ยินดีต้อนรับเข้าสู่ jokergameth.com
jokergame
jokergame shop webboard Article Social


Colocation, VPS


joker123


เว็บไซต์เราจะอยู่ไม่ได้หากขาดเขาเหล่านี้ รวมช่วยกันสนับสนุนสปอนเซอร์ของพวกเรา

colocation,โคโลเคชั่น,ฝากเซิร์ฟเวอร์ game pc โหลดเกม pc slotxo Gameserver-Thai.com Bitcoin โหลดเกมส์ pc
ให้เช่า Colocation
รวมเซิฟเวอร์ Ragnarok
Bitcoin

หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 12 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 1 ถึง 25 จากทั้งหมด 34
  1. #1
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Oct 2011
    กระทู้
    1,660
    กล่าวขอบคุณ
    1,155
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,568

    เรืองของ สาขา จิตวิทยา ทำไมคนถึงไม่ค่อยรู้ จักและคิดว่าเป็นพวกโรคจิตหรือง่ายๆว่าบ้า

    ซึ้งผมอยากได้ความเห็นสักหน่อยคับ เพราะผมจะไปเรืยนทางด้านนี้คือ หาตัวเองเจอแล้วสักที แต่พอมีคนถามว่า จบแล้วจะไปเรียนไร

    พอผมบอกไปว่าไปเรียน จิตวิทยา วะ บางคนบอก สาขาไรวะไม่รู้จักมั่งไรงี้ และอืกหลายๆคน ก็พูดออกมาเสียงเดียวว่า เมิ งจะไปเป็นไอ้ บ้า หรือ บ้าไงเมิ งอะ

    ซึ้งผมก็ไม่สนใจหรอก และอืกอย่างคณะนี้ในประเทศเราไม่ไห้ความสำคัญสักเท่าไร แต่ทั้งในที่นี้ซึ่งมันต่างกับต่างประเทศมากซึ่งยังประเทศ USA ได้

    ชั่วโมงละ 500-700 เรียญ ซึ่งถือว่าเยอะมากในบ้านเรา แต่ทำไมคนถึงไม่ค่อยนิยมและไม่รู้จักกันมากนัก ซึ่งปีไหนนี้แหละ รับ ป.ตรีนี้ละมั่ง 200 คน ทั่วประเทศ

    แต่ที่ได้มานั้นไม่ถึง 50 คนเลยด้วยที่เรียนคณะนี้ ถือว่าน้อยมากเลยทีเดียว

    ซึ่ง จิตวิทยา มันต่าง กับ จิตแพทย์ คือ จิตวิทยา ใช่ความสัมพันธ์ในการบำบัด ส่วน จิตแพทย์ นั้นใช่ยา นั้นเอง แต่ทำไม ทำไม ชอบว่า บ้า เพี้ยน กันจัง

  2. รายชื่อสมาชิกจำนวน 8 คนที่กล่าวขอบคุณ:


  3. #2
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    1,095
    กล่าวขอบคุณ
    624
    ได้รับคำขอบคุณ: 885
    ผมว่าคนที่บ้าและ"โง่" นั่นคือคนที่มาว่าคุณมากกว่า ที่ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ความรู้ก็ไม่หาแล้วว่าคนอื่นเสีย ๆ หาย ๆ
    งานจิตวิทยานี้ผมว่าไทยเรายังขาดแคลนอยู่มากนะครับ ไม่เหมือนฝั่งตะวันตก อยากเรียนอะไรก็เรียนไปเถอะครับ จะต้อง
    ไปสนใจขี้ปากคนไร้ความรู้ทำไม แต่ปกติปริญญาตรีบางสาขาก็ต้องเรียนวิชาจิตวิทยาเบื้องต้นนะครับ ไม่ได้เจาะลึกมาก
    ปล.เรียบเรียงการใช้ภาษาไทยใหม่สักหน่อยก็ดีนะครับ

  4. #3
    - Deception Inception -
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,459
    กล่าวขอบคุณ
    1,175
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,879
    ดีแล้วครับผมยังอยากเรียนเลย อยากเรียนกฏหมายด้วย แต่ถ้าเรียนแล้ว
    เราต้องตั้งเป้าหมายอนาคตเราเลยนะว่าจบไปจะทำอะไรบ้าง

  5. #4
    ヾ(@⌒ー⌒@)ノGhibli-Lover( ゚д
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    2,110
    กล่าวขอบคุณ
    9,171
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,214
    ผมว่าไปเรียนแพทย์แล้วต่อเฉพาะทางดีกว่ามั้ยคับ เพราะเวลาคนไข้เค้าไปรักษาก็ไปหาหมอก่อน แล้วค่อยให้นักจิตบำบัด(นักจิต คือ คนที่จบจากจิตวิทยา)

    ผมว่าเรียนหมอดีกว่าคับ เงินเดือนดีกว่า แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก่อนผมก็เคยสนใจสาขานี้นะคับ แต่ตอนนี้รู้สึกอยากเป็นเภสัช ตอนนี้กำลังอ่านหนังสืออยู่คับ ม.6

    จะสอบแล้ว เหนื่อยมากเลย

  6. #5
    ╰☆╮╰☆╮╰☆╮╰☆╮╰☆╮
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    สิงอยู่ในเมะฮาเร็มทั่วๆไป =w=b
    กระทู้
    1,229
    กล่าวขอบคุณ
    239
    ได้รับคำขอบคุณ: 303
    ที่ผมเรียนก็มีวิชาบังคับให้เรียนจิตวิทยาพื้นฐานอยู่เหมือนกัน
    เรียนกัน50กว่าคนแต่ผ่านได้ประมาณ5คน (รวมผมด้วย) และคนที่ผ่านส่วนใหญ่ไม่มีหนังสือเรียนวิชานี้
    ผมว่ามันอยู่ที่ความเข้าใจและการคิดวิเคราะห์มากกว่าการเรียนตามตำรา เพราะคนไทยส่วนใหญ่จะมองสายที่ผิดแปลกจากปกติเป็นสิ่งที่ตัวเองจินตภาพเอาไว้ตลอด

    อย่างผมบอกว่า ผมเรียนคณะศิลปกรรม ทุกคนจะมองเห็นผมในรูปแบบเซอๆ ถือกระดานเดินไปเดินมา 555+
    ส่วนถ้าผมบอกว่าผมเรียนหมอ ทุกคนจะมองผมว่าเป็นคนเรียนเก่งเรียนดี ใส่เสื้อกราวเรียน ประมาณนี้

    ความคิดคนเรามันเปลี่ยนกันยากครับ แต่ใช่ว่าจะเปลี่ยนไม่ได้
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย icezaazark : 13th October 2014 เมื่อ 22:38

  7. #6
    ว่างๆถ้าไม่ตีป้อมก็หม้อ!!
    วันที่สมัคร
    Apr 2012
    กระทู้
    433
    กล่าวขอบคุณ
    866
    ได้รับคำขอบคุณ: 610
    ผมว่าเรียนจิตวิทยาเจ๋งออกนะผมว่า คือคุณเดาได้ว่าเขาคิดยังไงอยู่ เสียตรงที่คนไทยไม่สนใจเท่าไหรเอง (ชั่วโมงได้หลายตังค์อยู่นะครับที่ต่างประเทศ)

  8. #7
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Apr 2014
    ที่อยู่
    Chiang Mai
    กระทู้
    317
    กล่าวขอบคุณ
    139
    ได้รับคำขอบคุณ: 178
    สาขาวิชาจิตวิทยา น่าสนใจดีครับ แต่คนเรียนจริงๆ มีน้อย อีกอย่างคนไทย ไม่ค่อยยอมรับพวกนักจิตวิทยาเท่าไหร่นัก แต่ถ้าจบไป แล้วเป็นนักจิตวิทยาได้ ถือว่าเก่งครับ สาขานี้เรียนหนักเอาการอยู่
    คนที่มาว่า บ้า หรือเพี้ยน ไม่ต้องไปฟังมันครับ เขามองเรื่องพวกนี้แค่ผิวเผิน ดีไม่ดี เขาอาจไม่ได้โชคดี เหมือนคุณก็ได้ ใครจะไปรู้

  9. #8
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    520
    กล่าวขอบคุณ
    47
    ได้รับคำขอบคุณ: 213
    จัดไปครับอย่าไปกังวลเสียงคนรอบข้างถ้าคุณรู้และเข้าใจว่ามันคืออะไรจริงๆ
    ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็อธิบายให้เค้าเข้าใจสิครับ
    ปล.ผมกลัวพวกเรียนจิตวิทยานะ กลัวคุยกันอยู่ดีๆแล้วแอบปล่อยคำถามเชิงจิตวิทยามาล้วงความลับโดนที่เราไม่รู้ตัว 555

  10. #9
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    169
    กล่าวขอบคุณ
    18
    ได้รับคำขอบคุณ: 57
    จิตวิทยาในไทยไม่ค่อยรุ่ง ผมว่ามาจากคนไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร เวลาเครียดก็ไม่ค่อยจะไปหาจิตแพทย์กัน มักไปวัดบ้าง ไม่ก็ถามตามเว็บบอร์ด เฟสบุ็ค(ก็น่าแปลกนะ เล่นเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นรู้เนี่ย)
    ที่ต่างประเทศเป็นที่นิยมเพราะ ความเครียดจากสังคมสูง บางเรื่องก็อยากให้เป็นความลับ ก็ไปปรึกษากับพวกนี้แหละ แต่มันเป็นงานที่น่าเบื่ออยู่นะ ต้องนั้งฟังเรื่องแย่ๆของคนอื่น

    แต่จิตวิทยา ไม่ใช่แค่บำบัดจิตเท่านั้นนะ อาจารย์ผมพูดว่า บางทีก็ทำงานคัดคนเข้าทำงานบ้าง เป็นที่ปรึกษาบ้าง เป็นได้หลายหย่างครับ แต่ก็นะคนไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาเท่าไหรนัก

  11. #10
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    305
    กล่าวขอบคุณ
    490
    ได้รับคำขอบคุณ: 137
    ถ้าอยากเรียนก็เรียนไปเลยครับ งานยังไงก็หาได้ แต่ถ้าจะให้ดี โทบริหารเลย เข้ากันดีครับ เอามาประยุกต์กันได้ ถ้ามองคร่าวๆ เวลาบริหารคน ทำการตลาด ส่วนใหญ่ต้องใช้จิตวิทยาครับ
    จิตวิทยามันเป็นแค่เบื้องต้นต่อได้หลายทาง ผู้ประกอบการจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีจิตวิทยาครับ ไม่งั้นเราจะไม่รู้ว่าคนรอบข้างคิดอะไรแล้วจะตอบสนองตวามต้องการยังไง

    แต่สำหรับผมแล้ว ได้ลองเรียนอยู่คลอสนึง แทบบ้า ไม่ไหวกับวิชานี้ ไม่อยากจะเข้าใจครับ แล้วแต่คนชอบครับ

  12. #11
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jun 2014
    กระทู้
    249
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 59
    จิตวิทยาบอกคำเดียว โครตกว้าง ครับ แต่ถ้าคุณชอบไม่ต้องสนใจหรอกได้งานไรไม่ได้ไร งานอะมีแน่ แต่ก่อนอื่นคุณต้องทำให้ได้ 50 คนที่ได้เรียนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน

  13. #12
    =->Winter_[Of-The]_End<-=
    วันที่สมัคร
    Nov 2011
    ที่อยู่
    Lampang
    กระทู้
    1,847
    กล่าวขอบคุณ
    375
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,125
    ครูแนะแนว รร ที่ผมเคยเรียนอยู่ เห็นเค้าจบ จิตวิทยา ทุกคนเลยครับ
    ->[TN]-x-[LeViaThan]<-

  14. #13
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Dec 2011
    กระทู้
    142
    กล่าวขอบคุณ
    39
    ได้รับคำขอบคุณ: 51
    คนอยากเรียนจิตวิทยาเยอะมากกกกกกครับ ไปรู้จากไหนว่าคนไม่รู้จัก

  15. สมาชิกที่กล่าวขอบคุณ:


  16. #14
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Mar 2012
    กระทู้
    704
    กล่าวขอบคุณ
    170
    ได้รับคำขอบคุณ: 699
    เรียนแหละดีครับ ยังไงก็หาตัวเองเจอแล้วละเนอะ
    ไม่ต้องสนคนเหล่านั้นหรอกครับ แต่ละคนมีความรู้ไม่เท่ากันครับ logic บางคนก็อาจจะแปลกๆไปบ้าง

  17. #15
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    70
    กล่าวขอบคุณ
    85
    ได้รับคำขอบคุณ: 26
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ FANG อ่านกระทู้
    ซึ้งผมอยากได้ความเห็นสักหน่อยคับ เพราะผมจะไปเรืยนทางด้านนี้คือ หาตัวเองเจอแล้วสักที แต่พอมีคนถามว่า จบแล้วจะไปเรียนไร

    พอผมบอกไปว่าไปเรียน จิตวิทยา วะ บางคนบอก สาขาไรวะไม่รู้จักมั่งไรงี้ และอืกหลายๆคน ก็พูดออกมาเสียงเดียวว่า เมิ งจะไปเป็นไอ้ บ้า หรือ บ้าไงเมิ งอะ

    ซึ้งผมก็ไม่สนใจหรอก และอืกอย่างคณะนี้ในประเทศเราไม่ไห้ความสำคัญสักเท่าไร แต่ทั้งในที่นี้ซึ่งมันต่างกับต่างประเทศมากซึ่งยังประเทศ USA ได้

    ชั่วโมงละ 500-700 เรียญ ซึ่งถือว่าเยอะมากในบ้านเรา แต่ทำไมคนถึงไม่ค่อยนิยมและไม่รู้จักกันมากนัก ซึ่งปีไหนนี้แหละ รับ ป.ตรีนี้ละมั่ง 200 คน ทั่วประเทศ

    แต่ที่ได้มานั้นไม่ถึง 50 คนเลยด้วยที่เรียนคณะนี้ ถือว่าน้อยมากเลยทีเดียว

    ซึ่ง จิตวิทยา มันต่าง กับ จิตแพทย์ คือ จิตวิทยา ใช่ความสัมพันธ์ในการบำบัด ส่วน จิตแพทย์ นั้นใช่ยา นั้นเอง แต่ทำไม ทำไม ชอบว่า บ้า เพี้ยน กันจัง
    จิตวิทยาไปได้กว้างมากครับ แล้วแต่ว่า จขกท. สนใจด้านใดเป็นพิเศษ
    หลักๆที่มีเปิดในไทยก็มี
    จิตวิทยาคลีนิค >> เรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์และบำบัดผู้ที่ป่วยทางจิต โดยใช้เทคนิคเฉพาะทาง ทำ-แปลเทสต่างๆ เช่น IQ EQ บุคลิกภาพ >> จบไปทำงานโรงพยาบาล สถานพินิจ ศาล ...
    จิตวิทยาอุตสาหกรรม >> เรียนเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์ บุคลิกภาพ แรงจูงใจ เช่น รับคนเข้าทำงาน พัฒนาบุคลากร จัดฝึกอบรม >> ทำงานฝ่ายบุคคล
    จิตวิทยาการกีฬา,การศึกษา,แนะแนว,สังคม ก็มีให้เห็นบ้าง (อันนี้ไม่มีข้อมูลครับ)

    อื่นๆที่ลงลึก เช่น จิตวิทยาการปรึกษา จะเป็นตัวของ ป.โท ครับ ต่างประเทศได้ ชั่วโมงละ 500-700 เหรียญจริงครับ แต่ไม่ใช่ในไทย
    แต่ส่วนมากต้องจบ ป.เอก ในด้านนี้ก่อนนะครับ และมีใบประกอบโรคศิลป์ (ประเทศไทยสอบผ่านปีละไม่กี่คนเอง ยากมากกก)

    ปล.เป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก ที่คิดว่าคนเรียนจิตวิทยาจะสามารถอ่านใจคน หรือพูดจูงใจเก่ง
    ปล2. ขณะบำบัด จะเรียกว่าล้วงความลับคงจะเกินไปหน่อยครับ มันมีเทคนิคหนึ่งที่ให้ผู้เข้ารับการบำบัดได้ระบายออกมาด้วยคำพูดครับ
    ปล3. ตอนนี้เปิดรับเยอะขึ้นแล้วนะครับ

  18. #16
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    ที่อยู่
    Rx CMU
    กระทู้
    178
    กล่าวขอบคุณ
    347
    ได้รับคำขอบคุณ: 61
    ผมก็อยากเรียนเหมือนกันครับ จิตวิทยา มีความคิดตั้งแต่เด็กๆ ละ แต่ทางบ้านอยากให้เรียนสายสุขภาพเลยต้องเรียน
    ตอนมาเรียนก็ลงตัวฟรีเป็นจิตวิทยาในชีวิตประจำวันครับ ก็สนุกดีนะ แล้วแบบคือผมเป็นคนชอบคิดนู่นคิดนี่เกี่ยวกับจิตใจอารมณ์อยู่พอดีไง
    เลยเรียนแบบสนุกมาก ถ้าเลือกเองได้ ก็คงจะเรียนแหละครับมันเหมือนจะเหมาะกับตัวผมมากที่สุด

    ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยนะครับ ที่หาตัวเองเจอว่าอยากเรียนไร เมื่อคุณเข้าไปเรียนแล้วคุณจะเรียนอย่างมีความสุข แล้วทำเกรดได้ดี จบมามีงานทำดีๆ แน่ครับ สู้ๆ ครับผม

  19. #17
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    กระทู้
    829
    กล่าวขอบคุณ
    975
    ได้รับคำขอบคุณ: 908
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ hades051 อ่านกระทู้
    ผมว่าไปเรียนแพทย์แล้วต่อเฉพาะทางดีกว่ามั้ยคับ เพราะเวลาคนไข้เค้าไปรักษาก็ไปหาหมอก่อน แล้วค่อยให้นักจิตบำบัด(นักจิต คือ คนที่จบจากจิตวิทยา)

    ผมว่าเรียนหมอดีกว่าคับ เงินเดือนดีกว่า แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก่อนผมก็เคยสนใจสาขานี้นะคับ แต่ตอนนี้รู้สึกอยากเป็นเภสัช ตอนนี้กำลังอ่านหนังสืออยู่คับ ม.6

    จะสอบแล้ว เหนื่อยมากเลย
    มันก็ใช่ว่าจะเสมอไปนะครับ จิตวิทยาแยกเป็นสองสาขาหลักๆครับ คือ จิตวิทยาคลินิก จบมาก็เป็นพวกนักบำบัด
    แล้วก็จิตวิทยาอุตสาหกรรม จบมาก็เป็นพวก เอ่อ... ฝ่ายบริหารบุคคล ฝ่ายรับจัดหางาน จัดอบรม สัมมนา พัฒนาบุคลิกภาพ ...... รวมไปจนถึงเป็นคนประสานงานระหว่างองค์กรเลยทีเดียว (ถ้าเจ๋งพอ) พวกนี้ไปได้หลายสายมากครับ
    อย่าไปคิดครับว่าถ้าจบอันไหนมาจะต้องทำงานด้านนั้นสายตรงเลยสายเดียว อย่างผมเรียนคณะ Masscomm รุ่นพี่ที่จบไปแล้วไปเป็นแอร์โฮสเตทก็มี

  20. #18
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2014
    กระทู้
    423
    กล่าวขอบคุณ
    10
    ได้รับคำขอบคุณ: 85
    ไปทำงานเมืองนอกครับ เมกาคนเยอะ ฟุ้งซ่านเอาง่ายๆ ที่นู่นไปเดินไปถามได้เลย ****ไปหาหมอ(จิต)เกือบทุกคน ผมเองยังอยากเรียนเลยครับ สนุกจะตายไป การที่ได้รู้ว่าคนเราทำอะไร เพราะอะไร
    รูปไม่หล่อ พ่อจน พร้อมพาทุกคนไปลำบาก

  21. #19
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2012
    กระทู้
    2,228
    กล่าวขอบคุณ
    175
    ได้รับคำขอบคุณ: 615
    เอ่อผมจะบอกว่าจิตวิทยานี้ออกไปได้หลายวิชาชีพเลยนะครับ ไม่ว่าจะการช่างหรือก่อสร้างก็มีหรือจิตเเพทย์ประจำสำนักงานตำรวจนั้นก็ใช่ ผมจะบอกว่าเรียนสายนี้ก็ดีนะครับในบ้านเรามีหลายอาชีพที่พึ่งนักจิตวิทยา

  22. #20
    นักวิทยาศาสตร์
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    ประเทศไทย
    กระทู้
    1,154
    กล่าวขอบคุณ
    1,235
    ได้รับคำขอบคุณ: 1,099
    ผอ. กศน. ผมจบ สาขาจิตวิทยามา สุดยอดมาก เวลาไปเข้าค่ายลูกเสือกับแกทีไร เดินไปขอลายเซ็นเก็บแต้ม แกจะเริ่มละ

    ผม : ขอลายเซ็น ส่งการบ้านลูกเสือหน่อยครับ
    ผอ. : ดูในกระดาษเห็นให้เขียนชื่อ แกก็จะถามใช่ชื่อนี้หรอ เคยเจอกันไหม ถามแบบให้เราไม่แน่ใจเลยอ่ะ

  23. #21
    Statesman
    วันที่สมัคร
    Jul 2011
    ที่อยู่
    Bangkok
    กระทู้
    871
    กล่าวขอบคุณ
    0
    ได้รับคำขอบคุณ: 3,515
    Blog Entries
    8
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ FANG อ่านกระทู้
    ซึ้งผมอยากได้ความเห็นสักหน่อยคับ เพราะผมจะไปเรืยนทางด้านนี้คือ หาตัวเองเจอแล้วสักที แต่พอมีคนถามว่า จบแล้วจะไปเรียนไร

    พอผมบอกไปว่าไปเรียน จิตวิทยา วะ บางคนบอก สาขาไรวะไม่รู้จักมั่งไรงี้ และอืกหลายๆคน ก็พูดออกมาเสียงเดียวว่า เมิ งจะไปเป็นไอ้ บ้า หรือ บ้าไงเมิ งอะ

    ซึ้งผมก็ไม่สนใจหรอก และอืกอย่างคณะนี้ในประเทศเราไม่ไห้ความสำคัญสักเท่าไร แต่ทั้งในที่นี้ซึ่งมันต่างกับต่างประเทศมากซึ่งยังประเทศ USA ได้

    ชั่วโมงละ 500-700 เรียญ ซึ่งถือว่าเยอะมากในบ้านเรา แต่ทำไมคนถึงไม่ค่อยนิยมและไม่รู้จักกันมากนัก ซึ่งปีไหนนี้แหละ รับ ป.ตรีนี้ละมั่ง 200 คน ทั่วประเทศ

    แต่ที่ได้มานั้นไม่ถึง 50 คนเลยด้วยที่เรียนคณะนี้ ถือว่าน้อยมากเลยทีเดียว

    ซึ่ง จิตวิทยา มันต่าง กับ จิตแพทย์ คือ จิตวิทยา ใช่ความสัมพันธ์ในการบำบัด ส่วน จิตแพทย์ นั้นใช่ยา นั้นเอง แต่ทำไม ทำไม ชอบว่า บ้า เพี้ยน กันจัง
    มันเป็นศาสตร์ที่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยครับ คนที่อยู่นอกวงการ สังคมศาสตร์-มนุษยศาสตร์ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จัก
    มุมมองของพวกเขาเลยออกจะแคบสักหน่อย แต่จริงๆ งานด้านจิตวิทยา ใช่ว่าจะหางานไม่ได้นะ

    คนจบจิตวิทยา ไปทำงานให้บริษัทเอกชน หรือกลุ่มอุตสาหกรรมได้ตั้งเยอะแยะ ไปอยู่ sector ที่ดูแลเกี่ยวกับจิตวิทยาแรงงาน
    (เว้นเสียแต่ว่า คุณจะไม้่ได้ศึกษาเฉพาะด้านเกี่ยวกับแรงงาน หรือ การบริหารทรัพยากรมนุษย์มา อันนั้นอาจจะทำให้คุณหางานในสายบริษัทเอกชนลำบากสักหน่อย)

    แต่โดยรวมสายจิตวิทยามันก็มีประโยชน์ในแง่ องค์ความรู้ของมัน แต่ถ้าจะให้รุ่งผมแนะนำให้ไปหางานทำที่ต่างประเทศ (แต่ต้องเก่งจริงๆ
    และศึกษาให้เฉพาะด้านมากขึ้น เพราะ ป.ตรี จิตวิทยา ในไทยนั้น ขอบเขตของการศึกษา และสาขาวิชาที่รองรับ อาจจะยังมีไม่เพียงพอ
    ที่จะส่งคุณไปเข้าตลาดแรงงานในตะวันตกหรือในอเมริกาได้ เพราะพวกอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบันต้องการ
    เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแล กลุ่มแรงงาน หรือ กรรมกร อยู่มาก ซึ้งอาชีพอย่างนี้เงินดีนะครับ นอกจากดูแลแรงงาน นักจิตวิทยายังมีหน้าที่
    ในการช่วยวางแผนนโยบายของบริษัทได้อีกด้วย บางบริษัทจนถึงหลายบริษัท นักจิตวิทยา ก็ต้องทำงานร่วมกับพวก HR หรือ
    พวกผู้บริหารนะครับ เพราะจำเป็นต้องมีการเจรจาเรื่องนโยบาย หรือ ข้อตกลงเกี่ยวกับสัญญาการจ้างงานกับพวกแรงงาน
    นักจิตวิทยาก็มีหน้าที่เป็นตัวกลางคอยเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย เช่นกัน)

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะไปให้ถึงจุดนั้นที่เงินดี และการงานที่มั่งคั่งในต่างประเทศได้ คุณจะต้องศึกษาให้หนักกว่าคนอื่น
    เพราะปัจจุบันมีคนจบ สาขาจิตวิทยาจำนวนมาก ที่ยังไม่รู้ว่า สาขาที่ตนเองจบมานั้น ทำงานไรได้บ้าง (พวกนั้นเป็นพวกสักแต่ว่าเรียนๆ)
    หากอยากรุ่งด้านนี้ คุณจะต้องอ่านหนังสือ และ ทำความเข้าใจ เพื่อเพิ่ม skill เฉพาะด้าน ในกลุ่มจิตวิทยาของคุณให้มากกว่าคนอื่น
    เพื่อเวลาคุณออกไปทำงาน คุณจะได้มีโอกาสมากกว่าคนอื่น โอกาสในการแข่งขันคุณก็จะดีกว่าคนอื่น

    อย่าได้เอ้อระเหยนะครับ ในชีวิตมหาลัย ถ้าคุณเอื่อยเฉื่อย ขอให้นึกถึงคำพูดที่เขาดูถูกคุณไว้เลย เกี่ยวกับ จบจิตวิทยาหางานไม่ได้
    มันอาจจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาสักวัน

    ฉะนั้นถ้าคุณตั้งใจจะเรียนจิตวิทยา คุณต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่นรอบๆตัวคุณ

    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ DeathAngeL อ่านกระทู้
    ผมว่าเรียนจิตวิทยาเจ๋งออกนะผมว่า คือคุณเดาได้ว่าเขาคิดยังไงอยู่ เสียตรงที่คนไทยไม่สนใจเท่าไหรเอง (ชั่วโมงได้หลายตังค์อยู่นะครับที่ต่างประเทศ)

    อันนี้ไม่เกี่ยวครับ มันเป็นความเชื่อที่ผิดๆ
    เพราะ การเดาใจ การวิเคราะห์คำนวนสถานการณ์ เรียนคณะไหนก็ทำได้ครับ ถ้ารู้จักการประเมินคนอื่น และรู้จักการคิดรอบด้าน
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kingcesar : 16th October 2014 เมื่อ 12:20
    ชอบกินไข่เจียว

  24. #22
    ชอบโพสต์เป็นชีวิตจิตใจ
    วันที่สมัคร
    Jul 2012
    กระทู้
    2,228
    กล่าวขอบคุณ
    175
    ได้รับคำขอบคุณ: 615
    อ้างถึง กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ kingcesar อ่านกระทู้


    มันเป็นศาสตร์ที่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยครับ คนที่อยู่นอกวงการ สังคมศาสตร์-มนุษยศาสตร์ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จัก
    มุมมองของพวกเขาเลยออกจะแคบสักหน่อย แต่จริงๆ งานด้านจิตวิทยา ใช่ว่าจะหางานไม่ได้นะ

    คนจบจิตวิทยา ไปทำงานให้บริษัทเอกชน หรือกลุ่มอุตสาหกรรมได้ตั้งเยอะแยะ ไปอยู่ sector ที่ดูแลเกี่ยวกับจิตวิทยาแรงงาน
    (เว้นเสียแต่ว่า คุณจะไม้่ได้ศึกษาเฉพาะด้านเกี่ยวกับแรงงาน หรือ การบริหารทรัพยากรมนุษย์มา อันนั้นอาจจะทำให้คุณหางานในสายบริษัทเอกชนลำบากสักหน่อย)

    แต่โดยรวมสายจิตวิทยามันก็มีประโยชน์ในแง่ องค์ความรู้ของมัน แต่ถ้าจะให้รุ่งผมแนะนำให้ไปหางานทำที่ต่างประเทศ (แต่ต้องเก่งจริงๆ
    และศึกษาให้เฉพาะด้านมากขึ้น เพราะ ป.ตรี จิตวิทยา ในไทยนั้น ขอบเขตของการศึกษา และสาขาวิชาที่รองรับ อาจจะยังมีไม่เพียงพอ
    ที่จะส่งคุณไปเข้าตลาดแรงงานในตะวันตกหรือในอเมริกาได้ เพราะพวกอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบันต้องการ
    เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแล กลุ่มแรงงาน หรือ กรรมกร อยู่มาก ซึ้งอาชีพอย่างนี้เงินดีนะครับ นอกจากดูแลแรงงาน นักจิตวิทยายังมีหน้าที่
    ในการช่วยวางแผนนโยบายของบริษัทได้อีกด้วย บางบริษัทจนถึงหลายบริษัท นักจิตวิทยา ก็ต้องทำงานร่วมกับพวก HR หรือ
    พวกผู้บริหารนะครับ เพราะจำเป็นต้องมีการเจรจาเรื่องนโยบาย หรือ ข้อตกลงเกี่ยวกับสัญญาการจ้างงานกับพวกแรงงาน
    นักจิตวิทยาก็มีหน้าที่เป็นตัวกลางคอยเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย เช่นกัน)

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะไปให้ถึงจุดนั้นที่เงินดี และการงานที่มั่งคั่งในต่างประเทศได้ คุณจะต้องศึกษาให้หนักกว่าคนอื่น
    เพราะปัจจุบันมีคนจบ สาขาจิตวิทยาจำนวนมาก ที่ยังไม่รู้ว่า สาขาที่ตนเองจบมานั้น ทำงานไรได้บ้าง (พวกนั้นเป็นพวกสักแต่ว่าเรียนๆ)
    หากอยากรุ่งด้านนี้ คุณจะต้องอ่านหนังสือ และ ทำความเข้าใจ เพื่อเพิ่ม skill เฉพาะด้าน ในกลุ่มจิตวิทยาของคุณให้มากกว่าคนอื่น
    เพื่อเวลาคุณออกไปทำงาน คุณจะได้มีโอกาสมากกว่าคนอื่น โอกาสในการแข่งขันคุณก็จะดีกว่าคนอื่น

    อย่าได้เอ้อระเหยนะครับ ในชีวิตมหาลัย ถ้าคุณเอื่อยเฉื่อย ขอให้นึกถึงคำพูดที่เขาดูถูกคุณไว้เลย เกี่ยวกับ จบจิตวิทยาหางานไม่ได้
    มันอาจจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาสักวัน

    ฉะนั้นถ้าคุณตั้งใจจะเรียนจิตวิทยา คุณต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่นรอบๆตัวคุณ




    อันนี้ไม่เกี่ยวครับ มันเป็นความเชื่อที่ผิดๆ
    เพราะ การเดาใจ การวิเคราะห์คำนวนสถานการณ์ เรียนคณะไหนก็ทำได้ครับ ถ้ารู้จักการประเมินคนอื่น และรู้จักการคิดรอบด้าน
    ตามนี้เลยครับเนื้อหาหลายๆเรื่องอย่างการใช้จิตใต้สำนึกหรือการสะกดจิตนี้ยังเป็นอะไรที่ยังวิจัยไม่ถูกครับผมซึ่งหลายคนยังเข้าใจกันผิดอยู่ว่าเขาสอนให้ทำเป็นแต่อันทีจริงเนื้อหามันสอนรายละเอียดของมันครับทุกวันนี้คนก็ยังสงสัยกันอยู่ว่าทำไมบางทีหมอคนนึงใช้การสะกดจิตรักษาผู้ป่วยได้ในขณะที่เเพทย์ท่านอื่นทำไม่ได้ สะกดจิตที่ว่าอย่าไปนึกภาพว่าโดนเเล้วจะเหม่อเป็นซอมบี้เหมือนในหนังนะครับคนละเรื่องกัน

  25. #23
    Just a L!ttle Girl :\
    วันที่สมัคร
    Aug 2011
    กระทู้
    714
    กล่าวขอบคุณ
    3,932
    ได้รับคำขอบคุณ: 337
    แนะนำในฐานะ เคยทำงานร่วมกับ นักจิตบำบัด ละกันนะคะ (จะบอกว่าไม่รู้จักสาขานี้เหมือนกัน55+)
    รู้แต่ว่าใน โรงพยาบาลขาดแคลนเจ้าหน้าที่ด้านจิตบำบัด(รวมหมอด้วย) โรงพยาบาลเราผู้ป่วยประมาณ 100 คน
    มี จิตแพทย์2คน นักจิตบำบัด2คน ส่วนใหญ่เห็นพี่เขาให้คำแนะนำกับคัดกรองสุขภาพจิต พูดคุยให้คลายกังวล
    ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาช่วยจะส่งพบหมอ ถ้าเปรียบเทียบก็คงเหมือนหมอพยาบาลที่ตรวจก่อนถ้าหนักก็ส่งพบแพทย์

    เรื่องงาน(เคยถามเกี่ยวกับหมอจิตแพทย์จากคนไข้) สังคมไทยส่วนใหญ่ ไม่นิยม แน่นอน และคิดว่าเป็นอาชีพอะไรก็ไม่รู้
    และมีความเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ไปหาจิตแพทย์หรอก เรียนไปจะตกงาน (แต่ปริมาณคนไข้จิตเวชนี่ล้นโรงพยาบาลเลย)

    แนะนำว่าถ้าชอบก็เรียนเถอะ เรื่องงานไม่น่าจะหายาก ตอนนี้ที่โรงพยาบาลใช้วิธีส่งพยาบาลที่สนใจไปเรียนต่อเพื่อให้จบมาเป็นนักจิตบำบัด
    แต่ถ้าเรียนไหว แนะนำให้เรียน "แพทย์" เพราะสังคมไทยยังมีค่านิยมแพทย์ (และเงินเดือน และอื่นๆมากมาย) ดีกว่า นักจิตบำบัด
    อารมณ์เดียวกับ ถ้าจะเรียน พยาบาล ทำไมไม่เรียน หมอ

    อย่าบอกว่าเรียนเก่ง จบมาได้ไปนอก เงินเดือนดี ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ไปเรียนนอกตั้งแต่แรก ซักกี่คนเชียวที่จะได้ไป(ไม่ได้ดูถูกนะแค่ฝากข้อคิด)

    และอย่าคิดว่าการเรียน จิตวิทยา จะได้เรียนแต่ จิตวิทยา หลักสูตรอาจให้เรียนเรื่องอื่นด้วย (อันนี้มโน)
    เหมือนจิตแพทย์ ที่ต้องเรียนพื้นฐานการแพทย์อื่นๆก่อน (แถมต้องเรียน อังกิด เคมี ชีวะ มาก่อนด้วย - -* ตอนปี1)

    แล้วตอนจบออกมาทำงาน อย่าคิดว่าคนไข้จะมาแบบในหนัง ที่มาด้วยเครียสๆ ขอที่ปรึกษา
    พวกเบาๆแบบนั้นมักไม่มาโรงพยาบาล ส่วนมากมีแต่เป็นโรคทางจิต(เป็นบ้านั่นแหล่ะ) คนไข้คดีฆาตกรรม เด็กติดยา พ่อค้าขายยาเสพติด นักโทษ
    ประมาณว่าไม่หนักไม่ยอมมา ถ้าทำใจ รักษา คนพวกนั้นไม่ได้ (มันจะพูดจาไม่ดีกับเรามากมาย บางคนก็ดูน่ากลัว)ก็เรียนอย่างอื่นเถอะ
    อันนี้เล่าให้ฟังเฉพาะในโรงพยาบาล แต่งานนอกโรงพยาบาลหรือเอกชนเป็นไงก็ไมรู้เหมือนกัน

    สุดท้ายก็... ถ้าเรียนได้ ให้เรียนหมอ (ความรู้สึกส่วนตัว) ถ้าชอบจิตวิทยา ก็เรียนไปเลย รุ่งแน่นอนเพราะคนยังขาดอีกเยอะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


    ป.ล. ตอนเรียนก็ชอบ ก็สนใจดีนะ อยากเรียนต่อ ตอนลองงานนี่แหล่ะ.... เอิ่ม ลาก่อนจิตวิทยาที่รัก
    ป.ล. 2 คือไม่มีความรู้สาขานี้เลยอ่ะ แค่ความคิดเห็นส่วนตัวกับสิ่งที่เคยเห็นล้วนๆ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย iPoweRx : 18th October 2014 เมื่อ 03:16

  26. #24
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Apr 2014
    กระทู้
    43
    กล่าวขอบคุณ
    22
    ได้รับคำขอบคุณ: 9
    ส่วนตัวสำหรับผม ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับที่คุณหาสิ่งที่อยากจะเรียนเจอได้ไวแล้วเรื่องจิตวิทยานั้นผมมีเพื่อนสนิทที่จบไปแล้วเค้าทำงานอยู่ครับถ้าคุณอยู่กิ่งที่เป็นจิตบำบัดแล้วไปหารับงานในโรงพยาบาลนั้นค่อนข้างจะสะดวกกว่า(มันก็ไม่เชิงง่ายกว่าจิตแนะแนว)ซึ่งเพื่อนผมมันเรียนจิตแนะแนวมันเป็นคนหัวกลางๆ(ซึ่งผมว่ามันเป็นคนเก่งแต่ขี้เกรียจ)พอมันจบเวลาว่างไปกินเหล้าด้วยกันมันชอบบ่นผมถึงเรื่องการเลือกเรียนจิตของมันนี่แหละ ฮ่าๆ สำหรับสาขานี้ไม่ใช่ว่าไม่เป็นที่นิยมนะครับ แต่ได้รับความนิยมเทียบเท่าศิลปศาสตร์เลยแต่อัตราคนที่จบต่อปีนั้นมีน้อยมาก ตัวอย่างเช่น เพื่อนผม(คนเดิม)มันบอกในห้องมันมี 20คนปลายๆแต่จบๆรับปริญญา 4 ปี จริงๆ มีแค่ 10 คนกว่าๆครับ

    คณะนี้ในไทยอย่างที่คุณว่าเรื่องไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่นั้นจริงครับเพื่อนผมนั้นพอจบจิตแนะแนวมาตอนแรกก็หาไล่สมัคงานตามห้างตามบริษัทต่างๆ จนมันได้งานเป็นคนทำบัญชีอยู่ที่ห้าง ซึ่งมีน้อยมากที่คนในคณะนี้จะได้งานตามสายที่ตัวเองเรียนมา ตัวอย่างนะครับ เพื่อนผมเคยไปสอบเป็นนักจิตของสถานพินิจ แต่ สอบทั้งประเทศ รับคนเข้าแค่ 2 คน , ถ้าทำงานโรงพยาบาลที่ไม่ใหญ่มากนั้นส่วนใหญ่เค้ามักจะรับนักจิตแค่ 1-2คน อย่างมากสุดก็ 4 คน ต่อหนึ่งโรงบาล ครับ และ อีกอย่างนึงคือเส้นสายครับเนื่องจากงานเฉพาะสายของคณะนี้หายากพวกที่เส้นสายกว้างก็สบายๆกินนิ่มเลยครับ จึงเป็นสาเหตุให้งานเฉพาะของสาขานี้หายากมากในไทยครับ

    แล้วนักจิตวิทยา กับ จิตแพทย์ ต่างกันมากเลยครับ ฮ่าๆ เพราะ จิตแพทย์เป็นสาขาหนึ่งของ ''วิทยาศาสตร์สุขภาพ(สายพวก แพทย์ เภสัช พยาบาล นักเทคโน/กายภาพ/กิจกรรม บำบัด)'' แต่นักจิตวิทยา มาจาก สาขา ''จิตวิยาครับ''
    ปล. เรียนจิตวิทยาเห็นเพื่อนผมมันบอกต้องได้เรียน Anatomy ด้วยนะครับ ฮ่าๆ

  27. #25
    ชอบดูไม่ชอบโพสต์
    วันที่สมัคร
    Sep 2011
    กระทู้
    58
    กล่าวขอบคุณ
    26
    ได้รับคำขอบคุณ: 20
    Blog Entries
    1
    เอาตามจริงเลยคือ คนไทยปกติน่ะ เค้าไม่ต้องใช้บริการจากจิตแพทย์ครับ คนไทยน่ะมันมีที่พึ่งเยอะมาก ศาสนา ครอบครัว-สังคม จนไม่ได้หันมาทางนี้ ต่างกับต่างชาติ(ตะวันตก)ที่มีภาวะเครียด ปัญหาครอบครัว หน้าที่การงาน อะไรหน่อย นู่นนี่ เขาก็เห็นว่าหมอเป็นทางรักษา ทางออกของเค้า เค้าถึงต้องไปปรึกษาจิตแพทย์(ที่คุณบอกทำงานให้คำปรึกษาได้ชั่วโมงนึงเยอะมากๆน่ะน่าจะเป็นจิตแพทย์ครับ แล้วเอาจริงๆ****ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะทำได้น่ะ)

    ส่วนในมุมของประเทศเรา คนที่เหลือให้การรักษาส่วนใหญ่กลับเป็นพวกที่มีอาการหนักๆหน่อยทั้งนั้น ชัดๆเลยเห็นแล้วคนธรรมดายังแทบจะบอกได้ว่า depression,schizophrenia,OCD,mania-depress บลาๆ ซึ่งถ้าหมอวินิจฉัยได้ถูกต้องแล้วเนี่ย เนี่ย ยังไงก็ต้องให้ยาคู่กับการบำบัดทางจิตและสังคมพฤติกรรมครับ ไม่อย่างนั้นยังไงโรคพวกนี้ไม่มีทางหาย ไม่ใช่แค่ให้คำปรึกษา

    ง่ายๆคือฐานลูกค้าของประเทศเรายังแคบครับ บวกกับภาพลบของจิตแพทย์ จิตบำบัด ที่คนไทยผู้ฉลาดเฉลียวทั้งหลายเนี่ย คิดว่ามันเป็นเรื่องของคนบ้าเท่านั้น บุคลากรในด้านนี้ก็เลยยังมีน้อย (แต่ก็สำคัญ) แต่ว่าปัจจุบันผู้ป่วยโรคพวกนี้ก็มีเยอะขึ้นมากนะเทียบกับสมัยก่อน และการแพทย์ก็พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆด้วยครับ ในอนาคตผมว่ายังไงมันก็ยังเป็นสายที่น่าสนใจเน้อ ถ้าไม่สนใจเสียงนกเสียงกา


 

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •  
Back to top