คือว่า บางที่มันอัดอั้นน่ะครับ แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว
ถอยหลังก็ถอยไม่ได้แล้ว ทั้งๆที่ตั้งใจไว้จะไม่ให้เกิดขึ้นแล้วแท้ๆ
อาจจะยาวไปก็ขออภัยสำหรับ บางท่านด้วยนะครับ
คือหลายๆคนอาจจะสังเกตุผมในหลายๆมู้ที่ค่อนข้างจะบ้าๆบอๆ คราวนี้ขอเครียด + ดราม่าสักมู้ล่ะกันครับ
คือผมเรียนอยู่ มหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 5 คณะ ครู (ไม่ขอบอกนะครับว่าเป็น ครุฯ หรือ ศึกษาฯ กลัวหลายๆคนจะมอง มหาลัยผมไม่ดี)
แล้วผมก็ต้องออกฝึกสอน ซึ่งผมก็เลือกโรงเรียนมัธยมศึกษา ขนาดกลางโรงเรียนหนึ่ง ซึ่งนักเรียนไม่เยอะมากไม่ถึงพันคนครับ
โดยโรงเรียนนี้ไม่ค่อยจะมีอะไรที่โดดเด่นเป็นพิเศษ แล้วผมก็เป็นศิษฐ์เก่าของที่นี้ โดยการออกมาฝึกสอนช่วงแรกๆ ก็โอเคครับสนุกสนาน ร่าเริงดี
นักเรียนก็สนใจ การเรียนก็เฮฮาเพราะเวลาผมสอนผมจะ หยอดมุกกวนๆ ไปด้วยแต่ที่ผมพลาดคือ ผมใจดีและปล่อยจนเกินไป
และดันไปสนิทกับกลุ่มเด็กผู้หญิง จนเกินไปซึ่งบางครั้งก็หยอกกับนักเรียนเหมือนเพื่อนไปเลย
แถม Facebook ก็มีนักเรียนแอดมาตลอดทั้งๆที่ผมไม่ได้บอกชื่อเฟสใคร ทั้งห้องที่สอนและไม่ได้สอน
แต่คงเป็นเพราะผมใช้ชื่อเฟสเป็น ชื่อ - นามสกุลจริง แถมผมยังเคยโพส QR Code ของ Line ในเฟสด้วย
ผมถูกมอบหมายให้สอนชั้น ม.5 สายวิทย์ สองห้องครับ ห้องเก่ง 1 ห้อง ห้อง ธรรมดา 1 ห้อง ซึ่งการสอนช่วงแรกก็โอเคครับ
เต็มที่กับการสอน นร. ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ช่วยงานคุณครูเท่าที่ทำใด้ เพราะโรงเรียนนี้แม้จะไม่มีอะไรเด่น แต่การทำงานนี้ค่อนข้างเป้ะครับ
เวลาผมทำงานถึงมันจะไม่ดีเลิศ แต่ก็พอส่งให้ครูชมใด้ในระดับหนึ่ง
จนในที่สุดผมต้องมาชะงักกับเหตุการณ์หนึ่ง อ่านได้ในกระทู้นี้ครับ >>> Click!
ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ผมเซ็งมากว่าทำไมเรื่องบ้าๆต้องมาเกิดขึ้นกับผมด้วย ทั้งๆที่ผมก็ไม่คิดจะเจ้าชู้แบบพ่อ ไม่อยากทำร้ายผู้หญิง คำหยาบยังไม่เคยพูดกับผู้หญิงเลย
ช่วงนั้นผมก็ซึมไปเลยทำงานแบบช้าๆ สอนแบบมึนๆ แถมยังมาเป็นไข้ด้วยแย่มากครับช่วงนั้น คุณเธอก็โทรมาแสดงความเป็นเจ้าของตลอด
แถมยังจะให้ผมไปหาเพื่อจะได้มีอะไรกับผม จนผมกับพ่อเกือบผิดใจกัน เป็นอย่างนี้เกือบเดือน
จนในที่สุดผมตัดปัญหาโดยการปิดมือถือ งดออนเฟส เป็นระยะเวลา เกือบอาทิตย์ เธอก็โทรมาหาผมน้อยลง
แต่ก็ยังโทรมาจิกผมตลอดจนเลิกโทรมาแต่ ก็ยังมาแสดงความเป็นเจ้าของอยู่เรื่อยๆ
จนผมเริ่มเซ็งกับ Facebook จนคิดจะปิดมันทิ้งจริงๆ แต่ทำงั้นก็คงจะลำบากเพราะเพื่อนๆผมมีอะไรชอบแจ้งข่าวทาง Facebook
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมเลิกรับเพื่อนมั่ว ไม่ตอบแชทแปลกๆ และมาวันหนึ่งผมจำได้ดีเลย วันที่ 20 เดือน มิถุนายน มีคนส่งสติ้กเกอร์มาให้ผมทาง line
ผมเห็นรูปโปรไฟล์แล้ว เป็นรูปเด็กผู้หญิง (มารู้ที่หลังว่าเป็นรูปน้องยูเค) และ ชื่อเป็นภาษาจีน ผมไม่คุ้นเลยไม่คิดจะตอบ เพราะเข็ดอยู่แต่เธอก็ส่งสติ้กเกอร์มาอีกอัน
ผมก็เลยตัดรำคาญส่งสติ้กเกอร์ ที่มีคำว่า "บ้าย บาย" กลับ ได้ผลเงียบไปเลย..........
ต่อมาอีก 6 วัน เธอส่งสติ้กเกอร์มาอีก ผมหมดความอดทน กำลังจะด่ากลับก่อนจะบล็อค แต่ก่อนพิมพ์ผมเห็นรูปโปรไฟล์ "อ่าว.....! นักเรียนนี้หว่า"
ผมก็โล่งใจ คิดว่านักเรียนคงอยากเล่นด้วยล่ะมั้ง ก็เลยคุยไปเล่นๆ แต่คุยกับช่วงแรกๆ เธอไม่ยอมให้ผมเห็นหน้าเลยว่าอยู่ห้องไหนชั้นอะไร รู้แค่ว่าอยู่ ม.ปลาย
ผมก็เห็นหน้าเธอแต่ใน Line ก็เป็นเด็กที่หน้าตาน่ารักดี อยู่ม.ปลาย แต่หน้าเด็กมากเหมือน อยู่แค่ ม.ต้น เวลาใกล้เลิกเรียน หรือว่างๆ ผมจะไปนั่งที่ศาลา
ข้างสนามฟุตบอล เธอก็จะแกล้งผมโดยการบอกว่าเห็นผมตลอด รู้ว่าผมทำอะไรท่าไหน ผมก็ได้แต่งงๆบ่นๆว่า "อ้าว ยัยเด็กนี้ กวนประสาทดีจริง"
ผมก็คุยกับเธอไปเรื่อย แรกๆก็เรื่องเรียน การเรียนต่อ แนะแนวการศึกษา พอไปๆมาๆ ก็สนิทกันมากๆเข้า ก็คุยเรื่องทั่วๆไป เรื่องส่วนตัว เฮฮากันไป
ช่วงคุยแรกก็คิดว่า ยัยเด็กนี้คุยสนุกดีวุ้ย ทำให้ผมลืมความเซ็ง จากเรื่องแฟนเก่าพ่อผมได้ แต่ช่วงนั้นผมก็ยังไม่คืออะไร เลยนอกจากนักเรียนธรรมดาๆ
แล้วมันก็มาถึงจุดเปลี่ยนครับ ช่วงนั้นโรงเรียนมีกิจกรรมวันสุนทรภู่ เธอได้ถูกเลือกให้แสดงละคร เธอก็บอกผมว่าจะได้แสดง ผมก็แซวๆไปว่า แสดงชุดไหนล่ะจะได้ไม่ดู
เธอก็บอกว่าแล้วแต่ ก็เฮฮากันไป จนถึงช่วงค่ำๆ ก่อนวันงาน เวลาเกือบๆ ทุ่มเธอก็ Line มาหาผมบอกว่า
อยู่โรงเรียนคนเดียวเพราะเธอกลับบ้านไปเอาชุดเพราะต้องไปค้างบ้านเพื่อน เพราะบ้านและโรงเรียนอยู่ไกลมากๆ และวันงานเธอต้องมาตั้งแต่ ตี 2
ในใจก็เริ่มเป็นห่วง นักเรียนแล้ว แหละเพราะโรงเรียนตอนกลางคืนเปลี่ยวมาก และอันตราย ผมเลยบอกว่าจะไปรับ ผมคะยันคะยอว่าจะไปรับอยู่ซักพัก
จนในที่เธอก็บอกว่าเพื่อนมารับแล้วไม่ต้องห่วง ผมก็โล่งใจ นักเรียนปลอดภัยก็ดีแล้ว จากนั้นซักพักเธอก็ Line มาบอกผมว่าจะไป
ตลาดนัดเปิดท้ายขายของชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยจะไปกับกลุ่มเพื่อนๆ อีกสามคน ผมก็คิดในใจว่า จะบ้าเรอะ นักเรียนหญิงกับครูชาย เดินด้วยกันมันคงดูไม่ดี
ถึงจะไปเป็นกลุ่มก็เถอะ ผมเลยปฎิเสธไม่ไป ต่อมา สี่ทุ่ม เธอ Line มาบอกว่ากลับมาแล้ว ผมก็ถามไปว่าสนุกมั้ยได้กินอะไรบ้าง เธอก็บอกว่าไม่ได้กินอะไรเลย
เพื่อนเอาแต่พาเดินซื้อเครื่องสำอาง และก็บอกผมว่าหิวมาก
ผมก็ถามเธอเล่นๆว่าบ้านเพื่อนอยู่ไหน เธอก็บอกว่า บ้าน*** หมู่บ้าน ***
ผมก็ อ่าว เฮ้ย......! หมู่บ้านเดียวกันนี้หว่า ผมก็ถามอีกว่า ซอย 1 มั้ย เธอก็ตอบว่าใช่ ผมถึงบางอ้อ ในหมู่บ้านผมมีนักเรียนคนหนึ่งที่เรียนโรงเรียนนี้
และอยู่ซอยเดียวกันซึ่งผมเห็นมาตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ ผมก็เลยดูเวลา สี่ทุ่มกว่าๆ แล้ว คงไม่ค่อยมีใครสังเกตุแล้วมั้ง ผมเลยชวนเธอออกไปหาอะไรกินเธอก็บอกตกลง
พอผมเจอตัวเธอจริงๆ เท่านั้นแหละครับ มันมีความรู้สึกหลายๆอย่างเล่นเข้ามา ตัวเธอสูงซักประมาณ 150 ได้ น่าถนุถนอม ตาดูดุๆ ท่าทางเอียงอาย ไหล่เล็กๆ
น่าโอบ ผมอึ้งได้ซักพักหนึ่ง พอรวบรวมสติได้ก็ชวนคุยแก้เขิน แซวเล่นและจะลองลูบหัว (ผมชอบลูบหัวอะไรที่น่ารักๆอ่ะครับ) เธอก็หลบแถม ทำท่าอายๆ
ในใจก็คิดว่า โอ้ย ! น่ารักว่ะ........! ผมก็พาเธอไปซื้อบะหมี่ และแวะซื้อขนมที่เซเว่น เธอก็ขอบคุณผมใหญ่เลย หลังจากวันนั้นผมก็คุยกับเธอตามปกติ
จนวันหนึ่ง อะไรมาดลใจ ผมชวนเธอไปดูหนัง ทั้งๆที่รู้ว่าเสี่ยง แต่มันพลั้งปากไปแล้ว เธอก็ตกลง ถึงวันจริงๆ ผมก็คิดว่าแค่เดินข้างกันก็คงไม่เป็นไรมั้ง
ถ้ามีใครเห็นก็บอกว่าบังเอิญมาดูหนังเรื่องเดียวกัน รอบเดียวกัน เลยชวนคุยกันเล่นๆ แต่ผิดคาด ถึงวันจริง ผมกับเธอเจือกใช้ชุดเหมือนๆกันอีก
เลยดูเหมือนคู่รักมาก ผมก็ได้แต่บอกว่าคงไม่เป็นไร จังหวะที่ไปดูรอบหนังนั้น คนแน่นและตัวเธอเล็กมากๆ เธอก็เดินมาจับมือผมแน่นเลย ผมหน้าแดงมาก
แต่ในใจกลับสบถว่า "ชิหายล่ะ ชิหายล่ะ ชิหายล่ะ ชิหายล่ะ" คงไม่มีใครเห็นนะ และพอเข้าโรงหนังดูได้ซักพักเธอก็มาซบผม ผมก็ได้แต่ "อ่าวๆๆๆๆๆๆๆ"
ทำอะไรไม่ถูก แต่ผมเธอก็หอมดีนะ = =" ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมตัดสินใจเลย โทรไปเคลียร์กับอดีตแฟนพ่อผม เพราะผมก็คิดว่า ยังไม่เคยเจอกัน
ยังไม่มีอะไรที่เกินเลย คงตัดง่ายอยู่หรอกมั้ง สุดท้ายก็เคลียร์ได้แม้เธอจะดราม่าใส่ผมเป็นกระบุงก็เถอะ
Edit มาต่อล่ะครับ
หลังจากที่ผมเคลียกับอดีตแฟนพ่อได้แล้ว ก็เท่ากับว่าผมว่างแล้ว ผมก็กล้าคุยกับเธอได้อย่างสนิทใจขึ้น และผมก็ลองตะล่อมถามเกี่ยวกับแฟน และเรื่องทั่วไปจากเพื่อนองเธอ
ก็ทำให้รู้ว่าเธอโสดแต่ก็ยังวางมาดเป็นครูอยู่ เพราะผมจะเรียกชื่อจริงเธอเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน และวางมาดขรึม แต่เจอหน้าทีไรมักจะมีอาการอายๆ ให้กันทั้งคู่อยู่ดี
จนเพื่อนๆในกลุ่มของเธอแซวเล่น จนรู้ข้อมูลมาว่า เธออยู่ห้องสายศิลป์ภาษา และไม่ได้เรียนกับผม และหลังจากนั้นเธอมีปัญหาอะไรก็จะมาปรึกษาผมตลอด ทั้งเรื่องเรียนต่อ
การกู้เงิน กยศ. บ้างขอให้ผมช่วยแนะนำรายงานบ้าง จนเพื่อนๆที่ฝึกสอนด้วยกันผิดสังเกตุ และเค้นถามผมจนผมต้องยอมเล่าให้ฟัง เพื่อนก็เข้าใจครับ และก็ได้เตือนให้ระวัง
ตัวเอาไว้ เพราะครูกับนักเรียนมันดูไม่ดี แถมวันที่ไปดูหนังก็มี คุณครูที่โรงเรียนเห็นด้วย แต่แกไม่พูด
ซึ่งผมก็คุยกับเธอไปเลยๆ จนวันหนึ่งผมตัดสินใจ (แบบมึนๆ) บอกชอบเธอไป(แบบมึนๆ) เพราะด้วยบอกไป แบบมึนๆ เลยไม่ได้เรียบเรียงอ่ะไรเลย ซักเธอก็เงียบไป
ชิหายล่ะ ทำอะไรไม่ถูกเลย มึนๆงงๆ เลยโทรหาแบบมึนๆ บอกขอโทษเธอ แต่ที่พูดมาทั้งหมดคือความจริงนะ เธอก็ตอบว่าเข้าใจ และก่อนวางสายเธอก็บอกว่า "ฝันดีจ้ะ ที่รัก"
เท่านั้นแหละครับ...... ตัวลอยเลย ฟิน ดีใจ ซึ้ง วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมากๆ
ต่อมาเธอต้องมารำในวันแห่เทียนเข้าพรรษาครับ เธอต้องมาแต่งตัวแต่ ตีสอง และคราวนี้เธอมาของค้างบ้านผม อ้าว ! ชิหายอีกรอบแม่ยังไม่รู้ว่าตรูมีแฟน
แถมเป็นนักเรียนอีก เอาไงดีล่ะ ทีแรกก็บอกแม่ไปว่าเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย แต่ไปๆมาๆ แม่จับได้เพราะไปเห็นชุดพละในกระเป๋าที่เตรียมมา
จนผมโดยเรียกไปดุเกือบสองชั่วโมง แต่หลังจากดุเสร็จก็อนุญาติให้คบต่อได้เพราะ เข้าใจลูกและบอกให้ระวังตัวและวางตัวดีๆ (อีกอย่างแม่ผมก็เป็นครู)
ซึ่งการเป็นแฟนกับนักเรียนก็ดำเนินต่อไปจนวันหนึ่งเป็นช่วงสามอาทิตย์สุดท้ายในาการฝึกสอน และผมทำพลาดอย่างแรก ผมนั่งทำงานในห้องวิทยาศาสตร์
ซึ่งอาคารจะอยู่หลังโรงเรียนเย็นๆไม่ค่อยมีนักเรียน จะมีก็แต่นักกีฬาโรงเรียนมาโรงเรียนมาซ้อม และอาจารย์ที่ประจำตึกเท่านั้น
และน้องเค้าจะชอบมานั่งเล่นกับผมในห้องนี้เสมอผมจะนั่งพิมพ์งานที่โต้ะครู น้องเค้าก็เล่นโทรศัพท์ที่โต๊ะนักเรียน แลัววันนี้อะไรดลใจผมก็ไม่รู้
ผมเดินไปหาน้องเค้า ผมบอกกับน้องเค้าว่า "อดทนอีกไม่เท่าไรแล้ว เราก็ไม่ต้องแอบคบกันแล้ว" จากนั้นผมก็ก้มลง จูบน้องเค้าครับ จูบแบบ French Kiss อ่ะครับครับ
ตอนนั้นสมองโล่งไปหมด ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่จูบกันก็เถอะ แต่ครั้งนี้แปลกออกไป จากนั้นก็คุยตามปกติ ก่อนกลับน้องเค้าก็ขอหอมแก้มผม
คืนหนึ่งครับปัญหาก็เข้ามาทันที ครูพี่เลี้ยงโทรมาต่อว่าผม บอกว่ามีคนเห็นเหตุการณ์ในห้องนั้นนะ
ผมก็อึ้ง และก็ยอมรับบอกกับครูไปว่าจะให้ผมไม่ผ่านหรือส่งตวกลับก็ได้ครับ
แต่ ครู แกบอกกับผมว่า ครูแก้ตัวให้แล้ว แต่อย่าให้มีครั้งต่อไป เพราะตอนนี้ข่าวแพร่เร็วมาก
และมันก็จริงครับมันเป็นสามอาทิตย์ สุดท้ายที่ผมทรมานมาก ทั้ง สายตาของครูหลายๆ คนที่มองผม มีทั้งมองไม่ดีเป็นส่วนมากซึ่งมันก็จริงๆ บางคนก็มองแบบเข้าใจ
และมองแบบไม่สนใจอะไรเลย แน่นอนครับโดนนินทากันสนุกปากเลย กว่าผมจะจบฝึกสอน ซึ่งจะให้มันจบแบบสวยงามมันก็ทำไม่ใด้
ผมก็รู้ตัวนะว่าไม่เหมาะสม มันผิดจรรญาบรรณครูอย่างมากเลย
แต่ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยผมรักเธอมาก อยากปกป้อง อยากดูแล อีกอย่างเธอเป็นคนที่มีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกับผม ทั้งปัญหาครอบครับ
มีอดีตที่เลวร้าย เหมือนๆกับผมอ่ะครับ
ผมก็อยากทราบความเห็นแตล่ะคนว่ามีทัศคติยังไงกับเรื่องของผมครับ
ผมกลับเข้าไปโรงเรียนนี้ไม่ได้แล้วใช่มั้ยครับ
ผมทำผิดมากมั้ยในสายตาแต่ล่ะคน
ป.ล. ผมอายุ 23 มหา'ลัยปี 5 น้องเค้า 17 อยู่ชั้น ม.5 ค่อนข้างห่างกันพอดู
ป.ล.2 ผมสูง 176 ซ.ม. หน้าแก่(นอนดึก) น้องเค้า 151 ซ.ม. (หน้าเด็ก)
ป.ล.3 ตอนแรกน้องเค้าเรียนไปงั้นๆ ไม่สนใจอะไรจนผมเริ่มพาน้องเค้าแนะแนวการเรียนต่อ น้องเค้าก็มีจุดหมายที่จะไปต่อ