- Space Frontier: Preview Update - Watch_Dogs

[pooh0856]

- Space Frontier: Preview Update -

Watch_Dogs: หาญกล้าท้าระบบ จงสยบสุนัขเฝ้ายาม !

เกม: Watch_Dogs

แพลตฟอร์ม: PC, PS3, PS4, Xbox 360, Xbox ONE, Wii U

แนวเกม: Action, Open World

ผู้พัฒนา: Ubisoft Montreal ร่วมด้วย Ubisoft Reflections Ubisoft Romania (Wii U)

ผู้จัดจำหน่าย: Ubisoft

กำหนดวันวางจำหน่าย: 27 May 2014 (ยกเว้น Wii U)

____________________________________________

ชิคาโก...รังโจรไซเบอร์

เริ่มต้นด้วยการทบทวนพล็อตเรื่องกันอีกครั้ง กล่าวคือ Watch_Dogs เล่าเรื่องในมหานครชิคาโกของสหรัฐฯ สถานที่ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองถูกควบคุมโดย CtOS (Central Operating System) ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความปลอดภัยขั้นสูงสุด ชาวเมืองต่างเชื่อมั่นใน CtOS แม้สิ่งที่มันมีอำนาจแทรกแซงนั้นรวมไปถึงบัญชีธนาคาร ข้อมูลสำมะโนประชากร ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ก็ตาม ทว่า มีคนกลุ่มหนึ่งไม่คิดเช่นนั้น โดยเฉพาะกับหนุ่มไอริช-อเมริกัน วัย 40 ปี ชื่อ Aiden Pearce (เกิด 2 พ.ค. 1974) ผู้มีแนวคิดต่อต้านสังคม และมีประวัติการใช้ความรุนแรงมาอย่างโชกโชน เขาใช้ประโยชน์จากการแฮกเข้าเครือข่าย CtOS เพื่อแก้แค้นให้กับคนในครอบครัว...ซึ่งข่าวกรองได้รับระบุว่า ต้นสายปลายเหตุอาจเกี่ยวพันลึกซึ้งกับระบบ CtOS

ต่อมา Aiden Pearce ได้รับอุปกรณ์ที่เรียกว่า Profiler สมาร์ทโฟนที่ฝังโปรแกรมเฉพาะสำหรับแฮกเกอร์มาจากแนวร่วม มันทำหน้าที่เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์แก่ตัวเอก และสำหรับผู้เล่น มันใช้งานเหมือนสมาร์ทโฟนยุคปัจจุบันทั่วไป คือโปรแกรมต่างๆ อยู่ในรูปของ Aplication ซึ่งผู้เล่นเลือกที่จะเปิดแอพเพื่อวัตถุประสงค์หลากหลายในเกม แต่ทีเด็ดอยู่ที่แอพเจาะเข้า CtOS เพื่อล้วงข้อมูลจากระบบรักษาความปลอดภัย หรือใช้สั่งการเครือข่ายคมนาคมขนส่ง ทั้งนี้ ปัจจัยที่ใช้กำหนดขอบเขตการแฮกก็คือแบตเตอรี่ ซึ่งสูญเสียไประหว่างใช้งานแอพดังนั้นผู้เล่นต้องคำนวณการใช้งานให้ดี เพื่อตอบสนองต่อสถานการร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ Profiler สามารถ Update เพื่อเพิ่มขีดจำกัดความสามารถได้ระหว่างเกม ส่วนความสามารถของแอพที่มีข้อมูลเปิดเผยระบุไว้คร่าวๆ 8 ชนิดได้แก่ Signal Jamming ใช้ตัดการสื่อสารทุกประเภทในพื้นที่ที่กำหนด, Lift ควบคุมสิ่งกีดขวางบนถนนตลอดจนการเปิด/ปิดสพานข้ามแม่น้ำ, Traffic Lights Control ใช้สั่งสัญญาณไฟจราจร, Train Control ควบคุมระบบรถไฟใต้ดิน, Rapture Pipe ระบบท่อส่งความร้อนตามตัวอาคาร และ Blackout ทำให้ไฟดับ (ทั้งหมดนี้ ต้องใช่เวลาประมาณ 2 วินาทีหลังเรียกใช้ ถึงจะเห็นผล)

นอกจากสกิลทางตรงตามที่กล่าวไปแล้ว Profiler ยังมีความสามารถแบบ Passive (ทางอ้อม) ที่ใช้ได้โดยไม่เปลืองแบต โดยส่วนใหญ่เป็นการแฮกที่เกี่ยวข้องกับภารกิจเสริม ยกตัวอย่างเช่น ใช้แอบฟังบทสนทนาจากโทรศัพท์ของชาวเมือง, ใช้เจาะ ATM (สกิมมิ่ง) เพื่อกดเงินมาใช้ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์, เรียกแผนที่เพื่อค้นหาตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ตลอดจนยานพาหนะที่ต้องการ ฯลฯ
การรับภารกิจเสริม มาในลักษณะของข้อมูลส่วนตัวของชาวชิตาโก ที่ Aiden แฮกได้ตามท้องถนน ซึ่งปรากฏในลักษณะกว้างกว่า บุคคลนั้นๆ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเหยื่ออาชญากรรม หรือมีแนวโน้มที่จะกระทำชั่วเสียเอง หลังจากทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว หากผู้เล่นตัดสินใจเข้าแทรกแซงก็จะเป็นการสะกดรอยตามเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนลงมือกระทำการใดๆอย่างหนึ่ง แล้วแต่สถานการณ์ ทั้งนี้ ระหว่างปฏิบัติภารกิจจารชน ผู้เล่นจะได้พบกับรถยนต์ที่แตกต่างกันถึง 75 ชนิด มีทั้งใหญ่และเล็ก รวมไปถึงเรืออีกหลายชนิด แต่ไม่มีข้อมูลใดๆยืนยันเกี่ยวกับเครื่องบินว่ามีให้ขับด้วยหรือไม่ ส่วนอาวุธปืนมาตรฐานมีให้เลือกซื้อหาหรือเก็บจากศัตรูได้ประมาณ 30 ประเถท

พลังอำนาจแห่งสมาร์ทโฟน

เดือนเมษายนที่ผ่านมา gamespot เผยแพร่บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับแก่นที่แท้จริงของเกม Watch_Dogs ซึ่งก็คือ สมาร์ทโฟน และวัฒนธรรมการใช้งานของคนในสังคม
เริ่มจากเรื่องเล่าขานในกองถ่ายทำ Motion Capture ของทีมงาน Ubisoft Montreal ที่ประสบปัญหาสำคัญนั่นคือ ตัวละครต้องใช้สมาร์ทโฟนเข้าฉากเกือบตลอด แต่ชุดที่นักแสดงสวมใส่ไม่มีกระเป๋าเสื้อแบบตัวละครในเกม ฟังดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่นะครับ แต่ความจริงก็คือ Aiden เป็นอาชญากรไซเบอร์ตัวฉกาจ ดังนั้นท่วงท่าการใช้งานสมาร์ทโฟนที่อยู่ในเสื้อคลุม ต้องดูเป็นมืออาชพที่ลื่นไหลสวยงาม ที่นี้จะเย็บกระเป๋าติดกับชุดนักแสดง ก็เจอกับปัญหาในฉาก Action แถมทีมติจิตอลระบุว่าทำไม่ได้ เพราะกระเป๋ากับสมาร์ทโฟนตุงๆ มันรบกวนการขึ้นรูปตัวละคร ลองใช้เวลโคร กับสายรัดก็ยังไม่ดี สุดท้ายจึงลงเอยที่แถบแม่เหล็กครับ โดย Noam Jenkins ผู้รับบทพระเอก บอกว่าใช้งานเวิร์กสุดแล้ว ด้าน Lars Bonde ผู้กำกับฯ เสริมว่า "มันเป็นเรื่องที่ดูเหมือนงี่เง่า แต่นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เกมดูสมจริง"
เจาะไปที่ประเด็นดังกล่าวจะเห็นได้ว่า สมาร์ทโฟนใน Watch_Dogs ไม่ใช่ทำหน้าที่เป็นแค่อุปกรณ์การแฮกของตัวละคร แต่แท้จริงแล้วมันคือ "อาวุธ" ที่ตัวละครทุกคนงัดขึ้นมาใช้ต่อสู้กัน คล้ายกับปืนของเกมอื่นๆ มันเปรียบเสมือนอาวุธคู่กายของคนยุคปัจจุบัน...และอนาคต
"สิ่งสำคัญที่เราต้องการสร้างสร้างขึ้นในเกมโลกอิสระอย่าง Watch_Dogs ก็คือความสอดคล้องกับสังคมเมืองใหญ่ในโลกปัจจุบัน คนที่เล่นเกมต้องรู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ" Jonathan Morin หัวหน้าทีมพัฒนา อธิบายว่า ทีมงานเห็นตรงกันในที่ประชุม เกี่ยวกับวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนทุกวันนี้ สมัยก่อนโทรศัพท์มือถือมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปแต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว มันเป็นความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่มากของมนุษย์ และเป็นความเจริญที่มีส่วนลิดรอนความเป็นส่วนตัวของปัจเจกบุคคล
"ผมยอมรับว่าโปรเจ็กต์นี้สร้างขึ้นจากคอมเซ็ปต์ที่ดูกว้างมากเกินไป ในช่วงแรกมันเป็นงานค่อนข้างยากในการแปลงปรัชญาที่เราต้องการให้กลายเป็นระบบเกมที่เข้าถึงง่ายและเล่นได้จริง ต่อมาเราพบว่าสิ่งที่ทำให้คนติด Facebook หรือเว็บสังคมออนไลน์ทั้งหลาย ก็คือความเย้ายวนในการนั่งดูเรื่องราวของคนอื่น ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ตอนนั้นเองที่ทีมพัฒนาเล็งเห็นว่าการแฮกเพื่อเจาะเข้าดูระบบข้อมูลของผู้คน จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับ Watch_Dogs ทั้งในแง่การจัดสรรภารกิจเพื่อใช้ขับเคลื่อนเรื่องราว ไปจนถึงการใส่เนื้อหาแปลกๆ ไว้ให้ผู้เล่นได้รับรู้" Morin กล่าว
ทีมงานค้นพบต่อไปว่า สัญญาณการสื่อสารจากสมาร์ทโฟนจะนำไปสู่การควบคุมแบบไร้สาย บวกกับข่าวฮือฮาเรื่องชิคาโกกลายเป็นเมืองที่มีกล้องวงจรปิดมากที่สุดในอเมริกาเหนือ ทำให้ทีมงานเกิดไอเดียในการสร้าง CtOS ขึ้นมาในท้ายที่สุด อุปสรรคชิ้นต่อไปของ Morin และทีมงานคือ การสร้างตัวเดินเรื่องหลัก เนื่องจากเป็นเกมที่เกี่ยวกับการแฮก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายตั้งแต่ต้นดังนั้นพระเอกจำเป็นต้องเป็นประเภทแอนตี้ฮีโร่ ไม่ใช่พวกวีรบุรุษผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องทีนี้พระเอกคนดังกล่าวจะมีข้อจำกัดทางศีลธรรมได้มากแค่ไหน และต้องเก่งกาจเพียงใดหากมีบุคลิกหลักเป็นแบบพวกแฮกเกอร์ (ที่ตอนแรกทุกคนคิดถึงสไตล์เนิร์ดๆ อย่างเดียว)
"สิ่งแรกที่พวกเราคิดคือ คนเล่นต้องรู้สึกว่าพระเอกคนนี้ดูโรคจิตแน่ๆ ถ้าเขาต้องนั่งดูข้อมูลของชาวบ้านชาวเมืองผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนตัวในเซฟเฮาส์แทบทุกวัน ดังนั้นเราจึงกำหนดให้ทุกอย่างกระทำผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งผลที่ได้มามันโป๊ะเชะไปเลย ดูลงตัวมากๆ แถมเท่ด้วย พระเอกจอมล้วงข้อมูลที่เดินปะปนกับผู้คนไปตามท้องถนน และพร้อมเปิดฉากบู้ทันทีเมื่อเจอเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน" Morin เล่าถึงจุดกำเนิด Aiden Pearce

ขณะเดียวกันทีมงานอีกส่วนหนึ่งก็ขบคิดอย่างหนักเกี่ยวกับงานออกแบบฉากเมืองที่ผู้คนต้องตอบสนองต่อสัญญาณสาธารณะได้อย่างถูกต้องเป็นธรรมชาติ และหมายรวมถึง โครงสร้างของฉากนั้นๆ ต้องเอื้อต่อเอกลักษณ์ของตัวเกมด้วย โดยทีมงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ใช้วิธีเก็บข้อมูลจากร้านกาแฟที่มองเห็นสี่แยกไฟแดงใจกลางเมือง (Montreal) พวกเขาสำรวจฝูงชนขณะข้ามถนน หยุดรอสัญญาณไฟ เดินพูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง หรือเดินก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟน ฯลฯ ทั้งหมดนี้เกี่ยวโยงกับคอนเซ็ปต์ของเกม และแสดงให้เห็นความเป็นไปได้ของการใช้ Profiler สมาร์ทโฟนพิเศษ เข้าไปแทรกแซงทุกผู้คนในสนามปฏิบัติการของ Aiden จากนั้นพวกเขาทำวิจัยเกี่ยวกับลักษณะนิสัยของผู้โดยสารรถไฟใต้ดิน ต่างก็พบว่า คนเกือบทั้งหมดเปิดใช้งานสมาร์ทโฟนขณะเดินาง หรือรอเที่ยวรถ บ้างก็ฟังเพลง บ้างเล่นเกม
"ตอนนั้นผมไปสำรวจด้วยและเที่ยวจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ของคนอื่นๆ แอบดูว่าเขาพิมพ์ข้อความอะไรบ้าง หรือแอบดูว่าเขาเปิดเว็บไซต์ประเภทไหน ผมพยายามคิดว่าตัวเองเป็น Aiden มันรู้สึกตื่นเต้นดีนะครับ แต่ก็ดูเพี้ยนอยู่เหมือนกัน" Morin เผย
ด้านการต่อสู้ด้วยสมาร์ทโฟน แท้จริงแล้วมันคือการปะทะกันด้านการข่าวโดยทีมงานเล่าติดตลก (แต่แอบโหด) ให้ฟังว่า สมมุติว่าต้องขับเคี่ยวกับศัตรูรายหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างหมายเอาชีวิต ทีนี้มีคนหนึ่งใช้สมาร์ทโฟนระบุ Profile ได้ว่า คู่ต่อสู้เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ ทีนี้เขาก็ได้ล่วงรู้ถึงจุดอ่อนสำคัญแล้ว และนั่นหมายถึงกลยุทธ์ที่จะใช้ในการเผด็จศึกเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ทีมพัฒนายังคงยืนยันว่า Watch_Dogs จะมีความเป็นเกม Action มากกว่าส่วนอื่นๆ มีการใช้ปืน ขับรถ มากมายในเกม ไม่ต้องกลัวว่าจะมานั่งจ้องจอสมาร์ทโฟนของ Aiden ทั้งวี่ทั้งวันแน่นอน
ประเด็นสุดท้ายในส่วนของสมาร์ทโฟนก็คือ หลังจากที่ทีมงานปรึกษากันอย่างหนักเรื่องการแฮก กับบริษัท Kaspersky เพื่อให้ได้ความสมจริงเกี่ยวกับการเจาะระบบต่างๆนั้น ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งผู้เล่นจะได้พบในเกมต่อไป ทว่า มีสิ่งเดียวที่ถือเป็นข้อยกเว้น เพราะต้องลืมเรื่องความสมจริงไปบ้าง นั่นคือเวลาที่ใช้ในการแฮกนั่นเอง กล่าวคือ ตัวเกมย่นย่อกระบวนการทั้งหมดให้เหลือแค่การกดปุ่มเพียงครั้งเดียวในการสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง (ขณะที่ของจริงซับซ้อนกว่านั้นมาก) เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการเล่น แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะยืนกดๆๆๆ ก็เดินผ่านด่านได้แบบสบายๆ เพราะทีมงานแก้เกมด้วยการออกแบบ AI ให้รู้ทันผู้เล่นพอสมควร เพื่อไม่ให้เกมเสียสมดุล
"ส่วนใครที่มั่นใจว่าเล่นเกมยิงเก่งระดับเทพ ไม่ต้องสนการแฮก แค่งัดปืนออกมายิงก็จบเรื่อง ก็ขอบอกว่าจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นง่ายๆ หรอก เพราะเราออกแบบให้ AI โหดสุดๆ เวลาที่พวกเขาจับได้ถึงการบุกรุก สุดท้ายคุณอาจจะผ่านได้แบบทุลักทุเล แต่ถ้าลองเรียนรู้การเจาะระบบเข้าช่วย เกมจะสนุกขึ้นอีกมากและครบรสมากกว่า เชื่อผมสิ" Morin แนะนำ

ถอยไปตั้งหลัก!!

แล้วก็มาถึงช่วงสำคัญ ซึ่งเป็นเนื้อหาส่วนที่ผู้เล่นควรทราบก่อนได้พบเกมของจริง นั่นก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับการเลื่อนวันวางจำหน่ายถัดมาอีกหลายเดือน และพวกเขาค้นพบข้อด้อยอะไรบ้าง และปรับปรุงมันได้หรือไม่ อย่างไร (ที่มา polygon)
ถอยกลับไปปีที่แล้ว ช่วงไม่กี่สัปดาห์ก็จะเข้าสู่เดือนพฤษจิกายนทีมงานทุกคนลงมติแบบไม่ค่อยพอใจนักว่า Watch_Dogs ของพวกเขา ยังไม่น่าจะเป็นเกมที่ทีมพัฒนาต้องการจริงๆ คือมันยังไม่ไปถึงจุดที่ทุกคนต้องการ
Dominic Guay ผู้อำนวยการสร้างเกมกล่าวว่า "เราเรียกทุกคนเข้ามาในห้อง จากนั้นเปิดเกมเล่น พนักงานหลายคนเริ่มโต้เถียงกัน และแสดงความคิดเห็นออกมามากมาย ก่อนลงมติเหมือนกันว่า เกมยังไม่พร้อมครับ"

ภารกิจซ้ำซากจำเจ?

เมื่อสอบถามไปยังทีมงานแต่ละคน คำตอบส่วนใหญ่สรุปได้ว่า เกมต้องขัดเกลาอีกหลายส่วน มันเริ่มจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ละเลยมาตั้งแต่ช่วงพัฒนา แต่พอจุดบกพร่องเหล่านั้นมารวมกัน มันนำมาซึ่งเรื่องน่ากลัวที่สุดของเกม Open World นั่นก็คือ "เกิดการเล่นซ้ำๆ มากเกินไป" มากเกินกว่าคนในทีมจะรับได้! (โอว...น่ากลัวจริงๆนั่นแหละ: ผู้เขียน)
ปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ลูกทีมของ Morin เสนอขอเวลาไปยังต้นสังกัดว่า คงต้องเลื่อนออกไปหลายเดือน (นักข่าวของ polygon รายงานด้วยว่า ผู้สื่อข่าวส่วนใหญ่ไม่มีใครสังเกตเรื่องนี้มาก่อน แม้ได้รับโอกาสทดสอบเกมก่อนคนทั่วไปและได้เล่นนานด้วย จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ปัญหาภารกิจซ้ำซากอาจไม่สาหัสมากมายนัก แต่ทีมงานคงอยากได้เกมที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนปล่อยขาย)
การแก้ปัญหาทำโดยศึกษาการเขียนบทจากเกม Open World อื่นๆ ของ Ubisoft ต่อมาจึงค้นพบว่า ความจำเจไปกระจุกอยู่ที่ขั้นตอนการล้วงข้อมูลจาก AI ซึ่งขาดความหลากหลาย แต่ตัวเอกต้องเล่นในส่วนนี้บ่อยครั้ง เพื่อให้เนื้อเรื่องเดินหน้ามันจึงนำมาซึ่งความน่าเบื่อ
"มันเริ่มวนเป็นลูปครับ และเรื่องราวอันหวือหวาของตัวละครประกอบฉาก ไม่ช่วยให้ AI ดูมีชีวิตชีวาเท่าที่ควร" Danny Belanger หัวหน้าแผนกออกแบบฯ ระบุ พร้อมเล่าปัญหาซ้ำซ้อนให้ฟังอีกว่า จากการที่เกมออกแบบให้ Aiden ต้องค้นหาเบาะแสจากแหล่งข่าวที่กระจายอยู่ในเมือง ซึ่งเดิมเซ็ตค่าไว้ที่ 30% ในหนึ่งหน่วยพื้นที่ ถือว่าเป็นค่าที่ต่ำ เพราะอยากให้เกมท้าทาย แต่ผลที่ได้กลายเป็นว่า ผู้ทดสอบเกมที่โชคร้ายบางคน บอกรับภารกิจไว้ถึง 4 ชิ้น แต่กลับวิ่งไปทั่วเมืองโดยล้วงข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เลย กับเรื่องนี้ Belanger รับปากว่า เกมเวอร์ชั่นที่จะวางจำหน่ายจะไม่มีปรากฏการณ์ตามที่กล่าวไปแน่นอน
"เราเพิ่มท่าทางตอบสนองให้กับ AI ที่มีส่วนกับเนื้อเรื่อง จะเรียกว่าพิรุธก็ได้ครับ ผู้เล่นที่ช่างสังเกตจะได้เปรียบและรู้ว่าใครคือเป้าหมายที่ควรเจาะข้อมูล และทีมของผมยังได้เพิ่มความหลากหลายให้กับการแฮก ซึ่งแต่ละครั้งก็จะมีเหตุการณ์เจ๋งๆ เกิดขึ้นมา เพื่อให้ผู้เล่นไม่รู้สึกซ้ำซากจำเจ และตื่นเต้นทุกครั้งกับผลของการล้วงรู้ความลับเหล่านั้น" Belanger อธิบาย

เพิ่มระยะเวลาการเล่น

การเพิ่มเติมในส่วนของบท กับการแฮก AI ที่กล่าวไปในหัวข้อที่แล้ว นำไปสู่ระยะเวลาการเล่นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีในธุรกิจแบบยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกับทีมเขียนบท พวกเขาทำงานหนักเรื่องการออกแบบการประมวลผลเรื่องราวของชาวเมืองแต่ละคน เพื่อเติมชีวิตชีวาให้กับคนเหล่านั้น Kevin Shortt ผู้รับผิดชอบงานเขียนบทกล่าวว่า ทีมงานของเราจัดทำฐานข้อมูลเพิ่มเติมจากเกมเวอร์ชั่นแรกขึ้นมาอีกจำนวนมาก แบ่งข้อมูลเหล่านั้นออกมาเป็น 5 ประเถท คือ ชื่อต้น นามสกุล อายุ อาชีพ และเกร็ดประวัติ ซึ่งส่วนสุดท้ายนี้เองที่นำมาซึ่งเรื่องแปลกแหวกแนวมากมาย เมื่อผู้เล่นเจาะจงแฮกใครซักคน เกมจะสุ่มข้อมูลทั้ง 5 ส่วนมาผสมกันเป็นเรื่องราวชีวิตของคนผู้นั้น (แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะเจอคนเดิมซ้ำกัน ยกเว้นพวกตัวละครสำคัญที่มีผลต่อเนื้อเรื่อง)
นอกจากประวัติพื้นหลัง ต่อมาก็เป็นส่วนของบทสนทนาที่ AI แต่ละคนพูดคุยโต้ตอบกับคนอื่นๆ ซึ่งเนื้อหาเหล่านั้นถูกเขียนมาอย่างดี และส่วนใหญ่แฝงข้อมูลแวดล้อมที่ช่วยเสริมเหตุการณ์ในเกมเสียด้วย ตรงนี้มีประโยคที่น่าสนใจ เมื่อ Shortt กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "มันให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนรถประจำทางแล้วบังเอิญได้ฟังคนข้างๆ นั่งคุยกันน่ะครับ" (ท่าทางทีมงานของ Studio นี้จะชอบรู้เรื่องชาวบ้านอย่างแท้จริง 555)
หลังจากแก้ไขในหลายส่วน ก็ถึงเวลาทดสอบเกม Colin Graham หัวหน้างาน Animation เปิดเผยว่า "วิธีที่ดีที่สุดคือนั่งลง แล้วเล่นเกมซ้ำแล้วซ้ำเล่า สำรวจผลการแก้ไขของเพื่อนๆ ทีมพัฒนา ดูว่าพวกเขาทำการบ้านกันอย่างไรบ้าง และก็เพื่อตรวจสอบงานของแผนกผมเองด้วย โดยผมเล่นเกมนี้ติดต่อกันมา 6 เดือนแล้ว ทั้งเวอร์ชั่นก่อนและหลังปรับปรุง ตอนนี้บอกได้คำเดียวเลยว่า Watch_Dogs สนุกสุดๆ เราได้เกมที่ต้องการแล้ว ปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไข มันมีอะไรให้ทำเยอะแยะ ไม่ซ้ำซากจำเจด้วย" ขณะที่พนักงานคนอื่นๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้ว โชคดีเหลือเกินที่มันกลับมาแก้ไขก่อนที่จะปล่อยขายไปก่อนหน้านี้

ทดสอบ และ ทดสอบ

นักข่าวที่โชคดีได้เล่นเกมเวอร์ชั่นพร้อมขายก่อนใครเพื่อน เล่ารายละเอียดไว้ดังนี้ "ผมเริ่มต้นที่ริมถนนสายหนึ่ง จากนั้นวิ่งเข้าไปใจกลางฝูงชน แล้วหยุดดูรอบๆ ตอนนั้นเอง มีชายคนหนึ่งจ้องมาที่ผมก่อนทำท่าหวาดกลัวแล้วรีบเดินหนี ผมจึงเดินตามไปพร้อมกับกดใช้สมาร์โฟนเพื่อเจาะเข้าไปดูข้อมูลในโทรศัพท์ของเป้าหมาย แต่ก็พบข้อความที่ไม่เข้าใจความหมาย ต่อมาชายต้องสงสัย เปิดตู้รับฝากเอกสาร จากนั้นล้วงเอากระเป๋าเงินใส่เข้าไปแล้วล็อคปิด พอผมเดินตามไปเรื่อยๆ (ใช้เวลาเกือบ 15 นาที) เขาก็วิ่งหนีหายไปผมสงสัยเลยถามตัวแทนจาก Ubisoft ก่อนได้รับคำตอบสุดเซอร์ไพรส์ว่า ชายคนเมื่อกี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่อง แต่ AI ดังกล่าวตอบสนองต่ออาการของ Aiden ที่วิ่งอย่างมีพิรุธเข้าไปกลางฝูงชน ซึ่งเขาคงกลัวโดนปล้นก็เลยเอาเงินไปซ่อนก่อนวิ่งหนี"
จากคำอธิบายข้างต้นแสดงให้เห็นชัดเจนเลยนะครับ ว่า AI แบบนี้จะช่วยมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์แก่ผู้เล่น และช่วยสร้างเรื่องราวเฉพาะตัว แบบของใครของมัน ฟังดูเข้าท่าเลยนะเนี่ย นักข่าวคนเดิมเล่าต่อ คราวนี้เขาลองขับรถ และพบว่าการควบคุมทำได้ง่าย ก็เลยลองไล่ชนคันอื่นเพื่อทดลองดูว่า รถพังแค่ไหนถึงจะวิ่งต่อไม่ได้ ปรากฏว่ารถในเกมนี้รับความเสียหายได้เยอะพอสมควร ดังนั้นหากขับขี่ระหว่างภารกิจ ความคงทนของยานพาหนะจึงไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดอย่างแน่นอน แต่มีเรื่องที่น่าแปลกใจ ที่ตำรวจดูไม่ค่อยสนใจรถที่ชนกับคันอื่นจนเยินของเขาซักเท่าไหร่ ต่างกับเวลาใช้ปืนโดยสิ้นเชิง เพราะไม่กี่วินาทีที่ลองชักปืนออกมาท่ามกลางฝูงชน คนก็จะรีบโทรแจ้งตำรวจ แล้วรถหวอก็แห่กันมาอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เมื่อเกมดำเนินไป Aiden จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลลับสุดยอด ที่มักอยู่ใน Sever ของศูนย์ข้อมูล CtOS ตามที่ต่างๆ การเล่นตรงนี้เปรียบเหมือนการตีค่ายใน Far Cry 3 ผสมกับ Hitman แต่ของ Watch_Dogs ทีมพัฒนาเรียกว่า "Stealth-Shooter-Action-Puzzle" หรือก็คือการผสมผสานความสามารถทั้งหมดของ Aiden นั่นเอง แต่จะไม่เฉพาะตายตัว ใครจะใช้ด้านไหนมากกว่ากัน ก็ตามแต่ถนัด อย่างที่นักข่าวคนเดิมของเรา ทดลองกำจัดยามประตูหน้าด้วยการวางอุปกรณ์ส่งเสียงไว้ที่ประตู ด้านข้างก็วางระเบิดเอาไว้ จากนั้นเปิดตัวส่งเสียง พอพยายามเปิดประตูก็กดระเบิดตูม (อันนี้ Basic)
"เสียงระเบิดทำให้ยามคนอื่นตื่นตัวแล้วเริ่มเคลื่อนที่ ผมจึงย่องเข้าไปเชือดทีละคน อาศัยการแฮกดูตำแหน่งจากกล้องวงจรปิด และหลังจากได้ข้อมูลที่ต้องการจากออฟฟิศส่วนกลาง การยิงโต้ตอบเต็มรูปแบบก็เริ่มขึ้น" เขาทิ้งท้ายอย่างเมามันส์

เจาะกันให้สนุก

จากทั้งหมดที่กล่าวไปในส่วนของการ "ซ่อมงาน" อาจทำให้บางคนคิดว่าเกมจะเล่นง่ายขึ้น ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่แบบนั้น เพราะ Mr. Belanger ระบุ มันจะม่มีปุ่ม "แฮกแล้วชนะ" เพราะการรวบรวมข้อมูล แท้จริงก็คือการชิงความได้เปรียบเท่านั้น แต่การชนะศึกต้องอาศัยการลงมือทำ ยังมีสกิลส่วนอื่นๆ ที่ผู้เล่นต้องฝึกฝนทำความเข้าใจ และอาจรวมไปถึงการลองยิงผิดลองถูกหลายครั้งจึงจะผ่านแต่ละบทของเกม สิ่งที่ทีมงานสร้างไว้ก็คือ โลกเกมที่ยุติรรมกับผู้เล่น ไร้ซึ่งปัจจัยสร้างความรำคาญทั้งหลาย แล้วจึงมอบตัวช่วยทรงพลังใหเในรูปของสมาร์โฟนตัวเจาะข้อมูล ที่เหลือคือพลังใจ พลังฝีมือ และความกระหายในการติดตามเรื่องราวของ Watch_Dogs
ด้านโปรดิวเซอร์ Guay เผยไต๋ "ผมจำได้ถึงเวลา 2 สัปดาห์เต็มๆ ที่พวกเราทุกคนนั่งทดสอบเกมกันแบบอดหลับอดนอน พร้อมกับนักทดสอบอีก 40 ชีวิต เราทุกคนลองแฮกเข้าไปสู่โลกของเกมของอีกคน (Multiplayer) มันสนุกมาก หลายคนบอกว่า นี่แหละคือประสบการณ์ที่วงการอยากได้ มันคือเกมของ Hacker อย่างแท้จริง"

พ้นร่มเงา GTA

IGN ชี้ให้เห็นถึงวิวัฒนาการครั้งใหม่ของเกมแบบโลกอิสระเสรีที่มีเจ้าพ่อของวงการอย่าง GTA ฉายรัศมีบดบังเกมอื่นแทบจมมิด โดยฟันธงว่า "ดราม่า" คือหัวใจสำคุญของ Watch_Dogs เมื่อก้าวเข้าสู่ชิคาโก บรรยากาศของท้องถนนดูสวยงามตามมาตรฐาน Next-Gen ขณะที่ผู้เล่นเริ่มงัดสมาร์ทโฟนขึ้นมา อาจโดนชายผู้เกรี้ยวกราดสักคนชนไหล่จนเซ แถมแสดงท่าทางหาเรื่อง แต่พอเหลือบดูประวัติของเขาก็พบว่า ชายคนนี้เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แบบนี้ส่งผลอย่างมากต่ออารมณ์เกม
ทั้งนี้ ตัวเลือกด้านศิลธรรมไม่ใช่ของใหม่ในเกม Open World ซีรีส์ inFAMOUS เป็นตัวอย่างที่ดี ทว่า Watch_Dogs ก็ผลักดันแง่มุมนี้ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น (ตัวผมเองหวังเคยให่ inFAMOUS: Second Son พัฒนาตรงจุดนี้ แต่ก็ต้องผิดหวัง) ย้อนกลับไปที่ชายป่วยเป็นโรคมะเร็ง ผู้เล่นอาจเลือกเดินหนีการชกต่อย แต่ย้อนกลับไปดูดเอาเงินเก็บสำหรับค่ารักษาโรคมาให้หมด หรือเลือกเดินไปดูเขาเดินไปโรงพยาบาลเฉยๆ ก็ได้ หรือถ้าอยากรู้สึกดีๆ ก็เข้าบาร์แล้วท้าพนันกับชายแก่ที่มีปรัวัติชอบดูหนังโป๊เด็ก เพื่อหลอกเอาเงินมาให้หมดตัว...ทางเลือกอยู่ที่ตัวผู้เล่น และนี่เองคือเสรีภาพที่แท้จริงของ Watch_Dogs หาใช่อิสระในการเดินทางเพียงอย่างเดียว
สรุปแล้ว Watch_Dogs เป็นเกมที่มีการวางแผนที่ดีมาก มีการขัดเกลาตัวเอง และมาพร้อมกับปรัชญาชวนคิดตาม ใครที่อยากรู้ว่า เบื้องหลังของหนุ่มใหญ่ Aiden เป็นเช่นไร ก็เตรียมตัวให้พร้อม เพราะหลังอ่านบท Review ชิ้นนี้จบ นับไปอีกไม่กี่วัน เมืองชิคาโกใน Watch_Dogs ก็พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน!

คำถามที่พบบ่อย

Q: มีระบบกลางวัน/กลางคืนหรือเปล่า ?
A: มี, เวลาเดินไปเรื่อยๆ แบบรีลไทม์ ไม่ใช่กำหนดตามสคริปต์

Q: แล้วภูมิอากาศล่ะ?
A: ครบหมด ตั้งแต่แดดจ้า ฟ้าครึ้ม ฝนตก พายุลมแรง หมอกลงจัด

Q: ใช้โมเดล NPC แบบรีไซเคิลหรือเปล่า?
A: ชาวเมืองทุกคนมีไอเทมเครื่องแต่งกายต่างกัน 3,000 แบบ ดังนั้น ภาพที่ได้คือความหลากหลายของประขากรตรงกับในชีวิตจริง

Q: คนในเมืองหนาแน่นแค่ไหน?
A: ข้นอยู่กับเวลา กลางวันก็เยอะ กลางคืนก็น้อย ถ้าจะให้บอกเป็นจำนวนแน่นอนคงลำบาก แต่บอกได้ว่า เวอร์ชั่น Next-Gen Console จะมีเยอะสมกับเป็นเมืองชิคาโก

Q: แฮกชาวเมืองได้ทุกคนหรือเปล่า?
A: ถูกต้อง ไม่ใช่แค่คน อุปกรณืต่างๆ ในสภาพแวดล้อมก็โดนหมด

Q: มีพื้นที่หลากหลายแค่ไหน?
A: มี 6 เขตที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันในชิคาโก รวมไปถึงลักษณะของชุมชนและผู่คนที่อาศัย

____________________________________________

Source : Play issue 59

Editor : pooh0856

Design Post : Satisfaction Space

[Ezio Auditore]

มีใครนับบ้างว่าตั้งเเต่เปิดตัว Watch dogs มันปล่อยข้อมูลออกมา กี่รอบ?

[Jackal]

เห็นมาหลายกระทู้แล้ว ไม่เห็นกระทู้ที่พูดถึงข้อเสียของเกมเลย หรือว่ามันไม่มีหว่า(ฮา)

ส่วนตัวพรีไปแล้ว ก็กลัวว่าจะแป๊กเหมือนกัน

[PladukMAW]

จัดแท้แน่นอนครับเกมนี้

[Zaaaaaaaaaa]

จัดเทียมแน่นอนครับเกมนี้

[Monalizii]

ถ้าตัวเอกใช้ 3310 ผมว่าจะเทพกว่านี้ !!

[gamehunter]

จัดแท้เรียบร้อยแล้ว เล่นได้ไม่ได้ไว้ค่อยคิด 555+ เกมดีๆต้องสะสมไว้

[rockblood39]

อ่านบ่อย เยอะ นาน จนนนนน ไม่ค่อยอยากเล่นแล้ว
เห้ออ -*-

[InfiniteDeathIIX]

[dragongate]

แบบว่าเครื่องรับไม่ไหวจะซื้อก็กลัวเสียดายตัง - -

[MinnerZzZ]

อยากเล่นละโว้ยยย แหม่

[Nanrigter]

เท่มากๆๆ...