็ดลอดผ่านแนวกับระเบิดสังหารบุคคลเข้ามายังฐานนี้ได้
    “ฮ่าๆ มันเป็นโดยกำเนิดครับเซอร์~”
    เนลสันตอบกลับพร้อมตรวจรังเพลิงปืนกล M240 ว่าทุกอย่างสามารถทำงานได้
    “แล้วหมวดมีอะไรหรือเปล่าครับ ถึงตื่นออกมากลางดึก~”
    เนลสันถามไถ่เมอร์กินบ้าง
    “พอดีคิดถึงบ้านน่ะ~ เอ็งเป็นเหมือนผมหรือเปล่า~”
    “ครับ~ คิดถึงหนังโป๊ใน PC ผมด้วย~”
    “ไอ้เชี่..เนลสัน”
    เนลสันขำก๊าก หลังจากตอกกระดูกสันหลังผู้หมวดเข้าเต็มเปา
    “เพอร์ซี่ เรียกโรสเวล เพอร์ซี่ เรียกโรสเวล ได้ยินไหม เปลี่ยน”
    เพอร์ซี่เป็นนามเรียกขานของแนวบังเกอร์ฝั่งตะวันออกของฐาน ส่วนโรสเวลเป็นนามเรียกขานของกองอำนวยการที่อยู่กลางฐานแห่งนี้ ตอนนี้เวลาตี 2 ซึ่งเป็นเวลารายงานสถานการณ์ต่อหน่วยเหนือ เนลสันยกหูเจ้าคุณปู่ AN/PRC25 วิทยุสนามสมัยสงครามเวียดนาม ซึ่งได้รับการปรับปรุงอะไหล่ให้เป็นของใหม่เรียบร้อยแล้ว แต่สภาพมันก็แก่กว่าพ่อของเมอร์กินเสียอีก
    “นี่โรสเวล ส่งข่าวได้”
    “สถานการณ์ปกติ ไม่มีข้าศึกในแนวเปลี่ยน”
    “โรเจอร์ ตรวจการต่อไป เปลี่ยน”
    “เพอร์ซี่ รับทราบการปฏิบัติ เอาท์”
    จบการรายงานเนลสันโยนหูวิทยุทิ้งไปแบบเซ็งแซ่
    “จบเวรของผมแล้วครับหมวด~ โอย จะได้ไปอยู่ที่อุ่นๆแล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับเซอร์~”
    เนลสันลุกขึ้นยืนเส้นยืดสาย ก่อนจะย้ายบั้นท้ายไปยังที่พัก
    “โอเคจ่า เจอกันเวลาอาหารเช้า ระหว่างเปลี่ยนเวรเดี๋ยวผมเฝ้าไว้ให้~”
    “ขอบคุณ เซอร์”
    เนลสันจากไปแล้ว ตอนนี้เมอร์กินตื่นตัวเต็มที่ เขาวาง M4 ลง แล้วเช็ค M240 อีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ
    “โรสเวล เรียกเพอร์ซี่ โรสเวล เรียกเพอร์ซี่ ทราบแล้วเปลี่ยน”
    เสียงวิทยุดังขึ้นพร้อมการประกาศตัวของผู้ติดต่อ
    “จากเพอร์ซี่ สัญญาณดีมาก”
    “ขอเปลี่ยนเวลารายงานเป็นทุกๆครึ่งชั่วโมงนะ หน่วยข่าวกรองบอกว่าหน่วยลาดตระเวนของเราปะทะกับหน่วยลาดตระเวนของข้าศึก ในชายแดนเบลารุสเปลี่ยน”
    “โรเจอร์ เดี๋ยวทางนี้จะรายงานกลับไปเปลี่ยน”
    “รับทราบ ขอให้โชคดี เอาท์”





    ค่ำคืนนี้ยาวนานนัก เมอร์กินกวาดสายตา ผ่านบังเกอร์ออกไปยังแนวตอไม้ข้างนอกที่มืดสนิท ยาวนานเสียจนเขารายงานสถานการณ์ผ่านไป 1 ครั้ง แล้วเพิ่งสังเกตว่าไม่มีคนมาเปลี่ยนเวร ตอนนี้หน่วยสองต้องเข้ามาเปลี่ยนเวรแล้วนี่ ทำอะไรอยู่ เขาคิดในใจ แต่ตอนนี้เขาต้องทำหน้าที่เวรแทนไปก่อน ผ่านไป 1 ชั่วโมง เมอร์กินเดือดดาลที่หน่วยสองไม่ยอมมาเปลี่ยนเวร ไอ้เวร สงสัยต้องปรับวินัยสักหน่อยแล้ว ทันทีทันใดก็มีทหารวิ่งหน้าตั้งมาที่บังเกอร์ พร้อมกับกระซิบว่า “ผมมาเปลี่ยนเวรครับ~”
    “ไปไหนมาทหาร”
    เมอร์กินถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
    “ขอโทษเซอร์ พอดีหลับเพลินไปหน่อย~”
    อะไรกัน! นี่เราอยู่แนวหน้านะ ระเบียบวินัยในการปฏิบัติห่วยแตกขนาดนี่เลยหรือ หรือว่าที่นี่มันสบายเกินไป เมอร์กินหน้าแดงก่ำ กำหมัดแน่น เดือดดาลอย่างมาก แต่ก็เก็บความเดือดดาลนั้นไว้ในใจ ขืนลงไม่ลงมือกับทหารข้ามหน่วยได้เป็นเรื่องแน่
    “เอาล่ะ มาก็ดีแล้ว ตรวจการให้ดีละ เอ้อ รายงานในโรสเวลทุกๆครึ่งชั่วโมงด้วยล่ะ”
    “เยสเซอร์!”
    เมอร์กินเดินออกจากบังเกอร์ได้อารมณ์หงุดหงิดเหลือทน แต่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ เพราะทหารที่นี่ออกลาดตระเวนบ่อย ความเหนื่อยล้าจากภารกิจ ทำให้สามัญสำนึกในระเบียบวินัยจมหายไปในความเห็นแก่ตัวได้ เอาเถอะ ยังไงก็ได้นอนแล้ว หวังว่าคงจะหนาวน้อยลงนะ เขาถือไรเฟิลคู่กายเดินเอื่อยๆเข้าไปยังห้องพัก จัดแจนเนื้อตัว แล้วขึ้นเตียง พยายามข่มตานอนหลับ





    ไปทำอะไรมาจ๊ะลูก
    เสียงของแม่ดังขึ้นในใจ ภาพในวัยเด็กแล่นเข้ามาในหัวโดยไม่ได้รับเชิญ
    “ไม่มีอะไรหรอก!”
    เมอร์กินในวัยเด็กตอบแม่ห้วนๆ ขอบตาขวาช้ำเขียว แล้วเดินเข้าห้องไป แล้วปิดประตูอย่างแรง
    “มีเรื่องอะไรหรอจ๊ะ บอกแม่ได้นะลูก”
    “รู้แล้วๆ ไปพ้นๆซะที่!!!!”
    ไอ้ลูกระยำเอ้ย ทำไมตอนนั้นไม่คิดถึงท่านล่ะ ทำไมถึงไล่ท่านไปเสียอย่างนั้นล่ะ แล้วทำไมในตอนนี้เราถึงได้เห็นแต่ภาพของท่านตลอดเวลาล่ะ
    “มีเรื่องต่อยตีอีกแล้วหรือ ไม่เป็นไรๆ แม่ไม่โกรธหรอก เดี๋ยวแม่ไปคุยให้”
    แม่ใจดีใช่ไหมล่ะ แต่ครั้งนั้นเมอร์กินเป็นคนไปหาเรื่องเขาก่อน แต่แม่กลับไม่โกรธ ไม่ถือสา ได้แต่บอกว่าทีหลังอย่าทำนะ






    เป็นธรรมดาที่เวลาคนเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่วิตกกังวล เราจะคิดถึงพวกท่านเสมอ คิดถึงช่วงเวลาที่สุขสบาย เมอร์กินได้แต่คิด แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เขาถูกตัดออกจากแนวหลังอย่างสิ้นเชิง ไม่มีการส่งจดหมายที่ฐานแห่งนี้ ยิ่งทำให้
    จิตใจของทหารที่นี่อ่อนแอลง หรือว่าเรากำลังโดนสงครามจิตวิทยากันแน่ แต่เอาเถอะ ถ้าเราผ่านไปได้ เราจะกลายเป็นคนที่ทนโลกมากขึ้น
    "ดูแลตัวเองดีๆนะ"
    เสียงของพ่อลอยมาอีกคน เมอร์กินดึงเหรียญที่ห้อยคอออกมา เป็นเหรียญที่พ่อให้มาเป็นเครื่องราง
    พ่อครับ ผมจะรอดออกไปให้ได้
    นายทหารหนุ่มคิดในใจก่อนจะหลับไปพบกับภารกิจอันแสนหนักหน่วงในเช้าที่จะถึง...

    บทที่ 1 : Real Combat


    ฤดูร้อน ปี 2020
    FOB เมคินสัน เมืองบีอาลีสต็อก โปแลนด์

    เช้าวันใหม่มาถึง แสงอรุณเจิดจ้าต้อนรับวันใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ ทลายสภาพอากาศอันหนาวเย็นตลอดทั้งคืนให้อุ่นขึ้นมาบ้าง น้ำค้างเกาะปลายยอดหญ้ารอบฐานเมคินสัน สิ้นสุดราตรีอันยาวนานที่ผ่านมาได้ด้วยดี เมอร์กิน ตื่นจากการนอนพร้อมการยืดเส้นยืดสายอย่างเต็มที่เพิ่งขจัดความง่วงที่ยังค้างคาอยู่ เขาลุกไปยังห้องน้ำเพื่อสะสางความง่วงทั้งหมดทิ้งไปให้หมดสิ้น แล้วก็ชำระร่างกายด้วยน้ำสะอาดบริสุทธิ์ วันนี้จะได้ทำอะไรอีกล่ะ เขามโนภาพทหารอเมริกาวิ่งพล่านไปทั้งสนามรบ กระสุนส่องแสงแดงโร่วิ่งเจาะร่างทหารอเมริกาคนแล้วคนเล่า เสียงระเบิดคำรามน่ากลัวฉีกร่างทหารออกเป็นชิ้นๆ

    เธอจะเห็นภาพอันน่าสยดสยองในสงครามไม่ช้าก็เร็วผู้หมวดเมอร์กิน

    คำพูดของพันโทคราวน์ กล่าวแก่ร้อยโทน้อยประสบการณ์อย่างเมอร์กิน ณ ฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจ 21 ในกรุงวอร์ซอ ก่อนที่เขาจะถูกส่งมาที่บีอาลีสต็อก 3 วัน จนถึงตอนนี้เขาอยู่ที่เมคินสันได้ 4 สัปดาห์แล้ว หน่วยยานเกราะลาดตระเวนของเมอร์กินยังไม่เคยได้รับมอบภารกิจลาดตระเวนจริงๆเลยสักครั้งเดียว ภารกิจส่วนใหญ่จะเป็นการเฝ้าระวังฐานปฏิบัติการเมคินสัน สลับการฝึกอาวุธประจำกาย, อาวุธประจำหน่วย อยู่บ่อยครั้ง ส่วนภารกิจลาดตระเวนจะเป็นหน้าที่หลักของหน่วยยานเกราะล้อยางที่ 2 ที่ประจำการอยู่ที่ฐานแห่งนี้เหมือนกัน หน่วยนี้เป็นหน่วยหัวหอกสำคัญในการลาดตระเวน ซึ่งบางวันจะมีทหารโปแลนด์ไปร่วมลาดตระเวนด้วย ส่วนหน่วยของเมอร์กินก็เฝ้าฐานต่อไป





    เมอร์กินเดินจากที่พักหลังจากแต่งเครื่องแบบลายพลางทหารเรียบร้อย มายังโรงอาหารซึ่งมีทหารในหน่วยของเขานั่งอยู่แล้ว
    “อรุณสวัสดิ์ครับหมวด เอาพายไหมครับ”
    เออร์วิลทักเป็นคนแรก พร้อมยื่นพายไก่ออกหน้ามาให้ผู้หมวดของเขา
    “ขอบใจวิล พวกนายนี่ตื่นเช้ากว่าที่คิดเสียอีกนะ”
    เมอร์กินทักตอบ แล้วรับน้ำใจที่เป็นพายไก่จากเออร์วิล
    “วันนี้ก็น่าเบื่ออีกวันสินะครับหมวด”
    นิโคไลน์เอ่ยด้วยสีหน้าเซ็งแซ่ เมื่อรู้ว่าภารกิจวันนี้เป็นการฝึกอีกตามเคย
    “ไม่เอาน่านิ๊กกี้ คิดซะว่าเตรียมความพร้อมละกัน”
    “ความพร้อมนรกแตกอะไรกันหมวด เราซ้อมทุกวันๆๆๆ จนผมจะสามารถยิงไรเฟิลใส่บั้นท้ายไอ้รัสเซียนั่นได้ด้วยนิ้วเท้าของผมได้แล้วนะหมวด น่าจะมีอะไรตื่นเต้นกว่านี่สิ เผลอๆมันเอาไอ้ 107 ถล่มเราอีก เราก็ได้แต่ซุกหัวอยู่แต่ในฐานเท่านั้น นี่มันรอเวลาตายชัดๆ”
    นิโคไลน์เดือดจัดกับคำสั่งฝึกซ้อมที่สุดแสนจะน่าเบื่อ พวกทหารในหน่วยเออออตามกันส่งเสียงเห็นด้วยกับนิโคไลน์

    พวกนี้ไปเที่ยวเก็บความกระหายสงครามมาจากไหนกันวะ???

    เมอร์กินสบถในใจ แต่มันเป็นคำสั่งจากผู้พันเทรเวอร์ ผู้บัญชาการฐานแห่งนี้
    “เอาน่าๆ อย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ปลอดภั.....”
    “ปัง!!!”
    การสนทนาระหว่างผู้บังคับหน่วยยานเกราะลาดตระเวนที่ 6 กับลูกน้องในหน่วยถูกขัดจังหวะด้วยเสียงประตูทางเข้าโรงอาหาร ปรากฏชายในชุดนายทหารเดินเข้ามาในโรงอาหาร
    “ผู้การต้องการพบผู้หมวดเมอร์กินเดี๋ยวนี้ ที่กองอำนวยการ”
    ภายในโรงอาหารไร้เสียงของมนุษย์ เสียงลมพัดเข้ามาทางประตู และแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องประกายผ่านหน้าต่างโรงอาหาร
    “รับทราบ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
    เมอร์กินเดินตามนายทหารคนนั้นไป ทหารในหน่วยทั้ง 45 ชีวิตส่งสายตามองตามผู้หมวดของเขาไปจากถึงประตู ไร้เสียงมนุษย์
    “นี่ไง อะไรน่าตื่นเต้นที่ว่า”
    เมอร์กินหันมาพูดกับลูกน้องในหน่วย ด้วยข้อความชวนน่าตื่นเต้น แล้วเขาก็ปิดประตูเดินออกไปยังกองอำนวยการตามคำสั่ง
    “ผมว่า.. เราไปเตรียมพร้อมกันเถอะ”
    เนลสัน รองผู้บังคับการหน่วยออกคำสั่งแทนผู้หมวดของเขา เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทุกคนเก็บถาดอาหารอย่างรวดเร็ว แล้วทยอยออกจากโรงอาหาร ไปยังที่รวมพลเพื่อเตรียมพร้อม รอรับคำสั่งประจำวัน
    “ขอให้เป็นเรื่องสนุกเถอะ”
    นิโคไลน์พูดลอยๆ โดยหวังว่าวันนี้จะมีเรื่องตื่นเต้นตลอดเวลา 4 สัปดาห์ในเมคินสัน...





    เมอร์กินเดินตามนายทหารมาถึงกองอำนวยการ ซึ่งมีผู้พันเทรเวอร์รออยู่หน้าประตูแล้ว
    “อรุณสวัสดิ์ครับผู้พัน ง่ำๆๆๆ”
    เมอร์กินทักทายผู้พันวัยกลางคน ร่างไม่ใหญ่มาก แต่มีหัวใจนักรบโดยแท้ พร้อมกับที่เมอร์กินเผด็จศึกกับเจ้าพายไก่หมดพอดี
    “สวัสดีผู้หมวดเมอร์กิน เรามีเรื่องด่วนที่ต้องขอให้คุณทำ อ้อ ไม่ใช่สิ หน่วยของคุณต้องทำ”
    คำพูดของผู้พันนั้นทำให้ผู้หมวดหนุ่มนึกในใจ นั่นไง ได้สนุกสมใจละงานนี้
    ผู้พันกับเมอร์กินเข้าไปในห้องของผู้พันเทรเวอร์ เมื่อปิดประตู ผู้พันเทรเวอร์เอ่ยปากทันที
    “คุณรู้ใช่ไหม? ว่าหน่วยยานเกราะล้อยางที่ 2 ออกไปลาดตระเวน”
    “.. ใช่ครับ ออกฐานไปตอนตี 4 ครับท่าน”
    คำถามของผู้พันทำเอาผู้หมวดหนุ่มงงงวยเล็กน้อย
    “โอเค เข้าเรื่องเลย”
    ผู้พันยื่นรูปถ่ายทางอากาศมาให้เมอร์กิน
    ในภาพปรากฏถนน มีกลุ่มควันดำลอยฝุ้งไปบนอากาศ ภายล่างควันสีดำนั้นเป็นรถยานเกราะล้อยาง LAV ล้อยางแบบ 4x4 ของมันกระจัดกระจายข้างถนน มียานเกราะ 3 คันสภาพไม่ต่างกัน
    “... ผู้พันครับ คื..”
    “ถูกต้อง หน่วยที่ 2 โดนซุ่มโจมตีจากทหารรัสเซีย คาดว่าคงเจอเข้ากับหน่วยต่อต้านรถถังหนัก KIOWA ของเราบินออกจากฐานไปตอนเวลา 6 โมงเศษ หลังเสียการติดต่อจากหน่วยที่ 2 เวลาตี 5 ครึ่ง”
    “แล้วความเสียหา...”
    “ทั้งหมด”
    ผู้หมวดหนุ่มสะดุ้งเฮือก เหงื่อตก ใจเต้นรัว
    “ได้ยินไม่ผิดหรอกหมวด ทั้งหมด ไม่มีใครรอดกลับมาเลย 40 นายเสียชีวิตทั้งหมด”
    อะไรกัน หน่วยรบที่ผ่านการรบโชกโชน ลาดตระเวนมานับครั้งไม่ถ้วน โดนไอ้พวกคอมมิวนิสต์ละลายหายไปเพียงชั่วพริบตา
    “วันนี้ยกเลิกการฝึก สั่งลูกน้องให้เตรียมพร้อมใน 30 นาทีนะหมวด เดี๋ยวผมออกไปรายงานภารกิจ จำไว้นะหมวด คราวนี้เป็นของจริง!”
    “โรเจอร์”





    เขาเดินออกมาตามทางเดินของกองอำนวยการ เหล่านายทหารทำงานกันหน้าตั้ง เมอร์กินได้แต่คิดในจริง วันนี้ของจริง วันนี้ของจริง วันนี้ของจริง เสียงผู้พันเทรเวอร์ดังกังวาลอยู่ในหูระหว่างทางที่เดินออกไปยังลานรวมพล ภาพของทหารที่มาพลัดเวรล่วงเวลาเมื่อคืนที่ผ่านมา บัดนี้ได้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้ว
    “ว่าไงหมวด ได้เรื่องอะไรบ้างเซอร์”
    เนลสันถามผู้หมวดของเขา ซึ่งในตอนนี้ทหารทั้ง 40 กว่าคนในหมู่ของเขาอยู่ในชุดพร้อมรบ ปืนไรเฟิลทุกกระบอกบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิงเรียบร้อย
    “เรื่องน่าตื่นเต้น”
    ทุกคนเงียบ สายลมพัดผ่านกับแดดอุ่นๆสาดใส่เหล่านักรบน้องใหม่ที่กำลังจะได้ออกไปสู่บททดสอบ บททดสอบที่ถ้าพลาดแล้ว หมายถึงชีวิต
    “หน่วยที่ 2 ถูกซุ่มโจมตี”
    เขาเอ่ยห้วนๆ เหมือนเวลาที่เขาพูดกับแม่ตอนเด็กๆ
    “เตรียมความพร้อมอีกรอบ ใน 30 นาทีผู้พันเทรเวอร์จะมารายงานภารกิจ อย่าให้อะไรเล็ดลอดสายตาไปได้ ลายละเอียดปรีกย่อยเก็บให้หมด กระสุนมูลฐานคนละ 120 หรือมากกว่านั้น แล้ว เอ่...เอ่อ ระเบิดด้วย เตรียมให้พร้อมนะ อ่า..”
    เมอร์กินออกคำสั่งลนลานจากภาพในหัวยามอาบน้ำตอนเช้าเข้ามาในหัวอีกครั้ง
    “ใจเย็นหมวด ใจเย็น เป็นไรไหมครับหมวด”
    เนลสันตัดบท เมื่อเห็นผู้หมวดของเขาอยู่ในอาการลนลาน
    “หมวดครับ หมายความว่าไงครับ หมวดที่ 2 โดนโจมตีแล้วไงต่อครับ”
    “นั่นสิครับ ตั้งสติดีๆครับท่าน”
    นิโคไลน์เรียกเตือนสติผู้หมวดของเขา
    “โอเคๆ หมวดที่ 2 ตายเรียบ ผู้พันเลยต้องการพบกับหน่วยเรา”
    เมื่อตั้งสติได้ เขาจึงบอกข่าวกรองแก่ทหารของเขา
    “พระเจ้า” “นั่นหน่วยชั้นยอดเลยนะ” “ไอ้ระยำเอ้ย” เสียงสบถดังเซ็งแซ่ทั่วลานรวมพล
    ไม่นานนักผู้พันเทรเวอร์ก็เข้ามาพร้อมซิการ์ในปาก
    “อรุณสวัสดิ์ครับ”
    ทหารในหน่วยทำความเคารพ จากนั้นผู้พันก็ขึ้นไปยืนบนฮัมวี
    “ตามสบายทหาร เข้าเรื่องเลย เราเสียหน่วยยานเกราะล้อยางที่ 2 ไปจากการซุ่มโจมตี หมายความว่าข้าศึกได้เปรียบเราไปครึ่งหนึ่งแล้ว ที่สามารถทำลายหน่วยลาดตระเวนชั้นยอดของเราได้ เมคินสันเหลือหน่วยลาดตระเวนเพียงหน่วยเดียว คือพวกคุณทั้ง 40 กว่าชีวิตเท่านั้น ภารกิจในวันนี้ ไม่ใช่การฝึก แต่เป็นของจริง หน่วยของคุณต้องไปทำการลาดตระเวนตามชายแดนติดกับเบลารุส ที่เป็นเขตแดนศัตรู เราจะนำพวกท่านเข้าไปโดยปีกหมุนของเรา พวกท่านจะต้องเดินเท้าตามแนวชายแดน ไม่มียานพาหนะ เนื่องจากป้องกันการตกเป็นเป้าจากศัตรู ภารกิจนี้เป็นภารกิจเชิงรุก ถ้าเจอพวกมันให้บอกโรสเวลว่า เยเกอร์ แล้วเราจะออกคำสั่งปฏิบัติการอีกครั้ง เราจะแบ่งชุดลาดตระเวนเป็นสองชุด มีชุดของพวกคุณ กับชุดกองร้อยลาดตระเวนเบาของโปแลนด์อีก 50 นาย ไม่ต้องห่วงพวกนั้นพูดอังกฤษได้ นามเรียกขานของชุดคุณคือ ทราโว 2 ส่วนชุดของโปแลนด์เป็น ทราโว 1 เราขอนกให้ท่านได้ 2 ลำ นามเรียกขาน อีเกิล 1 และ 2 พร้อม 105 ของเรานามเรียกขาน ลูเซียส เวลาออกฐาน 0900 ปีกหมุน รวมที่ลาน ฮ. 0830 ขอให้ทุกคนโชคดี”
    “เยสเซอร์”
    หลังกล่าวประกาศภารกิจทุกคนแยกย้ายเก็บข้าวของเตรียมตัวสู่สมรภูมิของจริง
    “ต้องอย่างงี้สิ ได้ไปเตะตูดไอ้พวกคอมมิวนิสเถื่อนนั่นเสียที ฮ่าๆ”
    นิโคไลน์แสดงความสะใจสุดขีด กับภารกิจที่ได้รับในขณะที่เมอร์กินยังคงเยียบอยู่
    “ผู้หมวด มานี่หน่อย”
    ผู้พันตะโกนเรียกเมอร์กิน
    “มีอะไรหรือครับ”
    เมอร์กินถามผู้พันด้วยท่าทีสับสน
    “ตั้งสติให้ดีนะหมวด เพราะหมวดต้องเป็นผู้นำหน่วย จำไว้ ชีวิตของหน่วยทั้งหน่วยขึ้นอยู่กับคุณผู้หมวด คุณเป็นคนตัดสินชะตาชีวิตทั้ง 40 กว่าชีวิตในหน่วย ถ้าหากตัดสินใจผิดพลาด หมายความว่าคุณได้ส่งคนในหน่วยของคุณไปตาย ดังนั้นคิดให้ดี เกมนี้คุณเป็นคนเล่น ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลใหญ่หลวงได้ ตั้งสติให้ดีหมวด คุณทำได้”
    “เซอร์ เยสเซอร์”





    เมอร์กินในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากลูกแกะหัดเดินในเกมนักล่าที่มีหมาป่าเป็นผู้ล่า ผู้หมวดน้อยประสบการณ์กำลังอยู่ในสภาพสั่นไหว ในอกวิตกกังวลอย่างหนัก ภาพในหัวแล่นเข้ามาอีก เป็นภาพที่มีนายทหารเคาะที่ประตูบ้านของเขา แล้วเห็นแม่ยืนร่ำไห้เมื่อรู้ข่าวการตายของเขา ไม่เราต้องไม่ตาย เขาคิดสิ่งต่างๆมากมายในหัว จนหัวแทบระเบิดออกมา พยายามเก็บความรู้สึกหวาดวิตกไว้ จะให้ลูกน้องในหน่วยเห็นสภาพนี้ของเขาไม่ได้ ถ้าเราเผยสภาพตนเอง คนในหน่วยจะพึ่งพาเราได้ยังไง ไม่เป็นไร เราจะไม่ตาย เราต้องทำได้ เขาได้แต่ปลอบใจตนเอง ภาระที่หนักอึ้งสุมจนหนักอก 40 ชีวิตที่เขาแบกไว้ ขึ้นอยู่กับเขาเท่านั้น ทุกอย่างที่ฝึกในเวสพอร์ย ตอนนี้ลืมเลือนหายไปสิ้น
    0840 ทุกคนมารวมที่ลาน ฮ. เรียบร้อย และเมอร์กินยืนอยู่หน้าแถวทหารใต้บังคับบัญชาของเขา
    เขาข่มความกลัวไว้ภายใน เราต้องทำให้พวกเขารู้ว่า เราพึ่งพาได้ เราต้องเพิ่มกำลังใจให้ทหารของเรา
    “ทุกคนพร้อมไปเตะตูดไอ้พวกห่..นั่นแล้วใช่ไหม??”
    “เซอร์ เยสเซอร์!!!”
    เสียงตอบรับดังกังวาลทั่วลาน ฮ. ความกลัวของทหารในหน่วยกลายเป็นความโกรธแค้น เลือดต้องแลกด้วยเลือดเท่านั้น ตอนนี้ในหน่วยกำลังคันไม้คันมือเต็มที่
    “ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง พระเจ้าจะเลือกเรา”
    เขากล่าวอวยพรครั้งสุดท้าย
    “ปีกหมุน ปีกหมุน”
    สิ้นเสียงคำสั่งยุทธการทุกคนวิ่งแถวเรียงหนึ่งไปยังเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอร์คสีดำ ที่ผ่านการใช้งานในอัฟกานิสถานมาอย่างโชกโชน โรเตอร์ของแบล็คฮอร์คบินไต่ระดับทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าสีครามของโปแลนด์ มุ่งสู่แนวชายแดนโปแลนด์-เบลารุส เพื่อล้างแค้นให้สหายร่วมรบที่ถูกสังเวย
    พ่อครับ แม่ครับ ได้โปรดคุ้มครองผมด้วย เมอร์กินคิดอย่างนี้ระหว่างอยู่บนเครื่อง
    “ใจเย็นๆครับท่าน เราต้องรอดครับ”
    “ขอบใจนิ๊กกี้ เมื่อกี้ยังสะใจอยู่ไม่ใช่หรือ”
    “ท่านลืมอะไรไปหรือเปล่า ผมก็ออกรบครั้งแรกเหมือนท่านนั่นแหละ ฮ่าๆ”
    “โถ่ ทีอยู่ที่ฐานลั่นกลองรบไปแล้วไม่ใช่หรือ ฮ่าๆ”
    เรื่องตลกโปกฮาบนแบล็คฮอร์ค ลดความตึงเครียดลงไปบ้าง เพราะในไม่ช้า เมื่อล้อแบล็คฮอร์คแตะพื้น เกมจะเริ่มขึ้น...

    บทที่ 2 : No Man's Land

    ฤดูร้อน ปี 2020
    ชายแดนฝั่งตะวันออกของโปแลนด์-เบลารุส







    “อีก 1 นาทีถึงที่หมาย! เช็คอุปกรณ์!”
    เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องแบล็คฮอร์คตะโกนแข่งกับเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ใบที่กำลังทำหน้าที่ที่ดีในการประคองเพดานบินของเฮลิคอปเตอร์อายุมาก แบล็คฮอร์คทั้ง 5 ลำของหน่วยยานเกราะลาดตระเวนที่ 6 ของเมอร์กินบินด้วยความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปตามภูมิประเทศของโปแลนด์ที่มีทุ่งหญ้าสลับกับป่าไม้เมืองหนาวในระหว่างการบิน
    เมอร์กินหยิบปืนพก .45 ใหม่เอี่ยมขึ้นมา แล้วจัดการดึงคันรั้ง เพื่อนำกระสุนเข้ารังเพลิง ซึ่งทหารทุกคนบนเครื่องก็ทำแบบเดียวกัน
    “ออล์ ทราโว ทู จากพ่อของท่าน ทราบแล้วเปลี่ยน”
    เมอร์กินส่งวิทยุถึงหัวหน้าชุดยิงของเขาทั้ง 4 ชุด ที่อยู่บนแบล็คฮอร์คคนละลำ ซึ่งมีทหารอยู่ลำละประมาณ 10 นาย
    “จากทราโว 2-1 ได้ยินแล้ว” “ทราโว 2-3 รับทราบ” “ทราโว 2-2 ได้ยินแล้ว” “นี่ทราโว 2-4 พร้อมรับคำสั่ง”
    หัวหน้าชุดทั้ง 4 ขานกลับตามลำดับ
    เมอร์กินพูดต่อ
    “ภารกิจนี่แตกต่างจากภารกิจที่เราเคยฝึกมา ไม่มีรถที่มีเกราะหุ้มป้องกันตัว ดังนั้นเมื่อลงจากเครื่องให้ทำการระวังป้องกันรอบตัวเครื่อง ชุดของวินเทอร์จะลงไปก่อน แล้วตามด้วยแซม, รามิเรซ, แล้วก็วอเรซ ชุดผมจะลงพร้อมกับชุดของแซม ทุกคนรับทราบ”
    “โรเจอร์”
    หลังเมอร์กินออกคำสั่งเร่งด่วน หัวหน้าชุดของเขากระจายข่าวให้ลูกชุดทันที
    “20 วินาที”
    “ทุกนายใส่แว่นกันลม”
    เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องนับเวลาถอยหลัง เมอร์กินสวมแว่นกันลมทันที พร้อมๆกับที่แบล็คฮอร์คทั้ง 5 ลำลดเพดานบินลงเหลือเพียงยอดไม้เท่านั้น เพื่อป้องกันการตรวจจับทางสายตา และเรดาร์
    “เกมจะเริ่มแล้วผู้หมวด”
    เนลสันตบบ่าผู้หมวดของเขา แล้วกล่าวคำเตือนสติ ทำให้เมอร์กินเงียบไป
    “ทราบแล้วๆ ไอ้จ่าลามก”
    เมอร์กินตอบกลับ เนลสันขำเล็กน้อยก่อนจะปล่อยระเบิดก๊าก
    “พร้อมนะผู้หมวด”
    นิโคไลน์ยื่นกำปั้นมาหาเมอร์กิน ทำหน้าตาจริงจัง
    “แน่นอนนิ๊กกี้”
    เมอร์กินตอกกำปั้นกลับ ทั้งสองคนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
    “5 วินาที ชุดแรกพร้อมลงแล้ว”
    เสียงวิทยุจากนักบินของแบล็คฮอร์คชุดของสิบเอกวินเทอร์ดังขึ้นในวิทยุบนเครื่องของเมอร์กิน
    แบล็คฮอร์คเครื่องแรกนำเครื่องลงจอดบนทุ่งหญ้าทหารบนเครื่องกระโจนออกจากเครื่องอย่างรวดเร็วแล้ววางกำลังนอนราบรอบๆ LZ เพื่อคุ้มกันเครื่องที่เหลือ ในขณะที่แบล็คฮอร์คอีก 4 ลำบนวนรอบพื้นที่เพื่อคุ้มกันเช่นกัน
    “ค่อยๆ ลงมาอีก”
    เสียงเจ้าหน้าที่ของแบล็คฮอร์คที่ตอนนี้ได้นำหัวโผล่ออกไปนอกเครื่องเพื่อที่จะรายงานระยะห่างจากล้อกับพื้นดินให้กับนักบิน แบล็คฮอร์คของชุดที่ 2 กับชุดของเมอร์กินล้อแตะพื้นเรียบร้อย
    “ไปๆ เร็วเข้าๆ”
    เมอร์กินตะโกนใส่ลูกชุดของเขา ทหารทุกคนบนเครื่องกระจายตัวออกไปรอบพื้นที่ ไปสมทบกันชุดแรกที่วางกำลังอยู่แล้ว จากนั้นชุดของแซมก็ตามมาติดๆ มีแรงลมกระทบแผ่นหลังจากโรเตอร์ของแบล็คฮอร์ค ทหารทุกนายถูกสอนว่าเวลาลงจากเฮลิคอปเตอร์ให้หันหน้าออกจากเครื่อง เพื่อป้องกันอันตรายจากเศษหินที่อาจบินไปไกลหลายเมตรจากแรงลม
    หลังจากนั้นก็เป็นชุดของรามิเรซ กับชุดของวอเรซ หลังจากลงจากเครื่องก็ทำการวางกำลังอีกเช่นกัน
    “ดึงบั้นท้ายขึ้น กลับฐานได้ พระเจ้าจะอยู่เคียงข้างพวกท่าน”
    แบล็คฮอร์คลำสุดท้ายนำเครื่องขึ้นมุ่งหน้าไปทางตะวันตก สู่ฐานเมคินสัน แบล็คฮอร์คลำอื่นที่บินคุ้มกันอยู่ก็บินกลับฐานไปเช่นกัน





    ตอนนี้หน่วยลาดตระเวนยานเกราะที่ 6 ทั้ง 46 ชีวิต อยู่ใน No Man’s Land เรียบร้อยแล้ว เกมได้เริ่มต้นขึ้น






    “ชุด 1 นำไปทางเหนือ ตามด้วยชุดอำนวยการ แล้วก็ชุด 2 3 4 ตามลำดับ ชุด 1 ไปได้”
    เมอร์กินออกคำสั่งชุดยิงซึ่งชุดที่ 1 จะเป็นชุดนำในการลาดตระเวน ตอนนี้ในใจเมอร์กินยังคงหวั่นๆเล็กน้อย ในพื้นที่เงียบสงบสายลมพัดยอดหญ้าปลิวไสวตามสายลม แสงแดดยาม 0930 เริ่มแผลงฤทธิ์ มีน้ำไหลออกตามตัวของเมอร์กินจนแฉะไปหมด
    หลังจากที่ชุดที่ 1 เดินไปแล้ว ชุดบัญชาการที่มีเมอร์กินเป็นหัวหน้าก็เดินตามไปทางเหนือที่ชุดยิงที่ 1 เดินนำไปก่อนหน้า

    ความเป็นจริงหน่วยยานเกราะลาดตระเวนที่ 6 ของเมอร์กิน จะใช้พาหนะเป็นหลักในการลาดตระเวน ส่วนใหญ่จะได้รับฮัมวีหุ้มเกราะซึ่งมีปืนกลหนักแบบ M2 Browning ขนาด 12.7 มม. อยู่บนรถ ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธหนักที่สุดในหน่วยเลยทีเดียว เนื่องจากอำนาจการยิงที่รุนแรงน่ากลัวของเจ้า 12.7 มม. กระบอกนี้ เพียงได้สัมผัสกับลูกกระสุนของมันเพียงนัดเดียว ร่างกายจะแยกส่วนออกเป็นร้อยๆชิ้นเพียงชั่วพริบตา แต่การลาดตระเวนครั้งนี้ไม่มีรถฮัมวีมาด้วย อาวุธหนักที่สุดในหน่วยเห็นจะเป็นไรเฟิล รวมถึงปืนกลเบาสนับสนุนที่ทหารในหน่วยแบกเข้าสู่สนามรบเท่านั้น
    “จากอีเกิล 2 ถึงทราโว 2 เปลี่ยน”
    เสียงนักบินของเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาพาชี ส่งสัญญาณเรียกเมอร์กินทางวิทยุ เสียงนั้นทำให้เมอร์กินสะดุ้งปนแปลกใจเล็กน้อย ทำไมเสียงนักบินถึงได้แหลมเล็กกว่าที่ควรจะเป็น
    “ทราโว 2 ได้ยินแล้วมาดาม”
    เมอร์กินตอบรับนักบินหญิงบนเครื่องอาพาชีเครื่องที่ได้รับภารกิจคุ้มกันหน่วยของเมอร์กินอยู่ห่างๆ
    “เราจะคุ้มกันอยู่ด้านหลังท่าน มีอะไรเคาะประตูบ้านเราได้เลย เปลี่ยน”
    “รับทราบ ขอบคุณมากมาดาม เอาท์”
    “ทำไมถึงเรียก นกเราว่ามาดามล่ะท่าน”
    จ่าสิบเอกเนลสันที่เดินตามหลังพลวิทยุ ถามด้วยความสงสัย
    “สาวสวย เซ็กซี่แน่ะ”
    เมอร์กินตอบกลับ เมื่อรู้ว่าเนลสันต้องการคำตอบเยี่ยงไร
    “ว้าว ไม่ยักรู้แฮะ ว่ามีผู้หญิงในเมคินสันด้วย”
    เมอร์กินรู้คำตอบจากปากจ่าคนสนิทอยู่แล้ว
    “เลิกคิดเรื่องผู้หญิงได้แล้วน่า ไอ้จ่าลามกเอ้ย”
    “ฮั่นแน่ๆ ศึกชิงนางหรือผู้หมวด~”
    พลทหารแม็กทิมที่เดินอยู่ข้างหน้าเมอร์กินหันมายิ้มให้ผู้หมวดของเขา พร้อมเอ่ยคำเหน็บแนมเล็กน้อย
    “ผมได้ยินว่าเมื่อกี้ให้เคาะประตูได้เลยนี่ผู้หมวด เสน่ห์แรงไม่เบา”
    เนลสันจิกกัดบ้าง จากนั้นเขาพยายามกลั้นขำสุดกำลัง
    “พอได้แล้ว กวาดสายตามองศัตรูไปซะ ไอ้พวกหื่นกามทั้งหลาย”
    เมอร์กินตัดบททันทีเมื่อรู้ว่าประเด็นนี้คงไม่จบง่ายๆ
    “เยสซ่าห์ ฮ่าๆ”
    เนลสันตอบรับคำสั่งด้วยน้ำเสียงสะใจ ที่ได้ตอกหลังผู้หมวดอีกครั้ง





    ทหารทั้ง 46 นายเดินแถวเรียง 1 อย่างระมัดระวัง ระยะห่าง 5 ก้าวต่อ 1 คน เพื่อป้องกันความเสียหายจากกับระเบิด ทหารทั้ง 46 นายสืบเท้าผ่านทุ่งหญ้าที่สูงถึงต้นขามองไปข้างหน้าจะเห็นแนวป่าเมืองหนาวอยู่หลายแนว ซึ่งหน่วยของเมอร์กินอาจถูกซุ่มโจมตีได้ ดังนั้นเมื่อนำ ฮ. ลงจอดต้องรีบออกจากพื้นที่นั้นโดยด่วน เพราะป้องกันการซุ่มโจมตีที่ศัตรูอาจจะได้ยินเสียงโรเตอร์ของแบล็คฮอร์คแหวกอากาศดังหึ่งๆไปทั่วบริเวณ

    แดดยาม 1025 แรงกว่าตอนนำเครื่องลงยิ่งนัก ทหารที่ซึ่งตอนนี้ได้เดินออกจากจุดลงจากทำการลาดตระเวนมาถึงแนวชายป่าที่มีต้นไม้สูงวางตัวเป็นระเบียบ ดูแล้วช่างงามตายิ่งนัก
    “วินเทอร์ ผมต้องการให้หน่วยเราเข้าป่า ส่งลูกๆคุณไปเซ็คทางเข้าหน่อย”
    เมอร์กินสั่งการทางวิทยุส่วนตัวไปยังหัวหน้าชุดยิงที่ 1 เพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อนการลาดตระเวน ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงปืนไรเฟิล กับปืนกลเบาแผดเสียงอยู่ไกลๆ มันมาจากทางทิศเหนือ
    “ที่เหลือวางกำลังป้องกันไว้ เหมือนเราจะได้ยินเสียงปืน วางอำนาจการยิงไปทางทิศตะวันออก”
    “รับทราบ”
    เมื่อมีการพัก หรือมีคำสั่งให้ดักซุ่มต่างๆ ต้องทำการระวังป้องกันเพื่อให้ความปลอดภัยภายในหน่วยเสมอ

    ถ้าถามว่าทำไมต้องเข้าป่า ในเมื่อสามารถเดินในภูมิประเทศที่เป็นถนน หรือทุ่งหญ้าก็ได้ที่สบายกว่า คำตอบคือถ้าเราเดินเท้าในที่ๆสบาย เช่นถนน ข้าศึกมักจะวางกับระเบิดดักทางไว้เสมอ ดังนั้น เมอร์กินต้องเลือกทางที่ลำบากที่สุด ลำบากเข้าไว้เพื่อแลกกับความปลอดภัย
    หลังเมอร์กินออกคำสั่งวางกำลัง ทหารทุกนายตอบสนองทันควัน ทุกคนหมอบราบหาที่กำบัง สายตากวาดมองทุกบริเวณ ในขณะที่ทำการรอลูกน้องของเขาไปเคลียร์พื้นที่






    ที่นั่นแตกต่างจากที่อัฟกานิสถานมากนะลูก
    เสียงของพ่อเล่าถึงความหลังเมื่อครั้งยังอยู่ที่เวอร์จิเนียเข้ามาภายในอวัยวะที่ตอนนี้ถูกคุ้มกันด้วยหมวกเหล็ก
    “ที่อัฟกานิสถาน ข้าศึกอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง การจะเจอตัวนั่นค่อนข้างน้อย แล้วส่วนมากจะทำการซุ่มโจมตีแป๊บเดียว แล้วก็ล่าถอยไป แต่ในยุโรปตะวันออกมันไม่ใช่ ข้าศึกมีตัวตนชัดเจน มีกำลังสนับสนุนและยุทโธปกรณ์ใกล้เคียงฝ่ายเรามาก ดังนั้น ใครเห็นก่อน คนนั้นได้เปรียบ”
    คำพ่อสอนไม่ค่อยต่างจากคำสอนของพ่อยามที่ครั้งเราทำผิดอะไรซักอย่าง ท่านเล่าจากประสบการณ์ที่ประสบพบเจอมาในการรบที่อัฟกานิสถาน ที่เมอร์กินนั้นจำเอาไว้ขึ้นใจ
    “หมวดครับ โรสเวลต้องการคุยกับท่าน”
    พลวิทยุยื่นหูวิทยุมาให้เมอร์กิน
    “จากทราโว 2 ส่งข่าวได้”
    “กวาดสายตามองให้ดีนะหมวด ตอนนี้ทราโว 1 ปะทะกับข้าศึกแล้ว ข้าศึกใช้วิธีตั้งรับแทน พวกมันคงหมอบอยู่ที่ไหนสักแห่งในพื้นที่ของหมวด แล้วรายงานเราทุกครึ่งชั่วโมง เปลี่ยน”
    “โรเจอร์ รับทราบการปฏิบัติ เอาท์”
    เอาล่ะสิ ทหารโปแลนด์เริ่มเจอนรกกันแล้ว จนถึงตอนนี้เขายังคงได้ยินเสียงไรเฟิลไกลๆ ดังเซ็งแซ่อยู่ เมอร์กินเหงื่อตกกว่าเดิม ความวิตกกังวลเริ่มเข้าครอบงำอีกครั้ง ขอให้ไม่ได้เจออะไรเถอะ เมอร์กินคิดในใจ ภาวนาของให้การลาดตระเวนครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี
    “ตุ้บ!!!!!”


    บทที่ 3 : Suppressing Fire!!!!

    ฤดูร้อน ปี 2020
    ชายแดนฝั่งตะวันออกของโปแลนด์-เบลารุส

    “คิดยังไงถึงส่งหน่วยลาดตระเวนใหม่กิ๊กออกหากินล่ะเกลอ”
    พันตรีฝ่ายเสนาธิการนามชาเวซ เดินเข้ามาให้ห้องทำงานของผู้พันเทรเวอร์หลังเมอร์กินออกไปทำภารกิจลาดตระเวน
    “คิดว่าไงล่ะ”
    เทรเวอร์ถามกลับห้วนๆ แล้วผละความสนใจจากงานเอกสารมามองคู่วาทีของเขา
    “พวกนั้นเคยแต่อยู่ในฐาน ประสบการณ์น้อยนิด ทำไมไม่ส่งรบพิเศษไปคุม?”
    “นายประเมิณพวกนั้นต่ำไปนะสหาย”
    “ห๊ะ???”
    เทรเวอร์ทำให้พันตรีตัวสูงล่ำคนนี้อึ้งไปชั่วขณะ
    “ผมมีประสบการณ์มานะเกลอ หน่วยที่รบในจอร์เจียโดนละลายยกชุดมาแล้ว ไหนจะหน่วยที่สองของนายที่เพิ่งโดนไปเมื่อเช้ามืดนี่อีก นายกำลังส่งพวกเขาไปตาย”
    “เขาแตกต่างสหาย”
    “อะไรคือแตกต่างละเกลอ อาวุธ? การสนับสนุน? กำลังใจ? บ้าบอสิ้นดี! พวกรัสเซียกำลังได้ใจ พวกนั้นกำลังเสพชัยชนะ ผมจะบอกอะไรให้นะ ผมมีทหารรบพิเศษเป็นกองร้อยในมือผม ผมยังไม่บ้าดีเดือดส่งทหารของผมไปให้พวกคอมมิวนิสต์มันเด็ดหัวเลย แต่นายกลับส่งเด็กน้อยไก่อ่อนที่วันๆเอาแต่อยู่ในฐานไปซะงั้น? นายนี่มั....”
    “ผมบอกแล้วไง พวกนั้นแตกต่าง”
    เทรเวอร์ตัดบทด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในขณะที่ชาเวซหน้าแดงก่ำ
    “ยังไงซะ ผมไม่มีทาง ไม่สิ ไม่มีวันที่จะส่งคนของผมไปเสี่ยงตายอะไรแบบนั้นเด็ดขาด จำเอาไว้นะเกลอ”
    หลังจากปะทะการเมืองในห้องทำงานของเทรเวอร์ พันตรีหน้าแดงเดินอาดๆออกไปข้างนอกห้องอำนวยการ
    นี่ถ้ากูไม่ได้เป็นเพื่อนเอ็งนี่ กูคงสั่งสิบตรีมาลากไอ้พันตรีอวดดีนี่ไปทิ้งในจุดทิ้งขยะแม่.. เทรเวอร์หัวเสีย จากนั้นจึงกลับมาทำงานเอกสารต่อ
    “มีอะไรหรือผู้พัน”
    สิบตรีผู้ช่วยสงสัยกับการโต้วาทีที่เผ็ดร้อนเมื่อซักครู่
    “หมูป่าอวดดีน่ะ พวกนั้นคิดเสมอว่ารบพิเศษของมันอยู่เหนือกว่าทหารราบ วันๆเอาแต่ไร้สาระ ในหัวมันมีแต่คิดว่าวันนี้จะลงสีอาวุธด้วยสีอะไร แต่งตัวยังไงให้เท่ระเบิด มันยังไม่รู้เลยมั้งว่าห่างไปแค่ 50 คลิก(กิโลเมตร) มีศัตรูรอเด็ดหัวมันอยู่”
    “น่าเป็นห่วงนะครับ เซอร์”
    “เป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ ถ้ายังไม่ไปเคลียร์ไอ้กระดาษเช็ดตูดที่กองเป็นภูเขาเลากาอยู่บนโต๊ะหมู่นั่นแหละ ไม่ใช่ศัตรูที่ไหนจะมาเด็ดหัวหมู่หรอก ฉันนี่แหละจะเด็ดหัวหมู่เอง”
    “ฮ่าๆ ขอโทษครับๆ”
    “ฝากเช็คน้ำดื่มในฐานด้วยนะหมู่ หวังว่าจะไม่มีใครในฐานนี้กินฉี่ตัวเองหรอกนะ”
    “รับทราบครับ เซอร์”
    หลังจากจบเรื่องวุ่นวาย เทรเวอร์กลับเข้าทำงานต่อ....





    “ห่..ไรวะ?”
    เมอร์กินสบถออกมาเบาๆ แล้วหันไปมองต้นเหตุของเสียงปริศนา
    “กิ่งไม้แน่ะ เซอร์”
    การ์เนียซึ่งบนหลังแบกวิทยุ ชี้ไปยังท่อนไม้ที่ฟ้าประทานลงมากลางวงของหน่วยลาดตระเวน
    “ฟักเอ้ย! ตกใจหมด”
    “โฮ่วๆ ผู้หมวดเรากลัวดุ้นโว้ย”
    เนลสันเริ่มเล่นมุกอีก
    “ไอ้เช็ด**** กวาดตามองไปซะ”
    เมอร์กินอายนิดๆ แล้วเบือนหน้าหนีกลบเกลื่อน ในตอนนี้ยังคงมีเสียงปืนดังเป็นระยะจากพื้นที่ของชุดลาดตระเวนเบาของโปแลนด์
    “กรีนโซน ผู้หมวด ลูกน้องผมกลับมาแล้ว”
    วินเทอร์ตอบกลับมาทางวิทยุ
    “เอาล่ะ ทหารทุกนายเตรียมตัวเข้าป่า”
    ป่าไม้เมืองหนาวในเวลาที่ดวงอาทิตย์ส่องลงกลางหัว ใบไม้และกิ่งไม้หนาทึบว่าให้แดดส่องลงมาได้น้อย ทำให้อาการเหมือนกุ้งเต้นบนกระทะเมื่อสักครู่หายไปได้บ้าง และยังช่วยอำพลางอำนาจการมองเห็นของศัตรูได้ หน่วยของเมอร์กินเดินลัดเลาะตามชายป่าได้ 1 ชั่วโมงกว่าก็ต้องหยุดลง
    “มีบางอย่างไม่ชอบมาพากลครับหมวด”
    วินเทอร์ส่งวิทยุเตือนมายังเมอร์กิน จากนั้นเขาจึงสั่งหยุด
    “เจออะไรหรือหมู่”
    เมอร์กินถามกลับไปเบาๆ
    “พบเงาอยู่ตรงชายป่าเซอร์”
    “ไหนดูซิ”
    เมอร์กินคว้ากล่องส่องทางไกลเข้าเบ้าตา เพ่งไปยังเป้าหมายตรงแนวชายป่าทางใต้
    “บราโว เจอเพื่อนบ้านว่ะ สั่งทุกคนอยู่ในแนวยิงหันหน้าไปทางใต้ หมู่ 1 วางแนวการยิงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่เหลือวางแนวการยิงไปทางที่หมาย รอคำสั่ง”
    “โรเจอร์”
    หน่วยลาดตระเวนวางตัวตามชายป่า มีแนวต้นไม้สูงทึบเป็นแนวกำบังตัวอย่างดี
    เมอร์กินส่องกล้องต่อ เห็นชายในชุดลายพลางถืออาก้าประทับไหล่พร้อมยิง มีประมาณ 10 กว่าคน น่าจะเป็นหน่วยลาดตระเวน ไม่พบชุดยิงอาร์พีจี และไม่มีอาวุธหนัก
    “จากทราโว 2 เรียกโรสเวล พบฝูงเยเกอร์ เปลี่ยน”
    เมอร์กินส่งข่าวการปรากฏตัวของศัตรู
    “จากโรสเวล มีกี่นาย”
    “20 บวก ไม่พบอาวุธหนัก และเครื่องยิงจรวด เปลี่ยน”
    “รับทราบ วางแนวยิงแล้วเอานรกไปเยือนมันเลย เปลี่ยน”
    “โรเจอร์ เอาท์”

    โรสเวลให้ไฟเขียว ของโจมตีครั้งแรกกำลังจะเริ่ม
    โชคเข้าข้างเมอร์กินที่เขาเห็นศัตรูก่อน ดังนั้นตอนนี้เยเกอร์ของเขาอยู่บนศูนย์เล็งในฝั่งเราแล้ว...





    “เปิดฉากยิง!”
    ทันทีทันใด กระสุนไรเฟิลกับปืนกลเบาถูกส่งออกไปพร้อมๆกัน ข้าศึกหลายคนล้มกองลงกับพื้นแน่นิ่ง
    กระสุนส่องแสงแดงฉานพุ่งไปอย่างแม่นยำ กระทบเป้าหมายฝุ่นกระจาย ข้าศึกวิ่งหาที่กำบังอลม่าน
    “แดกเข้าไปอีก ไอ้เช็ดกะ**** ฮ่าๆๆ”
    ใครซักคนคำรามออกมา เสียงตระโกนด่าทอหยาบคายดังแข่งกับเสียงปืน เมอร์กินเดินตรวจแนว
    “ไรเฟิลยิงเป้าหมายประณีต ส่วนปืนกลยิงกดหัวต่อไป”
    ข้าศึกเริ่มตั้งตัวได้แล้ว จากนั้นจึงส่งนรกมาหาฝั่งเราบ้าง กระสุนวิ่งตัดกิ่งไม้หล่นลงมาเต็มพื้น
    “ห่..!!!”
    เมอร์กินลงไปนอนฟุบกับพื้นทันที จากอำนาจการยิงของข้าศึก
    แล้วทำอะไรต่อล่ะ เมอร์กิน
    เสียงใครสักคนดังก้องในหัวเมอร์กิน
    ไอ้อ่อนเอ้ย ไปเลี้ยงควายไป!!!
    อีกแล้วหรือ?
    รู้ไหมว่าแกกำลังพาเพื่อนไปตาย!

    เสียงด่าทอวุ่นวายดังอยู่ในหัวเมอร์กิน ใช่ เราควรทำยังไงต่อล่ะ นี่มันสถานการณ์จริง เมอร์กินลุกขึ้นมาเดินตรงไปยังการ์เนีย พลวิทยุ เราต้องใช้การสนับสนุน ทันใดนั้นระเบิดตกลงข้างขวาของเมอร์กิน เขาล้มลงอีกครั้ง อาพีจี!!!!! ใครอีกซักคนตระโกน แต่เมอร์กินได้ยินเบามาก เบาเหลือเกิน ลุกขึ้นมาซิเมอร์กิน ลูกน้องนายกำลังจะตายนะ เกิดระเบิดอีกครั้งคราวนี้มันระเบิดข้างหลังแนวยิง ข้าศึกตั้งตัวได้แล้ว พวกมันเริ่มขนอาวุธหนักมาทักทายเราแล้ว เมอร์กินยังอยู่ในภวังค์ ลืมการรบ ลืมการฝึก ความไม่มีประสบการณ์ของเขาทำให้เขาขดตัวนอน หมอบราบกับพื้น ไม่เหลือความคิดในหัว ตาเบิ่งโพลง หายใจเร็วถี่ เราจะตายจริงๆหรือ จากนั้นเขารู้สึกว่าร่างกายสั่นไปมาอย่างแรง ภาพในหัวยังคงวนเวียนครอบงำเขาต่อไป “ผู้หมวด” มีใครซักคนร้องเรียกไกลๆ ร่างกายสั่นไปมาอีกครั้ง หรือว่าเราโดนยิงตายไปแล้ว คราวนี้ก็สบายแล้ว ไม่ต้องห่วงใคร ดีจริง “ผู้หมวด” ใครซักคนร้องเรียกอีก ใครวะ? คนตายแล้วยังมาเรียกอีก จากนั้นเหมือนร่างกายเหมือนถูกดึงขึ้นจากหลุม เสียงปืนเริ่มดังขึ้นที่ละน้อย





    “หมวด!!! เราต้องการคำสั่ง!!!!!”
    เมอร์กินตื่นจากภวังค์ เห็นเนลสันนอนหมอบอยู่ข้างๆ เขย่าตัวเขาอย่างแรง
    “เกิดห่..ไรขึ้น”
    เมอร์กินถามออกไป
    “หมวดนั่นแหละเป็นห่..ไร เราต้องการคำสั่งนะหมวด!!!!”
    เสียงปืนดังเซ็งแซ่ไปทั่วสนามรบ พวกมันมีอำนาจการยิงเหนือกว่า มีระเบิดเกิดขึ้นหน้าแนวยิงไม่ขาดสาย
    “เราต้องการการสนับสนุน”
    เมอร์กินบอกเนลสัน เนลสันรู้งาน
    “เยสเซอร์ ต้องอย่างนี้สิหมวด”
    “พร้อมนะ เราจะไปหาการ์เนีย 3 2 1 ไปได้!!!!”
    ทั้งสองวิ่งผ่านจากชุดยิงที่ 3 ไปยังพลวิทยุ ทหารรัสเซียมองเห็นการเคลื่อนไหวหลังแนว จึงพร้อมใจหันกระบอกปืนแล้วเหนี่ยวไกปืนเข้าใส่
    “การ์เนีย เคาะประตูเรียกมาดามมาที!!”
    “รับทราบ เซอร์”
    การ์เนียคว้าหูแล้วของความช่วยเหลือไปยังอาพาชีที่อยู่ด้านหลัง
    “แม็กทิม นิ๊กกี้ เราต้องใช้ 203”
    เมอร์กินสั่งพลยิงทั้ง 2 นายให้เปลี่ยนไปใช้ M203
    “ดูการแสดงได้หมวด” นิโคไลน์บรรจุลูกระเบิด 40 มม. แล้วส่งไประเบิดที่เป้าหมายอย่างแม่นยำ
    เกิดการระเบิดขึ้นอีก แต่คราวนี้มันตกตรงชุดที่ 4
    “เชี่ยเอ้ย!!!! คลูร์ถูกระเบิด!!!”
    ทหารชุดยิงที่ 4 ตระโกนข้ามแนวมา
    “เราต้องการหมอ กำหนดจุดรวมคนเจ็บไว้หลังแนว ห่างออกไป 20 เมตร”
    “รับทราบครับ หมวด”
    หมอเวสต์ รับคำสั่งแล้ววิ่งฝ่าดงกระสุนไปยังชุดยิงที่ 4 ที่ตอนนี้กระจัดกระจายจากอาร์พีจี เสียงตระโกนด่าทอยังดำเนินต่อไป ข้าศึกยังได้เปรียบ นิโคไลน์กับแม็กทิมยังคงส่งระเบิดจาก M203 ไประเบิดที่ชายป่า กิ่งไม้ร่วงหล่นจากต้น
    เมอร์กินวิ่งกลับไปหาพลวิทยุ แล้วรายงานไปยังโรสเวล
    “จากทราโว 2 ถึงโรสเวลเปลี่ยน”
    “จากโรสเวล เราส่งความช่วยเหลือไปแล้ว ทีหลังรายงานมาเร็วๆด้วย เอาท์”
    “... เอาท์”

    โรสเวลทำงานให้เสร็จสรรพ ไม่นานมาดามของเราก็มาถึง หล่อนบินลัดเลาะเข้ามาจากหลังแนวยิง แล้วพลปืนบนเครื่องส่งกระสุนปืนใหญ่อากาศ 30 มม. ลงไปยังชายป่า การยิงของข้าศึกหยุดชะงักไป
    “ชุดที่ 3 แยกออกไปทางใต้ ไปยึดแนวชายป่าโน่น เราจะได้เปรียบในการยิง เนลสันคุมที่นี่ การ์เนีย ตามฉันมา ฉันจะไปกับชุดที่ 3 ไปได้!!”
    “รับทราบ ชุด 1 กับ 2 ยิงกดหัว!!! (Suppressing Fire!!!)”
    “ไปๆๆๆ ย้ายบั้นท้ายนั่นเร็วๆ”
    เมอร์กินวิ่งตามแนวชายป่าลงใต้ เพื่อโอบข้าศึกอีกทางไว้ เพื่อลดการยิงจากที่เราถูกยิงทางเดียว เราจะแบ่งแนวยิงข้าศึกเป็น 2 แนวเพื่อลดอำนาจการยิงของข้าศึก
    “หมอบๆๆ ปืนกลเบากางขาทรายแล้วซัดมันเลย”
    เมอร์กินวิ่งไปถึงที่หมาย ชุดที่ 3 ทั้ง 10 นายวางตัวในแนวชายป่าอย่างรวดเร็ว ปืนกลเบาแผดเสียง M203 ถูกส่งไประเบิดตรงชายป่าที่ข้าศึกยึดครองอยู่ นิโคไลน์มองเห็นข้าศึกโดนระเบิดเลือดกระเด็นเต็มพื้น สาดไปโดนต้นไม้
    “ฮ่าๆๆๆ ไอ้ฟักเอ้ย!! เป็นไงล่ะ เอาไปชิมอีก!!!!”
    นิโคไลน์แผดเสียงด่าทอ แล้วส่ง M203 ไปอีกชุด อาพาชีวกกลับมาแล้วปล่อยจรวดจากกระเปาะจรวดบนอาพาชี จรวดพุ่งตกกระทบชายป่าดังกรึม กรึม ทหารข้าศึกกระโดดหนีกระเจิง
    “รักษาการยิงไว้ เดี๋ยวผมจะไปหาชุดที่ 1”
    เมอร์กินวิ่งกลับไปยังชุดที่ 1 ขณะที่ยังข้าศึกส่งกระสุนมาตกรอบตัว
    “หมวด หมู่วินเทอร์ถูกยิงที่หัว ตอนนี้ไม่ได้สติเลย”
    “หมอดูแลได้ไหม?”
    “เท่าที่ทำได้ เซอร์”
    “ดี มาร์ตินมาเป็นหัวหน้าชุดแทน เราต้องการพาหนะลำเลียงคนเจ็บกลับแนวหลัง”
    “รับทราบ”
    หมอเวสต์กลับไปดูแลคนเจ็บที่ตอนนี้มีทั้งหมด 3 คน โดนระเบิด 2 คน โดนยิง 1 คน เมอร์กินคว้าวิทยุ
    “โรสเวล จากทราโว 2 เราต้องการพาหนะขนคนเจ็บเปลี่ยน”
    “จากโรสเวล เราส่ง amtrac ไปแล้ว พร้อมรบพิเศษเปลี่ยน”
    “ขอบคุณมาก เอาท์”






    เสียงปืนข้าศึกซาลงไปมาก อาพาชีวกกลับมายิงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกลับไปเติมอาวุธ และเชื้อเพลิง
    “เรียกหัวหน้าชุดมานี่ เราคุมสถานการณ์ได้แล้ว”
    เมอร์กินออกคำสั่งเรียกหัวหน้าชุดยิงทั้ง 4 ซึ่งชุดที่ 1 มีมาร์ตินทำหน้าที่แทนวินเทอร์ ทั้งหมดวิ่งมาแล้วหมอบราบข้างๆเมอร์กิน ในขณะที่ทหารนายอื่นยังคงส่งกระสุนไปทักทายข้าศึก อาร์พีจีหยุดยิงไปแล้ว
    “เอาล่ะ ตอนนี้อำนาจการยิงเป็นของเรา เราจะได้รบพิเศษมาในไม่ช้านี้ บอกให้พวกเราทุกคนเตรียมกระสุนซะ”
    “เราจะทำอะไรครับ”
    รามิเรซถามด้วยน้ำเสียงสงสัยเล็กน้อย.
    “เราจะเข้าตี”


    บทที่ 4 : Thunderbolt




    ฤดูร้อน ปี 2020
    ชายแดนฝั่งตะวันออกของโปแลนด์-เบลารุส



    แสงแดดยามบ่ายบนท้องฟ้าโปแลนด์ ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดีเยี่ยม นั่นคือการส่องแสงสว่างสาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางมัน มีทิวเมฆบางๆลอยประปรายเป็นหย่อมๆ เสียงปืนเล็กยาว ปืนกล ระเบิด แข่งกันแผดเสียงระงมไปทั่วชายแดนโปแลนด์ ซึ่งเป็นแนวต้านทานที่ต่อจากจอร์เจียที่โดนรัสเซียยึดไปแล้ว แล้วก็ยกทัพเข้ามาประชิดชายแดนเบลารุส เพื่อกรุยทางสู่ยุโรปต่อไป
    “เราจะเข้าตี ตอนนี้เราคุมอยู่แล้ว ผมขอวางแผนก่อน”
    เมอร์กินเรียกหัวหน้าชุดประชุมผ่านวิทยุ
    “ฟังนะ เราจะใช้วิธีการเข้าตีตามยุทธวิธีการรบในแบบ เราจะแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกเป็นชุดสนับสนุน ให้ชุดยิงที่ 1 กับ 3 รับหน้าที่ ส่วนชุดเข้าตีเป็น 2 กับ 4 ชุดสนับสนุนให้วางตัวตามแนวป่า คอยระดมยิงกดหัวพวกมันไว้ ส่วนชุดเข้าตี ให้เบี่ยงแนวยิงไปทางขวา เคลื่อนที่ตามแนวป่าแล้ววางตัวตรงปีกซ้ายของศัตรู แล้วจากนั้นให้ชุดสนับสนุนทำหน้าที่เข้าตีปีกขวา โดยที่ชุดเข้าที่ชุดแรกที่วางตัวอยู่แล้วทำหน้าที่สนับสนุนให้ การสนับสนุนเรามีอีเกิล กับรบพิเศษที่จะมาถึง เอาล่ะ ไปได้! “
    “โรเจอร์!”
    ทุกนายขานรับคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของเขา แล้วตอบสนองอย่างมืออาชีพ ชุดสนับสนุนนำโดยมาร์ตินที่ทำหน้าที่แทนวินเทอร์ที่ได้รับบาดเจ็บ นำกำลังไปวางไว้ตามแนวป่า โดยที่ยังคอยส่งความตายไปให้ศัตรูอยู่ตลอดเวลา




    “ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยจ่า”
    กริมสันซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นพลปืนกลเบา บอกกันเนลสันด้วยสีหน้าเหมือนนมบูด
    “ยังไงสหาย?”
    “ก็จ่าลองดูดีๆสิ ตอนอยู่ฐานผู้การบอกว่าพวกมันมีฐานปฏิบัติการอยู่ห่างไปแค่ 20 กว่าไมล์เองนะ แต่ดูเหมือนว่า พวกนี้น่ะเป็..”
    “กรึม!!! กรึม!!! “
    การสนทนาจบลงด้วยลูกระเบิดที่ถูกยิงออกมาจากเครื่องยิงลูกระเบิด พุ่งลงมาตกกระทบห่างไปไม่เท่าไหร่
    “เลิกฟุ้งซ่านซะ ตอนนี้ไปจัดการพวกมันดีกว่า”
    เนลสันยก M4 ขึ้นมาแล้วเปลี่ยนซองกระสุน แล้วส่งมัจจุราช 5.56 ไปหาศัตรูอีกชุดใหญ่
    “เอาก็เอาวะ”





    ตอนนี้ทุกหน่วยประจำตำแหน่งแล้ว เหลือเพียงคำสั่ง...
    “หมวดครับๆ มีเรื่องด่วนครับ”
    การ์เนียยื่นหูวิทยุสนามให้เมอร์กิน
    “ว่ามา..”
    “จากโรสเวล ยกเลิกภารกิจทันที ย้ำ ยกเลิกภารกิจทันที ท่านกำลังโดยโอบ ตอนนี้กองหนุนของท่านรบติดพันอยู่แนวหลังของท่าน ขอให้ท่านรีบถอยโดยด่วน เปลี่ยน”
    “หมายความว่าไงโรสเวล เรากำลังได้เปรียบศัตรูนะ เราทำงั้นไม่ได้ เปลี่ยน”
    “นี่เป็นคำสั่ง เราต้องป้องกันการสูญเสียอันใหญ่หลวง เปลี่ยน “
    “กรอดดด.. รับทราบ เอาท์ “
    เมอร์กินหน้าเสียขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำสั่งที่ไม่อยากได้ยินเอาเสียเลย
    “ออล์ ทราโวทู จากพ่อของท่าน เช็คเอาท์ เดี๋ยวนี้เปลี่ยน ย้ำ เช็คเอาท์เดี๋ยวนี้เปลี่ยน ไปจุดรวมพลที่ 2 เดี๋ยวนี้เลย”
    “ว่าไงนะหมวด??”
    เนลสันตอบกลับทางวิทยุ
    “ถอย ตอนนี้เราต้องถอยแล้ว เราโดนล้อม”
    “ฟักเอ้ยย!! “
    ตอนนี้ทหารทุกนายงุนงงกับเหตุการณ์ในวิทยุเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่กำลังได้เปรียบแท้ๆ
    “พวกมันล่อเราให้เข้ามาติดกับ แล้วจัดการกับเรา จากนั้นก็จะไม่มีทหารป้องกันฐาน “
    “อีเกิลจากทราโวทู คุ้มกันการถอยด้วยเปลี่ยน”
    การ์เนียวิทยุขอการสนับสนุนจากอาพาชี
    “รับทราบ เราจะไปเดี๋ยวนี้”
    “เอาล่ะ ชุดยิง 1 3 ถอยไปก่อน ที่เหลือคุ้มกันไว้!! “
    แฟดดดดดดดดดด!!!! ตูมม!!!! กรึมม!!!!
    เสียงแหวกอากาศของกระสุนปืนใหญ่ดังผ่านจากแนวหลังของศัตรู แล้วมาตกใกล้ๆ ทหารอเมริกา ทั้ง 40 นายกระโดดหลบกันอลวน
    “วิ่งงงง ไปจุดรวมพลให้เร็วที่สุด หามคนเจ็บไปด้วยย”
    เนลสันตระโกนออกคำสั่ง ซึ่งในตอนนี้พวกเขาเสียรูปขบวนทำการรบแล้ว อำนาจการยิงกลับไปเป็นฝ่ายรัสเซียที่ระดมยิงอาวุธนาๆชนิดเข้าใส่ศัตรูของพวกเขาอย่างไม่ปราณี
    “เมย์เดย์!! เมย์เดย์!! เรากำลังตก เรากำลังตกก!! ซ่าาาาาา.... “
    เสียงของนักบินอาพาชี ดังแทรกเข้ามาในวิทยุ บ่งบอกได้ว่าพวกเขาโดนเด็ดปีกล่วงลงจากฟ้าไปแล้ว
    “วิ่งเร็วๆๆ เอาคนเจ็บมานี่!!!! “
    เมอร์กินวิ่งมาถึงที่รวมพลแล้ว ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างขวางพอสมควร แล้วจากนั้นกางกำลังป้องกันพื้นที่
    “ตรวจสอบความเสียหาย”
    เมอร์กินเช็คความเสียหายจากการถูกโจมตี
    “16 นาย บาดเจ็บ 6 ที่เหลือไม่ทราบชะตากรรมครับ”
    “ให้ตายสิ ไปรับเขากลับมาสิโว้ยย เราจะไม่ปล่อยใครเอาไว้นะ!!! ไปสิโว้ยยย”
    “จากปีกหมุน อีก 30 วินาทีถึงที่หมายเปลี่ยน”
    แบล็คฮ็อคจากฐานเมคินสันบินตรงมายังจุดรวมพลเพื่อรับรับทหารกลับ





    นี่เราพาลูกน้องมาตาย??
    เมอร์กินพูดในใจ
    เราต้องไปรับพวกเขากลับ..
    เมอร์กินลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปยังจุดที่โดนถล่มโดนปืนใหญ่
    “จะไปไหนหมวด”
    เนลสันเข้ามาขวาง
    “ไปรับพวกเขากลับสิวะ”
    “ไม่ได้ครับ”
    “อะไรนะ! เอ็งจะให้พวกนั้นเน่าเป็นปุ๋ยอยู่อย่างนั้นหรอ?? เอ็งบ้าไปแล้วหรอ??”
    “ไม่ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปรับเอง”
    “อะไรนะ? “
    “หมวดไปเถอะ เดี๋ยวที่นี่ผมจัดการเอง”
    เมอร์กินตลึงไปชั่วครู่ แบล็คฮอร์คบินมาเหนือจุดรวมพล ฝุ่นฟุ้งกระจายไปรอบทิศ
    “เอ็งจะไปคนเดียว? “
    “เยสเซอร์” “ตุ้บบ”
    เนลสันพลักเมอร์กิน จนเมอร์กินไถลไปตรงแบล็คฮอร์ค แล้วผู้ช่วยนักบินก็นำเขาขึ้นไปพร้อมกับทหารนายอื่น
    “นายบ้าไปแล้วหรอ??? ไหนบอกจะกลับไปด้วยกันไง??”
    เนลสันไม่ตอบ เขาเดินมาหาเมอร์กิน แล้วปลดบางสิ่งบางอย่างจากบ่าของเขา แล้วส่งให้มือของเมอร์กิน
    “งั้นผมฝากเก็บสิ่งนี้ไว้ก็แล้วกัน”
    “เดี๋ยว!!!! ปล่อยสิโว้ยยย ทำไมถึงทิ้งกันล่ะวะ!! “
    เนลสันหยิบปืนขึ้นแล้วหันกลับมามองเมอร์กินอีกครั้ง ด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
    “เพราะปกป้องสิ่งที่อยู่เบื่องหลัง แม้ชีวิต.. เซอร์”
    เนลสันวิ่งกลับไปยังจุดที่โดนระเบิด ในขณะที่แบล็คฮอร์คมุ่งหน้ากลับฐาน ทิ้งให้เมอร์กิ้นที่ยังตลึงกับเหตุการณืเมื่อครู่ไม่หาย
    นี่เรา.. ต้องเห็นเรื่องราวแบบนี้จริงๆหรอ? บ้าน.. คิดถึงบ้านเหลือเกิน...
    แบล็คฮอร์คมุ่งหน้ากลับฐาน ผ่านท้องฟ้าสีครามยามบ่ายแก่ๆ เพื่อนำนักรบที่เหลือสู่บททดสอบต่อไป...

    - จบภาค 1 -



    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย beambeam123 : 7th December 2014 เมื่อ 12:15

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 4 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    822
    กล่าวขอบคุณ
    53
    ได้รับคำขอบคุณ: 420
    ถ้าคุณอยากได้ความรู้ด้วยผมแนะนำกระทู้นี้

    ภาค 1 http://pantip.com/topic/31890517

    ภาค 2 http://pantip.com/topic/31909398

    ภาค 3.1 http://pantip.com/topic/31942664

    ภาค 3.2 http://pantip.com/topic/31967273

    ภาค 4 http://pantip.com/topic/31998746

    credit : ตุ๊ดเวียงพิงค์

  4. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  5. #3
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jun 2012
    กระทู้
    516
    กล่าวขอบคุณ
    832
    ได้รับคำขอบคุณ: 47
    ชอบครับ____________

  6. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  7. #4
    AEFIL,MNNOOO
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    DPP SIU
    กระทู้
    744
    กล่าวขอบคุณ
    2,128
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,818
    ติดตามครับ
    เขียนได้ดีเลยทีเดียว
    เนื้อเรื่องคงต้องดูกันยาวๆ
    3 Coins DPP

  8. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  9. #5
    -* BeaMZaMaSTeR *-
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    แก่งคอย สระบุรี
    กระทู้
    1,147
    กล่าวขอบคุณ
    1,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,890
    Blog Entries
    2
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ black jack sdppd อ่านกระทู้
    ติดตามครับ
    เขียนได้ดีเลยทีเดียว
    เนื้อเรื่องคงต้องดูกันยาวๆ
    ขอบคุณมากครับผม เรื่องยาวแน่นอนครับ ผมพล็อตไว้ว่าลาดตระเวน 1 ครั้ง อาจเขียนประมาณ 5-6 บทเลยครับ 555+

  10. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  11. #6
    -* BeaMZaMaSTeR *-
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    แก่งคอย สระบุรี
    กระทู้
    1,147
    กล่าวขอบคุณ
    1,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,890
    Blog Entries
    2
    ดันครับ บทที่ 2 เขียนเสร็จแล้วครับผม

  12. #7
    -* BeaMZaMaSTeR *-
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    แก่งคอย สระบุรี
    กระทู้
    1,147
    กล่าวขอบคุณ
    1,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,890
    Blog Entries
    2
    บทที่ 3 เขียนเสร็จแล้วครับผม

  13. #8
    AEFIL,MNNOOO
    วันที่สมัคร
    Feb 2012
    ที่อยู่
    DPP SIU
    กระทู้
    744
    กล่าวขอบคุณ
    2,128
    ได้รับคำขอบคุณ: 2,818
    มีโอกาสได้ไปร้านหนังสือ จึงสังเกตว่า
    สำนวน วิธีการเขียนของคุณเหมือนหนังสือ
    Outlaw Platoon เลยนะ
    ได้มาจากเรื่องนั้นหรือเปล่าครับ

    ถ้าใช่ แสดงว่าอ่านแล้ว อยากถามว่าสนุกไหมครับ
    อยากซื้อแต่ไม่ชัวร์

    ถ้าไม่มช่ก็ขออภัยครับ แค่เห็นว่าการเขียนเหมือนกัน
    3 Coins DPP

  14. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  15. #9
    -* BeaMZaMaSTeR *-
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    แก่งคอย สระบุรี
    กระทู้
    1,147
    กล่าวขอบคุณ
    1,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,890
    Blog Entries
    2
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ black jack sdppd อ่านกระทู้
    มีโอกาสได้ไปร้านหนังสือ จึงสังเกตว่า
    สำนวน วิธีการเขียนของคุณเหมือนหนังสือ
    Outlaw Platoon เลยนะ
    ได้มาจากเรื่องนั้นหรือเปล่าครับ


    อยากซื้อแต่ไม่ชัวร์

    ถ้าไม่มช่ก็ขออภัยครับ แค่เห็นว่าการเขียนเหมือนกัน

    โอ๊ะ ใช่แล้วครับ ก่อนผมจะเขียนเรื่องนี้ ผมกับพี่ผมอยากหาหนังสือสงครามที่พอจะเอามาเป็นแนวทางได้ครับ

    ผมกับพี่กว้านซื้อหนังสือมาหลายเล่มเลยครับ แล้วผมก็ได้ซื้อ Outlaw platoon มาด้วย หนังสือเล่มนี้สนุกเหมือนกันครับ ผมได้ความรู้จากเล่มนี้พอสมควร (แต่ตอนเขียนนี้ ผมไม่รู้ว่าผมเอามาจากหนังสือเล่มนี้เยอะหรือเปล่า ท่าทางจะต้องวางบทใหม่ ให้แหวกออกไป)



  16. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  17. #10
    -* BeaMZaMaSTeR *-
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    แก่งคอย สระบุรี
    กระทู้
    1,147
    กล่าวขอบคุณ
    1,203
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,890
    Blog Entries
    2
    อัพเดตบทที่ 4 แล้วครับ

  18. #11
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Aug 2015
    กระทู้
    68
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 10
    เข้ามาติดตามด้วยครับ

  19. #12
    ถูกระงับใช้งาน (Banned)
    วันที่สมัคร
    Oct 2015
    ที่อยู่
    New World ออกเรือกันเลย
    กระทู้
    289
    กล่าวขอบคุณ
    142
    ได้รับคำขอบคุณ: 28
    เนื้อเรื่องและเนื้อหาดีมากเลยครับ น่าติดตาม อ่านแล้วเพลิน


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top