อยากไปนอกโลกสักครั้ง - -*
อยากไปนอกโลกสักครั้ง - -*
มันน่าตื่นเต้นมากนะ ถ้าได้ลองคิดว่า เราสามารถติดต่อกับดาวอื่นๆนับล้านได้
และมีมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่มีการดำรงชีวิตที่ต่างกัน วัฒนธรรมหรือ อารยธรรมต่างกัน ได้สามารถสื่อสารถึงกัน
ผมกำลังเฝ้ารอคอยวันนั้นอยู่ ไม่รู้จะได้เห็นหรือเปล่า แบบๆ John Carter เลย
ุคุณลองคิดเล่นๆดูซิ ตื่นเต้นไหมละ
There is no Thank You and there is nothing right as long as we're downloading illegal games.
ขออนุญาติแชร์นะครับ ผมชอบมากขอบคุณครับ
อีก1ดาวที่ถูกค้นพบหลายๆคนรุ้จักกันดี เดอะ เนบิวลา เมซีเย 78 หรือ M78 นครแห่งแสงของ พี่น้องอุลตร้า
ไรต์แอสเซนชัน 05h 46.7m
เดคลิเนชัน +00° 03'
ระยะทาง 1,600 ly
ประเภท Reflection
ขนาดที่ชัดเจน (V) 8' × 6'
ความส่องสว่างปรากฏ (V) 8.3
ลักษณะเด่น Part of the Orion Complex
เดอะ เนบิวลา เมซีเย 78 (ที่รู้จักกันดี คือ เนบิวล่า M 78 หรือ NGC 2068) เป็นเนบิวลาสะท้อนแสง เนบิวลา M78 มีระยะทาง ประมาน 1,600 ปีแสง ในกลุ่มดาวนายพราน . .
ถูกค้นพบโดย Pierre Mechain ในปี ค.ศ. 1780 และเป็นที่อยุ่อาศัย ของ เหล่าพี่น้องอุลตร้า ดาวอุลตร้ามีขนาดใหญกว่าโลกมนุษย์ 60 เท่า อยู่ห่างจากโลกมนุษย์ 3ล้านปีแสง มีพลเมืองอุลตร้าแมนอาศัยอยู่ 1แสน 8หมื่นล้านคน ย้อนหลังกลับไป 260,000 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่พลเมืองชาวอุลตร้าอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขทั้งดวงดาวและร่างกายพลเมืองชาวอุลตร้ามีลักษณะไมแตกต่างไปจากมนุาย์บนโลกของเรานี้
แต่แล้ววันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดขึ้น ดวงอาทิตย์ของดาวอุลตร้าเกิดระเบิดขึ้นและแตกสลายดับไปเมื่อขาดดวงอาทิตย์ ส่งผลให้ดาวอุลตร้าเข้าสู่ความมืดมิด หนาวเย็นและอดอยาก พลเมืองของดาวอุลตร้าล้มตายไป มากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเป็นดังนี้ ท่ามกลางผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่ ผู้นำคือ "ท่านผู้นำอาวุโสแห่งอุลตร้า" นักวิทยาศาสตร์ที่ปราเปรื่อง พร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์ที่ยังมีชีวิตหลงเหลืออยู่ ได้คิดค้นหาวิธีที่จะทำให้พลเมืองที่เหลือมีชีวิตอยู่รอดได้แล้วการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของชาวอุลตร้าก็คือการสร้างพลังงานความร็อนและแสงอาทิตย์เทียมขึ้น ด้วยการสร้างเครื่องปฏิกรณ์พลังงานพลาสม่า (Plasma Spark) ขึ้นมาทดแทนพลังงานจากดวงอาทิตย์ ชาวอุลตร้าได้ถูกอาบแสงพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์ต่อเนื่องยาวนานถึง 200,000 ปี ชาวอุลตร้าทุกคนได้กลายสภาพร่างกายเป็น "ยอดมนุษย์" มีพลังเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม อย่างมหาศาล มีความเร็วมากขึ้นสามารถบินได้สามารถปล่อยพลังที่มีอยู่ในตัวออกเป็นลำแสงได้ในลักษณะต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์ที่สะสมมาอย่างยาวนานในร่างกายนั่นเอง
จนในที่สุด พลเมืองชาวอุลตร้าทุกคนได้กลับกลายเป็น "ยอดมนุษย์" ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบัน
สักวันนึงผมจะต้องไปเยี่ยมเยียนเหล่าพี่น้องอุลตร้าให้จงได้ นั่นคือความฝันของผม!!!
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ONE OK ROCK : 6th December 2014 เมื่อ 11:01
ผมเชื่อว่าดาวนาเม็กมีอยู่จริง สักวันผมจะต้องรวบรวมดราก้อนบอลให้ครบ7ลูกให้ได้
ว่าเเต่เอามาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?
ถ้าโลกมีวงแหวนเหมือนดาวเสาร์ ก็คงจะได้เห็นโลกในแบบใหม่ๆ
ขอบคุณมากครับสำหรับสาระความรู้ดีๆ
CPU Core i7 3770 MB Asus P8Z77-V LX RAM 16GB DDR3/1600 GPU Asus Strix GTX 980 OC HDD Seagate 2TB
ขอเสริมแนวคิดนี้หน่อยครับ ถ้าเราเดินทางเร็วกว่าแสง ก็แสดงว่าเราสามารถไปอยู่ที่ใดสักที่ ที่ห่างจากโลกเท่าที่เราอยาก หมายถึงคำนวนการตกกระทบของแสงเมื่อ 1 ล้านปีก่อน 1 พันปีก่อน 1 ร้อยปีก่อนหรือเท่าที่เราอยากจะดูอ่ะ แล้วก็ส่งภาพกลับมายังโลกแค่นี้ก็สามารถดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้ทั้งหมดเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเช่น ไดโนเสาร์สูญพันธ์ สงครามโลก การสร้างมหาวิหารปิรามิด อะไรต่างๆมากมาย ที่เป็นประวัติศาสตร์ เจ๋งเบยจริงป่ะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย netgulood : 18th December 2014 เมื่อ 11:47
ดันครับ สาระบ้วนๆ
| Intel Core I3-6300 3.80Ghz | Ram 8 GB | Geforce Gtx 950 OC 2 GB | COUGAR ATX CASE 26Aug-25Sep (BLACK) | MSI 970 GAMING |
มีสาระน่ารู้มากครับบนอวกาศ
กลับมาดูอะไรๆที่มันเซ็กซี่กันดีกว่า Sexy World Class
โลกเรามันช่างเล็กมากเมื่อเทียบกับดาวดวงอื่น
สวยงามจับจิต
ขอบคุณครับ แต่เรื่องนี้ก้อสอนให้รู้ว่า ไม่ว่า อวกาศจะกว้างใหญ่ไพศาลขนาดไหน หรือไกลกี่ร้อยล้านปีแสง ก้อไม่สามารถหลุดพ้นสายตา จากมนุษย์ตัวกระจ่อยร่อย 55
อยากลองไปนั่งขี้บนดวงจันทร์ จัง555+