เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา
-
10th August 2014 00:13
#1
Soul in Force : the legend of Dark
ก่อนอื่นผมต้องกล่าวขอโทษที่ตังกระทู้ใหม่ขึ้นมานะครับ คือจริงๆแล้วไม่ให่ว่าจะทำเรื่องใหม่หรือยังไงนะครับแต่ในกระทู้เก่ามันมีจุดผิดพลาดค่อนข้างเยอะเช่น
ชื่อกระทู้ จึงขอวิสาสะตั้งกระทู้ใหม่เลยนะครับ(หวังว่าจะให้อภัยสักครั้ง)
................................................................................................................................................................................
"Soul in Force"
ตอนที่ 0 จุดจบนี้คือจุดเริ่มต้น
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วในขณะที่ห้วงจักรวาลมีเพียงชายรูปงามฝาแฝดสองคนที่ต่อสู้กันเพื่อแย้งชิงความเอ็นดูจากสิ่ง
ที่สร้างพวกเขาขึ้นมา จนเวลาหนึ่งพวกเขาได้สร้างโลกต่างๆขึ้นพร้อมกับสิ่งมีชีวิตอีกคนละสามสายพันธุ์
คนแรกเป็นชายผู้สวมเกราะสีขาวมีแววตาสีเงิน เขาได้สร้างเหล่าเทพ,เอลฟ์และยมทูตพร้อมกับการสร้างภพสวรรค์และโลกวิญญาณ
อีกคนเป็นชายผู้สวมเกราะสีดำมีแววตาสีทอง เขาได้สร้าง ปีศาจ,มาร,และมังกร พร้อมกับโลกปีศาจและโลกมาร
และแล้วพวกเขาก็ได้เริ่มทำสงครามกันอีกครั้งบนดาวที่รกร้างดวงหนึ่ง เสียงโห่ร้องเสียงดาบกระทบกัน
เสียงระเบิดตูมตามดังไม่หยุด สองผู้นำต่างใช้ดาบประจำตัวต่อสู้กันโดยไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบตัวเลยซักนิด
จาการต่อสู้เพื่อต้องการความสนใจ กลับกลายเป็นสงครามเพื่อแย้งชิงพลังอันยิ่งใหญ่ของสิ่งที่
พวกเขาเรียกว่า'พระเจ้า' จนวันหนึ่งผู้นำทั้งสองก็ได้รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการครอบครองนั้นได้หายไปแล้ว และเมื่อ
พวกเขาหันกลับไปมองสิ่งที่พวกเขาทำ มันมีแต่ความสูณเสียสิ่งมีชีวิตล้มตายมากเกินกว่าจะรับได้ ในขณะที่พวกเขา
ได้แต่สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป บนท้องฟ้าได้มีแสงสีทองสาดส่องไปทั่วเอกภพแสงนั้นทำให้ซากศพจากสงคราม
จมลงไปในดินแล้วเกิดเป็นธรรมชาติขึ้นมาจนดาวที่รกร้างว่างเปล่ากลับกลายดาวทีสวยงาม และขี้เท่าจากสงคราม
ได้ก่อเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตใหม่ที่เรียกว่า 'มนุษย์'
แสงนั้นหายไปเหล่าสิ่งมีชีวิตแรกเริ่มกลับไปยังภพของตน ผู้นำทั้งสองได้สาบานต่อดาวดวงนั้นว่าจะไม่ต่อสู้กันอีก
แล้วทั้งสองก็หายตัวไป ทว่าคำสาบานที่ทำไว้นั้นไม่ได้มีครอบคลุมถึงลูกหลานที่พวกเขาสร้างขึ้นมา เเล้วเมื่อ
มหาสงครามกลับมาอีกจะมีบรุษผู้เป็นความหวังมาตัดสินผลสงครามบนดาวดวงนั้นที่มนุษย์เรียกว่าโลก
_________________________________________________________________
บันทึกแห่งจุดจบสงครามและการเริ่มต้นของทุกสิ่ง
บัญญัติโดย Dark(ดาร์ค)ผู้นำแห่งโลกมารและโลกปีศาจ
God(ก็อต)ผู้นำแห่งภพสวรรค์และโลกวิญญาณ
__________________________________________________________________
หลายพันปีต่อมา มนุษย์ได้พัฒนาความรู้และเทคโนโลยีในด้านต่างๆจนก่อสงครามของมนุษย์ขึ้นเอง ซึ่งไม่ได้ใช้แค่เทคโนโลยี แต่ทุกประเทศงัดทุกๆอย่างมาใช้ไม่เว้นแม่แต่เวทมนต์หรือปีศาจ บางฝ่ายใช้ เทคโนโลยีบวกกับอำนาจเทพ บ้างใช้ เทคโนโลยีบวกกับอำนาจปีศาจ แต่สิ่งที่เป็นพลังที่แท้จริงของของทุกฝ่ายคืออัศวิน จอมเวทต์ ผู้มีพลังพิเศษ และ เวทมนต์จนกระทั้งยุคสงครามยุติลง
ผลกระทบจากสงครามทำให้โลกขยายตัวขึ้น3เท่าจึงเกิดเป็นทวีปขนาดใหญ่หลายทวีป และมีทวีปหนึ่งเกิดการแบ่งดินแดนขึ้นมา
4อนาจักคือ 1.คอนแสตนตินโนเปิล 2.อาณาจักมังกรแสง 3.วิทาเนีย และ 4.วิลลาออดิโทเล แต่ถึงมหาสงครามจะยุติลงก็ยังมีสงครามเกิดขึ้นอยู่บ้างและเพราะสงครามครั้งก่อนที่ทำให้ ผู้คนที่เคยอยู่ในเงามืดได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก (จอมเวทต์ ผู้มีพลังพิเศษ) นับวันผู้คนเหล่านี้เริ่มจะแพร่กระจายกันอยู่ตามทั่วทุกมุมโลก บางคนก็ได้ยกย้องคนพวกนั้นเป็นดั่งพระเจ้าแต่บางคนกลับดูถูกพวกเขาว่าเป็นได้แค่ปีศาจ และเพราะจำนวนที่เพิ่มขึ้นจึงใด้มีการแบ่งชนชั้นขึ้นมาซึ่งรู้กันแค่ในกลุ่มจอมเวทต์กับผู้มีพลังพิเศษเท่านั้น
50ปีต่อมานะปราสาทหลวงอนาจักวิลลาออดิโทเล
"ฝ่าบาท"หญิงรับใช้คนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นมา
"มีอะไร ไม่เห็นรึไงว่าข้ากำลังยุ้ง" ชายวัยกลางคนกำลังเคลียเอกสารที่กองเถ้าภูเขาด้วยถ้าทีรีบร้อนอยู่บนโต๊ะ
"พระนางมาเรียกำลังจะให้กำเนิดบุตรแล้วคะ"
"...หา!" ชายวัยกลางคนซึ่ง(น่าจะ)เป็นราชาพอได้ข่าวก็หยุดกิจกรรมทุกอย่างแล้วรีบวิ้งไปยังห้องทีชายาของตนเองทันที
เมื่อถึงที่หมายเขารีบพลักประตูเขาไปเพื่อดูเด็กที่เกิดมาโดยไม่สังเกตุเหล่าคนใช้ที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงมุมกำแพง
"มาเรียในที่สุดเจาก็ให้กำเนิดบุตรให้เราแล้วสินะ...นี่มันอะไรกัน!" พอราชาอุ้มห่อผ้าของเด็กน้อยขึ้นมาดูก็ตกใจ เพราะในห่อผ้ามันคือเส้นเลือดสีดำปนแดงที่จับตัวกันเป็นก้อนกำลังขยับไปมาก่อนมันจะขดบิดตัวเองและสร้างหนังคนขึ้นมาจนมีรูปร่างเหมือนเด็กทารกพร้อมกับสงเสยีงร้องออกมา
1วันหลังจากนั้น
"ท่านปราชญ์ลูก...ไม่สิ เด็กคนนีเป็นตัวอะไรกันแน่" ราชาถามอย่างเคร่งเครียดปนความหวาดกลัวพรางจ้องไปทีเด็กซึ่งอยู่บนแท่นกลางห้องโถง
ตอนนี้เด็กน้อยอยู่ในห้องท้องพระโลงพร้อมกับ ขุณพล ราชินี นางสนมและอืนๆอีกน้อยนิด เพราะเรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ
ซึ่งตอนนี้นอกจากปราชญ์ที่คุกเข่าอยู่หน้าบัลลังแล้วทุกคนที่อยู่ในห้องล้วนเป็นคนในราชวงศ์ทั้งสิ้น
"ขอข้าดูหน่อยใด้ใหมท่านราชา" ปราชญ์ถามแต่ตานั้นจ่องไปยังเด็กที่หลับอยู่แท่นวาง
"เชิน"
"หือ...โอ้!นี่มันอะไร" ปราชพูดออกมาก่อนจะถอยหลังออกจากเด็ก "เด็กคนนี้มีพลังของปีศาจอยู่และ..."ท่านปราชญ์พูดออกมาเบาๆแต่ทุกคนในห้องก็ได้ยินกันหมดและแทนที่จะพูดต่อเขากลับเงียบเอาไว้
"จริงๆด้วยสินะ...ฆ่าเด็กคนนี้ซะ" ราชาสั่งท่ามกลางเสียงฮือฮาของเหล่าคนในราชวงศ์ แต่แล้วนักปราชญ์คนเดิมก็ห้ามเอาไว้ก่อน
"ท่านราชาคิดดีแล้วหรือที่จะสั่งประหารบุตรชายของตัวเอง ถึงเด็กคนนี้อาจมีพลังปีศาจอยู่ในตัวแต่การที่จะสังหารลูกของตัวเองนะมันไม่ใช่เรื่องดีเลยสำหรับราชาผู้ปกครองแดนหนึ่งในศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าเทพเช่นท่านจริงไหม" ปราชญ์พูดขึ้นก่อนแสยะยิ้มแล้วหันไปดูเด็กทารก
"แล้วท่านจะให้ฆ่าทำไงเป่าประกาศว่าฆ่ามีลูกแป็นปีศาจแล้วให้ประนามราชวงศ์ ของฆ่านะเหรอ!"ราชาตะโกนบอกพร้อมกับทุบลงบนที่วางมือ
"ใจเย็นๆท่านราชา ผมขอแนะนำให้นำเด็กคนนี้ใว้ในหอคอยดำ และอย่าปล่อยให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนของราชวงศ์เห็นโดยเด็ดขาดยกเว้นคนใช้ซึ่งมีได้แค่2คนเท่านั้นพร้อมกับคนคอยตรวจดูคนรับใช้ว่า เอาความรับเรื่ององชายไปปูดหรือไม่และถ้าทำก็ให้ฆ่าได้เลยพอโตขึ้นก็ให้เขาเป็นแค่คนใช้ก็พอ"
"งั้นก็ประกาศออกไปว่าโอรสชายลำดับที่3แห่งราชวงศ์ออดิโทเลสิ้นพระชนม์แล้ว จะไม่มีการเผาฝังหรือทำการได้ๆทั้งสิ้น" ราชาประกาศอย่างกู่ก้อง นับแต่นั้นมาองชายลำดับที่3แห่งราชวงศ์ออดิโทเลก็ถูกลบออกไป
หลังจากนั้นไม่นานพระนางมาเลียก็ได้คลอดบุตรตรีขึ้นมาเป็นลำดับที่8ถ้ารวมกับนางสนมคนอื่นของราชวงศ์ แล้วตั้งชื่อให้ว่า นานาลี
และด้วยความน่ารักอ่อนโยนและใสซื้อทำให้เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนจนแม้แต่กษัตริย์จากเมืองต่างๆก็หมายจะแนะนำบุตรชายของตนเองให้องหญิงน้อย
5ปีต่อมา
ทั้งเมืองและปราสาทหลังใหญ่กำลังจะมีงานฉลองเพราะวันนี้เป็นวันเกิดขององหญิงคนสุดท้องลำดับที่8 นานาลี
แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเด็กที่นั้งอยู่ริมหน้าต่างในหอคอยที่มืดมิด จนเสียงประตูเปิดออกพร้อมกับพระนางมาเรียก้าวท้าวเข้ามาจ้องมองเด็กชายที่นั้งอยู่ริมหน้าต่างท่ามกลาแสงจันทร์ที่ส่องลงมา
"ท่านแม่หรอ ท่านมาทำอะไรที่นี้ท่านหน้าจะอยู่ในงานพิธีกับน้องของข้าไม่ใช้เหรอ" เด็กทารกในตอนนั้นโตขึ้นมาเป็นเด็กน้อยที่มีผมสีดำมันเงา และตาสีน้ำเงินเข้มบวกกับหน้าตาที่หล่อเหล่าทั้งทียังเด็กแต่ก็ซ้อนความซุกซนไว้ ซึ้งขัดกับน้ำเสียงที่ดูจริงจังปนกับความเป็นห่วงและสีหน้าที่ยิ้มน้อยๆให้ผู้เป็นมารดา
"แม่แค่เป็นห่วงเจ้านะ...เจ้าไม่อิจฉาหรือโกรธคนอื่นเลยหรอที่ทำกับเจ้าแบบนี้" ผู้เป็นมารดาถามด้วยสีหน้าเฉยเมยอันเป็นเอกลักของเธอเอง
"โกรธหรอ? ไม่ ข้าไม่เคยโกรธเลยท่านแม่เพราะนั้นคือครอบครัวของข้าและข้าก็แยกแยะออกว่าอันให้ถูกอันไหนผิด"
เด็กชายบอกพร้อมกับทำให้มีปรสิธ(พลังในตอนนั้น)ไหลผ่านมือไปมา
"แต่อย่างน้อยเจ้าก็หน้าจะระบายอารม์ออกมาสิอา..." ขณะที่มาเรียกำลังจะเอ่ยชื่อ เด็กน้อยก็ยกมือขึ้นมาห้าม
"ข้าไม่ได้ชื้อนั้นอีกต่อไปแล้วท่านแม่ ต่อไปนี้ข้าจะไม่ใช้ชื่อของราชวงศ์อีกต่อไปตอนนี้ชื่อของข้าคือ คินโล"
ในคืนนั้นทุกคนในปราสาทไปงานฉลองกันจนหมดยกเว้นเด็กน้อยคินโลที่นอนหลับพร้อมกับน้ำตาแห่งความเหงา
แต่แล้วหน้าต่างก็ถูกเปิดออกโดยมีผู้ชาย3คนเขามาในห้องหลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดมิด...
ช้าววันต่อมา
"คุณคะ" มาเรียก้าวเข้ามายังหน้าบัลลังด้วยสีหน้าจริงจังไม่เหมือนทุกที
"มีอะไรหรอมาเรีย"ราชานั่งอยู่บนบัลลังอย่างสบายใจไม่ใช่เพราะเคลียเอกสารเสร็จแต่เพราะมีบางอย่างถูกกำจัดไป
"ลูกชายคนทีสามของท่านหายตัวไปแล้ว"
"งั้นหรอ" ราชาพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย
"นี่ท่านทำอะไรกับลูกของเรากัน" มาเรียถามอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมก้าวเข้าหาสามีของนางอย่างเอาเรื่องจนองครักษ์ต้องมาห้ามไว้
"ทำอะไรนะหรอก็ทำในสิ่งที่ควรทำไง...เมื่อคืนเป็นงานวันเกิดของนานาลี้ลูกคนแรกของเจ้ากับข้า และเพื่อให้เป็นแบบนั้นก็ควรกำจัดไอ้เด็กนั้นไปซะ" ราชาบอกด้วยน้ำเสียงสะใจนิดๆ
"ท่านทำใด้ยังไงกันนั้นมันลูกของเรานะ" มาเรียพอใด้ยินเขาก็ถึงกับเข่าอ่อนแล้วก็ล้มลงด้วยสีหน้าที่เหมือนคนตาย
"เจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยสินะ...ไอ้เด็กนั้นมันไม่ใช้ลูกของฉัน!
10ปีต่อมา
ชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังเดินอยู่ในสถานที่ที่เขาไม่รู้ว่ามันคือที่ใหน มีเพียงเสียงเพลงอันไพเราะ ทางเดินปูด้วยพรมสีเเดงพนังทำจาก หินอ่อน
และแสงสลัวๆเขาเดินตามเสียงนั้นไป จนมาถึงบันไดหินอ่อนทีปรายสุดมีประตูสีขาวเขาเข้าก้าวขึ้นบันไดไปเปิดประตูทุกอย่างเงียบลงและหายไปหมือนกับกลุ่มควัน
แล้วเขาก็ตื่นขึ้นมา
เสียงและน้ำฝนที่ตกลงมาทำให้ชายหนุ่มลืมตาตื่นขึ้นโดยยังมีสีหน้าที่มึนงง ที่นี่เป็นห้องที่ทำจากไม้แคบๆ เตียงที่เขานอนก็ทำจากฟางแข็งๆ หลังคามีรอยรั่วหลายจุด
"เฮ้อ
ขอต้อนรับกลับสู่โลกแห่งความจริงนะ อามาโนะ เจมส์ คินโล"
_______________________________________________________________________________________________________
รูปประกอบเรื่อง
ทวีปเซา (ดินแดนที่คินโลกำเนิดขึ้นมา)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ASSASSIN S : 10th August 2014 เมื่อ 00:53
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 5 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
27th September 2014 12:36
#2
-
-
7th October 2014 21:57
#3
ตอนที่ 2 ความหวังอันซ้อนเร้น
หลายสัปดาห์แล้วที่พวกเขามาอยู่ที่นี่ ในวันแรกไรอันได้ไปหาลือเกี่ยวกับข้อมูลตางๆซึ่งได้ประมาณว่า
อานาจักไบเซนไทของพวกเขาในตอนนี้ถูกพวกปีศาจยึดและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ในจุดที่เคยเป็นอานาจักตอนนี้เหลือเพียงทุ่งหญ้าโล่งๆดูเหมือนพวกปีศาจจะใช้เวทย์ พาอานาจักทั้งหมดไปซ้อนไว้ที่อื่นทำให้ทางเราไม่รู้จุดประสงที่แท้จริงของพวกมัน
ส่วนประเทศที่พวกเขาอยู่ตอนนี้คือไซรัส ประเทศนี้ถือเป็นประเทศที่เจริญที่สุดในทวีปนี้ และเป็นประเทศแม่ของศาสนจักรไบเซนไท ไบเซนไทนั้นถึงจะเป็นศาสนจักรอันยิ่งใหญ่แต่จริงๆแล้วเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในทวีปก็ว่าได้ เพราะเซนไทแต่เดิมคืออนาจักที่อยู่ได้การปกคลองของไซรัส ก่อนประการอิสรภาพภายใต้ชื่อของเหล่าเทพแต่ก่อตั้งสนจักรขึ้นมา ถึงจะแยกตัวจากกันแล้วแต่ไบเซนไทกับไซรัสก็ยังมีความสายสัมพันธ์อันแน่นแฝ้นกันอยู่เพราะราชาของไบเซนไทเป็นพี่ชายของ ราชาแห่งไซรัส ทำให้แม้จะไม่พูดอะไรแต่พระราชาของที่นี่ท่าน ริชาร์ด ก็สนับสนุนไรอันอย่างเต็มที่
เริ่มต้นด้วยการฝึกฝนดาบ พวกเขาได้รับการฝึกสอนโดยนักดาบที่มีฝีมือที่สุดของพระราชวัง นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรบทางด้านเวทมนต์ และความรู้ทางยุทธศาสตร์แถมทุกคนมีห้องส่วนตัวและมีเมดคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ยกเว้นคนเพียงคนเดียวคือคินโลซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรและไม่มีสิทธ์อะไรเลยด้วย
สาเหตุหลักก็มาจากเมื่อ1อาทิตย์ก่อน เกิดเหตุบางอย่างขึ้นเริ่มด้วยการที่พวกเขาถูกเรียกมารวมตัวที่ห้องโถงใหญ่ภายในวังเพื่อตรวจดูความสามารถด้านต่างๆของทุกคนและประสิทธิภาพในการต่อสู้
ตอนแรกทุกคนในที่นี้ไม่รู้ว่าจะทำกันยังไง จนกระทั่งมีนักเวทย์เสื้อขาวคนหนึ่งเดินถือลูกแก้วเขามากลางห้องและวางลูกแก้วไว้กลางห้อง มันส่องแสงชี้ไปที่ทุกคนในห้องและแสดงค่าต่างๆออกมาเป็นตัวเลขหน้าคนๆนั้น
ของคินโลคือ
พลังชีวิต 50
พลังเวทย์ 20
ความแข็งแกร่ง 10
ความเร็ว 100
ไหวพริบ 10
ดูจากพลังของเขาแล้ว จะเห็นได้ว่ามันไม่ถึงร้อยเลยอาจเป็นเพราะค่าต่างมีสูงสุดอยู่แค่ร้อยมั้ง
แต่ความคิดนั้นก็ตกไปทันทีหลังจากได้ยินเสียง
ไม่อยากจะเชื่อ นี่มันสุดยอดเลย ไรอัน!
นักเวทย์ทำท่าดีใจอย่างออกนอกหน้าเมื่อเห็น ตัวเลขหน้า ไรอัน
พลังชีวิต 600
พลังเวทย์ 550
ความแข็งแกร่ง 400
ความเร็ว 300
ไหวพริบ 480
ความสามารถพิเศษ
พลังโจมตีเพิ่มสองเท่าเมือมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ การป้องกันเพิ่มสองเท่า มีธาตุอยู่ในตัว4สาย 1.ดิน 2.น้ำ 3.ไฟ 4.ลม หากใช้ดาบแห่งแสง ระหว่างที่โจมตีศัตรู จะสามารถตัดเวทย์ที่หุ้มศัตรูอยู่ได้
เมื่อเทียบกับของคินโลมันต่างกันมากกว่าสองเท่าอีก นี่ยังไม่รวมถึงมีความสามารถพิเศษที่เพิ่มเข้ามาด้วย
พลังที่ว่ามาแทบไม่มีประโยชน์เลย
คนอื่นๆก็เริ่มตรวจสอบกัน และทุกๆคน ต่างก็มีความสามารถพิเศษติดตัวมาด้วยทั้งนั้น
แม้ค่าพลังจะน้อยกว่าของ ไรอัน แต่ทุกคนก็มากกว่าเขาสองถึงสามเท่า
ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าพวกเขาได้รับพลังจากท่านเทพอลิสมาทุกคน และ ไรอันก็ได้รับมันมาเยอะที่สุด
เพราะก็ค่าพลังของทหารทั่วไปในประเทศนี้ ขั้นต่ำก็มากว่า100กันหมด
ดูๆไปแล้วเขาได้รับพลังมาแน่หรอ?
นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในใจของเขาตอนนี้ แต่ทันใดนั้นเขาก็ชุกคิดได้ถึงบางอย่างบางอย่างที่อยู่ในตัวเขา
หลังจากที่ทุกคนรู้ ค่าพลังของคินโล พวกเขาต่างเรียกเขาว่า ตัวไร้ประโยชน์จากนั้นไม่นานมันก็แพร่ออกไปทั่วทั้งพระราชวังที่พวกเขาอยู่ ไม่มีใครไม่รู้จักเขา
คุณริชาร์ค ตีค่าเขาต่ำลงอย่างรวดเร็ว และยกระดับผู้กล้าที่แท้จริงทั้ง54คนให้สูงขึ้นเป็นอย่างมาก
ตัดสิทธ์ในการติดอาวุธให้กับคินโลและสั่งให้เขาไปอาศัยในกระท่อมเลี้ยงม้า
การศึกษาและการฝึกฝนวิชาการหากินต่างๆก็ต้องทำด้วยตัวเองตอนนี้เขาถูกเตะออกจากกลุ่มเรียบร้อยแล้ว
ทว่าเขาไม่นึกเสียใจเลยซักนิดเมือได้คุยกับแซงเกอร์แมนในโลกของจิตใจเกี่ยวกับค่าพลังของเขา
ในโลกจิตใจของเขาตอนนี้เลี่ยนไปบางนิดเดียวคือ แต่เดิมที่มีแค่เตียงอยู่บนน้ำท้ามกลางหมู่ดาว ตอนนี้เตียงอยู่บนแท่นหินสีขาวขนาดเตี้ยๆกว้างๆเป็นรูปวงกลมแซคก็เปลี่ยนไปนิดหน่อยเช่นกันในตอนนี้มีหางงอกออกมาหางนั้นเป็นโซ่ที่มีปรายแหลมคม มีเล็บสีดำที่ยาวขึ้นยิ่งเหมือนปีศาจเข้าไปใหญ่
ถ้าคิดว่าค่าพลังของแกมีแค่นี้ละก็แกคิดผิดแล้วแซกพูดด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายขณะที่นอนใช้มือกวักน้ำไปมาอยู่บนแท่นหิน
คิดผิดยังไง
ดูเองสิ แซคชีนิ้วมาทางเขาทันใดนั้นตัวเลขก็ขึ้นมาอีกครั้งหน้าตัวเขา และทำให้ตัวของเขาตกใจสุดๆ
ค่าพลังในตอนนี้คือ
พลังชีวิต 5500
พลังเวทย์ 2900
ความแข็งแกร่ง 5506
ความเร็ว 4700
ไหวพริบ 5471
ความสามารถพิเศษ
เมื่อบาจเจ็บจะรักษาตัวเองทันที่ มีธาตุอยู่ในตัว4สาย 1.สายฟ้า 2.ความมืด 3.ไฟ 4.???
ค่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แซคบอกว่าในตอนที่คินโลใช้ลูกแก้ววัดพลัง ตัวแซคก็กำลังทำบางอย่างกับพลังที่อลิสให้มาอยู่ จึงจำเป็นต้องลีบูทค่าพลังใหม่ ซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกว่าทำอะไรกับพลังนั่นและบอกแค่ว่า
ไม่มีอะไรต้องกลัวฉันก็เหมือนกับคลังข้อมูลและพลังของนายเพราะงั้นยังไงนายก็ใช้พลังได้อยู่แล้ว
และนี่ก็เป็นเรื่องที่สองที่แซคไม่ยอมบอกเขาส่วนเรื่องแรกคือแซคไม่ยอมบอกว่าตอนที่ยึดร้างไปนั้นเขาเอาไปทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะถามซักกี่ครั้งเขาก็ปิดปากสนิดไม่ยอมบอกอะไรเลย
และในตอนนี้ก็อาจจะมีเรื่องที่สามด้วย
แซค ทำใมนายถึงมาอยู่ในร้างของฉันได้ คินโลถามขณะนั่งอยู่หน้ากองไฟวิญญาณของตัวเอง
ถามทำไม
ก็ฉันเป็นเจ้าของร้างนะโวย!ก็ต้องรู้ถึงเหตุผลที่จู่ๆก็มีโคตรพลังอย่างแกมาอยู่ในร่างดิ
แล้วแกรู้จักข้าดีแค่ไหนกัน แซกถามกลับขณะที่ยืนขึ้นกอดอก
ก็เคยอ่านเจอมาในหนังสือ ตำนานเทพที่บอกว่าเทพอสูรวันสินโลกมีอยู่สี่ตน
1.อาทอเรียส สกาย เทพแห่งภัยพิบัติและความทุกข์ยาก
2.พิมลี อิม เทพแห่งโรคภัยและความเสื่อมสลาย
3.นีโล อัล เทพแห่งคว่มตายและความหวาดกลัว
4.แซกเกอร์แมน เอ็น เทพแห่งสงครามและความโกธแค้น
แล้วก็เรื่องจำพวกวีรกรรมของพวกนายเช่น ลบสวรรค์ออกไปส่วนนึงหรือตัดปีกของมหาเทพไปหนึ่งคู่จเหลืออยู่เพียงหกคู่
หึ...เจ้ารู้เพียงแค่นั้นก็ดีแล้วเพราะจริงๆข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้ามาอยู่นี่ได้ไง
หมายความว่าไงที่บอกไม่รู้
ก็ที่ผ่านมาหลังจากตัดปีกมหาเทพแล้วข้าก็ไปหลับอยู่ในภูเขาที่ข้าสร้างพอตื่นมาอีกที่ข้าก็มาอยู่ในร้างของเจ้าตอนยังเด็กแล้ว
ถ้าเป็นงั้นจริงทำไมแกไม่ยึดร้างหรือออกไปซะเลยละจะมาอยู่นี่ทำใม คินโลลุกขึ้นจากกองไฟแล้วเดินไปหาคู้สนทนา
อา...เป็นคำถามที่ดีเพราะจริงๆข้าก็มีเรื่องอยากถามเจ้าอยู่เหมือนกันว่าไอ่สิ่งนี่มันมาอยู่ในวิณญาณเจ้าได้ยังไง
แซคเดินผ่านคินโลไปยังกองไฟและใช้มือหยิบเปลวไฟส่วนหนึ่งขึ้นมาเหมือนมันเป็นของแข็งที่หยิบถือได้แล้วเดินตรงไปอีกสองสามก้าวและหยุดยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับบีบเปลวไฟจนแตกออกเหมือนแก้ว เปลวไปที่แตกออกกลายเป็นทรายสีทองล่วงหล่นลงบนผืนน้ำทันใดนั้น ก็เกิดวงแหวนเวทย์สีแดงจำนวนมหาศาลอยู่บนฟ้าท้ามกลางหมู่ดาว ราวกับวงแหวนเวทย์พวกนั้นกำลังห่อหุ้มโลกนี้อยู่ แต่นั่นก็ยังไม่หน้าตกตะลึงเทากับเบื่องหน้าของแซคมีประตูศิลาสีขาวขนาดใหญ่มากกำลังขึ้นมาเหนือผิวน้ำ คินโลเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
ประตูนี้มีรอยจาลึกอยู่เต็มไปหมด
นี่แหละสาเหตุที่ว่าทำไมข้าถึงออกไปไม่ได้
อะไรกันนายจะบอกว่านายเข้าประตูนี่ไม่ได้? แล้วเขาก็ยื้อมือออกไปเพื่อจะเปิดแต่แซคปัดมือเขาออก
อย่าเข้าไกลมันหรอเปิดมันเด็ดขาด
ทำไมอะไรอยู่ในนี้เหรอคินโลไม่ฟังและยื่นมือไปอีกครั้ง
อย่า!
ไม่ทันการ แค่เอือมมือไปใกล้ๆประตูก็แง้มออกมาแล้ว
ช้องของประตูมีไอพลังงานสีขาวออกมาเพียงนิดหน่อยมันลอยเข้าไปที่กองไฟทันได้นั้นกองไฟก็ลุกโชนขึ้นใหญ่กว่าเดิมถึง3เท่า จากตอนแรกที่เหมือนกองไฟจากกิ่งไม้กลายเป็นกองไฟที่เหมือนกับบ้านกำลังถูกเผา
และเปลวไฟบางส่วนก็พุ้งใส่แซคแต่ไม้เกิดอันตรายกับเขาแต่รูปร่างเขาเปลี่ยนไปอีกแล้ว หลังส้นเท้ามีหนามงอกออกมา รอยสักสีทองเพิ่มขึ้น รอบดวงตาเหมือนจะมีไฟสีดำเล็กๆ ลุกอยู่
เอาจนได้ทังๆที่ยังไม่ถึงเวลาแท้ๆแซคพูดขึ้นขณะสำรวจสภาพตัวเองและปิดประตู
อะไร
นั่นมันอะไร
ข้างหลังประตูนี่คือพลังอันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะมีผู้ใดล่วงรู้ และข้าขอเตือนอย่าเปิดมันก่อนจะถึงเวลาจริงๆ
ประตูปิดลงและจมสู่ผืนน้ำอีกครั้ง
มันมาอยู่ในตัวฉันได้ไง นายเอามันมาเหรอ
ไม่ใช่ข้าตั้งแต่ที่ข้าตื่นมามันก็อยู่ที่นี่แล้ว
เจ้ากลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริงซะข้าจะตั้งค่าภาชนะวิญาณใหม่ แล้วทุกอย่างก็มืดลง
เขาตื่นมาในกระท่อมตอนเช้า จริงๆวันนี้เขาแทบไม่อยากตื่นเลยเพราะวันนี้พวกเขาจะต้องไปผจญภัยครั้งแรกหลังจากถูกอัญเชิญมา และค่าพลังของเขาที่วัดได้ตอนนั้นมันต่ำเอามากๆทำให้เขาไม่คิดจะไปแต่ตอนนี้พลังของเขาเพิ่มมากขึ้นแล้วทำให้ความมั่นใจกลับมา เมื่อเขาหยิบแท่งคริสตอลทีมีไว้สำหลับเช็คค่าพลังที่นักเวทย์ให้มาดูก็เจอกลับผลที่ตกใจยิ่งกว่า
ตัวเลขที่ลอยออกมาจากแท่งคริสตอลคือ
พลังชีวิต 10524
พลังเวทย์ 9290
ความแข็งแกร่ง 11006
ความเร็ว 10612
ไหวพริบ 10471
ความสามารถพิเศษ
เมื่อบาดเจ็บจะรักษาตัวเองทันที่ มีธาตุอยู่ในตัว4สาย 1.สายฟ้า 2.ความมืด 3.ไฟ 4.แสง 5.???
-
รายชื่อสมาชิกจำนวน 2 คนที่กล่าวขอบคุณ:
-
7th October 2014 22:21
#4
สนุกดีครับ ปั่นมาเยอะๆนะครับ
-
-
8th October 2014 18:02
#5
-
-
11th October 2014 21:55
#6
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ASSASSIN S : 11th October 2014 เมื่อ 22:01
-
-
18th October 2014 17:44
#7
ตอนแรก เขียนผิดเยอะอยุ่ น่ะ แต่เนื้อเรื่องนุกดี ทำต่อๆ
-
กฎการส่งข้อความ
- You may not post new threads
- You may not post replies
- You may not post attachments
- You may not edit your posts
-
Forum Rules