การเรียนทำให้คนทีงานทำ กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็นครับ
การเรียนทำให้คนทีงานทำ กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็นครับ
PC : Intel core i5-4440 + CoolerMaster V8GTS / GTX 760 OC / Asrock H87m / HyperX 8Gb / Thermaltake Chaser A31
// ถ้าแค่ร้องเพลงหรือเต้นโยกๆ แนะนำเข้าๆไปเหอะครับ คิดซะว่าเรียนวิชาลูกเสือ พอเราโตมามันก็เป้นแค่เรื่องเล็กๆในชีวิต ตอนทำเราอาจจะไม่สนุกไปกับมัน แต่พอมาคิดถึงมันมันก็....(ไม่)สนุกอยู่ดี
แต่ถ้าเป็นแนวเรียกไปด่า ทำโทษ ไม่ต้องเข้าก็ได้ครับ
// และส่วนมากจะลงโทษด้วยการ ลงโทษเพื่อนครับ ไม่ใช่ลงโทษเรา ผมละเกลียดวิธีนี้มาก มันไม่ใจเอาซะเลย
// เรื่องสายรหัส ผมว่าลองไปหาดูก็ดีนะครับ ถ้าได้พี่ดีๆเขาก็ช่วยเราเยอะนะครับ ทั้งเรื่องหนังสือ แนวทางการเรียน อย่างน้อยๆถ้าเราอยากจะถามเรื่องชีวิตมหาลัย ก็ยังมีคนให้ถามได้ ซึ่งถ้าได้รุ่นพี่ที่ไม่ค่อยสนใจก็ช่างหัวมัน
// รุ่นพี่มี 2 แบบนะครับ จัดกิจกรรมอาจจะมีทำเสียงเข้มบ้าง แต่เขาก็อยากให้เรารักกัน เรียนไปด้วยกันแบบเพื่อนได้ แต่แบบที่ด่าเอาตามอารมณ์ก็มีครับ (ซึ่งในเคสนี้น่าเห็นใจ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ และทางพี่ๆก็พยายามไม่ให้พี่แบบนี้มีบทบาทมากอยู่แล้วครับ) ไม่มีใครอยากให้มีคนเกลียดเยอะๆหรอกครับ
// เรื่องเพื่อนมันอยู่ที่บุคคลเป็นหลักครับ ส่วนเรื่องรองก็เป้นสถานที่ มปลาย มหาลัย ทำงาน ถ้าเป้นเพื่อนมปลายกับทำงาน ก็มักจะอยู่จังหวัดเดียวกัน มันก็เลยง่ายในการนัดเลี้ยงนัดเที่ยวทำให้สนิทมากกว่า เพื่อนมหาลัยที่พอจบไปทำงานคนละที่ก็ไม่ได้เจอกันแล้ว
ผมจบมา 3 ปีละครับสำหรับคนอื่นคิดยังไงผมไม่รู้หรอกนะแต่ผมว่าคุณจะเสียดายแน่นอนในช่วงปีสุดท้ายถ้าเคยเข้ารับน้อง
ผมเรียนคณะวิศวะครับ รุ่นพี่นัดไปร้องเพลงไปทำกิจกรรมนู่นนี่นั่นอยู่บ่อยๆ สนุกมากๆครับ เพื่อนในคณะไปทุกคนเลย ทุกคนที่นี่รักกันดีมากครับ เหมือนมันเป็นประเพณีไปแล้ว ใครไม่เข้าก็ได้นะครับ แต่ขนาดอาจารย์ที่นี่ยังบอกเลยว่าทำไปเถอะครั้งหนึ่งในชีวิตมหาลัย จะได้เป็นประสบการณ์ของชีวิต ได้เพื่อนใหม่ๆเยอะกว่าไปหาเองแน่นอนครับ ^^
อย่าคิดมากครับ หลักๆ คือทำความรู้จักเพื่อนๆ ส่วนผมไปจีบ ญ มันก็สนุกดีได้ความสัมพันธ์
แค่โดนว๊ากนิดหน่อย เค้าจะไม่มีการทำร้ายเรา แค่พูดดูถูกถากถาง หดหู่ แล้วทำให้หมดกำลังใจ มันเป็นเกมของเค้าหละครับผมมม
ไม่ค่อยเข้าใจนะ ว่ากลัวรับน้องกันทำไม ส่วนมากก็แค่เจอรุ่นพี่บลัฟ เพราะ"พี่ไม่มีสิทแตะตัวน้อง" เพราะมันจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลไป
รุ่นพี่ไม่มีสิทโกนผมรุ่นน้อง ถ้ามีสามารถแจ้งความได้ทันที
ตอนนี้ผมก็เฟรชชี่อะครับ มีกิจกรรมไรก็ทำเต็มที่ ชีวิตมีครั้งเดียวที่จะได้เป็นเฟรชชี่ ใช้ให้คุ้ม
อย่าไปใส่ใจเลยครับไปเรียนเอาความรู้ไม่ได้ไปนั่งตบมือ บอกว่าจบไปแล้วไม่มีคนนู้นคนนี่ช่วย จะไหวหรอโลกมันโหดร้าย บลาๆ จะไหวไม่ไหวอยู่ที่เราครับคุณเก่งในหน้าที่การงานมีหรอครับที่เขาจะมานั่งถามว่าร้องเพลงได้เปล่าตบมือเก่งไหม พวกที่ไม่ไหวคือคุณมันกระจอกเองโทษตัวเองอย่าโทษใคร
My Device : Cpu-Intelcore I7-4770 MB-AsRock Fatal1ty H87 performance GPU-GTX770 Ram-Hyperx 8GB (4*2) Case-Corsair 300r
ไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้า เขาไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องเรา ไม่ใช่ครูอาจารย์ ไม่ใช่เจ้าของบริษัทอะไรที่เราจะมีผลประโยชน์ด้วย
คุณก็แค่ไปเรียนทำงานส่งอาจารย์ กลับบ้านกินข้าวเล่นคอมแล้วก็นอน เบื่อๆก็คุณกับเพื่อนๆเก่าๆ ไปเตะบอล ว่ายน้ำ พาแฟนไปกินข้าวดูหนัง
แค่นั้นเองง่ายจะตาย ตั้งแต่เด็กจนโตก็ทำมาตลอดไม่ยากเลยครับ
แต่ถ้าอยากเข้ารับน้อง อยากลองก็เข้ารับดูครับ ความกลัวความกล้าความบ้าความอาย มันมีกันทุกคนครับ มันต้องลอง
เกิดมาครั้งเดียว ข้อดีข้อเสีย มันมีอยู่แล้วครับ เทคนิคคือเวลาคุณโดนรับน้องคุณอย่าคิดอย่ากดดันตัวเอง ปล่อยไป
ถ้าอยากจะถามว่าข้อดีมันคืออะไร ผมก็คงบอกไม่ได้มันแล้วแต่คุณว่าจะรับอะไรดีๆมามั่ง รับมาก็ส่งต่อให้รุ่นต่อไป
ครูอาจารย์ที่สอนผมมาเขาก็รับกันมา แต่จะได้อะไรนั้นอยู่ที่ตัวเราเอง
คนที่เขาไม่เข้ารับเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเข้าอะไรกัน จริงเปล่า ดังนั้นลองซะ สู้ สู้..
CPU = I5-8500 /RAM = 8G/GPU = GTX1070
ผมว่ารุ่นพี่ปี2คุณไม่น่าเคารพเลย ขนาดพี่บางคนมันยังไม่เคารพเลย บางคนอาจจะไม่สนใจเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องอะไร บางคณะอาจจะมีรุ่นพี่แย่ๆก็จริง ผมปี4แล้ว โชคดีที่รุ่นพี่คณะผมดีๆทุกคน ผมกล้าเรียกพวกเค้าว่าพี่ได้เต็มปากเต็มคำเหมือนพี่น้องแท้ๆได้เลย อาจจะมีบางคนที่ผมไม่ชอบ ก็ไม่ยาก ผมก็ไม่เคารพ แต่ก็ไม่เคาเอาเค้ามาพูดในทางไม่ดี
เรื่องของการรับน้องเข้าดีมั๊ย ถามง่ายๆเลย ว่าอยากรู้มั๊ยมันเป็นยังไง?ถ้าอยากรู้ก็ไปจบ บางคนอาจจะบอกว่าเหมือนๆกันหมดแหละทุกที่ ผมว่ามันเป็นประเพณีที่สวยงามของแต่ละคณะครับ บางคณะก็ต่างกันไป รุ่นพี่เค้าไม่มีใครบังคับให้มาจัดให้พวกคุณ ผมว่าการจะจัดงานอะไรขึ้นมา ถ้าไม่มีใจในการจะทำให้ เค้าไม่ทำหรอก ไม่เกี่ยวเลยครับว่าไม่เข้าจะไม่มีเพื่อน ใครที่คิดหยั่งงั้น แล้วก็ไม่เกี่ยวเลยครับ ว่าเข้าแล้วจะไม่มีเพื่อนไม่ได้ การจะมีเพื่อนมีพี่อยู่ที่มนุษยสัมพันของบุคคลล้วนๆเลย จุดประสงค์ของการรับน้องมันเยอะครับ ไม่ใช่ว่า มาเป็นที่่ระบายอารมจากรุ่นก่อน(พวกวาค) ไม่ใช่เค้าบังคับให้ไป ผมคิดว่ามันเป็นที่อันล๊อคอชีพเม้นเลยครับ อะไรที่คุณไม่กล้าจะแสดงออก กล้าคุยกะเพื่อนคนอื่นๆ คุณจะได้รับรู้ ที่สำคัญมันได้เห็นถึงสันดานคนครับ บางสายงานการรู้จักรุ่นพี่ไว้เยอะๆก็ดี เพื่อนผมรู้จักพี่ๆ จนเป็นเส้นสายเข้าวงการก็เยอะ
การตัดสินใจอยู่ที่ตัวคุณเอง คุณไม่ต้องมาถามใครล่อเป้าหรอก ผมก็แค่แวะเข้ามายิงเป้าเท่านั่น อยากรู้มั๊ย? แค่นั่น ลองๆไปคงไม่ถึงกะชีวิตอะไร
.....................................................................
อยากสนิทกับเพื่อน = ก็ทำเหมือนตอนเรียนมัธยมแหละ คบเพื่อนกันยังไงละ
อยากได้ประสบการณ์ไว้ใช้ตอนทำงาน = ไปทำเซเว่นยังได้ประโยชน์กว่า แถมเจอคนทำงานจริงสอน ไม่ใช่รุ่นพี่ที่ยังขอตังพ่อแม่
อยากฝึกความอดทน = ไปออกกำลังกายเอา ได้สุขภาพด้วย ดีกว่าไปมุดดิน คลุกโคลน
อยากได้เส้นสาย เป็นลู่ทางทำงาน = ถ้าได้งานเพราะสนิทกับคนใน แต่ตัวเราไม่เจ๋งพอ จะไปเป็นภาระคนอื่นเขา อยู่ไปก็ไม่สบายใจหรอก
อยากทำกิจกรรม = กิจกรรมในมหาลัยมีเยอะแยะ หรือนอกก็มีไปเป็นอาสาสมัครตามงานต่างๆ เอาไปอ้างอิงตอนสมัครงานได้ด้วย
รับน้องเป็นแค่เรื่องของความชอบ ชอบก็เข้าไป ถ้าคนมันชอบก็คงสนุก แต่ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องเข้า ไม่มีอะไรต้องมานั่งเสียดาย ชีวิตมันมีทางเลือกเยอะแยะ
สิ่งที่รุ่นพี่ที่นิยมการรับน้องคิดผิดก็คือไปพยายามบีบทางเลือกอันหลากหลายนี้ให้เข้ามาอยู่ในคำๆเดียวคือการรับน้องและโซตัส ซึ่งผิดจากความเป็นจริงมาก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Neotridagger : 15th August 2014 เมื่อ 23:44
เข้าตลอด ปีหนึ่งรับทุกอย่าง(ผมมันเป็นพวกเรื่อยๆชิวๆ) ว้าก ขี้โคลน สี สั่งซ่อม ก็แค่นั้นแหละครับผมก็ทำๆไปงั้นแหละ เสร็จรับน้องก็เรียนเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ปีสองผมก็แค่เฝ้าฐานทำนุ่นทำนี่ช่วยเพื่อนแล้วก็โนพี่ปีสามสั่งลงโทษ ปีสามก็นั่งดูปีสองเขารับน้อง ปีสี่ก็นั่งดูเหมือนปีสาม ปีห้าไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะไปฝึกสอน
ผมว่ามันก็คงไม่มีอะไรหรอกครับ ถ้ามันเกินเลยจริงๆผมว่ามันก็ไม่น่าหรอก
ผมไง ไม่เคยไม่เข้า